ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ภาษามือไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ลม ปฐมกาล 1:1-50:26
  • ปฐมกาล

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • ปฐมกาล
  • คัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลโลกใหม่
คัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลโลกใหม่
ปฐมกาล

ปฐมกาล

1 ใน​ตอน​เริ่ม​ต้น พระเจ้า​สร้าง​ฟ้า​และ​โลก+

2 โลก​ว่าง​เปล่า​ไม่​มี​อะไร​เลย มี​แต่​ความ​มืด​อยู่​เหนือ​น้ำ+ซึ่ง​มี​อยู่​ทั่ว​ทั้ง​โลก และ​พลัง​ที่​พระเจ้า​ใช้​ใน​การ​ทำ​งาน*+ก็​เคลื่อน​ไป​มา​อยู่​เหนือ​น้ำ​นั้น+

3 พระเจ้า​พูด​ว่า “ให้​ความ​สว่าง​เกิด​ขึ้น” ความ​สว่าง​ก็​เกิด​ขึ้น+ 4 พระเจ้า​เห็น​ว่า​ความ​สว่าง​นั้น​ดี และ​กำหนด​ให้​ความ​สว่าง​กับ​ความ​มืด​แยก​ออก​จาก​กัน 5 พระเจ้า​เรียก​ความ​สว่าง​ว่า​วัน และ​เรียก​ความ​มืด​ว่า​คืน+ มี​เวลา​เย็น​และ​เวลา​เช้า​เป็น​วัน​ที่ 1

6 พระเจ้า​พูด​ว่า “ให้​น้ำ​แยก​ออก​จาก​กัน+เพื่อ​ให้​มี​ชั้น​บรรยากาศ​ระหว่าง​น้ำ​สอง​ส่วน​นั้น”*+ 7 แล้ว​พระเจ้า​ก็​ทำ​ให้​มี​ชั้น​บรรยากาศ โดย​แยก​น้ำ​ส่วน​หนึ่ง​ให้​อยู่​ใต้​ชั้น​บรรยากาศ​และ​น้ำ​อีก​ส่วน​หนึ่ง​ให้​อยู่​เหนือ​ชั้น​บรรยากาศ+ ก็​เป็น​ไป​ตาม​นั้น 8 พระเจ้า​เรียก​ชั้น​บรรยากาศ​นั้น​ว่าท้องฟ้า มี​เวลา​เย็น​และ​เวลา​เช้า​เป็น​วัน​ที่ 2

9 พระเจ้า​พูด​ว่า “ให้​น้ำ​ที่​อยู่​บน​โลก​มา​รวม​อยู่​ที่​เดียว​กัน และ​ให้​ที่​แห้ง​ปรากฏ​ขึ้น​มา”+ ก็​เป็น​ไป​ตาม​นั้น 10 พระเจ้า​เรียก​ที่​แห้ง​ว่า​แผ่นดิน+ และ​เรียก​ที่​ซึ่ง​น้ำ​อยู่​รวม​กัน​ว่า​ทะเล*+ แล้ว​พระเจ้า​เห็น​ว่า​ดี+ 11 แล้ว​พระเจ้า​พูด​ว่า “ให้​มี​พืช​ตระกูล​หญ้า พืช​ที่​มี​เมล็ด และ​ต้น​ไม้​ที่​ให้​ผล​ที่​มี​เมล็ด​ตาม​ชนิด​ของ​มัน​ขึ้น​บน​แผ่นดิน” ก็​เป็น​ไป​ตาม​นั้น 12 แผ่นดิน​จึง​มี​พืช​ตระกูล​หญ้า พืช​ที่​มี​เมล็ด+ และ​ต้น​ไม้​ที่​ให้​ผล​ที่​มี​เมล็ด​ตาม​ชนิด​ของ​มัน แล้ว​พระเจ้า​เห็น​ว่า​ดี 13 มี​เวลา​เย็น​และ​เวลา​เช้า​เป็น​วัน​ที่ 3

14 พระเจ้า​พูด​ว่า “ให้​มี​ดวง​สว่าง+ใน​ท้องฟ้า​เพื่อ​แยก​กลางวัน​กับ​กลางคืน+ ดวง​สว่าง​ทั้ง​หมด​นั้น​จะ​เป็น​เครื่องหมาย​บ่ง​บอก​ฤดู วัน และ​ปี+ 15 ดวง​สว่าง​ทั้ง​หมด​นั้น​จะ​อยู่​ใน​ท้องฟ้า​เพื่อ​ให้​แสง​สว่าง​กับ​โลก” ก็​เป็น​ไป​ตาม​นั้น 16 พระเจ้า​ทำ​ให้​มี​ดวง​สว่าง​ขนาด​ใหญ่​สอง​ดวง ให้​ดวง​ที่​ใหญ่​กว่า​ส่อง​แสง​ตอน​กลางวัน+และ​ดวง​ที่​เล็ก​กว่า​ส่อง​แสง​ตอน​กลางคืน และ​พระเจ้า​ให้​มี​ดวง​ดาว​ต่าง ๆ ด้วย+ 17 พระเจ้า​ให้​ดวง​สว่าง​เหล่า​นั้น​อยู่​ใน​ท้องฟ้า​เพื่อ​ให้​แสง​สว่าง​แก่​โลก 18 เพื่อ​ส่อง​แสง​ตอน​กลางวัน​และ​กลางคืน เพื่อ​แยก​ความ​สว่าง​และ​ความ​มืด​ออก​จาก​กัน+ แล้ว​พระเจ้า​เห็น​ว่า​ดี 19 มี​เวลา​เย็น​และ​เวลา​เช้า​เป็น​วัน​ที่ 4

20 พระเจ้า​พูด​ว่า “ให้​มี​สัตว์​มาก​มาย​ที่​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​น้ำ​และ​สัตว์​ที่​บิน​ใน​ท้องฟ้า​เหนือ​แผ่นดิน”+ 21 พระเจ้า​สร้าง​สัตว์​ทะเล​ขนาด​ใหญ่​และ​สัตว์​ทุก​อย่าง​ที่​แหวก​ว่าย​ไป​มา​ใน​น้ำ​ตาม​ชนิด​ของ​มัน และ​สัตว์​ทุก​อย่าง​ที่​มี​ปีก​บิน​ได้​ตาม​ชนิด​ของ​มัน แล้ว​พระเจ้า​เห็น​ว่า​ดี 22 พระเจ้า​อวยพร​พวก​มัน​ว่า “ให้​เกิด​ลูก​หลาน​มาก​มาย​และ​เพิ่ม​จำนวน​ให้​เต็ม​ท้อง​ทะเล+ และ​ให้​สัตว์​ที่​บิน​ได้​เพิ่ม​จำนวน​บน​โลก” 23 มี​เวลา​เย็น​และ​เวลา​เช้า​เป็น​วัน​ที่ 5

24 พระเจ้า​พูด​ว่า “ให้​มี​สัตว์​ต่าง ๆ บน​แผ่นดิน​ตาม​ชนิด​ของ​มัน​คือ สัตว์​ที่​เชื่อง สัตว์​เลื้อยคลาน* และ​สัตว์​ป่า​ตาม​ชนิด​ของ​มัน”+ ก็​เป็น​ไป​ตาม​นั้น 25 พระเจ้า​ทำ​ให้​มี​สัตว์​ป่า​บน​แผ่นดิน​ตาม​ชนิด​ของ​มัน สัตว์​ที่​เชื่อง​ตาม​ชนิด​ของ​มัน และ​สัตว์​เลื้อยคลาน​ทุก​ชนิด​ที่​อยู่​บน​พื้น​ดิน​ตาม​ชนิด​ของ​มัน แล้ว​พระเจ้า​เห็น​ว่า​ดี

26 พระเจ้า​พูด​ว่า “ให้​เรา+สร้าง​มนุษย์​ตาม​แบบ​เรา+และ​มี​ลักษณะ​คล้าย​เรา+ และ​ให้​ปลา​ใน​ทะเล สัตว์ที่​บิน​ใน​ท้องฟ้า สัตว์​ที่​เชื่อง สัตว์​เลื้อยคลาน​ทุก​ชนิด​ที่​อยู่​บน​แผ่นดิน และ​โลก​ทั้ง​โลก​อยู่​ใต้​อำนาจ​พวก​เขา”+ 27 พระเจ้า​จึง​สร้าง​มนุษย์​ตาม​แบบ​พระองค์ ดัง​นั้น มนุษย์​จึง​ถูก​สร้าง​ตาม​แบบ​พระเจ้า ถูก​สร้าง​เป็น​ผู้​ชาย​และ​ผู้​หญิง+ 28 แล้ว​พระเจ้า​อวยพร​พวก​เขา​ว่า “ให้​เกิด​ลูก​หลาน​มาก​มาย​และ​เพิ่ม​จำนวน​ให้​เต็ม​โลก+ ให้​มี​อำนาจ​เหนือ​แผ่นดิน+และ​มี​อำนาจ​เหนือ+ปลา​ใน​ทะเล สัตว์​ที่​บิน​ใน​ท้องฟ้า และ​สัตว์​ทุก​ชนิด​ที่​อยู่​บน​แผ่นดิน”

29 พระเจ้า​พูด​ว่า “เรา​ให้​พืช​ทุก​อย่าง​ที่​มี​เมล็ด​ซึ่ง​มี​อยู่​ทั่ว​พื้น​แผ่นดิน​และ​ต้น​ไม้​ทุก​อย่าง​ซึ่ง​ออก​ผล​ที่​มี​เมล็ด​แก่​พวก​เจ้า ทั้ง​หมด​นี้​จะ​เป็น​อาหาร​สำหรับ​พวก​เจ้า+ 30 เรา​ให้​พืช​สี​เขียว​ทุก​อย่าง​เป็น​อาหาร​สำหรับ​สัตว์​ป่า​บน​แผ่นดิน สำหรับ​สัตว์​ที่​บิน​ใน​ท้องฟ้า และ​สำหรับ​สัตว์​ทั้ง​หมด​ที่​มี​ชีวิต​อยู่​บน​แผ่นดิน”+ ก็​เป็น​ไป​ตาม​นั้น

31 แล้ว​พระเจ้า​ก็​มอง​ดู​ทุก​สิ่ง​ที่​พระองค์​สร้าง​ขึ้น​และ​เห็น​ว่า​ดี​ยอด​เยี่ยม+ มี​เวลา​เย็น​และ​เวลา​เช้า​เป็น​วัน​ที่ 6

2 ดัง​นั้น ฟ้า​และ​โลก​รวม​ทั้ง​สิ่ง​ต่าง ๆ บน​ฟ้า​และ​โลก​ก็​ถูก​สร้าง​จน​เสร็จ​สมบูรณ์+ 2 พอ​ถึง​วัน​ที่ 7 งาน​ที่​พระเจ้า​ทำ​ก็​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว และ​ใน​วัน​ที่ 7 พระเจ้า​จึง​เริ่ม​หยุด​พัก​จาก​งาน​ทั้ง​หมด​นั้น+ 3 พระเจ้า​อวยพร​วัน​ที่ 7 และ​ให้​เป็น​วัน​บริสุทธิ์* เพราะ​ใน​วัน​ที่ 7 พระองค์​เริ่ม​หยุด​พัก​หลัง​จาก​ได้​สร้าง​สิ่ง​ต่าง ๆ ตาม​ที่​พระองค์​ต้องการ​แล้ว

4 นี่​เป็น​เรื่อง​ราว​ใน​ตอน​ที่​ฟ้า​และ​โลก​ถูก​สร้าง​ขึ้น คือ​ใน​วัน*ที่​พระ​ยะโฮวา*พระเจ้า​สร้าง​โลก​และ​ฟ้า+

5 มี​ช่วง​หนึ่ง​ที่​ยัง​ไม่​มี​ต้น​ไม้​ใน​ทุ่ง​และ​ไม่​มี​พืช​พรรณ​งอก​ขึ้น​บน​แผ่นดิน เพราะ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ยัง​ไม่​ให้​มี​ฝน​ตก​บน​แผ่นดิน​และ​ยัง​ไม่​มี​มนุษย์​ทำ​การ​เพาะ​ปลูก 6 แต่​พระองค์​ทำ​ให้​มี​ไอ​น้ำ​ขึ้น​มา​จาก​แผ่นดิน​จน​พื้น​ดิน​เปียก​ไป​ทั่ว

7 ต่อ​มา​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​สร้าง​มนุษย์​จาก​ดิน+ เป่า​ลม​หายใจ​ที่​ทำ​ให้​มี​ชีวิต​เข้า​ทาง​จมูก+ มนุษย์​จึง​มี​ชีวิต+ 8 พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​เตรียม​สวน​แห่ง​หนึ่ง​ไว้​ที่​เอเดน+ทาง​ฝั่ง​ทิศ​ตะวัน​ออก แล้ว​ให้​มนุษย์​ที่​พระองค์​สร้าง​ขึ้น​อยู่​ที่​นั่น+ 9 พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ให้​ต้น​ไม้​ทุก​ชนิด​ที่​สวย​งาม​และ​น่า​กิน​งอก​ขึ้น​จาก​ดิน รวม​ทั้ง​ต้น​ไม้​ที่​ให้​ชีวิต+ที่​อยู่​กลาง​สวน​กับ​ต้น​ไม้​ที่​ให้​รู้​ดี​รู้​ชั่ว+

10 มี​แม่น้ำ​สาย​หนึ่ง​ไหล​ออก​มา​จาก​เอเดน แม่น้ำ​ทำ​ให้​สวน​นั้น​ชุ่มชื่น แล้ว​แม่น้ำ​ก็​แยก​เป็น 4 สาย 11 แม่น้ำ​สาย​ที่ 1 ชื่อ​ปิโชน​ไหล​รอบ​แผ่นดิน​ฮาวิลาห์​ที่​มี​ทองคำ 12 แผ่นดิน​นี้​มี​ทองคำ​เนื้อ​ดี​และ​ยัง​มี​ยาง​ไม้​หอม​และ​หิน​โอนิกซ์​ด้วย 13 แม่น้ำ​สาย​ที่ 2 ชื่อ​กีโฮน​ไหล​รอบ​แผ่นดิน​คูช* 14 แม่น้ำ​สาย​ที่ 3 ชื่อ​ฮิดเดเคล*+ไหล​ไป​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ออก​ของ​อัสซีเรีย+ แม่น้ำ​สาย​ที่ 4 ชื่อ​ยูเฟรติส+

15 พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ให้​มนุษย์​คน​นั้น​อยู่​ใน​สวน​เอเดน ให้​เขา​เพาะ​ปลูก​และ​ดู​แล​สวน+ 16 พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​สั่ง​เขา​ว่า “เจ้า​กิน​ผล​จาก​ต้น​ไม้​ทุก​ต้น​ใน​สวน​นี้​ได้​จน​พอ​ใจ+ 17 แต่​ห้าม​กิน​ผล​จาก​ต้น​ไม้​ที่​ให้​รู้​ดี​รู้​ชั่ว ถ้า​เจ้า​กิน​ผล​จาก​ต้น​นั้น​ใน​วัน​ไหน เจ้า​จะ​ต้อง​ตาย​ใน​วัน​นั้น”+

18 ต่อ​มา​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​พูด​ว่า “ถ้า​จะ​ให้​มนุษย์​คน​นั้น​อยู่​คน​เดียว​ต่อ​ไป​ก็​ไม่​เหมาะ เรา​จะ​ให้​เขา​มี​ผู้​ช่วย​คน​หนึ่ง​มา​เป็น​คู่​ที่​เหมาะ​กับ​เขา มา​เติม​เต็ม​ชีวิต​ให้​เขา”+ 19 พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​พา​สัตว์​ที่​พระองค์​ได้​สร้าง​ขึ้น​จาก​ดิน​นั้น​มา​หา​มนุษย์ ทั้ง​สัตว์​ป่า​และ​สัตว์​ที่​บิน​ใน​ท้องฟ้า เพื่อ​ให้​เขา​ดู​ว่า​จะ​เรียก​สัตว์​แต่​ละ​ชนิด​อย่าง​ไร และ​ไม่​ว่า​เขา​จะ​เรียก​มัน​อย่าง​ไร​มัน​ก็​จะ​มี​ชื่อ​อย่าง​นั้น+ 20 มนุษย์​นั้น​จึง​ตั้ง​ชื่อ​สัตว์​ทั้ง​หมด​ที่​เชื่อง​และ​สัตว์​ที่​บิน​ใน​ท้องฟ้า​รวม​ทั้ง​สัตว์​ป่า​ทั้ง​หมด แต่​เขา​ก็​ยัง​ไม่​มี​ผู้​ช่วย​ที่​มา​เป็น​คู่​ที่​เหมาะ​กับ​เขา 21 พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​จึง​ทำ​ให้​มนุษย์​นั้น​หลับ​สนิท ตอน​ที่​เขา​หลับ​อยู่ พระองค์​เอา​ซี่​โครง​ของ​เขา​มา​ซี่​หนึ่ง​แล้ว​ทำ​ให้​เนื้อ​ตรง​นั้น​ติด​กัน​เหมือน​เดิม 22 แล้ว​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ใช้​ซี่​โครง​ที่​เอา​มา​จาก​มนุษย์​นั้น​สร้าง​เป็น​ผู้​หญิง​แล้ว​พา​มา​หา​เขา+

23 มนุษย์​นั้น​จึง​พูด​ว่า

“กระดูก​ของ​เธอ​มา​จาก​กระดูก​ของ​ผม

เนื้อ​ของ​เธอ​ก็​มา​จาก​เนื้อ​ของ​ผม

ผม​จะ​เรียก​เธอ​ว่า​ผู้​หญิง

เพราะ​เธอ​มา​จาก​ผู้​ชาย”+

24 ดัง​นั้น ผู้​ชาย​จะ​จาก​พ่อ​แม่​ไป​ผูก​พัน​ใกล้​ชิด​กับ​ภรรยา แล้ว​ทั้ง​สอง​จะ​เป็น​หนึ่ง​เดียว*+ 25 เขา​กับ​ภรรยา​เปลือย​กาย​อยู่+แต่​ก็​ไม่​รู้สึก​อาย

3 ใน​สัตว์​ป่า​ทั้ง​หมด​ที่​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​สร้าง​นั้น งู+เป็น​สัตว์​ที่​เจ้า​เล่ห์​ที่​สุด* มัน​พูด​กับ​ผู้​หญิง​ว่า “พระเจ้า​ไม่​ให้​พวก​คุณ​กิน​ผลไม้​ทุก​ต้น​ใน​สวน​นี้​จริง ๆ หรือ?”+ 2 ผู้​หญิง​ตอบ​งู​ว่า “ผลไม้​ใน​สวน​นี้​พวก​เรา​กิน​ได้+ 3 แต่​พระเจ้า​พูด​ถึง​ผล​ของ​ต้น​ที่​อยู่​กลาง​สวน+ว่า ‘ห้าม​กิน​ผล​จาก​ต้น​นั้น อย่า​แม้​แต่​จะ​ไป​แตะ​ต้อง ไม่​อย่าง​นั้น พวก​เจ้า​จะ​ต้อง​ตาย’” 4 งูจึง​พูด​กับ​ผู้​หญิง​ว่า “พวก​คุณ​จะ​ไม่​ตาย​หรอก+ 5 จริง ๆ แล้ว​พระเจ้า​ก็​รู้​ว่า ใน​วัน​ที่​พวก​คุณ​กิน​ผล​ของ​ต้น​นั้น พวก​คุณ​จะ​ตา​สว่าง​และ​จะ​เป็น​เหมือน​พระเจ้า รู้*ว่า​อะไร​ดี​อะไร​ชั่ว”+

6 ผู้​หญิง​นั้น​เห็น​ว่า​ผล​ของ​ต้น​ไม้​นั้น​น่า​กิน น่า​ดู และ​สวย​สะดุด​ตา​จริง ๆ เธอ​จึง​เก็บ​มา​กิน+ ต่อ​มา​เมื่อ​อยู่​กับ​สามี เธอ​ก็​เอา​ผล​จาก​ต้น​นั้น​ให้​สามี​กิน​ด้วย เขา​ก็​กิน+ 7 แล้ว​ทั้ง​สอง​ก็​ตา​สว่าง​และ​รู้​ว่า​ตัว​เอง​เปลือย​อยู่ จึง​เอา​ใบ​มะเดื่อ​มา​กลัด​เข้า​ด้วย​กัน​เป็น​ผืน​แล้ว​ปิด​รอบ​สะโพก+

8 ต่อ​มา พวก​เขา​ได้​ยิน​เสียง​พระ​ยะโฮวา​ขณะ​ที่​พระองค์​เดิน​อยู่​ใน​สวน​ช่วง​ที่​ลม​พัด​เย็น​สบาย ผู้​ชาย​คน​นั้น​กับ​ภรรยา​จึง​ไป​ซ่อน​ตัว​อยู่​ท่ามกลาง​ต้น​ไม้​ใน​สวน​เพื่อ​ไม่​ให้​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​เห็น 9 พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​เรียก​หา​ผู้​ชาย​คน​นั้น​หลาย​ครั้ง​ว่า “เจ้า​อยู่​ไหน?” 10 ใน​ที่​สุด​เขา​ก็​พูด​ว่า “ผม​ได้​ยิน​เสียง​พระองค์​ใน​สวน​แล้ว แต่​ผม​กลัว​เพราะ​ว่า​เปลือย​อยู่ ผม​เลย​หนี​ไป​ซ่อน​ตัว” 11 พระองค์​จึง​พูด​ว่า “ใคร​บอก​เจ้า​ล่ะ​ว่า​เจ้า​เปลือย​อยู่?+ นี่​เจ้า​แอบ​กิน​ผลไม้​ที่​เรา​ห้าม​ไม่​ให้​กิน​ไป​แล้ว​ใช่​ไหม?”+ 12 ผู้​ชาย​นั้น​พูด​ว่า “ผู้​หญิง​ที่​พระองค์​ยก​ให้​ผม​นั่น​แหละ​เอา​ผล​ของ​ต้น​นั้น​ให้​ผม ผม​ถึง​ได้​กิน” 13 พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​พูด​กับ​ผู้​หญิง​ว่า “ทำไม​เจ้า​ทำ​อย่าง​นั้น?” ผู้​หญิง​นั้น​ตอบ​ว่า “งู​หลอก​ดิฉัน ดิฉัน​ถึง​ได้​กิน”+

14 พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​พูด​กับ​งู+ว่า “เพราะ​เจ้า​ทำ​อย่าง​นี้ เจ้า​เลย​ต้อง​ถูก​สาป​แช่ง ใน​พวก​สัตว์​ที่​เชื่อง​และ​สัตว์​ป่า​ทั้ง​หมด​นั้น เจ้า​เป็น​สัตว์​ที่​ถูก​สาป​แช่ง เจ้า​จะ​ต้อง​เลื้อย​และ​กิน​ดิน​ไป​จน​ตาย 15 เรา​จะ​ให้​เจ้ากับ​ผู้​หญิงเป็น​ศัตรู​กัน และ​ให้​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า+กับ​ลูก​หลาน​ของ​เธอ+เป็น​ศัตรู​กัน เขา​จะ​บดขยี้*หัว​เจ้าและ​เจ้า​จะ​ทำ​ให้​ส้น​เท้า​เขา​ฟก​ช้ำ”*+

16 พระองค์​พูด​กับ​ผู้​หญิง​ว่า “เรา​จะ​ให้​เจ้า​มี​ความ​ลำบาก​มาก​ขึ้น​เมื่อ​เจ้า​ท้อง เจ้า​จะ​คลอด​ลูก​ด้วย​ความ​เจ็บ​ปวด เจ้า​จะ​ต้อง​คอย​พึ่ง​สามี และ​เขา​จะ​ใช้​อำนาจ​กับ​เจ้า”

17 พระองค์​ก็​พูด​กับ​อาดัม*ว่า “เพราะ​เจ้า​ฟัง​ภรรยา​และ​กิน​ผลไม้​จาก​ต้น​ที่​เรา​สั่ง+ว่า ‘ห้าม​กิน’ เจ้า​จึง​ทำ​ให้​แผ่นดิน​ถูก​สาป​แช่ง+ เจ้า​จะ​หา​กิน​บน​แผ่นดิน​ด้วย​ความ​ยาก​ลำบาก​ไป​ตลอด​ชีวิต+ 18 จะ​มี​ต้น​หนาม​และ​วัชพืช​งอก​ขึ้น​มา และ​เจ้า​จะ​กิน​พืช​ที่​งอก​ขึ้น​บน​แผ่นดิน 19 เจ้า​จะ​หา​กิน​จน​เหงื่อ​ไหล​โซม​จน​กว่า​จะ​กลับ​เป็น​ดิน เพราะ​เจ้า​ถูก​สร้าง​จาก​ดิน+ เจ้า​เกิด​จาก​ดิน เจ้า​จะ​ต้อง​กลับ​เป็น​ดิน​อีก”+

20 อาดัม​ตั้ง​ชื่อ​ให้​ภรรยา​ว่า​เอวา* เพราะ​เธอ​จะ​เป็น​แม่​ของ​มนุษย์​ทุก​คน*+ 21 พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ทำ​เสื้อ​ยาว​จาก​หนัง​สัตว์​ให้​อาดัม​กับ​ภรรยา​เอา​ไว้​ใส่+ 22 แล้ว​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​พูด​ว่า “ตอน​นี้​มนุษย์​รู้​ว่า​อะไร​ดี​อะไร​ชั่ว​เหมือน​เรา*แล้ว+ ดัง​นั้น เรา​ต้อง​ทำ​อะไร​สัก​อย่าง​เพื่อ​ไม่​ให้​เขา​ยื่น​มือ​ไป​เด็ด​ผลไม้​จาก​ต้น​ไม้​ที่​ให้​ชีวิต+มา​กิน แล้ว​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป” 23 พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​จึง​ไล่​เขา​ออก​จาก​สวน​เอเดน+ให้​ไป​เพาะ​ปลูก​บน​ดิน​ที่​ใช้​สร้าง​เขา​ขึ้น​มา+ 24 เมื่อ​พระองค์​ไล่​มนุษย์​ออก​ไป​แล้ว พระองค์​ให้​มี​เครูบ*+อยู่​ทาง​ด้าน​ตะวัน​ออก​ของ​สวน​เอเดน และ​มี​ดาบ​ที่​มี​ไฟ​ลุก​และ​หมุน​อยู่​ที่​นั่น​ด้วย เพื่อ​กั้น​ทาง​ไป​ถึง​ต้น​ไม้​ที่​ให้​ชีวิต

4 อาดัม​มี​เพศ​สัมพันธ์​กับ​เอวา​ภรรยา​ของ​เขา เธอ​ตั้ง​ท้อง+ ต่อ​มา​เมื่อ​เธอ​คลอด​คาอิน+แล้ว เธอ​บอก​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ฉัน​ให้​มี​ลูก​ชาย​คน​หนึ่ง” 2 หลัง​จาก​นั้น เธอ​ก็​ตั้ง​ท้อง​อีก​และ​คลอด​อาเบล+น้อง​ชาย​ของ​คาอิน

พอ​โต​ขึ้น​อาเบล​เป็น​คน​เลี้ยง​แกะ ส่วน​คาอิน​เป็น​คน​ทำ​ไร่​ไถ​นา 3 อยู่​มา​วัน​หนึ่ง คาอิน​เอา​พืช​ผล​จาก​ไร่​นามา​ถวาย​พระ​ยะโฮวา 4 อาเบล​ก็​นำ​ลูก​แกะ​ตัว​แรก​บาง​ตัว​ที่​คลอด​ออก​มา​จาก​ฝูง​ของ​ตัว​เอง+มา​ถวาย​พร้อม​กับ​ส่วน​ที่​เป็น​มัน​ของ​แกะ​พวก​นั้น​ด้วย พระ​ยะโฮวา​พอ​ใจ​อาเบล​กับ​ของ​ถวาย​ของ​เขา+ 5 แต่​พระองค์​ไม่​พอ​ใจ​คาอิน​กับ​ของ​ถวาย​ของ​เขา​เลย คาอิน​ก็​โกรธ​มาก​หน้า​ตา​บึ้ง​ตึง 6 พระ​ยะโฮวา​จึง​พูด​กับ​คาอิน​ว่า “ทำไม​เจ้า​โกรธ​และ​หน้า​ตา​บึ้ง​ตึง​อย่าง​นี้? 7 ถ้า​เจ้า​เปลี่ยน​ใจ​มา​ทำ​ดี เรา​จะ​พอ​ใจ​เจ้า แต่​ถ้า​เจ้า​ไม่​เปลี่ยน บาป​ก็​จะ​ซุ่ม​คอย​ตะครุบ​เจ้า​อยู่​ที่​ประตู เจ้า​น่า​จะ​เอา​ชนะ​มัน​ไม่​ใช่​หรือ?”

8 ตอน​หลัง คาอิน​พูด​กับ​อาเบล​น้อง​ชาย​ว่า “ไป​ที่​ทุ่ง​กัน​เถอะ” พอ​อยู่​ใน​ทุ่ง​ด้วย​กัน คาอิน​ก็​ทำ​ร้าย​และ​ฆ่า​อาเบล​น้อง​ของ​ตัว​เอง+ 9 ต่อ​มา​พระ​ยะโฮวา​ถาม​คาอิน​ว่า “อาเบล​น้อง​เจ้า​อยู่​ไหน?” เขา​ตอบ​ว่า “ผม​ไม่​รู้ ผม​เป็น​คน​ดู​แล​น้อง​หรือ?” 10 พระองค์​จึง​พูด​ว่า “เจ้า​ทำ​อะไร​ลง​ไป? ฟัง​สิ! เลือด​ของ​น้อง​เจ้า​ที่​ไหล​ลง​ไป​ใน​ดิน​กำลัง​ร้อง​ขอ​ความ​ยุติธรรม​จาก​เรา+ 11 เจ้า​จะ​ถูก​แช่ง​และ​ถูก​ไล่​ออก​ไป​จาก​แผ่นดิน​เพราะ​เจ้า​ฆ่า​น้อง​ของ​ตัว​เอง ทำ​ให้​เลือด​ของ​น้อง​ไหล​ลง​ไป​ใน​ดิน+ 12 แผ่นดิน​ที่​เจ้า​เพาะ​ปลูก​จะ​ไม่​ค่อย​เกิด​ผล เจ้า​จะ​เป็น​คน​ร่อน​เร่​และ​ต้อง​คอย​หลบ​หนี​อยู่​ใน​โลก” 13 คาอินบอก​พระ​ยะโฮวา​ว่า “ความ​ผิด​ที่​ผม​ทำ​นั้น​มี​โทษ​หนัก​เกิน​กว่า​จะ​ทน​ได้ 14 วัน​นี้​พระองค์​ไล่​ผม​ออก​จาก​แผ่นดิน​นี้​ให้​พ้น​หน้า​พระองค์ ผม​ต้อง​ร่อน​เร่​และ​คอย​หลบ​หนี​อยู่​ใน​โลก ถ้า​มี​ใคร​พบ​ผม เขา​จะ​ฆ่า​ผม​แน่ ๆ” 15 พระ​ยะโฮวา​จึง​บอก​เขา​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น คน​ที่​ฆ่า​คาอิน​จะ​ต้อง​รับ​โทษ​หนัก​เป็น 7 เท่า”

แล้ว​พระ​ยะโฮวา​ก็​ทำ​เครื่องหมาย*ให้​คาอิน เพื่อ​คน​ที่​พบ​เขา​จะ​ได้​ไม่​ฆ่า​เขา 16 คาอิน​จึง​หนี​หน้า​พระ​ยะโฮวา​ไป​อาศัย​ใน​แผ่นดิน​โนด*ซึ่ง​อยู่​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ออก​ของ​เอเดน+

17 ต่อ​มา คาอิน​มี​เพศ​สัมพันธ์​กับ​ภรรยา+ เธอ​ก็​ตั้ง​ท้อง​และ​คลอด​เอโนค ภาย​หลัง คาอิน​สร้าง​เมือง​หนึ่ง​ขึ้น​และ​ตั้ง​ชื่อ​เมือง​นั้น​ว่า​เอโนค​ตาม​ชื่อ​ลูก​ชาย 18 เอโนค​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​อิราด อิราด​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เมหุยาเอล เมหุยาเอล​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เมธูชาเอล เมธูชาเอล​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​ลาเมค

19 ลาเมค​มี​ภรรยา 2 คน คน​แรก​ชื่อ​อาดาห์ คน​ที่​สอง​ชื่อ​ศิลลาห์ 20 อาดาห์​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​ยาบาล ยาบาล​เป็น​คน​แรก​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​เต็นท์​และ​เลี้ยง​สัตว์ 21 ยาบาล​มี​น้อง​ชาย​ชื่อ​ยูบาล ยูบาล​เป็น​คน​แรก​ที่​ดีด​พิณ​และ​เป่า​ปี่ 22 ส่วน​ศิลลาห์​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​ทูบัลคาอิน​ซึ่ง​เป็น​ช่าง​ทำ​เครื่อง​มือ​ทุก​ชนิด​จาก​ทองแดง​และ​เหล็ก และ​มี​ลูก​สาว​ชื่อ​นาอามาห์ 23 ลาเมค​พูด​เป็น​บท​กวี​กับ​อาดาห์​และ​ศิลลาห์​ภรรยา​ของ​ตัว​เอง​ว่า

“ภรรยา​ทั้ง​สอง​ของ​ลาเมค​ฟัง​ให้​ดี

ตั้งใจ​ฟัง​ที่​ฉัน​พูด

ฉัน​ได้​ฆ่า​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​ทำ​ร้าย​ฉัน

คือ​คน​หนุ่ม​ที่​ทุบ​ตี​ฉัน

24 ถ้า​คน​ที่​ฆ่า​คาอิน​ต้อง​รับ​โทษ​หนัก​เป็น 7 เท่า+

คน​ที่​ฆ่า​ลาเมค​ก็​ต้อง​รับ​โทษ​เป็น 77 เท่า”

25 อาดัม​มี​เพศ​สัมพันธ์​กับ​ภรรยา​อีก เธอ​ก็​คลอด​ลูก​ชาย​และ​ตั้ง​ชื่อ​ว่า​เสท*+ เพราะ​เป็น​อย่าง​ที่​เธอ​พูด​ว่า “พระเจ้า​ให้​ฉัน​มี​ลูก​อีก​คน​หนึ่ง​แทน​อาเบล เพราะ​คาอิน​ได้​ฆ่า​เขา”+ 26 เสท​ก็​มี​ลูก​ชาย​คน​หนึ่ง เขา​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​ว่า​เอโนช+ ผู้​คน​เริ่ม​ใช้​ชื่อ​พระ​ยะโฮวา​ผิด ๆ ตั้ง​แต่​นั้น​มา

5 นี่​เป็น​บันทึก​ประวัติ​ของ​อาดัม ใน​วัน​ที่​พระเจ้า​สร้าง​อาดัม​นั้น​พระองค์​สร้าง​เขา​ให้​มี​ลักษณะ​คล้าย​กับ​พระองค์+ 2 พระเจ้า​สร้าง​มนุษย์​เป็น​ผู้​ชาย​และ​ผู้​หญิง+ และ​ใน​วัน​ที่​สร้าง​พวก​เขา​ขึ้น​มา+นั้น​พระองค์​อวยพร​พวก​เขา​และ​เรียก​พวก​เขา​ว่า “มนุษย์”*

3 อาดัม​อายุ​ได้ 130 ปี​แล้ว​จึง​มี​ลูกชาย​รูป​ร่าง​ลักษณะ​คล้าย​กับ​ตัว​เอง เขา​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​คน​นี้​ว่า​เสท+ 4 เมื่อ​อาดัม​มี​เสท​แล้ว​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​อีก 800 ปี และ​มี​ลูก​ชาย​ลูก​สาว​อีก​หลาย​คน 5 อาดัม​ตาย​ตอน​อายุ 930 ปี+

6 เสท​อายุ​ได้ 105 ปี​แล้ว​จึง​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เอโนช+ 7 เมื่อ​เสท​มี​เอโนช​แล้ว​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​อีก 807 ปี และ​มี​ลูก​ชาย​ลูก​สาว​อีก​หลาย​คน 8 เสท​ตาย​ตอน​อายุ 912 ปี

9 เอโนช​อายุ​ได้ 90 ปี​แล้ว​จึง​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เคนัน 10 เมื่อ​เอโนช​มี​เคนัน​แล้ว​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​อีก 815 ปี และ​มี​ลูก​ชาย​ลูก​สาว​อีก​หลาย​คน 11 เอโนช​ตาย​ตอน​อายุ 905 ปี

12 เคนัน​อายุ​ได้ 70 ปี​แล้ว​จึง​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​มาหะลาเลล+ 13 เมื่อ​เคนัน​มี​มาหะลาเลล​แล้ว​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​อีก 840 ปี และ​มี​ลูก​ชาย​ลูก​สาว​อีก​หลาย​คน 14 เคนัน​ตาย​ตอน​อายุ 910 ปี

15 มาหะลาเลล​อายุ​ได้ 65 ปี​แล้ว​จึง​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​ยาเรด+ 16 เมื่อ​มาหะลาเลล​มี​ยาเรด​แล้ว​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​อีก 830 ปี และ​มี​ลูก​ชาย​ลูก​สาว​อีก​หลาย​คน 17 มาหะลาเลล​ตาย​ตอน​อายุ 895 ปี

18 ยาเรด​อายุ​ได้ 162 ปี​แล้ว​จึง​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เอโนค+ 19 เมื่อ​ยาเรด​มี​เอโนค​แล้ว​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​อีก 800 ปี และ​มี​ลูก​ชาย​ลูก​สาว​อีก​หลาย​คน 20 ยาเรด​ตาย​ตอน​อายุ 962 ปี

21 เอโนค​อายุ​ได้ 65 ปี​แล้ว​จึง​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เมธูเสลาห์+ 22 เมื่อ​เอโนค​มี​เมธูเสลาห์​แล้ว​ก็​ใช้​ชีวิต​อย่าง​ที่​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​พอ​ใจ*ต่อ​ไป​อีก 300 ปี และ​มี​ลูก​ชาย​ลูก​สาว​อีก​หลาย​คน 23 เอโนค​อายุ​ได้ 365 ปี 24 เอโนค​ใช้​ชีวิต​อย่าง​ที่​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​พอ​ใจ*อยู่​เสมอ+ แล้ว​ก็​ไม่​มี​ใคร​เห็น​เขา​อีก​เลย เพราะ​พระเจ้า​รับ​เขา​ไป+

25 เมธูเสลาห์​อายุ​ได้ 187 ปี​แล้ว​จึง​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​ลาเมค+ 26 เมื่อ​เมธูเสลาห์​มี​ลาเมค​แล้ว​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​อีก 782 ปี และ​มี​ลูก​ชาย​ลูก​สาว​อีก​หลาย​คน 27 เมธูเสลาห์​ตาย​ตอน​อายุ 969 ปี

28 ลาเมค​อายุ​ได้ 182 ปี​แล้ว​จึง​มี​ลูก​ชาย​คน​หนึ่ง 29 เขา​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​ว่า​โนอาห์*+ เขา​บอก​ว่า “ลูก​คน​นี้​จะ​ช่วย​ลด​งาน​หนัก และ​ช่วย​ให้​ความ​เหนื่อย​ยาก​ซึ่ง​เกิด​จาก​แผ่นดิน​ที่​ถูก​พระ​ยะโฮวา​สาป​แช่ง​นั้น​ลด​ลง”+ 30 เมื่อ​ลาเมค​มี​โนอาห์​แล้ว​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​อีก 595 ปี และ​มี​ลูก​ชาย​ลูก​สาว​อีก​หลาย​คน 31 ลาเมค​ตาย​ตอน​อายุ 777 ปี

32 โนอาห์​อายุ​ได้ 500 ปี​แล้ว​จึง​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เชม+ ฮาม+ และ​ยาเฟท+

6 ต่อ​มา เมื่อ​มนุษย์​บน​โลก​เริ่ม​มี​มาก​ขึ้น​และ​มี​ลูก​สาว​หลาย​คน 2 ลูก ๆ*ของ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้+สังเกตเห็น​ว่า​ลูก​สาว​ของ​มนุษย์​สวย จึง​เลือก​เอา​มา​เป็น​ภรรยา​ตาม​ใจ​ชอบ 3 พระ​ยะโฮวา​จึง​พูด​ว่า “เรา​จะ​ไม่​ทน​กับ​มนุษย์​เรื่อย​ไป​อย่าง​นี้+เพราะ​เขา​เป็น​มนุษย์​ที่​มี​บาป* ดัง​นั้น เขา​จะ​มี​เวลา​อีก 120 ปี”+

4 ตอน​นั้น​มี​พวก​คน​ร่าง​ยักษ์*อยู่​บน​โลก​แล้ว และ​ต่อ​มา​ก็​ยัง​มี​อีก เพราะ​ลูก ๆ ของ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​ยัง​คง​มี​เพศ​สัมพันธ์​กับ​ลูก​สาว​ของ​มนุษย์​และ​มี​ลูก ลูก​ของ​พวก​เขา​เป็น​คน​ร่าง​ยักษ์ มี​กำลัง​มาก​และ​มี​ชื่อเสียง​ใน​โลก​สมัย​โบราณ

5 พระ​ยะโฮวา​เห็น​ว่า​ความ​ชั่ว​ของ​มนุษย์​มี​มาก​มาย​บน​โลก​และ​ใจ​เขา​มัก​คิด​แต่​เรื่อง​ชั่ว ๆ เสมอ+ 6 มนุษย์​ที่​พระ​ยะโฮวา​สร้าง​ไว้​บน​โลก​ทำ​ให้​พระองค์​เสียใจ และ​เจ็บ​ปวด​ใจ+ 7 พระ​ยะโฮวา​จึง​พูด​ว่า “เรา​จะ​กวาด​ล้าง​มนุษย์​ที่​เรา​ได้​สร้าง​ให้​หมด​ไป​จาก​โลก​เพราะ​พวก​เขา​ทำ​ให้​เรา​เสียใจ เรา​จะ​กวาด​ล้าง​ทั้ง​มนุษย์ สัตว์​ที่​เชื่อง สัตว์​เลื้อยคลาน และ​สัตว์​ที่​บิน​ใน​ท้องฟ้า” 8 แต่​พระ​ยะโฮวา​ชื่น​ชอบ​โนอาห์

9 นี่​เป็น​บันทึก​เหตุ​การณ์​ใน​ชีวิต​โนอาห์

โนอาห์​เป็น​คน​ดี*+ เขา​ไม่​เหมือน​กับ​คน​ใน​สมัย​นั้น​เพราะ​เขา​เป็น​คน​ดี​พร้อม​ไม่​มี​ที่​ติ โนอาห์​ใช้​ชีวิต​อย่าง​ที่​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​พอ​ใจ*+ 10 โนอาห์​มี​ลูก​ชาย 3 คน​ชื่อ​เชม ฮาม และ​ยาเฟท+ 11 พระเจ้า​เที่ยง​แท้​เห็น​ว่า​โลก​มี​แต่​ความ​เสื่อม​ทราม​และ​ความ​รุนแรง 12 เมื่อ​พระองค์​มอง​ลง​มา​ที่​โลก พระองค์​เห็น​แต่​ความ​เสื่อม​ทราม และ​มนุษย์​ก็​ทำ​แต่​ความ​ชั่ว+

13 แล้ว​พระเจ้า​พูด​กับ​โนอาห์​ว่า “เรา​ตัดสิน​ใจ​แล้ว​ว่า​จะ​ทำลาย​สิ่ง​มี​ชีวิต​ทั้ง​หมด เพราะ​โลก​นี้​มี​แต่​ความ​รุนแรง​ที่​เกิด​จาก​น้ำ​มือ​มนุษย์ เรา​จะ​ทำลาย​พวก​เขา​และ​ชำระ​ล้าง​โลก+ 14 ให้​เจ้า​ต่อ​เรือ*ด้วย​ไม้​เนื้อ​ดี*+ ใน​เรือ​นั้น​ให้​แบ่ง​เป็น​ห้อง ๆ และ​ใช้​น้ำมัน​ดิน+ทา​ทั้ง​ด้าน​ใน​และ​ด้าน​นอก 15 ให้​ต่อ​เรือ​ตาม​แบบ​นี้​คือ ยาว 300 ศอก กว้าง 50 ศอก และ​สูง 30 ศอก* 16 และ​ถัด​จาก​หลังคา​ลง​มา ให้​ทำ​ช่อง​รับ​แสง*สูง 1 ศอก*และ​ทำ​ประตู​ที่​ด้าน​ข้าง​ลำ​เรือ+ เรือ​นั้น​ให้​มี​ชั้น​ล่าง ชั้น​ที่​สอง และ​ชั้น​ที่​สาม

17 “เรา​จะ​ทำ​ให้​น้ำ​ท่วม​โลก+เพื่อทำลาย​สิ่ง​มี​ชีวิต​ทั้ง​หมด​ที่​อยู่​ใน​โลก ทุก​สิ่ง​บน​แผ่นดิน​จะ​ตาย​หมด+ 18 เรา​สัญญา​ว่า​จะ​ช่วย​ชีวิต​เจ้า ให้​เจ้า​เข้า​ไป​ใน​เรือ​พร้อม​กับ​ภรรยา ลูก​ชาย และ​ลูก​สะใภ้+ 19 และ​นำ​สัตว์​ทุก​ชนิด​เข้า​ไป​ใน​เรือ+ชนิด​ละ​คู่ ตัว​ผู้ 1 ตัว​และ​ตัว​เมีย 1 ตัว+ เพื่อ​ให้​พวก​มัน​รอด​ตาย​พร้อม​กับ​เจ้า 20 คือ​สัตว์​ที่​บิน​ได้​ชนิด​ละ​คู่ สัตว์​ที่​เชื่อง​ชนิด​ละ​คู่ และ​สัตว์​เลื้อยคลาน​ทั้ง​หมด​ที่​อยู่​บน​พื้น​ดิน​ชนิด​ละ​คู่ สัตว์​ทั้ง​หมด​นี้​จะ​มา​หา​เจ้า​เพื่อ​ให้​เจ้า​ช่วย​ชีวิต​พวก​มัน+ 21 ให้​เจ้า​รวบ​รวม​อาหาร​ทุก​อย่าง​เก็บ​ไว้+สำหรับ​เจ้า​และ​สัตว์​ทั้ง​หมด​นั้น”

22 โนอาห์​ทำ​ตาม​ที่​พระเจ้า​สั่ง เขา​ทำ​ตาม​ทุก​อย่าง+

7 แล้ว​พระ​ยะโฮวา​พูด​กับ​โนอาห์​ว่า “ให้​เจ้า​กับ​ทุก​คน​ใน​ครอบครัว​เข้า​ไป​ใน​เรือ เพราะ​ใน​พวก​คน​ของ​ยุค​นี้ เรา​เห็น​ว่า​มี​แต่​เจ้า​ที่​เป็น​คน​ดี+ 2 เอา​สัตว์​ที่​สะอาด​ทุก​ชนิด​ทั้ง​ตัว​ผู้​และ​ตัว​เมีย​ไป​ด้วย​ชนิด​ละ 7 ตัว*+ และ​เอา​สัตว์​ที่​ไม่​สะอาด​ทุก​ชนิด​ทั้ง​ตัว​ผู้​และ​ตัว​เมีย​ไป​ด้วย​ชนิด​ละ​คู่ 3 และ​เอา​สัตว์​ที่​บิน​ใน​ท้องฟ้า​ไป​ด้วย​ทั้ง​ตัว​ผู้​และ​ตัว​เมีย​ชนิด​ละ 7 ตัว*เพื่อ​ให้​พวก​มัน​รอด​ชีวิต​และ​ขยาย​เผ่า​พันธุ์​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น​ทั่ว​โลก+ 4 เพราะ​อีก 7 วัน​เรา​จะ​ทำ​ให้​ฝน​ตก+บน​โลก 40 วัน 40 คืน+ เรา​จะ​กวาด​ล้าง​สิ่ง​มี​ชีวิต​ทั้ง​หมด​ที่​เรา​ได้​สร้าง​ไว้​ให้​หมด​ไป​จาก​แผ่นดิน”+ 5 โนอาห์​จึง​ทำ​ทุก​อย่าง​ตาม​ที่​พระ​ยะโฮวา​สั่ง

6 ตอน​ที่​เกิด​น้ำ​ท่วม​โลก​นั้น​โนอาห์​อายุ 600 ปี+ 7 โนอาห์​กับ​ภรรยา ลูก​ชาย และ​ลูก​สะใภ้​เข้า​ไป​ใน​เรือ​ก่อน​ที่​น้ำ​จะ​ท่วม+ 8 สัตว์​ที่​สะอาด​ทุก​ชนิด สัตว์​ที่​ไม่​สะอาด​ทุก​ชนิด สัตว์​ที่​บิน​ได้​ทุก​ชนิด และ​สัตว์​ทุก​ชนิด​ที่​อยู่​บน​พื้น​ดิน+ 9 ทั้ง​ตัว​ผู้​และ​ตัว​เมีย​ก็​เข้า​ไป​อยู่​ใน​เรือ​กับ​โนอาห์​ที​ละ​คู่ ตาม​ที่​พระเจ้า​สั่ง​โนอาห์​ไว้ 10 อีก 7 วัน​ต่อ​มา​ก็​เกิด​น้ำ​ท่วม

