ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • เธอเสี่ยงชีวิตปกป้องประชาชนของพระเจ้า
    จงเลียนแบบความเชื่อของเขา
    • เอศเธระ

      บท​สิบ​ห้า

      เธอ​เสี่ยง​ชีวิต​ปก​ป้อง​ประชาชน​ของ​พระเจ้า

      1-3. (ก) ทำไม​เอศเธระ​อาจ​รู้สึก​กลัว​ขณะ​ที่​เดิน​ไป​ใกล้​ท้อง​พระ​โรง? (ข) เรา​จะ​พิจารณา​คำ​ถาม​อะไร​เกี่ยว​กับ​เอศเธระ?

      เอศเธระ​พยายาม​ทำ​ใจ​ให้​สงบ​ขณะ​เดิน​ไป​เข้า​เฝ้า​กษัตริย์​ที่​พระ​ราชวัง​ใน​กรุง​ชูชาน. นี่​ไม่​ใช่​เรื่อง​ง่าย​สำหรับ​เธอ. ทุก​สิ่ง​ใน​ราชวัง​ล้วน​ถูก​ออก​แบบ​ขึ้น​เพื่อ​ทำ​ให้​รู้สึก​ครั่นคร้าม ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ภาพ​โค​ตัว​ผู้​มี​ปีก​ที่​สลัก​นูน​บน​ผนัง ภาพ​เหล่า​พล​ธนู​และ​สิงโต​ซึ่ง​ตกแต่ง​ด้วย​อิฐ​เคลือบ​หลาก​สี และ​เสา​หิน​ที่​แกะ​เป็น​ลาย​เส้น​และ​รูป​ปั้น​ขนาด​มหึมา. นอก​จาก​นั้น พระ​ราชวัง​นี้​ตั้ง​อยู่​บน​พื้น​ที่​สูง​ใกล้​เทือก​เขา​ซากรอส​ที่​มี​หิมะ​ปก​คลุม​และ​สามารถ​มอง​เห็น​แม่น้ำ​โชอัสเพส​ได้. ทุก​ราย​ละเอียด​ใน​พระ​ราชวัง​นี้​ล้วน​ทำ​ให้​ผู้​มา​เยือน​ตระหนัก​ถึง​อำนาจ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​บุรุษ​ที่​เอศเธระ​กำลัง​จะ​ไป​พบ ผู้​ที่​เรียก​ตัว​เอง​ว่า “จอม​ราชัน” ซึ่ง​ก็​คือ​สามี​เธอ.

      2 สามี​หรือ? คง​ไม่​มี​หญิง​สาว​ชาว​ยิว​ที่​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​คน​ใด​อยาก​แต่งงาน​กับ​คน​อย่าง​กษัตริย์​อะหัศวะโรศ.a เขา​ไม่​ได้​เป็น​เหมือน​อับราฮาม​ผู้​ถ่อม​ใจ​ซึ่ง​ยอม​ฟัง​ซาราห์​ตาม​การ​ชี้​นำ​ของ​พระเจ้า. (เย. 21:12) กษัตริย์​องค์​นี้​ไม่​รู้​อะไร​เลย​เรื่อง​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​เอศเธระ​และ​กฎหมาย​ของ​พระองค์. แต่​อะหัศวะโรศ​รู้​กฎหมาย​ของ​เปอร์เซีย​เป็น​อย่าง​ดี​ซึ่ง​ห้าม​สิ่ง​ที่​เอศเธระ​กำลัง​จะ​ทำ. เธอ​จะ​ทำ​อะไร​หรือ? กฎหมาย​นั้น​บัญญัติ​ว่า​ใคร​ก็​ตาม​ที่​เข้า​เฝ้า​กษัตริย์​เปอร์เซีย​โดย​ไม่​มี​รับสั่ง​อาจ​มี​โทษ​ถึง​ตาย. เอศเธระ​ไม่​ได้​ถูก​เรียก​ให้​เข้า​เฝ้า​กษัตริย์ แต่​เธอ​ต้อง​เข้า​เฝ้า​ให้​ได้. ขณะ​ที่​เดิน​ไป​ใกล้​ท้อง​พระ​โรง​ซึ่ง​เป็น​จุด​ที่​กษัตริย์​อาจ​มอง​เห็น​ได้​จาก​บัลลังก์ เอศเธระ​คง​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​กำลัง​เดิน​ไป​สู่​ความ​ตาย.—อ่าน​เอศเธระ 4:11; 5:1

      3 ทำไม​เธอ​ต้อง​เสี่ยง​ชีวิต​เช่น​นั้น? และ​เรา​จะ​เรียน​อะไร​ได้​จาก​ความ​เชื่อ​ของ​หญิง​สาว​ผู้​โดด​เด่น​คน​นี้? ก่อน​อื่น ให้​เรา​ดู​ว่า​หญิง​สามัญ​ชน​อย่าง​เอศเธระ​กลาย​เป็น​ราชินี​ผู้​สูง​ศักดิ์​แห่ง​เปอร์เซีย​ได้​อย่าง​ไร.

      ภูมิหลัง​ของ​เอศเธระ

      4. เอศเธระ​มี​ภูมิหลัง​เช่น​ไร และ​เธอ​มา​อยู่​กับ​มาระดะคาย​ได้​อย่าง​ไร?

      4 เอศเธระ​เป็น​เด็ก​กำพร้า. เรา​แทบ​ไม่​รู้​อะไร​เลย​เกี่ยว​กับ​พ่อ​แม่​ของ​เธอ​ซึ่ง​ตั้ง​ชื่อ​ให้​เธอ​ว่า​ฮะดัดซา. ชื่อ​นี้​ใน​ภาษา​ฮีบรู​หมาย​ถึง “ต้น​เมอร์เทิล” ซึ่ง​เป็น​ไม้​พุ่ม​มี​ดอก​สี​ขาว​น่า​รัก. หลัง​จาก​พ่อ​แม่​ของ​เอศเธระ​เสีย​ชีวิต มาระดะคาย​ญาติ​ผู้​ใจ​ดี​ได้​รับ​หนู​น้อย​กำพร้า​คน​นี้​มา​เลี้ยง. มาระดะคาย​เป็น​ลูก​พี่​ลูก​น้อง​ของ​เอศเธระ​แต่​อายุ​แก่​กว่า​มาก. เขา​รับ​เธอ​มา​อยู่​ที่​บ้าน​และ​เลี้ยง​เหมือน​ลูก​ของ​ตน​เอง.—เอศ. 2:5-7, 15

      เอศเธระดูแลมาระดะคายอย่างดี

      มาระดะคาย​คง​ต้อง​ภูมิ​ใจ​ใน​ตัว​ลูก​บุญธรรม​มาก

      5, 6. (ก) มาระดะคาย​เลี้ยง​ดู​เอศเธระ​อย่าง​ไร? (ข) เอศเธระ​กับ​มาระดะคาย​มี​ความ​เป็น​อยู่​อย่าง​ไร​ใน​กรุง​ชูชาน?

      5 มาระดะคาย​และ​เอศเธระ​อาศัย​อยู่​ใน​เมือง​หลวง​ของ​เปอร์เซีย​ใน​ฐานะ​ชาว​ยิว​ที่​ถูก​เนรเทศ. ศาสนา​และ​กฎหมาย​ที่​พวก​เขา​ยึด​ถือ​คง​ทำ​ให้​ชาว​เปอร์เซีย​ดูถูก​ดูแคลน​พวก​เขา. เอศเธระ​คง​สนิท​กับ​มาระดะคาย​มาก​ขึ้น​เมื่อ​เขา​สอน​เธอ​เกี่ยว​กับ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ผู้​ทรง​เมตตา​กรุณา​ซึ่ง​ช่วยเหลือ​ประชาชน​ของ​พระองค์​หลาย​ครั้ง​แล้ว​และ​จะ​ทำ​เช่น​นั้น​อีก. (เลวี. 26:44, 45) ด้วย​เหตุ​นี้ เอศเธระ​กับ​มาระดะคาย​คง​รัก​และ​ผูก​พัน​กัน​มาก.

      6 มาระดะคาย​อาจ​เป็น​ข้าราชการ​คน​หนึ่ง​ใน​พระ​ราชวัง​ที่​กรุง​ชูชาน. เขา​มัก​นั่ง​อยู่​ที่​ประตู​เมือง​กับ​เหล่า​ข้า​ราชบริพาร​ของ​กษัตริย์. (เอศ. 2:19, 21; 3:3) เรา​ไม่​รู้​ว่า​เอศเธระ​ทำ​อะไร​บ้าง​ช่วง​ที่​เธอ​เติบโต​ขึ้น แต่​เรา​แน่​ใจ​ว่า​เธอ​คง​ดู​แล​พ่อ​บุญธรรม​และ​บ้าน​ของ​เขา​เป็น​อย่าง​ดี. บ้าน​ของ​ทั้ง​สอง​คง​อยู่​ใน​เขต​ของ​คน​ยาก​จน​และ​อยู่​คน​ละ​ฝั่ง​แม่น้ำ​กับ​พระ​ราชวัง. เอศเธระ​คง​ชอบ​ไป​ตลาด​ใน​กรุง​ชูชาน ซึ่ง​พวก​พ่อค้า​มัก​เอา​สินค้า​มา​วาง​ขาย มี​ทั้ง​เครื่อง​เงิน​และ​เครื่อง​ทอง​ต่าง ๆ. เอศเธระ​คง​คิด​ไม่​ถึง​ว่า วัน​หนึ่ง​เธอ​จะ​ได้​ประดับ​ตัว​ด้วย​สิ่ง​ของ​ที่​สวย​งาม​และ​หรูหรา​เช่น​นั้น. เธอ​ไม่​รู้​เลย​ว่า​อนาคต​ของ​ตัว​เอง​จะ​เป็น​เช่น​ไร.

      “รูป​ร่าง​งาม​และ​สะสวย”

      7. เหตุ​ใด​พระ​นาง​วัศธี​ถูก​ถอด​จาก​ตำแหน่ง​ราชินี และ​เกิด​อะไร​ขึ้น​หลัง​จาก​นั้น?

      7 มี​ข่าว​ลือ​ไป​ทั่ว​กรุง​ชูชาน​ว่า​เกิด​เรื่อง​ใหญ่​ขึ้น​ใน​ราชสำนัก. วัน​หนึ่ง กษัตริย์​อะหัศวะโรศ​จัด​งาน​เลี้ยง​ใหญ่​ให้​บรรดา​เจ้านาย​และ​ขุนนาง​ทั้ง​หลาย​โดย​มี​อาหาร​ชั้น​เลิศ​และ​เหล้า​องุ่น​อย่าง​ดี. กษัตริย์​สั่ง​คน​ให้​ไป​ตาม​พระ​นาง​วัศธี​ราชินี​ผู้​เลอ​โฉม​มา​เข้า​เฝ้า ตอน​นั้น​นาง​กำลัง​กิน​เลี้ยง​อยู่​กับ​เหล่า​สตรี. แต่​พระ​นาง​วัศธี​ไม่​ยอม​เสด็จ​มา. กษัตริย์​ทรง​อับอาย​และ​กริ้ว​มาก​จึง​ถาม​เหล่า​ที่​ปรึกษา​ว่า​ควร​ลง​โทษ​พระ​นาง​วัศธี​อย่าง​ไร. ผล​คือ นาง​ถูก​ถอด​จาก​ตำแหน่ง​ราชินี. จาก​นั้น มี​การ​ส่ง​ข้าราชสำนัก​หลาย​คน​ออก​ไป​ทั่ว​อาณาจักร​เพื่อ​เสาะ​หา​สาว​พรหมจารี​ที่​มี​รูป​ร่าง​หน้า​ตา​สวย​งาม​ให้​มา​เป็น​ราชินี​องค์​ใหม่.—เอศ. 1:1–2:4

      8. (ก) ทำไม​มาระดะคาย​อด​ห่วง​ไม่​ได้​เมื่อ​เห็น​เอศเธระ​เติบโต​ขึ้น? (ข) เรา​จะ​ใช้​คำ​แนะ​นำ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ให้​มี​ทัศนะ​ที่​สมดุล​ใน​เรื่อง​ความ​สวย​งาม​อย่าง​ไร? (ดู​สุภาษิต 31:30 ด้วย)

      8 เรา​อาจ​เห็น​ภาพ​มาระดะคาย​มอง​เอศเธระ​ด้วย​ความ​เอ็นดู. เขา​คง​รู้สึก​ภูมิ​ใจ​ที่​เห็น​เอศเธระ​เติบโต​ขึ้น​เป็น​หญิง​สาว​ที่​งดงาม​ยิ่ง กระนั้น​ก็​อด​ห่วง​ไม่​ได้. คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า เธอ “รูป​ร่าง​งาม​และ​สะสวย.” (เอศ. 2:7) คัมภีร์​ไบเบิล​ช่วย​เรา​ให้​มี​ทัศนะ​ที่​สมดุล​ใน​เรื่อง​ความ​สวย​งาม แม้​รูป​ร่าง​หน้า​ตา​ที่​สะสวย​เป็น​สิ่ง​ที่​ใคร ๆ ชื่นชม แต่​ต้อง​มี​สติ​ปัญญา​และ​ความ​ถ่อม​ด้วย. มิ​ฉะนั้น ความ​สวย​จะ​ไม่​มี​ค่า​อะไร​เลย แถม​ยัง​ทำ​ให้​คน​นั้น​กลาย​เป็น​คน​หยิ่ง​และ​มี​นิสัย​ที่​น่า​รังเกียจ. (อ่าน​สุภาษิต 11:22 ) คุณ​เห็น​ด้วย​กับ​เรื่อง​นี้​ไหม? กระนั้น ความ​สวย​งาม​ของ​เอศเธระ​จะ​เป็น​คุณ​หรือ​โทษ? เวลา​เท่า​นั้น​ที่​บอก​ได้.

