การปกครองของซาตานจะล้มเหลวแน่นอน
“จะไม่เป็นการดีแก่คนชั่วร้าย.”—ผู้ป. 8:13, ฉบับแปลคิงเจมส์
1. เหตุใดการที่เรารู้ว่าคนชั่วจะถูกพิพากษาตัดสินในอนาคตจึงเป็นข่าวที่ให้กำลังใจ?
ไม่ช้าก็เร็ว คนชั่วจะถูกพิพากษาตามความยุติธรรม. พวกเขาต้องให้การในสิ่งที่พวกเขาทำ. (สุภา. 5:22; ผู้ป. 8:12, 13) นั่นเป็นข่าวที่ให้กำลังใจทีเดียว โดยเฉพาะสำหรับคนที่รักความชอบธรรมและประสบกับความอยุติธรรมและถูกปฏิบัติอย่างเลวร้ายด้วยน้ำมือของคนชั่ว. บุคคลที่ชั่วร้ายที่สุดที่จะถูกพิพากษาตามความยุติธรรมคือซาตานพญามาร พ่อของความชั่วร้าย.—โย. 8:44
2. เหตุใดจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อจัดการกับประเด็นที่ถูกตั้งขึ้นในสวนเอเดน?
2 ย้อนไปในสวนเอเดน ซาตานซึ่งคิดว่าตัวเองสำคัญอย่างยิ่งได้ทำให้มนุษย์ปฏิเสธการปกครองของพระยะโฮวา. ผลคือ บิดามารดาคู่แรกของเราร่วมสมทบกับซาตานในการท้าทายอำนาจอันชอบธรรมของพระยะโฮวาและกลายเป็นคนบาปในสายพระเนตรของพระองค์. (โรม 5:12-14) แน่นอน พระยะโฮวาทรงรู้ว่าแนวทางที่ไม่นับถือและขืนอำนาจของพวกเขาจะก่อให้เกิดผลอย่างไรต่อพวกเขา. แต่ผลที่ไม่อาจเลี่ยงได้นั้นต้องปรากฏชัดต่อสิ่งทรงสร้างทั้งสิ้นที่มีเชาวน์ปัญญา. ดังนั้น จำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อจัดการกับประเด็นนี้และเพื่อแสดงให้เห็นอย่างปราศจากข้อกังขาว่าพวกผู้ขืนอำนาจเป็นฝ่ายผิดอย่างมหันต์.
3. เราควรมีทัศนะอย่างไรต่อรัฐบาลมนุษย์?
3 เนื่องจากมนุษย์ปฏิเสธการดูแลจากพระยะโฮวา พวกเขาจึงต้องจัดตั้งรูปแบบการปกครองเอง. ตอนที่อัครสาวกเปาโลเขียนจดหมายถึงเพื่อนร่วมความเชื่อในกรุงโรม ท่านกล่าวถึงรัฐบาลมนุษย์เช่นนั้นว่าเป็น “ผู้มีอำนาจปกครอง.” ในสมัยของเปาโล ผู้มีอำนาจปกครองส่วนใหญ่คือรัฐบาลแห่งอาณาจักรโรมภายใต้การนำของจักรพรรดิเนโร ซึ่งปกครองตั้งแต่สากลศักราช 54-68. เปาโลกล่าวว่าอำนาจปกครองดังกล่าว “อยู่ในตำแหน่งสูงต่ำโดยพระเจ้า.” (อ่านโรม 13:1, 2) นั่นหมายความไหมว่าเปาโลสนับสนุนการปกครองของมนุษย์มากกว่าการปกครองของพระเจ้า? ไม่เป็นอย่างนั้นแน่. ท่านเพียงแต่กล่าวว่าตราบใดที่พระยะโฮวาทรงอนุญาตให้การปกครองของมนุษย์ดำรงอยู่ คริสเตียนควรนับถือ “การจัดเตรียมของพระเจ้า” และยอมรับผู้ปกครองเหล่านั้น.
เส้นทางที่นำไปสู่ความหายนะ
4. จงอธิบายว่าเหตุใดการปกครองของมนุษย์จะล้มเหลว.
