-
พยานพระยะโฮวาเป็นคนแบบไหน?ใครทำตามความประสงค์ของพระยะโฮวาในทุกวันนี้?
-
-
บทเรียน 1
พยานพระยะโฮวาเป็นคนแบบไหน?
เดนมาร์ก
ไต้หวัน
เวเนซุเอลา
อินเดีย
คุณรู้จักพยานพระยะโฮวากี่คน? เราอาจจะเป็นเพื่อนบ้าน เพื่อนนักเรียน หรือเพื่อนร่วมงานของคุณ หรือเราอาจเคยคุยกับคุณเรื่องคัมภีร์ไบเบิล แต่จริง ๆ แล้วพวกเราเป็นใคร? และทำไมเราถึงประกาศความเชื่อของเรากับคนอื่น ๆ?
เราเป็นคนธรรมดา เรามาจากภูมิหลังและฐานะทางสังคมหลากหลาย บางคนเคยนับถือศาสนาอื่น บางคนไม่เชื่อเลยว่ามีพระเจ้า แต่ก่อนเข้ามาเป็นพยานฯเราทุกคนได้ใช้เวลาตรวจสอบคำสอนในคัมภีร์ไบเบิลอย่างรอบคอบ (กิจการ 17:11) พอเราเข้าใจและยอมรับสิ่งที่เราเรียน เราก็เลือกที่จะนมัสการพระยะโฮวาพระเจ้า
เราได้ประโยชน์จากการเรียนคัมภีร์ไบเบิล เราต้องรับมือกับปัญหาและความอ่อนแอของตัวเองเหมือนกับคนอื่น ๆ แต่พอเราเอาคำแนะนำจากคัมภีร์ไบเบิลไปใช้ในชีวิตประจำวัน เราก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น (สดุดี 128:1, 2) นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เราพยายามบอกคนอื่น ๆ ว่าการเรียนคัมภีร์ไบเบิลให้ประโยชน์อะไร
เราใช้ชีวิตตามหลักการของพระเจ้า หลักการของพระเจ้าที่บอกไว้ในคัมภีร์ไบเบิลช่วยเราให้มีชีวิตที่ดี สอนให้นับถือคนอื่น และปลูกฝังคุณลักษณะต่าง ๆ เช่น ความซื่อสัตย์และความกรุณา หลักการเหล่านี้ฝึกเราให้เป็นคนดีของสังคม ส่งเสริมให้ครอบครัวกลมเกลียวกันและมีศีลธรรมที่ดี เราเชื่อว่า “พระเจ้าไม่ลำเอียง” เราจึงเป็นครอบครัวนานาชาติที่มีความเชื่ออย่างเดียวกัน ไม่มีการเหยียดผิว และเราเป็นกลางทางการเมือง ถึงเราจะเป็นคนธรรมดา แต่ก็มีความพิเศษไม่เหมือนใคร—กิจการ 4:13; 10:34, 35
พยานพระยะโฮวาเป็นเหมือนคนทั่วไปในด้านไหน?
พยานฯได้เรียนอะไรบ้างจากคัมภีร์ไบเบิล?
-
-
ทำไมเราใช้ชื่อพยานพระยะโฮวา?ใครทำตามความประสงค์ของพระยะโฮวาในทุกวันนี้?
-
-
บทเรียน 2
ทำไมเราใช้ชื่อพยานพระยะโฮวา?
โนอาห์
อับราฮัมกับซาราห์
โมเสส
พระเยซูคริสต์
หลายคนคิดว่าพยานพระยะโฮวาเป็นชื่อศาสนาใหม่ แต่เมื่อ 2,700 กว่าปีที่แล้ว มีการเรียกผู้รับใช้ของพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียวว่า “พยาน” ของพระองค์ (อิสยาห์ 43:10-12) ก่อนปี 1931 เราเคยใช้ชื่อนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิล แล้วทำไมเราเปลี่ยนมาใช้ชื่อพยานพระยะโฮวา?
