ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ความปวดร้าวในสวน
    บุรุษผู้ใหญ่ยิ่งเท่าที่โลกเคยเห็น
    • บท 117

      ความ​ปวด​ร้าว​ใน​สวน

      เมื่อ​พระ​เยซู​ทรง​อธิษฐาน​เสร็จ พระองค์​กับ​อัครสาวก​ผู้​ซื่อ​สัตย์ 11 คน ร้อง​เพลง​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา. ครั้น​แล้ว​พวก​เขา​ได้​ลง​จาก​ห้อง​ชั้น​บน ออก​มา​ใน​ความ​มืด​อัน​เยือกเย็น​แห่ง​ยาม​ราตรี และ​มุ่ง​หน้า​ย้อน​กลับ​ไป​ข้าม​หุบเขา​ฆิดโรน​ไป​ยัง​บ้าน​เบธาเนีย. แต่​กลาง​ทาง พวก​เขา​แวะ​ตรง​บริเวณ​ที่​ชอบ​เป็น​พิเศษ คือ​สวน​เฆ็ธเซมาเน. สวน​นี้​ตั้ง​อยู่​บน​หรือ​ใน​บริเวณ​ใกล้​เคียง​ภูเขา​มะกอก​เทศ. พระ​เยซู​ทรง​เคย​พบ​ปะ​กับ​อัครสาวก​ของ​พระองค์​ที่​นี่​ใน​ท่ามกลาง​ต้น​มะกอก​เทศ​อยู่​บ่อย ๆ.

      เมื่อ​ปล่อย​อัครสาวก​แปด​คน​ไว้—บาง​ที​ใกล้​ทาง​เข้า​สวน—พระองค์​ทรง​สั่ง​พวก​เขา​ว่า “จง​นั่ง​อยู่​ที่​นี่​ขณะ​เมื่อ​เรา​จะ​ไป​อธิษฐาน​ที่​โน่น.” ครั้น​แล้ว​พระองค์​ทรง​พา​อัครสาวก​อีก​สาม​คน—เปโตร, ยาโกโบ, และ​โยฮัน—ดำเนิน​ต่อ​ไป​ใน​สวน. พระ​เยซู​ทรง​เศร้า​พระทัย​และ​เป็น​ทุกข์​ยิ่ง​นัก. พระองค์​ตรัส​แก่​พวก​เขา​ว่า “จิตใจ​ของ​เรา​เป็น​ทุกข์​เพียง​จะ​ตาย. จง​เฝ้า​อยู่​กับ​เรา​ที่​นี่​เถิด.”

      ครั้น​ดำเนิน​ไป​ข้าง​หน้า​หน่อย​หนึ่ง พระ​เยซู​ย่อ​พระ​กาย​ลง​แล้ว​ซบ​พระ​พักตร์​ลง​ถึง​พื้น เริ่ม​ทูล​อธิษฐาน​อย่าง​เร่าร้อน​ว่า “โอ​พระ​บิดา​ของ​ข้าพเจ้า ถ้า​เป็น​ได้ ขอ​ให้​จอก​นี้​เลื่อน​พ้น​ไป​จาก​ข้าพเจ้า​เถิด. แต่​อย่าง​ไร​ก็​ดี อย่า​ให้​เป็น​ไป​ตาม​ใจ​ปรารถนา​ของ​ข้าพเจ้า แต่​ให้​เป็น​ไป​ตาม​พระทัย​ของ​พระองค์.” พระองค์​ทรง​หมายความ​ว่า​กระไร? ทำไม​พระองค์ “เป็น​ทุกข์​เพียง​จะ​ตาย”? พระองค์​ถอย​กลับ​จาก​การ​ตัดสิน​พระทัย​ของ​พระองค์​ที่​จะ​วาย​พระ​ชนม์​และ​จัด​เตรียม​ค่า​ไถ่​ไหม?

      เปล่า​เลย​ที​เดียว! พระ​เยซู​ใช่​ว่า​วิงวอน​ขอ​เพื่อ​ให้​พ้น​จาก​ความ​ตาย​ไม่. แม้​แต่​ความ​คิด​ใน​เรื่อง​การ​หลีก​เลี่ยง​ความ​ตาย​เป็น​พลี​กรรม ซึ่ง​ครั้ง​หนึ่ง​เปโตร​เคย​ทูล​แนะ​ให้​นั้น​ก็​เป็น​เรื่อง​ที่​น่า​รังเกียจ​สำหรับ​พระองค์. ถ้า​จะ​พูด​ให้​ถูก​แล้ว พระองค์​ทรง​ปวด​ร้าว​พระทัย​เพราะ​เกรง​ว่า​วิธี​ที่​พระองค์​จะ​สิ้น​พระ​ชนม์​ใน​ไม่​ช้า—ใน​ฐานะ​อาชญากร​ผู้​น่า​รังเกียจ—จะ​นำ​คำ​ติเตียน​มา​สู่​พระ​นาม​ของ​พระ​บิดา. บัด​นี้​พระองค์​ทรง​สำนึก​ว่า​ใน​ไม่​กี่​ชั่วโมง พระองค์​จะ​ถูก​ตอก​บน​หลัก​ใน​ฐานะ​เป็น​บุคคล​เลว​ร้าย​ที่​สุด—ผู้​หมิ่น​ประมาท​พระเจ้า! นี้​แหละ​เป็น​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​พระองค์​เป็น​ทุกข์​ยิ่ง​นัก.

      หลัง​จาก​อธิษฐาน​อยู่​นาน พระ​เยซู​ทรง​กลับ​มา​แล้ว​พบ​อัครสาวก​ทั้ง​สาม​คน​นอน​หลับ​อยู่. พระองค์​ตรัส​แก่​เปโตร​ว่า “เป็น​อย่าง​ไร​นะ เจ้า​ทั้ง​หลาย​จะ​เฝ้า​อยู่​กับ​เรา​สัก​ทุ่ม​เดียว​ไม่​ได้​หรือ? จง​เฝ้า​ระวัง​และ​อธิษฐาน​เพื่อ​เจ้า​จะ​ไม่​ได้​เข้า​ใน​การ​ทดลอง.” อย่าง​ไร​ก็​ดี โดย​ยอม​รับ​ความ​เครียด​ที่​พวก​เขา​กำลัง​ประสบ​อยู่ และ​เวลา​ที่​ดึก​แล้ว พระองค์​ตรัส​ว่า “จิตใจ​พร้อม​แล้ว​ก็​จริง แต่​เนื้อหนัง​ยัง​อ่อน​กำลัง.”

