เห็นคุณค่าพระยะโฮวาช่างปั้นหม้อองค์ยิ่งใหญ่
“พระยะโฮวา . . . พระองค์เป็นช่างปั้นหม้อ เราเป็นผลงานของพระองค์”—อสย. 64:8
1. ทำไมพระยะโฮวาจึงเป็นช่างปั้นองค์ยิ่งใหญ่?
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2010 ที่ประเทศอังกฤษ มีการประมูลแจกันของจีนที่ทำจากดินเหนียวในราคาเกือบ 70 ล้านดอลลาร์ น่าทึ่งจริง ๆ ที่ช่างปั้นสามารถปั้นดินเหนียวธรรมดาราคาถูก ๆ ให้เป็นแจกันที่สวยงามและมีราคาแพงได้ พระยะโฮวาเป็นช่างปั้นองค์ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีมนุษย์คนไหนเทียบได้ คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าพระยะโฮวาสร้างมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบจาก “ดิน” ซึ่งก็คือดินเหนียว (ปฐก. 2:7) มนุษย์คนนั้นก็คืออาดัม เขาเป็น “ลูกของพระเจ้า” เขาถูกสร้างขึ้นให้มีความสามารถที่จะเลียนแบบคุณลักษณะของพระเจ้าได้—ลก. 3:38
2, 3. เราจะมีแง่คิดเหมือนกับชาวอิสราเอลที่กลับใจได้อย่างไร?
2 ตอนที่อาดัมกบฏต่อพระเจ้าผู้สร้างตัวเขา อาดัมไม่ได้เป็นลูกของพระองค์อีกต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นก็มีลูกหลานของอาดัมหลายคนที่เลือกพระยะโฮวาเป็นผู้ปกครองพวกเขา (ฮบ. 12:1) พวกเขาเชื่อฟังพระเจ้าและแสดงให้เห็นว่าพวกเขาอยากให้พระองค์เป็นพ่อและเป็นผู้นวดปั้นตัวเขา ไม่ใช่ซาตาน (ยน. 8:44) การที่พวกเขาภักดีต่อพระเจ้าทำให้เรานึกถึงชาวอิสราเอลที่กลับใจซึ่งพูดว่า “พระยะโฮวา จนถึงตอนนี้พระองค์ก็ยังเป็นพ่อของเรา พวกเราเป็นดินเหนียว ส่วนพระองค์เป็นช่างปั้นหม้อ เราเป็นผลงานของพระองค์”—อสย. 64:8
3 คนที่นมัสการพระยะโฮวาในทุกวันนี้ก็เหมือนกัน พวกเขาพยายามถ่อมตัวและเชื่อฟังพระองค์ พวกเขาถือว่าเป็นเกียรติที่ได้เรียกพระยะโฮวาว่าพ่อ และอยากให้พระองค์นวดปั้นพวกเขา เราเต็มใจจะเป็นเหมือนดินเหนียวที่อ่อนนุ่มที่พระเจ้าจะปั้นให้เป็นภาชนะต่าง ๆ ที่มีค่าไหม? เรามองพี่น้องแต่ละคนว่าเป็นชิ้นงานที่พระองค์กำลังนวดปั้นอยู่ไหม? เพื่อที่เราจะมองเรื่องนี้ในแบบที่พระเจ้ามอง เราจะมาดูด้วยกันว่าพระยะโฮวาเลือกคนที่พระองค์จะนวดปั้นอย่างไร? ทำไมพระองค์ถึงปั้นพวกเขา? และพระองค์นวดปั้นพวกเขาอย่างไร?
พระยะโฮวาเลือกคนที่พระองค์จะนวดปั้นอย่างไร?
