ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ห99 15/3 น. 29-31
  • “เผชิญภัยในทะเล”

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • “เผชิญภัยในทะเล”
  • หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1999
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • ความ​จำเป็น​ของ​โรม​ด้าน​การ​ค้า​ทาง​ทะเล
  • ผู้​โดยสาร​ใน​เรือ​บรรทุก​สินค้า​หรือ?
  • การ​เดิน​ทาง​ทาง​ทะเล—ปลอด​ภัย​เพียง​ไร?
  • ข่าว​ดี​ถูก​นำ​ข้าม​น้ำ​ข้าม​ทะเล
  • “พวก​คุณ​จะ​ไม่​ตาย​เลย​สัก​คน”
    ‘ประกาศ​เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า’ อย่าง​ละเอียด​ถี่ถ้วน
  • คุณรู้ไหม?
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา (ศึกษา) 2019
  • เปาโลเอาชนะความยากลำบาก
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1999
  • เปาโลถูกส่งตัวไปกรุงโรม
    เรื่องที่เราเรียนจากคัมภีร์ไบเบิล
ดูเพิ่มเติม
หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1999
ห99 15/3 น. 29-31

“เผชิญ​ภัย​ใน​ทะเล”

ใน​ความ​มืด​ของ​ค่ำ​คืน เรือใบ​ลำ​หนึ่ง​พา​คน 276 คน​ลอย​ทะเล​อยู่​ใกล้ ๆ เกาะ​แห่ง​หนึ่ง​ใน​ทะเล​เมดิเตอร์เรเนียน. ลูกเรือ​และ​ผู้​โดยสาร​หมด​เรี่ยว​แรง​จาก​การ​ถูก​ซัด​โคลง​เคลง​ไป​มา​ใน​ท้อง​น้ำ​ที่​ถูก​พายุ​โหม​กระหน่ำ​มา​เป็น​เวลา 14 วัน​แล้ว. ครั้น​รุ่ง​สาง​ก็​เห็น​อ่าว พวก​เขา​จึง​พยายาม​นำ​เรือ​เข้า​เกย​หาด. แต่​หัว​เรือ​ติด​จน​ขยับ​ไม่​ได้​เลย แล้ว​คลื่น​ก็​ซัด​จน​ท้าย​เรือ​แตก​เป็น​เสี่ยง ๆ. ทุก​คน​สละ​เรือ​และ​สามารถ​เข้า​สู่​ฝั่ง​ทะเล​ของ​เกาะ​เมลีเต (มอลตา) โดย​ว่าย​น้ำ​หรือ​เกาะ​ไม้​กระดาน​หรือ​วัตถุ​อื่น. ด้วย​สภาพ​หนาว​สั่น​และ​หมด​เรี่ยว​แรง พวก​เขา​ลาก​พา​ตัว​เอง​ขึ้น​ฝั่ง​จาก​คลื่น​ที่​ซัด​กระแทก​อย่าง​บ้า​คลั่ง. คริสเตียน​อัครสาวก​เปาโล​เป็น​คน​หนึ่ง​ใน​ผู้​โดยสาร​กลุ่ม​นี้. ท่าน​กำลัง​ถูก​นำ​ตัว​ไป​ยัง​กรุง​โรม​เพื่อ​พิจารณา​คดี.—กิจการ 27:27-44.

สำหรับ​เปาโล​แล้ว เหตุ​การณ์​เรือ​อับปาง​ที่​เกาะ​เมลีเต​ไม่​ใช่​ภัย​ใน​ทะเล​ที่​คุกคาม​ชีวิต​ท่าน​เป็น​ครั้ง​แรก. ไม่​กี่​ปี​ก่อน​หน้า​นั้น ท่าน​เขียน​ว่า “ข้าพเจ้า​เผชิญ​ภัย​เรือ​แตก​สาม​ครั้ง, ข้าพเจ้า​อยู่​ใน​ทะเล​วัน​หนึ่ง​กับ​คืน​หนึ่ง.” ท่าน​กล่าว​เสริม​อีก​ว่า ท่าน​ได้ “เผชิญ​ภัย​ใน​ทะเล.” (2 โกรินโธ 11:25-27) การ​เดิน​ทาง​ไกล​ทาง​ทะเล​ได้​ช่วย​เปาโล​ทำ​บทบาท​ที่​พระเจ้า​ประทาน​แก่​ท่าน​ให้​สำเร็จ​ใน​ฐานะ “อัครสาวก​ไป​ยัง​ชาติ​ต่าง ๆ.”—โรม 11:13, ล.ม.