      9. (ก) เกิด​อะไร​ขึ้น​เมื่อ​คน​ของ​กษัตริย์​สังเกต​เห็น​เอศเธระ และ​ทำไม​เธอ​รู้สึก​เศร้า​เสียใจ​มาก​เมื่อ​ถูก​แยก​จาก​มาระดะคาย? (ข) ทำไม​มาระดะคาย​ยอม​ให้​เอศเธระ​แต่งงาน​กับ​คน​ต่าง​ชาติ​ที่​ไม่​นมัสการ​พระเจ้า? (ดู​กรอบ​ด้วย)

      9 คน​ของ​กษัตริย์​สังเกต​เห็น​เอศเธระ. เธอ​กับ​สาว​งาม​คน​อื่น ๆ ถูก​นำ​ตัว​ไป​ที่​พระ​ราชวัง​ซึ่ง​อยู่​อีก​ฝั่ง​หนึ่ง​ของ​แม่น้ำ ทำ​ให้​เธอ​กับ​มาระดะคาย​พัด​พราก​จาก​กัน. (เอศ. 2:8) ทั้ง​สอง​คง​รู้สึก​เศร้า​เสียใจ​มาก เพราะ​พวก​เขา​รัก​และ​ผูก​พัน​กัน​เหมือน​พ่อ​ลูก​จริง ๆ. มาระดะคาย​คง​ไม่​อยาก​ให้​ลูก​บุญธรรม​แต่งงาน​กับ​คน​ที่​ไม่​นมัสการ​พระเจ้า ถึง​จะ​เป็น​กษัตริย์​ก็​ตาม แต่​เขา​ก็​ทำ​อะไร​ไม่​ได้.b เมื่อ​มาระดะคาย​สั่ง​สอน​เธอ​เป็น​ครั้ง​สุด​ท้าย​ก่อน​จะ​จาก​กัน เอศเธระ​คง​ตั้งใจ​ฟัง​ทุก​ถ้อย​คำ. ขณะ​ถูก​นำ​ตัว​ไป​ที่​พระ​ราชวัง​ชูชาน ใน​ใจ​เธอ​คง​มี​คำ​ถาม​มาก​มาย. จาก​นี้​ไป​ชีวิต​เธอ​จะ​เป็น​อย่าง​ไร?

      ‘ทุก​คน​ที่​เห็น​เธอ’ ชื่น​ชอบ​เธอ

      10, 11. (ก) สภาพ​แวด​ล้อม​ใหม่​อาจ​มี​ผล​ต่อ​เอศเธระ​อย่าง​ไร? (ข) มาระดะคาย​ทำ​อะไร​ที่​แสดง​ว่า​เขา​เป็น​ห่วง​เอศเธระ?

      10 ชีวิต​ของ​เอศเธระ​เปลี่ยน​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง. เธอ​เป็น​หนึ่ง​ใน​หมู่ “หญิง​สาว​เป็น​อัน​มาก” ที่​ถูก​เลือก​มา​จาก​ทั่ว​จักรวรรดิ​เปอร์เซีย. ธรรมเนียม ภาษา และ​ความ​คิด​ของ​หญิง​สาว​เหล่า​นี้​แตกต่าง​กัน​มาก. พวก​เธอ​อยู่​ใน​การ​ดู​แล​ของ​เจ้า​พนักงาน​ชื่อ​เฮฆาย​เป็น​เวลา 1 ปี. เขา​มี​หน้า​ที่​ทำ​ให้​หญิง​สาว​เหล่า​นี้​ดู​ดี​และ​สวย​งาม​ที่​สุด โดย​ประทิน​ผิว​และ​นวด​ตัว​พวก​เธอ​ด้วย​น้ำมัน​หอม. (เอศ. 2:8, 12) เมื่อ​ต้อง​อยู่​ใน​สภาพ​แวด​ล้อม​เช่น​นั้น​คง​ง่าย​ที่​หญิง​สาว​เหล่า​นี้​จะ​เริ่ม​สนใจ​แต่​เรื่อง​ความ​สวย​ความ​งาม​ที่​ไร้​แก่น​สาร​และ​แข่งขัน​ชิง​ดี​กัน. เอศเธระ​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น​ไหม?

      11 มาระดะคาย​เป็น​ห่วง​เอศเธระ​มาก. คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า เขา​จะ​พยายาม​เข้า​ไป​ใกล้​ตึก​ของ​ผู้​หญิง​เหล่า​นี้​ทุก​วัน​เพื่อ​ถาม​ข่าว​คราว​ของ​เอศเธระ. (เอศ. 2:11) มาระดะคาย​คง​มี​ความ​สุข​และ​ภูมิ​ใจ​ใน​ตัว​ลูก​สาว​คน​นี้​มาก​เมื่อ​ได้​ยิน​ข่าว​ของ​เธอ​จาก​คน​รับใช้​ใน​ตึก. เพราะ​เหตุ​ใด?

      12, 13. (ก) หลาย​คน​รู้สึก​อย่าง​ไร​ต่อ​เอศเธระ? (ข) ทำไม​มาระดะคาย​คง​ดีใจ​มาก​ที่​รู้​ว่า​เอศเธระ​ไม่​ได้​บอก​คน​อื่น​ว่า​เธอ​เป็น​ลูก​หลาน​ชาว​ยิว?

      12 เอศเธระ​เป็น​ที่​โปรดปราน​ของ​เฮฆาย เขา​ช่วยเหลือ​และ​ดู​แล​เธอ​อย่าง​ดี. เฮฆาย​ให้​สาว​ใช้ 7 คน​คอย​ปรนนิบัติ​เธอ​และ​ให้​เธอ​อยู่​ใน​ห้อง​พัก​ที่​ดี​ที่​สุด. บันทึก​ใน​พระ​คัมภีร์​กล่าว​ว่า ‘ทุก​คน​ที่​เห็น​เอศเธระ​ก็​ชื่น​ชอบ​เธอ.’ (เอศ. 2:9, 15, ฉบับ​อมตธรรม​ร่วม​สมัย ) เธอ​ชนะ​ใจ​ทุก​คน​เพราะ​ความ​สวย​เท่า​นั้น​ไหม? ไม่ เอศเธระ​มี​สิ่ง​อื่น​ที่​มี​ค่า​ยิ่ง​กว่า​ความ​สวย. นั่น​คือ​อะไร?

      เอศเธระชื่นชมกับธรรมชาติ ขณะที่สาว ๆ คนอื่นสนใจแต่เรื่องความสวยความงาม

      เอศเธระ​รู้​ว่า​ความ​ถ่อม​และ​สติ​ปัญญา​มี​ค่า​ยิ่ง​กว่า​รูป​ร่าง​หน้า​ตา​ที่​งดงาม

      13 พระ​คัมภีร์​บอก​ว่า “เอศเธระ​นั้น​ยัง​ไม่​ได้​บอก​ว่า​พี่​น้อง​และ​วงศ์​ญาติ​ของ​ตน​เป็น​ผู้​ใด: ด้วย​ว่า​มาระดะคาย​ได้​ห้าม​ไม่​ให้​บอก​แก่​ผู้​ใด​ให้​รู้​ความ​นั้น.” (เอศ. 2:10) มาระดะคาย​สั่ง​เธอ​ไม่​ให้​บอก​คน​อื่น​ว่า​เธอ​เป็น​ลูก​หลาน​ชาว​ยิว. เขา​คง​รู้​ว่า​พวก​ขุนนาง​ชาว​เปอร์เซีย​มี​อคติ​ต่อ​ชาว​ยิว​อย่าง​มาก. มาระดะคาย​คง​ดีใจ​สัก​เพียง​ไร​ที่​รู้​ว่า​เอศเธระ​ยัง​สุขุม​รอบคอบ​และ​เชื่อ​ฟัง​เขา​แม้​จะ​อยู่​ไกล​หู​ไกล​ตา​เช่น​นี้.

      14. หนุ่ม​สาว​ใน​ทุก​วัน​นี้​จะ​เลียน​แบบ​เอศเธระ​ได้​อย่าง​ไร?

      14 คล้าย​กัน หนุ่ม​สาว​ใน​ทุก​วัน​นี้​ก็​ทำ​ให้​พ่อ​แม่​หรือ​ผู้​ที่​เลี้ยง​ดู​เขา​ชื่น​ใจ​ยินดี​ได้. แม้​อยู่​ไกล​สายตา​พ่อ​แม่​หรือ​อยู่​กับ​คน​ที่​สนใจ​แต่​เรื่อง​ไร้​สาระ ไม่​มี​ศีลธรรม หรือ​ชั่ว​ช้า​เลว​ทราม พวก​เขา​ก็​ทำ​ให้​พระ​บิดา​ผู้​อยู่​ใน​สวรรค์​มี​พระทัย​ยินดี​ได้​โดย​ต้านทาน​อิทธิพล​ที่​ไม่​ดี​และ​ยึด​มั่น​กับ​มาตรฐาน​ของ​พระเจ้า​เช่น​เดียว​กับ​เอศเธระ.—อ่าน​สุภาษิต 27:11

      15, 16. (ก) เอศเธระ​ชนะ​ใจ​กษัตริย์​โดย​วิธี​ใด? (ข) ทำไม​เอศเธระ​อาจ​รู้สึก​ยาก​ที่​ต้อง​ปรับ​ตัว​ให้​เข้า​กับ​การ​เปลี่ยน​แปลง​ครั้ง​ใหญ่?

      15 เมื่อ​ถึง​เวลา​ที่​เอศเธระ​ต้อง​เข้า​เฝ้า​กษัตริย์ เธอ​สามารถ​เลือก​ใส่​อะไร​ก็​ได้​ที่​จะ​ทำ​ให้​เธอ​ดู​สวย​ขึ้น. แต่​เอศเธระ​แสดง​ความ​ถ่อม เธอ​ไม่​ได้​ขอ​สิ่ง​ใด​เพิ่ม​เติม​นอก​จาก​สิ่ง​ที่​เฮฆาย​แนะ​นำ. (เอศ. 2:15) เธอ​คง​รู้​ว่า​ความ​สวย​เพียง​อย่าง​เดียว​ไม่​อาจ​ชนะ​ใจ​กษัตริย์​ได้ แต่​ความ​อ่อนน้อม​ถ่อม​ตน​ต่าง​หาก​ที่​มี​คุณค่า​และ​หา​ได้​ยาก​ยิ่ง​ใน​ราชสำนัก​แห่ง​นี้. เธอ​คิด​ถูก​ไหม?

      16 บันทึก​ใน​พระ​คัมภีร์​บอก​ว่า “ฝ่าย​กษัตริย์​ได้​รัก​นาง​เอศเธระ​มาก​กว่า​หญิง​ทั้ง​ปวง, และ​นาง​เอศเธระ​นั้น​ได้​รับ​ความ​ชอบ​และ​ความ​โปรดปราน​ใน​พระ​เนตร​ของ​กษัตริย์​มาก​ยิ่ง​กว่า​หญิง​พรหมจารี​ทั้ง​หลาย​เหล่า​นั้น; และ​กษัตริย์​จึง​เอา​ราชมงกุฎ​ใส่​ศีรษะ​นาง​เอศเธระ, และ​ตั้ง​ไว้​เป็น​มเหสี​แทน​พระ​นาง​วัศธี​นั้น.” (เอศ. 2:17) ตอน​นี้​เอศเธระ​คือ​ราชินี​องค์​ใหม่ มเหสี​ของ​กษัตริย์​ผู้​ทรง​อำนาจ​ที่​สุด​ใน​สมัย​นั้น. สาว​ยิว​ผู้​ถ่อม​ตน​คน​นี้​คง​รู้สึก​ยาก​มาก​ที่​ต้อง​ปรับ​ตัว​ให้​เข้า​กับ​การ​เปลี่ยน​แปลง​ครั้ง​ใหญ่​นี้. ตำแหน่ง​ใหม่​นี้​จะ​ทำ​ให้​เธอ​เป็น​คน​หยิ่ง​ไหม? ไม่​เลย!

      17. (ก) เอศเธระ​แสดง​อย่าง​ไร​ว่า​เธอ​ยัง​คง​เชื่อ​ฟัง​คำ​สั่ง​ของ​พ่อ​บุญธรรม? (ข) เหตุ​ใด​จึง​สำคัญ​มาก​ที่​เรา​จะ​ทำ​ตาม​แบบ​อย่าง​ของ​เอศเธระ?

