บทความศึกษา 48
เพลง 129 เราจะอดทนต่อ ๆ ไป
หนังสือโยบช่วยคุณได้ตอนเจอความทุกข์
“พระเจ้าไม่ทำชั่วแน่นอน”—โยบ 34:12
จุดสำคัญ
เราได้เรียนอะไรจากหนังสือโยบเกี่ยวกับเหตุผลที่พระยะโฮวายอมให้มีความทุกข์ และเราจะอดทนได้ยังไงแม้เจอปัญหาในชีวิต
1-2. มีเหตุผลอะไรบ้างที่เราควรอ่านหนังสือโยบ?
เมื่อเร็ว ๆ นี้คุณได้อ่านหนังสือโยบไหม? แม้หนังสือนี้จะเขียนมาประมาณ 3,500 ปีแล้ว แต่หลายคนก็ถือว่านี่เป็นหนึ่งในวรรณกรรมชิ้นเอกของโลก หนังสืออ้างอิงเล่มหนึ่งบอกว่าหนังสือโยบมีโครงสร้างที่เรียบง่าย ใช้คำที่สละสลวย และมีพลัง หนังสืออ้างอิงเล่มนั้นยังเรียกผู้เขียนหนังสือโยบว่า “อัจฉริยะด้านวรรณกรรม” แม้โมเสสจะเป็นคนบันทึกหนังสือเล่มนี้ แต่ผู้เขียนที่แท้จริงคือพระยะโฮวาพระเจ้า—2 ทธ. 3:16
2 หนังสือโยบเป็นหนังสือสำคัญเล่มหนึ่งในคัมภีร์ไบเบิล เพราะอะไร? เพราะหนังสือเล่มนี้บอกให้รู้ว่าทั้งมนุษย์และทูตสวรรค์กำลังเจอกับประเด็นสำคัญเรื่องหนึ่งซึ่งก็คือชื่อของพระยะโฮวาสมควรได้รับความนับถืออยู่เสมอหรือไม่ นอกจากนั้น หนังสือโยบยังสอนเราเกี่ยวกับคุณลักษณะต่าง ๆ ที่น่าประทับใจของพระยะโฮวา เช่น ความรัก สติปัญญา ความยุติธรรม และอำนาจ หนังสือโยบบอกว่าพระยะโฮวาเป็น “ผู้มีพลังอำนาจสูงสุด” ประมาณ 30 ครั้ง ซึ่งมีการใช้คำนี้ในหนังสือโยบมากกว่าหนังสืออื่น ๆ ในคัมภีร์ไบเบิลรวมกัน ไม่เพียงเท่านั้น หนังสือโยบยังตอบคำถามสำคัญ ๆ เกี่ยวกับชีวิต ซึ่งรวมถึงคำถามหนึ่งที่หลายคนยังสงสัยนั่นก็คือ ทำไมพระเจ้ายอมให้มนุษย์เจอความทุกข์?
3. เราจะได้ประโยชน์อะไรบ้างจากการศึกษาหนังสือโยบ?
3 ปกติแล้วเวลาเราขึ้นไปบนภูเขาสูง เรามักจะเห็นวิวทิวทัศน์ต่าง ๆ รอบตัวได้กว้างขึ้นและชัดขึ้น คล้ายกัน หนังสือโยบก็ช่วยให้เรามีมุมมองเกี่ยวกับความทุกข์ในชีวิตในแบบที่กว้างขึ้นโดยช่วยให้เรามองในแบบที่พระยะโฮวามอง เราจะได้ดูว่าหนังสือโยบช่วยเรายังไงตอนที่เจอความทุกข์ เราจะได้เรียนว่าถ้าชาวอิสราเอลเลียนแบบตัวอย่างที่ดีของโยบพวกเขาจะได้ประโยชน์อะไร และทุกวันนี้เราได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องราวของโยบ นอกจากนั้น เราจะดูด้วยว่าเราจะใช้เรื่องของโยบเพื่อช่วยคนอื่นได้ยังไง
พระเจ้ายอมให้โยบเจอความทุกข์
4. ชีวิตของโยบและชาวอิสราเอลในอียิปต์แตกต่างกันมากขนาดไหน?
