ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • เราแสวงหาราชอาณาจักรเป็นอันดับแรก
    หอสังเกตการณ์ 1994 | กุมภาพันธ์ 1
    • เรา​แสวง​หา​ราชอาณาจักร​เป็น​อันดับ​แรก

      เล่า​โดย โอลิฟ สปริงเกต

      คุณ​แม่​เพิ่ง​ดับ​เทียน​ไข​และ​ออก​ไป​จาก​ห้อง​หลัง​จาก​ที่​ฟัง​เรา​อธิษฐาน​แล้ว. น้อง​ชาย​ถาม​ดิฉัน​ขึ้น​มา​ทันที​ว่า “พี่​โอลิฟ พระเจ้า​เห็น​และ​ได้​ยิน​เรา​ผ่าน​กำแพง​อิฐ​ได้​อย่าง​ไร​ครับ?”

      ดิฉัน​ตอบ​ว่า “คุณ​แม่​บอก​ว่า พระองค์​สามารถ​มอง​ทะลุ​อะไร ๆ ก็​ได้ แม้​กระทั่ง​เข้า​ไป​ใน​หัวใจ​ของ​เรา​ที​เดียว.” คุณ​แม่​เป็น​สตรี​ที่​เกรง​กลัว​พระเจ้า​และ​เป็น​นัก​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ตัว​ยง และ​ท่าน​ปลูกฝัง​พวก​เรา​ลูก ๆ ให้​มี​ความ​เคารพ​อย่าง​สุด​ซึ้ง​ต่อ​พระเจ้า​และ​ต่อ​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล.

      คุณ​พ่อ​คุณ​แม่​เป็น​สมาชิก​ของ​นิกาย​แองกลิคัน​ใน​เมือง​เล็ก ๆ ที่​มี​ชื่อ​ว่า​แชตแทม มณฑล​เคนต์ ประเทศ​อังกฤษ. แม้​ว่า​คุณ​แม่​ไป​โบสถ์​เป็น​ประจำ แต่​ท่าน​เชื่อ​ว่า การ​เป็น​คริสเตียน​มี​ความ​หมาย​มาก​กว่า​การ​เพียง​แต่​ไป​นั่ง​ให้​ม้า​นั่ง​ใน​โบสถ์​อุ่น​สัปดาห์​ละ​ครั้ง. ท่าน​แน่​ใจ​ด้วย​ว่า พระเจ้า​ต้อง​มี​คริสต์​จักร​แท้​เพียง​คริสต์​จักร​เดียว.

      หยั่ง​รู้​ค่า​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล

      ใน​ปี 1918 ตอน​ที่​ดิฉัน​อายุ​ประมาณ​ห้า​ขวบ คุณ​แม่​ได้​หนังสือ​ชุด​ที่​ชื่อ​ว่า​คู่มือ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ (ภาษา​อังกฤษ) ซึ่ง​เขียน​โดย​ชาร์ลส์ ที. รัสเซลล์ นายก​คน​แรก​ของ​สมาคม​ว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทร็กต์. สอง​สาม​ปี​ต่อ​มา ขณะ​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​เมือง​เล็ก ๆ ที่​ชื่อ​ว่า วิกมอร์ คุณ​แม่​พบ​กับ​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล ซึ่ง​เป็น​ชื่อ​ที่พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ใน​สมัย​นั้น. ท่าน​รับ​คู่มือ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ชื่อ​ว่า​พิณ​ของ​พระเจ้า (ภาษา​อังกฤษ) เอา​ไว้ และ​จาก​หนังสือ​เล่ม​นี้ ท่าน​เริ่ม​พบ​คำ​ตอบ​สำหรับ​คำ​ถาม​หลาย​ข้อ​ที่​ท่าน​สงสัย​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล. ทุก​สัปดาห์ บัตร​สี​ชมพู​พร้อม​ด้วย​คำ​ถาม​ที่​พิมพ์​มา​สำหรับ​แต่​ละ​บท​จะ​ส่ง​มา​ทาง​ไปรษณีย์. บัตร​นั้น​ยัง​บอก​ด้วย​ว่า​จะ​หา​คำ​ตอบ​ได้​ที่​ไหน​จาก​หนังสือ​เล่ม​นั้น.

      ใน​ปี 1926 คุณ​พ่อ​คุณ​แม่, น้อง​เบริล, และ​ดิฉัน​ลา​ออก​จาก​คริสต์​จักร​แองกลิคัน เพราะ​เรา​รังเกียจ​ที่​คริสต์​จักร​มี​ส่วน​พัวพัน​กับ​การ​เมือง รวม​ทั้ง​คำ​สอน​หลาย​อย่าง​ที่​ไร้​เหตุ​ผล. คำ​สอน​เด่น​อย่าง​หนึ่ง​ก็​คือ พระเจ้า​จะ​ทรมาน​ผู้​คน​ตลอด​ไป​ใน​ไฟ​นรก. คุณ​แม่​ซึ่ง​กำลัง​เสาะ​หา​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​อย่าง​จริงจัง​เชื่อ​แน่​ว่า คริสต์​จักร​แองกลิคัน​ไม่​ใช่​คริสต์​จักร​แท้.

      ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น คุณ​แจ็กสัน นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​คน​หนึ่ง​มา​เยี่ยม​เรา ซึ่ง​เป็น​การ​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​อย่าง​จริงจัง​ของ​คุณ​แม่. เธอ​พูด​กับ​คุณ​แม่​และ​ดิฉัน​เป็น​เวลา​เกือบ​สอง​ชั่วโมง ตอบ​คำ​ถาม​ต่าง ๆ ของ​เรา​โดย​ใช้​คัมภีร์​ไบเบิล. เรา​ดีใจ​ที่​ได้​เรียน​รู้​ว่า เรา​ควร​อธิษฐาน​ถึง​พระเจ้า​ยะโฮวา พระ​บิดา​ของ​พระ​เยซู​คริสต์ และ​ไม่​ใช่​ถึง​พระ​ตรีเอกานุภาพ​ที่​ลึกลับ. (บทเพลง​สรรเสริญ 83:18; โยฮัน 20:17) แต่​สำหรับ​ดิฉัน คำ​ถาม​ที่​จำ​ได้​แม่น​ที่​สุด​ซึ่ง​คุณ​แม่​ถาม​ก็​คือ “การ​แสวง​หา​ราชอาณาจักร​ก่อน​นั้น​หมาย​ความ​ว่า​อย่าง​ไร?”—มัดธาย 6:33.

      คำ​ตอบ​ที่​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หลัก​นั้น​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​ชีวิต​ของ​เรา​มาก. ตั้ง​แต่​สัปดาห์​นั้น​ที​เดียว เรา​เริ่ม​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ของ​พวก​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล และ​เริ่ม​แบ่ง​ปัน​สิ่ง​ที่​เรา​เรียน​รู้​กับ​คน​อื่น. เรา​แน่​ใจ​ว่า เรา​ได้​พบ​ความ​จริง. ไม่​กี่​เดือน​ต่อ​มา ใน​ปี 1927 คุณ​แม่​รับ​บัพติสมา​ซึ่ง​เป็น​สัญลักษณ์​แสดง​การ​อุทิศ​ตัว​เพื่อ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา และ​ใน​ปี 1930 ดิฉัน​ก็​รับ​บัพติสมา​เช่น​กัน.

      เข้า​สู่​งาน​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์

      ครอบครัว​ของ​เรา​เข้า​ร่วม​ประชุม​ที่​ประชาคม​กิลลิงแฮม ซึ่ง​มี​สมาชิก​ประมาณ 25 คน. หลาย​คน​ใน​จำนวน​นั้น​เป็น​ผู้​เผยแพร่​เต็ม​เวลา หรือ​ที่​เรียก​ว่า​ไพโอเนียร์ และ​ทุก​คน​มี​ความ​หวัง​ทาง​ภาค​สวรรค์. (ฟิลิปปอย 3:14, 20) ความ​กระตือรือร้น​แบบ​คริสเตียน​ของ​พวก​เขา​เป็น​เหมือน​โรค​ติด​ต่อ. ขณะ​ที่​ยัง​เป็น​วัยรุ่น ดิฉัน​เป็น​ไพโอเนียร์​ชั่ว​เวลา​สั้น ๆ ใน​เบลเยียม​ตอน​ต้น​ทศวรรษ​ปี 1930. สิ่ง​นี้​กระตุ้น​ความ​ปรารถนา​ของ​ดิฉัน​ที่​จะ​รับใช้​เพื่อ​ราชอาณาจักร​มาก​ยิ่ง​ขึ้น. ใน​เวลา​นั้น เรา​มี​ส่วน​ใน​การ​แจก​จ่าย​หนังสือ​เล่ม​เล็ก​ที่​ชื่อ​ว่า​ราชอาณาจักร ความ​หวัง​ของ​โลก (ภาษา​อังกฤษ) ให้​กับ​นัก​เทศน์​ทุก​คน​คน​ละ​เล่ม.

      ต่อ​มา คุณ​พ่อ​กลับ​ต่อ​ต้าน​การ​งาน​ฝ่าย​คริสเตียน​ของ​เรา​อย่าง​หนัก และ​เนื่อง​จาก​นี่​เป็น​สาเหตุ​หนึ่ง ดิฉัน​จึง​ย้าย​ไป​กรุง​ลอนดอน​ใน​ปี 1932 เพื่อ​เข้า​เรียน​ใน​วิทยาลัย. ต่อ​มา ดิฉัน​เป็น​ครู​อยู่​สี่​ปี และ​ใน​ช่วง​นั้น​ก็​สมทบ​กับ​ประชาคม​แบล็กฮีท หนึ่ง​ใน​ประชาคม​เพียง​สี่​แห่ง​ใน​ลอนดอน​เวลา​นั้น. ใน​ช่วง​นั้น​เอง เรา​เริ่ม​ได้​ยิน​ข่าว​เกี่ยว​กับ​พี่​น้อง​คริสเตียน​ชาย​หญิง​ของ​เรา​ใน​เยอรมนี​ที่​ฮิตเลอร์​มี​อำนาจ​อยู่​นั้น​ถูก​คุม​ขัง​และ​ทน​ทุกข์​ทรมาน เนื่อง​จาก​พวก​เขา​ไม่​ยอม​สนับสนุน​การ​สงคราม​ของ​ฮิตเลอร์.

      ใน​ปี 1938 เดือน​นั้น​ที​เดียว​ที่​ดิฉัน​หมด​หนี้​ค่า​หนังสือ​ต่าง ๆ ที่​ดิฉัน​ได้​รับ ดิฉัน​ออก​จาก​งาน​เพื่อ​เป็น​ไพโอเนียร์​สม​ดัง​ที่​ปรารถนา. เบริล​น้อง​สาว​ดิฉัน​เริ่ม​งาน​ไพโอเนียร์​ที่​ลอนดอน​ใน​เวลา​เดียว​กัน แต่​เธอ​อยู่​ใน​บ้าน​ไพโอเนียร์​อีก​หลัง​หนึ่ง. คน​แรก​ที่​ทำ​งาน​คู่​กับ​ดิฉัน​ใน​งาน​ไพโอเนียร์​ก็​คือ มิลเดร็ด วิลเลตต์ ซึ่ง​ต่อ​มา​แต่งงาน​กับ​จอห์น บารร์ เวลา​นี้​เป็น​สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. เรา​จะ​ขี่​จักรยาน​ไป​ยัง​เขต​ทำ​งาน​พร้อม​กับ​คน​อื่น ๆ ใน​กลุ่ม​ของ​เรา และ​อยู่​ที่​นั่น​ตลอด​วัน แม้​ว่า​บ่อย​ครั้ง​ฝน​จะ​ตก​ก็​ตาม.

