ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • การ​เตรียม​คำ​บรรยาย​สาธารณะ
    การรับประโยชน์จากโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้า
    • การ​เตรียม​คำ​บรรยาย​สาธารณะ

      แต่​ละ​สัปดาห์ ประชาคม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ส่วน​ใหญ่​จัด​ให้​มี​คำ​บรรยาย​สาธารณะ​ที่​มี​เนื้อหา​เกี่ยว​กับ​พระ​คัมภีร์. หาก​คุณ​เป็น​ผู้​ปกครอง​หรือ​ผู้​ช่วย​งาน​รับใช้ คุณ​ให้​หลักฐาน​ไหม​ว่า​คุณ​เป็น​ผู้​บรรยาย​สาธารณะ​และ​เป็น​ผู้​สอน​ที่​มี​ประสิทธิภาพ? ถ้า​ใช่ คุณ​อาจ​ได้​รับ​เชิญ​ให้​บรรยาย​สาธารณะ. โรง​เรียน​การ​รับใช้​ตาม​ระบอบ​ของ​พระเจ้า​ช่วย​พี่​น้อง​ชาย​หลาย​แสน​คน​ให้​มี​คุณวุฒิ​สำหรับ​สิทธิ​พิเศษ​แห่ง​งาน​รับใช้​นี้. เมื่อ​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​บรรยาย​สาธารณะ คุณ​ควร​เริ่ม​จาก​ตรง​ไหน?

      จง​ศึกษา​โครง​เรื่อง

      ก่อน​จะ​ทำ​การ​ค้นคว้า​ใด ๆ จง​อ่าน​โครง​เรื่อง​และ​ไตร่ตรอง​เรื่อง​นั้น​จน​กว่า​คุณ​จะ​เข้าใจ​ความ​หมาย​ของ​เรื่อง. จด​จำ​อรรถบท​ไว้ ซึ่ง​ก็​คือ​หัว​เรื่อง​ของ​คำ​บรรยาย​นั่น​เอง. คุณ​จะ​สอน​อะไร​แก่​ผู้​ฟัง? เป้าหมาย​ของ​คุณ​คือ​อะไร?

      จง​ทำ​ความ​คุ้น​เคย​กับ​หัวข้อ​หลัก​ต่าง ๆ. จง​วิเคราะห์​จุด​สำคัญ​เหล่า​นั้น. แต่​ละ​จุด​เชื่อม​โยง​เข้า​กับ​อรรถบท​อย่าง​ไร? ภาย​ใต้​จุด​สำคัญ​แต่​ละ​จุด​ก็​จะ​มี​จุด​ย่อย​ต่าง ๆ. ใต้​จุด​ย่อย​เหล่า​นี้​ก็​จะ​มี​จุด​ที่​สนับสนุน​จุด​ย่อย​นั้น ๆ. จง​พิจารณา​ว่า​แต่​ละ​ส่วน​ของ​โครง​เรื่อง​ดำเนิน​เรื่อง​ต่อ​จาก​จุด​ก่อน, นำ​ไป​สู่​จุด​ถัด​ไป, และ​ช่วย​ให้​บรรลุ​เป้าหมาย​ของ​คำ​บรรยาย​อย่าง​ไร. เมื่อ​คุณ​เข้าใจ​อรรถบท, เป้าหมาย​ของ​คำ​บรรยาย, และ​วิธี​ที่​จุด​สำคัญ​ต่าง ๆ ทำ​ให้​เป้าหมาย​นั้น​บรรลุ​ผล​แล้ว คุณ​ก็​พร้อม​จะ​เริ่ม​เตรียม​คำ​บรรยาย.

      ที​แรก คุณ​อาจ​พบ​ว่า​เป็น​ประโยชน์​ที่​จะ​คิด​ว่า​คำ​บรรยาย​ของ​คุณ​เป็น​คำ​บรรยาย​สั้น ๆ สี่​หรือ​ห้า​เรื่อง แต่​ละ​เรื่อง​มี​จุด​สำคัญ​หนึ่ง​จุด. จง​เตรียม​คำ​บรรยาย​สั้น ๆ เหล่า​นั้น​ที​ละ​เรื่อง.

      โครง​เรื่อง​ที่​จัด​เตรียม​ไว้​ให้​เป็น​เครื่อง​ช่วย​ใน​การ​เตรียม. โครง​เรื่อง​จึง​ไม่​ใช่​บันทึก​ที่​คุณ​จะ​ใช้​พูด​ใน​การ​บรรยาย. โครง​เรื่อง​ก็​เป็น​เหมือน​โครง​กระดูก. คุณ​จะ​ต้อง​เติม​เนื้อ​เติม​หนัง, ใส่​หัวใจ​และ​ให้​ลม​หายใจ​เข้า​ไป.

      การ​ใช้​พระ​คัมภีร์

      พระ​เยซู​คริสต์​และ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ใช้​พระ​คัมภีร์​เป็น​พื้น​ฐาน​ใน​การ​สอน. (ลูกา 4:16-21; 24:27; กิจ. 17:2, 3) คุณ​สามารถ​ทำ​เช่น​เดียว​กัน​ได้. พระ​คัมภีร์​ควร​เป็น​พื้น​ฐาน​ใน​คำ​บรรยาย​ของ​คุณ. แทน​ที่​จะ​เพียง​แต่​อธิบาย​และ​ใช้​ข้อ​ความ​ที่​อยู่​ใน​โครง​เรื่อง​นั้น จง​สังเกต​ว่า​ข้อ​คัมภีร์​ต่าง ๆ สนับสนุน​ข้อ​ความ​เหล่า​นั้น​อย่าง​ไร และ​จาก​นั้น​จึง​สอน​โดย​ใช้​พระ​คัมภีร์.

      ขณะ​ที่​คุณ​เตรียม​คำ​บรรยาย จง​ตรวจ​ดู​ข้อ​คัมภีร์​แต่​ละ​ข้อ​ที่​อยู่​ใน​โครง​เรื่อง. จง​สังเกต​บริบท​ของ​ข้อ​คัมภีร์​นั้น. ข้อ​คัมภีร์​บาง​ข้อ​อาจ​ให้​แค่​ข้อมูล​ภูมิ​หลัง​ที่​เป็น​ประโยชน์. ไม่​จำเป็น​ต้อง​อ่าน​หรือ​อ้าง​ข้อ​คัมภีร์​ทุก​ข้อ​ใน​ระหว่าง​ที่​บรรยาย. จง​เลือก​ข้อ​ที่​ดี​ที่​สุด​สำหรับ​ผู้​ฟัง. หาก​คุณ​มุ่ง​สนใจ​ไป​ยัง​ข้อ​คัมภีร์​ต่าง ๆ ที่​อยู่​ใน​โครง​เรื่อง คุณ​อาจ​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ใช้​ข้อ​คัมภีร์​อื่น ๆ เพื่อ​อ้างอิง​เพิ่ม​เติม.