      จาก​นั้น​พระ​เยซู​เสด็จ​ออก​ไป​เป็น​ครั้ง​ที่​สอง และ​ทูล​ขอ​เพื่อ​พระเจ้า​จะ​เลื่อน “จอก​นี้” ไป​จาก​พระองค์ กล่าว​คือ​ส่วน​มอบหมาย หรือ​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระ​ยะโฮวา​สำหรับ​พระองค์. เมื่อ​พระองค์​กลับ​มา พระองค์​พบ​สาม​คน​นอน​หลับ​อยู่​ใน​เมื่อ​พวก​เขา​ควร​จะ​อธิษฐาน​เพื่อ​พวก​เขา​จะ​ไม่​ตก​เข้า​สู่​การ​ทดลอง. เมื่อ​พระ​เยซู​ตรัส​กับ​พวก​เขา พวก​เขา​ไม่​รู้​ว่า​จะ​ทูล​ตอบ​ประการ​ใด.

      ใน​ที่​สุด ครั้ง​ที่​สาม พระ​เยซู​ทรง​ดำเนิน​ไป​ระยะ​ประมาณ​ขว้าง​หิน​ตก แล้ว​ทรง​คุกเข่า​ลง พระองค์​ทรง​อธิษฐาน​โดย​ร้อง​เสียง​ดัง​และ​น้ำ​พระ​เนตร​ไหล​ว่า “พระ​บิดา​เจ้าข้า ถ้า​พระองค์​พอ​พระทัย ขอ​ให้​จอก​นี้​เลื่อน​พ้น​ไป​จาก​ข้าพเจ้า.” พระ​เยซู​ทรง​รู้สึก​อย่าง​แรง​กล้า​ถึง​ความ​ปวด​ร้าว​แสน​สาหัส​เนื่อง​จาก​คำ​ติเตียน​ซึ่ง​ความ​ตาย​ของ​พระองค์​ฐานะ​อาชญากร​จะ​นำ​มา​สู่​พระ​นาม​ของ​พระ​บิดา. ทั้ง​นี้ การ​ถูก​กล่าวหา​ว่า​เป็น​ผู้​หมิ่น​ประมาท—ผู้​ซึ่ง​แช่ง​ด่า​พระเจ้า—เป็น​เรื่อง​ที่​แทบ​เหลือ​วิสัย​จะ​ทนทาน​ได้.

      ถึง​กระนั้น พระ​เยซู​ทรง​อธิษฐาน​ต่อ​ไป​ว่า “อย่า​ให้​เป็น​ตาม​ใจ​ปรารถนา​ของ​ข้าพเจ้า แต่​ให้​เป็น​ตาม​พระทัย​ของ​พระองค์.” พระ​เยซู​ทรง​ยินยอม​ให้​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระองค์​เป็น​ไป​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​ด้วย​ความ​เชื่อ​ฟัง. ตอน​นี้ ทูต​องค์​หนึ่ง​จาก​สวรรค์​ปรากฏ​ตัว​และ​ชู​กำลัง​พระองค์​ด้วย​ถ้อย​คำ​ที่​หนุน​กำลังใจ. อาจ​เป็น​ได้​ที่​ทูต​สวรรค์​แจ้ง​แก่​พระ​เยซู​ว่า​พระองค์​ได้​รับ​การ​แย้ม​พระ​โอษฐ์​ด้วย​ความ​พอ​พระทัย​จาก​พระ​ยะโฮวา.

      กระนั้น ภาระ​หนัก​หน่วง​เสีย​นี่​กระไร​ที่​อยู่​บน​บ่า​ของ​พระ​เยซู! ชีวิต​ถาวร​ของ​พระองค์​และ​ชีวิต​ถาวร​ของ​เผ่า​พันธุ์​มนุษย์​ทั้ง​สิ้น​ขึ้น​อยู่​กับ​ความ​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​ของ​พระองค์. ความ​เครียด​ทาง​ด้าน​ความ​รู้สึก​มี​มาก​ยิ่ง​นัก. ดัง​นั้น พระ​เยซู​ทรง​อธิษฐาน​อย่าง​เร่าร้อน​ยิ่ง​ขึ้น​ต่อ​ไป และ​พระ​เสโท​ของ​พระองค์​กลาย​เป็น​เหมือน​หยด​เลือด​ขณะ​ตก​ลง​ถึง​ดิน. วารสาร​ของ​แพทยสมาคม​แห่ง​อเมริกา ออก​ความ​เห็น​ว่า “ถึง​แม้​นี้​เป็น​ปรากฏการณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​ไม่​บ่อย​ที​เดียว​ก็​ตาม เหงื่อ​ที่​หลั่ง​ออก​เหมือน​เลือด . . . อาจ​เกิด​ขึ้น​ใน​ภาวะ​ทาง​ด้าน​ความ​รู้สึก​ที่​รุนแรง​ได้.”

      หลัง​จาก​นั้น​พระ​เยซู​กลับ​มา​หา​อัครสาวก​ของ​พระองค์​เป็น​ครั้ง​ที่​สาม และ​ทรง​พบ​ว่า​พวก​เขา​นอน​หลับ​อยู่​อีก​ครั้ง​หนึ่ง. พวก​เขา​หมด​กำลัง​เนื่อง​จาก​ความ​ทุกข์​โศก​เศร้า​อย่าง​หนัก. พระองค์​ทรง​ร้อง​อุทาน​ว่า “เจ้า​ยัง​จะ​นอน​ต่อ​ไป​ให้​หาย​เหนื่อย​อีก​หรือ! พอ​เถอะ! นี่​แน่ะ เวลา​ซึ่ง​บุตร​มนุษย์​ต้อง​ถูก​มอบ​ไว้​ใน​มือ​คน​บาป​มา​ถึง​แล้ว! ลุก​ขึ้น ให้​เรา​พา​กัน​ไป​เถอะ. ผู้​ที่​จะ​มอบ​เรา​ไว้​มา​ใกล้​แล้ว.”ขณะ​ที่​พระองค์​ยัง​ตรัส​อยู่​นั้น ยูดา อิศการิโอด​ก็​เข้า​มา​ใกล้ ติด​ตาม​ด้วย​ฝูง​ชน​จำนวน​มาก​ถือ​คบเพลิง​และ​โคม​ไฟ​กับ​อาวุธ​ต่าง ๆ. มัดธาย 26:30, 36–47; 16:21-23; มาระโก 14:26, 32–43; ลูกา 22:39-47; โยฮัน 18:1-3; เฮ็บราย 5:7.

