จงเตรียมตัวเพื่อการรอดเข้าสู่โลกใหม่
“จงระลึกถึงภรรยาของโลตนั้นเถิด.”—ลูกา 17:32.
1. ตัวอย่างการช่วยให้รอดโดยพระเจ้าครั้งใดในประวัติศาสตร์ที่มีการเน้นในบทเรียนของเราวันนี้ และจะเป็นประโยชน์แก่เราได้อย่างไร?
หลังจากได้กล่าวถึงการช่วยให้รอดอันมหัศจรรย์ที่พระยะโฮวาทรงดำเนินการเพื่อโนฮาและครอบครัวของท่านแล้ว อัครสาวกเปโตรได้กล่าวถึงอีกตัวอย่างหนึ่งในประวัติศาสตร์. ท่านชี้ให้เอาใจใส่ถึงการพิทักษ์คุ้มครองโลตผู้ชอบธรรมในคราวที่เมืองซะโดมและกะโมราถูกทำลายเป็นเถ้าถ่าน ดังที่เราอ่านใน 2 เปโตร 2:6-8. รายละเอียดเหล่านั้นถูกรักษาไว้เพื่อประโยชน์ของเราทั้งหลาย. (โรม 15:4) การที่เราไตร่ตรองดูสิ่งที่เกิดขึ้นเกี่ยวเนื่องกับการช่วยให้รอดนั้นอาจช่วยให้เราอยู่ในแนวทางเพื่อการรอดพ้นเข้าสู่โลกใหม่ของพระองค์ได้.
ปฏิกิริยาที่เรามีต่อวิถีชีวิตแบบโลก
2. การประพฤติแบบใดในเมืองซะโดมและกะโมราที่นำไปสู่การทำลายล้างโดยพระเจ้า?
2 เพราะเหตุใดเมืองทั้งสองกับประชากรที่นั่นถูกทำลาย? อัครสาวกเปโตรกล่าวถึงการปล่อยตัวใน “การประพฤติหละหลวม.” (2 เปโตร 2:7, ล.ม.) วิธีใช้คำภาษากรีกที่นำมาแปลวลีนั้นแสดงให้เห็นว่าประชาชนของเมืองซะโดมและกะโมรากระทำผิดในลักษณะที่แสดงความไม่เคารพนับถืออย่างหน้าด้าน ๆ กระทั่งการดูหมิ่นต่อกฎหมายและผู้มีอำนาจ. พระธรรมยูดาข้อ 7 (ล.ม.) กล่าวว่า พวกเขา ‘ได้กระทำผิดประเวณีอย่างมากล้นและมุ่งตามเนื้อหนังเพื่อใช้อย่างผิดธรรมดา.’ การประพฤติชั่วมากล้นของพวกเขาปรากฏชัดเมื่อชาวเมืองซะโดม “ทั้งปวงทั้งคนแก่และหนุ่ม” ได้พากันล้อมบ้านโลตไว้และสั่งให้โลตส่งแขกของท่านแก่ชาวซะโดมเพื่อสนองตัณหาราคะอันวิปริตของพวกเขา. และพวกเขาตะโกนประณามโลต เพราะท่านขัดขืนความต้องการอันเลวทรามของพวกเขา.—เยเนซิศ 13:13; 19:4, 5, 9.
3. (ก) โลตกับครอบครัวเข้าไปอาศัยอยู่ในที่ซึ่งมีแต่สิ่งแวดล้อมอันทุจริตเลวทรามอย่างเมืองซะโดมได้อย่างไร? (ข) โลตมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อการประพฤติหละหลวมของชาวเมืองซะโดม?
3 แต่เดิมที่โลตย้ายไปอยู่ในบริเวณใกล้เมืองซะโดมก็เพราะเป็นที่ที่มีศักยภาพทางความเจริญมั่งคั่ง. ต่อมา ท่านก็เข้าไปอาศัยอยู่ในตัวเมือง. (เยเนซิศ 13:8-12; 14:12; 19:1) แต่ท่านไม่เห็นด้วยกับการประพฤติชั่วช้าเลวทรามของชาวเมืองนี้ และพวกชาวเมืองก็ไม่ได้คิดว่าท่านเป็นพวกเขา นั่นคงเป็นเพราะโลตกับครอบครัวไม่ได้เข้าส่วนในชีวิตสังคมของพวกเขา. ดังที่ 2 เปโตร 2:7, 8 (ล.ม.) บอกว่า “โลต . . . เป็นทุกข์มากเนื่องจากการทำตามอำเภอใจของคนที่ฝ่าฝืนกฎหมายด้วยการประพฤติหละหลวม—เพราะบุรุษผู้ชอบธรรมคนนั้น โดยสิ่งที่ท่านได้เห็นและได้ยินขณะที่อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเขาทุกวัน ทรมานจิตวิญญาณอันชอบธรรมของท่านเนื่องด้วยการกระทำที่ละเลยกฎหมายของพวกเขา.” สภาพการณ์เหล่านั้นก่อการทดลองอันสาหัสแก่โลต เนื่องจากเป็นคนชอบธรรม ท่านชิงชังรังเกียจการประพฤติเช่นนั้น.