มี​การ​เดิน​ทาง​ทาง​ทะเล​ใน​สมัย​ศตวรรษ​แรก​มาก​ขนาด​ไหน? การ​เดิน​ทาง​ทาง​ทะเล​มี​ส่วน​เช่น​ไร​ใน​การ​เผย​แผ่​ศาสนา​คริสเตียน? การ​เดิน​ทาง​วิธี​นี้​ปลอด​ภัย​ขนาด​ไหน? เรือ​แบบ​ไหน​ที่​ใช้​กัน​ใน​เวลา​นั้น? และ​ผู้​โดยสาร​กิน​อยู่​อย่าง​ไร​บน​เรือ?

ความ​จำเป็น​ของ​โรม​ด้าน​การ​ค้า​ทาง​ทะเล

ชาว​โรมัน​เรียก​ทะเล​เมดิเตอร์เรเนียน​ว่า มาเร โนสตรุม—ทะเล​ของ​เรา. การ​ควบคุม​ช่อง​ทาง​เดิน​เรือ​นั้น​จำเป็น​อย่าง​ยิ่ง​สำหรับ​โรม​ด้วย​เหตุ​ผล​ไม่​เฉพาะ​ทาง​ทหาร​เท่า​นั้น. เมือง​ใหญ่​หลาย​เมือง​ของ​จักรวรรดิ​โรมัน​เป็น​เมือง​ท่า​หรือ​มี​ท่า​เรือ​ที่​ให้​บริการ. ตัว​อย่าง​เช่น โรม​มี​ท่า​เรือ​ชาย​ทะเล​ที่​เมือง​ออสเตีย​ซึ่ง​อยู่​ใกล้ ๆ ใน​ขณะ​ที่​เมือง​โกรินโธ​ใช้​บริการ​จาก​เมือง​ท่า​เลแคอุม​และ​เก็งเครอาย ส่วน​อันติโอเกีย​ใน​ซีเรีย​นั้น​ใช้​บริการ​จาก​เมือง​ท่า​เซลูเกีย. การ​เชื่อม​ต่อ​ทาง​ทะเล​ที่​ดี​ระหว่าง​ท่า​เรือ​เหล่า​นี้​ทำ​ให้​มี​การ​ติด​ต่อ​สื่อสาร​กับ​เมือง​หลัก ๆ ทั้ง​หลาย​ได้​อย่าง​รวด​เร็ว และ​ทำ​ให้​การ​บริหาร​ปกครอง​มณฑล​ต่าง ๆ ของ​จักรวรรดิ​โรมัน​มี​ประสิทธิภาพ.

นอก​จาก​นี้ โรม​ยัง​อาศัย​การ​ขน​ส่ง​สินค้า​ทาง​เรือ​อย่าง​เป็น​ล่ำ​เป็น​สัน​เช่น​นี้​เพื่อ​ลำเลียง​อาหาร​มา​ให้​ด้วย. เนื่อง​จาก​มี​ประชากร​ประมาณ​หนึ่ง​ล้าน​คน โรม​จึง​มี​ความ​ต้องการ​ข้าว​สูง​มาก—ประมาณ 250,000 ถึง 400,000 ตัน​ต่อ​ปี. ข้าว​ทั้ง​หมด​นั้น​มา​จาก​ไหน? ฟลาวิอุส โยเซฟุส อ้าง​ถึง​คำ​พูด​ของ​เฮโรด อะฆะริปา​ที่​สอง ซึ่ง​ได้​กล่าว​ไว้​ว่า แอฟริกา​เหนือ​ส่ง​ข้าว​ให้​แก่​โรม​แปด​เดือน​ใน​แต่​ละ​ปี ใน​ขณะ​ที่​อียิปต์​ส่ง​ข้าว​มา​เลี้ยง​กรุง​นี้​ใน​อีก​สี่​เดือน​ที่​เหลือ. เรือ​เดิน​ทะเล​หลาย​พัน​ลำ​มี​ส่วน​ใน​การ​ส่ง​ข้าว​ให้​แก่​กรุง​นั้น.

