บทความศึกษา 42
เพลง 44 คำอธิษฐานของคนทุกข์ใจ
วิธีช่วยให้คุณอธิษฐานจากหัวใจ
“พระยะโฮวา ผมร้องเรียกพระองค์สุดหัวใจ โปรดตอบผมเถอะ”—สด. 119:145
จุดสำคัญ
การคิดใคร่ครวญคำอธิษฐานที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิลจะช่วยให้เราอธิษฐานจากหัวใจได้
1-2. (ก) อะไรที่อาจทำให้เราไม่กล้าเปิดใจกับพระยะโฮวา? (ข) เรารู้ได้ยังไงว่าพระยะโฮวาตั้งใจฟังคำอธิษฐานของเรา?
บางครั้งคุณเคยรู้สึกไหมว่าคำอธิษฐานของคุณเป็นแบบลวก ๆ และซ้ำซากจำเจ ถ้าใช่ คุณก็ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นคนเดียว เนื่องจากชีวิตเราในทุกวันนี้ยุ่งมาก บางครั้งเราก็เลยอธิษฐานแบบสั้น ๆ และรีบทำให้มันจบไป หรือเราอาจรู้สึกยากที่จะเปิดใจและระบายความรู้สึกกับพระยะโฮวาเพราะเรารู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าพอที่จะอธิษฐานถึงพระองค์
2 คัมภีร์ไบเบิลทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่สำคัญสำหรับพระยะโฮวาไม่ใช่คำอธิษฐานที่ใช้คำพูดสวยหรู แต่เป็นคำอธิษฐานที่มาจากใจ พระองค์ฟัง “คำขอของคนอ่อนน้อมถ่อมตน” (สด. 10:17) พระยะโฮวาตั้งใจฟังคำพูดทุกคำของเราเพราะพระองค์สนใจเรามากจริง ๆ—สด. 139:1-3
3. เราจะคุยกันเกี่ยวกับคำถามอะไรบ้างในบทความนี้?
3 ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่า ทำไมเราถึงไม่ต้องกลัวที่จะอธิษฐานถึงพระยะโฮวา? เราจะอธิษฐานแบบที่มีความหมายมากขึ้นได้ยังไง? การคิดใคร่ครวญคำอธิษฐานที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิลจะช่วยให้เราอธิษฐานจากหัวใจได้ยังไง? และถ้าเราเครียดมากจนไม่สามารถระบายออกมาเป็นคำพูดได้ เราควรทำยังไง? ให้เรามาดูคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้ด้วยกัน
ไม่ต้องกลัวที่จะอธิษฐานถึงพระยะโฮวา
4. อะไรจะช่วยให้เราไม่กลัวที่จะอธิษฐานถึงพระยะโฮวา? (สดุดี 119:145)
4 เมื่อเรามองว่าพระยะโฮวาเป็นเพื่อนที่หวังดีและอยากให้เราได้สิ่งที่ดีที่สุด เราก็จะไม่กลัวที่จะอธิษฐานถึงพระองค์และพูดทุกเรื่องกับพระองค์ได้อย่างสบายใจ ผู้เขียนหนังสือสดุดีบท 119 ก็พยายามมองพระยะโฮวาแบบนั้นด้วยตอนที่เขาอธิษฐาน ชีวิตของเขาไม่ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาอะไรเลย เขาถูกคนชั่วใส่ร้าย (สด. 119:23, 69, 78) และเขายังต้องสู้กับความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเองด้วย (สด. 119:5) แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็กล้าที่จะเปิดใจกับพระยะโฮวา—อ่านสดุดี 119:145
5. ทำไมเราไม่ควรปล่อยให้ความรู้สึกในแง่ลบมาทำให้เราไม่กล้าอธิษฐานถึงพระยะโฮวา? ขอยกตัวอย่าง
