-
นี่หรือเพื่อนแท้?ตื่นเถิด! 2010 | พฤษภาคม
-
-
นี่หรือเพื่อนแท้?
คุณมี “เพื่อน” คนหนึ่งซึ่งรู้จักกันมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น. เขาทำให้คุณรู้สึกเป็นผู้ใหญ่และดูเหมือนจะช่วยคุณเข้ากับคนวัยเดียวกันได้. คราใดคุณรู้สึกเครียด คุณจะไปหาเขาเพื่อ “คลายเครียด” ได้ไม่มากก็น้อย. จริง ๆ แล้ว คุณต้องพึ่งเขาในหลายสภาพการณ์ทีเดียว.
แต่แล้ว คุณได้มารู้จักเขาในด้านไม่ดี. เขาต้องการเกาะติดคุณตลอดเวลา แม้ว่านั่นจะทำให้สถานที่บางแห่งไม่ต้อนรับคุณ. และถึงแม้เขาอาจทำให้คุณรู้สึกว่าเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่เขาก็ทำให้สุขภาพของคุณแย่ลงด้วย. ร้ายยิ่งกว่านั้น เขายังขโมยเงินส่วนหนึ่งของคุณไป.
ระยะหลังนี้ คุณเคยพยายามจะเลิกคบเขา แต่เขาไม่ยอม. ในแง่หนึ่ง เขากลายเป็นนายของคุณ. คุณรู้สึกเสียใจที่ได้คบกับเขา.
ข้อความข้างต้นพรรณนาความสัมพันธ์ระหว่างนักสูบหลายคนกับบุหรี่. ผู้หญิงชื่อเออร์ลีนซึ่งสูบบุหรี่มานานถึง 50 ปีเล่าว่า “บุหรี่สามารถช่วยฉันได้ดีกว่าการมีบางคนอยู่ใกล้ ๆ. มันเป็นยิ่งกว่าเพื่อนที่คบกันมานาน—บางครั้งมันคือเพื่อนแท้คนเดียว ของฉัน.” กระนั้น เออร์ลีนได้ตระหนักว่า อันที่จริง บุหรี่ไม่ใช่เพื่อนแท้แถมยังร้ายกาจอีกด้วย. ที่จริงถ้อยคำข้างต้นอาจพรรณนาความรู้สึกของเธอก็ได้ แต่ยกเว้นเรื่องหนึ่ง. เมื่อเธอเรียนรู้ว่าการสูบบุหรี่เป็นสิ่งไม่ดีในสายพระเนตรพระเจ้า เพราะบุหรี่ทำให้ร่างกายที่พระเจ้าประทานให้เราสกปรก เธอจึงเลิกสูบบุหรี่.—2 โครินท์ 7:1
ผู้ชายชื่อแฟรงก์ก็เช่นกันได้ตัดสินใจเลิกสูบบุหรี่เพื่อทำให้พระเจ้าพอพระทัย. พอเขาเลิกสูบมวนสุดท้ายได้แค่วันเดียว เขาถึงกับคลานเข้าไปใต้ถุนควานหาก้นบุหรี่มวนเก่าที่ตกลงไปในช่องไม้กระดาน. แฟรงก์พูดว่า “นั่นเป็นตอนที่ผมตัดสินใจเด็ดขาด. เมื่อเห็นตัวเองคลานบนพื้นสกปรกและคุ้ยเขี่ยหาก้นบุหรี่ ผมรู้สึกสะอิดสะเอียนมาก. ตั้งแต่นั้น ผมไม่สูบอีกเลย.”
เหตุใดยาสูบมีฤทธิ์ทำให้ติดถึงเพียงนั้น? พวกที่ศึกษาวิจัยค้นพบเหตุผลหลายประการ เช่น (1) ผลิตภัณฑ์ยาสูบมีฤทธิ์ทำให้ติดเหมือนยาเสพติด. (2) นิโคตินที่สูดเข้าไปอาจถึงสมองภายในเวลาแค่เจ็ดวินาที. (3) การสูบบุหรี่มักแยกไม่ออกจากชีวิตของคนเราเนื่องจากเกี่ยวข้องกับการกิน, การดื่ม, การพูดคุยสนทนา, การคลายเครียด, และอื่น ๆ.