เพื่อ​ตอบ​สนอง​รสนิยม​ที่​หรูหรา​ฟุ่มเฟือย​ของ​ชาว​โรมัน การ​ค้า​ทาง​ทะเล​ที่​รุ่งเรือง​มี​สินค้า​ทุก​ชนิด​ให้. แร่, หิน, และ​หิน​อ่อน​ถูก​ส่ง​มา​จาก​ไซปรัส, กรีซ, และ​อียิปต์ ส่วน​ไม้​แปรรูป​ส่ง​มา​จาก​เลบานอน. เหล้า​องุ่น​มา​จาก​ซะมุระนา, ลูก​นัท​จาก​ดามัสกัส, และ​อินทผลัม​จาก​ปาเลสไตน์. ยา​ขี้ผึ้ง​และ​ยาง​ลง​เรือ​ที่​กิลิเกีย, ขน​แกะ​ที่​มีเลโต​และ​ละโอดีไกอะ, สิ่ง​ทอ​ที่​ซีเรีย​และ​เลบานอน, ผ้า​ม่วง​ที่​ตุโร​และ​ซีโดน. สี​ย้อม​ถูก​ส่ง​มา​จาก​ธุอาไตระ และ​แก้ว​จาก​อะเล็กซานเดรีย​และ​ซีโดน. ไหม, ผ้า​ฝ้าย, งา​ช้าง, และ​เครื่องเทศ​นำ​เข้า​จาก​ประเทศ​จีน​และ​อินเดีย.

จะ​ว่า​อย่าง​ไร​สำหรับ​เรือ​ที่​อับปาง​ลง​ที่​เกาะ​เมลีเต​ซึ่ง​มี​เปาโล​อยู่​ใน​เรือ​นั้น​ด้วย? เรือ​นั้น​เป็น​เรือ​ข้าว “เรือ​ลำ​หนึ่ง​มา​จาก​เมือง​อาเล็กซันดะเรีย​ซึ่ง​จะ​ไป​ยัง​ประเทศ​อิตาลี.” (กิจการ 27:6) ขบวน​เรือ​ข้าว​เหล่า​นี้​เป็น​ของ​เอกชน​ชาว​กรีก, ชาว​ฟินิเซีย, และ​ชาว​ซีเรีย ซึ่ง​เป็น​ผู้​สั่ง​การ​และ​จัด​เตรียม​ให้​พร้อม. อย่าง​ไร​ก็​ตาม รัฐ​เช่า​เรือ​เหล่า​นี้. นัก​ประวัติศาสตร์​วิลเลียม เอ็ม. แรมเซย์ กล่าว​ว่า “เช่น​เดียว​กับ​การ​เก็บ​ภาษี รัฐบาล​โรมัน​พบ​ว่า​ง่าย​กว่า​ที่​จะ​แจก​งาน​ออก​ไป​ให้​ผู้​รับ​เหมา แทน​ที่​จะ​ดำเนิน​การ​ด้วย​ตัว​เอง​ใน​การ​ดู​แล​หน่วย​งาน​ซึ่ง​ต้อง​ใช้​คน​และ​อุปกรณ์​ต่าง ๆ มาก​มาย​เพื่อ​ให้​บริการ​ใน​ปริมาณ​มาก​ขนาด​นั้น.”

เปาโล​เสร็จ​สิ้น​การ​เดิน​ทาง​ไกล​ถึง​กรุง​โรม​โดย​เรือ​ลำ​หนึ่ง​ซึ่ง​มี​รูป​แกะ​สลัก​ที่​หัว​เรือ​เป็น​รูป “บุตร​แห่ง​พระ​ซุส.” เรือ​ลำ​นี้​เป็น​เรือ​ของ​ชาว​อะเล็กซานเดรีย​ด้วย. เรือ​นี้​จอด​ที่​เมือง​โปติโอลอย​ที่​อ่าว​เมือง​เนเปิล ซึ่ง​เป็น​ท่า​เรือ​ที่​ตาม​ปกติ​ขบวน​เรือ​ข้าว​จะ​เทียบ​ท่า​ที่​นั่น. (กิจการ 28:11-13, ล.ม.) จาก​เมือง​โปติโอลอย—สมัย​นี้​คือ​เมือง​พอซซวอลี—สินค้า​ถ้า​ไม่​ขึ้น​บก​ก็​ถูก​ขน​ถ่าย​ลง​เรือ​ที่​เล็ก​กว่า​เพื่อ​ขึ้น​ไป​ทาง​เหนือ​ตาม​ชายฝั่ง​และ​ขึ้น​ไป​ตาม​แม่น้ำ​ไท​เบอร์​เข้า​สู่​ใจ​กลาง​กรุง​โรม.