5 แม้แต่คนที่ทำผิดร้ายแรง พระยะโฮวาก็อยากให้เขาอธิษฐานถึงพระองค์ด้วย (อสย. 55:6, 7) เราไม่ควรปล่อยให้ความรู้สึกในแง่ลบมาทำให้เราไม่กล้าอธิษฐานถึงพระยะโฮวา เพื่อจะเข้าใจเรื่องนี้ ลองนึกถึงตัวอย่างต่อไปนี้ นักบินรู้ดีว่าเขาสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศเมื่อไหร่ก็ได้ที่เขาต้องการความช่วยเหลือ ดังนั้น ตอนที่เขาหลงทางหรือทำบางอย่างผิดพลาด เขาควรรู้สึกอายจนไม่กล้าติดต่อกับเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศไหม? ไม่ คล้ายกัน แม้ว่าเราทำบาปหรือเรารู้สึกเหมือนกำลังหลงทางในชีวิต เราไม่ต้องกลัวที่จะขอความช่วยเหลือจากพระยะโฮวาโดยการอธิษฐาน—สด. 119:25, 176
วิธีอธิษฐานแบบที่มีความหมายมากขึ้น
6-7. การคิดเกี่ยวกับคุณลักษณะต่าง ๆ ของพระยะโฮวาช่วยให้คำอธิษฐานของเรามีความหมายมากขึ้นยังไง? ขอยกตัวอย่าง (ดูเชิงอรรถด้วย)
6 เมื่อเราอธิษฐานบอกพระยะโฮวาว่าเราคิดและรู้สึกยังไงจริง ๆ เราก็จะสนิทกับพระองค์มากขึ้น ให้เรามาดูว่าเราจะทำให้คำอธิษฐานของเรามีความหมายมากขึ้นได้ยังไง
7 คิดใคร่ครวญถึงคุณลักษณะต่าง ๆ ของพระยะโฮวาa ยิ่งเราคิดใคร่ครวญถึงคุณลักษณะต่าง ๆ ของพระยะโฮวา เราก็จะยิ่งกล้าพูดกับพระองค์ว่าเราคิดและรู้สึกยังไง (สด. 145:8, 9, 18) ให้เรามาดูประสบการณ์ของพี่น้องหญิงคนหนึ่งที่ชื่อคริสติน พ่อของเธอเป็นคนที่ชอบใช้ความรุนแรง เธอเล่าว่า “มันยากมากที่ฉันจะคุยกับพระยะโฮวาเหมือนคุยกับพ่อ ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอและถ้าทำอะไรผิดพระยะโฮวาก็จะทิ้งฉัน” แล้วคุณลักษณะอะไรของพระยะโฮวาที่ช่วยให้เธอกล้าที่จะระบายความรู้สึกออกมา? เธอบอกว่า “เมื่อฉันคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับความรักที่มั่นคงของพระยะโฮวา นี่ทำให้ฉันมั่นใจว่าพระองค์รักฉัน ฉันรู้ว่าพระองค์ไม่มีวันที่จะปล่อยมือฉัน และเมื่อฉันล้มลงพระองค์ก็จะคอยประคองให้ฉันลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง การคิดแบบนี้ช่วยให้ฉันกล้าระบายความรู้สึกทั้งหมดกับพระยะโฮวาทั้งตอนที่ฉันมีความสุขที่สุดและตอนที่ฉันเศร้าที่สุด”
8-9. การคิดก่อนว่าคุณจะพูดเรื่องอะไรบ้างในคำอธิษฐานมีประโยชน์ยังไงบ้าง? ขอยกตัวอย่าง
8 คิดก่อนว่าจะพูดเรื่องอะไร ก่อนอธิษฐาน คุณอาจถามตัวเองว่า ‘ฉันกำลังเจอกับปัญหาอะไรในตอนนี้? มีใครที่ฉันต้องให้อภัยไหม? เร็ว ๆ นี้มีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตที่ฉันต้องให้พระยะโฮวาช่วยไหม?’ (2 พก. 19:15-19) นอกจากนั้น เรายังเลียนแบบตัวอย่างคำอธิษฐานของพระเยซูได้และคิดว่าเราจะขออะไรพระยะโฮวาที่เกี่ยวข้องกับชื่อของพระองค์ รัฐบาลของพระองค์ และความประสงค์ของพระองค์—มธ. 6:9, 10
9 ตอนที่พี่น้องหญิงที่ชื่ออลิสก้าได้รู้ว่าสามีของเธอป่วยเป็นมะเร็งสมองระยะสุดท้าย เธอรู้สึกว่าตอนนั้นยากมากที่เธอจะอธิษฐาน เธอบอกว่า “ฉันเครียดมากจริง ๆ จนพูดไม่ออกว่าจะอธิษฐานเรื่องอะไร” แล้วอะไรช่วยเธอ? เธอบอกว่า “ก่อนจะอธิษฐาน ฉันจะใช้เวลาเรียบเรียงความคิดของตัวเอง มันเลยทำให้ฉันไม่ได้อธิษฐานแค่เรื่องของตัวเองเท่านั้น พอทำแบบนี้ฉันเลยสงบใจมากขึ้นและอธิษฐานในเรื่องอื่น ๆ ได้ด้วย”
