ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • สอนเรื่องความถ่อมตัวในปัสกาครั้งสุดท้าย
    พระเยซู—ทางนั้น ความจริง ชีวิต
    • พระ​เยซู​ล้าง​เท้า​ให้​พวก​อัครสาวก​เพื่อ​สอน​พวก​เขา​เรื่อง​ความ​ถ่อม​ตัว

      บท 116

      สอน​เรื่อง​ความ​ถ่อม​ตัว​ใน​ปัสกา​ครั้ง​สุด​ท้าย

      มัทธิว 26:20 มาระโก 14:17 ลูกา 22:14-18 ยอห์น 13:1-17

      • พระ​เยซู​ฉลอง​ปัสกา​ครั้ง​สุด​ท้าย​กับ​อัครสาวก

      • พระ​เยซู​ล้าง​เท้า​ให้​อัครสาวก

      เปโตร​กับ​ยอห์น​ทำ​ตาม​ที่​พระ​เยซู​สั่ง​และ​ไป​เยรูซาเล็ม​เพื่อ​เตรียม​การ​ฉลอง​ปัสกา ส่วน​พระ​เยซู​กับ​อัครสาวก​อีก 10 คน​ก็​ตาม​ไป​ตอน​บ่าย​แก่ ๆ ระหว่าง​ที่​พวก​เขา​เดิน​ลง​จาก​ภูเขา​มะกอก ดวง​อาทิตย์​ก็​คล้อย​ต่ำ​ลง​เรื่อย ๆ นี่​เป็น​วิว​ตอน​กลางวัน​ที่​พระ​เยซู​จะ​ได้​เห็น​เป็น​ครั้ง​สุด​ท้าย

      ไม่​นาน​พระ​เยซู​กับ​อัครสาวก​ก็​มา​ถึง​เยรูซาเล็ม​และ​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​ที่​จะ​ฉลอง​ปัสกา พวก​เขา​ขึ้น​ไป​ห้อง​ใหญ่​ที่​อยู่​ชั้น​บน มี​การ​เตรียม​ทุก​อย่าง​ไว้​พร้อม​สำหรับ​มื้อ​อาหาร​ส่วน​ตัว​ของ​พวก​เขา พระ​เยซู​รอ​คอย​เวลา​นี้​มา​นาน​แล้ว ท่าน​พูด​ว่า “ผม​อยาก​จะ​กิน​อาหาร​ปัสกา​ครั้ง​นี้​กับ​พวก​คุณ​มาก ก่อน​ที่​ผม​จะ​ต้อง​ทน​ทุกข์​ทรมาน”—ลูกา 22:15

      หลาย​ปี​ก่อน มี​การ​เริ่ม​ธรรมเนียม​ส่ง​ผ่าน​ถ้วย​เหล้า​องุ่น​ใน​การ​ฉลอง​ปัสกา ตอน​นี้ พระ​เยซู​จึง​รับ​ถ้วย​มา อธิษฐาน​ขอบคุณ​พระเจ้า และ​พูด​ว่า “ดื่ม​สิ แล้ว​ส่ง​ต่อ ๆ กัน​ไป​ให้​ทุก​คน​ดื่ม ผม​จะ​บอก​คุณ​ว่า ตั้ง​แต่​นี้​ไป​ผม​จะ​ไม่​ดื่ม​เหล้า​องุ่น​อีก​เลย​จน​กว่า​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​จะ​มา​ปกครอง” (ลูกา 22:17, 18) นี่​แสดง​ว่า​เวลา​ที่​ท่าน​จะ​ถูก​ประหาร​ใกล้​เข้า​มา​แล้ว

      ระหว่าง​ที่​พวก​เขา​กำลัง​กิน​อาหาร​ปัสกา พระ​เยซู​ก็​ลุก​จาก​โต๊ะ​อาหาร ถอด​เสื้อ​คลุม​วาง​ไว้ หยิบ​ผ้า​เช็ด​ตัว​มา​คาด​เอว และ​เอา​น้ำ​ใส่​อ่าง​ที่​อยู่​ใกล้ ๆ ตาม​ปกติ​เจ้าของ​บ้าน​จะ​คอย​ดู​แล​ให้​แขก​ได้​ล้าง​เท้า โดย​อาจ​ให้​คน​รับใช้​ล้าง (ลูกา 7:44) คราว​นี้​เจ้าของ​บ้าน​ไม่​ได้​อยู่​ด้วย พระ​เยซู​จึง​ทำ​งาน​นี้​เอง จริง ๆ แล้ว​อัครสาวก​น่า​จะ​เป็น​คน​ทำ แต่​ดู​เหมือน​ว่า​พวก​เขา​ยัง​แข่งขัน​กัน​อยู่ จึง​ไม่​มี​ใคร​ยอม​ทำ ตอน​นี้​พวก​เขา​รู้สึก​อาย​ที่​พระ​เยซู​มา​ล้าง​เท้า​ให้

      เมื่อ​ถึง​ตา​เปโตร เขา​ทัก​ท้วง​ว่า “ท่าน​จะ​มา​ล้าง​เท้า​ให้​ผม​ไม่​ได้​หรอก​ครับ” พระ​เยซู​บอก​เขา​ว่า “ถ้า​ไม่​ให้​ผม​ล้าง​ให้ คุณ​ก็​มี​ส่วน​ร่วม​กับ​ผม​ไม่​ได้” เปโตร​จึง​พูด​ว่า “นาย​ครับ ถ้า​อย่าง​นั้น​อย่า​ล้าง​แค่​เท้า​เลย ล้าง​มือ​กับ​หัว​ให้​ผม​ด้วย” เปโตร​คง​แปลก​ใจ​มาก​เมื่อ​พระ​เยซู​พูด​ว่า “คน​ที่​อาบ​น้ำ​แล้ว​ก็​สะอาด​ทั้ง​ตัว ล้าง​แค่​เท้า​ก็​พอ พวก​คุณ​สะอาด แต่​ไม่​ใช่​ทุก​คน”—ยอห์น 13:8-10

      พระ​เยซู​ล้าง​เท้า​ของ​อัครสาวก​ทุก​คน รวม​ทั้ง​ยูดาส​อิสคาริโอท​ด้วย หลัง​จาก​ใส่​เสื้อ​คลุม​และ​กลับ​ไป​นั่ง​เอน​ตัว​ที่​โต๊ะ​อาหาร พระ​เยซู​ก็​ถาม​ว่า “เข้าใจ​ไหม​ว่า ทำไม​ผม​ทำ​อย่าง​นี้​ให้​พวก​คุณ? พวก​คุณ​เรียก​ผม​ว่า ‘อาจารย์’ และ ‘นาย’ และ​ที่​พวก​คุณ​เรียก​แบบ​นั้น​ก็​ถูก​แล้ว เพราะ​ผม​เป็น​อย่าง​นั้น​จริง ๆ ดัง​นั้น ถ้า​ผม​ที่​เป็น​นาย​และ​อาจารย์​ยัง​ล้าง​เท้า​ให้​พวก​คุณ พวก​คุณ​ก็​ควร​จะ​ล้าง​เท้า​ให้​กัน​และ​กัน​ด้วย ผม​ทำ​เป็น​ตัว​อย่าง​ให้​ดู​แล้ว พวก​คุณ​ก็​ควร​ทำ​ตาม ผม​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า ทาส​ไม่​ใหญ่​กว่า​นาย และ​คน​ที่​ถูก​ใช้​ไป​ก็​ไม่​ใหญ่​กว่า​คน​ที่​ใช้​เขา ถ้า​พวก​คุณ​รู้​เรื่อง​นี้​แล้ว​ทำ​ตาม พวก​คุณ​จะ​มี​ความ​สุข”—ยอห์น 13:12-17

      เป็น​วิธี​สอน​เรื่อง​ความ​ถ่อม​ตัว​ที่​ยอด​เยี่ยม​จริง ๆ! สาวก​ของ​พระ​เยซู​ไม่​ควร​แข่ง​กัน​เป็น​ที่​หนึ่ง ไม่​ควร​คิด​ว่า​ตัว​เอง​สำคัญ และ​ไม่​ควร​ให้​คน​อื่น​มา​รับใช้ แต่​พวก​เขา​ควร​ทำ​ตาม​ตัว​อย่าง​ของ​พระ​เยซู ไม่​ใช่​เรื่อง​การ​ล้าง​เท้า แต่​เป็น​การ​เต็ม​ใจ​รับใช้​คน​อื่น​อย่าง​ถ่อม​ตัว​และ​ไม่​ลำเอียง

      • ระหว่าง​กิน​อาหาร​ปัสกา พระ​เยซู​พูด​อะไร​ที่​ทำ​ให้​สาวก​รู้​ว่า​การ​ตาย​ของ​ท่าน​ใกล้​เข้า​มา​แล้ว?

      • ทำไม​การ​ที่​พระ​เยซู​ล้าง​เท้า​ให้​อัครสาวก​จึง​เป็น​เรื่อง​แปลก?

      • เรา​ได้​เรียน​อะไร​จาก​การ​ที่​พระ​เยซู​ทำ​งาน​ที่​ต่ำต้อย​โดย​ล้าง​เท้า​ให้​อัครสาวก?

  • อาหารมื้อเย็นของพระคริสต์
    พระเยซู—ทางนั้น ความจริง ชีวิต
    • พระ​เยซู​ตั้ง​การ​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​พระ​คริสต์​ร่วม​กับ​อัครสาวก​ที่​ซื่อ​สัตย์ 11 คน

      บท 117

      อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​พระ​คริสต์

      มัทธิว 26:21-29 มาระโก 14:18-25 ลูกา 22:19-23 ยอห์น 13:18-30

      • พระ​เยซู​บอก​ให้​รู้​ว่า​ยูดาส​เป็น​คน​ทรยศ

      • พระ​เยซู​ตั้ง​การ​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น

      พระ​เยซู​เพิ่ง​สอน​บทเรียน​เรื่อง​ความ​ถ่อม​ตัว​โดย​ล้าง​เท้า​ให้​อัครสาวก เมื่อ​พวก​เขา​กิน​อาหาร​ฉลอง​ปัสกา​กัน​เสร็จ พระ​เยซู​ยก​คำ​พูด​ของ​ดาวิด​ขึ้น​มา​ที่​ว่า “คน​ที่​เคย​ดี​กับ​ผม คน​ที่​ผม​ไว้​ใจ และ​คน​ที่​กิน​อาหาร​ของ​ผม​ได้​ตั้ง​ตัว​เป็น​ศัตรู​กับ​ผม” แล้ว​ท่าน​ก็​พูด​ว่า “คน​หนึ่ง​ใน​พวก​คุณ​จะ​ทรยศ​ผม”—สดุดี 41:9; ยอห์น 13:18, 21

      อัครสาวก​มอง​หน้า​กัน​แล้ว​ถาม​พระ​เยซู​ว่า “คง​ไม่​ใช่​ผม​นะ อาจารย์?” แม้​แต่​ยูดาส​ก็​ถาม! เปโตร​บอก​ให้​ยอห์น​ถาม​พระ​เยซู เพราะ​เขา​นั่ง​ติด​กับ​ท่าน ยอห์น​จึง​เอียง​ตัว​ไป​ใกล้​พระ​เยซู​และ​ถาม​ว่า “ท่าน​หมาย​ถึง​ใคร​ครับ?”—มัทธิว 26:22; ยอห์น 13:25

      พระ​เยซู​ตอบ​ว่า “คน​นั้น​คือ​คน​ที่​ผม​จะ​เอา​ขนมปัง​จิ้ม​ใน​ชาม​และ​ยื่น​ให้​เขา” ท่าน​เอา​ขนมปัง​จิ้ม​ใน​ชาม​และ​ยื่น​ให้​ยูดาส​พร้อม​กับ​พูด​ว่า “‘ลูก​มนุษย์’ จะ​ต้อง​ตาย​อย่าง​ที่​พระ​คัมภีร์​บอก​ไว้ แต่​คน​ที่​ทรยศ ‘ลูก​มนุษย์’ จะ​ต้อง​พินาศ ถ้า​คน​นั้น​ไม่​ได้​เกิด​มา​เลย​ก็​ดี​กว่า” (ยอห์น 13:26; มัทธิว 26:24) ตอน​นั้น​ยูดาส​ตัดสิน​ใจ​ทำ​ตาม​ความ​คิด​ที่​ชั่ว​ร้าย​ของ​ซาตาน เขา​จึง​เป็น ‘คน​ที่​จะ​ต้อง​พินาศ’—ยอห์น 6:64, 70; 12:4; 17:12

      พระ​เยซู​บอก​ยูดาส​ว่า “คุณ​จะ​ทำ​อะไร​ก็​รีบ​ทำ​เถอะ” อัครสาวก​คน​อื่น​คิด​ว่า​ท่าน​พูด​แบบ​นั้น​เพื่อ​บอก​ให้​ยูดาส “‘ไป​ซื้อ​ของ​ที่​ต้อง​ใช้​ใน​เทศกาล’ . . . หรือ​ไม่​ก็​บอก​เขา​ให้​ไป​แจก​ทาน​ให้​คน​จน” เพราะ​เขา​เป็น​คน​ถือ​กล่อง​เก็บ​เงิน (ยอห์น 13:27-30) แต่​ยูดาส​ออก​ไป​เพื่อ​ทรยศ​พระ​เยซู

      หลัง​จาก​นั้น พระ​เยซู​ตั้ง​มื้อ​อาหาร​แบบ​ใหม่​ขึ้น ท่าน​หยิบ​ขนมปัง​แผ่น​หนึ่ง อธิษฐาน​ขอบคุณ​พระเจ้า หัก​ส่ง​ให้​อัครสาวก​แล้ว​พูด​ว่า “รับ​ไป​กิน​สิ นี่​หมาย​ถึง​ร่าง​กาย​ของ​ผม​ที่​จะ​ต้อง​สละ​เพื่อ​พวก​คุณ​ทุก​คน ให้​ทำ​อย่าง​นี้​ต่อ ๆ ไป​เพื่อ​ระลึก​ถึง​ผม” (ลูกา 22:19) อัครสาวก​ส่ง​ขนมปัง​ต่อ​กัน​ไป​เรื่อย ๆ แล้ว​ทุก​คน​ก็​กิน​ขนมปัง​นั้น

      ตอน​นี้​พระ​เยซู​หยิบ​ถ้วย​เหล้า​องุ่น อธิษฐาน​ขอบคุณ​พระเจ้า และ​ส่ง​ต่อ​ให้​อัครสาวก​ทุก​คน​ดื่ม​จาก​ถ้วย​นั้น ท่าน​บอก​พวก​เขา​ว่า “ถ้วย​นี้​หมาย​ถึง​สัญญา​ใหม่​ที่​จะ​เริ่ม​มี​ผล​เมื่อ​ผม​สละ​เลือด​ของ​ผม​เพื่อ​พวก​คุณ”—ลูกา 22:20

      พระ​เยซู​ตั้ง​การ​ฉลอง​เพื่อ​ระลึก​ถึง​การ​เสีย​ชีวิต​ของ​ท่าน ซึ่ง​สาวก​ต้อง​ทำ​แบบ​เดียว​กัน​นี้​ทุก​ปี ใน​วัน​ที่ 14 เดือน​นิสาน นี่​เป็น​โอกาส​ที่​พวก​เขา​จะ​คิด​ทบทวน​ถึง​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​และ​พ่อ​ของ​ท่าน​ได้​ทำ เพื่อ​ช่วย​คน​ที่​มี​ความ​เชื่อ​ให้​พ้น​จาก​บาป​และ​ความ​ตาย การ​ฉลอง​นี้​สำคัญ​ยิ่ง​กว่า​เทศกาล​ปัสกา​ของ​ชาว​ยิว เพราะ​ทำ​ให้​คน​ที่​มี​ความ​เชื่อ​ได้​อิสระ​ที่​แท้​จริง

      พระ​เยซู​บอก​ว่า​ท่าน​จะ​ต้อง ‘สละ​เลือด​เพื่อ​ให้​คน​จำนวน​มาก​ได้​รับ​การ​อภัย​บาป’ นั่น​รวม​ไป​ถึง​อัครสาวก​และ​สาวก​คน​อื่น ๆ ที่​ซื่อ​สัตย์​เหมือน​พวก​เขา คน​เหล่า​นี้​จะ​ได้​ปกครอง​ร่วม​กับ​พระ​เยซู​ใน​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า—มัทธิว 26:28, 29

      • พระ​เยซู​ยก​คำ​พยากรณ์​อะไร​ขึ้น​มา และ​ท่าน​หมาย​ความ​ว่า​อย่าง​ไร?

