-
ส่วนที่ 1 ความเชื่อของคริสเตียนรวบรวมเป็นองค์การเพื่อทำตามความประสงค์ของพระยะโฮวา
-
-
คำถามสำหรับผู้ที่ต้องการจะรับบัพติศมา
ส่วนที่ 1 ความเชื่อของคริสเตียน
เมื่อคุณศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับพยานพระยะโฮวา คุณก็ได้มาคุ้นเคยกับความจริง แน่นอนว่า สิ่งที่คุณได้เรียนทำให้คุณมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระเจ้า คุณมีความหวังเกี่ยวกับชีวิตในอนาคตและได้รับพรที่จะได้อยู่ในโลกที่เป็นสวนอุทยานที่รัฐบาลของพระเจ้าปกครอง นอกจากนั้น ความเชื่อที่คุณมีต่อคำสอนของพระเจ้าก็มั่นคงยิ่งขึ้น คุณได้รับพรมากมายจากการสมทบกับประชาคมคริสเตียนและได้มาเข้าใจวิธีที่พระยะโฮวาปฏิบัติกับประชาชนของพระองค์ในปัจจุบัน—ศคย. 8:23
เมื่อคุณเตรียมตัวที่จะรับบัพติศมา คุณจะได้ประโยชน์จากการทบทวนความเชื่อพื้นฐานของคริสเตียนกับผู้ดูแลในประชาคม (ฮบ. 6:1-3) ขอให้พระยะโฮวาอวยพรคุณต่อ ๆ ไปเมื่อคุณพยายามอย่างสุดกำลังที่จะรับความรู้เกี่ยวกับพระองค์ และขอให้คุณได้รับรางวัลจากพระองค์ตามที่สัญญาไว้—ยน. 17:3
1. ทำไมคุณอยากรับบัพติศมา?
2. พระยะโฮวาเป็นใคร?
• “พระยะโฮวาเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ พระองค์เป็นพระเจ้าทั้งในสวรรค์และบนโลก ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก”—ฉธบ. 4:39
• “พระยะโฮวา เป็นพระเจ้าองค์สูงสุดแต่องค์เดียวที่ปกครองทั่วทั้งโลก”—สด. 83:18
3. ทำไมสำคัญที่คุณจะใช้ชื่อของพระเจ้า?
• “คุณควรจะอธิษฐานตามแบบนี้ว่า ‘พระเจ้า พ่อของพวกเราในสวรรค์ ขอให้ชื่อของพระองค์เป็นที่เคารพนับถืออยู่เสมอ’”—มธ. 6:9
• “ทุกคนที่อ้อนวอนโดยออกชื่อของพระยะโฮวาจะรอด”—รม. 10:13
4. คัมภีร์ไบเบิลใช้ตำแหน่งอะไรบ้างกับพระยะโฮวา?
• “พระยะโฮวาผู้สร้างทุกสิ่งบนโลกเป็นพระเจ้าที่มีชีวิตอยู่ตลอดไป”—อสย. 40:28
• “พ่อของพวกเราในสวรรค์”—มธ. 6:9
• “พระเจ้าเป็นความรัก”—1 ยน. 4:8
5. คุณสามารถให้อะไรกับพระยะโฮวาพระเจ้า?
• “คุณต้องรักพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณสุดหัวใจ สุดชีวิต สุดความคิด และสุดกำลัง”—มก. 12:30
• “คุณต้องนมัสการพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ และรับใช้พระองค์ผู้เดียว”—ลก. 4:8
6. ทำไมคุณอยากภักดีต่อพระยะโฮวา?
• “ลูกของเรา ขอให้ฉลาดขึ้นและทำให้เราดีใจ เพื่อเราจะตอบคนที่เยาะเย้ยเราได้”—สภษ. 27:11
7. คุณอธิษฐานถึงใคร และในนามของใคร?
• “ถ้าพวกคุณขออะไรจากพระเจ้าผู้เป็นพ่อในนามของผม [พระเยซู] พระองค์จะให้สิ่งนั้นกับพวกคุณ”—ยน. 16:23
8. คุณอธิษฐานเรื่องอะไรได้บ้าง?
• “คุณควรจะอธิษฐานตามแบบนี้ว่า ‘พระเจ้า พ่อของพวกเราในสวรรค์ ขอให้ชื่อของพระองค์เป็นที่เคารพนับถืออยู่เสมอ ขอให้รัฐบาลของพระองค์มาปกครอง และขอให้ทุกอย่างบนโลกและบนสวรรค์เป็นอย่างที่พระองค์อยากให้เป็น ขอให้พวกเรามีอาหารกินในวันนี้ ขอพระองค์ยกโทษให้พวกเรา อย่างที่พวกเรายกโทษให้คนที่ทำผิดต่อพวกเรา ขอพระองค์ช่วยปกป้องพวกเราไว้จากซาตานตัวชั่วร้าย และช่วยให้เอาชนะการล่อใจได้’”—มธ. 6:9-13
• “เรามั่นใจในพระเจ้าว่า ถ้าเราขออะไรก็ตามที่สอดคล้องกับความประสงค์ของพระองค์ พระองค์จะฟังเรา”—1 ยน. 5:14
9. ทำไมพระยะโฮวาอาจไม่ฟังเมื่อบางคนอธิษฐาน?
• “พวกคุณจะร้องขอให้พระยะโฮวาช่วย แต่พระองค์จะไม่ช่วย . . . เพราะพวกคุณทำชั่ว”—มคา. 3:4
• “ตาของพระยะโฮวาเฝ้าดูคนทำดี หูของพระองค์ก็คอยฟังเมื่อพวกเขาอ้อนวอน แต่พระยะโฮวาหันหน้าต่อสู้คนทำชั่ว”—1 ปต. 3:12
10. พระเยซูคริสต์เป็นใคร?
