-
รายงานการประกาศของเดือนสิงหาคมพระราชกิจ 2004 | ธันวาคม
-
-
รายงานการประกาศของเดือนสิงหาคม
เฉลี่ย เฉลี่ย เฉลี่ย เฉลี่ย
ผู้ประกาศ: ช.ม. วารสาร ย.ย. ศึกษา
ไพฯพิเศษ 76 120.8 62.7 47.8 7.6
ไพฯประจำ 210 68.2 32.1 23.0 3.9
ไพฯสมทบ 88 53.5 26.4 17.0 2.9
ผู้ประกาศฯ 1,763 9.0 7.3 3.0 0.5
รวมผู้ประกาศ 2,137 คน
-
-
การประชุมภาคของพยานพระยะโฮวาปี 2005 “การเชื่อฟังด้วยความเลื่อมใสในพระเจ้า”พระราชกิจ 2004 | ธันวาคม
-
-
การประชุมภาคของพยานพระยะโฮวาปี 2005 “การเชื่อฟังด้วยความเลื่อมใสในพระเจ้า”
1 พระยะโฮวาพระเจ้า พระบรมครูของเราทรงจัดเตรียมให้เราชุมนุมกันเพื่อจะได้รับการสอนในแนวทางของพระองค์. (ยซา. 30:20, 21; 54:13) พระองค์ทรงทำเช่นนี้โดยผ่านทางทาสสัตย์ซื่อและสุขุม ซึ่งจัดให้มีการประชุมต่าง ๆ อย่างเช่น การประชุมภาคประจำปี. (มัด. 24:45-47, ล.ม.) เรามีทัศนะเช่นเดียวกับดาวิด ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญซึ่งร้องเพลงว่า “ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระยะโฮวาท่ามกลางชุมนุมชน.” (เพลง. 26:12, ล.ม.) ดาวิดเข้าใจชัดเจนถึงคุณค่าของการได้รับการสอนจากพระยะโฮวา และท่านตั้งใจแน่วแน่ที่จะอยู่ท่ามกลางประชาชนของพระองค์เมื่อไรก็ตามที่พวกเขาชุมนุมกัน.
2 คุณจะอยู่ท่ามกลาง “ชุมนุมชน” ที่เข้าร่วมการประชุมภาค “การเชื่อฟังด้วยความเลื่อมใสในพระเจ้า” ในเดือนตุลาคมปี 2005 ไหม? ถ้าใช่ ข้อมูลดังต่อไปนี้คงจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณเพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมการประชุม.
3 จงวางแผนตั้งแต่ตอนนี้เพื่อจะเข้าร่วมทุกวัน: “แผนการของคนขยันก่อผลประโยชน์แน่นอน.” (สุภา. 21:5, ล.ม.) ถ้อยคำเหล่านี้เน้นถึงคุณค่าของการวางแผนเพื่อจะเข้าร่วมการประชุมภาคโดยไม่ให้สิ่งใดมาขัดขวางมิใช่หรือ? เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่พลาดระเบียบวาระที่ให้ความสดชื่นทางฝ่ายวิญญาณไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม นับว่าสุขุมที่จะเริ่มเตรียมทุกสิ่งที่จำเป็นเสียแต่บัดนี้เพื่อคุณจะเข้าร่วมประชุมได้ทั้งสามวัน. หากคุณต้องขอลางานจากนายจ้าง จงทำทันที. หากต้องคุยเรื่องแผนการของคุณกับคู่สมรสที่ไม่เชื่อ อย่าทำในนาทีสุดท้าย. เมื่อไรก็ตามที่เกิดปัญหา จงอธิษฐานฝากเรื่องนั้นไว้กับพระยะโฮวา โดยไว้ใจว่า ด้วยความช่วยเหลือจากพระองค์ “จุดประสงค์ของเจ้าจะสำเร็จผล.” (สุภา. 16:3) นอกจากนี้ นับว่าดีที่จะช่วยนักศึกษาของคุณเตรียมตัวเพื่อจะเข้าร่วมการประชุมได้ทุกส่วน.
4 คนที่มีความจำเป็นพิเศษ: อัครสาวกเปาโลพรรณนาถึงพี่น้องบางคนว่าเป็น “ผู้ช่วยเสริมกำลัง” แก่ท่าน. (โกโล. 4:7-11, ล.ม.) วิธีหนึ่งที่พวกเขาช่วยคือ การเอาใจใส่ต่อความจำเป็นส่วนตัวของเปาโล. คุณจะเป็น “ผู้ช่วยเสริมกำลัง” แก่คนอื่น ๆ ในเรื่องการประชุมภาคได้อย่างไร? ผู้ประกาศที่สูงอายุ, เจ็บป่วย, คนที่รับใช้เต็มเวลา, และคนอื่น ๆ อาจต้องการความช่วยเหลือในเรื่องการเดินทางและที่พัก. ญาติของเขามีหน้าที่รับผิดชอบเป็นอันดับแรกที่จะเอาใจใส่พวกเขา. (1 ติโม. 5:4) อย่างไรก็ตาม หากญาติไม่สามารถทำได้ เพื่อนร่วมความเชื่ออาจให้การช่วยเหลือได้. (ยโก. 1:27) ผู้ดูแลการศึกษาหนังสือประจำประชาคมควรสอบถามพี่น้องในกลุ่มที่มีความจำเป็นพิเศษ เพื่อจะแน่ใจว่าเขาได้วางแผนเกี่ยวกับการประชุมภาคไว้แต่เนิ่น ๆ.
