ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์

ความทุกข์ยากที่นำไปสู่ความหวัง

หอสังเกตการณ์ 2011 | 1 พฤษภาคม
- ความทุกข์ยากที่นำไปสู่ความหวัง
  
  “ในสมัยสุดท้ายจะเกิดวิกฤตกาลซึ่งยากจะรับมือได้.”—2 ติโมเธียว 3:1
  
  คุณเคยได้ยินหรือได้เห็นเหตุการณ์น่าเศร้าเหล่านี้บ้างไหม?
  
  ● โรคร้ายคร่าชีวิตผู้คนนับร้อย.
  
  ● ความอดอยากทำให้หลายพันคนล้มตาย.
  
  ● แผ่นดินไหวเป็นเหตุให้หลายหมื่นคนเสียชีวิตและคนอีกมากมายไร้ที่อยู่อาศัย.
  
  ในบทความต่อจากนี้ คุณจะได้ทบทวนข้อเท็จจริงบางอย่างที่อาจทำให้คุณต้องคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ทำนองนี้. นอกจากนั้น คุณจะได้เห็นว่าคัมภีร์ไบเบิลมีคำพยากรณ์ที่บ่งชี้ว่าเหตุการณ์เหล่านั้นจะต้องเกิดขึ้นในช่วงที่เรียกว่า “สมัยสุดท้าย.”a
  
  อย่างไรก็ตาม บทความชุดนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อทำให้คุณเชื่อว่าเราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์. คุณคงประสบพบเห็นความทุกข์ยากเหล่านั้นด้วยตัวเองอยู่แล้ว. ดังนั้น บทความชุดนี้เขียนขึ้นเพื่อให้คุณมีความหวัง. คุณจะได้เห็นว่าความสำเร็จเป็นจริงของคำพยากรณ์หกเรื่องนี้แสดงว่า “สมัยสุดท้าย” กำลังจะสิ้นสุดในไม่ช้า. นอกจากนั้น บทความชุดนี้จะพิจารณาข้อโต้แย้งที่มักถูกยกขึ้นมากล่าว และยังให้เหตุผลที่มีน้ำหนักซึ่งทำให้เชื่อว่ามีอนาคตที่ดีกว่ารออยู่ข้างหน้า.
  
  [เชิงอรรถ]
  
  a เพื่อจะทราบเหตุผลที่พระเจ้ายอมให้สภาพการณ์เลวร้ายเช่นนี้เกิดขึ้น โปรดดูบทความ “ทำไมพระเจ้ายอมให้มีความชั่วและความทุกข์?” ในหน้า 16 และ 17 ของวารสารนี้.

คำพยากรณ์ 1. แผ่นดินไหว

หอสังเกตการณ์ 2011 | 1 พฤษภาคม
- คำพยากรณ์ 1. แผ่นดินไหว
  
  “จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่.”—ลูกา 21:11
  
  ● วินนี หนูน้อยวัยประมาณขวบครึ่งถูกดึงออกมาจากซากปรักหักพังในเฮติ. นักข่าวทีวีคนหนึ่งซึ่งกำลังรายงานข่าวแผ่นดินไหวอยู่ในบริเวณนั้นได้ยินเสียงร้องที่แผ่วเบาของเธอ. หนูน้อยคนนี้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหว แต่พ่อแม่ของเธอไม่รอด.
  
  ข้อเท็จจริงคืออะไร? แผ่นดินไหวขนาด 7.0 ริกเตอร์ในเฮติเมื่อเดือนมกราคม 2010 ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 300,000 คน. ประชาชนอีก 1.3 ล้านคนกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัยในชั่วพริบตา. แม้ว่าแผ่นดินไหวที่เฮติครั้งนี้จะรุนแรงมาก แต่เหตุการณ์ทำนองนี้ก็เกิดขึ้นอยู่เนือง ๆ. ตลอดทั่วโลกมีแผ่นดินไหวใหญ่เกิดขึ้นอย่างน้อย 18 ครั้งในช่วงเดือนเมษายน 2009 ถึงเดือนเมษายน 2010.
  
  คนทั่วไปแย้งว่าอย่างไร? แผ่นดินไหวไม่ได้มีมากขึ้น แต่เนื่องจากมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เราจึงได้ยินข่าวเกี่ยวกับแผ่นดินไหวมากกว่าผู้คนในอดีต.
  