4 ตอนที่ชาวอิสราเอลเป็นทาสอยู่ในอียิปต์อย่างยากลำบาก โยบอาศัยอยู่ในแผ่นดินอูสซึ่งอาจอยู่ทางตะวันออกของแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญาและอยู่ที่ใดที่หนึ่งทางเหนือของดินแดนอาหรับ ตอนนั้นชาวอิสราเอลเริ่มนมัสการรูปเคารพของชาวอียิปต์ แต่โยบต่างกันอย่างลิบลับกับชาวอิสราเอลพวกนั้นเพราะเขารับใช้พระเจ้าอย่างซื่อสัตย์ (ยชว. 24:14; อสค. 20:8) พระยะโฮวาพูดถึงโยบว่า “ไม่มีใครในโลกเหมือนเขา”a (โยบ 1:8) โยบร่ำรวยกว่าใครในดินแดนทางตะวันออกทั้งหมด (โยบ 1:3) ซาตานต้องโมโหโยบมากแน่ ๆ เพราะเขาทั้งเจริญรุ่งเรือง ใคร ๆ ก็นับถือ และยังคงรับใช้พระยะโฮวาอย่างซื่อสัตย์ด้วย
5. ทำไมพระยะโฮวายอมให้โยบเจอความทุกข์? (โยบ 1:20-22; 2:9, 10)
5 ซาตานอ้างว่าโยบจะเลิกนมัสการพระยะโฮวาถ้าเจอความทุกข์ (โยบ 1:7-11; 2:2-5) ข้อกล่าวหานี้ทำให้เกิดประเด็นสำคัญขึ้นมาหลายอย่าง ดังนั้น แม้พระยะโฮวาจะรักโยบมาก แต่พระองค์ก็ยอมให้ซาตานพิสูจน์เรื่องที่มันกล่าวหาโยบ (โยบ 1:12-19; 2:6-8) ซาตานทำให้โยบสูญเสียฝูงสัตว์ทั้งหมด ทำให้ลูก 10 คนตาย และทำให้โยบเป็นฝีร้ายทั้งตัวตั้งแต่หัวจดเท้า ถึงแม้ซาตานทำให้โยบเจอสิ่งที่เลวร้ายขนาดนี้ แต่มันก็ทำให้โยบเลิกนมัสการพระยะโฮวาไม่ได้ (อ่านโยบ 1:20-22; 2:9, 10) ในเวลาต่อมา พระยะโฮวาทำให้โยบกลับมาร่ำรวยและมีชื่อเสียงที่ดีเหมือนเดิม ให้เขามีลูกอีก 10 คน และยังให้เขามีอายุยืนยาวอย่างน่าอัศจรรย์จนถึงอายุ 140 ปี เขาอายุยืนมากพอจนได้เห็นลูกหลาน 4 ชั่วอายุ (โยบ 42:10-13, 16) แล้วผู้รับใช้ของพระยะโฮวาในอดีตน่าจะได้รับประโยชน์อะไรจากตัวอย่างของโยบ? และพวกเราในทุกวันนี้ได้เรียนอะไรจากเรื่องราวของเขา?