4. พระยะโฮวาชักนำคนแบบไหนบ้างเข้ามาในประชาคม? ขอยกตัวอย่าง
4 พระยะโฮวาไม่ได้มองผู้คนแบบเดียวกับเรา พระองค์มองที่หัวใจและดูว่าเราแต่ละคนเป็นอย่างไรจริง ๆ (อ่าน 1 ซามูเอล 16:7ข) เราเห็นเรื่องนี้ได้ตอนที่พระองค์ก่อตั้งประชาคมคริสเตียน พระองค์ชักนำคนที่ดูเหมือนไร้ค่าเข้ามาหาพระองค์และลูกของพระองค์ (ยน. 6:44) ตัวอย่างเช่น พระเจ้าชักนำฟาริสีคนหนึ่งที่ชื่อเซาโล เขาเป็นคน “หมิ่นประมาทพระเจ้า ข่มเหงคนของพระองค์ และเป็นคนอวดดี” (1 ทธ. 1:13) แต่พระยะโฮวามองที่หัวใจของเซาโลและไม่ได้มองว่าเขาเป็นแค่ดินเหนียวที่ไม่มีค่าอะไร (สภษ. 17:3) แทนที่จะคิดอย่างนั้น พระยะโฮวาเห็นว่าเซาโลจะถูกนวดปั้นให้เป็นภาชนะที่ “เลือกไว้” ได้ และจะประกาศ “ให้กับคนต่างชาติรวมทั้งกษัตริย์และคนอิสราเอล” (กจ. 9:15) พระยะโฮวายังเลือกคนที่พระองค์จะนวดปั้นอีกหลายคนให้เป็น “ภาชนะที่ใช้ในโอกาสพิเศษ” ไม่ว่าจะเป็นคนที่เคยเมาเหล้า เคยทำผิดศีลธรรมทางเพศ และเป็นขโมย (รม. 9:21, 1 คร. 6:9-11) ตอนที่คนเหล่านั้นศึกษาคัมภีร์ไบเบิล พวกเขาก็มีความเชื่อในพระยะโฮวามากขึ้น และยอมให้พระองค์นวดปั้นพวกเขา
5, 6. การที่เรามั่นใจว่าพระยะโฮวาเป็นช่างปั้นหม้อองค์ยิ่งใหญ่ มีผลอย่างไรกับ (ก) วิธีที่เรามองคนในเขตประกาศ? (ข) วิธีที่เรามองพี่น้องของเรา?
5 เรามั่นใจว่าพระยะโฮวาสามารถเลือกและชักนำคนไม่ผิด นี่เองเป็นเหตุผลที่เราไม่ควรตัดสินผู้คนที่เราพบในเขตประกาศ หรือตัดสินพี่น้องในประชาคม เพื่อเป็นตัวอย่าง ขอให้เรามาดูว่าผู้ชายคนหนึ่งชื่อไมเคิลทำอย่างไรเมื่อพยานพระยะโฮวาไปเยี่ยมเขา ไมเคิลเล่าว่า “ผมหันหน้าหนีและทำเหมือนกับว่าพวกเขาไม่มีตัวตน ตอนนั้นผมเสียมารยาทมาก หลังจากนั้น ผมได้มีโอกาสพบกับครอบครัวหนึ่งที่มีความประพฤติที่ดีและรู้สึกประทับใจ แต่แล้ววันหนึ่งผมก็ต้องตกใจเมื่อได้รู้ว่าพวกเขาเป็นพยานพระยะโฮวา ความประพฤติที่ดีของพวกเขากระตุ้นให้ผมตรวจสอบตัวเองว่าทำไมผมถึงไม่ชอบพยานฯแล้วผมก็รู้ว่าที่ผมมีอคติเป็นเพราะผมไม่รู้มาก่อนว่าพยานฯเป็นอย่างไรจริง ๆ ผมแค่ฟังมาจากคนอื่น ไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง” ไมเคิลอยากเรียนรู้มากขึ้น เขาเลยศึกษาคัมภีร์ไบเบิล หลังจากนั้นก็รับบัพติศมาและรับใช้เต็มเวลา
6 ถ้าเรามองว่าพระยะโฮวาเป็นช่างปั้นหม้อองค์ยิ่งใหญ่ที่นวดปั้นเรา วิธีที่เรามองพี่น้องก็จะเปลี่ยนไปด้วย เราจะมองพวกเขาแต่ละคนว่าเป็นชิ้นงานที่พระองค์กำลังนวดปั้นอยู่ และพระยะโฮวาก็มองพวกเขาแบบนี้ พระองค์เห็นว่าพวกเขาเป็นอย่างไรจริง ๆ และยังรู้ว่าแต่ละคนจะถูกนวดปั้นให้เป็นคนแบบไหนได้บ้าง ดังนั้น ถึงพวกเขาจะยังมีข้อผิดพลาดในตอนนี้ พระองค์ก็รู้ว่ามันเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น (สด. 130:3) พวกเราสามารถเลียนแบบพระยะโฮวาโดยมองพี่น้องในแง่ดี ที่จริง เราสามารถทำงานกับช่างปั้นหม้อองค์ยิ่งใหญ่เพื่อช่วยให้พี่น้องเป็นคริสเตียนที่ดีขึ้น (1 ธส. 5:14, 15) ผู้ดูแลในประชาคมควรเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้—อฟ. 4:8, 11-13
ทำไมพระยะโฮวานวดปั้นเรา?