      17 เอศเธระ​ยัง​เชื่อ​ฟัง​คำ​สั่ง​ของ​มาระดะคาย​พ่อ​บุญธรรม​เสมอ. เธอ​ยัง​ไม่​ได้​บอก​ใคร​ว่า​เป็น​ชาว​ยิว. ไม่​เพียง​เท่า​นั้น เมื่อ​มาระดะคาย​รู้​ว่า​มี​คน​วาง​แผน​ลอบ​ปลง​พระ​ชนม์​กษัตริย์​และ​บอก​ให้​เอศเธระ​ไป​เตือน​พระ​สวามี เธอ​ก็​เชื่อ​ฟัง ทำ​ให้​ผู้​วาง​แผน​เหล่า​นั้น​ถูก​ประหาร. (เอศ. 2:20-23) นอก​จาก​นั้น เธอ​ยัง​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​โดย​เป็น​คน​ถ่อม​และ​เชื่อ​ฟัง​เสมอ. สำหรับ​เรา​ใน​ทุก​วัน​นี้​เป็น​เรื่อง​สำคัญ​มาก​ที่​จะ​ทำ​ตาม​แบบ​อย่าง​ของ​เอศเธระ เพราะ​การ​ไม่​เชื่อ​ฟัง​และ​การ​ขัด​ขืน​กลาย​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา. แต่​คน​ที่​มี​ความ​เชื่อ​แท้​จะ​ถือ​ว่า​การ​เชื่อ​ฟัง​เป็น​สิ่ง​ที่​สำคัญ​มาก​เช่น​เดียว​กับ​เอศเธระ.

      ความ​เชื่อ​ของ​เอศเธระ​ถูก​ทดสอบ

      18. (ก) ทำไม​มาระดะคาย​ไม่​ยอม​ก้ม​หัว​ให้​ฮามาน? (ดู​เชิงอรรถ​ด้วย) (ข) ชาย​หญิง​ที่​ซื่อ​สัตย์​หลาย​คน​ใน​ทุก​วัน​นี้​เลียน​แบบ​มาระดะคาย​อย่าง​ไร?

      18 กษัตริย์​อะหัศวะโรศ​ได้​แต่ง​ตั้ง​ชาย​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ฮามาน​ให้​มี​ตำแหน่ง​สูง​ใน​ราชสำนัก. เขา​ได้​เป็น​หัวหน้า​เหล่า​เสนาบดี เป็น​ที่​ปรึกษา​คน​สำคัญ​และ​มี​อำนาจ​สูง​สุด​ใน​จักรวรรดิ​รอง​จาก​กษัตริย์. กษัตริย์​ถึง​กับ​ออก​กฎหมาย​ว่า​ใคร​ก็​ตาม​ที่​พบ​ฮามาน​ต้อง​โค้ง​คำนับ​เขา. (เอศ. 3:1-4) กฎหมาย​นี้​ทำ​ให้​มาระดะคาย​ลำบาก​ใจ. เขา​เต็ม​ใจ​เชื่อ​ฟัง​กษัตริย์​ทุก​เรื่อง​ถ้า​นั่น​ไม่​ขัด​กับ​พระ​บัญชา​ของ​พระเจ้า. แต่​ฮามาน​เป็น​ชาว​อะฆาฆ. นั่น​หมาย​ความ​ว่า​เขา​คง​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​อะฆาฆ​กษัตริย์​ชาว​อะมาเล็ค​ที่​ถูก​ซามูเอล​ประหาร. (1 ซามู. 15:33) ชาว​อะมาเล็ค​ชั่ว​ช้า​มาก​ถึง​ขนาด​ที่​ตั้ง​ตัว​เป็น​ศัตรู​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​และ​ชาว​อิสราเอล. ดัง​นั้น พระเจ้า​จึง​พิพากษา​ลง​โทษ​ชาว​อะมาเล็ค​ทั้ง​ชาติ​โดย​กำจัด​พวก​เขา​จน​สิ้น​ซาก.c (บัญ. 25:19) ถ้า​อย่าง​นั้น ชาว​ยิว​ผู้​ซื่อ​สัตย์​จะ​โค้ง​คำนับ​ชาว​อะมาเล็ค​คน​นี้​ได้​อย่าง​ไร? มาระดะคาย​ไม่​มี​วัน​ทำ​เช่น​นั้น. เขา​จะ​ไม่​ยอม​ก้ม​หัว​ให้​ฮามาน​เด็ดขาด. ชาย​หญิง​ที่​ซื่อ​สัตย์​หลาย​คน​ใน​ทุก​วัน​นี้​ยอม​เสี่ยง​ชีวิต​เพื่อ​ยึด​มั่น​กับ​หลักการ​ที่​ว่า “พวก​ข้าพเจ้า​ต้อง​เชื่อ​ฟัง​พระเจ้า​ใน​ฐานะ​ผู้​มี​อำนาจ​ปกครอง ไม่​ใช่​เชื่อ​ฟัง​มนุษย์.”—กิจ. 5:29

      19. ฮามาน​ต้องการ​ทำ​อะไร และ​เขา​พูด​ให้​กษัตริย์​คล้อย​ตาม​อย่าง​ไร?

      19 ฮามาน​โกรธ​มาก. แต่​เขา​คิด​ว่า​แค่​ฆ่า​มาระดะคาย​คน​เดียว​ยัง​ไม่​พอ. เขา​ต้องการ​กำจัด​เพื่อน​ร่วม​ชาติ​ของ​มาระดะคาย​ทุก​คน! ฮามาน​ไป​เฝ้า​กษัตริย์​และ​พูด​ใส่​ร้าย​ชาว​ยิว. เขา​ไม่​ได้​บอก​กษัตริย์​ว่า​คน​เหล่า​นี้​เป็น​ชน​ชาติ​ใด แต่​พูด​ทำนอง​ว่า​เป็น​กลุ่ม​คน​ที่​ไม่​มี​ความ​สำคัญ​อะไร​และ “กระจัด​กระจาย​ไป​อยู่​กับ​พลไพร่​ทั้ง​ปวง​ตลอด​ทั่ว​อาณา​เขต​ของ​พระองค์.” ที่​ร้าย​กว่า​นั้น เขา​บอก​ว่า​ชน​กลุ่ม​นี้​ไม่​เชื่อ​ฟัง​กฎหมาย​ของ​กษัตริย์​และ​อาจ​ลุก​ฮือ​ก่อ​กบฏ​ได้. เขา​เสนอ​จะ​ถวาย​เงิน​จำนวน​มาก​ให้​กษัตริย์​ใช้​ใน​การ​ฆ่า​ล้าง​เผ่า​พันธุ์​ชาว​ยิว.d กษัตริย์​อะหัศวะโรศ​จึง​มอบ​แหวน​ตรา​ประจำ​พระองค์​แก่​ฮามาน​ทำ​ให้​เขา​มี​อำนาจ​สิทธิ์​ขาด​ที่​จะ​ออก​คำ​สั่ง​ตาม​ใจ​ชอบ.—เอศ. 3:5-10

      20, 21. (ก) คำ​สั่ง​ของ​ฮามาน​มี​ผล​ต่อ​ชาว​ยิว​ที่​อยู่​ทั่ว​จักรวรรดิ​เปอร์เซีย​รวม​ทั้ง​มาระดะคาย​อย่าง​ไร? (ข) มาระดะคาย​ขอ​ให้​เอศเธระ​ทำ​อะไร?

      20 ไม่​ช้า​ม้า​เร็ว​ก็​นำ​หมาย​ประกาศ​ไป​ให้​ข้าหลวง​ทั่ว​จักรวรรดิ​เปอร์เซีย​อัน​กว้าง​ใหญ่​เพื่อ​แจ้ง​ว่า​ชาว​ยิว​ทั้ง​หมด​ต้อง​ถูก​ประหาร. คิด​ดู​สิ​เมื่อ​ข่าว​นี้​แพร่​ไป​ถึง​กรุง​เยรูซาเลม ผู้​คน​ที่​นั่น​จะ​รู้สึก​อย่าง​ไร. ตอน​นั้น​ชาว​ยิว​ที่​เหลือ​อยู่​ซึ่ง​กลับ​มา​จาก​การ​เป็น​เชลย​ที่​กรุง​บาบิโลน​กำลัง​ช่วย​กัน​บูรณะ​กรุง​เยรูซาเลม​และ​ยัง​ไม่​ทัน​สร้าง​กำแพง​ป้องกัน​เมือง​ด้วย​ซ้ำ. เมื่อ​มาระดะคาย​ได้​ยิน​ข่าว​ที่​น่า​ตกตะลึง​นี้ เขา​คง​นึก​ถึง​ชาว​ยิว​เหล่า​นั้น รวม​ทั้ง​เพื่อน​และ​ญาติ ๆ ใน​เมือง​ชูชาน. เขา​ลุก​ขึ้น​ฉีก​เสื้อ​ผ้า นุ่ง​ห่ม​ผ้า​เนื้อ​หยาบ เอา​ขี้เถ้า​ใส่​หัว แล้ว​ร้อง​คร่ำ​ครวญ​เสียง​ดัง​อยู่​กลาง​กรุง​ชูชาน. ชาว​ยิว​ใน​เมือง​ต่าง ๆ รวม​ทั้ง​ที่​อยู่​ใน​กรุง​ชูชาน​ต่าง​เดือดร้อน​ใจ แต่​ฮามาน​กลับ​นั่ง​ดื่ม​เหล้า​อยู่​กับ​กษัตริย์​โดย​ไม่​รู้สึก​รู้​สา.—อ่าน​เอศเธระ 3:12–4:1

      21 มาระดะคาย​รู้​ว่า​เขา​ต้อง​ทำ​อะไร​สัก​อย่าง. แต่​เขา​จะ​ทำ​อะไร​ได้? เมื่อ​เอศเธระ​รู้​ว่า​มาระดะคาย​กำลัง​ทุกข์​ใจ​มาก เธอ​ส่ง​เสื้อ​ผ้า​ไป​ให้​เขา แต่​เขา​ไม่​รับ. มาระดะคาย​อาจ​ข้อง​ใจ​มา​นาน​แล้ว​ว่า​ทำไม​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​จึง​ยอม​ให้​เอศเธระ​บุตร​สาว​ที่​รัก​ถูก​เอา​ตัว​ไป​เป็น​ราชินี​ของ​กษัตริย์​นอก​รีต. ตอน​นี้​เขา​อาจ​เริ่ม​เข้าใจ​แล้ว. มาระดะคาย​จึง​ฝาก​ข่าว​ไป​ถึง​ราชินี​เอศเธระ ขอ​ให้​พระ​นาง​ไป​เข้า​เฝ้า​และ​ทูล​อ้อน​วอน​กษัตริย์ “เพื่อ​เห็น​แก่​ชน​ชาติ​ของ​พระ​นาง.”—เอศ. 4:4-8, ฉบับ 1971

      22. เหตุ​ใด​เอศเธระ​อาจ​กลัว​ที่​จะ​เข้า​เฝ้า​กษัตริย์​ผู้​เป็น​สามี​เธอ? (ดู​เชิงอรรถ​ด้วย)

      22 เมื่อ​ทราบ​ข่าว เอศเธระ​คง​เป็น​ทุกข์​ยิ่ง​นัก. ความ​เชื่อ​ของ​เธอ​กำลัง​ถูก​ทดสอบ. เมื่อ​ดู​จาก​ถ้อย​คำ​ที่​เธอ​ฝาก​ไป​บอก​มาระดะคาย เรา​รู้​ว่า​เธอ​กลัว. เธอ​เตือน​เขา​ให้​นึก​ถึง​กฎหมาย​ของ​กษัตริย์​ที่​ว่า ถ้า​ผู้​ใด​เข้า​เฝ้า​กษัตริย์​โดย​ไม่​มี​รับสั่ง ผู้​นั้น​ต้อง​ตาย​สถาน​เดียว​เว้น​แต่​กษัตริย์​จะ​ยื่น​คทา​ทองคำ​ให้. เอศเธระ​อาจ​คิด​ว่า​เธอ​คง​ไม่​ได้​รับ​ความ​เมตตา​จาก​กษัตริย์ เมื่อ​นึก​ถึง​เหตุ​การณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​กับ​พระ​นาง​วัศธี​ตอน​ที่​เธอ​ไม่​ยอม​ไป​เข้า​เฝ้า​กษัตริย์​ตาม​รับสั่ง. เอศเธระ​บอก​มาระดะคาย​ว่า​กษัตริย์​ไม่​ได้​รับสั่ง​ให้​เธอ​เข้า​เฝ้า​มา 30 วัน​แล้ว. เนื่อง​จาก​ไม่​ได้​เข้า​เฝ้า​นาน​ขนาด​นั้น เอศเธระ​คง​สงสัย​ว่า​กษัตริย์​ที่​เอา​ใจ​ยาก​ผู้​นี้​ยัง​โปรดปราน​เธอ​อยู่​หรือ​ไม่.e—เอศ. 4:9-11

      23. (ก) มาระดะคาย​ช่วย​เอศเธระ​ให้​มี​ความ​เชื่อ​มั่น​ใน​พระเจ้า​อย่าง​ไร? (ข) ทำไม​เรา​ควร​เลียน​แบบ​มาระดะคาย?

