แหล่งอ้างอิงสำหรับชีวิตและงานรับใช้—คู่มือประชุม
วันที่ 3-9 พฤษภาคม
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์
“เลียนแบบความไม่ลำเอียงของพระยะโฮวา”
เครื่องบูชา
it-2-E น. 528 ว. 5
เครื่องบูชาดื่ม เครื่องบูชาดื่มมักจะถวายคู่กับเครื่องบูชาอื่น ๆ พระเจ้าสั่งให้ชาวอิสราเอลทำแบบนี้หลังจากที่พวกเขาตั้งถิ่นฐานในแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญา (กดว 15:2, 5, 8-10) เครื่องบูชาดื่มซึ่งเป็นเหล้าองุ่นนี้จะต้องเทลงที่แท่นบูชา (กดว 28:7, 14 เทียบกับ อพย 30:9; กดว 15:10) อัครสาวกเปาโลเขียนถึงคริสเตียนที่เมืองฟีลิปปีว่า “ถ้าผมต้องเป็นเหมือนเครื่องบูชาดื่มที่ถูกเทถวายร่วมกับเครื่องบูชาของพวกคุณ ผมก็ดีใจ” ข้อนี้เปาโลใช้เครื่องบูชาดื่มเพื่อเปรียบเทียบความตั้งใจของเขาที่จะเสียสละตัวเองเพื่อพี่น้องร่วมความเชื่อ (ฟป 2:17) ไม่นานก่อนที่เขาจะตาย เขาเขียนถึงทิโมธีว่า “ผมเป็นเหมือนเครื่องบูชาดื่มที่กำลังถูกเทถวาย และเวลาที่ผมจะถูกปลดปล่อยก็ใกล้จะถึงแล้ว”—2ทธ 4:6
วันที่ 10-16 พฤษภาคม
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์
“ทำตามที่คุณปฏิญาณไว้”
คำปฏิญาณ
it-2-E น. 1162
ทำด้วยความเต็มใจ แต่ต้องทำตามที่ปฏิญาณไว้ คำปฏิญาณมาจากความเต็มใจ แต่เมื่อคนใดคนหนึ่งปฏิญาณไว้แล้วเขาต้องทำตามเพราะกฎหมายของพระเจ้ากำหนดไว้อย่างนั้น (กดว 30:2; ดู รม 1:31, 32 ด้วย) เนื่องจากคำปฏิญาณเป็นเรื่องจริงจังถึงชีวิต ไม่แปลกที่พระคัมภีร์บอกว่า ให้คิดอย่างรอบคอบถึงข้อผูกมัดของคำปฏิญาณนั้นก่อนที่จะปฏิญาณ กฎหมายของโมเสสบอกไว้ว่า “ถ้าคุณปฏิญาณต่อพระยะโฮวา . . . พระเจ้าต้องการให้คุณทำตามคำปฏิญาณ ไม่อย่างนั้น คุณจะมีความผิด แต่ถ้าคุณไม่ปฏิญาณ คุณก็ไม่มีความผิด”—ฉธบ 23:21, 22
คำปฏิญาณ
it-2-E น. 1162
คือคำสัญญาที่ให้กับพระเจ้าว่าจะทำหรือจะถวายอะไรบางอย่าง หรือสัญญาว่าจะทำงานเพื่อพระองค์ หรือรักษาตัวให้อยู่ในสถานะอย่างใดอย่างหนึ่ง หรืองดเว้นบางสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมายของพระเจ้า คนที่ปฏิญาณจะทำด้วยความเต็มใจโดยไม่มีใครมาบังคับ คำปฏิญาณถือเป็นเรื่องจริงจังและมีผลเหมือนคำสาบานตามที่ได้พูดออกไป และหลายครั้งคัมภีร์ไบเบิลมักใช้สองคำนี้คู่กัน (กดว 30:2; มธ 5:33) “การปฏิญาณ” เป็นการแสดงความตั้งใจที่จะทำอะไรบางอย่าง แต่ “การสาบาน” เป็นการยืนยันกับผู้มีอำนาจว่าสิ่งที่พูดไปเป็นความจริง หรือยืนยันว่าจะทำตามที่พูด หลายครั้งมีการสาบานเมื่อทั้งสองฝ่ายทำสัญญากัน—ปฐก 26:28; 31:44, 53