11 ใน​วัน​ที่ 17 เดือน 2 ของ​ปี​ที่​โนอาห์​อายุ​ครบ 600 ปี น้ำ​ทั้ง​หมด​ที่​อยู่​บน​ฟ้า​และ​ประตู​น้ำ​ทั้ง​หมด​บน​ฟ้า​ก็​เปิด​ออก+ 12 ฝน​ตก​หนัก​บน​โลก​ถึง 40 วัน 40 คืน 13 ใน​วัน​นั้น​เอง โนอาห์​กับ​ลูก​ชาย​คือ เชม ฮาม และ​ยาเฟท+ รวม​ทั้ง​ภรรยา​โนอาห์​กับ​ลูก​สะใภ้​ทั้ง​สาม​ได้​เข้า​ไป​ใน​เรือ+ 14 พวก​เขา​เข้า​ไป​พร้อม​กับ​สัตว์​ป่า​ทุก​ชนิด สัตว์​ที่​เชื่อง​ทุก​ชนิด สัตว์​เลื้อยคลาน*ทุก​ชนิด​ที่​อยู่​บน​แผ่นดิน สัตว์​ที่​บิน​ได้​ทุก​ชนิด นก​ทุก​ชนิด สัตว์​ที่​มี​ปีก​ทุก​ชนิด 15 สัตว์​ที่​มี​ชีวิตทุก​ชนิด​เข้า​ไป​อยู่​ใน​เรือ​กับ​โนอาห์​ที​ละ​คู่ ๆ 16 สัตว์​ทุก​ชนิด​ทั้ง​ตัว​ผู้​และ​ตัว​เมีย​เข้า​ไป​อยู่​ใน​เรือ​ตาม​ที่​พระเจ้า​สั่ง​โนอาห์ แล้ว​พระ​ยะโฮวา​ก็​ปิด​ประตู​เรือ

17 ฝน​ตก​ตลอด 40 วัน​จน​น้ำ​ท่วม​สูง​ขึ้น ๆ และ​หนุน​เรือ​ให้​ลอย​ขึ้น​จาก​แผ่นดิน 18 น้ำ​ท่วม​แผ่นดิน​สูง​ขึ้น​เรื่อย ๆ และ​เรือ​ก็​ลอย​อยู่​บน​ผิว​น้ำ 19 น้ำ​ท่วม​แผ่นดิน​สูง​มาก​ถึง​ขนาด​ที่​ท่วม​ภูเขา​สูง​ทุก​ลูก​บน​โลก​จน​มิด+ 20 น้ำ​ท่วม​สูง​กว่า​ภูเขา​ทั้ง​หมด​นั้น​ขึ้น​ไป​อีก 15 ศอก*

21 สิ่ง​มี​ชีวิต​ทั้ง​หมด​ที่​อยู่​บน​แผ่นดิน​จึง​ตาย​หมด+ ทั้ง​สัตว์​ที่​บิน​ได้ สัตว์​ที่​เชื่อง สัตว์​ป่า สัตว์​เล็ก ๆ ที่​อยู่​เป็น​ฝูง และ​มนุษย์​ทั้ง​หมด+ 22 ทุก​สิ่ง​ที่​มี​ชีวิต​และ​หายใจ​ได้​บน​บก​ก็​ตาย​หมด+ 23 พระองค์​กวาด​ล้าง​สิ่ง​มี​ชีวิต​ทุก​ชนิด​ที่​อยู่​บน​แผ่นดิน ทั้ง​คน​และ​สัตว์ สัตว์​เลื้อยคลาน และ​สัตว์​ที่​บิน​ใน​ท้องฟ้า สิ่ง​มี​ชีวิต​ทั้ง​หมด​นั้น​ถูก​กวาด​ล้าง​ไป​จน​หมด​จาก​โลก+ เหลือ​แต่​โนอาห์​กับ​ครอบครัว​และ​สัตว์​ที่​อยู่​กับ​เขา​ใน​เรือ​เท่า​นั้น​ที่​รอด​ชีวิต+ 24 น้ำ​ท่วม​โลก​อยู่​ถึง 150 วัน+

8 พระเจ้า​ไม่​ลืม​โนอาห์​กับ​สัตว์​ป่า​และ​สัตว์​ที่​เชื่อง​ซึ่ง​อยู่​ใน​เรือ+ พระองค์​จึง​ให้​มี​ลม​พัด​บน​โลก และ​น้ำ​ก็​เริ่ม​ลด​ลง 2 น้ำ​ทั้ง​หมด​ที่​อยู่​บน​ฟ้า​และ​ประตู​น้ำ​ทั้ง​หมด​บน​ฟ้า​ก็​ปิด ฝน​ก็​หยุด​ตก+ 3 น้ำ​ที่​ท่วม​แผ่นดิน​ลด​ลง​เรื่อย ๆ เมื่อ​ผ่าน​ไป 150 วัน​น้ำ​ก็​ลด​ลง​มาก​แล้ว 4 วัน​ที่ 17 เดือน 7 เรือ​ค้าง​อยู่​บน​เทือก​เขา​อารารัต 5 น้ำ​ลด​ลง​เรื่อย ๆ จน​ถึง​เดือน 10 และ​พอ​ถึง​วัน​ที่ 1 เดือน 10 ก็​เริ่ม​เห็น​ยอด​เขา​ต่าง ๆ+

6 ผ่าน​ไป​อีก 40 วัน โนอาห์​เปิด​หน้าต่าง+ ที่​ทำ​ไว้​บน​เรือ 7 แล้ว​ปล่อย​อีกา​ออก​ไป​ตัว​หนึ่ง มัน​บิน​ไป​มา​อยู่​นอก​เรือ​และ​บิน​กลับ​มา​เกาะ​ที่​เรือ​อีก มัน​บิน​ไป​บิน​มา​จน​น้ำ​ที่​ท่วม​แผ่นดิน​ลด​ลง​จน​แห้ง

8 ต่อ​มา​เขา​ปล่อย​นก​เขา​ออก​ไป​ตัว​หนึ่ง​เพื่อ​ดู​ว่า​น้ำ​ลด​ถึง​พื้น​ดิน​หรือ​ยัง 9 นก​เขา​ตัว​นั้น​ไม่​พบ​ที่​จะ​เกาะ​เพราะ​น้ำ​ยัง​ท่วม​อยู่​ทั่ว​โลก+ มัน​จึง​กลับ​มา​ที่​เรือ โนอาห์​ก็​ยื่น​มือ​ออก​ไป​รับ​มัน​เข้า​มา​ใน​เรือ 10 เขา​รอ​อีก 7 วัน​จึง​ปล่อย​นก​เขา​ออก​ไป​จาก​เรือ​อีก​ครั้ง​หนึ่ง 11 เย็น​วัน​นั้น​เมื่อ​นก​เขา​กลับ​มา โนอาห์​เห็น​มัน​คาบ​ใบ​มะกอก​เขียว​สด​มา​ด้วย​จึง​รู้​ว่า​น้ำ​ลด​ถึง​พื้น​ดิน​แล้ว+ 12 เขา​ก็​รอ​อีก 7 วัน​แล้ว​จึง​ปล่อย​นก​เขา​ออก​ไป​อีก​ครั้ง แต่​คราว​นี้​มัน​ไม่​กลับ​มา​หา​เขา​อีก​เลย

13 ใน​วัน​ที่ 1 เดือน 1 ของ​ปี​ที่​โนอาห์​อายุ​ได้ 601 ปี+ น้ำ​ก็​แห้ง โนอาห์​เปิด​ช่อง​บน​หลังคา​เรือ​ออก​และ​เห็น​ว่า​พื้น​ดิน​เริ่ม​แห้ง 14 พอ​ถึง​วัน​ที่ 27 เดือน 2 แผ่นดิน​ก็​แห้ง​แล้ว

15 พระเจ้า​จึง​บอก​กับ​โนอาห์​ว่า 16 “ตอน​นี้ เจ้า​กับ​ภรรยา​รวม​ทั้ง​ลูก​ชาย​กับ​ลูก​สะใภ้​ออก​จาก​เรือ​ได้​แล้ว+ 17 เอา​สัตว์​ทุก​ชนิด​ที่​อยู่​กับ​เจ้า​ออก​ไป​ให้​หมด​ทุก​ตัว+ ทั้ง​สัตว์​ที่​บิน​ได้ สัตว์​บก และ​สัตว์​เลื้อยคลาน​ทุก​ชนิด​ที่​อยู่​บน​แผ่นดิน พวก​มัน​จะ​ได้​กระจาย​ไป​อยู่​ทั่ว​แผ่นดิน เกิด​ลูก​หลาน​มาก​มาย​และ​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น​บน​โลก”+

18 โนอาห์​กับ​ภรรยา ลูก​ชาย+ และ​ลูก​สะใภ้​จึง​ออก​จาก​เรือ 19 สัตว์​ป่า สัตว์​เลื้อยคลาน สัตว์​ที่​บิน​ได้ และ​สัตว์​บก ก็​ออก​จาก​เรือ​ที​ละ​ชนิด+ 20 แล้ว​โนอาห์​ได้​สร้าง​แท่น​บูชา+สำหรับ​พระ​ยะโฮวา และ​เลือก​สัตว์​ที่​สะอาด​บาง​ตัว​กับ​นก​ที่​สะอาด+บาง​ตัว​มา​ถวาย​เป็น​เครื่อง​บูชา​เผา​บน​แท่น​นั้น+ 21 พระ​ยะโฮวา​ได้​กลิ่น​หอม​ที่​ทำ​ให้​พระองค์​พอ​ใจ พระ​ยะโฮวา​จึง​คิด​ว่า “เรา​จะ​ไม่​สาป​แช่ง​แผ่นดิน+เพราะ​มนุษย์​อีก​แล้ว มนุษย์​มัก​คิด​แต่​เรื่อง​ชั่ว​ตั้ง​แต่​เป็น​เด็ก+ และ​เรา​จะ​ไม่​ทำลาย​สิ่ง​มี​ชีวิต​อย่าง​ที่​เรา​ได้​ทำ​ไป​นั้น​อีก​เลย+ 22 ตั้ง​แต่​นี้​ไป โลก​จะ​มี​ฤดู​หว่าน​กับ​ฤดู​เก็บ​เกี่ยว ฤดู​ร้อน​กับ​ฤดู​หนาว ความ​เย็น​กับ​ความ​ร้อน และ​กลางวัน​กับ​กลางคืน​ตลอด​ไป”+

9 พระเจ้า​อวยพร​โนอาห์​กับ​ลูก​ชาย​ว่า “ให้​เกิด​ลูก​หลาน​มาก​มาย​และ​เพิ่ม​จำนวน​ให้​เต็ม​โลก+ 2 สัตว์​ป่า​บน​แผ่นดิน สัตว์​ที่​บิน​ใน​ท้องฟ้า สัตว์​อื่น​ที่​อยู่​บน​พื้น​ดิน และ​ปลา​ใน​ทะเล​จะ​ยัง​กลัว​พวก​เจ้า​อยู่ พวก​เจ้า​จะ​มี​อำนาจ​เหนือ​สัตว์​ทั้ง​หมด+ 3 สัตว์​ที่​มี​ชีวิต​ทั้ง​หมด​จะ​เป็น​อาหาร​ของ​พวก​เจ้า+ เรา​ยก​สัตว์​ทั้ง​หมด​นั้น​ให้​พวก​เจ้า​เหมือน​ที่​เรา​ได้​ยก​พืช​สี​เขียว​ทั้ง​หมด​ให้​พวก​เจ้า​แล้ว+ 4 แต่​เนื้อ​ที่​ยัง​มี​เลือด​อยู่​นั้น​พวก​เจ้า​อย่า​กิน+ เพราะ​เลือด​หมาย​ถึง​ชีวิต+ 5 นอก​จาก​นั้น ถ้า​มี​อะไร​ทำ​ให้​เจ้า​หลั่ง​เลือด​ซึ่ง​หมาย​ถึง​ทำ​ให้​เจ้า​เสีย​ชีวิต เรา​จะ​ให้​มี​การ​ชด​ใช้ ถ้า​เป็น​สัตว์ สัตว์​นั้น​จะ​ต้อง​ตาย ถ้า​เป็น​คน คน​นั้น​ก็​จะ​ต้อง​ชด​ใช้​ด้วย​ชีวิต เพราะ​พวก​เจ้า​เป็น​พี่​น้อง​กัน+ 6 คน​ไหน​ฆ่า​คน* เขา​ก็​จะ​ถูก​คน​อื่น​ฆ่า+ เพราะ​พระเจ้า​สร้าง​มนุษย์​ตาม​แบบ​พระองค์+ 7 ให้​พวก​เจ้า​เกิด​ลูก​หลาน​มาก​มาย​และ​เพิ่ม​จำนวน ให้​มี​จำนวน​เพิ่ม​มาก​ขึ้น​และ​กระจาย​ไป​อยู่​ทั่ว​โลก”+

8 พระเจ้า​พูด​กับ​โนอาห์​และ​ลูก​ชาย​ของ​เขา​ต่อ​ไป​ว่า 9 “เรา​จะ​ทำ​สัญญา​กับ​พวก​เจ้า+และ​ลูก​หลาน​ของ​พวก​เจ้า 10 และ​กับ​สัตว์​ทั้ง​หมด​ที่​อยู่​กับ​พวก​เจ้า ทั้ง​นก สัตว์​ที่​เชื่อง และ​สัตว์​อื่น ๆ ทุก​ชนิด​บน​แผ่นดิน​ที่​อยู่​กับ​พวก​เจ้า คือ​สัตว์​ทั้ง​หมด​ที่​ออก​มา​จาก​เรือ​และ​พวก​ที่​เป็น​ลูก​หลานของ​มัน​ทั้ง​หมด​ที่​อยู่​บน​โลก+ 11 เรา​ทำ​สัญญา​กับ​พวก​เจ้า​ว่า เรา​จะ​ไม่​ใช้​น้ำ​มา​ท่วม​ทำลาย​มนุษย์​และ​สัตว์​ทั้ง​หมด​อีก เรา​จะ​ไม่​ทำลาย​โลก​ด้วย​น้ำ​ท่วม​อีก​แล้ว”+

12 พระเจ้า​พูด​อีก​ว่า “นี่​เป็น​เครื่องหมาย​ที่​ทำ​ให้​ระลึก​ถึง​สัญญา​ที่​เรา​ทำ​กับ​พวก​เจ้า​และ​สัตว์​ทั้ง​หมด​ที่​อยู่​กับ​พวก​เจ้า สัญญา​นี้​จะ​คง​อยู่​ไป​ตลอด​ทุก​ยุค​ทุก​สมัย 13 เรา​ให้​มี​รุ้ง​ที่​เมฆ รุ้ง​นี้​จะ​เป็น​เครื่องหมาย​ที่​ทำ​ให้​ระลึก​ถึง​สัญญา​ระหว่าง​เรา​กับ​โลก 14 เมื่อไหร่​ก็​ตาม​ที่​เรา​ให้​เมฆ​ลอย​อยู่​เหนือ​แผ่นดิน และ​มี​รุ้ง​เกิด​ขึ้น​ที่​เมฆ 15 เรา​ก็​จะ​ระลึก​ถึง​สัญญา​ที่​เรา​ทำ​กับ​พวก​เจ้า​และ​สัตว์​ทุก​ชนิด จะ​ไม่​มี​น้ำ​ท่วม​ทำลาย​ล้าง​มนุษย์​และ​สัตว์​ต่าง ๆ แบบ​นี้​อีก​เลย+ 16 จะ​มี​รุ้ง​เกิด​ขึ้น​ที่​เมฆ และ​เมื่อ​เรา​เห็น เรา​ก็​จะ​ระลึก​ถึง​สัญญา​ที่​จะ​คง​อยู่​ตลอด​ไป​ระหว่าง​เรา​กับ​มนุษย์​และ​สัตว์​ทุก​ชนิด​ที่​อยู่​บน​โลก”

17 พระเจ้า​พูด​กับ​โนอาห์​อีก​ครั้ง​ว่า “นี่​เป็น​เครื่องหมาย​ที่​ทำ​ให้​ระลึก​ถึง​สัญญา​ที่​เรา​ทำ​ขึ้น​ระหว่าง​เรา​กับ​มนุษย์​และ​สัตว์​ทั้ง​หมด​ที่​อยู่​บน​โลก”+

18 ลูก​ชาย​โนอาห์​ที่​ออก​มา​จาก​เรือ​คือ เชม ฮาม และ​ยาเฟท+ ต่อ​มา ฮาม​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​คานาอัน+ 19 สาม​คน​นี้​เป็น​ลูก​ชาย​โนอาห์ พวก​เขา​เป็น​บรรพบุรุษ​ของ​ผู้​คน​ที่​กระจาย​กัน​อยู่​ทั่ว​โลก+

20 แล้ว​โนอาห์​ก็​เริ่ม​ทำ​ไร่​ไถ​นา​และ​ทำ​สวน​องุ่น 21 วัน​หนึ่ง​เขา​ดื่ม​เหล้า​องุ่น​แล้ว​ก็​เมา​และ​นอน​เปลือย​อยู่​ใน​เต็นท์ 22 ฮาม​ซึ่ง​เป็น​พ่อ​ของ​คานาอัน​เข้า​มา​เห็น​พ่อ​เปลือย​อยู่​จึง​ออก​ไป​บอก​พี่​ชาย​ทั้ง​สอง​คน​ที่​อยู่​ข้าง​นอก 23 เชม​กับ​ยาเฟท​จึง​ถือ​ผ้า​คลุม​ผืน​หนึ่ง​พาด​บ่า แล้ว​เดิน​ถอย​หลัง​เข้า​ไป​คลุม​ตัว​พ่อ​ที่​เปลือย​อยู่​โดย​ไม่​หัน​ไป​มอง จึง​ไม่​เห็น​พ่อ​ที่​เปลือย​อยู่

24 พอ​โนอาห์​สร่าง​เมา​ก็​ตื่น​ขึ้น​และ​เมื่อ​รู้​ว่า​ลูก​คน​สุด​ท้อง​ทำ​อะไร​กับ​เขา 25 เขา​จึง​พูด​ว่า

“คานาอัน​จะ​ถูก​แช่ง+

เขา​จะ​เป็น​ทาส​ชั้น​ต่ำ​สุด​ของ​พี่​น้อง​ของ​เขา”+

26 โนอาห์​พูด​ต่อ​ไป​ว่า

“ขอ​ให้​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​เชม​ได้​รับ​การ​สรรเสริญ

และ​ให้​คานาอัน​เป็น​ทาส​เขา+

27 ขอ​พระเจ้า​ให้​ยาเฟท​มี​แผ่นดิน​กว้าง​ใหญ่

และ​ให้​เขา​อาศัย​อยู่​ใน​เต็นท์​ของ​เชม

ให้​คานาอัน​เป็น​ทาส​เขา​ด้วย”

28 หลัง​น้ำ​ท่วม​โลก โนอาห์​มี​ชีวิต​อยู่​อีก 350 ปี+ 29 โนอาห์​ตาย​ตอน​อายุ 950 ปี

10 นี่​เป็น​บันทึก​ประวัติ​ของ​ลูก​ชาย​โนอาห์​คือ เชม+ ฮาม และ​ยาเฟท

พวก​เขา​มี​ลูก​หลัง​น้ำ​ท่วม​โลก 2 ลูก​ชาย​ยาเฟท​ชื่อ​โกเมอร์+ มาโกก+ มาดัย ยาวาน ทูบัล+ เมเชค+ และ​ทิราส+

3 ลูก​ชาย​โกเมอร์​ชื่อ​อัชเคนัส+ รีฟาท และ​โทการ์มาห์+

4 ลูก​ชาย​ยาวาน​ชื่อ​เอลีชาห์+ ทาร์ชิช+ คิททิม+ และ​โดดานิม

5 ชาว​เกาะ​ต่าง ๆ ซึ่ง​เป็น​เชื้อ​สาย​ของ 4 คน​นี้​ต่าง​ก็​แยก​ย้าย​ไป​อยู่​ใน​ดินแดน​ต่าง ๆ ตาม​ภาษา ตระกูล และ​เชื้อชาติ​ของ​ตัว​เอง

6 ลูก​ชาย​ฮาม​ชื่อ​คูช มิสราอิม+ พูต+ และ​คานาอัน+

7 ลูก​ชาย​คูช​ชื่อ​เสบา+ ฮาวิลาห์ สับทาห์ ราอามาห์+ และ​สับเทคา

ลูก​ชาย​ราอามาห์​ชื่อ​เชบา​และ​เดดาน

8 คูช​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​นิมโรด นิมโรด​เป็น​คน​แรก​ใน​โลก​ที่​มี​อำนาจ​มาก 9 เขา​เป็น​พราน*ผู้​มี​อำนาจ​ที่​ต่อ​ต้าน​พระ​ยะโฮวา บาง​ครั้ง​จึง​มี​การ​พูด​เปรียบ​เทียบ​คน​บาง​คน​ว่า “คน​นี้​เป็น​เหมือน​นิมโรด พราน​ผู้​มี​อำนาจ​ที่​ต่อ​ต้าน​พระ​ยะโฮวา” 10 ใน​ตอน​แรก ๆ อาณาจักร​ของ​นิมโรด​ใน​แผ่นดิน​ชินาร์+ประกอบ​ด้วย​เมือง​บาเบล*+ เอเรก+ อัคคัด และ​คาลเนห์ 11 จาก​แผ่นดิน​นั้น นิมโรด​เข้า​ไป​ใน​แผ่นดิน​อัสซีเรีย+และ​สร้าง​เมือง​นีนะเวห์+ เรโหโบทอีร์ คาลาห์ 12 และ​สร้าง​เมือง​เรเสน​ไว้​ระหว่าง​เมือง​นีนะเวห์​กับ​เมือง​คาลาห์ เมือง​นี้​เป็น​เมือง​ใหญ่*

13 มิสราอิม​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​ลูดิม+ อานามิม เลหะบิม นัฟทูฮิม+ 14 ปัทรุสิม+ คัสลูฮิม (เขา​เป็น​ต้น​ตระกูล​ของ​ชาว​ฟีลิสเตีย)+ และ​คัฟ​โท​ริม+

15 คานาอัน​มี​ลูก​ชื่อ​ไซดอน+เป็น​ลูก​ชาย​คน​โต แล้ว​ก็​มี​เฮท+ 16 และ​ยัง​เป็น​บรรพบุรุษ​ของ​ชาว​เยบุส+ ชาว​อาโมไรต์+ ชาว​เกอร์กาชี 17 ชาว​ฮีไวต์+ ชาว​อาร์คี ชาว​สินี 18 ชาว​อาร์วัด+ ชาว​เศเมอร์ และ​ชาว​ฮามัท+ ต่อ​มา​ภาย​หลัง ตระกูล​ต่าง ๆ ของ​ชาว​คานาอัน​ก็​กระจาย​ไป​อยู่​ใน​ที่​ต่าง ๆ 19 เขต​แดน​ของ​ชาว​คานาอัน​จึง​ครอบ​คลุม​ตั้ง​แต่​เมือง​ไซดอน​ไป​ถึง​เกราร์+ซึ่ง​อยู่​ใกล้​เมือง​กาซา+ และ​ครอบ​คลุม​ไป​จน​ถึง​เมือง​โสโดม โกโมราห์+ อัดมาห์ และ​เศโบยิม+ซึ่ง​อยู่​ใกล้​เมือง​ลาชา 20 คน​ทั้ง​หมด​นี้​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​ฮาม​ที่​อยู่​กัน​ตาม​ตระกูล ภาษา ดินแดน และ​เชื้อชาติ​ของ​พวก​เขา

21 เชม​ก็​มี​ลูก​หลาย​คน​เหมือน​กัน เขา​เป็น​บรรพบุรุษ​ของ​ลูก​หลาน​เอเบอร์+ เชม​เป็น​น้อง​ชาย​ของ​ยาเฟท ยาเฟท​เป็น​พี่​คน​โต* 22 ลูก​ชาย​เชม​ชื่อ​เอลาม+ อัสชูร์+ อาร์ปัคชาด+ ลูด และ​อารัม+

23 ลูก​ชาย​อารัม​ชื่อ​อูส ฮูล เกเธอร์ และ​มัช

24 อาร์ปัคชาด​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เชลาห์+ เชลาห์​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เอเบอร์

25 เอเบอร์​มี​ลูก​ชาย 2 คน คน​หนึ่ง​ชื่อ​เปเลก*+เพราะ​โลก*ถูก​แบ่ง​แยก​ใน​สมัย​ของ​เขา อีก​คน​หนึ่ง​ชื่อ​โยกทาน+

26 โยกทาน​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​อัลโมดัด เชเลฟ ฮาซาร์มาเวท เยราห์+ 27 ฮาโดรัม อุซาล ดิคลาห์ 28 โอบาล อาบีมาเอล เชบา 29 โอฟีร์+ ฮาวิลาห์ และ​โยบับ ทั้ง​หมด​นี้​เป็น​ลูก​ชาย​ของ​โยกทาน

30 พวก​เขา​อาศัย​อยู่​ใน​เขต​แดน​ตั้ง​แต่​เมชา​ถึง​เสฟาร์ ซึ่ง​เป็น​เขต​เทือก​เขา​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ออก

31 คน​ทั้ง​หมด​นี้​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​เชม​ที่​อยู่​กัน​ตาม​ตระกูล ภาษา ดินแดน และ​เชื้อชาติ​ของ​พวก​เขา+

32 คน​ทั้ง​หมด​นี้​เป็น​คน​ใน​ตระกูล​ของ​ลูก​ชาย​โนอาห์​ตาม​วงศ์​ตระกูล​และ​ตาม​เชื้อชาติ​ของ​พวก​เขา ชน​ชาติ​ต่าง ๆ ที่​กระจาย​ไป​อยู่​ทั่ว​โลก​หลัง​จาก​น้ำ​ท่วม​โลก​นั้น​ก็​สืบ​เชื้อ​สาย​มา​จาก​ตระกูล​ทั้ง​หมด​นี้+

11 ตอน​นั้น​คน​ทั่ว​โลก​พูด​ภาษา​เดียว​กัน​หมด​และ​ใช้​คำ​ศัพท์​เหมือน​กัน 2 เมื่อ​มี​คน​เดิน​ทาง​ไป​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ออก​ก็​พบ​ที่​ราบ​แห่ง​หนึ่ง​ใน​แผ่นดิน​ชินาร์+ จึง​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น 3 พวก​เขา​พูด​กัน​ว่า “มา​เถอะ มา​ทำ​อิฐ*เผา​กัน” พวก​เขา​จึง​ใช้​อิฐ​แทน​หิน​และ​ใช้​ยาง​มะตอย​แทน​ปูน 4 แล้ว​พวก​เขา​ก็​พูด​ว่า “มา​สร้าง​เมือง​ของ​เรา​กัน​เถอะ และ​สร้าง​หอ​ให้​ยอด​สูง​เทียม​ฟ้า เรา​จะ​ได้​สร้าง​ชื่อเสียง​ไว้​และ​จะ​ได้​ไม่​กระจัด​กระจาย​ไป​ทั่ว​โลก”+

5 พระ​ยะโฮวา​สังเกต​ดู​มนุษย์​และ​เห็น​ว่า​พวก​เขา​สร้าง​เมือง​และ​หอ​สูง​กัน​อยู่ 6 พระ​ยะโฮวา​จึง​พูด​ว่า “ดู​คน​พวก​นี้​สิ พวก​เขา​มา​รวม​ตัว​กัน​ทำ​งาน แล้ว​ยัง​พูด​ภาษา​เดียว​กัน+ แค่​เริ่ม​ต้น​ยัง​ทำ​ได้​ขนาด​นี้ แล้ว​ต่อ​ไป​ถ้า​พวก​เขา​คิด​จะ​ทำ​อะไร ก็​คง​ทำ​ได้​ทั้ง​หมด 7 เรา*+จะ​ลง​ไป​ทำ​ให้​ภาษา​ของ​พวก​เขา​ยุ่งเหยิง พวก​เขา​จะ​ได้​พูด​กัน​ไม่​รู้​เรื่อง” 8 พระ​ยะโฮวา​จึง​ทำ​ให้​พวก​เขา​กระจัด​กระจาย​ไป​ทั่ว​โลก+ พวก​เขา​จึง​เลิก​สร้าง​เมือง​นั้น 9 เมือง​นั้น​จึง​ถูก​เรียก​ว่า​บาเบล*+ เพราะ​ที่​เมือง​นั้น พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​ภาษา​ของ​คน​ทั้ง​โลก​ยุ่งเหยิง และพระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​คน​จาก​เมือง​นั้น​กระจัด​กระจาย​ไป​ทั่ว​โลก

10 นี่​เป็น​บันทึก​ประวัติ​ของ​เชม+

สอง​ปี​ผ่าน​ไป​หลัง​น้ำ​ท่วม​โลก เชม​อายุ​ได้ 100 ปี จึง​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​อาร์ปัคชาด+ 11 เมื่อ​เชม​มี​อาร์ปัคชาด​แล้ว​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​อีก 500 ปี และ​มี​ลูก​ชาย​ลูก​สาว​อีก​หลาย​คน+

12 อาร์ปัคชาด​อายุ​ได้ 35 ปี​แล้ว​จึง​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เชลาห์+ 13 เมื่อ​อาร์ปัคชาด​มี​เชลาห์​แล้ว​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​อีก 403 ปี และ​มี​ลูก​ชาย​ลูก​สาว​อีก​หลาย​คน

14 เชลาห์​อายุ​ได้ 30 ปี​แล้ว​จึง​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เอเบอร์+ 15 เมื่อ​เชลาห์​มี​เอเบอร์​แล้ว​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​อีก 403 ปี และ​มี​ลูก​ชาย​ลูก​สาว​อีก​หลาย​คน

16 เอเบอร์​อายุ​ได้ 34 ปี​แล้ว​จึง​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เปเลก+ 17 เมื่อ​เอเบอร์​มี​เปเลก​แล้ว​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​อีก 430 ปี และ​มี​ลูก​ชาย​ลูก​สาว​อีก​หลาย​คน

18 เปเลก​อายุ​ได้ 30 ปี​แล้ว​จึง​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เรอู+ 19 เมื่อ​เปเลก​มี​เรอู​แล้ว​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​อีก 209 ปี และ​มี​ลูก​ชาย​ลูก​สาว​อีก​หลาย​คน

20 เรอู​อายุ​ได้ 32 ปี​แล้ว​จึง​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เสรุก 21 เมื่อ​เรอู​มี​เสรุก​แล้ว​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​อีก 207 ปี และ​มี​ลูก​ชาย​ลูก​สาว​อีก​หลาย​คน

22 เสรุก​อายุ​ได้ 30 ปี​แล้ว​จึง​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​นาโฮร์ 23 เมื่อ​เสรุก​มี​นาโฮร์​แล้ว​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​อีก 200 ปี และ​มี​ลูก​ชาย​ลูก​สาว​อีก​หลาย​คน

24 นาโฮร์​อายุ​ได้ 29 ปี​แล้ว​จึง​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เทราห์+ 25 เมื่อ​นาโฮร์​มี​เทราห์​แล้ว​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​อีก 119 ปี และ​มี​ลูก​ชาย​ลูก​สาว​อีก​หลาย​คน

26 เทราห์​อายุ​ได้ 70 ปี​แล้ว​จึง​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​อับราม+ นาโฮร์+ และ​ฮาราน

27 นี่​เป็น​บันทึก​ประวัติ​ของ​เทราห์

เทราห์​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​อับราม นาโฮร์ และ​ฮาราน แล้ว​ฮาราน​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​โลท+ 28 ฮาราน​ตาย​ใน​แผ่นดิน​ที่​เขา​เกิด คือ​ใน​เมือง​เออร์+ของ​ชาว​เคลเดีย+ ขณะ​ที่​เทราห์​พ่อ​ของ​เขา​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่ 29 ทั้ง​อับราม​และ​นาโฮร์​มี​ภรรยา ภรรยา​ของ​อับราม​ชื่อ​ซาราย+ ส่วน​ภรรยา​ของ​นาโฮร์​ชื่อ​มิลคาห์+ซึ่ง​เป็น​ลูก​สาว​ของ​ฮาราน ฮาราน​เป็น​พ่อ​ของ​มิลคาห์​กับ​อิสคาห์ 30 ส่วน​ซาราย​เป็น​หมัน+ ไม่​มี​ลูก

31 เทราห์​พา​อับราม​ลูก​ของ​เขา​กับ​ซาราย​ลูก​สะใภ้ และ​โลท​หลาน​ชาย+ซึ่ง​เป็น​ลูก​ชาย​ของ​ฮาราน ออก​จาก​เมือง​เออร์​ของ​ชาว​เคลเดีย​ไป​ที่​แผ่นดิน​คานาอัน+ เมื่อ​พวก​เขา​มา​ถึง​เมือง​ฮาราน+แล้ว​ก็​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น 32 เทราห์​ตาย​ที่​เมือง​ฮาราน​ตอน​อายุ 205 ปี

12 แล้ว​พระ​ยะโฮวา​พูด​กับ​อับราม​ว่า “ให้​เจ้า​ออก​จาก​แผ่นดิน​ที่​เจ้า​อยู่ ให้​ไป​จาก​ญาติ​พี่​น้อง​และ​ครอบครัว​ของ​พ่อ​เจ้า แล้ว​ไปแผ่นดิน​ที่​เรา​จะ​บอก​ให้​ไป+ 2 เรา​จะ​ให้​เจ้า​กลาย​เป็น​ชาติ​ใหญ่ เรา​จะ​อวยพร​เจ้า​และ​ทำ​ให้​ชื่อ​ของ​เจ้า​ยิ่ง​ใหญ่ เจ้า​จะ​ทำ​ให้​คน​อื่น ๆ ได้​รับ​พร+ 3 เรา​จะ​อวยพร​คน​ที่​อวยพร​เจ้า เรา​จะ​แช่ง​คน​ที่​แช่ง​เจ้า+ ทุก​ครอบครัว​ใน​โลก​จะ​ได้​รับ​พร​เพราะ​เจ้า”+

4 อับราม​ก็​ไป​ตาม​ที่​พระ​ยะโฮวา​บอก​และ​โลท​ก็​ไป​ด้วย อับราม​อายุ 75 ปี​ตอน​ที่​ออก​จาก​เมือง​ฮาราน+ 5 อับราม​พา​ซาราย​ภรรยา+กับ​โลท​หลาน​ชาย+ออก​เดิน​ทาง​ไป​ที่​แผ่นดิน​คานาอัน​พร้อม​กับ​ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ที่​พวก​เขา​สะสม​ไว้+ รวม​ทั้ง​คน​รับใช้​ที่​มา​อยู่​ด้วย​ตอน​อยู่​ที่​เมือง​ฮาราน เมื่อ​พวก​เขา​มา​ถึง​แผ่นดิน​คานาอัน+แล้ว 6 อับราม​ก็​เดิน​ทาง​ต่อ​ไป​จน​ถึง​ที่​ที่​เรียก​ว่า​เชเคม+ซึ่ง​อยู่​ใกล้​ต้น​ไม้​ใหญ่​ที่​โมเรห์+ ตอน​นั้น​มี​ชาว​คานาอัน​อยู่​ใน​แผ่นดิน​นี้​แล้ว 7 พระ​ยะโฮวา​มา​หา​อับราม​และ​บอก​ว่า “เรา​จะ​ยก​แผ่นดิน​นี้+ให้​ลูก​หลาน​เจ้า”+ อับราม​จึง​สร้าง​แท่น​บูชา​สำหรับ​พระ​ยะโฮวา​ขึ้น​ที่​นั่น​เพราะ​พระองค์​มา​หา​เขา 8 ต่อ​มา เขา​ย้าย​จาก​เชเคม​ไป​ที่​เขต​เทือก​เขา​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ออก​ของ​เมือง​เบธเอล+แล้ว​ตั้ง​เต็นท์​ที่​นั่น เมือง​เบธเอล​จึง​อยู่​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ตก​และ​เมือง​อัย+อยู่​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ออก​ของ​เต็นท์ แล้ว​เขา​ก็​สร้าง​แท่น​บูชา​สำหรับ​พระ​ยะโฮวา+ที่​นั่น​และ​เริ่ม​สรรเสริญ​ชื่อ​ของ​พระ​ยะโฮวา+ 9 จาก​นั้น อับราม​ก็​เดิน​ทาง​ไป​ที่​เนเกบ+โดย​ย้าย​ค่าย​พัก​ไป​เรื่อย ๆ

10 เกิด​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​ใน​แผ่นดิน​คานาอัน อับราม​จึง​ลง​ไป​อยู่​ที่​อียิปต์​ระยะ​หนึ่ง*+ เพราะ​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​ใน​แผ่นดิน​นี้​หนัก​มาก+ 11 เมื่อ​ใกล้​จะ​เข้า​อียิปต์ เขา​พูด​กับ​ซาราย​ภรรยา​ว่า “ฉัน​รู้​ว่า​เธอ​เป็น​คน​สวย​มาก+ 12 ถ้า​ชาว​อียิปต์​เห็น​เธอ พวก​เขา​จะ​บอก​ว่า ‘นี่​เป็น​ภรรยา​ของ​ผู้​ชาย​คน​นั้น’ แล้ว​พวก​เขา​ก็​จะ​ฆ่า​ฉัน​ทิ้ง​แต่​ไว้​ชีวิต​เธอ 13 ดัง​นั้น ขอ​ให้​บอก​ว่า​เธอ​เป็น​น้อง​สาว​ฉัน พวก​เขา​จะ​ได้​ทำ​ดี​กับ​ฉัน​เพราะ​เห็น​แก่​เธอ และ​ไม่​ฆ่า​ฉัน​ทิ้ง”+

14 พอ​อับราม​เข้า​ไป​ใน​อียิปต์ ชาว​อียิปต์​เห็น​ว่า​ซาราย​สวย​มาก 15 พวก​ขุนนาง​ของ​ฟาโรห์​ก็​เห็น​เธอ​และ​พา​กัน​บอก​ฟาโรห์​ว่า​เธอ​สวย​ขนาด​ไหน เธอ​จึง​ถูก​พา​ไป​อยู่​ใน​วัง​ของ​ฟาโรห์ 16 ฟาโรห์​ชอบ​ซาราย​มาก​จึง​ทำ​ดี​กับ​อับราม ฟาโรห์​ให้​แกะ วัว ลา​ตัว​ผู้​และ​ตัว​เมีย อูฐ และ​คน​รับใช้​ชาย​หญิง​กับ​อับราม+ 17 พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​เกิด​ภัย​พิบัติ​ร้ายแรง​กับ​ฟาโรห์​และ​ราชวงศ์​ของ​เขา สาเหตุ​เพราะ​ซาราย​ภรรยา​ของ​อับราม+ 18 ฟาโรห์​จึง​เรียก​อับราม​มา​และ​พูด​ว่า “ทำไม​ทำ​อย่าง​นี้? ทำไม​ไม่​บอก​เรา​ว่า​เธอ​เป็น​ภรรยา​ของ​คุณ? 19 ทำไม​มา​บอก​ว่า​เธอ​เป็นน้อง​สาว?+ เรา​เกือบ​จะ​เอา​เธอ​มา​เป็น​ภรรยา​เรา​แล้ว ภรรยา​คุณ​อยู่​นี่ พา​เธอ​ไป​เถอะ” 20 แล้ว​ฟาโรห์​ก็​สั่ง​ให้​คน​ของ​เขา​คอย​ดู​แล​ขณะ​ที่​อับราม​และ​ภรรยา​เดิน​ทาง​ไป​พร้อม​กับ​คน​รับใช้​และ​ข้าวของ​ทั้ง​หมด+

13 อับราม​จึง​ออก​จาก​อียิปต์​ไป​ที่​เนเกบ+พร้อม​กับ​ภรรยา​และ​ทุก​สิ่ง​ที่​เขา​มี โลท​ก็​ไป​ด้วย 2 อับราม​มี​ฝูง​สัตว์​กับ​เงิน​ทอง​มาก​มาย+ 3 เขา​เดิน​ทาง​จาก​เนเกบ​ไป​เมือง​เบธเอล​โดย​ตั้ง​ค่าย​พัก​เป็น​ระยะ ๆ จน​มา​ถึง​ที่​ที่​เขา​เคย​ตั้ง​เต็นท์​มา​แล้ว​ซึ่ง​อยู่​ระหว่าง​เมือง​เบธเอล​กับ​เมือง​อัย+ 4 คือ​ที่​ที่​เขา​เคย​สร้าง​แท่น​บูชา​ไว้​ก่อน​แล้ว อับราม​เคย​สรรเสริญ​ชื่อ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​นั่น

5 โลท​ซึ่ง​เดิน​ทาง​มา​กับ​อับราม​ก็​มี​แกะ วัว และ​เต็นท์​ด้วย 6 จึง​ไม่​มี​ที่​พอ​ให้​พวก​เขา​ทั้ง​หมด​อยู่​ด้วย​กัน พวก​เขา​มี​ทรัพย์​สมบัติ​มาก​จน​อยู่​ด้วย​กัน​ต่อ​ไป​ไม่​ได้ 7 คน​เลี้ยง​สัตว์​ของ​อับราม​กับ​คน​เลี้ยง​สัตว์​ของ​โลท​ก็​เกิด​ทะเลาะ​กัน (ตอน​นั้น ชาว​คานาอัน​และ​ชาว​เปริสซี​อาศัย​อยู่​ใน​แผ่นดิน​นั้น​ด้วย)+ 8 อับราม​จึง​พูด​กับ​โลท+ว่า “เรา​สอง​คน​และ​คน​เลี้ยง​สัตว์​ของ​เรา​อย่า​มา​ทะเลาะ​กัน​เลย เพราะ​เรา​เป็น​ญาติ​พี่​น้อง​กัน 9 หลาน​เลือก​เอา​เถอะ​ว่า​ใน​ที่​ดิน​อัน​กว้าง​ใหญ่​นี้​อยาก​จะ​ได้​ที่​ตรง​ไหน แล้ว​ก็​แยก​ไป​อยู่​ที่​นั่น ถ้า​หลาน​ไป​ทาง​ซ้าย อา​จะ​ไป​ทาง​ขวา แต่​ถ้า​หลาน​ไป​ทาง​ขวา อา​ก็​จะ​ไป​ทาง​ซ้าย” 10 โลท​เงย​หน้า​มอง​ดู​ทั่ว​บริเวณ​ที่​ลุ่ม​แม่น้ำ​จอร์แดน+ไป​จน​ถึง​เมือง​โศอาร์+ เห็น​ว่า​มี​น้ำ​ท่า​อุดม​สมบูรณ์​เหมือน​สวน​ของ​พระ​ยะโฮวา+ เหมือน​แผ่นดิน​อียิปต์ (ตอน​นั้น พระ​ยะโฮวา​ยัง​ไม่​ได้​ทำลาย​เมือง​โสโดม​และ​เมือง​โกโมราห์) 11 โลท​ก็​เลือก​เอา​ที่​ลุ่ม​แม่น้ำ​จอร์แดน​ทั้ง​หมด​และ​ย้าย​ค่าย​พัก​ของ​ตัว​เอง​ไป​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ออก อับราม​กับ​โลท​จึง​แยก​กัน​ไป 12 อับราม​อาศัย​อยู่​ใน​แผ่นดิน​คานาอัน ส่วน​โลท​อาศัย​อยู่​ใกล้​เมือง​ต่าง ๆ ที่​อยู่​ใน​บริเวณ​ที่​ลุ่ม​แม่น้ำ​นั้น+ แล้ว​สุด​ท้าย​โลท​ก็​มา​ตั้ง​เต็นท์​อยู่​ใกล้​เมือง​โสโดม 13 พระ​ยะโฮวา​เห็น​ว่า​ชาว​โสโดม​เป็น​คน​ชั่ว​และ​บาป​หนา+

14 เมื่อ​โลท​แยก​ไป​แล้ว​พระ​ยะโฮวา​ก็​บอก​อับราม​ว่า “จาก​ที่​ที่​เจ้า​อยู่​นี้ ขอ​ให้​เงย​หน้า​มอง​ไป​ทาง​ทิศ​เหนือ ทิศ​ใต้ ทิศ​ตะวัน​ออก และ​ทิศ​ตะวัน​ตก 15 เพราะ​เรา​จะ​ยก​แผ่นดิน​ทั้ง​หมด​ที่​เจ้า​เห็น​อยู่​นี้​ให้​เป็น​ของ​เจ้า​และ​ของ​ลูก​หลาน​เจ้า​ตลอด​ไป+ 16 เรา​จะ​ทำ​ให้​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​มี​มาก​มาย​เหมือน​ฝุ่น​ละออง ถ้า​ใคร​นับ​ฝุ่น​ละออง​ได้​ก็​จะ​นับ​จำนวน​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​ได้+ 17 ให้​ออก​เดิน​ทาง​ไป​ทั่ว​แผ่นดิน​นี้​ทั้ง​ด้าน​ยาว​ด้าน​กว้าง เพราะ​เรา​จะ​ยก​แผ่นดิน​นี้​ให้​เจ้า” 18 อับราม​จึง​ออก​เดิน​ทาง​และ​อาศัยอยู่​ใน​เต็นท์​ต่อ​ไป แล้ว​เขา​ก็​มา​อยู่​ท่ามกลาง​ต้น​ไม้​ใหญ่​ที่​มัมเร+ซึ่ง​อยู่​ใน​เขต​เมือง​เฮโบรน+ และ​สร้าง​แท่น​บูชา​สำหรับ​พระ​ยะโฮวา​ที่​นั่น+

14 สมัย​ที่​อัมราเฟล​เป็น​กษัตริย์​ปกครอง​ชินาร์+ อารีโอค​เป็น​กษัตริย์​ปกครอง​เอลลาสาร์ เคโดร์ลาโอเมอร์+เป็น​กษัตริย์​ปกครอง​เอลาม+ และ​ทิดาล​เป็น​กษัตริย์​ปกครอง​โกยิม 2 กษัตริย์​ทั้ง 4 นี้​รบ​กับ​เบรา​กษัตริย์​ที่​ปกครอง​โสโดม+ บิร์ชา​กษัตริย์​ที่​ปกครอง​โกโมราห์+ ชินาบ​กษัตริย์​ที่​ปกครอง​อัดมาห์ เชเมเบอร์​กษัตริย์​ที่​ปกครอง​เศโบยิม+ และ​กษัตริย์​ที่​ปกครอง​เบลา​ซึ่ง​มี​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​โศอาร์ 3 พวก​เขา*ยก​ทัพ​มา​รวม​กัน​ที่​หุบเขา​สิดดิม+ ซึ่ง​ก็​คือ​ทะเล​เกลือ*+

4 กษัตริย์ 5 องค์​นี้​รับใช้​กษัตริย์​เคโดร์ลาโอเมอร์​อยู่ 12 ปี แต่​พอ​ถึง​ปี​ที่ 13 ก็​พา​กัน​กบฏ 5 ใน​ปี​ที่ 14 เคโดร์ลาโอเมอร์​กับ​กษัตริย์​ที่​อยู่​ฝ่าย​เขา​ยก​ทัพ​มา​รบ และ​เอา​ชนะ​พวก​เรฟาอิม​ที่​อัชเทโรทคาร์นาอิม ชนะ​พวก​ศูซิม​ที่​ฮาม ชนะ​พวก​เอมิม+ที่​ชาเวห์คีริยาธาอิม 6 ชนะ​ชาว​โฮรี+ถึง​ใน​ถิ่น​ของ​พวก​นั้น​เอง​คือ​ใน​แถบ​เทือก​เขา​เสอีร์+ และ​รบ​ชนะ​เรื่อย​ไป​จน​ถึง​เอลปาราน​ซึ่ง​อยู่​ตรง​ชายแดน​ของ​ที่​กันดาร 7 แล้ว​พวก​เขา​ก็​วก​กลับ​มา​ที่​เอนมิชปัท ซึ่ง​ก็​คือ​คาเดช+ และ​ตี​ได้​ดินแดน​ทั้ง​หมด​ของ​ชาว​อามาเลข+และ​ของ​ชาว​อาโมไรต์+ซึ่ง​อาศัย​อยู่​ที่​ฮาซาโซนทามาร์+

8 ตอน​นั้น​เอง​ที่​กษัตริย์​ที่​ปกครอง​โสโดม กษัตริย์​ที่​ปกครอง​โกโมราห์ กษัตริย์​ที่​ปกครอง​อัดมาห์ กษัตริย์​ที่​ปกครอง​เศโบยิม และ​กษัตริย์​ที่​ปกครอง​เบลา​ซึ่ง​มี​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​โศอาร์ พา​กัน​จัด​ขบวน​ทัพ​มา​รบ​กับ​กษัตริย์​ทั้ง 4 ที่​หุบเขา​สิดดิม 9 คือ​รบ​กับ​เคโดร์ลาโอเมอร์​กษัตริย์​ที่​ปกครอง​เอลาม ทิดาล​กษัตริย์​ที่​ปกครอง​โกยิม อัมราเฟล​กษัตริย์​ที่​ปกครอง​ชินาร์ และ​อารีโอค​กษัตริย์​ที่​ปกครอง​เอลลาสาร์+ กษัตริย์ 4 องค์​รบ​กับ​กษัตริย์ 5 องค์ 10 จาก​การ​สู้​รบ​นั้น ทำ​ให้​กษัตริย์​ที่​ปกครอง​โสโดม​กับ​กษัตริย์​ที่​ปกครอง​โกโมราห์​ต้อง​หนี​ตาย แต่​พวก​เขา​ตก​ลง​ไป​ใน​บ่อ​ยาง​มะตอย​ที่​มี​อยู่​ทั่ว​หุบเขา​สิดดิม ส่วน​คน​ของ​เขา​ที่​เหลือ​พา​กัน​หนี​ไป​ที่​เขต​เทือก​เขา 11 กษัตริย์ 4 องค์​ที่​รบ​ชนะ​กวาด​เอา​สิ่ง​ของ​กับ​เสบียง​ทั้ง​หมด​ของ​พวก​โสโดม​กับ​โกโมราห์​ไป+ 12 และ​พวก​เขา​ยัง​จับ​ตัว​โลท​หลาน​ชาย​ของ​อับราม​ที่​อยู่​ใน​เมือง​โสโดม+ไป​ด้วย รวม​ทั้ง​ทรัพย์​สมบัติ​ของ​เขา แล้ว​ก็​ไป​จาก​ที่​นั่น

