วิธีที่อาณาจักรลิเดียโบราณส่งผลกระทบต่อเราทุกวันนี้
คุณอาจไม่เคยได้ยินเรื่องอาณาจักรลิเดียโบราณ คุณจึงอาจแปลกใจที่รู้ว่าการค้นพบในอาณาจักรนั้นได้เปลี่ยนวิธีที่โลกดำเนินธุรกิจ. ผู้อ่านคัมภีร์ไบเบิลอาจประหลาดใจที่ได้รู้ว่าการคิดค้นอย่างหนึ่งของชาวลิเดียได้ให้ความกระจ่างเรื่องคำพยากรณ์ในพระคัมภีร์ที่ชวนให้ฉงน. ชาวลิเดียได้ค้นพบอะไร? ก่อนที่จะตอบ นับว่าน่าสนใจที่จะเรียนรู้บางสิ่งเกี่ยวกับวิถีชีวิตและยุคสมัยของจักรวรรดิที่เกือบจะถูกลืมนี้.
กษัตริย์ของลิเดียปกครองจากเมืองหลวงคือซาร์ดิส ทางตะวันตกของส่วนที่เรียกกันตอนนั้นว่าเอเชียน้อย ปัจจุบันคือตุรกี. กษัตริย์องค์สุดท้ายของลิเดียคือเครอซุสเป็นผู้มั่งคั่งร่ำรวย แต่มาประมาณปี 546 ก่อนสากลศักราช พระองค์ทรงสูญเสียอาณาจักรให้แก่ไซรัสมหาราชแห่งเปอร์เซีย องค์เดียวกับไซรัสซึ่งได้เอาชนะจักรวรรดิบาบิโลนอีกไม่กี่ปีต่อมา.
นักธุรกิจที่มีความคิดสร้างสรรค์ของลิเดียได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพวกแรกที่ใช้เหรียญ. ได้มีการใช้ทองและเงินเป็นเงินตรานานมาแล้ว แต่เพราะขนาดที่ไม่สม่ำเสมอของแหวนหรือแท่งทอง ผู้คนจึงต้องชั่งเงินตราทุกครั้งที่ทำการติดต่อทางธุรกิจ. ยกตัวอย่าง ในอิสราเอล ยิระมะยาผู้พยากรณ์ของพระเจ้าได้ซื้อที่ดินและเขียนว่า “[ข้าพเจ้า] ได้ชั่งเงินค่าที่นั่นให้แก่เขา, เป็นสิบเจ็ดเซ็กเคล.”—ยิระมะยา 32:9.
ในลิเดีย ประชาชนที่อยู่ในสมัยเดียวกับยิระมะยาได้ค้นพบบางสิ่งที่ทำให้การค้าขายง่ายขึ้น นั่นคือการใช้เหรียญที่มีน้ำหนักมาตรฐานพร้อมตราราชการประทับรับรองบนเหรียญ. เหรียญรุ่นแรก ๆ ของลิเดียทำด้วยโลหะผสมตามธรรมชาติระหว่างทองคำและเงินที่เรียกว่าอิเล็กทรัม. เมื่อเครอซุสเป็นกษัตริย์ พระองค์เปลี่ยนเหรียญเหล่านั้นมาเป็นเหรียญเงินและเหรียญทองคำที่ค่อนข้างบริสุทธิ์. ชาวลิเดียได้ประดิษฐ์ระบบเหรียญที่ทำจากโลหะสองชนิด โดยเหรียญเงินจำนวน 12 เหรียญจะมีค่าเท่ากับหนึ่งเหรียญทองคำ. แต่ระบบนี้ถูกคุกคามโดยเหรียญปลอมที่ทำด้วยทองคำผสมกับโลหะที่ด้อยค่ากว่า. พ่อค้าจำต้องมีวิธีที่ง่ายเพื่อทดสอบความบริสุทธิ์ของทองคำ.
ชาวลิเดียได้ค้นพบว่า หินท้องถิ่นสีดำชนิดหนึ่งที่เรียกว่าหินลิเดียสามารถแก้ปัญหาได้. เมื่อเอาเหรียญมาถูกับก้อนหินที่เรียบแต่สากเล็กน้อยนี้จะเกิดรอยขึ้น. เมื่อนำสีของรอยนี้เทียบกับสีของรอยที่เกิดจากเข็มตัวอย่างที่มีส่วนผสมของทองคำที่รู้กันก็ทำให้ทราบส่วนผสมของทองคำในเหรียญ. การค้นพบหินทดสอบนี้เองที่ทำให้เป็นไปได้ที่จะใช้เหรียญกษาปณ์ที่วางใจได้. ความรู้เกี่ยวกับหินทดสอบช่วยเราให้เข้าใจพระคัมภีร์อย่างไร?
หินทดสอบโดยนัยในพระคัมภีร์
ขณะที่การทดสอบทองคำกับหินทดสอบได้กลายมาเป็นสิ่งที่พ่อค้าทำกันเป็นปกติ คำ ”หินทดสอบ” จึงเริ่มหมายถึงวิธีที่ใช้ในการทดสอบ. ในภาษากรีกซึ่งใช้ในการเขียนพระคัมภีร์ส่วนหนึ่ง คำนี้ยังใช้หมายถึงการทรมานของคนที่ถูกสอบสวนด้วยวิธีทรมาน.
