จงใกล้ชิดพระเจ้า
คุณมีชื่ออยู่ใน “หนังสือบันทึกความจำ” ของพระเจ้าไหม?
พระยะโฮวาทรงสังเกตเห็นไหมเมื่อผู้นมัสการพระองค์พยายามทำสิ่งที่พระองค์พอพระทัย? แน่นอน! แต่พระองค์ทรงเห็นไม่เพียงการกระทำที่ดีงามหรือถ้อยคำที่พวกเขาสรรเสริญพระองค์เท่านั้น. พระเจ้าทรงสังเกตเห็นกระทั่งความคิดที่กตัญญูรู้คุณพระองค์ด้วย. ที่สำคัญคือ พระยะโฮวาจะไม่มีวันลืมประชาชนของพระองค์และสิ่งที่พวกเขาได้ทำ. เราแน่ใจได้อย่างไร? คำตอบอยู่ในถ้อยคำที่ผู้พยากรณ์มาลาคีบันทึกไว้.—อ่านมาลาคี 3:16
ในศตวรรษที่ห้าก่อนสากลศักราช สมัยที่มาลาคีเป็นผู้พยากรณ์ สภาพการณ์ทางศาสนาและศีลธรรมในอิสราเอลเสื่อมลงมากอย่างน่าตกใจ. พวกปุโรหิตละเลยหน้าที่ของตน ส่วนประชาชนทั่วไปก็ทำสิ่งที่แสดงว่าพวกเขาไม่เกรงกลัวพระเจ้า. พวกเขาใช้ไสยศาสตร์ ทำผิดประเวณี และฉ้อโกง. (มาลาคี 2:8; 3:5) แต่ท่ามกลางความเสื่อมทรามเหล่านี้ที่แพร่ไปทั่ว มีชาวอิสราเอลกลุ่มหนึ่งที่ยังภักดีต่อพระเจ้า. พวกเขาทำอะไร?
ในข้อ 16 นี้มาลาคีเขียนว่า “คนเหล่านั้นที่เกรงกลัวพระเจ้าจึงพูดกัน.” (พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1971) ความเกรงกลัวพระเจ้าเป็นคุณลักษณะที่ดี. มาลาคีกำลังพูดถึงชาวอิสราเอลที่มีความนับถือต่อพระเจ้าอย่างสุดซึ้งและกลัวว่าจะทำให้พระองค์ไม่พอพระทัย. สังเกตว่าคนเหล่านี้ได้ “พูดกัน.” ดูเหมือนว่าพวกเขามาอยู่รวมกันเพื่อยกย่องพระยะโฮวาและหนุนใจกัน ซึ่งช่วยให้พวกเขาไม่ท้อใจกับความเสื่อมทรามที่อยู่รอบตัวหรือหลงไปทำสิ่งเหล่านั้น.
ชาวอิสราเอลที่ซื่อสัตย์ยังแสดงให้เห็นว่าพวกเขายำเกรงพระยะโฮวาในอีกวิธีหนึ่งด้วย นั่นคือพวกเขา “ระลึกถึงพระนามของพระองค์.” คัมภีร์ไบเบิลอีกฉบับหนึ่งแปลสำนวนนี้ว่า “ยกย่องพระนามของพระองค์.” คนเหล่านี้ที่เกรงกลัวพระยะโฮวาให้เกียรติพระองค์แม้แต่ในความคิดของพวกเขา. ผู้รับใช้เหล่านี้คิดรำพึงถึงพระยะโฮวาและพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ด้วยความซาบซึ้งในหัวใจ. พระยะโฮวาทรงทราบไหมว่าพวกเขากำลังทำอะไร?
มาลาคีกล่าวว่า “พระยะโฮวาได้ทรงสดับ.” แม้จะประทับอยู่ในสวรรค์อันห่างไกล พระยะโฮวาทรงทำราวกับว่าเงี่ยพระกรรณฟังทุกถ้อยคำที่ผู้นมัสการพระองค์พูดคุยกัน ไม่ว่าพวกเขาจะยกย่องสรรเสริญพระองค์หรือพูดหนุนใจกัน. พระองค์สนพระทัยทุกสิ่งที่พวกเขาคิดอยู่ในใจด้วย. (บทเพลงสรรเสริญ 94:11) แต่พระยะโฮวาไม่เพียงสังเกตคำพูดและความคิดที่ดีของพวกเขาเท่านั้น.
มาลาคีกล่าวต่อไปว่า “มีหนังสือบันทึกความจำ . . . บันทึกลงต่อพักตร์พระองค์.” หนังสือเล่มนี้มีชื่อทุกคนที่รับใช้พระยะโฮวาอย่างซื่อสัตย์ภักดี. สังเกตว่าหนังสือนี้ถูกเรียกว่า “หนังสือบันทึกความจำ”a ซึ่งบอกให้รู้ว่าพระยะโฮวาไม่มีวันลืมผู้นมัสการที่ซื่อสัตย์ของพระองค์และทุกสิ่งที่พวกเขาทำเพื่อสรรเสริญพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ คำพูด หรือความคิด. แต่พระเจ้าทรงจดจำพวกเขาเพื่ออะไร? พระองค์สัญญาว่าจะประทานชีวิตนิรันดร์เป็นรางวัลแก่คนที่มีชื่อบันทึกไว้อย่างถาวรในหนังสือบันทึกความจำของพระองค์.b—บทเพลงสรรเสริญ 37:29
เรารู้สึกมีกำลังใจจริง ๆ ที่รู้ว่าพระยะโฮวาทรงเห็นค่าทุกสิ่งที่เราทำเพื่อนมัสการพระองค์อย่างที่ทรงยอมรับได้! คำกล่าวในมาลาคี 3:16 กระตุ้นเราให้คิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับสายสัมพันธ์ของเรากับพระยะโฮวา. เราน่าจะถามตัวเองว่า ‘ชื่อของฉันอยู่ใน “หนังสือบันทึกความจำของพระเจ้า” ไหม?’ เราแน่ใจว่าจะเป็นเช่นนั้น ถ้าเราพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้การกระทำ คำพูด และความคิดของเราในแต่ละวันเป็นอย่างที่พระยะโฮวาอยากจดจำไว้ในพระทัย.
ข้อคัมภีร์ที่แนะให้อ่านสำหรับเดือนธันวาคม:
a คำว่า “จำ” ในภาษาฮีบรูไม่ได้หมายความว่าระลึกถึงบางสิ่งในใจเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการลงมือทำอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่อยู่ในใจด้วย.
b สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำสัญญาของพระเจ้าเรื่องชีวิตนิรันดร์ โปรดดูบท 3 ของหนังสือคัมภีร์ไบเบิลสอนอะไรจริงๆ? จัดพิมพ์โดยพยานพระยะโฮวา.