4. (ก) สภาพการณ์ทุกวันนี้เหมือนกับในเมืองซะโดมสมัยโบราณในทางใดบ้าง? (ข) หากเราเป็นเหมือนโลตผู้ชอบธรรม เราจะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อสภาพอันเสื่อมทรามในสมัยนี้?
4 ในสมัยของเราก็เช่นกัน ระดับศีลธรรมของสังคมมนุษย์เสื่อมทรามลง. ในหลายดินแดน คนที่มีเพศสัมพันธ์ก่อนการสมรส หรือกับคนที่ไม่ใช่คู่สมรสของตนมีมากขึ้นทุกที. แม้แต่เยาวชนในโรงเรียนก็เกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งในวิถีชีวิตแบบนี้ และพวกเขาหัวเราะเยาะคนเหล่านั้นที่ไม่เข้าร่วมกับพวกเขา. พวกรักร่วมเพศแสดงตนอย่างเปิดเผยและเดินขบวนไปตามถนนในเมืองใหญ่ ๆ เพื่อเรียกร้องให้เป็นที่ยอมรับ. พวกนักเทศน์นักบวชก็เข้าร่วมในการเสเพลนั้นด้วย. มีไม่กี่คริสต์จักรที่แต่งตั้งผู้ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นพวกรักร่วมเพศกับพวกทำผิดประเวณีให้เป็นนักเทศน์นักบวชอย่างเป็นทางการ. กระนั้น ตามความเป็นจริง ดังที่รายงานข่าวแจ้งให้ทราบซ้ำแล้วซ้ำอีกนั้น ไม่ยากเลยที่จะพบเห็นพวกรักร่วมเพศ คนผิดประเวณี และคนเล่นชู้ อยู่ในฐานะนักเทศน์นักบวช. ที่จริง นักเทศน์บางคนถูกย้ายไปเมืองอื่นหรือไม่ก็ถูกบังคับให้ลาออกเพราะเรื่องฉาวโฉ่ทางเพศ. บรรดาผู้ที่รักความชอบธรรมไม่เห็นด้วยกับการชั่วช้าเช่นนั้น พวกเขา “เกลียดชังสิ่งที่ชั่ว.” (โรม 12:9) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาสลดใจ เมื่อความประพฤติของพวกที่อ้างตัวว่ารับใช้พระเจ้าได้นำคำตำหนิมาสู่พระนามของพระองค์ และเป็นเหตุให้คนที่ไม่รู้ความจริงเบือนหน้าหนีทุก ๆ ศาสนาด้วยความสะอิดสะเอียน.—โรม 2:24.
5. การที่พระยะโฮวาทรงทำลายล้างมือซะโดมและกะโมราได้ตอบปัญหาอะไรแก่เรา?
5 แต่ละปีผ่านไป สถานการณ์ยิ่งเลวลงทุกปี. มันจะมีวันจบสิ้นไหม? ใช่ มีแน่! สิ่งที่พระยะโฮวาทรงกระทำต่อเมืองซะโดมและกะโมราสมัยโบราณแสดงให้เห็นชัดว่า เมื่อถึงเวลากำหนดของพระองค์ พระองค์จะทรงสำเร็จโทษ. พระองค์จะทำลายบรรดาคนชั่วอย่างสิ้นเชิง แต่พระองค์จะทรงช่วยบรรดาผู้รับใช้ที่ภักดีของพระองค์ให้รอด.
ผู้ใดหรือสิ่งใดมาเป็นอันดับแรกในชีวิต?
6. (ก) มีบทเรียนอะไรอันเหมาะกับเวลาที่มีในบันทึกเกี่ยวกับชายหนุ่มซึ่งคิดจะแต่งงานกับบุตรสาวโลต? (ข) ทัศนะของคู่หมั้นของบุตรสาวโลตได้เป็นการทดลองพวกเธออย่างไร?