กระนั้น ดังที่เออร์ลีนและแฟรงก์ได้แสดงให้เห็น เป็นไปได้ที่จะเลิกการเสพติดที่เป็นอันตรายนี้. ถ้าคุณสูบบุหรี่และต้องการเลิก การอ่านบทความต่อจากนี้อาจเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่สำหรับคุณ.
-
-
เสริมความตั้งใจให้มั่นคงตื่นเถิด! 2010 | พฤษภาคม
-
-
เสริมความตั้งใจให้มั่นคง
“ความตั้งใจแน่วแน่ที่จะเลิกสูบบุหรี่เป็นคุณลักษณะสำคัญที่สุดของนักสูบบุหรี่ที่เลิกได้สำเร็จ.”—“หยุดสูบเดี๋ยวนี้!” (ภาษาอังกฤษ)
พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าคุณอยากเลิกบุหรี่ อย่างน้อยคุณควรมีความตั้งใจมั่นที่จะทำเช่นนั้น. คุณจะเสริมความมุ่งมั่นตั้งใจโดยวิธีใด? สิ่งหนึ่งคือ พิจารณาว่าจะดีกว่าสักเพียงไรถ้าคุณเลิกได้.
คุณจะประหยัดเงิน. ถ้าคุณสูบบุหรี่วันละซอง คุณจะเสียเงินนับหมื่นบาทในหนึ่งปี. “ดิฉันไม่เคยตระหนักเลยว่าดิฉันเสียเงินมากแค่ไหนเป็นค่าบุหรี่.”—เกียนู เนปาล
คุณน่าจะชื่นชมกับชีวิตได้มากขึ้น. “ชีวิตดิฉันเริ่มต้นใหม่เมื่อดิฉันเลิกบุหรี่ และชีวิตก็ดีขึ้นเป็นลำดับ.” (เรจินา แอฟริกาใต้) เมื่อนักสูบบุหรี่เลิกสูบ ประสาทรับรสและดมกลิ่นของเขาก็ดีขึ้นมาก และโดยปกติ พวกเขาจะมีกำลังวังชาเพิ่มขึ้นและหน้าตาก็ดูดีขึ้นด้วย.
สุขภาพของคุณอาจดีขึ้น. “การเลิกบุหรี่มีคุณประโยชน์ใหญ่หลวงและเห็นได้ทันทีสำหรับทุกเพศทุกวัย.”—ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ
คุณจะมั่นใจในตัวเองมากขึ้น. “ผมเลิกบุหรี่เพราะผมไม่ต้องการให้บุหรี่เป็นนายของผม. ผมต้องการเป็นนายของตัวเอง.”—เฮนนิง เดนมาร์ก
ครอบครัวกับเพื่อน ๆ จะได้ประโยชน์. “การสูบบุหรี่ . . . ทำร้ายสุขภาพของคนรอบข้าง. . . . การศึกษาแสดงว่าควันบุหรี่มือสองทำให้หลายพันคนเสียชีวิตในแต่ละปีจากมะเร็งปอดและโรคหัวใจ.”—สมาคมมะเร็งแห่งอเมริกา
คุณจะทำให้พระผู้สร้างพอพระทัย. “พี่น้องที่รัก . . . ให้เราชำระตัวให้ปราศจากมลทินทุกอย่างทั้งทางกาย.” (2 โครินท์ 7:1) “ให้ท่านทั้งหลายถวายร่างกาย . . . ที่บริสุทธิ์ ที่พระเจ้าทรงยอมรับได้.”—โรม 12:1
“เมื่อดิฉันเข้าใจว่าพระเจ้าไม่ชอบพระทัยกับสิ่งที่ทำให้ร่างกายเป็นมลทิน ดิฉันจึงตัดสินใจเลิกสูบบุหรี่.”—ซิลเวีย สเปน
แต่บ่อยครั้ง ความตั้งใจเพียงอย่างเดียวไม่พอ. เราอาจต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่นด้วย รวมทั้งครอบครัวและเพื่อน. พวกเขาจะทำอะไรได้บ้าง?
