การเริ่มการศึกษาด้วยจุลสารเรียกร้อง
1 รายงานจากทั่วโลกเผยให้เห็นว่าจุลสารพระผู้สร้างทรงเรียกร้องอะไรจากเรา? เป็นเครื่องมืออันทรงพลังมากเพื่อสอนผู้คนให้รู้ความจริง. มีการเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์นับหมื่นนับแสนรายทุกสัปดาห์ด้วยจุลสารนี้. คุณประสบผลสำเร็จไหมในการเริ่มและนำการศึกษาด้วยจุลสารเรียกร้อง ?
2 ขณะที่หลายคนพบว่าง่ายที่จะจำหน่ายจุลสารนี้ แต่บางคนเห็นว่ายากจะรู้ว่าจะพูดอย่างไรเพื่อเข้าสู่การศึกษา. มีวิธีการใดบ้างที่คนอื่น ๆ พบว่าบังเกิดผลในการเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์โดยใช้จุลสารเรียกร้อง? ข้อแนะต่อไปนี้น่าจะช่วยได้.
3 เสนอจะสาธิตการศึกษา: เมื่อไปพบครั้งแรกหรือกลับเยี่ยมเยียน แทนที่จะเพียงแต่เสนอการศึกษาพระคัมภีร์กับเจ้าของบ้าน เราสามารถสาธิตวิธีที่จะมีการนำการศึกษาพระคัมภีร์ได้. การทำเช่นนี้คงจะช่วยขจัดความไม่เข้าใจและความกังวลซึ่งเจ้าของบ้านหลายคนคิดเกี่ยวโยงกับคำว่า “ศึกษา.” เมื่อเราลองสาธิตการศึกษา เราจะพบว่า ด้วยคำนำง่าย ๆ เราก็เข้าสู่การศึกษาได้เลย.
4 การเตรียมตัวคือหลักสำคัญ: ความกระตือรือร้นของเราต่อการเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์เกี่ยวพันโดยตรงกับการเตรียมตัวของเราว่าดีแค่ไหน. การเตรียมตัวล่วงหน้าจะช่วยเราเอาชนะความลังเลใด ๆ ที่เราอาจมีเมื่อร่วมในงานศึกษาพระคัมภีร์. โดยฝึกซ้อมการเสนอของเราหลาย ๆ ครั้ง เราจะสนทนาเก่งขึ้น, สามารถพูดแสดงความรู้สึกอย่างเป็นธรรมชาติและด้วยคำพูดของเราเอง. สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยให้เราผ่อนคลายเท่านั้น แต่ยังจะทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกสบายใจด้วย.
5 เมื่อฝึกซ้อม นับว่าเป็นประโยชน์ที่จะจับเวลาการเสนอของคุณด้วยเพื่อคุณจะบอกเจ้าของบ้านได้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนเพื่อสาธิตการศึกษา. หลังจากแนะนำตัว พี่น้องชายคนหนึ่งพูดว่า “ผมมาเยี่ยมเพื่อบอกให้คุณทราบถึงโครงการศึกษาพระคัมภีร์ฟรีของเรา. ผมจะใช้เวลาสาธิตราว ๆ ห้านาที. คุณมีเวลาสักห้านาทีไหมครับ?” อาจใช้บทเรียน 1 ในจุลสารเรียกร้อง สาธิตได้ในประมาณห้านาที. แน่ละ อาจอ่านเฉพาะข้อพระคัมภีร์ที่เลือกไว้ได้ในเวลาดังกล่าว แต่โดยการศึกษาบทเรียนแรกจบในไม่กี่นาที เจ้าของบ้านก็สามารถมีการศึกษาครั้งแรก. แล้วบอกให้เขาทราบว่าเมื่อคุณกลับมาเยี่ยมอีกเพื่อศึกษาบทเรียน 2 คุณจะใช้เวลาแค่ 15 นาที.