  ข้อโต้แย้งนี้มีเหตุผลไหม? ขอให้สังเกตข้อเท็จจริงนี้: คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้เน้นว่าในสมัยสุดท้ายจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นกี่ครั้ง. แต่พระคัมภีร์กล่าวว่าจะมี “แผ่นดินไหวใหญ่” เกิดขึ้น “แห่งแล้วแห่งเล่า.” การเกิดแผ่นดินไหวใหญ่เป็นลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของยุคนี้ที่มีความสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์.—มาระโก 13:8; ลูกา 21:11
  
  คุณคิดอย่างไร? เรากำลังเห็นแผ่นดินไหวใหญ่อย่างที่คัมภีร์ไบเบิลพยากรณ์ไว้ไหม?
  
  แผ่นดินไหวเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่หลักฐานที่ยืนยันได้อย่างหนักแน่นว่าเรากำลังอยู่ในสมัยสุดท้าย. คำพยากรณ์เรื่องแผ่นดินไหวเป็นเพียงข้อหนึ่งในหลาย ๆ ข้อที่กำลังสำเร็จเป็นจริง. ให้เรามาดูคำพยากรณ์เรื่องที่สอง.
  
  [คำโปรยหน้า 4]
  
  “พวกเรา [นักธรณีฟิสิกส์] เรียกเหตุการณ์เช่นนี้ว่าแผ่นดินไหวใหญ่. ส่วนคนอื่นเรียกว่าหายนะภัย.”—เคน ฮัดนัต, สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐ
  
  [ที่มาของภาพหน้า 4]
  
  © William Daniels/Panos Pictures

คำพยากรณ์ 2. การขาดแคลนอาหาร

หอสังเกตการณ์ 2011 | 1 พฤษภาคม
- คำพยากรณ์ 2. การขาดแคลนอาหาร
  
  “จะเกิดการขาดแคลนอาหาร.”—มาระโก 13:8
  
  ● ชายคนหนึ่งหนีไปอยู่ที่หมู่บ้านกวาราเทอจี ประเทศไนเจอร์. ญาติพี่น้องของเขาก็อพยพมาจากตอนกลางของประเทศเพื่อหนีความอดอยากเช่นกัน. แต่ชายคนนี้นอนหมดอาลัยตายอยากอยู่คนเดียวบนเสื่อ. ทำไมเขาจึงอยู่อย่างเดียวดายเช่นนั้น? ผู้ใหญ่บ้านชื่อซิดิบอกว่า “เขาไม่สามารถหาเลี้ยง [ครอบครัว] ได้และไม่อาจทนดูหน้าลูกเมียได้อีกต่อไป.”
  
  ข้อเท็จจริงคืออะไร? ประชากรโลกประมาณ 1 ใน 7 คนมีอาหารไม่พอกินในแต่ละวัน. สภาพการณ์ทางใต้ของทะเลทรายสะฮาราในทวีปแอฟริกายิ่งแย่กว่านั้น คือมีประชากร 1 ใน 3 คนที่อดอยากหิวโหยอยู่ตลอดเวลา. เพื่อจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น ขอให้นึกถึงครอบครัวที่มีพ่อ แม่ และลูกเล็ก ๆ หนึ่งคน. ถ้ามีอาหารพอสำหรับแค่สองคน ใครจะเป็นคนที่ต้องอด? พ่อ? แม่? หรือลูก? สำหรับครอบครัวที่อดอยาก นี่เป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจทุกวัน.
  
  คนทั่วไปแย้งว่าอย่างไร? แผ่นดินโลกผลิตอาหารได้มากพอที่จะเลี้ยงมนุษย์ทุกคนได้อย่างเหลือเฟือ เพียงแต่ต้องบริหารจัดการทรัพยากรโลกให้ดีกว่านี้.
  
  ข้อโต้แย้งนี้มีเหตุผลไหม? จริงอยู่ เกษตรกรสามารถผลิตและขนส่งอาหารได้มากกว่าที่เคยทำกันมาในอดีต. ตามจริงแล้ว รัฐบาลมนุษย์น่าจะจัดการกับผลผลิตของโลกและแก้ไขปัญหาความอดอยากได้. แต่หลังจากพยายามมาหลายสิบปีแล้ว รัฐบาลต่าง ๆ ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้.
  