5 ต้องการอาสาสมัคร: พระเยซูทรงวางแบบอย่างในเรื่องการเอาใจใส่ผู้อื่นอย่างถ่อมใจ. (ลูกา 9:12-17; โย. 13:5, 14-16) เหล่าอาสาสมัครที่ทำงาน ณ การประชุมภาคก็สะท้อนถึงน้ำใจเช่นเดียวกัน. อีกไม่ช้า คณะกรรมการการประชุมภาคจะเชิญคนอื่นให้ทำงานกับพวกเขาเพื่อสนองความจำเป็นของแผนกต่าง ๆ ของการประชุมภาค. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีความต้องการผู้ปกครองเพื่อทำงานอาสาสมัครและรับหน้าที่มอบหมาย. ความเต็มใจของเขาเป็นแบบอย่างแก่ทุกคนในประชาคม.—1 เป. 5:2, 3.
6 สิ่งที่คนทั่วไปเห็น: ผู้จัดการฝ่ายขายของโรงแรมแห่งหนึ่งกล่าวว่า “พวกคุณเป็นแขกที่เราชอบมาก. พวกคุณมีความประพฤติเรียบร้อยเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ. แม่บ้านทุกคนพูดว่า พวกคุณปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างกรุณาและให้ทิปพวกเขาด้วย. ที่จริง ทุกคนต้องการทำงานในช่วงสุดสัปดาห์ที่พวกคุณพักที่นี่!” ตัวแทนของโรงแรมอีกแห่งหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “การต้อนรับพยานพระยะโฮวาเป็นงานที่ง่ายที่สุด.” บางที แบบอย่างในเรื่องความประพฤติของคุณสนับสนุนคำกล่าวเหล่านี้. ลองนึกดูสิว่า พระยะโฮวาจะรู้สึกยินดีสักเพียงไรเมื่อเห็นเราประพฤติในแบบที่จะนำคำสรรเสริญมาสู่พยานของพระองค์!—1 เป. 2:12.
7 โดยผ่านทาง “คนต้นเรือนสัตย์ซื่อ” พระยะโฮวาพระเจ้าทรงจัดเตรียมให้ประชาชนของพระองค์มาชุมนุมกันเพื่อรับการสอนทางฝ่ายวิญญาณในเดือนตุลาคมปี 2005. (ลูกา 12:42) การเตรียมตัวเพื่อเข้าร่วมประชุมทั้งสามวันเรียกร้องความพยายาม แต่ก็คุ้มค่า. การประชุมภาคปี 2005 “การเชื่อฟังด้วยความเลื่อมใสในพระเจ้า” จะเสริมความตั้งใจของเราอย่างแท้จริงที่จะรับใช้พระยะโฮวาในตอนนี้และตลอดไป. ขอเราตั้งใจแน่วแน่ที่จะติดตามคำกระตุ้นเตือนของผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญที่ว่า “จงสรรเสริญพระเจ้า คือพระยะโฮวา ในที่ประชุม.”—เพลง. 68:26.
[กรอบหน้า 3]
เวลาประชุม
วันศุกร์และวันเสาร์
9:30 น. – ประมาณ 17:05 น.
วันอาทิตย์
9:30 น. – ประมาณ 16:10 น.
-
-
ตอนที่ 3—การนำการศึกษาพระคัมภีร์ที่ช่วยให้นักศึกษาก้าวหน้าพระราชกิจ 2004 | ธันวาคม
-
-
ตอนที่ 3—การนำการศึกษาพระคัมภีร์ที่ช่วยให้นักศึกษาก้าวหน้า
การใช้พระคัมภีร์อย่างบังเกิดผล
1. เหตุใดเราควรเน้นที่พระคัมภีร์เมื่อนำการศึกษา?
1 จุดประสงค์ของเราในการนำการศึกษาพระคัมภีร์คือ เพื่อ ‘ทำให้คนเป็นสาวก’ โดยช่วยผู้คนให้เข้าใจและยอมรับคำสอนจากพระคำของพระเจ้าและนำคำสอนเหล่านั้นไปใช้ในชีวิตของพวกเขา. (มัด. 28:19, 20, ล.ม.; 1 เธ. 2:13) ด้วยเหตุนี้ การศึกษาควรอาศัยพระคัมภีร์เป็นหลัก. ตอนแรก นับว่าเป็นประโยชน์ที่จะแสดงให้นักศึกษาเห็นว่าจะหาข้อพระคัมภีร์ข้อใดข้อหนึ่งจากคัมภีร์ไบเบิลของเขาเองอย่างไร. กระนั้น เราจะใช้พระคัมภีร์เพื่อช่วยให้นักศึกษาก้าวหน้าทางฝ่ายวิญญาณได้อย่างไร?