      การ​ที่​คำ​บรรยาย​ของ​คุณ​จะ​บังเกิด​ผล​นั้น​ไม่​ได้​ขึ้น​อยู่​กับ​จำนวน​ข้อ​คัมภีร์​ที่​ใช้ แต่​ขึ้น​อยู่​กับ​คุณภาพ​ของ​การ​สอน. เมื่อ​ยก​ข้อ​คัมภีร์​ขึ้น​มา จง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ทำไม​จึง​ใช้​ข้อ​นั้น. จง​ใช้​เวลา​เพื่อ​อธิบาย​ข้อ​คัมภีร์​นั้น. หลัง​จาก​อ่าน​ข้อ​คัมภีร์ จง​เปิด​พระ​คัมภีร์​ค้าง​ไว้​ขณะ​ที่​อธิบาย​ข้อ​นั้น. ผู้​ฟัง​ก็​คง​จะ​ทำ​เช่น​เดียว​กัน. คุณ​จะ​เร้า​ความ​สนใจ​ของ​ผู้​ฟัง​และ​ช่วย​เขา​ให้​ได้​รับ​ประโยชน์​อย่าง​เต็ม​ที่​ยิ่ง​ขึ้น​จาก​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ได้​อย่าง​ไร? (นเฮม. 8:8, 12) คุณ​ทำ​ได้​โดย​การ​อธิบาย, การ​ใช้​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ, และ​แนะ​วิธี​นำ​ความ​รู้​นั้น​ไป​ใช้.

      การ​อธิบาย. เมื่อ​เตรียม​จะ​อธิบาย​ข้อ​คัมภีร์​หลัก จง​ถาม​ตัว​เอง​ดัง​นี้: ‘ข้อ​คัมภีร์​นี้​มี​ความ​หมาย​อย่าง​ไร? เหตุ​ใด​ผม​จึง​ใช้​ข้อ​นี้​ใน​คำ​บรรยาย? ผู้​ฟัง​อาจ​ถาม​ตัว​เอง​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​ข้อ​คัมภีร์​นี้?’ คุณ​อาจ​ต้อง​วิเคราะห์​บริบท, ภูมิ​หลัง, ฉาก​เหตุ​การณ์, พลัง​ที่​ดึงดูด​ใจ​ของ​ถ้อย​คำ​ต่าง ๆ, รวม​ทั้ง​จุด​ประสงค์​ของ​ผู้​เขียน​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ. เพื่อ​จะ​ทำ​เช่น​นั้น คุณ​ต้อง​ค้นคว้า. คุณ​จะ​พบ​ข้อมูล​ที่​เป็น​ประโยชน์​มาก​มาย​จาก​สิ่ง​พิมพ์​ต่าง ๆ ที่​จัด​เตรียม​โดย “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม.” (มัด. 24:45-47, ล.ม.) อย่า​พยายาม​อธิบาย​ทุก​แง่​ของ​ข้อ​คัมภีร์​นั้น แต่​จง​อธิบาย​ถึง​เหตุ​ผล​ที่​คุณ​ให้​ผู้​ฟัง​อ่าน​ข้อ​นั้น​ซึ่ง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​จุด​ที่​มี​การ​พิจารณา.

      การ​ใช้​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ. จุด​ประสงค์​ของ​การ​ใช้​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​คือ เพื่อ​ช่วย​ผู้​ฟัง​ให้​เข้าใจ​ลึกซึ้ง​ยิ่ง​ขึ้น​หรือ​ช่วย​พวก​เขา​ให้​จำ​จุด​สำคัญ​หรือ​หลักการ​ที่​คุณ​ได้​พิจารณา. การ​ใช้​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​ช่วย​ผู้​คน​ให้​เข้าใจ​เรื่อง​ที่​คุณ​บอก​เขา​และ​เชื่อม​โยง​เรื่อง​นั้น​เข้า​กับ​บาง​สิ่ง​ที่​เขา​รู้​อยู่​แล้ว. พระ​เยซู​ทรง​ทำ​เช่น​นี้​เมื่อ​พระองค์​ให้​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา​อัน​ลือ​ชื่อ. “ฝูง​นก​ใน​อากาศ,” “ดอกไม้​ที่​ทุ่ง​นา,” “ประตู​คับแคบ,” ‘เรือน​บน​ศิลา,’ และ​อีก​หลาย​ถ้อย​คำ​ทำนอง​นี้​ที่​ทำ​ให้​การ​สอน​ของ​พระองค์​มี​พลัง, ชัดเจน, และ​ยาก​จะ​ลืม​เลือน.—มัด. บท 5-7.

      วิธี​นำ​ความ​รู้​ไป​ใช้. การ​อธิบาย​ข้อ​คัมภีร์​และ​การ​ใช้​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​เป็น​การ​ให้​ความ​รู้ แต่​การ​นำ​ความ​รู้​นั้น​ไป​ใช้​ต่าง​หาก​ที่​ทำ​ให้​เกิด​ประโยชน์. จริง​อยู่ เป็น​หน้าที่​ของ​ผู้​ฟัง​ที่​จะ​ปฏิบัติ​ตาม​ความ​รู้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล แต่​คุณ​สามารถ​ช่วย​พวก​เขา​ให้​เห็น​ว่า​อะไร​เป็น​สิ่ง​ที่​ต้อง​ทำ. เมื่อ​คุณ​แน่​ใจ​แล้ว​ว่า​ผู้​ฟัง​เข้าใจ​ข้อ​คัมภีร์​ที่​มี​การ​พิจารณา และ​เขา​เห็น​ความ​เกี่ยว​ข้อง​กัน​ของ​ข้อ​คัมภีร์​กับ​จุด​สำคัญ​ที่​ยก​ขึ้น​มา จง​ใช้​เวลา​เพื่อ​แสดง​ให้​พวก​เขา​เห็น​ว่า​เรื่อง​นั้น​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​ความ​เชื่อ​และ​ความ​ประพฤติ. จง​เน้น​ประโยชน์​ของ​การ​ละ​ทิ้ง​ความ​คิด​ผิด ๆ หรือ​ความ​ประพฤติ​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง​ซึ่ง​ไม่​สอดคล้อง​กับ​ความ​จริง​ที่​มี​การ​พิจารณา.

      ขณะ​ที่​คุณ​ไตร่ตรอง​เกี่ยว​กับ​วิธี​นำ​ข้อ​คัมภีร์​ไป​ใช้ จง​จำ​ไว้​ว่า​ผู้​ฟัง​มา​จาก​หลาย​ภูมิหลัง​และ​เผชิญ​สภาพการณ์​ที่​แตกต่าง​กัน. ณ การ​ประชุม​อาจ​มี​คน​สนใจ​ใหม่ ๆ, เยาวชน, คน​สูง​อายุ, และ​ผู้​ที่​กำลัง​ต่อ​สู้​กับ​ปัญหา​ส่วน​ตัว​ใน​รูป​แบบ​ต่าง ๆ. จง​ทำ​ให้​คำ​บรรยาย​ของ​คุณ​สามารถ​นำ​ไป​ใช้​ได้​จริง​และ​ตรง​กับ​ความ​เป็น​จริง. จง​หลีก​เลี่ยง​การ​ให้​คำ​แนะ​นำ​ที่​ดู​ราว​กับ​ว่า​คุณ​คิด​ถึง​แค่​สอง​สาม​คน.