      ▪ ภาย​หลัง​ออก​จาก​ห้อง​ชั้น​บน​แล้ว พระ​เยซู​ทรง​พา​พวก​อัครสาวก​ไป​ที่​ไหน และ​พระองค์​ทรง​ทำ​อะไร​ที่​นั่น?

      ▪ ระหว่าง​ที่​พระ​เยซู​ทรง​อธิษฐาน​อยู่​นั้น พวก​อัครสาวก​ทำ​อะไร?

      ▪ ทำไม​พระ​เยซู​รู้สึก​ปวด​ร้าว และ​พระองค์​ทูล​ขอ​อะไร​จาก​พระเจ้า?

      ▪ การ​ที่​พระ​เสโท​ของ​พระ​เยซู​กลาย​เป็น​หยด​เลือด​นั้น​บ่ง​ชี้​ถึง​อะไร?

  • การทรยศและการจับกุม
    บุรุษผู้ใหญ่ยิ่งเท่าที่โลกเคยเห็น
    • บท 118

      การ​ทรยศ​และ​การ​จับ​กุม

      เป็น​เวลา​เลย​เที่ยง​คืน​ไป​แล้ว​ขณะ​ที่​ยูดา​พา​คน​กลุ่ม​ใหญ่​ที่​ประกอบ​ด้วย​ทหาร พวก​ปุโรหิต​ใหญ่ พวก​ฟาริซาย​และ​คน​อื่น ๆ เข้า​ไป​ใน​สวน​เฆ็ธเซมาเน. พวก​ปุโรหิต​ได้​ตก​ลง​ที่​จะ​จ่าย​ให้​ยูดา​เป็น​เงิน 30 แผ่น​สำหรับ​การ​ทรยศ​ต่อ​พระ​เยซู.

      ก่อน​หน้า​นั้น เมื่อ​ยูดา​ออก​ไป​จาก​การ​รับประทาน​ปัศคา​แล้ว ดู​เหมือน​ว่า​เขา​ได้​ไป​หา​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​โดย​ตรง. คน​เหล่า​นี้​ได้​ประชุม​เจ้าหน้าที่​ของ​เขา​เอง อีก​ทั้ง​ทหาร​กลุ่ม​หนึ่ง​ด้วย. บาง​ที​ยูดา​อาจ​พา​พวก​เขา​ไป​ยัง​สถาน​ที่​ซึ่ง​พระ​เยซู​กับ​พวก​อัครสาวก​ของ​พระองค์​ฉลอง​ปัศคา​ก่อน. เมื่อ​พบ​ว่า​พวก​เขา​ออก​ไป​แล้ว คน​กลุ่ม​ใหญ่​ที่​ถือ​อาวุธ​และ​ถือ​โคม​ไฟ​และ​คบเพลิง​จึง​ได้​ติด​ตาม​ยูดา​ออก​ไป​จาก​กรุง​ยะรูซาเลม​แล้ว​ข้าม​หุบเขา​ฆิดโรน.

      ขณะ​ที่​ยูดา​นำ​ฝูง​คน​ขึ้น​ไป​บน​ภูเขา​มะกอก​เทศ​นั้น เขา​รู้สึก​แน่​ใจ​ว่า​เขา​ทราบ​ว่า​จะ​พบ​พระ​เยซู​ได้​ที่​ไหน. ระหว่าง​สัปดาห์​ที่​ผ่าน​ไป ขณะ​ที่​พระ​เยซู​กับ​พวก​อัครสาวก​เดิน​ทาง​ไป ๆ มา ๆ ระหว่าง​บ้าน​เบธาเนีย​กับ​กรุง​ยะรูซาเลม​นั้น พวก​เขา​มัก​จะ​แวะ​ใน​สวน​เฆ็ธเซมาเน​อยู่​เสมอ​เพื่อ​พักผ่อน​และ​สนทนา​กัน. แต่​บัด​นี้ โดย​ที่​พระ​เยซู​อาจ​ซ่อน​อยู่​ใน​ความ​มืด​ใต้​ต้น​มะกอก​เทศ​ก็​ได้ พวก​ทหาร​จะ​ชี้​ตัว​พระองค์​ได้​อย่าง​ไร? พวก​เขา​อาจ​ไม่​เคย​เห็น​พระองค์​มา​ก่อน​ก็​ได้. ยูดา​จึง​ให้​อาณัติสัญญาณ โดย​บอก​ว่า “เรา​จะ​จูบ​ผู้​ใด​ก็​เป็น​ผู้​นั้น​แหละ จง​จับ​คุม​เขา​ไป​ให้​มั่นคง.”

      ยูดา​นำ​คน​กลุ่ม​ใหญ่​เข้า​ไป​ใน​สวน เห็น​พระ​เยซู​อยู่​กับ​พวก​อัครสาวก​ของ​พระองค์ จึง​ตรง​เข้า​ไป​หา​พระองค์. เขา​ทูล​ว่า “อาจารย์​เจ้าข้า ข้าพเจ้า​ยินดี​ที่​พบ​อาจารย์” แล้ว​เขา​ก็​จูบ​พระองค์​อย่าง​ละมุน​ละไม.

      พระ​เยซู​ทรง​ตอบ​โต้​ว่า “สหาย​เอ๋ย ท่าน​มา​ที่​นี่​ด้วย​เหตุ​ผล​อะไร​หรือ?” จาก​นั้น โดย​ตอบ​คำ​ถาม​ของ​พระองค์​เอง พระองค์​ตรัส​ว่า “ยูดา ท่าน​จะ​มอบ​บุตร​มนุษย์​ด้วย​อาการ​จูบ​หรือ?” แต่​ก็​พอ​แล้ว​สำหรับ​ผู้​ทรยศ​ต่อ​พระองค์! พระ​เยซู​ทรง​ก้าว​ออก​ไป​ข้าง​หน้า​สู่​แสง​ไฟ​ของ​คบเพลิง​ที่​ลุก​ไหม้​อยู่​และ​โคม​ไฟ และ​ตรัส​ถาม​ว่า “ท่าน​ทั้ง​หลาย​มา​หา​ผู้​ใด?”

      คำ​ตอบ​คือ​ว่า “มา​หา​เยซู​ชาว​นาซาเร็ธ.”

      พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​ว่า “เรา​เป็น​ผู้​นั้น​แหละ” ขณะ​ที่​พระองค์​ทรง​ยืน​อย่าง​ไม่​สะทก​สะท้าน​ต่อ​หน้า​พวก​เขา. เพราะ​ตะลึงงัน​เนื่อง​จาก​ความ​กล้า​หาญ​ของ​พระองค์ และ​ไม่​รู้​ว่า​จะ​คาด​คิด​อะไร คน​พวก​นั้น​จึง​ถอย​หลัง​และ​ล้ม​ลง​กับ​พื้น.

      พระ​เยซู​ตรัส​ต่อ​ไป​อย่าง​สงบ​ว่า “เรา​บอก​ท่าน​แล้ว​ว่า เรา​เป็น​ผู้​นั้น​แหละ. เหตุ​ฉะนั้น ถ้า​ท่าน​แสวง​หา​เรา จง​ปล่อย​ให้​คน​เหล่า​นี้​ไป​เถิด.” ก่อน​หน้า​นั้น​ไม่​นาน​ใน​ห้อง​ชั้น​บน พระ​เยซู​ได้​กราบ​ทูล​พระ​บิดา​ของ​พระองค์​ใน​คำ​อธิษฐาน​เพื่อ​ให้​พระ​บิดา​พิทักษ์​รักษา​พวก​อัครสาวก​ผู้​ซื่อ​สัตย์​ของ​พระองค์​ไว้ และ​ไม่​ให้​สัก​คน​หนึ่ง​ใน​พวก​เขา​เสีย​ไป “เว้น​แต่​ลูก​ของ​ความ​พินาศ.” ดัง​นั้น เพื่อ​คำ​ของ​พระองค์​จะ​เป็น​จริง พระองค์​ทรง​ขอ​ให้​ปล่อย​พวก​สาวก​ของ​พระองค์​ไป.

      เมื่อ​พวก​ทหาร​ควบคุม​ตัว​ได้​แล้ว ยืน​ขึ้น​และ​เริ่ม​มัด​พระ​เยซู พวก​อัครสาวก​ก็​ตระหนัก​ว่า​กำลัง​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น. พวก​เขา​ทูล​ถาม​ว่า “พระองค์​เจ้าข้า ข้าพเจ้า​จะ​เอา​ดาบ​ฟัน​เขา​หรือ?” ก่อน​พระ​เยซู​ตอบ เปโตร​ขยับ​ดาบ​หนึ่ง​ใน​สอง​เล่ม​ที่​อัครสาวก​ได้​นำ​มา​ด้วย​นั้น ฟัน​มาละโค ทาส​ของ​มหา​ปุโรหิต. การ​ฟัน​ของ​เปโตร​พลาด​ศีรษะ​ของ​ทาส​ไป แต่​ทว่า​ไป​ตัด​หู​ข้าง​ขวา​ขาด.

      พระ​เยซู​ตรัส​ขณะ​ที่​พระองค์​เข้า​แทรก​ว่า “ขอ​เสีย​ที​เถอะ.” โดย​แตะ​ใบ​หู​นั้น พระองค์​ทรง​รักษา​แผล​ให้​หาย. ครั้น​แล้ว​พระองค์​ทรง​สอน​บทเรียน​สำคัญ พระองค์​ตรัส​สั่ง​แก่​เปโตร​ว่า “จง​เอา​ดาบ​ใส่​ฝัก​เสีย ด้วย​ว่า​บรรดา​ผู้​ถือ​ดาบ​จะ​ต้อง​พินาศ​เพราะ​ดาบ. ท่าน​ถือ​ว่า​เรา​จะ​ขอ​พระ​บิดา​ของ​เรา และ​ใน​ประเดี๋ยว​เดียว​พระองค์​จะ​ทรง​ประทาน​ทูต​สวรรค์​แก่​เรา​กว่า​สิบ​สอง​กอง​ไม่​ได้​หรือ?”

      พระ​เยซู​ทรง​เต็ม​พระทัย​ที่​จะ​ถูก​จับ​กุม เพราะ​พระองค์​ทรง​อธิบาย​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น​คำ​ที่​กล่าว​ไว้​ใน​พระ​คัมภีร์​ว่า จำ​จะ​ต้อง​เป็น​อย่าง​นั้น จะ​สำเร็จ​อย่าง​ไร​ได้?” และ​พระองค์​ตรัส​เสริม​ว่า “จอก​ซึ่ง​พระ​บิดา​ของ​เรา​ทรง​ประทาน​แก่​เรา เรา​จะ​ไม่​ดื่ม​หรือ?” พระองค์​ทรง​เห็น​พ้อง​ด้วย​โดย​ตลอด​กับ​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​สำหรับ​พระองค์.

      ต่อ​จาก​นั้น พระ​เยซู​ทรง​ปราศรัย​กับ​ฝูง​ชน. พระองค์​ตรัส​ถาม​ว่า “ท่าน​ทั้ง​หลาย​ถือ​ดาบ​ถือ​ตะบอง​ออก​มา​จับ​เรา​เหมือน​จะ​จับ​โจร​หรือ? เรา​ได้​นั่ง​สั่ง​สอน​ท่าน​ใน​วิหาร​ทุก​วัน ท่าน​ก็​หา​ได้​จับ​เรา​ไม่. แต่​เหตุ​การณ์​ที่​ได้​บังเกิด​ขึ้น​ทั้ง​นี้​เพื่อ​คำ​ของ​ศาสดา​พยากรณ์​ใน​พระ​คัมภีร์​จะ​สำเร็จ.”

      ถึง​ตอน​นั้น​พวก​ทหาร​กับ​นาย​ทหาร​และ​เจ้าหน้าที่​ของ​พวก​ยิว​จับ​พระ​เยซู​ไว้​แล้ว​มัด​พระองค์. เมื่อ​เห็น​เช่น​นี้ พวก​อัครสาวก​จึง​ละ​ทิ้ง​พระ​เยซู​แล้ว​หนี​ไป. อย่าง​ไร​ก็​ดี ชาย​หนุ่ม​คน​หนึ่ง—ดู​เหมือน​จะ​เป็น​สาวก​มาระโก—ยัง​คง​อยู่​ใน​ท่ามกลาง​ฝูง​ชน. เขา​อาจ​อยู่​ที่​บ้าน​ซึ่ง​พระ​เยซู​ได้​ฉลอง​ปัศคา และ​หลัง​จาก​นั้น​ได้​ติด​ตาม​ฝูง​ชน​ไป​จาก​ที่​นั่น. แต่​ตอน​นี้ คน​จำ​เขา​ได้​และ​มี​การ​พยายาม​จะ​จับ​ตัว​เขา. แต่​เขา​ทิ้ง​ผ้า​ป่าน​คลุม​ตัว​เขา​ไว้​แล้ว​หนี​ไป. มัดธาย 26:47-56; มาระโก 14:43–52; ลูกา 22:47-53; โยฮัน 17:12; 18:3-12.