      เมฆ​ทะมึน​แห่ง​สงคราม​กำลัง​ลอย​อยู่​เหนือ​ยุโรป. มี​การ​ให้​ประชาชน​ฝึก​ซ้อม​ใช้​หน้ากาก​กัน​แก๊ส​พิษ และ​มี​การ​เตรียม​การ​เพื่อ​อพยพ​เด็ก ๆ ไป​ยัง​ชนบท​ของ​อังกฤษ​หรือ​ไป​ยัง​เมือง​เล็ก ๆ ใน​กรณี​ที่​เกิด​สงคราม. ดิฉัน​มี​เงิน​เก็บ​แค่​พอ​ซื้อ​รอง​เท้า​หนึ่ง​คู่ และ​ไม่​มี​ทาง​ที่​จะ​ได้​ความ​ช่วยเหลือ​ทาง​การ​เงิน​จาก​คุณ​พ่อ​คุณ​แม่. แต่​พระ​เยซูตรัส​ไว้​มิ​ใช่​หรือ​ที่​ว่า ‘พระองค์​จะ​ทรง​เพิ่ม​เติม​สิ่ง​อื่น​เหล่า​นี้​ทั้ง​หมด หาก​ท่าน​แสวง​หา​ราชอาณาจักร​ก่อน’? (มัดธาย 6:33, ล.ม.) ดิฉัน​มี​ความ​เชื่อ​อย่าง​เต็ม​เปี่ยม​ว่า พระ​ยะโฮวา​จะ​ทรง​เพิ่ม​เติม​สิ่ง​จำเป็น​ทั้ง​หมด​แก่​ดิฉัน และ​พระองค์​ทรง​เพิ่ม​เติม​ให้​ดิฉัน​มาก​มาย​ใน​ช่วง​ปี​เหล่า​นี้. ระหว่าง​สงคราม บาง​ครั้ง ดิฉัน​ได้​ผัก​ซึ่ง​เก็บ​ได้​ตาม​ถนน​หลัง​จาก​ที่​รถ​บรรทุก​ผัก​เต็ม​คัน​แล่น​ผ่าน​ไป มา​เพิ่ม​เข้า​กับ​อาหาร​เพียง​เล็ก​น้อย​ที่​ได้​จาก​การ​ปัน​ส่วน. และ​บ่อย​ครั้ง ดิฉัน​จะ​ได้​อาหาร​จาก​การ​แลก​สรรพหนังสือ​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​ผัก​และ​ผลไม้.

      ซอนยา​น้อง​สาว​คน​เล็ก​ของ​ดิฉัน​เกิด​ปี 1928. เธอ​อายุ​เพียง​เจ็ด​ขวบ​ตอน​ที่​เธอ​อุทิศ​ชีวิต​แด่​พระ​ยะโฮวา. ซอนยา​บอก​ว่า แม้​อายุ​ยัง​น้อย งาน​ไพโอเนียร์​ก็​เป็น​เป้า​ประสงค์​ของ​เธอ. ใน​ปี 1941 ไม่​นาน​หลัง​จาก​ที่​แสดง​สัญลักษณ์​ของ​การ​อุทิศ​ตัว​โดย​รับ​บัพติสมา​ใน​น้ำ เธอ​ทำ​ให้​เป้า​ประสงค์​นั้น​เป็น​จริง​เมื่อ​เธอ​และ​คุณ​แม่​ได้​รับ​มอบหมาย​เป็น​ไพโอเนียร์​ที่​คาร์ฟิลลี แคว้น​เวลส์​ตอน​ใต้.

      งาน​เผยแพร่​ของ​เรา​ใน​ช่วง​สงคราม

      ใน​เดือน​กันยายน 1939 สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง​เริ่ม​ขึ้น และ​พี่​น้อง​คริสเตียน​ชาย​หญิง​ของ​เรา​ใน​อังกฤษ​ถูก​คุม​ขัง​ด้วย​เหตุ​ผล​เดียว​กัน​กับ​ที่​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ของ​พวก​เขา​ถูก​จับ​ใน​เยอรมนี​ภาย​ใต้​การ​ครอบครอง​ของ​นาซี นั่น​คือ​จุด​ยืน​ที่​เป็น​กลาง​เกี่ยว​กับ​การ​เข้า​ร่วม​สงคราม. การ​ทิ้ง​ระเบิด​ใน​อังกฤษ​เริ่ม​ขึ้น​กลาง​ปี 1940. คืน​แล้ว​คืน​เล่า การ​โจมตี​ทิ้ง​ระเบิด​แบบ​สาย​ฟ้า​แลบ​ดัง​จน​แสบ​แก้ว​หู แต่​ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​ของ​พระ​ยะโฮวา เรา​ได้​หลับ​บ้าง​และ​รู้สึก​สดชื่น​ที่​จะ​ทำ​งาน​เผยแพร่​ใน​วัน​รุ่ง​ขึ้น.

      บาง​ครั้ง เรา​ไป​ถึง​เขต​ประกาศ​ของ​เรา แต่​แล้ว​ก็​พบ​ว่า​บ้าน​ส่วน​ใหญ่​พัง​พินาศ​ไป​แล้ว. ใน​เดือน​พฤศจิกายน มี​ระเบิด​ลูก​หนึ่ง​ตก​ห่าง​ออก​ไป​ไม่​กี่​หลา​จาก​บ้าน​ที่​พวก​เรา​บาง​คน​พัก​อยู่ ทำ​ให้​หน้าต่าง​แตก​กระจาย​ไม่​เป็น​ชิ้น​ดี. ประตู​หน้า​บ้าน​บาน​หนัก​ล้ม​ลง และ​ปล่อง​ไฟ​ก็​พัง​ลง​มา. หลัง​จาก​ที่​อยู่​ใน​หลุม​หลบ​ภัย​จน​ถึง​เช้า เรา​แยก​กัน​ไป​อยู่​ตาม​บ้าน​ของ​พี่​น้อง​พยาน​ฯ.

      ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น ดิฉัน​ได้​รับ​งาน​มอบหมาย​ให้​ไป​ยัง​ครอยดอน​ใน​เขต​ลอนดอน​และ​ปริมณฑล. ไพโอเนียร์​ที่​เป็น​คู่​ของ​ดิฉัน​คือ​แอนน์ พาร์กิน ซึ่ง​รอน พาร์กิน น้อง​ชาย​ของ​เธอ​ได้​เป็น​ผู้​ประสาน​งาน​สาขา​ที่​เปอร์โตริโก​ใน​เวลา​ต่อ​มา. จาก​นั้น ดิฉัน​ย้าย​ไป​ที่​บริดเจนด์ แคว้น​เวลส์​ตอน​ใต้ ที่​ซึ่ง​ดิฉัน​เป็น​ไพโอเนียร์​ต่อ โดย​อาศัย​อยู่​ใน​รถ​ตู้​เทียม​ม้า​เป็น​เวลา​หก​เดือน. จาก​ที่​นั่น เรา​จะ​ขี่​จักรยาน​หก​กิโลเมตร เพื่อ​ไป​ยัง​ประชาคม​ใหญ่​ที่​อยู่​ใกล้​ที่​สุด​ที่​พอร์ตแทลบอต.

      ใน​เวลา​นั้น ประชาชน​เริ่ม​เป็น​ปฏิปักษ์​ต่อ​เรา​มาก เรียก​เรา​ว่า คอนชีส์ (ผู้​ที่​ปฏิเสธ​การ​เป็น​ทหาร​เนื่อง​ด้วย​หลัก​ทาง​ศีลธรรม​หรือ​ศาสนา). สิ่ง​นี้​ทำ​ให้​เรา​หา​ที่​พัก​ได้​ยาก แต่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​เอา​พระทัย​ใส่​เรา​ตาม​ที่​ทรง​สัญญา​ไว้.

      ต่อ​มา พวก​เรา​แปด​คน​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​ใน​สวอนซี เมือง​ท่า​ใน​แคว้น​เวลส์​ตอน​ใต้. ขณะ​ที่​สงคราม​ทวี​ความ​รุนแรง​ขึ้น อคติ​ที่​มี​ต่อ​เรา​ก็​ทวีขึ้น​เช่น​กัน. มี​คน​เขียน​คำ​ว่า “คน​ทรยศ” และ “คน​ขี้ขลาด” ที่​กำแพง​บ้าน​พัก​ไพโอเนียร์​ของ​เรา. ความ​เป็น​ปฏิปักษ์​นี้​ถูก​ปลุกปั่น​โดย​รายงาน​ข่าว​ใน​หนังสือ​พิมพ์​เป็น​ส่วน​ใหญ่ ซึ่ง​ประณาม​เรา​ที่​วาง​ตัว​เป็น​กลาง. ใน​ที่​สุด เจ็ด​คน​ใน​พวก​เรา​ถูก​ส่ง​เข้า​คุก​ที​ละ​คน ๆ. ดิฉัน​อยู่​ใน​คุก​คาร์ดิฟฟ์​หนึ่ง​เดือน​ใน​ปี 1942 และ​ต่อ​มา เบริล​น้อง​สาว​ดิฉัน​ก็​อยู่​ใน​คุก​นั้น​ด้วย. แม้​ว่า​เรา​มี​วัตถุ​สิ่ง​ของ​ไม่​มาก​และ​ทน​รับ​การ​เยาะเย้ย​และ​คำ​ตำหนิ แต่​เรา​ก็​ร่ำรวย​ฝ่าย​วิญญาณ.

      ใน​ระหว่าง​นั้น คุณ​แม่​และ​ซอนยา​กำลัง​เป็น​ไพโอเนียร์​ที่​คาร์ฟิลลี และ​มี​ประสบการณ์​ที่​คล้ายคลึง​กัน. การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ราย​แรก​เลย​ที่​ซอนยา​นำ​ก็​คือ​การ​ศึกษา​กับ​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง ซึ่ง​เธอ​ตก​ลง​จะ​ไป​เยี่ยม​ใน​เย็น​วัน​ศุกร์. ซอนยา​มั่น​ใจ​ว่า คุณ​แม่​จะ​ไป​กับ​เธอ แต่​คุณ​แม่​อธิบาย​ว่า “แม่​มี​นัด​อีก​ราย​หนึ่ง. ลูก​เป็น​คน​นัด​แนะ ดัง​นั้น ลูก​จะ​ต้อง​ไป​เอง.” แม้​ว่า​ซอนยา​อายุ​เพียง 13 ปี แต่​เธอ​ก็​ไป​ด้วย​ตัว​เธอ​เอง และ​ผู้​หญิง​คน​นั้น​ก้าว​หน้า​ฝ่าย​วิญญาณ​เป็น​อย่าง​ดี และ​ต่อ​มา​ก็​ได้​มา​เป็น​พยาน​ฯ​ที่​อุทิศ​ตัว.

      กิจการ​งาน​หลัง​สงคราม—แล้ว​ไป​กิเลียด

      เมื่อ​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง​สิ้น​สุด​ลง​ใน​ปี 1945 ดิฉัน​กำลัง​ทำ​งาน​ใน​เขต​โดด​เดี่ยว​ใน​เวลี บริดจ์ มณฑล​เดอร์บีเชียร์. ใน​เช้า​วัน​ที่​มี​การ​ประกาศ​หยุด​ยิง เรา​เยี่ยม​เยียน​และ​ปลอบ​ประโลม​ประชาชน​ซึ่ง​ใน​เวลา​นั้น​เอือม​ระอา​เต็ม​ที​กับ​สงคราม​ที่​ทำ​ให้​มี​ลูก​กำพร้า, หญิง​ม่าย, และ​ร่าง​กาย​ที่​พิการ.