      การ​ตัดสิน​ใจ​เลือก​ของ​ผู้​บรรยาย

      มี​การ​กำหนด​บาง​อย่าง​ไว้​แล้ว​เกี่ยว​กับ​บท​บรรยาย. มี​การ​แสดง​ให้​เห็น​จุด​สำคัญ​ต่าง ๆ อย่าง​ชัดเจน และ​มี​การ​บอก​เวลา​ที่​คุณ​ควร​จะ​ใช้​ใน​แต่​ละ​หัวข้อ​หลัก​อย่าง​ชัดเจน​ด้วย. ส่วน​ใน​เรื่อง​อื่น คุณ​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​เอง. คุณ​อาจ​เลือก​ใช้​เวลา​กับ​จุด​ย่อย​บาง​จุด​มาก​ขึ้น​และ​ใช้​เวลา​กับ​จุด​ย่อย​อื่น ๆ น้อย​กว่า. อย่า​คิด​ว่า​คุณ​จะ​ต้อง​ครอบ​คลุม​จุด​ย่อย​ทุก​จุด​โดย​ถือ​ว่า​มี​ความ​สำคัญ​เท่า​กัน​หมด. การ​ทำ​เช่น​นั้น​อาจ​เป็น​เหตุ​ให้​คุณ​ต้อง​บรรยาย​อย่าง​เร่ง​รีบ​ตลอด​เรื่อง​และ​ผู้​ฟัง​จะ​ไม่​ค่อย​ได้​รับ​ประโยชน์. คุณ​จะ​ตัดสิน​ใจ​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​จุด​ไหน​ควร​จะ​ขยาย​ให้​มาก​ขึ้น​และ​จุด​ไหน​เพียง​แต่​กล่าว​สั้น ๆ หรือ​กล่าว​อย่าง​ผ่าน ๆ? จง​ถาม​ตัว​เอง​ดัง​นี้: ‘จุด​ไหน​ที่​จะ​ช่วย​ผม​ให้​ถ่ายทอด​แนว​คิด​หลัก​ของ​คำ​บรรยาย​ออก​มา? จุด​ไหน​ที่​จะ​เป็น​ประโยชน์​ต่อ​ผู้​ฟัง​มาก​ที่​สุด? การ​ไม่​ยก​ข้อ​คัมภีร์​บาง​ข้อ​ที่​อ้าง​ถึง​และ​จุด​ที่​เกี่ยว​ข้อง​ด้วย​จะ​ทำ​ให้​หลักฐาน​ที่​เสนอ​นั้น​อ่อน​ลง​ไป​ไหม?’

      จง​หลีก​เลี่ยง​การ​ใส่​สิ่ง​ที่​คาด​เดา​หรือ​ความ​เห็น​ส่วน​ตัว​ลง​ไป. แม้​แต่​พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า พระ​เยซู​คริสต์ ก็​ยัง​ทรง​หลีก​เลี่ยง​การ​กล่าว ‘จาก​ตัว​พระองค์​เอง.’ (โย. 14:10, ล.ม.) จง​ตระหนัก​ว่า​ผู้​คน​เข้า​มา​ยัง​การ​ประชุม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ก็​เพื่อ​ฟัง​การ​พิจารณา​คัมภีร์​ไบเบิล. หาก​คุณ​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​ผู้​บรรยาย​ที่​ดี ก็​น่า​จะ​เป็น​เพราะ​คุณ​ไม่​นำ​ความ​สนใจ​มา​สู่​ตัว​เอง แต่​นำ​ความ​สนใจ​ไป​สู่​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. เมื่อ​ทำ​เช่น​นี้ คำ​บรรยาย​ของ​คุณ​จะ​เป็น​ที่​หยั่ง​รู้​ค่า.—ฟิลิป. 1:10, 11.

      เมื่อ​คุณ​ได้​ทำ​ให้​โครง​เรื่อง​ที่​มี​เพียง​แต่​รายการ​หัวข้อ​สำคัญ ๆ นั้น​เต็ม​ไป​ด้วย​คำ​อธิบาย​จาก​ข้อ​คัมภีร์​แล้ว บัด​นี้​คุณ​จำ​ต้อง​ซ้อม​การ​บรรยาย. เป็น​ประโยชน์​ที่​จะ​ซ้อม​โดย​พูด​ออก​เสียง. สิ่ง​สำคัญ​คือ​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ว่า​คุณ​จำ​ทุก​จุด​ได้​เป็น​อย่าง​ดี. คุณ​ต้อง​สามารถ​บรรยาย​ด้วย​ความ​มั่น​ใจ, ทำ​ให้​การ​บรรยาย​มี​ชีวิต​ชีวา, และ​เสนอ​ความ​จริง​อย่าง​กระตือรือร้น. ก่อน​ที่​คุณ​จะ​บรรยาย จง​ถาม​ตัว​เอง​ดัง​นี้: ‘ผม​หวัง​จะ​บรรลุ​ผล​อะไร? จุด​สำคัญ​เด่น​ขึ้น​ไหม? ผม​ทำ​ให้​พระ​คัมภีร์​เป็น​พื้น​ฐาน​ของ​คำ​บรรยาย​จริง ๆ ไหม? จุด​สำคัญ​แต่​ละ​จุด​นำ​ไป​สู่​จุด​ถัด​ไป​อย่าง​ราบรื่น​ไหม? คำ​บรรยาย​นี้​เสริม​สร้าง​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​และ​การ​จัด​เตรียม​ของ​พระองค์​ไหม? คำ​ลง​ท้าย​เกี่ยว​ข้อง​โดย​ตรง​กับ​อรรถบท, บอก​ให้​ผู้​ฟัง​ทราบ​ถึง​สิ่ง​ที่​ต้อง​ทำ, และ​กระตุ้น​ผู้​ฟัง​ให้​ลง​มือ​ปฏิบัติ​ไหม?’ หาก​คุณ​ตอบ​คำ​ถาม​เหล่า​นี้​ได้​ว่า ใช่ คุณ​ก็​ย่อม​อยู่​ใน​ฐานะ​ที่​จะ “กล่าว​ความ​รู้​ที่​ถูก​ต้อง” เพื่อ​ประโยชน์​ของ​ประชาคม​และ​เพื่อ​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา!—สุภา. 15:2.

  • จง​พัฒนา​ความ​สามารถ​ใน​การ​เป็น​ผู้​สอน
    การรับประโยชน์จากโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้า
    • จง​พัฒนา​ความ​สามารถ​ใน​การ​เป็น​ผู้​สอน

      ฐานะ​เป็น​ผู้​สอน เป้าหมาย​ของ​คุณ​คือ​อะไร? หาก​คุณ​เพิ่ง​เป็น​ผู้​ประกาศ​ราชอาณาจักร​ได้​ไม่​นาน และ​เนื่อง​จาก​ทราบ​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​มอบหมาย​ให้​ผู้​ติด​ตาม​พระองค์​มี​หน้า​ที่​ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก จึง​ไม่​มี​ข้อ​สงสัย​เลย​ว่า​คุณ​คง​มี​ความ​ปรารถนา​จะ​เรียน​รู้​วิธี​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ตาม​บ้าน. (มัด. 28:19, 20) หาก​คุณ​มี​ประสบการณ์​ใน​กิจกรรม​นี้​อยู่​แล้ว บาง​ที​เป้าหมาย​ของ​คุณ​คือ​เพื่อ​จะ​เพิ่ม​ประสิทธิภาพ​ให้​มาก​ขึ้น​ใน​การ​เข้า​ถึง​หัวใจ​ของ​ผู้​ที่​คุณ​พยายาม​ช่วย​เขา. หาก​คุณ​เป็น​บิดา​หรือ​มารดา แน่นอน​คุณ​คง​ต้องการ​จะ​เป็น​ผู้​สอน​ที่​สามารถ​กระตุ้น​บุตร​ให้​อุทิศ​ชีวิต​ของ​ตน​แด่​พระเจ้า. (3 โย. 4) หาก​คุณ​เป็น​ผู้​ปกครอง​หรือ​กำลัง​เอื้อม​แขน​เป็น​ผู้​ปกครอง บาง​ที​คุณ​คง​ต้องการ​จะ​เป็น​ผู้​บรรยาย​สาธารณะ​ที่​สามารถ​เสริม​สร้าง​ผู้​ฟัง​ให้​มี​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​ลึกซึ้ง​ยิ่ง​ขึ้น​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​และ​วิถี​ทาง​ของ​พระองค์. คุณ​จะ​บรรลุ​เป้าหมาย​เหล่า​นี้​ได้​อย่าง​ไร?