-
-
แสวงหาการช่วยเหลือตื่นเถิด! 2010 | พฤษภาคม
-
-
แสวงหาการช่วยเหลือ
“ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดทำร้ายเขา, สองคนคงจะช่วยเขาไว้ได้.”—ท่านผู้ประกาศ 4:12
เมื่อเราได้รับการช่วยเหลือจากคนอื่น เราย่อมมีโอกาสมากขึ้นที่จะเอาชนะศัตรูได้ ไม่ว่าศัตรูนั้นจะเป็นใครหรืออะไรก็ตาม. ดังนั้น ถ้าคุณต้องการเอาชนะการติดบุหรี่ ก็นับว่าสุขุมที่คุณจะแสวงหาการช่วยเหลือจากครอบครัวและเพื่อน หรือใครก็ตามที่พร้อมจะช่วยจริง ๆ และเพียรอดทน.
จงนึกถึงการสืบหาคนที่เลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จ เนื่องจากพวกเขาไม่เพียงแต่เข้าใจความรู้สึกของคุณ แต่เต็มใจจะช่วยคุณด้วย. ทอร์เบน คริสเตียนในเดนมาร์กกล่าวว่า “การเกื้อหนุนจากคนอื่นมีค่าจริง ๆ สำหรับผม.” อับราฮามซึ่งอยู่ในอินเดียเขียนว่า “รักแท้จากครอบครัวของผมและเพื่อนคริสเตียนช่วยผมให้เลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จ.” แต่บางครั้งแม้การช่วยเหลือจากครอบครัวและเพื่อนก็ยังไม่เพียงพอ.
ชายคนหนึ่งชื่อบักวันดัสกล่าวว่า “ผมสูบบุหรี่มานานถึง 27 ปี แต่เนื่องจากได้เรียนรู้สิ่งที่คัมภีร์ไบเบิลสอนในเรื่องนิสัยที่ไม่สะอาด ผมจึงตัดสินใจเลิกบุหรี่. ผมพยายามค่อย ๆ ลด. ผมหันไปคบเพื่อนใหม่ ๆ. และแสวงหาคำปรึกษา. ไม่มีวิธีไหนได้ผล. ในที่สุด คืนหนึ่งผมเปิดใจอธิษฐานขอพระยะโฮวาพระเจ้าช่วยผมให้เลิกได้. แล้วในที่สุด ผมก็ทำได้สำเร็จ!”
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำคือเตรียมตัวรับมือกับอุปสรรคที่คุณคงจะเผชิญ. อุปสรรคอะไรบ้าง? บทความถัดไปจะอธิบาย.
[กรอบหน้า 5]
คุณควรใช้ยาบำบัดไหม?
ยาที่จะช่วยให้เลิกสูบบุหรี่ เช่น แผ่นแปะนิโคติน กลายเป็นอุตสาหกรรมหลายพันล้าน. ก่อนจะตัดสินใจใช้ยาเหล่านั้น ขอให้พิจารณาคำถามต่อไปนี้:
มีประโยชน์อะไรบ้าง? กล่าวกันว่าวิธีบำบัดหลายวิธีเพิ่มโอกาสให้คุณเลิกบุหรี่ได้โดยช่วยลดอาการถอนยา. แต่ก็มีการโต้เถียงบ้างเกี่ยวกับประสิทธิภาพในระยะยาว.
มีความเสี่ยงอะไรบ้าง? ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้, ซึมเศร้า, และคิดฆ่าตัวตาย. จำไว้ด้วยว่าวิธีบำบัดแบบนี้ก็เป็นแค่การให้นิโคตินอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพเช่นกัน. ในความเป็นจริง คนที่ใช้ยาประเภทนี้ก็ยังคงเสพย์ติดอยู่.