7. ทำไมเราเห็นค่าการสอนที่มาจากพระยะโฮวา?
7 บางคนเคยพูดไว้ว่า ‘ฉันไม่เคยเห็นค่าสิ่งที่พ่อแม่อบรมสั่งสอนเลย จนฉันมีลูก’ ยิ่งเราอายุมากขึ้น เราจะเห็นค่าการอบรมสั่งสอนเพราะรู้ว่าสิ่งนี้มาจากความรัก (อ่านฮีบรู 12:5, 6, 11) พระยะโฮวารักพวกเราเหมือนลูก พระองค์จึงนวดปั้นหรือสอนเราอย่างอดทน พระองค์อยากให้เราฉลาด มีความสุข และรักพระองค์เหมือนพ่อ (สภษ. 23:15) พระองค์ไม่อยากเห็นเราต้องทนทุกข์และตายอย่างคนบาปที่ไม่กลับใจ—อฟ. 2:2, 3
8, 9. พระยะโฮวาสอนเราในทุกวันนี้อย่างไร? และพระองค์จะสอนเราต่อ ๆ ไปอย่างไรในอนาคต?
8 ก่อนที่เราจะรู้จักพระยะโฮวา เราอาจมีนิสัยที่ไม่ดีหลายอย่าง แต่พระองค์นวดปั้นเราและช่วยเราให้เปลี่ยนแปลงตัวเองจนเรามีนิสัยที่ดีขึ้น (อสย. 11:6-8; คส. 3:9, 10) ในตอนนี้ เรามีชีวิตอยู่ในอุทยานโดยนัยซึ่งเป็นที่ที่พิเศษสุดที่พระยะโฮวาให้เราเพื่อจะนวดปั้นเราหรือสอนเรา ในอุทยานนี้ เรารู้สึกมั่นคงปลอดภัยถึงแม้จะอยู่ในโลกชั่ว ถึงแม้คนที่โตมาในครอบครัวที่ไม่ได้แสดงความรัก แต่ตอนนี้ในอุทยานโดยนัย เขาก็มีพี่น้องชายหญิงที่รักเขาจริง ๆ (ยน. 13:35) และเราได้เรียนรู้ที่จะรักคนอื่น ๆ แต่ที่สำคัญที่สุด เราได้มารู้จักพระยะโฮวาและตอนนี้เราได้รับความรักจากพระองค์เหมือนลูกได้รับความรักจากพ่อ—ยก. 4:8
9 ในโลกใหม่ เราจะได้รับประโยชน์จากอุทยานโดยนัยอย่างเต็มที่ และเราจะมีความสุขที่ได้อยู่ในสวนอุทยานจริง ๆ ซึ่งปกครองโดยรัฐบาลของพระเจ้า ในตอนนั้น พระยะโฮวาจะยังนวดปั้นเราและสอนเราในแบบที่เราอาจนึกไม่ออกในตอนนี้ (อสย. 11:9) พระยะโฮวาจะทำให้ร่างกายและจิตใจของเราสมบูรณ์แบบ นี่ทำให้ง่ายขึ้นที่เราจะเข้าใจและเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระองค์อย่างครบถ้วน ดังนั้น ขอเรายอมให้พระยะโฮวานวดปั้นเราต่อ ๆ ไป และขอเราแสดงให้พระองค์เห็นว่าเราขอบคุณที่พระองค์แสดงความรักกับเราด้วยวิธีนี้—สภษ. 3:11, 12
พระยะโฮวานวดปั้นเราอย่างไร?