      23 มาระดะคาย​ตอบ​อย่าง​หนักแน่น​เพื่อ​ช่วย​เอศเธระ​ให้​มี​ความ​เชื่อ​มั่น​ใน​พระเจ้า. เขา​บอก​ว่า​ถ้า​เธอ​ไม่​ลง​มือ​ทำ​อะไร พระเจ้า​จะ​ช่วย​ชาว​ยิว​ด้วย​วิธี​อื่น. แต่​เธอ​จะ​แน่​ใจ​ได้​หรือ​ว่า​เธอ​เอง​จะ​รอด​พ้น​จาก​น้ำ​มือ​ของ​ศัตรู​ถ้า​การ​ข่มเหง​เริ่ม​ขึ้น. คำ​พูด​ของ​มาระดะคาย​แสดง​ว่า​เขา​มี​ความ​เชื่อ​มั่น​ใน​พระ​ยะโฮวา. เขา​เชื่อ​ว่า​พระองค์​จะ​ไม่​ปล่อย​ให้​ประชาชน​ของ​พระองค์​ถูก​กวาด​ล้าง​และ​จะ​ทำ​ให้​คำ​สัญญา​ทุก​อย่าง​สำเร็จ​เป็น​จริง. (ยโฮ. 23:14) มาระดะคาย​ถาม​เอศเธระ​ว่า “บาง​ที​ที่​เจ้า​มา​รับ​ตำแหน่ง​ราชินี​ก็​เพื่อ​ยาม​คับขัน​นี้​ก็​เป็น​ได้​ใคร​จะ​รู้?” (เอศ. 4:12-14, ฉบับ​อมตธรรม​ร่วม​สมัย ) เรา​น่า​จะ​เลียน​แบบ​มาระดะคาย​มิ​ใช่​หรือ? เขา​วางใจ​ใน​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​อย่าง​เต็ม​เปี่ยม. แล้ว​เรา​ล่ะ?—สุภา. 3:5, 6

      ความ​เชื่อ​ที่​เข้มแข็ง​ทำ​ให้​เธอ​ไม่​กลัว​ตาย

      24. เอศเธระ​แสดง​ความ​เชื่อ​และ​ความ​กล้า​หาญ​อย่าง​ไร?

      24 ถึง​เวลา​ที่​เอศเธระ​ต้อง​ตัดสิน​ใจ. เธอ​สั่ง​คน​ให้​ไป​แจ้ง​มาระดะคาย​ว่า​ให้​ชาว​ยิว​อด​อาหาร​พร้อม​กับ​เธอ​เป็น​เวลา 3 วัน. นอก​จาก​นั้น เธอ​ยัง​ฝาก​บอก​มาระดะคาย​ด้วย​ว่า “ถึง​เรา​จะ​ต้อง​ตาย​ก็​ตาย​เถิด” นี่​แสดง​ว่า​เธอ​มี​ความ​เชื่อ​และ​กล้า​หาญ​มาก. ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​ทุก​คน​ต้อง​มี​คุณลักษณะ 2 อย่าง​นี้. (เอศ. 4:15-17) ตลอด 3 วัน​นั้น​เธอ​คง​อธิษฐาน​อย่าง​แรง​กล้า​ยิ่ง​กว่า​ที่​เคย​ทำ​มา​ทั้ง​ชีวิต. ใน​ที่​สุด​ก็​ถึง​เวลา​ที่​ต้อง​เข้า​เฝ้า​กษัตริย์. เอศเธระ​แต่ง​ตัว​ด้วย​เครื่อง​ทรง​ของ​มเหสี​ที่​งาม​ที่​สุด. เธอ​พยายาม​ทำ​ทุก​สิ่ง​เพื่อ​ให้​กษัตริย์​พอ​ใจ. แล้ว​เธอ​ก็​ไป​เข้า​เฝ้า​กษัตริย์.

      เอศเธระเข้าเฝ้ากษัตริย์อะหัศวะโรศด้วยเครื่องแต่งกายเต็มยศ

      เอศเธระ​ยอม​เสี่ยง​ชีวิต​ปก​ป้อง​ประชาชน​ของ​พระเจ้า

      25. จง​พรรณนา​ว่า​เหตุ​การณ์​เป็น​เช่น​ไร​เมื่อ​เอศเธระ​เข้า​เฝ้า​พระ​สวามี.

      25 เอศเธระ​เดิน​ไป​ยัง​ท้อง​พระ​โรง​ที่​กษัตริย์​ประทับ​อยู่ ดัง​ที่​พรรณนา​ใน​ตอน​ต้น. เธอ​คง​วิตก​กังวล​มาก​และ​อธิษฐาน​อยู่​ใน​ใจ​ตลอด​ทาง. ตอน​นี้​เธอ​ยืน​อยู่​ใกล้​ท้อง​พระ​โรง​ตรง​จุด​ที่​กษัตริย์​อะหัศวะโรศ​อาจ​มอง​เห็น​ได้​จาก​บัลลังก์. เธอ​อาจ​พยายาม​อ่าน​ความ​รู้สึก​จาก​สี​หน้า​ของ​กษัตริย์. ถ้า​ต้อง​รอ​ให้​กษัตริย์​มอง​เห็น เธอ​คง​รู้สึก​ว่า​ช่วง​เวลา​นั้น​ช่าง​เนิ่นนาน​เหลือ​เกิน. แต่​ใน​ที่​สุด​พระ​สวามี​ก็​เห็น​เธอ. กษัตริย์​แปลก​ใจ​มาก แต่​ก็​ไม่​ได้​แสดง​สี​หน้า​ขุ่นเคือง. แล้ว​พระองค์​ก็​ยื่น​คฑา​ทองคำ​ออก​มา!—เอศ. 5:1, 2

      26. ทำไม​คริสเตียน​แท้​ต้อง​มี​ความ​กล้า​หาญ​เหมือน​เอศเธระ และ​ทำไม​ภารกิจ​ของ​เธอ​เพิ่ง​เริ่ม​ต้น?

      26 กษัตริย์​ยอม​ให้​เอศเธระ​เข้า​เฝ้า​และ​รับ​ฟัง​สิ่ง​ที่​เธอ​ทูล​ขอ. เอศเธระ​ยืนหยัด​อยู่​ฝ่าย​พระเจ้า​และ​เสี่ยง​ชีวิต​เพื่อ​ประชาชน​ของ​พระองค์. เธอ​เป็น​ตัว​อย่าง​ที่​ยอด​เยี่ยม​ใน​เรื่อง​ความ​เชื่อ​สำหรับ​ผู้​รับใช้​ทุก​คน​ของ​พระเจ้า​ตลอด​ทุก​ยุค​ทุก​สมัย. คริสเตียน​แท้​ใน​ทุก​วัน​นี้​จะ​จด​จำ​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​เช่น​นี้​ไว้​เสมอ. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า​สาวก​แท้​ของ​พระองค์​ต้อง​มี​ความ​รัก​แบบ​เสีย​สละ. (อ่าน​โยฮัน 13:34, 35 ) เพื่อ​จะ​แสดง​ความ​รัก​ดัง​กล่าว​ได้​เรา​ต้อง​มี​ความ​กล้า​หาญ​เหมือน​เอศเธระ. แม้​ว่า​เธอ​ยอม​เสี่ยง​ชีวิต​ปก​ป้อง​ประชาชน​ของ​พระเจ้า แต่​ภารกิจ​ของ​เธอ​เพิ่ง​เริ่ม​ต้น. เธอ​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​ให้​กษัตริย์​เชื่อ​ว่า​ฮามาน​เสนาบดี​คน​โปรด​ของ​พระองค์​เป็น​ผู้​วาง​แผน​ชั่ว​ช้า​นี้? เธอ​จะ​ปก​ป้อง​เพื่อน​ร่วม​ชาติ​อย่าง​ไร? เรา​จะ​พิจารณา​คำ​ถาม​เหล่า​นี้​ใน​บท​ถัด​ไป.

      a นัก​วิชาการ​ส่วน​ใหญ่​เชื่อ​ว่า​อะหัศวะโรศ​คือ​กษัตริย์​เซอร์เซส​ที่ 1 ผู้​ปกครอง​จักรวรรดิ​เปอร์เซีย​ใน​ช่วง​ต้น​ศตวรรษ​ที่ 5 ก่อน ส.ศ.

      b ดู​กรอบ “คำ​ถาม​เกี่ยว​กับ​เอศเธระ” ใน​บท 16.

      c ฮามาน​อาจ​เป็น​หนึ่ง​ใน​ชาว​อะมาเล็ค​กลุ่ม​สุด​ท้าย​ที่​รอด​ชีวิต​จาก​การ​กวาด​ล้าง​ใน​อดีต เพราะ​ชาว​อะมาเล็ค​ส่วน​ใหญ่​ที่ “เหลือ​อยู่” ถูก​ฆ่า​ไป​แล้ว​ตั้ง​แต่​สมัย​กษัตริย์​ฮิศคียาห์.—1 โคร. 4:43

      d ฮามาน​เสนอ​จะ​ให้​เหรียญ​เงิน 10,000 ตะลันต์​แก่​กษัตริย์ ซึ่ง​ปัจจุบัน​มี​ค่า​เท่า​กับ​เงิน​หลาย​ร้อย​ล้าน​ดอลลาร์. ถ้า​กษัตริย์​อะหัศวะโรศ​คือ​เซอร์เซส​ที่ 1 จริง ๆ พระองค์​คง​ยินดี​รับ​ข้อ​เสนอ​ของ​ฮามาน. เซอร์เซส​ต้องการ​เงิน​จำนวน​มาก​เพื่อ​จะ​ใช้​ทำ​สงคราม​กับ​กองทัพ​กรีก แต่​สุด​ท้าย​เขา​ก็​พ่าย​แพ้​ย่อยยับ.

      e กษัตริย์​เซอร์เซส​ที่ 1 ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​คน​ฉุนเฉียว เจ้า​อารมณ์​และ​โมโห​ร้าย. เฮโรโดทุส​นัก​ประวัติศาสตร์​ชาว​กรีก​บันทึก​เหตุ​การณ์​บาง​อย่าง​ไว้​ตอน​ที่​เซอร์เซส​ไป​รบ​กับ​กองทัพ​กรีก. กษัตริย์​สั่ง​ให้​เอา​เรือ​มา​ผูก​ต่อ​กัน​เพื่อ​ทำ​เป็น​สะพาน​ข้าม​ช่องแคบ​เฮลเลสพอนต์. เมื่อ​พายุ​พัด​สะพาน​พัง​พินาศ กษัตริย์​เซอร์เซส​สั่ง​ให้​ตัด​หัว​นาย​ช่าง​คุม​งาน​ทุก​คน และ​ถึง​กับ​สั่ง​ให้​ทหาร “ลง​โทษ” ช่องแคบ​เฮลเลสพอนต์​โดย​เฆี่ยน​น้ำ​พร้อม​กับ​อ่าน​คำ​สาป​แช่ง​ด้วย​เสียง​ดัง. ใน​การ​รบ​ครั้ง​เดียว​กัน เมื่อ​เศรษฐี​คน​หนึ่ง​มา​อ้อน​วอน​ไม่​ให้​เอา​ลูก​ชาย​ไป​เป็น​ทหาร กษัตริย์​เซอร์เซส​สั่ง​ให้​ฟัน​ลูก​ชาย​เขา​ขาด​เป็น​สอง​ท่อน​แล้ว​เสียบ​ประจาน.

      ข้อ​ชวน​คิด . . .

      • เอศเธระ​แสดง​อย่าง​ไร​ว่า​เธอ​เป็น​คน​ถ่อม​และ​เชื่อ​ฟัง?

      • มาระดะคาย​ช่วย​เอศเธระ​ให้​ยืนหยัด​อยู่​ฝ่าย​พระเจ้า​โดย​วิธี​ใด?

      • เอศเธระ​ทำ​อะไร​ที่​แสดง​ว่า​เธอ​มี​ความ​กล้า​หาญ?

      • คุณ​อยาก​เลียน​แบบ​ความ​เชื่อ​ของ​เอศเธระ​ใน​ทาง​ใด​บ้าง?

  • เธอรอบคอบ กล้าหาญ และไม่เห็นแก่ตัว
    จงเลียนแบบความเชื่อของเขา
    • ราชินีเอศเธระ

      บท​สิบ​หก

      เธอ​รอบคอบ กล้า​หาญ และ​ไม่​เห็น​แก่​ตัว

      1-3. (ก) เอศเธระ​คง​รู้สึก​อย่าง​ไร​เมื่อ​เดิน​เข้า​ไป​ใกล้​บัลลังก์​ของ​สามี? (ข) กษัตริย์​มี​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร​เมื่อ​เอศเธระ​มา​เข้า​เฝ้า?