      จง​เรียน​จาก​พระ​เยซู​คริสต์ ครู​ผู้​ใหญ่​ยิ่ง. (ลูกา 6:40) ไม่​ว่า​พระ​เยซู​ตรัส​กับ​ฝูง​ชน​บน​เชิง​เขา​หรือ​ตรัส​กับ​แค่​ไม่​กี่​คน​ขณะ​เดิน​ไป​ตาม​ทาง วิธี​ตรัส​และ​สิ่ง​ที่​พระองค์​ตรัส​ก่อ​ให้​เกิด​ความ​ประทับใจ​ไม่​รู้​ลืม. พระ​เยซู​ทรง​กระตุ้น​จิตใจ​และ​หัวใจ​ของ​ผู้​ฟัง และ​พระองค์​ทรง​บอก​วิธี​ที่​จะ​นำ​เรื่อง​นั้น​ไป​ใช้​อย่าง​ที่​พวก​เขา​เข้าใจ​ได้. คุณ​จะ​ประสบ​ผล​สำเร็จ​คล้าย ๆ กัน​นี้​ได้​ไหม?

      จง​หมาย​พึ่ง​พระ​ยะโฮวา

      ความ​สามารถ​ใน​การ​สอน​ของ​พระ​เยซู​ได้​รับ​การ​เสริม​ทั้ง​จาก​สัมพันธภาพ​อัน​ใกล้​ชิด​ที่​พระองค์​ทรง​มี​กับ​พระ​บิดา​ฝ่าย​สวรรค์​และ​จาก​การ​สนับสนุน​ของ​พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า. คุณ​อธิษฐาน​อย่าง​จริงจัง​ขอ​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​คุณ​ให้​สามารถ​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ตาม​บ้าน​อย่าง​บังเกิด​ผล​ไหม? หาก​คุณ​เป็น​บิดา​หรือ​มารดา คุณ​อธิษฐาน​เป็น​ประจำ​เพื่อ​ขอ​การ​ชี้​นำ​จาก​พระเจ้า​ใน​การ​สอน​บุตร​ของ​คุณ​ไหม? คุณ​กล่าว​คำ​อธิษฐาน​จาก​หัวใจ​ขณะ​เตรียม​คำ​บรรยาย​หรือ​เตรียม​นำ​การ​ประชุม​ไหม? การ​หมาย​พึ่ง​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​แท้​จริง​เช่น​นั้น​จะ​ช่วย​คุณ​ให้​เป็น​ผู้​สอน​ที่​มี​ประสิทธิภาพ​มาก​ขึ้น.

      การ​หมาย​พึ่ง​พระ​ยะโฮวา​ยัง​ปรากฏ​ให้​เห็น​โดย​การ​วางใจ​พระ​คำ​ของ​พระองค์ คือ​คัมภีร์​ไบเบิล​ด้วย. ใน​คำ​อธิษฐาน​คืน​สุด​ท้าย​ของ​ชีวิต​พระ​เยซู​ฐานะ​มนุษย์​สมบูรณ์ พระองค์​ตรัส​กับ​พระ​บิดา​ดัง​นี้: “ข้าพเจ้า​ได้​ให้​คำ​ของ​พระองค์​แก่​เขา​แล้ว.” (โย. 17:14) ถึง​แม้​พระ​เยซู​ทรง​มี​ประสบการณ์​มาก​มาย แต่​พระองค์​ไม่​เคย​ตรัส​สิ่ง​ที่​เป็น​ความ​คิด​ริเริ่ม​ของ​พระองค์​เอง. พระองค์​ตรัส​สิ่ง​ที่​พระ​บิดา​ทรง​สอน​พระองค์​เสมอ โดย​วิธี​นี้ พระองค์​ทรง​ให้​แบบ​อย่าง​เพื่อ​เรา​จะ​ติด​ตาม. (โย. 12:49, 50) พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ซึ่ง​อยู่​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​มี​พลัง​ชักจูง​ผู้​คน คือ​การ​กระทำ, ความ​คิด​ส่วน​ลึก​ที่​สุด, และ​ความ​รู้สึก​ของ​พวก​เขา. (เฮ็บ. 4:12) ขณะ​ที่​คุณ​เติบโต​ใน​ความ​รู้​แห่ง​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​และ​เรียน​รู้​ที่​จะ​ใช้​ความ​รู้​นั้น​อย่าง​เต็ม​ที่​ใน​งาน​รับใช้ คุณ​จะ​พัฒนา​ความ​สามารถ​ใน​การ​สอน​แบบ​ที่​ชัก​นำ​ผู้​คน​ให้​เข้า​มา​หา​พระเจ้า.—2 ติโม. 3:16, 17.

      จง​ถวาย​เกียรติ​แด่​พระ​ยะโฮวา

      การ​เป็น​ผู้​สอน​ที่​เลียน​แบบ​พระ​คริสต์​ไม่​ใช่​เป็น​เพียง​เรื่อง​ของ​การ​มี​ความ​สามารถ​ใน​การ​ให้​คำ​บรรยาย​ที่​น่า​สนใจ​เท่า​นั้น. จริง​อยู่ ประชาชน​ประหลาด​ใจ​ใน “ถ้อย​คำ​อัน​ประกอบ​ด้วย​คุณ” ของ​พระ​เยซู. (ลูกา 4:22) แต่​เป้าหมาย​ของ​พระ​เยซู​ใน​การ​สอน​อย่าง​น่า​จับ​ใจ​นั้น​คือ​อะไร? ก็​เพื่อ​ถวาย​เกียรติ​แด่​พระ​ยะโฮวา ไม่​ใช่​เพื่อ​ชัก​นำ​ความ​สนใจ​มา​สู่​ตัว​พระองค์​เอง. (โย. 7:16-18) และ​พระองค์​ทรง​กระตุ้น​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ดัง​นี้: “ให้​ความ​สว่าง​ของ​ท่าน​ส่อง​ไป​ต่อ​หน้า​คน​ทั้ง​ปวง​อย่าง​นั้น, เพื่อ​เขา​จะ​ได้​เห็น​การ​ดี​ของ​ท่าน, แล้ว​จะ​ได้​สรรเสริญ​พระ​บิดา​ของ​ท่าน ผู้​อยู่​ใน​สวรรค์.” (มัด. 5:16) คำ​แนะ​นำ​นี้​ควร​มี​อิทธิพล​ต่อ​วิธี​ที่​เรา​สอน. เรา​ควร​ตั้ง​เป้า​จะ​หลีก​เลี่ยง​สิ่ง​ใด ๆ ที่​จะ​ทำ​ให้​เขว​ไป​จาก​เป้าหมาย​นั้น. ดัง​นั้น เมื่อ​กำลัง​คิด​วิธี​หรือ​เรื่อง​ที่​เรา​จะ​พูด เรา​ควร​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘การ​พูด​เช่น​นั้น​จะ​เสริม​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​ให้​ลึกซึ้ง​ขึ้น​ไหม หรือ​จะ​นำ​ความ​สนใจ​มา​สู่​ตัว​ฉัน​เอง?’

