ผล—ดีและเลว
“พระยะโฮวาทรงสำแดงให้ข้าพเจ้าเห็น และนี่แน่ะ! ตะกร้ามะเดื่อเทศสองใบ . . . ตะกร้าใบหนึ่งมะเดื่อเทศดีมาก เหมือนมะเดื่อเทศที่สุกต้นฤดู; ส่วนตะกร้าอีกใบหนึ่ง มะเดื่อเทศเลวมากจนกินไม่ได้เพราะความเลวนั้น.”—ยิระมะยา 24:1, 2, ล.ม.
1. พระยะโฮวาทรงแสดงความเมตตาต่อชาวยิศราเอลไพร่พลของพระองค์อย่างไร แต่พวกเขาตอบรับอย่างไร?
ปีนั้นคือปี 617 ก่อนสากลศักราช เพียงสิบปีก่อนที่พระยะโฮวาจะดำเนินการพิพากษาอันควรต่อกรุงยะรูซาเลมกับประชาชนของกรุงนั้น. ยิระมะยาได้ประกาศอย่างแข็งขันเป็นเวลาถึง 30 ปีแล้ว. ขอสังเกตคำพรรณนาอันชัดเจนของเอษราเกี่ยวกับสภาพการณ์นั้น ดังมีอยู่ที่ 2 โครนิกา 36:15 (ล.ม.): “พระยะโฮวาพระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของพวกเขาทรง [คำเตือน] ต่อต้านเขาเรื่อยมาโดยทางทูตของพระองค์ ส่งครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะพระองค์ทรงรู้สึกสงสารต่อไพร่พลของพระองค์และต่อที่สถิตของพระองค์.” และผลของความพยายามทั้งสิ้นนั้นเป็นอย่างไร? น่าเศร้า เอษราพรรณนาต่อในข้อ 16 ว่า “แต่เขาทั้งหลายเยาะเย้ยทูตของพระเจ้าเที่ยงแท้อยู่เนือง ๆ และหมิ่นคำโอวาทของพระองค์และล้อเลียนผู้พยากรณ์ของพระองค์ จนกระทั่งพระพิโรธของพระยะโฮวาพลุ่งขึ้นต่อไพร่พลของพระองค์ จนกระทั่งไม่มีทางรักษา.”
2, 3. จงพรรณนานิมิตอันเร้าใจที่พระยะโฮวาทรงสำแดงแก่ยิระมะยา.
2 นี่หมายความว่า ชาติยูดาจะถูกกวาดล้างจนหมดสิ้นไหม? เพื่อจะได้คำตอบ ให้เราพิจารณานิมิตที่เร้าใจซึ่งได้ประทานแก่ยิระมะยาในตอนนั้นและบันทึกไว้ในบท 24 ของพระธรรมยิระมะยา. ในนิมิตนี้ พระเจ้าทรงใช้ตะกร้ามะเดื่อเทศสองใบเพื่อเล็งถึงเหตุการณ์บางอย่างในท่ามกลางไพร่พลแห่งคำสัญญาของพระองค์. คนเหล่านั้นจะถูกแทนด้วยผลสองชนิดที่ต่างกัน ดีและเลว.
3 ยิระมะยาบท 24 ข้อ 1 และ 2 (ล.ม.) พรรณนาสิ่งที่ผู้พยากรณ์ของพระเจ้าเห็นดังนี้: “พระยะโฮวาทรงสำแดงให้ข้าพเจ้าเห็น และนี่แน่ะ! ตะกร้ามะเดื่อเทศสองใบอยู่ตรงหน้าพระวิหารของพระยะโฮวา ภายหลังนะบูคัดเรสซาร์กษัตริย์แห่งบาบูโลนได้เนรเทศเยโคนิยาห์ราชบุตรเยโฮยาคิม กษัตริย์แห่งยูดา และพวกเจ้าชายแห่งยูดากับพวกช่างฝีมือและช่างสร้างป้อมไปจากยะรูซาเลมเพื่อท่านจะพาพวกเขาไปยังบาบูโลน. ส่วนตะกร้าใบหนึ่ง มะเดื่อเทศดีมาก เหมือนมะเดื่อเทศที่สุกต้นฤดู; ส่วนตะกร้าอีกใบหนึ่ง มะเดื่อเทศเลวมาก จนกินไม่ได้เพราะความเลวนั้น.”