      ▪ ทำไม​ยูดา​รู้สึก​มั่น​ใจ​ว่า​เขา​จะ​พบ​พระ​เยซู​ใน​สวน​เฆ็ธเซมาเน?

      ▪ พระ​เยซู​ทรง​สำแดง​ความ​ห่วงใย​ต่อ​พวก​อัครสาวก​ของ​พระองค์​อย่าง​ไร?

      ▪ เปโตร​ลง​มือ​จัด​การ​อย่าง​ไร​เพื่อ​ปก​ป้อง​พระ​เยซู แต่​พระ​เยซู​ตรัส​อะไร​แก่​เปโตร?

      ▪ พระ​เยซู​ทรง​เผย​ให้​เห็น​โดย​วิธี​ใด​ว่า​พระองค์​ทรง​เห็น​พ้อง​ด้วย​โดย​ตลอด​กับ​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​สำหรับ​พระองค์?

      ▪ เมื่อ​พวก​อัครสาวก​ละ​ทิ้ง​พระ​เยซู ใคร​ที่​ยัง​อยู่​ต่อ​ไป และ​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​เขา?

  • ถูกพาไปหาอันนาศ แล้วก็กายะฟา
    บุรุษผู้ใหญ่ยิ่งเท่าที่โลกเคยเห็น
    • บท 119

      ถูก​พา​ไป​หา​อันนาศ แล้ว​ก็​กายะฟา

      พระ​เยซู​ซึ่ง​ถูก​มัด​เหมือน​อาชญากร​ทั่ว ๆ ไป ถูก​พา​ไป​หา​อันนาศ อดีต​มหา​ปุโรหิต​ที่​มี​อิทธิพล. อันนาศ​เป็น​มหา​ปุโรหิต​คราว​เมื่อ​พระ​เยซู​เป็น​เด็ก​วัย 12 พรรษา​ที่​ทำ​ให้​พวก​ศาสนาจารย์ ณ พระ​วิหาร​ประหลาด​ใจ. บุตร​ชาย​ของ​อันนาศ​หลาย​คน​ได้​รับใช้​ฐานะ​มหา​ปุโรหิต​ใน​ภาย​หลัง และ​ตอน​นี้​กายะฟา​บุตร​เขย​ของ​เขา​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​นั้น.

      บาง​ที​พระ​เยซู​อาจ​ถูก​พา​ไป​ยัง​บ้าน​ของ​อันนาศ​ก่อน เนื่อง​จาก​ปุโรหิต​ใหญ่​คน​นี้​เป็น​คน​เด่น​มา​เป็น​เวลา​นาน​ใน​ชีวิต​ด้าน​ศาสนา​ของ​พวก​ยิว. การ​หยุด​ระหว่าง​ทาง​เพื่อ​พบ​อันนาศ​เช่น​นี้​เปิด​โอกาส​ให้​มหา​ปุโรหิต​กายะฟา​รวบ​รวม​ซันเฮดริน ศาล​สูง​ของ​ยิว​ซึ่ง​มี​สมาชิก 71 คน อีก​ทั้ง​เพื่อ​รวบ​รวม​พยาน​เท็จ​ด้วย.

      ปุโรหิต​ใหญ่​อันนาศ​ซัก​ถาม​พระ​เยซู​ใน​เรื่อง​พวก​สาวก​และ​คำ​สอน​ของ​พระองค์. อย่าง​ไร​ก็​ดี พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​ว่า “เรา​ได้​กล่าว​ให้​โลก​ฟัง​โดย​เปิด​เผย. เรา​ได้​สั่ง​สอน​ใน​ธรรมศาลา​และ​ใน​พระ​วิหาร​ที่​พวก​ยูดาย​เคย​ชุมนุม​กัน​อยู่​ทุก​ครั้ง​เสมอ เรา​หา​ได้​สอน​สิ่ง​ใด​ใน​ที่​ลับ​ไม่. ท่าน​ถาม​เรา​ทำไม? จง​ถาม​ผู้​ที่​ได้​ฟัง​เรา​ว่า​เรา​ได้​สั่ง​สอน​เขา​อย่าง​ไร. นี่​แน่ะ ซึ่ง​เรา​ได้​กล่าว​นั้น​เขา​ก็​รู้.”

      ถึง​ตอน​นี้ เจ้า​หน้า​ที่​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ยืน​อยู่​ใกล้​พระ​เยซู​ตบ​พระ​พักตร์​พระองค์ พูด​ว่า “เจ้า​ตอบ​มหา​ปุโรหิต [ปุโรหิต​ใหญ่, ล.ม.] อย่าง​นั้น​หรือ?”

      พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “ถ้า​เรา​พูด​ผิด จง​เป็น​พยาน​ถึง​ความ​ผิด​นั้น แต่​ถ้า​เรา​พูด​ถูก ตบ​เรา​ทำไม?” หลัง​จาก​การ​โต้​ตอบ​เช่น​นี้​แล้ว อันนาศ​ส่ง​พระ​เยซู​ทั้ง​ยัง​ถูก​มัด​อยู่​ไป​หา​กายะฟา.

      ขณะ​นี้ ปุโรหิต​ใหญ่​ทั้ง​หมด​และ​ผู้​เฒ่า​ผู้​แก่​กับ​พวก​อาลักษณ์ ถูก​แล้ว ศาล​ซันเฮดริน​ทั้ง​คณะ​กำลัง​เริ่ม​ต้น​ที่​จะ​ประชุม​กัน. สถาน​ที่​แห่ง​การ​ประชุม​ของ​พวก​เขา​ดู​เหมือน​จะ​เป็น​บ้าน​ของ​กายะฟา. การ​จัด​ให้​มี​การ​พิจารณา​คดี​ดัง​กล่าว​ใน​คืน​ปัศคา​เป็น​การ​ขัด​กับ​กฎหมาย​ของ​พวก​ยิว​อย่าง​เห็น​ได้​ชัด. แต่​นี้​มิ​ได้​ขัด​ขวาง​พวก​หัวหน้า​ศาสนา​ไว้​จาก​จุด​ประสงค์​ชั่ว​ของ​พวก​เขา.