      • พระ​เยซู​บอก​ยูดาส​ว่า​อะไร แต่​อัครสาวก​คน​อื่น​เข้าใจ​อย่าง​ไร?

      • พระ​เยซู​ตั้ง​การ​ฉลอง​อะไร และ​จุด​ประสงค์​ของ​การ​ฉลอง​นั้น​คือ​อะไร?

  • เถียงกันว่าใครเป็นใหญ่ที่สุด
    พระเยซู—ทางนั้น ความจริง ชีวิต
    • อัครสาวก​ของ​พระ​เยซู​เถียง​กัน​ว่า​ใคร​เป็น​ใหญ่​ที่​สุด

      บท 118

      เถียง​กัน​ว่า​ใคร​เป็น​ใหญ่​ที่​สุด

      มัทธิว 26:31-35 มาระโก 14:27-31 ลูกา 22:24-38 ยอห์น 13:31-38

      • พระ​เยซู​เตือน​สาวก​ที่​อยาก​เป็น​ใหญ่

      • พระ​เยซู​บอก​ว่า​เปโตร​จะ​ปฏิเสธ​ท่าน

      • ความ​รัก​เป็น​สิ่ง​ที่​ระบุ​ตัว​สาวก​แท้

      เย็น​วัน​สุด​ท้าย​ที่​พระ​เยซู​อยู่​กับ​อัครสาวก ท่าน​สอน​บทเรียน​ที่​ดี​เรื่อง​ความ​ถ่อม​ตัว​โดย​ล้าง​เท้า​ให้​พวก​เขา ทำไม​เรื่อง​นี้​จึง​เหมาะ? เพราะ​อัครสาวก​มี​ข้อ​อ่อนแอ​บาง​อย่าง พวก​เขา​ทุ่มเท​ตัว​รับใช้​พระเจ้า แต่​ก็​ยัง​อยาก​จะ​เป็น​ใหญ่​กว่า​คน​อื่น (มาระโก 9:33, 34; 10:35-37) แล้ว​พวก​เขา​ก็​เถียง​กัน​อีก​ครั้ง

      อัครสาวก ‘เถียง​กัน​ว่า ใน​พวก​เขา​ใคร​เป็น​ใหญ่​ที่​สุด’ (ลูกา 22:24) พระ​เยซู​คง​เสียใจ​มาก​ที่​พวก​เขา​เถียง​กัน​เรื่อง​นี้​อีก​แล้ว! ท่าน​ทำ​อย่าง​ไร?

      พระ​เยซู​ไม่​ได้​ต่อ​ว่า​อัครสาวก​ที่​คิด​และ​ทำ​ไม่​ดี แต่​ท่าน​สอน​อย่าง​ใจ​เย็น​ว่า “กษัตริย์​ใน​โลก​นี้​ชอบ​ทำ​ตัว​เป็น​นาย​เหนือ​ประชาชน และ​คน​ที่​มี​อำนาจ​เหนือ​คน​อื่น​ก็​อยาก​ให้​คน​มอง​เขา​ว่า​เป็น​ผู้​ทำ​ประโยชน์​เพื่อ​สังคม พวก​คุณ​ต้อง​ไม่​เป็น​อย่าง​นั้น . . . ใคร​เป็น​ใหญ่​กว่า​กัน คน​ที่​นั่ง​เอน​ตัว​ที่​โต๊ะ​หรือ​คน​รับใช้?” แล้ว​พระ​เยซู​เตือน​พวก​เขา​ให้​นึก​ถึง​ตัว​อย่าง​ของ​ท่าน​โดย​บอก​ว่า “ผม​ทำ​ตัว​เป็น​คน​รับใช้​พวก​คุณ”—ลูกา 22:25-27

      ทั้ง ๆ ที่​มี​ข้อ​อ่อนแอ แต่​อัครสาวก​ก็​อยู่​กับ​พระ​เยซู​ไม่​ว่า​จะ​มี​ปัญหา​มาก​ขนาด​ไหน ท่าน​จึง​พูด​ว่า “ผม​ทำ​สัญญา​กับ​พวก​คุณ​ว่า​จะ​ให้​พวก​คุณ​ปกครอง​ใน​รัฐบาล เหมือน​ที่​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​ของ​ผม​ได้​ทำ​สัญญา​กับ​ผม” (ลูกา 22:29) อัครสาวก​เป็น​ผู้​ติด​ตาม​ที่​ซื่อ​สัตย์​ของ​พระ​เยซู และ​ท่าน​ทำ​สัญญา​เพื่อ​รับรอง​ว่า​พวก​เขา​จะ​ได้​ร่วม​ปกครอง​กับ​ท่าน​ใน​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า

      ถึง​แม้​อัครสาวก​มี​ความ​หวัง​ที่​ยอด​เยี่ยม​นี้ แต่​พวก​เขา​ก็​ยัง​ไม่​สมบูรณ์ พระ​เยซู​บอก​ว่า “ซาตาน​อยาก​ได้​พวก​คุณ​ทั้ง​หมด และ​จะ​ร่อน​พวก​คุณ​เหมือน​ร่อน​ข้าว​สาลี” สิ่ง​ที่​ถูก​ร่อน​จะ​กระจัด​กระจาย​และ​ไม่​เกาะ​กัน​เป็น​กลุ่ม​ก้อน​อีก​ต่อ​ไป (ลูกา 22:31) ท่าน​เตือน​พวก​เขา​ด้วย​ว่า “คืน​นี้ พวก​คุณ​จะ​ทิ้ง​ผม​ไป​หมด​เพราะ​เรื่อง​ที่​จะ​เกิด​ขึ้น​กับ​ผม ตาม​ที่​พระ​คัมภีร์​บอก​ไว้​ว่า ‘เรา​จะ​ฆ่า​คน​เลี้ยง​แกะ และ​แกะ​ใน​ฝูง​จะ​กระเจิดกระเจิง​ไป’”—มัทธิว 26:31; เศคาริยาห์ 13:7

      แต่​เปโตร​พูด​ขึ้น​มา​อย่าง​มั่น​ใจ​ว่า “ถึง​ทุก​คน​จะ​ทิ้ง​ท่าน​ไป​หมด​เพราะ​เรื่อง​ที่​จะ​เกิด​ขึ้น​กับ​ท่าน แต่​ผม​จะ​ไม่​มี​วัน​ทิ้ง​ท่าน​เลย” (มัทธิว 26:33) พระ​เยซู​บอก​เปโตร​ว่า​ก่อน​ไก่​ขัน 2 ครั้ง​ใน​คืน​นั้น เขา​จะ​ปฏิเสธ​ท่าน แต่​ท่าน​ก็​เสริม​ว่า “ผม​อธิษฐาน​อ้อน​วอน​เพื่อ​ความ​เชื่อ​ของ​คุณ​จะ​ไม่​หมด​ไป และ​เมื่อ​คุณ​กลับ​มา​แล้ว ก็​ให้​ช่วย​พี่​น้อง​ของ​คุณ​ให้​มี​ความ​เชื่อ​เข้มแข็ง” (ลูกา 22:32) เปโตร​รับรอง​อย่าง​กล้า​หาญ​ว่า “ต่อ​ให้​ผม​ต้อง​ตาย​พร้อม​กับ​ท่าน ผม​จะ​ไม่​ปฏิเสธ​ท่าน​เด็ดขาด” (มัทธิว 26:35) อัครสาวก​คน​อื่น ๆ ก็​พูด​เป็น​เสียง​เดียว​กัน

      พระ​เยซู​บอก​อัครสาวก​ว่า “ลูก ๆ ที่​รัก ผม​จะ​อยู่​กับ​พวก​คุณ​ได้​อีก​ไม่​นาน พวก​คุณ​จะ​ตาม​หา​ผม และ​อย่าง​ที่​ผม​เคย​บอก​พวก​ยิว​ว่า ‘ที่​ที่​ผม​จะ​ไป​นั้น พวก​คุณ​จะ​ไป​ไม่​ได้’ ตอน​นี้​ผม​ก็​จะ​บอก​พวก​คุณ​อย่าง​นั้น​ด้วย ผม​ให้​กฎหมาย​ใหม่​กับ​พวก​คุณ คือ ให้​พวก​คุณ​รัก​กัน ผม​รัก​พวก​คุณ​อย่าง​ไร ก็​ให้​พวก​คุณ​รัก​กัน​อย่าง​นั้น​ด้วย ทุก​คน​จะ​รู้​ว่า​พวก​คุณ​เป็น​สาวก​ของ​ผม เมื่อ​พวก​คุณ​รัก​กัน”—ยอห์น 13:33-35

      เมื่อ​ได้​ยิน​ว่า​พระ​เยซู​จะ​อยู่​กับ​พวก​เขา​ได้​อีก​ไม่​นาน เปโตร​ก็​ถาม​ว่า “ท่าน​จะ​ไป​ไหน​หรือ​ครับ?” พระ​เยซู​ตอบ​ว่า “ที่​ที่​ผม​จะ​ไป​นั้น ตอน​นี้​คุณ​ยัง​ตาม​ไป​ไม่​ได้ แต่​คุณ​จะ​ตาม​ผม​ไป​ที​หลัง” เปโตร​รู้สึก​งง ๆ จึง​ถาม​อีก​ว่า “นาย​ครับ ทำไม​ผม​ถึง​ตาม​ไป​ตอน​นี้​ไม่​ได้​ล่ะ? ผม​พร้อม​จะ​สละ​ชีวิต​เพื่อ​ท่าน”—ยอห์น 13:36, 37

      แล้ว​พระ​เยซู​ก็​พูด​ถึง​ตอน​ที่​ส่ง​อัครสาวก​ออก​ไป​ประกาศ​ทั่ว​กาลิลี​โดย​ที่​ไม่​ต้อง​เอา​เงิน​หรือ​ย่าม​ใส่​อาหาร​ไป​ด้วย (มัทธิว 10:5, 9, 10) ท่าน​ถาม​ว่า “ตอน​นั้น​พวก​คุณ​ขาด​อะไร​ไหม?” พวก​เขา​ตอบ​ว่า “ไม่​เลย​ครับ” แต่​ตอน​นี้​ท่าน​พูด​ว่า “ใคร​มี​ถุง​เงิน​ก็​ให้​เอา​ไป​ด้วย ใคร​มี​ย่าม​ใส่​อาหาร​ก็​ให้​เอา​ไป และ​ใคร​ไม่​มี​ดาบ​ก็​ให้​เอา​เสื้อ​คลุม​ไป​ขาย​แล้ว​ไป​ซื้อ​ดาบ ผม​จะ​บอก​คุณ​ว่า​สิ่ง​ที่​เขียน​ไว้​ใน​พระ​คัมภีร์​จะ​ต้อง​เกิด​ขึ้น​กับ​ผม​ที่​ว่า ‘เขา​ถูก​นับ​อยู่​ใน​พวก​คน​ชั่ว’ เรื่อง​นี้​จะ​ต้อง​เกิด​ขึ้น​กับ​ผม​แน่นอน”—ลูกา 22:35-37

      พระ​เยซู​กำลัง​พูด​ถึง​เวลา​ที่​ท่าน​จะ​ถูก​ตรึง​บน​เสา​ทรมาน​พร้อม​กับ​คน​ชั่ว ต่อ​จาก​นั้น​สาวก​ของ​ท่าน​จะ​ต้อง​เจอ​การ​ข่มเหง​อย่าง​รุนแรง พวก​เขา​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​พร้อม​แล้ว จึง​พา​กัน​พูด​ว่า “นี่​ไง​อาจารย์ เรา​มี​ดาบ​อยู่ 2 เล่ม” พระ​เยซู​บอก​ว่า “แค่​นั้น​ก็​พอ​แล้ว” (ลูกา 22:38) พระ​เยซู​จะ​ใช้​ดาบ 2 เล่ม​นั้น​เป็น​ตัว​อย่าง​ใน​การ​สอน​บทเรียน​สำคัญ​ให้​พวก​เขา

      • อัครสาวก​เถียง​กัน​เรื่อง​อะไร และ​พระ​เยซู​ทำ​อย่าง​ไร?

      • สัญญา​ที่​พระ​เยซู​ทำ​กับ​อัครสาวก​ที่​ซื่อ​สัตย์​มี​ความ​สำคัญ​อย่าง​ไร?

      • เมื่อ​เปโตร​พูด​ด้วย​ความ​มั่น​ใจ​ว่า​เขา​จะ​ไม่​ทิ้ง​พระ​เยซู ท่าน​บอก​เขา​ว่า​อะไร?

