51 บาร์นาบัส
“ผู้ให้กำลังใจ”
หลังจากเซาโลจากเมืองทาร์ซัสเปลี่ยนมาเป็นคริสเตียนได้ 3 ปีเขาก็กลับไปที่เยรูซาเล็มเพื่อไปหาพี่น้องที่นั่น (กท. 1:15-19) แต่พี่น้องในเยรูซาเล็มยังกลัวเซาโลเพราะจำได้ว่าเขาเคยข่มเหงคริสเตียน และดูเหมือนว่าหลายคนก็ไม่รู้ว่าเขาเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ถึงอย่างนั้น ก็มีผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่กลัวและแสดงความเห็นอกเห็นใจเซาโล เขามีชื่อว่าบาร์นาบัส
พี่น้องในเยรูซาเล็มกลัวเซาโลจากเมืองทาร์ซัส แต่บาร์นาบัสแสดงความกล้าหาญและช่วยเหลือเซาโล
คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าบาร์นาบัสมีอีกชื่อหนึ่งว่าโยเซฟ แต่พี่น้องเรียกเขาว่าบาร์นาบัสซึ่งแปลว่า “ผู้ให้กำลังใจ” ที่เขาถูกเรียกแบบนี้เพราะว่าเขาเป็นคนใจดี และคอยมองหาวิธีให้กำลังใจคนอื่น เช่น หลังจากวันเพ็นเทคอสต์ปี ค.ศ. 33 บาร์นาบัสได้ขายที่ดินของเขาและเอาเงินไปช่วยเหลือพี่น้องที่ยากจน และตอนที่เซาโลมาถึงเยรูซาเล็มประมาณปี ค.ศ. 36 บาร์นาบัสก็แสดงความกล้าและต้อนรับเซาโลด้วย คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “บาร์นาบัสจึงมาช่วยเซาโลและพาไปหาพวกอัครสาวก”
ตั้งแต่นั้นมา เซาโลกับบาร์นาบัสก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เซาโลประกาศอย่างกระตือรือร้นต่อไปในเยรูซาเล็มจนผู้นำศาสนาอยากจะฆ่าเขา พี่น้องที่นั่นเลยต้องส่งเซาโลกลับไปบ้านเกิดของเขาที่ทาร์ซัส แล้วประมาณ 9 ปีต่อมา พี่น้องในเยรูซาเล็มได้ส่งบาร์นาบัสไปช่วยประชาคมที่อันทิโอกในแคว้นซีเรีย เพราะที่นั่นมีคนใหม่ ๆ หลายคนเข้ามาเป็นคริสเตียน คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “บาร์นาบัสเป็นคนดี มีความเชื่อเข้มแข็งและเต็มไปด้วยพลังบริสุทธิ์” เขาเลยช่วยให้กำลังใจพี่น้องที่นั่นได้ นอกจากนั้น ในอันทิโอกยังมีอีกหลายคนอยากรู้เกี่ยวกับข่าวดีมากขึ้น บาร์นาบัสเลยอยากให้มีคนมาช่วยประกาศและสอน เขาจึงไปทาร์ซัสเพื่อตามหาเซาโลเพื่อนของเขา นี่ทำให้บาร์นาบัสได้เจอเซาโลอีกครั้ง ทั้งสองคนประกาศด้วยกันและทำงานกันเป็นทีม พวกเขายังได้เอาเงินและสิ่งของที่พี่น้องในอันทิโอกบริจาคไปที่แคว้นยูเดียเพื่อช่วยเหลือพี่น้องที่นั่นด้วย
ในเวลาต่อมา เซาโลก็เป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่าเปาโล ตอนที่เปาโลกับบาร์นาบัสกลับไปที่อันทิโอก พี่น้องที่นั่นก็ส่งพวกเขาไปประกาศในที่ต่าง ๆ และพวกเขาต้องมีความกล้าหาญมาก เช่น ตอนที่อยู่ในอิโคนียูม มีพวกผู้ต่อต้านชาวยิวหลายคนอยากจะเอาหินขว้างพวกเขาให้ตาย ทั้งสองคนเลยต้องหนีไปเมืองลิสตรา ตอนแรกผู้คนในลิสตราคิดว่าพวกเขาเป็นเทพเจ้า แต่พอพวกผู้ต่อต้านจากอันทิโอกและอิโคนียูมตามมาถึง พวกเขาปลุกระดมฝูงชนที่นั่นให้เปลี่ยนความคิดและต่อต้านเปาโลกับบาร์นาบัส ผู้คนก็เลยเอาหินขว้างเปาโล ลากออกไปนอกเมือง และทิ้งเขาไว้ที่นั่นเพราะคิดว่าตายแล้ว จากนั้น พี่น้องในเมืองลิสตราก็ออกมายืนมุงรอบเปาโล เขาลุกขึ้นและเดินกลับเข้าไปในเมือง ลองคิดดูสิว่าบาร์นาบัสจะโล่งใจขนาดไหนที่ได้เห็นว่าเปาโลยังมีชีวิตอยู่! แล้วทั้งสองคนก็ออกจากลิสตราในวันถัดมา แต่ไม่นานพวกเขาก็กลับไปลิสตราอีกเพื่อให้กำลังใจพี่น้องที่นั่น เปาโลกับบาร์นาบัสกล้าหาญมากจริง ๆ ที่กลับไปในเมืองที่พวกเขาเกือบจะถูกฆ่า!