13 หลัง​จาก​นั้น ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​หนี​มา​ได้​ก็​มา​บอก​อับราม​ชาว​ฮีบรู ตอน​นั้น​อับราม​อาศัย​อยู่*ท่ามกลางต้น​ไม้​ใหญ่​ของ​มัมเร​ชาว​อาโมไรต์+ เขา​เป็น​พี่​น้อง​กับ​เอชโคล์​และ​อาเนอร์+ พวก​เขา​กับ​อับราม​ทำ​สัญญา​เป็น​มิตร​กัน 14 อับราม​ถึง​ได้​รู้​ว่า​ญาติ*+ตัว​เอง​ถูก​จับ​ไป เขา​จึง​รวบ​รวม​คน​ที่​เคย​ฝึก​การ​รบ​มา 318 คน​ซึ่ง​เป็น​คน​รับใช้​ที่​เกิด​ใน​บ้าน​เขา​แล้ว​ไล่​ตาม​ไป​จน​ถึง​เมือง​ดาน+ 15 อับราม​กับ​คน​รับใช้​ของ​เขา​ก็​แบ่ง​กำลัง​เข้า​ตี​พวก​นั้น​ตอน​กลางคืน อับราม​เป็น​ฝ่าย​ชนะ​และ​ไล่​ตาม​พวก​นั้น​ไป​ถึง​โฮบาห์​ซึ่ง​อยู่​ทาง​เหนือ​ของ​ดามัสกัส 16 เขา​เอา​ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ที่​ถูก​ริบ​ไป​กลับ​คืน​มา​และ​ได้​โลท​ญาติ​ของ​ตัว​เอง​และ​ทรัพย์​สมบัติ​ของ​โลท รวม​ทั้ง​พวก​ผู้​หญิง​และ​คน​อื่น ๆ กลับ​คืน​มา​ด้วย

17 เมื่อ​อับราม​รบ​ชนะ​เคโดร์ลาโอเมอร์​กับ​พวก​กษัตริย์​ที่​อยู่​ฝ่าย​เขา​และ​กลับ​มา​แล้ว กษัตริย์​ที่​ปกครอง​โสโดม​ก็​ออก​มา​พบ​อับราม​ที่​หุบเขา​ชาเวห์ ซึ่ง​มี​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​หุบเขา​กษัตริย์+ 18 เมลคีเซเดค+ซึ่ง​เป็น​กษัตริย์​ที่​ปกครอง​เมือง​ซาเลม+และ​เป็น​ปุโรหิต​ของ​พระเจ้า​องค์​สูง​สุด+ก็​เอา​ขนมปัง​กับ​เหล้า​องุ่น​มา​ให้​อับราม

19 แล้ว​อวยพร​เขา​ว่า

“ขอ​ให้​อับราม​ได้​รับ​พร​จาก​พระเจ้า​องค์​สูง​สุด

ผู้​สร้าง​ฟ้า​และ​โลก

20 ขอ​ให้​พระเจ้า​องค์​สูง​สุด​ได้​รับ​การ​สรรเสริญ

พระองค์​เป็น​ผู้​ที่​มอบ​ศัตรู​ไว้ ใน​มือ​คุณ”

แล้ว​อับราม​ก็​ถวาย​ส่วน 1 ใน 10 ของ​ทุก​สิ่ง​ที่​ได้​มา​ให้​เมลคีเซเดค+

21 แล้ว​กษัตริย์​ที่​ปกครอง​โสโดม​ก็​พูด​กับ​อับราม​ว่า “ขอ​คน​ของ​เรา​คืน ส่วน​ทรัพย์​สมบัติ​นั้น​คุณ​เอา​ไป​ได้​เลย” 22 อับราม​พูด​กับ​กษัตริย์​ที่​ปกครอง​โสโดม​ว่า “ผม​ขอ​ยก​มือ​สาบาน​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​องค์​สูง​สุด​ผู้​สร้าง​ฟ้า​และ​โลก​ว่า 23 ผม​จะ​ไม่​เอา​อะไร​ที่​เป็น​ของ​ท่าน​เลย แม้​แต่​เส้น​ด้าย​หรือ​สาย​รัด​รอง​เท้า​สัก​เส้น เพื่อ​ไม่​ให้​ท่าน​พูด​ได้​ว่า ‘เรา​เป็น​คน​ทำ​ให้​อับราม​ร่ำรวย’ 24 ผม​จะ​ไม่​เอา​อะไร​เลย นอก​จาก​ของ​ที่​คน​หนุ่ม​พวก​นี้​กิน​ไป​แล้ว ส่วน​คน​ที่​ไป​กับ​ผม​คือ อาเนอร์ เอชโคล์ และ​มัมเร+นั้น ให้​พวก​เขา​เอา​ส่วน​ของ​พวก​เขา​ไป​เถอะ”

15 ต่อ​มา พระ​ยะโฮวา​พูด​กับ​อับราม​ใน​นิมิต​ว่า “อย่า​กลัว​เลย+อับราม เรา​เป็น​ผู้​คุ้มครอง​เจ้า*+ เจ้า​จะ​ได้​รับ​รางวัล​มาก​มาย”+ 2 อับราม​พูด​ว่า “พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่​สูง​สุด​ของ​ผม รางวัล​ที่​พระองค์​ให้​ผม​จะ​มี​ประโยชน์​อะไร? เพราะ​ผม​ยัง​ไม่​มี​ลูก​สัก​คน และ​คน​ที่​จะ​ได้รับ​มรดก​ของ​ผม​ก็​คือ​เอลีเอเซอร์​ชาว​ดามัสกัส”+ 3 อับราม​พูด​ต่อ​อีก​ว่า “พระองค์​ยัง​ไม่​ได้​ให้​ผม​มี​ลูก​สัก​คน+ คน​ที่​จะ​มา​รับ​มรดก​ของ​ผม​ก็​เลย​เป็น​คน​รับใช้​คน​หนึ่ง​ใน​บ้าน” 4 พระ​ยะโฮวา​ตอบ​เขา​ว่า “คน​นั้น​จะ​ไม่​ได้​รับ​มรดก​ของ​เจ้า แต่​ลูก​ชาย​ของ​เจ้า​เอง*ที่​จะ​เป็น​คน​รับ​มรดก”+

5 พระองค์​พา​เขา​ออก​มา​ข้าง​นอก​และ​พูด​ว่า “ขอ​ให้​เงย​หน้า​มอง​ดู​ท้องฟ้า​และ​นับ​ดาว​สิ ถ้า​เจ้า​นับ​ได้” แล้ว​พระองค์​พูด​กับ​เขา​อีก​ว่า “ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​ก็​จะ​มี​มาก​เหมือน​ดวง​ดาว​บน​ท้องฟ้า”+ 6 อับราม​เชื่อ​ใน​พระ​ยะโฮวา+ พระองค์​จึง​นับ​ว่า​เขา​เป็น​คน​ที่​พระองค์​ยอม​รับ*+ 7 พระองค์​พูด​กับ​เขา​อีก​ว่า “เรา​คือ​ยะโฮวา ผู้​ที่​นำ​เจ้า​ออก​มา​จาก​เมือง​เออร์​ของ​ชาว​เคลเดีย​เพื่อ​จะ​ยก​แผ่นดิน​นี้​ให้​เป็น​ของ​เจ้า”+ 8 เขา​พูด​ว่า “พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่​สูง​สุด​ของ​ผม ผม​จะ​รู้​ได้​ยัง​ไง​ว่า​ผม​จะ​ได้​เป็น​เจ้าของ​แผ่นดิน​นี้?” 9 พระองค์​พูด​กับ​เขา​ว่า “ให้​เอา​วัว​สาว​อายุ 3 ปี แพะ​ตัว​เมีย​อายุ 3 ปี แกะ​ตัว​ผู้​อายุ 3 ปี นก​เขา และ​ลูก​นก​พิราบ​ทั้ง​หมด​อย่าง​ละ​ตัว​มา​ให้​เรา” 10 เขา​นำ​สัตว์​พวก​นี้​มา​ผ่า​เป็น​สอง​ซีก​ยก​เว้น​นก แล้ว​วาง​แต่​ละ​ซีก​ไว้​ตรง​ข้าม​กัน 11 พวก​นก​ล่า​เหยื่อ​ก็​บิน​ลง​มา​จะ​จิก​กิน​เนื้อ​สัตว์ แต่​อับราม​คอย​ไล่​พวก​มัน​ไป

12 เมื่อ​ดวง​อาทิตย์​ใกล้​จะ​ตก อับราม​ก็​หลับ​สนิท เขา​ฝัน​เห็น​ความ​มืด​ทึบ​ที่​น่า​กลัว​แผ่​คลุม​ลง​มา 13 แล้ว​พระเจ้า​พูด​กับ​อับราม​ว่า “รู้​ไว้​เถอะ​ว่า​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​จะ​ต้อง​ไป​เป็น​คน​ต่าง​ชาติ และ​อาศัย​อยู่​ใน​แผ่นดิน​ของ​คน​อื่น พวก​เขา​จะ​ต้อง​เป็น​ทาส​ของ​คน​ที่​อยู่​ใน​แผ่นดิน​นั้น และ​ถูก​กดขี่​เป็น​เวลา 400 ปี+ 14 แต่​เรา​จะ​ลง​โทษ​ชาติ​ที่​พวก​เขา​ต้อง​ไป​เป็น​ทาส​รับใช้​นั้น+ แล้ว​พวก​เขา​จะ​ได้​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​นั้น​พร้อม​กับ​ทรัพย์​สมบัติ​มาก​มาย+ 15 ส่วน​เจ้า​จะ​ตาม​ปู่​ย่า​ตา​ยาย​ของ​เจ้า​ไป​อย่าง​สงบ​เมื่อ​แก่​มาก​แล้ว และ​เขา​จะ​ฝัง​ศพ​เจ้า​ไว้+ 16 แต่​ใน​รุ่น​ที่​สี่ ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​จะ​กลับ​มา​ที่​นี่+ เพราะ​ความ​ผิด​ของ​ชาว​อาโมไรต์​ยัง​ไม่​ถึง​ขั้น​ที่​จะ​ต้อง​ถูก​ลง​โทษ”+

17 เมื่อ​ดวง​อาทิตย์​ตก​และ​มี​แต่​ความ​มืด เขา​เห็น​เตา​ไฟ​ที่​มี​ควัน แล้ว​ก็​เห็น​คบไฟ​เคลื่อน​ผ่าน​ระหว่าง​เนื้อ​สัตว์​นั้น 18 ใน​วัน​นั้น พระ​ยะโฮวา​ทำ​สัญญา​กับ​อับราม+โดย​พูด​ว่า “เรา​จะ​ยก​แผ่นดิน​นี้+ตั้ง​แต่​แม่น้ำ​อียิปต์​ไป​จน​ถึง​แม่น้ำ​ยูเฟรติส+ซึ่ง​เป็น​แม่น้ำ​ใหญ่​ให้​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า 19 คือ​แผ่นดิน​ของ​ชาว​เคไนต์+ ชาว​เคนัส ชาว​คัดโมไนต์ 20 ชาว​ฮิตไทต์+ ชาว​เปริสซี+ ชาว​เรฟาอิม+ 21 ชาว​อาโมไรต์ ชาว​คานาอัน ชาว​เกอร์กาชี และ​ชาว​เยบุส”+

16 ซาราย​กับ​อับราม​ไม่​มี​ลูก​ด้วย​กัน+ แต่​ซาราย​มี​สาว​ใช้​ชาว​อียิปต์​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ฮาการ์+ 2 ซาราย​จึง​พูด​กับ​อับราม​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ไม่​ให้​ฉัน​มี​ลูก ขอ​คุณ​นอน​กับ​สาว​ใช้​ของ​ฉัน​เถอะ เธอ​อาจ​จะ​มี​ลูก​ให้​ฉัน​ก็​ได้”+ อับราม​ทำ​ตาม​ที่​ซาราย​บอก 3 แล้ว​ซาราย​ภรรยา​อับราม​ก็​ยก​ฮาการ์​สาว​ใช้​ชาว​อียิปต์​ให้​เป็น​ภรรยา​อับราม ตอน​นั้น อับราม​อยู่​ใน​แผ่นดิน​คานาอัน​ได้ 10 ปี​แล้ว 4 อับราม​มี​เพศ​สัมพันธ์​กับ​ฮาการ์ เธอ​ก็​ตั้ง​ท้อง เมื่อ​รู้​ว่า​ตัว​เอง​ท้อง เธอ​ก็​เริ่ม​ดูถูก​นาย​หญิง​ของ​ตัว​เอง

5 ซาราย​จึง​พูด​กับ​อับราม​ว่า “คุณ​ต้อง​รับผิดชอบ​ที่​ฮาการ์​ทำ​ให้​ฉัน​เจ็บใจ ฉัน​เป็น​คน​ยก​สาว​ใช้​คน​นี้​ให้​คุณ แต่​พอ​เธอ​รู้​ว่า​ตัว​เอง​ท้อง​ก็​กลับ​มา​ดูถูก​ฉัน ขอ​พระ​ยะโฮวา​ตัดสิน​ว่า​ใคร​ถูก​ใคร​ผิด คุณ​หรือ​ฉัน” 6 อับราม​จึง​พูด​กับ​ซาราย​ว่า “ฮาการ์​เป็น​สาว​ใช้​ของ​เธอ เธอ​จัด​การ​เอง​เถอะ ทำ​ตาม​ที่​เธอ​เห็น​ว่า​สม​ควร” ซาราย​จึง​ทำ​ให้​ฮาการ์​อับอาย​จน​หนี​ไป

7 แล้ว​ทูตสวรรค์​ของ​พระ​ยะโฮวา​ก็​พบ​ฮาการ์​ใน​ที่​กันดาร​ตรง​บ่อ​น้ำพุ​บน​ทาง​ไป​เมือง​ชูร์+ 8 ทูตสวรรค์​จึง​พูด​กับ​เธอ​ว่า “ฮาการ์ สาว​ใช้​ของ​ซาราย เจ้า​มา​จาก​ไหน​และ​กำลัง​จะ​ไป​ไหน?” ฮาการ์​ตอบ​ว่า “ดิฉัน​กำลัง​หนี​ซาราย​นาย​หญิง​ของ​ดิฉัน​อยู่​ค่ะ” 9 ทูตสวรรค์​ของ​พระ​ยะโฮวา​จึง​บอก​ว่า “กลับ​ไป​หา​นาย​หญิง​และ​ยอม​เชื่อ​ฟัง​เธอ​เถอะ” 10 แล้ว​ทูตสวรรค์​ของ​พระ​ยะโฮวา​ก็​บอก​ฮาการ์​ว่า “เรา​จะ​ให้​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น​จน​นับ​ไม่​ถ้วน”+ 11 ทูตสวรรค์​ของ​พระ​ยะโฮวา​บอก​อีก​ว่า “ตอน​นี้​เจ้า​ตั้ง​ท้อง​อยู่​และ​จะ​คลอด​ลูก​ชาย ให้​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​ว่า​อิชมาเอล* เพราะ​พระ​ยะโฮวา​ได้​ยิน​เสียง​ร้อง​ด้วย​ความ​ทุกข์​ของ​เจ้า 12 ลูก​ชาย​ของ​เจ้า​จะ​มี​นิสัย​เหมือน​ลา​ป่า* เขา​จะ​ต่อ​สู้​กับ​ทุก​คน​และ​ทุก​คน​ก็​จะ​ต่อ​สู้​กับ​เขา เขา​จะ​อยู่​คน​ละ​ฝั่ง​กับ​พวก​พี่​น้อง​ของ​เขา”*

13 ฮาการ์​จึง​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา*และ​พูด​กับ​พระองค์​ว่า “พระองค์​เป็น​พระเจ้า​ผู้​เห็น​ทุก​สิ่ง”*+ และ​เธอ​พูด​อีก​ว่า “ฉัน​ได้​เห็น​พระองค์​ผู้​มอง​เห็น​ฉัน​แล้ว​จริง ๆ หรือ​นี่?” 14 บ่อ​น้ำ​นั้น​จึง​มี​ชื่อ​เรียก​กัน​ว่า​เบเออร์ลาไฮรอย* (บ่อ​น้ำ​นี้​อยู่​ระหว่าง​คาเดช​กับ​เบเรด) 15 ต่อ​มา ฮาการ์​คลอด​ลูก​ชาย​ให้​อับราม เขา​ตั้ง​ชื่อลูก​ชาย​ที่​มี​กับ​ฮาการ์​ว่า​อิชมาเอล+ 16 ตอน​ที่​ฮาการ์​คลอด​อิชมาเอล​นั้น​อับราม​อายุ 86 ปี

17 เมื่อ​อับราม​อายุ 99 ปี พระ​ยะโฮวา​มา​หา​เขา​และ​พูด​ว่า “เรา​เป็น​พระเจ้า​ผู้​มี​พลัง​อำนาจ​สูง​สุด ขอ​ให้​เจ้า​ใช้​ชีวิต​ให้​ดี​ตาม​แนว​ทาง​ของ​เรา​และ​ใน​แบบ​ที่​ไม่​มี​ที่​ติ 2 เรา​จะ​ทำ​สัญญา​กับ​เจ้า+ และ​เรา​จะ​ให้​เจ้า​มี​ลูก​หลาน​จำนวน​มาก​มาย​เพิ่ม​ขึ้น​เรื่อย ๆ”+

3 อับราม​ซบ​หน้า​ลง​กับ​พื้น​และ​พระเจ้า​พูด​กับ​เขา​ต่อ​ไป​ว่า 4 “เรา​สัญญา​กับ​เจ้า​ไว้​แล้ว+ เจ้า​จะ​ได้​เป็น​พ่อ​ของ​คน​หลาย​ชน​ชาติ​แน่นอน+ 5 เจ้า​จะ​ไม่​ชื่อ​ว่า​อับราม*อีก​ต่อ​ไป แต่​จะ​ชื่อ​ว่า​อับราฮัม*เพราะ​เรา​จะ​ให้​เจ้า​เป็น​พ่อ​ของ​คน​หลาย​ชน​ชาติ 6 เรา​จะ​ให้​เจ้า​มี​ลูก​หลาน​มาก​มาย คน​หลาย​ชน​ชาติ​และ​กษัตริย์​หลาย​องค์​จะ​เกิด​จาก​เจ้า+

7 “และ​เพื่อ​แสดง​ว่า​เรา​เป็น​พระเจ้า​ของ​เจ้า​และ​ของ​ลูก​หลาน​เจ้า เรา​จะ​ทำ​ตาม​สัญญา​ของ​เรา+ คือ​สัญญา​ที่​จะ​คง​อยู่​ตลอด​ไป​ที่​เรา​ให้​ไว้​กับ​เจ้า​และ​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​ทุก​รุ่น 8 เรา​จะ​ยก​แผ่นดิน​ที่​เจ้า​อยู่​อย่าง​คน​ต่าง​ชาติ+นี้ คือ​แผ่นดิน​คานาอัน​ทั้ง​หมด​ให้​เป็น​ของ​เจ้า​และ​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​ตลอด​ไป และ​เรา​จะ​เป็น​พระเจ้า​ของ​พวก​เขา”+

9 พระเจ้า​พูด​กับ​อับราฮัม​ต่อ​ไป​ว่า “และ​เจ้า​กับ​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​ทุก​รุ่น​จะ​ต้อง​ทำ​ตาม​สัญญา​ระหว่าง​เรา​กับ​เจ้า 10 สัญญา​ระหว่าง​เรา​กับ​พวก​เจ้า ที่​เจ้า​กับ​ลูก​หลาน​จะ​ต้อง​ทำ​ตาม​คือ พวก​เจ้า​ทุก​คน​ที่​เป็น​ผู้​ชาย​จะ​ต้อง​เข้า​สุหนัต+ 11 พวก​เจ้า​จะ​ต้อง​เข้า​สุหนัต​ซึ่ง​เป็น​เครื่องหมาย​ที่​ทำ​ให้​ระลึก​ถึง​สัญญา​ระหว่าง​เรา​กับ​พวก​เจ้า+ 12 เด็ก​ผู้​ชาย​ทุก​คน​ที่​เกิด​ใน​บ้าน​ของ​เจ้า​จะ​ต้อง​เข้า​สุหนัต​ใน​วัน​ที่​แปด​หลัง​จาก​พวก​เขา​เกิด+ ส่วน​เด็ก​ผู้​ชาย​และ​ผู้​ชาย​ทุก​คน​ที่​ถูก​ซื้อ​มา​จาก​คน​ต่าง​ชาติ ถึง​ไม่​ใช่​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​ก็​ต้อง​เข้า​สุหนัต​ด้วย พวก​เจ้า​ต้อง​ทำ​อย่าง​นี้​ไป​ตลอด​ทุก​ยุค​ทุก​สมัย 13 ผู้​ชาย​ทุก​คน​ที่​เกิด​ใน​บ้าน​เจ้า​และ​ผู้​ชาย​ทุก​คน​ที่​เจ้า​ซื้อ​มา​จะ​ต้อง​เข้า​สุหนัต+ เครื่องหมาย​นี้​ที่​อยู่​บน​ตัว​ของ​พวก​เจ้า​จะ​เป็น​หลักฐาน​ว่า​นี่​เป็น​สัญญา​ที่​ยั่งยืน 14 ถ้า​ผู้​ชาย​คน​ไหน​ไม่​ยอม​เข้า​สุหนัต เขา​จะ​ถูก​ประหาร​เพราะ​เขา​ไม่​ทำ​ตาม​สัญญา​นี้”

15 แล้ว​พระเจ้า​พูด​กับ​อับราฮัม​ว่า “สำหรับ​ซาราย*ภรรยา​ของ​เจ้า+ เจ้า​จะ​ไม่​เรียก​เธอ​ว่า​ซาราย​อีก​ต่อ​ไป แต่​จะ​เรียก​เธอ​ว่า​ซาราห์* 16 เรา​จะ​อวยพร​เธอ​และ​จะ​ให้​เจ้า​มี​ลูก​ชาย​คน​หนึ่ง​กับ​เธอ+ เรา​จะ​อวยพร​ให้​เธอเป็น​แม่​ของ​คน​หลาย​ชน​ชาติ และ​กษัตริย์​ของ​ชาติ​ต่าง ๆ จะ​เกิด​จาก​เธอ” 17 อับราฮัม​จึง​ซบ​หน้า​ลง​กับ​พื้น​หัวเราะ​และ​คิด​ใน​ใจ​ว่า+ “ชาย​แก่​อายุ 100 ปี​จะ​มี​ลูก​หรือ​นี่? และ​ซาราห์​หญิง​แก่​อายุ 90 ปี​จะ​คลอด​ลูก​ได้​หรือ?”+

18 แล้ว​อับราฮัม​ก็​พูด​กับ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​ว่า “ขอ​พระองค์​อวยพร​อิชมาเอล​ด้วย​เถอะ​ครับ”+ 19 พระเจ้า​จึง​พูด​ว่า “ซาราห์​ภรรยา​ของ​เจ้า​จะ​มี​ลูก​ชาย​ให้​เจ้า​คน​หนึ่ง​แน่ และ​ให้​ตั้ง​ชื่อ​เขา​ว่า​อิสอัค*+ เรา​จะ​ทำ​สัญญา​กับ​เขา เป็น​สัญญา​ที่​จะ​คง​อยู่​ตลอด​ไป​สำหรับ​ลูก​หลาน​ของ​เขา+ 20 ส่วน​อิชมาเอล​นั้น เรา​จะ​ทำ​ตาม​ที่​เจ้า​ขอ เรา​จะ​อวยพร​เขา​ให้​มี​ลูก​หลาน​หลาย​คน​และ​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น​มาก​มาย จะ​มี​หัวหน้า​ตระกูล 12 คน​เกิด​จาก​เขา และ​เรา​จะ​ให้​เขา​กลาย​เป็น​ชาติ​ใหญ่+ 21 แต่​เรา​จะ​ทำ​สัญญา​กับ​อิสอัค+ ซาราห์​จะ​คลอด​อิสอัค​ใน​ช่วง​เวลา​นี้​ของ​ปี​หน้า”+

22 เมื่อ​พระเจ้า​พูด​กับ​อับราฮัม​จบ​แล้ว พระองค์​ก็​ไป​จาก​เขา 23 แล้ว​อับราฮัม​ก็​ให้​อิชมาเอล​ลูก​ชาย​ของ​เขา​กับ​ผู้​ชาย​ทุก​คน​ที่​เกิด​ใน​บ้าน​เขา และ​ผู้​ชาย​ทุก​คน​ที่​เขา​ซื้อ​มา คือ​ให้​ผู้​ชาย​ทุก​คน​ใน​บ้าน​เข้า​สุหนัต​ใน​วัน​นั้น​ตาม​ที่​พระเจ้า​บอก+ 24 ตอน​ที่​อับราฮัม​เข้า​สุหนัต​นั้น​เขา​อายุ 99 ปี+ 25 ส่วน​อิชมาเอล​ลูก​ชาย​ของ​เขา​อายุ 13 ปี​ตอน​ที่​เข้า​สุหนัต+ 26 ใน​วัน​นั้น​เอง อับราฮัม​กับ​อิชมาเอล​ลูก​ชาย​ของ​เขา​ได้​เข้า​สุหนัต 27 และ​ผู้​ชาย​ทุก​คน​ใน​บ้าน​เขา ทั้ง​คน​ที่​เกิด​ใน​บ้าน​และ​คน​ที่​เขา​ซื้อ​มา​จาก​คน​ต่าง​ชาติ​ก็​เข้า​สุหนัต​พร้อม​กับ​เขา

18 ภาย​หลัง​พระ​ยะโฮวา*+มา​หา​อับราฮัม​ท่ามกลาง​ต้น​ไม้​ใหญ่​ที่​มัมเร+ ตอน​นั้น​เป็น​ช่วง​ที่​ร้อน​ที่​สุด​ของ​วัน อับราฮัม​นั่ง​อยู่​ตรง​ทาง​เข้า​เต็นท์ 2 เมื่อ​เขา​เงย​หน้า​ขึ้น​ก็​เห็น​ผู้​ชาย 3 คน​ยืน​อยู่​ไม่​ไกล​นัก+ พอ​เห็น 3 คน​นั้น​อับราฮัม​ก็​วิ่ง​ไป​พบ​พวก​เขา​และ​หมอบ​ลง​กับ​พื้น 3 แล้ว​พูด​ว่า “พระ​ยะโฮวา*ครับ ถ้า​พระองค์​พอ​ใจ​ผม ขอ​อย่า​เพิ่ง​เดิน​ทาง​ผ่าน​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​คน​นี้​ไป 4 ผม​จะ​ให้​คน​เอา​น้ำ​มา​สัก​หน่อย​จะ​ได้​ล้าง​เท้า​ให้​พวก​ท่าน+ แล้ว​พวก​ท่าน​จะ​ได้​เอน​หลัง​พักผ่อน​อยู่​ใต้​ต้น​ไม้ 5 ไหน ๆ ท่าน​ก็​มา​พบ​ผู้​รับใช้​ของ​ท่าน​ที่​นี่​แล้ว ขอ​ผม​เอา​อาหาร​มา​ให้​พวก​ท่าน พอ​กิน​อิ่ม​มี​เรี่ยว​มี​แรง​แล้ว​พวก​ท่าน​ค่อย​ไป” พวก​เขา​จึง​พูด​ว่า “ได้​สิ ทำ​ตาม​นั้น​เถอะ”

6 อับราฮัม​รีบ​กลับ​ไป​หา​ซาราห์​ที่​เต็นท์​และ​บอก​ว่า “เร็ว​เข้า! เอา​แป้งเนื้อ​ละเอียด​ถัง​หนึ่ง*มา​นวด​ทำ​ขนมปัง” 7 จาก​นั้น อับราฮัม​วิ่ง​ไป​เลือก​ลูก​วัว​ที่​ขุน​ไว้​อย่าง​ดี​จาก​ฝูง​มา​ตัว​หนึ่ง แล้ว​ให้​คน​รับใช้​รีบ​เอา​ไป​ทำ​อาหาร 8 แล้ว​อับราฮัม​ก็​เอา​เนย นม และ​เนื้อ​ลูก​วัว​ที่​ปรุง​แล้ว​มา​วาง​ไว้​ตรง​หน้า​พวก​เขา ส่วน​ตัว​เอง​ก็​ยืน​อยู่​ข้าง ๆ ใต้​ต้น​ไม้​ขณะ​ที่​พวก​เขา​กิน​อาหาร+

9 พวก​เขา​ถาม​อับราฮัม​ว่า “ซาราห์​ภรรยา​เจ้า​อยู่​ไหน?”+ เขา​ตอบ​ว่า “อยู่​ใน​เต็นท์​ครับ” 10 คน​หนึ่ง​ใน​พวก​เขา​พูด​ว่า “ใน​ช่วง​เวลา​นี้​ของ​ปี​หน้า​เรา​จะ​กลับ​มา​หา​เจ้า​แน่ และ​ซาราห์​ภรรยา​ของ​เจ้า​จะ​มี​ลูก​ชาย​คน​หนึ่ง”+ ตอน​นั้น ซาราห์​ฟัง​อยู่​ตรง​ทาง​เข้า​เต็นท์​ข้าง​หลัง​คน​นั้น 11 ทั้ง​อับราฮัม​กับ​ซาราห์​ก็​แก่​มาก+ และ​ซาราห์​ก็​เลย​วัย​ที่​จะ​มี​ลูก​แล้ว+ 12 ซาราห์​จึง​หัวเราะ​อยู่​ใน​ใจ​และ​คิด​ว่า “ฉัน​กับ​นาย​ของ​ฉัน​ก็​อายุ​ปูน​นี้​แล้ว ยัง​จะ​มี​ความ​ยินดี​อย่าง​นี้​ได้​อีก​หรือ?”+ 13 พระ​ยะโฮวา​จึง​ถาม​อับราฮัม​ว่า “ทำไม​ซาราห์​หัวเราะ​และ​พูด​ว่า ‘ฉัน​จะ​มี​ลูก​ได้​จริง ๆ หรือ? อายุ​ตั้ง​ขนาด​นี้​แล้ว’ 14 มี​อะไร​ที่​เรา​ยะโฮวา​ทำ​ไม่​ได้?+ ใน​ช่วง​เวลา​นี้​ของ​ปี​หน้า​เรา​จะ​กลับ​มา​หา​เจ้า และ​ซาราห์​จะ​มี​ลูก​ชาย​คน​หนึ่ง” 15 ซาราห์​กลัว​จึง​ปฏิเสธ​ว่า “ดิฉัน​ไม่​ได้​หัวเราะ​นะ​คะ” แต่​พระองค์​พูด​ว่า “อย่า​ปฏิเสธ​เลย เจ้า​หัวเราะ​จริง ๆ”

16 ผู้​ชาย​เหล่า​นั้น​ก็​ลุก​และ​เดิน​ออก​ไป พวก​เขา​มอง​ไป​ทาง​เมือง​โสโดม+ อับราฮัม​ก็​เดิน​ไป​ส่ง 17 พระ​ยะโฮวา​พูด​ว่า “เรา​จะ​ไม่​ให้​อับราฮัม​รู้​ว่า​เรา​กำลัง​จะ​ทำ​อะไร​อย่าง​นั้น​หรือ?+ 18 อับราฮัม​จะ​กลาย​เป็น​ชาติ​ใหญ่​ที่​มี​กำลัง​มาก​อย่าง​แน่นอน และ​ทุก​ชาติ​ใน​โลก​จะ​ได้​รับ​พร​เพราะ​เขา+ 19 เรา​ได้​เลือก*อับราฮัม เพื่อ​เขา​จะ​ได้​กำชับ​ลูก​หลาน​รวม​ทั้ง​คน​ใน​บ้าน​ของ​เขา​ให้​ใช้​ชีวิต​ตาม​แนว​ทาง​ของ​เรา​ยะโฮวา โดย​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​และ​ยุติธรรม+ แล้ว​เรา​ยะโฮวา​จะ​ทำ​ตาม​ที่​เรา​สัญญา​ไว้​กับ​อับราฮัม”

20 แล้ว​พระ​ยะโฮวา​พูด​ว่า “บาป​ของ​เมือง​โสโดม​และ​โกโมราห์​ร้ายแรง​มาก+ เรา​ได้​ยิน​ผู้​คน​ร้อง​บ่น​เกี่ยว​กับ​สอง​เมือง​นี้+ 21 เรา​จะ​ลง​ไป​ดู​ให้​รู้​ว่า พวก​เขา​ทำ​ชั่ว​อย่าง​ที่​เรา​ได้​ยิน​เสียง​ร้อง​บ่น​ว่า​นั้น​หรือ​เปล่า”+

22 แล้ว​ผู้​ชาย​เหล่า​นั้น*ก็​แยก​ไป​ทาง​เมือง​โสโดม แต่​พระ​ยะโฮวา+ยัง​อยู่​กับ​อับราฮัม 23 อับราฮัม​เข้า​ไป​ถาม​ว่า “พระองค์​จะ​กวาด​ล้าง​คน​ดี​ไป​พร้อม​กับ​คน​ชั่ว​จริง ๆ หรือ​ครับ?+ 24 สมมุติ​ว่า​มี​คน​ดี​สัก 50 คน​ใน​เมือง​นั้น พระองค์​จะ​กวาด​ล้าง​คนทั้ง​เมือง​หรือ? พระองค์​จะ​ไม่​ยก​โทษ​ให้​เพราะ​เห็น​แก่​คน​ดี 50 คน​ใน​เมือง​นั้น​หรือ? 25 พระองค์​จะ​ไม่​ประหาร​คน​ดี​ให้​ตาย​ไป​พร้อม​กับ​คน​ชั่ว​แน่ ๆ+ พระองค์​ไม่​มี​ทาง​ทำ​อย่าง​นั้น+ พระองค์​ผู้​พิพากษา​โลก​ทั้ง​สิ้น​จะ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​อย่าง​แน่นอน”+ 26 พระ​ยะโฮวา​พูด​ว่า “ถ้า​เรา​พบ​คน​ดี​สัก 50 คน​ใน​เมือง​โสโดม เรา​จะ​ยก​โทษ​ให้​คน​ทั้ง​เมือง​เพราะ​เห็น​แก่ 50 คน​นั้น” 27 อับราฮัม​พูด​อีก​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ครับ ผม​เป็น​เพียง​ฝุ่น​และ​ขี้เถ้า ผม​รู้​ดี​ว่า​ไม่​มี​สิทธิ์​จะ​ถาม แต่​ผม​ขอ​อนุญาต​ถาม​พระองค์​ได้​ไหม​ครับ​ว่า 28 ถ้า​มี​คน​ดี​ไม่​ถึง 50 คน ขาด​ไป​สัก 5 คน พระองค์​จะ​ทำลาย​ทั้ง​เมือง​เพราะ​ขาด​คน​ดี​ไป 5 คน​ไหม?” พระองค์​ตอบ​ว่า “เรา​จะ​ไม่​ทำลาย​เมือง​นั้น​ถ้า​เรา​พบ​ว่า​มี​คน​ดี​อยู่​ที่​นั่น 45 คน”+

29 เขา​ถาม​พระองค์​อีก​ว่า “ถ้า​พระองค์​พบ 40 คน​ที่​นั่น​ล่ะ​ครับ?” พระองค์​ตอบ​ว่า “เรา​จะ​ไม่​ทำลาย​เพราะ​เห็น​แก่ 40 คน​นั้น” 30 เขา​พูด​อีก​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ครับ อย่า​เพิ่ง​โกรธ​นะ​ครับ+ ผม​ขอ​ถาม​อีก​ว่า ถ้า​พบ 30 คน​ที่​นั่น​ล่ะ​ครับ?” พระองค์​ตอบ​ว่า “เรา​จะ​ไม่​ทำลาย​เมือง​นั้น​ถ้า​เรา​พบ 30 คน​ที่​นั่น” 31 เขา​พูด​อีก​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ครับ ผม​รู้​ดี​ว่า​ไม่​มี​สิทธิ์​จะ​ถาม แต่​ผม​ขอ​อนุญาต​ถาม​พระองค์​อีก​ครั้ง​ได้​ไหม​ครับ​ว่า ถ้า​พบ 20 คน​ที่​นั่น​ล่ะ​ครับ?” พระองค์​ตอบ​ว่า “เรา​จะ​ไม่​ทำลาย​เมือง​นั้น​เพราะ​เห็น​แก่ 20 คน​นั้น” 32 เขา​พูด​อีก​ครั้ง​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ครับ อย่า​เพิ่ง​โกรธ​นะ​ครับ ผม​ขอ​ถาม​อีก​แค่​ครั้ง​เดียว​ว่า ถ้า​พบ​แค่ 10 คน​ที่​นั่น​ล่ะ​ครับ?” พระองค์​ตอบ​ว่า “เรา​ก็​จะ​ไม่​ทำลาย​เมือง​นั้น​เพราะ​เห็น​แก่ 10 คน​นั้น” 33 เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​พูด​กับ​อับราฮัม​จบ​แล้ว​พระองค์​ก็​ไป+ ส่วน​อับราฮัม​ก็​กลับ​ไป​ที่​เต็นท์​ของ​ตัว​เอง

19 ทูตสวรรค์ 2 องค์​นั้น​มา​ถึง​เมือง​โสโดม​ตอน​เย็น โลท​กำลัง​นั่ง​อยู่​ที่​ประตู​เมือง พอ​เห็น​ทูตสวรรค์​ทั้ง​สอง เขา​ก็​ลุก​ขึ้น​ไป​หา​แล้ว​หมอบ​ลง​กับ​พื้น+ 2 เขา​พูด​ว่า “ท่าน​ครับ ขอ​เชิญ​แวะ​มา​ที่​บ้าน​ผู้​รับใช้​ของ​ท่าน​คน​นี้​เถอะ ผม​จะ​ให้​คน​ล้าง​เท้า​ท่าน​และ​ท่าน​จะ​ได้​ค้าง​สัก​คืน แล้ว​พรุ่ง​นี้​ค่อย​ออก​เดิน​ทาง​แต่​เช้า” ทูตสวรรค์​ทั้ง​สอง​พูด​ว่า “ไม่​เป็น​ไร พวก​เรา​ว่า​จะ​ค้าง​คืน​ที่​ลาน​เมือง” 3 แต่​โลท​รบเร้า​มาก​จน​ทูตสวรรค์​ทั้ง​สอง​ต้อง​ไป​ที่​บ้าน​เขา แล้ว​โลท​ก็​จัด​อาหาร​เลี้ยง​พวก​เขา​โดย​ทำ​ขนมปัง​ไม่​ใส่​เชื้อ​ให้​พวก​เขา​กิน

4 ทูตสวรรค์​ทั้ง​สอง​ยัง​ไม่​ทัน​เข้า​นอน ผู้​ชาย​ชาว​โสโดม​ทั้ง​เมือง​ตั้ง​แต่​เด็ก​จน​ถึง​คน​แก่​ก็​พา​กัน​มา​ล้อม​บ้าน​โลท 5 พวก​เขา​ตะโกน​บอก​โลท​ไม่​หยุด​ว่า “ผู้​ชาย​ที่​มา​บ้าน​แก​คืน​นี้​อยู่​ไหน? พา​พวก​เขา​ออก​มา​ซะ​ดี ๆ เรา​อยาก​จะ​นอน​กับ​เขา”+

6 โลท​จึง​ออก​มา​พบ​คน​พวก​นั้น​ข้าง​นอก​แล้ว​ปิด​ประตู​บ้าน​ไว้ 7 เขา​พูด​ว่า “พี่​น้อง​ของ​ผม ขอ​เถอะ​นะ​ครับ อย่า​ทำ​ชั่ว​เลย 8 ผม​มี​ลูก​สาว​สอง​คน​ยัง​เป็น​สาว​บริสุทธิ์ ผม​จะ​พา​ออก​มา​ให้ พวก​คุณ​อยาก​จะ​ทำ​อะไร​กับ​ลูก​ของ​ผม​ก็​ได้​ตาม​ใจ แต่​อย่า​ทำ​อะไร​ผู้​ชาย​สอง​คน​นี้​เลย เพราะ​พวก​เขา​เป็น​แขก​ใน​บ้าน​ที่​ผม​ต้อง​ปก​ป้อง​ดู​แล”+ 9 คน​กลุ่ม​นั้น​พูด​ว่า “ถอย​ไป!” และ​ยัง​พูด​อีก​ว่า “แก​เป็น​คน​ต่าง​ชาติ​ที่​มา​อยู่​เมือง​นี้​แล้ว​ยัง​กล้า​มา​ตัดสิน​พวก​เรา​รึ? เรา​จะ​เล่น​งาน​แก​ให้​หนัก​กว่า​สอง​คน​นั้น​อีก” พวก​เขา​ผลัก​โลท​อย่าง​แรง​และ​พยายาม​เข้า​ไป​พัง​ประตู​บ้าน 10 ผู้​ชาย 2 คน​นั้น*ก็​ยื่น​มือ​ออก​ไป​คว้า​ตัว​โลท​ดึง​เข้า​มา​ใน​บ้าน​แล้ว​ปิด​ประตู 11 แล้ว​พวก​เขา​ก็​ทำ​ให้​พวก​ผู้​ชาย​กลุ่ม​นั้น​ทั้ง​เด็ก​และ​ผู้​ใหญ่​ที่​อยู่​หน้า​ประตู​บ้าน​ตา​บอด คน​กลุ่ม​นั้น​ควาน​หา​ประตู​บ้าน​จน​หมด​แรง

12 แล้ว​ผู้​ชาย 2 คน​นั้น​พูด​กับ​โลท​ว่า “คุณ​มี​ญาติ​คน​อื่น​อยู่​ที่​นี่​อีก​ไหม? ให้​พา​ลูก​ชาย ลูก​สาว ลูก​เขย กับ​พวก​ญาติ ๆ ที่​อยู่​ใน​เมือง​นี้​ออก​ไป​จาก​ที่​นี่​ให้​หมด 13 พวก​เรา​กำลัง​จะ​ทำลาย​เมือง​นี้​แล้ว เพราะ​เสียง​ร้อง​บ่น​ว่า​ชาว​เมือง​นี้​ดัง​ไป​ถึง​พระ​ยะโฮวา+ พระ​ยะโฮวา​จึง​ส่ง​พวก​เรา​มา​ให้​ทำลาย​เมือง​นี้” 14 โลท​ก็​ออก​ไป​บอก​คน*ที่​จะ​แต่งงาน​กับ​ลูก​สาว​ของ​เขา โลท​บอก​พวก​เขา​หลาย​ครั้ง​ว่า “รีบ​ออก​ไป​จาก​เมือง​นี้​เร็ว​เข้า! เพราะ​พระ​ยะโฮวา​กำลัง​จะ​ทำลาย​เมือง​นี้” แต่​พวก​เขา​กลับ​คิด​ว่า​โลท​พูด​เล่น+

15 พอ​ฟ้า​สาง​ทูตสวรรค์​ก็​เร่ง​โลท​ว่า “เร็ว​เข้า! พา​ภรรยา​กับ​ลูก​สาว​ทั้ง​สอง​ไป​ได้​แล้ว คุณ​จะ​ได้​ไม่​ถูก​กวาด​ล้าง​ไป​ด้วย​ตอน​ที่​เมือง​ที่​ผิด​บาป​นี้​ถูก​ทำลาย”+ 16 เมื่อ​เห็น​ว่า​โลท​ยัง​ชักช้า​อยู่ พระ​ยะโฮวา​ก็​รู้สึก​สงสาร​เขา+ จึง​ให้​ผู้​ชาย 2 คน​นั้น​คว้า​มือ​โลท​กับ​ภรรยา​และ​ลูก​สาว​ทั้ง 2 คน​พา​ออก​ไป​นอก​เมือง+ 17 เมื่อ​ผู้​ชาย 2 คน​นั้น​พา​พวก​เขา​ออก​มา​นอก​เมือง​แล้ว คน​หนึ่ง​ก็​บอก​ว่า “ให้​หนี​เอา​ชีวิต​รอด ห้าม​หัน​กลับ​ไป​มอง+หรือ​หยุด​ตรง​ไหน​ใน​บริเวณ​นี้​เลย+ แต่​ให้​หนี​ไป​ที่​เขต​เทือก​เขา คุณ​จะ​ได้​ไม่​ถูก​ทำลาย”

18 แต่​โลท​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ครับ* อย่า​ให้​ผม​ไป​ที่​นั่น​เลย 19 ผม​ก็​เป็น​ผู้​รับใช้​ที่​พระองค์​พอ​ใจ​อยู่​แล้ว พระองค์​รัก​และ​เมตตา​ผม​อย่าง​มาก*และ​ช่วย​ชีวิต​ผม​ไว้+ แต่​ผม​คง​หนี​ไป​ที่​เขต​เทือก​เขา​ไม่​ไหว​แน่ ผม​กลัว​ว่า​ตัว​เอง​จะ​เจอ​อันตราย​ถึง​ตาย+ 20 ใกล้ ๆ นี้​เอง​มี​เมือง​เล็ก ๆ อยู่​เมือง​หนึ่ง​ที่​ผม​พอ​จะ​หนี​ไป​ได้ ผม​ขอ​หนี​ไป​ที่​นั่น​นะ​ครับ ที่​นั่น​เป็น​แค่​เมือง​เล็ก ๆ เอง ผม​จะ​ได้​รอด​ตาย” 21 พระองค์*พูด​กับ​โลท​ว่า “ได้ เรา​จะ​ให้​ตาม​ที่​ขอ+ และ​เรา​จะ​ไม่​ทำลาย​เมือง​นั้น+ 22 รีบ​หนี​ไป​ที่​นั่น​เร็ว เพราะ​เรา​ทำ​อะไร​ไม่​ได้​จน​กว่า​เจ้า​จะ​ไป​ถึง​ที่​นั่น​ก่อน”+ เมือง​นี้​จึง​ถูก​เรียก​ว่า​โศอาร์*+

23 โลท​มา​ถึง​เมือง​โศอาร์​ตอน​ที่​ดวง​อาทิตย์​ขึ้น​แล้ว 24 เมื่อ​โลท​มา​ถึง พระ​ยะโฮวา​ก็​ให้​มี​กำมะถัน​กับ​ไฟ​ตก​ลง​มา​จาก​ฟ้า พระ​ยะโฮวา​ให้​ตก​ใส่​เมือง​โสโดม​และ​เมือง​โกโมราห์​เหมือน​ห่า​ฝน+ 25 พระองค์​ทำลาย​ทั้ง​สอง​เมือง​นี้​กับ​บริเวณ​ที่​ลุ่ม​นั้น​ทั้ง​หมด รวม​ทั้ง​ชาว​เมือง​กับ​พืช​พรรณ​บน​แผ่นดิน​นั้น​ด้วย+ 26 ส่วน​ภรรยา​โลท​ซึ่ง​ตาม​มา​ข้าง​หลัง​ได้​หัน​กลับ​ไป​มอง เธอ​เลย​กลาย​เป็น​เสา​เกลือ+

27 อับราฮัม​ตื่น​แต่​เช้า​แล้ว​ไป​ที่​ที่​เขา​เคย​ยืน​พูด​กับ​พระ​ยะโฮวา+ 28 พอ​อับราฮัม​มอง​ลง​ไป​ทาง​เมือง​โสโดม​กับ​เมือง​โกโมราห์​และ​ทั่ว​บริเวณ​ที่​ลุ่ม​นั้น เขา​ก็​เห็น​ภาพ​น่า​กลัว มี​ควัน​หนา​พลุ่ง​ขึ้น​มา​จาก​บริเวณ​นั้น​เหมือน​ควัน​หนา​จาก​เตา​เผา+ 29 เมื่อ​พระเจ้า​ทำลาย​เมือง​ต่าง ๆ ใน​บริเวณ​ที่​ลุ่ม​นั้น พระองค์​ระลึก​ถึง​อับราฮัม​จึง​ช่วย​โลท​ออก​จาก​เมือง​ที่​พระองค์​ทำลาย เมือง​นั้น​เป็น​เมือง​ที่​โลท​เคย​อยู่+

30 ต่อ​มา โลท​ออก​จาก​เมือง​โศอาร์​แล้ว​ไป​อยู่​ใน​เขต​เทือก​เขา+พร้อม​กับ​ลูก​สาว 2 คน​เพราะ​เขา​ไม่​กล้า​อยู่​ใน​เมือง​โศอาร์+ โลท​กับ​ลูก​สาว​ทั้ง​สอง​ก็​เข้า​ไป​อยู่​ใน​ถ้ำ 31 ลูก​สาว​คน​โต​พูด​กับ​น้อง​สาว​ว่า “พ่อ​เรา​แก่​แล้ว และ​ก็​ไม่​มี​ผู้​ชาย​สัก​คน​ใน​แผ่นดิน​นี้​ให้​เรา​แต่งงาน​ด้วย​เหมือน​คน​อื่น​เขา 32 เอา​อย่าง​นี้​ละ​กัน เอา​เหล้า​องุ่น​มา​ให้​พ่อ​ดื่ม​จน​เมา แล้ว​เรา​ก็​นอน​กับ​พ่อ พ่อ​จะ​ได้​มี​ลูก​เอา​ไว้​สืบ​สกุล”

33 คืน​นั้น พวก​เธอ​เอา​เหล้า​องุ่น​ให้​พ่อ​ดื่ม​จน​เมา แล้ว​ลูก​สาว​คน​โต​ก็​เข้า​ไป​นอน​กับ​พ่อ แต่​เขา​ไม่​รู้​ว่า​เธอ​มา​นอน​ตอน​ไหน​และ​ลุก​ไป​เมื่อ​ไร 34 วัน​ต่อ​มา ลูก​สาว​คน​โต​พูด​กับ​น้อง​ว่า “เมื่อ​คืน​พี่​นอน​กับ​พ่อ​แล้ว คืน​นี้​เรา​เอา​เหล้า​องุ่น​ให้​พ่อ​ดื่ม​จน​เมา​อีก แล้ว​น้อง​ก็​เข้า​ไป​นอน​กับ​พ่อ​นะ พ่อ​จะ​ได้​มี​ลูก​เอา​ไว้​สืบ​สกุล” 35 คืน​นั้น พวก​เธอ​เอา​เหล้า​องุ่น​ให้​พ่อ​ดื่ม​จน​เมา​อีก แล้ว​ลูก​สาว​คน​เล็ก​ก็​เข้า​ไป​นอน​กับ​พ่อ แต่​เขา​ไม่​รู้​ว่า​เธอ​มา​นอน​ตอน​ไหน​และ​ลุก​ไป​เมื่อ​ไร 36 แล้ว​ลูก​สาว​ทั้ง​สอง​ของ​โลท​ก็​ท้อง​กับ​พ่อ​ของ​ตัว​เอง 37 ต่อ​มา ลูก​สาว​คน​โต​คลอด​ลูก​ชาย​คน​หนึ่ง​และ​ตั้ง​ชื่อ​ว่า​โมอับ+ เขา​เป็นบรรพบุรุษ​ของ​ชาว​โมอับ​ใน​สมัย​นี้+ 38 ส่วน​ลูก​สาว​คน​เล็ก​ก็​คลอด​ลูก​ชาย​คน​หนึ่ง​ด้วย​และ​ตั้ง​ชื่อ​ว่า​เบนอัมมี เขา​เป็น​บรรพบุรุษ​ของ​ชาว​อัมโมน+ใน​สมัย​นี้