  • พระเยซู—ทางนั้น ความจริง ชีวิต
    พระเยซู—ทางนั้น ความจริง ชีวิต
    • พระ​เยซู​อยู่​ใน​ห้อง​ชั้น​บน​กับ​อัครสาวก​ที่​ซื่อ​สัตย์ 11 คน

      บท 119

      พระ​เยซู—ทาง​นั้น ความ​จริง ชีวิต

      ยอห์น 14:1-31

      • พระ​เยซู​ไป​เตรียม​ที่​ให้​สาวก

      • พระ​เยซู​สัญญา​ว่า​จะ​ส่ง​ผู้​ช่วย​มา​ให้​สาวก

      • พ่อ​ของ​พระ​เยซู​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า​ท่าน

      หลัง​จาก​กิน​อาหาร​ฉลอง​ปัสกา พระ​เยซู​ยัง​อยู่​กับ​อัครสาวก​ใน​ห้อง​ชั้น​บน ท่าน​กระตุ้น​พวก​เขา​ว่า “อย่า​ทุกข์​ใจ​ไป​เลย ขอ​ให้​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า และ​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​ตัว​ผม​ด้วย”—ยอห์น 13:36; 14:1

      พระ​เยซู​บอก​อัครสาวก​ที่​ซื่อ​สัตย์​ว่า​ไม่​ต้อง​กังวล​กับ​การ​จาก​ไป​ของ​ท่าน โดย​พูด​ว่า “บ้าน​ของ​พ่อ​ผม​มี​ที่​มาก​มาย​ให้​พวก​คุณ​อยู่​ได้ . . . เมื่อ​ผม​ไป​เตรียม​ที่​ให้​แล้ว ผม​จะ​กลับ​มา​รับ​พวก​คุณ​ไป​อยู่​กับ​ผม เพื่อ​ว่า​ผม​อยู่​ที่​ไหน พวก​คุณ​ก็​จะ​อยู่​ที่​นั่น​ด้วย” แต่​อัครสาวก​ไม่​เข้าใจ​ว่า​ท่าน​กำลัง​พูด​ถึง​การ​ไป​สวรรค์ โธมัส​จึง​ถาม​ว่า “นาย​ครับ พวก​เรา​ยัง​ไม่​รู้​เลย​ว่า​ท่าน​กำลัง​จะ​ไป​ไหน แล้ว​พวก​เรา​จะ​รู้​จัก​ทาง​นั้น​ได้​ยัง​ไง?”—ยอห์น 14:2-5

      พระ​เยซู​ตอบ​ว่า “ผม​เป็น​ทาง​นั้น เป็น​ความ​จริง และ​เป็น​ชีวิต” คน​ซื่อ​สัตย์​จะ​ได้​อยู่​ใน​บ้าน​ของ​พ่อ​พระ​เยซู​ก็​ต่อ​เมื่อ​เขา​ยอม​รับ​พระ​เยซู ยอม​รับ​สิ่ง​ที่​ท่าน​สอน และ​เลียน​แบบ​ท่าน พระ​เยซู​บอก​ว่า “ไม่​มี​ใคร​จะ​มา​ถึง​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​ได้​นอก​จาก​มา​ทาง​ผม”—ยอห์น 14:6

      ฟีลิป​ซึ่ง​ตั้งใจ​ฟัง​อยู่​จึง​พูด​ว่า “นาย​ครับ ขอ​แค่​ได้​เห็น​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ พวก​เรา​ก็​พอ​ใจ​แล้ว” ดู​เหมือน​ว่า​ฟีลิป​อยาก​เห็น​พระเจ้า เหมือน​กับ​ที่​โมเสส เอลียาห์ และ​อิสยาห์​เคย​เห็น​ใน​นิมิต แต่​ที่​จริง​อัครสาวก​ได้​เห็น​สิ่ง​ที่​ดี​กว่า​นิมิต​ซะ​อีก พระ​เยซู​เน้น​เรื่อง​นี้​โดย​พูด​ว่า “ฟีลิป ผม​อยู่​กับ​พวก​คุณ​มา​ตั้ง​นาน คุณ​ยัง​ไม่​รู้​จัก​ผม​อีก​หรือ? คน​ที่​ได้​เห็น​ผม​ก็​ได้​เห็น​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​ด้วย” พระ​เยซู​เลียน​แบบ​คุณลักษณะ​ของ​พ่อ​อย่าง​สมบูรณ์​แบบ ดัง​นั้น สาวก​ที่​ได้​ใช้​เวลา​กับ​ท่าน​และ​สังเกต​สิ่ง​ที่​ท่าน​ทำ​ก็​เหมือน​ได้​เห็น​พระเจ้า แน่นอน​ว่า​พ่อ​ของ​พระ​เยซู​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า​ท่าน เพราะ​พระ​เยซู​พูด​ว่า “สิ่ง​ที่​ผม​บอก​พวก​คุณ ผม​ไม่​ได้​คิด​ขึ้น​มา​เอง” (ยอห์น 14:8-10) อัครสาวก​รู้​ดี​ว่า​พระ​เยซู​ไม่​เคย​ถือ​ว่า​สิ่ง​ที่​ท่าน​สอน​มา​จาก​ตัว​เอง แต่​ท่าน​ให้​เกียรติ​ทั้ง​หมด​กับ​พ่อ​ของ​ท่าน

      อัครสาวก​เคย​เห็น​พระ​เยซู​ทำ​การ​อัศจรรย์​ต่าง ๆ และ​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า ตอน​นี้​ท่าน​พูด​ว่า “คน​ที่​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​ตัว​ผม​จะ​ทำ​งาน​ที่​ผม​ทำ​ด้วย และ​เขา​จะ​ทำ​งาน​ใหญ่​กว่า​ที่​ผม​ทำ​อีก” (ยอห์น 14:12) พระ​เยซู​ไม่​ได้​บอก​ว่า​สาวก​จะ​ทำ​การ​อัศจรรย์​ใหญ่​กว่า​ที่​ท่าน​เคย​ทำ แต่​พวก​เขา​จะ​ประกาศ​ข่าว​ดี​เป็น​ระยะ​เวลา​ยาว​นาน​กว่า ใน​ขอบ​เขต​ที่​กว้าง​กว่า และ​ไป​ถึง​ผู้​คน​มาก​กว่า

      สาวก​จะ​ไม่​ถูก​ทอดทิ้ง​เมื่อ​พระ​เยซู​จาก​ไป เพราะ​ท่าน​สัญญา​ว่า “ถ้า​พวก​คุณ​ขอ​อะไร​ใน​นาม​ของ​ผม ผม​จะ​ทำ​ให้” และ “ผม​จะ​ขอ​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​ให้​ส่ง​ผู้​ช่วย​อีก​ผู้​หนึ่ง​ให้​มา​อยู่​กับ​พวก​คุณ​ตลอด​ไป คือ​พลัง​ของ​พระเจ้า​ที่​ทำ​ให้​เห็น​ความ​จริง” (ยอห์น 14:14, 16, 17) พระ​เยซู​รับรอง​ว่า​พวก​เขา​จะ​ได้​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า​ซึ่ง​เป็น​เหมือน​ผู้​ช่วย และ​เรื่อง​นี้​เกิด​ขึ้น​จริง​ใน​วัน​เพ็นเทคอสต์

      พระ​เยซู​พูด​ว่า “อีก​หน่อย โลก​จะ​ไม่​ได้​เห็น​ผม แต่​พวก​คุณ​จะ​ได้​เห็น​ผม เพราะ​ผม​มี​ชีวิต​อยู่​และ​พวก​คุณ​ก็​จะ​มี​ชีวิต​ด้วย” (ยอห์น 14:19) เมื่อ​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย พระ​เยซู​จะ​กลับ​มา​หา​สาวก​ใน​ร่าง​กาย​ของ​มนุษย์ และ​เมื่อ​ถึง​เวลา ท่าน​ก็​จะ​ปลุก​สาวก​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย และ​ให้​พวก​เขา​มี​ร่าง​กาย​สำหรับ​สวรรค์​เพื่อ​จะ​ไป​อยู่​กับ​ท่าน

      แล้ว​พระ​เยซู​ก็​พูด​ถึง​หลัก​ความ​จริง​ที่​ว่า “ทุก​คน​ที่​รู้​ว่า​ผม​สั่ง​อะไร​และ​ทำ​ตาม​ก็​รัก​ผม พ่อ​ผม​จะ​รัก​ทุก​คน​ที่​รัก​ผม ผม​เอง​ก็​จะ​รัก​เขา​ด้วย​และ​จะ​ให้​เขา​ได้​รู้​จัก​ผม​จริง ๆ” แล้ว​ยูดาส​ที่​มี​อีก​ชื่อ​ว่า​ธัดเดอัส​ก็​ถาม​พระ​เยซู​ว่า “นาย​ครับ ท่าน​ตั้งใจ​ให้​พวก​เรา​ได้​รู้​จัก​ท่าน แต่​ทำไม​ไม่​ให้​โลก​รู้​จัก​ล่ะ​ครับ?” ท่าน​ตอบ​ว่า “ถ้า​ใคร​รัก​ผม เขา​จะ​ทำ​ตาม​คำ​สอน​ของ​ผม และ​พ่อ​ของ​ผม​จะ​รัก​เขา . . . ส่วน​คน​ที่​ไม่​รัก​ผม​ก็​ไม่​ทำ​ตาม​คำ​สอน​ของ​ผม” (ยอห์น 14:21-24) คน​ทั่ว​ไป​ไม่​เหมือน​กับ​สาวก เพราะ​พวก​เขา​ไม่​เข้าใจ​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​ทาง​นั้น เป็น​ความ​จริง และ​เป็น​ชีวิต

      ถ้า​พระ​เยซู​จาก​ไป​แล้ว สาวก​จะ​จำ​สิ่ง​ต่าง ๆ ที่​ท่าน​สอน​ได้​อย่าง​ไร? พระ​เยซู​อธิบาย​ว่า “เมื่อ​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​ส่ง​ผู้​ช่วย​มา​ใน​นาม​ของ​ผม คือ​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระองค์ ผู้​ช่วย​นั้น​จะ​สอน​พวก​คุณ​ทุก​อย่าง​และ​จะ​ช่วย​ให้​จำ​ทุก​เรื่อง​ที่​ผม​เคย​สอน​ได้” สาวก​คง​รู้สึก​อุ่น​ใจ​เมื่อ​ได้​ยิน​คำ​พูด​นี้ เพราะ​พวก​เขา​เข้าใจ​ดี​ว่า​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า​มี​อำนาจ​มาก พระ​เยซู​พูด​เสริม​ว่า “ผม​ให้​พวก​คุณ​มี​ความ​สงบ​สุข และ​พวก​คุณ​จะ​มี​ความ​สงบ​สุข​แบบ​นี้​ต่อ​ไป . . . พวก​คุณ​ไม่​ต้อง​ทุกข์​ใจ​และ​ไม่​ต้อง​กลัว” (ยอห์น 14:26, 27) พวก​สาวก​ไม่​ต้อง​กังวล​เลย เพราะ​พ่อ​ของ​พระ​เยซู​จะ​ชี้​นำ​และ​ปก​ป้อง​พวก​เขา

      อีก​ไม่​นาน สาวก​จะ​ได้​เห็น​ว่า​พระเจ้า​เป็น​ผู้​ให้​การ​ปก​ป้อง​จริง ๆ พระ​เยซู​บอก​ว่า “ผู้​ปกครอง​โลก​จะ​มา​แล้ว แต่​ผู้​นั้น​ไม่​มี​อำนาจ​เหนือ​ผม” (ยอห์น 14:30) ซาตาน​เข้า​ครอบ​งำ​จิตใจ​ของ​ยูดาส​ให้​เขา​ทำ​ตาม​ความ​คิด​ที่​ชั่ว​ร้าย​ของ​มัน แต่​พระ​เยซู​ไม่​มี​บาป ซาตาน​จึง​ไม่​สามารถ​ดล​ใจ​ท่าน​ให้​ต่อ​ต้าน​พระเจ้า และ​ถึง​มัน​จะ​ทำลาย​พระ​เยซู​ได้ แต่​ก็​แค่​ชั่ว​คราว​เท่า​นั้น เพราะ​ท่าน​บอก​ว่า “ผม​กำลัง​ทำ​ทุก​อย่าง​ตาม​ที่​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​สั่ง​ไว้” พระ​เยซู​มั่น​ใจ​เต็ม​ที่​ว่า​พ่อ​ของ​ท่าน​จะ​ปลุก​ท่าน​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย—ยอห์น 14:31

      • พระ​เยซู​จะ​ไป​ไหน และ​โธมัส​ได้​คำ​รับรอง​อะไร​เกี่ยว​กับ​ทาง​ที่​จะ​ไป​นั้น?

      • ฟีลิป​ขอ​ให้​พระ​เยซู​ทำ​อะไร?

      • เมื่อ​พระ​เยซู​บอก​ว่า​สาวก​จะ​ทำ​งาน​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า ท่าน​หมาย​ความ​ว่า​อย่าง​ไร?

      • ทำไม​การ​ได้​รู้​ว่า​พ่อ​ของ​พระ​เยซู​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า​ท่าน​จึง​เป็น​เรื่อง​ที่​ให้​กำลังใจ?

  • เป็นกิ่งที่เกิดผลและเป็นเพื่อนของพระเยซู
    พระเยซู—ทางนั้น ความจริง ชีวิต
    • พระ​เยซู​คุย​กับ​อัครสาวก​ตอน​กำลัง​จะ​ออก​จาก​ห้อง​ชั้น​บน

      บท 120

      เป็น​กิ่ง​ที่​เกิด​ผล​และ​เป็น​เพื่อน​ของ​พระ​เยซู

      ยอห์น 15:1-27

      • ต้น​องุ่น​แท้​และ​กิ่ง​ที่​ออก​ผล

      • เป็น​ที่​รัก​ของ​พระ​เยซู​เสมอ

      ตอน​นี้​ดึก​มาก คง​จะ​เลย​เที่ยง​คืน​ไป​แล้ว พระ​เยซู​ยัง​คง​ให้​กำลังใจ​อัครสาวก และ​เล่า​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​อีก​เรื่อง​หนึ่ง​ที่​ว่า

      “ผม​เป็น​ต้น​องุ่น​แท้ และ​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​ของ​ผม​เป็น​ผู้​ดู​แล​สวน​องุ่น” (ยอห์น 15:1) หลาย​ร้อย​ปี​ก่อน​หน้า​นี้​มี​การ​เปรียบ​ชาติ​อิสราเอล​เป็น​ต้น​องุ่น​ของ​พระ​ยะโฮวา (เยเรมีย์ 2:21; โฮเชยา 10:1, 2) แต่​พระ​ยะโฮวา​กำลัง​จะ​เลิก​สนใจ​ชาติ​นี้ (มัทธิว 23:37, 38) ดัง​นั้น พระ​เยซู​กำลัง​พูด​ถึง​แนว​คิด​ใหม่ โดย​เปรียบ​ตัว​ท่าน​เอง​เป็น​ต้น​องุ่น​ที่​พ่อ​ของ​ท่าน​ปลูก​ไว้​ตั้ง​แต่​ปี ค.ศ. 29 ตอน​นั้น​พระเจ้า​แต่ง​ตั้ง​ท่าน​ด้วย​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระองค์ แต่​ต้น​องุ่น​หมาย​ถึง​อย่าง​อื่น​ด้วย พระ​เยซู​บอก​ว่า

      “ทุก​กิ่ง​ที่​แตก​ออก​จาก​ผม ถ้า​ไม่​ออก​ผล [พ่อ​ของ​ผม] จะ​ตัด​ทิ้ง​ไป ส่วน​กิ่ง​ที่​ออก​ผล พระองค์​จะ​ตัด​แต่ง​กิ่ง​นั้น​ให้​สะอาด​เพื่อ​ให้​ออก​ผล​มาก​ขึ้น​อีก . . . กิ่ง​จะ​ออก​ผล​ไม่​ได้​ถ้า​ไม่​ติด​อยู่​กับ​ต้น พวก​คุณ​ก็​จะ​เกิด​ผล​ไม่​ได้​เหมือน​กัน​ถ้า​ไม่​ติด​สนิท​กับ​ผม ผม​เป็น​ต้น​องุ่น พวก​คุณ​เป็น​กิ่ง”—ยอห์น 15:2-5

      พระ​เยซู​สัญญา​กับ​สาวก​ที่​ซื่อ​สัตย์​ว่า เมื่อ​ท่าน​จาก​ไป ท่าน​จะ​ส่ง​ผู้​ช่วย​หรือ​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า​มา​ให้​พวก​เขา หลัง​จาก​นั้น 51 วัน อัครสาวก​และ​คน​อื่น ๆ ก็​ได้​รับ​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า พวก​เขา​จึง​กลาย​เป็น​กิ่ง​ของ​ต้น​องุ่น และ “กิ่ง” จะ​ต้อง​ติด​อยู่​กับ​ต้น​องุ่น​ซึ่ง​ก็​คือ​พระ​เยซู เพราะ​อะไร?