4 ถึงกระนั้น การปกครองของมนุษย์ซึ่งรับอิทธิพลจากซาตานจะล้มเหลวอย่างแน่นอน. เพราะเหตุใด? เหตุผลประการหนึ่งนั้น เพราะการปกครองของมนุษย์ไม่อาศัยสติปัญญาของพระเจ้า. มีเพียงพระยะโฮวาเท่านั้นที่ทรงมีสติปัญญาอย่างสมบูรณ์แบบ. ด้วยเหตุนั้น พระองค์ทรงเป็นผู้ชี้แนะที่ไว้วางใจได้แต่ผู้เดียวว่าอะไรทำให้การปกครองประสบความสำเร็จ. (ยิระ. 8:9; โรม 16:27) ไม่เหมือนกับมนุษย์ซึ่งมักเรียนรู้จากการลองผิดลองถูก พระยะโฮวาทรงรู้เสมอว่าวิธีใดเป็นวิธีดำเนินการที่ดีที่สุด. การปกครองใดก็ตามที่ไม่ดำเนินตามการชี้นำของพระองค์จะไม่ประสบความสำเร็จ. ด้วยเหตุผลดังกล่าว รวมทั้งข้อเท็จจริงที่ว่าซาตานมีแรงกระตุ้นที่เห็นแก่ตัว เราจึงรู้ว่าการปกครองที่ซาตานเสนอให้มนุษย์ปกครองตัวเองนั้นจะล้มเหลวอย่างแน่นอนตั้งแต่แรก.
5, 6. ดูเหมือนว่าอะไรชักนำซาตานให้ดำเนินในแนวทางที่ต่อต้านพระยะโฮวา?
5 โดยทั่วไปคนที่มีเหตุผลจะหลีกเลี่ยงการลงมือทำงานที่ส่อเค้าว่าจะล้มเหลว. ถ้าเขายังยืนกรานจะทำงานนั้นต่อไป เขาก็จะต้องจำใจยอมรับข้อผิดพลาดของตน. ประวัติศาสตร์พิสูจน์ให้เห็นหลายต่อหลายครั้งว่าไม่มีประโยชน์ที่จะเป็นปฏิปักษ์กับพระผู้สร้างองค์ทรงฤทธิ์ใหญ่ยิ่ง. (อ่านสุภาษิต 21:30) อย่างไรก็ตาม ซาตานซึ่งถูกบังตาด้วยความหยิ่งทะนงและถือว่าตัวเองสำคัญ หันหลังให้กับพระยะโฮวา. ด้วยเหตุนั้น พญามารจงใจเลือกแนวทางที่มีแต่จะนำไปสู่ความหายนะ.
6 ในเวลาต่อมา ทัศนะที่ถือดีแบบนี้ของซาตานถูกสะท้อนออกมาให้เห็นในตัวผู้ปกครองชาวบาบิโลนคนหนึ่งซึ่งมีบันทึกไว้ว่าได้กล่าวโอ้อวดดังนี้: “ข้าฯ จะเหาะขึ้นไปยังสรวงสวรรค์, ข้าฯ จะเขยิบที่นั่งของข้าฯ ขึ้นไปเหนือดาราทั้งหลายของพระเจ้า; และข้าฯ จะนั่งลงบนขุนเทพชุมนุมสุดหล้าฟ้าเหนือ; ข้าฯ จะเหาะขึ้นไปสูงเหนือเมฆ; ข้าฯ จะทำตัวของข้าฯ ให้เสมอเหมือนท่านผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด.” (ยซา. 14:13-15) การปกครองของเขาล้มเหลว และราชวงศ์บาบิโลนก็ถึงจุดจบอย่างน่าอดสู. คล้ายกัน ในอีกไม่ช้าซาตานและโลกของมันก็จะล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง.
เหตุใดพระยะโฮวาทรงยอม?
7, 8. การที่พระยะโฮวาทรงยอมให้ความชั่วมีอยู่ชั่วระยะหนึ่งเป็นประโยชน์อย่างไร?