ผู้​โดยสาร​ใน​เรือ​บรรทุก​สินค้า​หรือ?

เหตุ​ใด​เปาโล​และ​ทหาร​ที่​ควบคุม​ตัว​ท่าน​จึง​เดิน​ทาง​โดย​เรือ​บรรทุก​สินค้า? เพื่อ​ตอบ​คำ​ถาม​นี้ เรา​จำ​ต้อง​ทราบ​ก่อน​ว่า​การ​เดิน​ทาง​ทาง​ทะเล​ใน​ฐานะ​ผู้​โดยสาร​ใน​สมัย​โน้น​เป็น​อย่าง​ไร.

ใน​สมัย​ศตวรรษ​แรก ไม่​มี​เรือ​เฉพาะ​สำหรับ​โดยสาร. เรือ​ที่​นัก​เดิน​ทาง​ใช้​คือ​เรือ​ของ​พวก​พ่อค้า. และ​ผู้​คน​ทุก​ชนิด—รวม​ไป​ถึง​ผู้​ปฏิบัติ​ราชการ​ของ​รัฐ, ปัญญาชน, นัก​เทศน์, พ่อมด​หมอ​ผี, ศิลปิน, นัก​กรีฑา, พ่อค้า, นัก​ท่อง​เที่ยว, และ​นัก​แสวง​บุญ—อาจ​ได้​ร่วม​เดิน​ทาง​ไป​กับ​เรือ​เหล่า​นี้.

แน่​ละ มี​เรือ​เล็ก​ที่​ขน​ส่ง​ผู้​โดยสาร​และ​สินค้า​ใน​น่าน​น้ำ​ตาม​ชายฝั่ง. เปาโล​อาจ​ได้​ใช้​เรือ​แบบ​นั้น​เพื่อ ‘ข้าม​ไป​ที่​มากะโดเนีย’ จาก​เมือง​โตรอา. เรือ​เล็ก​อาจ​ได้​ส่ง​ท่าน​ไป​ถึง​และ​ออก​จาก​เมือง​เอเธนส์​มาก​กว่า​หนึ่ง​ครั้ง. เปาโล​อาจ​ใช้​เรือ​เล็ก​ใน​การ​เดิน​ทาง​ใน​เวลา​ต่อ​มา​จาก​เมือง​โตรอา​ไป​ยัง​เมือง​ปะตารา ผ่าน​หมู่​เกาะ​ต่าง ๆ ใกล้​ชายฝั่ง​ทะเล​ของ​เอเชีย​น้อย. (กิจการ 16:8-11; 17:14, 15; 20:1-6, 13-15; 21:1) การ​ใช้​เรือ​เล็ก​เช่น​นั้น​ลด​เวลา​เดิน​ทาง​ลง แต่​ก็​ไม่​สามารถ​เสี่ยง​ออก​ไป​ไกล ๆ จาก​ผืน​แผ่นดิน. ดัง​นั้น เรือ​ที่​นำ​เปาโล​ไป​ยัง​กุบโร (ไซปรัส) แล้ว​จาก​นั้น​ไป​ที่​ปัมฟูเลีย รวม​ทั้ง​เรือ​ที่​นำ​ท่าน​จาก​เมือง​เอเฟโซ​ไป​ยัง​กายซาไรอา​และ​จาก​ปะตารา​ไป​ยัง​ตุโร ต้อง​เป็น​เรือ​ที่​ใหญ่​กว่า​มาก​ที​เดียว. (กิจการ 13:4, 13; 18:21, 22; 21:1-3) เรือ​ที่​เปาโล​โดยสาร​ซึ่ง​ไป​อับปาง​ลง​ที่​เกาะ​เมลีเต​คง​ต้อง​เป็น​เรือ​ใหญ่​เช่น​กัน. เรือ​ดัง​กล่าว​อาจ​ใหญ่​ขนาด​ไหน?