10. ทำไมเราควรอธิษฐานให้นานขึ้น? (ดูภาพด้วย)
10 ใช้เวลาอธิษฐานให้นานขึ้น ถึงแม้ว่าเราจะอธิษฐานสั้น ๆ แบบมีความหมายได้ แต่ถ้าเราใช้เวลาในการอธิษฐานให้นานขึ้น เราก็จะมีโอกาสที่จะระบายความรู้สึกลึก ๆ ข้างในของเราออกมาb อีไลจาห์สามีของอลิสก้าบอกว่า “ผมพยายามอธิษฐานหลาย ๆ ครั้งตลอดทั้งวัน และเมื่อผมใช้เวลานานขึ้นในการอธิษฐาน ผมก็รู้สึกสนิทกับพระยะโฮวามากขึ้น พระองค์ไม่ได้กดดันผมให้อธิษฐานเสร็จไว ๆ ผมก็เลยใช้เวลาอธิษฐานนานแค่ไหนก็ได้” ลองวิธีนี้ดูดีไหม? ให้หาเวลาและสถานที่ที่คุณจะอธิษฐานให้นานขึ้นโดยไม่มีอะไรมารบกวน ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้คุณอธิษฐานแบบออกเสียงได้ และลองพยายามทำแบบนี้จนเป็นนิสัย
ให้หาเวลาและสถานที่ที่คุณจะอธิษฐานให้นานขึ้นโดยไม่มีอะไรมารบกวน (ดูข้อ 10)
คิดใคร่ครวญคำอธิษฐานที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิล
11. เราได้ประโยชน์ยังไงจากการคิดใคร่ครวญคำอธิษฐานที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิล? (ดูกรอบ “คุณรู้สึกเหมือนพวกเขาไหม?” ด้วย)
11 คุณอาจได้ประโยชน์จากการคิดใคร่ครวญคำอธิษฐานของผู้รับใช้ของพระยะโฮวาในอดีตและเพลงสรรเสริญของพวกเขาที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิล เมื่อคุณสังเกตว่าพวกเขาระบายความคิดและความรู้สึกออกมาในคำอธิษฐานยังไง มันก็สามารถช่วยให้คุณอธิษฐานแบบเดียวกันได้ คุณอาจได้เรียนรู้คำหรือสำนวนใหม่ ๆ ที่คุณสามารถเอามาใช้ในคำอธิษฐานของคุณได้ และคุณอาจได้เห็นจากคำอธิษฐานของบางคนว่าเขากำลังเจอสถานการณ์คล้ายกันกับคุณ
12. ตอนที่อ่านคำอธิษฐานในคัมภีร์ไบเบิล เราอาจถามตัวเองว่าอะไรบ้าง?
12 ตอนที่คุณอ่านคำอธิษฐานในคัมภีร์ไบเบิล ให้ถามตัวเองว่า ‘ใครกำลังอธิษฐานและเขากำลังเจอกับสถานการณ์อะไรอยู่? ฉันรู้สึกเหมือนที่เขาพูดในคำอธิษฐานไหม? ฉันได้บทเรียนอะไรจากคำอธิษฐานนี้?’ คุณอาจต้องค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อจะตอบคำถามเหล่านี้ได้ แต่มันจะคุ้มค่าแน่นอน ให้เรามาดูบางตัวอย่างด้วยกัน
13. บทเรียนหนึ่งที่เราได้จากคำอธิษฐานของฮันนาห์คืออะไร? (1 ซามูเอล 1:10, 11) (ดูภาพหน้าปกด้วย)
13 อ่าน 1 ซามูเอล 1:10, 11 ตอนที่ฮันนาห์พูดคำอธิษฐานนี้ เธอกำลังเจอกับปัญหาใหญ่ 2 เรื่อง คือเธอเป็นหมัน และภรรยาอีกคนหนึ่งของสามีก็คอยเยาะเย้ยและทำให้เธอรู้สึกทุกข์ใจ (1 ซม. 1:4-7) ถ้าคุณกำลังเจอกับปัญหาที่ยืดเยื้อ คุณเรียนอะไรได้จากคำอธิษฐานของฮันนาห์? ฮันนาห์สบายใจขึ้นเมื่อเธอได้ใช้เวลาในการอธิษฐานและมอบภาระของเธอไว้กับพระยะโฮวา (1 ซม. 1:12, 18) เราเองก็จะสบายใจขึ้นได้เมื่อเรา “มอบภาระของ [เรา] ไว้กับพระยะโฮวา” โดยบอกพระองค์ว่าเรารู้สึกยังไงกับปัญหาที่เรากำลังเจออยู่—สด. 55:22
