ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • เมื่อการป่วยเรื้อรังกระหน่ำครอบครัว
    ตื่นเถิด! 2000 | มิถุนายน 8
    • เมื่อ​การ​ป่วย​เรื้อรัง​กระหน่ำ​ครอบครัว

      ความ​สุข​ใน​ครอบครัว​ดู ทอยต์ ทำ​ให้​ผู้​อื่น​พลอย​สุข​ไป​ด้วย. ความ​รัก​อัน​อบอุ่น​ที่​พวก​เขา​มี​ต่อ​กัน​ดู​แล้ว​น่า​ชื่น​ใจ. หาก​คุณ​เห็น​พวก​เขา คุณ​คง​ไม่​มี​ทาง​เดา​ออก​ว่า​พวก​เขา​เคย​อด​ทน​กับ​ความ​ลำบาก​แสน​สาหัส.

      เริ่ม​แรก เมื่อ​มิเชลล์​ลูก​คน​โต​อายุ​ได้​สอง​ขวบ บราม​และ​แอนน์​ได้​ทราบ​ว่า​เธอ​เป็น​โรค​เรื้อรัง​ทาง​กรรมพันธุ์​ที่​ทำ​ให้​กล้ามเนื้อ​อ่อน​ปวกเปียก​ไม่​มี​เรี่ยว​แรง.

      แอนน์ ผู้​เป็น​แม่​บอก​ว่า “โดย​ไม่​ทัน​ตั้ง​ตัว คุณ​ต้อง​เรียน​รู้​วิธี​รับมือ​กับ​การ​ป่วย​เรื้อรัง​ที่​ทำ​ให้​ทุพพลภาพ. คุณ​รู้​ว่า​ชีวิต​ครอบครัว​จะ​ไม่​เหมือน​เดิม.”

      แต่​หลัง​จาก​เขา​มี​ลูก​สาว​อีก​คน​หนึ่ง​และ​ลูก​ชาย​คน​หนึ่ง โศกนาฏกรรม​ก็​กระหน่ำ​ซ้ำ​เติม​ครอบครัว​นี้​อีก. วัน​หนึ่ง เมื่อ​ลูก​ทั้ง​สาม​กำลัง​เล่น​อยู่​นอก​บ้าน ลูก​สาว​สอง​คน​ก็​วิ่ง​เข้า​มา​ใน​บ้าน ร้อง​ว่า “คุณ​แม่! คุณ​แม่! มา​นี่​เร็ว. นีล​เป็น​อะไร​ไม่​รู้!”

      แอนน์​รีบ​วิ่ง​ออก​ไป เธอ​เห็น​ศีรษะ​ของ​นีล​วัย​สาม​ขวบ​พับ​ไป​ด้าน​หนึ่ง. เขา​ไม่​สามารถ​ตั้ง​ศีรษะ​ให้​ตรง​ได้.

      แอนน์​เล่า​ว่า “ดิฉัน​ช็อก​สุด​ขีด ใจ​คอ​ห่อเหี่ยว และ​รู้​ทันที​ว่า ลูก​น้อย​ที่​สุขภาพ​แข็งแรง​คน​นี้​จะ​ต้อง​เผชิญ​การ​ท้าทาย​ใน​การ​ดำรง​ชีวิต​ด้วย​กล้ามเนื้อ​ที่​อ่อน​ปวกเปียก​ไม่​มี​เรี่ยว​แรง​เหมือน​พี่​สาว.”

      บราม ผู้​เป็น​พ่อ​กล่าว​ว่า “ความ​ยินดี​จาก​การ​เริ่ม​ต้น​ด้วย​ครอบครัว​ที่​มี​สุขภาพ​แข็งแรง ไม่​นาน​ก็​ถูก​บดบัง​ด้วย​ข้อ​ท้าทาย​ที่​หนัก​หนา​สาหัส​ที่​สุด​เท่า​ที่​เรา​เคย​ประสบ​มา.”

      ใน​ที่​สุด มิเชลล์​ก็​เสีย​ชีวิต​ด้วย​โรค​แทรก​ซ้อน​ที่​เกิด​จาก​การ​ป่วย​ของ​เธอ​ทั้ง ๆ ที่​ได้​รับ​การ​รักษา​อย่าง​ดี​ที่​สุด​จาก​แพทย์. เธอ​มี​อายุ​แค่ 14 ปี ใน​ตอน​นั้น. นีล​ต้อง​ต่อ​สู้​ต่อ​ไป​กับ​ผล​กระทบ​จาก​โรค​ของ​เขา.

      เหตุ​การณ์​นี้​ทำ​ให้​เกิด​คำ​ถาม​ขึ้น​มา​ว่า ครอบครัว​ต่าง ๆ อย่าง​เช่น​ครอบครัว​ของ​ดูทอยต์​รับมือ​กับ​ข้อ​ท้าทาย​ของ​การ​มี​สมาชิก​ครอบครัว​ที่​ป่วย​เรื้อรัง​อย่าง​ไร? เพื่อ​ตอบ​คำ​ถาม​นี้ ขอ​ให้​เรา​วิเคราะห์​ดู​ว่า​ครอบครัว​ต่าง ๆ ได้​รับ​ผล​กระทบ​จาก​การ​ป่วย​เรื้อรัง​อย่าง​ไร​บ้าง.

  • การป่วยเรื้อรัง—ปัญหาของทั้งครอบครัว
    ตื่นเถิด! 2000 | มิถุนายน 8
    • การ​ป่วย​เรื้อรัง—ปัญหา​ของ​ทั้ง​ครอบครัว

      การ​ป่วย​เรื้อรัง​คือ​อะไร? ตอบ​ง่าย ๆ ก็​คือ การ​เจ็บ​ป่วย​ที่​ยืดเยื้อ​ยาว​นาน. นอก​จาก​นี้ รอง​ศาสตราจารย์​คน​หนึ่ง​พรรณนา​การ​ป่วย​เรื้อรัง​ว่า​เป็น “สภาวะ​ทาง​สุขภาพ​ที่​เปลี่ยน​ไป ซึ่ง​จะ​รักษา​ไม่​ได้​ด้วย​วิธี​ศัลยกรรม​แบบ​ธรรมดา ๆ หรือ​การ​บำบัด​ทาง​การ​แพทย์​ระยะ​สั้น ๆ.” สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​การ​ป่วย​เรื้อรัง​หรือ​ผล​กระทบ​ของ​มัน​เป็น​เรื่อง​ท้า​ทาย​อย่าง​ยิ่ง ไม่​ได้​อยู่​ที่​ลักษณะ​ของ​โรค​และ​การ​รักษา​เท่า​นั้น แต่​ยัง​จะ​ต้อง​อด​ทน​เป็น​เวลา​นาน​ด้วย.

      ยิ่ง​กว่า​นั้น ผล​กระทบ​จาก​การ​ป่วย​เรื้อรัง​มัก​จะ​ไม่​จำกัด​อยู่​แค่​ผู้​ป่วย. หนังสือ​โรค​เซลล์​ประสาท​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​เคลื่อน​ไหว—ปัญหา​ของ​ทั้ง​ครอบครัว (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า “ผู้​คน​ส่วน​ใหญ่​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​ครอบครัว และ​อาการ​ช็อก​รวม​ทั้ง​ความ​วิตก​กังวล​ที่​คุณ [ผู้​ป่วย] รู้สึก​นั้น ผู้​ที่​อยู่​ใกล้​คุณ​จะ​ร่วม​รับ​ไป​ด้วย.” เรื่อง​นี้​ได้​รับ​การ​ยืน​ยัน​จาก​มารดา​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​มี​ลูก​สาว​เป็น​มะเร็ง. เธอ​กล่าว​ว่า “ทุก​คน​ใน​ครอบครัว​ได้​รับ​ผล​กระทบ ไม่​ว่า​เขา​จะ​แสดง​ออก​หรือ​รู้​ตัว​หรือ​ไม่​ก็​ตาม.”

      แน่​ละ ไม่​ใช่​ทุก​คน​จะ​ได้​รับ​ผล​กระทบ​อย่าง​เดียว​กัน. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ถ้า​สมาชิก​ครอบครัว​เข้าใจ​ว่า​การ​ป่วย​เรื้อรัง​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​ผู้​คน​ทั่ว​ไป​อย่าง​ไร พวก​เขา​ก็​คง​จะ​เตรียม​พร้อม​ได้​ดี​ขึ้น​เพื่อ​รับมือ​กับ​ข้อ​ท้าทาย​พิเศษ​เฉพาะ​ที่​เกิด​จาก​สถานการณ์​อย่าง​ใด​อย่าง​หนึ่ง. นอก​จาก​นี้ ถ้า​ผู้​ที่​อยู่​นอก​วง​ครอบครัว อย่าง​เช่น เพื่อน​ร่วม​งาน, เพื่อน​นัก​เรียน, เพื่อน​บ้าน, มิตร​สหาย เข้าใจ​ผล​กระทบ​ของ​การ​ป่วย​เรื้อรัง พวก​เขา​ก็​จะ​สามารถ​ให้​การ​เกื้อ​หนุน​อย่าง​ที่​มี​ความหมาย​และ​ร่วม​ความ​รู้สึก​ได้​ดี​ขึ้น. โดย​คำนึง​ถึง​สิ่ง​นี้ ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​ว่า​ครอบครัว​ต่าง ๆ อาจ​ได้​รับ​ผล​กระทบ​จาก​การ​ป่วย​เรื้อรัง​ใน​ทาง​ใด​บ้าง.