มะเดื่อเทศดีในนิมิต
4. ข่าวสารปลอบประโลมใจอะไรที่นิมิตเรื่องมะเดื่อเทศมีให้แก่ชาวยิศราเอลที่ซื่อสัตย์?
4 หลังจากถามยิระมะยาเกี่ยวกับสิ่งที่ท่านเห็นแล้ว พระยะโฮวาตรัสต่อไปในข้อ 5 ถึง 7 ดังนี้: “เหมือนมะเดื่อเทศที่ดีเหล่านี้ เราจะมองพวกที่ถูกเนรเทศแห่งยูดา ซึ่งเราจะส่งจากสถานที่นี้ไปยังแผ่นดินชาวแคลเดียนั้น ในทางดี. และเราจะตั้งตาของเราดูพวกเขาในทางดี และเราจะทำให้พวกเขากลับมายังแผ่นดินนี้แน่นอน. และเราจะสร้างเขาขึ้น และเราจะไม่รื้อลงเสีย; และเราจะปลูกพวกเขา และเราจะไม่ถอนออก. และเราจะให้หัวใจแก่เขาเพื่อรู้จักเรา ว่าเราคือยะโฮวา; และเขาจะต้องมาเป็นไพร่พลของเรา และเราเองจะมาเป็นพระเจ้าของเขา เพราะเขาจะกลับมาหาเราอย่างสิ้นสุดหัวใจ.”
5, 6. (ก) เป็นไปอย่างไรที่ชาวยิศราเอลบางคน ‘ถูกส่งไปในทางดี’ สู่แผ่นดินแคลเดีย? (ข) พระยะโฮวาทรง ‘ตั้งตาดูในทางดี’ อย่างไรเหนือชาวยิศราเอลที่ซื่อสัตย์ที่ถูกเนรเทศ?
5 ดังนั้น จากคำที่พระยะโฮวาตรัสในที่นี้ ดูเหมือนว่าจะมีสมัยที่ดีกว่าอยู่ข้างหน้า ที่ชาติยูดาจะไม่ถูกกวาดล้างจนสิ้นซาก. แต่อะไรคือความหมายสำคัญของตะกร้าที่ใส่มะเดื่อเทศดีใบนี้?
6 ยะคันยาหรือยะโฮยาคินเป็นกษัตริย์เหนือยูดาเพียงสามเดือนกับสิบวันก่อนที่ท่านจะยอมยกยะรูซาเลมให้กษัตริย์นะบูคัดเนซัรด้วยความเต็มใจ. ท่ามกลางผู้คนที่ถูกจับไปเป็นเชลยกับท่านนั้นก็มีดานิเอลกับเพื่อนชาวฮีบรูสามคนคือฮะนันยา, มิซาเอล, กับอะซาระยา, รวมทั้งยะเอศเคลด้วย. กษัตริย์บาบูโลนสงวนชีวิตคนเหล่านี้เอาไว้ ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่าพระยะโฮวาทรงมองดูพวกเชลยว่า ถูกเนรเทศไปยังแผ่นดินชาวแคลเดียนั้นในทางดี. คุณสังเกตเห็นไหมว่า พระยะโฮวายังได้ทรงสัญญาไว้ด้วยว่าจะทรง ‘ตั้งตาดูพวกเขาในทางดี’? สิ่งนี้สำเร็จเป็นจริงอย่างไร? ในปี 537 ก่อนสากลศักราช อีก 80 ปีต่อมา พระยะโฮวาทรงทำให้กษัตริย์ไซรัสออกราชกฤษฎีกาอนุญาตลูกหลานที่เหลืออยู่ของพวกเขาให้กลับคืนสู่แผ่นดินยูดา. ชาวยิวที่ซื่อสัตย์เหล่านั้นได้สร้างกรุงยะรูซาเลมขึ้นใหม่ พวกเขาสร้างพระวิหารหลังใหม่สำหรับนมัสการพระยะโฮวา พระเจ้าของเขา และพวกเขากลับมาหาพระองค์อย่างสิ้นสุดหัวใจ. ดังนั้น ด้วยเหตุนี้ สำหรับพระยะโฮวาแล้ว เชลยเหล่านั้นกับลูกหลานของเขาจึงเป็นเสมือนผลมะเดื่อเทศที่ดีมากตอนต้นฤดู.
