แหล่งอ้างอิงสำหรับชีวิตและงานรับใช้—คู่มือประชุม
วันที่ 4-10 กันยายน
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์ | เอเสเคียล 42-45
“การนมัสการพระยะโฮวาได้รับการฟื้นฟูแล้ว!”
it-2-E น. 1082 ว. 2
วิหาร
2 นิมิตของเอเสเคียลเรื่องวิหาร ในปี 593 ก่อน ค.ศ. ซึ่งเป็นปีที่ 14 หลังจากกรุงเยรูซาเล็มและวิหารของโซโลมอนที่อยู่ในกรุงนั้นถูกทำลาย พระยะโฮวาให้เอเสเคียลชายที่เป็นปุโรหิตและผู้พยากรณ์เห็นนิมิต ในนิมิตนั้นพระองค์พาเขาขึ้นไปบนภูเขาสูงซึ่งมีวิหารของพระยะโฮวาตั้งอยู่ (อสค 40:1, 2) พระองค์บอกให้เขาเล่าเรื่องทั้งหมดนี้ให้ “ชาวอิสราเอล” ฟัง เพื่อให้ชาวยิวที่เป็นเชลยรู้สึกเสียใจและกลับใจ และแน่นอนว่าเพื่อให้กำลังใจคนที่ซื่อสัตย์ด้วย (อสค 40:4; 43:10, 11) ในนิมิตมีการเน้นเรื่องการวัดขนาดของวิหาร หน่วยที่ใช้วัดคือ “ไม้วัด” (ไม้วัดยาวเท่ากับ 3.11 ม.) และ “ศอก” (ศอกยาวเท่ากับ 51.8 ซม.) (อสค 40:5, เชิงอรรถ) การเน้นเรื่องการวัดขนาดของวิหารนี้ ทำให้หลายคนคิดว่าวิหารในนิมิตจะเป็นแบบสำหรับใช้สร้างวิหารจริงโดยเศรุบบาเบล ซึ่งจะสร้างหลังจากที่ชาวยิวหลุดพ้นจากการเป็นเชลยในบาบิโลน แต่ก็ไม่มีหลักฐานใด ๆ ยืนยันในเรื่องนี้
ขุดค้นความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
it-2-E น. 467 ว. 4
ชื่อ
4 อิสราเอลล้มเหลวในการใช้ชีวิตตามมาตรฐานที่ถูกต้องของพระเจ้า พวกเขาทำตัวไม่สมกับเป็นประชาชนที่ใช้ชื่อของพระองค์และทำให้ชื่อของพระเจ้ามัวหมอง (อสค 43:8; อมส 2:7) ความไม่ซื่อสัตย์ของชาวอิสราเอลทำให้พระเจ้าลงโทษพวกเขา และนี่ทำให้ชาติอื่น ๆ พูดถึงชื่อของพระเจ้าในทางที่ไม่ดี (เทียบกับ สด 74:10, 18; อสย 52:5) แทนที่ชาติเหล่านั้นจะเห็นว่านี่เป็นการลงโทษจากพระยะโฮวา พวกเขากลับคิดไปเองว่าความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับอิสราเอลเป็นเพราะพระยะโฮวาไม่มีพลังอำนาจปกป้องประชาชนของพระองค์ ดังนั้น เพื่อจะทำให้ชื่อของพระองค์ไม่ถูกตำหนิอีกต่อไป พระยะโฮวาจึงตัดสินใจช่วยคนที่เหลืออยู่ให้กลับไปแผ่นดินของตัวเองเพราะเห็นแก่ชื่อของพระองค์—อสค 36:22-24
it-2-E น. 140
ความยุติธรรม
ดังนั้น พระยะโฮวาจึงใช้สิทธิ์อันชอบธรรมของพระองค์เรียกร้องให้คนที่ต้องการทำให้พระองค์พอใจคุ้นเคยและทำตามมาตรฐานที่ยุติธรรมของพระองค์ (อสย 1:17, 18; 10:1, 2; ยรม 7:5-7; 21:12; 22:3, 4; อสค 45:9, 10; อมส 5:15; มคา 3:9-12; 6:8; ศคย 7:9-12)
วันที่ 11-17 กันยายน
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์ | เอเสเคียล 46-48
ขุดค้นความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
