ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • พก 3/11 น. 3-4
  • การเดินทางในป่าเกิดผล

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • การเดินทางในป่าเกิดผล
  • พระราชกิจของเรา 2011
  • หัวเรื่องย่อย
  • (จาก​หนังสือ​ประจำ​ปี 2010 หน้า 225 วรรค 1 ถึง​หน้า 226 วรรค 2)
  • การ​เดิน​ป่า—การ​ประกาศ​ใน​ป่า​ดิบ​ชื้น
  • (จาก​หนังสือ​ประจำ​ปี 2010 หน้า 227 ถึง​หน้า 228)
พระราชกิจของเรา 2011
พก 3/11 น. 3-4

การ​เดิน​ทาง​ใน​ป่า​เกิด​ผล

(จาก​หนังสือ​ประจำ​ปี 2010 หน้า 225 วรรค 1 ถึง​หน้า 226 วรรค 2)

ถึง​แม้​ว่า​มี​การ​ประกาศ​ใน​เมือง​หลวง​และ​เมือง​ใหญ่ ๆ ใน​ประเทศ​เบลิซ​อย่าง​ถี่ถ้วน แต่​ใน​เขต​ชนบท​ก็​ไม่​ค่อย​ได้​ประกาศ​กัน. มิชชันนารี​รุ่น​แรก​ได้​เคย​ไป​เมือง​ทาง​ใต้​โดย​ทาง​เรือ แต่​ต่อ​มา​มี​การ​สร้าง​ถนน​ระหว่าง​เขต​สทานน์​กรีก​และ​โทลีโด​เข้า​กับ​เขต​อื่น ๆ. จาก​นั้น ต้น​ปี 1971 สาขา​ได้​จัด​ให้​มี​การ​ประกาศ​เรื่อง​ราชอาณาจักร แก่​ชาว​โมแพน​และ​เคคชิมายา​ที่​อยู่​ห่าง​ไกล​ใน​ป่า​ดิบ​ชื้น​ของ​เบลิซ​ปี​ละ​ครั้ง​ซึ่ง​เรียก​ว่า​การ​เดิน​ป่า.

พี่​น้อง​ต้อง​เช่า​รถ​และ​ใช้​เรือ​แคนู เพื่อ​จะ​ไป​ให้​ถึง​หมู่​บ้าน​และ​เมือง​ต่าง ๆ จาก​แดน​กรี​กา​ถึง​พัน​ทา​กอร์​ดา​และ​ไป​ทาง​ใต้​จน​ถึง​บาร์​แรน​โค ซึ่ง​อยู่​ใกล้ ๆ ชายแดน​ที่​ติด​กับ​กัวเตมาลา. บาง​ครั้ง​พวก​เขา​เดิน​ทาง​โดย​รถ​ตู้​และ​มี​พี่​น้อง​สอง​ถึง​สี่​คน​ขี่​มอเตอร์ไซค์​ไป​ด้วย. ขณะ​ที่​พี่​น้อง​ส่วน​ใหญ่​ประกาศ​ใน​หมู่​บ้าน พี่​น้อง​ที่​ขี่​มอเตอร์ไซค์​ก็​ไป​ประกาศ​ตาม​เรือก​สวน​ไร่​นา​ที่​ไกล​ออก​ไป แต่​ละ​คืน​พวก​เขา​จะ​หยุด​พัก​ตาม​หมู่​บ้าน​ต่าง ๆ.

ใน​เขต​พันทากอร์ดา พี่​น้อง​แบก​สัมภาระ​จาก​หมู่​บ้าน​หนึ่ง​ไป​ยัง​อีก​หมู่​บ้าน​หนึ่ง. บ่อย​ครั้ง พวก​เขา​ต้อง​ไป​ขอ​พบ​ออล์คาล์ดี (ผู้​ใหญ่​บ้าน) ใน​คาบิลโด ซึ่ง​เป็น​ศาลา​ที่​ประชุม​สำหรับ​ผู้​เฒ่า​ผู้​แก่​ของ​หมู่​บ้าน​ก่อน​แล้ว​จึง​ไป​ประกาศ​กับ​ลูก​บ้าน.

