“นี่แหละคือชีวิตนิรันดร์”
“นี่แหละคือชีวิตนิรันดร์ คือที่เขารู้จักพระองค์ผู้ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียวและรู้จักพระเยซูคริสต์ที่พระองค์ทรงใช้มา.”—โยฮัน 17:3, ฉบับ R73
ความรู้ช่วยรักษาชีวิตได้. เมื่อหนูน้อยนูฮูวัยสิบเดือนในประเทศไนเจอร์ล้มป่วย แม่ของเด็กคนนี้ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในชุมชนรู้ทันทีว่าเธอต้องทำอะไร. เธอทำน้ำเกลือแร่โดยผสมน้ำตาล เกลือ กับน้ำสะอาดให้ลูกดื่ม. องค์การยูนิเซฟกล่าวว่า เนื่องจากเธอ “ลงมือทำทันทีและรีบพาลูกไปศูนย์บริการสาธารณสุข ลูกชายของเธอจึงหายป่วยเร็วขึ้น.”
ความรู้ในคัมภีร์ไบเบิลช่วยรักษาชีวิตได้เช่นกัน. โมเซผู้เขียนคัมภีร์ไบเบิลคนแรกกล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยสำหรับท่านทั้งหลายแต่เป็นเรื่องชีวิตของท่านทั้งหลาย และเรื่องนี้จะกระทำให้ท่านทั้งหลายมีชีวิตยืนนาน.” (พระบัญญัติ 32:47, ฉบับ R73) คัมภีร์ไบเบิลจะช่วยให้เรามีชีวิตยืนนานได้จริง ๆ ไหม? ความรู้ในคัมภีร์ไบเบิลสำคัญต่อชีวิตเราอย่างไร?
บทความห้าเรื่องก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าคัมภีร์ไบเบิลโดดเด่นกว่าหนังสืออื่น ๆ เพราะมีคำพยากรณ์ที่เชื่อถือได้ ถูกต้องตามประวัติศาสตร์และวิทยาศาสตร์ สอดคล้องลงรอยกันตลอดทั้งเล่ม และมีคำแนะนำที่ใช้ได้จริง. ลักษณะที่โดดเด่นเหล่านี้ทำให้คัมภีร์ไบเบิลแตกต่างจากหนังสืออื่น ๆ ทั้งหมด. ดังนั้น เมื่อคัมภีร์ไบเบิลบอกให้รู้วิธีที่คุณจะมีชีวิตยืนยาวได้ คือมีชีวิตนิรันดร์ จึงนับว่าคุ้มค่ามิใช่หรือที่คุณจะศึกษาหนังสือเล่มนี้อย่างถี่ถ้วน?
เราขอเชิญคุณมาเรียนรู้ว่าความรู้ถ่องแท้เกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิลจะช่วยให้คุณมีจิตใจที่สงบในเวลานี้และมีความสุขในอนาคตได้อย่างไร. พยานพระยะโฮวายินดีช่วยคุณให้ได้รับความรู้นี้.
[กรอบ/ภาพหน้า 9]
นอกจากนี้ คัมภีร์ไบเบิลยังแตกต่างจากหนังสืออื่นเพราะสามารถให้คำตอบที่น่าพอใจสำหรับคำถามสำคัญเกี่ยวกับชีวิต เช่น
• เราเกิดมาทำไม?
• ทำไมมีความทุกข์มากเหลือเกิน?
• มีความหวังอะไรไหมสำหรับผู้เป็นที่รักซึ่งเสียชีวิตไป?
คุณจะพบคำตอบจากคัมภีร์ไบเบิลสำหรับคำถามเหล่านี้ได้ในหนังสือเล่มนี้ คัมภีร์ไบเบิลสอนอะไรจริงๆ? ซึ่งจัดพิมพ์โดยพยานพระยะโฮวา.