บทความศึกษา 38
เพลง 120 เลียนแบบความอ่อนโยนของพระคริสต์
แสดงความนับถือต่อคนอื่น
“ได้รับความนับถือก็ดีกว่าได้เงินและทอง”—สภษ. 22:1
จุดสำคัญ
เรียนว่าทำไมเราต้องแสดงความนับถือต่อคนอื่น และเราจะทำแบบนั้นได้ยังไงแม้จะรู้สึกว่ายาก
1. ทำไมคนเราถึงชอบได้รับความนับถือ? (สุภาษิต 22:1)
คุณชอบไหมเวลาคนอื่นแสดงความนับถือกับคุณ? คุณคงชอบแน่ ๆ มนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครต่างก็อยากได้รับความนับถือกันทั้งนั้น และเมื่อเราได้รับความนับถือจากคนอื่น เราก็มีความสุข ไม่แปลกเลยที่คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าการ “ได้รับความนับถือก็ดีกว่าได้เงินและทอง”—อ่านสุภาษิต 22:1
2-3. ทำไมบางครั้งถึงไม่ง่ายที่เราจะแสดงความนับถือต่อคนอื่น? และเราจะเรียนอะไรในบทความนี้?
2 บางครั้งเราอาจรู้สึกไม่ง่ายที่จะแสดงความนับถือต่อคนอื่น เหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะเรามักจะเห็นข้อบกพร่องของคนอื่น นอกจากนั้น เรากำลังมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่แสดงความนับถือต่อกัน แต่เราต้องแตกต่างจากพวกเขา เพราะอะไร? เพราะพระยะโฮวาอยากให้เราให้เกียรติหรือแสดงความนับถือต่อ “คนทุกชนิด”—1 ปต. 2:17
3 ในบทความนี้เราจะได้เรียนว่าการแสดงความนับถือต่อคนอื่นหมายถึงอะไร และเราจะแสดงความนับถือยังไงต่อ (1) คนในครอบครัว (2) พี่น้อง และ (3) คนทั่วไป เราจะดูเป็นพิเศษว่าเราจะแสดงความนับถือได้ยังไงแม้จะรู้สึกว่ายาก
การแสดงความนับถือต่อคนอื่นหมายถึงอะไร?
4. การแสดงความนับถือต่อคนอื่นหมายถึงอะไร?
4 คุณคิดว่าความนับถือและการให้เกียรติเกี่ยวข้องกันยังไง? คำว่า “นับถือ” หมายถึงวิธีที่เรามองคนอื่น เมื่อเรานับถือใครสักคน เราก็จะมองว่าเขาคู่ควรที่จะได้รับความสนใจและความเคารพจากเราเพราะคุณลักษณะที่เขามี สิ่งที่เขาทำได้สำเร็จ หรือตำแหน่งของเขา ส่วนการ “ให้เกียรติ” หมายถึงวิธีที่เราปฏิบัติกับคนอื่น เมื่อเราให้เกียรติใครสักคน เราก็จะปฏิบัติกับเขาในแบบที่ทำให้เขารู้สึกว่ามีค่าและคำนึงถึงศักดิ์ศรีของเขา และเราต้องไม่ลืมว่าถ้าเราจะให้เกียรติใคร เราควรทำอย่างนั้นจากหัวใจ—มธ. 15:8
5. อะไรจะช่วยให้เราแสดงความนับถือต่อคนอื่น?