ข้อมูล​จาก​เหล่า​นัก​วิชา​การ​ทำ​ให้​ผู้​คง​แก่​เรียน​คน​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “ปริมาณ​การ​รับ​น้ำหนัก​ต่ำ​สุด​ซึ่ง​อารยชน​ใน​สมัย​โบราณ​ถือ​กัน​โดย​ทั่ว​ไป​ว่า​ใช้​งาน​ได้​คือ​ประมาณ 70 ถึง 80 ตัน. ขนาด​ที่​นิยม​กัน​มาก อย่าง​น้อย​ก็​ใน​ยุค​เฮลเลนิสติก​คือ 130 ตัน. เรือ​ขนาด 250 ตัน​แม้​ว่า​จะ​มี​ให้​เห็น​ทั่ว​ไป แต่​ก็​ใหญ่​กว่า​ขนาด​เรือ​โดย​ทั่ว​ไป​แน่นอน. ใน​ยุค​ที่​โรมัน​เรือง​อำนาจ เรือ​ที่​ใช้​ใน​การ​ปฏิบัติ​หน้า​ที่​ขน​ส่ง​ของ​จักรพรรดิ​ใหญ่​ยิ่ง​กว่า​นั้น​อีก คือ​ควร​มี​ความ​จุ​ประมาณ 340 ตัน. เรือ​ใหญ่​ที่​สุด​ใน​ทะเล​มี​ขนาด​ได้​ถึง 1,300 ตัน และ​อาจ​ใหญ่​กว่า​นั้น​ได้​อีก​เล็ก​น้อย​ด้วย​ซ้ำ.” ตาม​คำ​พรรณนา​ซึ่ง​เขียน​เมื่อ​ศตวรรษ​ที่​สอง​แห่ง​สากล​ศักราช เรือ​ข้าว​จาก​อะเล็กซานเดรีย​ชื่อ​ไอซิส มี​ความ​ยาว​มาก​กว่า 55 เมตร กว้าง​ประมาณ 14 เมตร มี​ระวาง​บรรจุ​สินค้า​ลึก​ประมาณ 13 เมตร และ​อาจ​ขน​ข้าว​ได้​มาก​กว่า​หนึ่ง​พัน​ตัน ซึ่ง​ก็​อาจ​รวม​ไป​ถึง​ผู้​โดยสาร​อีก​สอง​สาม​ร้อย​คน.

มี​การ​ดู​แล​ผู้​เดิน​ทาง​บน​เรือ​ข้าว​อย่าง​ไร? เนื่อง​จาก​เรือ​มี​จุด​ประสงค์​หลัก​ใน​การ​ขน​สินค้า จึง​คำนึง​ถึง​ผู้​โดยสาร​รอง​ลง​ไป. ไม่​มี​อาหาร​หรือ​การ​บริการ​ต่าง ๆ นอก​จาก​น้ำ. ผู้​โดยสาร​นอน​บน​ดาดฟ้า อาจ​เป็น​ได้​ว่า​ใต้​เพิง​ซึ่ง​มี​ลักษณะ​แบบ​เต็นท์​ซึ่ง​กาง​ตั้ง​ขึ้น​ใน​เวลา​กลางคืน​และ​เอา​ลง​เมื่อ​ถึง​รุ่ง​เช้า. แม้​ว่า​ผู้​เดิน​ทาง​อาจ​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​ใช้​ห้อง​ครัว​ทำ​อาหาร​ได้ แต่​พวก​เขา​ต้อง​เตรียม​ทุก​สิ่ง​ที่​จะ​ใช้​ใน​การ​ทำ​ครัว, กิน, อาบ​น้ำ, และ​นอน​หลับ​มา​เอง—ตั้ง​แต่​หม้อ​และ​กะทะ​ไป​จน​ถึง​ที่​นอน.

การ​เดิน​ทาง​ทาง​ทะเล—ปลอด​ภัย​เพียง​ไร?