      การ​เดิน​ทาง​สู่​ดินแดน​ที่​ไม่​รู้​จัก

      ประสบการณ์​ของ​ครอบครัว​ที่​มี​การ​ป่วย​เรื้อรัง​อาจ​เทียบ​ได้​กับ​การ​เดิน​ทาง​ไป​ต่าง​ประเทศ. แม้​จะ​มี​บาง​สิ่ง​ที่​เหมือน​กัน​มาก​กับ​ประเทศ​บ้าน​เกิด​ของ​ครอบครัว​นั้น แต่​บาง​สิ่ง​ก็​ดู​แปลก​ตา​หรือ​กระทั่ง​แตกต่าง​อย่าง​สิ้นเชิง. เมื่อ​สมาชิก​คน​หนึ่ง​ใน​ครอบครัว​ป่วย​เรื้อรัง รูป​แบบ​ชีวิต​ส่วน​ใหญ่​ของ​ครอบครัว​นั้น​จะ​ยัง​เหมือน​เดิม​ไม่​เปลี่ยน​แปลง​มาก​นัก. แต่​บาง​อย่าง​จะ​เปลี่ยน​ไป​มาก.

      ประการ​แรก การ​เจ็บ​ป่วย​เอง​อาจ​กระทบ​กิจวัตร​ปกติ​ของ​ครอบครัว และ​ทำ​ให้​สมาชิก​แต่​ละ​คน​ใน​ครอบครัว​ต้อง​ทำ​การ​ปรับ​ตัว​เพื่อ​รับมือ. สิ่ง​นี้​ได้​รับ​การ​ยืน​ยัน​จาก​เฮเลน วัย 14 ปี ซึ่ง​คุณ​แม่​ของ​เธอ​เป็น​โรค​ซึมเศร้า​เรื้อรัง​รุนแรง. เธอ​กล่าว​ว่า “เรา​ปรับ​ตาราง​เวลา​ให้​เข้า​กับ​สิ่ง​ที่​คุณ​แม่​สามารถ​หรือ​ไม่​สามารถ​ทำ​ได้​ใน​แต่​ละ​วัน.”

      แม้​แต่​การ​รักษา—ซึ่ง​มุ่ง​หมาย​เพื่อ​บรรเทา​ความ​เจ็บ​ป่วย—ก็​อาจ​ทำ​ให้​กิจวัตร​ใหม่​ของ​ครอบครัว​เสีย​กระบวน​ต่อ​ไป​ได้. ขอ​พิจารณา​ตัว​อย่าง​ขอ​งบ​ราม​และ​แอนน์ ซึ่ง​เอ่ย​ถึง​ใน​บทความ​ก่อน​หน้า​นี้. บราม​บอก​ว่า “การ​บำบัด​รักษา​ลูก​ทำ​ให้​เรา​ต้อง​ปรับ​เปลี่ยน​กิจวัตร​ประจำ​วัน​ขนาน​ใหญ่.” แอนน์​อธิบาย​ว่า “เรา​ต้อง​ไป ๆ มา ๆ โรง​พยาบาล​ทุก​วัน. และ​นอก​จาก​นั้น แพทย์​ยัง​ได้​แนะ​นำ​เรา​ให้​อาหาร​ลูก​มื้อ​เล็ก ๆ หก​มื้อ​ต่อ​วัน​เพื่อ​ชดเชย​การ​ได้​รับ​อาหาร​ไม่​พอ​เพียง​อัน​เนื่อง​มา​จาก​โรค​ของ​พวก​เขา. สำหรับ​ดิฉัน ถือ​เป็น​การ​เปลี่ยน​วิธี​ทำ​อาหาร​ใหม่​ทั้ง​หมด.” ที่​ท้าทาย​ยิ่ง​กว่า​นั้น​อีก​ก็​คือ การ​ช่วย​ลูก ๆ ออก​กำลัง​กาย​ตาม​แพทย์​สั่ง​เพื่อ​ให้​กล้ามเนื้อ​แข็งแรง. แอนน์​จำ​ได้​ว่า “นั่น​เป็น​เหมือน​การ​สู้​รบ​กับ​จิตใจ​ทุก​วัน.”

      ขณะ​ที่​ผู้​ป่วย​ปรับ​ตัว​เข้า​กับ​ความ​ไม่​สะดวก​สบาย—และ​บาง​ครั้ง​ความ​เจ็บ​ปวด—จาก​การ​รักษา​ของ​แพทย์​และ​การ​ตรวจ​ของ​บุคลากร​ทาง​การ​แพทย์ เขา​ก็​ต้อง​พึ่ง​ครอบครัว​มาก​ขึ้น​เรื่อง​ความ​ช่วยเหลือ​และ​การ​เกื้อ​หนุน​ทาง​อารมณ์​ที่​ใช้​ได้​จริง. ผล​ก็​คือ ไม่​เพียง​สมาชิก​ครอบครัว​ต้อง​เรียน​รู้​ทักษะ​ใหม่ ๆ เพื่อ​นำ​ไป​ใช้​ดู​แล​ผู้​ป่วย​ด้าน​ร่าง​กาย แต่​ทุก​คน​ยัง​ถูก​บีบ​ให้​ปรับ​เจตคติ, อารมณ์, รูป​แบบ​ชีวิต, และ​กิจวัตร​ของ​ตน​อีก​ด้วย.

      เป็น​ที่​เข้าใจ​ได้​ว่า ความ​ต้องการ​ทั้ง​หมด​นี้​ทำ​ให้​ครอบครัว​ต้อง​อด​ทน​มาก​ขึ้น. มารดา​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ลูก​สาว​รักษา​ตัว​อยู่​ใน​โรง​พยาบาล​เพราะ​เป็น​โรค​มะเร็ง​ยืน​ยัน​ว่า สิ่ง​นี้​อาจ “ก่อ​ความ​เหนื่อย​ล้า​เกิน​กว่า​ใคร ๆ จะ​นึก​ภาพ​ได้.”

      ความ​ไม่​แน่นอน​ดำเนิน​ต่อ​ไป

      หนังสือ​วิธี​รับมือ​กับ​การ​ป่วย​เรื้อรัง—การ​เอา​ชนะ​การ​หมด​กำลังใจ (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า “อาการ​ขึ้น ๆ ลง ๆ ที่​ดำเนิน​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​เพราะ​การ​ป่วย​เรื้อรัง ก่อ​ความ​รู้สึก​ที่​ไม่​ค่อย​ดี​เรื่อง​ความ​ไม่​แน่นอน.” ตอน​ที่​สมาชิก​ครอบครัว​กำลัง​ปรับ​ตัว​เข้า​กับ​สภาพการณ์​หนึ่ง พวก​เขา​ก็​อาจ​จะ​เผชิญ​กับ​อีก​สภาพการณ์​หนึ่ง​ที่​ต่าง​ออก​ไป​และ​อาจ​ยุ่งยาก​กว่า. อาการ​ต่าง ๆ อาจ​เอา​แน่​ไม่​ได้ หรือ​บาง​ที​ก็​เลว​ลง​อย่าง​ฉับพลัน และ​การ​รักษา​อาจ​ไม่​ทำ​ให้​อาการ​ดี​ขึ้น​อย่าง​ที่​คาด​ไว้. วิธี​รักษา​อาจ​ต้อง​เปลี่ยน​เป็น​ระยะ ๆ หรือ​ไม่​ก็​ทำ​ให้​เกิด​โรค​แทรก​ซ้อน​ได้​โดย​ไม่​ทราบ​ล่วง​หน้า. ขณะ​ที่​ผู้​ป่วย​พึ่ง​พา​การ​เกื้อ​หนุน​มาก​ขึ้น​จาก​ครอบครัว​ที่​งุนงง​ทำ​อะไร​ไม่​ถูก อารมณ์​ที่​แต่​ก่อน​เคย​ควบคุม​ได้​ก็​อาจ​ระเบิด​ทันที.