      พระ​เยซู​อธิบาย​ว่า “ถ้า​ใคร​ติด​สนิท​กับ​ผม​และ​ผม​ติด​สนิท​กับ​เขา คน​นั้น​จะ​เกิด​ผล​มาก แต่​ถ้า​พวก​คุณ​แยก​ตัว​จาก​ผม พวก​คุณ​จะ​ทำ​อะไร​ไม่​สำเร็จ​เลย” ผู้​ติด​ตาม​ที่​ซื่อ​สัตย์​ซึ่ง​เป็น “กิ่ง” จะ​เกิด​ผล​โดย​เลียน​แบบ​คุณลักษณะ​ของ​พระ​เยซู ประกาศ​เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​อย่าง​กระตือรือร้น และ​สอน​คน​ให้​เป็น​สาวก พระ​เยซู​อธิบาย​ว่า​คน​ที่​ไม่​ได้​ติด​สนิท​กับ​ท่าน​และ​ไม่​เกิด​ผล “จะ​ถูก​ทิ้ง” แต่​ใน​ทาง​ตรง​กัน​ข้าม ท่าน​พูด​ว่า “ถ้า​พวก​คุณ​ติด​สนิท​กับ​ผม​และ​ยึด​มั่น​ใน​คำ​สอน​ของ​ผม​อยู่​เสมอ ไม่​ว่า​พวก​คุณ​ขอ​อะไร ก็​จะ​เป็น​ไป​ตาม​นั้น”—ยอห์น 15:5-7

      หลัง​จาก​นั้น พระ​เยซู​กลับ​มา​พูด​ถึง​เรื่อง​ที่​พูด​ไป 2 ครั้ง​แล้ว คือ การ​ทำ​ตาม​คำ​สั่ง​ของ​ท่าน (ยอห์น 14:15, 21) พระ​เยซู​บอก​วิธี​สำคัญ​ที่​สาวก​จะ​พิสูจน์​ได้​ว่า​พวก​เขา​ทำ​อย่าง​นั้น​จริง ๆ โดย​พูด​ว่า “ถ้า​พวก​คุณ​ทำ​ตาม​ที่​ผม​สั่ง พวก​คุณ​จะ​เป็น​ที่​รัก​ของ​ผม​เสมอ เหมือน​กับ​ที่​ผม​ทำ​ตาม​คำ​สั่ง​ของ​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​และ​เป็น​ที่​รัก​ของ​พระองค์​เสมอ” แต่​การ​ทำ​ตาม​คำ​สั่ง​ไม่​ได้​หมาย​ถึง​แค่​รัก​พระ​ยะโฮวา​และ​พระ​เยซู ท่าน​บอก​ด้วย​ว่า “นี่​เป็น​คำ​สั่ง​ของ​ผม คือ ให้​พวก​คุณ​รัก​กัน​เหมือน​ที่​ผม​รัก​พวก​คุณ ไม่​มี​ความ​รัก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า​นี้ คือ​ที่​คน​หนึ่ง​ยอม​สละ​ชีวิต​เพื่อ​เพื่อน​ของ​เขา ถ้า​พวก​คุณ​ทำ​ตาม​ที่​ผม​สั่ง พวก​คุณ​ก็​เป็น​เพื่อน​ของ​ผม”—ยอห์น 15:10-14

      อีก​ไม่​นาน พระ​เยซู​จะ​แสดง​ความ​รัก​โดย​สละ​ชีวิต​เพื่อ​คน​ที่​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​ตัว​ท่าน เมื่อ​เห็น​ตัว​อย่าง​ของ​ท่าน สาวก​ก็​ควร​เสีย​สละ​ตัว​เอง​เพื่อ​กัน​และ​กัน​ด้วย ความ​รัก​แบบ​นี้​จะ​ระบุ​ตัว​พวก​เขา เหมือน​ที่​พระ​เยซู​เคย​บอก​ไว้​ว่า “ทุก​คน​จะ​รู้​ว่า​พวก​คุณ​เป็น​สาวก​ของ​ผม เมื่อ​พวก​คุณ​รัก​กัน”—ยอห์น 13:35

      สาวก​คง​ดีใจ​ที่​พระ​เยซู​เรียก​พวก​เขา​ว่า “เพื่อน” ท่าน​บอก​ว่า “ผม​เรียก​พวก​คุณ​ว่า​เพื่อน เพราะ​ผม​บอก​พวก​คุณ​ให้​รู้​ทุก​อย่าง​ที่​ผม​ได้​ยิน​จาก​พ่อ​ของ​ผม” นับ​ว่า​เป็น​เกียรติ​จริง ๆ ที่​ได้​เป็น​เพื่อน​สนิท​กับ​พระ​เยซู​และ​ได้​รู้​ว่า​พระเจ้า​บอก​อะไร​ท่าน​บ้าง แต่​เพื่อ​จะ​รักษา​สาย​สัมพันธ์​นี้​ไว้ สาวก​ต้อง “เกิด​ผล​ต่อ ๆ ไป” ถ้า​ทำ​อย่าง​นั้น พระ​เยซู​รับรอง​ว่า “ไม่​ว่า​พวก​คุณ​จะ​ขอ​อะไร​ใน​นาม​ของ​ผม พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​จะ​ให้​สิ่ง​นั้น​กับ​คุณ”—ยอห์น 15:15, 16

      ถ้า “กิ่ง” หรือ​สาวก​รัก​กัน พวก​เขา​จะ​สามารถ​อด​ทน​กับ​ปัญหา​ที่​ต้อง​เจอ พระ​เยซู​เตือน​ว่า​โลก​จะ​เกลียด​ชัง​พวก​เขา แต่​ก็​ให้​กำลังใจ​ว่า “ถ้า​โลก​นี้​เกลียด​พวก​คุณ ก็​ให้​จำ​ไว้​ว่า​โลก​เกลียด​ผม​ก่อน ถ้า​พวก​คุณ​เป็น​คน​ของ​โลก​นี้ โลก​ก็​จะ​รัก​คุณ แต่​ตอน​นี้​พวก​คุณ​ไม่​ได้​เป็น​คน​ของ​โลก​นี้​แล้ว . . . โลก​นี้​จึง​เกลียด​คุณ”—ยอห์น 15:18, 19

      พระ​เยซู​อธิบาย​เพิ่ม​เติม​ถึง​เหตุ​ผล​ที่​สาวก​จะ​ถูก​เกลียด โดย​บอก​ว่า “พวก​เขา​จะ​ทำ​ไม่​ดี​กับ​พวก​คุณ​ต่าง ๆ นานา​เพราะ​พวก​คุณ​เป็น​สาวก​ของ​ผม และ​เพราะ​พวก​เขา​ไม่​รู้​จัก​ผู้​นั้น​ที่​ใช้​ผม​มา” ไม่​ว่า​พระ​เยซู​ทำ​การ​อัศจรรย์​มาก​แค่​ไหน คน​ที่​เกลียด​ท่าน​ก็​ยัง​ไม่​ยอม​รับ พวก​เขา​จึง​ต้อง​รับ​โทษ พระ​เยซู​พูด​ว่า “ถ้า​ผม​ไม่​ได้​ทำ​การ​อัศจรรย์​แบบ​ที่​ไม่​เคย​มี​ใคร​ทำ​มา​ก่อน​ให้​พวก​เขา​เห็น พวก​เขา​ก็​คง​ไม่​ต้อง​รับ​โทษ​เพราะ​บาป แต่​ตอน​นี้ ทั้ง ๆ ที่​พวก​เขา​เห็น [การ​อัศจรรย์] แล้ว พวก​เขา​ก็​ยัง​เกลียด​ผม​และ​พ่อ​ของ​ผม​ด้วย” ที่​จริง เรื่อง​นี้​เกิด​ขึ้น​ตาม​ที่​คำ​พยากรณ์​บอก​ไว้—ยอห์น 15:21, 24, 25; สดุดี 35:19; 69:4

      พระ​เยซู​สัญญา​อีก​ครั้ง​ว่า​จะ​ส่ง​ผู้​ช่วย​หรือ​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า​มา​ให้​สาวก ทุก​คน​จะ​ได้​รับ​พลัง​นี้​ซึ่ง​จะ​ช่วย​ให้​พวก​เขา​เกิด​ผล​และ​ให้ “เป็น​พยาน​ยืน​ยัน”—ยอห์น 15:27

      • เจ้าของ​สวน ต้น​องุ่น และ​กิ่ง หมาย​ถึง​ใคร?

      • สาวก​ที่​เป็น​เหมือน “กิ่ง” จะ​เกิด​ผล​ได้​อย่าง​ไร?

      • สาวก​จะ​เป็น​เพื่อน​ของ​พระ​เยซู​ได้​อย่าง​ไร และ​อะไร​จะ​ช่วย​ให้​พวก​เขา​อด​ทน​ได้​เมื่อ​ถูก​เกลียด​ชัง?

  • “ขอให้กล้าหาญไว้ ผมชนะโลกแล้ว”
    พระเยซู—ทางนั้น ความจริง ชีวิต
    • อัครสาวก​ทุกข์​ใจ​มาก​ตอน​ที่​พระ​เยซู​เตือน​พวก​เขา​ให้​ระวัง​ตัว​ไว้

      บท 121

      “ขอ​ให้​กล้า​หาญ​ไว้ ผม​ชนะ​โลก​แล้ว”

      ยอห์น 16:1-33

      • อัครสาวก​จะ​ไม่​ได้​เห็น​พระ​เยซู​อีก

      • ความ​ทุกข์​ของ​อัครสาวก​จะ​เปลี่ยน​เป็น​ความ​สุข

      พระ​เยซู​กับ​อัครสาวก​ยัง​นั่ง​คุย​กัน​อยู่​ใน​ห้อง​ชั้น​บน​ที่​ใช้​ฉลอง​ปัสกา พระ​เยซู​แนะ​นำ​พวก​เขา​หลาย​เรื่อง และ​ท่าน​ก็​พูด​ว่า “ผม​บอก​เรื่อง​ทั้ง​หมด​นี้​เพื่อ​พวก​คุณ​จะ​ไม่​ท้อ​ถอย” ทำไม​พระ​เยซู​ถึง​พูด​อย่าง​นั้น? ท่าน​อธิบาย​ว่า “พวก​คุณ​จะ​ถูก​ไล่​ออก​จาก​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว ที่​จริง อีก​ไม่​นาน​ทุก​คน​ที่​ฆ่า​พวก​คุณ​จะ​คิด​ว่า​นั่น​เป็น​การ​รับใช้​พระเจ้า”—ยอห์น 16:1, 2

      สาวก​คง​ตกใจ​ที่​ได้​ยิน​อย่าง​นั้น ถึง​แม้​พระ​เยซู​เคย​พูด​ว่า​โลก​จะ​เกลียด​ชัง​พวก​เขา แต่​ท่าน​ก็​ไม่​ได้​พูด​ตรง ๆ ว่า​พวก​เขา​จะ​ถูก​ฆ่า เพราะ​อะไร? พระ​เยซู​อธิบาย​ว่า “ผม​ไม่​ได้​บอก​เรื่อง​ทั้ง​หมด​นี้​กับ​พวก​คุณ​แต่​แรก ก็​เพราะ​ที่​ผ่าน​มา​ผม​ยัง​อยู่​กับ​พวก​คุณ” (ยอห์น 16:4) แต่​อีก​ไม่​นาน​พระ​เยซู​จะ​ต้อง​ตาย ท่าน​จึง​เตือน​สาวก​เพื่อ​ช่วย​พวก​เขา​ไม่​ให้​ท้อ​ถอย

      พระ​เยซู​พูด​ต่อ​อีก​ว่า “ผม​จะ​ไป​หา​พระองค์​ที่​ใช้​ผม​มา แต่​ไม่​เห็น​มี​พวก​คุณ​สัก​คน​ถาม​ว่า ‘อาจารย์​จะ​ไป​ไหน?’” ทั้ง ๆ ที่​ก่อน​หน้า​นี้​ใน​เย็น​วัน​เดียว​กัน พวก​เขา​อยาก​รู้​ว่า​ท่าน​จะ​ไป​ไหน (ยอห์น 13:36; 14:5; 16:5) พอ​ได้​ยิน​ว่า​ตัว​เอง​จะ​ถูก​ข่มเหง พวก​เขา​ก็​เศร้า​จน​ไม่​อยาก​รับ​รู้​อะไร​อีก ที่​จริง​พวก​เขา​น่า​จะ​ถาม​พระ​เยซู​เรื่อง​ที่​ท่าน​จะ​เป็น​กษัตริย์​และ​ถาม​ว่า​สาวก​แท้​จะ​ได้​ประโยชน์​อะไร​บ้าง พระ​เยซู​พูด​ว่า “เรื่อง​ที่​ผม​บอก​ทำ​ให้​พวก​คุณ​ทุกข์​ใจ”—ยอห์น 16:6

      แล้ว​พระ​เยซู​อธิบาย​ว่า “ที่​ผม​จะ​ไป​นั้น​ก็​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​พวก​คุณ เพราะ​ถ้า​ผม​ไม่​ไป ผู้​ช่วย​จะ​ไม่​มา​หา​พวก​คุณ แต่​ถ้า​ผม​ไป ผม​ก็​จะ​ส่ง​ผู้​ช่วย​มา​หา​พวก​คุณ” (ยอห์น 16:7) พระ​เยซู​จะ​ส่ง​ผู้​ช่วย​หรือ​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า​มา​ให้​สาวก​ที่​อยู่​ทั่ว​โลก แต่​เพื่อ​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น​ได้ ท่าน​ต้อง​ตาย​และ​กลับ​ขึ้น​ไป​บน​สวรรค์​ก่อน

      พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า “จะ​ทำ​ให้​โลก​รู้​ความ​จริง​เกี่ยว​กับ​บาป เกี่ยว​กับ​ความ​ถูก​ต้อง​ชอบธรรม และ​เกี่ยว​กับ​การ​ตัดสิน​ลง​โทษ​จาก​พระเจ้า” (ยอห์น 16:8) คน​ใน​โลก​ที่​ไม่​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​ลูก​ของ​พระเจ้า​จะ​ต้อง​ถูก​เปิดโปง เมื่อ​พระ​เยซู​กลับ​ไป​สวรรค์ ท่าน​จะ​พิสูจน์​ว่า​ท่าน​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​เสมอ และ​แสดง​ให้​เห็น​เหตุ​ผล​ที่​ซาตาน “ผู้​ปกครอง​โลก​นี้” สม​ควร​ถูก​ทำลาย—ยอห์น 16:11

      พระ​เยซู​พูด​อีก​ว่า “ผม​ยัง​มี​อีก​หลาย​เรื่อง​ที่​จะ​บอก​พวก​คุณ แต่​ถ้า​จะ​บอก​ทั้ง​หมด​ตอน​นี้ พวก​คุณ​ยัง​เข้าใจ​ไม่​ได้” เมื่อ​ท่าน​ให้​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า พลัง​นั้น​จะ​ช่วย​ให้​สาวก​เข้าใจ “ความ​จริง​ทั้ง​หมด” และ​พวก​เขา​จะ​รู้​ว่า​ควร​ทำ​อะไร—ยอห์น 16:12, 13