6 เฉพาะคนเหล่านั้นที่แสดงความเลื่อมใสในพระเจ้าอย่างแท้จริงจะรอด. ถึงตอนนี้ จงพิจารณาสิ่งที่ทูตสวรรค์ของพระยะโฮวากล่าวแก่โลตก่อนที่เมืองซะโดมและกะโมราถูกทำลาย. “ที่นี่มีใครอีกหรือ จงพาบุตรเขย บุตรชายหญิง หรือบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าในเมืองนี้ออกไปเสียจากที่นี่ด้วยเราจะทำลายเมืองนี้. ดังนั้นโลตจึงบอกกับชายหนุ่มซึ่งคิดจะแต่งงานกับบุตรสาวของตน. ท่านเร่งรัดพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า “จงลุกขึ้นออกไปเสียจากที่นี่ เพราะพระยะโฮวาจะทรงทำลายเมืองนี้.” ความสัมพันธ์ของพวกเขากับครอบครัวโลตเปิดโอกาสพิเศษแก่เขาเพื่อรับการช่วยให้รอด แต่เขาต้องดำเนินการเป็นส่วนตัว. เขาจำต้องแสดงการเชื่อฟังพระยะโฮวาอย่างแท้จริง. แต่แทนที่จะทำเช่นนั้น พวกเขามองดูโลต “เหมือนคนที่กำลังพูดล้อเล่น.” (เยเนซิศ 19:12-14) คุณสามารถนึกภาพได้ว่า บุตรสาวของโลตรู้สึกอย่างไรเมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น. ความซื่อสัตย์ภักดีของเขาต่อพระเจ้าถูกทดลอง.
7, 8. (ก) เมื่อทูตสวรรค์เร่งโลตให้พาครอบครัวหนีไป ท่านมีปฏิกิริยาอย่างไร และเหตุใดการทำเช่นนั้นจึงไม่เป็นการฉลาดเอาเสียเลย? (ข) เพื่อได้รับการช่วยให้รอด อะไรคือสิ่งสำคัญสำหรับโลตกับครอบครัว?
7 เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ทูตสวรรค์ก็เร่งเร้าโลต. ทูตเหล่านั้นบอกว่า “จงลุกขึ้น! พาภรรยาและบุตรสาวทั้งสองคนที่อยู่ที่นี่ไปเสีย กลัวว่าเจ้าจะถูกเผาผลาญเสียในความพินาศของเมืองนี้.” แต่ “ท่านยังชักช้าอยู่.” (เยเนซิศ 19:15, 16) เพราะเหตุใด? อะไรหน่วงเหนี่ยวท่านไว้? เป็นผลประโยชน์ฝ่ายวัตถุที่ท่านมีในเมืองซะโดม—สิ่งนั่นแหละซึ่งดึงดูดใจท่านในตอนแรกให้เข้ามาอยู่ที่นั้นไหม? หากท่านติดสนิทกับสิ่งเหล่านี้ ท่านก็จะถูกทำลายไปพร้อมกับเมืองซะโดม.
8 ด้วยความเห็นอกเห็นใจ ทูตสวรรค์จูงมือคนในครอบครัวโลตและเร่งพวกเขาให้ออกไปจากเมือง. ที่ชานเมือง ทูตของพระยะโฮวาสั่งว่า “จงหนีเอาตัวรอดเถิด อย่าได้เหลียวหลังมาดู อย่าได้คอยอยู่ในที่ราบนี้เลย! จงหนีไปที่ภูเขา เกลือกว่าเจ้าจะถึงพินาศ!” โลตยังลังเลอยู่. ในที่สุด หลังจากที่ได้ตกลงกันแล้วว่า ท่านจะไปยังสถานที่หนึ่งซึ่งไม่ไกลนักได้ ท่านกับครอบครัวก็หนีไป. (เยเนซิศ 19:17-22) จะรีรอชักช้าต่อไปไม่ได้แล้ว. การเชื่อฟังสำคัญอย่างยิ่ง.
9, 10. (ก) เหตุใดการอยู่กับสามีของเธอ จึงยังไม่เพียงพอจะเป็นการค้ำประกันคุ้มครองรักษาสำหรับภรรยาของโลต? (ข) คราวที่ภรรยาของโลตเสียชีวิตนั้น การทดลองขั้นต่อไปอะไรที่มีมาเหนือโลตและบุตรสาว?
