แหล่งอ้างอิงสำหรับชีวิตและงานรับใช้—คู่มือประชุม
วันที่ 7-13 มกราคม
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์ | กิจการ 21-22
“ขอให้เป็นไปตามที่พระยะโฮวาต้องการเถอะ”
ขุดค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
(กิจการ 22:16) ตอนนี้คุณยังรออะไรอีก? ให้คุณรีบรับบัพติศมา และอธิษฐานอ้อนวอนออกชื่อพระเยซูเพื่อลบล้างบาปของคุณ’
nwtsty-E ข้อมูลสำหรับศึกษา กจ 22:16
อธิษฐานอ้อนวอนออกชื่อพระเยซูเพื่อลบล้างบาปของคุณ คนเราจะลบล้างบาปได้ไม่ใช่โดยการรับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่โดยการอ้อนวอนออกชื่อพระเยซู ซึ่งคนนั้นต้องเชื่อในพระเยซูและแสดงความเชื่อโดยทำงานรับใช้แบบคริสเตียน—กจ 10:43; ยก 2:14, 18
วันที่ 14-20 มกราคม
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์ | กิจการ 23-24
“ถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวปัญหาและปลุกระดม”
ขุดค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
(กิจการ 23:6) เปาโลรู้ว่าสมาชิกศาลแซนเฮดรินกลุ่มหนึ่งเป็นพวกสะดูสี และอีกกลุ่มหนึ่งเป็นพวกฟาริสี จึงตะโกนขึ้นว่า “พี่น้องทั้งหลาย ผมเป็นฟาริสีและเป็นลูกของฟาริสี ที่ผมถูกตัดสินคดีก็เพราะผมเชื่อเรื่องการฟื้นขึ้นจากตาย”
nwtsty-E ข้อมูลสำหรับศึกษา กจ 23:6
ผมเป็นฟาริสี บางคนในกลุ่มผู้ฟังรู้จักเปาโล (กจ 22:5) การที่เปาโลบอกว่าเขาเป็นลูกของฟาริสีทำให้ผู้ฟังเข้าใจว่าเปาโลก็มีพื้นเพเหมือนกับพวกเขา พวกเขายอมรับว่าที่เปาโลพูดเป็นเรื่องจริง เพราะพวกฟาริสีในศาลแซนเฮดรินรู้ว่าเปาโลเปลี่ยนมาเป็นคริสเตียนที่กระตือรือร้น แต่ตามท้องเรื่องนี้ เราน่าจะเข้าใจจุดประสงค์ที่เปาโลบอกว่าเขาเป็นฟาริสีได้ในทำนองนี้ เขาบอกว่าตัวเองเป็นฟาริสีไม่ได้บอกว่าเป็นสะดูสี เพราะเขาเชื่อเรื่องการฟื้นขึ้นจากตายเหมือนพวกฟาริสี เขาทำอย่างนั้นเพื่อจะหาจุดเห็นพ้องกับพวกฟาริสีที่อยู่ที่นั่น เขาอาจหวังว่าการยกเรื่องที่สมาชิกศาลแซนเฮดรินไม่เห็นพ้องกันจะทำให้บางคนเห็นใจเขา และวิธีนี้ก็ได้ผล (กจ 23:7-9) คำพูดของเปาโลใน กจ 23:6 สอดคล้องกับตอนที่เขาอธิบายเกี่ยวกับตัวเขาเองต่อหน้ากษัตริย์อากริปปาเพื่อปกป้องสิทธิ์ของเขา (กจ 26:5) และตอนที่เปาโลอยู่ในโรม เขาเขียนจดหมายถึงพี่น้องคริสเตียนในฟีลิปปี เขาก็บอกอีกว่าตัวเองเป็นฟาริสี (ฟป 3:5) และน่าสังเกตว่าใน กจ 15:5 มีการพูดถึงคริสเตียนคนอื่น ๆ ที่เคยเป็นฟาริสีด้วย