• “ซีโมนเปโตรตอบว่า ‘ท่านเป็นพระคริสต์ ลูกของพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่’”—มธ. 16:16
11. ทำไมพระเยซูมาบนโลก?
• “‘ลูกมนุษย์’ ไม่ได้มาให้คนอื่นรับใช้ แต่มารับใช้คนอื่น และสละชีวิตเป็นค่าไถ่ให้คนมากมาย”—มธ. 20:28
• “ผม [พระเยซู] ต้องประกาศข่าวดีเรื่องรัฐบาลของพระเจ้าที่เมืองอื่นด้วย เพราะพระเจ้าส่งผมมาเพื่อทำงานนี้”—ลก. 4:43
12. คุณจะแสดงว่าขอบคุณสำหรับค่าไถ่ของพระเยซูได้อย่างไร?
• “พระคริสต์ตายเพื่อทุกคน เพื่อคนที่มีชีวิตอยู่จะไม่ใช้ชีวิตเพื่อตัวเองอีกต่อไป แต่จะอยู่เพื่อท่านที่ตายแทนเขาและถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตายแล้ว”—2 คร. 5:15
13. พระเยซูมีอำนาจอะไรบ้าง?
• “พระเจ้ามอบอำนาจให้ผมปกครองทุกสิ่งในสวรรค์และบนโลกนี้แล้ว”—มธ. 28:18
• “พระเจ้ายกฐานะท่านให้สูงขึ้นและมอบชื่อที่ยิ่งใหญ่กว่าชื่ออื่นทั้งหมดให้ท่าน”—ฟป. 2:9
14. คุณเชื่อไหมว่าคณะกรรมการปกครองของพยานพระยะโฮวาเป็น “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม” ที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระเยซู?
• “ใครเป็นทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุมที่นายตั้งไว้ให้ดูแลพวกคนรับใช้ และแจกจ่ายอาหารแก่พวกเขาตามเวลาที่เหมาะสม?”—มธ. 24:45
15. พลังบริสุทธิ์เป็นบุคคลไหม?
• “ทูตสวรรค์ตอบเธอว่า ‘คุณจะได้รับพลังบริสุทธิ์ของพระเจ้า และฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าองค์สูงสุดจะปกคลุมคุณไว้ ดังนั้น เด็กที่เกิดมาจะได้ชื่อว่าเป็นผู้บริสุทธิ์และเป็นลูกของพระเจ้า’”—ลก. 1:35
• “ในเมื่อคุณที่เป็นคนบาปยังรู้จักให้ของดีกับลูก แล้วพระเจ้าผู้เป็นพ่อในสวรรค์จะไม่ให้พลังบริสุทธิ์กับคนที่ขอพระองค์หรือ?”—ลก. 11:13
16. พระยะโฮวาใช้พลังบริสุทธิ์ของพระองค์อย่างไร?
• “พระยะโฮวาสร้างฟ้าสวรรค์ด้วยคำพูด พระองค์สร้างทุกสิ่งในนั้นด้วยลมจากปากของพระองค์”—สด. 33:6
• “พวกคุณจะได้รับพลังจากพระเจ้า พลังบริสุทธิ์นั้นจะอยู่กับพวกคุณ และพวกคุณจะเป็นพยานของผม . . . จนถึงสุดขอบโลก”—กจ. 1:8
• “ไม่มีคำพยากรณ์เรื่องไหนในพระคัมภีร์เกิดจากความคิดส่วนตัว คำพยากรณ์ทุกเรื่องไม่ได้มีขึ้นตามใจมนุษย์ แต่มนุษย์พูดสิ่งที่มาจากพระเจ้าตามที่พลังบริสุทธิ์ของพระองค์ชี้นำ”—2 ปต. 1:20, 21
17. รัฐบาลของพระเจ้าคืออะไร?
• “พระเจ้าในสวรรค์จะตั้งรัฐบาลหนึ่งซึ่งจะไม่มีวันถูกทำลาย และรัฐบาลนี้จะไม่ตกเป็นของคนชาติไหน แต่รัฐบาลนี้จะทำลายอาณาจักรทั้งหมดนั้นให้สูญสิ้นไป และจะเป็นรัฐบาลเดียวที่คงอยู่ตลอดไป”—ดนล. 2:44
18. รัฐบาลของพระเจ้าจะทำอะไรเพื่อคุณบ้าง?
• “พระเจ้าจะเช็ดน้ำตาทุกหยดจากตาของพวกเขา ความตายจะไม่มีอีกต่อไป ความโศกเศร้าหรือเสียงร้องไห้เสียใจหรือความเจ็บปวดจะไม่มีอีกเลย สิ่งที่เคยมีอยู่นั้นผ่านพ้นไปแล้ว”—วว. 21:4
19. คุณรู้ได้อย่างไรว่าอีกไม่นานรัฐบาลของพระเจ้าจะทำสิ่งดี ๆ บนโลกนี้?