ชื่อนี้บอกว่าพระเจ้าของเราคือใคร ในสำเนาคัมภีร์ไบเบิลสมัยโบราณ มีคำว่า ยะโฮวา ซึ่งเป็นชื่อของพระเจ้าอยู่หลายพันครั้ง ต่อมาในฉบับแปลหลายฉบับ ชื่อนี้ถูกแทนที่ด้วยตำแหน่งต่าง ๆ เช่น องค์พระผู้เป็นเจ้าหรือพระเจ้า แต่พระเจ้าเที่ยงแท้เคยบอกโมเสสว่าชื่อของพระองค์คือ ยะโฮวา และบอกว่า “นี่คือชื่อของเราตลอดไป” (อพยพ 3:15) ชื่อนี้ทำให้พระองค์ต่างจากพระเท็จทั้งหมด เราภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนชื่อที่บริสุทธิ์ของพระองค์
ชื่อนี้บอกว่าเราทำงานอะไร ตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา ตั้งแต่สมัยของอาเบลผู้ซื่อสัตย์ มีคนมากมายเป็นพยานยืนยันความเชื่อในพระยะโฮวา เช่น โนอาห์ อับราฮัม ซาราห์ โมเสส และดาวิด พวกเขาอยู่ในกลุ่ม “พยานมากมายเหมือนเมฆก้อนใหญ่” (ฮีบรู 11:4-12:1) เช่นเดียวกับพยานที่ให้การในศาลเพื่อปกป้องผู้บริสุทธิ์ เราก็ตั้งใจที่จะบอกความจริงเรื่องพระเจ้าให้คนอื่นรู้
เราเลียนแบบพระเยซู คัมภีร์ไบเบิลเรียกพระเยซูว่า “พยานที่ซื่อสัตย์และพูดความจริงเสมอ” (วิวรณ์ 3:14) พระเยซูบอกว่าท่าน ‘ทำให้ผู้คนรู้จักชื่อของพระเจ้า’ และ “เป็นพยานยืนยันความจริง” เรื่องพระเจ้าเสมอ (ยอห์น 17:26; 18:37) ดังนั้น คนที่เป็นสาวกแท้ของพระเยซูคริสต์ก็ต้องเป็นตัวแทนของพระยะโฮวาและทำให้ผู้คนรู้จักชื่อของพระเจ้าด้วย นี่คือสิ่งที่พยานพระยะโฮวากำลังทำอยู่
ทำไมนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเปลี่ยนมาใช้ชื่อพยานพระยะโฮวา?
พระยะโฮวามีพยานของพระองค์อยู่บนโลกมานานเท่าไรแล้ว?
ใครคือพยานคนสำคัญที่สุดของพระยะโฮวา?
-
-
มีการค้นพบความจริงในคัมภีร์ไบเบิลอีกครั้งอย่างไร?ใครทำตามความประสงค์ของพระยะโฮวาในทุกวันนี้?
-
-
บทเรียน 3
มีการค้นพบความจริงในคัมภีร์ไบเบิลอีกครั้งอย่างไร?
กลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลในทศวรรษ 1870
หอสังเกตการณ์ ฉบับแรก ปี 1879
หอสังเกตการณ์ ในปัจจุบัน
คัมภีร์ไบเบิลบอกล่วงหน้าว่า หลังจากพระคริสต์เสียชีวิตแล้ว จะมีผู้สอนเท็จเกิดขึ้นในกลุ่มคริสเตียนยุคแรก และพวกเขาจะบิดเบือนคำสอนที่เป็นความจริงในคัมภีร์ไบเบิล (กิจการ 20:29, 30) สิ่งที่บอกไว้ล่วงหน้าเป็นจริงในเวลาต่อมา เมื่อพวกผู้สอนเท็จเอาคำสอนของพระเยซูไปปะปนกับความเชื่อของศาสนานอกรีต แล้วก็เกิดศาสนาคริสเตียนปลอมขึ้น (2 ทิโมธี 4:3, 4) เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าทุกวันนี้เราเข้าใจสิ่งที่คัมภีร์ไบเบิลสอนอย่างถูกต้องจริง ๆ?
ถึงเวลาที่พระยะโฮวาเปิดเผยความจริง พระเจ้าบอกล่วงหน้าว่าเมื่อถึง ‘สมัยสุดท้าย ความรู้แท้จะมีอย่างมากมาย’ (ดาเนียล 12:4) ในปี 1870 คนกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่งที่เสาะหาความจริงเริ่มมองเห็นว่าคำสอนหลายเรื่องที่สอนกันในโบสถ์ไม่ได้มาจากพระคัมภีร์ พวกเขาจึงเริ่มศึกษาค้นคว้าเพื่อจะเข้าใจคำสอนดั้งเดิมของคัมภีร์ไบเบิล และพระยะโฮวาก็ช่วยพวกเขาให้เข้าใจคำสอนของพระองค์
กลุ่มคนที่จริงใจศึกษาคัมภีร์ไบเบิลอย่างละเอียด กลุ่มคนที่ศึกษาค้นคว้าอย่างกระตือรือร้นนี้เรียกว่านักศึกษาคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งเป็นชื่อเรียกพยานพระยะโฮวาในสมัยนั้น พวกเขาใช้วิธีศึกษาแบบที่เราก็ยังใช้อยู่ในทุกวันนี้ พวกเขาพิจารณาคัมภีร์ไบเบิลด้วยกันทีละเรื่อง และเมื่อเจอข้อคัมภีร์ที่เข้าใจยาก พวกเขาจะค้นดูข้อคัมภีร์อื่น ๆ ที่ช่วยอธิบายข้อนั้น เมื่อได้ข้อสรุปที่สอดคล้องกับส่วนอื่น ๆ ของพระคัมภีร์แล้ว พวกเขาก็จดบันทึกเอาไว้ นี่เป็นวิธีศึกษาโดยให้พระคัมภีร์อธิบายตัวเอง ซึ่งทำให้พวกเขาค้นพบความจริงอีกครั้ง ทั้งในเรื่องชื่อของพระเจ้า รัฐบาลของพระองค์ ความประสงค์ของพระองค์ต่อมนุษย์และโลก สภาพของคนตาย และความหวังเรื่องการฟื้นขึ้นจากตาย การค้นคว้านี้ทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากความเชื่อและธรรมเนียมประเพณีหลายอย่างที่ไม่ถูกต้อง—ยอห์น 8:31, 32
พอถึงปี 1879 กลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลก็เข้าใจว่าถึงเวลาแล้วที่จะประกาศความจริงให้คนทั่วไปได้รู้ พวกเขาจึงเริ่มพิมพ์วารสารหอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา ฉบับแรกในปีนั้น และวารสารนี้ก็ยังพิมพ์อยู่จนถึงทุกวันนี้ ตอนนี้พยานพระยะโฮวากำลังบอกความจริงในคัมภีร์ไบเบิลกับผู้คนใน 240 ดินแดนและมากกว่า 750 ภาษา ความรู้แท้จึงมีมากมายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน!