      ต่อ​จาก​นั้น พระ​เยซู​พูด​ว่า “อีก​หน่อย​พวก​คุณ​จะ​ไม่​เห็น​ผม แล้ว​อีก​หน่อย​พวก​คุณ​จะ​ได้​เห็น​ผม” สาวก​รู้สึก​งง​และ​ถาม​กัน​ว่า​ท่าน​หมาย​ความ​ว่า​อย่าง​ไร พระ​เยซู​รู้​ว่า​พวก​เขา​อยาก​ถาม​เรื่อง​นี้ ท่าน​จึง​บอก​ว่า “พวก​คุณ​จะ​ร้องไห้​คร่ำ​ครวญ แต่​โลก​จะ​ดีใจ พวก​คุณ​จะ​มี​ความ​ทุกข์ แต่​ความ​ทุกข์​นั้น​จะ​เปลี่ยน​เป็น​ความ​สุข” (ยอห์น 16:16, 20) เมื่อ​พระ​เยซู​ถูก​ฆ่า​ใน​บ่าย​วัน​ต่อ​มา พวก​ผู้​นำ​ศาสนา​ดีใจ ส่วน​สาวก​ของ​ท่าน​โศก​เศร้า​มาก แต่​แล้ว​ความ​ทุกข์​ของ​พวก​เขา​ก็​เปลี่ยน​เป็น​ความ​สุข​เมื่อ​พระ​เยซู​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย! และ​พวก​เขา​ก็​มี​ความ​สุข​มาก​ขึ้น​ไป​อีก​เมื่อ​ได้​รับ​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า

      พระ​เยซู​เปรียบ​สถานการณ์​ที่​สาวก​จะ​ต้อง​เจอ​เหมือน​กับ​ผู้​หญิง​ที่​เจ็บ​ท้อง​คลอด โดย​บอก​ว่า “ผู้​หญิง​มี​ความ​ทุกข์​เมื่อ​ถึง​เวลา​คลอด แต่​พอ​คลอด​ลูก​แล้ว เธอ​ก็​ลืม​ความ​ทุกข์​ทรมาน​ไป​หมด เพราะ​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​เห็น​คน ๆ หนึ่ง​เกิด​มา​ใน​โลก” แล้ว​ท่าน​ก็​ให้​กำลังใจ​สาวก​ว่า “เหมือน​กับ​พวก​คุณ​ที่​ตอน​นี้​มี​ความ​ทุกข์ แต่​เรา​จะ​ได้​เจอ​กัน​อีก แล้ว​พวก​คุณ​จะ​มี​ความ​สุข จะ​ไม่​มี​ใคร​มา​แย่ง​ความ​สุข​นั้น​ไป​จาก​พวก​คุณ​ได้”—ยอห์น 16:21, 22

      สาวก​ไม่​เคย​อธิษฐาน​ถึง​พระเจ้า​ใน​นาม​ของ​พระ​เยซู​มา​ก่อน แต่​ตอน​นี้​ท่าน​บอก​พวก​เขา​ว่า “พวก​คุณ​จะ​ขอ​จาก​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​ใน​นาม​ของ​ผม” ทำไม​พวก​เขา​ต้อง​ทำ​อย่าง​นั้น? ไม่​ใช่​เพราะ​พระเจ้า​ไม่​อยาก​ฟัง​พวก​เขา แต่​พระ​เยซู​อธิบาย​ว่า “พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​รัก​พวก​คุณ เพราะ​พวก​คุณ​รัก​ผม​และ​เชื่อ​ว่า​ผม​เป็น​ตัว​แทน​ของ​พระองค์”—ยอห์น 16:26, 27

      คำ​พูด​ที่​ให้​กำลังใจ​ของ​พระ​เยซู​คง​ทำ​ให้​สาวก​มั่น​ใจ​จน​พวก​เขา​พูด​ได้​ว่า ‘พวก​เรา​เชื่อ​ว่า​ท่าน​มา​จาก​พระเจ้า’ อีก​ไม่​นาน​ความ​มั่น​ใจ​นั้น​จะ​ถูก​ทดสอบ พระ​เยซู​บอก​พวก​เขา​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น ท่าน​พูด​ว่า “คอย​ดู​นะ ใกล้​จะ​ถึง​เวลา​แล้ว ที่​จริง ถึง​เวลา​แล้ว​ด้วย​ซ้ำ​ที่​พวก​คุณ​จะ​กระจัด​กระจาย​กลับ​ไป​บ้าน​ของ​ตัว​เอง และ​จะ​ทิ้ง​ผม​ไว้​คน​เดียว” แต่​ท่าน​ก็​รับรอง​ว่า “ผม​บอก​เรื่อง​ทั้ง​หมด​นี้​เพื่อ​พวก​คุณ​จะ​มี​ความ​สงบ​สุข​เพราะ​ผม ใน​โลก​นี้​พวก​คุณ​จะ​มี​ความ​ยาก​ลำบาก แต่​ขอ​ให้​กล้า​หาญ​ไว้ ผม​ชนะ​โลก​แล้ว” (ยอห์น 16:30-33) พระ​เยซู​ไม่​ทิ้ง​สาวก ถึง​แม้​ซาตาน​พยายาม​ทำลาย​ความ​ซื่อ​สัตย์​ของ​พวก​เขา แต่​ท่าน​ก็​มั่น​ใจ​ว่า​พวก​เขา​จะ​ทำ​ตาม​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ต้องการ​ต่อ ๆ ไป​และ​ชนะ​โลก​ได้​เหมือน​กับ​ท่าน

      • สาวก​รู้สึก​ทุกข์​ใจ​เมื่อ​พระ​เยซู​ให้​คำ​เตือน​เรื่อง​อะไร?

      • ทำไม​สาวก​ไม่​ถาม​พระ​เยซู​ต่อ?

      • พระ​เยซู​เปรียบ​สถานการณ์​ที่​สาวก​ต้อง​เจอ​เหมือน​กับ​อะไร?

  • คำอธิษฐานของพระเยซูในห้องชั้นบน
    พระเยซู—ทางนั้น ความจริง ชีวิต
    • พระ​เยซู​เงย​หน้า​มอง​ฟ้า​และ​อธิษฐาน​ต่อ​หน้า​พวก​อัครสาวก

      บท 122

      คำ​อธิษฐาน​ของ​พระ​เยซู​ใน​ห้อง​ชั้น​บน

      ยอห์น 17:1-26

      • สิ่ง​ที่​จะ​ได้​รับ​จาก​การ​รู้​จัก​พระเจ้า​และ​ลูก​ของ​พระองค์

      • พระ​ยะโฮวา พระ​เยซู และ​สาวก​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กัน

      พระ​เยซู​รัก​อัครสาวก​มาก ท่าน​จึง​เตรียม​พวก​เขา​ให้​พร้อม​เมื่อ​ท่าน​จะ​ต้อง​จาก​ไป พระ​เยซู​เงย​หน้า​มอง​ฟ้า​และ​อธิษฐาน​ถึง​พ่อ​ของ​ท่าน​ว่า “ขอ​แต่ง​ตั้ง​ผม​ที่​เป็น​ลูก​ของ​พระองค์​ให้​มี​เกียรติ เพื่อ​ผม​จะ​ได้​ยกย่อง​พระองค์ พระองค์​ให้​ลูก​ของ​พระองค์​มี​อำนาจ​เหนือ​มนุษย์​ทุก​คน​แล้ว เพื่อ​ผม​จะ​ให้​ชีวิต​ตลอด​ไป​กับ​ทุก​คน​ที่​พระองค์​ยก​ให้​ผม”—ยอห์น 17:1, 2

      พระ​เยซู​ถือ​ว่า​การ​ให้​เกียรติ​พระเจ้า​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​ที่​สุด ท่าน​จึง​พูด​ถึง​เป็น​เรื่อง​แรก แต่​สาวก​ก็​คง​ได้​กำลังใจ​ด้วย​เมื่อ​ท่าน​พูด​ถึง​เรื่อง​ชีวิต​ตลอด​ไป! พระ​เยซู​ได้​รับ “อำนาจ​เหนือ​มนุษย์​ทุก​คน” ท่าน​จึง​สามารถ​ช่วย​มนุษย์​ให้​มี​โอกาส​รับ​ประโยชน์​จาก​เครื่อง​บูชา​ไถ่ แต่​ไม่​ใช่​ทุก​คน​จะ​ได้​พร​นี้ เพราะ​อะไร? เพราะ​พระ​เยซู​จะ​ให้​ประโยชน์​ของ​ค่า​ไถ่​กับ​คน​ที่​ทำ​ตาม​คำ​สอน​ของ​ท่าน​เท่า​นั้น ท่าน​บอก​ว่า “พวก​เขา​จะ​ได้​ชีวิต​ตลอด​ไป ถ้า​พวก​เขา​มา​รู้​จัก​พระองค์​ที่​เป็น​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​องค์​เดียว และ​รู้​จัก​คน​ที่​พระองค์​ใช้​มา คือ​เยซู​คริสต์”—ยอห์น 17:3

      คน​ที่​จะ​ได้​ชีวิต​ตลอด​ไป​ต้อง​รู้​จัก​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​และ​รู้​จัก​ลูก​ของ​พระองค์​อย่าง​ดี ต้อง​มี​สาย​สัมพันธ์​ที่​ใกล้​ชิด​และ​มี​ความ​คิด​เหมือน​พระเจ้า​และ​ลูก​ของ​พระองค์ นอก​จาก​นั้น เขา​ต้อง​พยายาม​เลียน​แบบ​คุณลักษณะ​ของ​พระเจ้า​และ​ของ​พระ​เยซู​เมื่อ​ปฏิบัติ​ต่อ​คน​อื่น เขา​ต้อง​ถือ​ว่า​การ​ให้​เกียรติ​พระเจ้า​สำคัญ​กว่า​การ​ได้​รับ​ชีวิต​ตลอด​ไป แล้ว​พระ​เยซู​ก็​กลับ​มา​พูด​ถึง​การ​ให้​เกียรติ​พระเจ้า​โดย​บอก​ว่า

      “ผม​ได้​ยกย่อง​พระองค์​บน​โลก​นี้​แล้ว และ​ทำ​งาน​ที่​พระองค์​มอบหมาย​ให้​ทำ​จน​สำเร็จ พ่อ​ครับ ตอน​นี้ ขอ​ให้​ผม​ได้​รับ​เกียรติ​ที่​จะ​อยู่​เคียง​ข้าง​พระองค์ คือ​เกียรติ​ที่​ผม​เคย​มี​ตอน​ที่​อยู่​เคียง​ข้าง​พระองค์​ก่อน​จะ​มี​โลก​นี้” (ยอห์น 17:4, 5) พระ​เยซู​ขอ​ให้​พระเจ้า​ปลุก​ท่าน​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​เพื่อ​ให้​ท่าน​ได้​รับ​เกียรติ​ใน​สวรรค์​อีก​ครั้ง

      แต่​พระ​เยซู​ก็​พูด​ถึง​งาน​รับใช้​ของ​ท่าน​บน​โลก​ด้วย ท่าน​อธิษฐาน​ว่า “คน​ที่​พระองค์​แยก​ออก​จาก​โลก​นี้​และ​ยก​ให้​ผม ผม​ช่วย​พวก​เขา​ให้​รู้​จัก​ชื่อ​ของ​พระองค์​แล้ว พวก​เขา​เป็น​คน​ของ​พระองค์ พระองค์​ยก​พวก​เขา​ให้​ผม และ​พวก​เขา​ทำ​ตาม​คำ​สอน​ของ​พระองค์” (ยอห์น 17:6) พระ​เยซู​ไม่​เพียง​ใช้​ชื่อ​ของ​พระเจ้า “ยะโฮวา” ใน​งาน​รับใช้ แต่​ท่าน​ช่วย​อัครสาวก​ให้​รู้​ว่า​พระเจ้า​ที่​มี​ชื่อ​นี้​มี​คุณลักษณะ​อย่าง​ไร และ​ยัง​ช่วย​พวก​เขา​ให้​เข้าใจ​วิธี​ที่​พระองค์​ปฏิบัติ​ต่อ​มนุษย์​ด้วย

      อัครสาวก​ได้​รู้​จัก​พระ​ยะโฮวา ได้​เรียน​เกี่ยว​กับ​บทบาท​ของ​พระ​เยซู และ​ได้​รับ​การ​สอน​จาก​ท่าน พระ​เยซู​พูด​กับ​พ่อ​ด้วย​ความ​ถ่อม​ตัว​ว่า “ผม​บอก​ทุก​อย่าง​ตาม​ที่​พระองค์​สอน​ไว้ และ​พวก​เขา​รับ​คำ​สอน​นั้น​แล้ว พวก​เขา​มั่น​ใจ​ว่า​ผม​เป็น​ตัว​แทน​ของ​พระองค์ และ​เชื่อ​ว่า​พระองค์​ใช้​ผม​มา”—ยอห์น 17:8

      แล้ว​พระ​เยซู​ก็​พูด​ถึง​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​สาวก​ของ​ท่าน​กับ​คน​ทั่ว​ไป​ใน​โลก ท่าน​บอก​ว่า “ผม​ขอ​เพื่อ​พวก​เขา ผม​ไม่​ได้​ขอ​เพื่อ​โลก​นี้ แต่​ขอ​เพื่อ​คน​ที่​พระองค์​ยก​ให้​ผม เพราะ​พวก​เขา​เป็น​คน​ของ​พระองค์ . . . พ่อ​ผู้​บริสุทธิ์ ขอ​ดู​แล​พวก​เขา​เพื่อ​เห็น​แก่​ชื่อ​ของ​พระองค์​ที่​ให้​ผม​ไว้ ให้​พวก​เขา​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กัน เหมือน​ที่​ผม​กับ​พระองค์​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กัน . . . ผม​ปก​ป้อง​พวก​เขา​ไว้​ไม่​ให้​พินาศ​สัก​คน​เดียว นอก​จาก​คน​นั้น​ที่​จะ​ต้อง​พินาศ” ซึ่ง​หมาย​ถึง ยูดาส​อิสคาริโอท​ที่​ทรยศ​พระ​เยซู—ยอห์น 17:9-12

      พระ​เยซู​อธิษฐาน​ต่อ​ไป​ว่า “โลก​นี้​เกลียด​พวก​เขา . . . ผม​ไม่​ได้​ขอ​พระองค์​ให้​เอา​พวก​เขา​ออก​ไป​จาก​โลก แต่​ขอ​ให้​ปก​ป้อง​พวก​เขา​จาก​ตัว​ชั่ว​ร้าย พวก​เขา​ไม่​ได้​เป็น​คน​ของ​โลก เหมือน​ที่​ผม​ไม่​ได้​เป็น​คน​ของ​โลก” (ยอห์น 17:14-16) อัครสาวก​และ​สาวก​อยู่​ใน​โลก​ที่​ซาตาน​ปกครอง แต่​พวก​เขา​ต้อง​แยก​ตัว​จาก​ผู้​คน​และ​ความ​ชั่ว​ใน​โลก พวก​เขา​จะ​ทำ​ได้​อย่าง​ไร?