• “พวกสาวกเข้ามาถามท่านเป็นส่วนตัวว่า ‘ช่วยบอกหน่อยได้ไหมครับว่า เรื่องนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และจะมีอะไรเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าท่านประทับอยู่และบอกให้รู้ว่าเราอยู่ในสมัยสุดท้ายของโลกนี้?’” พระเยซูตอบพวกเขาว่า “จะมีการสู้รบกันระหว่างประเทศต่อประเทศและอาณาจักรต่ออาณาจักร จะเกิดการขาดแคลนอาหารหลายแห่ง และจะเกิดแผ่นดินไหวในที่ต่าง ๆ จะมีการประกาศข่าวดีเรื่องรัฐบาลของพระเจ้าไปทั่วโลก เพื่อให้คนทุกชาติมีโอกาสได้ยิน แล้วจุดจบก็จะมาถึง”— มธ. 24:3, 4, 7, 14
• “ในสมัยสุดท้ายจะเป็นช่วงเวลาวิกฤติที่มีแต่ความยุ่งยากลำบาก เพราะคนจะเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน ชอบโอ้อวด เย่อหยิ่ง หมิ่นประมาท ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ อกตัญญู ไม่ภักดี ไม่รักญาติพี่น้อง ไม่ยอมใคร ชอบใส่ร้ายคนอื่น ไม่ควบคุมตัวเอง ดุร้าย เกลียดสิ่งที่ดี เป็นคนทรยศ หัวดื้อ อวดดี เป็นคนรักสนุกมากกว่ารักพระเจ้า เป็นคนเคร่งศาสนาแค่เปลือกนอก แต่ไม่ได้ใช้ชีวิตตามคำสอนของศาสนา ขอให้คุณอยู่ห่าง ๆ คนพวกนั้นไว้”—2 ทธ. 3:1-5
20. คุณจะแสดงอย่างไรว่ารัฐบาลของพระเจ้าสำคัญสำหรับคุณ?
• “ดังนั้น คุณต้องทำให้การปกครองของพระเจ้าและความถูกต้องชอบธรรมของพระองค์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต”—มธ. 6:33
• “พระเยซูบอกพวกสาวกว่า ‘ถ้าใครอยากติดตามผม ก็ให้คนนั้นเลิกใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง ยอมแบกเสาทรมานของตัวเอง แล้วติดตามผมเรื่อยไป’”—มธ. 16:24
21. ซาตานและพวกปีศาจเป็นใคร?
• “พวกคุณมาจากมารซึ่งเป็นพ่อของพวกคุณ . . . มันเป็นฆาตกรตั้งแต่แรก”—ยน. 8:44
• “พญานาคใหญ่ถูกเหวี่ยงลงมาบนโลก ทูตสวรรค์ที่อยู่ฝ่ายมันก็ถูกเหวี่ยงลงมาด้วย พญานาคใหญ่คืองูตัวแรกนั้นที่ถูกเรียกว่ามารและซาตานซึ่งกำลังหลอกลวงทั้งโลกให้หลงผิด”—วว. 12:9
22. ซาตานกล่าวหาพระยะโฮวาและคนที่นมัสการพระองค์เรื่องอะไร?
• “ผู้หญิงตอบงูว่า ‘ผลไม้ในสวนนี้พวกเรากินได้ แต่พระเจ้าพูดถึงผลของต้นที่อยู่กลางสวนว่า “ห้ามกินผลจากต้นนั้น อย่าแม้แต่จะไปแตะต้อง ไม่อย่างนั้น พวกเจ้าจะต้องตาย”’ งูจึงพูดกับผู้หญิงว่า ‘พวกคุณจะไม่ตายหรอก จริง ๆ แล้วพระเจ้าก็รู้ว่า ในวันที่พวกคุณกินผลของต้นนั้น พวกคุณจะตาสว่างและจะเป็นเหมือนพระเจ้า รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว’”—ปฐก. 3:2-5
• “ซาตานตอบพระยะโฮวาว่า ‘หนังแทนหนัง มนุษย์ยอมสละได้ทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอด’”—โยบ 2:4
23. คุณจะพิสูจน์อย่างไรว่าข้อกล่าวหาของซาตานเป็นเรื่องไม่จริง?
• “รับใช้ [พระเจ้า] อย่างสุดหัวใจ”—1 พศ. 28:9
• “ผมจะไม่มีวันบอกว่าพวกคุณเป็นฝ่ายถูก และผมจะซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าจนวันตาย!”—โยบ 27:5
24. ทำไมคนเราตาย?
• “บาปเข้ามาในโลกเพราะคนคนเดียว และความตายเกิดขึ้นเพราะบาปนั้น ความตายจึงลามไปถึงทุกคนเพราะทุกคนเป็นคนบาป”—รม. 5:12
25. คนตายเป็นอย่างไร?
• “คนเป็นรู้ว่าเขาจะตาย แต่คนตายไม่รู้อะไรเลย”—ปญจ. 9:5
26. มีความหวังอะไรสำหรับคนตาย?
• “ความหวังของผมก็คือทั้งคนดีและคนชั่วจะฟื้นขึ้นจากตาย”—กจ. 24:15
27. มีคนไปสวรรค์เพื่อปกครองกับพระเยซูกี่คน?