6. เรื่องของโยบน่าจะช่วยชาวอิสราเอลได้ยังไงบ้าง? (ดูภาพด้วย)
6 ชาวอิสราเอลน่าจะได้รับประโยชน์อะไร? ตอนที่ชาวอิสราเอลเป็นทาสอยู่ในอียิปต์ ชีวิตของพวกเขาลำบากมาก ลองนึกถึงตัวอย่างของโยชูวากับคาเลบ ตอนที่เป็นวัยรุ่นพวกเขาเป็นทาสอยู่ในอียิปต์ และต่อมาพวกเขาก็ต้องร่อนเร่อยู่ในที่กันดาร 40 ปีเพราะความผิดที่ตัวเองไม่ได้ทำ ถ้าชาวอิสราเอลกับลูกหลานของพวกเขาได้ยินเรื่องของโยบและได้รู้ว่าสุดท้ายชีวิตของเขาดีขึ้นยังไง มันคงทำให้พวกเขาได้กำลังใจที่รู้ว่าความทุกข์ที่เจออยู่ไม่ได้มาจากพระยะโฮวาแต่มาจากซาตาน ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขาคงได้เข้าใจมากขึ้นว่าทำไมพระยะโฮวาถึงยอมให้พวกเขาเจอความทุกข์และได้รู้ว่าพระองค์รักและให้รางวัลผู้รับใช้ของพระองค์ที่พยายามรักษาความซื่อสัตย์
ในที่สุดชาวอิสราเอลที่เป็นทาสในอียิปต์คงได้เรียนเรื่องของโยบและน่าจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ (ดูข้อ 6)
7-8. ขอเล่าประสบการณ์ว่าหนังสือโยบช่วยคนที่กำลังเจอความทุกข์ยังไง
7 เราได้ประโยชน์อะไร? น่าเศร้า หลายคนในทุกวันนี้เลิกเชื่อพระเจ้าเพราะพวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมคนดีต้องเจอแต่เรื่องแย่ ๆ ให้เรามาดูตัวอย่างของเฮเซลbจากรวันดา ตอนเป็นเด็กเธอเชื่อพระเจ้า แต่แล้วชีวิตเธอก็เปลี่ยนไป พ่อแม่เธอหย่ากัน แล้วแม่ก็แต่งงานใหม่ พ่อเลี้ยงทำไม่ดีกับเธอหลายอย่าง แล้วพอเธอเป็นวัยรุ่น เธอก็ถูกผู้ชายคนหนึ่งข่มขืน เรื่องแย่ ๆ ที่เฮเซลเจอทำให้เธอรู้สึกทุกข์ใจมาก เธอเลยไปโบสถ์เพราะอยากได้รับกำลังใจแต่กลับไม่ได้อะไรเลยจากที่นั่น ต่อมาเธอเขียนจดหมายถึงพระเจ้าบอกว่า “พระเจ้า ฉันอธิษฐานถึงพระองค์ก็แล้ว พยายามทำดีก็แล้ว แต่พระองค์กลับตอบแทนความดีที่ฉันทำด้วยความชั่ว พอกันที ฉันไม่สนใจพระองค์แล้ว ต่อแต่นี้ไปฉันจะทำทุกอย่างที่ฉันอยากทำ” เราสงสารทุกคนที่เป็นเหมือนเฮเซลซึ่งถูกสอนให้เชื่อว่าพระเจ้าเป็นต้นเหตุของความทุกข์ทั้งหมดที่พวกเขาเจอ
8 แต่เราได้เรียนจากหนังสือโยบว่าพระเจ้าไม่ได้เป็นต้นเหตุของความทุกข์ ซาตานต่างหากที่เป็นต้นเหตุ เราได้เรียนด้วยว่าเราไม่ควรคิดเองว่าถ้าใครเจอความทุกข์ก็แปลว่าเขากำลังรับผลจากสิ่งไม่ดีที่เขาทำ คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นกับพวกเขาทุกคนในเวลาที่คาดไม่ถึง” (ปญจ. 9:11; โยบ 4:1, 8) เรายังได้เรียนด้วยว่าถ้าเราอดทนกับปัญหาและรักษาความซื่อสัตย์ต่อไป เราจะช่วยให้พระยะโฮวามีคำตอบสำหรับข้อกล่าวหาของซาตาน และเราจะช่วยปกป้องชื่อเสียงของพระองค์ (โยบ 2:3; สภษ. 27:11) เราเห็นค่าจริง ๆ ที่ได้เข้าใจเหตุผลว่าทำไมเรากับคนที่เรารักต้องเจอความทุกข์ ตอนนี้ให้เรากลับมาดูประสบการณ์ของเฮเซลอีกครั้ง เมื่อเธอได้ศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับพยานพระยะโฮวาและได้รู้ว่าพระเจ้าไม่ได้เป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องเจอความทุกข์ เธอบอกว่า “ฉันเลยกลับมาอธิษฐานถึงพระเจ้าอีกครั้งและบอกพระองค์ว่าตอนที่ฉันบอกว่าฉันจะทิ้งพระองค์ จริง ๆ แล้วฉันไม่ได้อยากทำอย่างนั้น ฉันรู้แล้วว่าพระยะโฮวารักฉันมาก ตอนนี้ฉันมีความสุขมากจริง ๆ” เรารู้สึกขอบคุณที่รู้เหตุผลว่าทำไมพระเจ้ายอมให้มีความทุกข์ ต่อไปให้เรามาดูกันว่าเรื่องราวของโยบช่วยเรายังไงตอนที่เจอความทุกข์
เรื่องราวของโยบช่วยเรายังไงให้อดทน?