20 อับราฮัม​ย้าย​ค่าย​พัก+และ​เดิน​ทาง​ไป​ที่​เนเกบ เขา​ตั้ง​ค่าย​อยู่​ระหว่าง​คาเดช+กับ​ชูร์+ และ​ตอน​ที่​อาศัย​อยู่*ที่​เกราร์+ 2 อับราฮัม​พูด​ถึง​ซาราห์​ภรรยา​ตัว​เอง​อีก​ว่า “เธอ​เป็น​น้อง​สาว​ของ​ผม”+ อาบีเมเลค*กษัตริย์​ที่​ปกครอง​เกราร์​จึง​ใช้​คน​มา​พา​ซาราห์​ไป+ 3 ตอน​กลางคืน พระเจ้า​มา​เข้า​ฝัน​อาบีเมเลค​และ​บอก​เขา​ว่า “เจ้า​จะ​ต้อง​ตาย​เพราะ​ผู้​หญิง​ที่​เจ้า​พา​มา+ เพราะ​ว่า​เธอ​แต่งงาน​มี​เจ้าของ​แล้ว”+ 4 แต่​อาบีเมเลค​ยัง​ไม่​ได้​แตะ​ต้อง​เธอ* เขา​จึง​ถาม​ว่า “พระ​ยะโฮวา พระองค์​จะ​ประหาร​ชน​ชาติ​ที่​ไม่​มี​ความ​ผิด​หรือ? 5 อับราฮัม​เป็น​คน​บอก​ผม​เอง​ว่า​ซาราห์​เป็น​น้อง​สาว​ของ​เขา และ​ซาราห์​เอง​ก็​บอก​ว่า​อับราฮัม​เป็น​พี่​ชาย ผม​ทำ​ไป​ด้วย​ความ​จริง​ใจ​และ​ด้วย​ความ​ไม่​รู้” 6 พระเจ้า​เที่ยง​แท้​พูด​กับ​เขา​ใน​ความ​ฝัน​ว่า “เรา​รู้​ว่า​เจ้า​จริง​ใจ เรา​ถึง​ไม่​ยอม​ให้​เจ้า​แตะ​ต้อง​เธอ เจ้า​จะ​ได้​ไม่​ทำ​บาป​ต่อ​เรา 7 ตอน​นี้ คืน​ภรรยา​ให้​เขา​ไป เขา​เป็น​ผู้​พยากรณ์+ เขา​จะ​ได้​อ้อน​วอน​เพื่อ​เจ้า+ เจ้า​จะ​ได้​มี​ชีวิต​อยู่​ต่อ​ไป แต่​ถ้า​เจ้า​ไม่​คืน​ให้​เขา เจ้า​กับ​ทุก​คน​ใน​ครอบครัว​จะ​ต้อง​ตาย”

8 อาบีเมเลค​ตื่น​แต่​เช้า​และ​เรียก​ข้าราชการ​ทุก​คน​มา แล้ว​เล่า​เรื่อง​ทั้ง​หมด​นั้น​ให้​ฟัง พวก​ข้าราชการ​ก็​กลัว​มาก 9 แล้ว​อาบีเมเลค​ก็​เรียก​อับราฮัม​มา​และ​พูด​กับ​เขา​ว่า “ทำไม​คุณ​ทำ​แบบ​นี้? เรา​ทำ​อะไร​ผิด? ทำไม​คุณ​ถึง​เอา​บาป​ร้ายแรง​มา​ให้​เรา​กับ​อาณาจักร​ของ​เรา​อย่าง​นี้? คุณ​ไม่​น่า​ทำ​แบบ​นี้​เลย” 10 อาบีเมเลค​พูด​กับ​อับราฮัม​ต่อ​ไป​ว่า “ถาม​จริง ๆ เถอะ ทำ​อย่าง​นี้​ทำไม?”+ 11 อับราฮัม​ตอบ​ว่า “เพราะ​ผม​คิด​ว่า ‘ที่​นี่​คง​ไม่​มี​ใคร​เกรง​กลัว​พระเจ้า​แน่ ๆ พวก​เขา​คง​ฆ่า​ผม​เพราะ​อยาก​ได้​ภรรยา​ของ​ผม’+ 12 และ​เธอ​ก็​เป็น​น้อง​สาว​ของ​ผม​จริง ๆ แต่​เป็น​น้อง​สาว​คน​ละ​แม่ แล้ว​ผม​ก็​แต่งงาน​กับ​เธอ+ 13 ตอน​ที่​พระเจ้า​ให้​ผม​ออก​จาก​บ้าน​เกิด​แล้ว​เดิน​ทาง​เร่ร่อน+ ผม​บอก​เธอ​ว่า ‘ถ้า​เธอ​รัก​ฉัน​จริง* ไม่​ว่า​เรา​จะ​ไป​ที่​ไหน ขอ​ให้​เธอ​บอก​คน​อื่น​ว่า “เขา​เป็น​พี่​ชาย​ดิฉัน”’”+

14 แล้ว​อาบีเมเลค​ก็​นำ​แกะ วัว และ​คน​รับใช้​ชาย​หญิง​มา​ให้​อับราฮัม​และ​คืน​ซาราห์​ภรรยา​ให้​เขา​ด้วย 15 อาบีเมเลค​พูด​ว่า “คุณ​มา​อยู่​ใน​แผ่นดิน​ของ​เรา​ได้ อยาก​อยู่​ที่​ไหนก็​อยู่​เลย” 16 และ​พูด​กับ​ซาราห์​ว่า “เรา​ให้​เงิน​พี่​ชาย+เธอ 1,000 เชเขล*เพื่อ​ยืน​ยัน​กับ​ทุก​คน​ที่​อยู่​กับ​เธอ​และ​คน​อื่น ๆ ว่า เธอ​ไม่​มี​อะไร​เสื่อม​เสีย จะ​ได้​ไม่​มี​ใคร​มา​ตำหนิ​เธอ​ได้” 17 แล้ว​อับราฮัม​ก็​อ้อน​วอน​พระเจ้า​เที่ยง​แท้ พระเจ้า​จึง​รักษา​อาบีเมเลค​กับ​ราชินี​รวม​ทั้ง​พวก​ทาส​ผู้​หญิง​ให้​พวก​เขา​สามารถ​มี​ลูก​ได้​อีก 18 เพราะ​พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​พวก​ผู้​หญิง​ใน​วัง​อาบีเมเลค​เป็น​หมัน สาเหตุ​เพราะ​ซาราห์​ภรรยา​อับราฮัม+

21 พระ​ยะโฮวา​กลับ​มา​หา​ซาราห์​ตาม​ที่​เคย​บอก​ไว้ และ​พระ​ยะโฮวา​ทำ​ตาม​ที่​พระองค์​สัญญา​ไว้​กับ​เธอ+ 2 ซาราห์​ก็​ตั้ง​ท้อง+ เธอ​คลอด​ลูก​ชาย​คน​หนึ่ง​ให้​อับราฮัม​ตอน​ที่​เขา​อายุ​มาก​แล้ว ตาม​เวลา​ที่​พระเจ้า​สัญญา​ไว้​กับ​เขา+ 3 อับราฮัม​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​ชาย​ที่​ซาราห์​เพิ่ง​คลอด​ให้​นั้น​ว่า​อิสอัค+ 4 อับราฮัม​ให้​อิสอัค​ลูก​ชาย​ของ​เขา​เข้า​สุหนัต​ตอน​อายุ​ได้ 8 วัน​ตาม​ที่​พระเจ้า​สั่ง​ไว้+ 5 อับราฮัม​อายุ 100 ปี​ตอน​ที่​อิสอัค​ลูก​ชาย​ของ​เขา​เกิด 6 ซาราห์​พูด​ว่า “พระเจ้า​ทำ​ให้​ฉัน​หัวเราะ​ดีใจ ทุก​คน​ที่​ได้​ยิน​เรื่อง​นี้​ก็​หัวเราะ​ดีใจ​ไป​กับ​ฉัน​ด้วย”* 7 เธอ​พูด​อีก​ว่า “ใคร​จะ​ไป​คิด​ว่า​ซาราห์​ภรรยา​ของ​อับราฮัม​จะ​มี​โอกาส​ให้​ลูก​กิน​นม​ได้ แต่​ฉัน​ก็​คลอด​ลูก​ชาย​ให้​เขา​ตอน​ที่​เขา​อายุ​มาก​แล้ว”

8 เมื่อ​อิสอัค​โต​ขึ้น​จน​หย่า​นม​แล้ว อับราฮัม​จึง​จัด​งาน​เลี้ยง​ใหญ่​ใน​วัน​ที่​อิสอัค​หย่า​นม 9 ซาราห์​คอย​สังเกต​และ​เห็น​ว่า​ลูก​ชาย​ที่​อับราฮัม​มี​กับ​ฮาการ์+ชาว​อียิปต์​นั้น​ชอบ​เยาะเย้ย​อิสอัค+ 10 เธอ​จึง​พูด​กับ​อับราฮัม​ว่า “ไล่​ทาส​หญิง​คน​นี้​กับ​ลูก​ไป​ซะ​เถอะ เพราะ​ลูก​ของ​ทาส​หญิง​คน​นี้​จะ​มา​รับ​มรดก​ร่วม​กับ​อิสอัค​ลูก​ฉัน​ไม่​ได้”+ 11 แต่​อับราฮัม​ลำบาก​ใจ​มาก​ที่​ได้​ยิน​ซาราห์​พูด​ถึง​ลูก​ชาย​ของ​เขา​แบบ​นั้น+ 12 พระเจ้า​จึง​พูด​กับ​อับราฮัม​ว่า “อย่า​ให้​เรื่อง​ที่​ซาราห์​พูด​ถึง​เด็ก​คน​นั้น​กับ​ทาส​หญิง​ของ​เจ้า​มา​ทำ​ให้​เจ้า​ลำบาก​ใจ​เลย ให้​ทำ​ตาม​ที่​ซาราห์​บอก เพราะ​คน​ที่​จะ​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​นั้น​จะ​มา​ทาง​อิสอัค+ 13 ส่วน​ลูก​ชาย​ของ​ทาส​หญิง+นั้น​เรา​จะ​ให้​มี​ชาติ​หนึ่ง​เกิด​จาก​เขา​ด้วย+ เพราะ​เขา​เป็น​ลูก​ของ​เจ้า”

14 อับราฮัม​จึง​ตื่น​แต่​เช้า​ตรู่ เอา​ขนมปัง​กับ​ถุง​หนัง​ใส่​น้ำ​ถุง​หนึ่ง​วาง​ไว้​บน​บ่า​ฮาการ์ แล้ว​ให้​เธอ​กับ​ลูก​ชาย​ไป​จาก​ที่​นั่น+ ฮาการ์​ก็​เดิน​ทาง​เร่ร่อน​อยู่​ใน​ที่​กันดาร​ซึ่ง​อยู่​ใกล้​เบเออร์เชบา+ 15 เมื่อ​น้ำ​ใน​ถุง​หนัง​หมด ฮาการ์​ก็​ทิ้ง​ลูก​ชาย​ไว้​ที่​ใต้​พุ่ม​ไม้ 16 แล้ว​เธอ​ก็​ไป​นั่ง​คน​เดียว นั่ง​ห่าง​ออก​ไป​พอ ๆ กับ​ระยะ​ยิง​ลูก​ธนู​ตก ฮาการ์​พูด​ว่า “ฉัน​ไม่​อยาก​เห็น​ตอนที่​ลูก​ตาย​เลย” เธอ​จึง​นั่ง​ร้องไห้​เสียง​ดัง​อยู่​ห่าง ๆ

17 พระเจ้า​ได้​ยิน​เสียง​เด็ก​นั้น+ ทูตสวรรค์​ของ​พระเจ้า​จึง​เรียก​ฮาการ์​จาก​ฟ้า​และ​พูด​กับ​เธอ​ว่า+ “ฮาการ์ เธอ​เป็น​อะไร? ไม่​ต้อง​กลัว เพราะ​พระเจ้า​ได้​ยิน​เสียง​เด็ก​ที่​อยู่​ตรง​นั้น​แล้ว 18 ลุก​ขึ้น​เถอะ พยุง​เด็ก​ให้​ลุก​ขึ้น​แล้ว​จูง​มือ​เขา​ไป เพราะ​เรา​จะ​ให้​เขา​กลาย​เป็น​ชาติ​ใหญ่”+ 19 พระเจ้า​เปิด​ตา​ฮาการ์ เธอ​ก็​เห็น​บ่อ​น้ำ​บ่อ​หนึ่ง​จึง​เอา​ถุง​หนัง​ไป​ใส่​น้ำ​แล้ว​เอา​มา​ให้​ลูก​ดื่ม 20 พระเจ้า​คอย​ดู​แล​เด็ก​คน​นี้+จน​เขา​โต เขา​อาศัย​อยู่​ใน​ที่​กันดาร​และ​เป็น​พราน​ที่​ใช้​ธนู 21 เขา​อาศัย​อยู่​ใน​ที่​กันดาร​ปาราน+ แม่​เขา​หา​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​จาก​อียิปต์​ให้​เป็น​ภรรยา​เขา

22 เวลา​นั้น อาบีเมเลค​มา​หา​อับราฮัม​พร้อม​กับ​ฟีโคล์*แม่ทัพ​ของ​เขา เขา​พูด​ว่า “เรา​เห็น​ว่า​พระเจ้า​คอย​ช่วยเหลือ​คุณ​ทุก​อย่าง+ 23 ดัง​นั้น สาบาน​กับ​เรา​ที่​นี่​ต่อ​หน้า​พระเจ้า​เถอะ​ว่า คุณ​จะ​ไม่​ทำ​ผิด​สัญญา​ระหว่าง​เรา จะ​ไม่​หลอก​ลวง​เรา​และ​ลูก​หลาน​ของ​เรา แต่​จะ​ปฏิบัติ​ต่อ​เรา​กับ​คน​ใน​แผ่นดิน​ที่​คุณ​อาศัย​อยู่​นี้​ด้วย​ความ​ซื่อ​สัตย์*อย่าง​ที่​เรา​ซื่อ​สัตย์​ต่อ​คุณ”+ 24 อับราฮัม​พูด​ว่า “ผม​สาบาน”

25 แต่​อับราฮัม​ร้อง​ทุกข์​ต่อ​อาบีเมเลค​เรื่อง​บ่อ​น้ำ​ที่​คน​ของ​อาบีเมเลค​แย่ง​ไป+ 26 อาบีเมเลค​พูด​ว่า “เรา​ไม่​รู้​ว่า​ใคร​ทำ​อย่าง​นั้น คุณ​ไม่​ได้​บอก​เรา เรา​เพิ่ง​มา​รู้​เรื่อง​วัน​นี้​เอง” 27 อับราฮัม​เอา​แกะ​กับ​วัว​มา​ให้​อาบีเมเลค แล้ว​ทั้ง​สอง​ก็​ทำ​สัญญา​กัน 28 ตอน​ที่​อับราฮัม​เลือก​ลูก​แกะ​ตัว​เมีย 7 ตัว​ออก​มา​จาก​ฝูง​นั้น 29 อาบีเมเลค​ถาม​เขา​ว่า “ทำไม​ถึง​เลือก​ลูก​แกะ​ตัว​เมีย 7 ตัว​นี้​ออก​มา​ล่ะ?” 30 อับราฮัม​ตอบ​ว่า “โปรด​รับ​ลูก​แกะ​ตัว​เมีย 7 ตัว​นี้​จาก​ผม เพื่อ​เป็น​หลักฐาน​ยืน​ยัน​ว่า​ผม​เป็น​คน​ขุด​บ่อ​น้ำ​นี้” 31 เขา​จึง​เรียก​ที่​นั่น​ว่า​เบเออร์เชบา*+เพราะ​ทั้ง​สอง​ได้​สาบาน​ต่อ​กัน​ที่​นั่น 32 ทั้ง​สอง​จึง​ทำ​สัญญา​กัน+ที่​เบเออร์เชบา แล้ว​อาบีเมเลค​กับ​ฟีโคล์​แม่ทัพ​ของ​เขา​ก็​เดิน​ทาง​กลับ​แผ่นดิน​ฟีลิสเตีย+ 33 หลัง​จาก​นั้น อับราฮัม​ปลูก​ต้น​สน​ทามาริสก์​ไว้​ที่​เบเออร์เชบา และ​ที่​นั่น อับราฮัม​สรรเสริญ​ชื่อ​ของ​พระ​ยะโฮวา+พระเจ้า​ผู้​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป+ 34 อับราฮัม​อาศัย​อยู่*ใน​แผ่นดิน​ฟีลิสเตีย​เป็น​เวลา​นาน+

22 ต่อ​มา พระเจ้า​เที่ยง​แท้​อยาก​ลอง​ดู​ว่า​อับราฮัม​มี​ความ​เชื่อ​ที่​เข้มแข็ง​ขนาด​ไหน+ พระองค์​พูดกับ​เขา​ว่า “อับราฮัม” เขา​ตอบ​ว่า “ครับ​ผม” 2 พระเจ้า​พูด​ว่า “ขอ​ให้​พา​อิสอัค+ลูก​ชาย​คน​เดียว​ที่​เจ้า​รัก​มาก+เดิน​ทาง​ไป​แผ่นดิน​โมริยาห์+ แล้ว​ถวาย​เขา​เป็น​เครื่อง​บูชา​เผา​บน​ภูเขา​ที่​เรา​จะ​บอก​เจ้า”

3 อับราฮัม​ตื่น​แต่​เช้า​ตรู่ ผูก​อาน​ลา​และ​พา​อิสอัค​ลูก​ชาย​กับ​คน​รับใช้​สอง​คน​ไป​ด้วย เขา​ผ่า​ฟืน​ที่​จะ​ใช้​สำหรับ​เผา​เครื่อง​บูชา แล้ว​ออก​เดิน​ทาง​ไป​ที่​ที่​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​บอก​ให้​ไป 4 พอ​ถึง​วัน​ที่​สาม​ของ​การ​เดิน​ทาง อับราฮัม​ก็​มอง​เห็น​ที่​ที่​พวก​เขา​จะ​ไป​นั้น​แต่​ไกล 5 แล้ว​อับราฮัม​ก็​พูด​กับ​คน​รับใช้​ว่า “อยู่​กับ​ลา​ตรง​นี้​นะ ผม​กับ​ลูก​จะ​ไป​นมัสการ​พระเจ้า​ตรง​โน้น เสร็จ​แล้ว​จะ​กลับ​มา​หา​พวก​คุณ”

6 จาก​นั้น อับราฮัม​ก็​ให้​อิสอัค​ลูก​ชาย​แบก​ฟืน​ที่​จะ​ใช้​เผา​เครื่อง​บูชา ส่วน​เขา​ถือ​ไฟ​กับ​มีด แล้ว​ทั้ง​สอง​ก็​เดิน​ไป​ด้วย​กัน 7 อิสอัค​พูด​กับ​อับราฮัม​พ่อ​ของ​เขา​ว่า “พ่อ​ครับ” อับราฮัม​พูด​ว่า “มี​อะไร​หรือ​ลูก?” อิสอัค​ถาม​ว่า “เรา​มี​ไฟ​กับ​ฟืน​แล้ว แต่​แกะ​สำหรับ​เผา​เป็น​เครื่อง​บูชา​อยู่​ไหน​ล่ะ​ครับ?” 8 อับราฮัม​ตอบ​ว่า “พระเจ้า​จะ​จัด​หา​แกะ​สำหรับ​เผา​เป็น​เครื่อง​บูชา+ให้​เอง​นะ​ลูก” แล้ว​ทั้ง​สอง​ก็​พา​กัน​เดิน​ต่อ​ไป

9 เมื่อ​พวก​เขา​มา​ถึง​ที่​ที่​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​บอก​ไว้ อับราฮัม​ก็​สร้าง​แท่น​บูชา​ที่​นั่น เรียง​ฟืน​บน​แท่น มัด​มือ​มัด​เท้า​อิสอัค​ลูก​ชาย และ​วาง​เขา​บน​ฟืน​ที่​อยู่​บน​แท่น​บูชา+ 10 แล้ว​อับราฮัม​ก็​ยื่น​มือ​ไป​หยิบ​มีด​มา​จะ​ฆ่า​ลูก​ชาย+ 11 แต่​ทูตสวรรค์​ของ​พระ​ยะโฮวา​เรียก​อับราฮัม​จาก​ฟ้า​ว่า “อับราฮัม อับราฮัม” เขา​ตอบ​ว่า “ครับ” 12 ทูตสวรรค์*พูด​ว่า “อย่า​ทำ​อันตราย​ลูก​ของ​เจ้า อย่า​ทำ​อะไร​เขา​เลย ตอน​นี้​เรา​รู้​แล้ว​ว่า​เจ้า​เกรง​กลัว​พระเจ้า เพราะ​เจ้า​ไม่​ได้​หวง​ลูก​ชาย​คน​เดียว​ของ​เจ้า​ไว้ แต่​ยอม​ยก​ให้​เรา”+ 13 อับราฮัม​จึง​เงย​หน้า​ขึ้น​แล้ว​ก็​เห็น​แกะ​ตัว​ผู้​ตัว​หนึ่ง เขา​ของ​แกะ​ตัว​นั้น​ติด​อยู่​กับ​พง​ไม้​ที่​อยู่​ไม่​ไกล เขา​จึง​ไป​จับ​มา​ถวาย​เป็น​เครื่อง​บูชา​เผา​แทน​ลูก​ชาย​ตัว​เอง 14 อับราฮัม​เรียก​ที่​นั่น​ว่า​ยะโฮวายิเรห์* ผู้​คน​จึง​พูด​กัน​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้​ว่า “ที่​ภูเขา​ของ​พระ​ยะโฮวา พระองค์​จะ​จัด​หา​ให้”+

15 ทูตสวรรค์​ของ​พระ​ยะโฮวา​เรียก​อับราฮัม​จาก​ฟ้า​เป็น​ครั้ง​ที่​สอง 16 และ​บอก​ว่า “พระ​ยะโฮวา​พูด​ว่า ‘เพราะ​เจ้า​ไม่​ได้​หวง​ลูก​ชาย​คน​เดียว​ของ​เจ้า​ไว้+ แต่​ยอม​ยก​ให้​เรา เรา​จึง​ขอ​สาบาน​โดย​อ้าง​ตัว​เรา​เอง+ว่า 17 เรา​จะ​อวยพร​เจ้า​แน่ ๆ และ​เรา​จะ​ทำ​ให้​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น​ให้​มี​มาก​เหมือน​ดวง​ดาว​บน​ท้องฟ้า​และ​เหมือน​เม็ด​ทราย​ที่​ชาย​ทะเล​อย่าง​แน่นอน+ และ​ลูกหลาน​ของ​เจ้า​จะ​ยึด​เมือง​ต่าง ๆ ของ​ศัตรู+ 18 และ​ทุก​ชาติ​ใน​โลก​จะ​ได้​รับ​พร*เพราะ​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า+ และ​เพราะ​เจ้า​เชื่อ​ฟัง​เรา’”+

19 จาก​นั้น อับราฮัม​กลับ​ไป​หา​คน​รับใช้ แล้ว​พวก​เขา​ก็​กลับ​ไป​เบเออร์เชบา+ด้วย​กัน และ​อับราฮัม​อาศัย​อยู่​ที่​เบเออร์เชบา​ต่อ​ไป

20 หลัง​จาก​ที่​เหตุ​การณ์​ทั้ง​หมด​ผ่าน​ไป มี​คน​มา​บอก​อับราฮัม​ว่า “มิลคาห์​มี​ลูก​ชาย​ให้​นาโฮร์​พี่​ชาย​ของ​คุณ+หลาย​คน​แล้ว 21 อูส​เป็น​ลูก​คน​โต บูส​เป็น​คน​รอง คน​ต่อ​มา​คือ​เคมูเอล​ที่​เป็น​พ่อ​ของ​อารัม 22 แล้ว​ก็​มี​เคเสด ฮาโซ ปิลดาช ยิดลาฟ และ​เบธูเอล”+ 23 เบธูเอล​ก็​มี​ลูก​ชื่อ​เรเบคาห์+ แปด​คน​นี้​เป็น​ลูก​ของ​มิลคาห์​กับ​นาโฮร์​พี่​ชาย​ของ​อับราฮัม 24 ภรรยา​น้อย​ของ​นาโฮร์​ชื่อ​เรอูมาห์​ก็​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เทบาห์ กาฮัม ทาหาช และ​มาอาคาห์

23 ซาราห์​มี​ชีวิต​อยู่​จน​อายุ​ได้ 127 ปี+ 2 ซาราห์​ตาย​ที่​เมือง​คีริยาทอาร์บา+ซึ่ง​มี​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​เฮโบรน+ เมือง​นี้​อยู่​ใน​แผ่นดิน​คานาอัน+ อับราฮัม​ร้องไห้​เสียใจ​และ​ไว้​ทุกข์​ให้​ซาราห์ 3 แล้ว​อับราฮัม​ก็​ลุก​จาก​หน้า​ศพ​ภรรยา​และ​มา​พูด​กับ​ลูก​หลาน​ของ​เฮท+ว่า 4 “ผม​เป็น​คน​ต่าง​ชาติ​ที่​มา​อาศัย​อยู่​กับ​พวก​คุณ+ ขอ​ที่​ดิน​ของ​พวก​คุณ​สัก​แปลง​หนึ่ง​ให้​ผม​ใช้​เป็น​ที่​ฝัง​ศพ ผม​จะ​ได้​ฝัง​ศพ​ให้​ภรรยา​ของ​ผม” 5 ลูก​หลาน​ของ​เฮท​ตอบ​อับราฮัม​ว่า 6 “ท่าน​ครับ โปรด​ฟัง​ที่​พวก​เรา​พูด​ก่อน​ครับ สำหรับ​พวก​เรา​แล้ว ท่าน​เป็น​ถึง​ระดับ​หัวหน้า*ที่​พระเจ้า​แต่ง​ตั้ง​ไว้+ เชิญ​ฝัง​ศพ​ภรรยา​ท่าน​ไว้​ใน​ที่​ดิน​สำหรับ​ฝัง​ศพ​แปลง​ที่​ดี​ที่​สุด​ของ​พวก​เรา​เถอะ จะ​ไม่​มี​ใคร​เลย​ใน​พวก​เรา​ที่​ไม่​ยอม​ยก​ที่​ดิน​ให้​ท่าน​ใช้​เป็น​ที่​ฝัง​ศพ​ภรรยา”

7 อับราฮัม​จึง​ลุก​ขึ้น​โค้ง​คำนับ​ลูก​หลาน​ของ​เฮท+ซึ่ง​เป็น​ประชาชน​ที่​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น 8 และ​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “ถ้า​พวก​คุณ​ยอม​ให้​ผม​ฝัง​ศพ​ภรรยา​ไว้​ที่​นี่ ผม​ขอ​ให้​พวก​คุณ​ช่วย​ขอร้อง​เอโฟรน​ลูก​ชาย​โศหาร์ 9 ให้​ขาย​ถ้ำ​มัคเปลาห์​ซึ่ง​อยู่​ตรง​ริม​สุด​ใน​ที่​ดิน​ของ​เขา​ให้​ผม ให้​เขา​ขาย​ถ้ำ​นั้น​ให้​ผม​ต่อ​หน้า​พวก​คุณ​ใน​ราคา​เต็ม+ ผม​จะ​ได้​มี​ที่​ไว้​ฝัง​ศพ”+

10 ตอน​นั้น เอโฟรน​นั่ง​อยู่​ใน​หมู่​ลูก​หลาน​ของ​เฮท เอโฟรน​ชาว​ฮิตไทต์​จึง​ตอบ​อับราฮัม​ให้​ลูก​หลาน​ของ​เฮท​และ​ทุก​คน​ที่​อยู่​ที่​ประตู​เมือง+ได้​ยิน​ทั่ว​กัน​ว่า 11 “อย่า​เลย​ครับ​ท่าน โปรด​ฟัง​ผม​ก่อน ผม​ขอ​ยก​ที่​ดิน​นั้น​รวม​ทั้ง​ถ้ำ​ซึ่ง​อยู่​ใน​ที่​ดิน​นั้น​ให้​ท่าน ผม​จะ​ยก​ให้​ท่าน​ต่อ​หน้า​ลูก​หลาน​ของ​เฮท ท่าน​จะ​ได้​ฝัง​ศพภรรยา​ของ​ท่าน​ที่​นั่น” 12 อับราฮัม​โค้ง​คำนับ​ต่อ​หน้า​ผู้​คน​ที่​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น 13 และ​พูด​กับ​เอโฟรน​ให้​พวก​เขา​ได้​ยิน​กัน​ว่า “โปรด​ฟัง​ผม ผม​จะ​ให้​เงิน​คุณ​ตาม​ราคา​ของ​ที่​ดิน รับ​เงิน​จาก​ผม​เถอะ ผม​จะ​ได้​ฝัง​ศพ​ภรรยา​ของ​ผม​ไว้​ที่​นั่น”

14 เอโฟรน​จึง​ตอบ​อับราฮัม​ว่า 15 “โปรด​ฟัง​ผม​ครับ​ท่าน ราคา​ที่​ดิน​แปลง​นั้น​เป็น​เงิน​หนัก 400 เชเขล* แต่​เรื่อง​ราคา​นั้น​ไม่​ใช่​เรื่อง​ใหญ่ ท่าน​นำ​ศพ​ภรรยา​ไป​ฝัง​ไว้​ที่​นั่น​ก่อน​เถอะ​ครับ” 16 เมื่อ​อับราฮัม​ได้​ยิน​อย่าง​นั้น ก็​ชั่ง​เงิน​ให้​เอโฟรน​ตาม​จำนวน​ที่​เขา​บอก​ให้​ลูก​หลาน​ของ​เฮท​ได้​ยิน​ทั่ว​กัน คือ 400 เชเขล*ตาม​มาตรฐาน​น้ำหนัก​ที่​พวก​พ่อค้า​ใช้​กัน+ 17 ที่​ดิน​ของ​เอโฟรน​ใน​มัคเปลาห์​ซึ่ง​อยู่​ใกล้ ๆ มัมเร คือ​ที่​ดิน​และ​ถ้ำ​ที่​อยู่​ใน​ที่​ดิน​นั้น รวม​ทั้ง​ต้น​ไม้​ทั้ง​หมด​ซึ่ง​อยู่​ใน​ที่​ดิน​จึง​ได้​รับ​การ​รับรอง​ว่า 18 เป็น​ทรัพย์​สิน​ที่​อับราฮัม​ได้​ซื้อ​ต่อ​หน้า​ลูก​หลาน​ของ​เฮท และ​ต่อ​หน้า​ทุก​คน​ที่​อยู่​ที่​ประตู​เมือง 19 แล้ว​อับราฮัม​ก็​ฝัง​ศพ​ซาราห์​ภรรยา​ของ​เขา​ไว้​ใน​ถ้ำ​ซึ่ง​อยู่​ใน​ทุ่ง​มัคเปลาห์​ใกล้ ๆ มัมเร ใน​เขต​เมือง​เฮโบรน​ใน​แผ่นดิน​คานาอัน 20 ดัง​นั้น ลูก​หลาน​ของ​เฮท​ได้​ส่ง​มอบ​ที่​ดิน​กับ​ถ้ำ​ซึ่ง​อยู่​ใน​ที่​ดิน​นั้น​ให้​อับราฮัม​ใช้​เป็น​ที่​ฝัง​ศพ+

24 อับราฮัม​แก่​มาก​แล้ว และ​พระ​ยะโฮวา​อวยพร​อับราฮัม​ให้​เจริญ​ใน​ทุก ๆ ด้าน+ 2 วัน​หนึ่ง อับราฮัม​พูด​กับ​คน​รับใช้​ที่​อายุ​มาก​ที่​สุด​ใน​บ้าน​ซึ่ง​คอย​ดู​แล​ทรัพย์​สมบัติ​ทุก​อย่าง​ของ​เขา+ว่า “เอา​มือ​ของ​คุณ​มา​วาง​ไว้​ใต้​ต้น​ขา​ของ​ผม​เถอะ* 3 ผม​จะ​ให้​คุณ​สาบาน​ต่อ​หน้า​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​แห่ง​สวรรค์​และ​โลก​ว่า คุณ​จะ​ไม่​หา​ลูก​สาว​ของ​ชาว​คานาอัน​ซึ่ง​เป็น​คน​ที่​เรา​อาศัย​อยู่​ด้วย​นี้​มา​เป็น​ภรรยา​ลูก​ชาย​ของ​ผม+ 4 แต่​คุณ​ต้อง​ไป​หา​ภรรยา​ให้​อิสอัค​ลูก​ชาย​ของ​ผม จาก​ญาติ​พี่​น้อง​ของ​ผม+ใน​แผ่นดิน​ที่​ผม​เคย​อยู่”

5 แต่​คน​รับใช้​ถาม​อับราฮัม​ว่า “ถ้า​ผู้​หญิง​คน​นั้น​ไม่​อยาก​มา​ที่​แผ่นดิน​นี้​กับ​ผม​ล่ะ​ครับ ผม​จะ​ต้อง​พา​ลูก​ชาย​ของ​คุณ​ไป​ที่​นั่น​หรือ​เปล่า?”+ 6 อับราฮัม​บอก​เขา​ว่า “อย่า​พา​ลูก​ชาย​ของ​ผม​ไป​ที่​นั่น​อย่าง​เด็ดขาด+ 7 พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​แห่ง​สวรรค์​ผู้​ที่​พา​ผม​ออก​มา​จาก​บ้าน​พ่อ​และ​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​ของ​ญาติ​พี่​น้อง​ของ​ผม+ พระองค์​พูด​และ​สาบาน​กับ​ผม+ว่า ‘เรา​จะ​ยก​แผ่นดิน​นี้+ให้​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า’+ พระเจ้า​องค์​นี้​แหละ​ที่​จะ​ใช้​ทูตสวรรค์​ของ​พระองค์​ให้​นำ​หน้า​คุณ+และ​คุณ​จะ​หา​ภรรยา​ให้​ลูก​ชาย​ของ​ผม​จาก​ที่​นั่น+ 8 แต่​ถ้า​ผู้​หญิงคน​นั้น​ไม่​อยาก​มา​กับ​คุณ คุณ​ก็​จะ​หมด​หน้า​ที่​ตาม​คำ​สาบาน​ที่​ให้​ไว้​กับ​ผม แต่​ห้าม​พา​ลูก​ชาย​ของ​ผม​ไป​ที่​นั่น” 9 คน​รับใช้​ก็​วาง​มือ​ไว้​ใต้​ต้น​ขา​อับราฮัม​นาย​ของ​ตัว​เอง และ​สาบาน​กับ​เขา​ตาม​นั้น+

10 คน​รับใช้​จึง​นำ​อูฐ​ของ​นาย​มา 10 ตัว​และ​นำ​ของ​ขวัญ​อย่าง​ดี​ทุก​อย่าง​ของ​นาย​มา​ด้วย แล้ว​ออก​เดิน​ทาง​ไป​เมโสโปเตเมีย ไป​เมือง​ที่​นาโฮร์​อาศัย​อยู่ 11 เมื่อ​เขา​มา​ถึง​บ่อ​น้ำ​นอก​เมือง​ประมาณ​ตอน​เย็น​ซึ่ง​เป็น​เวลา​ที่​พวก​ผู้​หญิง​มัก​ออก​มา​ตัก​น้ำ เขา​ก็​ให้​อูฐ​หยุด​พัก 12 แล้ว​เขา​อธิษฐาน​ว่า “พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​อับราฮัม​นาย​ของ​ผม วัน​นี้​ขอ​ให้​ผม​ทำ​สำเร็จ​และ​ขอ​พระองค์​แสดง​ความ​รัก​ที่​มั่นคง​ต่อ​อับราฮัม​นาย​ของ​ผม 13 ตอน​นี้ ผม​ยืน​อยู่​ที่​บ่อ​น้ำ​และ​ผู้​หญิง​ชาว​เมือง​นี้​กำลัง​จะ​ออก​มา​ตัก​น้ำ 14 ถ้า​ผม​พูด​กับ​ผู้​หญิง​คน​ไหน​ว่า ‘ขอ​ผม​ดื่ม​น้ำ​ใน​ไห​นั้น​สัก​หน่อย​เถอะ’ แล้ว​เธอ​ตอบ​ว่า ‘เชิญ​เลย​ค่ะ แล้ว​ดิฉัน​จะ​เอา​น้ำ​ให้​อูฐ​ของ​คุณ​กิน​ด้วย’ ก็​ขอ​ให้​ผู้​หญิง​คน​นั้น​เป็น​คน​ที่​พระองค์​เลือก​ให้​อิสอัค​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์ เมื่อ​เป็น​อย่าง​นี้ ผม​ก็​จะ​รู้​ว่า​พระองค์​รัก​นาย​ของ​ผม​จริง ๆ ไม่​เปลี่ยน​แปลง”

15 เขา​อธิษฐาน​ยัง​ไม่​ทัน​จบ เรเบคาห์​ก็​แบก​ไห​ใส่​น้ำ​ออก​มา เรเบคาห์​เป็น​ลูก​สาว​ของ​เบธูเอล+ เบธูเอล​เป็น​ลูก​ชาย​ของ​มิลคาห์+ มิลคาห์​เป็น​ภรรยา​ของ​นาโฮร์+ และ​นาโฮร์​เป็น​พี่​ชาย​ของ​อับราฮัม 16 เรเบคาห์​สวย​มาก เธอ​เป็น​สาว​บริสุทธิ์ ไม่​เคย​มี​เพศ​สัมพันธ์​กับ​ผู้​ชาย เธอ​เดิน​ลง​ไป​ที่​บ่อ​และ​ตัก​น้ำ​ใส่​ไห​แล้ว​เดิน​กลับ​ขึ้น​มา 17 คน​รับใช้​เลย​รีบ​วิ่ง​ไป​หา​เรเบคาห์​และ​พูด​ว่า “ขอ​น้ำ​ใน​ไห​ให้​ผม​ดื่ม​สัก​หน่อย​เถอะ” 18 เธอ​พูด​ว่า “เชิญ​เลย​ค่ะ” แล้ว​เธอ​ก็​รีบ​ยก​ไห​น้ำ​ลง​และ​เท​ให้​เขา​ดื่ม 19 เมื่อ​เธอ​เอา​น้ำ​ให้​เขา​ดื่ม​แล้ว​ก็​พูด​ว่า “ดิฉัน​จะ​ตัก​น้ำ​ให้​อูฐ​ของ​คุณ​กิน​จน​อิ่ม​ด้วย” 20 แล้ว​เธอ​ก็​รีบ​เท​น้ำ​ใน​ไห​ใส่​ราง​น้ำ​และ​วิ่ง​ไป​ที่​บ่อ​น้ำ​หลาย​รอบ​เพื่อ​ตัก​น้ำ​ให้​อูฐ​ของ​เขา​กิน​ทุก​ตัว 21 คน​รับใช้​นั้น​ก็​รู้สึก​ทึ่ง​และ​เฝ้า​มอง​เธอ​อยู่​เงียบ ๆ เขา​คอย​ดู​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ทำ​ให้​การ​เดิน​ทาง​มา​ครั้ง​นี้​ประสบ​ความ​สำเร็จ​หรือ​ไม่

22 เมื่อ​อูฐ​กิน​น้ำ​อิ่ม​แล้ว คน​รับใช้​นั้น​จึง​เอา​ห่วง​จมูก​ทองคำ 1 วง​หนัก​ครึ่ง​เชเขล* กับ​กำไล​ข้อ​มือ​ทองคำ 2 วง​หนัก 10 เชเขล*ให้​เรเบคาห์ 23 แล้ว​ถาม​ว่า “บอก​หน่อย​ว่า​เธอ​เป็น​ลูก​สาว​ใคร ที่​บ้าน​ของ​พ่อ​เธอ​พอ​จะ​มี​ที่​ให้​พวก​เรา​พัก​ค้าง​คืน​ไหม?” 24 เธอ​ตอบ​เขา​ว่า “ดิฉัน​เป็น​ลูก​สาว​ของ​เบธูเอล+ที่​เป็น​ลูก​ชาย​ของ​มิลคาห์​กับ​นาโฮร์+ค่ะ” 25 เธอ​บอกอีก​ว่า “เรา​มี​ฟาง​กับ​หญ้า​เยอะ​แยะ แล้ว​ก็​มี​ที่​ให้​พัก​ค้าง​คืน​ด้วย” 26 คน​รับใช้​นั้น​จึง​หมอบ​ลง​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา 27 และ​พูด​ว่า “ขอ​ให้​พระ​ยะโฮวา​ได้​รับ​การ​สรรเสริญ พระองค์​เป็น​พระเจ้า​ของ​อับราฮัม​นาย​ของ​ผม พระองค์​แสดง​ความ​รัก​ที่​มั่นคง​และ​รักษา​สัญญา​ที่​ให้​ไว้​กับ​นาย​ของ​ผม​เสมอ พระ​ยะโฮวา​นำ​ผม​มา​ถึง​บ้าน​ญาติ​พี่​น้อง​ของ​นาย​ผม​แล้ว”

28 เรเบคาห์​ก็​วิ่ง​ไป​บอก​เรื่อง​นี้​ให้​แม่​กับ​คน​ที่​บ้าน​รู้ 29 เรเบคาห์​มี​พี่​ชาย​ชื่อ​ลาบัน+ ลาบัน​วิ่ง​ออก​ไป​หา​ชาย​คน​นั้น​ที่​บ่อ​น้ำ​นอก​เมือง 30 ทันที​ที่​ลาบัน​เห็น​ห่วง​ที่​จมูก​กับ​กำไล​ที่​ข้อ​มือ​เรเบคาห์ และ​ได้​ยิน​เธอ​เล่า​ว่า​ผู้​ชาย​คน​นั้น​พูด​กับ​เธอ​อย่าง​ไร ลาบัน​ก็​ไป​หา​ผู้​ชาย​คน​นั้น​ซึ่ง​ยัง​ยืน​อยู่​ที่​บ่อ​น้ำ​กับ​ฝูง​อูฐ 31 และ​พูด​ว่า “ผู้​ที่​ได้​รับ​พร​จาก​พระ​ยะโฮวา อย่า​ยืน​อยู่​ข้าง​นอก​แบบ​นี้​เลย มา​กับ​ผม​เถอะ ผม​เตรียม​บ้าน​และ​ที่​สำหรับ​อูฐ​ไว้​ให้​แล้ว” 32 ผู้​ชาย​คน​นั้น​จึง​เข้า​มา​ใน​บ้าน แล้ว​เขา*ก็​ถอด​เครื่อง​เทียม​อูฐ​ออก เอา​ฟาง​กับ​หญ้า​ให้​อูฐ​กิน และ​เอา​น้ำ​สำหรับ​ล้าง​เท้า​มา​ให้​ผู้​ชาย​คน​นั้น​กับ​คน​ที่​มา​ด้วย​กัน 33 แต่​เมื่อ​อาหาร​ถูก​ยก​มา​ตั้ง​ไว้​ตรง​หน้า​ผู้​ชาย​คน​นั้น​แล้ว เขา​กลับ​พูด​ว่า “ผม​จะ​ไม่​กิน​จน​กว่า​จะ​ได้​พูด​เรื่อง​ที่​ผม​ต้อง​พูด​ก่อน” ลาบัน​จึง​บอก​ว่า “เชิญ​พูด​เถอะ”

34 เขา​จึง​พูด​ว่า “ผม​เป็น​คน​รับใช้​ของ​อับราฮัม+ 35 และ​พระ​ยะโฮวา​อวยพร​นาย​ของ​ผม​มาก​มาย พระองค์​ช่วย​ให้​เขา​ร่ำรวย​มาก ให้​เขา​มี​แกะ วัว เงิน ทอง คน​รับใช้​ชาย​หญิง อูฐ และ​ลา+ 36 ซาราห์​ภรรยา​นาย​ของ​ผม​มี​ลูก​ชาย​ให้​นาย​ของ​ผม​คน​หนึ่ง​ตอน​ที่​เธอ​อายุ​มาก​แล้ว+ และ​นาย​ของ​ผม​จะ​ยก​ทุก​อย่าง​ที่​เขา​มี​ให้​ลูก​คน​นี้+ 37 นาย​จึง​ให้​ผม​สาบาน​และ​บอก​ผม​ว่า ‘อย่า​หา​ลูก​สาว​ชาว​คานาอัน​ซึ่ง​เป็น​เจ้าของ​แผ่นดิน​ที่​ผม​อาศัย​อยู่​นี้​มา​เป็น​ภรรยา​ลูก​ชาย​ของ​ผม+ 38 แต่​ให้​ไป​หา​ลูก​หลาน​ของ​พ่อ​ผม ไป​หา​ญาติ​พี่​น้อง​ของ​ผม+ แล้ว​หา​ภรรยา​ให้​ลูก​ชาย​ของ​ผม​จาก​ที่​นั่น’+ 39 ผม​ถาม​นาย​ของ​ผม​ว่า ‘ถ้า​ผู้​หญิง​คน​นั้น​ไม่​อยาก​มา​กับ​ผม​ล่ะ​ครับ?’+ 40 นาย​บอก​ผม​ว่า ‘พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ที่​ผม​รับใช้+จะ​ส่ง​ทูตสวรรค์​ของ​พระองค์+ให้​ไป​กับ​คุณ​และ​ช่วย​ให้​การ​เดิน​ทาง​ของ​คุณ​ประสบ​ความ​สำเร็จ ให้​คุณ​หา​ภรรยา​ให้​ลูก​ชาย​ของ​ผม​จาก​ญาติ​พี่​น้อง​ของ​ผม​และ​จาก​ลูก​หลาน​ของ​พ่อ​ผม+ 41 แต่​ถ้า​คุณ​ไป​หา​ญาติ​พี่​น้อง​ของ​ผม​แล้ว​พวก​เขา​ไม่​ให้​เธอ​มา​กับ​คุณ คุณ​ก็​จะ​หมด​หน้า​ที่​ตาม​ที่​ได้​สาบาน​ไว้​กับ​ผม คุณ​ไม่​ได้​ผิด​คำ​สาบาน’+

42 “วัน​นี้​พอ​มา​ถึง​บ่อ​น้ำ ผม​อธิษฐาน​ว่า ‘พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​อับราฮัม​นาย​ของ​ผม ขอ​พระองค์​ช่วย​ให้​การ​เดิน​ทาง​มา​ของ​ผม​ครั้ง​นี้​ประสบ​ความ​สำเร็จ 43 ตอน​นี้ ผม​ยืน​อยู่​ที่​บ่อ​น้ำ ถ้า​มี​ผู้​หญิง+ออก​มา​ตัก​น้ำ ผม​จะ​พูด​กับ​เธอ​ว่า “ขอ​น้ำ​ใน​ไห​ให้​ผม​ดื่ม​สัก​หน่อย​เถอะ” 44 ถ้า​เธอ​ตอบ​ว่า “เชิญ​ดื่ม​ค่ะ แล้ว​ดิฉัน​จะ​ตัก​น้ำ​ให้​อูฐ​ของ​คุณ​กิน​ด้วย” ขอ​ให้​ผู้​หญิง​คน​นั้น​เป็น​คน​ที่​พระ​ยะโฮวา​เลือก​ให้​ลูก​ชาย​ของ​นาย​ผม’+

45 “ผม​อธิษฐาน​ใน​ใจ​ยัง​ไม่​ทัน​จบ เรเบคาห์​ก็​แบก​ไห​น้ำ​ออก​มา​แล้ว​เดิน​ลง​ไป​ตัก​น้ำ​ที่​บ่อ ผม​จึง​พูด​กับ​เธอ​ว่า ‘ขอ​น้ำ​ให้​ผม​ดื่ม​สัก​หน่อย​เถอะ’+ 46 เธอ​ก็​รีบ​ยก​ไห​น้ำ​ลง​และ​พูด​ว่า ‘เชิญ​ดื่ม​ค่ะ+ แล้ว​ดิฉัน​จะ​เอา​น้ำ​ให้​อูฐ​ของ​คุณ​กิน​ด้วย’ ผม​จึง​ดื่ม​น้ำ และ​เธอ​ก็​เอา​น้ำ​ให้​อูฐ​กิน​ด้วย 47 แล้ว​ผม​ถาม​เธอ​ว่า ‘เธอ​เป็น​ลูก​สาว​ของ​ใคร?’ เธอ​ตอบ​ว่า ‘ดิฉัน​เป็น​ลูก​สาว​ของ​เบธูเอล​ที่​เป็น​ลูก​ชาย​ของ​นาโฮร์​กับ​มิลคาห์’ ผม​จึง​เอา​ห่วง​จมูก​ใส่​ให้​เธอ​และ​เอา​กำไล​ข้อ​มือ​สวม​ให้​เธอ+ 48 แล้ว​ผม​ก็​หมอบ​ลง​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​และ​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​อับราฮัม​นาย​ของ​ผม+ ผู้​นำ​ผม​ให้​มา​ถูก​ทาง ให้​มา​พบ​หลาน​สาว​ของ​พี่​ชาย​ของ​นาย​ผม​เพื่อ​จะ​ได้​พา​ไป​ให้​ลูก​ชาย​ของ​เขา 49 แล้ว​ใน​ตอน​นี้ พวก​คุณ​ต้องการ​แสดง​ความ​รัก​ที่​มั่นคง​และ​ความ​ไว้​วางใจ​ต่อ​นาย​ของ​ผม​ไหม? ถ้า​ไม่ ก็​ขอ​ให้​บอก ผม​จะ​ได้​รู้​ว่า​ควร​ทำ​ยัง​ไง​ต่อ​ไป”+