      ลักษณะ​ที่​ไม่​อาจ​ทำนาย​ได้​ของ​การ​เจ็บ​ป่วย​หลาย​อย่าง​พร้อม​ด้วย​การ​รักษา ก่อ​เกิด​คำ​ถาม​ที่​เลี่ยง​ไม่​ได้ เช่น สิ่ง​นี้​จะ​ดำเนิน​ต่อ​ไป​นาน​เท่า​ใด? การ​เจ็บ​ป่วย​นี้​จะ​เลว​ร้าย​ถึง​ขั้น​ไหน? เรา​จะ​ทน​รับ​สภาพ​นี้​ได้​อีก​สัก​แค่​ไหน? การ​ป่วย​ที่​ต้อง​เสีย​ชีวิต​ใน​ที่​สุด มัก​ก่อ​ความ​ไม่​แน่นอน​อย่าง​ยิ่ง—“จะ​เป็น​อย่าง​นี้​นาน​เท่า​ไร​ก่อน​เสีย​ชีวิต?”

      ความ​เจ็บ​ป่วย, วิธี​การ​รักษา, ความ​เหนื่อย​ล้า, และ​การ​เอา​แน่​ไม่​ได้ ทั้ง​หมด​รวม​กัน​ก่อ​ผล​พวง​ที่​คาด​ไม่​ถึง​อีก​อย่าง​หนึ่ง.

      กระทบ​ความ​สัมพันธ์​กับ​ผู้​คน

      แคทลีน ซึ่ง​สามี​เป็น​โรค​ซึมเศร้า​เรื้อรัง​อธิบาย​ว่า “ดิฉัน​ต้อง​เอา​ชนะ​ความ​รู้สึก​รุนแรง​เรื่อง​ความ​โดด​เดี่ยว​เดียว​ดาย​และ​จน​ตรอก.” เธอ​เล่า​ต่อ​ไป​ว่า “สถานการณ์​เลว​ร้าย​เข้า​ไป​อีก เพราะ​เรา​ไม่​มี​ทาง​จะ​รับ​คำ​เชิญ​หรือ​เชิญ​ใคร​มา​สังสรรค์​ได้​เลย. ใน​ที่​สุด เรา​แทบ​ไม่​ได้​พบ​ปะ​พูด​คุย​กับ​ใคร​เลย.” เช่น​เดียว​กับ​แคทลีน หลาย​คน​ลงเอย​ด้วย​การ​ที่​ต้อง​รับมือ​กับ​ความ​รู้สึก​ผิด​ที่​ไม่​มี​น้ำใจ​รับรอง​แขก​และ​ไม่​รับ​คำ​เชิญ. เหตุ​ใด​สิ่ง​นี้​จึง​เกิด​ขึ้น?

      การ​เจ็บ​ป่วย​เอง​หรือ​ไม่​ก็​ผล​ข้าง​เคียง​ที่​เกิด​จาก​การ​รักษา​อาจ​ทำ​ให้​ยาก​หรือ​กระทั่ง​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​จะ​พบ​ปะ​สังสรรค์​กับ​คน​อื่น. ผู้​ป่วย​และ​ครอบครัว​ของ​เขา​อาจ​รู้สึก​ว่า​โรค​นั้น​จะ​ทำ​ให้​สังคม​รังเกียจ หรือ​ไม่​ก็​พวก​เขา​อาจ​กลัว​ว่า​มัน​จะ​ก่อ​ความ​อับอาย​ขายหน้า. ความ​ซึมเศร้า​อาจ​ทำ​ให้​ผู้​ป่วย​รู้สึก​ไม่​คู่​ควร​กับ​มิตรภาพ​ที่​เคย​ได้​รับ หรือ​ครอบครัว​นั้น​อาจ​เพียง​แค่​ไม่​มี​แรง​ที่​จะ​พบ​ปะ​สังสรรค์​กับ​ผู้​คน. ด้วย​เหตุ​ผล​หลาก​หลาย การ​ป่วย​เรื้อรัง​อาจ​ก่อ​ความ​โดด​เดี่ยว​และ​ความ​ว้าเหว่​ได้​อย่าง​ง่าย​ดาย​ต่อ​ทั้ง​ครอบครัว.

      นอก​จาก​นี้ ไม่​ใช่​ทุก​คน​ที่​รู้​ว่า​ควร​จะ​พูด​อะไร​หรือ​แสดง​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร​ต่อ​ผู้​ไร้​สมรรถภาพ. (ดู​กรอบ “วิธี​ที่​คุณ​อาจ​ให้​การ​เกื้อ​หนุน​ได้” หน้า 11.) แอนน์​บอก​ว่า “เมื่อ​ลูก​ของ​คุณ​ต่าง​จาก​เด็ก​คน​อื่น ๆ ผู้​คน​ก็​มัก​จะ​พา​กัน​จ้อง​มอง​และ​พูด​อะไร​ที่​ไม่​คิด​ให้​รอบคอบ. ที่​จริง​คุณ​มี​แนว​โน้ม​จะ​ตำหนิ​ตัว​เอง​เรื่อง​การ​เจ็บ​ป่วย​นั้น​อยู่​แล้ว และ​คำ​พูด​ของ​พวก​เขา​ก็​มี​แต่​จะ​ทำ​ให้​คุณ​รู้สึก​ผิด​มาก​ยิ่ง​ขึ้น.” คำ​พูด​ของ​แอนน์​เกี่ยว​ข้อง​กับ​อีก​สิ่ง​หนึ่ง​ที่​หลาย​ครอบครัว​คง​จะ​ประสบ.

      อารมณ์​ต่าง ๆ ที่​ก่อ​ความ​สับสน

      นัก​วิจัย​คน​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “ตอน​ที่​มี​การ​วินิจฉัย​ว่า​เป็น​โรค​อะไร ครอบครัว​ส่วน​ใหญ่​จะ​ตกใจ, ไม่​เชื่อ, และ​ปฏิเสธ. มัน​เป็น​เรื่อง​ที่​ยาก​เกิน​กว่า​จะ​รับ​ได้.” ใช่​แล้ว อาจ​ก่อ​ความ​ปวด​ร้าว​แสน​สาหัส​เมื่อ​รู้​ว่า​ผู้​ที่​ตน​รัก​ป่วย​เป็น​โรค​ที่​คุกคาม​ชีวิต​หรือ​โรค​ที่​ทำ​ให้​หมด​เรี่ยว​แรง. ครอบครัว​นั้น​อาจ​รู้สึก​ว่า​ความ​หวัง​และ​ความ​ฝัน​ของ​พวก​เขา​พัง​ทลาย​ป่นปี้ เหลือ​แต่​อนาคต​ที่​ไม่​แน่นอน​รวม​ทั้ง​ความ​รู้สึก​สูญ​เสีย​และ​เศร้า​ใจ​ลึก ๆ.

      จริง​อยู่ หลาย​ครอบครัว​ที่​เห็น​สมาชิก​ครอบครัว​ไม่​สบาย​เรื้อรัง​โดย​ไม่​รู้​สาเหตุ อาจ​รู้สึก​ผ่อน​คลาย​เมื่อ​มี​การ​วินิจฉัย​ว่า​เป็น​โรค​อะไร. แต่​บาง​ครอบครัว​อาจ​มี​ปฏิกิริยา​ต่าง​ออก​ไป​ต่อ​การ​วินิจฉัย​โรค. มารดา​คน​หนึ่ง​ใน​แอฟริกา​ใต้​ยอม​รับ​ว่า “ดิฉัน​ปวด​ร้าว​ใจ​มาก​ที่​ใน​ที่​สุด​รู้​ว่า​ลูก ๆ เป็น​โรค​อะไร บอก​ตาม​ตรง ไม่​รู้​ว่า​เป็น​โรค​อะไร​ยัง​จะ​ดี​เสีย​กว่า.”

      หนังสือ​ลูก​ที่​ต่าง​จาก​คน​อื่น​ใน​ครอบครัว—การ​อยู่​กับ​ลูก​ที่​ป่วย​หรือ​ทุพพลภาพ (ภาษา​อังกฤษ) อธิบาย​ว่า “เป็น​ธรรมดา​ที่​คุณ​จะ​รู้สึก​สับสน​ทาง​อารมณ์ . . . ขณะ​ที่​คุณ​ปรับ​ตัว​เข้า​กับ​ความ​เป็น​จริง​ใหม่​นี้. บาง​ครั้ง ความ​รู้สึก​ของ​คุณ​อาจ​รุนแรง​มาก​จน​คุณ​กลัว​ว่า​จะ​รับมือ​ไม่​ได้.” ไดอานา คิมป์ตัน ผู้​แต่ง​หนังสือ​เล่ม​นี้​ซึ่ง​มี​ลูก​ชาย​สอง​คน​เป็น​โรค​ซิสติก ไฟโบรซิส (โรค​ทาง​พันธุกรรม​ที่​เนื้อ​เยื่อ​ของ​ระบบ​ทาง​เดิน​อาหาร​และ​ระบบ​หายใจ​กลาย​เป็น​ถุง​น้ำ) เล่า​ว่า “ดิฉัน​กลัว​ความ​รู้สึก​ของ​ตัว​เอง และ​ดิฉัน​ต้องการ​ทราบ​ว่า​เป็น​เรื่อง​ปกติ​หรือ​ไม่​ที่​รู้สึก​แย่​ขนาด​นั้น.”

