-
การมีเซ็กซ์กับแฟนจะทำให้รักกันมากขึ้นไหม?คำถามที่หนุ่มสาวถาม—คำตอบที่ได้ผล เล่ม 1
-
-
บท 24
การมีเซ็กซ์กับแฟนจะทำให้รักกันมากขึ้นไหม?
เฮเทอร์เพิ่งคบกับไมค์ได้สองเดือน แต่เหมือนเธอรู้จักเขามานาน. ทั้งสองส่งเอสเอ็มเอสหากันตลอด โทรศัพท์คุยกันเป็นชั่วโมง ๆ และถึงกับรู้ใจกันว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร. แต่ตอนนี้ เมื่อทั้งสองนั่งอยู่ในรถภายใต้แสงจันทร์ ไมค์ไม่ได้แค่อยากพูดคุยกับเธอ.
ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ไมค์กับเฮเทอร์ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยนอกจากจะจับมือและหอมแก้ม. เฮเทอร์ไม่อยากให้เลยเถิดไปกว่านี้ แต่อีกใจก็ไม่อยากเสียไมค์ไป. ไม่เคยมีใครทำให้เธอรู้สึกดีหรือเป็นคนพิเศษแบบนี้. เธอยังบอกตัวเองว่า ‘เรารักกันนิ ไม่ต้องคิดมาก . . .’
คุณคงเดาได้ว่าเรื่องจะลงเอยอย่างไร. แต่คงเดาไม่ออก ว่า การที่ไมค์กับเฮเทอร์มีเซ็กซ์กันจะทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปมากขนาดไหนและในทางที่ไม่ดีด้วย. ให้เรามาดูกัน.
ถ้าคุณฝืนกฎธรรมชาติ เช่น กฎแรงโน้มถ่วง คุณจะได้รับผลเสียหาย. กับกฎทางศีลธรรมก็เป็นอย่างนั้นด้วย เช่น กฎข้อหนึ่งที่บอกว่า ‘ให้หลีกห่างจากการผิดศีลธรรมทางเพศ.’ (1 เทสซาโลนิเก 4:3, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย) จะเป็นอย่างไรถ้าไม่เชื่อฟังกฎนั้น? คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “คนที่ทำบาปทางเพศก็ทำบาปต่อร่างกายของตนเอง.” (1 โครินท์ 6:18, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย) ข้อนี้เป็นจริงอย่างไร? คนที่มีเซ็กซ์ก่อนแต่งงานจะได้รับผลเสียหายอะไรบ้าง ให้คุณลองเขียนสักสามอย่าง.
1 ․․․․․
2 ․․․․․
3 ․․․․․
ดูว่าคุณเขียนอะไรบ้าง. มีสิ่งเหล่านี้ไหม เช่น โรคติดต่อทางเพศ การท้องที่ไม่พึงประสงค์ หรือทำให้พระเจ้าไม่พอพระทัย? นี่เป็นผลเสียหายร้ายแรงสำหรับคนที่ฝ่าฝืนกฎหมายของพระเจ้าเรื่องการผิดศีลธรรมทางเพศ.
แต่คุณยังอาจอยากลอง. คุณอาจคิดว่า ‘ฉัน คงไม่เป็นอะไรหรอก. ใคร ๆ ก็มีเซ็กซ์กันทั้งนั้น.’ เพื่อน ๆ คุณที่โรงเรียนอาจชอบโม้ว่าเขาทำอะไรมาบ้าง และพวกเขา ก็ไม่เห็นเป็นอะไร. คุณอาจรู้สึกเหมือนเฮเทอร์ในเหตุการณ์ตอนต้นที่คิดว่า เมื่อได้กันแล้ว คุณกับแฟนจะรักกันมากขึ้น. นอกจากนั้น ใครล่ะอยากจะถูกล้อว่ายังบริสุทธิ์ อยู่? คงดีกว่าไม่ใช่หรือถ้าจะยอมมีเซ็กซ์?
แต่เดี๋ยวก่อน ใช่ว่าทุกคน จะทำอย่างนั้น. จริงอยู่ คุณอาจเคยรู้มาว่า ตามสถิติแล้วมีหนุ่มสาวจำนวนมากที่เคยมีเพศสัมพันธ์. ตัวอย่างเช่น จากการสำรวจในสหรัฐแสดงว่า เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมปลาย หนุ่มสาว 2 ใน 3 ของประเทศนั้นเคยมีเซ็กซ์แล้ว. แต่นั่นยังแสดงว่า คนที่ไม่เคย มีเซ็กซ์มีถึง 1 ใน 3 ซึ่งถือว่ามากทีเดียว. แล้วหนุ่มสาวที่เคยมี เซ็กซ์ล่ะเป็นอย่างไร? นักวิจัยพบว่า พวกเขาหลายคนต้องเจอกับประสบการณ์อันเลวร้ายที่คาดไม่ถึงดังต่อไปนี้.