• “ลูกแกะของพระเจ้ายืนอยู่บนภูเขาศิโยน และมีคน 144,000 คนอยู่กับท่าน พวกเขามีชื่อของท่านและชื่อของพ่อท่านเขียนไว้บนหน้าผาก”—วว. 14:1
-
-
ส่วนที่ 2 ชีวิตคริสเตียนรวบรวมเป็นองค์การเพื่อทำตามความประสงค์ของพระยะโฮวา
-
-
คำถามสำหรับผู้ที่ต้องการจะรับบัพติศมา
ส่วนที่ 2 ชีวิตคริสเตียน
เมื่อคุณศึกษาคัมภีร์ไบเบิล คุณได้รู้ว่าพระยะโฮวาอยากให้คุณทำอะไรและคุณจะทำอย่างไรเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ถูกต้องชอบธรรมของพระองค์ คุณอาจต้องปรับเปลี่ยนความคิดเรื่องชีวิตและการกระทำหลายอย่างเพื่อทำตามสิ่งที่เรียนรู้ ตอนนี้คุณตัดสินใจแน่วแน่ที่จะใช้ชีวิตตามมาตรฐานที่ถูกต้องชอบธรรมของพระยะโฮวา คุณจึงมีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้รับใช้ที่พระองค์ยอมรับซึ่งก็คือเป็นผู้ประกาศข่าวดี
การทบทวนคำถามต่อไปนี้จะช่วยคุณให้คิดเสมอว่าพระยะโฮวาต้องการอะไร และจะทำให้คุณคิดถึงบางสิ่งที่คุณทำได้เพื่อจะเป็นผู้รับใช้ที่พระองค์ยอมรับ ความรู้นี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าการทำตามความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและการทำให้พระยะโฮวาได้รับเกียรติเป็นเรื่องสำคัญมากจริง ๆ—2 คร. 1:12; 1 ทธ. 1:19; 1 ปต. 3:16, 21
เมื่อคุณศึกษามาถึงตรงนี้ คุณคงอยากเข้ามาอยู่ใต้การปกครองของพระยะโฮวาและมาเป็นส่วนหนึ่งขององค์การพระองค์แน่ ๆ คำถามและข้อคัมภีร์ที่เกี่ยวข้องจะช่วยคุณให้ตรวจสอบความเข้าใจของคุณเองเกี่ยวกับการเชื่อฟังการจัดเตรียมของพระยะโฮวาทั้งในประชาคม ครอบครัว หรือในเรื่องการเมืองของโลกนี้ ไม่ต้องสงสัยว่าคุณเห็นค่าการจัดเตรียมของพระยะโฮวาอย่างมากที่สอนประชาชนของพระองค์และช่วยให้พวกเขามีความเชื่อเข้มแข็ง นี่รวมถึงการประชุมต่าง ๆ ในประชาคมที่คุณอยากเข้าร่วมและอยากมีส่วนร่วมเท่าที่สภาพการณ์เอื้ออำนวย
นอกจากนั้น ส่วนนี้จะพิจารณาความสำคัญของการมีส่วนร่วมในงานประกาศเรื่องรัฐบาลของพระเจ้าเป็นประจำ เพื่อช่วยคนอื่นให้รู้จักพระยะโฮวาและสิ่งที่พระองค์ทำเพื่อมนุษย์ (มธ. 24:14; 28:19, 20) ยิ่งกว่านั้น ส่วนนี้จะเตือนใจคุณให้คิดถึงความสำคัญของการอุทิศตัวให้พระยะโฮวาพระเจ้าและการรับบัพติศมาของคุณ คุณมั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาเห็นค่าที่คุณตอบรับความกรุณาที่ยิ่งใหญ่ที่พระองค์แสดงต่อคุณ
1. มาตรฐานในเรื่องการสมรสของคริสเตียนคืออะไร? เหตุผลเดียวตามหลักการในคัมภีร์ไบเบิลที่ให้หย่าได้คืออะไร?
• “พวกคุณไม่ได้อ่านหรือว่า ในตอนแรก พระเจ้าได้สร้างมนุษย์เป็นผู้ชายและผู้หญิง และพระองค์บอกว่า ‘ดังนั้น ผู้ชายจะจากพ่อแม่ไปผูกพันใกล้ชิดกับภรรยา แล้วทั้งสองจะเป็นหนึ่งเดียว’ พวกเขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นคนคนเดียวกัน ดังนั้น สิ่งที่พระเจ้าผูกไว้คู่กันแล้ว อย่าให้มนุษย์ทำให้แยกจากกันเลย . . . คนที่หย่ากับภรรยาแล้วไปแต่งงานใหม่ก็ถือว่าเขามีชู้ นอกจากเขาหย่าเพราะภรรยาทำผิดศีลธรรมทางเพศ”—มธ. 19:4-6, 9
2. ทำไมคนที่เป็นสามีภรรยากันควรจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย? ถ้าคุณแต่งงานแล้ว คุณได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายบ้านเมืองไหม?
• “ให้คุณคอยเตือนพวกเขาให้ยอมอยู่ใต้อำนาจและเชื่อฟังรัฐบาลและผู้มีอำนาจปกครอง”—ทต. 3:1
• “ให้ชีวิตสมรสเป็นแบบที่น่านับถือในสายตาของทุกคน และให้สามีภรรยาซื่อสัตย์ต่อกัน เพราะพระเจ้าจะตัดสินลงโทษคนทำผิดศีลธรรมทางเพศและคนเล่นชู้”—ฮบ. 13:4
3. คุณมีหน้าที่อะไรบ้างในครอบครัว?
• “ลูกพ่อ ลูกต้องเชื่อฟังคำสอนของพ่อ และอย่าละเลยคำสั่งของแม่”—สภษ. 1:8
• “สามีเป็นผู้นำของภรรยาเหมือนที่พระคริสต์เป็นผู้นำของประชาคม . . . สามี ก็ให้รักภรรยาเสมอเหมือนที่พระคริสต์รักประชาคม”—อฟ. 5:23, 25
• “คนที่เป็นพ่อก็อย่ายั่วลูกให้หงุดหงิด แต่ให้เลี้ยงดูเขาด้วยคำสั่งสอนและคำตักเตือนจากพระยะโฮวา”—อฟ. 6:4
• “คนที่เป็นลูก ให้เชื่อฟังพ่อแม่เสมอ เพราะนั่นทำให้พระคริสต์พอใจ”—คส. 3:20
• “ให้พวกคุณที่เป็นภรรยายอมเชื่อฟังสามี”—1 ปต. 3:1
4. ทำไมเราควรแสดงความนับถือต่อชีวิต?
• “[พระเจ้า] เป็นผู้ที่ให้ชีวิต ลมหายใจ และทุกสิ่งทุกอย่างกับมนุษย์ทุกคน . . . เรามีชีวิตอยู่และเคลื่อนไหวไปมาได้ก็เพราะพระองค์”—กจ. 17: 25, 28
5. ทำไมเราไม่ควรฆ่าคน รวมถึงเด็กที่ยังไม่เกิดด้วย?