10. พระเยซูแสดงให้เห็นอย่างไรว่าท่านมีความอดทนและมีความสามารถในการนวดปั้นเหมือนพระยะโฮวา?
10 ช่างปั้นหม้อที่ชำนาญรู้ว่าเขากำลังปั้นดินเหนียวชนิดไหนอยู่ พระยะโฮวาช่างปั้นหม้อองค์ยิ่งใหญ่ก็เป็นแบบนั้น พระองค์รู้จักพวกเราดี พระองค์รู้ว่าอะไรคือจุดอ่อนของเรา รู้ว่าเรามีขีดจำกัดแค่ไหน และรู้ว่าเราพัฒนาไปถึงขั้นไหนแล้ว ดังนั้น ตอนที่พระองค์นวดปั้นเรา พระองค์ก็คิดถึงเรื่องเหล่านี้อยู่เสมอ (อ่านสดุดี 103:10-14) เรารู้ได้ว่าพระยะโฮวามองเราอย่างไรโดยดูจากท่าทีที่พระเยซูมีต่อความไม่สมบูรณ์ของพวกอัครสาวก หลายครั้งพวกเขาเถียงกันว่าใครจะเป็นใหญ่ ลองคิดดูว่าถ้าคุณอยู่ที่นั่น คุณจะมองพวกอัครสาวกอย่างไร? คุณอาจคิดว่าพวกเขาไม่ได้เป็นเหมือนดินเหนียวที่อ่อนนุ่ม ถึงอย่างนั้น พระเยซูรู้ว่าถ้าพวกเขายอมฟังคำแนะนำที่ท่านให้ด้วยความรักและความอดทน และถ้าพวกเขาเลียนแบบความถ่อมตัวของท่าน พวกเขาก็สามารถเป็นดินเหนียวที่ถูกนวดปั้นได้ (มก. 9:33-37; 10:37, 41-45; ลก. 22:24-27) หลังจากพระเยซูฟื้นขึ้นจากตาย พวกอัครสาวกก็ได้รับพลังของพระเจ้าและไม่ได้สนใจว่าใครจะเป็นใหญ่อีกต่อไป แทนที่จะคิดเรื่องนั้น พวกเขาเพ่งเล็งไปที่งานที่พระเยซูบอกให้ทำ—กจ. 5:42
11. ดาวิดเป็นเหมือนดินเหนียวที่อ่อนนุ่มอย่างไร? และเราจะเลียนแบบเขาได้อย่างไร?
11 ในทุกวันนี้ พระยะโฮวาใช้คัมภีร์ไบเบิล พลังบริสุทธิ์ และประชาคมของพระองค์เพื่อนวดปั้นเรา คัมภีร์ไบเบิลสามารถนวดปั้นเราได้อย่างไร? เราต้องอ่าน คิดใคร่ครวญเรื่องที่เราอ่าน และขอพระยะโฮวาช่วยเราให้นำสิ่งที่ได้อ่านไปใช้ในชีวิต กษัตริย์ดาวิดบอกว่า “ผมนึกถึงพระองค์เมื่อนอนอยู่บนเตียง ผมใคร่ครวญเรื่องพระองค์ตอนกลางคืน” (สด. 63:6) เขายังบอกอีกว่า “ผมจะสรรเสริญพระยะโฮวาผู้ให้คำแนะนำผม แม้แต่ตอนกลางคืน ส่วนลึกที่สุดของความคิดจิตใจของผมก็ว่ากล่าวแก้ไขผม” (สด. 16:7) ดาวิดคิดใคร่ครวญคำสั่งสอนของพระยะโฮวา และให้สิ่งเหล่านั้นนวดปั้นความคิดและความรู้สึกส่วนที่ลึกที่สุดของเขา ทั้ง ๆ ที่บางครั้งอาจเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับคำแนะนำสั่งสอนนั้น (2 ซม. 12:1-13) ดาวิดวางตัวอย่างที่ดีในเรื่องของการเชื่อฟังและความถ่อมตัว ดังนั้น เราอาจถามตัวเองว่า ‘ตอนอ่านคัมภีร์ไบเบิล ฉันคิดใคร่ครวญและให้คำสั่งสอนของพระเจ้าเข้าถึงความคิดและความรู้สึกในส่วนที่ลึกที่สุดของฉันไหม? และฉันจะทำมากขึ้นไปอีกได้ไหม?’—สด. 1:2, 3
12, 13. พระยะโฮวานวดปั้นเราอย่างไรโดยทางพลังบริสุทธิ์และทางประชาคม?