2. เราจะตัดสินใจได้อย่างไรว่า ข้อพระคัมภีร์ข้อใดที่ควรอ่านและนำมาพิจารณา?
2 เลือกข้อพระคัมภีร์ที่จะอ่าน: เมื่อคุณเตรียมตัว จงค้นดูว่าพระคัมภีร์แต่ละข้อที่อ้างถึงในบทเรียนเกี่ยวข้องอย่างไรกับจุดสำคัญที่จะพิจารณา และตัดสินใจว่าจะเลือกอ่านและพิจารณาข้อใดในระหว่างการศึกษา. โดยทั่วไปแล้ว นับว่าดีที่จะอ่านข้อที่เป็นพื้นฐานสำหรับความเชื่อของเรา. อาจไม่จำเป็นต้องอ่านข้อที่บอกให้ทราบถึงภูมิหลัง. จงคำนึงถึงความจำเป็นและสภาพการณ์ของนักศึกษาแต่ละคน.
3. การใช้คำถามมีประโยชน์เช่นไร และเราจะทำเช่นนี้ได้อย่างไร?
3 ใช้คำถาม: แทนที่คุณจะอธิบายข้อความในพระคัมภีร์ให้นักศึกษาฟัง จงขอให้เขาอธิบาย. คุณอาจใช้คำถามอย่างชำนิชำนาญเพื่อกระตุ้นให้เขาอธิบาย. หากความหมายของข้อพระคัมภีร์นั้นชัดเจนอยู่แล้ว คุณอาจเพียงแต่ถามว่าข้อนี้สนับสนุนสิ่งที่กล่าวในวรรคนั้นอย่างไร. ในกรณีอื่น ๆ อาจจำเป็นต้องใช้คำถามที่เฉพาะเจาะจงกว่าหรือใช้คำถามหลายข้อเพื่อชี้นำให้นักศึกษาได้ข้อสรุปที่ถูกต้อง. หากจำเป็นต้องอธิบายเพิ่มเติม อาจทำได้หลังจากนักศึกษาตอบคำถามแล้ว.
4. เราจำเป็นต้องอธิบายข้อพระคัมภีร์ที่อ่านมากขนาดไหน?
4 อธิบายแบบง่าย ๆ: คนยิงธนูที่ชำนาญมักจะต้องใช้ลูกธนูเพียงดอกเดียวเพื่อยิงเป้าหมาย. ในทำนองคล้ายกัน ครูที่ชำนาญไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดมากมายเพื่อเน้นจุดสำคัญ. เขาจะถ่ายทอดความรู้ในแบบที่เข้าใจได้ง่าย, ชัดเจน, และถูกต้อง. บางครั้ง คุณอาจจำเป็นต้องค้นคว้าในหนังสือต่าง ๆ ของคริสเตียนเพื่อจะเข้าใจข้อพระคัมภีร์และอธิบายได้อย่างถูกต้อง. (2 ติโม. 2:15) แต่อย่าพยายามอธิบายพระคัมภีร์แต่ละข้อในทุกแง่มุมขณะที่ศึกษา. ให้อธิบายเฉพาะสิ่งที่ช่วยเน้นจุดสำคัญที่กำลังพิจารณา.
5, 6. เราจะช่วยนักศึกษาให้นำพระคำของพระเจ้าไปใช้ในชีวิตได้อย่างไร แต่เราไม่ควรทำอะไร?
5 นำไปใช้ได้จริง: เมื่อเห็นว่าเหมาะสม จงช่วยนักศึกษาให้เห็นว่าเขาจะนำพระคัมภีร์ข้อนี้ไปใช้เป็นส่วนตัวได้อย่างไร. ตัวอย่างเช่น เมื่อพิจารณาเฮ็บราย 10:24, 25 กับนักศึกษาซึ่งยังไม่เคยเข้าร่วมการประชุมคริสเตียน คุณอาจพูดถึงการประชุมรายการหนึ่งและเชิญเขาเข้าร่วมการประชุมนั้น. แต่ไม่ควรกดดันเขา. จงให้พระคำของพระเจ้ากระตุ้นเขาให้ปฏิบัติในสิ่งที่ทำให้พระยะโฮวาพอพระทัย.—เฮ็บ. 4:12.
6 เมื่อเราทำงานมอบหมายในการทำให้คนเป็นสาวก ขอเรา “ส่งเสริมการเชื่อฟังด้วยความเชื่อ” โดยใช้พระคัมภีร์อย่างบังเกิดผล.—โรม 16:26, ล.ม.
-