5 พระยะโฮวาอยากให้เราแสดงความนับถือต่อคนอื่น ที่จริง พระองค์บอกชัดเจนว่าเราต้องแสดงความนับถือต่อ “คนที่มีอำนาจปกครอง” (รม. 13:1, 7) แต่บางคนบอกว่า “ฉันจะแสดงความนับถือก็ต่อเมื่อเขาทำตัวให้น่านับถือ” แต่การคิดแบบนี้ถูกไหม? ไม่ ในฐานะที่เราเป็นผู้รับใช้ของพระยะโฮวา เหตุผลที่เรานับถือมนุษย์คนใดคนหนึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เขาทำ แต่มันขึ้นอยู่กับเหตุผลที่สำคัญกว่านั้น นั่นก็คือเพราะเรารักพระยะโฮวาและอยากทำให้พระองค์พอใจ—ยชว. 4:14; 1 ปต. 3:15
6. เป็นไปได้ไหมที่จะแสดงความนับถือกับคนที่ไม่นับถือเรา? ขออธิบาย (ดูภาพหน้าปกด้วย)
6 บางคนอาจสงสัยว่า ‘จะแสดงความนับถือกับคนที่ไม่นับถือเราได้จริง ๆ เหรอ?’ ได้ ลองดูบางตัวอย่างต่อไปนี้ กษัตริย์ซาอูลฉีกหน้าโยนาธานลูกชายของตัวเองและทำให้เขาอับอายต่อหน้าคนอื่น (1 ซม. 20:30-34) แต่โยนาธานก็ยังแสดงความนับถือต่อซาอูลซึ่งเป็นกษัตริย์ในตอนนั้น และช่วยพ่อสู้รบจนวันที่พ่อตาย (อพย. 20:12; 2 ซม. 1:23) ส่วนมหาปุโรหิตเอลีก็กล่าวหาว่าฮันนาห์เมาเหล้า (1 ซม. 1:12-14) ถึงอย่างนั้น ฮันนาห์ก็ยังพูดกับเอลีด้วยความนับถือทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้ทำหน้าที่พ่อและมหาปุโรหิตอย่างที่ควรจะทำและเรื่องนี้รู้กันทั่วอิสราเอล (1 ซม. 1:15-18; 2:22-24) และถึงแม้ชาวเอเธนส์จะดูถูกอัครสาวกเปาโลและเรียกเขาว่า “คนที่จำขี้ปากคนอื่นมาพูด” แต่เปาโลก็ยังพูดกับพวกเขาด้วยความนับถือ (กจ. 17:18, 22) ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าถ้าเรารักและอยากทำให้พระยะโฮวาพอใจ เราก็จะแสดงความนับถือต่อคนอื่นไม่ใช่แค่ตอนที่ทำได้ง่ายเท่านั้น แต่ตอนที่ยากด้วย ตอนนี้ให้เรามาดูว่าใครบ้างที่สมควรได้รับความนับถือจากเราและเพราะอะไร
ถึงแม้ซาอูลจะทำให้โยนาธานลูกชายของเขาอับอายต่อหน้าคนอื่น แต่โยนาธานก็ยังปกป้องและสนับสนุนพ่อของเขาที่เป็นกษัตริย์ (ดูข้อ 6)
แสดงความนับถือต่อคนในครอบครัว
7. อะไรอาจทำให้ยากที่คนในครอบครัวจะแสดงความนับถือต่อกัน?
7 อะไรที่ทำให้ยาก? เนื่องจากเราใช้เวลาเยอะกับคนในครอบครัว เราก็เลยรู้ทั้งข้อดีและข้อเสียของพวกเขา บางครอบครัวอาจมีคนที่ไม่สบายหรือเจ็บป่วยด้านจิตใจ เลยทำให้ไม่ง่ายที่จะดูแลพวกเขา บางคนอาจถึงกับพูดหรือทำไม่ดีกับเราซึ่งทำให้เราเสียใจมาก ส่วนบางคนในครอบครัวก็ไม่แสดงความนับถือต่อกัน เลยทำให้บ้านกลายเป็นที่ที่ไม่มีความสงบสุข สิ่งเหล่านี้ทำให้ครอบครัวมีแต่ปัญหา ลองนึกถึงตัวอย่างของคนที่ป่วยเป็นโรคข้อต่ออักเสบ ข้อต่อต่าง ๆ ในร่างกายของเขามักจะติดขัดจนทำให้เขาทำงานหรือหยิบจับอะไรไม่สะดวก การไม่แสดงความนับถือต่อกันก็ทำให้ครอบครัวไม่สามารถร่วมมือกันได้อย่างดี ถึงโรคข้อต่ออักเสบจะยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ แต่ปัญหาเรื่องการไม่แสดงความนับถือในครอบครัวเป็นสิ่งที่สามารถแก้ไขได้ ทุกคนในครอบครัวสามารถกลับมาแสดงความนับถือและเป็นหนึ่งเดียวกันได้