      ไม่​กี่​เดือน​ต่อ​มา สมาคม​ฯ​ขอ​อาสา​สมัคร​ที่​จะ​ไป​เผยแพร่​ใน​ไอร์แลนด์ เกาะ​มรกต. ใน​เวลา​นั้น มี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ประมาณ 140 คน​เท่า​นั้น​บน​เกาะ​นี้ ดัง​นั้น จึง​ถือ​ว่า​เป็น​เขต​มิชชันนารี. ภาย​ใน​เวลา​ไม่​กี่​เดือน ไพโอเนียร์​พิเศษ​ประมาณ 40 คน​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​ที่​นั่น และ​ดิฉัน​เป็น​หนึ่ง​ใน​จำนวน​นั้น.

      หลัง​จาก​ที่​ทำ​งาน​อยู่​ระยะ​หนึ่ง​ใน​เมือง​โคเลอเรน​และ​คุกสทาวน์​ทาง​ตอน​เหนือ ดิฉัน​ได้​รับ​มอบหมาย​พร้อม​กับ​อีก​สาม​คน​ให้​ไป​ยัง​เมือง​ดรออิดา​ทาง​ชายฝั่ง​ตะวัน​ออก. แม้​ว่า​คน​ไอริช​โดย​นิสัย​แล้ว​เป็น​คน​ที่​เป็น​มิตร​และ​มี​อัธยาศัย​ดี​มาก แต่​อคติ​ทาง​ศาสนา​นั้น​มี​มาก​เหลือ​เกิน. ดัง​นั้น ใน​ช่วง​หนึ่ง​ปี​เต็ม ๆ เรา​จำหน่าย​คู่มือ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ได้​แค่​ไม่​กี่​เล่ม​แก่​ประชาชน (ที่​จริง หนังสือ​ปก​แข็ง​เพียง​หนึ่ง​เล่ม​และ​หนังสือ​เล่ม​เล็ก​ไม่​กี่​เล่ม​เท่า​นั้น).

      ระหว่าง​ที่​เรา​อยู่​ที่​เมือง​ดรออิดา ขณะ​ที่​ดิฉัน​กำลัง​ขี่​จักรยาน​จาก​ฟาร์ม​หนึ่ง​ไป​ยัง​อีก​ฟาร์ม​หนึ่ง ใน​ทันใด​นั้น​ก็​มี​ชาย​หนุ่ม​คน​งาน​ใน​ไร่​คน​หนึ่ง​โผล่​พรวด​ออก​จาก​แนว​พุ่ม​ไม้​มา​ที่​ถนน. เขา​เหลียว​ซ้าย​แล​ขวา แล้ว​ถาม​เสียง​เบา ๆ ว่า “คุณ​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใช่​ไหม?” เมื่อ​ดิฉัน​ตอบ​ว่า​ใช่ เขา​ก็​พูด​ต่อ​ว่า “เมื่อ​คืน​นี้ ผม​เถียง​กับ​คู่​หมั้น​อย่าง​รุนแรง​เกี่ยว​กับ​พวก​คุณ​สาว ๆ ทั้ง​หลาย และ​เรา​ถึง​กับ​ถอน​หมั้น​กัน. เธอ​ยืนกราน​ว่า​พวก​คุณ​เป็น​คอมมิวนิสต์ ตาม​ที่​พวก​บาทหลวง​คาทอลิก​และ​หนังสือ​พิมพ์​บอก แต่​ผม​เถียง​ว่า เป็น​จริง​ไป​ไม่​ได้​เพราะ​พวก​คุณ​ไป​ตาม​บ้าน​อย่าง​เปิด​เผย.”

      ดิฉัน​เอา​หนังสือ​เล่ม​เล็ก​ให้​เขา​ไป​อ่าน​เล่ม​หนึ่ง ซึ่ง​เขา​ซ่อน​ไว้​ใน​กระเป๋า และ​เรา​นัด​แนะ​เพื่อ​พบ​และ​คุย​กัน​อีก​หลัง​ค่ำ เพราะ​เขา​บอก​ว่า “ถ้า​มี​ใคร​เห็น​ผม​คุย​กับ​คุณ ผม​จะ​ต้อง​ตก​งาน.” คืน​นั้น สอง​คน​ใน​พวก​เรา​พูด​คุย​กับ​เขา​และ​ตอบ​คำ​ถาม​ของ​เขา​หลาย​ข้อ. ดู​เขา​มั่น​ใจ​ว่า นี่​เป็น​ความ​จริง และ​เขา​สัญญา​ว่า​จะ​มา​ที่​บ้าน​ของ​เรา​อีก​ใน​ตอน​กลางคืน​เพื่อ​เรียน​รู้​มาก​ขึ้น. เขา​ไม่​เคย​มา ดัง​นั้น เรา​จึง​รู้สึก​ว่า คง​ต้อง​มี​คน​ขี่​จักรยาน​ผ่าน​ไป​แล้ว​จำ​เขา​ได้​ใน​คืน​แรก และ​เขา​อาจ​ต้อง​ออก​จาก​งาน. เรา​นึก​สงสัย​อยู่​บ่อย ๆ ว่า เขา​ได้​เข้า​มา​เป็น​พยาน​ฯ​หรือ​ไม่.