  คุณคิดอย่างไร? คำพยากรณ์ที่มาระโก 13:8 กำลังสำเร็จเป็นจริงไหม? แม้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ จะก้าวหน้าไปมาก แต่การขาดแคลนอาหารก็ยังเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกมิใช่หรือ?
  
  เมื่อมีแผ่นดินไหวและการขาดแคลนอาหารก็มักจะมีปัญหาอื่น ๆ ตามมา. ปัญหาเหล่านี้เป็นผลพวงจากสัญญาณอีกอย่างหนึ่งของสมัยสุดท้าย.
  
  [คำโปรยหน้า 5]
  
  “มากกว่าหนึ่งในสามของเด็กที่เสียชีวิตด้วยโรคปอดบวม โรคท้องร่วง และโรคอื่น ๆ อาจรอดชีวิตได้ ถ้าเด็กเหล่านั้นได้รับอาหารเพียงพอ.”—แอนน์ เอ็ม. เวเนอแมน, อดีตผู้อำนวยการบริหารกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ
  
  [ที่มาของภาพหน้า 5]
  
  © Paul Lowe/Panos Pictures

คำพยากรณ์ 3. โรคภัย

หอสังเกตการณ์ 2011 | 1 พฤษภาคม
- คำพยากรณ์ 3. โรคภัย
  
  “จะเกิด . . . โรคภัยในที่ต่าง ๆ.”—ลูกา 21:11, ฉบับ R73
  
  ● บอนซาลีเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในประเทศหนึ่งแถบแอฟริกาซึ่งย่อยยับเพราะสงครามกลางเมือง. เขาพยายามช่วยคนงานเหมืองในเมืองของเขาที่กำลังจะตายเพราะไข้เลือดออกมาร์บูร์ก แต่เขาก็ทำอะไรแทบไม่ได้เลย.a เขาขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ในเมืองที่ใหญ่กว่าแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ. ในที่สุด สี่เดือนหลังจากนั้นก็มีการส่งความช่วยเหลือมา แต่บอนซาลีตายเสียแล้ว. เขาติดเชื้อจากคนงานเหมืองที่เขาพยายามช่วยชีวิตเอาไว้.
  
  ข้อเท็จจริงคืออะไร? โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง (เช่น ปอดบวม) โรคท้องร่วง เอชไอวี/เอดส์ วัณโรค และโรคมาลาเรียจัดอยู่ในกลุ่มโรคภัยที่ทำให้ผู้คนล้มตายมากที่สุด. ในปี 2004 เพียงปีเดียว โรคทั้งห้าชนิดนี้ทำให้ผู้คนประมาณ 10.7 ล้านคนเสียชีวิต. พูดอีกอย่างหนึ่งคือ ตลอดทั้งปีนั้นมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคเหล่านี้ประมาณหนึ่งคนในทุก ๆ สามวินาที.
  
  คนทั่วไปแย้งว่าอย่างไร? เมื่อประชากรโลกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โรคภัยไข้เจ็บก็ย่อมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย. คนที่เจ็บป่วยก็ต้องมีมากขึ้นเป็นธรรมดา.
  
  ข้อโต้แย้งนี้มีเหตุผลไหม? จำนวนประชากรโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว. แต่มนุษย์ก็มีความสามารถมากขึ้นที่จะวินิจฉัย ควบคุม และรักษาโรค. ดังนั้น ตามหลักเหตุผลแล้วโรคภัยที่คุกคามชีวิตมนุษย์ก็น่าจะลดน้อยลงมิใช่หรือ? แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น.
  
  คุณคิดอย่างไร? ผู้คนกำลังทนทุกข์เพราะโรคภัยอย่างที่คัมภีร์ไบเบิลบอกล่วงหน้าไหม?
  
  แผ่นดินไหว การขาดแคลนอาหาร และโรคต่าง ๆ เป็นภัยคุกคามที่คร่าชีวิตผู้คนนับล้าน. ภัยเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากน้ำมือมนุษย์. แต่ยังมีอีกหลายล้านคนที่ต้องทนทุกข์เนื่องจากการกระทำของมนุษย์ด้วยกันเอง และหลายคนก็ตกเป็นเหยื่อของคนที่น่าจะปกป้องคุ้มครองเขาด้วยซ้ำ. ขอให้สังเกตสิ่งที่คัมภีร์ไบเบิลพยากรณ์ไว้ว่าจะต้องเกิดขึ้น.
  