ประสบการณ์อันเลวร้าย 1 ไม่มีความสุข. วัยรุ่นส่วนใหญ่ที่มีเซ็กซ์ก่อนแต่งงานบอกว่า เขาไม่น่าทำอย่างนั้นเลย.
ประสบการณ์อันเลวร้าย 2 ไม่ไว้ใจกัน. หลังจากได้กัน แต่ละฝ่ายจะเริ่มสงสัยว่า ‘เขา (เธอ) เคยนอนกับใคร มาบ้าง?’
ประสบการณ์อันเลวร้าย 3 ไม่เป็นดั่งฝัน. ลึก ๆ แล้ว ผู้หญิงส่วนใหญ่อยากมีใครสักคนที่คอยปกป้อง เธอ ไม่ใช่ฉวยประโยชน์ จากเธอ. และเมื่อได้กันแล้ว ผู้ชายส่วนใหญ่มักสนใจผู้หญิงคนนั้นน้อยลง.
นอกจากนั้น เด็กหนุ่มบางคนบอกว่าเขาไม่คิดจะแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาเคยมีเซ็กซ์ด้วย. เพราะอะไร? เพราะเขาอยากแต่งงานกับสาวบริสุทธิ์.
ถ้าคุณเป็นผู้หญิง เรื่องนี้ทำให้คุณรู้สึกแปลกใจหรือถึงขั้นโมโหไหม? อุตสาหกรรมบันเทิงให้ภาพการมีเซ็กซ์ของวัยรุ่นว่าไม่มีผลเสียหาย น่าเพลิดเพลิน โรแมนติก และเป็นรักแท้ด้วยซ้ำ. แต่ขอให้จำไว้ว่า ชีวิตจริงไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นในภาพยนตร์หรือทีวี. อย่ายอมให้ใครหลอกคุณ. คนที่พยายามชวนคุณให้มีเซ็กซ์ก่อนแต่งงาน เขาสนใจแต่ประโยชน์ของตัวเอง. (1 โครินท์ 13:4, 5) คิดดูสิ คนที่รักคุณจริง ๆ จะทำร้ายคุณไหมไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกายและอารมณ์? (สุภาษิต 5:3, 4) และคนที่แคร์คุณจริง ๆ จะชวนคุณทำสิ่งที่พระเจ้าไม่พอพระทัยไหม?—ฮีบรู 13:4
ถ้าคุณเป็นผู้ชายและกำลังมีแฟน สิ่งที่กล่าวไว้ในบทนี้น่าจะทำให้คุณรู้ว่าควรปฏิบัติกับแฟนของคุณอย่างไร. ให้ถามตัวเองว่า ‘ผมแคร์แฟนของผมจริง ๆ ไหม?’ ถ้าใช่ คุณจะแสดงอย่างไรว่าคุณแคร์? ความเข้มแข็ง จะช่วยคุณให้ยึดมั่นกับกฎหมายของพระเจ้า. สติปัญญา ทำให้คุณหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ล่อใจ. และความรัก จะทำให้คุณห่วงใยสวัสดิภาพของเธอ. ถ้าคุณมีคุณลักษณะเหล่านี้ แฟนของคุณคงรู้สึกเหมือนหญิงสาวชาวชูเลมที่รักนวลสงวนตัว ซึ่งบอกว่า “ที่รักของดิฉันเป็นของดิฉัน และดิฉันก็เป็นของเขา.” (เพลงไพเราะ 2:16, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย) พูดสั้น ๆ ก็คือ คุณจะเป็นสุภาพบุรุษสำหรับเธอ.
ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ถ้าคุณยอมมีเซ็กซ์ก่อนแต่งงาน ตัวคุณเองจะหมดค่าเพราะคุณได้ยกสิ่งที่มีค่าให้คนอื่นไปแล้ว. (โรม 1:24) ไม่แปลกเลยที่คนแบบนี้จะรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าและชีวิตว่างเปล่า เหมือนเขายอมให้คนอื่นขโมยสิ่งที่มีค่าไปจากตัวเขา. อย่ายอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณ. ถ้ามีใครพยายามชวนคุณให้มีเซ็กซ์กับเขาโดยบอกว่า “ไหนคุณบอกว่ารักผม” ให้ตอบอย่างหนักแน่นว่า “คุณล่ะไม่รักฉันเหรอ ถ้าคุณรักฉัน คุณคงไม่พูดอย่างนี้.”