9. ขออธิบายว่าตอนที่โยบนั่งอยู่บนกองขี้เถ้า เขาอยู่ในสภาพแบบไหน? (ยากอบ 5:11)
9 ลองนึกภาพโยบนั่งอย่างโดดเดี่ยวอยู่บนกองขี้เถ้า ร่างกายเขาเต็มไปด้วยฝีและเจ็บปวดทรมานมาก ผิวหนังก็ดำคล้ำเป็นแผลตกสะเก็ดหลุดลอกออกมาจากร่างกายที่ซูบผอม โยบแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไร เขาทำได้แค่เอาเศษหม้อที่แตกแล้วมาขูดตามตัวและคร่ำครวญกับชีวิตที่เต็มไปด้วยความทุกข์ แต่เขาไม่ได้แค่อยู่ไปวัน ๆ เท่านั้น เขากำลังอดทนอย่างซื่อสัตย์ (อ่านยากอบ 5:11) แล้วอะไรช่วยโยบให้อดทนได้?
10. อะไรที่แสดงว่าโยบสนิทกับพระยะโฮวา? ขออธิบาย
10 ไม่ว่าโยบจะรู้สึกยังไง เขาก็สามารถบอกพระยะโฮวาได้หมด (โยบ 10:1, 2; 16:20) ตัวอย่างเช่น โยบบท 3 บอกว่าโยบคร่ำครวญถึงความทุกข์มากมายที่เขาเจอในชีวิตและคิดเองว่าที่เขาเจอแบบนี้เป็นเพราะพระยะโฮวา ต่อมาตอนที่โยบโต้เถียงกับเพื่อน 3 คน เขาก็ปกป้องตัวเองเต็มที่ว่าเขายังซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวา และระหว่างที่เถียงกับเพื่อน หลายครั้งเขาก็พูดกับพระยะโฮวาตรง ๆ คำพูดของเขาแสดงว่าในตอนนั้นเขาคิดว่าเขาเป็นฝ่ายถูกมากกว่าพระเจ้า (โยบ 10:1-3; 32:1, 2; 35:1, 2) แต่เขาก็ยอมรับว่าการที่เขาพูดปกป้องตัวเองแบบนั้นเป็นการ “พูดไปโดยไม่ยั้งคิด” (โยบ 6:3, 26) ในบท 31 เราเห็นว่าโยบอยากให้พระเจ้าตอบเขาและบอกว่าเขาไม่มีความผิด (โยบ 31:35) แต่แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกที่โยบจะเรียกร้องให้พระเจ้าอธิบายว่าทำไมเขาต้องเจอความทุกข์
11. พระยะโฮวาตอบโยบยังไง?
11 เราได้เรียนว่าที่โยบพูดกับพระยะโฮวาได้ขนาดนี้เป็นเพราะเขาสนิทกับพระองค์มากและมั่นใจว่าพระองค์จะพิพากษาเขาอย่างยุติธรรม ตอนที่พระยะโฮวาตอบโยบออกมาจากพายุ พระองค์ไม่ได้ลงรายละเอียดว่าทำไมโยบถึงต้องเจอกับความทุกข์ทั้งหมดนี้และไม่ได้ต่อว่าที่โยบบ่นหลายอย่างกับพระองค์และพยายามพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ผิด แต่พระยะโฮวาพยายามสอนโยบเหมือนที่พ่อสอนลูก และนี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยโยบ ผลก็คือโยบถ่อมตัวลงและยอมรับว่าเขารู้น้อยมากจริง ๆ และเขาก็รู้สึกเสียใจที่พูดไม่ดีออกไป (โยบ 31:6; 40:4, 5; 42:1-6) เรื่องราวของโยบน่าจะช่วยผู้รับใช้ในอดีตยังไงและเรื่องนี้เป็นประโยชน์กับพวกเรายังไงในทุกวันนี้?