      หัวใจ​ของ​เอศเธระ​เต้น​รัว​ขณะ​เดิน​เข้า​ไป​ใกล้​บัลลังก์​ของ​กษัตริย์. ท้อง​พระ​โรง​ใน​พระ​ราชวัง​ที่​กรุง​ชูชาน​เงียบ​มาก​จน​เอศเธระ​ได้​ยิน​เสียง​ฝีเท้า​กับ​เสียง​พลิ้ว​ไหว​ของ​เครื่อง​ทรง​ที่​เธอ​สวม​ใส่. เธอ​พยายาม​จะ​ไม่​วอกแวก​กับ​ความ​โอ่อ่า​ของ​ท้อง​พระ​โรง ไม่​ว่า​จะ​เป็น​เสา​ต้น​ใหญ่​ที่​สง่า​งาม หรือ​เพดาน​ที่​ทำ​จาก​ไม้​สน​ซีดาร์​ที่​นำ​เข้า​จาก​เลบานอน​และ​ได้​รับ​การ​แกะ​สลัก​อย่าง​วิจิตร​บรรจง. สิ่ง​ที่​เธอ​สนใจ​มี​เพียง​สิ่ง​เดียว​คือ​ผู้​ที่​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์ บุรุษ​ผู้​กำ​ชีวิต​เธอ.

      2 ขณะ​ที่​เอศเธระ​เดิน​เข้า​ไป​ใกล้ กษัตริย์​มอง​ตรง​มา​ที่​เธอ​แล้ว​ยื่น​คทา​ทองคำ​ให้. แม้​จะ​เป็น​สัญญาณ​ง่าย ๆ แต่​นั่น​แสดง​ว่า​กษัตริย์​ให้​อภัย​เธอ​เพราะ​เธอ​ได้​ฝ่าฝืน​กฎหมาย​ที่​มา​เข้า​เฝ้า​โดย​ไม่​มี​รับสั่ง. เมื่อ​เอศเธระ​มา​ยืน​ต่อ​หน้า​บัลลังก์ เธอ​ยื่น​มือ​ไป​แตะ​ยอด​คทา​ด้วย​ความ​ซาบซึ้ง​ใจ​ใน​ความ​เมตตา​ของ​กษัตริย์.—เอศ. 5:1, 2

      ราชินีเอศเธระไปเข้าเฝ้ากษัตริย์อะหัศวะโรศ และเขายื่นคทาทองคำให้

      เอศเธระ​ซาบซึ้ง​ใน​พระ​เมตตา​ของ​กษัตริย์

      3 ทุก​สิ่ง​ที่​เป็น​ของ​กษัตริย์​อะหัศวะโรศ​ล้วน​แสดง​ถึง​อำนาจ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​และ​ความ​มั่งคั่ง​ร่ำรวย. กล่าว​กัน​ว่า​เครื่อง​ทรง​ของ​กษัตริย์​เปอร์เซีย​สมัย​นั้น​มี​มูลค่า​หลาย​ร้อย​ล้าน​ดอลลาร์. ถึง​กระนั้น เอศเธระ​ก็​รู้​ว่า​กษัตริย์​รัก​เธอ แม้​จะ​ไม่​ได้​แสดง​ออก​มา​ชัดเจน เพราะ​เขา​ถาม​เธอ​ว่า “เอศเธระ​มเหสี​เอ๋ย, พระ​นาง​ประสงค์​อะไร? และ​จะ​ขอ​สิ่ง​ใด? เรา​จะ​ให้​สิ่ง​นั้น​แก่​พระ​นาง​ถึง​ครึ่ง​แผ่นดิน.”—เอศ. 5:3

      4. ภารกิจ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​อะไร​รอ​เอศเธระ​อยู่?

      4 เรา​เห็น​แล้ว​ว่า​เอศเธระ​มี​ความ​เชื่อ​และ​กล้า​หาญ​มาก​เพียง​ไร​ที่​มา​เข้า​เฝ้า​กษัตริย์​เพื่อ​ปก​ป้อง​ชน​ร่วม​ชาติ​จาก​แผน​ชั่ว​ที่​มุ่ง​กวาด​ล้าง​พวก​เขา. ตอน​นี้​เธอ​ทำ​สำเร็จ​ไป​ขั้น​หนึ่ง​แล้ว แต่​ภารกิจ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​นี้​ยัง​ไม่​เสร็จ​สิ้น. เอศเธระ​ยัง​ต้อง​โน้ม​น้าว​กษัตริย์​ผู้​เย่อหยิ่ง​คน​นี้​ให้​เชื่อ​ว่า​ที่​ปรึกษา​ที่​เขา​ไว้​ใจ​ที่​สุด​เป็น​คน​ชั่ว​ช้า​และ​หลอก​เขา​ให้​ออก​กฎหมาย​เพื่อ​ทำลาย​ชน​ร่วม​ชาติ​ของ​เธอ. เธอ​จะ​โน้ม​น้าว​ใจ​กษัตริย์​อย่าง​ไร และ​เรา​เรียน​อะไร​ได้​จาก​ตัว​อย่าง​ของ​เธอ?

      เธอ​เลือก “วาระ​พูด” อย่าง​สุขุม

      5, 6. (ก) เอศเธระ​ใช้​หลักการ​ใน​ท่าน​ผู้​ประกาศ 3:1, 7 อย่าง​ไร? (ข) วิธี​ที่​เอศเธระ​พูด​กับ​สามี​แสดง​อย่าง​ไร​ว่า​เธอ​ฉลาด​สุขุม?

      5 เอศเธระ​น่า​จะ​รายงาน​ปัญหา​ทั้ง​หมด​ให้​กษัตริย์​ทราบ​ต่อ​หน้า​ทุก​คน​ตอน​ที่​อยู่​ใน​ท้อง​พระ​โรง​ไหม? การ​ทำ​เช่น​นั้น​อาจ​ทำ​ให้​กษัตริย์​รู้สึก​อับอาย​และ​ทำ​ให้​ฮามาน​มี​ข้อ​แก้​ตัว. ถ้า​อย่าง​นั้น​เอศเธระ​จะ​ทำ​อย่าง​ไร? หลาย​ศตวรรษ​ก่อน​หน้า​นี้ กษัตริย์​โซโลมอน​ผู้​ฉลาด​สุขุม​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ​ให้​เขียน​ว่า “มี​ฤดู​กาล​สำหรับ​ทุก​สิ่ง . . . มี​วาระ​นิ่ง​เงียบ และ​วาระ​พูด.” (ผู้ป. 3:1, 7, พระ​คริสตธรรม​คัมภีร์ ฉบับ​มาตรฐาน ) เรา​คง​นึก​ภาพ​ออก​ว่า​มาระดะคาย​ผู้​ซื่อ​สัตย์​ซึ่ง​เป็น​พ่อ​บุญธรรม​ของ​เอศเธระ​คง​สอน​หลักการ​เหล่า​นี้​แก่​เธอ​ตั้ง​แต่​เด็ก. เอศเธระ​คง​เข้าใจ​ดี​ว่า​การ​เลือก “วาระ​พูด” อย่าง​สุขุม​เป็น​เรื่อง​สำคัญ​เพียง​ใด.

      6 เอศเธระ​ทูล​กษัตริย์​ว่า “ถ้า​พระองค์​ทรง​เห็น​ชอบ​แล้ว, ขอ​เชิญ​พระองค์​เสด็จ​มา​กับ​ฮามาน​ใน​การ​เลี้ยง​วัน​นี้​ที่​ข้าพเจ้า​ได้​จัด​เตรียม​ไว้​สำหรับ​ถวาย​พระองค์.” (เอศ. 5:4) กษัตริย์​ตอบรับ​คำ​เชิญ​และ​ส่ง​คน​ไป​เรียก​ฮามาน. คุณ​สังเกต​ไหม​ว่า​เอศเธระ​เลือก​ใช้​คำ​พูด​อย่าง​ฉลาด? เธอ​คำนึง​ถึง​ศักดิ์ศรี​ของ​สามี​และ​หา​โอกาส​เหมาะ ๆ ที่​จะ​เปิด​เผย​ความ​กังวล​ใจ​แก่​เขา.—อ่าน​สุภาษิต 10:19

      7, 8. เอศเธระ​จัด​งาน​เลี้ยง​อย่าง​ไร แต่​ทำไม​เธอ​ยัง​ไม่​บอก​กษัตริย์?

      7 เอศเธระ​คง​เตรียม​งาน​เลี้ยง​อย่าง​พิถีพิถัน​และ​สรร​หา​แต่​สิ่ง​ที่​สามี​ชอบ. ใน​งาน​เลี้ยง​นี้​ยัง​มี​เหล้า​องุ่น​ชั้น​เลิศ​เพื่อ​ทำ​ให้​ใจ​เบิกบาน. (เพลง. 104:15) อะหัศวะโรศ​สำราญ​พระทัย​ยิ่ง​นัก​จน​ถึง​กับ​ถาม​เอศเธระ​อีก​ครั้ง​ว่า​เธอ​อยาก​ได้​สิ่ง​ใด. นี่​เป็น​เวลา​ที่​เธอ​ควร​จะ​พูด​ไหม?

      8 เอศเธระ​คิด​ว่า​ยัง​ไม่​เหมาะ. เธอ​จึง​เชิญ​กษัตริย์​และ​ฮามาน​มา​งาน​เลี้ยง​ที่​บ้าน​เธอ​อีก​ใน​วัน​รุ่ง​ขึ้น. (เอศ. 5:7, 8) ทำไม​เธอ​ยัง​ไม่​พูด? อย่า​ลืม​ว่า ชน​ร่วม​ชาติ​ของ​เอศเธระ​กำลัง​จะ​ถูก​ฆ่า​ตาม​กฤษฎีกา​ของ​กษัตริย์. เรื่อง​นี้​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ความ​เป็น​ความ​ตาย เอศเธระ​จึง​ต้อง​แน่​ใจ​ว่า​เวลา​ไหน​เหมาะ​ที่​สุด​ที่​จะ​พูด​เรื่อง​นี้. ดัง​นั้น เธอ​จึง​อด​ทน​รอ​และ​จัด​งาน​เลี้ยง​อีก​เพื่อ​ทำ​ให้​สามี​เห็น​ว่า​เธอ​นับถือ​เขา​อย่าง​ยิ่ง.

      9. ความ​อด​ทน​มี​ค่า​อย่าง​ไร และ​เรา​จะ​เลียน​แบบ​เอศเธระ​ได้​อย่าง​ไร?

      9 ความ​อด​ทน​เป็น​คุณสมบัติ​ที่​มี​ค่า​และ​หา​ได้​ยาก. แม้​จะ​ทุกข์​ใจ​และ​อยาก​พูด​เหลือ​เกิน แต่​เอศเธระ​ก็​อด​ทน​รอ​ให้​ถึง​เวลา​ที่​เหมาะ​สม. เอศเธระ​เป็น​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​สำหรับ​เรา. บาง​ครั้ง​เรา​อาจ​รู้สึก​ว่า​มี​อะไร​บาง​อย่าง​ไม่​ถูก​ต้อง​และ​อยาก​ให้​มี​การ​แก้ไข. ถ้า​เรา​อยาก​โน้ม​น้าว​ผู้​มี​อำนาจ​หน้า​ที่​ให้​จัด​การ​เรื่อง​เหล่า​นั้น เรา​น่า​จะ​เลียน​แบบ​เอศเธระ​และ​รู้​จัก​อด​ทน. สุภาษิต 25:15 (ฉบับ​อมตธรรม​ร่วม​สมัย ) กล่าว​ว่า “จง​อด​ทน​แล้ว​จะ​ชนะ​ใจ​เจ้านาย​ได้ ลิ้น​ที่​อ่อนโยน​สามารถ​บดขยี้​กระดูก​ได้.” ถ้า​เรา​อด​ทน​รอ​ให้​ถึง​เวลา​ที่​เหมาะ​สม​และ​พูด​อย่าง​สุภาพ​อ่อนโยน​เหมือน​เอศเธระ เรา​ก็​อาจ​เอา​ชนะ​การ​ต่อ​ต้าน​ที่​แข็ง​ราว​กับ​กระดูก​ได้. กระนั้น พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​อวย​พร​เอศเธระ​ไหม​ที่​เธอ​มี​ความ​อด​ทน​และ​เป็น​คน​สุขุม​รอบคอบ?

      ความ​อด​ทน​ช่วย​ให้​ได้​รับ​ความ​ยุติธรรม

      10, 11. ทำไม​ฮามาน​อารมณ์​เสีย​เมื่อ​กลับ​จาก​งาน​เลี้ยง และ​ภรรยา​กับ​เพื่อน ๆ ยุ​ให้​เขา​ทำ​อะไร?