      เพื่อ​จะ​แยก​ตัว​จาก​ผู้​คน​และ​มา​รับใช้​พระเจ้า พวก​เขา​ต้อง​รักษา​ตัว​ให้​บริสุทธิ์ โดย​ทำ​ตาม​ความ​จริง​ที่​อยู่​ใน​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​และ​ความ​จริง​ที่​พระ​เยซู​สอน พระ​เยซู​อธิษฐาน​ว่า “ถ้อย​คำ​ของ​พระองค์​เป็น​ความ​จริง ขอ​ให้​ความ​จริง​นี้​ทำ​ให้​พวก​เขา​บริสุทธิ์” (ยอห์น 17:17) หลัง​จาก​นี้ อัครสาวก​บาง​คน​จะ​เขียน​หนังสือ​ที่​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ ซึ่ง​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ “ความ​จริง” ที่​ช่วย​ทำ​ให้​คน​บริสุทธิ์

      จะ​มี​คน​อื่น​ด้วย​ที่​ตอบรับ “ความ​จริง” ดัง​นั้น พระ​เยซู “ไม่​ได้​ขอ​เพื่อ [อัครสาวก 11 คน] เท่า​นั้น แต่​ขอ​เพื่อ​คน​ที่​เชื่อ [ท่าน] เพราะ​ได้​ฟัง​พวก​เขา​ด้วย” พระ​เยซู​อยาก​ให้​พวก​เขา​ทำ​อะไร? ท่าน​บอก​ว่า “พวก​เขา​จะ​ได้​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กัน เหมือน​ที่​พระองค์​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กับ​ผม และ​ผม​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กับ​พระองค์ พวก​เขา​จะ​ได้​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กับ​พวก​เรา​ด้วย” (ยอห์น 17:20, 21) พระ​เยซู​กับ​พ่อ​ของ​ท่าน​ไม่​ใช่​บุคคล​เดียว​กัน แต่​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กัน​ใน​ความ​หมาย​ที่​ว่า ท่าน​กับ​พ่อ​คิด​เหมือน​กัน​ใน​ทุก​เรื่อง และ​พระ​เยซู​ก็​อธิษฐาน​ขอ​ให้​สาวก​ของ​ท่าน​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กัน​แบบ​นั้น​ด้วย

      พระ​เยซู​เพิ่ง​บอก​เปโตร​และ​คน​อื่น ๆ ว่า​ท่าน​จะ​ไป​เตรียม​ที่​ให้​พวก​เขา​ใน​สวรรค์ (ยอห์น 14:2, 3) เมื่อ​นึก​ถึง​เรื่อง​นั้น พระ​เยซู​จึง​อธิษฐาน​ว่า “พ่อ​ครับ ผม​ขอ​ให้​คน​ที่​พระองค์​ยก​ให้​ผม​ได้​อยู่​ที่​เดียว​กับ​ผม เพื่อ​พวก​เขา​จะ​ได้​เห็น​เกียรติ​ที่​ผม​ได้​รับ​จาก​พระองค์ เพราะ​พระองค์​รัก​ผม​ตั้ง​แต่​ก่อน​มี​โลก​นี้” (ยอห์น 17:24) พระ​เยซู​ยืน​ยัน​ว่า​นาน​ก่อน​ที่​อาดัม​กับ​เอวา​จะ​มี​ลูก พระเจ้า​รัก​ลูก​คน​เดียว​ของ​พระองค์ ซึ่ง​ก็​คือ​พระ​เยซู​คริสต์

      พระ​เยซู​ลง​ท้าย​คำ​อธิษฐาน​ด้วย​การ​พูด​ย้ำ​เรื่อง​ชื่อ​ของ​พระเจ้า และ​ความ​รัก​ที่​พระองค์​แสดง​ต่อ​อัครสาวก​และ​ต่อ​คน​อื่น​ที่​จะ​ตอบรับ “ความ​จริง” ท่าน​พูด​ว่า “ผม​ทำ​ให้​พวก​เขา​รู้​จัก​ชื่อ​ของ​พระองค์​แล้ว และ​จะ​ทำ​ให้​พวก​เขา​รู้​จัก​ดี​ขึ้น​อีก เพื่อ​พวก​เขา​จะ​มี​ความ​รัก​แบบ​เดียว​กับ​ที่​พระองค์​รัก​ผม และ​ผม​จะ​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กับ​พวก​เขา”—ยอห์น 17:26

      • การ​รู้​จัก​พระเจ้า​และ​ลูก​ของ​พระองค์​หมาย​ถึง​อะไร?

      • พระ​เยซู​ทำ​ให้​ชื่อ​ของ​พระเจ้า​เป็น​ที่​รู้​จัก​อย่าง​ไร?

      • พระเจ้า พระ​เยซู และ​คน​ที่​นมัสการ​พระองค์​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กัน​อย่าง​ไร?

  • อธิษฐานด้วยความทุกข์ใจ
    พระเยซู—ทางนั้น ความจริง ชีวิต
    • พระ​เยซู​อธิษฐาน​ใน​สวน​เกทเสมนี แต่​เปโตร ยากอบ และ​ยอห์น​หลับ​อยู่

      บท 123

      อธิษฐาน​ด้วย​ความ​ทุกข์​ใจ

      มัทธิว 26:30, 36-46 มาระโก 14:26, 32-42 ลูกา 22:39-46 ยอห์น 18:1

      • พระ​เยซู​อธิษฐาน​ใน​สวน​เกทเสมนี

      • เหงื่อ​ของ​พระ​เยซู​เป็น​เหมือน​เลือด

      เมื่อ​อธิษฐาน​เสร็จ พระ​เยซู​กับ​อัครสาวก “ร้อง​เพลง​สรรเสริญ​พระเจ้า แล้ว​ก็​ออก​ไป​ที่​ภูเขา​มะกอก” (มาระโก 14:26) พวก​เขา​ไป​ที่​สวน​เกทเสมนี​ซึ่ง​อยู่​ทาง​ตะวัน​ออก พระ​เยซู​ไป​สวน​นี้​หลาย​ครั้ง​แล้ว

      พอ​มา​ถึง​สวน​สวย​งาม​ที่​เต็ม​ไป​ด้วย​ต้น​มะกอก พระ​เยซู​คง​ให้​อัครสาวก 8 คน​รอ​อยู่​ใกล้ ๆ ทาง​เข้า​สวน เพราะ​ท่าน​บอก​ว่า “นั่ง​รอ​ตรง​นี้​กัน​ก่อน​นะ ผม​จะ​ไป​อธิษฐาน​ที่​โน่น” แล้ว​พระ​เยซู​ก็​พา​อัครสาวก 3 คน​ไป​กับ​ท่าน คือ เปโตร ยากอบ และ​ยอห์น พวก​เขา​เดิน​ลึก​เข้า​ไป​ใน​สวน พระ​เยซู​รู้สึก​เศร้า​มาก ท่าน​บอก​สาวก​ว่า “ผม​เป็น​ทุกข์​จน​แทบ​จะ​ขาด​ใจ​อยู่​แล้ว พวก​คุณ​อยู่​ที่​นี่ เฝ้า​ระวัง​ด้วย​กัน​กับ​ผม​นะ”—มัทธิว 26:36-38

      พระ​เยซู​เดิน​ห่าง​จาก​พวก​เขา​ไป​หน่อย​หนึ่ง​และ “คุกเข่า​ลง​อธิษฐาน” พระ​เยซู​พูด​อะไร​กับ​พระเจ้า​ใน​ช่วง​เวลา​ที่​ตึงเครียด​นี้? ท่าน​อธิษฐาน​ว่า “พ่อ​ครับ พ่อ​ทำ​ได้​ทุก​อย่าง ขอ​ให้​ถ้วย​นี้​ผ่าน​พ้น​ไป​จาก​ผม​เถอะ แต่​อย่า​ให้​เป็น​ไป​ตาม​ใจ​ผม​เลย ขอ​ให้​เป็น​ไป​ตาม​ที่​พ่อ​ต้องการ” (มาระโก 14:35, 36) พระ​เยซู​หมาย​ความ​ว่า​อย่าง​ไร? นี่​หมาย​ความ​ว่า​ท่าน​จะ​ถอน​ตัว​จาก​การ​เป็น​ค่า​ไถ่​อย่าง​นั้น​ไหม? ไม่!

      ตั้ง​แต่​อยู่​บน​สวรรค์ พระ​เยซู​เคย​เห็น​ความ​ทุกข์​ทรมาน​แสน​สาหัส​ของ​คน​ที่​ถูก​พวก​โรมัน​ฆ่า ตอน​นี้​พระ​เยซู​เป็น​มนุษย์​ที่​มี​เลือด​เนื้อ​และ​รู้สึก​เจ็บ​ได้ ท่าน​ก็​เลย​ทุกข์​ใจ​เพราะ​รู้​ว่า​จะ​ต้อง​เจอ​กับ​ความ​เจ็บ​ปวด​แบบ​เดียว​กัน ที่​สำคัญ​กว่า​นั้น​คือ พระ​เยซู​เจ็บ​ปวด​ใจ​ที่​การ​ตาย​ของ​ท่าน​ใน​ฐานะ​อาชญากร​ที่​น่า​รังเกียจ​จะ​ทำ​ให้​ชื่อเสียง​ของ​พ่อ​เสื่อม​เสีย อีก​ไม่​กี่​ชั่วโมง พระ​เยซู​จะ​ถูก​ตรึง​บน​เสา​เพราะ​ถูก​กล่าวหา​อย่าง​ผิด ๆ ว่า​หมิ่น​ประมาท​พระเจ้า

      หลัง​จาก​อธิษฐาน​อยู่​นาน พระ​เยซู​ก็​เดิน​กลับ​มา​และ​เห็น​สาวก​หลับ​อยู่ ท่าน​พูด​กับ​เปโตร​ว่า “คุณ​จะ​เฝ้า​ระวัง​ด้วย​กัน​กับ​ผม​สัก​ชั่วโมง​หนึ่ง​ไม่​ได้​หรือ? คุณ​ต้อง​เฝ้า​ระวัง​อยู่​เสมอ​และ​อธิษฐาน​อยู่​เรื่อย ๆ เพื่อ​จะ​ไม่​พลาด​เมื่อ​ถูก​ทดสอบ” พระ​เยซู​เข้าใจ​ว่า​สาวก​ก็​เครียด​เหมือน​กัน​และ​นี่​ก็​ดึก​มาก​แล้ว ท่าน​จึง​พูด​เสริม​ว่า “ใจ​สู้​ก็​จริง แต่​ร่าง​กาย​ยัง​อ่อนแอ”—มัทธิว 26:40, 41

      เมื่อ​ไป​อธิษฐาน​ครั้ง​ที่​สอง พระ​เยซู​ขอ​พระเจ้า​ให้​เลื่อน “ถ้วย​นี้” ไป​จาก​ท่าน พอ​กลับ​มา อัครสาวก​ทั้ง 3 คน​ก็​หลับ​อยู่ ทั้ง ๆ ที่​พวก​เขา​ควร​จะ​อธิษฐาน​ขอ​ไม่​ให้​พลาด​เมื่อ​ถูก​ทดสอบ เมื่อ​พระ​เยซู​พูด​กับ​พวก​เขา พวก​เขา​ก็ “ไม่​รู้​ว่า​จะ​แก้​ตัว​อย่าง​ไร​ดี” (มาระโก 14:40) แล้ว​พระ​เยซู​ก็​ออก​ไป​เป็น​ครั้ง​ที่​สาม ท่าน​คุกเข่า​ลง​อธิษฐาน​ถึง​พระเจ้า

      พระ​เยซู​กังวล​มาก​ที่​การ​ตาย​ของ​ท่าน​ใน​ฐานะ​คน​ชั่ว​จะ​ทำ​ให้​ชื่อ​ของ​พ่อ​แปดเปื้อน พระ​ยะโฮวา​ฟัง​คำ​อธิษฐาน​และ​ส่ง​ทูตสวรรค์​มา​ให้​กำลังใจ​ลูก แต่​พระ​เยซู​ก็​ยัง​คง “อธิษฐาน​อ้อน​วอน​อย่าง​หนัก” ท่าน​เครียด​มาก​เพราะ​นี่​เป็น​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ที่​สำคัญ​จริง ๆ ชีวิต​ตลอด​ไป​ของ​ท่าน​กับ​ของ​คน​ที่​มี​ความ​เชื่อ​กำลัง​ตก​อยู่​ใน​อันตราย ที่​จริง ‘เหงื่อ​ของ​ท่าน​เป็น​เหมือน​เลือด​หยด​ลง​บน​พื้น’—ลูกา 22:44

      เมื่อ​พระ​เยซู​กลับ​มา​หา​อัครสาวก​อีก​ครั้ง พวก​เขา​ก็​ยัง​หลับ​อยู่ คราว​นี้​ท่าน​พูด​ว่า “ใน​เวลา​อย่าง​นี้​พวก​คุณ​ยัง​หลับ​พักผ่อน​กัน​อยู่​อีก​หรือ ตอน​นี้​จวน​จะ​ถึง​เวลา​ที่ ‘ลูก​มนุษย์’ จะ​ถูก​มอบ​ไว้​ใน​มือ​คน​บาป​แล้ว ลุก​ขึ้น​ไป​กัน​เถอะ คน​ที่​ทรยศ​ผม​มา​แล้ว”—มัทธิว 26:45, 46

      เหงื่อ​ของ​พระ​เยซู​เป็น​เหมือน​เลือด

      หมอ​ลูกา​ไม่​ได้​อธิบาย​ว่า “เหงื่อ​เป็น​เหมือน​เลือด​หยด​ลง​บน​พื้น” ได้​อย่าง​ไร (ลูกา 22:44) แต่​ลูกา​คง​พูด​เปรียบ​เทียบ​ว่า​เหงื่อ​เป็น​เหมือน​เลือด​ที่​หยด​ออก​มา​จาก​แผล ดร. วิลเลียม ดี. เอดเวิร์ด เสนอ​อีก​แนว​คิด​ไว้​ใน​วารสาร​เล่ม​หนึ่ง เขา​บอก​ว่า ถึง​แม้​จะ​เป็น​เรื่อง​ที่​เกิด​ขึ้น​ได้​ยาก​มาก แต่​ถ้า​คน ๆ หนึ่ง​ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​ที่​ยาก​ลำบาก เขา​อาจ​มี​ความ​กดดัน​มาก​ถึง​ขนาด​ที่​เส้น​เลือด​ฝอย​ปริ​แตก ทำ​ให้​เลือด​ออก​มา​ปน​กับ​เหงื่อ จน​ดู​เหมือน​ว่า​เหงื่อ​ออก​มา​เป็น​เลือด—วารสาร​แพทยสมาคม​แห่ง​อเมริกา (เจมา)

      • เมื่อ​ออก​จาก​ห้อง​ชั้น​บน พระ​เยซู​พา​อัครสาวก​ไป​ที่​ไหน?

      • ตอน​ที่​พระ​เยซู​ไป​อธิษฐาน อัครสาวก 3 คน​ทำ​อะไร?

      • เหงื่อ​ของ​พระ​เยซู​ที่​เป็น​เหมือน​เลือด​แสดง​ว่า​ท่าน​รู้สึก​อย่าง​ไร?