• “ถ้ามีคนต่อสู้กัน และบังเอิญไปโดนผู้หญิงท้อง . . . แต่ถ้าถึงตาย ต้องให้ชีวิตแทนชีวิต”—อพย. 21:22, 23
• “พระองค์เห็นผมตอนที่ยังเป็นตัวอ่อน พระองค์จดร่างกายทุกส่วนของผมไว้ในสมุดของพระองค์ ว่าอวัยวะเหล่านั้นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเมื่อไร พระองค์เขียนไว้ก่อนจะมีอวัยวะเหล่านั้นด้วยซ้ำ”—สด. 139:16
• “พระยะโฮวาเกลียดชัง . . . มือที่ฆ่าคนไม่มีความผิด”—สภษ. 6:16, 17
6. พระเจ้าสั่งไว้อย่างไรในเรื่องเลือด?
• “งดเว้น . . . จากเลือด [และ] จากสัตว์ที่ถูกรัดคอตาย”—กจ. 15:29
7. ทำไมเราต้องรักพี่น้องคริสเตียน?
• “ผมให้กฎหมายใหม่กับพวกคุณ คือ ให้พวกคุณรักกัน ผมรักพวกคุณอย่างไร ก็ให้พวกคุณรักกันอย่างนั้นด้วย ทุกคนจะรู้ว่าพวกคุณเป็นสาวกของผม เมื่อพวกคุณรักกัน”—ยน. 13:34, 35
8. เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่โรคติดต่อหรือแพร่เชื้อโรคที่ร้ายแรงถึงตาย (ก) ทำไมผู้ติดเชื้อไม่ควรริเริ่มแสดงความรักต่อคนอื่น เช่น การกอดหรือจูบ? (ข) ทำไมไม่ควรแสดงท่าทางไม่พอใจเมื่อบางคนเลือกที่จะไม่เชิญเขาเข้าไปในบ้าน? (ค) ทำไมคนที่อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดต่อควรเต็มใจรับการตรวจเลือดก่อนจะเริ่มคบหาเป็นแฟนกัน? (ง) ทำไมคนที่เป็นโรคติดต่อควรบอกผู้ประสานงานคณะผู้ดูแลก่อนจะรับบัพติศมา?
• “อย่าเป็นหนี้อะไรใครเลยนอกจากหนี้ความรักที่ควรให้ต่อกัน . . . ‘ให้รักคนอื่นเหมือนรักตัวเอง’ คนที่มีความรักไม่ทำชั่วต่อคนอื่น”—รม. 13:8-10
• “อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้น ให้เห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นด้วย”—ฟป. 2:4
9. ทำไมพระยะโฮวาคาดหมายให้เราให้อภัยคนอื่น?
• “ถ้าใครมีสาเหตุจะบ่นคนอื่น ก็ขอให้ทนกันและกัน และให้อภัยกันอย่างใจกว้างต่อไป พวกคุณต้องเต็มใจให้อภัยกันเหมือนที่พระยะโฮวาเต็มใจให้อภัยคุณ”—คส. 3:13
10. คุณควรทำอย่างไรถ้าพี่น้องโกงหรือพูดใส่ร้ายคุณ?
• “ถ้ามีคนทำผิดต่อคุณ ให้ไปคุยกับเขาเป็นส่วนตัวก่อนและบอกให้เขารู้ว่าเขาทำผิดอะไร ถ้าเขาฟังคุณ คุณก็ได้ช่วยเขาให้ทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่ถ้าเขาไม่ฟัง ให้พาอีกคนหนึ่งหรือสองคนไปด้วย เพื่อทุกเรื่องที่คุยกันจะได้มีพยานยืนยันสองหรือสามปาก ถ้าเขายังไม่ฟัง ให้บอกกับประชาคม แต่ถ้าเขายังไม่ยอมฟังประชาคมอีก ก็ให้ถือว่าเขาเป็นเหมือนคนทั่วไปในโลกและเหมือนคนเก็บภาษี”—มธ. 18:15-17
11. พระยะโฮวามองบาปต่อไปนี้อย่างไร?
▪ ผิดศีลธรรมทางเพศ
▪ ไหว้รูปเคารพ
▪ รักร่วมเพศ
▪ ขโมย
▪ เล่นการพนัน
▪ เมาเหล้า
• “อย่าหลอกตัวเองเลย คนทำผิดศีลธรรมทางเพศ คนไหว้รูปเคารพ คนเล่นชู้ ผู้ชายที่สนองความใคร่ผู้ชายด้วยกัน ผู้ชายรักร่วมเพศ ขโมย คนโลภ คนขี้เมา คนปากร้าย และคนชอบรีดไถ จะไม่ได้รับรัฐบาลของพระเจ้า”—1 คร. 6:9, 10
12. ในเรื่องการผิดศีลธรรมทางเพศ ซึ่งรวมถึงเพศสัมพันธ์รูปแบบต่าง ๆ กับคนที่ไม่ได้แต่งงานกัน คุณตั้งใจจะทำอะไร?
• “พวกคุณต้องหนีให้ไกลจากการผิดศีลธรรมทางเพศ”—1 คร. 6:18
13. ทำไมเราไม่ควรใช้สารทุกชนิดที่ทำให้ติดหรือมีผลต่อจิตประสาท เว้นแต่เพื่อการรักษาโรค?
• “ให้ถวายร่างกายเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต ที่บริสุทธิ์ ที่พระเจ้ายอมรับได้ การทำอย่างนี้เป็นการรับใช้ที่ศักดิ์สิทธิ์โดยใช้ความสามารถในการคิดหาเหตุผลของคุณ และเลิกเลียนแบบคนในโลกนี้ แต่ให้เปลี่ยนแปลงตัวเองโดยเปลี่ยนความคิดของคุณใหม่ เพื่อคุณจะได้ตรวจดูจนแน่ใจว่าอะไรคือสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้เราทำซึ่งเป็นสิ่งที่ดี สมบูรณ์ และทำให้พระองค์พอใจ”—รม. 12:1, 2
14. พระเจ้าห้ามกิจกรรมอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับพวกผีปีศาจ?