มีทางเลือกอะไรบ้าง? การสำรวจรายหนึ่ง แสดงว่า 88 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จพูดว่าพวกเขาหยุดสูบทันทีโดยไม่พึ่งยา.
-
-
เตรียมตัวรับมือกับอุปสรรคตื่นเถิด! 2010 | พฤษภาคม
-
-
เตรียมตัวรับมือกับอุปสรรค
“ผมตัดสินใจเลิกบุหรี่เพราะเห็นแก่สุขภาพของลูกน้อย. ผมจึงติดป้าย ‘ห้ามสูบบุหรี่’ ในบ้าน. แค่หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ความอยากนิโคตินรุนแรงราวกับคลื่นสึนามิ แล้วผมก็จุดบุหรี่สูบ.”—โยชิมิสึ ญี่ปุ่น
ประสบการณ์ของโยชิมิสึแสดงว่าการเลิกบุหรี่มีอุปสรรคเสมอ. ยิ่งกว่านั้น การศึกษาแสดงให้เห็นว่าเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของคนที่พลาดไปครั้งหนึ่งจะกลับไปติดบุหรี่อย่างเดิมอีก. ฉะนั้น ถ้าคุณกำลังพยายามจะเลิก คุณก็มีโอกาสจะประสบความสำเร็จมากกว่าถ้าคุณเตรียมรับมือกับอุปสรรค. คนส่วนใหญ่ที่พยายามจะเลิกสูบบุหรี่ประสบอุปสรรคอะไรบ้าง?
อาการอยากนิโคติน: อาการนี้จะรุนแรงที่สุดในระยะสามวันหลังจากหยุดสูบ และค่อย ๆ บรรเทาหลังจากนั้นประมาณสองสัปดาห์. อดีตนักสูบคนหนึ่งกล่าวว่า ระยะนั้น “ความอยากจะเกิดขึ้นเป็นพัก ๆ ไม่ใช่ตลอดเวลา.” อย่างไรก็ตาม แม้ผ่านไปหลายปี คุณก็อาจเกิดความอยากบุหรี่ขึ้นมาอย่างกะทันหัน. ถ้าเป็นอย่างนั้น อย่ารีบกลับไปสูบทันที. ให้คอยสักห้านาที แล้วความอยากจะค่อย ๆ หายไป.
อาการขาดยา: ทีแรก คนที่เลิกสูบอาจรู้สึกง่วงนอนหรือไม่มีสมาธิและอาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นง่าย. นอกจากนั้น พวกเขาอาจรู้สึกปวด, คัน, เหงื่อแตก, ไอ, และอารมณ์แปรปรวน เช่น ขาดความอดทน, โมโหง่าย, หรือถึงกับซึมเศร้า. แต่อาการส่วนใหญ่จะค่อย ๆ หายไปภายในสี่ถึงหกสัปดาห์.
ในระหว่างช่วงวิกฤตินี้ มีบางสิ่งที่คุณทำได้เพื่อบรรเทาอาการ. ตัวอย่างเช่น:
• นอนหลับให้มากขึ้น.
• ดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้มาก ๆ. กินอาหารที่มีประโยชน์.
• ออกกำลังกายพอประมาณ.
• หายใจลึก ๆ และนึกภาพว่ามีอากาศบริสุทธิ์เข้าไปอยู่เต็มปอด.
ตัวกระตุ้น: มีกิจกรรมหรือความรู้สึกบางอย่างที่อาจกระตุ้นให้อยากสูบบุหรี่. ตัวอย่างเช่น ปกติแล้วคุณอาจสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มไปด้วย. หากเป็นแบบนั้น เมื่อคุณเลิกบุหรี่ อย่ามัวใช้เวลาละเลียดเครื่องดื่ม. แน่นอน เมื่อเวลาผ่านไป คุณก็จะสามารถเพลิดเพลินกับการดื่มโดยไม่ต้องรีบเร่ง.
