บท 37
ฉันควรรับบัพติสมาไหม?
ให้ขีดว่าประโยคต่อไปนี้จริงหรือไม่จริง.
การรับบัพติสมาเป็นข้อเรียกร้องสำหรับคริสเตียน.
□ จริง
□ ไม่จริง
จุดประสงค์หลักของการรับบัพติสมาคือเพื่อป้องกันคุณไม่ให้ทำผิด.
□ จริง
□ ไม่จริง
การรับบัพติสมาทำให้คุณมีโอกาสรอด.
□ จริง
□ ไม่จริง
ถ้ายังไม่รับบัพติสมา คุณทำอะไรก็ได้ไม่ต้องให้การต่อพระเจ้า.
□ จริง
□ ไม่จริง
ถ้าเพื่อนคุณรับบัพติสมาแล้วหมายความว่าคุณก็พร้อมจะรับด้วย.
□ จริง
□ ไม่จริง
ถ้าคุณดำเนินชีวิตตามมาตรฐานของพระเจ้า มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพระองค์ และเล่าให้คนอื่นฟังว่าคุณเชื่ออย่างไร คุณอาจกำลังคิดถึงเรื่องรับบัพติสมา. แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าคุณพร้อมแล้ว? เพื่อจะรู้คำตอบ ให้มาพิจารณาประโยคต่าง ๆ ที่อยู่ตอนต้นว่าจริงหรือไม่.
● การรับบัพติสมาเป็นข้อเรียกร้องสำหรับคริสเตียน.
จริง. พระเยซูสั่งสาวกของพระองค์ให้รับบัพติสมา. (มัดธาย 28:19, 20) พระเยซูเองก็รับบัพติสมา. เพื่อติดตามตัวอย่างของพระเยซู คุณควรรับบัพติสมาเมื่อคุณมีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่ ตัดสินใจเองได้ และอยากรับบัพติสมาจริง ๆ.
● จุดประสงค์หลักของการรับบัพติสมาคือเพื่อป้องกันคุณไม่ให้ทำผิด.
ไม่จริง. การรับบัพติสมาเป็นเครื่องหมายแสดงว่าคุณได้อุทิศตัวแด่พระยะโฮวาแล้ว. การอุทิศตัวไม่ได้เป็นเพียงคำสัญญาที่จะช่วยป้องกันคุณไม่ให้ทำสิ่งไม่ดีที่ใจคุณอยากทำ. ตรงกันข้าม คุณอุทิศชีวิตแด่พระยะโฮวาเพราะคุณอยาก ทำตามมาตรฐานของพระองค์.
● การรับบัพติสมาทำให้คุณมีโอกาสรอด.
จริง. พระคัมภีร์บอกว่า การรับบัพติสมาเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อจะได้รับความรอด. (1 เปโตร 3:21) แต่การรับบัพติสมาไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันความรอด. คุณควรรับบัพติสมาเพราะคุณรักพระยะโฮวาและอยากรับใช้พระองค์ด้วยสิ้นสุดหัวใจตลอดไป ไม่ใช่เพราะหวังจะรอด.—มาระโก 12:29, 30
● ถ้ายังไม่รับบัพติสมา คุณทำอะไรก็ได้ไม่ต้องให้การต่อพระเจ้า.
ไม่จริง. ไม่ว่าจะรับบัพติสมาแล้วหรือไม่ ยาโกโบ 4:17 บอกว่า “ถ้าผู้ใดรู้ว่าอะไรถูกต้องแต่ไม่ทำ เขาก็ทำบาป.” ดังนั้น ถ้าคุณรู้ว่าอะไรถูกต้องและโตพอที่จะรู้ว่าการรับบัพติสมาหมายถึงอะไรก็ถึงเวลาแล้วที่จะคุยเรื่องนี้กับพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ที่คุณนับถือ. เขาช่วยชี้แนะคุณได้ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะก้าวหน้าถึงขั้นรับบัพติสมา.
● ถ้าเพื่อนคุณรับบัพติสมาแล้วหมายความว่าคุณก็พร้อมจะรับด้วย.