      ไม่​ใช่​เรื่อง​ผิด​ปกติ​ที่​ครอบครัว​จะ​กลัว เช่น กลัว​การ​ไม่​รู้, กลัว​การ​เจ็บ​ป่วย, กลัว​การ​รักษา, กลัว​เจ็บ, และ​กลัว​การ​เสีย​ชีวิต. โดย​เฉพาะ​เด็ก ๆ อาจ​มี​ความ​กลัว​อยู่​ใน​ใจ​หลาย​อย่าง—เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ถ้า​พวก​เขา​ไม่​ได้​รับ​คำ​อธิบาย​ที่​มี​เหตุ​ผล​ใน​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น.

      ความ​โกรธ​ก็​เป็น​เรื่อง​ที่​พบ​เห็น​บ่อย​เช่น​กัน. วารสาร​ทีแอลซี ของ​แอฟริกา​ใต้​อธิบาย​ว่า “ผู้​ป่วย​มัก​จะ​ระบาย​ความ​โกรธ​ลง​ที่​สมาชิก​ครอบครัว.” ส่วน​สมาชิก​ครอบครัว​ก็​อาจ​จะ​โกรธ​ไป​ด้วย เช่น โกรธ​แพทย์​ที่​ไม่​พบ​ปัญหา​ให้​เร็ว​กว่า​นี้, โกรธ​ตัว​เอง​ที่​ถ่ายทอด​ความ​บกพร่อง​ให้​ลูก, โกรธ​ผู้​ป่วย​ที่​ไม่​ดู​แล​ตัว​เอง​อย่าง​ถูก​ต้อง, โกรธ​ซาตาน​พญา​มาร​ที่​เป็น​ต้น​เหตุ​ของ​ความ​ทุกข์​ที่​ได้​รับ, หรือ​โกรธ​แม้​กระทั่ง​พระเจ้า​โดย​โทษ​พระองค์​สำหรับ​ความ​เจ็บ​ป่วย​นั้น. ความ​รู้สึก​ผิด​เป็น​ปฏิกิริยา​ปกติ​ธรรมดา​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ของ​การ​ป่วย​เรื้อรัง. หนังสือ​ลูก​เป็น​มะเร็ง—คู่มือ​อ้างอิง​อย่าง​ละเอียด​สำหรับ​บิดา​มารดา (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า “บิดา​หรือ​มารดา​หรือ​พี่ ๆ น้อง ๆ แทบ​ทุก​คน​ของ​เด็ก​ที่​ป่วย​เป็น​มะเร็ง​จะ​รู้สึก​ผิด.”

      ห้วง​อารมณ์​แบบ​นี้​มัก​จะ​ยัง​ผล​เป็น​ความ​ซึมเศร้า​ทั้ง​ใน​ระดับ​มาก​และ​น้อย. นัก​วิจัย​คน​หนึ่ง​เขียน​ว่า “สิ่ง​นี้​อาจ​เป็น​ปฏิกิริยา​ที่​พบ​เห็น​มาก​ที่​สุด. ดิฉัน​มี​จดหมาย​เป็น​แฟ้ม​ที่​จะ​พิสูจน์​เรื่อง​นี้.”

      ใช่​แล้ว ครอบครัว​รับมือ​ได้

      ใน​ด้าน​ดี หลาย​ครอบครัว​พบ​ว่า​การ​รับมือ​กับ​สถานการณ์​เช่น​นี้​ไม่​ยาก​อย่าง​ที่​คิด​ใน​ตอน​แรก. ไดอานา คิมป์ตัน ยืน​ยัน​ว่า “ภาพ​ที่​คุณ​คิด​จะ​เลว​ร้าย​กว่า​ความ​เป็น​จริง​อย่าง​มาก.” จาก​ประสบการณ์​ส่วน​ตัว เธอ​พบ​ว่า “อนาคต​ไม่​ได้​มืด​สนิท​อย่าง​ที่​คุณ​คิด​ขณะ​ได้​รับ​แจ้ง​ตอน​แรก ๆ เรื่อง​การ​เจ็บ​ป่วย​นั้น.” จง​มั่น​ใจ​ว่า​ครอบครัว​อื่น ๆ รอด​ผ่าน​การ​เดิน​ทาง​สู่​ดินแดน​ที่​ไม่​รู้​จัก​แห่ง​การ​ป่วย​เรื้อรัง​มา​แล้ว และ​คุณ​ย่อม​ทำ​ได้​เช่น​กัน. สำหรับ​หลาย​คน แค่​รู้​ว่า​คน​อื่น ๆ รับมือ​ได้ ก็​ทำ​ให้​พวก​เขา​คลาย​ความ​กังวล​และ​มี​ความ​หวัง​แล้ว.

      แต่​บาง​ครอบครัว​อาจ​จะ​สงสัย​อย่าง​มี​เหตุ​ผล​ว่า ‘เรา​จะ​รับมือ​ได้​อย่าง​ไร?’ บทความ​ถัด​ไป​จะ​พิจารณา​ว่า​ครอบครัว​ต่าง ๆ รับมือ​กับ​การ​ป่วย​เรื้อรัง​อย่าง​ไร​บ้าง.

      [คำ​โปรย​หน้า 5]

      ครอบครัว​จำ​ต้อง​ดู​แล​ผู้​ป่วย​และ​ปรับ​ทัศนคติ, อารมณ์, และ​รูป​แบบ​ชีวิต​ของ​ตน

      [คำ​โปรย​หน้า 6]

      ทั้ง​ผู้​ป่วย และ​ครอบครัว​จะ​ประสบ​ภาวะ​ตึงเครียด​ทาง​อารมณ์

      [คำ​โปรย​หน้า 7]

      อย่า​สิ้น​หวัง. ครอบครัว​อื่น​รับมือ​ได้ คุณ​ก็​ย่อม​ทำ​ได้​เช่น​กัน

      [กรอบ​หน้า 7]

      ข้อ​ท้าทาย​บาง​อย่าง​ของ​การ​ป่วย​เรื้อรัง

      • การ​เรียน​รู้​จัก​โรค​และ​วิธี​รับมือ​กับ​โรค​นั้น

      • การ​ปรับ​เปลี่ยน​รูป​แบบ​ชีวิต​และ​กิจวัตร​ประจำ​วัน

      • การ​รับมือ​กับ​ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​ผู้​คน​ซึ่ง​เปลี่ยน​ไป

      • การ​รักษา​จิตใจ​ให้​ปกติ​และ​ควบคุม​ตัว​เอง

      • การ​เสียใจ​เรื่อง​ความ​สูญ​เสีย​ที่​เกิด​จาก​โรค​นั้น

      • การ​รับมือ​กับ​อารมณ์​ที่​ผันแปร

      • การ​รักษา​เจตคติ​ใน​แง่​บวก

  • วิธีที่ครอบครัวต่าง ๆ รับมือกับการป่วยเรื้อรัง
    ตื่นเถิด! 2000 | มิถุนายน 8
    • วิธี​ที่​ครอบครัว​ต่าง ๆ รับมือ​กับ​การ​ป่วย​เรื้อรัง

      อาจ​นิยาม​การ​รับมือ​ว่า​เป็น “ความ​สามารถ​ใน​การ​จัด​การ และ​ควบคุม​ความ​เครียด​ของ​ตน​อย่าง​ได้​ผล.” (พจนะ-สารานุกรม​แพทย์​ของ​เทเบอร์, ภาษา​อังกฤษ) สิ่ง​นี้​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​เผชิญ​ปัญหา​เรื่อง​การ​ป่วย​เรื้อรัง​ใน​แบบ​ที่​คุณ​สามารถ​ควบคุม​สถานการณ์​และ​มี​ใจ​สงบ​ได้​ใน​ระดับ​หนึ่ง. และ​เมื่อ​คำนึง​ถึง​ข้อ​เท็จ​จริง​ที่ว่าการ​ป่วย​เรื้อรัง​เป็น​ปัญหา​ของ​ทั้ง​ครอบครัว สมาชิก​แต่​ละ​คน​ใน​ครอบครัว​จึง​ต้อง​ให้​การ​เกื้อ​หนุน​ด้วย​ความ​รัก​และ​ภักดี​เพื่อ​ครอบครัว​จะ​รับมือ​ได้​อย่าง​ประสบ​ผล​สำเร็จ. ให้​เรา​มา​พิจารณา​ว่า ครอบครัว​ต่าง ๆ รับมือ​กับ​การ​ป่วย​เรื้อรัง​อย่าง​ไร​บ้าง.