7. เมื่อไรและโดยวิธีใดที่พระยะโฮวาทรงเฝ้าดูชนจำพวกยิระมะยาสมัยนี้ “ในทางดี”?
7 คุณอาจจำได้ว่า ในการพิจารณาก่อนหน้านี้เกี่ยวกับคำพยากรณ์ของยิระมะยา เรารู้ว่า คำพยากรณ์เหล่านั้นมีความหมายสำหรับศตวรรษที่ 20 ของเรา. และบท 24 ก็เช่นกัน. ในระหว่างปีต่าง ๆ อันมืดมนแห่งสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ผู้รับใช้ที่อุทิศตัวแล้วของพระยะโฮวาหลายคนตกอยู่ใต้อิทธิพลของบาบูโลนใหญ่ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง. แต่พระเนตรที่เฝ้าระวังระไวของพระยะโฮวา ‘มองดูพวกเขาในทางดี.’ ดังนั้น โดยทางพระเยซูคริสต์ ไซรัสผู้ยิ่งใหญ่ พระยะโฮวาทรงทำลายอำนาจที่บาบูโลนใหญ่มีเหนือพวกเขา และค่อย ๆ นำเขาเข้าสู่อุทยานฝ่ายวิญญาณ. ชนยิศราเอลฝ่ายวิญญาณเหล่านี้ได้ตอบรับและกลับมาหาพระยะโฮวาอย่างสิ้นสุดหัวใจ. ครั้นแล้ว ในปี 1931 พวกเขารับเอาชื่อพยานพระยะโฮวาด้วยความยินดี. บัดนี้ จึงกล่าวได้อย่างแท้จริงว่า พวกเขากลายเป็นเหมือนตะกร้าที่ใส่มะเดื่อเทศที่ดีมากในสายพระเนตรของพระยะโฮวา.
8. ด้วยวิธีใดที่เหล่าพยานของพระยะโฮวาประกาศข่าวสารราชอาณาจักรซึ่งหวานเยี่ยงมะเดื่อเทศออกไปอย่างกว้างขวาง?
8 และเหล่าพยานพระยะโฮวาไม่ได้พลาดจากจุดประสงค์แห่งพระกรุณาอันไม่พึงได้รับที่พระเจ้าทรงสำแดงโดยการปลดปล่อยพวกเขาจากบาบูโลนใหญ่นั้น. พวกเขาไม่ได้เก็บความหวานเยี่ยงมะเดื่อเทศของข่าวสารราชอาณาจักรอันเป็นข่าวดีนั้นไว้กับตนเอง แต่พวกเขาได้ประกาศข่าวนั้นออกไปอย่างกว้างขวางด้วยการปฏิบัติตามคำตรัสของพระเยซูที่มัดธาย 24:14 (ล.ม.) ที่ว่า “ข่าวดีแห่งราชอาณาจักรนี้จะได้รับการประกาศทั่วทั้งแผ่นดินโลกที่มีคนอาศัยอยู่ เพื่อให้คำพยานแก่ทุกชาติ.” แล้วผลเป็นอย่างไร? มีคนเยี่ยงแกะกว่า 4,700,000 คนซึ่งไม่ใช่ยิศราเอลฝ่ายวิญญาณได้หนีออกจากบาบูโลนใหญ่!
มะเดื่อเทศเลวในนิมิต
9. มะเดื่อเทศเลวในนิมิตที่สำแดงแก่ยิระมะยานั้นหมายถึงผู้ใด และเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา?