กระนั้น การเชื่อมโยงทางความคิดเช่นนี้อาจคงอยู่นานหลังจากร่างกายของคุณไม่มีสารนิโคตินแล้ว. ทอร์เบนที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ยอมรับว่า “สิบเก้าปีหลังจากเลิกสูบ ผมยังคงนึกอยากสูบระหว่างช่วงพักดื่มกาแฟ.” อย่างไรก็ดี โดยทั่วไปแล้ว การเชื่อมโยงทางความคิดระหว่างการสูบบุหรี่กับกิจกรรมบางอย่างจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป.
ในกรณีของแอลกอฮอล์ สภาพการณ์ไม่ได้เป็นเช่นนั้น. ที่จริง เมื่อคุณกำลังพยายามเลิกสูบบุหรี่ คุณอาจต้องงดการดื่มแอลกอฮอล์และเลี่ยงสถานที่ซึ่งมีการขายแอลกอฮอล์ เพราะหลายครั้งการพลาดกลับไปสูบอีกเกิดขึ้นเมื่อคนนั้นดื่มแอลกอฮอล์. เพราะเหตุใด?
• แม้แต่แอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อยก็เพิ่มความเพลิดเพลินจากนิโคตินได้.
• การดื่มในงานสังคมมักเกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่อย่างแยกไม่ออก.
• แอลกอฮอล์ทำให้วิจารณญาณบกพร่องและการยับยั้งใจลดลง. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวอย่างถูกต้องว่า “เหล้าองุ่นใหม่ย่อมปลิดเอาสติไปเสีย.”—โฮเซอา 4:11
เพื่อน: จงเลือกเพื่อนอย่างสุขุม. เพื่อเป็นตัวอย่าง หลีกเลี่ยงการคบหากับคนที่สูบบุหรี่หรือคนที่ชวนคุณให้สูบ. นอกจากนั้น อยู่ห่างจากคนที่พยายามทำให้คุณล้มเลิกความตั้งใจ เช่น คนที่เยาะเย้ยคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้.
อารมณ์: ในการศึกษาครั้งหนึ่ง เกือบสองในสามของคนที่กลับไปสูบจะรู้สึกเครียดหรือโมโหในช่วงก่อนพลาดไปสูบอีก. ถ้าความรู้สึกบางอย่างกระตุ้นให้อยากสูบ จงเปลี่ยนไปทำสิ่งอื่นแทน เช่น อาจดื่มน้ำ, เคี้ยวหมากฝรั่ง, หรือออกไปเดินเล่น. พยายามคิดแต่เรื่องดี ๆ โดยอาจทูลต่อพระเจ้าในคำอธิษฐาน หรืออ่านคัมภีร์ไบเบิลสักสองสามหน้า.—บทเพลงสรรเสริญ 19:14
ความคิดที่ควรหลีกเลี่ยง
• ขอสูบอีกทีเดียวเท่านั้น.
ความจริง: การสูบเพียงครั้งเดียวอาจทำให้ตัวรับนิโคตินในสมองถึง 50 เปอร์เซ็นต์เกิดความเพลิดเพลินเป็นเวลาสามชั่วโมง. บ่อยครั้ง ผลก็คือการหวนกลับไปติดบุหรี่อีก.
• การสูบบุหรี่ช่วยผมรับความเครียดได้.
ความจริง: การศึกษาระบุว่าจริง ๆ แล้ว นิโคตินเพิ่มระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความเครียด. ส่วนใหญ่แล้ว ความรู้สึกว่าความเครียดบรรเทาลงอาจเป็นเพราะอาการขาดยาทุเลาลงชั่วคราว.
• สายไปแล้วสำหรับฉันที่จะเลิก.
ความจริง: การคิดในทางลบย่อมบั่นทอนความตั้งใจแน่วแน่. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “ถ้าเจ้าป้อแป้ในวันที่มีความทุกข์ยากก็เห็นได้ว่ากำลังของเจ้านั้นน้อย.” (สุภาษิต 24:10) ดังนั้น จงเลี่ยงการคิดแบบคนขี้แพ้. ใครก็ตามที่ต้องการเลิกและใช้หลักการต่าง ๆ เช่นที่กล่าวมาในวารสารนี้ ก็สามารถประสบความสำเร็จได้.