ร่างกายของคุณมีค่ามาก อย่ายอมยกให้ใคร. ให้แสดงว่าคุณเข้มแข็งโดยเชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้าที่ให้หลีกห่างจากการผิดศีลธรรมทางเพศ. แล้ววันหนึ่งถ้าคุณแต่งงาน คุณก็จะมีเซ็กซ์ได้ อย่างมีความสุข โดยไม่ต้องกังวลหรือเสียใจภายหลังอย่างที่มักจะเกิดขึ้นกับคนที่มีเซ็กซ์ก่อนแต่งงาน.—สุภาษิต 7:22, 23; 1 โครินท์ 7:3
เชิญอ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมได้ในเล่ม 2 บท 4 และ 5
การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองเป็นเรื่องเสียหายไหม?
ข้อคัมภีร์หลัก
“จงหลีกหนีจากการผิดศีลธรรมทางเพศ. . . . คนที่ทำบาปทางเพศก็ทำบาปต่อร่างกายของตนเอง.”—1 โครินท์ 6:18, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย
ข้อแนะ
เมื่อปฏิบัติกับเพศตรงข้าม ข้อแนะคือ ถ้าคุณไม่อยากให้พ่อแม่เห็นอะไร คุณก็ไม่ควรทำสิ่งนั้น.
คุณรู้ไหม . . . ?
เมื่อได้กันแล้ว ผู้ชายมักทิ้งแฟนของตนแล้วไปคบคนใหม่.
แผนปฏิบัติการ
ถ้าฉันอยู่กับเพศตรงข้าม ฉันต้องหลีกเลี่ยงสถานการณ์อะไรบ้าง ․․․․․
ถ้าเพศตรงข้ามอยากอยู่กับฉันในที่ลับตาคน ฉันจะบอกว่า ․․․․․
สิ่งที่ฉันอยากถามพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้คือ ․․․․․
คุณคิดอย่างไร?
● แม้อาจดูน่าลอง แต่ทำไมจึงผิดที่จะมีเซ็กซ์ก่อนแต่งงาน?
● คุณจะทำอย่างไรถ้ามีคนชวนคุณให้มีเซ็กซ์ด้วย?
[คำโปรยหน้า 176]
“เพราะเป็นคริสเตียน เราจึงมีคุณลักษณะที่คนอื่นชื่นชอบ. ดังนั้น ถ้ามีคนแสดงท่าทีว่าชอบเราและพยายามให้เราทำสิ่งที่ไม่เหมาะ เราต้องสังเกตให้ออกและถอยห่างออกมา. เราต้องรักษาคุณลักษณะเหล่านั้นไว้ อย่ายอมเสียมันไป.”—โจชัว
[ภาพหน้า 176, 177]
การมีเซ็กซ์ก่อนแต่งงานเป็นเหมือนการนำภาพวาดที่สวยงามไปใช้เป็นพรมเช็ดเท้า
-
-
ฉันจะเลิกสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองได้อย่างไร?คำถามที่หนุ่มสาวถาม—คำตอบที่ได้ผล เล่ม 1
-
-
บท 25
ฉันจะเลิกสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองได้อย่างไร?
“ผมเริ่มสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองตอนแปดขวบ. ต่อมาผมได้รู้ว่าพระเจ้าคิดอย่างไรในเรื่องนี้. ดังนั้น ทุกครั้งที่ผมกลับไปทำอีก ผมรู้สึกแย่มาก. ผมมักถามตัวเองว่า ‘พระเจ้าจะรักคนอย่างผมได้อย่างไร?’”—ลูอิซ
เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ความต้องการในเรื่องเพศจะรุนแรงขึ้น จึงอาจทำให้คุณสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง.a หลายคนอาจบอกว่า มันไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเพราะ “ไม่ได้ทำให้ใครเสียหาย.” แต่ถึงอย่างนั้นก็มีเหตุผลที่ดีที่จะไม่ทำ เพราะอัครสาวกเปาโลเขียนว่า “จงกำจัดแนวโน้มแบบโลกซึ่งปรากฏในอวัยวะของท่านทั้งหลาย คือ . . . ราคะตัณหา.” (โกโลซาย 3:5) การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองไม่ได้เป็นการกำจัดราคะตัณหา แต่กลับกระตุ้น ให้มีมากขึ้น. และขอพิจารณาเรื่องต่อไปนี้ด้วย.
● การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองทำให้คิดถึงแต่ตัวเองเท่านั้น เช่น ขณะที่สำเร็จความใคร่ คนนั้นจะคิดถึงแต่ความรู้สึกของตัวเอง.
● การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองทำให้คนเรามองเพศตรงข้ามว่าเป็นเพียงเครื่องสนองอารมณ์ทางเพศ.
● การมีความคิดที่เห็นแก่ตัวเช่นนั้นอาจทำให้เรื่องเพศในชีวิตสมรสไม่มีความสุข.
แทนที่จะยอมทำตามแรงกระตุ้นทางเพศด้วยการสำเร็จความใคร่ให้ตัวเอง ให้พยายามฝึกควบคุมตัวเอง. (1 เทสซาโลนิเก 4:4, 5) คุณจะทำอย่างนั้นได้ถ้าทำตามคำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิลที่ให้หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อาจเร้าความรู้สึกทางเพศตั้งแต่ต้น. (สุภาษิต 5:8, 9) แต่จะว่าอย่างไรถ้าคุณสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองอยู่บ่อย ๆ? คุณอาจพยายามเลิกแล้ว แต่ไม่สำเร็จ. คุณเลยคิดว่า ตัวเองคงไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้และไม่มีทางจะทำตามมาตรฐานอันชอบธรรมของพระเจ้าได้. หนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อเปโดรเคยรู้สึกอย่างนั้น. เขาบอกว่า “เมื่อผมกลับไปทำอีก ผมรู้สึกแย่มาก. คงไม่มีอะไรจะลบล้างสิ่งที่ผมทำได้. มันยากมากที่จะอธิษฐานถึงพระเจ้า.”
ถ้าคุณรู้สึกอย่างนั้น ก็อย่าเพิ่งท้อ. เรื่องแบบนี้ยังแก้ไขได้. หลายคนเลิกพฤติกรรมนี้ได้ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นหนุ่มสาวหรือผู้ใหญ่. คุณก็ทำได้.
รับมือกับความรู้สึกผิด
อย่างที่กล่าวไป คนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้จนต้องสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองมักถูกทิ่มแทงด้วยความรู้สึกผิด. ที่จริงแล้ว “ความเสียใจอย่างที่พระเจ้าพอพระทัย” จะช่วยให้คุณพยายามเลิกพฤติกรรมนี้. (2 โครินท์ 7:11) แต่การรู้สึกผิดมากเกินไปไม่เป็นผลดีเลย มีแต่จะทำให้คุณท้อใจจนอยากยอมแพ้ไปเลยก็ได้.—สุภาษิต 24:10
ดังนั้น ให้มองเรื่องนี้ตามความเป็นจริง. การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองเป็นความประพฤติที่ไม่สะอาดอย่างหนึ่ง. มันอาจทำให้คุณกลายเป็น “ทาสความปรารถนาต่าง ๆ และความสนุกสนาน” และทำให้คุณมีทัศนะที่ไม่ถูกต้อง. (ทิทุส 3:3) แต่การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองไม่ได้ถือเป็นการผิดศีลธรรมทางเพศขั้นร้ายแรงเหมือนการผิดประเวณี. (ยูดา 7) ดังนั้น ถ้าคุณมีปัญหานี้ ก็ไม่น่าจะคิดว่าตัวเองทำบาปที่ให้อภัยไม่ได้. ที่สำคัญคือ คุณต้องต้านทานแรงกระตุ้นนั้นและอย่ายอมแพ้เด็ดขาด.
คุณคงท้อใจมากถ้าหวนกลับไปทำอีก. หากเป็นอย่างนั้น ขอให้จำถ้อยคำในสุภาษิต 24:16 ไว้ที่ว่า “แม้ว่าคนชอบธรรมล้มลงถึงเจ็ดหนเขาคงลุกขึ้นได้อีก; แต่เมื่อคนชั่วล้มลงก็ถึงความหายนะ.” ถ้าคุณกลับไปทำอีก นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นคนชั่ว. ดังนั้น อย่ายอมแพ้. แต่ให้คิดดูว่าอะไรทำให้คุณกลับไปทำอีกและพยายามเลี่ยงสิ่งนั้น.
