-
ตอนที่ 6—การนำการศึกษาพระคัมภีร์ที่ช่วยให้นักศึกษาก้าวหน้าพระราชกิจ 2005 | กุมภาพันธ์
-
-
ตอนที่ 6—การนำการศึกษาพระคัมภีร์ที่ช่วยให้นักศึกษาก้าวหน้า
เมื่อนักศึกษาถามคำถาม
1 เมื่อการศึกษาพระคัมภีร์ดำเนินไปอย่างดี ตามปกติแล้ว นับว่าดีที่สุดที่จะพิจารณาคำสอนในคัมภีร์ไบเบิลเป็นเรื่อง ๆ ไปแทนที่จะเปลี่ยนเรื่องไปมา. การทำเช่นนี้จะช่วยสร้างพื้นฐานให้กับนักศึกษาในเรื่องความรู้ถ่องแท้และเพื่อจะก้าวหน้าทางฝ่ายวิญญาณ. (โกโล. 1:9, 10) แต่นักศึกษามักจะถามคำถามหลายเรื่องขณะที่กำลังศึกษา. เราควรจะรับมืออย่างไร?
2 จงแสดงความสังเกตเข้าใจ: ปกติแล้ว คำถามที่เกี่ยวกับเรื่องที่กำลังพิจารณาสามารถตอบได้ทันที. หากหนังสือที่ใช้ศึกษามีการพิจารณาคำถามนั้นในภายหลัง คุณอาจบอกแค่ว่าเราจะพิจารณาคำถามดังกล่าวเมื่อถึงบทนั้น. อย่างไรก็ตาม ถ้าคำถามนั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ศึกษาหรือต้องค้นคว้าเพื่อจะได้คำตอบที่ถูกต้อง นับว่าดีกว่าที่จะพิจารณาเรื่องนั้นหลังจากจบการศึกษาหรือในเวลาอื่น. ผู้ประกาศบางคนพบว่า การเขียนคำถามลงในกระดาษเป็นการรับรองกับนักศึกษาว่า คำถามของเขาเป็นเรื่องสำคัญจริง ๆ และช่วยไม่ให้การศึกษานั้นเขวออกนอกเรื่อง.
3 หนังสือของเราที่ใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการศึกษามีการพิจารณาคำสอนของคัมภีร์ไบเบิลหลายเรื่องเพียงสั้น ๆ. จะว่าอย่างไรหากนักศึกษารู้สึกว่ายากที่จะยอมรับคำสอนบางอย่างหรือเขายึดมั่นกับความเชื่อเท็จอย่างเหนียวแน่น? นับว่าเป็นประโยชน์ที่จะพิจารณาเนื้อหาอย่างละเอียดว่าคัมภีร์ไบเบิลกล่าวเช่นไรในเรื่องนั้น. ถ้านักศึกษายังไม่เชื่อ ให้พักเรื่องนั้นไว้ก่อนและศึกษาต่อไปตามปกติ. (โย. 16:12) เมื่อเขาได้รับความรู้จากพระคัมภีร์มากขึ้นและก้าวหน้าฝ่ายวิญญาณ เขาอาจเข้าใจคำสอนของคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้ดีขึ้น.
4 จงถ่อมใจ: หากคุณไม่แน่ใจในคำตอบ อย่าเสี่ยงที่จะแสดงความคิดเห็นของตนเอง. (2 ติโม. 2:15; 1 เป. 4:11) จงอธิบายว่า คุณจะค้นคว้าและกลับมาตอบคำถามนี้. คุณอาจใช้โอกาสนี้สอนนักศึกษาถึงวิธีค้นคว้าก็ได้. ค่อย ๆ สอนเขาเป็นขั้น ๆ ให้เห็นวิธีใช้เครื่องมือค้นคว้าที่จัดเตรียมโดยองค์การของพระยะโฮวา. โดยวิธีนี้ เขาจะสามารถตอบคำถามของตัวเองได้ในที่สุด.—กิจ. 17:11.