50 ลาบัน​กับ​เบธูเอล​ตอบ​ว่า “พวก​เรา​ไม่​มี​สิทธิ์​จะ​บอก​ว่า ‘ได้’ หรือ ‘ไม่​ได้’ เพราะ​เรื่อง​นี้​มา​จาก​พระ​ยะโฮวา 51 เรเบคาห์​ก็​อยู่​นี่​แล้ว พา​เธอ​ไป​เถอะ ให้​เธอ​ไป​เป็น​ภรรยา​ของ​ลูก​ชาย​นาย​ของ​คุณ​ตาม​ที่​พระ​ยะโฮวา​บอก​ไว้” 52 เมื่อ​คน​รับใช้​ของ​อับราฮัม​ได้​ยิน​อย่าง​นี้ เขา​ก็​หมอบ​ลง​กับ​พื้น​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา 53 แล้ว​ก็​เอา​เครื่อง​ประดับ​ที่​ทำ​จาก​เงิน​และ​ทอง​พร้อม​กับ​เสื้อ​ผ้า​ออก​มา​ให้​เรเบคาห์ และ​เอา​ของ​มี​ค่า​ต่าง ๆ ให้​พี่​ชาย​กับ​แม่​ของ​เธอ 54 จาก​นั้น เขา​กับ​คน​ที่​มา​ด้วย​กัน​ก็​กิน​และ​ดื่ม แล้ว​พวก​เขา​ก็​พัก​ค้าง​คืน​ที่​นั่น

พวก​เขา​ตื่น​มา​ตอน​เช้า​และ​คน​รับใช้​ของ​อับราฮัม​ก็​พูด​ว่า “ให้​ผม​กลับ​ไป​หา​นาย​เถอะ” 55 พี่​ชาย​กับ​แม่​ของ​เรเบคาห์​พูด​กับ​เขา​ว่า “ให้​เธอ​อยู่​กับ​พวก​เรา​อีก​หน่อย​หนึ่ง​เถอะ อย่าง​น้อย​ก็​อีก​สัก​สิบ​วัน​แล้ว​ค่อย​ไป” 56 แต่​เขา​บอก​ว่า “อย่า​รั้ง​ผม​ไว้​เลย ใน​เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ให้​การ​เดิน​ทาง​มา​ของ​ผม​ประสบ​ความ​สำเร็จ​แล้ว ขอ​ให้​ผม​กลับ​ไป​หา​นาย​ของ​ผม​เถอะ” 57 พวก​เขา​จึง​บอก​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น​พวก​เรา​จะ​เรียก​เธอ​มา​ถาม” 58 แล้ว​พวก​เขา​ก็​เรียก​เรเบคาห์​มา​ถาม​ว่า “จะ​ไป​กับ​ผู้​ชาย​คน​นี้​ไหม?” เธอ​ตอบ​ว่า “ไป​ค่ะ”

59 พวก​เขา​จึง​ให้​เรเบคาห์+ญาติ​ของ​พวก​เขา​กับ​แม่​นม*+ออก​เดิน​ทาง​ไป​กับ​คน​รับใช้​ของ​อับราฮัม​และ​คน​ที่​มา​กับ​เขา 60 พวก​เขา​อวยพร​เรเบคาห์​ว่า “น้อง​รัก ขอ​ให้​เธอ​มี​ลูก​เต็ม​บ้าน​มี​หลาน​เต็ม​เมือง และ​ให้​ลูก​หลาน​ของ​เธอ​ยึด​เมือง​ต่าง ๆ ของ​คน​ที่​เกลียด​ชัง​พวก​เขา”+ 61 เรเบคาห์​กับ​สาว​ใช้​ของ​เธอ​ก็​ขึ้น​ขี่​อูฐ​และ​เดิน​ทาง​ตาม​คน​รับใช้​ของ​อับราฮัม คน​รับใช้​นั้น​ก็​พา​เรเบคาห์​ไป

62 ส่วน​อิสอัค​ซึ่ง​ตอน​นั้น​อยู่​ใน​เนเกบ+ เขา​เดิน​อยู่​บน​ทาง​ไป​เบเออร์ลาไฮรอย+ 63 แล้ว​ก็​ลง​ไป​เดิน​อยู่​ใน​ทุ่ง​เพื่อ​คิด​ใคร่ครวญ​บาง​เรื่อง+ ตอน​นั้น​เป็น​ตอน​ใกล้​ค่ำ พอ​เขา​เงย​หน้า​ขึ้น​ก็​เห็น​ขบวน​อูฐ​กำลัง​มา 64 เมื่อ​เรเบคาห์​เงย​หน้า​ก็​เห็น​อิสอัค เธอ​ก็​รีบ​ลง​จาก​อูฐ 65 เธอ​ถาม​คน​รับใช้​ของ​อับราฮัม​ว่า “ผู้​ชาย​ที่​อยู่​ใน​ทุ่ง​ที่​กำลัง​เดิน​ตรง​มา​หา​พวก​เรา​คือ​ใคร?” คน​รับใช้​ตอบ​ว่า “นาย​ของ​ผม​เอง” เธอ​จึง​หยิบ​ผ้า​มา​คลุม​หัว​ไว้ 66 แล้ว​คน​รับใช้​ก็​เล่า​เรื่อง​ทั้ง​หมด​ที่​ได้​ทำ​ไป​ให้​อิสอัค​ฟัง 67 จาก​นั้น อิสอัค​ก็​พา​เรเบคาห์​เข้า​ไป​ใน​เต็นท์​ของ​ซาราห์​แม่​ของ​เขา+ ซึ่ง​เป็น​การ​แสดง​ว่า​เขา​รับ​เรเบคาห์​เป็น​ภรรยา เขา​รัก​เธอ​มาก+ แล้ว​อิสอัค​ก็​คลาย​ความ​โศก​เศร้า​จาก​การ​ตาย​ของ​แม่+

25 ต่อ​มา อับราฮัม​มี​ภรรยา​อีก​คน​หนึ่ง​ชื่อ​เคทูราห์ 2 แล้ว​เธอ​ก็​มี​ลูก​ชาย​กับ​เขา​คือ ศิมราน โยกชาน เมดาน มีเดียน+ อิชบาก และ​ชูอาห์+

3 โยกชาน​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เชบา​และ​เดดาน

ลูก​หลาน​ของ​เดดาน​คือ พวก​อัสชูริม เลทูชิม และ​เลอุมมิม

4 มีเดียน​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เอฟาห์ เอเฟอร์ ฮาโนค อาบีดา และ​เอลดาอาห์

ทั้ง​หมด​นี้​เป็น​ลูก​หลาน​นาง​เคทูราห์

5 ต่อ​มา อับราฮัม​ก็​ยก​ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ให้​อิสอัค+ 6 ส่วน​ลูก ๆ ของ​ภรรยา​น้อย​นั้น เมื่อ​ตอน​ที่​อับราฮัม​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่ เขา​ได้​ให้​สิ่ง​ของ​บาง​อย่าง​เป็น​ของ​ขวัญ​ลูก ๆ พวก​นี้​ไป​แล้ว และ​ให้​พวก​เขา​แยก​ไป​จาก​อิสอัค+โดย​แยก​ไป​อยู่​ต่าง​หาก​ที่​ดินแดน​ตะวัน​ออก 7 อับราฮัม​อายุ​ได้ 175 ปี 8 อับราฮัม​ตาย​ตอน​ที่​แก่​ชรา​มาก​แล้ว เขา​มี​ชีวิต​ที่​ยืน​ยาว​และ​มี​ความ​สุข เขา​ได้​อยู่​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​เขา* 9 อิสอัค​และ​อิชมาเอล​ลูก​ชาย​ของ​อับราฮัม​ฝัง​เขา​ไว้​ใน​ถ้ำ​มัคเปลาห์​ใน​ที่​ดิน​ของ​เอโฟรน​ลูก​ชาย​โศหาร์​ชาว​ฮิตไทต์ ซึ่ง​อยู่​ใกล้ ๆ มัมเร+ 10  คือ​ที่​ดิน​ที่​อับราฮัม​ซื้อ​จาก​ลูก​หลาน​ของ​เฮท อับราฮัม​ถูก​ฝัง​ไว้​ที่​นั่น​กับ​ซาราห์​ภรรยา​ของ​เขา+ 11 เมื่อ​อับราฮัม​ตาย​แล้ว พระเจ้า​ก็​ยัง​อวยพร​อิสอัคลูก​ชาย​เขา​ต่อ​ไป+ อิสอัค​อาศัย​อยู่​ใกล้​เบเออร์ลาไฮรอย+

12 นี่​เป็น​บันทึก​ประวัติ​ของ​อิชมาเอล+ลูก​ชาย​ที่​อับราฮัม​มี​กับ​ฮาการ์+ สาว​ใช้​ชาว​อียิปต์​ของ​ซาราห์

13 ต่อ​ไป​นี้​เป็น​ชื่อ​ลูก​ชาย​ของ​อิชมาเอล ซึ่ง​เป็น​บรรพบุรุษ​ของ​ตระกูล​ต่าง ๆ ตาม​ชื่อ​ของ​พวก​เขา ลูก​ชาย​คน​โต​ของ​อิชมาเอล​ชื่อ​เนบาโยท+ ต่อ​มา​คือ​เคดาร์+ อัดบีเอล มิบสัม+ 14 มิชมา ดูมาห์ มัสสา 15 ฮาดัด เทมา เยทูร์ นาฟิช และ​เคเดมาห์ 16 คน​เหล่า​นี้​เป็น​ลูก​ชาย​ของ​อิชมาเอล​และ​เป็น​หัวหน้า 12 ตระกูล ที่​ที่​พวก​เขา​ตั้ง​ถิ่น​ฐาน​และ​ที่​ที่​พวก​เขา​ตั้ง​ค่าย​พัก​นั้น​ถูก​เรียก​ตาม​ชื่อ​ของ​พวก​เขา+ 17 อิชมาเอล​อายุ​ได้ 137 ปี​แล้ว​ก็​ตาย เขา​ได้​อยู่​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​เขา* 18 พวก​เขา​อาศัย​อยู่​ตั้ง​แต่​ฮาวิลาห์+ไป​จน​ถึง​อัสซีเรีย ฮาวิลาห์​อยู่​ใกล้​ชูร์+และ​ชูร์​ก็​อยู่​ใกล้​ชายแดน​อียิปต์ พวก​เขา​อาศัย​อยู่​ใกล้​กับ​ญาติ​พี่​น้อง​ของ​เขา*+

19 นี่​เป็น​บันทึก​ประวัติ​อิสอัค​ลูก​ชาย​อับราฮัม+

อับราฮัม​มี​ลูก​ชาย​คน​หนึ่ง​ชื่อ​อิสอัค 20 ตอน​ที่​อิสอัค​อายุ 40 ปี​เขา​แต่งงาน​กับ​เรเบคาห์ เธอ​เป็น​ลูก​สาว​ของ​เบธูเอล+ชาว​อารัม​ใน​ปัดดานอารัม และ​เป็น​น้อง​สาว​ของ​ลาบัน​ชาว​อารัม 21 อิสอัค​เฝ้า​อ้อน​วอน​พระ​ยะโฮวา​เรื่อง​ที่​ภรรยา​เป็น​หมัน​และ​พระ​ยะโฮวา​ตอบ​คำ​อ้อน​วอน​ของ​เขา เรเบคาห์​ภรรยา​เขา​จึง​ตั้ง​ท้อง 22 ลูก​ที่​อยู่​ใน​ท้อง​ของ​เธอ​ดิ้น​อย่าง​กับ​ว่า​กำลัง​สู้​กัน+ เธอ​จึง​พูด​ว่า “ถ้า​ฉัน​ต้อง​มา​เจ็บ​ปวด​อย่าง​นี้ ตาย​ซะ​ก็​ดี​กว่า” แล้ว​เธอ​ก็​ถาม​พระ​ยะโฮวา 23 พระ​ยะโฮวา​บอก​เรเบคาห์​ว่า “มี​เด็ก 2 คน*อยู่​ใน​ท้อง​เจ้า+และ​จะ​มี 2 ชน​ชาติ​เกิด​จาก​พวก​เขา+ ชาติ​หนึ่ง​จะ​แข็ง​แกร่ง​กว่า​อีก​ชาติ​หนึ่ง+ และ​พี่​จะ​รับใช้​น้อง”+

24 พอ​ตอน​คลอด​ก็​ปรากฏ​ว่า​มี​ลูก​ชาย​ฝาแฝด​ออก​มา​จริง ๆ 25 คน​แรก​คลอด​ออก​มา มี​ขน​สี​แดง​ขึ้น​อยู่​เต็ม​ตัว​เหมือน​กับ​ใส่​เสื้อ​ขน​สัตว์+ จึง​ตั้ง​ชื่อ​ว่า​เอซาว*+ 26 แล้ว​น้อง​ชาย​เขา​ก็​คลอด​ตาม​ออก​มา​โดย​ที่​มือ​จับ​ส้น​เท้า​เอซาว​อยู่+ จึง​ตั้ง​ชื่อ​ว่า​ยาโคบ*+ ตอน​ที่​เธอ​คลอด​ลูก​นั้น​อิสอัค​อายุ 60 ปี

27 แล้ว​เด็ก​ผู้​ชาย​ทั้ง​สอง​คน​นี้​ก็​โต​ขึ้น เอซาว​เป็น​พราน​ที่​เก่ง​มาก+และ​ชอบ​ออก​ไป​ล่า​สัตว์ แต่​ยาโคบ​เป็น​คน​ชอบ​ความ​สงบ*และ​อยู่​แต่​ใน​เต็นท์+ 28 อิสอัค​รัก​เอซาว​มาก​กว่า​เพราะ​ได้​กิน​เนื้อ​สัตว์​ที่​เขา​ล่า​มา ส่วนเรเบคาห์​รัก​ยาโคบ​มาก​กว่า+ 29 วัน​หนึ่ง ตอน​ที่​ยาโคบ​กำลัง​ต้ม​ถั่ว​เลนทิล​อยู่​นั้น เอซาว​ก็​กลับ​มา​จาก​การ​ล่า​สัตว์ เขา​เหนื่อย​มาก 30 เอซาว​จึง​พูด​กับ​ยาโคบ​ว่า “ขอ​ซุป​แดง ๆ นั่น​ให้​พี่​กิน​สัก​หน่อย​สิ เร็ว ๆ หิว​จะ​ตาย​อยู่​แล้ว” เขา​จึง​มี​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​เอโดม*+ 31 ยาโคบ​บอก​ว่า “ขาย​สิทธิ​ลูก​คน​โต​ของ​พี่​ให้​ผม​ก่อน​สิ”+ 32 เอซาว​พูด​ว่า “พี่​หิว​จะ​ตาย​อยู่​แล้ว สิทธิ​ลูก​คน​โต​มัน​กิน​ได้​ไหม​ล่ะ?” 33 ยาโคบ​พูด​ว่า “งั้น​พี่​สาบาน​ก่อน​สิ” เอซาว​ก็​สาบาน​ต่อ​ยาโคบ​และ​ขาย​สิทธิ​ลูก​คน​โต​ให้​ยาโคบ+ 34 ยาโคบ​จึง​เอา​ขนมปัง​กับ​ต้ม​ถั่ว​เลนทิล​ให้​เอซาว เขา​ก็​กิน​จน​อิ่ม​แล้ว​ลุก​ไป เอซาว​ทำ​อย่าง​นี้​เป็น​การ​ดูถูก​สิทธิ​ลูก​คน​โต

26 เกิด​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​ขึ้น​ใน​แผ่นดิน​นั้น​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​นับ​ตั้ง​แต่​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​ครั้ง​แรก​ใน​สมัย​อับราฮัม+ อิสอัค​จึง​ไป​หา​อาบีเมเลค​กษัตริย์​ฟีลิสเตีย​ที่​เกราร์ 2 พระ​ยะโฮวา​มา​หา​อิสอัค​และ​บอก​ว่า “อย่า​ไป​ที่​อียิปต์ แต่​ให้​อยู่​ใน​แผ่นดิน​ที่​เรา​จะ​บอก​เจ้า 3 ขอ​ให้​อยู่​ใน​แผ่นดิน​นี้​อย่าง​คน​ต่าง​ชาติ+ เรา​จะ​อยู่​กับ​เจ้า​ต่อ ๆ ไป​และ​อวยพร​ให้​เจ้า​เจริญ เพราะ​เรา​จะ​ยก​แผ่นดิน​ทั้ง​หมด​นี้​ให้​เจ้า​กับ​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า+ เรา​จะ​ทำ​ตาม​ที่​เรา​สาบาน​ไว้​กับ​อับราฮัม​พ่อ​ของ​เจ้า​ว่า+ 4 ‘เรา​จะ​ทำ​ให้​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น​ให้​มี​มาก​เหมือน​ดวง​ดาว​บน​ท้องฟ้า+ และ​เรา​จะ​ยก​แผ่นดิน​ทั้ง​หมด​นี้​ให้​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า+ และ​ทุก​ชาติ​ใน​โลก​จะ​ได้​รับ​พร*เพราะ​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า’+ 5 เนื่อง​จาก​อับราฮัม​เชื่อ​ฟัง​เรา​และ​ทำ​ตาม​ที่​เรา​ต้องการ รวม​ทั้ง​ทำ​ตาม​คำ​สั่ง ข้อ​กำหนด และ​กฎหมาย​ของ​เรา​มา​โดย​ตลอด”+ 6 อิสอัค​จึง​อยู่​ที่​เกราร์+ต่อ​ไป

7 พวก​ผู้​ชาย​ที่​นั่น​ชอบ​ถาม​ถึง​ภรรยา​ของ​อิสอัค​และ​เขา​ก็​จะ​บอก​ว่า “เธอ​เป็น​น้อง​สาว​ของ​ผม”+ อิสอัค​ไม่​กล้า​บอก​ว่า “เธอ​เป็น​ภรรยา” เขา​บอก​ว่า “คน​ที่​นี่​จะ​ฆ่า​ผม​เพราะ​เรเบคาห์” เพราะ​เธอ​เป็น​คน​สวย​มาก+ 8 เมื่อ​อิสอัค​อยู่​ที่​นั่น​ได้​ระยะ​หนึ่ง อาบีเมเลค​กษัตริย์​ฟีลิสเตีย​มอง​จาก​หน้าต่าง​เห็น​อิสอัค​กำลัง​กอด*เรเบคาห์+ 9 อาบีเมเลค​จึง​เรียก​อิสอัค​มา​ถาม​ว่า “จริง ๆ แล้ว​เธอ​เป็น​ภรรยา​ของ​คุณ​นี่ ทำไม​ถึง​มา​บอก​ว่า ‘เธอ​เป็น​น้อง​สาว’?” อิสอัค​ตอบ​ว่า “ที่​ผม​บอก​ไป​อย่าง​นั้น​เพราะ​ผม​กลัว​ว่า​จะ​ต้อง​ตาย​เพราะ​เธอ”+ 10 อาบีเมเลค​พูด​ว่า “ทำไม​คุณ​ทำ​แบบ​นี้?+ ถ้า​เกิด​มี​คน​ไป​นอน​กับ​ภรรยา​คุณ คุณ​จะ​ทำ​ให้​พวก​เรา​มี​ความ​ผิด”+ 11 อาบีเมเลค​จึง​สั่ง​ทุก​คน​ว่า “คนที่​แตะ​ต้อง​ผู้​ชาย​คน​นี้​กับ​ภรรยา​ของ​เขา​จะ​ต้อง​ถูก​ประหาร”

12 แล้ว​อิสอัค​ก็​เริ่ม​เพาะ​ปลูก​ใน​แผ่นดิน​นั้น ใน​ปี​นั้น​เขา​เก็บ​เกี่ยว​พืช​ผล​ได้ 100 เท่า​ของ​เมล็ด​ที่​หว่าน​เนื่อง​จาก​พระ​ยะโฮวา​อวยพร​เขา+ 13 เขา​จึง​มี​ฐานะ​ดี​และ​ดี​ขึ้น​เรื่อย ๆ จน​ร่ำรวย​มาก 14 เขา​มี​ฝูง​แกะ ฝูง​วัว และ​คน​รับใช้+มาก​มาย​จน​ชาว​ฟีลิสเตีย​อิจฉา

15 ชาว​ฟีลิสเตีย​จึง​เอา​ดิน​มา​ถม​บ่อ​น้ำ​ทุก​บ่อ​ที่​คน​รับใช้​ของ​อับราฮัม​พ่อ​ของ​เขา​เคย​ขุด​ไว้+ 16 แล้ว​อาบีเมเลค​ก็​บอก​อิสอัค​ว่า “ย้าย​ไป​อยู่​ห่าง ๆ พวก​เรา​เถอะ เพราะ​คุณ​มี​กำลัง​เหนือ​กว่า​พวก​เรา​มาก” 17 อิสอัค​จึง​ย้าย​ไป​ตั้ง​ค่าย​ใน​หุบเขา​เกราร์+ แล้ว​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น 18 จาก​นั้น อิสอัค​ก็​ขุด​บ่อ​น้ำ​ที่​เคย​ขุด​ไว้​ใน​สมัย​อับราฮัม​พ่อ​ของ​เขา​อีก เพราะ​เมื่อ​อับราฮัม​ตาย​แล้ว+ ชาว​ฟีลิสเตีย​ได้​ถม​บ่อ​น้ำ​พวก​นั้น อิสอัค​เรียก​ชื่อ​บ่อ​น้ำ​ทั้ง​หมด​ตาม​ชื่อ​ที่​พ่อ​เขา​ตั้ง​ไว้+

19 ตอน​ที่​คน​รับใช้​ของ​อิสอัค​ขุด​พบ​บ่อ​น้ำ​จืด​ใน​หุบเขา​นั้น 20 พวก​คน​เลี้ยง​แกะ​ที่​เกราร์​ก็​ทะเลาะ​กับ​คน​เลี้ยง​แกะ​ของ​อิสอัค พวก​เขา​มา​บอก​ว่า “น้ำ​บ่อ​นี้​เป็น​ของ​พวก​เรา” อิสอัค​จึง​ตั้ง​ชื่อ​บ่อ​น้ำ​นั้น​ว่า​เอเสก* เพราะ​คน​พวก​นั้น​มา​ทะเลาะ​กับ​เขา 21 คน​รับใช้​ของ​อิสอัค​จึง​ไป​ขุด​บ่อ​น้ำ​อีก​บ่อ​หนึ่ง แล้ว​พวก​เขา​ก็​ทะเลาะ​กัน​เรื่อง​บ่อ​น้ำ​นั้น​อีก อิสอัค​จึง​ตั้ง​ชื่อ​บ่อ​น้ำ​นั้น​ว่า​สิตนาห์* 22 แล้ว​อิสอัค​ก็​ย้าย​ไป​จาก​ที่​นั่น​และ​ขุด​บ่อ​น้ำ​อีก​บ่อ​หนึ่ง แต่​ไม่​มี​การ​ทะเลาะ​กัน​เพราะ​บ่อ​นี้ อิสอัค​จึง​ตั้ง​ชื่อ​บ่อ​น้ำ​นี้​ว่า​เรโหโบท*และ​พูด​ว่า “เพราะ​พระ​ยะโฮวา​ให้​พวก​เรา​มี​ที่​กว้าง​ใหญ่​เพียง​พอ และ​ให้​เรา​มี​ลูก​หลาน​มาก​มาย​ใน​แผ่นดิน​นี้”+

23 แล้ว​อิสอัค​ก็​ออก​จาก​ที่​นั่น​ไป​เบเออร์เชบา+ 24 คืน​นั้น​พระ​ยะโฮวา​มา​หา​เขา​และ​พูด​ว่า “เรา​เป็น​พระเจ้า​ของ​อับราฮัม​พ่อ​ของ​เจ้า+ ไม่​ต้อง​กลัว​นะ+ เพราะ​เรา​อยู่​กับ​เจ้า เรา​จะ​อวยพร​เจ้า​และ​จะ​ทำ​ให้​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น​เพราะ​เห็น​แก่​อับราฮัม​ผู้​รับใช้​ของ​เรา”+ 25 เขา​จึง​สร้าง​แท่น​บูชา​ที่​นั่น​และ​สรรเสริญ​ชื่อ​ของ​พระ​ยะโฮวา+ อิสอัค​ตั้ง​เต็นท์​ที่​นั่น+และ​คน​รับใช้​ของ​เขา​ก็​ขุด​บ่อ​น้ำ​บ่อ​หนึ่ง​ไว้​ที่​นั่น​ด้วย

26 วัน​หนึ่ง อาบีเมเลค​ออก​จาก​เกราร์​มา​หา​อิสอัค​พร้อม​กับ​อาหุสซัท​คน​สนิท​และ​ฟีโคล์​แม่ทัพ​ของ​เขา+ 27 อิสอัค​จึง​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “มา​หา​ผม​ทำไม? ใน​เมื่อ​พวก​ท่าน​เกลียด​ผม​มาก​จน​ไล่​ผม​ออก​ไป​อยู่​ที่​อื่น” 28 พวก​เขา​ตอบ​ว่า “พวก​เรา​เห็น​ชัด​เลย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​อยู่​กับ​คุณ+ พวก​เรา​จึง​ตัดสิน​ใจ​มา​พูด​กับคุณ​ว่า ‘มา​สาบาน​กัน​เถอะ ขอ​ให้​คุณ​กับ​เรา​ทำ​สัญญา​กัน​ว่า+ 29 คุณ​จะ​ไม่​ทำ​ร้าย​พวก​เรา เหมือน​ที่​พวก​เรา​ไม่​ได้​ทำ​ร้าย​คุณ​ตอน​ที่​พวก​เรา​ขอ​ให้​คุณ​ไป​อยู่​ที่​อื่น คุณ​เป็น​คน​ที่​พระ​ยะโฮวา​อวยพร’” 30 อิสอัค​ก็​เลี้ยง​อาหาร​พวก​เขา พวก​เขา​ก็​กิน​และ​ดื่ม 31 วัน​รุ่ง​ขึ้น พวก​เขา​ตื่น​แต่​เช้า​ตรู่​และ​กล่าว​คำ​สาบาน​ต่อ​กัน+ แล้ว​อิสอัค​ก็​ส่ง​พวก​เขา​กลับ พวก​เขา​ก็​จาก​ไป​อย่าง​สันติ

32 ใน​วัน​นั้น​เอง คน​รับใช้​ของ​อิสอัค​ก็​มา​รายงาน​เรื่อง​บ่อ​น้ำ​ที่​พวก​เขา​ขุด+ว่า “พวก​เรา​พบ​น้ำ​แล้ว” 33 เขา​จึง​ตั้ง​ชื่อ​บ่อ​น้ำ​นั้น​ว่า​ชิบาห์* เมือง​นั้น​จึง​มี​ชื่อ​ว่า​เบเออร์เชบา*+จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้

34 เมื่อ​เอซาว​อายุ 40 ปี​ก็​แต่งงาน​กับ​ยูดิธ​ลูก​สาว​ของ​เบเออรี​ชาว​ฮิตไทต์ และ​บาเสมัท​ลูก​สาว​ของ​เอโลน​ชาว​ฮิตไทต์+ 35 พวก​เธอ​ทำ​ให้​อิสอัค​กับ​เรเบคาห์​ทุกข์​ใจ​มาก+

27 ต่อ​มา​เมื่อ​อิสอัค​แก่​แล้ว​และ​ตา​ของ​เขา​ก็​มอง​อะไร​ไม่​เห็น เขา​เรียก​เอซาว+ลูก​ชาย​คน​โต​มา​แล้ว​พูด​ว่า “ลูก​พ่อ” เอซาว​ตอบ​ว่า “มี​อะไร​ครับ​พ่อ?” 2 อิสอัค​พูด​ว่า “ตอน​นี้​พ่อ​แก่​แล้ว ไม่​รู้​จะ​ตาย​เมื่อไหร่ 3 พ่อ​เลย​อยาก​ให้​ลูก​เอา​คัน​ธนู​กับ​ลูก​ธนู​ออก​ไป​ล่า​สัตว์​ให้​พ่อ​หน่อย+ 4 เอา​มา​ทำ​อาหาร​อร่อย ๆ ที่​พ่อ​ชอบ แล้ว​ก็​ยก​มา​ให้​พ่อ​กิน พ่อ​จะ​ได้​อวยพร​ให้​ลูก​ก่อน​พ่อ​ตาย”

5 แต่​ตอน​ที่​อิสอัค​พูด​กับ​เอซาว​นั้น​เรเบคาห์​ฟัง​อยู่ เอซาว​ก็​ออก​ไป​ล่า​สัตว์​มา​ให้​พ่อ+ 6 เรเบคาห์​จึง​พูด​กับ​ยาโคบ+ว่า “แม่​ได้​ยิน​พ่อ​พูด​กับ​เอซาว​พี่​ชาย​ของ​ลูก​ว่า 7 ‘ไป​ล่า​สัตว์​มา​ทำ​อาหาร​อร่อย ๆ ให้​พ่อ​กิน​หน่อย พ่อ​จะ​ได้​อวยพร​ลูก​ต่อ​หน้า​พระ​ยะโฮวา​ก่อน​พ่อ​จะ​ตาย’+ 8 ถ้า​อย่าง​นั้น ยาโคบ​ลูก​แม่​ฟัง​ให้​ดี​นะ แล้ว​ทำ​ตาม​ที่​แม่​สั่ง+ 9 ไป​เอา​ลูก​แพะ​ที่​ดี​ที่​สุด​จาก​ฝูง​มา​ให้​แม่ 2 ตัว แม่​จะ​เอา​มา​ทำ​อาหาร​อร่อย ๆ อย่าง​ที่​พ่อ​ของ​ลูก​ชอบ 10 แล้ว​ลูก​ก็​ยก​ไป​ให้​พ่อ​กิน พ่อ​จะ​ได้​อวยพร​ลูก​ก่อน​พ่อ​จะ​ตาย”

11 ยาโคบ​พูด​กับ​เรเบคาห์​ว่า “พี่​เอซาว​เป็น​คน​ขน​ดก+ แต่​ลูก​ไม่​เหมือน​กับ​พี่ 12 แล้ว​ถ้า​เกิด​พ่อ​มา​คลำ​ตัว​ลูก​ล่ะ?+ พ่อ​คง​คิด​ว่า​ลูก​มา​หลอก​พ่อ​แน่ ๆ แล้ว​ลูก​ก็​จะ​โดน​แช่ง​แทน​ที่​จะ​ได้​คำ​อวยพร” 13 เรเบคาห์​พูด​ว่า “ลูก​แม่ ถ้า​ลูก​ถูก​แช่ง ก็​ให้​คำ​แช่ง​นั้น​มา​ตก​อยู่​กับ​แม่ ทำ​ตาม​ที่​แม่​บอก​เถอะ ไป​เอา​ลูก​แพะ​มา​ให้​แม่”+ 14 ยาโคบ​จึง​ไป​เอา​ลูก​แพะ​มา​ให้​แม่ เรเบคาห์​ก็​ทำ​อาหาร​รส​อร่อย​ที่​อิสอัค​ชอบ 15 แล้ว​เรเบคาห์​ก็​เอา​เสื้อ​ผ้า​ชุด​ที่​ดี​ที่​สุด​ของ​เอซาว​ลูก​ชาย​คน​โต​ที่​เธอ​มี​อยู่​ใน​บ้าน​มา​สวม​ให้​ยาโคบ​ลูก​ชาย​คน​เล็ก+ 16 และ​เอา​ขน​ลูก​แพะ​มา​ติด​ตาม​มือ​ตาม​คอ​ที่​เกลี้ยง​เกลา​ของ​เขา+ 17 แล้ว​เธอ​ก็​เอา​อาหาร​รส​อร่อย​กับ​ขนมปัง​ที่​ทำ​ไว้ ให้​ยาโคบ​ลูก​ชาย​ยก​ไป+

18 ยาโคบ​ก็​เข้า​ไป​หา​พ่อ​และ​พูด​ว่า “พ่อ​ครับ” เขา​ตอบ​ว่า “ว่า​ยัง​ไง​ลูก? ลูก​เป็น​ใคร เอซาว​หรือ​ยาโคบ?” 19 ยาโคบ​พูด​กับ​พ่อ​ว่า “ผม​คือ​เอซาว​ลูก​คน​โต​ของ​พ่อ+ ผม​ทำ​ตาม​ที่​พ่อ​บอก​แล้ว ตอน​นี้ พ่อ​ลุก​ขึ้น​มา​นั่ง​กิน​เนื้อ​ที่​ผม​หา​มา​เถอะ แล้ว​พ่อ​จะ​ได้​อวยพร​ผม”+ 20 อิสอัค​พูด​กับ​ลูก​ชาย​ว่า “ทำไม​ถึง​หา​เนื้อ​มา​ได้​เร็ว​อย่าง​นี้​ล่ะ​ลูก?” เขา​ตอบ​ว่า “พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​พ่อ​นำ​มัน​มา​ให้​ผม” 21 อิสอัค​ก็​พูด​กับ​ยาโคบ​ว่า “มา​ใกล้ ๆ พ่อ​หน่อย​ลูก พ่อ​จะ​ได้​คลำ​ตัว​ลูก​ดู จะ​ได้​รู้​ว่า​ลูก​เป็น​เอซาว​ลูก​ของ​พ่อ​จริง ๆ รึ​เปล่า”+ 22 ยาโคบ​จึง​เข้า​ไป​ใกล้ ๆ อิสอัค อิสอัค​ก็​คลำ​ตัว​เขา​ดู​แล้ว​พูด​ว่า “เสียง​ลูก​เป็น​เสียง​ของ​ยาโคบ แต่​มือ​เป็น​มือ​ของ​เอซาว”+ 23 อิสอัค​ไม่​รู้​ว่า​นี่​คือ​ยาโคบ​เพราะ​มือ​เขา​มี​ขน​ดก​เหมือน​มือ​เอซาว อิสอัค​จึง​อวยพร​เขา+

24 แล้ว​อิสอัค​ถาม​ว่า “นี่​เป็น​เอซาว​ลูก​ของ​พ่อ​จริง ๆ หรือ?” ยาโคบ​ตอบ​ว่า “จริง​สิ​พ่อ” 25 อิสอัค​จึง​บอก​ว่า “ลูก​พ่อ เอา​เนื้อ​ที่​ลูก​หา​มา​นั้น​ให้​พ่อ​กิน​หน่อย แล้ว​พ่อ​จะ​ได้​อวยพร​ลูก” ยาโคบ​จึง​เอา​เนื้อ​นั้น​ให้​อิสอัค​กิน แล้ว​ก็​เอา​เหล้า​องุ่น​มา​ให้​อิสอัค​ดื่ม 26 อิสอัค​บอก​ว่า “ลูก​พ่อ เข้า​มา​ใกล้ ๆ แล้ว​จูบ​พ่อ​หน่อย”+ 27 เขา​ก็​เข้า​ไป​ใกล้ ๆ และ​จูบ​อิสอัค อิสอัค​จึง​ได้​กลิ่น​เสื้อ​ผ้า​ที่​ยาโคบ​สวม+ แล้ว​อวยพร​เขา​ว่า

“กลิ่น​ลูก​ชาย​ของ​พ่อ​เหมือน​กลิ่น​ทุ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​อวยพร 28 ขอ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​ให้​น้ำ​ค้าง​จาก​ฟ้า+ ให้​แผ่นดิน​ที่​อุดม​สมบูรณ์+ รวม​ทั้ง​ข้าว​และ​เหล้า​องุ่น​ใหม่​กับ​ลูก​อย่าง​บริบูรณ์+ 29 ให้​ชน​ชาติ​ต่าง ๆ รับใช้​ลูก​และ​ให้​คน​ประเทศ​ต่าง ๆ คำนับ​ลูก ลูก​จะ​เป็น​นาย​ของ​พี่​น้อง​และ​พวก​เขา​ก็​จะ​คำนับ​ลูก+ ให้​ทุก​คน​ที่​แช่ง​ลูก​ถูก​แช่ง และ​ให้​ทุก​คน​ที่​อวยพร​ลูก​ได้​รับ​พร”+

30 พอ​อิสอัค​อวยพร​ยาโคบ​เสร็จ​และ​ยาโคบ​ลา​พ่อ​ออก​ไป​แล้ว เอซาว​ก็​กลับ​มา​จาก​ล่า​สัตว์​พอ​ดี+ 31 เขา​ก็​ไป​ทำ​อาหาร​อร่อย ๆ และ​ยก​มา​ให้​พ่อ แล้ว​พูด​กับ​พ่อ​ว่า “พ่อ ลุก​ขึ้น​มา​กิน​เนื้อ​สัตว์​ที่​ผม​หา​มา​ให้​เถอะ แล้ว​พ่อ​จะ​ได้​อวยพร​ผม” 32 อิสอัค​ถาม​เขา​ว่า “นี่​ใคร?” เขา​ตอบ​ว่า “ผม​คือ​เอซาว​ลูก​คน​โต​ของ​พ่อ”+ 33 อิสอัค​ก็​ตกใจ​จน​ตัว​สั่น​และ​พูด​ว่า “แล้ว​ใคร​ล่ะ​ที่​ไป​ล่า​สัตว์ และ​ทำ​มา​ให้​พ่อ​กิน​เมื่อ​กี้​นี้? พ่อ​ก็​เลย​กิน​ไป​แล้ว​ก่อน​ที่​ลูก​จะ​มา พ่อ​อวยพร​คน​นั้น​ไป​แล้ว​ด้วย และ​เขา​จะ​ได้​รับ​ตาม​คำ​อวยพร​นั้น”

34 พอ​ได้​ยิน​อย่าง​นั้น เอซาว​ก็​ร้อง​เสียง​ดัง​มาก​ด้วย​ความ​เสียใจ และ​พูด​กับ​พ่อ​ว่า “พ่อ อวยพร​ผม​ด้วย อวยพร​ผม​ด้วย​สิ​พ่อ”+ 35 อิสอัค​บอก​ว่า “น้อง​ของ​ลูก​มา​หลอก​เอา​พร​ไป​แล้ว” 36 เอซาว​พูด​ว่า “เพราะ​อย่าง​นี้​ใช่​ไหม​เขา​ถึง​ชื่อ​ยาโคบ* เพราะ​เขา​แย่ง​ชิง​ของ​ของ​ผม​ไป​ถึง​สอง​ครั้ง?+ เขา​เอา​สิทธิ​ลูก​คน​โต​ของ​ผม​ไป​แล้ว+ ตอน​นี้​เขา​ยัง​มา​เอา​พร​ของ​ผม​ไป​อีก”+ เอซาว​พูด​อีก​ว่า “พ่อ​ไม่​มี​พร​เหลือ​ให้​ผม​แล้ว​หรือ?” 37 อิสอัค​ตอบ​เอซาว​ว่า “พ่อ​ได้​ตั้ง​เขา​ให้​เป็น​นาย​ของ​ลูก+และ​ให้​พี่​น้อง​ของ​เขา​ทุก​คน​รับใช้​เขา ข้าว​กับ​เหล้า​องุ่น​ใหม่​พ่อ​ก็​ยก​ให้​เขา​หมด​แล้ว+ แล้ว​พ่อ​ยัง​จะ​ให้​อะไร​ลูก​ได้​อีก​ล่ะ?”

38 เอซาว​พูด​กับ​พ่อ​ว่า “พ่อ พ่อ​มี​พร​เดียว​แค่​นั้น​หรือ? อวยพร​ผม​ด้วย อวยพร​ผม​ด้วย​สิ​พ่อ” แล้ว​เอซาว​ก็​ร้องไห้​เสียง​ดัง+ 39 อิสอัค​พ่อ​ของ​เขา​จึง​ตอบ​ว่า

“ใน​ที่​ที่​ลูก​อยู่ แผ่นดิน​จะ​ไม่​อุดม​สมบูรณ์​และ​จะ​ไม่​มี​น้ำ​ค้าง​จาก​ฟ้า+ 40 ลูก​จะ​ต้อง​ใช้​ดาบ​ต่อ​สู้​เพื่อ​ความ​อยู่​รอด​ไป​ตลอด​ชีวิต+ ลูก​จะ​ต้อง​รับใช้​น้อง+ แต่​พอ​ทน​ไม่​ได้ ลูก​ก็​จะ​หัก​แอก​ของ​น้อง​ออก​จาก​คอ”+

41 เอซาว​จง​เกลียด​จง​ชัง​ยาโคบ​เพราะ​ยาโคบ​ได้​พร​จาก​พ่อ+ เขา​คิด​อยู่​เสมอ​ว่า “อีก​ไม่​นาน​พ่อ​ก็​จะ​ตาย*+ แล้ว​พอ​ไว้​ทุกข์​ให้​พ่อ​เสร็จ ฉัน​จะ​ฆ่า​ยาโคบ​น้อง​ชาย​ฉัน​ซะ” 42 เมื่อ​มี​คน​บอก​เรเบคาห์​ว่า​เอซาว​ลูก​ชาย​คน​โต​ของ​เธอ​คิด​อะไร เธอ​จึง​รีบ​ใช้​คน​ไป​เรียก​ยาโคบ​ลูก​ชาย​คน​เล็ก​มา​บอก​ว่า “เอซาว​พี่​ชาย​ของ​ลูก​อาฆาต​เคียดแค้น​ลูก​มาก เขา​วาง​แผน​จะ​ฆ่า​ลูก 43 เอา​อย่าง​นี้​นะ​ลูก ทำ​ตาม​ที่​แม่​บอก หนี​ไป​หา​ลาบัน​พี่​ชาย​ของ​แม่​ที่​ฮาราน+ 44 แล้ว​อยู่​กับ​ลุง​สัก​ระยะ​หนึ่ง​จน​กว่า​ความ​เคียดแค้น​ของ​พี่​จะ​ลด​ลง 45 รอ​จน​พี่​ชาย​หาย​โกรธ​และ​ลืม​ว่า​ลูก​เคย​ทำ​อะไร​กับ​เขา​ไว้ แล้ว​แม่​จะ​ใช้​คน​ให้​ไป​รับ​ลูก​ที่​นั่น แม่​ไม่​อยาก​เสีย​ลูก 2 คน​ไป​ใน​วัน​เดียว​กัน”

46 หลัง​จาก​นั้น เรเบคาห์​พูด​กับ​อิสอัค​หลาย​ครั้ง​ว่า “ฉัน​เบื่อ​ชีวิต​เต็ม​ที​แล้ว​เพราะ​พวก​ผู้​หญิง​ชาว​เฮท+ ถ้า​เกิด​ยาโคบ​ไป​แต่งงาน​กับ​พวก​ผู้​หญิง​ชาว​เฮท​ใน​แผ่นดิน​นี้​อีก​คน ฉัน​คง​ต้อง​อก​แตก​ตาย​แน่ ๆ”+

28 อิสอัค​จึง​เรียก​ยาโคบ​มา​อวยพร​และ​สั่ง​เขา​ว่า “อย่า​แต่งงาน​กับ​ผู้​หญิง​ชาว​คานาอัน+ 2 แต่​ให้​ไป​ที่​บ้าน​เบธูเอล​ซึ่ง​เป็น​ตา​ของ​ลูก​ที่​ปัดดานอารัม แล้ว​แต่งงาน​กับ​ลูก​สาว​คน​หนึ่ง​ของ​ลาบัน+พี่​ชาย​แม่​ของ​ลูก 3 พระเจ้า​ผู้​มี​พลัง​อำนาจ​สูง​สุดจะ​อวยพร​ลูก​ให้​มี​ลูก​หลาน​มาก​มาย​และ​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น​จน​มี​หลาย​ชาติ+ 4 พระองค์​จะ​ให้​สิ่ง​ดี ๆ กับ​ลูก​และ​ลูก​หลาน​ของ​ลูก​ตาม​ที่​สัญญา​ไว้​กับ​อับราฮัม+ แล้ว​ลูก​จะ​ได้​เป็น​เจ้าของ​แผ่นดิน​ที่​ลูก​อยู่​อย่าง​คน​ต่าง​ชาติ​นี้ แผ่นดิน​นี้​พระเจ้า​ยก​ให้​อับราฮัม​แล้ว”+

5 แล้ว​อิสอัค​ก็​ให้​ยาโคบ​เดิน​ทาง​ไป​ที่​ปัดดานอารัม ไป​หา​ลาบัน​ลูก​ชาย​เบธูเอล​ชาว​อารัม+ เขา​เป็น​พี่​ชาย​เรเบคาห์+แม่​ของ​ยาโคบ​กับ​เอซาว

6 เอซาว​รู้​ว่า​อิสอัค​อวยพร​ยาโคบ​และ​ให้​เขา​ไป​หา​ภรรยา​ที่​ปัดดานอารัม และ​รู้​ว่า​ตอน​ที่​อิสอัค​อวยพร​ยาโคบ​นั้น​เขา​สั่ง​ยาโคบ​ว่า “อย่า​แต่งงาน​กับ​ผู้​หญิง​ชาว​คานาอัน”+ 7 และ​ยาโคบ​ก็​เชื่อ​ฟัง​พ่อ​แม่​ออก​เดิน​ทาง​ไป​ปัดดานอารัม+ 8 เอซาว​ถึง​ได้​รู้​ว่า​อิสอัค​พ่อ​ตัว​เอง​ไม่​ชอบ​ผู้​หญิง​ชาว​คานาอัน+ 9 เอซาว​จึง​ไป​หา​อิชมาเอล*และ​แต่งงาน​กับ​มาหะลัท ถึง​แม้​ว่า​เขา​มี​ภรรยา​อยู่​แล้ว 2 คน มาหะลัท​เป็น​น้อง​สาว​ของ​เนบาโยท​และ​เป็น​ลูก​สาว​ของ​อิชมาเอล​ซึ่ง​เป็น​ลูก​ชาย​อับราฮัม+

10 ยาโคบ​ก็​ออก​เดิน​ทาง​จาก​เบเออร์เชบา​ไป​เมือง​ฮาราน+ 11 ระหว่าง​ทาง เขา​มา​ถึง​ที่​แห่ง​หนึ่ง​และ​เตรียม​จะ​ค้าง​คืน​ที่​นั่น​เพราะ​ดวง​อาทิตย์​ตก​แล้ว เขา​เอา​หิน​ก้อน​หนึ่ง​จาก​ตรง​นั้น​มา​หนุน​หัว​นอน+ 12 แล้ว​เขา​ก็​ฝัน​เห็น​บันได​ที่​มี​ขั้น​บันได​ทอด​จาก​โลก​ขึ้น​ไป​ถึง​สวรรค์ มี​ทูตสวรรค์​ของ​พระเจ้า​ขึ้น​ลง​ที่​บันได+ 13 และ​พระ​ยะโฮวา​อยู่​เหนือ​บันได​นั้น พระองค์​พูด​ว่า

“เรา​คือ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​อับราฮัม​ปู่​ของ​เจ้า​และ​พระเจ้า​ของ​อิสอัค+ เรา​จะ​ยก​แผ่นดิน​ที่​เจ้า​นอน​อยู่​นี้​ให้​เจ้า​และ​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า+ 14 ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​จะ​มี​มาก​มาย​เหมือน​ฝุ่น​ละออง+ พวก​เขา​จะ​กระจาย​ไป​อยู่​ทั่ว​แผ่นดิน​ทั้ง​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ตก ทิศ​ตะวัน​ออก ทิศ​เหนือ และ​ทิศ​ใต้ และ​ทุก​ครอบครัว​ใน​โลก​จะ​ได้​รับ​พร​เพราะ​เจ้า​และ​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า+ 15 เรา​อยู่​กับ​เจ้า เรา​จะ​ปก​ป้อง​เจ้า​ไม่​ว่า​เจ้า​จะ​ไป​ที่​ไหน และ​เรา​จะ​พา​เจ้า​กลับ​มา​ที่​แผ่นดิน​นี้+ เรา​จะ​ไม่​ทอดทิ้ง​เจ้า​แต่​เรา​จะ​ทำ​ตาม​ที่​เรา​สัญญา​ไว้​กับ​เจ้า”+

16 แล้ว​ยาโคบ​ก็​ตื่น​ขึ้น​และ​พูด​ว่า “พระ​ยะโฮวา​อยู่​ที่​นี่​แน่ ๆ แต่​ผม​ไม่​รู้” 17 เขา​รู้สึก​กลัว​จึง​พูด​ว่า “ที่​ตรง​นี้​ไม่​เหมือน​ที่​อื่น แต่​เป็น​ที่​ศักดิ์สิทธิ์ ต้อง​เป็น​ที่​อยู่​ของ​พระเจ้า​แน่ ๆ+และ​เป็น​ประตู​สวรรค์​ด้วย”+ 18 ยาโคบ​จึง​ตื่น​แต่​เช้า​ตรู่ แล้ว​เอา​ก้อน​หิน​ที่​เขา​ใช้​หนุน​หัว​ตั้ง​ขึ้น​มา​เป็น​เสา​เพื่อ​ระลึก​ถึง​เหตุ​การณ์​ครั้ง​นี้ และเท​น้ำมัน​ลง​บน​หัว​เสา​นั้น+ 19 แล้ว​ตั้ง​ชื่อ​ที่​นั่น​ว่า​เบธเอล* เมือง​นั้น​มี​ชื่อ​เดิม​ว่า​ลูส+