      หลาย​สัปดาห์​ก่อน คราว​เมื่อ​พระ​เยซู​ปลุก​ลาซะโร​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย ศาล​ซันเฮดริน​ได้​ตก​ลง​กัน​แล้ว​ว่า​พระองค์​ต้อง​ตาย. และ​สอง​วัน​ก่อน​หน้า​นั้น​ที​เดียว พวก​ผู้​มี​อำนาจ​ทาง​ศาสนา​ได้​ปรึกษา​กัน​ที่​จะ​จับ​พระ​เยซู​โดย​อุบาย​อย่าง​มี​เล่ห์​เหลี่ยม​เพื่อ​สังหาร​พระองค์. นึก​ดู​ซิ ที่​แท้​แล้ว​พระองค์​ถูก​ตัดสิน​ก่อน​การ​พิจารณา​คดี​ของ​พระองค์​เสีย​ด้วย​ซ้ำ!

      บัด​นี้​เขา​พยายาม​ที่​จะ​หา​พยาน​ซึ่ง​จะ​เสนอ​หลักฐาน​เท็จ​เพื่อ​ว่า​อาจ​ตั้ง​ข้อ​กล่าวหา​ฟ้อง​พระ​เยซู​ได้. อย่าง​ไร​ก็​ดี ไม่​อาจ​พบ​พยาน​ผู้​ซึ่ง​ให้​การ​ตรง​กัน. ใน​ที่​สุด สอง​คน​แสดง​ตัว​ออก​มา​และ​ยืน​ยัน​ว่า “ข้าพเจ้า​ได้​ยิน​คน​นี้​ว่า ‘เรา​จะ​ทำลาย​โบสถ์ [พระ​วิหาร] นี้​ที่​สร้าง​ไว้​ด้วย​มือ​มนุษย์ และ​ใน​สาม​วัน​จะ​สร้าง​ขึ้น​ใหม่​อีก​โบสถ์​หนึ่ง​ซึ่ง​ไม่​ทำ​ด้วย​มือ​มนุษย์​เลย.”

      กายะฟา​ถาม​ว่า “ท่าน​ไม่​ตอบ​อะไร​บ้าง​หรือ? ซึ่ง​เขา​เบิก​ความ​ปรับ​ปรำ​ท่าน​นั้น​จะ​ว่า​อย่าง​ไร?” แต่​พระ​เยซู​คง​นิ่ง​อยู่. แม้​แต่​ใน​ข้อ​กล่าวหา​เท็จ​นี้ พยาน​ก็​ไม่​อาจ​ทำ​ให้​เรื่อง​ราว​ของ​เขา​ประสาน​กัน​ได้ ยัง​ความ​อัปยศ​อดสู​แก่​ศาล​ซันเฮดริน. ดัง​นั้น มหา​ปุโรหิต​จึง​ลอง​ใช้​กลยุทธ์​ที่​ต่าง​กัน.

      กายะฟา​ทราบ​ว่า​พวก​ยิว​มี​ความ​รู้สึก​ไว​เพียง​ไร​เกี่ยว​กับ​ใคร ๆ ที่​อ้าง​ว่า​เป็น​พระ​บุตร​แท้​ของ​พระเจ้า. ใน​สอง​คราว​ก่อน​หน้า​นั้น พวก​เขา​ได้​ด่วน​ตรา​หน้า​พระ​เยซู​ว่า​เป็น​ผู้​หมิ่น​ประมาท​ที่​คู่​ควร​กับ​ความ​ตาย ครั้ง​หนึ่ง​ได้​ทึกทัก​อย่าง​ผิด ๆ ว่า​พระองค์​อ้าง​ว่า​เท่า​เทียม​กับ​พระเจ้า. ตอน​นี้​กายะฟา​สั่ง​อย่าง​มี​เล่ห์​เหลี่ยม​ว่า “เรา​ให้​เจ้า​สาบาน​ต่อ​พระเจ้า​ผู้​ทรง​พระ​ชนม์​อยู่ ให้​บอก​เรา​ว่า เจ้า​เป็น​พระ​คริสต์​บุตร​ของ​พระเจ้า​หรือ​ไม่!”

      ไม่​ว่า​พวก​ยิว​จะ​คิด​อย่าง​ไร​ก็​ตาม พระ​เยซู​ทรง​เป็น​พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า​อย่าง​แท้​จริง. และ​การ​เงียบ​อยู่​ต่อ​ไป​อาจ​ถูก​แปล​ความหมาย​ว่า​เป็น​การ​ปฏิเสธ​การ​ที่​พระองค์​เป็น​พระ​คริสต์. ดัง​นั้น พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​อย่าง​กล้า​หาญ​ว่า “เรา​เป็น และ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​เห็น​บุตร​มนุษย์​นั่ง​อยู่​เบื้อง​ขวา​พระ​หัตถ์​ของ​ผู้​ทรง​ฤทธานุภาพ​และ​เสด็จ​มา​ใน​เมฆ​ฟ้า.”

      ถึง​ตอน​นี้ กายะฟา ด้วย​การ​แสดง​ออก​อย่าง​ที่​เร้า​ใจ จึง​ฉีก​เสื้อ​ผ้า​ของ​เขา​แล้ว​อุทาน​ว่า “เขา​พูด​หมิ่น​ประมาท​แล้ว! เรา​ต้องการ​พยาน​อะไร​อีก​เล่า? นี่​แน่ะ ท่าน​ทั้ง​หลาย​ก็​ได้​ยิน​คำ​หมิ่น​ประมาท​ของ​เขา​แล้ว. ท่าน​คิด​เห็น​อย่าง​ไร?”