• “อย่าให้ใคร . . . เป็นผู้ทำนายโชคชะตา ใช้เวทมนตร์ ถือโชคลาง และทำตัวเป็นพ่อมด อย่าให้มีคนทำคาถาอาคม ปรึกษาคนทรงหรือหมอดู และอย่าติดต่อคนตาย”—ฉธบ. 18:10, 11
15. ถ้าคนหนึ่งทำผิดร้ายแรงและต้องการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระยะโฮวาอีกครั้ง เขาต้องทำอะไรทันที?
• “ผมก็สารภาพบาปต่อพระองค์ ผมไม่ปกปิดความผิดของผม ผมพูดว่า ‘ผมจะสารภาพผิดต่อพระยะโฮวา’”—สด. 32:5
• “มีใครในพวกคุณป่วยไหม? ก็ให้เขาเชิญพวกผู้ดูแลในประชาคมมาหา แล้วขอให้ผู้ดูแลอธิษฐานเพื่อเขาและเอาน้ำมันทาให้เขาในนามของพระยะโฮวา การอธิษฐานด้วยความเชื่อจะทำให้คนป่วยหายดี และพระยะโฮวาจะทำให้เขาฟื้นตัว ถ้าเขาได้ทำบาป พระองค์ก็จะให้อภัยเขา”—ยก. 5:14, 15
16. คุณควรทำอะไรถ้ารู้ว่าพี่น้องทำบาปร้ายแรง?
• “ถ้าใครทำบาปเพราะได้ยินคำประกาศให้มาให้การเป็นพยาน แต่เขาไม่มาให้การทั้ง ๆ ที่เขาเองเป็นพยานหรือรู้เห็นเรื่องนั้น เขาจะต้องถูกลงโทษเพราะความผิดนี้”—ลนต. 5:1
17. ถ้ามีคำประกาศว่าบางคนไม่ได้เป็นพยานพระยะโฮวาอีกต่อไป คุณควรปฏิบัติต่อเขาอย่างไร?
• “ให้เลิกคบกับคนที่เป็นพี่น้องแล้ว แต่กลับเป็นคนทำผิดศีลธรรมทางเพศ คนโลภ คนไหว้รูปเคารพ คนปากร้าย คนขี้เมา หรือคนชอบรีดไถ แม้แต่จะกินอะไรกับคนแบบนั้นก็อย่าเลย”—1 คร. 5:11
• “ถ้ามีใครมาหาพวกคุณแต่สอนสิ่งที่ขัดแย้งกับคำสอนของพระคริสต์ อย่าเชิญเขาเข้าบ้านและอย่าทักทายเขา”—2 ยน. 10
18. ทำไมเพื่อนสนิทของคุณควรเป็นคนที่รักพระยะโฮวา?
• “คนที่คบกับคนฉลาดจะฉลาด แต่คนที่คบกับคนโง่จะเดือดร้อน”—สภษ. 13:20
• “อย่าให้ใครมาหลอกได้ การคบคนไม่ดีทำให้นิสัยดี ๆ เสียไป”—1 คร. 15:33
19. ทำไมพยานพระยะโฮวาเป็นกลางทางการเมือง?
• “พวกเขาไม่ได้เป็นคนของโลก เหมือนที่ผม [พระเยซู] ไม่ได้เป็นคนของโลก”—ยน. 17:16
20. ทำไมคุณควรเชื่อฟังรัฐบาล?
• “ให้ทุกคนยอมเชื่อฟังคนที่มีอำนาจปกครอง เพราะไม่มีใครมีอำนาจได้เลยถ้าพระเจ้าไม่อนุญาต คนที่มีอำนาจปกครองนั้นอยู่ในตำแหน่งสูงต่ำได้เพราะพระเจ้า”—รม. 13:1
21. คุณจะทำอย่างไรถ้ากฎหมายของมนุษย์ขัดแย้งกับกฎหมายของพระเจ้า?
• “พระเจ้าเป็นผู้ปกครองสูงสุด พวกเราต้องเชื่อฟังพระเจ้ามากกว่ามนุษย์”—กจ. 5:29
22. ข้อคัมภีร์ไหนจะช่วยคุณไม่ให้เป็นส่วนของโลกเมื่อเลือกงานอาชีพ?
• “ชาติต่าง ๆ จะไม่ถือดาบเข่นฆ่ากัน และจะไม่เรียนทำสงครามอีกต่อไป”—มคา. 4:3
• “ประชาชนของเรา พวกคุณต้องออกมาจากเมืองนี้ [บาบิโลนใหญ่] ถ้าไม่อยากมีส่วนร่วมในบาปของเมืองนี้และรับภัยพิบัติพร้อมกับเมืองนี้”—วว. 18:4
23. คุณจะเลือกความบันเทิงและการพักผ่อนหย่อนใจแบบไหน และแบบไหนที่คุณจะปฏิเสธ?
• “พระยะโฮวา . . . เกลียดคนที่ชอบความรุนแรง”—สด. 11:5
• “ให้เกลียดสิ่งที่ชั่ว และยึดมั่นกับสิ่งที่ดี”—รม. 12:9
• “อะไรที่จริง อะไรที่สำคัญ อะไรที่ถูกต้อง อะไรที่บริสุทธิ์ อะไรที่น่ารัก อะไรที่น่าชมเชย อะไรที่ดี และอะไรที่น่ายกย่อง ให้คิดถึงสิ่งเหล่านั้นเสมอ”—ฟป. 4:8
24. ทำไมพยานพระยะโฮวาไม่นมัสการร่วมกับกลุ่มศาสนาอื่น ๆ?