12. ชาวอิสราเอลน่าจะได้รับประโยชน์ยังไงจากเรื่องราวของโยบ?
12 ชาวอิสราเอลน่าจะได้รับประโยชน์อะไร? ชาวอิสราเอลน่าจะได้เรียนจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับโยบ เช่น ขอให้คิดถึงตัวอย่างของโมเสส ตอนที่โมเสสนำหน้าชาติอิสราเอล เขาต้องเจอกับความยากลำบาก ผิดหวัง และท้อใจ ถึงอย่างนั้นเขาก็พึ่งพระยะโฮวาเสมอ นี่ต่างกันมากกับชาวอิสราเอลที่กบฏซึ่งเอาแต่บ่นต่อว่าพระยะโฮวา (อพย. 16:6-8; กดว. 11:10-14; 14:1-4, 11; 16:41, 49; 17:5) และโมเสสยังอดทนด้วยตอนที่เขาได้รับการว่ากล่าวแก้ไขจากพระยะโฮวา เช่น ตอนที่ชาวอิสราเอลตั้งค่ายที่คาเดชซึ่งน่าจะเป็นปีที่ 40 ที่พวกเขาอยู่ในที่กันดาร โมเสส “พูดออกมาโดยไม่คิด” และไม่ได้ยกย่องชื่อของพระยะโฮวา (สด. 106:32, 33) ผลก็คือพระยะโฮวาไม่ได้ให้เขาเข้าไปในแผ่นดินที่พระองค์สัญญา (ฉธบ. 32:50-52) การสั่งสอนจากพระยะโฮวาครั้งนั้นคงต้องทำให้โมเสสเสียใจมาก แต่เขาก็ยอมรับอย่างถ่อมตัว นอกจากนั้น เรื่องราวของโยบน่าจะช่วยชาวอิสราเอลรุ่นหลังด้วยให้อดทนกับปัญหา ถ้าพวกเขาคิดใคร่ครวญเรื่องของโยบ พวกเขาก็น่าจะได้เรียนว่าสามารถระบายความรู้สึกกับพระยะโฮวาได้และควรระวังที่จะไม่พูดกับพระองค์ในแง่ที่ว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกมากกว่าพระเจ้า และพวกเขาน่าจะได้เรียนด้วยว่าควรยอมรับการว่ากล่าวแก้ไขจากพระยะโฮวาด้วยความถ่อม
13. เรื่องราวของโยบช่วยเราให้อดทนได้ยังไง? (ฮีบรู 10:36)
13 เราได้ประโยชน์อะไร? เราทุกคนที่เป็นคริสเตียนมีหลายเรื่องต้องอดทนด้วยเหมือนกัน (อ่านฮีบรู 10:36) เช่น เราอาจเจ็บป่วยด้านร่างกายหรือจิตใจ มีปัญหาครอบครัว สูญเสียคนที่รัก หรือเจอปัญหาหนักอื่น ๆ และบางครั้งสิ่งที่คนอื่นพูดหรือทำก็ทำให้เราอดทนได้ยากขึ้นไปอีก (สภษ. 12:18) แต่หนังสือโยบสอนให้รู้ว่าเราสามารถระบายความรู้สึกลึก ๆ ในใจกับพระยะโฮวาได้และมั่นใจว่าพระองค์ฟังเรา (1 ยน. 5:14) แม้บางครั้งตอนที่เราพูดระบายความรู้สึก เราอาจ “พูดไปโดยไม่ยั้งคิด” เหมือนโยบ แต่เราก็มั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาจะไม่ตำหนิเรา แต่จะให้กำลังและสติปัญญาเพื่อที่เราจะอดทนกับปัญหาที่เจอได้ (2 พศ. 16:9; ยก. 1:5) นอกจากนั้น บางครั้งพระยะโฮวาอาจว่ากล่าวแก้ไขเราเหมือนที่พระองค์ทำกับโยบ แต่หนังสือโยบก็ช่วยเราให้รู้ว่าจะอดทนได้ยังไงตอนที่ได้รับคำแนะนำจากสิ่งที่เราอ่านในคัมภีร์ไบเบิล องค์การของพระยะโฮวา หรือเพื่อนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ (ฮบ. 12:5-7) และถ้าเราถ่อมตัว ยอมรับการว่ากล่าวแก้ไข และปรับปรุงตัวเหมือนที่โยบทำ เราจะได้ประโยชน์ด้วย (2 คร. 13:11) เราเห็นเลยว่าเราได้บทเรียนหลายอย่างจริง ๆ จากเรื่องของโยบ ต่อไปให้เรามาดูกันว่าจะใช้เรื่องของโยบเพื่อช่วยคนอื่นยังไง
ใช้เรื่องของโยบเพื่อช่วยคนอื่น
14. เราอาจใช้แนวการหาเหตุผลแบบไหนเพื่ออธิบายว่าทำไมคนเราถึงเจอความทุกข์?