8. ทำไมถึงสำคัญที่เราต้องแสดงความนับถือต่อคนในครอบครัว? (1 ทิโมธี 5:4, 8)
8 ทำไมต้องแสดงความนับถือ? (อ่าน 1 ทิโมธี 5:4, 8) ในจดหมายฉบับแรกที่เปาโลเขียนถึงทิโมธี เขาให้คำแนะนำว่าควรดูแลเอาใจใส่คนในครอบครัวยังไงและอธิบายว่าเหตุผลหลักที่ต้องให้เกียรติคนในครอบครัวไม่ใช่เพราะเป็นหน้าที่ แต่เป็นการแสดง “ความเลื่อมใสพระเจ้า” นี่หมายความว่าเราให้เกียรติคนในครอบครัวเพราะเรารักพระยะโฮวาและมองว่านี่เป็นส่วนหนึ่งในการนมัสการพระองค์ พระยะโฮวาเป็นผู้ก่อตั้งครอบครัว (อฟ. 3:14, 15) ดังนั้น เมื่อเราให้เกียรติคนในครอบครัว เราก็กำลังให้เกียรติหัวหน้าครอบครัวองค์ยิ่งใหญ่ซึ่งก็คือพระยะโฮวา (1 ทธ. 5:4) นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่เราควรแสดงความนับถือกับคนในครอบครัว
9. สามีภรรยาจะแสดงความนับถือต่อกันได้ยังไง? (ดูภาพด้วย)
9 จะแสดงความนับถือยังไง? สามีจะให้เกียรติภรรยาโดยแสดงให้เห็นว่าเธอมีค่าทั้งตอนที่อยู่ต่อหน้าคนอื่นและตอนที่อยู่ด้วยกันแค่สองคน (สภษ. 31:28; 1 ปต. 3:7) เขาจะไม่ใช้กำลังกับเธอ ทำให้เธออับอาย หรือรู้สึกไม่มีค่า อารีเอลa พี่น้องชายที่อยู่ในอาร์เจนตินาบอกว่า “ภรรยาผมไม่สบาย บางครั้งเธอเลยพูดบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกเจ็บ ทุกครั้งที่เป็นแบบนี้ผมจะเตือนตัวเองว่าเธอไม่ได้หมายความอย่างที่พูดจริง ๆ ในช่วงเวลาเครียด ๆ แบบนั้น ผมมักจะคิดถึง 1 โครินธ์ 13:5 ข้อนี้ช่วยกระตุ้นผมให้พูดดี ๆ กับเธอ แทนที่จะหงุดหงิดใส่เธอ” (สภษ. 19:11) ภรรยาก็ควรให้เกียรติสามีโดยพูดถึงสามีในแง่ดีให้คนอื่นฟัง (อฟ. 5:33) เธอจะไม่พูดประชด ล้อเลียน หรือใช้คำเรียกอีกฝ่ายในแบบที่ดูถูก เธอรู้ดีว่าการทำแบบนี้จะทำลายชีวิตคู่ (สภษ. 14:1) พี่น้องหญิงคนหนึ่งในอิตาลีซึ่งสามีของเธอป่วยเป็นโรควิตกกังวลบอกว่า “บางครั้งฉันรู้สึกว่าสามีฉันกังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เมื่อก่อนคำพูดและสีหน้าของฉันแสดงให้เห็นเลยว่าฉันไม่ให้เกียรติเขา แต่ฉันเห็นว่าถ้าฉันยิ่งคบกับคนที่พูดให้เกียรติคนอื่น ฉันก็อยากจะแสดงความนับถือต่อสามีมากขึ้น”
เมื่อเราแสดงความนับถือต่อคนในครอบครัวเราก็กำลังให้เกียรติพระยะโฮวาซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวองค์ยิ่งใหญ่ของเรา (ดูข้อ 9)
10. คนที่เป็นลูกจะแสดงความนับถือต่อพ่อแม่ได้ยังไง?