9 อย่างไรก็ตาม การรอดพ้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์ในตอนที่พวกเขาหนีออกจากเมืองซะโดม. เยเนซิศ 19:23-25 บอกเราว่า “พอเวลาอาทิตย์ขึ้นแล้วก็เข้าไปในบ้านโซอาระ. พระยะโฮวาจึงทรงบันดาลให้เพลิงกำมะถันมาแต่พระองค์จากฟ้าตกที่เมืองซะโดมและอะโมรา. พระองค์ได้ทรงทำลายเมืองเหล่านั้นและแผ่นดินราบกับชาวเมืองทั้งปวงและบรรดาสิ่งที่งอกขึ้นจากดินให้พินาศเสียหมด.” แต่ภรรยาของโลตล่ะอยู่ไหน?
10 เธอได้หนีพร้อมกับสามี. กระนั้น เธอเห็นด้วยกับทุกสิ่งที่โลตทำไหม? ไม่มีอะไรที่แสดงว่าเธอเห็นด้วยกับการไร้ศีลธรรมของเมืองซะโดม. แต่ความรักของเธอต่อพระเจ้าเหนียวแน่นกว่าความรู้สึกผูกพันของเธอที่มีต่อบ้านและบรรดาทรัพย์สิ่งของที่เธอมีอยู่ไหม? (เปรียบเทียบลูกา 17:31, 32.) ภายใต้ความกดดันเช่นนั้น สิ่งที่อยู่ในหัวใจของเธอก็ปรากฏออกมา. ดูเหมือนพวกเขาใกล้จะถึงโซอาระแล้ว อาจเป็นได้ว่ากำลังจะเข้าเมืองในตอนที่เธอหันไปมองด้วยความไม่เชื่อฟัง. และดังที่บันทึกในคัมภีร์ไบเบิลบอก เธอได้ “กลับกลายเป็นเสาเกลือ.” (เยเนซิศ 19:26) ตอนนี้ โลตกับบุตรสาวต้องเผชิญการทดลองขั้นต่อไป. ความผูกพันของโลตต่อภรรยาที่ตายแล้ว และความผูกพันของบุตรสาวต่อมารดาที่ตายไปจะเหนียวแน่นกว่าความรักของพวกเขาต่อพระยะโฮวาผู้ทรงนำความหายนะนั้นมาไหม? พวกเขายังจะเชื่อฟังพระเจ้าต่อไปไหม แม้ว่าผู้ที่ใกล้ชิดพวกเขาที่สุดได้พิสูจน์ตัวไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า? ด้วยความไว้วางใจเต็มเปี่ยมในพระยะโฮวา พวกเขาไม่ได้หันกลับไปมอง.
11. ในเรื่องนี้ เราได้เรียนอะไรเกี่ยวกับการช่วยให้รอดที่พระยะโฮวาทรงจัดเตรียม?
11 ถูกแล้ว พระยะโฮวาทรงทราบวิธีช่วยบรรดาผู้เลื่อมใสในพระเจ้าให้รอดพ้นจากการทดลอง. พระองค์ทรงทราบวิธีช่วยทั้งครอบครัวซึ่งเป็นเอกภาพในการนมัสการอันบริสุทธิ์ให้รอด และยังทรงทราบวิธีช่วยปัจเจกชนให้รอดด้วย. เมื่อพวกเขารักพระองค์อย่างแท้จริง พระองค์ก็ทรงสำแดงความเห็นอกเห็นใจมากมายในการดำเนินการกับพวกเขา “พระองค์ทรงทราบร่างกายของพวกข้าพเจ้าแล้ว พระองค์ทรงระลึกอยู่ว่าพวกข้าพเจ้าเป็นแต่ผงคลีดิน.” (บทเพลงสรรเสริญ 103:13, 14) แต่การช่วยให้รอดของพระองค์นั้นมีเฉพาะสำหรับคนเหล่านั้นที่เลื่อมใสในพระเจ้าเท่านั้น ผู้ซึ่งมีความเลื่อมใสแท้จริง ผู้ซึ่งเชื่อฟังด้วยความจงรักภักดี.
การเตรียมการด้วยความรักเพื่อการช่วยให้รอดที่ยิ่งใหญ่กว่า
12. การเตรียมการด้วยความรักอะไรที่พระยะโฮวาจะทรงกระทำก่อนการนำมาซึ่งการช่วยให้รอดที่เรารอคอยด้วยใจจดจ่อ?