หลังจากพระคริสต์เสียชีวิต เกิดอะไรขึ้นกับความจริงในคัมภีร์ไบเบิล?
มีการค้นพบความจริงในคัมภีร์ไบเบิลอีกครั้งอย่างไร?
-
-
ทำไมเราต้องแปลคัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลโลกใหม่?ใครทำตามความประสงค์ของพระยะโฮวาในทุกวันนี้?
-
-
บทเรียน 4
ทำไมเราต้องแปลคัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลโลกใหม่?
คองโก (กินชาซา)
รวันดา
ชิ้นส่วนของพระคัมภีร์ฉบับซิมมาคุสซึ่งมีชื่อพระเจ้าในสดุดี 69:31 จากคริสต์ศตวรรษที่สามหรือสี่
พยานพระยะโฮวาเคยใช้คัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลต่าง ๆ หลายฉบับ และเราเคยพิมพ์ฉบับแปลเหล่านั้นแจกจ่ายให้คนทั่วไปมาหลายสิบปี แต่ต่อมาเราเห็นว่าจำเป็นต้องแปลคัมภีร์ไบเบิลอีกฉบับหนึ่งเพื่อจะช่วยผู้คนเข้าใจ “ความรู้ที่ถูกต้องเรื่องความจริง” ได้ดีขึ้น เพราะนี่เป็นความประสงค์ของพระเจ้าสำหรับมนุษย์ทุกคน (1 ทิโมธี 2:3, 4) ดังนั้น ในปี 1950 เราจึงเริ่มพิมพ์ส่วนต่าง ๆ ของคัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลโลกใหม่ ซึ่งแปลอย่างถูกต้องตามต้นฉบับและใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ฉบับแปลนี้มีในภาษาต่าง ๆ มากกว่า 130 ภาษาแล้ว
ต้องมีคัมภีร์ไบเบิลที่เข้าใจง่าย ภาษาเปลี่ยนไปตามกาลเวลา คัมภีร์ไบเบิลหลายฉบับใช้ภาษาที่คลุมเครือ ล้าสมัย และเข้าใจยาก นอกจากนั้น ไม่นานมานี้มีการค้นพบสำเนาพระคัมภีร์หลายฉบับที่เก่าแก่และใกล้เคียงกับต้นฉบับมากขึ้น และสำเนาเหล่านี้ก็ช่วยให้เข้าใจภาษาฮีบรู ภาษาอาราเมอิก และภาษากรีกในคัมภีร์ไบเบิลได้ดียิ่งขึ้น
ต้องมีฉบับแปลที่ถ่ายทอดคำสอนของพระเจ้าอย่างถูกต้อง ที่จริง ผู้แปลคัมภีร์ไบเบิลต้องแปลข้อความที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้าอย่างถูกต้องตามต้นฉบับ ไม่ใช่แปลตามใจชอบ แต่ฉบับแปลส่วนใหญ่กลับไม่ใส่ชื่อพระยะโฮวาซึ่งเป็นชื่อของพระเจ้าไว้ในพระคัมภีร์บริสุทธิ์
ต้องมีคัมภีร์ไบเบิลที่ให้เกียรติผู้แต่ง (2 ซามูเอล 23:2) คัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลโลกใหม่ ใส่ชื่อพระยะโฮวาไว้ในตำแหน่งเดิมตามต้นฉบับทุกครั้ง ซึ่งในสำเนาคัมภีร์ไบเบิลที่เก่าแก่ที่สุดมีชื่อนี้ประมาณ 7,000 ครั้งตามตัวอย่างในภาพข้างล่าง (สดุดี 83:18) เนื่องจากผ่านการค้นคว้าอย่างถี่ถ้วนมานานหลายปี คัมภีร์ไบเบิลฉบับนี้จึงอ่านง่ายและถ่ายทอดความคิดของพระเจ้าอย่างชัดเจน ไม่ว่าฉบับแปลโลกใหม่ จะมีในภาษาของคุณหรือไม่ เราขอสนับสนุนคุณให้อ่านคำของพระยะโฮวาเป็นประจำทุกวัน—โยชูวา 1:8; สดุดี 1:2, 3
ทำไมเราต้องแปลคัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลโลกใหม่?
คนที่อยากเข้าใจความประสงค์ของพระเจ้าควรทำอะไรทุกวัน?
-