      อาทิ​เช่น ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​และ​ตัว​อย่าง​จาก​ชีวิต​จริง​สามารถ​นำ​มา​ใช้​ได้​อย่าง​บังเกิด​ผล​ใน​การ​สอน. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เมื่อ​ยก​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​อย่าง​ยืด​ยาว​หรือ​เล่า​ประสบการณ์​ที่​มี​ราย​ละเอียด​มาก​เกิน​ไป จุด​สำคัญ​ของ​การ​สอน​อาจ​สูญ​เสีย​ไป. คล้ายคลึง​กัน การ​เล่า​เรื่อง​เพียง​เพื่อ​ให้​สนุกสนาน​ย่อม​ทำ​ให้​เขว​ไป​จาก​จุด​มุ่ง​หมาย​ใน​การ​สอน​ของ​เรา. ที่​แท้​แล้ว ผู้​สอน​คน​นั้น​กำลัง​นำ​ความ​สนใจ​มา​สู่​ตัว​เขา​เอง แทน​ที่​จะ​บรรลุ​เป้าหมาย​ที่​แท้​จริง​ของ​การ​สอน​ตาม​ระบอบ​ของ​พระเจ้า.

      จง ‘สังเกต​ความ​แตกต่าง’

      เพื่อ​คน​หนึ่ง​จะ​เข้า​มา​เป็น​สาวก​จริง ๆ เขา​ต้อง​เข้าใจ​เรื่อง​ที่​เรียน​อย่าง​ชัดเจน. เขา​ต้อง​ได้​ยิน​ความ​จริง​และ​ต้อง​ได้​เห็น​ว่า​ความ​จริง​นั้น​ต่าง​จาก​ความ​เชื่อ​อื่น ๆ อย่าง​ไร. การ​เปรียบ​เทียบ​ให้​เห็น​ความ​แตกต่าง​ช่วย​ให้​บรรลุ​เป้าหมาย​นี้.

      พระ​ยะโฮวา​ทรง​กระตุ้น​ไพร่​พล​ของ​พระองค์​ซ้ำ​แล้ว​ซ้ำ​อีก​ให้ ‘สังเกต​ความ​แตกต่าง’ ระหว่าง​ของ​สะอาด​และ​ไม่​สะอาด. (เลวี. 10:9-11) พระองค์​ตรัส​ว่า​ผู้​ที่​จะ​รับใช้​ใน​วิหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระองค์​จะ​สอน​ประชาชน “ถึง​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​ของ​บริสุทธิ์​และ​ของ​สาธารณ์.” (ยเอศ. 44:23, ฉบับ​แปล​ใหม่) พระ​ธรรม​สุภาษิต​เต็ม​ไป​ด้วย​การ​เปรียบ​เทียบ​ให้​เห็น​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​ความ​ชอบธรรม​และ​ความ​ชั่ว, ระหว่าง​สติ​ปัญญา​และ​ความ​โง่​เขลา. แม้​แต่​สอง​สิ่ง​ที่​ไม่​ตรง​ข้าม​กัน​ก็​ยัง​สามารถ​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​แตกต่าง​กัน​ได้. อัครสาวก​เปาโล​เปรียบ​เทียบ​ให้​เห็น​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​คน​ชอบธรรม​และ​คน​ดี ดัง​ที่​บันทึก​ใน​พระ​ธรรม​โรม 5:7. ใน​พระ​ธรรม​เฮ็บราย ท่าน​ได้​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​งาน​รับใช้​ของ​พระ​คริสต์​ฐานะ​มหา​ปุโรหิต​เหนือ​กว่า​งาน​รับใช้​ของ​อาโรน. โยฮันน์ อามอส โกเมเนียส อาจารย์​ซึ่ง​อยู่​ใน​ศตวรรษ​ที่ 17 เขียน​ได้​อย่าง​ถูก​ต้อง​ที​เดียว​ที่​ว่า “การ​สอน​หมาย​ถึง​การ​แสดง​ให้​เห็น​วิธี​ที่​สิ่ง​ต่าง ๆ แตกต่าง​จาก​อีก​สิ่ง​หนึ่ง​ใน​ด้าน​วัตถุ​ประสงค์, รูป​แบบ, และ​ที่​มา. . . . ดัง​นั้น ผู้​ที่​อธิบาย​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​สิ่ง​ต่าง ๆ ได้​ดี​ก็​เป็น​ผู้​สอน​ที่​ดี.”

      ขอ​ยก​เรื่อง​การ​สอน​ใคร​สัก​คน​หนึ่ง​เกี่ยว​กับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​มา​เป็น​ตัว​อย่าง. ถ้า​เขา​ไม่​เข้าใจ​ว่า​ราชอาณาจักร​คือ​อะไร คุณ​อาจ​แสดง​ให้​เขา​เห็น​ว่า​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​นั้น​แตกต่าง​กัน​อย่าง​ไร​กับ​ความ​คิด​ที่​ว่า​ราชอาณาจักร​เป็น​เพียง​สภาพ​ที่​อยู่​ใน​หัวใจ​ของ​ผู้​คน. หรือ​คุณ​อาจ​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ต่าง​จาก​รัฐบาล​ของ​มนุษย์​อย่าง​ไร. กระนั้น สำหรับ​ผู้​ที่​ทราบ​ความ​จริง​พื้น​ฐาน​เหล่า​นี้ คุณ​อาจ​ต้อง​เข้า​ไป​ใน​ราย​ละเอียด​ที่​มาก​กว่า. คุณ​อาจ​แสดง​ให้​พวก​เขา​เห็น​ว่า​ราชอาณาจักร​มาซีฮา​ต่าง​จาก​ฐานะ​กษัตริย์​แห่ง​เอกภพ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ดัง​ที่​กล่าว​ใน​บทเพลง​สรรเสริญ 103:19, หรือ​ต่าง​จาก ‘ราชอาณาจักร​แห่ง​พระ​บุตร​ที่​รัก​ของ​พระเจ้า’ ที่​อ้าง​ถึง​ใน​โกโลซาย 1:13 (ล.ม.), หรือ​ต่าง​จาก “การ​บริหาร​งาน” ที่​กล่าว​ใน​เอเฟโซ 1:10 (ล.ม.) อย่าง​ไร. การ​ใช้​วิธี​เปรียบ​เทียบ​ให้​เห็น​ความ​แตกต่าง​สามารถ​ช่วย​ผู้​ฟัง​เพ่ง​ความ​สนใจ​ไป​ยัง​หลัก​คำ​สอน​ที่​สำคัญ​นี้​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล.

      พระ​เยซู​ทรง​ใช้​วิธี​การ​สอน​แบบ​นี้​ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า. พระองค์​ทรง​เปรียบ​เทียบ​ให้​เห็น​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​ความ​เข้าใจ​ทั่ว​ไป​เกี่ยว​กับ​พระ​บัญญัติ​ของ​โมเซ​กับ​จุด​มุ่ง​หมาย​ที่​แท้​จริง​ของ​พระ​บัญญัติ. (มัด. 5:21-48) พระองค์​ทรง​ชี้​ให้​เห็น​ว่า​ความ​เลื่อมใส​ใน​พระเจ้า​อย่าง​แท้​จริง​ต่าง​จาก​การ​กระทำ​ที่​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด​ของ​พวก​ฟาริซาย. (มัด. 6:1-18) พระองค์​ทรง​เปรียบ​เทียบ​ให้​เห็น​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​น้ำใจ​ของ​ผู้​ที่ “กดขี่​บังคับ​บัญชา” คน​อื่น​กับ​น้ำใจ​เสีย​สละ​ที่​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​จะ​สำแดง​ออก​มา. (มัด. 20:25-28) ใน​อีก​โอกาส​หนึ่ง ดัง​บันทึก​ที่​มัดธาย 21:28-32 พระ​เยซู​ทรง​เชิญ​ผู้​ฟัง​ให้​เปรียบ​เทียบ​ความ​แตกต่าง​ด้วย​ตัว​เขา​เอง​ระหว่าง​การ​ถือ​ว่า​ตัว​เอง​ชอบธรรม​และ​การ​กลับ​ใจ​ที่​แท้​จริง. นี่​นำ​เรา​ไป​สู่​อีก​ลักษณะ​หนึ่ง​ที่​มี​ค่า​ของ​การ​สอน​ที่​ดี.