ให้ใคร่ครวญว่าพระเจ้าทรงรักและเมตตาเราอย่างไร. ดาวิดผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญซึ่งเคยมีความอ่อนแอเช่นกันได้บอกว่า “บิดาเมตตาบุตรของตนมากฉันใด, พระยะโฮวาทรงพระเมตตาคนที่ยำเกรงพระองค์มากฉันนั้น. เพราะพระองค์ทรงทราบร่างกายของพวกข้าพเจ้าแล้ว; พระองค์ทรงระลึกอยู่ว่าพวกข้าพเจ้าเป็นแต่ผงคลีดิน.” (บทเพลงสรรเสริญ 103:13, 14) ใช่แล้ว พระยะโฮวาทรงคำนึงถึงความไม่สมบูรณ์ของเราและ “พร้อมจะให้อภัย.” (บทเพลงสรรเสริญ 86:5, ล.ม.) แต่พระองค์ก็อยากให้เราพยายามปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น. ดังนั้น มีขั้นตอนอะไรบ้างที่จะช่วยคุณให้เลิกพฤติกรรมนี้ได้?
เช็คว่าคุณชอบนันทนาการแบบไหน. คุณดูรายการทีวีหรือเว็บไซต์ที่กระตุ้นให้มีอารมณ์ทางเพศไหม? ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญที่ชาญฉลาดได้ทูลต่อพระเจ้าว่า “ขอให้ลูกตาของข้าพเจ้าเมินไปเสียจากของอนิจจัง.”b—บทเพลงสรรเสริญ 119:37
บังคับตัวให้คิดถึงเรื่องอื่น. วิลเลียมซึ่งเป็นคริสเตียนแนะว่า “ให้อ่านเรื่องเกี่ยวกับพระคัมภีร์ก่อนนอน. เรื่องสุดท้ายที่อยู่ในสมองของคุณน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้า.”—ฟิลิปปอย 4:8
เล่าปัญหานี้ให้ใครสักคนฟัง. คุณอาจอายไม่กล้าพูดเรื่องนี้แม้แต่กับคนที่คุณไว้ใจ. แต่การพูดออกมาจะช่วยให้คุณเลิกพฤติกรรมนี้ได้. เดวิดซึ่งเป็นคริสเตียนเห็นว่าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ. เขาบอกว่า “ผมขอคุยกับพ่อตามลำพัง. ผมจะไม่มีวันลืมคำพูดของพ่อ. พ่อยิ้มให้ผมอุ่นใจแล้วบอกว่า ‘ลูกทำให้พ่อภูมิใจมาก.’ พ่อคงรู้ว่ามันยากขนาดไหนกว่าผมจะพูดออกมาได้. รอยยิ้มและคำพูดของพ่อช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นและอยากเลิกให้ได้.
“แล้วพ่อก็เปิดคัมภีร์ไบเบิลให้ผมดูสองสามข้อที่แสดงว่า ผมไม่ได้ ‘ถลำลึกเกินไป’ และอ่านบางข้อเพื่อให้ผมเข้าใจว่าสิ่งที่ผมทำนั้นไม่ถูกต้อง. พ่อกำหนดเวลาช่วงหนึ่งให้ผมเลิกทำ แล้วเมื่อครบกำหนดก็ค่อยกลับมาคุยกันใหม่. พ่อบอกว่า ถ้าผมกลับไปทำอีกก็อย่าท้อ แต่ให้เริ่มใหม่และดูว่าจะอดทนให้นานกว่าเดิมได้ไหม.” สุดท้าย เดวิดสรุปอย่างไร? เขาบอกว่า “สิ่งที่ช่วยผมมากที่สุดคือ การมีใครสักคนมารับรู้ปัญหาและคอยช่วยผม.”c
การมีเซ็กซ์แบบเล่น ๆ ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ. ให้มาดูว่าทำไม.
[เชิงอรรถ]
a การมีแรงกระตุ้นทางเพศตามธรรมชาติกับการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองนั้นต่างกัน. ตัวอย่างเช่น เด็กหนุ่มอาจตื่นขึ้นมาเพราะมีความรู้สึกทางเพศหรือมีการหลั่งอสุจิขณะหลับ. คล้ายกัน เด็กสาวบางคนอาจมีความรู้สึกทางเพศมากกว่าปกติ โดยเฉพาะในช่วงก่อนหรือหลังมีประจำเดือน. แต่การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองเป็นการเจตนา กระตุ้นตัวเองให้มีความรู้สึกทางเพศ.
b สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ดูเล่ม 2 บท 33.
c สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ดูเล่ม 2 หน้า 239-241.