เนื่อง​จาก​ไม่​มี​อุปกรณ์​ช่วย​ใน​การ​เดิน​เรือ—ไม่​มี​แม้​เข็มทิศ—นัก​เดิน​เรือ​ใน​ศตวรรษ​แรก​จึง​ต้อง​อาศัย​สายตา​อย่าง​มาก. ด้วย​เหตุ​นั้น การ​เดิน​ทาง​จึง​ปลอด​ภัย​ที่​สุด​เมื่อ​ทัศนวิสัย​ดี​ที่​สุด—ตาม​ปกติ​ได้​แก่​ช่วง​ปลาย​เดือน​พฤษภาคม​ถึง​กลาง​เดือน​กันยายน. ใน​ช่วง​สอง​เดือน​ก่อน​และ​หลัง​ช่วง​เวลา​นั้น พวก​พ่อค้า​อาจ​เสี่ยง​เดิน​เรือ. แต่​ใน​ช่วง​หน้า​หนาว หมอก​และ​เมฆ​มัก​ปิด​คลุม​จุด​สังเกต​บน​บก รวม​ทั้ง​บดบัง​ดวง​อาทิตย์​ตอน​กลางวัน​และ​ทำ​ให้​ไม่​เห็น​ดวง​ดาว​ตอน​กลางคืน. ถือ​กัน​ว่า​การ​เดิน​เรือ​ปิด (ภาษา​ลาติน มาเร คลาวซุม) ตั้ง​แต่​วัน​ที่ 11 พฤศจิกายน จน​ถึง​วัน​ที่ 10 มีนาคม ยก​เว้น​ใน​กรณี​ที่​จำเป็น​หรือ​เร่ง​ด่วน​จริง ๆ เท่า​นั้น. คน​ที่​เดิน​ทาง​ใน​ช่วง​ปลาย​ฤดู​เสี่ยง​ต่อ​การ​ตก​ค้าง​อยู่​ที่​ท่า​เรือ​ต่าง​ประเทศ​ใน​ฤดู​หนาว.—กิจการ 27:12; 28:11.

แม้​ว่า​เสี่ยง​ภัย​และ​เดิน​ทาง​ได้​ตาม​ฤดู​เท่า​นั้น การ​เดิน​ทาง​ด้วย​เรือ​ได้​เปรียบ​กว่า​การ​เดิน​ทาง​ทาง​บก​หรือ? เป็น​เช่น​นั้น​จริง ๆ! การ​เดิน​ทาง​ทาง​ทะเล​เหนื่อย​น้อย​กว่า, ถูก​กว่า, และ​เร็ว​กว่า. เวลา​ลม​ดี เรือ​อาจ​เดิน​ทาง​ได้​ไกล​ถึง​วัน​ละ 150 กิโลเมตร. ความ​เร็ว​ตาม​ปกติ​สำหรับ​การ​เดิน​ทาง​ไกล​ด้วย​เท้า​คือ​วัน​ละ 25-30 กิโลเมตร.

ความ​เร็ว​ใน​การ​เดิน​เรือ​แทบ​จะ​ทั้ง​หมด​ขึ้น​อยู่​กับ​ลม. การ​เดิน​ทาง​จาก​อียิปต์​ไป​อิตาลี​ต้อง​สู้​กับ​ลม​ต้าน​อย่าง​ต่อ​เนื่อง แม้​แต่​ใน​ช่วง​เวลา​เดิน​เรือ​ดี​ที่​สุด. เส้น​ทาง​สั้น​ที่​สุด​มัก​ได้​แก่​เส้น​ที่​ผ่าน​ทาง​เกาะ​โรโด​หรือ​เมือง​มุรา​หรือ​ท่า​เรือ​อื่น​ตาม​ชายฝั่ง​ของ​มณฑล​ลุเกีย​ใน​เอเชีย​น้อย. ครั้ง​หนึ่ง หลัง​จาก​เผชิญ​พายุ​หลาย​ลูก​และ​หลง​ไป​จาก​เส้น​ทาง เรือ​ข้าว​ไอซิส ก็​ทอด​สมอ​ที่​ไพเรียส หลัง​ออก​จาก​ฝั่ง​เมือง​อะเล็กซานเดรีย​มา​ได้ 70 วัน. โดย​ที่​มี​ลม​พัด​แรง​จาก​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ตก​เฉียง​เหนือ​หนุน​ส่ง ขา​กลับ​จาก​อิตาลี​อาจ​ใช้​เวลา 20 ถึง 25 วัน. โดย​อาศัย​เส้น​ทาง​บก การ​เดิน​ทาง​เดียว​กัน​นี้​ไม่​ว่า​จะ​ขา​ไป​ขา​กลับ ต้อง​ใช้​เวลา​มาก​กว่า 150 วัน​ใน​ช่วง​ที่​สภาพ​อากาศ​ดี.