      จง​สนับสนุน​ผู้​ฟัง​ให้​คิด

      ที่​มัดธาย 21:28 เรา​อ่าน​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​เริ่ม​คำ​อุปมา​โดย​ถาม​ดัง​นี้: “ท่าน​ทั้ง​หลาย​คิด​เห็น​อย่าง​ไร?” ผู้​สอน​ที่​มี​ความ​สามารถ​ไม่​เพียง​แต่​บอก​ข้อ​เท็จ​จริง​หรือ​ให้​คำ​ตอบ​เท่า​นั้น. แทน​ที่​จะ​ทำ​เช่น​นั้น เขา​สนับสนุน​ผู้​ฟัง​ให้​ปลูกฝัง​ความ​สามารถ​ใน​การ​คิด. (สุภา. 3:21; โรม 12:1) ส่วน​หนึ่ง​ที่​จะ​ทำ​เช่น​นี้​ได้​คือ​โดย​การ​ตั้ง​คำ​ถาม. ดัง​ที่​พบ​ใน​มัดธาย 17:​25 พระ​เยซู​ทรง​ถาม​ดัง​นี้: “ซีโมน​เอ๋ย, ท่าน​เห็น​อย่าง​ไร? กษัตริย์​เคย​เก็บ​ส่วย​และ​ภาษี​จาก​ผู้​ใด, จาก​โอรส​หรือ​จาก​ผู้​อื่น?” คำ​ถาม​ของ​พระ​เยซู​ที่​กระตุ้น​ความ​คิด​ช่วย​เปโตร​ให้​ได้​ข้อ​สรุป​ที่​ถูก​ต้อง​ด้วย​ตน​เอง​เกี่ยว​กับ​การ​เสีย​ภาษี​พระ​วิหาร. คล้ายคลึง​กัน เมื่อ​ทรง​ตอบ​ชาย​ที่​ถาม​ว่า “ใคร​เป็น​เพื่อน​บ้าน​ของ​ข้าพเจ้า?” พระ​เยซู​ทรง​เปรียบ​เทียบ​ให้​เห็น​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​การ​กระทำ​ของ​ปุโรหิต​และ​ชาว​เลวี​กับ​การ​กระทำ​ของ​ชาว​ซะมาเรีย. จาก​นั้น​พระองค์​ทรง​ตั้ง​คำ​ถาม​นี้: “ใน​สาม​คน​นั้น​ท่าน​คิด​เห็น​ว่า​คน​ไหน​เป็น​เพื่อน​บ้าน​ของ​คน​ที่​ถูก​ปล้น?” (ลูกา 10:29-36) อีก​ครั้ง​หนึ่ง แทน​ที่​จะ​คิด​แทน​ผู้​ฟัง พระ​เยซู​ทรง​เชิญ​เขา​ให้​ตอบ​คำ​ถาม​ด้วย​ตัว​เขา​เอง.—ลูกา 7:41-43.

      จง​เข้า​ถึง​หัวใจ

      ผู้​สอน​ที่​เข้าใจ​ความ​หมาย​แห่ง​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ตระหนัก​ว่า​การ​นมัสการ​แท้​ไม่​ใช่​เป็น​เพียง​เรื่อง​ของ​การ​จด​จำ​ข้อ​เท็จ​จริง​บาง​อย่าง​และ​ปฏิบัติ​ตาม​กฎ​บาง​อย่าง​เท่า​นั้น. การ​นมัสการ​แท้​ตั้ง​อยู่​บน​สัมพันธภาพ​ที่​ดี​กับ​พระ​ยะโฮวา​และ​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​ต่อ​วิถี​ทาง​ของ​พระองค์. การ​นมัสการ​เช่น​นั้น​เกี่ยว​ข้อง​กับ​หัวใจ. (บัญ. 10:12, 13; ลูกา 10:25-27) ใน​พระ​คัมภีร์ คำ “หัวใจ” บ่อย​ครั้ง​พาด​พิง​ถึง​บุคคล​ภาย​ใน​ทั้ง​สิ้น ซึ่ง​รวม​ถึง​สิ่ง​ต่าง ๆ เช่น ความ​ปรารถนา, ความ​รักใคร่, ความ​รู้สึก, และ​แรง​กระตุ้น.

      พระ​เยซู​ทรง​ทราบ​ว่า ขณะ​ที่​มนุษย์​มอง​ดู​สิ่ง​ที่​ปรากฏ​ภาย​นอก แต่​พระเจ้า​ทรง​มอง​ดู​ว่า​หัวใจ​เป็น​เช่น​ไร. (1 ซามู. 16:7) เรา​ควร​รับใช้​พระเจ้า​โดย​มี​แรง​กระตุ้น​จาก​ความ​รัก​ที่​เรา​มี​ต่อ​พระองค์ ไม่​ใช่​เพื่อ​พยายาม​ให้​เพื่อน​มนุษย์​ประทับ​ใจ. (มัด. 6:5-8) ใน​ทาง​ตรง​กัน​ข้าม พวก​ฟาริซาย​ทำ​หลาย​สิ่ง​เพื่อ​ให้​ปรากฏ​แต่​เพียง​ภาย​นอก. พวก​เขา​เน้น​อย่าง​มาก​ต่อ​การ​ปฏิบัติ​ใน​ราย​ละเอียด​ต่าง ๆ ของ​พระ​บัญญัติ และ​ทำ​ตาม​กฎ​ที่​พวก​เขา​ตั้ง​ขึ้น​มา​เอง. แต่​พวก​เขา​ไม่​ได้​สำแดง​คุณลักษณะ​ใน​ชีวิต​ที่​จะ​พิสูจน์​ว่า​พวก​เขา​อยู่​ฝ่าย​พระเจ้า​ที่​พวก​เขา​อ้าง​ว่า​นมัสการ. (มัด. 9:13; ลูกา 11:42) พระ​เยซู​ทรง​สอน​ว่า​ขณะ​ที่​การ​เชื่อ​ฟัง​ข้อ​เรียก​ร้อง​ของ​พระเจ้า​เป็น​เรื่อง​สำคัญ แต่​คุณค่า​ของ​การ​เชื่อ​ฟัง​นั้น​ขึ้น​อยู่​กับ​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​หัวใจ. (มัด. 15:7-9; มโก. 7:20-23; โย. 3:36) การ​สอน​ของ​เรา​จะ​บรรลุ​ผล​มาก​ที่​สุด​ถ้า​เรา​เลียน​แบบ​ตัว​อย่าง​ของ​พระ​เยซู. เป็น​เรื่อง​สำคัญ​ที่​เรา​ช่วย​ประชาชน​ให้​เรียน​รู้​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ทรง​เรียก​ร้อง​จาก​เขา. แต่​เป็น​เรื่อง​สำคัญ​เช่น​กัน​ที่​พวก​เขา​จะ​รู้​จัก​และ​รัก​พระ​ยะโฮวา​ฐานะ​เป็น​บุคคล เพื่อ​ความ​ประพฤติ​ของ​เขา​จะ​สะท้อน​ให้​เห็น​ว่า​การ​มี​สัมพันธภาพ​อัน​เป็น​ที่​ยอม​รับ​กับ​พระเจ้า​องค์​เที่ยง​แท้​นั้น​มี​ค่า​สำหรับ​เขา​เพียง​ใด.