ข้อคัมภีร์หลัก
“จงหนีจากความปรารถนาซึ่งมักเกิดขึ้นในวัยหนุ่มสาว แต่ให้แสวงหาความชอบธรรม ความเชื่อ ความรัก สันติสุข พร้อมกับคนเหล่านั้นที่ทูลขอองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความบริสุทธิ์ใจ.”—2 ติโมเธียว 2:22
ข้อแนะ
เมื่อเริ่มมีแรงกระตุ้นทางเพศ ให้อธิษฐานทันที ก่อนที่มันจะรุนแรงขึ้น. ขอพระยะโฮวาพระเจ้าประทาน “กำลังที่มากกว่าปกติ” ให้คุณเพื่อจะเอาชนะการล่อใจได้.—2 โครินท์ 4:7
คุณรู้ไหม . . . ?
คนที่ทำตามแรงกระตุ้นทางเพศของตนแสดงว่าเป็นคนไม่เข้มแข็ง. แต่คนที่ควบคุมตัวเองได้แม้จะอยู่คนเดียว ถึงจะแน่จริง.
แผนปฏิบัติการ
ฉันจะคิดถึงแต่เรื่องที่สะอาดทางศีลธรรม ถ้าฉัน ․․․․․
แทนที่จะทำตามแรงกระตุ้นทางเพศ ฉันจะ ․․․․․
สิ่งที่ฉันอยากถามพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้คือ ․․․․․
คุณคิดอย่างไร?
● ทำไมจึงสำคัญที่จะจำไว้ว่า พระยะโฮวา “พร้อมจะให้อภัย”?—บทเพลงสรรเสริญ 86:5, ล.ม.
● พระเจ้าสร้างคนเราให้มีแรงกระตุ้นทางเพศ แต่ยังบอกด้วยว่าเราควรควบคุมตัวเอง นี่แสดงว่าพระองค์มั่นใจอะไรในตัวคุณ?
[คำโปรยหน้า 182]
“เมื่อเอาชนะปัญหานี้ได้ ฉันก็มีสติรู้สึกผิดชอบที่สะอาดต่อพระยะโฮวา ฉันจะไม่ยอมเอาอะไรมาแลกกับสิ่งนี้.”—ซารา
[ภาพหน้า 180]
ถ้าวิ่งแล้วล้มลงไม่ได้หมายความว่าคุณต้องกลับไปเริ่มใหม่. ดังนั้น ถ้าคุณกลับไปสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองอีกก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่คุณพยายามมาแล้วไม่มีประโยชน์เลย
-
-
จะว่าอย่างไรกับการมีเซ็กซ์แบบเล่น ๆ?คำถามที่หนุ่มสาวถาม—คำตอบที่ได้ผล เล่ม 1
-
-
บท 26
จะว่าอย่างไรกับการมีเซ็กซ์แบบเล่น ๆ?
“วัยรุ่นชอบ ‘คั่วกัน’ เพื่อดูว่าเขาจะเกินเลยได้ถึงแค่ไหน และดูว่าจะมีเซ็กซ์ได้กับกี่คน.”—เพนนี
“หนุ่ม ๆ พูดเรื่องนี้อย่างเปิดเผย. พวกเขาอวดว่า ถึงมีแฟนแล้วแต่ยังได้นอนกับสาว ๆ อีกหลายคน.”—เอดเวิร์ด
หนุ่มสาวหลายคนในทุกวันนี้มักชอบอวดว่า เขามีเซ็กซ์แบบเล่น ๆ ได้โดยไม่ต้องมีความผูกพันทางอารมณ์. บางคนถึงกับพร้อมจะมีเซ็กซ์กับคนรู้จักโดยไม่อยากมีความผูกพันต่อกัน.
ถ้าคุณอยากเป็นอย่างนั้นบ้าง ก็ไม่น่าแปลกใจ. (ยิระมะยา 17:9) เอดเวิร์ดที่พูดถึงตอนต้นบอกว่า “สาว ๆ หลายคนอยากมีเซ็กซ์กับผม นี่เป็นเรื่องที่ปฏิเสธยากที่สุดตั้งแต่ผมเป็นคริสเตียน. กว่าจะปฏิเสธได้ มันยากมาก.” ถ้ามีใครชวนคุณให้มีเซ็กซ์แบบเล่น ๆ คัมภีร์ไบเบิลมีหลักการอะไรบ้างที่คุณควรจำไว้?