• “คุณจะดื่มจากถ้วยของพระยะโฮวาและจากถ้วยของปีศาจด้วยไม่ได้ คุณจะกินของจาก ‘โต๊ะของพระยะโฮวา’ และจากโต๊ะของปีศาจด้วยก็ไม่ได้”—1 คร. 10:21
• “พระยะโฮวาจึงสั่งว่า ‘ . . . แยกอยู่ต่างหาก เลิกแตะต้องสิ่งที่ไม่สะอาด’ ‘และเราจะรับพวกเจ้าไว้’”—2 คร. 6:17
25. มีหลักการอะไรบ้างที่จะช่วยคุณตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมในการเฉลิมฉลองหรือไม่?
• “พวกเขาไปคบหากับชาติต่าง ๆ และเอาอย่างคนพวกนั้น พวกเขากราบไหว้รูปเคารพของคนพวกนั้น รูปเคารพจึงกลายเป็นบ่วงแร้วดักพวกเขา”—สด. 106:35, 36
• “คนตายไม่รู้อะไรเลย”—ปญจ. 9:5
• “พวกเขาไม่ได้เป็นคนของโลก เหมือนที่ผมไม่ได้เป็นคนของโลก”—ยน. 17:16
• “ที่ผ่านมา พวกคุณใช้ชีวิตตามใจผู้คนในโลกมามากพอแล้ว ตอนนั้นพวกคุณประพฤติไร้ยางอาย ปล่อยตัวไปกับความต้องการผิด ๆ ดื่มเหล้ามากเกินไป กินเลี้ยงเฮฮากันจนสุดเหวี่ยง แข่งกันดื่ม และไหว้รูปเคารพที่น่าเกลียด”—1 ปต. 4:3
26. ตัวอย่างในคัมภีร์ไบเบิลช่วยคุณให้ตัดสินใจได้อย่างไรว่าจะฉลองวันเกิดหรือไม่?
• “สามวันต่อมาเป็นวันเกิดฟาโรห์ เขาจัดงานเลี้ยงข้าราชการทั้งหมด ฟาโรห์ให้นำตัวหัวหน้าพนักงานรินเครื่องดื่มถวายกับหัวหน้าพนักงานทำขนมปังมาอยู่ต่อหน้าพวกข้าราชการ ฟาโรห์ให้หัวหน้าพนักงานรินเครื่องดื่มถวายทำงานตำแหน่งเดิม . . . ส่วนหัวหน้าพนักงานทำขนมปังนั้น ฟาโรห์ให้เอาไปแขวนไว้บนเสา”—ปฐก. 40:20-22
• “ในงานฉลองวันเกิดของเฮโรด ลูกสาวของเฮโรเดียสออกมาเต้นรำให้เฮโรดกับแขกดู ทำให้เฮโรดชอบใจมาก เขาถึงกับสาบานว่าจะให้ทุกอย่างที่เธอขอ เธอจึงขอเฮโรดตามที่แม่แนะนำโดยพูดว่า ‘ดิฉันอยากได้หัวของยอห์นผู้ให้บัพติศมาใส่ถาดมาให้ค่ะ’ เขาจึงใช้คนให้ไปตัดหัวยอห์นในคุก”—มธ. 14:6-8, 10
27. ทำไมคุณอยากทำตามคำแนะนำของผู้ดูแล?
• “ให้เชื่อฟังและยอมรับอำนาจคนที่นำหน้าในหมู่พวกคุณ เพราะพวกเขาคอยดูแลพวกคุณอยู่เหมือนกับคนที่ต้องรายงานต่อนาย เพื่อพวกเขาจะทำงานอย่างมีความสุขและไม่ต้องเหนื่อยใจ ไม่อย่างนั้น คนที่เสียหายก็คือตัวคุณเอง”—ฮบ. 13:17
28. ทำไมจึงสำคัญที่คุณและครอบครัวจะจัดเวลาเป็นประจำเพื่ออ่านและศึกษาคัมภีร์ไบเบิล?
• “เขาชื่นชอบกฎหมายของพระยะโฮวา เขาอ่านกฎหมายของพระองค์ด้วยเสียงเบา ๆ ทั้งกลางวันและกลางคืน เขาจะเป็นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมน้ำ เหมือนต้นไม้ที่เกิดผลตามฤดู ใบก็ไม่เหี่ยวแห้ง และไม่ว่าเขาทำอะไรก็จะสำเร็จ”—สด. 1:2, 3
29. ทำไมคุณจึงชอบเข้าร่วมและมีส่วนในการประชุม?
• “ผมจะบอกพวกพี่น้องของผมให้รู้จักชื่อพระองค์ ผมจะสรรเสริญพระองค์ในที่ประชุม”—สด. 22:22
• “ให้เราสนใจกัน เราจะได้กระตุ้นกันให้มีความรักและทำความดี อย่าขาดการประชุมเหมือนที่บางคนทำเป็นนิสัย แต่ให้กำลังใจกัน และทำสิ่งเหล่านี้ให้มากขึ้นเมื่อเห็นว่าวันนั้นใกล้มาถึงแล้ว”—ฮบ. 10:24, 25
30. งานสำคัญที่สุดที่พระเยซูมอบหมายให้เราทำคืออะไร?
• “ดังนั้น ให้พวกคุณไปสอนคนทุกชาติให้เป็นสาวก ให้พวกเขารับบัพติศมา . . . สอนพวกเขาให้ทำตามทุกสิ่งที่ผมสั่งคุณไว้”—มธ. 28:19, 20
31. เมื่อเราบริจาคเงินเพื่องานรัฐบาลของพระเจ้าหรือช่วยพี่น้องของเรา การมีมุมมองแบบไหนที่ทำให้พระยะโฮวาพอใจ?
