พวกเขากระตือรือร้นที่จะเริ่มการศึกษาคัมภีร์ไบเบิล
(จากหนังสือประจำปี 2015 น. 55 ว. 1-น. 56 ว. 1)
กาเบรียลช่วยคุณตาของเขา
ระหว่างทางกลับบ้านจากการประชุมใหญ่ที่ปารากวัย หนูน้อยกาเบรียลที่อายุ 6 ขวบคิดเกี่ยวกับการประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรและรู้ว่านี่เป็นงานสำคัญมาก กาเบรียลเลยนึกได้ว่ามีคนพิเศษคนหนึ่งที่อยากให้อยู่ด้วยกันในอุทยาน คนนั้นก็คือคุณตาของเขา แต่คุณตาไม่สนใจความจริงเลย แถมยังต่อต้านภรรยาและลูก ๆ ที่เป็นพยานฯ
ในวันเดียวกันนั้น กาเบรียลขอพ่อแม่ให้โทรไปหาคุณตาที่อยู่ในอาร์เจนตินาโดยใช้อินเทอร์เน็ต กาเบรียลอธิบายให้คุณตาฟังว่าทำไมการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลถึงสำคัญมาก แล้วเขาก็ถามคุณตาตรง ๆ ว่า “คุณตา อยากศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับผมไหมครับ?” คุณตาตอบตกลง กาเบรียลบอกว่าพวกเขาควรจะศึกษาจุลสารฟังพระเจ้าแล้วจะมีชีวิตตลอดไป หลายเดือนต่อจากนั้น กาเบรียลกับคุณตาก็ศึกษาจุลสารเล่มนั้นด้วยกัน เนื่องจากทั้งคู่อ่านหนังสือไม่ค่อยคล่อง พวกเขาเลยต้องฝึกอ่านล่วงหน้า กาเบรียลจะเตรียมตัวก่อนการศึกษาทุกครั้ง เขาจะใส่เสื้อเชิ้ตและผูกเนคไทด้วย
ต่อมา คุณตาคุณยายมาเยี่ยมครอบครัวของกาเบรียลประมาณ 2-3 อาทิตย์ ระหว่างนั้นคุณตาก็ไปประชุมด้วย พอคุณตากลับไปที่อาร์เจนตินา เขาศึกษาคัมภีร์ไบเบิลต่อกับพี่น้องท้องถิ่นและก้าวหน้าเป็นผู้ประกาศที่ยังไม่รับบัพติสมา ตอนนี้คุณตากับคุณยายของกาเบรียลอธิษฐานด้วยกันทุกวัน ส่วนหนูน้อยกาเบรียลก็ก้าวหน้าอย่างดี และเป็นผู้ประกาศที่ยังไม่รับบัพติสมาเหมือนกัน คุณตาของกาเบรียลบอกว่าเขาอยากอุทิศตัวให้พระยะโฮวาและรับบัพติสมา
(จากหนังสือประจำปี 2015 น. 69 ว. 2-5)
การศึกษาคัมภีร์ไบเบิล “ในป่า”
ทุกเช้า มากาเร็ตพาสุนัขของเธอไปเดินเล่นในป่าแห่งหนึ่งของเยอรมนี เธอบอกว่า “ฉันพยายามคุยกับคนที่ผ่านไปมา ถ้าพวกเขาไม่รีบและยินดีคุย ฉันก็จะคุยเรื่องคัมภีร์ไบเบิลกับพวกเขา”
วันหนึ่งมากาเร็ตได้เจอผู้หญิงอายุประมาณ 70 ปีซึ่งพาสุนัขมาเดินเล่น มากาเร็ตจึงเข้าไปคุยด้วย ผู้หญิงคนนั้นชอบมาก เธอบอกมากาเร็ตว่าเธออธิษฐานถึงพระเจ้าและอ่านคัมภีร์ไบเบิลทุกวัน ตั้งแต่นั้นมา พวกเธอก็เจอกันเป็นประจำเพื่อคุยเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ในคัมภีร์ไบเบิล วันหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นถามมากาเร็ตว่า “คุณรู้เรื่องคัมภีร์ไบเบิลมากขนาดนี้ได้ยังไง?” มากาเร็ตจึงบอกว่าเธอเป็นพยานพระยะโฮวา
มากาเร็ตเสนอการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลที่บ้านให้กับผู้หญิงคนนั้นหลายครั้ง เธอไม่เคยตอบตกลง แต่ทั้งสองคนก็ยังคุยกันต่อไป หลายเดือนต่อมา มากาเร็ตเสนอการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลที่บ้านอีกครั้ง แล้วผู้หญิงคนนั้นก็บอกมากาเร็ตว่าเธอไม่กล้าตอบตกลงเพราะผู้ชายที่เธออยู่ด้วยไม่ชอบพยานพระยะโฮวา
ครั้งต่อไปที่มากาเร็ตไปเดินเล่นในป่า เธอเอาคัมภีร์ไบเบิลและหนังสือไบเบิลสอนไปด้วย เมื่อเธอพบผู้หญิงคนนั้น มากาเร็ตก็พูดว่า “คราวนี้ฉันจะไม่เสนอการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลที่บ้าน แต่จะเสนอการศึกษาคัมภีร์ไบเบิล ‘ในป่า’” ผู้หญิงคนนั้นน้ำตาคลอและรีบตกลงทันที เธอมาศึกษาคัมภีร์ไบเบิล “ในป่า” สัปดาห์ละ 6 วัน ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดจะออก เธอก็มา บางครั้งมากาเร็ตต้องนำการศึกษาทั้ง ๆ ที่ถือร่มและไฟฉาย