20 ยาโคบ​ปฏิญาณ​ว่า “ถ้า​พระเจ้า​อยู่​กับ​ผม​ต่อ ๆ ไป และ​ปก​ป้อง​ผม​ตอน​เดิน​ทาง ให้​ผม​มี​อาหาร​กิน มี​เสื้อ​ผ้า​ใส่ 21 และ​ให้​ผม​กลับ​มา​บ้าน​พ่อ​อย่าง​ปลอด​ภัย ก็​แสดง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ของ​ผม​จริง ๆ 22 ก้อน​หิน​ที่​ผม​ตั้ง​ไว้​เพื่อ​ระลึก​ถึง​เหตุ​การณ์​ครั้ง​นี้​จะ​เป็น​ที่​อยู่​ของ​พระเจ้า+ และ​ทุก​สิ่ง​ที่​พระองค์​ให้​ผม ผม​จะ​ถวาย​ส่วน 1 ใน 10 ให้​พระองค์”

29 แล้ว​ยาโคบ​ก็​เดิน​ทาง​ต่อ​จน​มา​ถึง​ดินแดน​ของ​ชาว​ตะวัน​ออก 2 เขา​มอง​เห็น​บ่อ​น้ำ​บ่อ​หนึ่ง​ใน​ทุ่ง​หญ้า​และ​มี​แกะ 3 ฝูง​นอน​อยู่​ไม่​ไกล​จาก​บ่อ​นั้น เพราะ​คน​เลี้ยง​แกะ​จะ​ตัก​น้ำ​จาก​บ่อ​ให้​ฝูง​แกะ​กิน​เป็น​ประจำ บ่อ​นั้น​มี​หิน​ใหญ่​ปิด​ปาก​บ่อ​ไว้ 3 เมื่อ​ฝูง​แกะ​ทั้ง​หมด​มา​รวม​กัน​ที่​บ่อ​แล้ว พวก​เขา​ก็​จะ​กลิ้ง​หิน​ออก​จาก​ปาก​บ่อ​และ​ตัก​น้ำ​ให้​ฝูง​แกะ​กิน เสร็จ​แล้ว​ก็​จะ​กลิ้ง​หิน​มา​ปิด​ปาก​บ่อ​ไว้​ตาม​เดิม

4 ยาโคบ​จึง​ถาม​พวก​เขา​ว่า “พี่​น้อง​ของ​ผม พวก​คุณ​มา​จาก​ที่​ไหน​กัน?” พวก​เขา​ตอบ​ว่า “พวก​เรา​มา​จาก​ฮาราน”+ 5 ยาโคบ​จึง​ถาม​ว่า “พวก​คุณ​รู้​จัก​ลาบัน+หลาน​ชาย​ของ​นาโฮร์+ไหม?” พวก​เขา​ตอบ​ว่า “รู้​จัก​สิ” 6 ยาโคบ​ก็​ถาม​ว่า “เขา​เป็น​ยัง​ไง​บ้าง?” พวก​เขา​ตอบ​ว่า “เขา​สบาย​ดี ราเชล+ลูก​สาว​เขา​กำลัง​เดิน​มา​กับ​ฝูง​แกะ​โน่น​แน่ะ” 7 ยาโคบ​จึง​พูด​ว่า “ตอน​นี้​ยัง​กลางวัน​อยู่​เลย ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​ต้อน​ฝูง​แกะ​กลับ​เข้า​คอก ตัก​น้ำ​ให้​พวก​มัน​กิน​เถอะ แล้ว​พา​พวก​มัน​ไป​กิน​หญ้า” 8 พวก​เขา​บอก​ว่า “พวก​เรา​ทำ​อย่าง​นั้น​ไม่​ได้​หรอก ต้อง​รอ​ให้​ฝูง​แกะ​มา​รวม​กัน​หมด​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ให้​คน​กลิ้ง​หิน​ออก​จาก​ปาก​บ่อ แล้ว​พวก​เรา​ถึง​จะ​ตัก​น้ำ​ให้​ฝูง​แกะ​กิน​ได้”

9 ตอน​ที่​ยาโคบ​พูด​กับ​พวก​คน​เลี้ยง​แกะ​อยู่​นั้น ราเชล​ก็​ต้อน​ฝูง​แกะ​ของ​พ่อ​มา​ถึง ราเชล​เป็น​คน​เลี้ยง​แกะ 10 พอ​ยาโคบ​เห็น​ราเชล​ซึ่ง​เป็น​ลูก​สาว​ลาบัน​พี่​ชาย​ของ​แม่​พา​แกะ​มา ยาโคบ​ก็​รีบ​เข้า​ไป​หา​และ​กลิ้ง​หิน​ออก​จาก​ปาก​บ่อ แล้ว​ตัก​น้ำ​ให้​แกะ​ของ​ลาบัน​กิน 11 แล้ว​ยาโคบ​ก็​จูบ*ราเชล​และ​ร้องไห้​เสียง​ดัง 12 ยาโคบ​บอก​ราเชล​ว่า​เขา​เป็น​ญาติ*กับ​ลาบัน​พ่อ​ของ​เธอ และ​เป็น​ลูก​ของ​เรเบคาห์ ราเชล​ก็​วิ่ง​ไป​บอก​พ่อ

13 พอ​ลาบัน+ได้​ยิน​เรื่อง​ยาโคบ​ลูก​ของ​น้อง​สาว เขา​ก็​วิ่ง​ออก​ไป​พบและ​กอด​จูบ​ยาโคบ​แล้ว​พา​เข้า​ไป​ใน​บ้าน ยาโคบ​ก็​เล่า​เรื่อง​ทั้ง​หมด​ที่​เกิด​ขึ้น​ให้​ลาบัน​ฟัง 14 ลาบัน​จึง​พูด​กับ​ยาโคบ​ว่า “หลาน​ไม่​ใช่​คน​อื่น​คน​ไกล แต่​เป็น​สาย​เลือด*แท้ ๆ ของ​ลุง” ยาโคบ​จึง​อยู่​กับ​เขา​เดือน​หนึ่ง

15 แล้ว​ลาบัน​ก็​พูด​กับ​ยาโคบ​ว่า “ถึง​แม้​จะ​เป็น​ญาติ*กัน+ แต่​ลุง​ก็​ไม่​ควร​ให้​ทำ​งาน​เปล่า ๆ ไม่​ใช่​หรือ? บอก​มา​เถอะ​ว่า​หลาน​อยาก​จะ​ให้​ลุง​จ่าย​ค่า​จ้าง​เท่าไหร่​ดี”+ 16 ลาบัน​มี​ลูก​สาว​สอง​คน คน​พี่​ชื่อ​เลอาห์ คน​น้อง​ชื่อ​ราเชล+ 17 เลอาห์​เป็น​คน​ดวง​ตา​ไม่​มี​เสน่ห์ ส่วน​ราเชล​นั้น​รูป​ร่าง​หน้า​ตา​งดงาม​มี​เสน่ห์ 18 ยาโคบ​ตก​หลุม​รัก​ราเชล จึง​บอก​ว่า “ผม​ยินดี​ทำ​งาน​ให้​ลุง 7 ปี แล้ว​ขอ​ให้​ลุง​ยก​ราเชล​ลูก​สาว​คน​เล็ก​ของ​ลุง​ให้​ผม”+ 19 ลาบัน​ตอบ​ว่า “ลุง​ยก​ลูก​สาว​ของ​ลุง​ให้​หลาน​ก็​ดี​กว่า​ยก​ให้​คน​อื่น อยู่​กับ​ลุง​ที่​นี่​ต่อ​ไป​เถอะ” 20 ยาโคบ​ก็​ทำ​งาน​อยู่ 7 ปี​เพื่อ​จะ​ได้​แต่งงาน​กับ​ราเชล+ แต่​เขา​ไม่​รู้สึก​ว่า 7 ปี​นั้น​นาน​เพราะ​เขา​รัก​เธอ

21 แล้ว​ยาโคบ​ก็​พูด​กับ​ลาบัน​ว่า “ผม​ทำ​งาน​ครบ​กำหนด​แล้ว ให้​ราเชล​แต่งงาน​กับ​ผม​เถอะ เรา​จะ​ได้​อยู่​กิน​เป็น​สามี​ภรรยา​กัน​ซะ​ที” 22 ลาบัน​จึง​จัด​งาน​แต่งงาน​ให้​และ​เชิญ​ทุก​คน​ใน​บริเวณ​นั้น​มา​ร่วม​งาน 23 แต่​ใน​คืน​นั้น ลาบัน​กลับ​ส่ง​ตัว​ลูก​สาว​ที่​ชื่อ​เลอาห์​ให้​ยาโคบ​แทน ยาโคบ​ก็​มี​เพศ​สัมพันธ์​กับ​เธอ 24 ลาบัน​ยัง​ยก​ศิลปาห์​สาว​ใช้​ของ​เขา​ให้​เป็น​สาว​ใช้​ของ​เลอาห์​ด้วย+ 25 พอ​รุ่ง​เช้า ยาโคบ​ถึง​เห็น​ว่า​คน​ที่​นอน​อยู่​กับ​เขา​คือ​เลอาห์ ยาโคบ​จึง​ไป​พูด​กับ​ลาบัน​ว่า “ทำไม​ลุง​ทำ​อย่าง​นี้? ผม​ทำ​งาน​ให้​ลุง​เพื่อ​จะ​ได้​แต่งงาน​กับ​ราเชล​ไม่​ใช่​หรือ? แล้ว​ทำไม​ลุง​มา​หลอก​ผม​อย่าง​นี้?”+ 26 ลาบัน​ตอบ​ว่า “ที่​นี่​เรา​ไม่​มี​ธรรมเนียม​ให้​น้อง​สาว​แต่งงาน​ก่อน​พี่​สาว 27 อยู่​กับ​เลอาห์​ให้​ครบ​สัปดาห์​หนึ่ง​ก่อน แล้ว​ลุง​จะ​ยก​ลูก​สาว​อีก​คน​หนึ่ง​ให้​ถ้า​หลาน​ยอม​ทำ​งาน​ให้​ลุง​อีก 7 ปี”+ 28 ยาโคบ​ก็​ยอม​ตาม​นั้น​และ​อยู่​กับ​เลอาห์​จน​ครบ​หนึ่ง​สัปดาห์ แล้ว​ลาบัน​ก็​ยก​ลูก​สาว​ที่​ชื่อ​ราเชล​ให้​แต่งงาน​กับ​ยาโคบ 29 และ​ลาบัน​ยัง​ยก​บิลฮาห์​สาว​ใช้​ของ​เขา+ให้​เป็น​สาว​ใช้​ของ​ราเชล​ด้วย+

30 ยาโคบ​จึง​มี​เพศ​สัมพันธ์​กับ​ราเชล​ด้วย เขา​รัก​ราเชล​มาก​กว่า​เลอาห์ แล้ว​เขา​ก็​ทำ​งาน​ให้​ลาบัน​อีก 7 ปี+ 31 พระ​ยะโฮวา​เห็น​ว่า​ยาโคบ​ไม่​รัก*เลอาห์ พระองค์​จึง​ให้​เธอ​มี​ลูก​ได้+ แต่​ราเชล​เป็น​หมัน+ 32 เลอาห์​ตั้ง​ท้อง​และ​คลอด​ลูก​ชาย​แล้ว​ก็​ตั้ง​ชื่อ​ว่า​รูเบน*+ เพราะ​เธอ​บอก​ว่า “นี่​เป็นเพราะ​พระ​ยะโฮวา​เห็น​ความ​ทุกข์​ของ​ฉัน+ ตอน​นี้ สามี​จะ​ได้​รัก​ฉัน​บ้าง” 33 แล้ว​เธอ​ก็​ตั้ง​ท้อง​และ​คลอด​ลูก​ชาย​อีก​คน​หนึ่ง เธอ​จึง​พูด​ว่า “นี่​เป็น​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​รู้​ว่า​สามี​ไม่​รัก​ฉัน พระองค์​จึง​ฟัง​ฉัน​และ​ให้​ฉัน​มี​ลูก​คน​นี้​ด้วย” เธอ​จึง​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​คน​นี้​ว่า​สิเมโอน*+ 34 แล้ว​เลอาห์​ก็​ตั้ง​ท้อง​และ​คลอด​ลูก​ชาย​อีก​คน​หนึ่ง เธอ​จึง​พูด​ว่า “ที​นี้​สามี​ก็​จะ​ใกล้​ชิด​ฉัน​มาก​ขึ้น​เพราะ​ฉัน​มี​ลูก​ชาย​ให้​เขา​สาม​คน​แล้ว” ลูก​ชาย​คน​นี้​จึง​มี​ชื่อ​ว่า​เลวี*+ 35 แล้ว​เธอ​ก็​ตั้ง​ท้อง​และ​คลอด​ลูก​ชาย​อีก​คน​หนึ่ง เธอ​จึง​พูด​ว่า “ครั้ง​นี้​ฉัน​จะ​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา” เธอ​จึง​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​คน​นี้​ว่า​ยูดาห์*+ หลัง​จาก​นั้น เธอ​ก็​ไม่​มี​ลูก​อยู่​ช่วง​หนึ่ง

30 เมื่อ​ราเชล​เห็น​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​มี​ลูก​กับ​ยาโคบ​เลย​สัก​คน ราเชล​ก็​อิจฉา​พี่​สาว จึง​พูด​กับ​ยาโคบ​ว่า “ให้​ฉัน​มี​ลูก​เถอะ ไม่​อย่าง​นั้น​ให้​ฉัน​ตาย​ซะ​ดี​กว่า” 2 ยาโคบ​โกรธ​ราเชล​มาก​จึง​พูด​ว่า “ฉัน​เป็น​พระเจ้า​หรือ​ไง​ถึง​ทำ​ให้​เธอ​ไม่​มี​ลูก?” 3 ราเชล​จึง​บอก​ว่า “คุณ​ไป​นอน​กับ​บิลฮาห์+ทาส​หญิง​ของ​ฉัน​เถอะ เธอ​จะ​ได้​มี​ลูก​ให้​คุณ​แทน​ฉัน* และ​ลูก​ของ​บิลฮาห์​ก็​จะ​เป็น​ลูก​ของ​ฉัน” 4 ราเชล​ยก​บิลฮาห์​สาว​ใช้​ของ​เธอ​ให้​เป็น​ภรรยา​ยาโคบ ยาโคบ​จึง​นอน​กับ​บิลฮาห์+ 5 แล้ว​บิลฮาห์​ก็​ตั้ง​ท้อง​และ​คลอด​ลูก​ชาย​ให้​ยาโคบ​คน​หนึ่ง 6 ราเชล​จึง​พูด​ว่า “พระเจ้า​เป็น​ผู้​พิพากษา​ให้​ฉัน​และ​ฟัง​เสียง​ของ​ฉัน​ด้วย พระองค์​จึง​ให้​ฉัน​มี​ลูก​ชาย​คน​หนึ่ง” เธอ​จึง​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​คน​นี้​ว่า​ดาน*+ 7 บิลฮาห์​สาว​ใช้​ของ​ราเชล​ตั้ง​ท้อง​อีก​และ​คลอด​ลูก​ชาย​คน​ที่​สอง​ให้​ยาโคบ 8 ราเชล​จึง​พูด​ว่า “ฉัน​ต่อ​สู้​กับ​พี่​สาว​อย่าง​หนัก​มา​ตลอด ตอน​นี้​ฉัน​ชนะ​แล้ว” เธอ​จึง​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​คน​นี้​ว่า​นัฟทาลี*+

9 เมื่อ​เลอาห์​เห็น​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​มี​ลูก​แล้ว จึง​ยก​ศิลปาห์​สาว​ใช้​ให้​เป็น​ภรรยา​ยาโคบ+ 10 ต่อ​มา ศิลปาห์​สาว​ใช้​ของ​เลอาห์​ก็​คลอด​ลูก​ชาย​ให้​ยาโคบ​คน​หนึ่ง 11 เลอาห์​พูด​ว่า “มี​ความ​สุข​จริง ๆ” เธอ​จึง​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​คน​นี้​ว่า​กาด*+ 12 แล้ว​ศิลปาห์​สาว​ใช้​ของ​เลอาห์​ก็​คลอด​ลูก​ชาย​คน​ที่​สอง​ให้​ยาโคบ 13 เลอาห์​พูด​ว่า “มี​ความ​สุข​เหลือ​เกิน เพราะ​พวก​ผู้​หญิง​จะ​พูด​ถึง​ฉัน​ว่า​เป็น​คน​มี​ความ​สุข”+ เธอ​จึง​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​คน​นี้​ว่า​อาเชอร์*+

14 ใน​ฤดู​เกี่ยว​ข้าว​สาลี รูเบน+เดิน​ไป​พบ​ผล​แมนเดรก*ใน​ทุ่ง​จึง​เอา​มา​ให้​เลอาห์​แม่​ของ​ตัว​เอง ราเชล​จึง​พูด​กับ​เลอาห์​ว่า “ขอ​ผล​แมนเดรก​จากลูก​ชาย​พี่​ให้​ฉัน​บ้าง​สิ” 15 เลอาห์​ตอบ​ว่า “เธอ​เอา​สามี​พี่​ไป​ยัง​ไม่​พอ​อีก​หรือ?+ ยัง​จะ​มา​เอา​ผล​แมนเดรก​ของ​ลูก​ชาย​พี่​ไป​อีก” ราเชล​พูด​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น​คืน​นี้​ฉัน​จะ​ให้​เขา​ไป​นอน​กับ​พี่​แลก​กับ​ผล​แมนเดรก​ก็​แล้ว​กัน”

16 พอ​ยาโคบ​กลับ​มา​จาก​ทุ่ง​ใน​ตอน​เย็น​วัน​นั้น เลอาห์​ก็​ไป​บอก​เขา​ว่า “คืน​นี้​คุณ​ต้อง​มา​นอน​กับ​ฉัน​เพราะ​ฉัน​ใช้​ผล​แมนเดรก​ของ​ลูก​ชาย​ฉัน​ซื้อ​สิทธิ์​ที่​จะ​อยู่​กับ​คุณ​คืน​นี้​แล้ว” คืน​นั้น​ยาโคบ​ก็​นอน​กับ​เธอ 17 พระเจ้า​ฟัง​และ​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​ของ​เลอาห์ เธอ​จึง​ตั้ง​ท้อง​และ​คลอด​ลูก​ชาย​ให้​ยาโคบ​เป็น​คน​ที่​ห้า 18 เลอาห์​จึง​พูด​ว่า “พระเจ้า​ให้​รางวัล​ที่​ฉัน​ยก​สาว​ใช้​ให้​สามี” เธอ​จึง​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​คน​นี้​ว่า​อิสสาคาร์*+ 19 แล้ว​เลอาห์​ก็​ตั้ง​ท้อง​อีก​และ​คลอด​ลูก​ชาย​ให้​ยาโคบ​เป็น​คน​ที่​หก+ 20 เลอาห์​จึง​พูด​ว่า “พระเจ้า​ให้​สิ่ง​ดี ๆ กับ​ฉัน ที​นี้​สามี​ก็​จะ​ยอม​อยู่​กับ​ฉัน+เพราะ​ฉัน​มี​ลูก​ชาย​ให้​เขา​หก​คน​แล้ว”+ เธอ​จึง​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​คน​นี้​ว่า​เศบูลุน*+ 21 หลัง​จาก​นั้น เธอ​ก็​มี​ลูก​สาว​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ดีนาห์+

22 แล้ว​พระเจ้า​ก็​นึก​ถึง​ราเชล พระองค์​ฟัง​และ​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​ของ​เธอ เธอ​จึง​มี​ลูก​ได้+ 23 ราเชล​ตั้ง​ท้อง​และ​คลอด​ลูก​ชาย​คน​หนึ่ง เธอ​พูด​ว่า “พระเจ้า​ช่วย​ให้​ฉัน​ไม่​ต้อง​อับอาย​อีก​แล้ว”+ 24 ราเชล​จึง​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​คน​นี้​ว่า​โยเซฟ*+ เธอ​บอก​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ให้​ฉัน​มี​ลูก​ชาย​เพิ่ม​อีก​คน​หนึ่ง”

25 พอ​ราเชล​คลอด​โยเซฟ​แล้ว ยาโคบ​ก็​บอก​ลาบัน​ว่า “ให้​ผม​กลับ​ไป​บ้าน​เกิด​เมือง​นอน​ของ​ผม​เถอะ+ 26 ให้​ผม​พา​ภรรยา​กับ​ลูก​ไป​ด้วย เพราะ​ผม​ทำ​งาน​ให้​ลุง​เพื่อ​เป็น​การ​แลก​เปลี่ยน​กับ​พวก​เธอ​ไป​แล้ว และ​ลุง​ก็​รู้​ดี​ว่า​ผม​ได้​ทำ​งาน​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​มา​โดย​ตลอด”+ 27 ลาบัน​ตอบ​ว่า “ถ้า​เห็น​แก่​ลุง ก็​ขอ​ให้​อยู่​ต่อ​ไป​เถอะ เพราะ​ลุง​เห็น​หลักฐาน​หลาย​อย่าง​เลย​ว่า พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ลุง​ให้​เจริญ​รุ่งเรือง​ขึ้น​เพราะ​หลาน” 28 ลาบัน​ยัง​บอก​อีก​ว่า “บอก​มา​เลย​ว่า​จะ​เอา​ค่า​จ้าง​เท่าไหร่ ลุง​จะ​ให้”+ 29 ยาโคบ​ตอบ​ว่า “ลุง​ก็​รู้​ว่า​ผม​ทำ​งาน​ให้​ลุง​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​และ​ดู​แล​ฝูง​สัตว์​ของ​ลุง​เป็น​อย่าง​ดี+ 30 ก่อน​ผม​มา ลุง​ก็​ไม่​ค่อย​มี​อะไร​มาก​นัก แต่​ฝูง​สัตว์​ของ​ลุง​เพิ่ม​ขึ้น​จน​มี​มาก​มาย​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ลุง​ให้​เจริญ​รุ่งเรือง​ตั้ง​แต่​ผม​มา​ถึง แล้ว​เมื่อไหร่​ผม​จะ​ได้​ทำ​อะไร​เพื่อ​ครอบครัว​ของ​ผม​บ้าง?”+

31 ลาบัน​พูด​ว่า “แล้ว​หลาน​อยากจะ​ได้​อะไร​ล่ะ?” ยาโคบ​ตอบ​ว่า “ลุง​ไม่​ต้อง​ให้​อะไร​ผม​หรอก ผม​จะ​เลี้ยง​และ​ดู​แล​ฝูง​สัตว์​ของ​ลุง​ต่อ​ไป​ถ้า​ลุง​ยอม​ตก​ลง​กับ​ผม​เรื่อง​หนึ่ง+ 32 วัน​นี้​ผม​จะ​ไป​สำรวจ​ดู​ฝูง​สัตว์​ทั้ง​หมด​ของ​ลุง แล้ว​ให้​ลุง​แยก​แกะ​ทุก​ตัว​ที่​มี​ลาย​แต้ม​หรือ​ลาย​ด่าง แยก​ลูก​แกะ​ตัว​ผู้​สี​น้ำตาล​เข้ม และ​แยก​แพะ​ตัว​เมีย​ที่​มี​ลาย​ด่าง​หรือ​ลาย​แต้ม​ออก​ไป​ก่อน แล้ว​ตั้ง​แต่​นี้​ไป แกะ​หรือ​แพะ​ที่​เกิด​มา​เป็น​แบบ​นี้​จะ​เป็น​ค่า​จ้าง​ของ​ผม+ 33 แล้ว​เมื่อ​ลุง​มา​ตรวจ​ดู​สัตว์​ที่​เป็น​ค่า​จ้าง​ของ​ผม​ใน​วัน​ข้าง​หน้า ลุง​ก็​จะ​เห็น​ว่า​ผม​ซื่อ​สัตย์​หรือ​ไม่ เพราะ​ถ้า​มี​แพะ​ตัว​เมีย​ที่​ไม่​มี​ลาย​แต้ม​หรือ​ลาย​ด่าง หรือ​ถ้า​มี​ลูก​แกะ​ตัว​ผู้​ที่​ไม่​ใช่​สี​น้ำตาล​เข้ม​อยู่​กับ​ผม ก็​แสดง​ว่า​ผม​ขโมย​มา”

34 ลาบัน​ตอบ​ว่า “ตก​ลง​ตาม​นั้น เอา​ตาม​ที่​หลาน​พูด​นั่น​แหละ”+ 35 วัน​นั้น ลาบัน​ก็​แยก​แพะ​ตัว​ผู้​ที่​มี​ลาย​ทาง​กับ​ที่​มี​ลาย​ด่าง แพะ​ตัว​เมีย​ที่​มี​ลาย​แต้ม​กับ​ที่​มี​ลาย​ด่าง คือ​แยก​สัตว์​ทุก​ตัว​ที่​มี​ลาย​สี​ขาว และ​ลูก​แกะ​ตัว​ผู้​สี​น้ำตาล​เข้ม​ออก​มา แล้ว​ให้​ลูก​ชาย​ของ​ตัว​เอง​เอา​ไป​เลี้ยง 36 แล้ว​เขา​ก็​ต้อน​ฝูง​สัตว์​ไป​ให้​อยู่​ห่าง​จาก​ยาโคบ​เท่า​กับ​ระยะ​เดิน​ทาง​สาม​วัน ส่วน​ยาโคบ​ก็​เลี้ยง​ฝูง​สัตว์​ของ​ลาบัน​ที่​เหลือ​อยู่

37 ยาโคบ​เอา​กิ่ง​ไม้​สด​จาก​ต้น​กำยาน ต้น​อัลมอนด์ และ​ต้น​เพลน มา​ลอก​เปลือก​ออก​เป็น​จุด ๆ เพื่อ​ให้​เห็น​เนื้อ​ไม้​สี​ขาว 38 แล้ว​เขา​ก็​เอา​กิ่ง​ไม้​ที่​ลอก​เปลือก​ออก​นั้น​ไป​วาง​ไว้​ใน​ราง​น้ำ​ที่​ฝูง​สัตว์​จะ​มา​กิน เพื่อ​สัตว์​ที่​มา​กิน​น้ำ​และ​ที่​มา​ผสม​พันธุ์​กัน​จะ​ได้​มอง​เห็น​กิ่ง​ไม้​นั้น

39 ดัง​นั้น เมื่อ​ฝูง​สัตว์​ผสม​พันธุ์​กัน​และ​เห็น​กิ่ง​ไม้​นั้น ลูก​ของ​พวก​มัน​ที่​ออก​มา​ก็​จะ​มี​ลาย​ทาง ลาย​แต้ม และ​ลาย​ด่าง 40 ยาโคบ​จึง​แยก​ลูก​สัตว์​ที่​มี​ลาย​ทาง​กับ​ที่​เป็น​สี​น้ำตาล​เข้ม​ทั้ง​หมด​ออก​มา แล้ว​ให้​ฝูง​สัตว์​ของ​ลาบัน​ที่​เหลือ​อยู่​หัน​หน้า​ไป​ทาง​พวก​ลูก​สัตว์​นั้น แล้ว​ยาโคบ​ก็​แยก​ฝูง​สัตว์​ของ​ตัว​เอง​ออก​มา​ไว้​ต่าง​หาก​จาก​ฝูง​สัตว์​ของ​ลาบัน​เพื่อ​ไม่​ให้​อยู่​ปน​กัน 41 เมื่อ​สัตว์​ตัว​ที่​แข็งแรง​อยาก​ผสม​พันธุ์ ยาโคบ​ก็​จะ​วาง​กิ่ง​ไม้​นั้น​ไว้​ใน​ราง​น้ำ​ข้าง​หน้า​พวก​มัน​เพื่อ​ให้​พวก​มัน​ผสม​พันธุ์​ใกล้ ๆ กิ่ง​ไม้​นั้น 42 แต่​เมื่อ​เขา​เห็น​ว่า​สัตว์​ตัว​ไหน​อ่อนแอ เขา​ก็​จะ​ไม่​เอา​กิ่ง​ไม้​ไป​วาง​ไว้​ใน​ราง​น้ำ​ตรง​นั้น ดัง​นั้น ลาบัน​ก็​จะ​ได้​แต่​สัตว์​ที่​อ่อนแอ ส่วน​ยาโคบ​ก็​ได้​แต่​สัตว์​ที่​แข็งแรง+

43 ยาโคบ​จึง​มั่งคั่ง​ขึ้น​เรื่อย ๆ เขา​มี​แกะ แพะ คน​รับใช้​ชาย​หญิง อูฐ และ​ลา​มาก​มาย+

31 ต่อ​มา ยาโคบ​ได้​ยิน​ลูก​ชาย​ลาบัน​พูด​กัน​ว่า “ยาโคบ​เอา​ของ​ของ​พ่อ​เรา​ไป​หมด ทรัพย์​สมบัติ​มาก​มาย​ที่​เขา​สะสม​ไว้​ก็​เอา​มา​จากพ่อ​เรา​ทั้ง​นั้น”+ 2 เมื่อ​ยาโคบ​มอง​หน้า​ลาบัน​ก็​รู้สึก​ว่า​เขา​มี​ท่าที​เปลี่ยน​ไป​ไม่​เหมือน​ก่อน+ 3 พระ​ยะโฮวา​พูด​กับ​ยาโคบ​ว่า “กลับ​ไป​หา​ญาติ​พี่​น้อง​ที่​แผ่นดิน​ของ​ปู่​ย่า​ตา​ยาย​เจ้า​เถอะ+ แล้ว​เรา​ก็​จะ​อยู่​กับ​เจ้า​ต่อ ๆ ไป” 4 ยาโคบ​จึง​ใช้​คน​ไป​เรียก​ราเชล​กับ​เลอาห์​ให้​ออก​มา​พบ​ใน​ทุ่ง​ที่​เขา​เลี้ยง​ฝูง​สัตว์​อยู่ 5 แล้ว​พูด​กับ​พวก​เธอ​ว่า

“ฉัน​รู้สึก​ว่า​พ่อ​ของ​พวก​เธอ​มี​ท่าที​เปลี่ยน​ไป​ไม่​เหมือน​ก่อน+ แต่​พระเจ้า​ของ​พ่อ​ฉัน​อยู่​กับ​ฉัน​เสมอ+ 6 เธอ​สอง​คน​ก็​รู้​ดี​ว่า​ฉัน​ทำ​งาน​ให้​พ่อ​ของ​พวก​เธอ​อย่าง​เต็ม​ที่+ 7 แต่​พ่อ​ของ​เธอ​พยายาม​จะ​โกง​ฉัน เขา​เปลี่ยน​แปลง​ค่า​จ้าง​ตั้ง​หลาย​ครั้ง​แล้ว* แต่​พระเจ้า​ไม่​ยอม​ให้​เขา​ทำ​ให้​ฉัน​เสียหาย​หรอก 8 เพราะ​ตอน​ที่​เขา​บอก​ว่า ‘ให้​สัตว์​ที่​มี​ลาย​แต้ม​เป็น​ค่า​จ้าง​ของ​หลาน’ สัตว์​ทั้ง​ฝูง​ก็​ออก​ลูก​ที่​มี​ลาย​แต้ม แต่​ถ้า​เขา​บอก​ว่า ‘ให้​สัตว์​ที่​มี​ลาย​ทาง​เป็น​ค่า​จ้าง​ของ​หลาน’ สัตว์​ทั้ง​ฝูง​ก็​ออก​ลูก​ที่​มี​ลาย​ทาง+ 9 พระเจ้า​ทำ​อย่าง​นั้น​แหละ เพื่อ​ให้​ฝูง​สัตว์​ของ​พ่อ​พวก​เธอ​ค่อย ๆ ตก​เป็น​ของ​ฉัน 10 ครั้ง​หนึ่ง ใน​ฤดู​ที่​แพะ​จะ​ผสม​พันธุ์​กัน ฉัน​ฝัน​เห็น​แพะ​ตัว​ผู้​ที่​มี​ลาย​ทาง ลาย​แต้ม และ​ลาย​จุด มา​ผสม​พันธุ์​กับ​แพะ​ตัว​เมีย+ 11 แล้ว​ทูตสวรรค์​ของ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​ก็​พูด​กับ​ฉัน​ใน​ความ​ฝัน​ว่า ‘ยาโคบ’ ฉัน​ตอบ​ว่า ‘ครับ’ 12 ทูตสวรรค์​พูด*ว่า ‘ขอ​เจ้า​ลอง​มอง​ดู​สิ แพะ​ตัว​ผู้​ทั้ง​หมด​ที่​ผสม​พันธุ์​กับ​แพะ​ตัว​เมีย​นั้น​เป็น​แพะ​ที่​มี​ลาย​ทาง ลาย​แต้ม และ​ลาย​จุด นี่​เป็น​เพราะ​เรา​เห็น​ทุก​อย่าง​ที่​ลาบัน​ทำ​กับ​เจ้า+ 13 เรา​คือ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​ซึ่ง​มา​หา​เจ้า​ที่​เบธเอล+ ที่​ที่​เจ้า​ได้​เอา​น้ำมัน​เท​บน​เสา​ต้น​หนึ่ง​และ​ปฏิญาณ​ต่อ​เรา+ ตอน​นี้ ให้​เจ้า​ออก​จาก​แผ่นดิน​นี้​กลับ​ไป​ที่​แผ่นดิน​เกิด​ของ​เจ้า​ได้​แล้ว’”+

14 ราเชล​กับ​เลอาห์​ก็​พูด​ว่า “พวก​เรา​คง​ไม่​ได้​รับ​มรดก​อะไร​จาก​พ่อ​แล้ว 15 เพราะ​พ่อ​ถือ​ว่า​เรา​สอง​คน​เป็น​คน​ต่าง​ชาติ​ตั้ง​แต่​ตอน​ที่​เขา​ขาย​พวก​เรา​ไป​แล้ว และ​เขา​ก็​ใช้​เงิน​ที่​ได้​จาก​การ​ขาย​เรา​ไป​หมด​แล้ว​ด้วย+ 16 ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ที่​พระเจ้า​เอา​มา​จาก​พ่อ​ก็​เป็น​ของ​เรา​กับ​ลูก ๆ+ ถ้า​อย่าง​นั้น พระเจ้า​บอก​คุณ​ให้​ทำ​อะไร​ก็​ทำ​ตาม​เถอะ”+

17 ยาโคบ​จึง​ให้​ลูก​กับ​ภรรยา​ขึ้น​ขี่​อูฐ+ 18 แล้ว​เขา​ก็​ต้อน​ฝูง​สัตว์​ทั้ง​หมด คือ​ฝูง​สัตว์​ที่​เขา​ได้​มา​ตอน​อยู่​ที่​ปัดดานอารัม และ​ขน​ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ที่​เขา​สะสม​ไว้+ เพื่อ​ไป​หา​อิสอัค​พ่อ​ของ​เขา​ที่​แผ่นดิน​คานาอัน+

19 ตอน​ที่​ลาบัน​ออก​ไป​ตัด​ขน​แกะ ราเชล​แอบ​ไป​ขโมย​รูป​ปั้น​เทราฟิม*+ของ​พ่อ​มา+ 20 แล้ว​ยาโคบ​ก็​หนี​ไป​โดย​ไม่​ให้​ลาบัน​ชาว​อารัม​รู้ 21 เขา​หนี​ข้าม​แม่น้ำ​นั้น*+ไป​พร้อม​กับ​ครอบครัว​และ​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ของ​เขา แล้ว​มุ่ง​หน้า​ไป​เขต​เทือก​เขา​กิเลอาด+ 22 พอ​ถึง​วัน​ที่​สาม มี​คน​มา​บอก​ลาบัน​ว่า​ยาโคบ​หนี​ไป​แล้ว 23 เขา​พา​คน​ของ​เขา*ไล่​ตาม​ถึง 7 วัน จึง​ตาม​ยาโคบ​ทัน​ใน​เขต​เทือก​เขา​กิเลอาด 24 ตอน​กลางคืน พระเจ้า​มา​เข้า​ฝัน+ลาบัน​ชาว​อารัม+และ​บอก​เขา​ว่า “ให้​พูด​กับ​ยาโคบ​ดี ๆ อย่า​ไป​พูด​อะไร​ให้​เขา​ลำบาก​ใจ”+

25 ยาโคบ​ตั้ง​เต็นท์​ใน​เขต​เทือก​เขา​กิเลอาด และ​เมื่อ​ลาบัน​กับ​คน​ของ​เขา​มา​ตั้ง​เต็นท์​อยู่​ใกล้ ๆ แล้ว ลาบัน​ก็​มา​หา​ยาโคบ 26 ลาบัน​พูด​กับ​ยาโคบ​ว่า “ทำไม​ถึง​ทำ​อย่าง​นี้? ทำไม​ถึง​แอบ​พา​ลูก​สาว​ลุง​มา​เหมือน​กับ​ว่า​พวก​เขา​เป็น​เชลย​ที่​ถูก​กวาด​ต้อน​มา? 27 ทำไม​ต้อง​วาง​แผน​แอบ​หนี​มา? ทำไม​ไม่​บอก​ลุง​ก่อน? ถ้า​หลาน​บอก​ลุง ลุง​ก็​จะ​ได้​ให้​คน​ร้อง​เพลง ตี​กลอง​แทมบูริน*และ​ดีด​พิณ​ส่ง​หลาน​ด้วย​ความ​ยินดี 28 แถม​ลุง​ก็​ยัง​ไม่​ได้​จูบ​ลา​หลาน ๆ กับ​ลูก​สาว​ของ​ลุง​เลย ทำไม​ถึง​ทำ​เรื่อง​โง่ ๆ อย่าง​นี้? 29 ถ้า​จะ​ให้​ลุง​เล่น​งาน​หลาน​ตอน​นี้​เลย​ก็​ได้ แต่​พระเจ้า​ของ​พ่อ​หลาน​พูด​กับ​ลุง​เมื่อ​คืน​นี้​ว่า ‘ให้​พูด​กับ​ยาโคบ​ดี ๆ อย่า​ไป​พูด​อะไร​ให้​เขา​ลำบาก​ใจ’+ 30 ที่​หลาน​หนี​มา​ก็​เพราะ​อยาก​จะ​กลับ​ไป​บ้าน​พ่อ​ของ​หลาน​มาก แต่​ทำไม​ถึง​ต้อง​ขโมย​รูป​เคารพ​ของ​ลุง​มา​ด้วย?”+

31 ยาโคบ​ตอบ​ลาบัน​ว่า “เพราะ​ผม​กลัว​ว่า​ลุง​จะ​บังคับ​ขู่เข็ญ​เอา​ลูก​สาว​ของ​ลุง​ไป 32 ส่วน​รูป​เคารพ​นั้น ถ้า​ลุง​พบ​ว่า​อยู่​กับ​ใคร ก็​ฆ่า​เขา​ได้​เลย เชิญ​ค้น​ข้าวของ​ของ​ผม​ต่อ​หน้า​คน​ของ​เรา ถ้า​พบ​อะไร​ที่​เป็น​ของ​ลุง ก็​เอา​ไป​เถอะ” ยาโคบ​พูด​อย่าง​นี้​เพราะ​ไม่​รู้​ว่า​ราเชล​ขโมย​รูป​เคารพ​มา 33 ลาบัน​ก็​เข้า​ไป​ค้น​ใน​เต็นท์​ของ​ยาโคบ เต็นท์​ของ​เลอาห์ และ​เต็นท์​ของ​ทาส​หญิง​สอง​คน+ แต่​ก็​หา​ไม่​เจอ จึง​ออก​จาก​เต็นท์​ของ​เลอาห์​แล้ว​เข้า​ไป​ค้น​ใน​เต็นท์​ของ​ราเชล 34 แต่​ราเชล​เอา​รูป​ปั้น​เทราฟิม​ใส่​ไว้​ใน​ตะกร้า​สำหรับ​ติด​กับ​อาน​อูฐ​แล้ว​นั่ง​ทับ​ไว้ ลาบัน​ค้น​จน​ทั่ว​เต็นท์​ก็​ไม่​พบ 35 ราเชล​พูด​กับ​พ่อ​ว่า “คุณ​พ่อ​คะ อย่า​โกรธ​ลูก​เลย​ที่​ลุก​ขึ้น​ต้อนรับ​ไม่​ได้​เพราะ​ลูก​มี​ประจำ​เดือน​อยู่”+ ลาบัน​ก็​ค้น​จน​ทั่ว​เต็นท์​แต่​ไม่​พบ​รูป​ปั้น​เทราฟิม+

36 ยาโคบ​ก็​โกรธ​และ​ต่อ​ว่า​ลาบัน​ว่า “ผม​ทำ​ผิด​อะไร? ผม​ทำ​บาป​อะไร​ไว้ ลุง​ถึง​ได้​มา​ตาม​ล่า​ผม​อย่าง​นี้? 37 ตอน​นี้​ลุง​ก็​ค้น​ข้าวของ​ของ​ผม​จน​ทั่ว แล้ว​พบ​อะไร​บ้าง​ไหม​ที่​มา​จาก​บ้าน​ของ​ลุง? ถ้า​มี ก็​เอา​มา​วาง​ไว้​ตรงนี้​ต่อ​หน้า​คน​ของ​ผม​กับ​คน​ของ​ลุง แล้ว​ให้​พวก​เขา​ตัดสิน​เรื่อง​ระหว่าง​เรา​สอง​คน 38 ตลอด​เวลา 20 ปี​ที่​ผม​อยู่​กับ​ลุง​มา แกะ​หรือ​แพะ​ของ​ลุง​ไม่​เคย​แท้ง+ และ​ผม​ก็​ไม่​เคย​กิน​แกะ​ตัว​ผู้​จาก​ฝูง​ของ​ลุง​เลย 39 ถ้า​มี​สัตว์​ตัว​ไหน​ถูก​สัตว์​ป่า​กัด​ตาย ผม​ก็​ไม่​ได้​เอา​ซาก​ของ​มัน​กลับ​มา​ให้​ลุง+ แต่​ผม​จะ​หา​ตัว​ใหม่​มา​ชด​ใช้​ให้ หรือ​ถ้า​มี​สัตว์​ถูก​ขโมย​ไป​ไม่​ว่า​กลางวัน​หรือ​กลางคืน ลุง​ก็​เรียก​ร้อง​ให้​ผม​ชด​ใช้​ให้​ลุง​อีก 40 ผม​ต้อง​ทน​ร้อน​ใน​ตอน​กลางวัน​และ​ทน​หนาว​ใน​ตอน​กลางคืน​จน​นอน​ไม่​หลับ+ 41 ผม​อยู่​กับ​ลุง​อย่าง​นี้​มา 20 ปี ผม​ทำ​งาน​ให้​ลุง​ตั้ง 14 ปี​เพื่อ​แลก​กับ​ลูก​สาว​สอง​คน​ของ​ลุง และ​ทำ​อีก 6 ปี​เพื่อ​จะ​ได้​ฝูง​สัตว์​ของ​ลุง และ​ลุง​ก็​เปลี่ยน​แปลง​ค่า​จ้าง​ของ​ผม​หลาย​ต่อ​หลาย​ครั้ง*+ 42 ถ้า​พระเจ้า​ของ​พ่อ​ผม+ซึ่ง​เป็น​พระเจ้า​ของ​อับราฮัม​และ​เป็น​พระเจ้า​ที่​อิสอัค​เกรง​กลัว+ไม่​อยู่​ฝ่าย​ผม​ละ​ก็ ลุง​ก็​คง​ให้​ผม​ออก​มา​มือ​เปล่า แต่​พระเจ้า​เห็น​ผม​ต้อง​ทน​ทุกข์​และ​ทำ​งาน​หนัก พระองค์​ถึง​ได้​เตือน​ลุง​เมื่อ​คืน​นี้”+

43 ลาบัน​ตอบ​ยาโคบ​ว่า “ผู้​หญิง​สอง​คน​นี้​เป็น​ลูก​สาว​ของ​ลุง เด็ก ๆ พวก​นี้​ก็​เป็น​หลาน และ​ฝูง​สัตว์​ก็​เป็น​ของ​ลุง ทั้ง​หมด​ที่​เห็น​อยู่​นี้​เป็น​ของ​ลุง​และ​เป็น​ของ​ลูก​สาว​ลุง วัน​นี้​ลุง​จะ​ไป​ทำ​อะไร​พวก​เธอ​กับ​ลูก ๆ ได้​ล่ะ 44 เอา​อย่าง​นี้ ให้​เรา​มา​ทำ​สัญญา​กัน สัญญา​นี้​จะ​เป็น​พยาน​หลักฐาน​ระหว่าง​เรา​สอง​คน” 45 ยาโคบ​จึง​เอา​ก้อน​หิน​มา​ตั้ง​เป็น​เสา​เพื่อ​ระลึก​ถึง​เหตุ​การณ์​นี้+ 46 แล้ว​ยาโคบ​ก็​บอก​คน​ของ​เขา​ว่า “ไป​ขน​ก้อน​หิน​มา” พวก​เขา​ก็​เอา​ก้อน​หิน​มา​กอง​รวม​กัน แล้ว​พวก​เขา​ก็​กิน​อาหาร​บน​กอง​หิน​นั้น 47 ลาบัน​ตั้ง​ชื่อ​กอง​หิน​นั้น​ว่า​เยการ์สหดูทา* ส่วน​ยาโคบ​ตั้ง​ชื่อ​ว่า​กาเลเอด*

48 แล้ว​ลาบัน​ก็​พูด​ว่า “วัน​นี้ กอง​หิน​นี้​เป็น​พยาน​หลักฐาน​ระหว่าง​เรา​สอง​คน” กอง​หิน​นี้​จึง​มี​ชื่อ​ว่า​กาเลเอด+ 49 และ​ยัง​ถูก​เรียก​ว่า​หอสังเกตการณ์*ด้วย เพราะ​ลาบัน​บอก​ว่า “ให้​พระ​ยะโฮวา​เฝ้า​ดู​เรา​สอง​คน​เมื่อ​แยก​จาก​กัน 50 ถ้า​หลาน​ข่มเหง​ลูก​สาว​ของ​ลุง​และ​ไป​มี​ภรรยา​อื่น​อีก​นอก​จาก​ลูก​สาว​ของ​ลุง ถึง​แม้​ไม่​มี​ใคร​เห็น แต่​ขอ​ให้​จำ​ไว้​ว่า พระเจ้า​เห็น​และ​พระองค์​จะ​เป็น​พยาน​ระหว่าง​เรา​สอง​คน” 51 ลาบัน​พูด​กับ​ยาโคบ​อีก​ว่า “หิน​กอง​นี้​กับ​เสา​นี้ ลุง​ตั้ง​ไว้​เป็น​เครื่องหมาย​ระหว่าง​เรา​สอง​คน 52 หิน​กอง​นี้​เป็น​พยาน​หลักฐาน​และ​เสา​นี้​เป็น​สิ่ง​ที่​ยืน​ยัน+ว่า ลุง​จะ​ไม่​ข้าม​หิน​กอง​นี้​ไป​ทำ​ร้ายหลาน และ​หลาน​เอง​ก็​จะ​ไม่​ข้าม​หิน​กอง​นี้​กับ​เสา​นี้​มา​ทำ​ร้าย​ลุง​เหมือน​กัน 53 ให้​พระเจ้า​ของ​อับราฮัม+ พระเจ้า​ของ​นาโฮร์ ซึ่ง​ก็​คือ​พระเจ้า​ที่​พ่อ​ของ​พวก​เขา​นมัสการ เป็น​ผู้​ตัดสิน​เรื่อง​ราว​ระหว่าง​เรา” และ​ยาโคบ​ก็​สาบาน​ต่อ​พระเจ้า​องค์​เดียว​กัน​นี้ พระเจ้า​ที่​อิสอัค​พ่อ​ของ​เขา​เกรง​กลัว+

54 แล้ว​ยาโคบ​ก็​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ที่​ภูเขา​นั้น​และ​เชิญ​ญาติ​พี่​น้อง​ทั้ง​หมด​ให้​กิน​อาหาร​ด้วย​กัน พวก​เขา​จึง​กิน​อาหาร​และ​พัก​ค้าง​คืน​อยู่​ที่​ภูเขา​นั้น 55 ลาบัน​ตื่น​แต่​เช้า​ตรู่ เขา​จูบ​ลา​หลาน ๆ+กับ​ลูก​สาว​และ​อวยพร​พวก​เขา+ แล้ว​ลาบัน​ก็​ออก​เดิน​ทาง​กลับ​บ้าน+

32 ส่วน​ยาโคบ​ก็​ออก​เดิน​ทาง แล้ว​พวก​ทูตสวรรค์​ของ​พระเจ้า​ก็​มา​พบ​เขา 2 พอ​ยาโคบ​เห็น​พวก​ทูตสวรรค์​ก็​พูด​ว่า “ที่​นี่​เป็น​ที่​ตั้ง​กองทัพ​ของ​พระเจ้า” เขา​จึง​ตั้ง​ชื่อ​ที่​นั่น​ว่า​มาหะนาอิม*

3 ยาโคบ​ใช้​คน​ไป​ส่ง​ข่าว​ให้​เอซาว​พี่​ชาย​ของ​เขา​ที่​ดินแดน​ชาว​เอโดม+ใน​แผ่นดิน​เสอีร์+ก่อน 4 เขา​สั่ง​คน​พวก​นั้น​ว่า “พวก​คุณ​ต้อง​ไป​พูด​กับ​เอซาว​พี่​ชาย​ของ​ผม​ว่า ‘ยาโคบ​ผู้​รับใช้​ของ​คุณ​บอก​ว่า “นาน​แล้ว​ที่​ผม​ไป​อยู่*กับ​ลาบัน+ 5 ตอน​นี้ ผม​มี​ทั้ง​วัว ลา แกะ และ​คน​รับใช้​ชาย​หญิง+ ผม​ส่ง​คน​มา​แจ้ง​พี่​ว่า​ผม​กำลัง​จะ​กลับ​มา​แล้ว เผื่อ​พี่​จะ​ได้​เมตตา​ผม​บ้าง”’”

6 คน​ส่ง​ข่าว​กลับ​มา​บอก​ยาโคบ​ว่า “พวก​เรา​ไป​พบ​เอซาว​พี่​ชาย​ของ​คุณ​แล้ว เขา​กำลัง​เดิน​ทาง​มา​หา​คุณ​และ​พา​คน​ของ​เขา​มา​ด้วย 400 คน”+ 7 ยาโคบ​ก็​กลัว​และ​กังวล​มาก+ เขา​จึง​แบ่ง​คน​ของ​เขา​กับ​ฝูง​แพะ แกะ วัว และ​อูฐ​ออก​เป็น 2 กลุ่ม 8 ยาโคบ​พูด​ว่า “ถ้า​เอซาว​มา​โจมตี​กลุ่ม​หนึ่ง อีก​กลุ่ม​หนึ่ง​จะ​ได้​หนี​ไป”