      แน่นอน เพื่อ​จะ​ได้​ประโยชน์​จาก​การ​สอน​เช่น​นั้น ผู้​คน​จำ​ต้อง​รับ​มือ​กับ​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​หัวใจ​ของ​ตน. พระ​เยซู​ทรง​สนับสนุน​ประชาชน​ให้​วิเคราะห์​แรง​กระตุ้น​และ​ตรวจ​สอบ​ความ​รู้สึก​ของ​พวก​เขา. เมื่อ​ทรง​แก้ไข​ทัศนะ​ที่​ผิด พระองค์​จะ​ถาม​ผู้​ฟัง​ว่า​ทำไม​พวก​เขา​จึง​คิด, พูด, หรือ​ทำ​อย่าง​นั้น. กระนั้น โดย​ไม่​หยุด​อยู่​เพียง​แค่​นั้น พระ​เยซู​ยัง​ทรง​เสริม​คำ​ถาม​ของ​พระองค์​ด้วย​คำ​กล่าว, อุทาหรณ์, หรือ​การ​กระทำ​บาง​อย่าง ซึ่ง​สนับสนุน​พวก​เขา​ให้​มอง​เรื่อง​ต่าง ๆ อย่าง​ถูก​ต้อง. (มโก. 2:8; 4:40; 8:17; ลูกา 6:41, 46) เรา​สามารถ​ช่วย​ผู้​ฟัง​ได้​เช่น​กัน​โดย​แนะ​ให้​เขา​ถาม​ตัว​เอง​ด้วย​คำ​ถาม​อย่าง​เช่น ‘เหตุ​ใด​ฉัน​จึง​ปรารถนา​จะ​ทำ​ตาม​แนว​ทาง​การ​ประพฤติ​แบบ​นี้? ทำไม​ฉัน​จึง​ทำ​อย่าง​ที่​ฉัน​ทำ​เมื่อ​ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​เช่น​นี้?’ จาก​นั้น จง​กระตุ้น​พวก​เขา​ให้​มอง​เรื่อง​ต่าง ๆ จาก​ทัศนะ​ของ​พระ​ยะโฮวา.

      จง​แสดง​ให้​เห็น​วิธี​นำ​ไป​ใช้

      ผู้​สอน​ที่​ดี​ทราบ​ว่า “สติ​ปัญญา​เป็น​หลัก​เอก.” (สุภา. 4:7, ล.ม.) สติ​ปัญญา​คือ​ความ​สามารถ​ที่​จะ​นำ​ความ​รู้​ไป​ใช้​อย่าง​ประสบ​ผล​สำเร็จ​ใน​การ​แก้​ปัญหา​ต่าง ๆ, หลีก​เลี่ยง​อันตราย, บรรลุ​เป้าหมาย, และ​ช่วยเหลือ​คน​อื่น ๆ. ผู้​สอน​มี​หน้า​ที่​ช่วย​นัก​ศึกษา​ให้​เรียน​รู้​ที่​จะ​ทำ​เช่น​นั้น แต่​ไม่​ใช่​ที่​จะ​ทำ​การ​ตัดสิน​ใจ​แทน​พวก​เขา. เมื่อ​พิจารณา​หลักการ​ต่าง ๆ ของ​คัมภีร์​ไบเบิล จง​ช่วย​นัก​ศึกษา​ให้​หา​เหตุ​ผล. คุณ​อาจ​พูด​ถึง​เหตุ​การณ์​หนึ่ง​ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน​แล้ว​ถาม​นัก​ศึกษา​ว่า​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​เพิ่ง​ศึกษา​ไป​จะ​ช่วย​เขา​อย่าง​ไร​หาก​เขา​ต้อง​เผชิญ​กับ​สภาพการณ์​เช่น​นั้น.—เฮ็บ. 5:14.

      ใน​คำ​บรรยาย​ของ​เปโตร​ใน​วัน​เพนเตคอสเต​ปี​สากล​ศักราช 33 ท่าน​วาง​ตัว​อย่าง​เกี่ยว​กับ​การ​แนะ​วิธี​นำ​ความ​รู้​ไป​ใช้​ซึ่ง​กระทบ​ชีวิต​ผู้​คน. (กิจ. 2:14-36) หลัง​จาก​ท่าน​ได้​พิจารณา​ข้อ​ความ​สาม​แห่ง​ใน​พระ​คัมภีร์​ที่​ฝูง​ชน​ยอม​รับ​ว่า​เชื่อ ท่าน​เปโตร​ได้​แนะ​วิธี​นำ​เรื่อง​เหล่า​นี้​ไป​ใช้​โดย​คำนึง​ถึง​เหตุ​การณ์​ต่าง ๆ ที่​พวก​เขา​ทุก​คน​เป็น​พยาน​รู้​เห็น. ผล​คือ ฝูง​ชน​รู้สึก​ว่า​จำ​ต้อง​ปฏิบัติ​ตาม​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​ได้​ยิน. การ​สอน​ของ​คุณ​ส่ง​ผล​กระทบ​ต่อ​ผู้​คน​คล้าย ๆ กัน​ไหม? คุณ​ช่วย​ผู้​คน​ให้​เข้าใจ​เหตุ​ผล​ของ​เรื่อง​นั้น​ไหม โดย​ไม่​เพียง​แต่​ให้​ข้อ​เท็จ​จริง​เท่า​นั้น? คุณ​สนับสนุน​พวก​เขา​ไหม​ให้​ไตร่ตรอง​ว่า เรื่อง​ที่​เขา​กำลัง​เรียน​รู้​นั้น​ควร​กระทบ​ชีวิต​ของ​เขา​อย่าง​ไร? พวก​เขา​อาจ​ไม่​ร้อง​ออก​มา​ว่า “เรา​จะ​ทำ​อย่าง​ไร?” ดัง​ที่​ฝูง​ชน​ใน​วัน​เพนเตคอสเต​ได้​ทำ แต่​หาก​คุณ​ใช้​พระ​คัมภีร์​อย่าง​บังเกิด​ผล พวก​เขา​จะ​ถูก​กระตุ้น​ให้​คิด​ถึง​สิ่ง​ที่​ควร​จะ​ทำ.—กิจ. 2:37.

      เมื่อ​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​บุตร คุณ​ผู้​เป็น​บิดา​มารดา​มี​โอกาส​ดี​ที่​จะ​ฝึก​เขา​ให้​คิด​ถึง​วิธี​นำ​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ไป​ใช้​จริง ๆ. (เอเฟ. 6:4) ยก​ตัว​อย่าง คุณ​อาจ​เลือก​ข้อ​คัมภีร์​สอง​สาม​ข้อ​จาก​กำหนดการ​อ่าน​พระ​คัมภีร์​ประจำ​สัปดาห์ พิจารณา​ความ​หมาย​ของ​ข้อ​เหล่า​นั้น และ​จาก​นั้น​ตั้ง​คำ​ถาม เป็น​ต้น​ว่า ‘ข้อ​นี้​ให้​การ​ชี้​นำ​แก่​เรา​อย่าง​ไร? เรา​จะ​ใช้​ข้อ​คัมภีร์​เหล่า​นี้​อย่าง​ไร​ใน​งาน​รับใช้? ข้อ​เหล่า​นี้​เปิด​เผย​อะไร​เกี่ยว​กับ​พระ​ยะโฮวา​และ​แนว​ทาง​ที่​พระองค์​กระทำ​สิ่ง​ต่าง ๆ และ​นั่น​เสริม​สร้าง​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​ของ​เรา​ต่อ​พระองค์​อย่าง​ไร?’ จง​สนับสนุน​ครอบครัว​ของ​คุณ​ให้​ออก​ความ​คิด​เห็น​เกี่ยว​กับ​จุด​เหล่า​นี้​ระหว่าง​ที่​พิจารณา​ส่วน​จุด​เด่น​จาก​พระ​คัมภีร์​ใน​โรง​เรียน​การ​รับใช้​ตาม​ระบอบ​ของ​พระเจ้า. ข้อ​ที่​เขา​ออก​ความ​เห็น​นั้น​คง​เป็น​ข้อ​ที่​พวก​เขา​จะ​จด​จำ​ได้​ดี.