      หลัง​จาก​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ภาค​ใน​ไบรก์ตัน​ทาง​ชายฝั่ง​ด้าน​ใต้​ของ​อังกฤษ​ใน​ปี 1949 แล้ว หลาย​คน​ใน​พวก​เรา​ได้​รับ​การ​เชิญ​ให้​ไป​ยัง​โรง​เรียน​ว็อชเทาเวอร์​ไบเบิล​แห่ง​กิเลียด​ใน​รัฐ​นิวยอร์ก. ทั้ง​หมด 26 คน​จาก​อังกฤษ​เข้า​ชั้น​เรียน​ที่ 15 ซึ่ง​สำเร็จ​การ​ศึกษา​ใน​วัน​ที่ 30 กรกฎาคม 1950 ใน​ช่วง​ที่​มี​การ​ประชุม​นานา​ชาติ​ที่​สนาม​กีฬา​แยงกี.

      งาน​เผยแพร่​ของ​เรา​ใน​บราซิล

      ใน​ปี​ถัด​มา ดิฉัน​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​เมือง​เซาเปาโล ประเทศ​บราซิล เมือง​ที่​เติบโต​เร็ว​ที่​สุด​เมือง​หนึ่ง​ของ​โลก. ใน​เวลา​นั้น มี​เพียง​ห้า​ประชาคม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา แต่​เวลา​นี้ มี​เกือบ 600 ประชาคม! ช่าง​เป็น​ความ​แตกต่าง​อะไร​เช่น​นี้​กับ​การ​ทำ​งาน​ใน​ไอร์แลนด์! บ้าน​เป็น​จำนวน​มาก​ใน​เขต​ทำ​งาน​ของ​เรา​ใน​เซาเปาโล​เป็น​คฤหาสน์ ซึ่ง​มี​รั้ว​เหล็ก​สูง​ล้อม​รอบ และ​มี​ประตู​เหล็ก​ดัด​ที่​งดงาม. เรา​จะ​เรียก​เจ้าของ​บ้าน​หรือ​สาว​ใช้​ด้วย​การ​ตบ​มือ.

      ขณะ​ที่​เวลา​ผ่าน​ไป มี​งาน​มอบหมาย​ใหม่ ๆ เข้า​มา. ดิฉัน​ได้​รับ​สิทธิ​พิเศษ​ใน​การ​ช่วย​จัด​ตั้ง​ประชาคม​ใหม่ ๆ ใน​ที่​ต่าง ๆ กัน​ใจ​กลาง​รัฐ​เซาเปาโล รวม​ทั้ง​ประชาคม​หนึ่ง​ใน​ฮุนเดียอิ​ใน​ปี 1955 และ​อีก​ประชาคม​หนึ่ง​ใน​ปิราซิกาบา​ใน​ปี 1958. ต่อ​มา​ใน​ปี 1960 ซอนยา​น้อง​สาว​ได้​มา​ทำ​งาน​คู่​กับ​ดิฉัน​ใน​งาน​มิชชันนารี และ​เรา​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​ยัง​ปอร์โตอะเลเกร เมือง​หลวง​ของ​รัฐ​รีโอแกรงเดดูซุล. คุณ​อาจ​นึก​สงสัย​ว่า เป็น​มา​อย่าง​ไร​เธอ​จึง​มา​ที่​บราซิล?

      ซอนยา​และ​คุณ​แม่​ยัง​คง​เป็น​ไพโอเนียร์​ด้วย​กัน​ต่อ​ไป​ใน​อังกฤษ​หลัง​จาก​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง. แต่​ต้น​ทศวรรษ​ปี 1950 คุณ​แม่​รับ​การ​ผ่าตัด​มะเร็ง ซึ่ง​ทำ​ให้​เธอ​อ่อนแอ​เกิน​กว่า​ที่​จะ​ไป​ตาม​บ้าน​ได้ แม้​ว่า​เธอ​สามารถ​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​และ​เขียน​จดหมาย​ก็​ตาม. ซอนยา​ยัง​คง​อยู่​ใน​งาน​ไพโอเนียร์​ต่อ​ไป และ​ใน​เวลา​เดียว​กัน เธอ​ช่วย​ดู​แล​คุณ​แม่. ใน​ปี 1959 ซอนยา​ได้​รับ​สิทธิ​พิเศษ​ที่​จะ​เข้า​ชั้น​เรียน​ที่ 33 ของ​โรง​เรียน​กิเลียด และ​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​บราซิล. ใน​ระหว่าง​นั้น เบริล​ดู​แล​คุณ​แม่​จน​ท่าน​สิ้น​ชีวิต​ใน​ปี 1962. เบริล​ใน​เวลา​นั้น​แต่งงาน​แล้ว และ​เธอ​กับ​ครอบครัว​กำลัง​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อยู่​อย่าง​ซื่อ​สัตย์.

      ใน​บราซิล ซอนยา​และ​ดิฉัน​ช่วย​หลาย​คน​ถึง​ขั้น​อุทิศ​ตัว​และ​รับ​บัพติสมา. อย่าง​ไร​ก็​ดี ปัญหา​หนึ่ง​ซึ่ง​ชาว​บราซิล​จำนวน​มาก​ประสบ​ก็​คือ การ​ทำ​ให้​การ​สมรส​ของ​ตน​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย. เนื่อง​จาก​การ​หย่า​เป็น​ไป​ได้​ยาก​ใน​บราซิล จึง​ไม่​ใช่​สิ่ง​ผิด​ปกติ​ที่​ผู้​ชาย​และ​ผู้​หญิง​เพียง​แต่​อยู่​ด้วย​กัน​โดย​ไม่​ได้​จด​ทะเบียน​การ​สมรส. นี่​เป็น​กรณี​โดย​เฉพาะ​เมื่อ​ฝ่าย​หนึ่ง​แยก​กัน​อยู่​กับ​คู่​สมรส​เดิม​ที่​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย.

      ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​ชื่อ​อีวา​อยู่​ใน​สภาพการณ์​นี้​เมื่อ​ดิฉัน​พบ​เธอ. คู่​สมรส​ที่​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย​หาย​ตัว​ไป ดัง​นั้น เพื่อ​จะ​รู้​ว่า​เขา​อยู่​ที่​ไหน เรา​จึง​จัด​ให้​มี​คำ​ประกาศ​ทาง​วิทยุ. เมื่อ​ทราบ​ว่า​สามี​ของ​เธอ​อยู่​ที่​ไหน ดิฉัน​ไป​ที่​เมือง​นั้น​กับ​เธอ เพื่อ​ให้​เขา​เซ็น​ชื่อ​ใน​เอกสาร​ซึ่ง​จะ​ทำ​ให้​เธอ​เป็น​อิสระ เพื่อ​ว่า​เธอ​จะ​ได้​ทำ​ให้​การ​อยู่​กิน​กับ​ชาย​ที่​เธอ​ไม่​ได้​สมรส​ด้วย​นั้น​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย. ใน​การ​สืบ​พยาน​ต่อ​หน้า​ผู้​พิพากษา ผู้​พิพากษา​ขอ​ให้​ทั้ง​อีวา​และ​ดิฉัน​อธิบาย​ว่า เหตุ​ใด​เธอ​จึง​ต้องการ​ทำ​ให้​สถานะ​การ​สมรส​ของ​เธอ​ถูก​ต้อง. ผู้​พิพากษา​แสดง​ความ​ประหลาด​ใจ​และ​ความ​พอ​ใจ​ด้วย​เมื่อ​มี​การ​อธิบาย​ถึง​เหตุ​ผล.

      ใน​อีก​โอกาส​หนึ่ง ดิฉัน​ไป​กับ​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​คน​หนึ่ง​ของ​ดิฉัน เพื่อ​จัด​หา​ทนาย​ความ​มา​ดำเนิน​การ​ฟ้องร้อง​ให้​เธอ. อีก​ครั้ง​หนึ่ง มี​การ​ให้​คำ​พยาน​ที่​ดี​ใน​เรื่อง​การ​สมรส​และ​มาตรฐาน​ทาง​ศีลธรรม​ของ​พระเจ้า. ใน​กรณี​นี้ ค่า​ดำเนิน​การ​ฟ้องร้อง​ใน​การ​หย่า​นั้น​สูง​มาก​จน​ทั้ง​คู่​ต้อง​ทำ​งาน​หา​เงิน​มา​จ่าย​ค่า​ธรรมเนียม. แต่​สำหรับ​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ราย​ใหม่​เหล่า​นี้ สิ่ง​นี้​คุ้มค่า​กับ​ความ​พยายาม. ซอนยา​และ​ดิฉัน​มี​สิทธิ​พิเศษ​ที่​ได้​เป็น​สักขี​พยาน​ใน​การ​สมรส​ของ​เขา และ​จาก​นั้น พร้อม​ด้วย​ลูก​วัยรุ่น​สาม​คน​ของ​เขา เรา​ฟัง​คำ​บรรยาย​สั้น ๆ จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​บ้าน​ของ​เขา.

      ชีวิต​ที่​โชกโชน​และ​คุ้มค่า

      เมื่อ​ซอนยา​และ​ดิฉัน​อุทิศ​ชีวิต​ของ​เรา​แด่​พระ​ยะโฮวา และ​ได้​มา​เป็น​ไพโอเนียร์ เรา​ตั้งใจ​ว่า เท่า​ที่​จะ​เป็น​ไป​ได้ งาน​เผยแพร่​เต็ม​เวลา​จะ​เป็น​งาน​ประจำ​ชีวิต​ของ​เรา. เรา​ไม่​เคย​เป็น​ห่วง​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ใน​ชีวิต​บั้น​ปลาย​ของ​เรา หรือ​ใน​กรณี​ที่​เจ็บ​ป่วย​หรือ​มี​ความ​ยุ่งยาก​ทาง​การ​เงิน. กระนั้น ดัง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​สัญญา เรา​ไม่​เคย​ถูก​ทอดทิ้ง.—เฮ็บราย 13:6.

      แต่​แน่นอน การ​มี​เงิน​ไม่​พอ​บาง​ครั้ง​ก็​เป็น​ปัญหา. มี​อยู่​ช่วง​หนึ่ง ดิฉัน​กับ​เพื่อน​ไพโอเนียร์​ที่​ทำ​งาน​ด้วย​กันกิน​แซนด์วิช​ผัก​ชี​เป็น​อาหาร​เที่ยง​อยู่​หนึ่ง​ปี​เต็ม ๆ แต่​เรา​ไม่​เคย​อดอยาก หรือ​ขาด​สิ่ง​จำเป็น​สำหรับ​ชีวิต.

      เมื่อ​เวลา​ล่วง​เลย​ไป กำลัง​ของ​เรา​ก็​ถดถอย​ตาม​ไป​ด้วย. ใน​ช่วง​กลาง​ทศวรรษ​ปี 1980 เรา​ทั้ง​คู่​รับ​การ​ผ่าตัด​ใหญ่ ซึ่ง​ยัง​ผล​ให้​เกิด​การ​ทดลอง​อย่าง​หนัก​สำหรับ​เรา เนื่อง​จาก​งาน​เผยแพร่​ของ​เรา​ถูก​ตัด​ทอน​ลง​ไป​มาก. ใน​เดือน​มกราคม 1987 เรา​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เป็น​สมาชิก​ทำ​งาน​ใน​สำนักงาน​กลาง​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​บราซิล.