12 โดยสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำให้เกิดขึ้นในสมัยโนฮาและโลต พระยะโฮวาไม่ได้ทรงกำจัดคนชั่วทั้งหมดออกไปตลอดกาล. ดังที่พระคัมภีร์กล่าวว่า เป็นเพียงการวางแบบอย่างถึงสิ่งที่จะมีมา. ก่อนสิ่งเหล่านั้นจะมาถึง พระยะโฮวาทรงมีอีกหลายสิ่งในพระทัยที่พระองค์ประสงค์จะทำเพื่อยังประโยชน์แก่บรรดาผู้ที่รักพระองค์. พระองค์จะทรงส่งพระบุตรองค์เดียวของพระองค์คือ พระเยซูคริสต์ลงมายังโลก. ณ ที่นี่ พระเยซูจะทรงกระทำให้พระนามของพระเจ้าพ้นคำตำหนิโดยแสดงความเลื่อมใสชนิดที่อาดามซึ่งเป็นมนุษย์สมบูรณ์ควรจะทำและสามารถจะแสดงต่อพระเจ้าได้ แต่พระเยซูจะทรงกระทำสิ่งนั้นภายใต้สภาพการณ์ที่ยากลำบากยิ่งกว่ามากนัก. พระเยซูจะทรงสละชีวิตมนุษย์สมบูรณ์ของพระองค์เป็นเครื่องบูชาเพื่อบุตรหลานของอาดามที่แสดงความเชื่อจะได้มาซึ่งสิ่งที่อาดามได้สูญเสียไป. ครั้นแล้ว “ฝูงแกะเล็กน้อย” แห่งมนุษย์ที่ซื่อสัตย์จะถูกพระเจ้าทรงเลือกให้เข้าร่วมกับพระคริสต์ในราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์ และ “ชนหมู่ใหญ่” จากทุกชาติจะถูกรวบรวมเข้ามาเพื่อวางรากฐานสำหรับสังคมมนุษย์ใหม่. (ลูกา 12:32; วิวรณ์ 7:9) เมื่อสำเร็จแล้ว พระเจ้าจะทรงกระทำการช่วยให้รอดอันยิ่งใหญ่ซึ่งเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับมหาอุทกภัยและการทำลายล้างเมืองซะโดมและกะโมรานั้นเป็นแบบแสดงไว้ล่วงหน้า.
เหตุที่การลงมือกระทำอย่างเด็ดเดี่ยวเป็นสิ่งเร่งด่วนในเวลานี้
13, 14. เราได้เรียนอะไรจากข้อเท็จจริงที่เปโตรได้ใช้เรื่องความพินาศของคนดูหมิ่นพระเจ้าในสมัยของโลตและสมัยของโนฮาเป็นตัวอย่าง?
13 นักศึกษาพระคำของพระเจ้าทราบว่าพระยะโฮวาทรงดำเนินการช่วยให้รอดเพื่อผู้รับใช้ของพระองค์ในหลายโอกาส. กระนั้น ในกรณีต่าง ๆ นั้นส่วนใหญ่พระคัมภีร์ไม่ได้มีกล่าวว่า ‘ในสมัยนั้นได้เป็นอย่างไร ก็จะเป็นเช่นนั้นในการประทับของบุตรมนุษย์.’ เพราะเหตุใดอัครสาวกเปโตร ซึ่งได้รับการดลใจโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ จึงแยกเอาเพียงสองตัวอย่างนี้ไว้ต่างหาก? อะไรคือข้อแตกต่างที่มีอยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยของโลตและโนฮา?
14 เราพบเหตุผลที่ชัดเจนที่ยูดาข้อ 7 (ล.ม.) ซึ่งอ่านว่า “ซะโดมและกะโมราและเมืองรอบ ๆ นั้น . . . ถูกวางไว้ต่อหน้าเราเป็นตัวอย่างเตือนสติโดยที่รับโทษตามกฎหมายด้วยไฟนิรันดร์.” ถูกแล้ว การทำลายล้างคนบาปในเมืองเหล่านั้นเป็นแบบตลอดไป เช่นเดียวกับการทำลายล้างคนชั่วในคราวอวสานแห่งระบบปัจจุบัน. (มัดธาย 25:46) มหาอุทกภัยในสมัยโนฮาก็มีกล่าวในบริบทซึ่งสาธยายถึงการลงโทษตลอดกาล. (2 เปโตร 2:4, 5, 9-12; 3:5-7) ฉะนั้น โดยการทำลายล้างคนดูหมิ่นพระเจ้าในสมัยโลตและสมัยโนฮา พระยะโฮวาทรงแสดงให้เห็นว่าพระองค์จะทรงช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ให้รอดโดยทำลายคนเหล่านั้นที่ประพฤติอธรรมตลอดไป.—2 เธซะโลนิเก 1:6-10.