7 บางคนอาจสงสัยว่าทำไมพระยะโฮวาไม่ทรงห้ามมนุษย์ไว้เพื่อไม่ให้พวกเขาเลือกอยู่ฝ่ายซาตานและเลือกอยู่ภายใต้การปกครองที่จะล้มเหลวอย่างแน่นอน. ในฐานะพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ใหญ่ยิ่ง พระองค์ทรงทำอย่างนั้นได้แน่นอน. (เอ็ก. 6:3) ถึงกระนั้น พระองค์ไม่ทรงทำอย่างนั้น. พระสติปัญญาของพระองค์ทำให้พระองค์ทรงรู้ว่าการไม่เข้าไปแทรกแซงการขืนอำนาจของมนุษย์ชั่วระยะหนึ่งจะก่อให้เกิดผลดีที่สุดในระยะยาว. ในที่สุด การปกครองของพระยะโฮวาจะได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้องและพระองค์ทรงเป็นผู้ปกครองที่ชอบธรรมและเปี่ยมด้วยความรัก และมนุษย์ที่ซื่อสัตย์ก็จะได้รับประโยชน์จากการตัดสินพระทัยของพระเจ้า.
8 ครอบครัวมนุษย์สามารถพ้นจากความทุกข์เดือดร้อนหากมนุษย์ปฏิเสธข้อเสนอของซาตานและไม่แยกตัวเป็นอิสระจากการปกครองของพระเจ้า! ถึงกระนั้น การตัดสินพระทัยของพระยะโฮวาที่ยอมให้มนุษย์ปกครองตัวเองชั่วระยะหนึ่งมีผลประโยชน์หลายอย่าง. การตัดสินพระทัยอย่างนั้นทำให้คนที่มีหัวใจสุจริตประทับใจอย่างยิ่งในสติปัญญาของการฟังพระเจ้าและไว้วางใจพระองค์. ตลอดหลายศตวรรษ มนุษย์ได้ทดลองใช้รูปแบบการปกครองมากมาย แต่ไม่มีการปกครองใดที่ดีพร้อม. ข้อเท็จจริงนั้นได้เสริมความเชื่อมั่นให้กับผู้นมัสการพระเจ้าว่าการปกครองของพระยะโฮวานั้นดีที่สุดจริง ๆ. จริงอยู่ การที่พระยะโฮวาทรงยอมให้ซาตานมีอำนาจปกครองทำให้เกิดความทุกข์ยากแก่มนุษยชาติ รวมถึงคนที่นมัสการพระเจ้าอย่างซื่อสัตย์ด้วย. ถึงกระนั้น การยอมให้มีความชั่วอยู่ชั่วระยะหนึ่งได้ก่อให้เกิดผลประโยชน์บางอย่างสำหรับผู้นมัสการที่ซื่อสัตย์เหล่านี้ด้วย.
การขืนอำนาจที่ทำให้ พระยะโฮวาได้รับคำสรรเสริญ
9, 10. จงอธิบายว่าการปกครองของซาตานทำให้พระยะโฮวาได้รับคำสรรเสริญอย่างไร.
9 การที่พระยะโฮวายอมให้ซาตานมีอิทธิพลเหนือมนุษย์และยอมให้มนุษย์ปกครองตัวเองไม่ได้ลดความน่าเชื่อถือของการปกครองของพระองค์เลย. ตรงกันข้าม! ประวัติศาสตร์พิสูจน์ว่าคำกล่าวของยิระมะยาห์ซึ่งกล่าวโดยได้รับการดลใจเกี่ยวกับความสามารถของมนุษย์ที่จะปกครองตัวเองนั้นถูกต้อง. (อ่านยิระมะยา 10:23) นอกจากนั้น การขืนอำนาจของซาตานได้ทำให้พระยะโฮวาทรงมีโอกาสแสดงคุณลักษณะที่ดีของพระองค์ในวิธีที่มีน้ำหนักยิ่งขึ้นไปอีก. เป็นเช่นนั้นอย่างไร?