9 แต่จะว่าอย่างไรกับตะกร้าที่ใส่มะเดื่อเทศเลวในนิมิตของยิระมะยา? บัดนี้ ยิระมะยาเพ่งความสนใจยังคำตรัสของพระยะโฮวาที่ยิระมะยาบท 24 ข้อ 8 ถึง 10 (ล.ม.) ดังนี้: “เหมือนกับมะเดื่อเทศเลวซึ่งไม่อาจกินได้เพราะความเลวนั้น ที่จริงพระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้: ‘ฉะนั้นเราจะมอบซิดคียากษัตริย์แห่งยูดาและพวกเจ้าชายของเขาและคนที่เหลืออยู่แห่งยะรูซาเลมซึ่งคงอยู่ในแผ่นดินนี้และคนเหล่านั้นซึ่งอาศัยอยู่ในแผ่นดินอียิปต์—เรายังจะมอบเขาไว้กับความสั่นสะเทือน กับความหายนะ ในบรรดาอาณาจักรแห่งแผ่นดินโลกอีกด้วย กับความอัปยศและภาษิต กับการเยาะเย้ยและการแช่งด่า ในทั่วทุกแห่งที่เราทำให้เขากระจัดกระจายไป. และเราจะใช้ดาบ ความอดอยากและโรคระบาดต่อสู้เขา จนกว่าพวกเขาจะหมดสิ้นจากแผ่นดินที่เราได้ประทานแก่เขาและแก่บรรพบุรุษของเขา.’”
10. ทำไมพระยะโฮวาทรงถือว่าซิดคียาเป็น ‘มะเดื่อเทศเลว’?
10 ดังนั้น ซิดคียาจึงปรากฏออกมาอย่างแท้จริงว่าเป็น ‘มะเดื่อเทศเลว’ ในสายพระเนตรของพระยะโฮวา. เขาไม่เพียงแต่กบฏต่อกษัตริย์นะบูคัดเนซัรโดยการละเมิดคำสาบานซึ่งเขาได้ทำในพระนามของพระยะโฮวาว่าจะภักดีต่อกษัตริย์เท่านั้น แต่เขายังได้ปฏิเสธความเมตตาสงสารของพระยะโฮวาที่แผ่มาถึงเขาโดยทางยิระมะยาอีกด้วย. อันที่จริง เขาถึงกับสั่งให้คุมขังยิระมะยาเสียด้วยซ้ำ! จึงไม่แปลกที่เอษรากล่าวสรุปถึงทัศนะของกษัตริย์องค์นี้ดังที่ท่านบอกไว้ที่ 2 โครนิกา 36:12 ดังนี้: “ท่านได้ประพฤติเป็นการชั่วต่อพระเนตรพระยะโฮวาพระเจ้าของท่าน, ไม่ได้ถ่อมพระทัยลง.” ในสายพระเนตรพระยะโฮวา ซิดคียากับคนที่ยังอยู่ในกรุงยะรูซาเลมเป็นเหมือนตะกร้าใส่มะเดื่อเทศเลวที่เน่าเสีย!
มะเดื่อเทศเน่าโดยนัยในสมัยของเรา
11, 12. ใครถูกระบุว่าเป็นมะเดื่อเทศเลวในทุกวันนี้ และจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา?
11 ทีนี้มาดูทั่วโลกทุกวันนี้. คุณคิดว่าเราจะพบตะกร้าใส่มะเดื่อเทศเลวโดยนัยได้ไหม? ให้เรามาพิจารณาข้อเท็จจริงโดยเปรียบเทียบสมัยของเรากับสมัยยิระมะยา. ในศตวรรษที่ 20 นี้ พระยะโฮวาทรงใช้ชนจำพวกยิระมะยา ชนที่เหลือผู้ถูกเจิม ให้เตือนนานาชาติอย่างต่อเนื่องถึงพระพิโรธกล้าของพระองค์ในคราวความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่ที่ใกล้เข้ามา. พระองค์ทรงกระตุ้นนานาประเทศให้ถวายสง่าราศีอันควรแก่พระนามของพระองค์, ให้นมัสการพระองค์ด้วยวิญญาณและความจริง, และให้ยอมรับพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์ผู้ทรงราชย์ ในฐานะผู้ปกครองที่ทรงสิทธิอันชอบธรรมแห่งแผ่นดินโลก. ปฏิกิริยาเป็นอย่างไร? ก็เป็นเช่นเดียวกับในสมัยยิระมะยา. นานาชาติยังคงทำสิ่งชั่วในสายพระเนตรของพระยะโฮวาต่อไป.