ฮันนาห์ทุกข์ใจเพราะเป็นหมันและถูกภรรยาอีกคนของสามีเยาะเย้ยถากถางไม่หยุดหย่อน แต่เธอก็มอบภาระของเธอไว้กับพระยะโฮวา (ดูข้อ 13)
14. (ก) เราเรียนอะไรได้อีกจากตัวอย่างของฮันนาห์? (ข) ทำไมการอ่านคัมภีร์ไบเบิลและคิดใคร่ครวญข้อคัมภีร์ถึงช่วยให้เราอธิษฐานอย่างมีความหมายมากขึ้น? (ดูเชิงอรรถ)
14 ไม่กี่ปีหลังจากที่ซามูเอลลูกชายของฮันนาห์เกิด เธอก็พาเขาไปส่งให้มหาปุโรหิตเอลี (1 ซม. 1:24-28) ในคำอธิษฐานของฮันนาห์ เธอแสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่าเธอมั่นใจว่าพระยะโฮวาจะปกป้องและดูแลคนที่ภักดีต่อพระองค์c (1 ซม. 2:1, 8, 9) ถึงแม้ว่าปัญหาที่ฮันนาห์เจอยังไม่หมดไป แต่เธอสนใจที่พรต่าง ๆ ที่เธอได้รับจากพระยะโฮวา บทเรียนสำหรับเราคืออะไร? เราจะรับมือกับปัญหาได้ดีขึ้นถ้าเราสนใจว่าที่ผ่านมาพระยะโฮวาคอยช่วยเหลือเรายังไงจนถึงตอนนี้
15. ตอนที่เราเจอกับความไม่ยุติธรรม เราสามารถเรียนอะไรได้จากคำอธิษฐานของผู้พยากรณ์เยเรมีย์? (เยเรมีย์ 12:1)
15 อ่านเยเรมีย์ 12:1 ตอนที่ผู้พยากรณ์เยเรมีย์เห็นคนชั่วประสบความสำเร็จ เขารู้สึกไม่สบายใจมาก ไม่เพียงเท่านั้น เขายังถูกเพื่อนร่วมชาติทำไม่ดีกับเขาด้วย (ยรม. 20:7, 8) ตอนที่เราเห็นคนชั่วเจริญรุ่งเรืองและตอนที่เราถูกเยาะเย้ย เราเข้าใจเลยว่าเยเรมีย์รู้สึกยังไง ตอนที่เยเรมีย์อธิษฐาน ถึงเขาจะพูดด้วยความไม่พอใจออกมา แต่เขาก็ไม่ได้สงสัยเลยว่าพระยะโฮวายุติธรรมไหม และเมื่อเขาได้เห็นว่าพระยะโฮวาว่ากล่าวแก้ไขและจัดการกับชาวอิสราเอลที่ทำชั่ว เขาก็ยิ่งมั่นใจเลยว่าพระยะโฮวายุติธรรมแน่นอน (ยรม. 32:19) เราเองก็ทำแบบผู้พยากรณ์เยเรมีย์ได้โดยตอนที่เราอธิษฐาน เราสามารถบอกพระยะโฮวาได้ว่าเรารู้สึกไม่ดียังไงบ้าง และไว้วางใจว่าเมื่อถึงเวลา พระองค์จะจัดการกับความไม่ยุติธรรมทุกอย่างที่เราเจอ
16. ถ้าสถานการณ์ของเราทำให้เรามีข้อจำกัด เราสามารถเรียนอะไรได้จากชาวเลวีที่ถูกเนรเทศไปอยู่ต่างแดน? (สดุดี 42:1-4) (ดูภาพด้วย)
16 อ่านสดุดี 42:1-4 เพลงสดุดีบทนี้เขียนโดยชาวเลวีคนหนึ่งที่ถูกเนรเทศไปอยู่ต่างแดนและไม่ได้อยู่กับชาวอิสราเอลเพื่อนร่วมชาติ คำพูดของเขาในเพลงสดุดีทำให้เห็นเลยว่าเขารู้สึกยังไง ถ้าเราถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ในบ้านหรือต้องติดคุกเพราะความเชื่อ เราก็อาจรู้สึกเหมือนกับชาวเลวีคนนี้ได้ ตอนที่เจอแบบนั้นบางครั้งเราอาจรู้สึกเข้มแข็ง แต่บางครั้งก็อาจรู้สึกท้อใจ แต่ไม่ว่าเราจะรู้สึกยังไง เราสามารถอธิษฐานบอกกับพระยะโฮวาได้ การทำแบบนี้จะช่วยให้เราตรวจสอบความคิดของตัวเองและปรับมุมมองของเราให้ไม่ลืมว่าอะไรคือสิ่งสำคัญจริง ๆ ชาวเลวีคนนี้รู้สึกว่าสถานการณ์ใหม่ที่เขาเจอทำให้เขามีโอกาสได้ยกย่องสรรเสริญพระยะโฮวา (สด. 42:5) และยังทำให้เขาได้เห็นว่าพระองค์กำลังดูแลเขายังไง (สด. 42:8) เหมือนกัน ถ้าเราอธิษฐานถึงพระยะโฮวาอย่างจริงจัง มันจะช่วยให้เราเข้าใจความรู้สึกของตัวเองได้ดีขึ้น มีความคิดที่สมดุล และได้กำลังใจเพื่อจะอดทนได้ต่อไป