-
-
จงช่วยพวกเขาให้ได้รับคำพยานเพิ่มเติมพระราชกิจ 2005 | กุมภาพันธ์
-
-
จงช่วยพวกเขาให้ได้รับคำพยานเพิ่มเติม
1 เมื่อเราประกาศข่าวดี บ่อยครั้งเราพบคนที่มาจากเขตอื่นหรือคนที่พูดภาษาอื่น รวมทั้งภาษามือ. ส่วนคนที่เราพูดคุยเรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิลด้วยกันเป็นอย่างดีก็อาจย้ายไปเขตอื่น. เราจะจัดการให้คนเหล่านี้ได้รับคำพยานเพิ่มเติมได้อย่างไร? โดยใช้แบบฟอร์มโปรดติดตาม (S-43).
2 ผู้คนมักจะตั้งใจฟังข่าวดีมากกว่าเมื่อได้ยินข่าวดีนั้นในภาษาของเขาเอง. (กิจ. 22:1, 2) ด้วยเหตุนี้ ส่วนใหญ่แล้ว เมื่อเราพบคนที่พูดภาษาอื่น เราควรกรอกแบบฟอร์มนี้แม้บุคคลดังกล่าวไม่แสดงความสนใจในข่าวสารราชอาณาจักร. อย่างไรก็ตาม ในเขตที่มีคนต่างชาติมากและมีการให้คำพยานกับพวกเขาเป็นประจำอยู่แล้วในภาษาของเขาเอง อาจไม่จำเป็นต้องกรอกแบบฟอร์มนี้เว้นแต่เขาจะแสดงความสนใจ.
3 การกรอกแบบฟอร์ม: พยายามขอชื่อ, ที่อยู่, และเบอร์โทรศัพท์ของเขาอย่างผ่อนหนักผ่อนเบา. จงระบุในแบบฟอร์มว่าเขาสนใจมากหรือน้อย, จะติดต่อเขาได้เมื่อไร, ได้รับหนังสือหรือขอหนังสืออะไรบ้าง, และภาษาที่เขาเข้าใจดีที่สุด. หลังจากกรอกแบบฟอร์มเรียบร้อยแล้ว ส่งให้เลขาธิการประชาคมทันที เขาจะส่งแบบฟอร์มนั้นไปยังประชาคมหรือกลุ่มที่เหมาะสมต่อไป.
4 การส่งแบบฟอร์ม: หากเลขาธิการไม่ทราบว่าควรส่งแบบฟอร์มนี้ไปที่ประชาคมใดหรือกลุ่มใด หรือไม่มีที่อยู่ทางไปรษณีย์ของประชาคมนั้น เขาอาจโทรถามแผนกการรับใช้ที่สำนักงานสาขาเพื่อขอข้อมูลที่จำเป็น.
5 เมื่อไรก็ตามที่ประชาคมหรือกลุ่มได้รับแบบฟอร์มโปรดติดตาม ที่กรอกเรียบร้อยแล้ว ควรมอบหมายพี่น้องให้ไปเยี่ยมบุคคลนั้นทันที. เมื่อเราทำส่วนของเราอย่างขยันขันแข็ง เราจะมั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาจะเปิดหัวใจคนที่ “มีความโน้มเอียงอย่างถูกต้องเพื่อชีวิตนิรันดร์.”—กิจ. 13:48, ล.ม.
-
-
คำประกาศพระราชกิจ 2005 | กุมภาพันธ์
-
-
คำประกาศ
▪ หนังสือที่จะเสนอในเดือนมกราคม: เคล็ดลับสำหรับความสุขในครอบครัว, ท่านจะมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไปในอุทยานบนแผ่นดินโลก, คำถามที่หนุ่มสาวถาม—คำตอบที่ได้ผล, หรือหนังสืออื่นที่พิมพ์ก่อนปี 1995. กุมภาพันธ์: จงเข้าใกล้พระยะโฮวา หรือหนังสือชีวิต—เกิดขึ้นมาอย่างไร? โดยวิวัฒนาการหรือมีผู้สร้าง. มีนาคม: จุลสารจงเฝ้าระวังอยู่เสมอ! หากเจ้าของบ้านแสดงความสนใจจริง ๆ ให้เสนอหนังสือความรู้ พยายามเป็นพิเศษที่จะเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์. เมษายนและพฤษภาคม: เสนอวารสารหอสังเกตการณ์ และตื่นเถิด! ฉบับปลีก. เมื่อกลับเยี่ยมผู้สนใจ ซึ่งอาจรวมถึงผู้ที่เคยเข้าร่วมการประชุมอนุสรณ์หรือการประชุมอื่น ๆ ตาม
-