      จง​วาง​ตัว​อย่าง​ที่​ดี

      คุณ​สอน​ไม่​เฉพาะ​จาก​สิ่ง​ที่​คุณ​พูด​เท่า​นั้น แต่​จาก​สิ่ง​ที่​คุณ​ทำ​ด้วย. การ​กระทำ​ของ​คุณ​ให้​ตัว​อย่าง​ที่​ใช้​ได้​จริง​เกี่ยว​กับ​วิธี​นำ​สิ่ง​ที่​คุณ​พูด​ไป​ใช้. นี่​เป็น​วิธี​ที่​เด็ก​เรียน​รู้. เมื่อ​พวก​เขา​เลียน​แบบ​บิดา​มารดา นั่น​กำลัง​บ่ง​ชี้​ว่า​พวก​เขา​ต้องการ​เป็น​เหมือน​บิดา​มารดา​ของ​เขา. พวก​เขา​ต้องการ​รู้​ว่า​การ​ทำ​สิ่ง​ที่​บิดา​มารดา​ทำ​อยู่​เป็น​อย่าง​ไร. เช่น​เดียว​กัน เมื่อ​คน​ที่​คุณ​สอน ‘เลียน​แบบ​คุณ​เหมือน​ที่​คุณ​เลียน​แบบ​พระ​คริสต์’ พวก​เขา​จะ​เริ่ม​ประสบ​พระ​พร​ใน​การ​ดำเนิน​ตาม​วิถี​ทาง​ของ​พระ​ยะโฮวา. (1 โก. 11:1, ล.ม.) พวก​เขา​จะ​ประสบ​ด้วย​ตน​เอง​ถึง​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ปฏิบัติ​ต่อ​พวก​เขา.

      นี่​เป็น​ข้อ​เตือน​ใจ​ที่​พึง​ใคร่ครวญ​เกี่ยว​กับ​ความ​สำคัญ​ของ​การ​วาง​ตัว​อย่าง​ที่​เหมาะ​สม. การ​ที่​เรา ‘เป็น​คน​ชนิด​ที่​มี​การ​ประพฤติ​อัน​บริสุทธิ์ และ​กระทำ​ด้วย​ความ​เลื่อมใส​ใน​พระเจ้า’ จะ​เป็น​ส่วน​ส่ง​เสริม​อย่าง​ดี​ให้​คน​ที่​เรา​สอน​เห็น​ตัว​อย่าง​ที่​มี​ชีวิต​ใน​เรื่อง​วิธี​ที่​จะ​นำ​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ไป​ใช้. (2 เป. 3:11, ล.ม.) ถ้า​คุณ​สนับสนุน​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ให้​อ่าน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เป็น​ประจำ คุณ​เอง​ก็​ควร​ขยัน​อ่าน​ด้วย. หาก​คุณ​ต้องการ​ให้​บุตร​เรียน​รู้​ที่​จะ​ทำ​ตาม​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล จง​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ว่า​พวก​เขา​เห็น​การ​ประพฤติ​ของ​คุณ​สอดคล้อง​กับ​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า. หาก​คุณ​แนะ​นำ​พี่​น้อง​ใน​ประชาคม​ให้​กระตือรือร้น​ใน​งาน​รับใช้ จง​ให้​พวก​เขา​เห็น​ว่า​คุณ​มี​ส่วน​ร่วม​เต็ม​ที่​ใน​งาน​นั้น. เมื่อ​คุณ​ปฏิบัติ​ใน​สิ่ง​ที่​คุณ​สอน คุณ​ก็​อยู่​ใน​สถานะ​ที่​ดี​กว่า​ใน​การ​กระตุ้น​คน​อื่น ๆ.—โรม 2:21-23.

      โดย​มุ่ง​หมาย​ที่​จะ​ปรับ​ปรุง​การ​สอน​ของ​คุณ ขอ​ให้​ถาม​ตัว​คุณ​เอง​ดัง​นี้: ‘เมื่อ​ฉัน​สอน การ​สอน​นั้น​ก่อ​ให้​เกิด​ผล​กระทบ​ต่อ​ทัศนะ, คำ​พูด, หรือ​การ​กระทำ​ของ​ผู้​ฟัง​ไหม? เพื่อ​ทำ​ให้​เรื่อง​ชัดเจน ฉัน​แสดง​ให้​เห็น​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​ทัศนะ​หรือ​แนว​ทาง​การ​ประพฤติ​อย่าง​หนึ่ง​กับ​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ไหม? ฉัน​ทำ​อะไร​ที่​เป็น​การ​ช่วย​นัก​ศึกษา, บุตร, หรือ​ผู้​ฟัง​ใน​การ​ประชุม​ให้​สามารถ​จด​จำ​สิ่ง​ที่​ฉัน​พูด​ได้? ฉัน​แสดง​ให้​ผู้​ฟัง​เห็น​อย่าง​ชัดเจน​ไหม​ว่า​จะ​นำ​เรื่อง​ที่​เขา​เรียน​รู้​ไป​ใช้​อย่าง​ไร? พวก​เขา​เห็น​สิ่ง​นั้น​ใน​ตัว​อย่าง​ของ​ฉัน​ไหม? พวก​เขา​เข้าใจ​ไหม​ว่า​วิธี​ที่​เขา​ตอบรับ​ต่อ​เรื่อง​ที่​พิจารณา​ไป​นั้น​จะ​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​สัมพันธภาพ​ของ​เขา​กับ​พระ​ยะโฮวา?’ (สุภา. 9:10) จง​เอา​ใจ​ใส่​สิ่ง​เหล่า​นี้​ต่อ​ไป​ขณะ​ที่​คุณ​บากบั่น​พยายาม​พัฒนา​ความ​สามารถ​ใน​การ​เป็น​ผู้​สอน. “จง​เอา​ใจ​ใส่​ตัว​ท่าน​และ​การ​สอน​ของ​ท่าน​อยู่​เสมอ. จง​จดจ่อ​อยู่​กับ​สิ่ง​เหล่า​นี้ เพราะ​ด้วย​การ​ทำ​อย่าง​นี้​ท่าน​จะ​ช่วย​ทั้ง​ตัว​ท่าน​เอง​และ​คน​ที่​ฟัง​ท่าน​ให้​รอด.”—1 ติโม. 4:16, ล.ม.

หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
ออกจากระบบ
เข้าสู่ระบบ
  • ไทย
  • แชร์
  • การตั้งค่า
  • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
  • เงื่อนไขการใช้งาน
  • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
  • JW.ORG
  • เข้าสู่ระบบ
แชร์