• ผมทนอาการขาดยาไม่ไหวหรอก.
ความจริง: จริงอยู่ อาการขาดยาอาจรุนแรงมาก แต่มันจะค่อย ๆ หายไปภายในไม่กี่สัปดาห์. ดังนั้น จงตั้งใจให้ดี! ถ้าคุณรู้สึกอยากสูบบุหรี่หลังจากเลิกไปแล้วหลายเดือนหรือหลายปี ภายในไม่กี่นาทีความรู้สึกนั้นคงจะหายไป—ถ้าคุณไม่จุดบุหรี่สูบ.
• ฉันป่วยทางจิต.
ความจริง: ถ้าคุณกำลังรับการรักษาอาการทางจิต เช่น โรคซึมเศร้าหรือโรคจิตเภท จงขอร้องแพทย์ช่วยคุณให้เลิกสูบบุหรี่. แพทย์คงยินดีช่วยคุณ โดยติดตามดูวิธีบำบัดและยาที่คุณใช้ขณะพยายามเลิกสูบบุหรี่.
• ถ้าผมพลาดกลับไปสูบอีก ผมรู้สึกว่าเป็นคนล้มเหลว.
ความจริง: ถ้าคุณพลาดกลับไปสูบอีก เหมือนอีกหลายคนที่พยายามจะเลิกสูบ ก็ใช่ว่าจะหมดหวังเสียเลย. จงพยายามต่อไป. การพลาดพลั้งไม่ได้หมายถึงการล้มเหลว. แต่การไม่พยายามต่อ ๆ ไปนั่นแหละคือการล้มเหลว. ฉะนั้น จงตั้งใจแน่วแน่. ในที่สุดคุณจะทำได้สำเร็จ!
ขอพิจารณาประสบการณ์ของโรมูอัลโด ซึ่งเคยสูบบุหรี่นานถึง 26 ปีและเลิกมาแล้วกว่า 30 ปี. เขาเขียนว่า “ผมพลาดกลับไปสูบอีกนับครั้งไม่ถ้วน. แต่ละครั้ง ผมรู้สึกแย่มาก เหมือนกับว่าผมหมดหวังจะเลิกได้. อย่างไรก็ดี เมื่อผมตั้งใจแน่วแน่จะสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับพระยะโฮวาพระเจ้าและอธิษฐานทูลขอครั้งแล้วครั้งเล่าให้พระองค์ช่วย ผมก็เลิกได้อย่างถาวร.”
ในบทความสุดท้ายของชุดนี้ เราจะพิจารณาข้อแนะในภาคปฏิบัติอีกสักสองสามข้อซึ่งอาจช่วยคุณให้เป็นอดีตนักสูบบุหรี่ที่มีความสุขได้.
[กรอบ/ภาพหน้า 7]
อันตรายถึงตายไม่ว่าในรูปแบบใด
มีการใช้ยาสูบในหลายรูปแบบ. ผลิตภัณฑ์ยาสูบบางอย่างมีขายแม้กระทั่งในร้านอาหารเพื่อสุขภาพและร้านขายยาสมุนไพร. ถึงกระนั้น องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า “ยาสูบทุกรูปแบบเป็นอันตรายถึงตาย.” ความตายที่เกี่ยวข้องกับยาสูบอาจเกิดขึ้นจากหลายโรค เช่น มะเร็งและโรคหัวใจ. มารดาที่สูบบุหรี่อาจทำให้ทารกในครรภ์ได้รับอันตราย. ตามปกติ ผลิตภัณฑ์ยาสูบมีรูปแบบใดบ้าง?
บิดี: บุหรี่มวนเล็ก ๆ ที่มวนด้วยมือนี้มีแพร่หลายในแถบเอเชีย. การสูบบิดีจะได้รับน้ำมันดิน, นิโคติน, และคาร์บอนมอนอกไซด์มากกว่าการสูบบุหรี่ทั่ว ๆ ไปหลายเท่า.