ไรเนอร์ ทอมป์สัน​ซึ่ง​เป็น​มิชชันนารี​เล่า​ว่า “ครั้ง​หนึ่ง​พี่​น้อง​ไป​ถึง​หมู่​บ้าน​หนึ่ง​ขณะ​ที่​พวก​ผู้​เฒ่า​ผู้​แก่​กำลัง​ประชุม​กัน​เรื่อง​ขั้น​ตอน​การ​เก็บ​ข้าว​โพด. เมื่อ​พวก​เขา​ประชุม​กัน​เสร็จ พวก​เขา​ขอ​ให้​พี่​น้อง​เรา​ร้อง​เพลง​ราชอาณาจักร​ให้​ฟัง. ตอน​นั้น​พี่​น้อง​ทั้ง​เหนื่อย​และ​หิว​อีก​ทั้ง​ไม่​มี​หนังสือ​เพลง. แต่​พวก​เขา​ก็​พยายาม​เต็ม​ที่​ที่​จะ​ร้อง ทำ​ให้​พวก​นั้น​พอ​ใจ​อย่าง​มาก.” เวลา​ต่อ​มา​ได้​มี​การ​ตั้ง​ประชาคม​ที่​หมู่​บ้าน​แมงโกครีก และ​ก็​ที่​ซาน แอนโตนิโอ ซึ่ง​เป็น​หมู่​บ้าน​ที่​ใหญ่​ที่​สุด​ของ​ชาว​มายา.

ซานติอาโก โซซา​เล่า​ว่า “เพื่อ​ให้​ได้​ตาม​ที่​เรา​วาง​แผน​ไว้ บาง​ครั้ง​เรา​ต้อง​เดิน​ทาง​จาก​หมู่​บ้าน​หนึ่ง​ไป​อีก​หมู่​บ้าน​หนึ่ง​ใน​ตอน​กลางคืน. เรา​ต้อง​เดิน​แถว​เรียง​หนึ่ง​กลางถนน เพราะ​สอง​ข้าง​ทาง​อาจ​จะ​มี​งู​ซุก​ซ่อน​อยู่​ใน​พุ่ม​ไม้. เรา​ยัง​ต้องรู้​วิธี​ที่​จะ​หา​น้ำ​ดื่ม​จาก​ไม้​เลื้อย​ที่​ขึ้น​ตาม​ป่า​เมื่อ​น้ำ​ของ​เรา​หมด.”

บาง​ครั้ง​พวก​เขา​ออก​ไป​ประกาศ​เป็น​คู่​หรือ​สอง​คู่​ตาม​ที่​ต่าง ๆ ของ​หมู่​บ้าน. ใน​ตอน​เย็น​พวก​เขา​ทุก​คน​จะ​มา​พบ​กัน​อีก​ครั้ง​หนึ่ง จะ​มี​สอง​คน​อยู่​ที่​บ้าน​เพื่อ​ทำ​อาหาร. ซานติอาโก​เล่า​ติด​ตลก​ว่า “พวก​เรา​เกือบ​ตาย​เพราะ​บาง​คน​ทำ​อาหาร​ไม่​เป็น​เลย. ผม​จำ​ได้​ว่า​เมื่อ​เห็น​อาหาร​มื้อ​หนึ่ง​และ​ถาม​ว่า ‘นี่​อะไร​เนี่ย?’ คน​ทำ​อาหาร​ตอบ​ว่า ‘ผม​ก็​ไม่​รู้ แต่​มัน​เป็น​อาหาร.’ ถ้า​คน​ทำ​อาหาร​เอง​ยัง​เรียก​ไม่​ถูก​ว่า​มัน​คือ​อะไร พวก​เรา​เลย​คิด​ว่า​เรา​น่า​จะ​ให้​หมา​หิว​โซ​ข้าง​ถนน​ลอง​กิน​ก่อน. ปรากฏ​ว่า​แม้​แต่​หมา​หิว​โซ​ก็​ยัง​ไม่​กิน​เลย!”

การ​เดิน​ป่า—การ​ประกาศ​ใน​ป่า​ดิบ​ชื้น

(จาก​หนังสือ​ประจำ​ปี 2010 หน้า 227 ถึง​หน้า 228)

มาร์ทา ไซมอนส์​เล่า​ว่า “เดือน​มีนาคม 1991 พี่​น้อง​ชาย​หญิง 23 คน​จาก​ทั่ว​ประเทศ​มา​พบ​กัน​ที่​พัน​ทากอร์ดา​เพื่อ​ลุย​ป่า​ประกาศ​สิบ​วัน​ใน​ป่า​ดิบ​ชื้น. ใน​สัมภาระ​ของ​เรา​นอก​จาก​เสื้อ​ผ้า ผ้า​ห่ม และ​เปล​ญวน​แล้ว ก็​มี​สรรพหนังสือ​ใน​ภาษา​อังกฤษ สเปน และ​เคคชิ. เรา​นำ​เอา​อาหาร​และ​มี ขนม 200 ห่อ​ไป​ด้วย.”