10 เนื่องจากเราสามารถเห็นผลเสียหายร้ายแรงที่เกิดจากการปกครองของซาตาน คุณลักษณะอันสมบูรณ์พร้อมของพระยะโฮวาจึงเห็นได้ชัดยิ่งขึ้น. โดยวิธีนี้ พระองค์จึงได้รับคำสรรเสริญอย่างยิ่งจากคนที่รักพระองค์. อาจฟังแล้วแปลก แต่เป็นความจริงที่ว่าการปกครองของซาตานกลับทำให้พระเจ้าได้รับคำสรรเสริญ. การปกครองของมันทำให้เห็นแนวทางที่ดีเยี่ยมกว่าที่พระยะโฮวาทรงใช้เพื่อจัดการกับการท้าทายสิทธิการปกครองของพระองค์. เพื่อจะเห็นข้อเท็จจริงดังกล่าวอย่างชัดเจน ให้เรามาพิจารณากันสั้น ๆ ถึงคุณลักษณะบางประการของพระยะโฮวาและดูว่าการปกครองอันชั่วช้าของซาตานได้กระตุ้นพระยะโฮวาให้แสดงคุณลักษณะเหล่านี้ในแนวทางพิเศษอย่างไรบ้าง.
11. ความรักของพระยะโฮวาปรากฏชัดอย่างไร?
11 ความรัก. พระคัมภีร์บอกเราว่า “พระเจ้าทรงเป็นความรัก.” (1 โย. 4:8) การสร้างมนุษย์เป็นการแสดงให้เห็นถึงความรักของพระเจ้า. นอกจากนั้น วิธีที่เราถูกสร้างอย่างน่าเกรงขามและน่าพิศวงเป็นพยานถึงความรักของพระเจ้า. พระยะโฮวายังทรงจัดเตรียมด้วยความรักให้มนุษย์มีบ้านที่สวยงามซึ่งมีสิ่งจำเป็นทุกอย่างที่จะทำให้พวกเขามีความสุข. (เย. 1:29-31; 2:8, 9; เพลง. 139:14-16) แต่เมื่อครอบครัวมนุษย์อยู่ในสภาพที่ผิดบาปแล้ว พระยะโฮวาทรงแสดงความรักในวิธีใหม่ ๆ. โดยวิธีใด? อัครสาวกโยฮันอ้างถึงคำตรัสของพระเยซูว่า “พระเจ้าทรงรักโลกมากจนถึงกับประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่แสดงความเชื่อในพระบุตรจะไม่ถูกทำลาย แต่จะมีชีวิตนิรันดร์.” (โย. 3:16) พระเจ้าจะสามารถแสดงความรักต่อมนุษยชาติด้วยวิธีอื่นใดที่น่าทึ่งยิ่งกว่าการส่งพระบุตรองค์เดียวมายังแผ่นดินโลกเพื่อไถ่บาปให้คนบาปได้หรือ? (โย. 15:13) การแสดงความรักอันยิ่งใหญ่นี้ยังเป็นแบบอย่างสำหรับมนุษย์ด้วย ทำให้พวกเขามีโอกาสสะท้อนถึงความรักที่เสียสละของพระเจ้าในชีวิตประจำวันของตน เช่นเดียวกับที่พระเยซูทรงทำ.—โย. 17:25, 26
12. พระยะโฮวาทรงแสดงให้เห็นถึงอำนาจของพระองค์โดยวิธีใด?
12 อำนาจ. เฉพาะ “พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ใหญ่ยิ่ง” เท่านั้นทรงมีอำนาจที่จะสร้างชีวิต. (วิ. 11:17; เพลง. 36:9) เมื่อเกิดมา มนุษย์เริ่มต้นชีวิตที่เปรียบได้กับกระดาษเปล่าแผ่นหนึ่ง. เมื่อตาย เขาได้บันทึกหลายสิ่งไว้ในกระดาษเปล่านั้น เช่น การตัดสินใจ, การกระทำ, และประสบการณ์ชั่วชีวิตที่หล่อหลอมบุคลิกลักษณะเฉพาะตัวของเขา. ข้อมูลนั้นถูกเก็บบันทึกไว้ในความทรงจำของพระยะโฮวา. เมื่อถึงเวลาอันเหมาะ พระยะโฮวาทรงสามารถปลุกแต่ละคนให้กลับมีชีวิตอีกครั้ง โดยที่มีลักษณะเฉพาะของเขาอย่างครบถ้วน. (โย. 5:28, 29) ด้วยเหตุนั้น แม้ว่าความตายไม่ได้เป็นพระประสงค์ดั้งเดิมของพระองค์สำหรับมนุษย์ แต่ความตายทำให้พระยะโฮวาทรงมีโอกาสแสดงให้เห็นอำนาจของพระองค์เหนือความตาย. จริงทีเดียว พระยะโฮวาทรงเป็น “พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ใหญ่ยิ่ง.”