(กิจการ 24:24) ไม่กี่วันต่อมา เฟลิกส์มากับภรรยาชื่อดรูสิลลาซึ่งเป็นชาวยิว เฟลิกส์ให้คนไปเรียกเปาโลมาเพื่อฟังเปาโลพูดถึงความเชื่อเรื่องพระคริสต์เยซู
(กิจการ 24:27) แต่เฟลิกส์ยังให้เปาโลอยู่ในคุกต่อไปเพราะอยากเอาใจชาวยิว สองปีผ่านไป ปอร์สิอัสเฟสทัสก็มารับตำแหน่งต่อจากเฟลิกส์
nwtsty-E ข้อมูลสำหรับศึกษา กจ 24:24
ดรูสิลลา ใน กจ 12:1 พูดถึงลูกสาวคนที่สามและเป็นคนสุดท้องของเฮโรด ซึ่งก็คือเฮโรดอากริปปาที่ 1 เธอเกิดประมาณปี ค.ศ. 38 และเป็นน้องสาวของอากริปปาที่ 2 และเบอร์นิส (ดูส่วนอธิบายศัพท์ “เฮโรด”) ผู้ว่าราชการเฟลิกส์เป็นสามีคนที่ 2 ของเธอ เธอแต่งงานครั้งแรกกับกษัตริย์ซีเรียที่ชื่ออาซีอุสแห่งเอเมซาแต่หย่ากับเขา แล้วแต่งงานกับเฟลิกส์ประมาณปี ค.ศ. 54 ซึ่งเป็นตอนที่เธออายุประมาณ 16 ปี เป็นไปได้ว่าเธออยู่ด้วยตอนที่เปาโลพูดกับเฟลิกส์ “เรื่องการทำสิ่งที่ถูกต้อง การรู้จักควบคุมตัวเอง และการพิพากษาที่จะเกิดขึ้น” (กจ 24:25) และตอนที่เฟสทัสมารับตำแหน่งต่อจากเฟลิกส์ เฟลิกส์ปล่อยให้เปาโลถูกกักขังเพราะ “อยากเอาใจชาวยิว” และเพื่อเอาใจภรรยาสาวคนนี้ที่เป็นชาวยิวด้วย—กจ 24:27
วันที่ 21-27 มกราคม
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์ | กิจการ 25-26
“เปาโลร้องเรียนต่อซีซาร์และประกาศกับกษัตริย์เฮโรดอากริปปา”
ขุดค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
(กจ 26:14) พอพวกผมล้มลงกับพื้น ผมก็ได้ยินเสียงพูดเป็นภาษาฮีบรูว่า ‘เซาโล เซาโล คุณข่มเหงผมทำไม? คุณเตะประตักคุณก็เจ็บเอง’
nwtsty-E ข้อมูลสำหรับศึกษา กจ 26:14
เตะประตัก ประตักคือไม้ยาวปลายแหลมที่ใช้กระทุ้งสัตว์ (วนฉ 3:31) สำนวน “เตะประตัก” เป็นภาษิตที่พบในงานเขียนกรีก สำนวนนี้ให้ภาพท่าทางของวัวดื้อที่ต่อต้านเมื่อมีประตักมากระทุ้งตัวมัน ซึ่งการเตะประตักอย่างนั้นมีแต่จะทำให้มันเจ็บตัว เซาโลก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกันก่อนจะเข้ามาเป็นคริสเตียน เมื่อเปาโลต่อต้านสาวกของพระเยซูซึ่งมีพระยะโฮวาพระเจ้าคอยหนุนหลัง เขาก็เสี่ยงที่จะทำให้ตัวเองเจ็บตัว (เทียบกับ กจ 5:38, 39; 1ทธ 1:13, 14) คำว่า “ประตัก” ที่พูดถึงใน ปญจ 12:11 เป็นภาพเปรียบเทียบที่หมายถึง คำพูดของคนฉลาดกระตุ้นให้ผู้ฟังทำตามคำแนะนำ
ส่วนอธิบายศัพท์ในคัมภีร์ไบเบิล