เช้า​วัน​รุ่ง​ขึ้น​เรา​ได้​ออก​เดิน​ทาง​ด้วย​เรือ​แคนู ที่​ขุด​จาก​ต้น​นุ่น​ขนาด​ใหญ่​ไป​ใน​ทะเล​ที่​มี​คลื่น​ลม. ที่​หมู่​บ้าน​ครีก ซาร์โค เรา​เอา​สัมภาระ​ออก​แล้ว​ตั้ง​แคมป์. ขณะ​ที่​พี่​น้อง​ชาย​แขวน​เปล​ญวน พี่​น้อง​หญิง​เตรียม​อาหาร​อย่าง​หนึ่ง​ที่​เรา​ชื่น​ชอบ คือ สตู​หาง​หมู ที่​ทำ​จาก​มัน​สำปะหลัง มัน​เทศ กล้วย​ดิบ มะพร้าว ไข่​ต้ม และ​ที่​ขาด​ไม่​ได้​ก็​คือ​หาง​หมู. ชาว​บ้าน​เคคชิ​ได้​ยิน​ว่า​พวก​เรา​มา และ​ใน​ไม่​ช้า​พวก​เขา​ก็​หลั่งไหล​กัน​มา​ทักทาย​เรา​ไม่​ขาด​สาย. โดย​วิธี​นี้​เรา​สามารถ​ให้​คำ​พยาน​แก่​ทั้ง​หมู่​บ้าน​ภาย​ใน​สอง​ชั่วโมง. ใน​คืน​นั้น พี่​น้อง​ชาย​นอน​ใน​เปล​ญวน​ที่​ผูก​อยู่​ใต้​สถานี​ตำรวจ​ซึ่ง​เป็น​บ้าน​ยก​พื้น ส่วน​พี่​น้อง​หญิง​นอน​ใน​ศาลา​ที่​ประชุม ซึ่ง​เป็น​ที่​ประชุม​สำหรับ​พวก​ผู้​เฒ่า​ผู้​แก่​ของ​หมู่​บ้าน.

“วัน​ต่อ​มา​เรา​แบก​สัมภาระ​ลง​เรือ​อีก​ครั้ง​แล้ว​ไป​ตาม​ลำ​น้ำ ซึ่ง​บาง​แห่ง​ปก​คลุม​ไป​ด้วย​ต้น​โกง​กาง​ที่​ทำ​ให้​มืด​และ​น่า​กลัว. หลัง​จาก​เดิน​ทาง​ราว​ครึ่ง​ชั่วโมง เรา​ได้​ขึ้น​ฝั่ง​และ​เดิน​อีก​ชั่วโมง​ครึ่ง​ผ่าน​ป่า​ไป​ยัง​หมู่​บ้าน​ซันเดย์วูด. ผู้​คน​ที่​นั่น​ตัว​เล็ก ผิว​คล้ำ​ผม​ดำ​ตรง. พวก​เขา​ส่วน​ใหญ่​ไม่​สวม​รอง​เท้า และ​ผู้​หญิง​ใส่​กระโปรง​พื้นเมือง​และ​ใส่​เครื่อง​ประดับ​ลูกปัด. พวก​เขา​อยู่​ใน​บ้าน​หลังคา​มุง​จาก พื้น​เป็น​ดิน ไม่​ได้​แบ่ง​เป็น​ห้อง ๆ ไม่​มี​เฟอร์นิเจอร์​นอก​จาก​เปล​ญวน. มุม​หนึ่ง​ของ​บ้าน​ก็​เป็น​ที่​ทำ​อาหาร​ร่วม​กัน.

“ผู้​คน​เป็น​มิตร​มาก และ​เรา​พบ​คน​สนใจ​มาก​ที​เดียว. พวก​เขา​ประทับใจ​เป็น​พิเศษ​ที่​เห็น​ว่า​เรา​มี​หนังสือ​ใน​ภาษา​เคคชิ​และ​ให้​พวก​เขา​ดู​ข้อ​พระ​คัมภีร์​ใน​ภาษา​ของ​เขา​เอง.

