พระคำของพระเจ้าให้การชี้แนะ
1 “เรากำลังดำรงชีวิตอยู่ในโลกที่มีปัญหามากเหลือเกินและมีทางแก้ไขน้อยนิด. หลายล้านคนมีอาหารไม่พอกิน. คนติดยาเสพย์ติดทวีขึ้นเรื่อย ๆ. มีครอบครัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่กำลังพังทลาย. การร่วมประเวณีระหว่างญาติใกล้ชิดและความรุนแรงในครอบครัวตกเป็นข่าวเป็นประจำ. อากาศที่เราหายใจและน้ำที่เราดื่มกำลังกลายเป็นพิษอย่างช้า ๆ. ขณะเดียวกัน พวกเรามากขึ้นเรื่อย ๆ ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม.”
2 นั่นเป็นข้อความเริ่มต้นของหนังสือคัมภีร์ไบเบิล—คำของพระเจ้าหรือของมนุษย์? คำนำของหนังสือนี้เหมาะกับปัจจุบันยิ่งกว่าตอนที่มีการจัดพิมพ์หนังสือนี้ขึ้นเมื่อเจ็ดปีที่แล้วด้วยซ้ำ. ผู้คนจำเป็นต้องทราบว่าพระคำของพระเจ้าให้การชี้แนะและจัดให้มีทางแก้สำหรับปัญหาทุกประการที่ทำให้พวกเขาเป็นทุกข์เดือดร้อน. ในเดือนธันวาคม เราจะเพียรพยายามช่วยผู้คนด้วยการเสนอหนังสือท่านจะมีชีวิตตลอดไปในอุทยานบนแผ่นดินโลก. แน่นอน การที่เพียงแต่เสนอให้เขารับหนังสือไว้ไม่ใช่หลักประกันว่าเขาจะได้รับการชี้แนะจากพระเจ้า. เราต้องกลับเยี่ยมเยียนด้วยเป้าหมายจะเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์. เราแน่ใจได้ในเรื่องความช่วยเหลือถ้าเราทุ่มเทความพยายามทำเช่นนั้น. (มัด. 28:19, 20) ต่อไปนี้เป็นวิธีเสนอบางวิธีที่แนะให้:
3 ถ้าคุณพบคนสูงอายุ คุณอาจลองพูดอย่างนี้:
▪ “ขอผมถามหน่อยนะครับ ตอนที่คุณลุงยังหนุ่ม ผู้คนในชุมชนเขาปฏิบัติต่อกันอย่างไรครับ? [ให้เขาตอบ.] เดี๋ยวนี้สภาพการณ์เปลี่ยนไปมากเลยใช่ไหมครับ? คุณลุงคิดว่าอะไรเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงนั้นครับ? [ให้เขาตอบ.] ที่จริงพวกเรากำลังเห็นความสำเร็จของคำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลนะครับ. [อ่าน 2 ติโมเธียว 3:1-5.] นอกจากพรรณนาอย่างถูกต้องแม่นยำถึงโลกอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้แล้ว คัมภีร์ไบเบิลยังสัญญาถึงโลกที่ดีกว่าในอนาคตอันใกล้นี้ด้วยนะครับ. เพราะเหตุนี้แหละครับที่ผมกับเพื่อน ๆ กำลังสนับสนุนทุกคนให้อ่านคัมภีร์ไบเบิล. ให้เขาดูหนังสือชีวิตตลอดไป และให้ดูที่หน้า 150-153 ซึ่งอธิบายคำพยากรณ์บางอย่างที่เราเห็นว่าสำเร็จแล้ว. เสนอหนังสือ.
4 เมื่อคุณกลับไปเยี่ยมคนสูงอายุที่คุณจำหน่ายหนังสือไว้ คุณอาจพูดว่า:
▪ “ตอนที่ผมคุยกับคุณลุงคราวก่อน คุณลุงเห็นด้วยกับผมว่าสังคมสมัยนี้เปลี่ยนเป็นแย่ลงในหลายทางทีเดียวเมื่อเทียบกับการดำเนินชีวิตเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว. แต่ผมกลับมาคราวนี้เพื่อจะแสดงให้คุณลุงเห็นว่า คัมภีร์ไบเบิลเสนอความหวังที่จะมีโลกที่ดีกว่าในอนาคต. [อ่านวิวรณ์ 21:3, 4.] การที่รู้ว่านี่เป็นพระคำของพระผู้สร้างน่าจะเร้าใจเราให้ตรวจสอบดูนะครับว่าคัมภีร์ไบเบิลบอกว่าอย่างไร.” เปิดหนังสือชีวิตตลอดไป ที่หน้า 156-158, 161, 162 และอ่านวรรค 11, 12 ในหน้า 163. เสนอการศึกษาพระคัมภีร์ตามบ้านฟรี.