  [เชิงอรรถ]
  
  a ไข้เลือดออกมาร์บูร์กเกิดจากไวรัสประเภทเดียวกับไวรัสอีโบลา.
  
  [คำโปรยหน้า 6]
  
  “เป็นเรื่องน่าสยดสยองมากหากถูกสิงโตหรืออะไร ๆ กัดกินร่างกายภายนอก แต่ที่น่าสยดสยองไม่แพ้กันก็คือการถูกโรคร้ายที่น่ากลัวกัดกินอยู่ภายในและได้เห็นว่าผู้คนรอบข้างก็ล้วนเผชิญชะตากรรมอย่างเดียวกัน.”—ไมเคิล ออสเทอร์โฮล์ม, นักวิทยาการระบาด
  
  [ที่มาของภาพหน้า 6]
  
  © William Daniels/Panos Pictures

คำพยากรณ์ 4. ไม่มีความรักต่อคนในครอบครัว

หอสังเกตการณ์ 2011 | 1 พฤษภาคม
- คำพยากรณ์ 4. ไม่มีความรักต่อคนในครอบครัว
  
  “คนจะ . . . ไม่มีความรักใคร่ตามธรรมชาติ.”—2 ติโมเธียว 3:1-3
  
  ● คริสทำงานให้กับศูนย์ช่วยเหลือผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวในแคว้นนอร์ทเวลส์. เขาเล่าว่า “ผมจำได้ว่าผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาหาเราในสภาพที่ถูกทุบตีหน้าตายับเยินจนผมนึกไม่ออกว่าเคยพบเธอมาก่อน. ผู้หญิงอีกหลายคนก็ถูกทำร้ายจนจิตใจบอบช้ำมาก พวกเธอถึงกับไม่อยากมองหน้าใคร.”
  
  ข้อเท็จจริงคืออะไร? ในประเทศหนึ่งแถบแอฟริกา ผู้หญิงราว ๆ 1 ใน 3 คนเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศเมื่อเป็นเด็ก. การสำรวจครั้งหนึ่งในประเทศดังกล่าวแสดงว่า ผู้ชายมากกว่าหนึ่งในสามคนคิดว่าการทุบตีภรรยาเป็นเรื่องธรรมดา. อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว. ตัวอย่างเช่น ในแคนาดาผู้ชายประมาณ 3 ใน 10 คนเคยถูกคู่สมรสทุบตีหรือทำร้ายร่างกายด้วยวิธีอื่น ๆ.
  
  คนทั่วไปแย้งว่าอย่างไร? ความรุนแรงภายในครอบครัวเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว. เพียงแต่ผู้คนในสมัยนี้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากกว่าแต่ก่อน.
  
  ข้อโต้แย้งนี้มีเหตุผลไหม? ในช่วงไม่กี่สิบปีมานี้ ผู้คนตื่นตัวกับเรื่องความรุนแรงในครอบครัวกันมากขึ้น. แต่การตื่นตัวกับปัญหานี้มากขึ้นทำให้ความรุนแรงในครอบครัวลดน้อยลงไหม? ไม่เลย. ผู้คนทุกวันนี้ขาดความรักใคร่ตามธรรมชาติยิ่งกว่าสมัยใด ๆ.
  
  คุณคิดอย่างไร? คำพยากรณ์ที่ 2 ติโมเธียว 3:1-3 กำลังสำเร็จเป็นจริงไหม? คุณเห็นด้วยไหมว่าผู้คนมากมายไม่มีความรักต่อคนในครอบครัวอย่างที่มนุษย์ทุกคนควรจะมี?
  
  คำพยากรณ์เรื่องที่ห้าซึ่งกำลังสำเร็จเป็นจริงในขณะนี้เกี่ยวข้องกับแผ่นดินโลกบ้านของเรา. ให้เรามาดูว่าคัมภีร์ไบเบิลกล่าวอย่างไรในเรื่องนี้.
  