“เช้า​วัน​รุ่ง​ขึ้น​เรา​ถูก​ไก่​ตัว​ผู้ นก​ใน​ป่า และ​เสียง​โหยหวน​ของ​พวก​ชะนี​ปลุก​ให้​ตื่น​ขึ้น. หลัง​อาหาร​เช้า​ที่​อิ่ม​หมี​พลี​มัน เรา​ได้​กลับ​เยี่ยม​เยียน​ทุก​คน​ที่​แสดง​ความ​สนใจ​ใน​วัน​ก่อน. เรา​ได้​เริ่ม​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​หลาย​ราย​และ​สนับสนุน​พวก​เขา​ทุก​คน​ให้​ศึกษา​ด้วย​ตัว​เอง​จน​กระทั่ง​เรา​กลับ​มา​ศึกษา​กับ​พวก​เขา​อีก​ใน​ปี​ถัด​ไป. วัน​ต่อ​มา​ก็​ทำ​ตาม​แบบ​เดิม​ขณะ​ที่​เรา​เดิน​ทาง​ลึก​เข้า​ไป​ใน​ป่า​ดิบ​ชื้น​เพื่อ​ไป​ถึง​หมู่​บ้าน​ที่​อยู่​ห่าง​ไกล.

“หลัง​จาก​สิบ​วัน​ของ​การ​เดิน​ทาง​ใน​ป่า​อย่าง​มี​ความ​สุข พวก​เรา​คิด​ย้อน​ถึง​การ​เดิน​ทาง​ที่​ไกล หมู่​บ้าน​หลาย​แห่ง และ​ผู้​คน​มาก​มาย​ที่​เรา​ได้​พบ. เรา​ได้​อธิษฐาน​ถึง​พระ​ยะโฮวา​ให้​ดู​แล​ปก​ป้อง​เมล็ด​แห่ง​ความ​จริง​ที่​พวก​เรา​ได้​หว่าน​ไว้​จน​กว่า​เรา​จะ​กลับ​มา​ใน​ปี​หน้า. ทั้ง ๆ ที่​เท้า​ของ​เรา​ระบม ร่าง​กาย​ของ​เรา​เหนื่อย​ล้า แต่​เรา​ก็​รู้สึก​ขอบพระคุณ​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​เหลือ​ล้น​ที่​ได้​ไป​ใน​การ​เดิน​ป่า​ปี​นี้.”

(จาก​หนังสือ​ประจำ​ปี 2010 หน้า 232 ถึง​หน้า 233)

ใน​ปี 1995 แฟรงก์​และ​อลีซ คาร์โดซา​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​ชั่ว​คราว​ระหว่าง​เดือน​เมษายน​และ​พฤษภาคม เพื่อ​ช่วย​แจก​จ่าย​ข่าว​ราชอาณาจักรหมาย​เลข 34 ที่​มี​ชื่อ​ว่า “ทำไม​ชีวิต​จึง​เต็ม​ไป​ด้วย​ปัญหา?” ใน​เขต​โทลีโด. แฟรงก์​เล่า​ว่า “ตอน​ที่​ผม​ไป​ร่วม​ประกาศ​ใน​ป่า​ประจำ​ปี ผม​คิด​ว่า​ถ้า​จะ​มี​ใคร​บาง​คน​ย้าย​มา​อยู่​ใน​เขต​นี้ ชาว​มายา​น่า​จะ​เรียน​รู้​ข่าว​ดี​ได้​มาก​ขึ้น. สาขา​แนะ​นำ​ให้​ผม​มา​เช่า​บ้าน​อยู่​ที่​นี่ แล้ว​ไป​ชวน​หลาย ๆ คน​มา​ศึกษา​ด้วย​กัน จัด​การ​บรรยาย​พิเศษ​ที่​ซาน แอนโตนิโอ และ​แจก​จ่าย​ข่าว​ราชอาณาจักร​ที่​นั่น และ​ที่​หมู่​บ้าน​อื่น ๆ อีก​แปด​แห่ง.