ค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
เยฟธาห์
it-2-E น. 28 ว. 1
คนคนหนึ่งอาจถูกอุทิศให้พระยะโฮวาเพื่อทำงานรับใช้ที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ พ่อแม่มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนั้นได้ อย่างในกรณีของซามูเอล ฮันนาห์แม่ของเขาปฏิญาณว่าจะให้เขารับใช้ที่เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ก่อนเขาเกิด เอลคานาห์สามีของเธอก็เห็นด้วยกับคำปฏิญาณนี้ ทันทีที่ซามูเอลหย่านม ฮันนาห์ก็พาเขาไปรับใช้ที่เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ และฮันนาห์ก็เอาสัตว์ที่จะถวายเป็นเครื่องบูชาไปด้วย (1ซม 1:11, 22-28; 2:11) แซมสันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่พ่อแม่อุทิศให้รับใช้พระเจ้าในฐานะนาศีร์—วนฉ 13:2-5, 11-14 เทียบกับ กดว 30:3-5, 16
วันที่ 17-23 พฤษภาคม
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์
“ทำตามที่คุณปฏิญาณไว้”
คานาอัน
it-1-E น. 404 ว. 2
โยชูวา “ทำตามทุกสิ่งที่พระยะโฮวาสั่งโมเสสไว้” ที่ให้ทำลายชาวคานาอัน (ยชว 11:15) แต่ชาวอิสราเอลไม่ได้สานต่อสิ่งที่โยชูวาทำไว้ และไม่ได้กำจัดชาวคานาอันให้หมดไปจากแผ่นดิน การที่ให้ชาวคานาอันอยู่รวมกับพวกเขาทำให้เกิดผลเสียหลายอย่างเพราะในเวลาต่อมามีผู้คนล้มตายจำนวนมาก ถ้าพวกเขาเชื่อฟังคำสั่งที่ให้ขับไล่ชาวคานาอันตั้งแต่แรกก็จะไม่มีคนที่ต้องตายมากเท่านี้ และยังมีอาชญากรรม การทำผิดศีลธรรม การไหว้รูปเคารพมากขึ้นด้วย (กดว 33:55, 56; วนฉ 2:1-3, 11-23; สด 106:34-43) พระยะโฮวาเตือนชาวอิสราเอลว่าพระองค์ตัดสินอย่างยุติธรรมและไม่ลำเอียง ถ้าชาวอิสราเอลยังคงคบหาสนิทกับชาวคานาอัน แต่งงานกับพวกเขา นมัสการพระของพวกเขา และรับเอาธรรมเนียมและกิจปฏิบัติที่เสื่อมทรามของพวกเขา พระยะโฮวาจะให้พวกเขารับโทษแบบเดียวกับชาวคานาอัน และ ‘ขับไล่พวกเขาออกไปจากแผ่นดิน’—อพย 23:32, 33; 34:12-17; ลนต 18:26-30; ฉธบ 7:2-5, 25, 26
ค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
เขตที่ดิน
it-1-E น. 359 ว. 2
เมื่อรู้ตำแหน่งที่ดินที่แต่ละตระกูลจะได้รับจากการจับฉลากแล้ว ก็จำเป็นต้องกำหนดความกว้างใหญ่ของที่ดินโดยดูจากปัจจัยที่ 2 คือ ขนาดของแต่ละตระกูล “ให้แบ่งที่ดินให้ตระกูลและวงศ์ตระกูลต่าง ๆ ของพวกเจ้าโดยการจับฉลาก ตระกูลไหนคนมากพวกเจ้าก็เพิ่มที่ดินให้เขา ตระกูลไหนคนน้อยก็ลดขนาดที่ดินลงมา มรดกที่ดินของแต่ละตระกูลจะเป็นไปตามที่เขาจับฉลากได้” (กดว 33:54) ตำแหน่งที่ดินที่จับฉลากได้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ขนาดที่ดินเปลี่ยนแปลงได้ตามจำนวนคนของตระกูลนั้น ๆ เช่น เมื่อเห็นว่าที่ดินของตระกูลยูดาห์ใหญ่เกินไป ส่วนหนึ่งของที่ดินนี้จึงมีการแบ่งให้ตระกูลสิเมโอน—ยชว 19:9