  • พระเยซูถูกทรยศและถูกจับ
    พระเยซู—ทางนั้น ความจริง ชีวิต
    • พระ​เยซู​ดุ​เปโตร​ที่​ใช้​ดาบ​ฟัน​หู​ของ​มัลคัส​ขาด พวก​ทหาร​ยืน​อยู่​พร้อม​ที่​จะ​จับ​พระ​เยซู

      บท 124

      พระ​เยซู​ถูก​ทรยศ​และ​ถูก​จับ

      มัทธิว 26:47-56 มาระโก 14:43-52 ลูกา 22:47-53 ยอห์น 18:2-12

      • ยูดาส​ทรยศ​พระ​เยซู​ใน​สวน​เกทเสมนี

      • เปโตร​ฟัน​หู​ของ​ทาส​คน​หนึ่ง

      • พระ​เยซู​ถูก​จับ

      ตอน​นี้​เลย​เที่ยง​คืน​ไป​นาน​แล้ว พวก​ปุโรหิต​ตก​ลง​กัน​ว่า​จะ​จ่าย​เงิน​ให้​ยูดาส 30 เหรียญ​ถ้า​เขา​ทรยศ​พระ​เยซู ยูดาส​จึง​พา​คน​กลุ่ม​ใหญ่​มา​ตาม​หา​ท่าน คน​กลุ่ม​นี้​มี​ทั้ง​ปุโรหิต​ใหญ่ ฟาริสี ทหาร​โรมัน และ​ผู้​บังคับ​บัญชา

      ดู​เหมือน​ว่า​หลัง​จาก​พระ​เยซู​บอก​ให้​ยูดาส​ออก​จาก​ห้อง​ชั้น​บน เขา​ก็​ไป​หา​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​ทันที (ยอห์น 13:27) พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​เรียก​เจ้าหน้าที่​กับ​ทหาร​กลุ่ม​หนึ่ง​มา​ด้วย ยูดาส​คง​พา​พวก​เขา​ไป​ตาม​หา​พระ​เยซู​ที่​ห้อง​ชั้น​บน​มา​แล้ว ตอน​นี้​พวก​เขา​กำลัง​ข้าม​หุบเขา​ขิดโรน​และ​มุ่ง​หน้า​ไป​ที่​สวน พวก​เขา​มี​อาวุธ ตะเกียง และ​คบเพลิง พวก​เขา​จะ​หา​พระ​เยซู​จน​กว่า​จะ​เจอ

      ยูดาส​เดิน​นำ​กลุ่ม​คน​ขึ้น​ไป​บน​ภูเขา​มะกอก เขา​มั่น​ใจ​ว่า​จะ​ต้อง​เจอ​พระ​เยซู​แน่ ๆ เพราะ​ระหว่าง​เดิน​ทาง​ไป​กลับ​หมู่​บ้าน​เบธานี​และ​กรุง​เยรูซาเล็ม พระ​เยซู​กับ​อัครสาวก​มัก​จะ​หยุด​พัก​ที่​สวน​เกทเสมนี แต่​ตอน​นี้​มืด​มาก คง​ไม่​ง่าย​ที่​จะ​รู้​ว่า​ใคร​เป็น​ใคร​ใน​เงา​มืด​ของ​ต้น​มะกอก​ใน​สวน แล้ว​ทหาร​ที่​ไม่​เคย​เห็น​พระ​เยซู​มา​ก่อน​จะ​รู้​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​ต้อง​จับ​คน​ไหน? ยูดาส​จะ​บอก​พวก​เขา​เอง เขา​พูด​ว่า “ถ้า​ผม​จูบ​คน​ไหน ก็​ให้​จับ​คน​นั้น แล้ว​คุม​ตัว​ไป”—มาระโก 14:44

      เมื่อ​เดิน​เข้า​ไป​ใน​สวน ยูดาส​เห็น​พระ​เยซู​กับ​อัครสาวก​เดิน​ตรง​มา​หา​เขา ยูดาส​พูด​ว่า “สวัสดี​ครับ อาจารย์” แล้ว​จูบ​ท่าน​อย่าง​นุ่มนวล พระ​เยซู​ถาม​ว่า “คุณ​มา​ทำ​อะไร​ที่​นี่​กัน​แน่?” (มัทธิว 26:49, 50) แล้ว​พูด​อีก​ว่า “ยูดาส คุณ​จะ​ทรยศ ‘ลูก​มนุษย์’ ด้วย​การ​จูบ​หรือ?” (ลูกา 22:48) แต่​หลัง​จาก​นั้น​ท่าน​ก็​ไม่​สนใจ​ยูดาส​อีก​ต่อ​ไป

      พระ​เยซู​ก้าว​ออก​มา​ข้าง​หน้า แสง​ไฟ​จาก​คบเพลิง​และ​ตะเกียง​ส่อง​ให้​เห็น​ท่าน​ได้​ชัด พระ​เยซู​ถาม​ฝูง​ชน​ว่า “มา​ตาม​หา​ใคร?” พวก​เขา​จึง​ตอบ​ว่า “เยซู​ชาว​นาซาเร็ธ” พระ​เยซู​พูด​อย่าง​กล้า​หาญ​ว่า “ผม​เอง” (ยอห์น 18:4, 5) พวก​เขา​ตกใจ​จน​ผงะ​ถอย​หลัง​ล้ม​ลง​กับ​พื้น

      แทน​ที่​จะ​ใช้​โอกาส​นี้​หลบ​หนี​ไป​ใน​ความ​มืด พระ​เยซู​ถาม​อีก​ครั้ง​ว่า​พวก​เขา​มา​ตาม​หา​ใคร พอ​พวก​เขา​ตอบ​ว่า “เยซู​ชาว​นาซาเร็ธ” ท่าน​ก็​พูด​อย่าง​ใจ​เย็น​ว่า “ก็​บอก​แล้ว​ว่า​ผม​นี่​แหละ ถ้า​พวก​คุณ​มา​ตาม​หา​ผม ก็​ปล่อย​คน​พวก​นี้​ไป​เถอะ” ถึง​จะ​ตก​อยู่​ใน​อันตราย พระ​เยซู​ก็​ยัง​จำ​ได้​ว่า​ท่าน​เคย​พูด​ว่า​จะ​ไม่​ยอม​ให้​สาวก​พินาศ​ไป​แม้​แต่​คน​เดียว (ยอห์น 6:39; 17:12) พระ​เยซู​ปก​ป้อง​อัครสาวก​ที่​ซื่อ​สัตย์​และ​ไม่​มี​ใคร​หลง​หาย​ไป “นอก​จาก​คน​นั้น​ที่​จะ​ต้อง​พินาศ” ซึ่ง​ก็​คือ​ยูดาส (ยอห์น 18:7-9) นี่​เป็น​เหตุ​ผล​ที่​พระ​เยซู​บอก​คน​กลุ่ม​นี้​ให้​ปล่อย​อัครสาวก​ไป

      เมื่อ​พวก​ทหาร​ยืน​ขึ้น​และ​เดิน​ไป​หา​พระ​เยซู อัครสาวก​รู้​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​จึง​ถาม​พระ​เยซู​ว่า “อาจารย์ เอา​ดาบ​ฟัน​พวก​นี้​เลย​ดี​ไหม?” (ลูกา 22:49) ก่อน​พระ​เยซู​จะ​ตอบ เปโตร​ก็​ชัก​ดาบ​ออก​มา​ฟัน​มัลคัส​ซึ่ง​เป็น​ทาส​ของ​มหา​ปุโรหิต ทำ​ให้​หู​ข้าง​ขวา​ของ​เขา​ขาด

      พระ​เยซู​จึง​แตะ​หู​ของ​มัลคัส​และ​รักษา​ให้​หาย​เป็น​ปกติ หลัง​จาก​นั้น ท่าน​ก็​สอน​บทเรียน​สำคัญ​โดย​พูด​กับ​เปโตร​ว่า “เก็บ​ดาบ​ใส่​ฝัก​ซะ เพราะ​ทุก​คน​ที่​ใช้​ดาบ​จะ​ตาย​ด้วย​ดาบ” พระ​เยซู​เต็ม​ใจ​จะ​ถูก​จับ​เพื่อ​ให้ ‘สิ่ง​ที่​เขียน​ไว้​ใน​พระ​คัมภีร์​เป็น​จริง’ (มัทธิว 26:52, 54) แล้ว​ท่าน​ก็​พูด​อีก​ว่า “ถ้วย​ที่​พ่อ​ให้​ผม​ดื่ม ผม​จะ​ไม่​ดื่ม​ได้​หรือ?” (ยอห์น 18:11) พระ​เยซู​ยอม​ทำ​ทุก​อย่าง​ที่​พระเจ้า​ต้องการ แม้​ว่า​จะ​ต้อง​ตาย

      พระ​เยซู​ถาม​ฝูง​ชน​ว่า “ทำไม​ต้อง​ถือ​ดาบ​ถือ​กระบอง​มา​จับ​ผม​เหมือน​จับ​โจร​ด้วย? ผม​นั่ง​สอน​ใน​วิหาร​ทุก​วัน พวก​คุณ​ก็​ไม่​เห็น​มา​จับ แต่​ที่​เกิด​ขึ้น​ทั้ง​หมด​นี้​ก็​เพื่อ​ข้อ​ความ​ที่​พวก​ผู้​พยากรณ์​เขียน​ไว้​จะ​เป็น​จริง”—มัทธิว 26:55, 56

      พวก​ทหาร ผู้​บังคับ​บัญชา และ​เจ้าหน้าที่​ของ​ชาว​ยิว​ก็​เข้า​มา​จับ​ตัว​พระ​เยซู​มัด​ไว้ เมื่อ​เห็น​อย่าง​นั้น พวก​อัครสาวก​ก็​หนี​ไป แต่ “ชาย​หนุ่ม​คน​หนึ่ง” ซึ่ง​คง​เป็น​มาระโก ยัง​อยู่​ปะปน​กับ​ฝูง​ชน​เพื่อ​จะ​ตาม​พระ​เยซู​ไป (มาระโก 14:51) แต่​แล้ว​ฝูง​ชน​ก็​จำ​เขา​ได้​และ​พยายาม​จับ​เขา เขา​จึง​สลัด​เสื้อ​คลุม​ทิ้ง​แล้ว​วิ่ง​หนี​ไป

      • ทำไม​ยูดาส​ไป​ตาม​หา​พระ​เยซู​ใน​สวน​เกทเสมนี?

      • เปโตร​พยายาม​ปก​ป้อง​พระ​เยซู​อย่าง​ไร และ​ท่าน​พูด​กับ​เขา​อย่าง​ไร?

      • พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​อย่าง​ไร​ว่า​ท่าน​ยอม​ทำ​ทุก​อย่าง​ที่​พระเจ้า​ต้องการ?

      • เมื่อ​อัครสาวก​ทิ้ง​พระ​เยซู​ไป มี​ใคร​เหลือ​อยู่ แล้ว​หลัง​จาก​นั้น​เกิด​อะไร​ขึ้น?

  • พระเยซูถูกพาไปหาอันนาสแล้วก็เคยาฟาส
    พระเยซู—ทางนั้น ความจริง ชีวิต
    • เคยาฟาส​ฉีก​เสื้อ​ชั้น​นอก​ของ​เขา คน​อื่น ๆ ก็​ตบ​พระ​เยซู เยาะเย้ย และ​ชก​ต่อย​ท่าน

      บท 125

      พระ​เยซู​ถูก​พา​ไป​หา​อันนาส​แล้ว​ก็​เคยาฟาส

      มัทธิว 26:57-68 มาระโก 14:53-65 ลูกา 22:54, 63-65 ยอห์น 18:13, 14, 19-24

      • พระ​เยซู​ถูก​พา​ไป​หา​อันนาส​ซึ่ง​เป็น​อดีต​มหา​ปุโรหิต

      • ศาล​แซนเฮดริน​พิจารณา​คดี​อย่าง​ผิด​กฎหมาย

      พระ​เยซู​ถูก​มัด​เหมือน​กับ​อาชญากร แล้ว​ถูก​พา​ไป​หา​อันนาส เขา​เป็น​มหา​ปุโรหิต​ใน​วิหาร​ตอน​ที่​พระ​เยซู​เป็น​เด็ก​อายุ 12 ปี​ที่​ทำ​ให้​พวก​ครู​สอน​ศาสนา​รู้สึก​ทึ่ง (ลูกา 2:42, 47) ลูก​ชาย​บาง​คน​ของ​อันนาส​ก็​เคย​รับใช้​เป็น​มหา​ปุโรหิต และ​ตอน​นี้​ลูก​เขย​ของ​เขา​ที่​ชื่อ​เคยาฟาส​ทำ​หน้า​ที่​นี้​อยู่

      ตอน​ที่​อันนาส​กำลัง​ซัก​ถาม​พระ​เยซู เคยาฟาส​ก็​เรียก​สมาชิก​ศาล​แซนเฮดริน​มา​รวม​กัน ศาล​นี้​มี​สมาชิก 71 คน​ซึ่ง​รวม​ถึง​มหา​ปุโรหิต​และ​อดีต​มหา​ปุโรหิต​คน​อื่น ๆ ด้วย

      อันนาส​ถาม​พระ​เยซู “เกี่ยว​กับ​พวก​สาวก​และ​คำ​สอน​ของ​ท่าน” พระ​เยซู​ตอบ​แค่​ว่า “ผม​พูด​ต่อ​หน้า​ทุก​คน​อย่าง​เปิด​เผย ผม​สอน​อยู่​ใน​ที่​ประชุม​และ​ใน​วิหาร​ที่​พวก​ยิว​ทุก​คน​มา​ชุมนุม​กัน ผม​ไม่​ได้​พูด​อะไร​ใน​ที่​ลับ​เลย มา​ถาม​ผม​ทำไม? ไป​ถาม​คน​ที่​ได้​ยิน​ผม​พูด​สิ”—ยอห์น 18:19-21

      เจ้าหน้าที่​ตบ​หน้า​พระ​เยซู​และ​ตะคอก​ใส่​ท่าน​ว่า “ตอบ​ปุโรหิต​ใหญ่​แบบ​นี้​ได้​ยัง​ไง?” แต่​พระ​เยซู​รู้​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​ได้​ทำ​อะไร​ผิด ท่าน​จึง​พูด​ว่า “ถ้า​ผม​พูด​อะไร​ผิด ก็​เอา​หลักฐาน​มา​ยืน​ยัน​สิ แต่​ถ้า​ผม​พูด​ถูก มา​ตบ​ผม​ทำไม?” (ยอห์น 18:22, 23) แล้ว​อันนาส​ก็​ส่ง​ตัว​พระ​เยซู​ไป​หา​เคยาฟาส​ลูก​เขย​ของ​เขา

      ป่าน​นี้​สมาชิก​ศาล​แซนเฮดริน​คง​มา​กัน​ครบ​แล้ว ทั้ง​มหา​ปุโรหิต ผู้​นำ​ชุมชน และ​ครู​สอน​ศาสนา ทุก​คน​มา​รวม​ตัว​ที่​บ้าน​ของ​เคยาฟาส จริง ๆ แล้ว​เป็น​เรื่อง​ผิด​กฎหมาย​ที่​จะ​พิจารณา​คดี​ใน​คืน​ที่​มี​การ​ฉลอง​ปัสกา แต่​พวก​เขา​ไม่​สนใจ​เพราะ​อยาก​จะ​ทำ​ตาม​แผน​ชั่ว

      นี่​คง​ไม่​ใช่​การ​พิจารณา​คดี​ที่​ยุติธรรม เพราะ​หลัง​จาก​พระ​เยซู​ปลุก​ลาซารัส​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย ศาล​แซนเฮดริน​ก็​ลง​ความ​เห็น​กัน​ไป​แล้ว​ว่า​พระ​เยซู​สม​ควร​ตาย (ยอห์น 11:47-53) และ​ไม่​กี่​วัน​ก่อน พวก​ผู้​นำ​ศาสนา​ก็​เพิ่ง​รวม​หัว​กัน​วาง​แผน​จับ​พระ​เยซู​มา​ฆ่า (มัทธิว 26:3, 4) นี่​เท่า​กับ​ว่า​พระ​เยซู​ถูก​ตัดสิน​ประหาร​ก่อน​จะ​เริ่ม​พิจารณา​คดี​ด้วย​ซ้ำ!