แฟรงก์​และ​อลีซ คาร์โดซา​จัด​กลุ่ม​การ​ศึกษา​ใน​แต่​ละ​สัปดาห์​ใน​ห้อง​เช่า​เล็ก ๆ ของ​เขา และ​ภาย​ใน​ไม่​กี่​สัปดาห์​ก็​มี​สามถึง​สี่​ครอบครัว​ได้​เข้า​มา​ร่วม​ประชุม​ด้วย. ผู้​สนใจ​เหล่า​นี้ได้​นั่ง​รถ​ปิคอัพ​เก่า ๆ ไป​กับ​แฟรงก์​และ​อลีซ​เป็น​เวลา​หนึ่ง​ชั่วโมง​บน​ทาง​เกวียน​ที่​ขรุขระ​ไป​ยัง​พันทากอร์ดา​เพื่อ​ร่วม​ประชุม​โรง​เรียน​การ​รับใช้​ตาม​ระบอบ​ของ​พระเจ้า​และ​การ​ประชุม​การ​รับใช้​ด้วย. เดือน​แรก​นั้น แฟรงก์​บรรยาย​พิเศษ​ที่​ซาน แอนโตนิโอ. เฮซุส อิชช์ ได้​มา​ประชุม​เป็น​ครั้ง​แรก​และ​เขา​สนใจ​มาก. เขา​เป็น​สมาชิก​ของ​คริสตจักร​นาซารีน เขา​ประทับใจ​มาก​เมื่อ​ได้​ฟัง​ว่า​คำ​สอน​เรื่อง​ไฟ​นรก​มี​ต้นตอ​มา​จาก​ศาสนา​นอก​รีต และ​คำ​ว่า​นรก​ตาม​ความ​หมาย​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ก็​คือ​หลุม​ฝัง​ศพ​โดย​ทั่ว​ไป. หลัง​การ​ประชุม เขา​เรียก​แฟรงก์​ไป​ถาม​คำ​ถาม​มาก​มาย​ใน​เรื่อง​นั้น. ผล​ก็​คือ​เขา​เริ่ม​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​รับ​บัพติสมา​ใน​ปี​ต่อ​มา.

เมื่อ​งาน​ที่​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​สอง​เดือน​ผ่าน​ไป​แล้ว แฟรงก์​กับ​อลีซ​ก็​ต้อง​ทำ​การ​ตัดสิน​ใจ​ที่​สำคัญ. แฟรงก์​เล่า​ว่า “เรา​มี​การ​ศึกษา​มาก​จน​เรา​นำ​การ​ศึกษา​ไม่​ไหว. เรา​รัก​และ​ผูก​พัน​กับ​พวก​เขา​มาก​เสีย​จน​เรา​ไม่​อาจ​ทิ้ง​พวก​เขา​ไป​ยัง​บ้าน​ที่​สุข​สบาย​ของ​เรา​ที่​เลดี​วิลล์. ถ้า​เรา​คิด​จะ​อยู่​ที่​ซาน แอนโตนิโอ​ต่อ​ไป เรา​จะ​เช่า​ห้อง​ชั้น​บน​ที่​น่า​อยู่​กว่า​ห้อง​เดิม​ได้. ผม​จะ​ติด​ตั้ง​อ่าง​ล้าง​จาน​เล็ก ๆ ราง​น้ำ​ฝน แล้ว​ต่อ​ไป​ก็​จะ​ติด​ตั้ง​ส้วม​ชัก​โครก​และ​เดิน​สาย​ไฟ. เรา​ได้​อธิษฐาน​เรื่อง​นี้​กับ​พระ​ยะโฮวา​และ​เชื่อ​มั่น​ว่า​พระองค์​จะ​อวย​พร​ให้​มี​การ​ตั้ง​ประชาคม​ใน​เขต​นี้. หลัง​จาก​ที่​คิด​ใคร่ครวญ​และ​อธิษฐาน​ถึง​พระ​ยะโฮวา​แล้ว เรา​ได้​เขียน​จดหมาย​บอก​สาขา​ว่า เรา​ยินดี​อยู่​ที่​ซาน แอนโตนิโอ​ต่อ​ไป​ใน​ฐานะ​ไพโอเนียร์​ประจำ.”

เห็น​ได้​ชัด​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​เห็น​ชอบ​กับ​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​แฟรงก์​กับ​อลีซ. เพียง​แค่​หก​เดือน ใน​เดือน​พฤศจิกายน​พวก​เขา​ได้​จัด​การ​ประชุม​สาธารณะ​ขึ้น​ใน​บ้าน​เช่า​ของ​เขา. แล้ว​เดือน​เมษายน​ใน​ปี​ต่อ​มา พวก​เขา​เริ่ม​จัด​การ​ประชุม​โรง​เรียน​การ​รับใช้​ตาม​ระบอบ​ของ​พระเจ้า​และ​การ​ประชุม​การ​รับใช้​ที่​ซาน แอนโตนิโอ. เป็น​เรื่อง​ที่​น่า​ยินดี​มาก​ที่​กลุ่ม​เล็ก ๆ นี้​ไม่​ต้อง​เดิน​ทาง​ไป​กลับ​เป็น​ระยะ​ทาง​ราว ๆ 60 กิโลเมตร​ทุก​สัปดาห์​เพื่อ​ไป​ประชุม​ที่​พันทากอร์ดา.

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์