13. เครื่องบูชาของพระเยซูพิสูจน์ให้เห็นถึงความยุติธรรมอันสมบูรณ์ของพระยะโฮวาอย่างไร?
13 ความยุติธรรม. พระยะโฮวาไม่ทรงมุสา; และพระองค์ไม่กระทำอย่างไม่ยุติธรรม. (บัญ. 32:4; ทิทุส 1:2) พระองค์ทรงยึดมั่นในมาตรฐานสูงสุดของความจริงและความยุติธรรมเสมอ แม้แต่เมื่อการทำอย่างนั้นทำให้พระองค์เสียประโยชน์. (โรม 8:32) ช่างทำให้พระยะโฮวาเจ็บปวดพระทัยสักเพียงไรที่เห็นพระบุตรที่รักสิ้นพระชนม์บนเสาทรมานเยี่ยงผู้หมิ่นประมาทที่ไม่ซื่อสัตย์! ถึงกระนั้น ด้วยความรักต่อมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์ พระยะโฮวาทรงเต็มพระทัยยอมให้เหตุการณ์ที่เจ็บปวดนี้เกิดขึ้นเพื่อเชิดชูมาตรฐานความยุติธรรมอันสมบูรณ์ของพระองค์เอง. (อ่านโรม 5:18-21) โลกที่เต็มไปด้วยความอยุติธรรมทำให้พระยะโฮวาทรงมีโอกาสพิสูจน์ให้เห็นว่าพระองค์ทรงเป็นองค์ยุติธรรมสูงสุด.
14, 15. มีการแสดงให้เห็นสติปัญญาและความอดทนที่สูงส่งกว่าของพระยะโฮวาโดยวิธีใดบ้าง?
14 สติปัญญา. ทันทีหลังจากอาดามและฮาวาทำบาป พระยะโฮวาทรงเปิดเผยวิธีที่พระองค์จะแก้ไขผลกระทบที่เลวร้ายทุกอย่างซึ่งเกิดจากการขืนอำนาจของพวกเขา. (เย. 3:15) การจัดการอย่างฉับไว รวมทั้งการที่พระองค์ทรงค่อย ๆ เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระประสงค์นี้ให้ผู้รับใช้ของพระองค์ทราบ ทำให้เห็นพระสติปัญญาของพระยะโฮวาได้อย่างชัดเจน. (โรม 11:33) ไม่มีสิ่งใดจะหน่วงเหนี่ยวความสามารถของพระเจ้าไว้ในการจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้สำเร็จ. ในโลกที่เต็มไปด้วยการทำผิดศีลธรรมทางเพศ, สงคราม, ความไม่มีเหตุผล, การไม่เชื่อฟัง, การขาดความเมตตา, อคติ, และความหน้าซื่อใจคด พระยะโฮวาทรงมีโอกาสมากมายที่จะแสดงให้สิ่งทรงสร้างของพระองค์เห็นว่าสติปัญญาแท้นั้นเป็นอย่างไร. สาวกยาโกโบกล่าวว่า “สติปัญญาจากเบื้องบนนั้น ประการแรก บริสุทธิ์ แล้วก็ทำให้มีสันติ มีเหตุผล พร้อมจะเชื่อฟัง เปี่ยมด้วยความเมตตาและผลอันดี ไม่ลำเอียง ไม่หน้าซื่อใจคด.”—ยโก. 3:17
15 ความอดทนและความอดกลั้นไว้นาน. คุณลักษณะของพระยะโฮวาในเรื่องความอดทนและความอดกลั้นไว้นานคงเห็นได้ไม่เด่นชัดมากหากพระองค์ไม่จำเป็นต้องติดต่อเกี่ยวข้องกับมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์, ผิดบาป, และมีข้อบกพร่อง. การที่พระยะโฮวาทรงเต็มพระทัยจะทำอย่างนั้นเป็นเวลาหลายพันปีแสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงมีคุณลักษณะดังกล่าวอย่างสมบูรณ์ และเราควรรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับคุณลักษณะเช่นนั้นของพระองค์. อัครสาวกเปโตรกล่าวไว้อย่างถูกต้องว่าเราควร “ถือว่าความอดทนขององค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นความรอด.”—2 เป. 3:9, 15
16. เหตุใดการที่พระยะโฮวาทรงเต็มพระทัยจะให้อภัยจึงเป็นเหตุให้มีความยินดีอย่างยิ่ง?