12 พลังบริสุทธิ์สามารถนวดปั้นเราในหลายวิธี เช่น ช่วยเราให้เลียนแบบคุณลักษณะของพระเยซู และช่วยเราให้แสดงคุณลักษณะต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลที่เกิดจากพลังของพระเจ้า (กท. 5:22, 23) คุณลักษณะหนึ่งก็คือความรัก เรารักพระเจ้าและอยากเชื่อฟังพระองค์ เราอยากให้พระองค์นวดปั้นเราเพราะรู้ว่าสิ่งที่พระองค์บอกให้ทำก็เพื่อประโยชน์ของเรา นอกจากนั้น พลังบริสุทธิ์ยังช่วยเราให้มีกำลังที่จะต้านทานไม่ให้โลกชั่วของซาตานนวดปั้นเราได้ (อฟ. 2:2) ตอนที่อัครสาวกเปาโลยังเป็นหนุ่ม เขาได้รับอิทธิพลทางความคิดมาจากพวกผู้นำศาสนาชาวยิวที่เย่อหยิ่ง แต่พลังของพระเจ้าช่วยเขาให้เปลี่ยนเป็นคนใหม่ ต่อมาเขาบอกว่า “ผมมีกำลังทนได้ทุกสิ่งเพราะพระองค์ให้กำลังกับผม” (ฟป. 4:13) พวกเราก็ต้องขอพลังของพระเจ้าด้วยเหมือนกัน เรามั่นใจได้ว่าถ้าเราอธิษฐานด้วยความจริงใจ พระยะโฮวาก็จะตอบเราแน่นอน—สด. 10:17
พระยะโฮวาใช้ผู้ดูแลให้นวดปั้นเรา แต่เราต้องทำตามคำแนะนำของพวกเขา (ดูข้อ 12, 13)
13 พระยะโฮวายังนวดปั้นเราโดยทางประชาคมและพวกผู้ดูแลด้วย ตัวอย่างเช่น ผู้ดูแลอาจสังเกตว่าเรามีจุดอ่อนอะไร และพยายามช่วยเรา แต่พวกเขาก็ไม่ได้ให้คำแนะนำโดยใช้ความคิดของตัวเอง (กท. 6:1) แทนที่จะทำอย่างนั้น พวกเขาอธิษฐานขอพระยะโฮวาช่วยให้มีสติปัญญาและความเข้าใจ จากนั้น พวกเขาก็ค้นคว้าโดยใช้คัมภีร์ไบเบิลและหนังสือต่าง ๆ ขององค์การเพื่อหาข้อมูลที่จะช่วยเรา ถ้ามีผู้ดูแลมาหาคุณและให้คำแนะนำด้วยความรักและกรุณา อาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแต่งตัวของคุณ ก็ขอจำไว้ว่านี่เป็นหลักฐานที่แสดงว่าพระเจ้ารักคุณ ถ้าคุณเอาคำแนะนำไปใช้ คุณก็จะเป็นเหมือนกับดินเหนียวที่อ่อนนุ่มพร้อมให้พระยะโฮวานวดปั้น และนั่นจะเป็นประโยชน์กับตัวคุณ
14. ถึงแม้พระเจ้ามีสิทธิ์ที่จะนวดปั้นเราตามที่พระองค์ต้องการ แต่พระองค์ให้เกียรติเราตัดสินใจเลือกเองอย่างไร?
