อินโดนีเซีย
มิชชันนารีมาเพิ่ม
วันที่ 9 กรกฎาคม 1964 กระทรวงยุติธรรมของอินโดนีเซียจดทะเบียนสมาคมนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเป็นนิติบุคคลของพยานพระยะโฮวาอย่างเป็นทางการ แต่ก่อนที่พี่น้องจะเริ่มประกาศอย่างอิสระเต็มที่พวกเขาต้องจดทะเบียนที่กรมการศาสนาก่อน หน่วยงานนี้ทำตามความเห็นชอบจากสำนักงานผู้อำนวยการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับคริสเตียน (Directorate General of Christian Community Guidance) คนที่ทำงานในนั้นก็มีแต่พวกโปรเตสแตนต์ที่เข้มงวดซึ่งต่อต้านพยานพระยะโฮวาอย่างไม่ละลด
มีอยู่วันหนึ่ง พี่น้องคนหนึ่งได้พบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ทำงานเกี่ยวข้องกับกระทรวงศาสนา ทั้งคู่ได้รู้ว่าเป็นคนบ้านเดียวกันก็เลยคุยกันถูกคอในภาษาถิ่นของพวกเขา พอพี่น้องบอกเจ้าหน้าที่คนนี้ว่าพยานพระยะโฮวากำลังมีปัญหากับสำนักงานผู้อำนวยการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับคริสเตียน เขาก็จัดการให้พี่น้องผู้ชาย 3 คนเข้าพบรัฐมนตรีโดยตรง รัฐมนตรีเป็นมุสลิมที่เป็นกันเองและแสดงความเห็นอกเห็นใจ วันที่ 11 พฤษภาคม 1968 รัฐมนตรีออกคำสั่งเป็นทางการให้ถือว่าพยานพระยะโฮวาเป็นศาสนาหนึ่งและรับรองสิทธิของพยานฯในการทำงานด้านศาสนาในอินโดนีเซีย
เมื่อพยานฯชาวต่างชาติต้องทำวีซ่าสำหรับมิชชันนารี เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนนี้ยังอาสาให้พวกเราติดต่อเขาได้โดยไม่ต้องผ่านสำนักงานผู้อำนวยการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับคริสเตียน ความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ที่รักความยุติธรรมคนนี้ทำให้ในช่วงประมาณ 2-3 ปีต่อมา มิชชันนารี 64 คนสามารถเข้ามาในอินโดนีเซียได้
พอถึงปี 1968 มิชชันนารีและไพโอเนียร์พิเศษประมาณ 300 คนกับผู้ประกาศมากกว่า 1,200 คนกำลังบอกข่าวดีกับผู้คนทั่วทุกพื้นที่ในอินโดนีเซีย มิชชันนารีฝึกอบรมพี่น้องท้องถิ่นซึ่งทำให้พวกเขามีความเชื่อเข้มแข็ง การฝึกอบรมที่มีค่านี้มีขึ้นในเวลาที่เหมาะเพราะพายุแห่งการข่มเหงกำลังจะมาถึง
“ของขวัญวันคริสต์มาส” สำหรับนักเทศน์
ปี 1974 สำนักงานผู้อำนวยการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับคริสเตียนกลับมาสานต่อการสั่งห้ามพยานพระยะโฮวาที่เคยพยายามมาตลอด ผู้อำนวยการของหน่วยงานนี้เขียนไปถึงสำนักงานของกรมการศาสนาในท้องที่ต่าง ๆ ว่าพยานพระยะโฮวาเป็นกลุ่มที่ผิดกฎหมาย เขาสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจัดการพยานฯทันทีที่พวกเขาก่อ “ความยุ่งยาก” นี่เป็นวิธีที่แยบยลที่ทำให้การข่มเหงประชาชนของพระยะโฮวาขยายไปทั่ว แม้เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจทำตามแต่ก็มีบางคนที่ถือโอกาสสั่งห้ามการประชุมและการประกาศตามบ้าน
หนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 24 ธันวาคม 1976 ลงคำประกาศสั่งห้ามพยานพระยะโฮวา
ประมาณช่วงเวลาเดียวกันสภาคริสตจักรสากล (WCC) มีแผนจะมาจัดประชุมนานาชาติที่จาการ์ตา คนมุสลิมที่นั่นถือว่าเป็นการยั่วยุและก้าวร้าว เมื่อเห็นว่าความขัดแย้งทางศาสนาลุกลาม สภาคริสตจักรฯก็ยกเลิกการประชุมนั้น แต่การเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ก็กลายเป็นประเด็นร้อนที่นักการเมืองหลายคนกลัวมาก ไม่ต้องสงสัยว่าพวกนักเทศน์พยายามโทษพยานพระยะโฮวาด้วยการตั้งหน้าตั้งตาโจมตีงานประกาศ นี่ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลอีกหลายคนมองพยานฯในแง่ลบ
เดือนธันวาคม 1975 ความขัดแย้งทางศาสนายังบานปลายไปเรื่อย ๆ อินโดนีเซียบุกติมอร์ตะวันออก (ปัจจุบันคือติมอร์-เลสเต) ที่เคยเป็นอาณานิคมของโปรตุเกส เจ็ดเดือนหลังจากนั้นติมอร์ก็ถูกยึด นี่ทำให้เกิดกระแสเรียกร้องเอกราชไปทั่วอินโดนีเซีย พี่น้องของเรารักษาความเป็นกลางทางการเมือง ปฏิเสธการเป็นทหารและการเคารพธงชาติ จุดยืนนี้ทำให้พวกทหารชั้นผู้ใหญ่โกรธแค้น (มธ. 4:10; ยน. 18:36) พวกนักเทศน์เข้ามาร่วมวงด้วยการเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการกับพวกพยานฯในที่สุด เดือนธันวาคม 1976 พวกนักเทศน์ก็ได้รับ “ของขวัญวันคริสต์มาส” ซึ่งก็คือการที่รัฐบาลประกาศสั่งห้ามพยานพระยะโฮวา