9 แล้ว​ยาโคบ​ก็​อธิษฐาน​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ครับ พระองค์​เป็น​พระเจ้า​ของ​อับราฮัม​ปู่​ของ​ผม​และ​เป็น​พระเจ้า​ของ​อิสอัค​พ่อ​ของ​ผม พระองค์​เป็น​ผู้​บอก​ผม​ว่า ‘กลับ​ไป​หา​ญาติ​พี่​น้อง​ของ​เจ้า​ที่​แผ่นดิน​ของ​เจ้า​เถอะ แล้ว​เรา​จะ​ให้​เจ้า​ได้​รับ​สิ่ง​ดี ๆ’+ 10 ที่​จริง ผม​เอง​ไม่​คู่​ควร​เลย​ที่​พระองค์​จะ​มา​แสดง​ความ​รัก​ที่​มั่นคง​และ​กรุณา​ต่อ​ผม​อย่าง​นี้+ ตอน​ที่​ข้าม​แม่น้ำ​จอร์แดน​มา​นั้น​ผม​มี​แค่​ไม้เท้า แต่​ตอน​นี้ ผม​มี​คน​และ​สัตว์​มาก​มาย​จน​แบ่ง​เป็น 2 กลุ่ม​ได้+ 11 ขอ​พระองค์​ช่วย​ผม+ให้​พ้น​จาก​เงื้อม​มือ​เอซาว​พี่​ชาย​ด้วย ผม​กลัว​ว่า​เขา​จะ​มา​โจมตี​ผม+กับ​ภรรยา​และ​ลูก ๆ 12 เพราะ​พระองค์​บอก​ไว้​ว่า ‘เรา​จะ​ให้​เจ้า​ได้​รับ​สิ่ง​ดี ๆ และ​เรา​จะ​ให้​เจ้า​มี​ลูก​หลาน​มาก​มาย​จน​นับ​ไม่​ถ้วน​เหมือน​เม็ด​ทราย​ที่​ชาย​ทะเล’”+

13 คืน​นั้น​ยาโคบ​จึง​อยู่​ที่​นั่น และ​เตรียม​สัตว์​บาง​ส่วน​ของ​เขา​เป็น​ของ​ขวัญ​ให้​เอซาว+ 14 คือ​แพะ​ตัว​เมีย 200 ตัว แพะ​ตัว​ผู้ 20 ตัว แกะ​ตัว​เมีย 200 ตัว แกะ​ตัว​ผู้ 20 ตัว 15 อูฐ​แม่​ลูก​อ่อน 30 ตัว วัว​ตัว​เมีย 40 ตัว วัว​ตัว​ผู้ 10 ตัว ลา​ตัว​เมีย 20 ตัว และ​ลา​ตัว​ผู้ 10 ตัว+

16 ยาโคบ​แยก​สัตว์​เป็น​ฝูง ๆ ให้​คน​รับใช้​ดู​แล​และ​บอก​พวก​เขา​ว่า “พวก​คุณ​ข้าม​ลำธาร​กัน​ไป​ก่อน และ​ให้​สัตว์​แต่​ละ​ฝูง​ทิ้ง​ระยะ​ห่าง​กัน​หน่อย” 17 เขา​สั่ง​คน​ที่​ดู​แล​สัตว์​ฝูง​แรก​ว่า “ถ้า​เอซาว​พี่​ชาย​ของ​ผม​พบ​คุณ​และ​ถาม​ว่า ‘คุณ​เป็น​คน​ของ​ใคร? แล้ว​นี่​จะ​ไป​ไหน? และ​สัตว์​ที่​ต้อน​มา​นี้​ล่ะ​เป็น​ของ​ใคร?’ 18 ให้​ตอบ​เขา​ไป​ว่า ‘เป็น​ของ​ยาโคบ​ผู้​รับใช้​ของ​คุณ ยาโคบ​ส่ง​มา​เป็น​ของ​ขวัญ​ให้​คุณ​ครับ+ และ​เขา​ก็​กำลัง​ตาม​พวก​เรา​มา’” 19 ยาโคบ​สั่ง​คน​ที่​ดู​แล​สัตว์​ฝูง​ที่ 2 ฝูง​ที่ 3 และ​ทุก​คน​ที่​ไป​กับ​ฝูง​สัตว์​ด้วย​ว่า “เมื่อ​พบ​เอซาว ให้​พูด​กับ​เขา​อย่าง​นั้น​เหมือน​กัน 20 และ​ให้​บอก​เขา​ด้วย​ว่า ‘ยาโคบ​ผู้​รับใช้​ของ​คุณ​กำลัง​ตาม​มา’” เพราะ​ยาโคบ​คิด​ว่า “ฉัน​จะ​ส่ง​ของ​กำนัล​ไป​ให้​เขา​ก่อน เผื่อ​เขา​จะ​หาย​โกรธ+ แล้ว​เมื่อ​พบ​หน้า​กัน เขา​คง​จะ​ยินดี​ต้อนรับ​ฉัน” 21 พวก​คน​รับใช้​จึง​นำ​ของ​ขวัญ​ข้าม​ลำธาร​ไป​ก่อน แต่​คืน​นั้น​ยาโคบ​ยัง​อยู่​ที่​ค่าย​พัก

22 ใน​ตอน​ดึก​คืน​นั้น ยาโคบ​ลุก​ขึ้น​พา​ภรรยา​ทั้ง​สอง+กับ​สาว​ใช้​ทั้ง​สอง+และ​ลูก​ชาย 11 คน​ไป เพื่อ​ให้​พวก​เขา​ข้าม​ลำธาร​ยับบอก ตรง​บริเวณ​น้ำ​ตื้น+ 23 ยาโคบ​ส่ง​พวก​เขา​ข้าม​ลำธาร​ไป และ​ให้​นำ​ทรัพย์​สมบัติ​ทุก​อย่าง​ของ​เขา​ข้าม​ไป​ด้วย

24 ยาโคบ​จึง​อยู่​ที่​นั่น​คน​เดียว แล้ว​ก็​มี​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​มา​หา​เขา​และ​ปล้ำ​สู้​กับ​เขา​จน​ถึง​รุ่ง​เช้า+ 25 ตอน​ที่​ปล้ำ​สู้​กัน ผู้​ชาย​คน​นั้น​เห็น​ว่า​เอา​ชนะ​ยาโคบ​ไม่​ได้​จึง​แตะ​ที่​ข้อ​สะโพก​ของ​ยาโคบ ทำ​ให้​ข้อ​สะโพก​ของ​เขา​เคลื่อน+ 26 แล้ว​ผู้​ชาย​คน​นั้น​ก็​พูด​ว่า “นี่​ก็​ใกล้​จะ​สว่าง​แล้ว ให้​ผม​ไป​เถอะ” ยาโคบ​บอก​ว่า “ไม่​ได้ ผม​ไม่​ให้​ไป ท่าน​ต้อง​อวยพร​ผม​ก่อน”+ 27 คน​นั้น​ก็​ถาม​ว่า “คุณ​ชื่อ​อะไร?” ยาโคบ​ตอบ​ว่า “ชื่อ​ยาโคบ” 28 คน​นั้น​พูด​ว่า “คุณ​จะ​ไม่​ชื่อ​ว่า​ยาโคบ​อีก​ต่อ​ไป แต่​จะ​ชื่อ​ว่า​อิสราเอล*+ เพราะ​คุณ​ต่อ​สู้​กับ​พระเจ้า+และ​กับ​มนุษย์​จน​ชนะ” 29 ยาโคบ​ถาม​ว่า “บอก​ผม​ด้วย​ได้​ไหม​ว่า​ท่าน​ชื่อ​อะไร?” คน​นั้น​ตอบ​ว่า “ถาม​ชื่อ​ผม​ทำไม?”+ แล้ว​เขา​ก็​อวยพร​ยาโคบ​ที่​นั่น 30 ยาโคบ​จึง​เรียก​ที่​นั่น​ว่า​เปนีเอล*+ เขา​บอก​ว่า “เพราะ​ผม​ได้​เห็น​พระเจ้า​อยู่​ตรง​หน้า แต่​พระองค์​ไว้​ชีวิต​ผม”+

31 เมื่อ​ยาโคบ​ออก​จาก​เปนีเอล* ดวง​อาทิตย์​ก็​ขึ้น เขา​เดิน​กะเผลก​เพราะ​เจ็บ​สะโพก+ 32 เพราะ​อย่าง​นั้น ชาว​อิสราเอล​จึง​ไม่​กิน​เอ็น​ต้น​ขา​หรือ​เอ็น​ข้อ​สะโพก​สัตว์​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้ เพราะ​ผู้​ชาย​คน​นั้น​ได้​แตะ​เอ็น​ต้น​ขา​ตรง​ข้อ​สะโพก​ของ​ยาโคบ

33 ต่อ​มา เมื่อ​ยาโคบ​เงย​หน้า​ขึ้น​ก็​เห็น​เอซาว​มา​พร้อม​กับ​คน 400 คน+ เขา​จึง​ให้​ลูก ๆ แยก​กัน​ไป​อยู่​กับ​แม่​ของ​ตัว​เอง คือ​เลอาห์ ราเชล และ​สาว​ใช้​ทั้ง​สอง​คน+ 2 ยาโคบ​ให้​สาว​ใช้​สอง​คน​กับ​ลูก ๆ อยู่​ข้าง​หน้า+ เลอาห์​กับ​ลูก ๆ อยู่​ถัด​มา+ และ​ราเชล+กับ​โยเซฟ​อยู่​หลัง​สุด 3 ส่วน​ยาโคบ​เอง​ก็​เดิน​นำ​หน้า เขา​หมอบ​ลง​กับ​พื้น 7 ครั้ง​ระหว่าง​ที่​เดิน​เข้า​ไป​ใกล้​พี่​ชาย

4 เอซาว​วิ่ง​เข้า​มา​กอด​จูบ​ยาโคบ​และ​ทั้ง​สอง​ก็​พา​กัน​ร้องไห้ 5 พอ​เอซาว​เงย​หน้า​ขึ้น​ก็​มอง​เห็น​ผู้​หญิง​กับ​เด็ก ๆ เขา​จึง​ถาม​ว่า “คน​พวก​นี้​ที่​มา​กับ​น้อง​เป็น​ใคร?” ยาโคบ​ตอบ​ว่า “พวก​เขา​คือ​ลูก ๆ ที่​พระเจ้า​ให้​กับ​ผู้​รับใช้​ของ​พี่​คน​นี้”+ 6 สาว​ใช้​ทั้ง​สอง​กับ​ลูก ๆ จึง​มา​ข้าง​หน้า​แล้ว​ก้ม​ลง​คำนับ 7 เลอาห์​กับ​ลูก ๆ ก็​เดิน​ออก​มา​ข้าง​หน้า​แล้ว​ก้ม​ลง​คำนับ แล้ว​โยเซฟ​กับ​ราเชล​ก็​เดิน​ออก​มา​ข้าง​หน้า​และ​ก้ม​ลง​คำนับ​ด้วย+

8 เอซาว​ถาม​ว่า “น้อง​ส่ง​คน​กับ​ฝูง​สัตว์​มา​ทำไม?”+ ยาโคบ​ตอบ​ว่า “เผื่อ​พี่​จะ​เมตตา​ผม​บ้าง”+ 9 เอซาว​ก็​บอก​ว่า “พี่​มี​ทรัพย์​สมบัติ​มาก​มาย​อยู่​แล้ว+ น้อง​ของ​พี่ น้อง​เก็บ​ของ​พวก​นั้น​ไว้​เถอะ” 10 แต่​ยาโคบ​บอก​ว่า “อย่า​ปฏิเสธ​เลย​ครับ ถ้า​พี่​เมตตา​ผม​จริง ๆ ก็​ขอ​ให้​รับ​ของ​ขวัญ​จาก​ผม​เถอะ​ครับ ผม​นำ​ของ​ทั้ง​หมด​มา​เพื่อ​จะ​ได้​พบ​หน้า​พี่​อีก และ​เมื่อ​ผม​ได้​เห็น​หน้า​พี่​ก็​เหมือน​ได้​เห็น​หน้า​พระเจ้า เพราะ​พี่​ยินดี​ต้อนรับ​ผม+ 11 โปรด​รับ​ของ​ขวัญ​ที่​ผม​นำ​มา​ให้​พี่​ด้วย​ความ​ปรารถนา​ดี+ เพราะ​พระเจ้า​เมตตา​ผม​และ​ผม​เอง​ก็​มี​ทุก​สิ่ง​ที่​จำเป็น​ครบ​หมด​แล้ว”+ ยาโคบ​อ้อน​วอน​จน​เอซาว​รับ​ของ​ขวัญ​ทั้ง​หมด​นั้น​ไว้

12 แล้ว​เอซาว​ก็​พูด​ว่า “ออก​เดิน​ทาง​กัน​เถอะ พี่​จะ​เดิน​นำ​หน้า​เอง” 13 ยาโคบ​ตอบ​ว่า “อย่าง​ที่​พี่​เห็น ลูก ๆ ของ​ผม​ยัง​เล็ก​มาก+ และ​ผม​ก็​ต้อง​ดู​แล​แกะ​กับ​วัว​ที่​มี​ลูก​อ่อน​ด้วย ถ้า​เกิด​ต้อน​พวก​มัน​ให้​เดิน​เร็ว​เกิน​ไป​แค่​วัน​เดียว พวก​มัน​ก็​จะ​ตาย​กัน​ทั้ง​ฝูง 14 ขอ​พี่​เดิน​ทาง​ไป​ก่อน​ผู้​รับใช้​ของ​พี่​เถอะ​ครับ ส่วน​ผม​จะ​ค่อย ๆ ตาม​ไป​เท่า​ที่​ฝูง​สัตว์​กับ​ลูก ๆ จะ​เดิน​ไหว แล้ว​ผม​จะ​ไป​พบ​กับ​พี่​ที่​เสอีร์”+ 15 เอซาว​จึง​บอก​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น พี่​จะ​ให้​คน​ของ​พี่​บาง​คน​ไป​กับ​น้อง” ยาโคบ​ตอบ​ว่า “ไม่​ต้อง​หรอก​ครับ แค่​พี่​เมตตา​ผม​เท่า​นี้​ก็​เพียง​พอ​แล้ว” 16 วัน​นั้น เอซาว​จึง​เดิน​ทาง​กลับ​ไป​ที่​เสอีร์

17 ยาโคบ​จึง​เดิน​ทาง​ไป​สุคคท+ แล้ว​สร้าง​บ้าน​อยู่​ที่​นั่น​และ​ทำ​เพิง​ให้​ฝูง​สัตว์​อยู่​ด้วย เพราะ​อย่าง​นั้น เขา​จึง​เรียก​ที่​นั่น​ว่า​สุคคท*

18 หลัง​จาก​ยาโคบ​ออก​จาก​ปัดดานอารัม+ เขา​ก็​มา​ถึง​เมือง​เชเคม+ใน​แผ่นดิน​คานาอัน+อย่าง​ปลอด​ภัย เขา​ตั้ง​ค่าย​พัก​อยู่​ใกล้ ๆ กับ​เมือง​นั้น 19 แล้ว​ยาโคบ​ก็​ซื้อ​ที่​ดิน​แปลง​หนึ่ง​อยู่​ตรง​ที่​เขา​ตั้ง​เต็นท์ เขา​ซื้อ​จาก​พวก​ลูก​ชาย​ของ​ฮาโมร์​ซึ่ง​เป็น​พ่อ​ของ​เชเคม​ด้วย​เงิน 100 แผ่น+ 20 ยาโคบ​สร้าง​แท่น​บูชา​ขึ้น​ที่​นั่น​และ​เรียก​แท่น​นั้น​ว่า​เอลเอโลเฮ​อิสราเอล*+

34 ดีนาห์​ลูก​สาว​ยาโคบ​ที่​เกิด​จาก​เลอาห์+ชอบ​ออก​ไป​อยู่​กับ​พวก​ผู้​หญิง​สาว ๆ ใน​แผ่นดิน​นั้น+ 2 เชเคม​ลูก​ชาย​ของ​ฮาโมร์​ชาว​ฮีไวต์+ที่​เป็น​หัวหน้า​ตระกูล​หนึ่ง​ใน​แผ่นดิน​นั้น​จึง​เห็น​เธอ และ​วัน​หนึ่ง​เขา​ก็​พา​เธอ​ไป​ข่มขืน 3 เชเคม​หลงใหล​ดีนาห์​ลูก​สาว​ยาโคบ​มาก เขา​หลง​รัก​ผู้​หญิง​คน​นี้​และ​พยายาม​พูด​เอา​อก​เอา​ใจ​เธอ 4 เชเคม​พูด​กับ​ฮาโมร์+พ่อ​ของ​เขา​ว่า “พ่อ​ไป​ขอ​ผู้​หญิง​คน​นี้​ให้​ผม​หน่อย ผม​อยาก​แต่งงาน​กับ​เธอ”

5 ตอน​ที่​ยาโคบ​ได้​ยิน​ว่า​เชเคม​ย่ำยี​ดีนาห์​ลูก​สาว​นั้น พวก​ลูก​ชาย​ของ​เขา​เลี้ยง​สัตว์​อยู่​ใน​ทุ่ง ยาโคบ​จึง​ไม่​บอก​เรื่อง​นี้​กับ​ใคร​จน​พวก​เขา​กลับ​มา 6 ส่วน​ฮาโมร์​พ่อ​ของ​เชเคม​ก็​มา​คุย​กับ​ยาโคบ 7 แต่​พอ​พวก​ลูก​ชาย​ของ​ยาโคบ​ได้​ยิน​เรื่อง​ที่​เกิด​ขึ้น พวก​เขา​ก็​กลับ​จาก​ทุ่ง​ทันที พวก​เขา​เจ็บใจ​และ​โกรธ​มาก​ที่​เชเคม​ทำ​ให้​อิสราเอล​อับอาย​โดย​ข่มขืน​ลูก​สาว​ยาโคบ+ ซึ่ง​เป็น​เรื่อง​ที่​ชั่ว​ช้า​อย่าง​มาก+

8 ฮาโมร์​พูด​ว่า “เชเคม​ลูก​ชาย​ของ​ผม​หลง​รัก​ลูก​สาว​คน​นี้​ของ​คุณ​มาก อนุญาต​ให้​เธอ​แต่งงาน​กับ​ลูก​ชาย​ของ​ผม​เถอะ 9 พวก​เรา​จะ​ได้​เกี่ยว​ดอง​กัน พวก​คุณ​ยก​ลูก​สาว​ให้​พวก​เรา พวก​เรา​ก็​ยก​ลูก​สาว​ให้​พวก​คุณ+ 10 พวก​คุณ​จะ​ได้​มา​อยู่​กับ​พวก​เรา พวก​คุณ​จะ​อยู่​หรือ​ค้า​ขาย​หรือ​ตั้ง​หลัก​แหล่ง​ที่​ไหน​ก็​ได้​ใน​แผ่นดิน​นี้” 11 แล้ว​เชเคม​ก็​พูด​กับ​พ่อ​ของ​ดีนาห์​และ​พวก​พี่​ชาย​ของ​เธอ​ว่า “เห็น​ใจ​ผม​เถอะ พวก​คุณ​อยาก​ได้​อะไร ผม​จะ​ให้​หมด 12 พวก​คุณ​จะ​เรียก​เอา​สินสอด​และ​ของ​ขวัญ​เท่าไหร่​ก็​ได้+ ผม​เต็ม​ใจ​จะ​ให้​ทุก​อย่าง​ตาม​ที่​พวก​คุณ​ต้องการ ขอ​แค่​ให้​ผม​ได้​แต่งงาน​กับ​เธอ”

13 พวก​ลูก​ชาย​ของ​ยาโคบ​ตั้งใจ​จะ​หลอก​เชเคม​กับ​ฮาโมร์ เพราะ​เชเคม​ย่ำยี​ดีนาห์​น้อง​สาว​ของ​พวก​เขา 14 จึง​บอก​ไป​ว่า “พวก​เรา​ยก​น้อง​สาว​ให้​คน​ที่​ยัง​ไม่​เข้า​สุหนัต*+ไม่ได้​หรอก เพราะ​ถ้า​ทำ​อย่าง​นั้น​พวก​เรา​จะ​อับอาย​ขายหน้า​คน​อื่น​เขา 15 พวก​เรา​จะ​ยอม​ทำ​ตาม​ที่​พวก​คุณ​ขอ ก็​ต่อ​เมื่อ​พวก​คุณ​ที่​เป็น​ผู้​ชาย​ทุก​คน​เข้า​สุหนัต​เหมือน​กับ​พวก​เรา​ก่อน+ 16 แล้ว​พวก​เรา​จะ​ยก​ลูก​สาว​ให้​พวก​คุณ พวก​คุณ​ก็​ยก​ลูก​สาว​ให้​พวก​เรา แล้ว​พวก​เรา​กับ​พวก​คุณ​ก็​จะ​อยู่​ด้วย​กัน และ​เป็น​ชน​ชาติ​เดียว​กัน 17 แต่​ถ้า​พวก​คุณ​ไม่​เข้า​สุหนัต​ตาม​ที่​เรา​ขอ พวก​เรา​ก็​จะ​พา​น้อง​สาว​ของ​พวก​เรา​ไป”

18 เมื่อ​ฮาโมร์+กับ​เชเคม+ได้​ยิน​อย่าง​นั้น​ก็​พอ​ใจ 19 เชเคม​ซึ่ง​เป็น​ที่​นับ​หน้า​ถือ​ตา​มาก​กว่า​ใคร​ใน​บ้าน​พ่อ​จึง​รีบ​ทำ​ตาม​คำ​ขอ​นั้น+ เพราะ​เขา​ชอบ​ลูก​สาว​ของ​ยาโคบ​มาก

20 ฮาโมร์​กับ​เชเคม​จึง​ไป​ที่​ประตู​เมือง​แล้ว​พูด​กับ​ชาว​เมือง+ ว่า 21 “คน​พวก​นี้​อยาก​อยู่​กับ​พวก​เรา​อย่าง​สงบ​สุข ให้​พวก​เขา​อยู่​และ​ค้า​ขาย​ที่​นี่​เถอะ แผ่นดิน​นี้​กว้าง​ใหญ่​พอ​ที่​จะ​ให้​พวก​เขา​มา​อยู่​ด้วย พวก​เขา​จะ​ยก​ลูก​สาว​ให้​เป็น​ภรรยา​พวก​เรา​และ​พวก​เรา​ก็​จะ​ยก​ลูก​สาว​ให้​พวก​เขา+ 22 แต่​พวก​เขา​จะ​ยอม​อยู่​กับ​เรา เป็น​ชน​ชาติ​เดียว​กัน ก็​ต่อ​เมื่อ​พวก​เรา​ที่​เป็น​ผู้​ชาย​ทุก​คน​ยอม​เข้า​สุหนัต​เหมือน​กับ​พวก​เขา+ 23 ถ้า​อย่าง​นั้น พวก​เรา​ยอม​ทำ​ตาม​นั้น​เถอะ พวก​เขา​จะ​ได้​อยู่​กับ​พวก​เรา แล้ว​ข้าวของ ทรัพย์​สมบัติ และ​ฝูง​สัตว์​ทั้ง​หมด​ของ​พวก​เขา​ก็​จะ​เป็น​ของ​พวก​เรา” 24 ทุก​คน​ที่​ไป​ชุมนุม​กัน​ที่​ประตู​เมือง​ก็​ฟัง​ฮาโมร์​กับ​เชเคม แล้ว​ผู้​ชาย​ทุก​คน​ใน​เมือง​นี้​ก็​เข้า​สุหนัต

25 ใน​วัน​ที่​สาม​ถัด​จาก​นั้น ตอน​ที่​พวก​เขา​ยัง​เจ็บ​แผล​มาก ลูก​ชาย​สอง​คน​ของ​ยาโคบ​คือ​สิเมโอน​กับ​เลวี​พี่​ชาย​ของ​ดีนาห์+ก็​ถือ​ดาบ​เข้า​ไป​ใน​เมือง​โดย​ไม่​มี​ใคร​สงสัย แล้ว​ฆ่า​ผู้​ชาย​ทุก​คน​ใน​เมือง​นี้+ 26 ทั้ง​สอง​ใช้​ดาบ​ฆ่า​ฮาโมร์​กับ​เชเคม แล้ว​พา​ดีนาห์​ออก​จาก​บ้าน​เชเคม​ไป 27 ส่วน​ลูก​ชาย​คน​อื่น ๆ ของ​ยาโคบ​ก็​เข้า​ไป​ปล้น​เมือง​นี้​หลัง​จาก​ที่​พวก​ผู้​ชาย​ถูก​ฆ่า​หมด​แล้ว เพราะ​น้อง​สาว​ของ​พวก​เขา​ถูก​ย่ำยี​ใน​เมือง​นี้+ 28 พวก​เขา​เอา​ฝูง​แกะ ฝูง​วัว ฝูง​ลา และ​ข้าวของ​ต่าง ๆ ทั้ง​ที่​อยู่​ใน​เมือง​และ​ใน​ทุ่ง​ไป 29 พวก​เขา​เอา​ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ของ​ชาว​เมือง​นี้​ไป รวม​ทั้ง​กวาด​ต้อน​พวก​ภรรยา​กับ​ลูก​เล็ก ๆ ของ​ชาว​เมือง​นี้ และ​ปล้น​เอา​ข้าวของ​ใน​บ้าน​ของ​ชาว​เมือง​นี้​ไป​หมด

30 ยาโคบ​จึง​พูด​กับ​สิเมโอน​และ​เลวี+ว่า “ลูก ๆ ทำ​ให้​พ่อ​เดือดร้อน​มาก​เพราะ​ทำ​ให้​ผู้​คน​ใน​แผ่นดิน​นี้​ทั้ง​ชาว​คานาอัน​และ​ชาว​เปริสซี​เกลียด​พ่อ​กัน​หมด พวก​เรา​มี​คน​น้อย พวก​เขา​จะ​รวม​ตัว​กัน​มา​โจมตี​พวก​เรา แล้ว​พวก​เรา​กับ​ครอบครัว​จะ​ตาย​กัน​หมด” 31 พวก​เขา​พูด​ว่า “น้อง​สาวของ​พวก​เรา​ไม่​ใช่​โสเภณี พวก​มัน​เป็น​ใคร​ถึง​มา​ทำ​แบบ​นี้?”

35 แล้ว​พระเจ้า​ก็​พูด​กับ​ยาโคบ​ว่า “ขึ้น​ไป​อยู่​ที่​เบธเอล+ และ​สร้าง​แท่น​บูชา​ที่​นั่น​สำหรับ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​ผู้​ที่​มา​หา​เจ้า​ตอน​ที่​เจ้า​หนี​เอซาว​พี่​ชาย​ของ​เจ้า​มา”+

2 ยาโคบ​จึง​บอก​ครอบครัว​และ​ทุก​คน​ที่​อยู่​กับ​เขา​ว่า “เอา​รูป​เคารพ​ของ​คน​ต่าง​ชาติ​ที่​มี​อยู่​มา​ทิ้ง​ให้​หมด+ ชำระ​ตัว​ให้​สะอาด​แล้ว​เปลี่ยน​เสื้อ​ผ้า​ใหม่ 3 พวก​เรา​จะ​ขึ้น​ไป​เบธเอล​กัน และ​ที่​นั่น ผม​จะ​สร้าง​แท่น​บูชา​สำหรับ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​ผู้​ฟัง​คำ​อ้อน​วอน​ของ​ผม​ใน​วัน​ที่​ผม​มี​ความ​ทุกข์​เดือดร้อน และ​อยู่​กับ​ผม​ไม่​ว่า​ผม​จะ​ไป​อยู่​ที่​ไหน”+ 4 พวก​เขา​จึง​เอา​รูป​เคารพ​ของ​คน​ต่าง​ชาติ​ทั้ง​หมด​ที่​มี​อยู่​มา​ให้​ยาโคบ รวม​ทั้ง​ตุ้ม​หู*ที่​พวก​เขา​ใส่​อยู่​ด้วย ยาโคบ​ก็​เอา​ไป​ฝัง*ไว้​ใต้​ต้น​ไม้​ใหญ่​ใกล้​เมือง​เชเคม

5 แล้ว​พวก​เขา​ก็​ออก​เดิน​ทาง พระเจ้า​ทำ​ให้​ชาว​เมือง​ต่าง ๆ ใน​บริเวณ​นั้น​หวาด​กลัว พวก​เขา​จึง​ไม่​ไล่​ตาม​พวก​ลูก​ชาย​ของ​ยาโคบ​ไป 6 แล้ว​ยาโคบ​กับ​ทุก​คน​ที่​มา​ด้วย​กัน​ก็​มา​ถึง​เมือง​ลูส+ ซึ่ง​ก็​คือ​เบธเอล​ใน​แผ่นดิน​คานาอัน 7 ยาโคบ​ก็​สร้าง​แท่น​บูชา​ขึ้น​ที่​นั่น​และ​เรียก​ที่​นั่น​ว่า​เอลเบธเอล* เพราะ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​มา​หา​เขา​ที่​นั่น​ตอน​ที่​เขา​หนี​พี่​ชาย​มา+ 8 ต่อ​มา เดโบราห์+แม่​นม​ของ​เรเบคาห์​ตาย เขา​จึง​ฝัง​เธอ​ไว้​ใต้​ต้น​โอ๊ก​นอก​เมือง​เบธเอล​และ​เรียก​ที่​นั่น​ว่า​อัลโลนบาคูท*

9 แล้ว​พระเจ้า​ก็​มา​หา​ยาโคบ​และ​อวยพร​เขา​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​นับ​ตั้ง​แต่​เขา​ออก​มา​จาก​ปัดดานอารัม 10 พระเจ้า​พูด​กับ​เขา​ว่า “ตอน​นี้​เจ้า​ชื่อ​ยาโคบ+ แต่​เจ้า​จะ​ไม่​ใช้​ชื่อ​นี้​อีก​ต่อ​ไป เจ้า​จะ​ใช้​ชื่อ​ว่า​อิสราเอล” พระองค์​จึง​เรียก​เขา​ว่า​อิสราเอล+ 11 พระเจ้า​พูด​กับ​เขา​อีก​ว่า “เรา​เป็น​พระเจ้า​ผู้​มี​พลัง​อำนาจ​สูง​สุด+ เจ้า​จะ​เกิด​ลูก​หลาน​มาก​มาย​และ​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น เจ้า​จะ​เป็น​พ่อ​ของ​หลาย​ชาติ​และ​ของ​หลาย​ชน​ชาติ+ กษัตริย์​หลาย​องค์​จะ​เกิด​จาก​เจ้า*+ 12 เรา​จะ​ยก​แผ่นดิน​ที่​เรา​ได้​ยก​ให้​อับราฮัม​กับ​อิสอัค​นั้น​ให้​เจ้า และ​ให้​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​ด้วย”+ 13 แล้ว​พระเจ้า​ก็​ไป​จาก​ที่​นั่น ที่​ที่​พระองค์​พูด​กับ​เขา

14 ยาโคบ​จึง​เอา​หิน​ตั้ง​ขึ้น​มา​เป็น​เสา​เพื่อ​ระลึก​ถึง​เหตุ​การณ์​ครั้ง​นี้​ตรง​ที่​ที่​พระเจ้า​พูด​กับ​เขา และ​เอา​น้ำมัน​กับ​เครื่อง​บูชา​ดื่ม​มา​เท​ลง​บน​เสา​นั้น+ 15 ยาโคบ​ยัง​คง​เรียก​ที่​ที่​พระเจ้า​พูด​กับ​เขา​นี้​ว่า​เบธเอล+

16 ตอน​ที่​พวก​เขา​เดิน​ทาง​ออก​จาก​เบธเอล และ​ยัง​อยู่​ห่าง​จาก​เอฟรัท ราเชล​ก็​เริ่ม​ปวด​ท้อง​คลอด แต่​ลูก​ของ​เธอ​คลอด​ออก​มา​ยาก​มาก 17 ตอน​ที่​เธอ​กำลัง​เจ็บ​ท้อง​ทุรนทุราย​อยู่​นั้น ผู้​หญิง​ที่​ทำ​คลอด​ก็​พูด​กับ​ราเชล​ว่า “ไม่​ต้อง​กลัว​นะ เธอ​จะ​ได้​ลูก​ชาย​อีก​คน​หนึ่ง”+ 18 ตอน​ราเชล​กำลัง​จะ​สิ้น​ลม (เพราะ​เธอ​กำลัง​จะ​ตาย) เธอ​ก็​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​ว่า​เบนโอนี* แต่​พ่อ​ของ​เขา​ตั้ง​ชื่อ​ให้​ว่า​เบนยามิน*+ 19 เมื่อ​ราเชล​ตาย ศพ​ของ​เธอ​ก็​ถูก​ฝัง​ไว้​ระหว่าง​ทาง​ไป​เอฟรัท​ซึ่ง​มี​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​เบธเลเฮม+ 20 ยาโคบ​เอา​หิน​ก้อน​หนึ่ง​ตั้ง​ไว้​บน​หลุม​ศพ​ของ​ราเชล และ​หิน​ก้อน​นั้น​ยัง​อยู่​ที่​นั่น​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้

21 แล้ว​อิสราเอล​ก็​เดิน​ทาง​ต่อ​ไป และ​ตั้ง​เต็นท์​อยู่​เลย​หอคอย​เอเดอร์ 22 ใน​ช่วง​ที่​อิสราเอล​อยู่​ใน​แผ่นดิน​นั้น รูเบน​ก็​ไป​มี​อะไร​กับ​บิลฮาห์​ภรรยา​น้อย​ของ​พ่อ​และ​มี​คน​มา​บอก​อิสราเอล​เรื่อง​นี้+

ยาโคบ​มี​ลูก​ชาย 12 คน 23 ลูก​ชาย​ของ​ยาโคบ​ที่​เกิด​จาก​เลอาห์​คือ รูเบน​ลูก​ชาย​คน​โต+ สิเมโอน เลวี ยูดาห์ อิสสาคาร์ และ​เศบูลุน 24 ลูก​ชาย​ที่​เกิด​จาก​ราเชล​คือ โยเซฟ​กับ​เบนยามิน 25 ลูก​ชาย​ที่​เกิด​จาก​บิลฮาห์​สาว​ใช้​ของ​ราเชล​คือ ดาน​กับ​นัฟทาลี 26 ลูก​ชาย​ที่​เกิด​จาก​ศิลปาห์​สาว​ใช้​ของ​เลอาห์​คือ กาด​กับ​อาเชอร์ ลูก​ชาย​ทั้ง​หมด​นี้​ของ​ยาโคบ​เกิด​ใน​ปัดดานอารัม

27 แล้ว​ยาโคบ​ก็​มา​ถึง​มัมเร+ อิสอัค​พ่อ​ของ​เขา​อยู่​ที่​นั่น มัมเร​อยู่​ใกล้​เมือง​คีริยาทอาร์บา​ซึ่ง​มี​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​เฮโบรน เฮโบรน​เป็น​ที่​ที่​อับราฮัม​และ​อิสอัค​อาศัย​อยู่​อย่าง​คน​ต่าง​ชาติ+ 28 อิสอัค​อายุ​ยืน​ถึง 180 ปี+ 29 แล้ว​อิสอัค​ก็​ตาย เขา​ได้​อยู่​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​เขา* เขา​มี​ชีวิต​ที่​ยืน​ยาว​และ​มี​ความ​สุข แล้ว​เอซาว​กับ​ยาโคบ​ลูก​ชาย​ของ​เขา​ก็​ฝัง​ศพ​เขา+

36 นี่​เป็น​บันทึก​ประวัติ​ของ​เอซาว​ซึ่ง​มี​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​เอโดม+

2 เอซาว​แต่งงาน​กับ​ผู้​หญิง​ชาว​คานาอัน คน​หนึ่ง​ชื่อ​อาดาห์+ลูก​สาว​เอโลน​ชาว​ฮิตไทต์+ อีก​คน​หนึ่ง​ชื่อ​โอโฮลีบามาห์+ซึ่ง​เป็น​ลูก​สาว​ของ​อานาห์​และ​เป็น​หลาน​สาว​ของ​ศิเบโอน​ชาว​ฮีไวต์ 3 และ​อีก​คน​หนึ่ง​ชื่อ​บาเสมัท+ซึ่ง​เป็น​ลูก​สาว​ของ​อิชมาเอล​และ​เป็น​น้อง​สาว​ของ​เนบาโยท+

4 อาดาห์​มี​ลูก​ชาย​กับ​เอซาว​ชื่อ​เอลีฟัส บาเสมัท​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เรอูเอล

5 ส่วน​โอโฮลีบามาห์​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เยอูช ยาลาม และ​โคราห์+

ลูก​ชาย​ทั้ง​หมด​นี้​ของ​เอซาว​เกิด​ในแผ่นดิน​คานาอัน 6 ต่อ​มา เอซาว​พา​ภรรยา ลูก​ชาย ลูก​สาว และ​ทุก​คน​ใน​บ้าน​ไป​แผ่นดิน​อื่น​ที่​อยู่​ไกล​จาก​ยาโคบ​น้อง​ชาย​ของ​เขา เอซาว​เอา​ฝูง​แกะ​และ​สัตว์​อื่น ๆ ทั้ง​หมด รวม​ทั้ง​ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ที่​เขา​ได้​สะสม+ตอน​อยู่​ใน​แผ่นดิน​คานาอัน​ไป​ด้วย+ 7 เนื่อง​จาก​พวก​เขา​มี​ทรัพย์​สมบัติ​มาก​มาย และ​แผ่นดิน​ที่​พวก​เขา​อยู่*นั้น​ก็​ไม่​พอ​ให้​พวก​เขา​เลี้ยง​ฝูง​สัตว์ พวก​เขา​จึง​อยู่​ด้วย​กัน​ต่อ​ไป​ไม่​ได้ 8 เอซาว​จึง​ไป​อยู่​ใน​เขต​เทือก​เขา​เสอีร์+ เอซาว​มี​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​เอโดม+

9 นี่​เป็น​บันทึก​ประวัติ​ของ​เอซาว​บรรพบุรุษ​ของ​ชาว​เอโดม​ซึ่ง​อยู่​ใน​เขต​เทือก​เขา​เสอีร์+

10 ลูก​ชาย​ของ​เอซาว​ชื่อ​เอลีฟัส​และ​เรอูเอล เอลีฟัส​เป็น​ลูก​ชาย​ของ​อาดาห์​ภรรยา​เอซาว ส่วน​เรอูเอล​เป็น​ลูก​ชาย​ของ​บาเสมัท​ภรรยา​อีก​คน​หนึ่ง​ของ​เอซาว+

11 เอลีฟัส​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เทมาน+ โอมาร์ เศโฟ กาทาม และ​เคนัส+ 12 เอลีฟัส​ลูก​ชาย​ของ​เอซาว​มี​ภรรยา​น้อย​ชื่อ​ทิมนา แล้ว​ทิมนา​ก็​มี​ลูก​ชาย​กับ​เอลีฟัส​ชื่อ​อามาเลข+ ทั้ง​หมด​นี้​เป็น​หลาน​ชาย​ของ​อาดาห์​ภรรยา​ของ​เอซาว

13 เรอูเอล​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​นาหาท เศราห์ ชัมมาห์ และ​มิสซาห์ ทั้ง​หมด​นี้​เป็น​หลาน​ชาย​ของ​บาเสมัท+ภรรยา​ของ​เอซาว

14 โอโฮลีบามาห์​มี​ลูก​ชาย​กับ​เอซาว​ชื่อ​เยอูช ยาลาม และ​โคราห์ โอโฮลีบามาห์​เป็น​ภรรยา​ของ​เอซาว เป็น​ลูก​สาว​ของ​อานาห์​และ​เป็น​หลาน​สาว​ของ​ศิเบโอน

15 ต่อ​ไป​นี้​เป็น​หัวหน้า​ตระกูล​ที่​เป็น​ลูก​หลาน​เอซาว+ หัวหน้า​ตระกูล​ที่​เป็น​ลูก​ชาย​ของ​เอลีฟัส​ลูก​ชาย​คน​โต​ของ​เอซาว​ได้​แก่ หัวหน้า​เทมาน หัวหน้า​โอมาร์ หัวหน้า​เศโฟ หัวหน้า​เคนัส+ 16 หัวหน้า​โคราห์ หัวหน้า​กาทาม หัวหน้า​อามาเลข ลูก​ชาย​ทั้ง​หมด​นี้​ของ​เอลีฟัส+เป็น​หัวหน้า​ตระกูล​ต่าง ๆ ใน​แผ่นดิน​เอโดม พวก​เขา​เป็น​หลาน​ชาย​ของ​อาดาห์

17 หัวหน้า​ตระกูล​ที่​เป็น​ลูก​ชาย​ของ​เรอูเอล​ลูก​ชาย​ของ​เอซาว​ได้​แก่ หัวหน้า​นาหาท หัวหน้า​เศราห์ หัวหน้า​ชัมมาห์ หัวหน้า​มิสซาห์ ลูก​ชาย​ทั้ง​หมด​นี้​ของ​เรอูเอล​เป็น​หัวหน้า​ตระกูล​ต่าง ๆ ใน​แผ่นดิน​เอโดม+ พวก​เขา​เป็น​หลาน​ชาย​ของ​บาเสมัท​ภรรยา​ของ​เอซาว

18 ส่วน​หัวหน้า​ตระกูล​ที่​เป็น​ลูก​ชาย​ของ​โอโฮลีบามาห์​ภรรยา​เอซาว​ได้​แก่ หัวหน้า​เยอูช หัวหน้า​ยาลาม หัวหน้า​โคราห์ ลูก​ชาย​ทั้ง​หมด​นี้​ของ​โอโฮลีบามาห์​เป็น​หัวหน้า​ตระกูล​ต่าง ๆ โอโฮลีบามาห์​เป็น​ภรรยา​ของ​เอซาว​และ​เป็น​ลูก​สาว​ของ​อานาห์

19 คน​ทั้ง​หมด​นี้​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​เอซาว​หรือ​เอโดม+ พวก​เขา​เป็น​หัวหน้า​ตระกูล​ต่าง ๆ

20 ลูก​หลาน​ของ​เสอีร์​ชาว​โฮรี​ซึ่ง​เป็น​คน​ที่​อยู่​ใน​แผ่นดิน​นี้+ได้​แก่ โลทาน โชบาล ศิเบโอน อานาห์+ 21 ดีโชน เอเซอร์ และ​ดีชาน+ ลูก​หลาน​ทั้ง​หมด​นี้​ของ​เสอีร์​เป็น​หัวหน้า​ตระกูล​ต่าง ๆ ของ​ชาว​โฮรี​ใน​แผ่นดิน​เอโดม

22 โลทาน​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​โฮรี​กับ​เฮมาม น้อง​สาว​ของ​โลทาน​ชื่อ​ทิมนา+

23 โชบาล​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​อัลวาน มานาฮาท เอบาล เชโฟ และ​โอนัม

24 ศิเบโอน+มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​อัยยาห์​กับ​อานาห์ อานาห์​คน​นี้​คือ​คน​ที่​พบ​น้ำพุ​ร้อน​ใน​ที่​กันดาร​ตอน​ที่​กำลัง​เลี้ยง​ลา​ให้​ศิเบโอน​พ่อ​ของ​เขา

25 อานาห์​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​ดีโชน​กับ​ลูก​สาว​ชื่อ​โอโฮลีบามาห์

26 ดีโชน​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เฮมดาน เอชบาน อิธราน และ​เคราน+

27 เอเซอร์​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​บิลฮาน ศาอาวาน และ​อาขาน

28 ดีชาน​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​อูส​กับ​อารัน+

29 หัวหน้า​ตระกูล​ต่าง ๆ ของ​ชาว​โฮรี​ได้​แก่ หัวหน้า​โลทาน หัวหน้า​โชบาล หัวหน้า​ศิเบโอน หัวหน้า​อานาห์ 30 หัวหน้า​ดีโชน หัวหน้า​เอเซอร์ หัวหน้า​ดีชาน+ คน​ทั้ง​หมด​นี้​เป็น​หัวหน้า​ตระกูล​ต่าง ๆ ของ​ชาว​โฮรี​ใน​แผ่นดิน​เสอีร์

31 ต่อ​ไป​นี้​เป็น​ชื่อ​ของ​กษัตริย์​ที่​ปกครอง​แผ่นดิน​เอโดม+ก่อน​สมัย​ที่​ชาว​อิสราเอล​จะ​มี​กษัตริย์+ 32 คือ เบลา​ลูก​ชาย​เบโอร์ เขา​ปกครอง​เมือง​ดินฮาบาห์​ใน​แผ่นดิน​เอโดม 33 พอ​เบลา​ตาย โยบับ​ลูก​ชาย​เศราห์​จาก​เมือง​โบสราห์​ก็​ขึ้น​เป็น​กษัตริย์​แทน 34 พอ​โยบับ​ตาย หุชาม​จาก​ดินแดน​ของ​ชาว​เทมาน​ก็​ขึ้น​เป็น​กษัตริย์​แทน 35 พอ​หุชาม​ตาย ฮาดัด​ลูก​ชาย​เบดัด​ซึ่ง​รบ​ชนะ​ชาว​มีเดียน+ใน​แผ่นดิน​โมอับ​ก็​ขึ้น​เป็น​กษัตริย์​แทน เขา​ปกครอง​เมือง​อาวีท 36 พอ​ฮาดัด​ตาย สัมลาห์​จาก​มัสเรคาห์​ก็​ขึ้น​เป็น​กษัตริย์​แทน 37 พอ​สัมลาห์​ตาย ชาอูล​จาก​เมือง​เรโหโบท​ซึ่ง​อยู่​ริม​แม่น้ำ​ก็​ขึ้น​เป็น​กษัตริย์​แทน 38 พอ​ชาอูล​ตาย บาอัลฮานัน​ลูก​ชาย​อัคโบร์​ก็​ขึ้น​เป็น​กษัตริย์​แทน 39 พอ​บาอัลฮานัน​ลูก​ชาย​อัคโบร์​ตาย ฮาดาร์​ก็​ขึ้น​เป็น​กษัตริย์​แทน เขา​ปกครอง​เมือง​ปาอู เขา​มี​ภรรยา​ชื่อ​เมเหทาเบล​เป็น​ลูก​สาว​มัทเรด​หลาน​สาว​เมซาหับ

40 หัวหน้า​ตระกูล​ต่าง ๆ ของ​ลูก​หลาน​เอซาว​มี​ราย​ชื่อ​เรียง​ตาม​ตระกูล​และ​ตาม​เขต​แดน​ดัง​ต่อ​ไป​นี้ หัวหน้า​ทิมนา หัวหน้า​อัลวาห์ หัวหน้า​เยเธท+ 41 หัวหน้า​โอโฮลีบามาห์ หัวหน้า​เอลาห์ หัวหน้า​ปิโนน 42 หัวหน้า​เคนัส หัวหน้า​เทมาน หัวหน้ามิบซาร์ 43 หัวหน้า​มักดีเอล หัวหน้า​อิราม คน​ทั้ง​หมด​นี้​เป็น​หัวหน้า​ตระกูล​ต่าง ๆ ใน​แผ่นดิน​เอโดม​ตาม​เขต​แดน​ที่​พวก​เขา​ปกครอง​ใน​แผ่นดิน​นั้น+ พวก​เขา​เป็น​ลูก​หลาน​เอซาว​บรรพบุรุษ​ของ​ชาว​เอโดม+

37 ยาโคบ​อาศัย​อยู่​ใน​แผ่นดิน​คานาอัน​ต่อ​ไป พ่อ​ของ​เขา​เคย​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น​อย่าง​คน​ต่าง​ชาติ+

2 นี่​เป็น​บันทึก​เหตุ​การณ์​หนึ่ง​ใน​ชีวิต​ยาโคบ

ตอน​โยเซฟ+ลูก​ชาย​ของ​เขา​เป็น​เด็ก​หนุ่ม​อายุ 17 ปี เขา​ไป​เลี้ยง​แกะ+กับ​พวก​ลูก​ชาย​ของ​บิลฮาห์+กับ​ศิลปาห์+ภรรยา​ของ​พ่อ โยเซฟ​มา​เล่า​ให้​พ่อ​ฟัง​ว่า​พวก​พี่​ชาย​ทำ​อะไร​ที่​ไม่​ดี​บ้าง 3 อิสราเอล​รัก​โยเซฟ​มาก​กว่า​ลูก​ชาย​คน​อื่น ๆ เพราะ​เขา​มี​ลูก​คน​นี้​ตอน​อายุ​มาก​แล้ว+ อิสราเอล​จึง​ให้​คน​ทำ​เสื้อ​ยาว​ตัว​หนึ่ง​ให้​โยเซฟ​เป็น​พิเศษ 4 เมื่อ​พวก​พี่​ชาย​เห็น​ว่า​พ่อ​รัก​โยเซฟ​มาก​กว่า ก็​พา​กัน​เกลียด​โยเซฟ​และ​ไม่​ยอม​พูด​ดี​ด้วย

5 ครั้ง​หนึ่ง โยเซฟ​ฝัน​และ​เล่า​ให้​พวก​พี่​ชาย​ฟัง+ พวก​เขา​ก็​ยิ่ง​เกลียด​โยเซฟ​เข้า​ไป​ใหญ่ 6 โยเซฟ​บอก​พวก​เขา​ว่า “พี่ ๆ รู้​ไหม​ว่า​ผม​เพิ่ง​ฝัน​เรื่อง​อะไร? 7 ผม​ฝัน​ว่า​ตอน​ที่​พวก​เรา​กำลัง​มัด​ฟ่อน​ข้าว​อยู่​ใน​ทุ่ง​นา อยู่ ๆ ฟ่อน​ข้าวของ​ผม​ก็​ตั้ง​ขึ้น แล้ว​ฟ่อน​ข้าวของ​พวก​พี่​ก็​มา​ล้อม​คำนับ​ฟ่อน​ข้าวของ​ผม”+ 8 พวก​พี่​ชาย​จึง​พูด​กับ​โยเซฟ​ว่า “แก​คิด​จะ​เป็น​กษัตริย์​ปกครอง​พวก​เรา​หรือ​ไง?”+ หลัง​จาก​ได้​ฟัง​ความ​ฝัน​ที่​โยเซฟ​เล่า พวก​เขา​ยิ่ง​เกลียด​โยเซฟ​มาก​ขึ้น