      10 ความ​อด​ทน​ของ​เอศเธระ​ทำ​ให้​เกิด​เหตุ​การณ์​สำคัญ​หลาย​อย่าง. ฮามาน​กลับ​จาก​งาน​เลี้ยง​ครั้ง​แรก​ด้วย​ความ​เบิกบาน​และ “มี​ใจ​ชื่นชม​ยินดี” เพราะ​คิด​ว่า​กษัตริย์​และ​ราชินี​โปรดปราน​ตน​มาก. แต่​พอ​ฮามาน​เดิน​ผ่าน​ประตู​พระ​ราชวัง เขา​ก็​อารมณ์​เสีย​เมื่อ​เห็น​มาระดะคาย​ชาว​ยิว​ที่​เขา​เกลียด​ขี้​หน้า​ยัง​นั่ง​เฉย​ไม่​ยอม​ลุก​ขึ้น​โค้ง​คำนับ​เขา. ดัง​ที่​เรา​พิจารณา​ใน​บท​ก่อน เหตุ​ผล​ที่​มาระดะคาย​ไม่​ทำ​เช่น​นั้น​ไม่​ใช่​เพราะ​ต้องการ​ดูหมิ่น​เหยียด​หยาม​ฮามาน แต่​เพราะ​การ​ทำ​ความ​เคารพ​ฮามาน​ขัด​กับ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​เขา​และ​กลัว​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ไม่​พอ​พระทัย. แต่​ฮามาน “โกรธ​มาระดะคาย​เป็น​อัน​มาก.”—เอศ. 5:9

      11 เมื่อ​ฮามาน​เล่า​ให้​ภรรยา​และ​เพื่อน ๆ ฟัง​ว่า​มาระดะคาย​ไม่​ยอม​โค้ง​คำนับ​ตน คน​เหล่า​นั้น​ก็​แนะ​ให้​ฮามาน​ทำ​ขาหยั่ง​อัน​ใหญ่​สูง 50 ศอก (ประมาณ 22 เมตร) และ​ยุ​ให้​ขอ​กษัตริย์​เอา​ตัว​มาระดะคาย​ไป​แขวน​คอ​บน​ขาหยั่ง​นั้น. ฮามาน​ถูก​ใจ​คำ​แนะ​นำ​ดัง​กล่าว​มาก เขา​จึง​รีบ​เตรียม​การ​ทันที.—เอศ. 5:12-14

      12. ทำไม​กษัตริย์​สั่ง​ให้​เจ้า​พนักงาน​เอา​บันทึก​ต่าง ๆ มา​อ่าน และ​กษัตริย์​ได้​รู้​เรื่อง​อะไร?

      12 คัมภีร์​ไบเบิล​เล่า​ว่า คืน​นั้น “กษัตริย์​ทรง​บรรทม​ไม่​หลับ” โดย​ไม่​ทราบ​สาเหตุ. พระองค์​จึง​สั่ง​ให้​เจ้า​พนักงาน​เอา​บันทึก​ต่าง ๆ มา​อ่าน​ให้​พระองค์​ฟัง. ใน​บรรดา​เรื่อง​ที่​อ่าน มี​เรื่อง​การ​ลอบ​สังหาร​กษัตริย์​อะหัศวะโรศ​รวม​อยู่​ด้วย. พระองค์​จำ​เหตุ​การณ์​นั้น​ได้ และ​จำ​ได้​ว่า​พระองค์​สั่ง​ให้​ประหาร​คน​ร้าย​นั้น​แล้ว. แต่​จะ​ว่า​อย่าง​ไร​กับ​มาระดะคาย​ที่​เป็น​คน​เปิดโปง​แผน​ชั่ว​นี้? ทันใด​นั้น กษัตริย์​ก็​ถาม​ถึง​มาระดะคาย​ว่า​เขา​ได้​บำเหน็จ​อะไร​บ้าง. เจ้า​พนักงาน​จึง​ทูล​กษัตริย์​ว่า​เขา​ยัง​ไม่​ได้​รับ​บำเหน็จ​อะไร​เลย.—อ่าน​เอศเธระ 6:1-3

      13, 14. (ก) สถานการณ์​ของ​ฮามาน​เริ่ม​ย่ำแย่​อย่าง​ไร? (ข) ภรรยา​กับ​เพื่อน ๆ บอก​อะไร​ฮามาน?

      13 กษัตริย์​รู้สึก​ไม่​สบาย​ใจ​จึง​ถาม​ว่า​มี​เจ้า​พนักงาน​คน​ใด​จะ​จัด​การ​เรื่อง​นี้​ได้. ตอน​นั้น​ใน​ท้อง​พระ​โรง​ไม่​มี​ใคร​เลย​นอก​จาก​ฮามาน ซึ่ง​ดู​เหมือน​จะ​มา​รอ​เข้า​เฝ้า​กษัตริย์​ตั้ง​แต่​เช้า​มืด​เพื่อ​ขอ​ให้​ประหาร​มาระดะคาย. ก่อน​ที่​ฮามาน​จะ​ทูล​เรื่อง​ของ​ตน กษัตริย์​ได้​ถาม​เขา​ว่า​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​ต่อ​คน​ที่​กษัตริย์​ชอบ​ใจ. เนื่อง​จาก​คิด​ว่า​หมาย​ถึง​ตน ฮามาน​จึง​เสนอ​ให้​กษัตริย์​ยกย่อง​คน​นั้น​อย่าง​ยิ่ง​ใหญ่. เขา​เสนอ​ให้​เอา​ชุด​ของ​กษัตริย์​มา​สวม​ให้​คน​นั้น และ​ให้​ขี่​ม้า​ของ​กษัตริย์​โดย​มี​ข้าราชการ​ชั้น​สูง​จูง​ม้า​ไป​รอบ​เมือง​พร้อม​กับ​ป่าว​ประกาศ​ยกย่อง​คุณ​ความ​ดี​ของ​เขา. คิด​ดู​สิ​ว่า ฮามาน​จะ​ทำ​หน้า​อย่าง​ไร​เมื่อ​รู้​ว่า​ชาย​ที่​ได้​รับ​เกียรติ​อย่าง​สูง​นั้น​คือ​มาระดะคาย. แล้ว​คน​ที่​กษัตริย์​สั่ง​ให้​ทำ​หน้า​ที่​ป่าว​ประกาศ​คุณ​ความ​ดี​ของ​มาระดะคาย​คือ​ใคร? คือ​ฮามาน​นั่น​เอง!—เอศ. 6:4-10

      14 ฮามาน​คับ​แค้น​ใจ​ยิ่ง​นัก. หลัง​จาก​ทำ​ตาม​ที่​กษัตริย์​รับสั่ง​แล้ว เขา​ก็​รีบ​กลับ​บ้าน​ด้วย​ความ​ทุกข์​ใจ. ภรรยา​กับ​เพื่อน ๆ ของ​เขา​บอก​ว่า​เหตุ​การณ์​นี้​กำลัง​ส่อ​ให้​เห็น​ว่า​ฮามาน​จะ​ไม่​ชนะ​มาระดะคาย​อย่าง​แน่นอน.—เอศ. 6:12, 13

      15. (ก) การ​ที่​เอศเธระ​อด​ทน​รอ​มี​ผล​ดี​อย่าง​ไร? (ข) ทำไม​เรา​ควร “คอย​ท่า” พระเจ้า?

      15 เนื่อง​จาก​เอศเธระ​อด​ทน​รอ​ให้​ผ่าน​ไป​อีก​วัน​หนึ่ง​ก่อน​จะ​ทูล​กษัตริย์ ทำ​ให้​มี​โอกาส​ได้​เห็น​ธาตุ​แท้​ของ​ฮามาน. เป็น​ไป​ได้​ไหม​ว่า​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​อาจ​มี​ส่วน​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​นอน​ไม่​หลับ​ของ​กษัตริย์? (สุภา. 21:1) ไม่​แปลก​ที่​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​สนับสนุน​เรา​ให้ “คอย​ท่า” พระองค์. (อ่าน​มีคา 7:7 ) ถ้า​เรา​คอย​ท่า​พระเจ้า เรา​จะ​ได้​เห็น​วิธี​แก้​ปัญหา​ของ​พระองค์​ซึ่ง​ล้ำ​ลึก​เกิน​กว่า​ที่​เรา​จะ​คิด​ออก.

      เธอ​พูด​อย่าง​กล้า​หาญ

      16, 17. (ก) ตอน​ไหน​เป็น “วาระ​พูด” ของ​เอศเธระ? (ข) เอศเธระ​แตกต่าง​จาก​พระ​นาง​วัศธี​มเหสี​คน​ก่อน​อย่าง​ไร?

      16 เอศเธระ​รู้​ว่า​เธอ​ต้อง​ทูล​ทุก​สิ่ง​ต่อ​กษัตริย์​ใน​งาน​เลี้ยง​ครั้ง​ที่​สอง​นี้. แต่​จะ​พูด​ตอน​ไหน​ดี? แล้ว​โอกาส​ก็​มา​ถึง​เมื่อ​กษัตริย์​ถาม​อีก​ครั้ง​ว่า​เธอ​อยาก​ได้​สิ่ง​ใด. (เอศ. 7:2) ตอน​นี้​แหละ​เป็น “วาระ​พูด” ของ​เอศเธระ.

      17 เอศเธระ​คง​อธิษฐาน​ถึง​พระเจ้า​ใน​ใจ​ก่อน​จะ​ตอบ​กษัตริย์​ว่า “ข้า​แต่​กษัตริย์, ถ้า​แม้น​ข้าพเจ้า​มี​ความ​ชอบ​ใน​คลอง​พระ​เนตร​ของ​พระองค์, และ​ถ้า​แม้น​พระองค์​ทรง​เห็น​เป็น​การ​สม​ควร​แล้ว, ขอ​พระองค์​ทรง​ประทาน​ชีวิต​ให้​ข้าพเจ้า​ตาม​ที่​ข้าพเจ้า​กราบ​ทูล​ขอ​นั้น, และ​ญาติ​พี่​น้อง​ของ​ข้าพเจ้า​ตาม​ที่​ข้าพเจ้า​ได้​กราบ​ทูล​ขอ​นี้​เถิด.” (เอศ. 7:3) น่า​สังเกต เธอ​รับรอง​กับ​กษัตริย์​ว่า​เธอ​จะ​เคารพ​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​เขา. เอศเธระ​ช่าง​แตกต่าง​อย่าง​สิ้นเชิง​กับ​พระ​นาง​วัศธี​มเหสี​คน​ก่อน​ที่​จงใจ​ทำ​ให้​สามี​อับอาย. (เอศ. 1:10-12) นอก​จาก​นั้น แทน​ที่​จะ​ตำหนิ​กษัตริย์​ที่​ไป​หลง​เชื่อ​คน​อย่าง​ฮามาน เอศเธระ​กลับ​ขอร้อง​ให้​กษัตริย์​ช่วย​ปก​ป้อง​เธอ​จาก​คน​ที่​คิด​ร้าย​เธอ.

      18. เอศเธระ​ทูล​กษัตริย์​อย่าง​ไร?

      18 คำ​ขอ​ของ​เอศเธระ​คง​ทำ​ให้​กษัตริย์​ทั้ง​ประทับใจ​และ​ประหลาด​ใจ. ใคร​กัน​ที่​กล้า​คิด​ร้าย​ต่อ​มเหสี​ของ​พระองค์? เอศเธระ​ทูล​ต่อ​ว่า “พวก​เรา​ถูก​ขาย​ทั้ง​หม่อม​ฉัน​และ​ชน​ชาติ​ของ​หม่อม​ฉัน ให้​ถูก​ทำลาย ให้​ถูก​สังหาร​และ​ให้​ถูก​ล้าง​ผลาญ ถ้า​พวก​เรา​ถูก​ขาย​เพียง​ให้​เป็น​ทาส​ชาย​และ​หญิง หม่อม​ฉัน​ก็​จะ​ไม่​ปริปาก เพราะ​ความ​ทุกข์​ยาก​เพียง​แค่​นี้​ไม่​อาจ​เปรียบ​กับ​ความ​เสียหาย​ของ​กษัตริย์​ได้.” (เอศ. 7:4, ฉบับ​มาตรฐาน ) ขอ​สังเกต​ว่า​เอศเธระ​พูด​ถึง​ปัญหา​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา. เธอ​ยัง​บอก​ด้วย​ว่า​หาก​นี่​เป็น​เพียง​แผนการ​ที่​จะ​ขาย​ชน​ชาติ​ของ​เธอ​ให้​เป็น​ทาส เธอ​คง​ไม่​นำ​เรื่อง​นี้​มา​ทูล​กษัตริย์. แต่​ที่​เธอ​ไม่​อาจ​นิ่ง​เฉย​ได้​เพราะ​แผนการ​ฆ่า​ล้าง​เผ่า​พันธุ์​ชาว​ยิว​ครั้ง​นี้​จะ​ส่ง​ผล​เสีย​ต่อ​กษัตริย์​ด้วย.

      19. ตัว​อย่าง​ของ​เอศเธระ​สอน​อะไร​เรา​เรื่อง​การ​ใช้​ศิลปะ​ใน​การ​โน้ม​น้าว​ใจ?

      19 ตัว​อย่าง​ของ​เอศเธระ​สอน​บทเรียน​สำคัญ​เรื่อง​การ​ใช้​ศิลปะ​ใน​การ​โน้ม​น้าว​ใจ. ถ้า​คุณ​ต้อง​พูด​กับ​คน​ที่​คุณ​รัก​หรือ​คน​ที่​มี​ตำแหน่ง​สูง​เกี่ยว​กับ​ปัญหา​สำคัญ ตัว​อย่าง​ของ​เอศเธระ​สอน​เรา​ว่า​ควร​จะ​มี​ความ​อด​ทน แสดง​ความ​นับถือ​ผู้​อื่น และ​พูด​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา.—สุภา. 16:21, 23

      20, 21. (ก) เอศเธระ​เปิดโปง​ฮามาน​อย่าง​ไร และ​กษัตริย์​มี​ปฏิกิริยา​เช่น​ไร? (ข) ฮามาน​ทำ​อะไร​เมื่อ​ถูก​เปิดโปง?

