คำแนะนำสำหรับครอบครัว | ชีวิตคู่
คุณสนิทกับเขาเกินเพื่อนหรือเปล่า?
ปัญหา
คุณมีเพื่อนต่างเพศคนหนึ่งที่รู้ใจคุณจริง ๆ. คุณสองคนคุยกันได้ทุกเรื่อง. คุณบอกตัวเองว่า ‘เราเป็นแค่เพื่อนกัน’ แต่คู่ของคุณอาจไม่คิดอย่างนั้น ถ้าเขาเห็นคุณชอบคุยกับเพื่อนคนนั้นนาน ๆ.
อาจเป็นได้ว่าคุณกำลังสนิทกับเพื่อนคนนั้นมากเกินไปและคุณจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อแก้ไขสถานการณ์. แต่ก่อนอื่นลองวิเคราะห์ดูว่าอะไรอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณสนิทกับเขาขนาดนั้น.
สาเหตุของปัญหา
รู้สึกดี. พูดง่าย ๆ คือ คนเรามักจะรู้สึกปลาบปลื้มถ้ามีเพศตรงข้ามมาสนใจ. เมื่อรู้ว่ามีคนเห็นค่าในตัวเรา เราก็อดภูมิใจไม่ได้และรู้สึกว่าตัวเองมีเสน่ห์. หลังจากแต่งงานได้ระยะหนึ่ง ความมั่นใจของคุณอาจลดลง คุณจึงอยากได้ยินคำพูดดี ๆ ที่ให้กำลังใจจากใครสักคน แต่ขอให้รู้ว่าถ้าคุณต้องการสิ่งนี้จากคนอื่นที่ไม่ใช่คู่สมรส คุณอาจต้องเสียใจภายหลัง. เมื่อคุณสร้างความผูกพันทางอารมณ์กับเพื่อนต่างเพศ คุณก็กำลังบั่นทอนสายสัมพันธ์ของคุณกับคู่สมรส. พูดอีกอย่างก็คือ คุณเอาความรักที่ควรจะให้กับคู่ของคุณไปให้คนอื่น.
• ถามตัวเองว่า ‘มีอะไรบ้างที่ฉันได้รับจากเพื่อนคนนั้นซึ่งจริง ๆ แล้วน่าจะเหมาะกว่าถ้าได้รับจากคู่สมรส?’
ต้องการคนเห็นใจ. คัมภีร์ไบเบิลยอมรับว่าคนที่แต่งงานแล้วจะประสบ ‘ความลำบาก’ ไม่มากก็น้อย. (1 โครินท์ 7:28) ตัวอย่างเช่น บางครั้งคุณอาจรู้สึกว่าคู่สมรสไม่สนใจไยดีหรือไม่เห็นคุณค่าในตัวคุณ หรือคุณอาจขุ่นเคืองกับปัญหาที่ยังคาใจอยู่. บางทีคู่ของคุณอาจบ่ายเบี่ยงไม่ยอมพูดเรื่องนั้น ทำให้คุณหงุดหงิดอารมณ์เสียและต้องการความเห็นใจจากคนอื่น. ผู้เชี่ยวชาญบางคนบอกว่า การหลบเลี่ยงไม่ยอมพูดถึงปัญหาสำคัญ ๆ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าชีวิตคู่เริ่มไม่ราบรื่น และอาจนำไปสู่การหย่าร้าง.
• ถามตัวเองว่า ‘มีปัญหาอะไรในชีวิตสมรสที่ทำให้ฉันต้องการความเห็นใจอย่างไม่เหมาะสมจากเพื่อนต่างเพศไหม?’
สิ่งที่คุณทำได้
คิดถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น. คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “เป็นไปได้หรือที่คนเราจะเล่นกับไฟโดยที่เสื้อผ้าของเขาไม่ถูกไฟไหม้?” (สุภาษิต 6:27, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย ) ความจริงก็คือการสร้างความผูกพันรักใคร่กับคนอื่นทั้ง ๆ ที่คุณแต่งงานแล้วเป็นเรื่องอันตรายมาก. (ยาโกโบ 1:14, 15) อย่าคิดว่ามันอาจไม่เกิดขึ้นกับคุณ. ลองคิดให้ดีสิว่ามีอะไรเกิดขึ้นแล้วบ้าง. การที่คุณให้ความสนใจคนอื่นมากเกินไปก็เท่ากับคุณขโมยความสนใจที่คู่สมรสควรได้รับไปให้คนอื่น.
เลิกหลอกตัวเอง. ถ้าคุณสนิทกับเพื่อนคนนี้มาก ๆ เข้า วันหนึ่งคุณอาจเริ่มคิดว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรถ้าคุณได้แต่งงานกับเขา. แต่การทำเช่นนั้นเป็นการเปรียบเทียบข้อดีของเพื่อนกับข้อบกพร่องของคู่สมรสซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมเลย! จำไว้ด้วยว่า ความรู้สึกดี ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อคุณนึกถึงเพื่อนคนนั้นอาจเป็นความรู้สึกแบบที่คุณเคยมีกับคู่สมรสในตอนแรก.—คำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิล: ยิระมะยา 17:9
กำหนดขอบเขต. หลายคนติดตั้งสัญญาณเตือนภัยในรถหรือในบ้านเพื่อป้องกันขโมย. คุณอาจทำแบบเดียวกันนี้ในชีวิตสมรสของคุณ. คัมภีร์ไบเบิลแนะนำว่า “จงรักษาใจของเจ้าไว้.” (สุภาษิต 4:23) คุณจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร? ลองวิธีต่อไปนี้:
แสดงอย่างชัดเจนว่าคุณแต่งงานแล้ว เช่น วางรูปคู่สมรสไว้บนโต๊ะทำงาน.—คำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิล: เยเนซิศ 2:24
วางกฎให้ตัวเองว่าจะทำหรือไม่ทำอะไรกับเพื่อนต่างเพศ. ตัวอย่างเช่น คงไม่เหมาะที่จะเล่าปัญหาครอบครัวให้เขาฟัง หรือไปกินไปดื่มด้วยกันสองต่อสอง.
ถ้าคุณรู้ตัวว่าสนิทกับเพื่อนต่างเพศมากเกินไปแล้ว คุณต้องยุติความสัมพันธ์นั้น. ถ้าคุณรู้สึกว่าตัดใจไม่ได้ ให้ถามตัวเองว่าทำไม. แทนที่จะพยายามรักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนคนนั้นเอาไว้ ขอให้คุณคิดถึงคู่สมรส และทำทุกสิ่งเพื่อปกป้องชีวิตสมรสของคุณ.—คำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิล: สุภาษิต 5:18, 19