วันที่ 7-13 มิถุนายน
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์
“กฎหมายของพระยะโฮวายอดเยี่ยมและยุติธรรม”
ความเข้าใจ
it-2-E น. 1140 ว. 5
การขยันศึกษาและเอาคำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิลไปใช้จะทำให้คนนั้นมีความเข้าใจลึกซึ้งกว่าครูของเขา และมีความเข้าใจมากกว่าผู้อาวุโส (สด 119:99, 100, 130 เทียบกับ ลก 2:46, 47) นี่เป็นเพราะสติปัญญาและความเข้าใจมาจากกฎหมายของพระยะโฮวา เมื่อชาวอิสราเอลทำตามคำสั่งของพระเจ้าอย่างซื่อสัตย์ก็ทำให้ชาติที่อยู่รอบข้างมองพวกเขาว่าเป็น “ชนชาติที่มีสติปัญญาและความเข้าใจ” (ฉธบ 4:5-8; สด 111:7, 8, 10 เทียบกับ 1พก 2:3) คนที่มีความเข้าใจรู้ว่าคำของพระเจ้าไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เขาอยากใช้ชีวิตตามคำสอนของพระองค์และพึ่งพระองค์เสมอ (สด 119:169) เขาเข้าใจคำสอนของพระเจ้าอย่างลึกซึ้ง (มธ 13:19-23) คำสอนนั้นเขียนไว้ในหัวใจของเขาและทำให้เขาเกลียด “ทางที่ผิดทุกทาง” (สด 119:104) ตอนที่พระเยซูลูกของพระเจ้าอยู่บนโลก ท่านทำให้เห็นว่าท่านมีความเข้าใจแบบนี้ด้วย ท่านถึงกับยอมตายบนเสาทรมานเพราะคัมภีร์ไบเบิลบอกไว้ว่าท่านต้องตายแบบนี้—มธ 26:51-54
วันที่ 28 มิถุนายน–4 กรกฎาคม
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์
“พระยะโฮวาต้องการอะไรจากคุณ?”
ลูกหลานของอานาค
it-1-E น. 103
ชนชาติที่มีรูปร่างใหญ่โตอาศัยอยู่แถบเทือกเขาของแผ่นดินคานาอัน รวมถึงแถบทะเลบางส่วนที่อยู่ทางทิศใต้ของคานาอัน มีครั้งหนึ่งที่ลูกหลานของอานาค 3 คนที่เป็นระดับหัวหน้าคือ อาหิมาน เชชัย ทัลมัย ไปอาศัยอยู่ที่เฮโบรน (กดว 13:22) ที่นี่แหละที่คนสอดแนมชาวฮีบรู 12 คนได้เห็นลูกหลานของอานาคเป็นครั้งแรก และคนสอดแนม 10 คนกลับมารายงานด้วยความกลัว พวกเขาบอกว่า ผู้ชายพวกนั้นเป็นลูกหลานของเนฟิล ซึ่งเคยมีชีวิตอยู่ก่อนน้ำท่วมโลก และเมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว ชาวฮีบรูเป็นเหมือน “ตั๊กแตน” (กดว 13:28-33; ฉธบ 1:28) รูปร่างใหญ่โตของพวกเขามักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับคนที่มีร่างกายใหญ่โต เช่น พวกเอมิมและเรฟาอิม ดูเหมือนมีการพูดถึงพละกำลังของพวกเขาในเชิงกวีว่า “ใครจะไปสู้ลูกหลานของอานาคได้?”—ฉธบ 2:10, 11, 20, 21; 9:1-3