12 ใครล่ะคือผู้ที่ปลุกปั่นให้มีทัศนะขืนอำนาจเช่นนี้? ใครล่ะที่เฝ้าเยาะเย้ยผู้ส่งข่าวของพระเจ้าที่เป็นเหมือนยิระมะยาเหล่านี้โดยตั้งข้อสงสัยในสิทธิของพวกเขาที่จะปฏิบัติงานในฐานะผู้รับใช้ของพระเจ้า? ใครล่ะที่เอาแต่หมิ่นประมาทพระวจนะของพระเจ้า? ใครในทุกวันนี้ที่ได้อยู่เบื้องหลังการกดขี่ข่มเหงส่วนใหญ่ที่มีต่อพยานพระยะโฮวา. ใคร ๆ ก็รู้คำตอบ—นั่นคือคริสต์ศาสนจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกนักเทศน์นักบวช! และเพียงแค่มองดูที่ผลอันเลวและเน่าเสียทั้งหมดของคริสต์ศาสนจักรที่เราได้พิจารณาในบทความก่อนหน้านี้สิ. ใช่แล้ว ในโลกทุกวันนี้ มีตะกร้าที่ใส่มะเดื่อเทศเลวโดยนัยนั้นแน่นอน! แท้จริง พระยะโฮวาตรัสว่า มะเดื่อเทศเหล่านั้นไม่อาจ “กินได้เพราะความเลวนั้น.” พระคำของพระยะโฮวาโดยทางยิระมะยาดังก้องมาจนถึงทุกวันนี้ว่า ‘พวกเขาจะหมดสิ้นไป’! พระพิโรธของพระยะโฮวาต่อคริสต์ศาสนจักรจะไม่มีทางแก้ไข.
คำเตือนสติอันเป็นบทเรียนสำหรับเรา
13. เมื่อคำนึงถึงถ้อยคำของเปาโลที่ 1 โกรินโธ 10:11 เราควรเข้าใจนิมิตเรื่องตะกร้าสองใบที่ใส่มะเดื่อเทศนั้นอย่างไร?
13 ขณะที่เราตรวจสอบความหมายต่าง ๆ ที่แฝงอยู่ในข่าวสารเตือนสติที่ได้รับการดลใจของยิระมะยานั้น ถ้อยคำของอัครสาวกเปาโลที่ 1 โกรินโธ 10:11 (ล.ม.) ดังก้องขึ้นในหูของเรา ที่ว่า “เหตุการณ์เหล่านี้ได้บังเกิดแก่เขาเป็นตัวอย่าง และได้บันทึกไว้เพื่อเตือนสติพวกเราผู้ซึ่งกำลังอยู่ในกาลสิ้นสุดแห่งระบบสิ่งต่าง ๆ.” เราเองได้ใส่ใจคำเตือนสติที่ถ่ายทอดแก่เราโดยนิมิตเรื่องตะกร้าใส่มะเดื่อเทศสองใบนี้ไหม? สิ่งที่เราได้พิจารณากันนี้เป็นส่วนสำคัญจากสิ่งที่เกิดแก่ชาวยิศราเอลเพื่อเป็นตัวอย่างเตือนสติเรา.
14. ชาวยิศราเอลตอบรับอย่างไรต่อการที่พระยะโฮวาทรงดูแลด้วยความอ่อนโยน?
14 ประการสุดท้าย ให้เรานึกถึงคำตรัสที่พระยะโฮวามีแก่กษัตริย์ดาวิดเกี่ยวกับชาวยิศราเอล ดังที่พบใน 2 ซามูเอล 7:10 (ฉบับแปลใหม่) ดังนี้: “เราจะกำหนดที่หนึ่งให้อิสราเอลประชากรของเรา และเราจะปลูกฝังเขาไว้.” พระยะโฮวาทรงดูแลชาวยิศราเอลไพร่พลของพระองค์ด้วยความอ่อนโยนในทุกทาง. จึงมีเหตุผลทุกประการที่ชนชาติยิศราเอลพึงเกิดผลอันดีในชีวิตของพวกเขา. พวกเขาเพียงแต่ต้องเชื่อฟังคำสอนจากพระเจ้ายะโฮวาและรักษาพระบัญญัติของพระองค์เท่านั้น. กระนั้น มีเพียงไม่กี่คนที่ทำเช่นนั้น. ส่วนใหญ่ล้วนแต่ดื้อรั้นและเอาแต่ใจตัวเองจนพวกเขาได้เกิดผลที่เลวและเน่าเสีย.
15. ชนยิศราเอลฝ่ายวิญญาณในปัจจุบันและเพื่อนร่วมงานของเขาที่เป็นเสมือนแกะได้ตอบรับความเมตตาของพระยะโฮวาอย่างไร?