5 ถ้าคุณสนทนากับคนหนุ่มสาว คุณอาจพูดว่า:
▪ “ผมอยากถามคุณสักข้อนะ: ในฐานะคนหนุ่มสาว คุณรู้สึกไหมว่าคุณมีเหตุผลจะมองอนาคตในแง่ดี? คุณมองดูอนาคตอย่างไรครับ? [ให้เขาออกความเห็น.] น่าดีใจนะครับที่มีเหตุผลจริง ๆ ที่จะมองอนาคตในแง่ดี. [อ่านบทเพลงสรรเสริญ 37:10, 11.] เพื่อช่วยคุณให้รู้ว่าทำไมจึงมีเหตุผลจะเชื่อว่า คำสัญญานี้จะเป็นจริง เราได้จัดพิมพ์หนังสือนี้ ท่านจะมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไปในอุทยานบนแผ่นดินโลก. มาดูกันนะครับว่าหนังสือนี้บอกอย่างไร. [อ่านวรรค 18, 19 ในหน้า 15.] เมื่อเรามั่นใจว่าสิ่งที่คัมภีร์ไบเบิลบอกเป็นความจริง เราก็มีความหวังที่แน่นอนในเรื่องอนาคต. ถ้าคุณอยากจะอ่านหนังสือนี้ คุณจะรับไว้เป็นส่วนตัวได้.” เสนอหนังสือ.
6 เมื่อคุณกลับไปหาคนหนุ่มสาวที่รับหนังสือ “ชีวิตตลอดไป” คุณอาจเริ่มพูดอย่างนี้:
▪ “ผมเข้าใจที่ได้ยินว่าคุณเป็นห่วงเรื่องอนาคตแค่ไหน. คงจำได้นะครับที่ผมให้คุณดูข้อหนึ่งในคัมภีร์ไบเบิลที่สัญญากับเราในเรื่องอนาคตที่มีความสุขและมั่นคงปลอดภัย. นี่เป็นอีกข้อหนึ่งครับ. [อ่านวิวรณ์ 21:3, 4.] หนังสือที่คุณรับไว้ให้ข้อพิสูจน์ที่มั่นใจได้ว่าโลกใหม่นั้นใกล้เข้ามาแล้ว. แต่ข้อเท็จจริงนั้นมีความหมายลึกซึ้งบางอย่าง. ขอสังเกตนะครับว่านั่นคืออะไร. [อ่านวรรค 1-2 ในหน้า 250.] ถ้าคุณต้องการ ผมยินดีจะมาศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับคุณโดยไม่คิดค่าป่วยการ.”
7 คนที่ไม่รู้ว่าจะหันไปหาคำชี้แนะที่ไหนเพื่อรับมือกับปัญหาชีวิตอาจตอบรับการเข้าไปพูดคุยด้วยอย่างนี้:
▪ “เราอยู่ในสมัยที่เกือบทุกคนต้องเผชิญปัญหาร้ายแรงหลายอย่าง. หลายคนหันไปหาพวกที่ปรึกษาทุกแบบเพื่อขอการชี้แนะ. บางคนขอความช่วยเหลือจากคนทรง. คุณล่ะครับคิดว่าจะหาคำแนะนำดี ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่เราจริง ๆ ได้ที่ไหน? [ให้เขาตอบ.] คัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึงข้อเท็จจริงสำคัญอย่างหนึ่งที่เราทุกคนจำเป็นต้องเข้าใจ.” [อ่านยิระมะยา 10:23. เปิดหนังสือชีวิตตลอดไป ที่หน้า 238 และอ่านวรรค 2, 3.] “หนังสือนี้จะช่วยคุณให้เข้าใจว่า ปัญหาทุกอย่างจะถูกกำจัดไปอย่างไรภายใต้ราชอาณาจักรของพระผู้สร้าง. ผมยินดีเชิญคุณรับหนังสือนี้ไว้อ่านเป็นส่วนตัว.”
8 ถ้าในการพบครั้งแรกนั้นคุณพูดเรื่องความจำเป็นที่มนุษย์ต้องได้รับการชี้แนะ คุณอาจพิจารณาเรื่องนั้นต่อในการกลับเยี่ยมเยียนโดยพูดว่า:
▪ “คราวก่อนที่ผมมาหาคุณ เราเห็นพ้องกันว่า เราจำเป็นต้องได้รับการชี้แนะจากพระผู้สร้างถ้าเราอยากจะรับมือกับปัญหาในชีวิตอย่างเป็นผลสำเร็จ. เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมคิดว่าคุณคงจะเข้าใจความเห็นตอนท้ายหนังสือที่คุณรับไว้. [อ่านวรรค 1, 2 หน้า 250 ในหนังสือชีวิตตลอดไป.] ผมยินดีศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับคุณที่บ้านฟรี และผมยินดีจะสาธิตวิธีศึกษาให้คุณดูตอนนี้.”
9 พระยะโฮวาจะอวยพระพรความพยายามของเราขณะที่เราช่วยทั้งคนหนุ่มคนแก่ให้เข้าใจคุณค่าแห่งพระคำของพระเจ้าและคำชี้แนะสำหรับการดำเนินชีวิตที่มีอยู่ในพระคำนั้น.—เพลง. 119:105.