ไม่จริง. เรื่องนี้คุณต้องตัดสินใจเอง. (บทเพลงสรรเสริญ 110:3) คุณจะรับบัพติสมาได้ก็ต่อเมื่อคุณเข้าใจว่าการเป็นพยานพระยะโฮวาหมายถึงอะไรจริง ๆ และมั่นใจว่าทำตามได้.—ท่านผู้ประกาศ 5:4, 5
ขั้นตอนที่เปลี่ยนชีวิต
การรับบัพติสมาเป็นขั้นตอนที่เปลี่ยนชีวิตและจะทำให้คุณได้รับพระพรมากมาย. แต่คุณเองก็ต้องดำเนินชีวิตให้สมกับที่ได้อุทิศตัวแด่พระยะโฮวาด้วย.
คุณก้าวหน้าถึงขั้นนั้นหรือยัง? มีสิทธิพิเศษอันยอดเยี่ยมรอคุณอยู่คือการรับใช้พระยะโฮวาด้วยสิ้นสุดหัวใจและดำเนินชีวิตในแนวทางที่แสดงว่าคุณอุทิศตัวแด่พระองค์จริง ๆ.—มัดธาย 22:36, 37
ถ้าอยากมีความสุขแท้ คุณควรตั้งเป้าหมายอย่างไร?
ข้อคัมภีร์หลัก
‘ให้คุณถวายร่างกายเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต ที่บริสุทธิ์ ที่พระเจ้าทรงยอมรับได้ ซึ่งเป็นการรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์ด้วยความสามารถในการใช้เหตุผลของคุณ.’—โรม 12:1
ข้อแนะ
ให้พ่อแม่ช่วยหาพี่น้องในประชาคมที่จะช่วยคุณให้ก้าวหน้าทางฝ่ายวิญญาณได้.—กิจการ 16:1-3
คุณรู้ไหม . . . ?
การรับบัพติสมาเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้คุณได้รับ ‘การประทับตรา’ เพื่อความรอด.—ยะเอศเคล 9:4-6
แผนปฏิบัติการ
เพื่อจะก้าวหน้าถึงขั้นรับบัพติสมา ฉันจะพยายามศึกษาค้นคว้าพระคัมภีร์มากขึ้นในเรื่องต่อไปนี้ ․․․․․
สิ่งที่ฉันอยากถามพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้คือ ․․․․․
คุณคิดอย่างไร?
● ทำไมการรับบัพติสมาจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก?
● อะไรเป็นสาเหตุให้หนุ่มสาวบางคนรับบัพติสมาทั้ง ๆ ที่ยังไม่พร้อม?
● อะไรทำให้หนุ่มสาวบางคนยังรั้งรอไม่ยอมอุทิศตัวและรับบัพติสมา?
[คำโปรยหน้า 306]
“ฉันรับบัพติสมาแล้ว จึงต้องคิดดี ๆ ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรและไม่ทำสิ่งที่จะมีผลเสียหาย.”—ฮอลลี
[กรอบ/ภาพหน้า 307]
คำถามที่ถามกันบ่อย ๆ เกี่ยวกับการรับบัพติสมา
การรับบัพติสมาเป็นเครื่องหมายแสดงถึงอะไร? การจุ่มตัวมิดในน้ำและขึ้นมาจากน้ำหมายความว่าคุณได้ตายจากแนวทางชีวิตที่ทำเพื่อตัวเองและกลับมามีชีวิตเพื่อทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า.
การที่คุณอุทิศชีวิตแด่พระยะโฮวาหมายความว่าอะไร? หมายความว่าคุณสัญญากับพระเจ้าว่าจะทำตามพระประสงค์ของพระองค์ก่อนสิ่งอื่นและคุณไม่ได้เป็นเจ้าของตัวเองอีกต่อไป. (มัดธาย 16:24) ก่อนจะรับบัพติสมา คุณควรอธิษฐานแบบเจาะจงว่าคุณต้องการอุทิศชีวิตแด่พระยะโฮวา.
ก่อนรับบัพติสมา คุณควรดำเนินชีวิตอย่างไร? ควรดำเนินชีวิตสอดคล้องกับพระคำของพระเจ้าและพูดเรื่องพระเจ้ากับคนอื่น. คุณควรศึกษาพระคัมภีร์และอธิษฐานเป็นประจำเพราะต้องการมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้า. คุณควรรับใช้พระยะโฮวาเพราะคุณ เลือกเอง ไม่ใช่เพราะคนอื่น.