15. (ก) มีการให้คำเตือนอันเร่งด่วนอะไรแก่เหล่าผู้ที่เข้าร่วมในการทำชั่ว? (ข) เหตุใดจึงจะมีการดำเนินการลงโทษแก่ทุกคนที่ยังขืนอยู่ในทางอธรรม?
15 ความพินาศของคนชั่วไม่ได้นำความยินดีสู่พระยะโฮวา และผู้รับใช้ของพระองค์. โดยทางเหล่าพยานของพระองค์ พระยะโฮวาทรงเร่งเร้าประชาชนว่า “จงกลับเสีย จงกลับเสียจากทางชั่วทั้งหลายของเจ้า เหตุไฉนเจ้าจึงจะตาย?” (ยะเอศเคล 33:11) อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้คนไม่สนใจคำอ้อนวอนด้วยความรักเช่นนี้ แต่ยืนกรานในแนวทางอันเห็นแก่ตัวของตน ความนับถือของพระยะโฮวาต่อพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์ และความรักต่อผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระองค์ซึ่งต้องทนรับการทารุณจากน้ำมือคนดูหมิ่นพระเจ้าจึงเรียกร้องให้พระองค์ทรงจัดการด้วยความยุติธรรม.
16. (ก) ทำไมเราจึงมั่นใจได้ว่าการช่วยให้รอดที่มีบอกไว้ล่วงหน้านั้นมาใกล้มากแล้ว? (ข) จะมีการช่วยให้รอดพ้นจากอะไร และเข้าสู่อะไร?
16 เวลาที่พระเจ้าจะช่วยให้รอดมาใกล้เต็มที! ทั้งทัศนคติของผู้คนและเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงพยากรณ์ไว้ว่าจะเป็นสัญลักษณ์แห่งการประทับของพระองค์ และช่วงอวสานแห่งระเบียบของสิ่งต่าง ๆ ก็ปรากฏชัดเจนแล้ว. ลักษณะสำคัญของสัญลักษณ์นั้นเริ่มปรากฏขึ้นครั้งแรกกว่า 75 ปีมาแล้ว และพระเยซูตรัสว่า “คนชั่วอายุนี้” จะไม่ล่วงลับไปก่อนที่พระเจ้าจะลงโทษแก่โลกที่ดูหมิ่นพระเจ้า. เมื่อพระยะโฮวาทรงเห็นว่าข่าวแห่งราชอาณาจักรได้รับการประกาศไปทั่วแผ่นดินโลกที่มีคนอาศัยอยู่เพื่อให้คำพยานแก่ทุกชาติจนเพียงพอแล้ว อวสานแห่งโลกที่ชั่วช้านี้ก็จะมาถึง พร้อมกับการช่วยให้รอดสำหรับบรรดาผู้ที่เลื่อมใสในพระเจ้า. (มัดธาย 24:3-34; ลูกา 21:28-33) รอดพ้นจากอะไร? จากการทดลองต่าง ๆ ด้วยน้ำมือคนชั่วที่พวกเขาจำต้องทนเอา และจากสถานการณ์ที่ก่อให้มีความยากลำบากแก่ผู้รักความชอบธรรมในแต่ละวัน ๆ. และนั่นยังเป็นการช่วยให้รอดเข้าสู่โลกใหม่ซึ่งความเจ็บป่วยและความตายจะเป็นเรื่องของอดีต.
การช่วยให้รอดจากพระเจ้ามาใกล้แล้ว
17. (ก) เราควรถามตัวเองอย่างไร? (ข) เราจะแสดงให้เห็นได้อย่างไรว่า เราถูกกระตุ้นด้วยความ “เกรงกลัวพระเจ้า” เหมือนอย่างโนฮา?
17 คำถามที่เราแต่ละคนจำต้องพิจารณาคือ ‘ฉันอยู่พร้อมหรือไม่สำหรับปฏิบัติการนั้นของพระเจ้า?’ หากเราวางใจในตนเองหรือในความคิดเห็นของเราในเรื่องความชอบธรรมเราก็ยังไม่พร้อม. แต่หากเราถูกกระตุ้นโดย “ความเกรงกลัวพระเจ้า” เช่นเดียวกับโนฮาแล้ว เราก็จะตอบรับด้วยความเชื่อต่อการชี้นำที่พระยะโฮวาประทานให้ และสิ่งนี้จะนำเราไปสู่การรอดพ้น.—เฮ็บราย 11:7.
