ช่วงการประชุมอนุสรณ์—ช่วงเวลาสำหรับกิจกรรมที่เพิ่มขึ้น
1. “เทศกาลเลี้ยงตามกำหนด” มีผลอย่างไรต่อชาวอิสราเอลที่เกรงกลัวพระเจ้า?
1 เมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้ของปี ชาวอิสราเอลโบราณฉลอง “เทศกาลเลี้ยงตามกำหนดแด่พระเจ้า.” (เลวี. 23:2, ฉบับแปลใหม่) การใช้เวลาคิดรำพึงถึงคุณความดีของพระเจ้าทำให้พวกเขาเกิดความชื่นชมยินดีอย่างยิ่งและกระตุ้นให้เกิดความกระตือรือร้นเพื่อการนมัสการแท้.—2 โคร. 30:21–31:2.
2, 3. เหตุใดจึงเหมาะที่เราจะทำกิจกรรมทางฝ่ายวิญญาณเพิ่มขึ้นในช่วงการประชุมอนุสรณ์ และเราจะประชุมอนุสรณ์เมื่อไร?
2 ในสมัยปัจจุบัน กิจกรรมตามระบอบของพระเจ้าทำให้เรามีความยินดีเพิ่มมากขึ้นทุกปีระหว่างช่วงการประชุมอนุสรณ์. นั่นเป็นช่วงเวลาที่เราไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งถึงของประทานอันล้ำค่าที่พระยะโฮวาประทานพระบุตรผู้ได้รับกำเนิดองค์เดียวของพระองค์เพื่อพวกเรา. (โย. 3:16; 1 เป. 1:18, 19) เมื่อคิดรำพึงถึงความรักที่พระเจ้าและพระบุตรแสดงต่อเรา เรารู้สึกถูกกระตุ้นให้สรรเสริญพระยะโฮวาและพยายามทุ่มเทตัวเองเพื่อทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า.—2 โก. 5:14, 15.
3 การฉลองอาหารมื้อเย็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าในปีนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม หลังดวงอาทิตย์ตก. เราอาจทำงานรับใช้เพิ่มขึ้นได้อย่างไรในช่วงเดือนมีนาคม, เมษายน, และพฤษภาคม?
4, 5. (ก) อะไรช่วยบางคนให้ประกาศข่าวดีกับผู้คนได้มากขึ้น? (ข) คุณคิดว่าวิธีใดใช้ได้ผลในเขตงานของคุณ?
4 เข้าถึงผู้คนมากขึ้น: จงหาวิธีให้คำพยานกับผู้คนให้มากเท่าที่เป็นไปได้เมื่อคุณออกประกาศ. คุณวางแผนจะประกาศตามบ้านในช่วงที่คนส่วนใหญ่อยู่บ้านไหม เช่น ตอนเย็น, หรือตอนหัวค่ำ? ถ้าบางคนในกลุ่มการศึกษาของคุณอยากออกประกาศก่อนที่จะศึกษากลุ่ม ผู้ดูแลการศึกษาหนังสือประจำประชาคมอาจจัดการประชุมเพื่อการประกาศสั้น ๆ เพื่อจะทำงานในเขตใกล้ ๆ กับกลุ่มการศึกษา.
5 อีกวิธีหนึ่งที่จะเข้าถึงผู้คนมากมาย คือการให้คำพยานในที่สาธารณะ. พี่น้องหญิงญี่ปุ่นคนหนึ่งต้องการเป็นไพโอเนียร์สมทบแม้เธอทำงานอาชีพเต็มเวลา. ผู้ปกครองแนะนำว่า ทุกวันก่อนไปทำงาน เธออาจให้คำพยานที่ถนนใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟ. หลังจากเอาชนะนิสัยขี้อายและการเยาะเย้ยจากคนที่เดินทางไปทำงาน เธอเริ่มสายเวียนส่งวารสารได้ประมาณ 40 คน รวมทั้งคนที่เดินทางไปทำงาน, คนงานของสถานีรถไฟ, และเจ้าของร้านค้าที่อยู่ในละแวกนั้น. เฉลี่ยแล้ว เธอเสนอวารสารได้เดือนละ 235 เล่ม. โดยหยิบยกจุดต่าง ๆ จากพระคัมภีร์ขึ้นมาคุยกับประชาชนทุกวันเพียงสองสามนาที เธอสามารถเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์ได้หกราย.
6. เยาวชนอาจทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณเพิ่มขึ้นได้อย่างไร?