      คุณค่า​ของ​ความ​รู้

      อาจ​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​จะ​รักษา​อาการ​ทุพพลภาพ แต่​การ​รู้​วิธี​รับมือ​ก็​สามารถ​ลด​ผล​กระทบ​ทาง​จิตใจ​และ​อารมณ์​จาก​การ​เจ็บ​ป่วย​ได้. สิ่ง​นี้​สอดคล้อง​กับ​สุภาษิต​โบราณ​ที่​ว่า “ชาย​ที่​มี​ความ​รู้​ก็​มี​กำลัง​มาก​ขึ้น.” (สุภาษิต 24:5, ล.ม.) ครอบครัว​จะ​มี​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​วิธี​รับมือ​ได้​อย่าง​ไร?

      ขั้น​แรก จะ​ต้อง​หา​แพทย์​ที่​สื่อ​ความ​และ​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​ได้​ดี ซึ่ง​เต็ม​ใจ​สละ​เวลา​อธิบาย​ทุก​เรื่อง​อย่าง​ถี่ถ้วน​แก่​ผู้​ป่วย​และ​ครอบครัว. หนังสือ​ลูก​ที่​ต่าง​จาก​คน​อื่น​ใน​ครอบครัว ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “แพทย์​ที่​ดี​พร้อม​จะ​คำนึง​ถึง​ทั้ง​ครอบครัว และ​มี​ทักษะ​ที่​จำเป็น​ทุก​อย่าง​ใน​การ​รักษา.”

      ขั้น​ต่อ​ไป ต้อง​หมั่น​ถาม​คำ​ถาม​ที่​เจาะจง​จน​กว่า​คุณ​จะ​เข้าใจ​สถานการณ์​เท่า​ที่​คุณ​สามารถ​ทำ​ได้. แต่​โปรด​จำ​ไว้​ว่า เมื่อ​อยู่​กับ​แพทย์ ง่าย​ที่​คุณ​จะ​ประหม่า​และ​ลืม​ว่า​ต้องการ​ถาม​อะไร. คำ​แนะ​นำ​อย่าง​หนึ่ง​ที่​นับ​ว่า​เป็น​ประโยชน์​ก็​คือ จด​คำ​ถาม​ไว้​ล่วง​หน้า. โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง คุณ​อาจ​อยาก​รู้​ว่า​มี​อะไร​บ้าง​ที่​คาด​ว่า​จะ​เป็น​ผล​จาก​การ​เจ็บ​ป่วย และ​การ​รักษา และ​จะ​ต้อง​ทำ​อะไร​ใน​เรื่อง​นี้.—โปรด​ดู​กรอบ “คำ​ถาม​ต่าง ๆ ที่​ครอบครัว​อาจ​ใช้​ถาม​แพทย์.”

      เป็น​สิ่ง​สำคัญ​อย่าง​ยิ่ง​ที่​จะ​ให้​ข้อมูล​พอ​เพียง​แก่​พี่ ๆ น้อง ๆ ของ​ลูก​ที่​ป่วย​เรื้อรัง. มารดา​คน​หนึ่ง​แนะ​นำ​ว่า “อธิบาย​ถึง​ปัญหา​ตั้ง​แต่​วัน​แรก ๆ. พวก​เขา​อาจ​รู้สึก​ได้​ง่าย ๆ ว่า​เป็น​ส่วน​เกิน​ของ​ครอบครัว ถ้า​เขา​ไม่​เข้าใจ​สิ่ง​ที่​กำลัง​เกิด​ขึ้น.”

      อนึ่ง บาง​ครอบครัว​สามารถ​หา​ข้อมูล​ที่​เป็น​ประโยชน์​ได้​โดย​การ​ค้นคว้า​ตาม​ห้อง​สมุด​ท้องถิ่น, ตาม​ร้าน​หนังสือ, หรือ​ทาง​อินเทอร์เน็ต—บ่อย​ครั้ง ได้​รับ​ข้อมูล​โดย​ละเอียด​เกี่ยว​กับ​โรค​นั้น ๆ.

      รักษา​คุณภาพ​ชีวิต​ตาม​ความ​เหมาะ​สม

      เป็น​เรื่อง​ธรรมดา​ที่​สมาชิก​ครอบครัว​ต้องการ​จะ​รักษา​คุณภาพ​ชีวิต​ตาม​ความ​เหมาะ​สม​ของ​ผู้​ป่วย. ขอ​ยก​เรื่อง​ของ​นีล ดู ทอยต์ ซึ่ง​เอ่ย​ถึง​ใน​บทความ​แรก​เป็น​ตัว​อย่าง. เขา​ยัง​คง​ข้องขัดใจ​เพราะ​ความ​อ่อน​เปลี้ย​เพลีย​แรง​อัน​เป็น​ผล​ของ​โรค. กระนั้น เขา​ใช้​เวลา​ประมาณ 70 ชั่วโมง​ต่อ​เดือน​ทำ​สิ่ง​ที่​เขา​ชอบ​มาก​ที่​สุด นั่น​คือ พูด​คุย​กับ​ผู้​คน​ใน​ชุมชน​ของ​เขา​เกี่ยว​กับ​ความ​หวัง​ที่​เขา​มี​ซึ่ง​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หลัก. เขา​บอก​ว่า “การ​ให้​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ประชาคม​ก็​ทำ​ให้​ผม​อิ่ม​ใจ​พอ​ใจ​ด้วย.”

      คุณภาพ​ชีวิต​ยัง​หมาย​รวม​ถึง​ความ​สามารถ​ที่​จะ​ให้​และ​รับ​ความ​รัก, ทำ​กิจกรรม​ที่​น่า​เพลิดเพลิน, และ​ธำรง​ไว้​ซึ่ง​ความ​หวัง. ผู้​ป่วย​ยัง​คง​ต้องการ​ชื่นชม​กับ​ชีวิต​ใน​ระดับ​ที่​การ​รักษา​และ​โรค​ของ​เขา​จะ​เปิด​ทาง​ให้​ได้. บิดา​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ครอบครัว​ของ​เขา​รับมือ​กับ​การ​เจ็บ​ป่วย​มา​นาน​กว่า 25 ปี บอก​ว่า “เรา​ชอบ​เที่ยว​ป่า​เที่ยว​เขา แต่​เนื่อง​จาก​ขีด​จำกัด​ของ​ลูก​ชาย เรา​จึง​ไม่​อาจ​ใช้​วิธี​เดิน​เท้า. ดัง​นั้น เรา​ได้​ทำ​การ​ปรับ​เปลี่ยน. เรา​ไป​ใน​ที่​ที่​ไม่​สมบุกสมบัน​มาก​นัก.”

      ใช่​แล้ว ผู้​ป่วย​ยัง​มี​ความ​สามารถ​ที่​จะ​ทำ​ให้​ตน​เอง​ได้​รับ​ความ​อิ่ม​ใจ​พอ​ใจ​จาก​ชีวิต​ใน​ระดับ​หนึ่ง. หลาย​คน​ยัง​สามารถ​ชื่นชม​ใน​ทัศนียภาพ​อัน​สวย​งาม​และ​เสียง​เพลง​ที่​ไพเราะ ทั้ง​นี้​ขึ้น​อยู่​กับ​ลักษณะ​ของ​โรค. ยิ่ง​พวก​เขา​รู้สึก​ว่า​สามารถ​ควบคุม​ชีวิต​ใน​ด้าน​ต่าง ๆ ได้​มาก​เท่า​ไร ก็​ยิ่ง​เป็น​ไป​ได้​มาก​ขึ้น​เท่า​นั้น​ที่​พวก​เขา​จะ​มี​คุณภาพ​ชีวิต​ตาม​ความ​เหมาะ​สม.

      การ​รับมือ​กับ​อารมณ์​ขมขื่น

      ส่วน​สำคัญ​ยิ่ง​อย่าง​หนึ่ง​ของ​การ​รับมือ​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​รู้​วิธี​ควบคุม​อารมณ์​ที่​ก่อ​ความ​เสียหาย. หนึ่ง​ใน​อารมณ์​เหล่า​นี้​คือ ความ​โกรธ. คัมภีร์​ไบเบิล​ยอม​รับ​ว่า​คน​เรา​อาจ​มี​เหตุ​ที่​ทำ​ให้​อารมณ์​เสีย​ได้. อย่าง​ไร​ก็​ดี คัมภีร์​ไบเบิล​กระตุ้น​เตือน​เรา​เช่น​กัน​ให้ “ช้า​ใน​การ​โกรธ.” (สุภาษิต 14:29, ล.ม.) เหตุ​ใด​การ​ทำ​เช่น​นี้​จึง​ฉลาด​สุขุม? หนังสือ​อ้างอิง​เล่ม​หนึ่ง​กล่าว​ว่า ความ​โกรธ “สามารถ​กัด​กร่อน​คุณ​และ​ทำ​ให้​คุณ​ขุ่นเคือง​ใจ​หรือ​พูด​ถ้อย​คำ​ที่​เจ็บ​ปวด​ซึ่ง​จะ​ทำ​ให้​คุณ​เสียใจ​ใน​ภาย​หลัง.” แม้​จะ​ระเบิด​โทโส​ครั้ง​เดียว​ก็​ก่อ​ความ​เสียหาย​ได้​ซึ่ง​อาจ​ใช้​เวลา​นาน​กว่า​จะ​แก้ไข​ให้​เหมือน​เดิม.