เพราะผู้คุมเป็นคนที่ทรมานนักโทษ คำที่มีรากมาจาก “หินทดสอบ” จึงใช้กับผู้คุมด้วย. ดังนั้น พระคัมภีร์ได้บันทึกอุทาหรณ์ของพระเยซูเรื่องทาสที่ไม่สำนึกในบุญคุณถูกมอบให้กับ “ผู้คุม” หรือในฉบับแปลบางฉบับใช้คำว่า “เจ้าหน้าที่ทรมาน.” (มัดธาย 18:34, ฉบับแปล 2002) เกี่ยวกับข้อคัมภีร์นี้ สารานุกรมดิ อินเตอร์แนชันแนล สแตนดาร์ด ไบเบิล ให้ความเห็นว่า “บางทีการคุมขังในตัวเองก็เป็น ‘การทรมาน’ (ซึ่งไม่มีข้อสงสัยว่าใช่อยู่แล้ว) และ ‘เจ้าหน้าที่ทรมาน’ ก็หมายถึงผู้คุมนั่นเอง.” เรื่องนี้ช่วยอธิบายข้อคัมภีร์ข้อหนึ่งที่น่าฉงน.
ปริศนาได้รับการเฉลย
ผู้อ่านพระคัมภีร์ที่จริงใจบ่อยครั้งมักสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่ซาตานจะประสบในที่สุด. พระคัมภีร์บอกว่า “พญามาร . . . ก็ถูกเหวี่ยงลงในบึงที่มีไฟและกำมะถันซึ่งสัตว์ร้ายกับผู้พยากรณ์เท็จอยู่ที่นั่นแล้ว พวกมันจะถูกทรมานทั้งวันทั้งคืนตลอดไปเป็นนิตย์.” (วิวรณ์ 20:10) การที่พระยะโฮวาจะส่งใครสักคนไปยังที่ทรมานตลอดไปย่อมขัดแย้งกับความรักและความยุติธรรมของพระองค์อย่างแน่นอน. (ยิระมะยา 7:31) นอกจากนั้น คัมภีร์ไบเบิลสอนว่าชีวิตถาวรเป็นของประทาน ไม่ใช่การลงโทษ. (โรม 6:23) จึงเห็นได้ชัดว่า วิวรณ์ 20:10 ได้รับการเขียนด้วยภาษาที่เป็นนัย. สัตว์ร้ายและบึงไฟเป็นอุปมา. (วิวรณ์ 13:2; 20:14) การทรมานเป็นอุปมาเช่นกันไหม? คำพูดนี้อาจหมายความอย่างไรได้บ้าง?
ดังที่เราได้เห็น คำภาษากรีกสำหรับคำ “ทรมาน” มีรากมาจากคำที่ใช้กับ “หินทดสอบ” และอาจพาดพิงถึงการทรมานระหว่างการคุมขัง. ดังนั้น การทรมานตลอดกาลของซาตานอาจพาดพิงถึงการถูกคุมขังตลอดกาลในคุกที่แน่นหนาที่สุด คือความตายนั่นเอง.
ดังเช่นการทดสอบด้วยหินของลิเดียถูกใช้เป็นมาตรฐานเมื่อทดสอบเงินตรา “การทรมาน” ตลอดไปหรือความตายของซาตานก็จะเป็นหลักฐานตลอดกาลหากมีการกบฏใด ๆ ที่ต่อต้านพระยะโฮวาในอนาคต. ไม่จำเป็นอีกต่อไปที่ต้องใช้เวลาทดสอบอันยาวนานเพื่อพิสูจน์ว่าผู้ท้าทายการปกครองของพระยะโฮวาเป็นฝ่ายผิด.
การเข้าใจเหตุผลที่พ่อค้าทุกหนแห่งได้นำหินทดสอบของลิเดียไปใช้รวมทั้งการเข้าใจคำพูดที่เป็นนัยของธรรมเนียมปฏิบัตินี้ได้ทำให้เราเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับซาตาน. จุดจบของมันจะเป็นบรรทัดฐานหรือหินทดสอบแห่งการพิพากษาที่ทำให้พระเจ้าไม่จำเป็นต้องยอมทนต่อการกบฏต่อไปอีกเลย.—โรม 8:20.
[คำโปรยหน้า 23]
การทรมานโดยนัยของซาตานบ่งชี้ว่าการพิพากษาที่มันได้รับจะถูกใช้เป็นหินทดสอบตลอดไป.
[แผนที่หน้า 21]
(รายละเอียดดูจากวารสาร)
ทะเลดำ
ลิเดีย
ซาร์ดิส
ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
[ภาพหน้า 21]
ซากเมืองซาร์ดิสโบราณ
[ภาพหน้า 22]
ในสมัยโบราณมีการใช้ตาชั่งสำหรับชั่งเงินตรา
[ที่มาของภาพ]
E. Strouhal/Werner Forman/Art Resource, NY
[ภาพหน้า 22, 23]
การใช้หินทดสอบได้มีมาจนถึงยุคปัจจุบัน
[ที่มาของภาพ]
Coins: Courtesy Classical Numismatic Group, Inc.; touchstone: Science Museum/Science & Society Picture Library
[ที่มาของภาพหน้า 21]
Electrum coin: Courtesy Classical Numismatic Group, Inc.