ชาวเลวีที่เขียนหนังสือสดุดีบท 42 ระบายความในใจกับพระยะโฮวา เมื่อเราระบายความรู้สึกของเรากับพระยะโฮวาในคำอธิษฐาน นี่ก็ช่วยให้เราปรับมุมมองและไม่ลืมว่าอะไรคือสิ่งสำคัญจริง ๆ (ดูข้อ 16)
17. (ก) เราได้เรียนอะไรจากคำอธิษฐานของผู้พยากรณ์โยนาห์? (โยนาห์ 2:1, 2) (ข) การคิดถึงข้อคัมภีร์บางข้อในสดุดีช่วยเรายังไงเมื่อเจอปัญหา? (ดูเชิงอรรถ)
17 อ่านโยนาห์ 2:1, 2 ผู้พยากรณ์โยนาห์อธิษฐานถึงพระยะโฮวาตอนที่อยู่ในท้องปลาใหญ่ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้นโยนาห์จะไม่เชื่อฟังพระยะโฮวา แต่เขาก็มั่นใจว่าพระองค์จะฟังคำอธิษฐานของเขา เมื่อเราอ่านคำอธิษฐานของโยนาห์ เราเห็นเลยว่าเขาใช้หลายคำที่มาจากหนังสือสดุดีd นี่แสดงให้เห็นว่าเขาน่าจะคุ้นเคยดีกับข้อคัมภีร์ส่วนนั้น การที่โยนาห์ได้คิดใคร่ครวญข้อคัมภีร์เหล่านี้ทำให้เขามั่นใจว่าพระยะโฮวาจะช่วยเขาแน่นอน คล้ายกัน ถ้าเราพยายามจำข้อคัมภีร์บางข้อของหนังสือสดุดีเอาไว้ พอเราอธิษฐานถึงพระยะโฮวาช่วงที่เราเจอปัญหา เราก็จะนึกถึงข้อคัมภีร์เหล่านั้นได้
ใกล้ชิดกับพระยะโฮวาต่อ ๆ ไปโดยการอธิษฐาน
18-19. ถ้าบางครั้งเรารู้สึกเครียดมากจนไม่สามารถอธิษฐานระบายออกมาเป็นคำพูดได้ เราได้รับกำลังใจยังไงจากโรม 8:26, 27? ขอยกตัวอย่าง
18 อ่านโรม 8:26, 27 บางครั้งเราอาจรู้สึกเครียดและกังวลมากจนไม่สามารถจะระบายออกมาเป็นคำพูดได้ แต่เราไม่ต้องหนักใจเพราะพลังบริสุทธิ์ของพระเจ้าจะ “ขอ” แทนเรา นี่หมายความว่ายังไง? พระยะโฮวาใช้พลังบริสุทธิ์ดลใจผู้เขียนคัมภีร์ไบเบิลให้บันทึกคำอธิษฐานไว้ในพระคัมภีร์ เมื่อเราวุ่นวายใจจนคิดไม่ออกและไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอธิษฐานยังไง เราอาจใช้คำพูดที่อยู่ในคัมภีร์ไบเบิลมาเป็นคำอธิษฐานอ้อนวอนของเราได้ พระยะโฮวาจะฟังคำขอเหล่านั้นและอาจตอบคำอธิษฐานของเรา
19 พี่น้องหญิงในรัสเซียที่ชื่อเยเลนาได้ทำแบบนั้น เธอถูกจับเพราะอธิษฐานและอ่านคัมภีร์ไบเบิล ตอนนั้นเธอรู้สึกเครียดมากจนยากที่จะอธิษฐานถึงพระยะโฮวาได้ เธอเล่าว่า “ฉันจำได้ว่าถ้าฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรในคำอธิษฐาน การอ่านคำอธิษฐานของผู้รับใช้ในอดีตที่อยู่ในคัมภีร์ไบเบิลช่วยได้มากเพราะพระยะโฮวาจะมองว่าคำอธิษฐานเหล่านั้นเป็นคำอธิษฐานของฉันเอง . . . นี่ให้กำลังใจฉันมากจริง ๆ ในช่วงที่ยากลำบากนี้”
20. ตอนที่คุณเครียดและรู้สึกว่ายากที่จะอธิษฐาน คุณอาจทำอะไรบ้างเพื่อจะช่วยได้?