ข่าว​ดี​ถูก​นำ​ข้าม​น้ำ​ข้าม​ทะเล

มี​หลักฐาน​เห็น​ได้​ว่า​เปาโล​ตระหนัก​ถึง​อันตราย​ของ​การ​เดิน​ทาง​ทาง​ทะเล​นอก​ฤดู. ท่าน​ถึง​กับ​แนะ​นำ​ไม่​ให้​เดิน​ทาง​ใน​ช่วง​ปลาย​เดือน​กันยายน​หรือ​ต้น​เดือน​ตุลาคม โดย​กล่าว​ว่า “ดู​ก่อน​ท่าน​ทั้ง​หลาย, ข้าพเจ้า​เห็น​ว่า​ซึ่ง​เรา​จะ​แล่น​ไป​คราว​นี้​จะ​มี​อันตราย​และ​เสียหาย​มาก, มิ​ใช่​แต่​ของ​บรรทุก​กับ​เรือ​กำปั่น​เท่า​นั้น, แต่​จะ​เสีย​ชีวิต​ของ​เรา​ทั้ง​หลาย​ด้วย.” (กิจการ 27:9, 10) อย่าง​ไร​ก็​ตาม นาย​ทหาร​ที่​สั่ง​การ​ไม่​สนใจ​คำ​พูด​ของ​ท่าน และ​ผล​ก็​คือ​เรือ​อับปาง​ลง​ที่​เกาะ​เมลีเต.

เมื่อ​ถึง​ตอน​ท้าย ๆ แห่ง​งาน​ใน​ฐานะ​มิชชันนารี​ของ​ท่าน เปาโล​ก็​ได้​มี​ประสบการณ์​เรือ​แตก​ไป​แล้ว​อย่าง​น้อย​สี่​ครั้ง. (กิจการ 27:41-44; 2 โกรินโธ 11:25) กระนั้น ความ​กระวนกระวาย​เกิน​ควร​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​อาจ​เกิด​ขึ้น​ใน​ทำนอง​นี้​ก็​หา​ได้​กีด​กัน​เหล่า​ผู้​ประกาศ​ข่าว​ดี​ใน​ยุค​แรก ๆ เอา​ไว้​จาก​การ​เดิน​ทาง​ทาง​ทะเล. พวก​เขา​ใช้​ประโยชน์​เต็ม​ที่​จาก​การ​เดิน​ทาง​ทุก​วิธี​ที่​มี​อยู่​เพื่อ​แพร่​กระจาย​ข่าวสาร​ราชอาณาจักร. และ​ด้วย​การ​เชื่อ​ฟัง​พระ​บัญชา​ของ​พระ​เยซู จึง​ได้​มี​การ​ให้​คำ​พยาน​ออก​ไป​อย่าง​กว้าง​ไกล. (มัดธาย 28:19, 20; กิจการ 1:8) เนื่อง​ด้วย​ความ​มี​ใจ​แรง​กล้า​ของ​พวก​เขา, ความ​เชื่อ​ของ​คน​ที่​ได้​ติด​ตาม​แบบ​อย่าง​ของ​พวก​เขา, และ​การ​ชี้​นำ​จาก​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระ​ยะโฮวา ข่าว​ดี​จึง​ได้​ไป​ถึง​มุม​ต่าง ๆ ที่​ห่าง​ไกล​ที่​สุด​ของ​แผ่นดิน​โลก​ที่​มี​ผู้​คน​อาศัย.

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 31]

Pictorial Archive (Near Eastern History) Est.

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์