ประตัก ไม้ยาวที่มีปลายเป็นเหล็กแหลมไว้ใช้กระทุ้งสัตว์ มีการเปรียบเทียบประตักว่าเป็นเหมือนคำสอนของคนที่มีสติปัญญาที่ช่วยกระตุ้นให้คนฟังทำตาม สำนวน “เตะประตัก” ในพระคัมภีร์ได้มาจากท่าทางของวัวดื้อที่ต่อต้านเมื่อมีประตักมากระทุ้งตัวมัน ซึ่งการเตะประตักอย่างนั้นมีแต่จะทำให้มันเจ็บตัว—กจ 26:14; วนฉ 3:31
วันที่ 28 มกราคม–3 กุมภาพันธ์
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์ | กิจการ 27-28
“เปาโลขึ้นเรือไปโรม”
ขุดค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
(กจ 27:9) พวกเราเสียเวลาไปมากจนตอนนี้ไม่ปลอดภัยแล้วที่จะแล่นเรือ เพราะเลยช่วงถือศีลอดอาหารในวันไถ่บาปไปแล้ว เปาโลจึงแนะนำพวกเขาว่า
nwtsty-E ข้อมูลสำหรับศึกษา กจ 27:9
ช่วงถือศีลอดอาหารในวันไถ่บาป หรือ “ช่วงถือศีลอดอาหารในฤดูใบไม้ร่วง” แปลตรงตัวว่า “ศีลอดอาหาร” คำว่า “ศีลอดอาหาร” ในภาษากรีกหมายถึงการอดอาหารตามกฎหมายของโมเสส ซึ่งก็คือศีลอดอาหารที่เกี่ยวกับวันไถ่บาปประจำปี ที่เรียกว่า ยมคิปปูร์ (มาจากคำภาษาฮีบรู ยมฮัคคิปปูริม “วันของการปิดคลุม”) (ลนต 16:29-31; 23:26-32; กดว 29:7; ดูส่วนอธิบายศัพท์ “วันไถ่บาป”) สำนวน “การแสดงความเสียใจ” ที่เกี่ยวข้องกับวันไถ่บาป โดยทั่วไปแล้วอาจหมายถึงการไม่ทำตามความต้องการของตัวเองในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งหมายรวมถึงการอดอาหาร (ลนต 16:29, เชิงอรรถ) คำว่า “ศีลอดอาหาร” ใน กจ 27:9 ให้แนวคิดหลักของการไม่ทำตามความต้องการของตัวเองในวันไถ่บาปเกี่ยวกับการอดอาหาร ช่วงถือศีลอดอาหารในวันไถ่บาปอยู่ในช่วงปลายเดือนกันยายนหรือต้นเดือนตุลาคม
(กจ 28:11) หลังจากอยู่บนเกาะ 3 เดือน พวกเราก็ลงเรือลำหนึ่งที่จอดพักที่เกาะนี้ในช่วงฤดูหนาว เรือลำนี้มาจากเมืองอเล็กซานเดรีย และมีสัญลักษณ์ “ลูกแฝดของซุส” อยู่ที่หัวเรือ
nwtsty-E ข้อมูลสำหรับศึกษา กจ 28:11
ลูกแฝดของซุส ตามตำนานของกรีกและโรมัน “ลูกแฝดของซุส” (ภาษากรีก Di·oʹskou·roi ดิโอสกูรี) ก็คือแคสเตอร์กับพอลลักซ์ ซึ่งเป็นลูกแฝดของเทพซุส (จูปิเตอร์) กับนางลีดา ราชินีแห่งสปาร์ตา ผู้คนเชื่อว่าพวกเขาเป็นเทพที่ปกป้องในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงปกป้องคนเดินทางในทะเลด้วย และสามารถปกป้องลูกเรือที่กำลังตกอยู่ในอันตรายได้ บันทึกเกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่หัวเรือเป็นหลักฐานอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้รู้ว่า ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์