      คัมภีร์​ไบเบิล​แนะ​นำ​ว่า “อย่า​ให้​ตะวัน​ตก​โดย​ที่​ท่าน​ยัง​ขุ่นเคือง​อยู่.” (เอเฟโซ 4:26, ล.ม.) แน่นอน เรา​ไม่​อาจ​ทำ​อะไร​ได้​เพื่อ​ชะลอ​ตะวัน​ไม่​ให้​ตก. แต่​เรา​สามารถ​ทำ​ให้​ความ “ขุ่นเคือง” ของ​เรา​สงบ​ลง​อย่าง​รวด​เร็ว​ได้​เพื่อ​จะ​ไม่​ทำ​ให้​ตัว​เอง​และ​คน​อื่น​เสียหาย​ต่อ ๆ ไป. และ​คุณ​คง​จะ​รับมือ​กับ​สถานการณ์​ได้​ดี​ขึ้น​เมื่อ​อารมณ์​เย็น​ลง.

      เช่น​เดียว​กับ​ครอบครัว​อื่น ๆ อารมณ์​ของ​คุณ​จะ​ขึ้น ๆ ลง ๆ อย่าง​ไม่​ต้อง​สงสัย. หลาย​คน​พบ​ว่า​ตน​รับมือ​ได้​ดี​ขึ้น​เมื่อ​สามารถ​ระบาย​ความ​ใน​ใจ​ต่อ​กัน​หรือ​กับ​ใคร​สัก​คน​ที่​มี​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​และ​ร่วม​ความ​รู้สึก. แน่​ละ นี่​เป็น​ประสบการณ์​ของ​แคทลีน. ตอน​แรก​เธอ​ดู​แล​คุณ​แม่​ที่​ป่วย​เป็น​มะเร็ง ต่อ​มา​ก็​ดู​แล​สามี​ซึ่ง​เป็น​โรค​ซึมเศร้า​เรื้อรัง​และ​ใน​ที่​สุด​เป็น​โรค​อัลไซเมอร์. เธอ​ยอม​รับ​ว่า “ดิฉัน​รู้สึก​ผ่อน​คลาย​และ​สบาย​ใจ​เมื่อ​ได้​พูด​คุย​กับ​เพื่อน​ที่​เห็น​อก​เห็น​ใจ.” โรสแมรี ซึ่ง​ดู​แล​คุณ​แม่​เป็น​เวลา​สอง​ปี​เห็น​พ้อง​ด้วย. เธอ​บอก​ว่า “การ​พูด​คุย​กับ​เพื่อน​ที่​จริง​ใจ​ช่วย​ให้​จิตใจ​ของ​ดิฉัน​หนักแน่น​มั่นคง​อยู่​เสมอ.”

      แต่​ไม่​ต้อง​แปลก​ใจ​ถ้า​คุณ​กลั้น​น้ำตา​ไว้​ไม่​อยู่​ขณะ​พูด​ออก​มา. หนังสือ​ลูก​ที่​ต่าง​จาก​คน​อื่น​ใน​ครอบครัวa กล่าว​ว่า “การ​ร้องไห้​ช่วย​ระบาย​ความ​ตึงเครียด​และ​ความ​เจ็บ​ปวด ซึ่ง​ทำ​ให้​คุณ​ผ่าน​พ้น​ช่วง​โศก​เศร้า​ได้.”

      คง​ไว้​ซึ่ง​เจตคติ​ใน​แง่​บวก

      กษัตริย์​ซะโลโม​ผู้​ชาญ​ฉลาด​เขียน​ไว้​ว่า “ความ​ปรารถนา​ของ​เจ้า​ที่​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​สามารถ​ค้ำจุน​เจ้า​เมื่อ​เจ้า​เจ็บ​ป่วย.” (สุภาษิต 18:14, ฉบับ​แปล​ทูเดส์ อิงลิช) นัก​วิจัย​สมัย​ปัจจุบัน​ได้​สังเกต​ว่า ความ​คาด​หมาย​ของ​ผู้​ป่วย—ไม่​ว่า​จะ​ใน​แง่​ลบ​หรือ​แง่​บวก—มัก​จะ​กระทบ​ไป​ถึง​ผล​ของ​การ​รักษา. แต่​ครอบครัว​จะ​รักษา​ไว้​ซึ่ง​ทัศนะ​ใน​แง่​บวก​ได้​อย่าง​ไร​เมื่อ​เผชิญ​กับ​การ​เจ็บ​ป่วย​ระยะ​ยาว?

      ขณะ​ที่​ไม่​ได้​เพิกเฉย​ต่อ​การ​เจ็บ​ป่วย แต่​ครอบครัว​จะ​รับมือ​ได้​ดี​ขึ้น​ถ้า​พวก​เขา​เพ่งเล็ง​อยู่​กับ​สิ่ง​ที่​ยัง​สามารถ​ทำ​ได้. บิดา​คน​หนึ่ง​ยอม​รับ​ว่า “สถานการณ์​อาจ​ทำ​ให้​คุณ​คิด​ใน​แง่​ลบ​อย่าง​สิ้นเชิง แต่​คุณ​ต้อง​ตระหนัก​ว่า​คุณ​ยัง​มี​อะไร ๆ อีก​มาก​มาย. คุณ​ยัง​มี​ชีวิต, ยัง​มี​สมาชิก​คน​อื่น​ใน​ครอบครัว, และ​ยัง​มี​เพื่อน ๆ.”

      แม้​ไม่​ควร​ถือ​ว่า​การ​ป่วย​เรื้อรัง​เป็น​เรื่อง​เล็ก​น้อย แต่​อารมณ์​ขัน​ใน​แบบ​ที่​ดี​งาม​ก็​ช่วย​ป้องกัน​ความ​คิด​ใน​แง่​ลบ​ได้. อารมณ์​ขัน​ที่​เกิด​ได้​ง่าย​ของ​ครอบครัว​ดู ทอยต์​เป็น​ตัว​อย่าง​ใน​เรื่อง​นี้. คอลเล็ตต์ น้อง​สาว​คน​เล็ก​ของ​นีล ดู ทอยต์ บอก​ว่า “เนื่อง​จาก​เรา​ได้​เรียน​รู้​ที่​จะ​รับมือ​กับ​สถานการณ์​บาง​อย่าง เรา​จึง​หัวเราะ​กับ​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​ได้ ซึ่ง​สำหรับ​คน​อื่น​แล้ว​อาจ​ดู​น่า​โมโห​มาก. แต่​การ​ทำ​เช่น​นี้​ช่วย​ผ่อน​คลาย​ความ​ตึงเครียด​ได้​จริง ๆ.” คัมภีร์​ไบเบิล​ยืน​ยัน​กับ​เรา​ว่า “ใจ​ที่​ร่าเริง​เป็น​เหมือน​โอสถ​วิเศษ.”—สุภาษิต 17:22.

      ค่า​นิยม​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​สำคัญ​เหนือ​อื่น​ใด

      ส่วน​ที่​สำคัญ​ยิ่ง​อย่าง​หนึ่ง​ของ​สวัสดิภาพ​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​สำหรับ​คริสเตียน​แท้​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ “ทูล​ขอ​ต่อ​พระเจ้า​โดย​การ​อธิษฐาน​และ​การ​วิงวอน.” ผล​จะ​เป็น​ตาม​ที่​มี​สัญญา​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​คือ “สันติ​สุข​แห่ง​พระเจ้า​ที่​เหนือ​กว่า​ความ​คิด​ทุก​อย่าง​จะ​ป้องกัน​รักษา​หัวใจ​และ​ความ​สามารถ​ใน​การ​คิด​ของ​ท่าน.” (ฟิลิปปอย 4:6, 7, ล.ม.) หลัง​จาก​ดู​แล​ลูก​สอง​คน​ที่​ป่วย​เรื้อรัง​มา​เป็น​เวลา​เกือบ 30 ปี มารดา​คน​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “เรา​ได้​เรียน​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ช่วย​เรา​ให้​รับมือ. พระองค์​ค้ำจุน​เรา​จริง ๆ.”