10 พวกคุณที่เป็นวัยรุ่น ให้เชื่อฟังกฎที่พ่อแม่ตั้งไว้ให้คุณ (อฟ. 6:1-3) และให้พูดกับพ่อแม่ด้วยความนับถือ (อพย. 21:17) เมื่อพ่อแม่อายุมากขึ้น พวกท่านก็อาจต้องการความช่วยเหลือจากคุณมากขึ้นด้วย ดังนั้น ให้พยายามเต็มที่เพื่อจะดูแลเอาใจใส่พ่อแม่อย่างดี ให้เรามาดูตัวอย่างของมาเรียด้วยกัน พ่อของเธอไม่ได้เป็นพยานพระยะโฮวา ตอนที่พ่อป่วยมันไม่ง่ายเลยที่เธอจะดูแลพ่อเพราะพ่อทำกับเธอไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เธอเล่าว่า “ฉันไม่ใช่แค่อธิษฐานขอให้ฉันรู้สึกนับถือพ่อเท่านั้น แต่ขอให้ฉันแสดงออกมาด้วย ฉันคิดว่าถ้าพระยะโฮวาบอกให้ฉันให้เกียรติพ่อแม่ พระองค์ก็ต้องให้กำลังเพื่อฉันจะทำแบบนั้นได้ และฉันรู้แล้วว่าไม่ว่าพ่อจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องแสดงความนับถือเขา” เมื่อเราให้เกียรติคนในครอบครัวถึงแม้ว่ามันจะยาก เราก็แสดงให้เห็นว่าเรานับถือการจัดเตรียมของพระยะโฮวา
แสดงความนับถือต่อพี่น้อง
11. อะไรอาจทำให้ยากที่เราจะแสดงความนับถือต่อพี่น้อง?
11 อะไรที่ทำให้ยาก? พี่น้องทุกคนใช้ชีวิตตามมาตรฐานของพระยะโฮวา แต่บางครั้งก็อาจมีพี่น้องบางคนที่ทำไม่ดีกับเรา เข้าใจเราผิด หรือทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด ถ้าพี่น้องทำให้เรา “มีสาเหตุจะบ่น” เราก็อาจรู้สึกยากที่จะแสดงความนับถือต่อเขา (คส. 3:13) แล้วอะไรจะช่วยเราได้?
12. ทำไมถึงสำคัญที่เราต้องแสดงความนับถือต่อพี่น้อง? (2 เปโตร 2:9-12)
12 ทำไมต้องแสดงความนับถือ? (อ่าน 2 เปโตร 2:9-12) ในจดหมายฉบับที่ 2 ของเปโตร เขาพูดถึงบางคนในประชาคมคริสเตียนในศตวรรษแรกที่พูดแบบไม่นับถือต่อ “คนที่พระเจ้ายกย่อง” ซึ่งก็คือผู้ดูแลในประชาคม ตอนที่พวกทูตสวรรค์เห็นเหตุการณ์นี้ พวกเขาทำยังไง? พวกเขาไม่ได้พูดไม่ดีเกี่ยวกับคนที่ทำแบบนั้นแม้แต่คำเดียวเลยเพราะพวกเขา “นับถือพระยะโฮวา” ลองคิดดูสิ ทูตสวรรค์ไม่ได้ต่อว่าคนเหล่านั้นที่แสดงความหยิ่ง แต่ปล่อยให้พระยะโฮวาเป็นผู้ตำหนิและตัดสินคนเหล่านั้นแทน (รม. 14:10-12; เทียบกับยูดา 9) เราเรียนอะไรได้จากตัวอย่างของทูตสวรรค์? ถ้าเราควรแสดงความนับถือแม้แต่กับผู้ต่อต้าน เราก็ยิ่งต้องแสดงความนับถือต่อพี่น้องมากกว่านั้นอีก ที่จริง เราต้องเป็นฝ่าย “ริเริ่ม” ให้เกียรติพี่น้องด้วยซ้ำ (รม. 12:10) เมื่อทำแบบนี้ เราก็แสดงให้เห็นว่าเรานับถือพระยะโฮวา