      นอก​จาก​จะ​เปิด​การ​พิจารณา​คดี​อย่าง​ผิด​กฎหมาย​แล้ว พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​และ​สมาชิก​ศาล​แซนเฮดริน​ยัง​หา​พยาน​เท็จ​มา​ใส่​ร้าย​พระ​เยซู​ด้วย แต่​ถึง​จะ​หา​ได้​หลาย​คน คำ​ให้​การ​ของ​พวก​เขา​ก็​ไม่​ตรง​กัน ใน​ที่​สุด มี 2 คน​ที่​ออก​มา​พูด​ว่า “พวก​เรา​ได้​ยิน​เขา​พูด​ว่า ‘ผม​จะ​ทำลาย​วิหาร​หลัง​นี้​ที่​สร้าง​ขึ้น​มา​ด้วย​มือ​มนุษย์ แล้ว​ภาย​ใน 3 วัน ผม​จะ​สร้าง​อีก​หลัง​หนึ่ง​ที่​ไม่​ได้​ใช้​มือ​มนุษย์​สร้าง’” (มาระโก 14:58) แต่​คำ​ให้​การ​ของ 2 คน​นี้​ก็​ไม่​ได้​ตรง​กัน​ทั้ง​หมด

      เคยาฟาส​ถาม​พระ​เยซู​ว่า “คุณ​จะ​ไม่​แก้​ตัว​อะไร​เลย​หรือ? ที่​เขา​กล่าวหา​มา​ทั้ง​หมด​นี้ คุณ​จะ​ว่า​ยัง​ไง?” (มาระโก 14:60) พระ​เยซู​นิ่ง​เงียบ​และ​ไม่​ตอบ​ข้อ​กล่าวหา​ของ​พยาน​เท็จ​พวก​นี้ มหา​ปุโรหิต​เคยาฟาส​จึง​เปลี่ยน​ไป​ใช้​อีก​วิธี​หนึ่ง

      เคยาฟาส​รู้​ว่า​พวก​ยิว​ไม่​ชอบ​คน​ที่​อ้าง​ตัว​ว่า​เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า ตอน​ที่​พระ​เยซู​พูด​ว่า​พระเจ้า​เป็น​พ่อ​ของ​ท่าน คน​ยิว​อยาก​จะ​ฆ่า​ท่าน​เพราะ​รู้สึก​ว่า​ท่าน “ทำ​ตัว​เสมอ​กับ​พระเจ้า” (ยอห์น 5:17, 18; 10:31-39) เคยาฟาส​จึง​ใช้​จุด​นี้​พูด​กับ​พระ​เยซู​อย่าง​มี​เล่ห์​เหลี่ยม​ว่า “ผม​ขอ​สั่ง​ให้​คุณ​สาบาน​ใน​นาม​ของ​พระเจ้า​ผู้​มี​ชีวิต​อยู่​ตลอด​ไป บอก​มา​ว่า คุณ​เป็น​พระ​คริสต์ ลูก​ของ​พระเจ้า​จริง​หรือ​ไม่” (มัทธิว 26:63) แน่นอน​ว่า พระ​เยซู​เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า (ยอห์น 3:18; 5:25; 11:4) ถ้า​ท่าน​ไม่​พูด​ตอน​นี้​ก็​เท่า​กับ​ท่าน​ปฏิเสธ​ว่า​ไม่​ได้​เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า​และ​ไม่​ได้​เป็น​พระ​คริสต์ ท่าน​จึง​พูด​ว่า “ใช่​แล้ว และ​พวก​คุณ​จะ​เห็น ‘ลูก​มนุษย์’ นั่ง​ข้าง​ขวา​ของ​พระองค์​ผู้​มี​ฤทธิ์​อำนาจ​และ​จะ​เห็น​ท่าน​มา​บน​เมฆ​ใน​ท้องฟ้า”—มาระโก 14:62

      แล้ว​เคยาฟาส​ก็​เล่น​ละคร​ตบตา​โดย​ฉีก​เสื้อ​ชั้น​นอก​ของ​ตัว​เอง​แล้ว​พูด​ว่า “เขา​หมิ่น​ประมาท​พระเจ้า​แล้ว! เรา​ยัง​ต้อง​มี​พยาน​อีก​หรือ? พวก​คุณ​ก็​ได้​ยิน​แล้ว​นี่​ว่า​เขา​หมิ่น​ประมาท​พระเจ้า พวก​คุณ​คิด​ว่า​ควร​ทำ​ยัง​ไง​กับ​เขา​ดี?” ศาล​แซนเฮดริน​ประกาศ​คำ​พิพากษา​ที่​ไม่​ยุติธรรม​ว่า “เขา​ต้อง​ตาย​สถาน​เดียว”—มัทธิว 26:65, 66

      พวก​เขา​เยาะเย้ย​และ​ชก​ต่อย​พระ​เยซู บาง​คน​ตบ​หน้า​และ​ถุย​น้ำลาย​ใส่​หน้า​ท่าน หลัง​จาก​นั้น พวก​เขา​ปิด​หน้า​พระ​เยซู ตบ​ท่าน แล้ว​ประชด​ว่า “ทาย​มา​สิ​ว่า​ใคร​ตบ?” (ลูกา 22:64) ลูก​ของ​พระเจ้า​ถูก​ทำ​ร้าย​ใน​การ​พิจารณา​คดี​แบบ​ผิด​กฎหมาย​ตอน​กลางคืน!

      • พระ​เยซู​ถูก​พา​ไป​ที่​ไหน และ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ที่​นั่น?

      • หลัง​จาก​นั้น​ท่าน​ถูก​พา​ไป​ที่​ไหน และ​เคยาฟาส​ทำ​อย่าง​ไร​เพื่อ​ให้​ศาล​แซนเฮดริน​ประกาศ​ว่า​พระ​เยซู​สม​ควร​ตาย?

      • สมาชิก​ศาล​แซนเฮดริน​ทำ​ร้าย​พระ​เยซู​อย่าง​ไร​บ้าง?

  • เปโตรปฏิเสธพระเยซู
    พระเยซู—ทางนั้น ความจริง ชีวิต
    • พระ​เยซู​ยืน​อยู่​บน​ระเบียง ท่าน​มอง​ลง​มา​ที่​เปโตร เขา​เพิ่ง​ปฏิเสธ​ว่า​ไม่​รู้​จัก​ท่าน มี​ไก่​ยืน​อยู่​ด้าน​หลัง

      บท 126

      เปโตร​ปฏิเสธ​พระ​เยซู

      มัทธิว 26:69-75 มาระโก 14:66-72 ลูกา 22:54-62 ยอห์น 18:15-18, 25-27

      • เปโตร​บอก​ว่า​ไม่​รู้​จัก​พระ​เยซู

      เมื่อ​พระ​เยซู​ถูก​จับ​ใน​สวน​เกทเสมนี อัครสาวก​ทุก​คน​ก็​ทิ้ง​ท่าน​ไว้​และ​หนี​ไป​เพราะ​ความ​กลัว แต่​มี 2 คน​เปลี่ยน​ใจ​และ​ตาม​ท่าน​ไป คือ​เปโตร “กับ​สาวก​อีก​คน​หนึ่ง” ซึ่ง​น่า​จะ​เป็น​ยอห์น (ยอห์น 18:15; 19:35; 21:24) พวก​เขา​คง​ตาม​ทัน​ตอน​ที่​พระ​เยซู​ถูก​พา​ไป​หา​อันนาส พอ​อันนาส​ส่ง​ตัว​ท่าน​ไป​ให้​มหา​ปุโรหิต​เคยาฟาส เปโตร​กับ​ยอห์น​ก็​ตาม​ไป​ห่าง ๆ พวก​เขา​คง​ลำบาก​ใจ​มาก เพราะ​ใจ​หนึ่ง​ก็​กลัว​ตาย อีก​ใจ​ก็​เป็น​ห่วง​พระ​เยซู

      ยอห์น​รู้​จัก​กับ​มหา​ปุโรหิต เขา​จึง​เข้า​ไป​ใน​ลาน​บ้าน​ของ​เคยาฟาส​ได้ แต่​เปโตร​ต้อง​ยืน​รอ​อยู่​ข้าง​นอก​ก่อน พอ​ยอห์น​กลับ​มา​พูด​กับ​สาว​ใช้​ที่​เฝ้า​ประตู เปโตร​ถึง​ได้​เข้า​ไป​ข้าง​ใน

      คืน​นี้​อากาศ​หนาว คน​ใน​ลาน​บ้าน​จึง​นั่ง​ผิง​ไฟ​กัน เปโตร​ก็​นั่ง​อยู่​กับ​พวก​เขา “เพื่อ​คอย​ดู​ว่า​จะ​มี​อะไร​เกิด​ขึ้น” เมื่อ​พระ​เยซู​ถูก​พิจารณา​คดี (มัทธิว 26:58) แสง​จาก​กอง​ไฟ​ทำ​ให้​สาว​ใช้​ที่​เฝ้า​ประตู​เห็น​หน้า​เปโตร​ชัด​ขึ้น เธอ​จึง​ถาม​ว่า “คุณ​เป็น​สาวก​ของ​คน​นั้น​ด้วย​ไม่​ใช่​หรือ?” (ยอห์น 18:17) มี​คน​อื่น​ด้วย​ที่​จำ​ได้​ว่า​เคย​เห็น​เปโตร​อยู่​กับ​พระ​เยซู—มัทธิว 26:69, 71-73; มาระโก 14:70

      เปโตร​เครียด​มาก เขา​ปฏิเสธ​ว่า​ไม่​เคย​อยู่​กับ​พระ​เยซู​โดย​พูด​ว่า “ผม​ไม่​รู้​จัก​เขา พูด​อะไร ผม​ไม่​เข้าใจ” แล้ว​เขา​ก็​ออก​ไป​อยู่​ตรง​โถง​ทาง​เข้า เพราะ​ไม่​อยาก​ตก​เป็น​เป้า​สายตา (มาระโก 14:67, 68) เปโตร​ถึง​ขั้น “บอก​ว่า​ถ้า​เขา​โกหก​ขอ​ให้​พระเจ้า​ลง​โทษ และ​พูด​ด้วย​ว่า ‘สาบาน​ได้ ผม​ไม่​รู้​จัก​คน​นั้น​จริง ๆ’”—มัทธิว 26:74

      ตอน​นั้น พระ​เยซู​ยัง​ถูก​พิจารณา​คดี​ใน​บ้าน​ของ​เคยาฟาส​ตรง​ส่วน​ที่​อยู่​เหนือ​ลาน​บ้าน เปโตร​และ​คน​ที่​อยู่​ข้าง​ล่าง​ก็​คง​เห็น​ได้​ว่า​มี​การ​เรียก​พยาน​คน​แล้ว​คน​เล่า​มา​ให้​ปากคำ

      สำเนียง​กาลิลี​ของ​เปโตร​ทำ​ให้​คน​อื่น​จับ​ได้​ว่า​เขา​โกหก นอก​จาก​นั้น ญาติ​คน​หนึ่ง​ของ​มัลคัส​ซึ่ง​เป็น​ทาส​ที่​เปโตร​ฟัน​หู​ขาด​ก็​พูด​ว่า “ผม​เห็น​คุณ​อยู่​กับ​คน​นั้น​ใน​สวน​ด้วย​นี่” พอ​เปโตร​ปฏิเสธ​เป็น​ครั้ง​ที่​สาม เขา​ก็​ได้​ยิน​เสียง​ไก่​ขัน​เหมือน​ที่​พระ​เยซู​บอก​ไว้—ยอห์น 13:38; 18:26, 27

      ตอน​นั้น พระ​เยซู​คง​ยืน​อยู่​บน​ระเบียง​ที่​มอง​เห็น​เปโตร​ได้ สายตา​ของ​ท่าน​ที่​มอง​มา แทง​ทะลุ​ไป​ถึง​กลาง​ใจ​ของ​เปโตร ก่อน​หน้า​นี้​ไม่​กี่​ชั่วโมง​พระ​เยซู​เพิ่ง​บอก​เขา​ว่า​เรื่อง​แบบ​นี้​จะ​เกิด​ขึ้น เมื่อ​เปโตร​รู้​ตัว​ว่า​ทำ​อะไร​ลง​ไป ความ​รู้สึก​ผิด​คง​ท่วมท้น​จน​ทน​ไม่​ไหว! เขา​ออก​ไป​ร้องไห้​เสียใจ​อย่าง​หนัก—ลูกา 22:61, 62

      เรื่อง​นี้​เกิด​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร? เปโตร​ซึ่ง​เป็น​อัครสาวก​ที่​ภักดี​และ​มี​ความ​เชื่อ​เข้มแข็ง​ปฏิเสธ​พระ​เยซู​ได้​อย่าง​ไร? เปโตร​รู้​อยู่​แก่​ใจ​ว่า​ความ​จริง​ถูก​บิดเบือน พระ​เยซู​ถูก​จัด​ฉาก​ให้​เป็น​อาชญากร​ที่​เลว​ทราม และ​เปโตร​ก็​มี​โอกาส​แก้​ต่าง​ให้​คน​บริสุทธิ์ แต่​เขา​กลับ​หัน​หลัง​ให้​พระ​เยซู​ซึ่ง “มี​คำ​สอน​ที่​ให้​ชีวิต​ตลอด​ไป”—ยอห์น 6:68

      ประสบการณ์​อัน​น่า​ขมขื่น​ของ​เปโตร​แสดง​ว่า แม้​แต่​คน​ที่​มี​ความ​เชื่อ​เข้มแข็ง​และ​มุ่ง​มั่น​ก็​มี​โอกาส​พลาด ถ้า​เขา​ไม่​ได้​เตรียม​ตัว​รับมือ​กับ​การ​ล่อ​ใจ​หรือ​การ​ทดสอบ​ที่​อาจ​เกิด​ขึ้น ขอ​ให้​ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​ทุก​คน​จำ​เรื่อง​ของ​เปโตร​ไว้​เป็น​ข้อ​เตือน​ใจ!

      • เปโตร​กับ​ยอห์น​เข้า​ไป​ใน​ลาน​บ้าน​ของ​มหา​ปุโรหิต​เคยาฟาส​ได้​อย่าง​ไร?

      • ตอน​ที่​พวก​เขา​อยู่​ใน​ลาน​บ้าน มี​อะไร​เกิด​ขึ้น​ใน​บ้าน?

      • เปโตร​สาบาน​ว่า​อะไร?

      • เรา​เรียน​อะไร​ได้​จาก​เรื่อง​ของ​เปโตร?

หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
ออกจากระบบ
เข้าสู่ระบบ
  • ไทย
  • แชร์
  • การตั้งค่า
  • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
  • เงื่อนไขการใช้งาน
  • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
  • JW.ORG
  • เข้าสู่ระบบ
แชร์