18. เพราะเหตุใดการเรียนรู้ถึงการให้ความเคารพนับถืออย่างแท้จริงต่ออำนาจแห่งระบอบการปกครองของพระเจ้าจึงเป็นเรื่องสำคัญในการเตรียมตัวของเราเพื่อการรอดพ้นเข้าสู่โลกใหม่?
18 พระธรรมบทเพลงสรรเสริญพรรณนาไว้อย่างงดงามถึงคนเหล่านั้นที่ชื่นชมกับการปกป้องคุ้มครองที่พระยะโฮวาทรงประทานให้แม้แต่เดี๋ยวนี้ ที่บท 91 ข้อ 1 และ 2, (ล.ม.) ว่า “ผู้ใดอาศัยอยู่ในที่อันลับแห่งผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด จะได้ที่อยู่อาศัยภายใต้ร่มเงาของพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ใหญ่ยิ่ง. ข้าพเจ้าจะทูลพระยะโฮวา ‘พระองค์เป็นที่พึ่งพำนักและเป็นป้อมของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าวางใจในพระยะโฮวา!’” นี่คือกลุ่มชนซึ่งได้รับการอารักขาจากพระเจ้าเหมือนลูกนกอยู่ใต้ปีกอันแข็งแรงของพ่อนกแม่นก. ความไว้วางใจอันเต็มเปี่ยมของพวกเขาอยู่ในพระยะโฮวา. พวกเขายอมรับว่าพระองค์ทรงเป็นพระผู้สูงสุด เป็นผู้ทรงฤทธานุภาพทุกประการ. ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงให้ความเคารพนับถือและยินยอมอ่อนน้อมต่ออำนาจแห่งระบอบการปกครองของพระเจ้า ไม่ว่าจะดำเนินการโดยบิดามารดา หรือโดย “บ่าวสัตย์ซื่อและสุขุมรอบคอบ.” (มัดธาย 24:45-47) เป็นเช่นนั้นกับเราแต่ละคนไหม? เช่นเดียวกับโนฮา เรากำลังเรียนที่จะทำ ‘ทุกสิ่งที่พระยะโฮวาทรงบัญชา’ เรา และที่จะกระทำสิ่งต่าง ๆ ในวิถีทางของพระองค์ไหม? (เยเนซิศ 6:22) ถ้าเป็นเช่นนั้น เราก็กำลังตอบรับการเตรียมการที่พระยะโฮวากำลังทรงประทานแก่เราเพื่อการรอดพ้นเข้าสู่โลกใหม่อันชอบธรรมของพระองค์.
19. (ก) หัวใจโดยนัยของเราคืออะไร และทำไมจึงสำคัญที่เราจะเอาใจใส่ในสิ่งนี้? (สุภาษิต 4:23) (ข) เราจะได้รับประโยชน์จากตัวอย่างของโลตได้อย่างไรในเรื่องเกี่ยวกับปฏิกิริยาของเราต่อแรงชักจูงของโลก?
19 การเตรียมการนั้นยังเกี่ยวข้องกับการให้ความเอาใจใส่ต่อหัวใจโดยนัยของเราด้วย. “พระยะโฮวาทรงเป็นผู้ตรวจสอบหัวใจ.” (สุภาษิต 17:3, ล.ม.) พระองค์ทรงช่วยเราให้ตระหนักว่าสิ่งสำคัญไม่ใช่ที่ปรากฏภายนอก แต่เป็นบุคคลที่อยู่ภายในคือหัวใจ. ขณะที่เราไม่หมกมุ่นในความรุนแรง หรือการผิดศีลธรรม เช่นเดียวกับโลกรอบตัวเรา เราก็ยังต้องระวังไม่ให้ถูกชักนำ หรือถูกทำให้หลงเพลิดเพลินโดยสิ่งเหล่านั้น. เช่นเดียวกับโลต เราควรรู้สึกเป็นทุกข์กับการทำผิดกฎหมายที่มีอยู่ดาษดื่น. ผู้ที่เกลียดสิ่งชั่วจะไม่เสาะหาหนทางเพื่อจะปล่อยตัวไปกับมัน แต่คนที่ไม่เกลียดสิ่งชั่วอาจละเว้นการทำสิ่งนั้นขณะเดียวกับที่ใจคิดอยากจะทำ. “ท่านทั้งหลายที่รักพระยะโฮวา จงเกลียดการชั่ว.—บทเพลงสรรเสริญ 97:10.
