การสื่อความสำคัญยิ่งต่อระบบนิเวศของโลก
ตอนที่จูลีเป็นทารก พ่อแม่ของเธอตั้งตาคอยวันที่เธอจะพูดคำแรก. แม่ของจูลีบอกว่า “การได้ยินลูกน้อยเรียก ‘แม่’ กับ ‘พ่อ’ เป็นสิ่งที่น่าปลื้มใจมากอย่างที่ไม่มีพ่อแม่คนใดจะพรรณนาความรู้สึกนั้นได้ทั้งหมด. ตอนที่จูลีเรียกดิฉันว่า ‘แม่’ เป็นครั้งแรก นั่นเหมือนกับว่าเธอกำลังเอาแขนเล็ก ๆ กอดดิฉันไว้และบอกว่า ‘แม่เป็นแม่ของหนู. หนูรักแม่ และหนูอยากจะพูดกับแม่.’ ดิฉันจะจดจำช่วงเวลาพิเศษนั้นไว้ตลอดไป.” ถูกแล้ว ความสามารถในการสื่อความเป็นความสามารถที่ล้ำค่าจริง ๆ!
แน่นอน มนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่สามารถสื่อความได้. แม้ว่าสัตว์จะถูกควบคุมโดยสัญชาตญาณเป็นส่วนใหญ่ แต่มันก็มีรูปแบบการสื่อความบางอย่างที่น่าทึ่งเช่นกัน. ยกตัวอย่าง นกเพนกวินจักรพรรดิที่เกี้ยวพาราสีกันในแอนตาร์กติกาอันหนาวเหน็บจะทำพิธีร้องโต้ตอบกันเป็นประจำทุกปีในช่วงก่อนฤดูหนาว แต่มันไม่ได้ทำเพื่อความสนุก. ชีวิตของลูกนกที่จะเกิดมาในวันข้างหน้าของแต่ละคู่นั้นขึ้นอยู่กับเรื่องนี้. เป็นเช่นนั้นอย่างไร?
หลังจากวางไข่แล้ว เพนกวินตัวเมียจะเอาไข่ให้คู่ของมันกกในถุงฟักไข่แล้วตัวเมียจะออกไปหากินในทะเล. ประมาณ 65 วันต่อมา มันจะกลับมา โดยเดินเตาะแตะและใช้ท้องไถลไปกับน้ำแข็งอาจเป็นระยะทางถึง 150 กิโลเมตร. การหาฝูงนกเพนกวินพบก็เป็นเรื่องที่น่าทึ่งอยู่แล้ว แต่นกตัวเมียจะหาคู่ของมันกับลูกซึ่งเพิ่งฟักออกมาจากไข่ท่ามกลางฝูงนกเพนกวินเป็นหมื่น ๆ ตัวที่กำลังส่งเสียงร้องได้อย่างไร? ในช่วงที่มันเกี้ยวพาราสีกัน นกแต่ละตัวจะจำเสียงร้องของคู่มันเองได้แม่นยำถึงขนาดที่แม้จะจากกันหลายเดือน มันก็หากันพบ!
นอกจากการใช้เสียงอันหลากหลายจนน่าทึ่งแล้ว สัตว์ยังสื่อความกันโดยใช้ท่าทาง, สีที่จับความสนใจ, แสงกะพริบ, และกลิ่นที่ซับซ้อน. และแม้ว่าอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่พืชก็สื่อสารกับพืชด้วยกันและกับสัตว์บางชนิดด้วยซ้ำ ดังที่เราจะได้เห็น. ถูกแล้ว การสื่อความเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริงต่อชีวิตบนโลกที่เชื่อมโยงกันอย่างสลับซับซ้อนและมีการพึ่งพาอาศัยกัน.
คุณอยากเรียนรู้มากขึ้นไหมเกี่ยวกับรูปแบบการสื่อความที่น่าทึ่งบางรูปแบบที่มีอยู่ในโลกรอบตัวเรา? และคุณอยากเพิ่มพูนความหยั่งรู้ค่าต่อทักษะในการสื่อความของคุณเอง และถึงกับปรับปรุงทักษะเหล่านี้ให้ดีขึ้นไหม? บทความถัดไปจะช่วยคุณ.
[ภาพหน้า 3]
นกเพนกวินจักรพรรดิตัวเมียหาคู่ของมันพบได้อย่างไร?