เหตุผลที่เราต้องพยายามต่อ ๆ ไป
‘ขอพูดกับเจ้าของบ้านหน่อยได้ไหม?’
(จากหนังสือประจำปี 2013 หน้า 45 ว. 1 ถึงหน้า 46 ว. 1)
ผู้ดูแลหมวดคนหนึ่งในเอธิโอเปียกำลังประกาศกับพี่น้อง เขาพบคนรับใช้ที่บ้านหลังหนึ่ง จึงถามเธอว่าขอพูดกับเจ้าของบ้านหน่อยได้ไหม เธอตอบว่าไม่ได้ เขาจึงถามเธอว่างั้นฝากหนังสือบางเล่มให้เขาอ่านได้ไหม เธอไปถามเจ้าของบ้านแล้วกลับมาบอกว่าเขาต้องการเห็นหนังสือนั้นก่อน
พี่น้องจึงฝากวารสารไปให้เขาดู หลังจากนั้นไม่นาน เธอกลับมาบอกว่าเจ้าของบ้านยินดีอ่านหนังสือนั้น แล้วพี่น้องคนหนึ่งก็พูดว่า “หากเขาออกมาไม่ได้ เราจะเข้าไปคุยกับเขาได้ไหม?” คนรับใช้กลับไปถามเขาอีก คราวนี้เธอไปนานกว่าครั้งก่อน และพี่น้องสงสัยว่าเธอจะกลับมาอีกไหม ในที่สุด เธอก็กลับมาแล้วเชิญทั้งสองเข้าไปในบ้าน พี่น้องจึงเข้าใจว่าทำไมเจ้าของบ้านออกมาไม่ได้ เยอร์กูเจ้าของบ้านเป็นคนสูงอายุที่ป่วยมาเป็นเวลาสิบปีแล้ว เขาไม่สามารถลุกออกจากเตียงหรือแค่จะลุกขึ้นนั่งก็ไม่ได้ด้วยซ้ำ สาเหตุที่คนรับใช้ไปนานก็เพราะเธอช่วยเขาแต่งตัวและจัดห้องให้เรียบร้อย
พี่น้องบอกข่าวดีจากพระคัมภีร์ให้เขาฟัง เยอร์กูชอบเรื่องที่ได้ฟัง เขาจึงตอบรับการศึกษาพระคัมภีร์ เมื่อเขาก้าวหน้าอย่างดีในการศึกษาพระคัมภีร์ สุขภาพของเขาก็ดีขึ้น เขาลุกขึ้นจากเตียงได้และไปไหนมาไหนด้วยเก้าอี้รถเข็น ไม่นานเขาเริ่มเข้าร่วมการประชุมและรับบัพติสมาที่การประชุมภาคเมื่อเร็ว ๆ นี้
ความกรุณาของเขาทำให้ผมเลิกต่อต้าน
ซอ แบอุม
เกิด ปี 1954
รับบัพติสมา ปี 1998
ประวัติโดยย่อ อดีตพ่อค้ายาเสพติดและต่อต้านความจริง ความกรุณาของพยานพระยะโฮวาช่วยเขาเปลี่ยนใจ
เมื่อลู ไม ภรรยาผมเริ่มศึกษากับพยานพระยะโฮวา ผมต่อต้านเธออย่างรุนแรง ผมเอาหนังสือเกี่ยวกับพระคัมภีร์ของเธอทิ้งลงส้วมแล้วไล่พวกพยานฯ ออกจากบ้าน
ต่อมา ผมเริ่มขายยาเสพติดและถูกจับขังคุก หลังจากคืนแรกที่อยู่ในคุก ลู ไมส่งพระคัมภีร์ให้ผมพร้อมกับจดหมายที่ให้กำลังใจซึ่งเต็มไปด้วยข้อความจากพระคัมภีร์ ต่อมาเธอได้ส่งจดหมายแบบนี้ให้ผมอีกหลายฉบับ ไม่ช้าผมก็คิดได้ว่าถ้าผมทำตามพระคัมภีร์ก็คงจะไม่ลงเอยในคุกอย่างนี้
ระหว่างที่อยู่ในคุก อยู่ ๆ ก็มีผู้ชายสองคนมาเยี่ยม พวกเขาเป็นพยานพระยะโฮวาและอธิบายว่าภรรยาผมได้ขอให้มาเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจ พวกเขาต้องเดินทางถึงสองวันเพื่อจะมาที่คุก ผมประทับใจมากเพราะว่าไม่มีญาติสักคนที่คิดจะมาเยี่ยม มีแต่คนที่ผมเคยต่อต้านอย่างหนักเท่านั้น
หลังจากนั้นไม่นาน ผมถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเนื่องจากเป็นไข้ไทฟอยด์และไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา ในตอนนั้นเอง มีพยานฯ อีกคนหนึ่งที่ภรรยาขอให้มาเยี่ยมผม เขาเสนอที่จะจ่ายค่ารักษาให้ผมด้วยความกรุณา ผมรู้สึกละอายใจจริง ๆ จึงสัญญากับตัวเองว่าจะเข้ามาเป็นพยานพระยะโฮวา ห้าปีต่อมา ผมได้ทำตามสัญญาเมื่อถูกปล่อยตัวออกจากคุก