• “ให้ยกย่องพระยะโฮวาโดยเอาของมีค่ามาถวายพระองค์”—สภษ. 3:9
• “ให้แต่ละคนทำตามที่ตั้งใจไว้ ไม่ใช่ฝืนใจทำหรือทำอย่างเสียไม่ได้ เพราะพระเจ้ารักคนที่มีความสุขกับการให้”—2 คร. 9:7
32. คริสเตียนคาดหมายว่าจะเจอปัญหาอะไรบ้าง?
• “คนที่ถูกข่มเหงเพราะทำสิ่งที่ถูกต้องก็มีความสุข เพราะรัฐบาลสวรรค์เป็นของเขา เมื่อคุณโดนคนอื่นข่มเหง ด่าว่า และใส่ร้ายเพราะติดตามผม คุณก็มีความสุข ดีใจได้เลย เพราะคุณจะได้รางวัลที่มีค่ามากในสวรรค์ พวกผู้พยากรณ์ในสมัยก่อนก็โดนข่มเหงเหมือนคุณนี่แหละ”—มธ. 5:10-12
33. ทำไมจึงเป็นสิทธิพิเศษที่จะรับบัพติศมาเป็นพยานพระยะโฮวา?
• “พระยะโฮวาพระเจ้าผู้เป็นจอมทัพ ผมได้รับคำของพระองค์ไว้และกินเข้าไป คำของพระองค์ทำให้ผมมีความสุขในหัวใจ เพราะผมถูกเรียกตามชื่อของพระองค์”—ยรม. 15:16
-
-
การสรุปตอนท้ายกับผู้ขอรับบัพติศมารวบรวมเป็นองค์การเพื่อทำตามความประสงค์ของพระยะโฮวา
-
-
คำถามสำหรับผู้ที่ต้องการจะรับบัพติศมา
การสรุปตอนท้ายกับผู้ขอรับบัพติศมา
ตามปกติแล้วจะมีการรับบัพติศมาที่การประชุมหมวดและการประชุมภูมิภาคของพยานพระยะโฮวา ในตอนจบของคำบรรยายบัพติศมา ผู้บรรยายจะขอให้ผู้จะรับบัพติศมายืนขึ้นและตอบคำถาม 2 ข้อต่อไปนี้ด้วยเสียงดังฟังชัด
1. คุณได้กลับใจจากบาปของคุณ อุทิศตัวให้พระยะโฮวา และยอมรับวิธีที่พระองค์ช่วยคุณให้รอดโดยทางพระเยซูคริสต์ไหม?
2. คุณเข้าใจใช่ไหมว่า การที่คุณรับบัพติศมาแสดงว่าคุณเป็นพยานพระยะโฮวาคนหนึ่งที่รับใช้ร่วมกับองค์การของพระยะโฮวา?
คำตอบยืนยันสำหรับคำถาม 2 ข้อนี้เป็นการ “ประกาศความเชื่อด้วยปากอย่างเปิดเผย” ว่า ผู้จะรับบัพติศมามีความเชื่อในค่าไถ่และอุทิศตัวให้พระยะโฮวาอย่างไม่มีเงื่อนไข (รม. 10:9, 10) ผู้ขอรับบัพติศมาจะใคร่ครวญคำถาม 2 ข้อนี้ล่วงหน้าพร้อมด้วยการอธิษฐานเพื่อเขาจะตอบได้อย่างมั่นใจ
คุณได้อุทิศตัวให้พระยะโฮวาในคำอธิษฐานหรือยังโดยสัญญาว่าจะนมัสการพระองค์เท่านั้นและให้การทำตามความประสงค์ของพระองค์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ?
ตอนนี้คุณมั่นใจเต็มที่ไหมว่าคุณจะรับบัพติศมาในครั้งนี้?
ควรแต่งตัวแบบไหนเมื่อรับบัพติศมา? (1 ทธ. 2:9, 10; ยน. 15:19; ฟป. 1:10)
เราควรแต่งตัวให้ “สุภาพเรียบร้อยและแบบคนที่มีสติดี” เพื่อแสดงว่าเรา “นับถือพระเจ้า” ดังนั้น คนที่จะรับบัพติศมาจะไม่ใส่ชุดว่ายน้ำที่เผยสัดส่วน หรือเสื้อผ้าที่มีคำโฆษณาหรือคำพูด พวกเขาควรใส่เสื้อผ้าที่เรียบร้อย สะอาด เหมาะสมกับโอกาส
ควรปฏิบัติตัวอย่างไรตอนที่กำลังรับบัพติศมา? (ลก. 3:21, 22)
การรับบัพติศมาของพระเยซูเป็นแบบอย่างสำหรับการรับบัพติศมาของคริสเตียนในปัจจุบัน ท่านเข้าใจดีว่าการรับบัพติศมาเป็นขั้นตอนสำคัญ และเราเห็นเรื่องนี้ได้จากความคิดและการกระทำของพระเยซู ดังนั้น สถานที่สำหรับการรับบัพติศมาไม่ใช่ที่สำหรับการพูดตลกล้อเล่น การว่ายน้ำ หรือทำอะไรก็ตามที่บดบังความสำคัญของโอกาสนี้ คนที่เพิ่งรับบัพติศมาไม่ควรแสดงท่าทางเหมือนกับว่าเขาได้ชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ แม้การรับบัพติศมาเป็นโอกาสที่น่ายินดี แต่ควรแสดงความยินดีด้วยท่าทางที่น่านับถือ
การประชุมเป็นประจำและการคบหาใกล้ชิดกับประชาคมจะช่วยคุณทำตามการอุทิศตัวที่ให้กับพระยะโฮวาอย่างไร?
หลังจากรับบัพติศมาแล้ว ทำไมจึงสำคัญที่คุณจะรักษาตารางเวลาที่ดีสำหรับการศึกษาส่วนตัวและออกประกาศเป็นประจำ?
-