6 การเสนอดังต่อไปนี้ปรากฏว่าได้ผล:
▪ “ผมอยากจะสาธิตให้คุณดูวิธีการศึกษาพระคัมภีร์ตามบ้านแบบที่ง่ายมากแต่ก็เร็วด้วยโดยใช้จุลสารเล่มนี้ซึ่งมีชื่อว่า พระผู้สร้างทรงเรียกร้องอะไรจากเรา? หลายคนได้พบว่า โดยใช้เวลาแค่สัปดาห์ละ 15 นาที เป็นเวลา 16 สัปดาห์ พวกเขาได้พบคำตอบที่น่าพอใจซึ่งเป็นไปตามหลักพระคัมภีร์สำหรับคำถามสำคัญ ๆ เหล่านี้เกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิล.” ให้ดูสารบัญอย่างสั้น ๆ. เปิดไปที่บทเรียน 1 พูดว่า “ถ้าคุณให้เวลาได้สักห้านาที ผมอยากจะแสดงให้คุณเห็นวิธีดำเนินการ. บทเรียน 1 มีชื่อเรื่องว่า ‘วิธีที่คุณจะรู้ว่าพระผู้สร้างทรงเรียกร้องอะไร.’” จากนั้นก็อ่านคำถามทั้งสามข้อและอธิบายตัวเลขในวงเล็บ. อ่านวรรค 1 และแสดงให้เจ้าของบ้านเห็นวิธีหาคำตอบ. อาจขอให้เจ้าของบ้านอ่านวรรค 2. แล้วพูดว่า “โดยอาศัยข้อมูลเหล่านี้ คุณจะตอบคำถามนี้อย่างไร? [อ่านคำถามอีกและให้เจ้าของบ้านออกความเห็น.] คุณจะสังเกตเห็นว่ามีข้อพระคัมภีร์อยู่ด้วยในแต่ละวรรค. ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ชี้ให้เราสนใจคำตอบในคัมภีร์ไบเบิลสำหรับคำถามเหล่านี้. ตัวอย่างเช่น ให้เราอ่านที่ 2 ติโมเธียว 3:16, 17 แล้วมาดูว่าข้อนี้สนับสนุนคำตอบที่คุณให้เกี่ยวกับผู้ประพันธ์คัมภีร์ไบเบิลหรือไม่.” หลังจากอ่านวรรค 3 พิจารณาคำถาม แล้วอ่านโยฮัน 17:3 ชี้ให้เจ้าของบ้านสนใจความรู้ที่เขาได้รับโดยทบทวนบทเรียน 1. ถึงตรงนี้คุณอาจเปิดไปที่บทเรียน 2 และอ่านคำถามข้อสุดท้ายที่ว่า “สองวิธีที่เราจะเรียนรู้เรื่องพระผู้สร้างได้คืออะไรบ้าง?” แล้วถามว่า “คุณจะมีเวลาสัก 15 นาทีได้เมื่อไรครับเพื่อเราจะพิจารณาในบทเรียน 2 แล้วหาคำตอบกัน?”
7 นับว่า สำคัญที่จะทำให้การพิจารณาเป็นแบบเรียบง่ายเสมอและชมเชยเจ้าของบ้านเมื่อไรก็ตามที่เป็นไปได้. เมื่อนัดหมายการเยี่ยมคราวต่อไป แทนที่จะถามว่าเขาอยากจะศึกษาต่อไหม คุณก็เพียงแต่สนับสนุนเขาให้ทำตามวิธีการเดียวกันในบทเรียนต่อไป. บอกให้เขาทราบว่าคุณตั้งใจคอยการกลับมาเยี่ยมอีก. ผู้ประกาศบางคนเสนอการศึกษาทางโทรศัพท์ถ้าการนัดเวลาเป็นเรื่องยาก. คุณอาจสนับสนุนนักศึกษาให้วางจุลสารไว้ในที่ปลอดภัยและหยิบได้สะดวกเพื่อจะหยิบได้ง่ายเมื่อคุณมาเยี่ยมคราวต่อไป.
8 จงตั้งใจแน่วแน่: ขณะที่หลักสำคัญเพื่อประสบผลสำเร็จคือการเตรียมตัว แต่เราก็ต้องตั้งใจแน่วแน่จะทำตามโดยตลอด. การสอนบทเรียนหนึ่ง ๆ ในไม่กี่นาทีอาจเป็นเรื่องท้าทาย ดังนั้น จงตั้งใจฝึกหัดการเสนอหลาย ๆ ครั้งตามที่จำเป็นเพื่อจะทำให้คล่องเมื่อสาธิตการศึกษา. พยายามสาธิตการศึกษากับทุกคนที่คุณพบตามบ้าน, เมื่อสบโอกาส, และในการให้คำพยานทางโทรศัพท์. ถ้าคุณเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์ได้ยาก อย่าท้อใจ. การจะประสบผลสำเร็จในการเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์จะต้องมีความตั้งใจแน่วแน่และความปรารถนาอย่างจริงใจที่จะถ่ายทอดความจริงแก่คนอื่น.—ฆลา. 6:9.
9 โดยการทำตามข้อแนะเหล่านี้ คุณก็เช่นกันที่อาจมีสิทธิพิเศษในการช่วยบางคนให้มาอยู่บนเส้นทางสู่ชีวิตโดยการเริ่มและนำการศึกษาพระคัมภีร์ด้วยจุลสารเรียกร้อง.—มัด. 7:14.