โดนพิษเศรษฐกิจเล่นงาน
สารานุกรมบริแทนนิกาออนไลน์ กล่าวว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดขึ้นในโลกเมื่อไม่นานมานี้เป็น “สภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่สุดในยุคปัจจุบัน.” วิกฤติเศรษฐกิจซึ่งเริ่มในสหรัฐตั้งแต่ปี 2007 มีความรุนแรงมากและส่งผลต่อหลายประเทศจนถูกเรียกว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ (Great Recession).
อะไรเป็นสาเหตุของภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งนี้? วารสารนิวส์วีก บอกว่าเป็นเพราะ “การกู้ยืมอย่างไม่มีการควบคุมโดยไม่คิดถึงผลที่จะตามมา.” แต่ทำไมผู้คนจึงกู้ยืมอย่างไม่บันยะบันยัง เพื่อจะซื้อสิ่งของที่จริง ๆ แล้วเขาไม่มีความสามารถจะซื้อได้?
คุณคงจะเห็นด้วยว่าระบบเศรษฐกิจของโลก ซึ่งส่งเสริมความโลภนั่นแหละเป็นตัวการ. ที่แท้แล้ว มีการกระตุ้นผู้คนให้ “ซื้อ! ซื้อ! แล้วก็ซื้อ!” ไม่ว่าคุณจะมีพอจ่ายหรือไม่. คริส ฟาร์เรลล์ นักเศรษฐศาสตร์คนหนึ่งอธิบายไว้ในหนังสือวิธีประหยัดแนวใหม่ (ภาษาอังกฤษ) ดังนี้: “คนรุ่นปัจจุบันได้บทเรียนราคาแพงในเรื่องการกู้ยืมมากเกินไป.”
หลายประเทศมีฐานะง่อนแง่นเมื่อเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่. เมื่อปีที่แล้ว พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทมส์ แห่งแอฟริกาใต้กล่าวว่า “แม้จะมีสัญญาณของการฟื้นตัว แต่ผู้บริโภค . . . ก็ยังคงต้องดิ้นรนเพื่อหาอาหารมาประทังชีวิต.” หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นรายงานว่า “ผู้บริโภคเกือบ 3,000,000 คนใน [แอฟริกาใต้] มีหนี้ค้างชำระนานกว่าสามเดือน; และชนชั้นกลางประมาณ 250,000 คนต้องตกงานในรอบสองปีที่ผ่านมา.”
มีคนตกงานมากถึงหลายสิบล้านคนเมื่อไม่กี่ปีมานี้. หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ กล่าวถึงสัญญาณของการฟื้นตัวในสหรัฐว่า “การฟื้นตัวตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2009 อาจเรียกได้ว่าเป็น ‘ความผิดหวังครั้งใหญ่.’ ” หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นเสริมดังนี้: “นักเศรษฐศาสตร์หลายคนคิดว่าการที่ต้องชำระหนี้จะยับยั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจไปอีกหลายปี.”
ถ้าคุณเป็นเหยื่อของภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ คุณคงเห็นด้วยกับบทความของนักเขียนชื่อเดวิด เบร์ตที่ว่า “ดูเหมือนมีการพูดกันมากเรื่องปัญหาการเงินของโลก แต่แทบไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้เลย.”
บทความต่อจากนี้เขียนขึ้นเพื่อช่วยผู้มีปัญหาเรื่องหนี้สิน ซึ่งจะตอบคำถามต่อไปนี้: การออมเงินมีประโยชน์อะไร? คุณจะทำอะไรได้บ้างถ้าคุณเป็นหนี้? คุณจะบริหารจัดการเรื่องเงินให้ดีขึ้นได้อย่างไร?