      นอก​จาก​นี้ หลาย​คน​ได้​รับ​การ​เสริม​กำลัง​ด้วย​คำ​สัญญา​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​เรื่อง​แผ่นดิน​โลก​ที่​เป็น​อุทยาน​ซึ่ง​ปลอด​จาก​ความ​เจ็บ​ปวด​และ​ความ​ทุกข์. (วิวรณ์ 21:3, 4) บราม​บอก​ว่า “เนื่อง​จาก​การ​ป่วย​เรื้อรัง​ที่​ครอบครัว​ของ​เรา​เผชิญ เรา​จึง​รู้สึก​ว่า​คำ​สัญญา​ของ​พระเจ้า​มี​ความหมาย​มาก​ขึ้น​ที่​ว่า ‘คน​ง่อย​จะ​ปีน​ป่าย​เหมือน​กวาง​ตัว​ผู้ และ​ลิ้น​ของ​คน​ใบ้​จะ​ร้อง​ด้วย​ความ​ปีติ.’ ” เช่น​เดียว​กับ​คน​อื่น ๆ อีก​มาก​มาย ครอบครัว​ดูทอยต์​คอย​ท่า​ด้วย​ความ​กระหาย​ที่​จะ​ได้​อยู่​ใน​อุทยาน​คราว​เมื่อ “ไม่​มี​ใคร​ที่​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น​พูด​ว่า, ‘ข้าพเจ้า​ป่วย​อยู่.’ ”—ยะซายา 33:24; 35:6, ล.ม.

      จง​มี​กำลังใจ​ขึ้น. ความ​เจ็บ​ปวด​และ​ความ​ทุกข์​ที่​โถม​ทับ​มนุษยชาติ​อยู่​นี้​ใน​ตัว​มัน​เอง​แล้ว​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​หลักฐาน​ที่​ว่า​สภาพ​ที่​ดี​กว่า​ใกล้​จะ​ถึง​อยู่​แล้ว. (ลูกา 21:7, 10, 11) แต่​ใน​ระหว่าง​นี้ ผู้​ปรนนิบัติ​ดู​แล​และ​ผู้​ป่วย​ที่​มี​อยู่​จำนวน​มาก​ก็​เป็น​พยาน​หลักฐาน​ได้​ว่า จริง ๆ แล้ว​พระ​ยะโฮวา​ทรง​เป็น “พระ​บิดา​แห่ง​ความ​เมตตา​อัน​อ่อน​ละมุน​และ​พระเจ้า​แห่ง​การ​ปลอบโยน​ทุก​อย่าง . . . ผู้​ทรง​ปลอบโยน​เรา​ใน​ความ​ทุกข์​ยาก​ทั้ง​สิ้น​ของ​เรา.”—2 โกรินโธ 1:3, 4, ล.ม.

      [เชิงอรรถ]

      a เพื่อ​ได้​ข้อมูล​ที่​ละเอียด​มาก​ขึ้น​เกี่ยว​ด้วย​วิธี​รับมือ​กับ​ผล​กระทบ​ทาง​อารมณ์​จาก​การ​เจ็บ​ป่วย โปรด​ดู​บทความ “งาน​ปรนนิบัติ​ดู​แล—วิธี​รับมือ​กับ​ข้อ​ท้าทาย” ใน​ตื่นเถิด! ฉบับ 8 กุมภาพันธ์ 1997 หน้า 3-13.

      [กรอบ​หน้า 8]

      คำ​ถาม​ต่าง ๆ ที่​ครอบครัว​อาจ​ใช้​ถาม​แพทย์

      • โรค​นี้​จะ​ลุก​ลาม​อย่าง​ไร และ​ผล​จะ​เป็น​เช่น​ไร?

      • มี​อาการ​อะไร​บ้าง และ​จะ​ควบคุม​อย่าง​ไร?

      • มี​วิธี​อะไร​ให้​เลือก​บ้าง​สำหรับ​การ​รักษา?

      • อาจ​มี​ผล​ข้าง​เคียง, ความ​เสี่ยง, และ​ประโยชน์​อะไร​บ้าง​ใน​แต่​ละ​วิธี?

      • อาจ​ทำ​อะไร​ได้​เพื่อ​ให้​สถานการณ์​ดี​ขึ้น และ​ควร​หลีก​เลี่ยง​อะไร?

      [กรอบ​หน้า 11]

      วิธี​ที่​คุณ​อาจ​ให้​การ​เกื้อ​หนุน​ได้

      บาง​คน​อาจ​เลิก​มา​เยี่ยม​หรือ​เลิก​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​เนื่อง​จาก​พวก​เขา​ไม่​รู้​ว่า​จะ​พูด​อะไร​หรือ​จะ​รับมือ​กับ​สถานการณ์​อย่าง​ไร. บาง​คน​ก็​ค่อนข้าง​จะ​เป็น​คน​เจ้า​กี้​เจ้า​การ และ​อาจ​เพิ่ม​ความ​กดดัน​ให้​กับ​ครอบครัว​นั้น ๆ โดย​ยัดเยียด​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​คิด​ว่า​เป็น​ประโยชน์. แล้ว​เรา​จะ​ให้​การ​เกื้อ​หนุน​ผู้​ที่​มี​สมาชิก​ครอบครัว​ป่วย​เรื้อรัง​ได้​อย่าง​ไร​โดย​ไม่​เข้า​ไป​ก้าวก่าย​ความ​เป็น​ส่วน​ตัว​ของ​เขา?

      ฟัง​ด้วย​ความ​ร่วม​รู้สึก. ยาโกโบ 1:19 (ล.ม.) บอก​ว่า “ต้อง​ไว​ใน​การ​ฟัง.” จง​แสดง​ความ​ห่วงใย​โดย​เป็น​ผู้​ฟัง​ที่​ดี​และ​เปิด​โอกาส​ให้​สมาชิก​ครอบครัว​นั้น​เผย​ความ​ใน​ใจ​ออก​มา​หาก​พวก​เขา ต้องการ​พูด. เขา​อาจ​อยาก​ทำ​เช่น​นั้น​มาก​ขึ้น​ถ้า​เขา​รู้สึก​ว่า​คุณ​มี “ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ.” (1 เปโตร 3:8, ล.ม.) กระนั้น โปรด​จำ​ไว้​ว่า ไม่​มี​ใคร​หรือ​ครอบครัว​ใด​จะ​แสดง​ปฏิกิริยา​ตอบ​สนอง​ต่อ​การ​ป่วย​เรื้อรัง​ใน​แบบ​เดียว​กัน. ฉะนั้น แคทลีน​ซึ่ง​ดู​แล​คุณ​แม่​และ​ต่อ​มา​ก็​ดู​แล​สามี​ที่​ป่วย​เรื้อรัง จึง​บอก​ว่า “อย่า​เพิ่ง​ให้​คำ​แนะ​นำ​เว้น​แต่​คุณ​จะ​รู้​ราย​ละเอียด​ทั้ง​หมด​จริง ๆ เกี่ยว​กับ​โรค​หรือ​สถานการณ์​นั้น.” (สุภาษิต 10:19) และ​จำ​ไว้​ว่า แม้​คุณ​จะ​มี​ความ​รู้​บาง​อย่าง​เกี่ยว​กับ​โรค​นั้น แต่​ผู้​ป่วย​และ​ครอบครัว​ของ​เขา​ก็​อาจ​ตัดสิน​ใจ​ที่​จะ​ปฏิเสธ​หรือ​ไม่​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ของ​คุณ​ได้.

      ให้​ความ​ช่วยเหลือ​ที่​ใช้​ได้​ผล. ขณะ​ที่​ไว​ต่อ​ความ​ต้องการ​เรื่อง​ความ​เป็น​ส่วน​ตัว​ของ​ครอบครัว​นั้น แต่​ก็​จง​อยู่​พร้อม​เมื่อ​พวก​เขา​ต้องการ​คุณ​จริง ๆ. (1 โกรินโธ 10:24) บราม ซึ่ง​อ้าง​ถึง​ตลอด​บทความ​ชุด​นี้ กล่าว​ว่า “เพื่อน​คริสเตียน​ของ​เรา​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​มาก​มาย​เหลือ​เกิน. อย่าง​เช่น เมื่อ​เรา​เฝ้า​ไข้​ที่​โรง​พยาบาล​เนื่อง​จาก​อาการ​ของ​มิเชลล์​อยู่​ใน​ขั้น​วิกฤติ เรา​มัก​จะ​มี​เพื่อน​ราว ๆ ห้า​หก​คน​นั่ง​อยู่​กับ​เรา​ตลอด​ทั้ง​คืน. เมื่อ​ไร​ก็​ตาม​ที่​เรา​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ เรา​จะ​ได้​รับ​ทันที.” แอนน์ ภรรยา​ขอ​งบ​ราม เสริม​ว่า “ตอน​นั้น​เป็น​ฤดู​หนาว​ที่​เย็น​ยะเยือก และ​พวก​เขา​นำ​ซุป​ที่​ไม่​ซ้ำ​กัน​มา​ให้​เรา​ทุก​วัน​ตลอด​สอง​สัปดาห์. เรา​ได้​รับ​การ​บำรุง​กำลัง​ด้วย​ซุป​ร้อน ๆ และ​ความ​รัก​อัน​อบอุ่น​เหลือ​ล้น.”