20 ตอนที่เรารู้สึกเครียดมาก มันอาจยากที่เราจะมีสมาธิในการอธิษฐาน แล้วอะไรจะช่วยเราได้? ให้เราฟังไฟล์เสียงการอ่านหนังสือสดุดีก่อนจะเริ่มอธิษฐาน นอกจากนั้น เราอาจจะเขียนความรู้สึกของเราออกมาก่อนเหมือนที่กษัตริย์ดาวิดทำ (สด. 18, 34, 142; หัวบท) แน่นอนว่าไม่มีกฎตายตัวว่าเราควรเตรียมตัวยังไงเพื่อจะอธิษฐาน (สด. 141:2) ดังนั้น ให้ทำสิ่งที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณ
21. ทำไมเราอธิษฐานถึงพระยะโฮวาอย่างสุดหัวใจได้?
21 เรารู้สึกอบอุ่นหัวใจจริง ๆ ที่รู้ว่าพระยะโฮวาเข้าใจความรู้สึกของเราแม้แต่ก่อนที่เราจะอธิษฐานถึงพระองค์ด้วยซ้ำ (สด. 139:4) ถึงจะเป็นอย่างนั้น พระยะโฮวาก็ยังอยากได้ยินเราระบายความรู้สึกของเราให้พระองค์ฟัง และอยากได้ยินว่าเราไว้วางใจพระองค์มากแค่ไหน ดังนั้น อย่ากลัวที่จะอธิษฐานถึงพระยะโฮวาพ่อในสวรรค์ของคุณ ให้ลองค้นหาคำอธิษฐานในคัมภีร์ไบเบิลเพื่อช่วยให้คุณเห็นตัวอย่างที่จะเลียนแบบได้ ให้อธิษฐานถึงพระยะโฮวาสุดหัวใจ เล่าให้พระองค์ฟังทุกเรื่องทั้งตอนที่คุณมีความสุขและตอนที่คุณมีความทุกข์ พระยะโฮวาเป็นเพื่อนแท้ของคุณ พระองค์จะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ
เพลง 45 สิ่งที่ใจฉันคิดใคร่ครวญ
a ดู “คุณลักษณะที่น่าประทับใจของพระยะโฮวา” ที่พูดถึงในข้อคัมภีร์สำหรับการใช้ชีวิตแบบคริสเตียน ในหัวข้อ “พระยะโฮวา”
b ปกติแล้วพี่น้องที่เป็นตัวแทนอธิษฐานในการประชุมควรอธิษฐานสั้น ๆ
c คำอธิษฐานของฮันนาห์ใช้คำคล้าย ๆ กับที่โมเสสเขียนไว้ นี่แสดงว่าฮันนาห์คงต้องใช้เวลาอ่านและคิดใคร่ครวญถ้อยคำของพระเจ้า (ฉธบ. 4:35; 8:18; 32:4, 39; 1 ซม. 2:2, 6, 7) หลายร้อยปีต่อมา มารีย์แม่ของพระเยซูก็ใช้คำยกย่องสรรเสริญพระเจ้าคล้าย ๆ กับฮันนาห์—ลก. 1:46-55
d ตัวอย่างเช่น เทียบโยนาห์ 2:3-9 กับสดุดี 69:1; 16:10; 30:3; 142:2, 3; 143:4, 5; 18:6; และ 3:8 โยนาห์อธิษฐานโดยอาศัยข้อคัมภีร์ในสดุดีเรียงตามลำดับนี้