  [คำโปรยหน้า 7]
  
  “เป็นที่ยอมรับว่าความรุนแรงในครอบครัวเป็นอาชญากรรมอย่างหนึ่งที่มีการแจ้งความน้อยที่สุด. โดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงจะแจ้งความต่อตำรวจหลังจากถูกคู่ของตนทำร้ายมาแล้ว 35 ครั้ง.”—โฆษกหญิงประจำศูนย์ช่วยเหลือผู้ถูกทำร้ายในครอบครัวในเวลส์

คำพยากรณ์ 5. การทำลายแผ่นดินโลก

หอสังเกตการณ์ 2011 | 1 พฤษภาคม
- คำพยากรณ์ 5. การทำลายแผ่นดินโลก
  
  “[พระเจ้าจะ] ทำลายคนเหล่านั้นที่ทำลายแผ่นดินโลก.”—วิวรณ์ 11:18
  
  ● พีร์รีอาศัยอยู่ในหมู่บ้านกะปอร์ประเทศไนจีเรีย. เขาเป็นคนปาดตาลเพื่อเอาน้ำตาลสดมาทำกะแช่. อาชีพของเขาได้รับผลกระทบอย่างมากเนื่องจากน้ำมันปริมาณมหาศาลรั่วไหลเข้ามาในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์. เขาบอกว่า “คราบน้ำมันเหล่านี้ทำให้ปลาของเราตาย ทำให้เราเป็นโรคผิวหนัง ทำให้แม่น้ำลำธารของเราเน่าเสีย. ผมไม่รู้จะทำมาหากินอะไรอีกต่อไปแล้ว.”
  
  ข้อเท็จจริงคืออะไร? ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่ามีการทิ้งขยะ 6.5 ล้านตันลงในมหาสมุทรทุกปี. ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ของขยะเหล่านี้เป็นพลาสติกซึ่งต้องใช้เวลาหลายร้อยปีกว่าจะย่อยสลายหมด. นอกจากจะทำลายแผ่นดินโลกแล้วมนุษย์ยังผลาญทรัพยากรธรรมชาติจนแทบจะหมดไปจากโลก. ผลการศึกษาวิจัยแสดงว่า ทรัพยากรของโลกที่ถูกผลาญไปในระยะเวลาหนึ่งปีจะต้องใช้เวลาถึงหนึ่งปีห้าเดือนกว่าจะคืนสภาพดังเดิม. หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิง เฮรัลด์ ของออสเตรเลียรายงานว่า “ถ้าประชากรโลกยังเพิ่มขึ้นและยังใช้ทรัพยากรกันอย่างสิ้นเปลืองต่อไป พอถึงปี 2035 เราคงต้องมีโลกถึงสองใบ.”
  
  คนทั่วไปแย้งว่าอย่างไร? มนุษย์ฉลาดและรู้จักใช้ทรัพยากรต่าง ๆ. เรามีความสามารถที่จะพลิกฟื้นสถานการณ์และรักษาโลกใบนี้ไว้ได้.
  
  ข้อโต้แย้งนี้มีเหตุผลไหม? ผู้คนมากมายรวมทั้งองค์กรหลายแห่งได้ทุ่มเทความพยายามเพื่อกระตุ้นสังคมให้ตื่นตัวในเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น. แต่ก็ยังมีการทำลายแผ่นดินโลกกันมากขึ้นเรื่อย ๆ.
  
  คุณคิดอย่างไร? คุณคิดว่าจำเป็นไหมที่พระเจ้าจะเข้ามาแทรกแซงเพื่อปกป้องโลกของเราไม่ให้ถูกทำลายอย่างที่พระองค์สัญญาไว้?
  
  นอกจากคำพยากรณ์ห้าเรื่องที่พิจารณาไปแล้ว คัมภีร์ไบเบิลยังบอกล่วงหน้าอีกว่าจะมีเหตุการณ์ที่น่ายินดีเกิดขึ้นในสมัยสุดท้าย. ให้เรามาพิจารณาตัวอย่างหนึ่งในคำพยากรณ์เรื่องที่หกด้วยกัน.
  
  [คำโปรยหน้า 8]
  
  “จากที่เคยเป็นเจ้าของผืนดินที่สวยงาม ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนกับเป็นเจ้าของที่ทิ้งขยะปนเปื้อนสารพิษไปแล้ว.”—เอริน แทมเบอร์ ผู้อาศัยในเขตชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบของคราบน้ำมันที่รั่วไหลในอ่าวเม็กซิโกปี 2010
  
  [กรอบหน้า 8]
  
  พระเจ้าต้องรับผิดชอบไหม?
  