20. (ก) พระคัมภีร์เตือนเราในทางใดบ้างในเรื่องวิถีชีวิตแบบนิยมวัตถุ? (ข) เราจะบอกได้อย่างไรว่าบทเรียนอันสำคัญเกี่ยวกับเรื่องลัทธิวัตถุนิยมนั้นควบคุมหัวใจของเราหรือไม่?
20 พระยะโฮวาทรงสั่งสอนเราด้วยความรักให้หลบหลีกไม่เพียงการประพฤติผิดศีลธรรมเท่านั้น แต่รวมทั้งการดำเนินชีวิตแบบนิยมวัตถุด้วย. พระวจนะของพระองค์แนะนำว่า ‘จงอิ่มใจกับเครื่องอุปโภคบริโภค.’ (1 ติโมเธียว 6:8) โนฮากับบุตรชายจำต้องละบ้านของเขาไว้เมื่อเข้าในนาวา. โลตกับครอบครัวเช่นกันจำต้องละทิ้งบ้านและทรัพย์สิ่งของเพื่อรักษาชีวิตไว้. เราล่ะผูกพันความรักไว้ที่ไหน? “จงระลึกถึงภรรยาของโลต.” (ลูกา 17:32) พระเยซูทรงเร่งเร้าว่า “ดังนั้น จงแสวงหาราชอาณาจักรของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อนเสมอไป.” (มัดธาย 6:33, ล.ม.) เรากำลังทำอย่างนั้นไหม? หากมาตรฐานอันชอบธรรมของพระยะโฮวานำทางเรา และหากการประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรของพระองค์เป็นสิ่งที่เราสนใจเป็นอับดับแรกในชีวิตของเรา เช่นนั้นแล้ว เราก็กำลังตอบรับต่อการที่พระองค์เตรียมกลุ่มชนเพื่อการรอดพ้นเข้าสู่โลกใหม่ของพระองค์.
21. เพราะเหตุใดเราจึงคาดหมายได้อย่างแน่นอนว่าคำทรงสัญญาของพระยะโฮวาเรื่องการช่วยให้รอดนั้นจะสำเร็จผลในไม่ช้านี้?
21 พระเยซูทรงตรัสแก่กลุ่มชนผู้เลื่อมใสในพระเจ้า ซึ่งจะได้เห็นความสำเร็จของสัญลักษณ์แห่งการประทับด้วยขัตติยอำนาจของพระองค์ว่า “จงยืดตัวตรงและชูศีรษะขึ้น เพราะการช่วยให้รอดพ้นสำหรับพวกท่านใกล้จะถึงแล้ว.” (ลูกา 21:28, ล.ม.) คุณมองเห็นสัญลักษณ์นั้นที่กระจ่างขึ้นเรื่อย ๆ จนครบถ้วนในรายละเอียดทุกอย่างไหม? ถ้าเช่นนั้น จงมั่นใจว่าความสำเร็จสมจริงแห่งคำทรงสัญญาของพระยะโฮวาเกี่ยวกับการช่วยให้รอดนั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม! จงเชื่อมั่นเต็มที่ว่า “พระยะโฮวาทรงทราบวิธีที่จะช่วยบรรดาผู้เลื่อมใสในพระเจ้าให้พ้นจากการทดลอง.”—2 เปโตร 2:9, ล.ม.
คุณได้เรียนรู้อะไรบ้าง?
▫ เช่นกันกับโลต เราควรมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อวิถีชีวิตของโลกนี้?
▫ โลตกับครอบครัวเผชิญการทดลองอะไรบ้างในขณะที่กำลังหนีออกจากเมืองซะโดม?
▫ ตัวอย่างต่าง ๆ ที่เปโตรใช้นั้นได้เน้นอย่างไรถึงความเร่งด่วนของการยืนหยัดอยู่ฝ่ายพระยะโฮวาเสียแต่บัดนี้?
▫ ในการเตรียมพลไพร่ของพระองค์เพื่อการรอดพ้น พระยะโฮวาทรงสอนบทเรียนสำคัญอะไรบ้าง?
[รูปภาพหน้า 18]
พลไพร่ของพระเจ้าได้รับการปกป้องคุ้มครองจากพระองค์ดั่งลูกนกที่อยู่ใต้ปีกอันแข็งแรงของพ่อนกแม่นก