คุณน่าจะรับบัพติสมาตอนอายุเท่าไร? ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ แต่คุณควรโตพอที่จะเข้าใจว่าการอุทิศตัวหมายถึงอะไร.
ถ้าคุณอยากรับบัพติสมาแต่พ่อแม่บอกให้รอก่อนจะว่าอย่างไร? พ่อแม่อาจคิดว่าคุณยังไม่พร้อมและอยากให้คุณพิสูจน์ตัวมากกว่านี้. ให้ทำตามคำแนะนำของพ่อแม่และใช้ช่วงนี้ทำให้สายสัมพันธ์ของคุณกับพระยะโฮวาแน่นแฟ้นขึ้น.—1 ซามูเอล 2:26
[ภาพหน้า 308, 309]
แบบสอบถาม
คุณกำลังคิดจะรับบัพติสมาไหม?
ลองตรวจดูความก้าวหน้าของตัวเองโดยตอบคำถามต่อไปนี้. ก่อนตอบให้ดูข้อคัมภีร์ที่อ้างถึงด้วย.
ในช่วงนี้ คุณแสดงว่าไว้วางใจพระยะโฮวาโดยวิธีใดบ้าง?—บทเพลงสรรเสริญ 71:5 ․․․․․
อะไรแสดงว่าคุณแยกแยะถูกผิดได้?—ฮีบรู 5:14 ․․․․․
คุณอธิษฐานบ่อยแค่ไหน? ․․․․․
คุณอธิษฐานอย่างเจาะจงไหมและอย่างไร? คำอธิษฐานเหล่านั้นแสดงว่าคุณรักพระยะโฮวามากแค่ไหน?—บทเพลงสรรเสริญ 17:6 ․․․․․
คุณตั้งเป้าจะปรับปรุงคำอธิษฐานอย่างไร? ․․․․․
คุณอ่านและศึกษาพระคัมภีร์บ่อยแค่ไหน?—ยะโฮซูอะ 1:8 ․․․․․
คุณได้ทำอะไรบ้างในการศึกษาส่วนตัว? ․․․․․
คุณตั้งเป้าจะปรับปรุงการศึกษาส่วนตัวอย่างไร? ․․․․․
งานรับใช้ของคุณบังเกิดผลไหม? (เช่น คุณอธิบายคำสอนพื้นฐานในพระคัมภีร์ได้ไหม? คุณกลับเยี่ยมคนสนใจไหม? คุณพยายามเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์ไหม?)
□ ใช่ □ ไม่ใช่
ถ้าพ่อแม่ไม่ออกไปรับใช้ คุณไปไหม?—กิจการ 5:42
□ ไป □ ไม่ไป
คุณตั้งเป้าจะปรับปรุงงานรับใช้อย่างไร?—2 ติโมเธียว 2:15 ․․․․․
คุณไปประชุมเป็นประจำไหม?—ฮีบรู 10:25 ․․․․․
คุณมีส่วนอะไรบ้างในการประชุม? ․․․․․
ถ้าพ่อแม่ไปประชุมไม่ได้ คุณไปไหม? (ถ้าพ่อแม่อนุญาต)
□ ไป □ ไม่ไป
คุณยินดีทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าจริง ๆ ไหม?—บทเพลงสรรเสริญ 40:8
□ ใช่ □ ไม่ใช่
คุณเคยต้านทานแรงกดดันจากเพื่อน ๆ ไหม? ในเหตุการณ์ใดบ้าง?—โรม 12:2 ․․․․․
คุณจะทำอะไรเพื่อให้ความรักที่มีต่อพระเจ้าเข้มแข็งขึ้น?—ยูดา 20, 21 ․․․․․
คุณจะยังรับใช้พระยะโฮวาไหมถ้าพ่อแม่และเพื่อน ๆ ของคุณเลิกรับใช้?—มัดธาย 10:36, 37
□ ใช่ □ ไม่ใช่
[ภาพหน้า 310]
การรับบัพติสมาก็เหมือนการแต่งงานเป็นขั้นตอนที่เปลี่ยนชีวิต. อย่ามองว่าไม่สำคัญ