รู้ว่าทำไมการมีเซ็กซ์แบบเล่น ๆ จึงผิด
การผิดประเวณีเป็นบาปร้ายแรง ไม่ว่าทั้งสองคนจะ “รักกัน” หรือทำเพื่อมีเซ็กซ์แบบเล่น ๆ. คนที่ชอบทำอย่างนั้น “จะไม่ได้รับราชอาณาจักรของพระเจ้า.” (1 โครินท์ 6:9, 10) ถ้าคุณมองการผิดประเวณีอย่างที่พระยะโฮวามอง คุณจะต้านทานการล่อใจเหล่านั้นได้.
“ฉันมั่นใจจริง ๆ ว่าแนวทางของพระยะโฮวาเป็นแนวทางชีวิตที่ดีที่สุดเสมอ.”—คาเรน จากแคนาดา
“จำไว้ว่า คุณมีพ่อมีแม่ มีเพื่อน ๆ และมีพี่น้องในประชาคม. ถ้าคุณยอมแพ้การล่อใจ คุณคงทำให้คนเหล่านั้นผิดหวังแน่ ๆ.”—ปีเตอร์ จากอังกฤษ
ถ้าคุณมีทัศนะแบบพระยะโฮวาในเรื่องการผิดประเวณี คุณก็จะ “เกลียดการชั่ว” ไม่ว่ามันจะเย้ายวนใจขนาดไหน.—บทเพลงสรรเสริญ 97:10
แนะให้อ่าน: เยเนซิศ 39:7-10. ดูว่าโยเซฟกล้าหาญแค่ไหนที่ต้านทานการล่อใจให้ทำผิดทางเพศและดูว่าอะไรช่วยท่านให้ต้านทานได้.
ภูมิใจในสิ่งที่คุณเชื่อ
คนหนุ่มสาวมักภูมิใจที่ได้ทำตามอุดมการณ์ของตน. คุณเองก็แสดงได้ว่าคุณภูมิใจในมาตรฐานของพระเจ้าด้วยการประพฤติของคุณ. อย่าอายที่จะบอกคนอื่นว่าคุณมีมาตรฐานอย่างไรในเรื่องนี้.
“บอกให้ทุกคนรู้ตั้งแต่แรกว่า คุณมีหลักศีลธรรมอย่างไร.”—แอลเลน จากเยอรมนี
“หนุ่ม ๆ ที่เรียนชั้นมัธยมด้วยกันรู้ว่าฉันเป็นคนแบบไหน และรู้ด้วยว่าแม้เขาจะพยายามชวนฉันอย่างไรก็ไม่มีทาง เสียเวลาเปล่า.”—วิกกี จากสหรัฐ
การพยายามทำตามสิ่งที่คุณเชื่อแสดงว่า คุณกำลังก้าวหน้าเป็นคริสเตียนที่อาวุโส.—1 โครินท์ 14:20
แนะให้อ่าน: สุภาษิต 27:11. ดูว่าความประพฤติที่ดีของคุณทำให้พระยะโฮวายินดีขนาดไหน.
ให้หนักแน่น
การปฏิเสธเป็นสิ่งสำคัญ. แต่บางคนอาจคิดว่าที่คุณปฏิเสธนั้นเป็นการ “เล่นตัว.”
“คุณควรแสดงว่าคุณปฏิเสธจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิธีแต่งตัว วิธีพูด คนที่คุณคุยด้วย และวิธีที่คุณปฏิบัติต่อคนอื่น.”—จอย จากไนจีเรีย
“ต้องทำให้เขารู้ชัดเจนว่า คุณไม่มีทางนอนกับเขา. อย่ารับของขวัญจากหนุ่ม ๆ ที่ต้องการนอนกับคุณ เพราะพวกเขาจะคิดว่าคุณต้องตอบแทนเขาด้วยการนอนกับเขา.”—ลารา จากอังกฤษ
เมื่อเห็นว่าคุณเป็นคนหนักแน่น พระยะโฮวาก็พร้อมจะช่วยคุณ. ดาวิดผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญพูดถึงพระยะโฮวาจากประสบการณ์ส่วนตัวว่า “พระองค์จะทรงปฏิบัติด้วยความภักดีต่อผู้ที่ภักดี.”—บทเพลงสรรเสริญ 18:25, ล.ม.