14 ถ้าเราเข้าใจว่าพระยะโฮวานวดปั้นเราอย่างไร ก็จะช่วยให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่น้องของเรามากขึ้น นอกจากนั้น เราก็จะมองผู้คนที่เราพบในเขตประกาศในแง่บวก ซึ่งรวมถึงนักศึกษาของเราด้วย ช่างปั้นหม้อต้องทำความสะอาดดินเหนียวและเอาก้อนหินหรือสิ่งอื่น ๆ ออกจากดินเหนียวให้หมดก่อนที่จะลงมือปั้น คล้ายกัน พระยะโฮวาช่างปั้นหม้อองค์ยิ่งใหญ่ก็ช่วยผู้คนที่อยากให้พระองค์นวดปั้น พระองค์ไม่ได้บังคับให้พวกเขาเปลี่ยนแปลง แต่ให้พวกเขารู้จักมาตรฐานของพระองค์ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาเป็นคนที่สะอาดในสายตาพระเจ้า และพวกเขาต้องตัดสินใจเองว่าจะเปลี่ยนแปลงตามหรือไม่
15, 16. คนที่เรียนคัมภีร์ไบเบิลจะทำให้เห็นอย่างไรว่าอยากให้พระยะโฮวานวดปั้นพวกเขา? ขอยกตัวอย่าง
15 ขอดูตัวอย่างของเทสซี่พี่น้องหญิงในออสเตรเลีย สำหรับเธอแล้วการเรียนคัมภีร์ไบเบิลเป็นเรื่องง่ายมาก แต่เธอกลับไม่ค่อยก้าวหน้าเท่าไรและไม่ได้ไปประชุม พี่น้องหญิงที่ศึกษากับเธอก็เลยอธิษฐานถึงพระยะโฮวาและตัดสินใจว่าจะเลิกไปศึกษา แต่ก็มีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้น เพราะวันที่พี่น้องหญิงคนนี้คิดว่าจะไปศึกษาเป็นครั้งสุดท้าย เทสซี่ก็บอกเหตุผลที่เธอไม่ก้าวหน้า เธอบอกว่าเธอรู้สึกเหมือนคนหน้าไหว้หลังหลอกเพราะเธอยังชอบเล่นการพนันอยู่ แต่ตอนนี้เทสซี่ตัดสินใจเลิกเล่นอย่างเด็ดขาดแล้ว
16 ไม่นาน เทสซี่เริ่มไปประชุมและแสดงลักษณะนิสัยแบบคริสเตียนถึงแม้ว่าเพื่อนเก่าบางคนจะเยาะเย้ยที่เธอทำอย่างนั้น ต่อมาเทสซี่ก็รับบัพติศมาและรับใช้เป็นไพโอเนียร์ประจำทั้ง ๆ ที่ลูก ๆ ของเธอยังเล็กอยู่ เห็นได้ชัดว่า ถ้าคนที่เรียนคัมภีร์ไบเบิลเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้พระเจ้าพอใจ พระองค์ก็จะใกล้ชิดกับพวกเขาและนวดปั้นเขาให้เป็นภาชนะที่มีค่า
17. (ก) คุณรู้สึกอย่างไรที่ให้พระยะโฮวาช่างปั้นหม้อองค์ยิ่งใหญ่นวดปั้นคุณ? (ข) เราจะพิจารณาอะไรในบทความถัดไป?
17 ในทุกวันนี้ ช่างปั้นบางคนยังคงปั้นดินเหนียวให้เป็นภาชนะที่สวยงามด้วยมือ คล้ายกัน พระยะโฮวาก็นวดปั้นเราอย่างอดทนโดยให้คำแนะนำสั่งสอน และเฝ้าดูเราอย่างใกล้ชิดว่าเราจะตอบรับการสั่งสอนอย่างไร (อ่านสดุดี 32:8) คุณเห็นไหมว่าพระยะโฮวาสนใจคุณ? คุณเห็นไหมว่าพระยะโฮวาค่อย ๆ นวดปั้นคุณอย่างไร? ถ้าอย่างนั้น คุณคิดว่านิสัยแบบไหนที่จะช่วยให้คุณเป็นเหมือนดินเหนียวที่อ่อนนุ่มเพื่อให้พระยะโฮวานวดปั้นได้? นิสัยแบบไหนที่คุณต้องระวังเพื่อจะไม่เป็นเหมือนดินแข็งที่เอาไปปั้นไม่ได้? และพ่อแม่จะร่วมมือกับพระยะโฮวาในการนวดปั้นลูก ๆ ของเขาอย่างไร? เราจะได้รับคำตอบในบทความถัดไป