      20 อะหัศวะโรศ​จึง​รับสั่ง​ว่า “ผู้​ใด​มี​ใจ​อาจ​คิด​กระทำ​อย่าง​นั้น​เล่า, มัน​คือ​ผู้​ใด, และ​อยู่​ที่​ไหน?” ขอ​ให้​นึก​ภาพ​เอศเธระ​ชี้​หน้า​ฮามาน​พร้อม​กับ​พูด​ว่า “ผู้​ร้าย​และ​ศัตรู​นั้น​คือ​ฮามาน​คน​ชั่ว​นี้.” และ​แล้ว​ทุก​สิ่ง​ก็​เงียบ​สงัด. ฮามาน​ตกใจ​กลัว​ยิ่ง​นัก. ลอง​นึก​ภาพ​ใบ​หน้า​ของ​กษัตริย์​ที่​แดง​ก่ำ​ด้วย​ความ​โกรธ​เมื่อ​รู้​ว่า​ถูก​เสนาบดี​ที่​ตน​ไว้​ใจ​หลอก​ให้​ออก​กฎหมาย​ทำ​ร้าย​มเหสี​ที่​ตน​รัก. แล้ว​กษัตริย์​ก็​รีบ​ลุก​ออก​ไป​สงบ​สติ​อารมณ์​ใน​สวน.—เอศ. 7:5-7

      ในงานเลี้ยงครั้งที่สองที่นางจัดขึ้น เอศเธระบอกกษัตริย์อะหัศวะโรศเรื่องฮามานอย่างกล้าหาญ

      เอศเธระ​กล้า​เปิดโปง​ความ​ชั่ว​ช้า​ของ​ฮามาน

      21 ส่วน​ฮามาน​เมื่อ​ถูก​เปิดโปง​แผน​ชั่ว​ก็​แสดง​ความ​ขี้ขลาด​ออก​มา​โดย​เข้า​ไป​หมอบ​แทบ​เท้า​ราชินี. พอ​กษัตริย์​กลับ​เข้า​มา​ใน​ห้อง เห็น​ฮามาน​กำลัง​วิงวอน​ขอ​ความ​เมตตา​จาก​เอศเธระ​บน​แท่น​ประทับ​ของ​พระ​นาง​ก็​ยิ่ง​เดือดดาล​และ​ตรัส​ว่า​ฮามาน​กำลัง​จะ​ข่มขืน​ราชินี​ใน​พระ​ราชวัง​ของ​พระองค์. พอ​กษัตริย์​พูด​จบ ฮามาน​รู้​ตัว​ว่า​ความ​ตาย​รอ​อยู่​ตรง​หน้า​แล้ว. เขา​ถูก​คลุม​หน้า​และ​พา​ตัว​ออก​ไป. แล้ว​เจ้า​พนักงาน​คน​หนึ่ง​ก็​ทูล​กษัตริย์​ว่า ฮามาน​ได้​ทำ​ขาหยั่ง​อัน​ใหญ่​ไว้​เพื่อ​เตรียม​แขวน​คอ​มาระดะคาย. อะหัศวะโรศ​จึง​สั่ง​ให้​เอา​ตัว​ฮามาน​ไป​แขวน​คอ​บน​ขาหยั่ง​นั้น​ทันที.—เอศ. 7:8-10

      22. ตัว​อย่าง​ของ​เอศเธระ​ช่วย​เรา​อย่าง​ไร​ไม่​ให้​สิ้น​หวัง มอง​ใน​แง่​ร้าย หรือ​ขาด​ความ​เชื่อ?

      22 ใน​โลก​ที่​ไร้​ความ​ยุติธรรม​นี้ เรา​อาจ​คิด​ว่า​เรา​จะ​ไม่​มี​วัน​ได้​เห็น​ความ​ยุติธรรม. คุณ​เคย​คิด​อย่าง​นั้น​ไหม? เอศเธระ​ไม่​เคย​สิ้น​หวัง มอง​ใน​แง่​ร้าย หรือ​ขาด​ความ​เชื่อ. เมื่อ​ถึง​เวลา​เหมาะ เธอ​กล้า​พูด​เพื่อ​เห็น​แก่​ความ​ถูก​ต้อง​และ​ไว้​ใจ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ทำ​ส่วน​ของ​พระองค์. ให้​เรา​เลียน​แบบ​เอศเธระ. ตั้ง​แต่​สมัย​ของ​เอศเธระ​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้ พระ​ยะโฮวา​ไม่​เคย​เปลี่ยน​แปลง. พระองค์​สามารถ​ทำ​ให้​คน​ชั่ว​และ​คน​เจ้า​เล่ห์​ติด​กับ​ของ​ตน​เอง​เช่น​เดียว​กับ​ที่​พระองค์​เคย​จัด​การ​ฮามาน.—อ่าน​บทเพลง​สรรเสริญ 7:11-16

      เธอ​ทำ​เพื่อ​พระ​ยะโฮวา​และ​ประชาชน​ของ​พระองค์​อย่าง​ไม่​เห็น​แก่​ตัว

      23. (ก) กษัตริย์​ประทาน​บำเหน็จ​อะไร​ให้​มาระดะคาย​กับ​เอศเธระ? (ข) คำ​พยากรณ์​ที่​ยาโคบ​กล่าว​ล่วง​หน้า​ก่อน​สิ้น​ใจ​เกี่ยว​กับ​เบนยามิน​สำเร็จ​เป็น​จริง​อย่าง​ไร? (ดู​กรอบ “คำ​พยากรณ์​ข้อ​หนึ่ง​สำเร็จ​เป็น​จริง”)

      23 ใน​ที่​สุด กษัตริย์​ก็​รู้​ว่า​มาระดะคาย​ไม่​เพียง​เป็น​ผู้​ภักดี​ที่​เคย​ช่วย​พระองค์​ไว้​จาก​การ​ถูก​ลอบ​สังหาร แต่​ยัง​เป็น​พ่อ​บุญธรรม​ของ​เอศเธระ​ด้วย. อะหัศวะโรศ​แต่ง​ตั้ง​มาระดะคาย​เป็น​นายก​รัฐมนตรี​แทน​ฮามาน. พระองค์​ยก​บ้าน​และ​ทรัพย์​สมบัติ​ของ​ฮามาน​ให้​เอศเธระ จาก​นั้น เอศเธระ​ก็​ตั้ง​มาระดะคาย​ให้​ดู​แล​ทรัพย์​สิน​เหล่า​นั้น.—เอศ. 8:1, 2

      24, 25. (ก) แม้​ว่า​แผนการ​ของ​ฮามาน​ถูก​เปิดโปง​แล้ว แต่​ทำไม​เอศเธระ​ยัง​วาง​มือ​ไม่​ได้? (ข) เอศเธระ​เสี่ยง​ชีวิต​อีก​ครั้ง​อย่าง​ไร?

      24 ตอน​นี้​เอศเธระ​กับ​มาระดะคาย​ปลอด​ภัย​แล้ว เธอ​จะ​วาง​มือ​และ​ใช้​ชีวิต​อย่าง​สุข​สบาย​ไหม? ถ้า​เธอ​เป็น​คน​เห็น​แก่​ตัว​เธอ​ก็​คง​ทำ​เช่น​นั้น. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ตอน​นี้​กฤษฎีกา​ที่​ฮามาน​ทำ​ขึ้น​เพื่อ​ฆ่า​ล้าง​เผ่า​พันธุ์​ชาว​ยิว​ถูก​ส่ง​ออก​ไป​ทั่ว​จักรวรรดิ​แล้ว. ก่อน​หน้า​นี้ ฮามาน​ได้​จับ​ฉลาก (ฟูระ) ซึ่ง​ดู​เหมือน​เป็น​การ​เสี่ยง​ทาย​รูป​แบบ​หนึ่ง​เพื่อ​เลือก​วัน​ที่​จะ​ลง​มือ​กวาด​ล้าง​ชาว​ยิว​ให้​สิ้น​ซาก. (เอศ. 9:24-26) แม้​จะ​เหลือ​อีก​หลาย​เดือน แต่​เวลา​ก็​ผ่าน​ไป​อย่าง​รวด​เร็ว. ยัง​มี​เวลา​ที่​จะ​แก้ไข​สถานการณ์​นี้​ไหม?

      25 เอศเธระ​ยอม​เสี่ยง​ชีวิต​อีก​ครั้ง​โดย​ไม่​เห็น​แก่​ตัว. เธอ​ไป​เข้า​เฝ้า​อีก​แม้​ว่า​ไม่​มี​รับสั่ง​จาก​กษัตริย์. ครั้ง​นี้​เธอ​ร้องไห้​และ​อ้อน​วอน​ให้​สามี​ยก​เลิก​กฎหมาย​ที่​มุ่ง​ทำลาย​ชน​ร่วม​ชาติ​ของ​เธอ. แต่​กฎหมาย​ที่​ตรา​ขึ้น​ใน​นาม​กษัตริย์​แห่ง​เปอร์เซีย​ไม่​อาจ​ยก​เลิก​หรือ​เปลี่ยน​แปลง​ได้. (ดานิ. 6:12, 15) ดัง​นั้น กษัตริย์​จึง​มอบ​อำนาจ​ให้​เอศเธระ​และ​มาระดะคาย​ตรา​กฎหมาย​ขึ้น​ใหม่. หมาย​ประกาศ​ฉบับ​ที่​สอง​ถูก​ส่ง​ออก​ไป หมาย​ประกาศ​นี้​ให้​สิทธิ์​ชาว​ยิว​ต่อ​สู้​ปก​ป้อง​ตัว​เอง​ได้. ม้า​เร็ว​ได้​นำ​ข่าว​ดี​นี้​ไป​แจ้ง​แก่​ชาว​ยิว​ทั่ว​จักรวรรดิ. ข่าว​นี้​จุด​ประกาย​ความ​หวัง​ให้​ประชาชน​ชาว​ยิว. (เอศ. 8:3-16) เรา​คง​นึก​ภาพ​ออก​ว่า​ชาว​ยิว​ทั่ว​จักรวรรดิ​อัน​กว้าง​ใหญ่​ได้​จัด​หา​อาวุธ​และ​กำลัง​คน​เพื่อ​เตรียม​ต่อ​สู้ ซึ่ง​พวก​เขา​คง​ทำ​เช่น​นี้​ไม่​ได้​หาก​ไม่​มี​กฎหมาย​ฉบับ​ใหม่​นี้. แต่​ที่​สำคัญ​กว่า​นั้น​คือ “พระ​ยะโฮวา​ของ​พล​โยธา” จะ​ช่วย​ประชาชน​ของ​พระองค์​ไหม?—1 ซามู. 17:45

      เอศเธระกับมาระดะคายออกหมายประกาศฉบับที่สองและให้ชายหนุ่มคนนี้เขียน

      เอศเธระ​กับ​มาระดะคาย​ส่ง​หมาย​ประกาศ​ไป​ถึง​ชาว​ยิว​ทั่ว​จักรวรรดิ​เปอร์เซีย

      26, 27. (ก) พระ​ยะโฮวา​ประทาน​ชัย​ชนะ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​แก่​ประชาชน​ของ​พระองค์​อย่าง​ไร? (ข) คำ​พยากรณ์​อะไร​สำเร็จ​เป็น​จริง​เมื่อ​ลูก​ชาย​ของ​ฮามาน​ถูก​ฆ่า?

      26 เมื่อ​ถึง​วัน​ที่​ฮามาน​กำหนด​ไว้ ประชาชน​ของ​พระเจ้า​ก็​พร้อม​แล้ว. ตอน​นี้​แม้​แต่​ข้าราชการ​ชาว​เปอร์เซีย​หลาย​คน​ก็​เปลี่ยน​มา​อยู่​ฝ่าย​ชาว​ยิว​เพราะ​ข่าว​ที่​มาระดะคาย​ได้​เป็น​นายก​รัฐมนตรี​ได้​แพร่​ไป​ทั่ว​สาร​ทิศ. พระ​ยะโฮวา​ประทาน​ชัย​ชนะ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​แก่​ประชาชน​ของ​พระองค์. ไม่​มี​ข้อ​สงสัย พระองค์​คง​ต้อง​ช่วย​ประชาชน​ของ​พระองค์​ปราบ​ศัตรู​ให้​ราบ​คาบ​เพื่อ​พวก​เขา​จะ​ไม่​กลับ​มา​ทำ​ร้าย​ประชาชน​ของ​พระองค์​อีก.a—เอศ. 9:1-6

      27 ถ้า​ลูก​ชาย 10 คน​ของ​ฮามาน​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่ มาระดะคาย​คง​รู้สึก​ไม่​ปลอด​ภัย​ที่​ต้อง​ดู​แล​ทรัพย์​สิน​ของ​ฮามาน จึง​ต้อง​ฆ่า​พวก​เขา​ด้วย. (เอศ. 9:7-10) ด้วย​เหตุ​นี้ คำ​พยากรณ์​ใน​พระ​คัมภีร์​ที่​ว่า ชาว​อะมาเล็ค​ซึ่ง​เป็น​ศัตรู​ที่​ร้ายกาจ​ของ​ประชาชน​ของ​พระเจ้า​จะ​ต้อง​ถูก​ทำลาย​จน​สิ้น​ชาติ​จึง​สำเร็จ​เป็น​จริง. (บัญ. 25:17-19) ลูก​ชาย 10 คน​ของ​ฮามาน​คง​เป็น​กลุ่ม​สุด​ท้าย​ของ​ชาติ​อะมาเล็ค​ที่​ถูก​พระเจ้า​พิพากษา​ลง​โทษ.