ซิการ์: ซิการ์เป็นยาสูบที่มวนด้วยใบยาสูบจนแน่นหรือมวนด้วยกระดาษที่ทำจากใบยาสูบ. เมื่อเทียบกับยาสูบที่เป็นกรดในบุหรี่แล้ว ยาสูบซึ่งเป็นด่างเล็กน้อยในซิการ์ทำให้นิโคตินถูกดูดซึมเข้าทางปากได้แม้จะไม่จุดไฟ.
ครีเทก หรือบุหรี่กานพลู: บุหรี่ชนิดนี้ปกติแล้วมียาสูบ 60 เปอร์เซ็นต์และกานพลู 40 เปอร์เซ็นต์. การสูบบุหรี่ชนิดนี้ได้รับน้ำมันดิน, นิโคติน, และคาร์บอนมอนอกไซด์มากกว่าการสูบบุหรี่ทั่ว ๆ ไป.
กล้องยาสูบ (ไปป์): การสูบกล้องไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่ เพราะทั้งสองอย่างอาจก่อโรคชนิดเดียวกันได้ เช่น มะเร็งและโรคอื่น ๆ.
ยาสูบไร้ควัน: นี่รวมถึงการเคี้ยวยาเส้น, นัดยา, และกุตคา ที่แต่งรสซึ่งสูบกันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้. นิโคตินถูกดูดซึมทางปากเข้าไปในเส้นเลือด. การใช้ยาสูบไร้ควันเป็นอันตรายเทียบเท่ากับการใช้ยาสูบชนิดอื่น ๆ.
มอระกู่ (บาลากู่), ฮุคคา, นาจิเล, ชิชา: ด้วยการใช้เครื่องสูบยาชนิดนี้ ควันจะผ่านน้ำก่อนถูกสูดเข้าไป. ถึงกระนั้น นี่ก็อาจไม่ได้ลดสารพิษต่าง ๆ รวมทั้งสารก่อมะเร็งซึ่งเข้าไปในปอด.
[กรอบ/ภาพหน้า 8]
การช่วยคนอื่นให้เลิกบุหรี่
• พูดในทางบวก. การชมเชยและให้รางวัลจะดีกว่าการพูดเหน็บแนมและสอนยืดยาว. การพูดว่า “ผมคิดว่าคุณคงทำได้ถ้าพยายามอีกครั้ง” จะมีพลังกว่าการพูดว่า “ทำไมแค่นี้คุณก็ทำไม่ได้?”
• ให้อภัย. พยายามเต็มที่ที่จะมองข้ามความโกรธหรือความหงุดหงิดของคนที่พยายามจะเลิก. ใช้คำพูดที่กรุณา เช่น “ฉันรู้ว่านี่มันยาก แต่ฉันก็ภูมิใจนะที่คุณพยายาม.” อย่า พูดว่า “ตอนที่คุณยังสูบบุหรี่ ฉันชอบคุณมากกว่า!”
• เป็นเพื่อนแท้. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “มิตรแท้ย่อมรักอยู่ทุกเวลา และเป็นพี่น้องซึ่งเกิดมาเพื่อยามที่มีความทุกข์ยาก.” (สุภาษิต 17:17, ล.ม.) พยายามเพียรอดทนและกรุณา “ทุกเวลา” ต่อคนที่พยายามจะเลิก ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดหรืออารมณ์เขาจะเป็นเช่นไร.
-
-
คุณเอาชนะได้!ตื่นเถิด! 2010 | พฤษภาคม
-
-
คุณเอาชนะได้!
ถึงเวลาที่คุณจะต้อง “ตั้งใจมั่นคงและกระทำให้สำเร็จ.” (1 โครนิกา 28:10) อะไรคือขั้นตอนท้าย ๆ ที่คุณจะทำได้เพื่อเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จ?
