มิชชันนารีที่ร่ำรวย (สุภา. 10:22)
เซียร์ราลีโอนและกินี
มิชชันนารีที่ขยัน ทำให้งานก้าวหน้า
(จากหนังสือประจำปี 2014 หน้า 123)
ตั้งแต่กลางทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา มีการทยอยส่งมิชชันนารีหลายคนที่จบจากโรงเรียนกิเลียดไปที่เซียร์ราลีโอนและกินี พวกเขาทำให้งานที่นั่นก้าวหน้ามากขึ้น บางคนเคยรับใช้ที่ประเทศอื่นในทวีปแอฟริกามาแล้วจึงปรับตัวเข้ากับสภาพการณ์ในท้องถิ่นได้เร็ว แต่บางคนก็ไม่เคยไปแอฟริกาเลย แล้วพวกเขารับมือกับทวีปที่มีฉายาว่า “สุสานคนผิวขาว” ได้อย่างไร ลองมาฟังประสบการณ์ของบางคน
“คนที่นี่อ่อนน้อมถ่อมตนและอยากเรียนรู้เรื่องพระเจ้ามากจริง ๆ เมื่อฉันเห็นชีวิตของพวกเขาดีขึ้นเพราะเรียนความจริง ฉันก็มีความสุขมาก”—ฮันเนอลอเรอ อัลท์เมเยอ
“ไม่ง่ายเลยที่ต้องสู้กับอากาศร้อนและโรคภัยต่าง ๆ แต่พอฉันนึกถึงความสุขที่ได้ช่วยคนที่มีหัวใจดีให้มารับใช้พระยะโฮวา ฉันถือว่าคุ้มค่าจริง ๆ”—เชอรีล เฟอร์กูสัน
“ฉันได้ฝึกความอดทนมากขึ้น ตอนที่ฉันถามพี่น้องหญิงคนหนึ่งว่าแขกของเธอจะมาถึงเมื่อไร เธอตอบว่า ‘อาจจะวันนี้ พรุ่งนี้ หรือไม่ก็มะรืนนี้’ ฉันคงทำหน้าตกใจมาก เธอเลยรีบยืนยันว่า ‘แต่พวกเขาจะมาแน่!’ ”—คริสติน โจนส์
“ในบ้านพักมิชชันนารีที่เมืองฟรีทาวน์ มีมิชชันนารี 14 คนที่มาจากเชื้อชาติและวัฒนธรรมที่ต่างกัน บ้านหลังนี้มีห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องอาบน้ำและห้องครัวอย่างละห้อง เครื่องซักผ้า 1 เครื่อง เราก็แบ่ง ๆ กันใช้ อาหารก็มีจำกัดและไม่ค่อยมีประโยชน์ ไฟดับบ่อย ๆ บางทีก็นานหลายวัน พวกเราส่วนใหญ่เป็นไข้มาลาเรียและเป็นโรคอื่น ๆ ที่เกิดในเขตร้อน ถึงแม้ว่ามันจะฟังดูน่ากลัว แต่เราก็เรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกัน ให้อภัยกัน และพยายามมองปัญหายุ่งยากให้เป็นเรื่องขำ ๆ การประกาศที่นี่สนุกมาก และมิชชันนารีทุกคนก็กลายเป็นเพื่อนที่สนิทกันจริง ๆ”—โรเบิร์ตกับพอลีน แลนดิส
“ตอนอยู่เซียร์ราลีโอนถือเป็นเวลาที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิตของเรา เราไม่รู้สึกเสียใจเลยและก็ไม่มีเรื่องที่ต้องบ่น ที่จริงเราคิดถึงที่นั่นมาก”—เบนจามินกับโมนิกา มาร์ทิน
“เราเคยพักอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นผู้สนใจ เธอยื่นอาหารหน้าตาแปลก ๆ ให้เรา แล้วบอกว่า ‘งูพิษค่ะ แต่ฉันเอาเขี้ยวมันออกแล้ว ลองชิมดูไหมคะ?’ เราตอบปฏิเสธอย่างสุภาพ แต่เธอก็คะยั้นคะยอให้เราชิมดู ถึงแม้มันเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัว แต่เราก็ซาบซึ้งในน้ำใจของเจ้าของบ้านและตอนนี้เรารักพวกเขามาก”—เฟรเดอริกกับบาร์บารา เมอร์ริเซ
“ตลอดเวลา 43 ปีที่ฉันเป็นมิชชันนารี ฉันเคยอยู่กับมิชชันนารีมากกว่า 100 คน มันเป็นสิทธิพิเศษจริง ๆ ที่ได้รู้จักคนเยอะขนาดนี้ ทุกคนมีนิสัยแตกต่างกันแต่ก็ทำงานโดยมีเป้าหมายเดียวกัน! ฉันมีความสุขมากที่ได้เป็นเพื่อนร่วมงานกับพระเจ้าและมีโอกาสเห็นคนอื่น ๆ ตอบรับความจริง!”—ลีเนตต์ ปีเตอร์ส
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1947 มีมิชชันนารีไปรับใช้ที่เซียร์ราลีโอน 154 คน รับใช้ที่กินี 88 คน มีพยานพระยะโฮวาอีกหลายคนที่ย้ายมารับใช้ในที่ที่มีความต้องการผู้ประกาศมากกว่า ตอนนี้มีมิชชันนารี 44 คนในเซียร์ราลีโอน และ 31 คนในกินี ความพยายามอย่างไม่ละลดและการทุ่มเทตัวโดยไม่คิดถึงความยากลำบาก ทำให้หลายคนรู้สึกประทับใจ อัลเฟรด กันน์ ซึ่งเป็นคณะกรรมการสาขาที่รับใช้มานานบอกว่า “เมื่อนึกถึงมิชชันนารีทีไรก็มีความสุข เรารักพวกเขามาก”
(หน้า 169)
ฉันตกหลุมรักเซียร์ราลีโอน
ซินดี แมคอินไทร์
เกิดปี ค.ศ. 1960
บัพติสมาปี ค.ศ. 1974
ประวัติ เป็นมิชชันนารีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1992 เธอเคยรับใช้ที่กินีและเซเนกัล ตอนนี้เธอรับใช้อยู่ที่เซียร์ราลีโอน
นับจากวันแรกที่ฉันมาถึง พอผ่านไป 2 สัปดาห์ฉันก็ตกหลุมรักเซียร์ราลีโอน ฉันทึ่งมากที่เห็นคนแบกของหนัก ๆ อยู่บนหัวแล้วก็ยังเดินได้สบาย แถวบ้านฉันมีคนเยอะมาก เด็ก ๆ เล่นและเต้นรำบนถนน ตบมือและก้าวเท้าให้เข้ากับจังหวะเพลงที่สนุกสนาน รอบตัวฉันมีแต่สีสัน การเคลื่อนไหว และเสียงดนตรี
สิ่งที่ฉันชอบมากที่สุดคือการประกาศ คนในเซียร์ราลีโอนมีน้ำใจและชอบต้อนรับแขก พวกเขานับถือคัมภีร์ไบเบิลและชอบฟังข่าวสารของเรา พวกเขามักจะเชิญฉันเข้าบ้าน พอฉันจะกลับ บางคนก็เดินออกมาส่งจนถึงถนนเลย นิสัยที่น่ารักเหล่านี้ช่วยให้ฉันอดทนกับความไม่สะดวกสบายเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ เช่น น้ำไม่พอใช้ และไฟดับบ่อย ๆ
บางครั้งมีคนถามฉันว่าเหงาไหมเพราะเห็นว่าฉันเป็นโสด แต่ที่จริง ฉันมีเรื่องให้ทำเยอะแยะจนไม่มีเวลาเหงา แล้วฉันก็ใช้ชีวิตอย่างมีจุดมุ่งหมายเสมอ