      ครอบครัว​ใหญ่​ของ​เรา​ซึ่ง​มี​ผู้​รับใช้​กว่า​หนึ่ง​พัน​คน​อยู่​ห่าง​จาก​ตัว​เมือง​เซาเปาโล​ออก​ไป​ประมาณ 140 กิโลเมตร​ใน​กลุ่ม​อาคาร​อัน​สวย​งาม ที่​ซึ่ง​เรา​พิมพ์​สรรพหนังสือ​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​สำหรับ​บราซิล​และ​ส่วน​อื่น ๆ ของ​ทวีป​อเมริกา​ใต้. ที่​นี่ เรา​ได้​รับ​การ​ดู​แล​เอา​ใจ​ใส่​ด้วย​ความ​รัก​จาก​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อ​สัตย์​ของ​พระเจ้า. เมื่อ​ดิฉัน​มา​ที่​บราซิล​เป็น​ครั้ง​แรก​ใน​ปี 1951 มี​ผู้​ประกาศ​ข่าว​ราชอาณาจักร​ประมาณ 4,000 คน แต่​เวลา​นี้ มี​กว่า 366,000 คน! พระ​บิดา​ผู้​มี​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​ของ​เรา​ใน​สวรรค์​ทรง​เพิ่ม​เติม ‘สิ่ง​อื่น​ทั้ง​หมด’ แก่​เรา​อย่าง​แท้​จริง​เนื่อง​จาก​เรา​แสวง​หา​ราชอาณาจักร​ของ​พระองค์​เป็น​อันดับ​แรก.—มัดธาย 6:33.

      [รูปภาพ​หน้า 22]

      ปี 1939 โอลิฟ​และ​มิลเดร็ด วิลเลตต์​อยู่​ข้าง​รถ​โฆษณา​ปาฐกถา

      [รูปภาพ​หน้า 25]

      โอลิฟ​และ​ซอนยา สปริงเกต

  • คุณให้เกียรติผู้อื่นไหมเมื่อให้คำแนะนำ?
    หอสังเกตการณ์ 1994 | กุมภาพันธ์ 1
    • คุณ​ให้​เกียรติ​ผู้​อื่น​ไหม​เมื่อ​ให้​คำ​แนะ​นำ?

      นับ​ว่า​ดี​และ​เป็น​คุณประโยชน์​มาก​เพียง​ไร​ที่​จะ​รับ​คำ​แนะ​นำ​พร้อม​กับ​การ​ให้​เกียรติ! เอ็ดเวิร์ด​บอก​ว่า “คำ​แนะ​นำ​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความ​กรุณา, ความ​เห็น​ใจ, ความ​ห่วงใย​ช่วย​ให้​เกิด​สัมพันธภาพ​ที่​ดี.” ส่วน​วอเร็น​พูด​ว่า “เมื่อ​คุณ​รู้สึก​ว่า​ผู้​ให้​คำ​แนะ​นำ​ให้​เกียรติ​และ​นับถือ​คุณ​โดย​แสดง​ความ​เต็ม​ใจ​รับ​ฟัง​เรื่อง​ราว​ของ​คุณ การ​จะ​รับ​คำ​แนะ​นำ​ก็​ยิ่ง​ง่าย​ขึ้น.” นอร์แมน​ออก​ความ​เห็น​ดัง​นี้: “เมื่อ​ใด​ผู้​ให้​คำ​แนะ​นำ​ปฏิบัติ​ต่อ​ผม​ด้วย​ความ​นับถือ ผม​รู้สึก​สบาย​ใจ​ที่​จะ​เข้า​พบ​เขา ขอ​คำ​แนะ​นำ​จาก​เขา.”

      สิทธิ​ของ​มนุษย์​ตั้ง​แต่​กำเนิด​ที่​จะ​ได้​รับ​เกียรติ

      คำ​แนะ​นำ​อย่าง​ที่​อบอุ่น, อย่าง​เป็น​มิตร​และ​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​ย่อม​เป็น​ที่​น่า​ยินดี​อย่าง​แท้​จริง. การ​แนะ​นำ​ผู้​อื่น​อย่าง​ที่​คุณ​เอง​ปรารถนา​จะ​รับ​คำ​แนะ​นำ​นั้น​นับ​ว่า​เป็น​คุณประโยชน์. (มัดธาย 7:12) ผู้​แนะ​นำ​ที่​ดี​ย่อม​สละ​เวลา​ฟัง​และ​พยายาม​เข้าใจ​ผู้​ที่​เขา​แนะ​นำ—ความ​คิด​นึก, สถานะ และ​ความ​รู้สึก​ของ​เขา—แทน​ที่​จะ​วิพากษ์วิจารณ์​หรือ​ติเตียน.—สุภาษิต 18:13.

      ผู้​ให้​คำ​แนะ​นำ​ใน​ทุก​วัน​นี้ รวม​ไป​ถึง​คริสเตียน​ผู้​ปกครอง จำ​ต้อง​ตื่น​ตัว​ใน​การ​ให้​เกียรติ​ผู้​อื่น​เมื่อ​ให้​คำ​แนะ​นำ. เพราะ​เหตุ​ใด? ด้วย​เหตุ​ผล​ง่าย ๆ ที่​ว่า​ท่าที​ซึ่ง​แพร่​หลาย​อยู่​ทั่ว​ไป​ใน​สังคม​คือ​การ​ปฏิบัติ​ต่อ​คน​อื่น​ใน​แบบ​ที่​ไม่​ให้​เกียรติ​แก่​กัน​และ​กัน. การ​ปฏิบัติ​เช่น​นี้​เป็น​เสมือน​โรค​ติด​ต่อ. มี​อยู่​บ่อย ๆ บุคคล​ซึ่ง​คุณ​คาด​หมาย​การ​ปฏิบัติ​ด้วย​ความ​นับถือ​กลับ​เป็น​คน​ที่​ไม่​เคย​ปฏิบัติ​เช่น​นั้น​เลย

หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
ออกจากระบบ
เข้าสู่ระบบ
  • ไทย
  • แชร์
  • การตั้งค่า
  • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
  • เงื่อนไขการใช้งาน
  • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
  • JW.ORG
  • เข้าสู่ระบบ
แชร์