      ศาล​ซัน​เฮ​เด​ริน​ประกาศ​ว่า “ควร​ปรับ​โทษ​ถึง​ตาย.” ต่อ​จาก​นั้น​พวก​เขา​เริ่ม​ล้อ​เล่น​พระองค์ และ​พวก​เขา​พูด​หลาย​อย่าง​เป็น​การ​หมิ่น​ประมาท​พระองค์. เขา​ตบ​พระ​พักตร์​พระองค์ แล้ว​ถ่ม​น้ำลาย​รด. คน​อื่น ๆ ปิด​พระ​พักตร์​ของ​พระองค์ แล้ว​ตบ​พระองค์​ด้วย​กำปั้น แล้ว​พูด​อย่าง​แดก​ดัน​ว่า “เจ้า​พระ​คริสต์ จง​ทาย​ให้​เรา​ฟัง​ว่า ใคร​ตบ?” พฤติการณ์​ที่​สบประมาท ผิด​กฎหมาย​เช่น​นี้​ได้​เกิด​ขึ้น​ระหว่าง​การ​พิจารณา​คดี​ใน​เวลา​กลางคืน. มัดธาย 26:57-68; 26:3, 4; มาระโก 14:53-65; ลูกา 22:54, 63–65; โยฮัน 18:13-24; 11:45-53; 10:31-39; 5:16-18.

      ▪ พระ​เยซู​ถูก​พา​ไป​ที่​ไหน​ก่อน และ​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​พระองค์​ที่​นั่น?

      ▪ ต่อ​จาก​นั้น​พระ​เยซู​ถูก​พา​ไป​ที่​ไหน และ​ด้วย​จุด​มุ่ง​หมาย​อะไร?

      ▪ กายะฟา​สามารถ​ทำ​ให้​ศาล​ซันเฮดริน​ประกาศ​ว่า​พระ​เยซู​สม​ควร​จะ​ตาย​นั้น​โดย​วิธี​ใด?

      ▪ พฤติการณ์​ที่​สบประมาท ผิด​กฎหมาย​อะไร​เกิด​ขึ้น​ระหว่าง​การ​พิจารณา​คดี?

  • การปฏิเสธในลานบ้าน
    บุรุษผู้ใหญ่ยิ่งเท่าที่โลกเคยเห็น
    • บท 120

      การ​ปฏิเสธ​ใน​ลาน​บ้าน

      หลัง​จาก​ละ​ทิ้ง​พระ​เยซู​ใน​สวน​เฆ็ธเซมาเน แล้ว​หนี​ไป​ด้วย​ความ​กลัว​พร้อม​กับ​อัครสาวก​คน​อื่น ๆ เปโตร​กับ​โยฮัน​ก็​หยุด​หนี. บาง​ที​เขา​ทั้ง​สอง​ตาม​ทัน​พระ​เยซู​เมื่อ​พระองค์​ถูก​พา​มา​ที่​บ้าน​ของ​อันนาศ. เมื่อ​อันนาศ​ส่ง​พระองค์​ไป​หา​มหา​ปุโรหิต​กายะฟา เปโตร​กับ​โยฮัน​ตาม​ไป​ใน​ระยะ​ห่าง​พอ​ควร ดู​เหมือน​จะ​อยู่​ใน​ระหว่าง​ความ​กลัว​เนื่อง​ด้วย​ชีวิต​ของ​เขา​เอง​กับ​ความ​ห่วงใย​อัน​สุด​ซึ้ง​ใน​สิ่ง​ที่​จะ​เกิด​ขึ้น​กับ​นาย​ของ​เขา.

      เมื่อ​มา​ถึง​ทำเนียบ​อัน​กว้างขวาง​ของ​กายะฟา โยฮัน​เข้า​ไป​ใน​บริเวณ​บ้าน​ได้ เนื่อง​จาก​มหา​ปุโรหิต​รู้​จัก​เขา. อย่าง​ไร​ก็​ดี เปโตร​ถูก​ทิ้ง​ไว้​ให้​ยืน​อยู่​ข้าง​นอก​ที่​ประตู. แต่​ใน​ไม่​ช้า​โยฮัน​ก็​กลับ​มา​และ​พูด​กับ​คน​เฝ้า​ประตู หญิง​รับใช้ และ​เปโตร​ก็​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​เข้า​ไป.

      บัด​นี้​อากาศ​หนาว และ​พวก​คน​ใช้​ใน​บ้าน​กับ​เจ้าหน้าที่​ของ​มหา​ปุโรหิต​ได้​ก่อ​ไฟ​ด้วย​ถ่าน​ไม้. เปโตร​เข้า​ร่วม​ผิง​ไฟ​ให้​อุ่น​กับ​พวก​เขา​ระหว่าง​คอย​ผล​ของ​การ​พิจารณา​คดี​พระ​เยซู. ณ ที่​นั่น ใน​แสง​ไฟ​ที่​ลุก​โพลง คน​เฝ้า​ประตู​ซึ่ง​ปล่อย​ให้​เปโตร​เข้า​ไป​มอง​เห็น​เขา​ชัด​ขึ้น. เธอ​อุทาน​ว่า “ท่าน​ได้​อยู่​กับ​เยซู​ชาว​ฆาลิลาย​ด้วย!”

      เพราะ​เดือดร้อน​ใจ​ที่​ถูก​จำ​ได้​ต่อ​หน้า​พวก​เขา​ทั้ง​หมด เปโตร​ปฏิเสธ​ที่​เคย​รู้​จัก​พระ​เยซู. เขา​บอก​ว่า “ที่​เจ้า​ว่า​นั้น​ข้า​ไม่​รู้​และ​ไม่​เข้าใจ.”

      จาก​นั้น เปโตร​ก็​ออก​ไป​อยู่​ใกล้​ทาง​ออก​ประตู. ที่​นั่น หญิง​สาว​อีก​คน​หนึ่ง​สังเกต​เห็น​เขา และ​พูด​กับ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง ๆ ว่า “คน​นี้​ได้​อยู่​กับ​เยซู​ชาว​นาซาเร็ธ.” อีก​ครั้ง​หนึ่ง เปโตร​ปฏิเสธ​เรื่อง​นั้น โดย​สาบาน​ว่า “คน​นั้น​ข้า​ไม่​รู้​จัก!”

      เปโตร​ยัง​คง​อยู่​ใน​ลาน​บ้าน พยายาม​ไม่​ให้​เป็น​เป้า​สายตา​เท่า​ที่​เป็น​ไป​ได้. บาง​ที​ถึง​ตอน​นี้​เขา​สะดุ้ง​เนื่อง​จาก​ไก่​ขัน​ใน​ความ​มืด​ยาม​เช้า​ตรู่. ใน​ระหว่าง​นั้น การ​พิจารณา​คดี​ของ​พระ​เยซู​ดำเนิน​ต่อ​ไป ดู​เหมือน​ว่า​ดำเนิน​การ​อยู่​ใน​ส่วน​หนึ่ง​ของ​บ้าน​ที่​อยู่​เหนือ​ลาน​นั้น. เปโตร​กับ​คน​อื่น ๆ คง​คอย​อยู่​ข้าง​ล่าง​เพื่อ​ดู​พยาน​ต่าง ๆ ที่​ไป ๆ มา ๆ ซึ่ง​ถูก​นำ​เข้า​มา​เพื่อ​ให้​การ.