ตอนที่บาร์นาบัสกับเปาโลรับใช้ด้วยกัน พวกเขาต้องเจออันตรายหลายอย่างและมีประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น แต่ก็มีบางอย่างเกิดขึ้นซึ่งทำให้พวกเขาต้องทะเลาะกัน ตอนที่กำลังจะเริ่มเดินทางครั้งใหม่ บาร์นาบัสตั้งใจจะพาลูกพี่ลูกน้องของเขาที่ชื่อมาระโกไปด้วย แต่เปาโลไม่อยากให้พาไปเพราะก่อนหน้านี้มาระโกเคยทิ้งพวกเขา ทั้งสองคนไม่มีใครยอมใคร พวกเขา “ทะเลาะกัน” จนต้องแยกกันไปคนละทาง
บาร์นาบัสจะโกรธเปาโลไม่หายหรือจะเลือกให้อภัย? บาร์นาบัสต้องกล้าหาญมากเพื่อจะให้อภัยและทำสิ่งที่ถูกต้อง ตอนที่เรามีความคิดเห็นไม่ตรงกับพี่น้อง มันก็ง่ายที่จะโกรธและพูดไม่ดีเกี่ยวกับพวกเขา หรือถึงกับเลิกไปประชุม เราต้องกล้าหาญมากเพื่อจะไม่ทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ และพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้อภัยพี่น้องของเรา การทำแบบนี้จะทำให้พระยะโฮวาพอใจ
ถึงจะทะเลาะกัน แต่ทั้งคู่ก็ยังคงรับใช้พระยะโฮวาต่อไป บาร์นาบัสกับมาระโกลงเรือไปเกาะไซปรัส และทำงานสอนคนให้เป็นสาวก ส่วนเปาโลก็เดินทางตามที่ตั้งใจไว้ เขาพาสิลาสไปด้วยและพระยะโฮวาก็ช่วยให้พวกเขาทำหลายอย่างได้สำเร็จ
บาร์นาบัสกับเปาโลโกรธกันไม่หายไหม? ไม่ ที่เราบอกได้แบบนี้เพราะตอนที่เปาโลเขียนจดหมายไปถึงประชาคมต่าง ๆ เขาพูดถึงบาร์นาบัสในแง่ดี เช่น ตอนที่เขียนจดหมายไปถึงพี่น้องในเมืองโครินธ์ เปาโลบอกว่าบาร์นาบัสทำงานอาชีพเพื่อจะมีรายได้ไว้เลี้ยงตัวเองตอนทำงานรับใช้ (1 คร. 9:6) นอกจากนั้น เปาโลก็ไม่ได้โกรธมาระโกต่อไปด้วย ในจดหมายฉบับหนึ่งของเขา เปาโลขอให้พี่น้องต้อนรับมาระโก “ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของบาร์นาบัส” (คส. 4:10, 11) ถึงเปาโลกับบาร์นาบัสจะไม่ได้ทำงานรับใช้ใกล้ชิดกันเหมือนเมื่อก่อน แต่ทั้งคู่ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน บาร์นาบัสใช้ชีวิตสมกับชื่อของเขาต่อ ๆ ไป เขาให้กำลังใจคนอื่นและประกาศข่าวดีทุกครั้งที่ทำได้ และในช่วงที่ทำงานร่วมกับมาระโก บาร์นาบัสคงได้สอนหลายอย่างให้มาระโกแน่ ๆ เราจะได้เรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับความกล้าหาญของมาระโกในบทต่อไป
อ่านข้อคัมภีร์เหล่านี้
ให้คุยกันว่า
บาร์นาบัสแสดงความกล้าหาญยังไงบ้าง?