6 โอกาสที่จะให้คำพยาน: ผู้ประกาศที่อยู่ในวัยเรียนหลายคนมีช่วงปิดภาคเรียน. นี่อาจทำให้พวกเขามีโอกาสเป็นไพโอเนียร์สมทบได้. นอกจากนี้ เยาวชนคริสเตียนอาจทำงานรับใช้เพิ่มขึ้นโดยให้คำพยานที่โรงเรียน. คุณอาจแปลกใจที่เห็นเพื่อนนักเรียนอยากรู้เรื่องความเชื่อของคุณมากเพียงไร. เหตุใดไม่ฉวยโอกาสให้คำพยานตอนที่มีการอภิปรายในชั้นเรียนหรือเขียนเรียงความล่ะ? บางคนเคยมีโอกาสให้คำพยานโดยใช้วีดิทัศน์ของเรา. บางคนเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์กับเพื่อนนักเรียนและช่วยพวกเขาให้ก้าวหน้าจนถึงขั้นอุทิศตัวและรับบัพติสมา. นี่เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการ “สรรเสริญพระนามของพระยะโฮวา.”—เพลง. 148:12, 13.
7. (ก) พี่น้องชายคนหนึ่งฉวยโอกาสให้คำพยานแก่คนอื่นอย่างไร? (ข) คุณมีประสบการณ์คล้ายกันนี้ไหม?
7 เมื่อคุณทำกิจวัตรประจำวัน จงหาโอกาสที่จะพูดคุยกับผู้คนถึงเรื่องพระเจ้าองค์ยอดเยี่ยมของเราและคำสัญญาอันดีวิเศษของพระองค์. พี่น้องชายคนหนึ่งซึ่งเดินทางโดยรถไฟขบวนเดิมทุกวันได้ให้คำพยานกับเพื่อนร่วมทางเมื่อมีโอกาสเหมาะ. ตัวอย่างเช่น ขณะกำลังคอยรถไฟขบวนถัดไปในสถานีหนึ่ง เขาให้คำพยานกับชายหนุ่มคนหนึ่งทุกวันประมาณห้านาที. ผลคือ ชายหนุ่มคนนั้นและเพื่อนของเขาตกลงศึกษาคัมภีร์ไบเบิล. มีการนำการศึกษาบนรถไฟที่พวกเขาโดยสารมา. ในเวลาต่อมา สตรีสูงอายุที่ได้ยินการสนทนาของพวกเขาก็เข้ามาหาพี่น้องและขอศึกษาพระคัมภีร์. เธอก็เช่นกันรู้สึกยินดีกับการศึกษาพระคัมภีร์ในวันที่เธอใช้บริการรถไฟ. โดยวิธีนี้ พี่น้องชายคนนี้จึงมีนักศึกษาสิบคนที่ศึกษาบนรถไฟ.
8. พี่น้องที่มีขีดจำกัดเนื่องจากอายุมากหรือมีปัญหาสุขภาพอาจทำงานรับใช้เพิ่มขึ้นได้โดยวิธีใด?
8 ถ้าคุณมีขีดจำกัดเนื่องจากอายุมากหรือมีปัญหาสุขภาพล่ะ? ยังมีวิธีที่คุณอาจทำได้เพื่อถวายคำสรรเสริญพระยะโฮวาเพิ่มขึ้น. คุณเคยลองให้คำพยานทางโทรศัพท์ไหม? ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร ขอให้พูดกับผู้ดูแลการศึกษาหนังสือประจำประชาคม. เขาอาจขอผู้ประกาศที่เคยใช้วิธีนี้ให้ทำงานร่วมกับคุณ. การทำงานด้วยกันเป็นคู่เช่นนี้จะทำให้คุณได้เรียนรู้และช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อให้คำพยานอย่างบังเกิดผล. คำแนะนำที่ใช้ได้ผลสำหรับการให้คำพยานทางโทรศัพท์อยู่ในพระราชกิจของเรา เดือนกุมภาพันธ์ 2001 หน้า 5-6.
9. เราจะช่วยนักศึกษาพระคัมภีร์ให้มีคุณสมบัติที่จะประกาศร่วมกับประชาคมได้อย่างไร?
9 การเข้าร่วมการประชุมอนุสรณ์อาจกระตุ้นให้คนใหม่ปรารถนาที่จะสรรเสริญพระยะโฮวามากขึ้น. คุณอาจช่วยเขาให้มีความกล้าที่จะออกประกาศตามบ้าน โดยเล่าประสบการณ์ที่หนุนใจซึ่งได้จากการประกาศ และค่อย ๆ ฝึกเขาทีละขั้นให้อธิบายคำสอนในคัมภีร์ไบเบิลและปกป้องความเชื่อของตน. (1 เป. 3:15) หากนักศึกษาบอกว่าอยากเริ่มประกาศข่าวดี ให้บอกเรื่องนี้กับผู้ดูแลผู้เป็นประธาน. เขาจะนัดหมายที่จะพบกับนักศึกษาเพื่อดูว่านักศึกษามีคุณสมบัติหรือไม่ที่จะไปประกาศร่วมกับพี่น้องในประชาคม. พระยะโฮวาคงรู้สึกยินดีสักเพียงไรที่เห็นคนใหม่ยืนอยู่ฝ่ายพระองค์เพื่อสนับสนุนพระบรมเดชานุภาพของพระองค์!—สุภา. 27:11.