14 ตอนไปประกาศ คุณเคยเจอคนถามไหมว่าทำไมเราถึงเจอความทุกข์? แล้วคุณตอบคำถามของเขายังไง? คุณอาจเล่าสิ่งที่คัมภีร์ไบเบิลบอกเกี่ยวกับเหตุการณ์ในสวนเอเดนให้เขาฟัง และบอกว่าซาตานโกหกมนุษย์คู่แรก พวกเขาก็เลยกบฏต่อพระเจ้า (ปฐก. 3:1-6) แล้วพออาดัมกับเอวากบฏ เราทุกคนเลยต้องเจอความทุกข์และต้องตาย (รม. 5:12) พระเจ้าจึงต้องให้มีเวลามากพอเพื่อจะพิสูจน์ว่าซาตานโกหกและให้มีเวลามากพอที่จะให้มีการประกาศข่าวดีว่าในอนาคตมนุษย์จะกลับมาสมบูรณ์แบบอีกครั้ง (วว. 21:3, 4) นี่เป็นแนวการหาเหตุผลที่ดีและช่วยหลายคนมาแล้วให้ได้คำตอบ
15. เราอาจใช้หนังสือโยบเพื่อหาเหตุผลยังไงกับคนที่ถามว่าทำไมคนเราถึงเจอความทุกข์? (ดูภาพด้วย)
15 แต่ให้เรามาดูแนวการหาเหตุผลอีกอย่างหนึ่งจากหนังสือโยบที่เราอาจใช้ได้ในงานประกาศ คุณอาจเริ่มโดยชมคนที่คุณคุยด้วยว่าคำถามของเขาดีมาก จากนั้น คุณอาจบอกเขาว่ามีผู้ชายคนหนึ่งที่เคยสงสัยแบบนี้เหมือนกัน เขาชื่อโยบ เขาเป็นคนดีและซื่อสัตย์ เขาเจอความทุกข์หลายอย่างและถึงกับคิดว่าพระเจ้าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาเจอความทุกข์ (โยบ 7:17-21) พอคนที่คุยด้วยได้ยินแบบนี้ เขาอาจรู้สึกทึ่งตรงที่ว่าเรื่องที่เขาสงสัยก็เคยมีคนสงสัยมานานแล้ว จากนั้น คุณอาจอธิบายว่าพระเจ้าไม่ได้ทำให้โยบเจอความทุกข์แต่เป็นซาตานต่างหาก และที่มันทำแบบนั้นเพราะมันพยายามพิสูจน์ว่าที่มนุษย์รับใช้พระเจ้าเพราะหวังจะได้อะไรจากพระองค์ คุณอาจอธิบายเพิ่มด้วยว่าแม้พระเจ้าไม่ได้เป็นต้นเหตุให้โยบเจอความทุกข์ แต่การที่พระองค์ยอมให้เขาเจอแบบนั้นแสดงว่าพระองค์มั่นใจว่ามนุษย์จะรักษาความซื่อสัตย์ได้และเป็นการพิสูจน์ว่าซาตานโกหก แล้วคุณอาจอธิบายว่าสุดท้ายโยบรักษาความซื่อสัตย์จนถึงที่สุดและพระเจ้าก็อวยพรเขา ดังนั้น เราสามารถทำให้คนที่เราคุยด้วยมั่นใจว่าความทุกข์ที่เขาเจอไม่ได้มาจากพระยะโฮวา
คุณจะใช้หนังสือโยบเพื่อช่วยผู้คนให้มั่นใจได้ยังไงว่า “พระเจ้าไม่ทำชั่ว”? (ดูข้อ 15)
16. ขอเล่าประสบการณ์ว่าหนังสือโยบได้ช่วยคนที่เจอความทุกข์ยังไง