      อธิษฐาน​กับ​พวก​เขา. บาง​ครั้ง สิ่ง​ที่​คุณ​ช่วย​ได้​นั้น​อาจ​มี​ไม่​มาก​หรือ​ไม่​มี​เลย. อย่าง​ไร​ก็​ตาม แทบ​ไม่​มี​อะไร​ที่​หนุน​กำลังใจ​ได้​ดี​เท่า​กับ​การ​ให้​แง่​คิด​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์​ที่​เสริม​สร้าง​หรือ​การ​อธิษฐาน​ด้วย​น้ำ​ใส​ใจ​จริง​กับ​ผู้​ป่วย​และ​ครอบครัว​ของ​เขา. (ยาโกโบ 5:16) นิโคลัส วัย 18 ปี ซึ่ง​มารดา​ป่วย​เป็น​โรค​ซึมเศร้า​เรื้อรัง บอก​ว่า “อย่า​ดู​เบา​พลัง​ของ​คำ​อธิษฐาน​เพื่อ—และ​กับ—ผู้​ป่วย​เรื้อรัง​และ​ครอบครัว​ของ​เขา.”

      ถูก​แล้ว การ​เกื้อ​หนุน​แบบ​ที่​ถูก​ต้อง​สามารถ​ช่วย​ครอบครัว​ต่าง ๆ ได้​มาก​ให้​รับมือ​กับ​ความ​เครียด​จาก​การ​ป่วย​เรื้อรัง. คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​อย่าง​นี้: “มิตร​สหาย​คือ​เพื่อน​ที่​รัก​กัน​ตลอด​เวลา และ​พี่​น้อง​ก็​เกิด​มา​เพื่อ​แบ่ง​เบา​ความ​ทุกข์​ยาก.”—สุภาษิต 17:17, ฉบับ​แปล เดอะ นิว อิงลิช ไบเบิล.

      [กรอบ/ภาพ​หน้า 12]

      เมื่อ​เป็น​โรค​ที่​ต้อง​เสีย​ชีวิต​ใน​ที่​สุด

      บาง​ครอบครัว​อาจ​กระอักกระอ่วน​ใจ​ที่​จะ​พูด​คุย​เรื่อง​ความ​ตาย​ที่​คืบ​ใกล้​เข้า​มา​ของ​ผู้​เป็น​ที่​รัก​ซึ่ง​ป่วย​ด้วย​โรค​ที่​ต้อง​เสีย​ชีวิต​ใน​ที่​สุด. อย่าง​ไร​ก็​ตาม หนังสือ​การ​ปรนนิบัติ​ดู​แล—วิธี​รับมือ (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า “ถ้า​คุณ​คิด​ล่วง​หน้า​ถึง​สิ่ง​ที่​คาด​ว่า​จะ​เกิด​ขึ้น​และ​สิ่ง​ที่​ควร​จะ​ทำ อาจ​ช่วย​ลด​อาการ​ตกใจ​กลัว​จน​ทำ​อะไร​ไม่​ถูก.” แม้​ขั้น​ตอน​บาง​อย่าง​จะ​แตกต่าง​กัน​ไป​ตาม​กฎหมาย​และ​ธรรมเนียม​ท้องถิ่น แต่​ครอบครัว​ผู้​ป่วย​อาจ​คำนึง​ถึง​คำ​แนะ​นำ​ต่อ​ไป​นี้​เมื่อ​พยาบาล​ผู้​เป็น​ที่​รัก​ที่​บ้าน​ซึ่ง​ป่วย​ด้วย​โรค​ที่​ต้อง​เสีย​ชีวิต​ใน​ที่​สุด.

      ก่อน​การ​เสีย​ชีวิต

      1. ถาม​แพทย์​ถึง​สิ่ง​ที่​คาด​ว่า​จะ​เกิด​ขึ้น​ใน​วัน​และ​ชั่วโมง​ท้าย ๆ และ​จะ​ต้อง​ทำ​อะไร​บ้าง​หาก​ผู้​ป่วย​เสีย​ชีวิต​ตอน​กลางคืน.

      2. ทำ​ราย​ชื่อ​ผู้​ที่​จะ​ต้อง​แจ้ง​ให้​ทราบ​เรื่อง​การ​เสีย​ชีวิต.

      3. พิจารณา​วิธี​จัด​งาน​ศพ:

      • ผู้​ป่วย​ประสงค์​อย่าง​ไร?

      • ฝัง​หรือ​เผา? เปรียบ​เทียบ​ค่า​ใช้​จ่าย​และ​การ​ให้​บริการ​ของ​ที่​ต่าง ๆ ที่​รับ​จัด​งาน​ศพ.

      • ควร​จัด​งาน​ศพ​เมื่อ​ไร? เผื่อ​เวลา​สำหรับ​การ​เดิน​ทาง​ของ​บรรดา​ญาติ​พี่​น้อง​หรือ​มิตร​สหาย​ที่​อยู่​ไกล ๆ.

      • ใคร​จะ​เป็น​ผู้​บรรยาย​ใน​งาน​ศพ?

      • จะ​จัด​ที่​ไหน?

      4. แม้​ผู้​ป่วย​จะ​ไม่​ไหว​ติง แต่​เขา​อาจ​ยัง​คง​รับ​รู้​ว่า​คน​รอบ​ข้าง​กำลัง​พูด​หรือ​ทำ​อะไร​กัน. จง​ระวัง​ที่​จะ​ไม่​พูด​อะไร​ต่อ​หน้า​เขา​ซึ่ง​คุณ​ไม่​อยาก​ให้​เขา​ได้​ยิน. คุณ​อาจ​ทำ​ให้​เขา​อุ่น​ใจ​ได้​โดย​คุย​กับ​เขา​เบา ๆ และ​กุม​มือ​เขา​ไว้.

      เมื่อ​ผู้​เป็น​ที่​รัก​เสีย​ชีวิต

      ต่อ​ไป​นี้​เป็น​สิ่ง​ที่​ผู้​อื่น​อาจ​ทำ​ได้​เพื่อ​ช่วย​ครอบครัว​ผู้​สูญ​เสีย:

      1. ให้​สมาชิก​ครอบครัว​มี​เวลา​พอ​สำหรับ​การ​อยู่​ตาม​ลำพัง​กับ​ผู้​ที่​จาก​ไป​เพื่อ​พวก​เขา​จะ​เริ่ม​ปรับ​ตัว​กับ​การ​เสีย​ชีวิต​นั้น​ได้.

      2. อธิษฐาน​กับ​ครอบครัว​ผู้​เสีย​ชีวิต.

      3. เมื่อ​ครอบครัว​นั้น​ตั้ง​สติ​ได้​แล้ว พวก​เขา​อาจ​หยั่ง​รู้​ค่า​ความ​ช่วยเหลือ​เรื่อง​การ​ดำเนิน​การ​ต่อ​ไป​นี้:

      • แจ้ง​แพทย์​หรือ​ที่ว่าการ​อำเภอ​เพื่อ​รับรอง​การ​เสีย​ชีวิต​และ​ออก​ใบ​มรณบัตร.

      • แจ้ง​ผู้​รับ​จัด​งาน​ศพ, วัด, หรือ​ฌาปนกิจ​สถาน​ให้​มา​รับ​ศพ.

      • แจ้ง​ข่าว​แก่​ญาติ​และ​เพื่อน ๆ. (คุณ​อาจ​พูด​อย่าง​ผ่อน​หนัก​ผ่อน​เบา​ทำนอง​นี้: “ผม​โทรศัพท์​มา​ส่ง​ข่าว​เรื่อง [ชื่อ​ผู้​ป่วย]. ผม​เสียใจ​ด้วย​ที่​ต้อง​บอก​ว่า​มี​ข่าว​ร้าย. ตาม​ที่​คุณ​คง​ทราบ​ดี เขา​ต่อ​สู้​กับ [ชื่อ​โรค] มา​ระยะ​หนึ่ง และ​ตอน​นี้​เขา​เสีย​ชีวิต​แล้ว [บอก​วัน​เวลา​และ​สถาน​ที่].)

      • แจ้ง​หนังสือ​พิมพ์​เพื่อ​ลง​ข่าว​มรณกรรม​หาก​ต้องการ.

      4. ครอบครัว​นั้น​อาจ​อยาก​ให้​ใคร​สัก​คน​อยู่​กับ​เขา​เพื่อ​ช่วย​เตรียม​การ​ขั้น​สุด​ท้าย​สำหรับ​การ​จัด​งาน​ศพ.

      [ภาพ​หน้า 9]

      สมาชิก​ครอบครัว​ควร​พยายาม​สุด​ความ​สามารถ​เพื่อ​คง​ไว้​ซึ่ง​คุณภาพ​ชีวิต​ตาม​ความ​เหมาะ​สม

      [ภาพ​หน้า 10]

      การ​อธิษฐาน​กับ​ครอบครัว​อาจ​ช่วย​พวก​เขา​ให้​รับมือ​ได้

หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
ออกจากระบบ
เข้าสู่ระบบ
  • ไทย
  • แชร์
  • การตั้งค่า
  • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
  • เงื่อนไขการใช้งาน
  • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
  • JW.ORG
  • เข้าสู่ระบบ
แชร์