13-14. เราจะแสดงความนับถือต่อพี่น้องในประชาคมได้ยังไง? ขอยกตัวอย่าง (ดูภาพด้วย)
13 จะแสดงความนับถือยังไง? พวกคุณที่เป็นผู้ดูแล ให้พยายามสอนคนอื่นในแบบที่แสดงความรักเสมอ (ฟม. 8, 9) ถ้าคุณจำเป็นต้องให้คำแนะนำใครก็ให้แนะนำอย่างกรุณา อย่าให้คำแนะนำตอนที่คุณกำลังหงุดหงิด พวกคุณที่เป็นพี่น้องหญิง คุณสามารถช่วยพี่น้องในประชาคมให้แสดงความนับถือกันและกันได้โดยไม่พูดถึงคนอื่นในแง่ลบ ไม่นินทาใคร หรือใส่ร้ายใคร (ทต. 2:3-5) เราทุกคนสามารถแสดงความนับถือต่อผู้ดูแลในประชาคมได้โดยให้ความร่วมมือกับพวกเขาและขอบคุณที่พวกเขาทำงานหนักในการทำส่วนในการประชุม การประกาศ และช่วยคนที่ “ก้าวไปผิดทาง”—กท. 6:1; 1 ทธ. 5:17
14 พี่น้องหญิงที่ชื่อโรซิโอ้รู้สึกว่ายากที่จะนับถือผู้ดูแลคนหนึ่งที่มาให้คำแนะนำกับเธอ เธอบอกว่า “ฉันไม่ชอบมาก ๆ เพราะรู้สึกว่าเขาพูดไม่ดีกับฉันเลย ตอนอยู่บ้านฉันมักจะบ่นเรื่องเขาบ่อย ๆ ฉันอดคิดไม่ได้เลยว่าเขามีเจตนาไม่ดีกับฉัน ฉันเลยไม่อยากทำตามคำแนะนำของเขาถึงฉันจะไม่แสดงออกมาก็เถอะ” แล้วอะไรช่วยให้โรซิโอ้เปลี่ยนความคิด? เธอบอกว่า “ตอนที่อ่านคัมภีร์ไบเบิลส่วนตัว ฉันได้อ่านที่ 1 เธสะโลนิกา 5:12, 13 และก็เห็นเลยว่าตัวเองไม่ได้แสดงความนับถือต่อผู้ดูแลคนนี้ พอเป็นอย่างนั้นความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็รบกวนใจฉันมาก ฉันเลยอธิษฐานถึงพระยะโฮวาและค้นคว้าในหนังสือขององค์การเพื่อจะหาคำแนะนำที่ช่วยให้ฉันปรับความคิดของตัวเองในเรื่องนี้ พอได้ทำอย่างนั้น ฉันก็เห็นเลยว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผู้ดูแลคนนั้น แต่อยู่ที่ตัวฉัน ฉันหยิ่งเกินไป ฉันต้องเป็นคนถ่อมให้มากกว่านี้ เพราะรู้ว่าถ้าไม่ถ่อมมันจะทำให้ฉันนับถือคนอื่นได้ยาก ทุกวันนี้ฉันก็ยังต้องปรับปรุงตัวในเรื่องนี้อยู่ แต่ก็เห็นเลยว่ายิ่งฉันพยายามแสดงความนับถือ ฉันก็ยิ่งสงบใจเพราะรู้ว่าพระยะโฮวาพอใจในตัวฉัน”
เราทุกคนสามารถแสดงความนับถือต่อผู้ดูแลในประชาคมได้โดยให้ความร่วมมือกับพวกเขาและขอบคุณที่พวกเขาทำงานหนัก (ดูข้อ 13-14)
แสดงความนับถือต่อคนทั่วไป
15. อะไรอาจทำให้ยากที่เราจะแสดงความนับถือคนทั่วไป?