กำหนดวัน. กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษยชนแห่งสหรัฐแนะนำว่าเมื่อคุณตัดสินใจจะเลิก คุณควรกำหนดวันที่จะเริ่มเลิกบุหรี่ไว้ภายในสองสัปดาห์. โดยวิธีนี้คุณจะยังคงมุ่งมั่นอยู่. หมายวันนั้นไว้ในปฏิทิน, บอกเพื่อนของคุณ, และไม่ผัดเลื่อนไปแม้สภาพการณ์ของคุณเปลี่ยนแปลง.
ทำ “บัตรเลิกบุหรี่.” บัตรนี้อาจมีข้อมูลต่อไปนี้ รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ที่อาจเสริมความมุ่งมั่นตั้งใจของคุณ:
• เหตุผลที่คุณเลิกบุหรี่
• หมายเลขโทรศัพท์คนที่คุณจะติดต่อได้ในเวลาที่คุณไม่สามารถระงับอาการอยากบุหรี่
• แนวคิดบางเรื่อง—อาจรวมเอาข้อคัมภีร์ เช่น กาลาเทีย 5:22, 23—ซึ่งจะช่วยคุณบรรลุเป้าหมาย
พกบัตรเลิกบุหรี่ติดตัวตลอดเวลา และอ่านวันละหลาย ๆ ครั้ง. แม้หลังจากเลิกได้แล้ว ให้หยิบเอาบัตรนั้นขึ้นมาอ่านเมื่อใดก็ตามที่นึกอยากจะสูบบุหรี่.
เปลี่ยนความเคยชิน. ก่อนจะถึงวันเลิก ให้เริ่มเปลี่ยนนิสัยใด ๆ ที่ชวนให้อยากบุหรี่. ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณสูบบุหรี่ทันทีที่ตื่นนอนตอนเช้า ให้เลื่อนการสูบบุหรี่ออกไปสักหนึ่งชั่วโมง. ถ้าคุณสูบบุหรี่ระหว่างหรือหลังจากรับประทานอาหาร ให้เปลี่ยนกิจวัตรเช่นนั้น. หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนสูบบุหรี่. และฝึกพูดออกเสียงกับตัวเองว่า “ไม่ครับ. ผมเลิกแล้ว.” ขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยเตรียมคุณไว้สำหรับวันที่จะเริ่มจริง ๆ. นี่จะช่วยเตือนคุณด้วยว่าไม่นานคุณจะกลายเป็น อดีตนักสูบ.
เตรียมพร้อม. เมื่อวันเลิกบุหรี่ใกล้เข้ามา ให้หาสิ่งต่อไปนี้มาเคี้ยวแทนเมื่อนึกอยากบุหรี่ เช่น แครอทเป็นชิ้น ๆ, หมากฝรั่ง, ถั่ว, และอื่น ๆ. ย้ำกับเพื่อน ๆ และครอบครัวถึงวันที่คุณจะเลิก และบอกเขาให้สนับสนุนคุณด้วย. ก่อนจะถึงวันนั้น ให้ทิ้งที่เขี่ยบุหรี่, ไฟแช็ก, และสิ่งล่อใจใด ๆ เช่น บุหรี่ที่วางไว้รอบ ๆ บ้าน, ในรถยนต์, ในกระเป๋าเสื้อ, หรือที่ทำงาน. แน่นอน การขอบุหรี่จากเพื่อนหรือออกไปซื้อมานั้นยากกว่าการหยิบบุหรี่จากลิ้นชัก! นอกจากนั้น ให้อธิษฐานขอการช่วยเหลือจากพระเจ้าอยู่เสมอ และอธิษฐานอย่างแรงกล้ายิ่งขึ้นหลังจากสูบบุหรี่มวนสุดท้ายแล้ว.—ลูกา 11:13
ผู้คนนับไม่ถ้วนได้ “เลิกคบ” กับเพื่อนจอมปลอมที่ร้ายกาจนี้ คือบุหรี่. คุณก็ทำได้เช่นกัน. แล้วคุณจะมีสุขภาพดีขึ้นและรู้สึกเป็นอิสระอย่างแท้จริง.
[ภาพหน้า 9]
พกบัตรเลิกบุหรี่ติดตัวตลอดเวลา และอ่านวันละหลาย ๆ ครั้ง
-