      28, 29. (ก) ทำไม​พระ​ยะโฮวา​ประสงค์​ให้​เอศเธระ​และ​ประชาชน​ของ​เธอ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​สู้​รบ? (ข) เหตุ​ใด​แบบ​อย่าง​ของ​เอศเธระ​จึง​เป็น​ประโยชน์​แก่​เรา​ใน​ทุก​วัน​นี้?

      28 แม้​เอศเธระ​จะ​อายุ​ยัง​น้อย แต่​เธอ​ต้อง​แบก​รับ​ภาระ​ที่​หนัก​อึ้ง​หลาย​อย่าง เช่น การ​ออก​กฤษฎีกา​ที่​เกี่ยว​กับ​สงคราม​และ​การ​ประหาร​ชีวิต​เหล่า​ศัตรู. ภารกิจ​เหล่า​นี้​คง​ไม่​ง่าย​สำหรับ​เธอ. แต่​พระ​ยะโฮวา​ประสงค์​ให้​ชาติ​อิสราเอล​อยู่​ต่อ​ไป​จน​กว่า​พระ​มาซีฮา​จะ​มา​ประสูติ​เพราะ​ผู้​นี้​คือ​ความ​หวัง​เดียว​ของ​มนุษยชาติ พระองค์​จึง​ปก​ป้อง​ชาว​ยิว​ไม่​ให้​ถูก​ทำลาย​ล้าง. (เย. 22:18) อย่าง​ไร​ก็​ตาม ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​ใน​ทุก​วัน​นี้​ดีใจ​ที่​รู้​ว่า​เมื่อ​พระ​เยซู​เสด็จ​มา​ยัง​แผ่นดิน​โลก​ใน​ฐานะ​มาซีฮา พระองค์​สั่ง​สาวก​ว่า​ต้อง​ไม่​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​สงคราม​หรือ​การ​สู้​รบ​ใด ๆ.—มัด. 26:52

      29 กระนั้น คริสเตียน​ยัง​มี​การ​สู้​รบ​อีก​แบบ​หนึ่ง​คือ​การ​ต่อ​สู้​เพื่อ​ความ​เชื่อ และ​ซาตาน​ก็​ทุ่มเท​ความ​พยายาม​มาก​ขึ้น​กว่า​เดิม​เพื่อ​ทำลาย​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​ใน​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า. (อ่าน 2 โครินท์ 10:3, 4 ) นับ​ว่า​เป็น​ประโยชน์​จริง ๆ ที่​เรา​มี​เอศเธระ​เป็น​แบบ​อย่าง! ขอ​ให้​เรา​เลียน​แบบ​ความ​เชื่อ​ของ​เอศเธระ​โดย​ใช้​ศิลปะ​ใน​การ​โน้ม​น้าว​ใจ​อย่าง​รอบคอบ​และ​อด​ทน แสดง​ความ​กล้า​หาญ และ​เต็ม​ใจ​ปก​ป้อง​ประชาชน​ของ​พระเจ้า​อย่าง​ไม่​เห็น​แก่​ตัว.

      คำ​ถาม​เกี่ยว​กับ​เอศเธระ

      ทำไม​มาระดะคาย​ยอม​ให้​เอศเธระ​แต่งงาน​กับ​คน​ต่าง​ชาติ​ที่​ไม่​นมัสการ​พระเจ้า?

      ไม่​มี​หลักฐาน​ใด ๆ สนับสนุน​คำ​กล่าว​ของ​นัก​วิชาการ​บาง​คน​ที่​อ้าง​ว่า​มาระดะคาย​เป็น​นัก​ฉวย​โอกาส​ที่​ต้องการ​ให้​เอศเธระ​แต่งงาน​เพราะ​เห็น​แก่​เกียรติยศ​ชื่อเสียง. ใน​ฐานะ​ชาว​ยิว​ที่​ซื่อ​สัตย์ มาระดะคาย​คง​ไม่​เห็น​ด้วย​กับ​การ​แต่งงาน​นั้น. (บัญ. 7:3) คำ​สอน​สืบ​ปาก​ของ​ชาว​ยิว​โบราณ​บอก​ว่า​มาระดะคาย​พยายาม​ขัด​ขวาง​การ​แต่งงาน​ครั้ง​นี้. แต่​ดู​เหมือน​ว่า​ทั้ง​มาระดะคาย​และ​เอศเธระ​ไม่​มี​ทาง​เลือก เพราะ​พวก​เขา​เป็น​เพียง​ชน​ต่าง​ชาติ​ที่​มา​อาศัย​ใน​ดินแดน​ซึ่ง​กษัตริย์​มี​อำนาจ​สิทธิ์​ขาด​ราว​กับ​เทพเจ้า. เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป​ก็​เห็น​ได้​ชัด​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ใช้​การ​แต่งงาน​ของ​เอศเธระ​เป็น​ช่อง​ทาง​ใน​การ​ปก​ป้อง​ประชาชน​ของ​พระองค์.—เอศ. 4:14

      ทำไม​ไม่​มี​การ​เอ่ย​ถึง​พระ​นาม​ยะโฮวา นาม​เฉพาะ​ของ​พระเจ้า​ใน​หนังสือ​เอศเธระ?

      ดู​เหมือน​ว่า​มาระดะคาย​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ​ให้​เขียน​หนังสือ​นี้. ตอน​แรก​หนังสือ​เล่ม​นี้​อาจ​ถูก​รวม​ไว้​ใน​พงศาวดาร​ของ​เปอร์เซีย​ก่อน​จะ​ถูก​นำ​มา​ยัง​กรุง​เยรูซาเลม. การ​ใช้​พระ​นาม​ยะโฮวา​อาจ​ทำ​ให้​ชาว​เปอร์เซีย​ที่​นมัสการ​พระ​อื่น​โกรธ​แค้น​และ​ทำลาย​หนังสือ​นี้. แม้​มาระดะคาย​ไม่​ได้​ใช้​พระ​นาม​ยะโฮวา แต่​เรา​รู้​ว่า​พระองค์​ต้อง​มี​ส่วน​เกี่ยว​ข้อง​ใน​เรื่อง​นี้​อย่าง​แน่นอน. น่า​สนใจ ใน​ข้อ​ความ​ต้น​ฉบับ​ภาษา​ฮีบรู​มี​พระ​นาม​ของ​พระเจ้า​ซ่อน​อยู่​ใน​แบบ​อะครอสติก ซึ่ง​ถ้า​นำ​อักษร​ตัว​แรก​หรือ​ตัว​สุด​ท้าย​ของ​แต่​ละ​วรรค​มา​เรียง​กัน​ก็​จะ​ปรากฏ​เป็น​พระ​นาม​เฉพาะ​ของ​พระเจ้า.—เอศ. 1:20

      หนังสือ​เอศเธระ​ไม่​ลง​รอย​กับ​ประวัติศาสตร์​ไหม?

      บรรดา​นัก​วิจารณ์​ได้​ตั้ง​ข้อ​สงสัย​เช่น​นั้น. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ผู้​เชี่ยวชาญ​บาง​คน​สังเกต​ว่า​ผู้​เขียน​หนังสือ​นี้​ให้​ราย​ละเอียด​ที่​น่า​ทึ่ง​เกี่ยว​กับ​ราชสำนัก สถาปัตยกรรม และ​ธรรมเนียม​ประเพณี​ของ​ชาว​เปอร์เซีย. จริง​อยู่ ไม่​มี​การ​เอ่ย​ถึง​ราชินี​เอศเธระ​ใน​เอกสาร​ทาง​ประวัติศาสตร์​ที่​ยัง​หลง​เหลือ​อยู่ แต่​เธอ​ก็​ไม่​ใช่​สมาชิก​ราชวงศ์​เพียง​คน​เดียว​ที่​ถูก​ลบ​ชื่อ​ออก​จาก​พงศาวดาร​ที่​ประชาชน​ทั่ว​ไป​หา​อ่าน​ได้. นอก​จาก​นั้น บันทึก​ของ​นัก​ประวัติศาสตร์​ยัง​แสดง​ว่า ใน​สมัย​ที่​มี​การ​เขียน​หนังสือ​นี้ มี​ข้าราชสำนัก​คน​หนึ่ง​ใน​ราชวัง​ชูชาน​ชื่อ​มาร์ดูคา (ชื่อ​ภาษา​เปอร์เซีย​ของ​มาระดะคาย).

      คำ​พยากรณ์​ข้อ​หนึ่ง​สำเร็จ​เป็น​จริง

      ใน​การ​ต่อ​สู้​เพื่อ​ปก​ป้อง​ประชาชน​ของ​พระเจ้า เอศเธระ​กับ​มาระดะคาย​ได้​ทำ​ให้​คำ​พยากรณ์​อีก​ข้อ​หนึ่ง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​สำเร็จ​เป็น​จริง. กว่า 1,200 ปี​ก่อน​หน้า​นั้น พระ​ยะโฮวา​ดล​ใจ​ให้​ยาโคบ​ปฐม​บรรพบุรุษ​บอก​ล่วง​หน้า​เกี่ยว​กับ​บุตร​ชาย​คน​หนึ่ง​ดัง​นี้: “เบ็นยามิน​นั้น​เป็น​สุนัข​ป่า​ที่​เที่ยว​ยื้อ​แย่ง​อาหาร; เวลา​เช้า​ก็​กิน​เสีย, เวลา​เย็น​ก็​แบ่ง​ปัน​ของ​ที่​แย่ง​ชิง​ไว้.” (เย. 49:27) ใน “เวลา​เช้า” หรือ​ช่วง​ต้น​ประวัติศาสตร์​ชาติ​อิสราเอล​สมัย​ที่​มี​กษัตริย์​ปกครอง ลูก​หลาน​ตระกูล​เบนยามิน​ได้​แก่​กษัตริย์​ซาอูล​และ​นัก​รบ​ผู้​กล้า​คน​อื่น ๆ ที่​ต่อ​สู้​เพื่อ​ประชาชน​ของ​พระ​ยะโฮวา. ส่วน​ใน “เวลา​เย็น” หรือ​ช่วง​ปลาย​ของ​ประวัติศาสตร์​ซึ่ง​เป็น​ช่วง​ที่​ชาว​อิสราเอล​ไม่​มี​กษัตริย์​ปกครอง ลูก​หลาน​ตระกูล​เบนยามิน​สอง​คน​คือ​เอศเธระ​กับ​มาระดะคาย​ได้​ต่อ​สู้​และ​เอา​ชนะ​ศัตรู​ของ​พระ​ยะโฮวา. นอก​จาก​นี้ พวก​เขา​ได้​แบ่ง​ปัน​ของ​ที่​แย่ง​ชิง​มา​ใน​แง่​ที่​ว่า​พวก​เขา​ได้​ครอบครอง​ทรัพย์​สิน​มาก​มาย​ของ​ฮามาน.

      a กษัตริย์​อนุญาต​ให้​ชาว​ยิว​กวาด​ล้าง​ศัตรู​เพิ่ม​อีก​หนึ่ง​วัน. (เอศ. 9:12-14) จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้ ชาว​ยิว​ยัง​คง​ฉลอง​ชัย​ชนะ​ครั้ง​นั้น​ใน​เดือน​อะดาร์​ของ​ทุก​ปี​ซึ่ง​ตรง​กับ​ช่วง​ปลาย​เดือน​กุมภาพันธ์​ถึง​ต้น​เดือน​มีนาคม. เทศกาล​นี้​เรียก​ว่า​พู​ริม (ฟูริม) ซึ่ง​ตั้ง​ชื่อ​ตาม​ฉลาก​ที่​ฮามาน​ใช้​กำหนด​วัน​ฆ่า​ล้าง​เผ่า​พันธุ์​ชาว​อิสราเอล.

      ข้อ​ชวน​คิด . . .

      • เอศเธระ​แสดง​อย่าง​ไร​ว่า​เธอ​ฉลาด​สุขุม​ใน​การ​เลือก “วาระ​พูด”?

      • ความ​อด​ทน​ของ​เอศเธระ​มี​ประโยชน์​อย่าง​ไร?

      • เอศเธระ​แสดง​อย่าง​ไร​ว่า​เธอ​กล้า​หาญ​และ​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​ใน​การ​ปก​ป้อง​ประชาชน​ของ​เธอ?

      • คุณ​ตั้งใจ​จะ​เลียน​แบบ​ความ​เชื่อ​ของ​เอศเธระ​ใน​ทาง​ใด​บ้าง?

หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
ออกจากระบบ
เข้าสู่ระบบ
  • ไทย
  • แชร์
  • การตั้งค่า
  • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
  • เงื่อนไขการใช้งาน
  • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
  • JW.ORG
  • เข้าสู่ระบบ
แชร์