      ราว ๆ หนึ่ง​ชั่วโมง​ได้​ผ่าน​ไป​ตั้ง​แต่​เปโตร​ถูก​จำ​ได้​ครั้ง​สุด​ท้าย​ว่า​เป็น​ผู้​สมทบ​กับ​พระ​เยซู. บัด​นี้​คน​เหล่า​นั้น​หลาย​คน​ที่​ยืน​อยู่​รอบ ๆ ได้​มา​หา​เขา​และ​พูด​ว่า “เจ้า​เป็น​คน​หนึ่ง​ใน​พวก​นั้น​แน่​แล้ว ด้วย​ว่า​ภาษา​ของ​เจ้า​ส่อ​ตัว​เจ้า​เอง.” คน​หนึ่ง​ใน​กลุ่ม​นั้น​เป็น​ญาติ​ของ​มาละโค ซึ่ง​เปโตร​ได้​ฟัน​หู​เขา​ขาด. เขา​พูด​ว่า “ข้า​ได้​เห็น​เจ้า​กับ​ท่าน​นั้น​ใน​สวน มิ​ใช่​หรือ?”

      เปโตร​ยืน​ยัน​อย่าง​แข็งขัน​ว่า “คน​นั้น​ข้า​ไม่​รู้​จัก!” ที่​จริง โดย​สบถ​และ​สาบาน​ใน​เรื่อง​นั้น ที่​แท้​แล้ว เป็น​การ​ขอ​ให้​เหตุ​ร้าย​ตก​แก่​เขา​เอง​หาก​เขา​ไม่​ได้​พูด​ความ​จริง เขา​พยายาม​ทำ​ให้​พวก​นั้น​เชื่อ​มั่น​ใจ​ว่า​พวก​เขา​ล้วน​เข้าใจ​ผิด.

      ขณะ​ที่​เปโตร​ทำ​การ​ปฏิเสธ​ครั้ง​ที่​สาม ไก่​ก็​ขัน. และ​ทันใด​นั้น พระ​เยซู​ผู้​ซึ่ง​ดู​เหมือน​ว่า​ออก​มา​อยู่​ข้าง​นอก​บน​ระเบียง​เหนือ​ลาน​บ้าน ทรง​เหลียว​มา​ทอด​พระ​เนตร​ดู​เขา. พลัน​เปโตร​ก็​หวน​รำลึก​ถึง​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ได้​ตรัส​เพียง​ไม่​กี่​ชั่วโมง​ก่อน​หน้า​นั้น​ใน​ห้อง​ชั้น​บน​ว่า “ก่อน​ไก่​ขัน​สอง​หน​ท่าน​จะ​ปฏิเสธ​เรา​ถึง​สาม​ครั้ง.” เพราะ​รู้สึก​ตะลึงงัน​เนื่อง​จาก​บาป​อัน​หนัก​หน่วง​ของ​เขา เปโตร​จึง​ออก​ไป​ข้าง​นอก และ​ร้องไห้​อย่าง​ขมขื่น.

      เหตุ​การณ์​นี้​เกิด​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร? หลัง​จาก​มั่น​ใจ​จริง ๆ ใน​ความ​เข้มแข็ง​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ตน เปโตร​ปฏิเสธ​นาย​ของ​เขา​ติด ๆ กัน​สาม​ครั้ง​โดย​ฉับพลัน​นั้น​ได้​อย่าง​ไร? ไม่​ต้อง​สงสัย​ว่า​สภาพ​แวด​ล้อม​ทำ​ให้​เปโตร​ติด​กับ​โดย​ไม่​รู้​ตัว. ความ​จริง​ได้​ถูก​บิดเบือน และ​มี​การ​วาด​ภาพ​พระ​เยซู​เสมือน​เป็น​อาชญากร​ที่​เลว​ทราม​ต่ำ​ช้า. มี​การ​ทำ​ให้​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​ดู​เหมือน​ว่า​ผิด คน​ที่​ปราศจาก​ผิด​เสมือน​เป็น​ผู้​มี​ความ​ผิด. ดัง​นั้น เนื่อง​จาก​ความ​กดดัน​ใน​โอกาส​นั้น เปโตร​จึง​หลุด​จาก​สภาพ​ที่​สมดุล. ความ​สำนึก​อัน​เหมาะ​สม​ของ​เขา​ใน​เรื่อง​ความ​ภักดี​ถูก​ทำลาย​โดย​ฉับพลัน. ยัง​ความ​เศร้า​ระทม​แก่​เขา​ที่​เขา​ตกตะลึงพรึงเพริด​ไป​เนื่อง​จาก​ความ​กลัว​หน้า​มนุษย์. ขอ​อย่า​ให้​เหตุ​การณ์​เช่น​นั้น​เกิด​ขึ้น​กับ​เรา​เลย! มัดธาย 26:57, 58, 69–75; มาระโก 14:30, 53, 54, 66–72; ลูกา 22:54-62; โยฮัน 18:15-18, 25–27.

      ▪ เปโตร​กับ​โยฮัน​เข้า​ไป​ใน​ลาน​บ้าน​ของ​มหา​ปุโรหิต​โดย​วิธี​ใด?

      ▪ ขณะ​ที่​เปโตร​กับ​โยฮัน​อยู่​ใน​ลาน​บ้าน อะไร​ดำเนิน​อยู่​ใน​บ้าน​นั้น?

      ▪ ไก่​ขัน​กี่​ครั้ง และ​เปโตร​ปฏิเสธ​ว่า​ไม่​รู้​จัก​พระ​คริสต์​บ่อย​เท่า​ไร?

      ▪ การ​ที่​เปโตร​สบถ​และ​สาบาน​นั้น​หมายความ​อย่าง​ไร?

      ▪ อะไร​เป็น​เหตุ​ให้​เปโตร​ปฏิเสธ​ว่า​ท่าน​ไม่​รู้​จัก​พระ​เยซู?

หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
ออกจากระบบ
เข้าสู่ระบบ
  • ไทย
  • แชร์
  • การตั้งค่า
  • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
  • เงื่อนไขการใช้งาน
  • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
  • JW.ORG
  • เข้าสู่ระบบ
แชร์