  เนื่องจากพระเจ้าได้พยากรณ์ไว้ในคัมภีร์ไบเบิลว่าจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายต่าง ๆ ที่เราเห็นอยู่ในทุกวันนี้ นั่นจะหมายความว่าพระองค์เป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องเหล่านี้ไหม? พระเจ้าเป็นผู้ที่ทำให้เราต้องประสบความทุกข์ไหม? คุณจะพบคำตอบที่น่าพอใจสำหรับคำถามเหล่านี้ในบท 11 ของหนังสือคัมภีร์ไบเบิลสอนอะไรจริงๆ? จัดพิมพ์โดยพยานพระยะโฮวา.
  
  [ที่มาของภาพหน้า 8]
  
  U.S. Coast Guard photo

คำพยากรณ์ 6. งานประกาศข่าวดีทั่วโลก

หอสังเกตการณ์ 2011 | 1 พฤษภาคม
- คำพยากรณ์ 6. งานประกาศข่าวดีทั่วโลก
  
  “ข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรจะได้รับการประกาศไปทั่วแผ่นดินโลกที่มีคนอาศัยอยู่.”—มัดธาย 24:14
  
  ● ไวอาเทียอาศัยอยู่บนเกาะแห่งหนึ่งในกลุ่มเกาะตูอาโมตูที่ห่างไกลในมหาสมุทรแปซิฟิก. แม้ว่ากลุ่มเกาะตูอาโมตูจะมีพื้นที่กว่า 802,900 ตารางกิโลเมตรและมีเกาะปะการังวงแหวนกระจัดกระจายอยู่เกือบ 80 เกาะ แต่กลุ่มเกาะนี้มีประชากรอาศัยอยู่ราว ๆ 16,000 คนเท่านั้น. แม้จะเป็นเช่นนั้น ไวอาเทียกับเพื่อนบ้านของเธอก็ได้พบกับพยานพระยะโฮวา. เพราะเหตุใด? ก็เพราะพยานฯ ต้องการประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้าแก่มนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม.
  
  ข้อเท็จจริงคืออะไร? ข่าวเรื่องราชอาณาจักรกำลังได้รับการประกาศไปทั่วทุกมุมโลก. ในปี 2010 เพียงปีเดียวพยานพระยะโฮวาใช้เวลามากกว่า 1.6 พันล้านชั่วโมงเพื่อประกาศข่าวดีนี้ใน 236 ดินแดน. เฉลี่ยแล้วพยานฯ แต่ละคนใช้เวลาประกาศวันละ 30 นาทีทุกวัน. ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาพวกเขาได้ผลิตและแจกจ่ายคู่มือการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลมากกว่า 20,000 ล้านชิ้น.
  
  คนทั่วไปแย้งว่าอย่างไร? มีการประกาศข่าวสารจากคัมภีร์ไบเบิลมานานนับพัน ๆ ปีแล้ว.
  
  ข้อโต้แย้งนี้มีเหตุผลไหม? จริงอยู่ มีคนมากมายเคยเผยแพร่ข่าวสารบางอย่างจากคัมภีร์ไบเบิล. แต่ส่วนใหญ่ก็ทำกันในช่วงเวลาสั้น ๆ และในบางพื้นที่เท่านั้น. ตรงกันข้าม พยานพระยะโฮวากำลังทำงานประกาศนี้ไปทั่วโลกอย่างเป็นระบบและเข้าถึงผู้คนหลายร้อยล้านคน. พยานฯ พากเพียรทำงานประกาศอย่างไม่ลดละแม้ว่าบางครั้งพวกเขาจะถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากพวกผู้มีอิทธิพลและองค์กรที่ไร้มนุษยธรรมที่สุดในประวัติศาสตร์.a (มาระโก 13:13) นอกจากนี้ พยานพระยะโฮวาทำงานประกาศโดยไม่ได้รับค่าจ้าง. พวกเขาเต็มใจสละเวลาของตนและแจกจ่ายสิ่งพิมพ์โดยไม่คิดมูลค่า. งานทั้งหมดของพวกเขาได้รับการสนับสนุนโดยการบริจาคด้วยใจสมัคร.
  