it-2-E น. 1001
ลูกมนุษย์
ในพระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรู คำว่า “ลูกมนุษย์” ปรากฏบ่อยที่สุดในหนังสือเอเสเคียลซึ่งมีมากกว่า 90 ครั้ง คำนี้เป็นคำที่พระเจ้าใช้เรียกผู้พยากรณ์ (อสค 2:1, 3, 6, 8) พระเจ้าใช้คำเรียกนี้เพื่อเน้นว่าผู้พยากรณ์เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ๆ พระองค์ต้องการให้เห็นความแตกต่างระหว่างผู้ส่งข่าวที่เป็นมนุษย์และผู้ที่เป็นต้นกำเนิดของข่าวนั้นซึ่งก็คือพระเจ้าองค์สูงสุด มีการใช้คำเรียกนี้กับดาเนียลด้วยที่ดาเนียล 8:17
วันที่ 18-24 กันยายน
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์ | ดาเนียล 1-3
ขุดค้นความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
it-2-E น. 382
เมชาค
อาจมีเหตุผล 3 อย่างที่ทำให้พวกเขาคิดว่าอาหารอย่างดีของกษัตริย์จะ “ทำให้ตัวเองไม่สะอาด” (1) ชาวบาบิโลนกินสัตว์ที่ไม่สะอาดตามที่บอกไว้ในกฎหมายของโมเสส (2) พวกเขาอาจไม่รู้ว่าสัตว์เหล่านั้นถูกฆ่าอย่างไร บางตัวอาจถูกรัดคอตาย (3) ชาวนอกรีตมักถวายสัตว์เป็นเครื่องบูชาพระของพวกเขาก่อน และถือว่าเมื่อนำมากินก็เป็นส่วนหนึ่งในการนมัสการพระเหล่านั้น—ดนล 1:8; เทียบกับ 1คร 10:18-20, 28
วันที่ 25 กันยายน-1 ตุลาคม
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์ | ดาเนียล 4-6
ขุดค้นความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
w 88-E 10/1 น. 30 ว. 3-5
คำถามจากผู้อ่าน
3 เมื่อดาเนียลชาวฮีบรูถูกนำตัวเข้ามา กษัตริย์ย้ำข้อเสนออีกครั้งว่า ดาเนียลจะได้สวมเสื้อยศสีม่วงและสร้อยคอทองคำ และจะได้เป็นใหญ่เป็นอันดับสามในอาณาจักร ผู้พยากรณ์ตอบกษัตริย์อย่างให้เกียรติว่า “ขอให้ท่านเก็บของขวัญไว้ หรือเอาไปให้คนอื่นก็ได้ แต่ผมจะอ่านและแปลข้อความนั้นให้”—ดาเนียล 5:17
4 ดาเนียลไม่ต้องการรับสินบนหรือค่าจ้างสำหรับการแปลข้อความนั้น กษัตริย์จะเก็บของขวัญนั้นไว้หรือมอบให้คนอื่นก็ได้ ดาเนียลมาช่วยอธิบายไม่ใช่เพราะต้องการรางวัล แต่เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าเที่ยงแท้ที่กำลังจะนำการพิพากษาลงโทษมาสู่บาบิโลนเป็นผู้ให้อำนาจเขาในเรื่องนี้
5 ตามที่เราอ่านในดาเนียล 5:29 หลังจากดาเนียลอ่านและแปลข้อความนั้นตามที่เขาบอกแล้ว กษัตริย์ก็ยังสั่งให้เอารางวัลมามอบให้ดาเนียลอยู่ดี ตัวดาเนียลเองไม่ยอมสวมเสื้อยศและใส่สร้อยคอ แต่คนพวกนั้นเอามาสวมให้เขาตามคำสั่งของกษัตริย์เบลชัสซาร์จอมเผด็จการ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ขัดแย้งกับดาเนียล 5:17 ที่ผู้พยากรณ์ทำให้รู้ชัดเจนว่าเขาไม่มีเจตนาที่เห็นแก่ตัว