15 อะไรที่ทำให้ยาก? ตอนที่เราออกไปทำงานรับใช้ในเขต เรามักจะเจอกับคนที่ไม่สนใจเรื่องพระเจ้าหรือคัมภีร์ไบเบิล (อฟ. 4:18) บางคนไม่อยากฟังเราเพราะสิ่งที่เขาถูกสอนมาตั้งแต่เด็ก และบางทีนายจ้างหรือครูอาจมีอคติกับเรา หรือเราอาจเจอเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนที่โรงเรียนที่ไม่ชอบเรา พอเราเจอแบบนั้นบ่อย ๆ เราก็อาจไม่อยากแสดงความนับถือพวกเขา และอาจถึงกับทำไม่ดีกับพวกเขาเป็นการตอบโต้
16. ทำไมถึงสำคัญที่เราต้องแสดงความนับถือต่อคนที่ไม่ได้รับใช้พระยะโฮวา? (1 เปโตร 2:12; 3:15)
16 ทำไมต้องแสดงความนับถือ? จำไว้ว่าพระยะโฮวาสนใจว่าเราปฏิบัติยังไงกับคนที่ไม่มีความเชื่อเหมือนกันกับเรา อัครสาวกเปโตรเตือนคริสเตียนว่าความประพฤติที่ดีของพวกเขาอาจกระตุ้นให้บางคนมา “ยกย่องสรรเสริญพระเจ้า” ก็ได้ เปโตรก็เลยแนะนำว่าตอนที่พูดปกป้องความเชื่อ “ให้ทำอย่างสุภาพและด้วยความนับถือจากใจ” (อ่าน 1 เปโตร 2:12; 3:15) ดังนั้น ไม่ว่าเราจะพูดปกป้องความเชื่อของเราตอนที่สู้คดีในศาลหรือตอนที่พูดกับคนอื่น เราต้องแสดงความนับถือพวกเขาเสมอเหมือนกับว่าเรากำลังยืนอยู่ต่อหน้าพระเจ้า พระยะโฮวามองเราอยู่และสนใจฟังว่าเราพูดอะไรและพูดแบบไหน เลยเป็นเหตุผลสำคัญที่เราต้องนับถือคนที่ไม่มีความเชื่อเหมือนเรา
17. เราจะแสดงความนับถือต่อคนทั่วไปได้ยังไง?
17 จะแสดงความนับถือยังไง? ตอนที่เราไปรับใช้ในเขต เราไม่ควรทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเราดูถูกคนที่แทบไม่รู้จักหรือไม่มีความรู้ในพระคัมภีร์เลย แต่เราอยากจะมองว่าพวกเขามีค่าในสายตาพระยะโฮวาและดีกว่าเรา (ฮกก. 2:7; ฟป. 2:3) ถ้ามีคนดูถูกความเชื่อของเรา อย่าสวนกลับด้วยคำพูดไม่ดี เช่น ใช้คำพูดที่อาจฟังดูดีแต่เป็นการประชดหรือเหน็บแนมเขา (1 ปต. 2:23) แต่ถ้าเกิดว่าคุณพูดอะไรบางอย่างออกไปแล้วและคุณรู้สึกว่าไม่น่าพูดแบบนั้น ก็ให้รีบขอโทษทันที แล้วคุณจะแสดงความนับถือคนในที่ทำงานได้ยังไง? ให้เป็นคนขยันทำงานและพยายามมองหาข้อดีในตัวเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานของคุณ (ทต. 2:9, 10) เมื่อคุณทำงานอย่างซื่อสัตย์ ขยันขันแข็ง และทุ่มเท คนอื่นอาจจะชอบสิ่งที่คุณทำ แต่ก็อาจมีบางคนไม่ชอบคุณก็ได้ แต่ไม่ว่าจะยังไง คุณมั่นใจได้เลยว่าพระยะโฮวาจะพอใจคุณแน่นอน—คส. 3:22, 23
18. ทำไมถึงคุ้มค่าที่เราจะแสดงความนับถือคนอื่นจากใจ?
18 มีเหตุผลที่ดีหลายอย่างจริง ๆ ที่เราจะแสดงความนับถือคนอื่นจากใจ เราได้เห็นแล้วว่าเมื่อเราแสดงความนับถือต่อคนในครอบครัว เราก็กำลังให้เกียรติพระยะโฮวาซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวองค์ยิ่งใหญ่ของเรา และเมื่อเราแสดงความนับถือพี่น้อง เราก็กำลังให้เกียรติพระยะโฮวาพ่อในสวรรค์ของเรา และเมื่อเราแสดงความนับถือคนทั่วไป เราก็กำลังเปิดโอกาสให้คนเหล่านั้นได้มายกย่องสรรเสริญพระยะโฮวาพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ของเรา ถึงแม้เราอาจไม่ได้รับความนับถือกลับคืนมา แต่ก็คุ้มค่าที่เราจะแสดงความนับถือคนอื่นจากใจ เพราะอะไร? เพราะพระยะโฮวาจะอวยพรเรา พระองค์สัญญาไว้ว่า “ใครให้เกียรติเรา เราจะให้เกียรติเขา”—1 ซม. 2:30
เพลง 129 เราจะอดทนต่อ ๆ ไป
a บางชื่อในบทความนี้เป็นชื่อสมมุติ