16 ให้เรามาดูว่าหนังสือโยบช่วยผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อมาริโอ้ยังไง ในปี 2021 พี่น้องหญิงคนหนึ่งประกาศทางโทรศัพท์และได้คุยกับมาริโอ้ เธออ่านข้อคัมภีร์ข้อหนึ่งให้เขาฟังและอธิบายว่าพระเจ้าสัญญาว่าเราจะมีอนาคตที่ดีและมีความหวังและบอกด้วยว่าพระเจ้าฟังคำอธิษฐานของเราทุกคน เธอถามมาริโอ้ว่าคิดยังไง เขาเลยบอกว่าตอนนี้เขากำลังเขียนจดหมายลาตาย เขาบอกว่า “ผมก็เชื่อว่ามีพระเจ้า แต่เมื่อเช้านี้ผมเริ่มสงสัยว่าพระเจ้าทิ้งผมแล้วหรือเปล่า” ต่อมา พี่น้องหญิงได้โทรไปคุยกับมาริโอ้ครั้งที่ 2 เธอเล่าให้เขาฟังเรื่องที่โยบเจอความทุกข์ มาริโอ้เลยสนใจที่จะอ่านหนังสือโยบทั้งเล่ม พี่น้องหญิงเลยส่งลิงก์คัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลโลกใหม่ ไปให้เขา แล้วผลเป็นยังไง? มาริโอ้เริ่มศึกษาคัมภีร์ไบเบิล และเขาตื่นเต้นที่ได้รู้ว่าพระเจ้ารักและสนใจเขาและเขาอยากเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องนี้
17. ทำไมคุณถึงรู้สึกขอบคุณที่พระยะโฮวาให้มีหนังสือโยบในคัมภีร์ไบเบิล? (โยบ 34:12)
17 เราเห็นชัดเลยว่าคัมภีร์ไบเบิลมีพลังที่น่าทึ่งในการเปลี่ยนชีวิตและช่วยปลอบโยนคนที่กำลังเจอความทุกข์ได้ (ฮบ. 4:12) เรารู้สึกขอบคุณที่พระยะโฮวาให้มีการบันทึกเรื่องราวของโยบไว้ในคัมภีร์ไบเบิล (โยบ 19:23, 24) หนังสือโยบทำให้เรามั่นใจว่า “พระเจ้าไม่ทำชั่วแน่นอน” (อ่านโยบ 34:12) นอกจากนั้น หนังสือโยบยังบอกให้รู้เหตุผลที่พระเจ้ายอมให้มีความทุกข์ รวมทั้งบอกวิธีที่เราจะอดทนได้และช่วยเราให้ปลอบโยนคนที่เจอความทุกข์ได้ ในบทความหน้าเราจะดูว่าหนังสือโยบสอนเราในเรื่องการให้คำแนะนำที่ดียังไง
เพลง 156 ด้วยความเชื่อแท้
a โยบมีชีวิตอยู่ระหว่างช่วงเวลาหลังจากที่โยเซฟตายแล้ว (ปี 1657 ก่อน ค.ศ.) กับตอนที่โมเสสได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำชาวอิสราเอล (ประมาณปี 1514 ก่อน ค.ศ.) ดูเหมือนตอนที่พระยะโฮวาคุยกับซาตานและตอนที่โยบเจอความทุกข์ก็เป็นช่วงนั้นด้วย
b บางชื่อเป็นชื่อสมมุติ