10. (ก) ตารางเวลาที่ดีจะช่วยเราให้เป็นไพโอเนียร์สมทบได้อย่างไร? (ข) ในช่วงการประชุมอนุสรณ์ปีที่แล้ว คุณมีโอกาสได้เป็นไพโอเนียร์สมทบไหม? คุณทำอย่างไร?
10 คุณจะเป็นไพโอเนียร์สมทบได้ไหม? ควรถือว่าข้อเรียกร้องเรื่องเวลา 50 ชั่วโมงสำหรับไพโอเนียร์สมทบเป็นเรื่องจริงจัง. (มัด. 5:37) นั่นหมายความว่าคุณจำเป็นต้องจัดเวลาโดยเฉลี่ย 12 ชั่วโมงเพื่อประกาศในแต่ละสัปดาห์. ในตัวอย่างตารางเวลาในหน้า 5 มีสักตัวอย่างไหมที่เหมาะกับสภาพการณ์ของคุณ? หากไม่มี คุณจะจัดตารางเวลาที่ทำให้คุณเป็นไพโอเนียร์สมทบในช่วงเดือนมีนาคม, เมษายน, หรือพฤษภาคมได้ไหม? จงทูลขอพระยะโฮวาให้อวยพรความพยายามของคุณที่จะทำงานรับใช้ให้มากขึ้น.—สุภา. 16:3.
11. ผู้ปกครองและผู้ช่วยงานรับใช้จะสนับสนุนคนที่จะเป็นไพโอเนียร์สมทบได้อย่างไร?
11 ผู้ปกครองและผู้ช่วยงานรับใช้จะสนับสนุนความพยายามของคุณอย่างเต็มที่เพื่อทำให้ช่วงการประชุมอนุสรณ์นี้เป็นโอกาสหนึ่งที่จะสรรเสริญพระยะโฮวาเป็นพิเศษ. อาจเป็นได้ว่า ผู้ปกครองและผู้ช่วยงานรับใช้หลายคนจะเป็นไพโอเนียร์สมทบ. ผู้ปกครองจะจัดการประชุมเพื่อการประกาศขึ้นเป็นพิเศษ อย่างเช่น ในตอนบ่าย, ตอนเย็นของวันธรรมดา, และช่วงสุดสัปดาห์ ตามความจำเป็น. เพื่อจะกำหนดได้ว่าจะจัดการประชุมที่ไหนและเมื่อไร และใครจะเป็นผู้นำเขต ผู้ปกครองอาจคุยกับคนที่วางแผนแน่นอนแล้วว่าจะเป็นไพโอเนียร์หรือคนที่กำลังคิดจะเป็นไพโอเนียร์สมทบ. ผู้ปกครองจะพยายามจัดให้มีผู้ประกาศทำงานกับคุณตามวันเวลาที่คุณได้จัดไว้เพื่อออกประกาศ. โดยวิธีนี้ แผนการของคุณก็จะไม่ล้มเหลวและประสบผลสำเร็จอย่างมาก.—สุภา. 20:18.
12. อะไรกระตุ้นเราให้สรรเสริญพระยะโฮวาทุกเวลา?
12 จงทำสุดความสามารถ: ถ้าสภาพการณ์ของคุณไม่เอื้ออำนวยให้เป็นไพโอเนียร์สมทบ จงจำไว้ว่าพระยะโฮวายอมรับความพยายามและความเสียสละของเรา ‘ตามซึ่งเรามีอยู่, มิใช่ตามซึ่งเราไม่มี.’ (2 โก. 8:12) เรามีมากมายหลายสิ่งที่จะขอบคุณพระยะโฮวา. ด้วยเหตุผลที่ดี ดาวิดเขียนว่า “ข้าพเจ้าจะถวายความสรรเสริญแก่พระยะโฮวาทุกเวลา; คำเพลงสรรเสริญพระองค์จะติดปากข้าพเจ้าอยู่เสมอ.” (เพลง. 34:1) ขอให้เราตั้งใจทำสิ่งเหล่านี้ในช่วงการประชุมอนุสรณ์.
[กรอบภาพหน้า 3]
คุณจะทำงานรับใช้เพิ่มขึ้นโดยวิธีใด?
◼ โดยประกาศในช่วงที่ผู้คนอยู่บ้าน
◼ โดยให้คำพยานในที่สาธารณะ
◼ โดยให้คำพยานในที่ทำงานหรือที่โรงเรียน
◼ โดยให้คำพยานทางโทรศัพท์
◼ โดยเป็นไพโอเนียร์สมทบ