  คุณคิดอย่างไร? “ข่าวดีเรื่องราชอาณาจักร” กำลังได้รับการประกาศไปทั่วโลกไหม? ความสำเร็จเป็นจริงของคำพยากรณ์นี้แสดงว่าอนาคตที่ดีกว่ากำลังใกล้เข้ามาแล้วไหม?
  
  [เชิงอรรถ]
  
  a สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดูวีดิทัศน์เรื่อง “ซื่อสัตย์ภายใต้การทดลอง” “สามเหลี่ยมสี่ม่วง” และ “พยานพระยะโฮวายืนหยัดมั่นคงภายใต้การโจมตีของนาซี” (ภาษาอังกฤษ) จัดทำโดยพยานพระยะโฮวา.
  
  [คำโปรยหน้า 9]
  
  “ตราบเท่าที่พระยะโฮวาทรงอนุญาต เราจะประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรต่อ ๆ ไปด้วยความกระตือรือร้นและใช้ทุกวิธีที่เป็นไปได้เพื่อเข้าถึงประชาชน.”—หนังสือประจำปีของพยานพระยะโฮวา 2010

ยุคที่ดีกว่าใกล้เข้ามาแล้ว!

หอสังเกตการณ์ 2011 | 1 พฤษภาคม
- ยุคที่ดีกว่าใกล้เข้ามาแล้ว!
  
  “ยังอีกหน่อยหนึ่ง, คนชั่วจะไม่มี . . . แต่คนทั้งหลายที่มีใจถ่อมลงจะได้แผ่นดินเป็นมฤดก, และเขาจะชื่นชมยินดีด้วยความสงบสุขอันบริบูรณ์.”—บทเพลงสรรเสริญ 37:10, 11
  
  คุณอยากเห็นคำพยากรณ์ที่ยกมาข้างต้นนี้สำเร็จเป็นจริงไหม? คุณคงอยากเห็นแน่ ๆ. มีเหตุผลหนักแน่นหลายประการที่ทำให้เชื่อว่าคำพยากรณ์นี้จะสำเร็จเป็นจริงในไม่ช้า.
  
  บทความก่อนหน้านี้พิจารณาคำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลเพียงบางข้อที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเรากำลังอยู่ใน “สมัยสุดท้าย.” (2 ติโมเธียว 3:1-5) พระเจ้าทรงดลใจผู้เขียนคัมภีร์ไบเบิลให้บอกล่วงหน้าเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านั้นเพื่อเราจะมีความหวัง. (โรม 15:4) ความสำเร็จเป็นจริงของคำพยากรณ์เหล่านั้นแสดงว่าความทุกข์ยากที่เราเผชิญอยู่ในทุกวันนี้ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว.
  
  จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากสมัยสุดท้ายสิ้นสุดลง? ราชอาณาจักรของพระเจ้าจะปกครองมนุษย์ทั่วทั้งโลก. (มัดธาย 6:9) ให้เรามาดูว่าคัมภีร์ไบเบิลกล่าวอย่างไรเกี่ยวกับสภาพการณ์บนแผ่นดินโลกในสมัยนั้น:
  
  ● ความอดอยากหิวโหยจะไม่มีอีกต่อไป. “จะมีธัญญาหารบริบูรณ์บนพื้นแผ่นดินบนยอดภูเขา; ผลไม้จะดกจนต้นโอนเอนไปมา.”—บทเพลงสรรเสริญ 72:16
  
  ● โรคต่าง ๆ จะถูกขจัดให้หมดไป. “จะไม่มีใครที่อาศัยอยู่ที่นั่นพูดว่า, ‘ข้าพเจ้าป่วยอยู่.’ ”—ยะซายา 33:24
  
  ● แผ่นดินโลกจะได้รับการฟื้นฟู. “ถิ่นทุรกันดารและที่แห้งแล้งจะยินดี ทะเลทรายจะเปรมปรีดิ์และผลิดอกอย่างต้นดอกฝรั่น.”—ยะซายา 35:1, ฉบับ R73
  
  นี่เป็นเพียงบางตัวอย่างของคำพยากรณ์ที่ให้กำลังใจในคัมภีร์ไบเบิลซึ่งจะสำเร็จเป็นจริงในไม่ช้านี้. คุณอยากให้พยานพระยะโฮวาอธิบายให้คุณฟังไหมว่าทำไมพวกเขาจึงมั่นใจว่ายุคที่ดีกว่าใกล้เข้ามาแล้ว?