16 ความเต็มพระทัยจะให้อภัย. เราทุกคนเป็นคนบาป และเราทุกคนพลาดพลั้งกันหลายครั้ง. (ยโก. 3:2; 1 โย. 1:8, 9) เราควรรู้สึกขอบคุณที่พระยะโฮวาทรงเต็มพระทัยจะให้อภัย “อย่างล้นเหลือ”! (ยซา. 55:7, ฉบับ R73) ขอให้พิจารณาข้อเท็จจริงนี้: เนื่องจากเราเกิดมาเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์ เราอยู่ในฐานะที่จะประสบความยินดีอย่างล้ำลึกเมื่อพระเจ้าทรงให้อภัยความผิดของเรา. (เพลง. 51:5, 9, 17) การที่เราเองได้สัมผัสคุณลักษณะที่น่าอบอุ่นใจของพระยะโฮวาเช่นนั้นทำให้เรารักพระองค์มากขึ้นและกระตุ้นเราให้ทำตามแบบอย่างของพระองค์เมื่อเราติดต่อเกี่ยวข้องกับคนอื่น ๆ.—อ่านโกโลซาย 3:13
เหตุใดโลกจึงป่วย?
17, 18. การปกครองของซาตานไม่อาจทำอะไรให้สำเร็จ?
17 ระบบโลกทั้งสิ้นของซาตาน—ซึ่งเป็นผลอย่างหนึ่งจากการปกครองของมัน—ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าและเป็นอย่างนั้นเสมอมาตลอดหลายศตวรรษ. ในปี 1991 หนังสือพิมพ์เดอะ ยูโรเปียน กล่าวว่า “โลกนี้ป่วยอยู่ไหม? เป็นอย่างนั้นจริง ๆ แต่ . . . ไม่ใช่ด้วยการกระทำของพระเจ้า—โลกเจ็บป่วยเพราะการกระทำของผู้คนในโลก.” ช่างเป็นความจริงสักเพียงไร! เพราะถูกซาตานโน้มน้าว บิดามารดาคู่แรกของเราเลือกการปกครองของมนุษย์แทนที่จะเลือกการปกครองของพระยะโฮวา. ด้วยวิธีนั้น พวกเขาทำให้การปกครองที่จะล้มเหลวอย่างแน่นอนเริ่มต้นขึ้น. ความเจ็บปวดและความทุกข์ร้อนที่ผู้คนทั่วโลกประสบเป็นสัญญาณว่าการปกครองของมนุษย์ป่วยด้วยโรคร้าย.
18 การปกครองของซาตานส่งเสริมความเห็นแก่ตัว. อย่างไรก็ตาม ความเห็นแก่ตัวไม่เคยมีชัยเหนือความรัก ซึ่งเป็นพื้นฐานของการปกครองของพระยะโฮวา. การปกครองของซาตานไม่อาจทำให้เกิดความมั่นคง, ความสุข, หรือความปลอดภัย. การปกครองของพระยะโฮวาได้รับการพิสูจน์แล้วว่าถูกต้อง! เรามีหลักฐานในสมัยปัจจุบันไหมที่แสดงอย่างนั้น? มี และเราจะเห็นหลักฐานแบบนั้นในบทความถัดไป.
เราเรียนอะไรเกี่ยวกับการปกครองจากการอ่าน . . .
• โรม 13:1, 2?
• โกโลซาย 3:13?
[ภาพหน้า 25]
การปกครองของซาตานไม่เคยทำให้มนุษยชาติได้ประโยชน์
[ที่มาของภาพ]
U.S. Army photo
WHO photo by P. Almasy
[ภาพหน้า 26]
อำนาจของพระยะโฮวามีชัยเหนือความตาย
[ภาพหน้า 27]
ความรักและความยุติธรรมของพระยะโฮวาเห็นได้ชัดจากการที่พระองค์สละพระบุตรเป็นเครื่องบูชา