แนะให้อ่าน: 2 โครนิกา 16:9. สังเกตว่าพระยะโฮวาอยากช่วยคนที่ต้องการทำสิ่งที่ถูกต้องจริง ๆ.
มองการณ์ไกล
คัมภีร์ไบเบิลบอกไว้ว่า “คนฉลาดมองเห็นภัยแล้วหนีไปซ่อนตัว.” (สุภาษิต 22:3) คุณจะทำตามคำแนะนำนี้อย่างไร? โดยมองการณ์ไกล.
“อย่าคบคนที่ชอบพูดเรื่องแบบนั้น.”—นาโอมิ จากญี่ปุ่น
“อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณแก่ใคร ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์.”—ไดอานา จากอังกฤษ
ให้สังเกตการพูด ความประพฤติ และการคบหาของคุณเอง รวมทั้งสถานที่ที่คุณชอบไป. แล้วถามตัวเองว่า ‘ฉันกำลังให้ท่าคนอื่นโดยไม่รู้ตัวไหม?’
แนะให้อ่าน: เยเนซิศ 34:1, 2. ดูว่าการอยู่ในสถานที่ที่ไม่เหมาะทำให้เกิดผลที่น่าเศร้าต่อเด็กสาวชื่อดีนาอย่างไร.
จำไว้ว่า สำหรับพระยะโฮวาพระเจ้า การมีเซ็กซ์แบบเล่น ๆ ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ และคุณก็น่าจะคิดอย่างเดียวกัน. โดยการยืนหยัดทำสิ่งที่ถูกต้อง คุณจะมีสติรู้สึกผิดชอบที่สะอาดต่อพระเจ้าและยังคงนับถือตัวเองด้วย. วัยรุ่นที่ชื่อคาร์ลีบอกว่า “ทำไมจะยอมให้คนอื่นมา ‘ใช้’ คุณเพื่อสนองตัณหาของเขาล่ะ? ในเมื่อที่ผ่านมาคุณได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะรักษาสติรู้สึกผิดชอบให้สะอาด ก็ขอให้ทำแบบนี้ต่อ ๆ ไป.”
จริง ๆ แล้วผู้ชายชอบผู้หญิงแบบไหนกันแน่? คุณอาจแปลกใจก็ได้.
ข้อคัมภีร์หลัก
‘จงพยายามสุดกำลัง เพื่อในที่สุด [พระเจ้า] จะทรงเห็นว่าคุณปราศจากด่างพร้อยและตำหนิ และมีสันติสุข.’—2 เปโตร 3:14
ข้อแนะ
อย่าสนใจแต่สิ่งภายนอก แต่ให้พัฒนานิสัยที่ดี. (1 เปโตร 3:3, 4) ถ้าคุณมีนิสัยดี คนดี ๆ ก็จะสนใจคุณ.
คุณรู้ไหม . . . ?
พระยะโฮวาอยากให้เรามีความสุขจากการมีเซ็กซ์อย่างที่พระองค์ออกแบบไว้ คือกับคู่สมรสของตน โดยไม่ต้องรู้สึกกังวล ไม่มั่นคง และไม่ต้องเสียใจภายหลังเหมือนกับการผิดประเวณี.
แผนปฏิบัติการ
ฉันจะเลียนแบบโยเซฟที่ตั้งใจไม่ทำผิดศีลธรรมทางเพศ ถ้าฉัน ․․․․․
ฉันจะไม่ทำผิดพลาดเหมือนดีนา ถ้าฉัน ․․․․․
สิ่งที่ฉันอยากถามพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้คือ ․․․․․
คุณคิดอย่างไร?
● แม้การมีเซ็กซ์แบบเล่น ๆ อาจดูเหมือนน่าลอง แต่ทำไมจึงผิด?
● ถ้ามีคนชวนคุณให้มีเซ็กซ์กับเขา คุณจะทำอย่างไร?
[คำโปรยหน้า 185]
“ให้หนักแน่นไว้ อย่าใจอ่อน. เมื่อหนุ่มคนหนึ่งแสดงท่าทีว่าอยากให้ฉันนอนกับเขา ฉันบอกว่า ‘เอามือออกจากไหล่ฉันเดี๋ยวนี้.’ ฉันมองเขาด้วยสายตาที่เอาเรื่อง แล้วก็เดินหนีไป.”—เอลเลน
[ภาพหน้า 187]
ถ้าคุณยอมมีเซ็กซ์แบบเล่น ๆ คุณก็ทำให้ตัวเองด้อยค่า
-