ค้นคว้ามากขึ้น
1. คนในตระกูลเลวีไม่ได้รับที่ดินเป็นมรดก บาร์นาบัสก็อยู่ในตระกูลเลวี แล้วเขาเป็นเจ้าของที่ดินได้ยังไง? (กดว. 18:20; กจ. 4:36, 37; ห98 15/4 น. 20 ว. 4, เชิงอรรถ)
2. ทำไมบาร์นาบัสถึงถูกเรียกว่าอัครสาวก? (กจ. 14:14; it “บาร์นาบัส” ว. 3-ชพกอ)
3. ตอนอยู่ที่เกาะไซปรัส บาร์นาบัสกับเปาโลประกาศกับผู้ชายคนหนึ่งชื่อเสอร์จีอัสเปาลุส และในหนังสือกิจการ ลูกาก็บอกว่าเขาเป็น “ผู้สำเร็จราชการ” ทำไมถึงบอกได้ว่าข้อมูลนี้ถูกต้อง? (กจ. 13:7, 12; “ผู้สำเร็จราชการ” ข้อมูลสำหรับศึกษาที่กจ. 13:7, ลมศษ) (ภาพ ก)
Bank of Cyprus Cultural Foundation Collection
ภาพ ก: เหรียญที่ทำขึ้นในสมัยที่จักรพรรดิโรมันคลาวดิอัสปกครอง ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เปาโลและบาร์นาบัสไปประกาศที่เกาะไซปรัส ข้อความที่อยู่บนเหรียญเรียกผู้ปกครองเกาะว่า “ผู้สำเร็จราชการ”
4. ทำไมถึงไม่แปลกที่ผู้คนในเมืองลิสตราอยากต้อนรับบาร์นาบัสกับเปาโลด้วยเครื่องบูชา? (ถถ น. 97, กรอบ)
คิดถึงสิ่งที่คุณจะเอาไปใช้
เราจะมีน้ำใจเหมือนบาร์นาบัสได้ยังไงบ้าง?
ในช่วงแรกที่เดินทางไปประกาศด้วยกัน ดูเหมือนว่าบาร์นาบัสเป็นคนที่นำหน้า แต่ต่อมาเปาโลก็มีหน้าที่รับผิดชอบมากกว่าเขา ถึงอย่างนั้น บาร์นาบัสก็ไม่ได้อิจฉาเปาโล มีสถานการณ์ไหนบ้างที่เราจะเลียนแบบบาร์นาบัสได้? (ภาพ ข)
ภาพ ข
ในชีวิตประจำวันของคุณ คุณจะกล้าหาญเหมือนบาร์นาบัสได้ยังไงบ้าง?
มองให้กว้างขึ้น
เรื่องนี้สอนอะไรฉันเกี่ยวกับพระยะโฮวา?
เรื่องนี้เกี่ยวข้องยังไงกับความตั้งใจของพระยะโฮวาที่มีต่อโลกและมนุษย์?
ทำไมคุณถึงรู้สึกขอบคุณที่บาร์นาบัสถูกเลือกให้ไปปกครองร่วมกับพระเยซูบนสวรรค์?
เรียนรู้เพิ่มเติม
ตัวอย่างของบาร์นาบัสกับเปาโลสอนเรายังไงว่าคนที่มีบุคลิกต่างกันก็ทำงานรับใช้ด้วยกันอย่างดีได้?
“คุณจะจัดการกับความขัดแย้งและสร้างสันติสุขไหม?” (ห17.06 น. 16-20)
ในวีดีโอนี้ ลองดูว่าพี่น้องของเราเลียนแบบบาร์นาบัสกับเปาโลยังไงตอนที่มีความคิดเห็นไม่เหมือนกัน