15 แล้วจะว่าอย่างไรกับสมัยของเรา? พระยะโฮวาทรงแสดงความเมตตามากมายต่อชนยิศราเอลฝ่ายวิญญาณที่เหลืออยู่และต่อเหล่าเพื่อนร่วมงานของเขาที่เป็นเสมือนแกะ. พระองค์ทรงเฝ้าดูพวกเขามาโดยตลอดตั้งแต่พวกเขาได้รับการช่วยให้รอดทางฝ่ายวิญญาณในปี 1919. ดังที่พระองค์ทรงบอกล่วงหน้าโดยทางยะซายา พวกเขาได้รับคำสั่งสอนเป็นประจำทุกวันจากพระเจ้ายะโฮวา ครูผู้ใหญ่ยิ่งในเอกภพ. (ยะซายา 54:13) คำสอนจากพระเจ้าซึ่งมีมาโดยผ่านทางพระเยซูคริสต์พระบุตรที่รักของพระองค์นี้ได้ยังผลด้วยสันติสุขอันบริบูรณ์ในท่ามกลางพวกเขาและนำพวกเขาเข้าสู่สัมพันธภาพอันใกล้ชิดยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ กับพระยะโฮวา. ช่างเป็นสภาพแวดล้อมฝ่ายวิญญาณอันยอดเยี่ยมจริง ๆ ที่อำนวยให้เราทั้งหลายมารู้จักพระยะโฮวา รับฟังพระองค์ และแล้วก็ดำเนินต่อไปเพื่อบังเกิดผลอันดีในชีวิตของเรา คือผลซึ่งนำคำสรรเสริญแด่พระยะโฮวา! นั่นหมายถึงชีวิตของเราทีเดียว!
16. เราแต่ละคนจะนำนิมิตเรื่องตะกร้าสองใบที่ใส่มะเดื่อเทศไปใช้เป็นส่วนตัวได้อย่างไร?
16 แต่ทั้ง ๆ ที่พระเจ้าทรงสำแดงพระกรุณาอันไม่พึงได้รับมากมายเช่นนั้น ก็ยังคงมีบางคนที่ขัดขืนและหัวใจแข็งกระด้าง เหมือนกับหลายคนในสมัยยูดาโบราณ ซึ่งเกิดผลที่เลว เน่าเสียในชีวิตของตน. ช่างน่าเศร้า! ขออย่าให้เราแม้สักคนลืมบทเรียนเตือนใจที่ได้มีการนำเสนออย่างชัดเจนแก่เราโดยตะกร้าสองใบใส่มะเดื่อเทศพร้อมกับผลของมัน—ดีและเลว. ขณะที่การพิพากษาอันสมควรของพระยะโฮวาต่อคริสต์ศาสนจักรที่ออกหากนั้นคืบใกล้เข้ามา ขอให้เราใส่ใจคำเตือนสติของเปาโลที่ว่า ‘จงดำเนินคู่ควรกับพระยะโฮวา เพื่อทำให้ [พระองค์] พอพระทัยอย่างเต็มเปี่ยม ขณะที่ท่านทั้งหลายเกิดผลต่อไปในการงานที่ดีทุกอย่าง.’—โกโลซาย 1:10, ล.ม.
การทบทวน
“ผล—ดีและเลว” และวรรค 1-4 ของ “การโต้แย้งของพระยะโฮวากับนานาชาติ”
▫ ตะกร้าที่ใส่มะเดื่อเทศดีหมายถึงอะไร?
▫ ตะกร้าที่ใส่มะเดื่อเทศเลวในนิมิตปรากฏขึ้นมาอย่างไร?
▫ บทเรียนเตือนใจอะไรที่ข่าวสารของยิระมะยาให้แก่เรา?
▫ ปี 607 ก่อนสากลศักราชและปีสากลศักราช 1914 มีความหมายสำคัญอย่างไร?
[รูปภาพหน้า 15]
เสมือนมะเดื่อเทศดี ไพร่พลของพระเจ้าทำให้เกิดผลอันหอมหวานแห่งราชอาณาจักร
[รูปภาพหน้า 15]
คริสต์ศาสนจักรเป็นเสมือนตะกร้ามะเดื่อเทศเลว