9 แล้ว​โยเซฟ​ก็​ฝัน​อีก เขา​เล่า​ความ​ฝัน​นั้น​ให้​พวก​พี่​ชาย​ฟัง​ว่า “ผม​ฝัน​อีก​แล้ว คราว​นี้​ผม​ฝัน​เห็น​ดวง​อาทิตย์ ดวง​จันทร์ กับ​ดาว 11 ดวง​มา​คำนับ​ผม”+ 10 พอ​เขา​เล่า​ความ​ฝัน​ให้​ทั้ง​พ่อ​กับ​พวก​พี่​ชาย​ฟัง พ่อ​ก็​ดุ​เขา​ว่า “ที่​ลูก​ฝัน​อย่าง​นี้​มัน​หมาย​ความ​ว่า​ยัง​ไง? ลูก​คิด​ว่า​พ่อ​กับ​แม่ และ​พี่​ชาย​ทั้ง​หมด​ของ​ลูก​จะ​ต้อง​ก้ม​กราบ​ลูก​เลย​หรือ?” 11 พวก​พี่​ชาย​อิจฉา​ริษยา​โยเซฟ​มาก+ แต่​พ่อ​ของ​เขา​จด​จำ​สิ่ง​ที่​โยเซฟ​พูด​เอา​ไว้

12 วัน​หนึ่ง พวก​พี่​ชาย​โยเซฟ​พา​แกะ​ของ​พ่อ​ไป​เลี้ยง​ใน​ทุ่ง​หญ้า​ใกล้​เมือง​เชเคม+ 13 ผ่าน​ไป​ระยะ​หนึ่ง อิสราเอล​จึง​พูด​กับ​โยเซฟ​ว่า “พวก​พี่ ๆ ของ​ลูก​ไป​เลี้ยง​แกะ​อยู่​ใกล้​เมือง​เชเคม​ใช่​ไหม? พ่อ​จะ​ให้​ลูก​ไป​หา​พวก​เขา​หน่อย” โยเซฟ​ตอบ​ว่า “ได้​ครับ​พ่อ” 14 อิสราเอล​บอก​โยเซฟ​ว่า “ช่วย​ไป​ดู​หน่อย​ว่า​พวก​พี่​ชาย​ของ​ลูก​สบาย​ดี​ไหม​และ​ฝูง​แกะ​เป็น​ยัง​ไง​บ้าง แล้ว​ก็​กลับ​มา​บอก​พ่อ​หน่อย​นะ” โยเซฟ​จึง​เดิน​ทาง​จาก​หุบเขา​เฮโบรน+ไป​เมือง​เชเคม 15 มี​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​เห็น​โยเซฟ​เดิน​ไป​เดิน​มา​ใน​ทุ่ง เขา​จึง​ถาม​ว่า “หา​อะไร​อยู่?” 16 โยเซฟ​ตอบ​ว่า “ผม​มา​ตาม​หาพี่​ชาย​ครับ พอ​จะ​รู้​ไหม​ครับ​ว่า​พวก​เขา​เลี้ยง​แกะ​อยู่​ที่​ไหน? ช่วย​บอก​ผม​หน่อย” 17 ผู้​ชาย​คน​นั้น​ตอบ​ว่า “พวก​เขา​ไป​กัน​แล้ว ได้​ยิน​พวก​เขา​พูด​กัน​ว่า ‘ไป​โดธาน​กัน​เถอะ’” โยเซฟ​จึง​ตาม​ไป​และ​พบ​พวก​พี่​ชาย​ที่​โดธาน

18 พวก​พี่​ชาย​เห็น​โยเซฟ​แต่​ไกล และ​ก่อน​ที่​โยเซฟ​จะ​มา​ถึง​ที่​ที่​พวก​เขา​อยู่ พวก​เขา​ก็​วาง​แผน​จะ​ฆ่า​โยเซฟ 19 พวก​เขา​พูด​กัน​ว่า “ไอ้​คน​ช่าง​ฝัน​มัน​เดิน​มา​โน่น​แล้ว+ 20 ฆ่า​มัน​ให้​ตาย โยน​ศพ​มัน​ทิ้ง​ลง​ไป​ใน​บ่อ​น้ำ และ​บอก​ว่า​มัน​ถูก​สัตว์​ป่า​กัด​กิน แล้ว​ดูซิ​ว่า​ความ​ฝัน​ของ​มัน​จะ​เป็น​ยัง​ไง” 21 พอ​รูเบน+ได้​ยิน​อย่าง​นั้น​ก็​พยายาม​จะ​ช่วย​โยเซฟ​ให้​รอด​จาก​เงื้อม​มือ​ของ​พวก​เขา รูเบน​พูด​ว่า “อย่า​ไป​ฆ่า​มัน​เลย”+ 22 รูเบน​พูด​กับ​พวก​เขา​อีก​ว่า “อย่า​ไป​ฆ่า​มัน+ เอา​มัน​โยน​ลง​บ่อ​น้ำ​ใน​ที่​กันดาร​นี้​ดี​กว่า ไม่​ต้อง​ไป​ทำ​ร้าย​มัน”+ รูเบน​พูด​อย่าง​นี้​เพราะ​ตั้งใจ​จะ​ช่วย​โยเซฟ​ให้​พ้น​จาก​เงื้อม​มือ​พวก​เขา จะ​ได้​พา​โยเซฟ​กลับ​ไป​หา​พ่อ

23 พอ​โยเซฟ​มา​ถึง พวก​พี่​ชาย​ก็​พา​กัน​จับ​โยเซฟ​ถอด​เสื้อ​ยาว​ตัว​พิเศษ​ที่​ใส่​อยู่​ออก+ 24 และ​จับ​เขา​โยน​ลง​บ่อ​น้ำ​ซึ่ง​ตอน​นั้น​ไม่​มี​น้ำ​แล้ว

25 จาก​นั้น พวก​พี่​ชาย​มา​นั่ง​กิน​อาหาร​กัน แล้ว​พวก​เขา​ก็​เห็น​ขบวน​คาราวาน​ของ​ชาว​อิชมาเอล+ซึ่ง​มา​จาก​กิเลอาด มี​อูฐ​บรรทุก​ยาง​ไม้​หอม​สี​ดำ น้ำมัน​ยา และ​เปลือก​ไม้​มี​ยาง+กำลัง​เดิน​ทาง​ไป​อียิปต์ 26 ยูดาห์​จึง​พูด​กับ​พวก​พี่​น้อง​ว่า “ถ้า​พวก​เรา​ฆ่า​น้อง​และ​ปก​ปิด​เรื่อง​นี้​ไว้​จะ​มี​ประโยชน์​อะไร?+ 27 ขาย​เขา+ให้​พวก​อิชมาเอล​ดี​กว่า อย่า​ไป​ทำ​ร้าย​เขา​เลย ถึง​ยัง​ไง​เขา​ก็​เป็น​น้อง​ร่วม​สาย​เลือด​เดียว​กัน​กับ​เรา” พวก​พี่​น้อง​ก็​ฟัง​เขา 28 พอ​พวก​พ่อค้า​ชาว​มีเดียน+ผ่าน​มา พวก​พี่​ชาย​จึง​ดึง​โยเซฟ​ขึ้น​จาก​บ่อ​น้ำ​แล้ว​ขาย​เขา​ให้​พวก​อิชมาเอล​เป็น​เงิน​หนัก 20 เชเขล*+ แล้ว​พวก​อิชมาเอล​ก็​พา​โยเซฟ​ไป​อียิปต์

29 หลัง​จาก​นั้น พอ​รูเบน​กลับ​มา​ที่​บ่อ​น้ำ​แล้ว​เห็น​ว่า​โยเซฟ​ไม่​อยู่​ใน​บ่อ​แล้ว เขา​ก็​ฉีก​เสื้อ​ที่​ใส่​อยู่​ด้วย​ความ​เสียใจ 30 เขา​กลับ​มา​หา​น้อง ๆ และ​ตะโกน​ว่า “เด็ก​นั่น​หาย​ไป​แล้ว! ทำ​ยัง​ไง​ดี?”

31 พวก​เขา​เลย​ฆ่า​แพะ​ตัว​ผู้​ตัว​หนึ่ง แล้ว​เอา​เสื้อ​ยาว​ของ​โยเซฟ​จุ่ม​ใน​เลือด​ของ​มัน 32 พวก​เขา​ใช้​คน​เอา​เสื้อ​ยาว​ตัว​พิเศษ​นั้น​ไป​ให้​พ่อ​ดู​และ​ให้​บอก​ว่า “พวก​เรา​พบ​เสื้อ​ตัว​นี้ ลอง​ดู​สิ​ครับ​ว่า​เป็น​เสื้อ​ยาว​ของ​ลูก​ชาย​คุณ​หรือ​เปล่า”+ 33 พอ​ยาโคบ​เอา​เสื้อ​มา​ดู​ก็​ร้อง​ออก​มา​ว่า “นี่​มัน​เสื้อ​ยาว​ของ​ลูก​ชาย​ผม​เอง! โยเซฟ​คง​ถูก​สัตว์​ป่า​กัด​ฉีก​เป็น​ชิ้น ๆ และ​ถูก​กิน​ไป​แล้ว​แน่​เลย!” 34 ยาโคบ​ฉีก​เสื้อ​ที่​ใส่​อยู่ และ​ใส่​ผ้า​กระสอบ เขา​เป็น​ทุกข์​โศก​เศร้า​ถึง​ลูก​ชาย​อยู่​หลาย​วัน 35 พวก​ลูก​ชาย​กับ​ลูก​สาว​ก็​ช่วย​กัน​ปลอบ​พ่อ แต่​พ่อ​ก็​ไม่​ดี​ขึ้น ยาโคบ​เอา​แต่​พูด​ว่า “พ่อ​เสียใจ​จน​อยาก​จะ​ลง​หลุม*+ตาย​ตาม​ลูก​ของ​พ่อ​ไป​จริง ๆ” ยาโคบ​ร้องไห้​คร่ำ​ครวญ​ถึง​โยเซฟ​อีก​หลาย​วัน

36 เมื่อ​ไป​ถึง​อียิปต์ พวก​มีเดียน​ก็​ขาย​โยเซฟ​ให้​โปทิฟาร์​ซึ่ง​เป็น​ข้าราชสำนัก​ของ​ฟาโรห์+ และ​เป็น​หัวหน้า​องครักษ์+

38 วัน​หนึ่ง ยูดาห์​แยก​จาก​พวก​พี่​น้อง​แล้ว​ไป​ตั้ง​เต็นท์​อยู่​ใกล้​กับ​ที่​ที่​ฮีราห์​ชาว​อดุลลัม​อาศัย​อยู่ 2 ที่​นั่น ยูดาห์​พบ​ลูก​สาว​ของ​ชูอา​ซึ่ง​เป็น​ชาว​คานาอัน+ เขา​แต่งงาน​กับ​เธอ​และ​มี​เพศ​สัมพันธ์​กัน 3 เธอ​ตั้ง​ท้อง แล้ว​คลอด​ลูก​ชาย ยูดาห์​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​ว่า​เอร์+ 4 แล้ว​เธอ​ก็​ท้อง​อีก​และ​คลอด​ลูก​ชาย จึง​ตั้ง​ชื่อ​ว่า​โอนัน 5 แล้ว​เธอ​ก็​คลอด​ลูก​ชาย​อีก​คน​หนึ่ง​จึง​ตั้ง​ชื่อ​ว่า​เชลาห์ ตอน​ที่​คลอด​ลูก​คน​นี้​พวก​เขา​อยู่​ที่​อัคซิบ+

6 ต่อ​มา ยูดาห์​หา​ภรรยา​ให้​เอร์​ลูก​ชาย​คน​โต เธอ​ชื่อ​ทามาร์+ 7 แต่​เอร์​ลูก​คน​โต​ของ​ยูดาห์​ทำ​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ไม่​พอ​ใจ พระ​ยะโฮวา​จึง​ประหาร​ชีวิต​เขา 8 ยูดาห์​จึง​บอก​โอนัน​ว่า “ลูก​เป็น​น้อง ก็​ต้อง​ทำ​หน้า​ที่​ของ​ตัว​เอง ลูก​ต้อง​รับ​ภรรยา​ม่าย​ของ​พี่​ชาย​มา​เป็น​ภรรยา เธอ​จะ​ได้​มี​ลูก​ไว้​สืบ​ตระกูล​ให้​พี่​ชาย​ของ​ลูก”+ 9 แต่​โอนัน​รู้​ว่า​ลูก​ที่​เกิด​มา​จะ​ไม่​ได้​เป็น​ลูก​ของ​ตัว​เอง+ ดัง​นั้น ตอน​ที่​เขา​มี​เพศ​สัมพันธ์​กับ​ภรรยา​พี่​ชาย เขา​ก็​ให้​น้ำ​อสุจิ​ตก​ลง​ที่​พื้น จะ​ได้​ไม่​ต้อง​มี​ลูก​ให้​พี่​ชาย+ 10 พระ​ยะโฮวา​เห็น​ว่า​สิ่ง​ที่​โอนัน​ทำ​นั้น​เป็น​เรื่อง​ที่​ชั่ว​ช้า พระองค์​จึง​ประหาร​ชีวิต​เขา​ด้วย+ 11 ยูดาห์​จึง​บอก​ทามาร์​ลูก​สะใภ้​ว่า “กลับ​ไป​อยู่​ที่​บ้าน​พ่อ​ของ​เธอ​ใน​ฐานะ​แม่​ม่าย​ก่อน​นะ รอ​จน​เชลาห์​ลูก​ชาย​ของ​พ่อ​โต​ก่อน” ที่​พูด​อย่าง​นี้​เพราะ​เขา​คิด​ว่า “เดี๋ยว​เขา​จะ​มา​ตาย​เหมือน​พวก​พี่​ชาย​อีก”+ ทามาร์​จึง​กลับ​ไป​อยู่​ที่​บ้าน​พ่อ​ของ​เธอ

12 ผ่าน​ไป​ระยะ​หนึ่ง ภรรยา​ของ​ยูดาห์​ซึ่ง​เป็น​ลูก​สาว​ของ​ชูอา+ก็​ตาย ยูดาห์​ไว้​ทุกข์​ให้​เธอ หลัง​จาก​นั้น เขา​ไป​หา​คน​ตัด​ขน​แกะ​ของ​เขา​ที่​เมือง​ทิมนาห์+ เขา​ไป​กับ​ฮีราห์​เพื่อน​ชาว​อดุลลัม+ 13 มี​คน​บอก​ทามาร์​ว่า “พ่อ​ผัว​ของ​เธอ​กำลัง​ไป​ตัด​ขน​แกะ​ของ​เขา​ที่​ทิมนาห์” 14 พอ​รู้​อย่าง​นั้น เธอ​จึง​เปลี่ยน​จาก​ชุด​แม่​ม่าย​และ​เอา​ผ้า​มา​คลุม​ตัว​กับ​หน้า​ไว้​แทน แล้ว​ไป​นั่ง​ที่​ประตู​เมือง​เอนาอิม​ซึ่ง​อยู่​ระหว่าง​ทาง​ไป​เมือง​ทิมนาห์ ที่​เธอ​ทำ​แบบ​นี้​ก็​เพราะ​เห็น​ว่า​เชลาห์​โต​แล้ว แต่​พ่อ​ผัว​ยัง​ไม่​ให้​เขา​แต่งงาน​กับ​เธอ+

15 พอ​ยูดาห์​เห็น​ทามาร์​ก็​คิด​ว่า​เป็น​โสเภณี​เพราะ​เธอ​คลุม​หน้า​ไว้ 16 เขา​จึง​เข้า​ไป​หา​ทามาร์​ที่​ริม​ทาง​และ​พูด​ว่า “มา​นอน​กับ​ผม​เถอะ” ตอน​นั้น​ยูดาห์​ไม่​รู้​ว่า​เธอ​คือ​ลูก​สะใภ้​ของ​ตัว​เอง+ เธอ​ถาม​ว่า “ถ้า​ดิฉัน​นอน​กับ​คุณ คุณ​จะ​ให้​อะไร​ดิฉัน?” 17 ยูดาห์​ตอบ​ว่า “ผม​จะ​ให้​คน​เอา​ลูก​แพะ​จาก​ฝูง​มา​ให้​ตัว​หนึ่ง” แต่​เธอ​ถาม​ว่า “แล้ว​คุณ​จะ​ให้​อะไร​ไว้​กับ​ดิฉัน​ก่อน เพื่อ​รับประกัน​ว่า​จะ​ให้​คน​เอา​ลูก​แพะ​มา​ให้​ดิฉัน​จริง ๆ?” 18 ยูดาห์​จึง​ถาม​ว่า “แล้ว​เธอ​จะ​เอา​อะไร​ล่ะ?” เธอ​ตอบ​ว่า “ขอ​แหวน​ตรา+กับ​สร้อย​ห้อย​แหวน​และ​ไม้เท้า​ที่​คุณ​ถือ​อยู่” เขา​ก็​เอา​ของ​พวก​นั้น​ให้​เธอ​แล้ว​ก็​นอน​กับ​เธอ เธอ​จึง​ตั้ง​ท้อง​กับ​เขา 19 หลัง​จาก​นั้น ทามาร์​ก็​ลุก​ไป เอา​ผ้า​คลุม​ออก​แล้ว​สวม​ชุด​แม่​ม่าย

20 ยูดาห์​ให้​เพื่อน​ชาว​อดุลลัม+เอา​ลูก​แพะ​ไป​ให้​ทามาร์ เพื่อ​จะ​เอา​ของ​ที่​ให้​เธอ​ไว้​คืน แต่​เขา​หา​เธอ​ไม่​พบ 21 เขา​จึง​ถาม​คน​แถว​นั้น​ว่า “โสเภณี​ประจำ​วิหาร​ใน​เมือง​เอนาอิม​คน​ที่​อยู่​ริม​ถนน​นี้​หาย​ไป​ไหน?” แต่​คน​พวก​นั้น​ตอบ​ว่า “ที่​นี่​ไม่​เคย​มี​โสเภณี​ประจำ​วิหาร” 22 เขา​ก็​กลับ​ไป​บอก​ยูดาห์​ว่า “ผม​หา​เธอ​ไม่​พบ​และ​คน​ที่​นั่น​ก็​บอก​ว่า ‘ที่​นี่​ไม่​เคย​มี​โสเภณี​ประจำ​วิหาร’” 23 ยูดาห์​จึง​พูด​ว่า “ให้​เธอ​เก็บ​ของ​พวก​นั้น​ไว้​ก็​แล้ว​กัน ไม่​ต้อง​ไป​ตาม​หา​เธอ​แล้ว จะ​ได้​ไม่​มี​ใคร​มา​หัวเราะ​เยาะ​เรา และ​ผม​ก็​พยายาม​ให้​คุณ​เอา​ลูก​แพะ​ไป​ให้​เธอ​แล้ว แต่​หา​เธอ​ไม่​พบ”

24 อีก​ประมาณ 3 เดือน​ต่อ​มา มี​คน​มา​บอก​ยูดาห์​ว่า “ทามาร์​ลูก​สะใภ้​คุณ​เป็น​โสเภณี​ไป​แล้ว เธอ​ขาย​ตัว​จน​ท้อง” ยูดาห์​จึง​บอก​ว่า “เอา​ตัว​เธอ​ออก​มา​เผา​ซะ”+ 25 ตอน​ที่​เธอ​ถูก​เอา​ตัว​ออก​มา เธอ​ให้​คน​ไป​บอก​พ่อ​ผัว​ว่า “ดิฉัน​ท้อง​กับ​คน​ที่​เป็น​เจ้าของ​ของ​พวก​นี้​แหละ” เธอ​บอก​อีก​ว่า “โปรด​ดู​เถอะ​ว่า แหวน​ตรา​กับ​สร้อย​ห้อย​แหวน​และ​ไม้เท้า​นี้​เป็น​ของ​ใคร”+ 26 ยูดาห์​จึง​ตรวจ​ดู​ของ​พวก​นั้น​และ​พูด​ว่า “เธอ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​ยิ่ง​กว่า​ผม​ซะ​อีก นี่​เป็น​เพราะ​ผม​ไม่​ได้​ยก​เธอ​ให้​เป็น​ภรรยา​เชลาห์​ลูก​ชาย​ของ​ผม”+ และ​ยูดาห์​ก็​ไม่​มี​เพศ​สัมพันธ์​กับ​เธอ​อีก

27 เมื่อ​ถึง​เวลา​คลอด​ก็​ปรากฏ​ว่า​เป็น​ลูก​แฝด 28 ตอน​ที่​คลอด ลูก​คน​หนึ่ง​ยื่น​มือ​ออก​มา ผู้​หญิง​ที่​ทำ​คลอด​จึง​เอา​ด้าย​แดง​มา​ผูก​ไว้​ทันที​และ​บอก​ว่า “คน​นี้​ออก​มา​ก่อน” 29 พอ​ลูก​คน​นี้​หด​มือ​กลับ​เข้า​ไป ลูก​อีก​คน​หนึ่ง​ก็​ออก​มา ผู้​หญิง​ที่​ทำ​คลอด​จึง​ร้อง​ว่า “ทำไม​ถึง​แหวก​ออก​มา​เอง​อย่าง​นี้?” เขา​จึง​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​คน​นี้​ว่า​เปเรศ*+ 30 แล้ว​ลูก​คน​ที่​มี​ด้าย​แดงผูก​มือ​ไว้​ก็​ออก​มา เขา​จึง​ตั้ง​ชื่อ​ว่า​เศราห์+

39 ส่วน​โยเซฟ​ถูก​พวก​อิชมาเอล+พา​มา​อียิปต์+ และ​ชาว​อียิปต์​คน​หนึ่ง​ชื่อ​โปทิฟาร์+ ซึ่ง​เป็น​ข้าราชสำนัก​ของ​ฟาโรห์​และ​เป็น​หัวหน้า​องครักษ์​ก็​ซื้อ​ตัว​โยเซฟ​จาก​พวก​เขา 2 แต่​พระ​ยะโฮวา​อยู่​กับ​โยเซฟ+ เขา​จึง​ประสบ​ความ​สำเร็จ​ใน​การ​ทำ​งาน​และ​ได้​ทำ​หน้า​ที่​ดู​แล​บ้าน​ของ​เจ้านาย​ชาว​อียิปต์​คน​นี้ 3 และ​เจ้านาย​ก็​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​อยู่​กับ​เขา และ​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​เขา​ให้​ทำ​งาน​สำเร็จ​ทุก​อย่าง

4 เจ้านาย​ชอบ​โยเซฟ​มาก​และ​ให้​โยเซฟ​เป็น​คน​รับใช้​คน​สนิท​ของ​เขา เจ้านาย​ตั้ง​โยเซฟ​ให้​ดู​แล​ทุก​เรื่อง​ใน​บ้าน​และ​ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด 5 และ​ตั้ง​แต่​นั้น พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ให้​การ​งาน​ทุก​อย่าง​ใน​บ้าน​ของ​ชาว​อียิปต์​คน​นี้​ดี​ขึ้น​เรื่อย ๆ เพราะ​โยเซฟ และ​พระ​ยะโฮวา​ยัง​ช่วย​ให้​ทุก​สิ่ง​ทั้ง​ใน​บ้าน​และ​ใน​ไร่​นา​ของ​เขา​เจริญ​รุ่งเรือง​ขึ้น​ด้วย+ 6 ใน​ที่​สุด เขา​ก็​ให้​โยเซฟ​ดู​แล​ทุก​สิ่ง​ที่​เป็น​ของ​เขา​โดย​ที่​เขา​ไม่​ต้อง​เป็น​ห่วง​อะไร​เลย เรื่อง​เดียว​ที่​เขา​ต้อง​คิด​และ​ตัดสิน​ใจ​เอง​ก็​คือ​จะ​กิน​อะไร และ​โยเซฟ​ก็​โต​ขึ้น​เป็น​หนุ่ม​รูป​หล่อ​หุ่น​ดี

7 ต่อ​มา ภรรยา​ของ​เจ้านาย​ที่​คอย​จ้อง​โยเซฟ​ตา​เป็น​มัน​ก็​พูด​ชวน​โยเซฟ​ว่า “มา​นี่​สิ​จ๊ะ มา​นอน​กับ​ฉัน​หน่อย” 8 แต่​โยเซฟ​ปฏิเสธ​และ​บอก​ภรรยา​ของ​เจ้านาย​ไป​ว่า “เจ้านาย​ไว้​ใจ​ผม​มาก ทุก​อย่าง​ใน​บ้าน​นี้ เจ้านาย​วางใจ​ให้​ผม​ดู​แล​ทั้ง​หมด 9 ใน​บ้าน​นี้​ไม่​มี​ใคร​ใหญ่​กว่า​ผม สำหรับ​ผม​แล้ว เจ้านาย​ไม่​ได้​หวง​อะไร​เลย​นอก​จาก​ตัว​คุณ​ซึ่ง​เป็น​ภรรยา​ของ​เขา จะ​ให้​ผม​ทำ​เรื่อง​ชั่ว ๆ อย่าง​นี้​ได้​ยัง​ไง? มัน​เป็น​การ​ทำ​บาป​ต่อ​พระเจ้า”+

10 ภรรยา​โปทิฟาร์​ก็​รบเร้า​โยเซฟ​ทุก​วัน​ให้​นอน​ด้วย แต่​โยเซฟ​ไม่​ยอม​นอน​กับ​เธอ และ​ไม่​ยอม​อยู่​ตาม​ลำพัง​กับ​เธอ​ด้วย 11 วัน​หนึ่ง โยเซฟ​เข้า​ไป​ทำ​งาน​ใน​บ้าน​ตาม​ปกติ แต่​ไม่​มี​คน​รับใช้​อยู่​ใน​บ้าน​เลย 12 เธอ​ก็​ดึง​เสื้อ​โยเซฟ​ไว้​และ​พูด​ว่า “มา​นอน​กับ​ฉัน​ซะ​ดี ๆ” แต่​เขา​ทิ้ง​เสื้อ​ไว้​แล้ว​หนี​ไป​ข้าง​นอก 13 พอ​เห็น​ว่า​โยเซฟ​ทิ้ง​เสื้อ​ไว้​และ​หนี​ออก​ไป​ข้าง​นอก 14 เธอ​ก็​ร้อง​เรียก​คน​รับใช้​มา​บอก​ว่า “ดู​ไอ้​คน​ฮีบรู​ที่​สามี​ฉัน​พา​มา​สิ มัน​จะ​ทำ​ให้​พวก​เรา​อับอาย​ขายหน้า มัน​เข้า​มา​หา​ฉัน​และ​จะ​ปล้ำ​ฉัน แต่​ฉัน​ร้อง​สุด​เสียง 15 พอ​มัน​เห็น​ว่า​ฉัน​ร้อง​เสียง​ดัง มัน​ก็​เลย​ทิ้ง​เสื้อ​ไว้​แล้ว​หนี​ออก​ไป​ข้าง​นอก” 16 เธอ​เอา​เสื้อ​ของ​โยเซฟ​ไว้​กับ​ตัว​จน​โปทิฟาร์​เจ้านาย​ของ​โยเซฟ​กลับ​มา​ที่​บ้าน

17 แล้ว​เธอ​ก็​บอก​เขา​ว่า “ไอ้​คน​ใช้​ชาว​ฮีบรู​ที่​คุณ​พา​มา มัน​เข้า​มา​หา​ฉัน​กะ​จะ​ทำ​ให้​ฉัน​อับอาย 18 แต่พอ​ฉัน​ร้อง​เสียง​ดัง มัน​เลย​ทิ้ง​เสื้อ​ไว้​แล้ว​หนี​ออก​ไป​ข้าง​นอก” 19 พอ​เจ้านาย​ของ​โยเซฟ​ได้​ยิน​ภรรยา​บอก​ว่า “คน​ใช้​ของ​คุณ​ทำ​กับ​ฉัน​อย่าง​นี้” ก็​โกรธ​มาก 20 เขา​จึง​จับ​โยเซฟ​ส่ง​ไป​ขัง​คุก ซึ่ง​เป็น​คุก​ที่​ใช้​ขัง​นัก​โทษ​ของ​กษัตริย์ โยเซฟ​ถูก​ขัง​ไว้​ที่​นั่น+

21 แต่​พระ​ยะโฮวา​ยัง​อยู่​กับ​โยเซฟ ยัง​รัก​เขา​เสมอ​ไม่​เปลี่ยน​แปลง และ​ช่วย​ให้​หัวหน้า​ผู้​คุม​รู้สึก​ชอบ​โยเซฟ+ 22 หัวหน้า​ผู้​คุม​จึง​ตั้ง​โยเซฟ​ให้​ควบคุม​ดู​แล​นัก​โทษ​ทุก​คน​ใน​เรือน​จำ และ​คอย​ดู​แล​ให้​พวก​นัก​โทษ​ทำ​งาน​ทุก​อย่าง​ให้​เสร็จ+ 23 หัวหน้า​ผู้​คุม​ไม่​ต้อง​ดู​แล​การ​งาน​ที่​เขา​ให้​โยเซฟ​ดู​แล​เลย เพราะ​พระ​ยะโฮวา​อยู่​กับ​โยเซฟ และ​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ให้​ทุก​สิ่ง​ที่​เขา​ทำ​ประสบ​ผล​สำเร็จ+

40 ต่อ​มา หัวหน้า​พนักงาน​ริน​เครื่อง​ดื่ม​ถวาย+กับ​หัวหน้า​พนักงาน​ทำ​ขนมปัง​ของ​กษัตริย์​อียิปต์​ได้​ทำ​ผิด​ต่อ​กษัตริย์​อียิปต์​เจ้านาย​ของ​พวก​เขา 2 ฟาโรห์​โกรธ​ข้าราชสำนัก​สอง​คน​นี้​ซึ่ง​เป็น​หัวหน้า​พนักงาน​ริน​เครื่อง​ดื่ม​ถวาย​กับ​หัวหน้า​พนักงาน​ทำ​ขนมปัง+ 3 ฟาโรห์​จึง​ขัง​พวก​เขา​ไว้​ใน​คุก​ที่​บ้าน​หัวหน้า​องครักษ์+ โยเซฟ​ก็​เป็น​นัก​โทษ​อยู่​ที่​นั่น​ด้วย+ 4 หัวหน้า​องครักษ์​ให้​โยเซฟ​อยู่​กับ​สอง​คน​นั้น​และ​คอย​รับใช้​พวก​เขา+ ข้าราชสำนัก​สอง​คน​นี้​ติด​คุก​อยู่​ระยะ​หนึ่ง

5 คืน​หนึ่ง พนักงาน​ริน​เครื่อง​ดื่ม​ถวาย​กับ​พนักงาน​ทำ​ขนมปัง​ของ​กษัตริย์​อียิปต์​ซึ่ง​ติด​คุก​อยู่​ก็​ฝัน​กัน​คน​ละ​เรื่อง และ​ความ​ฝัน​มี​ความ​หมาย​ต่าง​กัน 6 เมื่อ​โยเซฟ​มา​หา​พวก​เขา​ใน​ตอน​เช้า​วัน​รุ่ง​ขึ้น ก็​เห็น​ว่า​ทั้ง​สอง​หน้า​ตา​เศร้า ๆ 7 โยเซฟ​จึง​ถาม​ข้าราชสำนัก​ของ​ฟาโรห์​ซึ่ง​ติด​คุก​ด้วย​กัน​กับ​เขา​ว่า “ทำไม​วัน​นี้​พวก​คุณ​ดู​หดหู่​จัง​ครับ?” 8 พวก​เขา​ตอบ​ว่า “เรา​สอง​คน​ฝัน แต่​ไม่​มี​คน​บอก​เรา​ได้​ว่า​ความ​ฝัน​นี้​หมาย​ความ​ว่า​ยัง​ไง” โยเซฟ​จึง​บอก​พวก​เขา​ว่า “พระเจ้า​เท่า​นั้น​ที่​บอก​ได้+ ลอง​เล่า​ความ​ฝัน​ของ​คุณ​ให้​ผม​ฟัง​หน่อย​ได้​ไหม​ครับ”

9 หัวหน้า​พนักงาน​ริน​เครื่อง​ดื่ม​ถวาย​จึง​เล่า​ความ​ฝัน​ของ​เขา​ให้​โยเซฟ​ฟัง​ว่า “ใน​ความ​ฝัน ผม​ฝัน​เห็น​เถา​องุ่น 10 เถา​องุ่น​นั้น​มี 3 กิ่ง​ที่​ดู​เหมือน​กำลัง​แตก​กิ่ง​อ่อน แล้ว​ออก​ดอก และ​ช่อ​ดอก​ก็​กลาย​เป็น​พวง​องุ่น​สุก 11 ผม​ถือ​ถ้วย​ของ​ฟาโรห์​อยู่ ผม​จึง​เก็บ​องุ่น​มา​คั้น​น้ำ​ใส่​ถ้วย แล้ว​ส่ง​ให้​ฟาโรห์” 12 โยเซฟ​จึง​พูด​กับ​เขา​ว่า “ความ​ฝัน​ของ​คุณ​หมาย​ความ​อย่าง​นี้​ครับ กิ่ง 3 กิ่ง​นั้น​หมาย​ถึง 3 วัน 13 ดัง​นั้น อีก 3 วัน​ฟาโรห์​จะ​ปล่อย​คุณ​ออก​จาก​คุก และ​ให้​ทำ​งาน​ตำแหน่ง​เดิม+ คุณ​จะ​ได้​เสิร์ฟ​เครื่อง​ดื่ม​ให้​ฟาโรห์​เหมือน​ตอน​ที่​ยัง​เป็น​พนักงาน​ริน​เครื่อง​ดื่ม​ถวาย+ 14 แต่​พอ​คุณ​ออก​ไป​แล้ว อย่า​ลืม​ผม​นะ​ครับ ขอ​ให้​เมตตา​ผม*และ​อย่า​ลืม​บอก​เรื่อง​ผม​ให้​ฟาโรห์​รู้​ด้วย ผม​จะ​ได้​ออก​จาก​คุก​นี้​ซะ​ที 15 เพราะ​ที่​จริง​ผม​ถูก​จับ​ตัว​มา​จาก​แผ่นดิน​ของ​ชาว​ฮีบรู+ แถม​ยัง​ต้อง​มา​ติด​คุก*อยู่​ที่​นี่​ทั้ง ๆ ที่​ไม่​ได้​ทำ​ผิด​อะไร​เลย”+

16 เมื่อ​หัวหน้า​พนักงาน​ทำ​ขนมปัง​เห็น​ว่า​โยเซฟ​บอก​ความ​หมาย​ของ​ความ​ฝัน​ไป​ใน​ทาง​ดี เขา​จึง​บอก​โยเซฟ​ว่า “ผม​ก็​ฝัน​เหมือน​กัน ผม​ฝัน​เห็น​ตะกร้า​ใส่​ขนมปัง​สี​ขาว 3 ใบ​อยู่​บน​หัว​ของ​ผม 17 ใน​ตะกร้า​ที่​อยู่​บน​สุด มี​ขนม​อบ​หลาย​อย่าง​สำหรับ​ฟาโรห์ แล้ว​พวก​นก​ก็​มา​กิน​ขนม​ใน​ตะกร้า​ใบ​นั้น” 18 โยเซฟ​จึง​ตอบ​ว่า “ความ​ฝัน​ของ​คุณ​หมาย​ความ​อย่าง​นี้​ครับ ตะกร้า 3 ใบ​นั้น​หมาย​ถึง 3 วัน 19 อีก 3 วัน​ฟาโรห์​จะ​ตัด​หัว​คุณ แล้ว​เอา​คุณ​ไป​แขวน​ไว้​บน​เสา และ​พวก​นก​จะ​มา​กิน​เนื้อ​ของ​คุณ”+

20 สาม​วัน​ต่อ​มา​เป็น​วัน​เกิด​ฟาโรห์+ เขา​จัด​งาน​เลี้ยง​ข้าราชการ​ทั้ง​หมด ฟาโรห์​ให้​นำ​ตัว​หัวหน้า​พนักงาน​ริน​เครื่อง​ดื่ม​ถวาย​กับ​หัวหน้า​พนักงาน​ทำ​ขนมปัง​มา​อยู่​ต่อ​หน้า​พวก​ข้าราชการ 21 ฟาโรห์​ให้​หัวหน้า​พนักงาน​ริน​เครื่อง​ดื่ม​ถวาย​ทำ​งาน​ตำแหน่ง​เดิม เขา​จึง​ได้​เสิร์ฟ​เครื่อง​ดื่ม​ให้​ฟาโรห์​ต่อ​ไป 22 ส่วน​หัวหน้า​พนักงาน​ทำ​ขนมปัง​นั้น ฟาโรห์​ให้​เอา​ไป​แขวน​ไว้​บน​เสา ซึ่ง​ก็​เป็น​ไป​ตาม​ที่​โยเซฟ​อธิบาย​ความ​ฝัน​ไว้+ 23 แต่​หัวหน้า​พนักงาน​ริน​เครื่อง​ดื่ม​ถวาย​กลับ​ลืม​โยเซฟ​ไป​เลย+

41 เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป 2 ปี​เต็ม ฟาโรห์​ฝัน+ว่า​เขา​ยืน​อยู่​ริม​แม่น้ำ​ไนล์ 2 มี​วัว​ตัว​เมีย​ที่​งาม​และ​อ้วน​พี 7 ตัว​ขึ้น​มา​จาก​แม่น้ำ แล้ว​กิน​หญ้า​อยู่​ใน​ทุ่ง​ใกล้​แม่น้ำ​ไนล์+ 3 หลัง​จาก​นั้น มี​วัว​ตัว​เมีย​อีก 7 ตัว​ที่​น่า​เกลียด​และ​ซูบ​ผอม​ขึ้น​มา​จาก​แม่น้ำ​ไนล์ พวก​มัน​มา​ยืน​ข้าง ๆ วัว 7 ตัว​ที่​อ้วน​พี​ตรง​ริม​แม่น้ำ​นั้น 4 วัว​ที่​น่า​เกลียด​และ​ซูบ​ผอม​กิน​วัว​ที่​งาม​และ​อ้วน​พี 7 ตัว​นั้น​จน​หมด แล้ว​ฟาโรห์​ก็​ตื่น

5 แต่​ฟาโรห์​ก็​หลับ​ต่อ​และ​ฝัน​อีก​เป็น​ครั้ง​ที่ 2 ว่า มี​ต้น​ข้าว​ต้น​หนึ่ง​ออก​รวง 7 รวง​ที่​งาม​และ​มี​ข้าว​เต็ม​รวง+ 6 หลัง​จาก​นั้น มี​ต้น​ข้าว​ออก​รวง​อีก 7 รวง​ที่​ลีบ​และ​แห้ง​เพราะ​ลม​ร้อน​จาก​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ออก 7 แล้ว​รวง​ข้าว​ลีบ​ก็​กลืน​รวง​ข้าว 7 รวง​ที่​งาม​และ​มี​ข้าว​เต็ม​รวง​นั้น​จน​หมด และ​ฟาโรห์​ก็​ตื่น​จึง​รู้​ว่า​ฝัน​ไป

8 แต่​พอ​รุ่ง​เช้า ฟาโรห์​รู้สึก​ไม่​สบาย​ใจ จึง​ให้​คน​ไป​เรียก​นัก​บวช​ที่​มี​เวทมนตร์​คาถา​และ​นัก​ปราชญ์​ทั้ง​หมด​ใน​อียิปต์​มา แล้ว​เล่า​ความ​ฝัน​ให้​พวก​เขา​ฟัง แต่​ไม่​มี​ใคร​สัก​คน​อธิบาย​ความ​ฝัน​ให้​ฟาโรห์​ได้

9 ตอน​นั้น หัวหน้า​พนักงาน​ริน​เครื่อง​ดื่ม​ถวาย​จึง​บอก​ฟาโรห์​ว่า “วัน​นี้ ผม​ขอ​สารภาพ​ว่า​ผม​ทำ​อะไร​ผิด​พลาด​ไป 10 ตอน​นั้น ท่าน​โกรธ​ข้าราชสำนัก​ของ​ท่าน ท่าน​ขัง​ผม​ไว้​กับ​หัวหน้า​พนักงาน​ทำ​ขนมปัง​ใน​คุก​ที่​บ้าน​ของ​หัวหน้า​องครักษ์+ 11 แล้ว​คืน​หนึ่ง พวก​เรา​ฝัน​กัน​คน​ละ​เรื่อง​และ​ความ​หมาย​ของ​ความ​ฝัน​ก็​ต่าง​กัน+ 12 มี​หนุ่ม​ฮีบรู​ซึ่ง​เป็น​คน​รับใช้​ของ​หัวหน้า​องครักษ์​อยู่​กับ​พวก​เรา​ที่​นั่น+ พอ​พวก​เรา​เล่า​ความ​ฝัน​ให้​เขา​ฟัง+ เขา​ก็​บอก​ความ​หมาย​ของ​ความ​ฝัน​ของ​พวก​เรา​ทั้ง​สอง​คน 13 และ​เหตุ​การณ์​ก็​เกิด​ขึ้น​ตาม​ที่​เขา​พูด​ทุก​อย่าง​คือ ผม​ได้​ทำ​งาน​ตำแหน่ง​เดิม ส่วน​หัวหน้า​พนักงาน​ทำ​ขนมปัง​ถูก​แขวน​ไว้​บน​เสา”+

14 ฟาโรห์​จึง​สั่ง​ให้​คน​ไป​พา​ตัว​โยเซฟ​มา+ พวก​เขา​ก็​รีบ​เอา​ตัว​โยเซฟ​ออก​มา​จาก​คุก*+ โยเซฟ​จึง​โกน​เครา* เปลี่ยน​เสื้อ​ผ้า แล้ว​เข้า​ไป​พบ​ฟาโรห์ 15 ฟาโรห์​พูด​กับ​โยเซฟ​ว่า “เรา​ฝัน แต่​ไม่​มี​ใคร​อธิบาย​ความ​ฝัน​ให้​เรา​ได้​สัก​คน เรา​ได้​ยิน​ว่า​ถ้า​มี​คน​เล่า​ความ​ฝัน​ให้​คุณ​ฟัง คุณ​จะ​อธิบาย​ความ​หมาย​ของ​ความ​ฝัน​นั้น​ได้”+ 16 โยเซฟ​ตอบ​ฟาโรห์​ว่า “ไม่​ใช่​ผม​หรอก​ครับ​ที่​ทำ​ได้ แต่​เป็น​พระเจ้า​ต่าง​หาก​ที่​จะ​บอก​ให้​ท่าน​รู้​ความ​หมาย​ของ​ความ​ฝัน​ซึ่ง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ตัว​ท่าน​ได้”+

17 ฟาโรห์​พูด​กับ​โยเซฟ​ว่า “เรา​ฝัน​ว่า​เรา​ยืน​อยู่​ริม​ฝั่ง​แม่น้ำ​ไนล์ 18 มี​วัว​ตัว​เมีย​ที่​งาม​และ​อ้วน​พี 7 ตัว​ขึ้น​มา​จาก​แม่น้ำ​ไนล์ แล้ว​กิน​หญ้า​อยู่​ใน​ทุ่ง​ใกล้​แม่น้ำ​นั้น+ 19 แล้ว​มี​วัว​ตัว​เมีย​อีก 7 ตัว​ที่​ผอม​โซ​น่า​เกลียด​มาก​ตาม​ขึ้น​มา เรา​ไม่​เคย​เห็น​วัว​ที่​น่า​เกลียด​อย่าง​นั้น​มา​ก่อน​เลย​ใน​อียิปต์ 20 วัว​ที่​ซูบ​ผอม​และ​น่า​เกลียด​กิน​วัว​อ้วน​พี 7 ตัว​ที่​ขึ้น​มา​ก่อน​จน​หมด 21 พวก​มัน​กิน​ไป​จน​หมด แต่​ก็​ไม่​มี​ใคร​รู้​ว่า​พวก​มัน​กิน เพราะ​พวก​มัน​ยัง​ซูบ​ผอม​และ​น่า​เกลียด​เหมือน​เดิม แล้ว​เรา​ก็​ตื่น

22 “แล้ว​เรา​ก็​ฝัน​เห็น​ต้น​ข้าว​ต้น​หนึ่ง​ออก​รวง 7 รวง​ที่​งาม​และ​มี​ข้าว​เต็ม​รวง+ 23 หลัง​จาก​นั้น มี​ต้น​ข้าว​ออก​รวง​อีก 7 รวง​ที่​เหี่ยว​ลีบ​และ​แห้ง​เพราะ​ลม​ร้อน​จาก​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ออก 24 แล้ว​รวง​ข้าว​ลีบ​ก็​กลืน​รวง​ข้าว​งาม 7 รวง​นั้น​จน​หมด เรา​เล่า​ความ​ฝัน​ให้​พวก​นัก​บวช​ที่​มี​เวทมนตร์​คาถา​ฟัง+ แต่​ไม่​มี​ใคร​อธิบาย​ได้​สัก​คน”+

25 โยเซฟ​บอก​ฟาโรห์​ว่า “ความ​ฝัน​ทั้ง​สอง​เรื่อง​ของ​ฟาโรห์​มี​ความ​หมาย​เหมือน​กัน พระเจ้า​เที่ยง​แท้​บอก​ให้​ฟาโรห์​รู้​ว่า​พระองค์​กำลัง​จะ​ทำ​อะไร+ 26 วัว​ตัว​เมีย​ที่​งาม 7 ตัว​นั้น​หมาย​ถึง 7 ปี รวง​ข้าว​งาม 7 รวงนั้น​ก็​หมาย​ถึง 7 ปี​ด้วย ความ​ฝัน​ทั้ง​สอง​เรื่อง​มี​ความ​หมาย​เหมือน​กัน 27 วัว​ซูบ​ผอม​น่า​เกลียด 7 ตัว​ที่​ขึ้น​มา​ที​หลัง​หมาย​ถึง 7 ปี และ​รวง​ข้าว 7 รวง​ที่​ลีบ​และ​แห้ง​เพราะ​ลม​ร้อน​จาก​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ออก​นั้น​ก็​หมาย​ถึง 7 ปี​ที่​จะ​มี​การ​ขาด​แคลน​อาหาร 28 ตาม​ที่​ผม​ได้​บอก​ฟาโรห์​ไป​แล้ว พระเจ้า​เที่ยง​แท้​บอก​ให้​ฟาโรห์​รู้​ว่า​พระองค์​กำลัง​จะ​ทำ​อะไร

29 “และ 7 ปี​ต่อ​จาก​นี้​จะ​มี​ความ​อุดม​สมบูรณ์​ทั่ว​แผ่นดิน​อียิปต์ 30 แต่ 7 ปี​หลัง​จาก​นั้น จะ​เกิด​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​จน​ผู้​คน​ลืม​ความ​อุดม​สมบูรณ์​ที่​เคย​มี​ทั่ว​แผ่นดิน​อียิปต์​ไป​เลย การ​ขาด​แคลน​อาหาร​จะ​ทำ​ให้​แผ่นดิน​เสียหาย​อย่าง​หนัก+ 31 ผู้​คน​จะ​จำ​ไม่​ได้​ว่า​แผ่นดิน​นี้​เคย​อุดม​สมบูรณ์ เพราะ​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​ที่​เกิด​ขึ้น​นั้น​จะ​รุนแรง​มาก 32 และ​ที่​ฟาโรห์​ฝัน​ถึง​สอง​ครั้ง ก็​เป็น​เพราะ​ว่า​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​ต้องการ​ยืน​ยัน​ว่า​เรื่อง​นั้น​จะ​เกิด​ขึ้น​แน่ ๆ และ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​จะ​ทำ​ให้​เกิด​ขึ้น​เร็ว ๆ นี้

33 “ดัง​นั้น ขอ​ฟาโรห์​หา​คน​ที่​ฉลาด​และ​สุขุม​รอบคอบ​คน​หนึ่ง และ​ตั้ง​เขา​ให้​ดู​แล​ทั่ว​ทั้ง​อียิปต์ 34 และ​ขอ​ฟาโรห์​ตั้ง​พวก​เจ้าหน้าที่​ไว้​ทั่ว​แผ่นดิน​เพื่อ​คอย​ดู​แล แล้ว​ให้​ฟาโรห์​เก็บ​ผล​ผลิต​ใน​อียิปต์​ไว้ 1 ใน 5 ส่วน​ตลอด 7 ปี​ที่​อุดม​สมบูรณ์​นั้น+ 35 ใน​ช่วง 7 ปี​ที่​อุดม​สมบูรณ์​ต่อ​จาก​นี้ ให้​พวก​เขา​เก็บ​รวบ​รวม​ข้าว​ไว้​ตาม​เมือง​ต่าง ๆ และ​รักษา​ไว้​ให้​ดี ข้าว​ทั้ง​หมด​จะ​เป็น​ของ​ฟาโรห์+ 36 ข้าว​ทั้ง​หมด​จะ​เป็น​อาหาร​สำหรับ​คน​และ​สัตว์​ใน​แผ่นดิน​นี้​ใน​ช่วง 7 ปี​ที่​เกิด​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​ใน​อียิปต์ คน​กับ​สัตว์​ใน​แผ่นดิน​นี้​จะ​ได้​ไม่​ต้อง​อด​ตาย​เพราะ​ความ​อดอยาก”+

37 ฟาโรห์​กับ​ข้าราชการ​ทั้ง​หมด​เห็น​ชอบ​กับ​คำ​แนะ​นำ​นั้น 38 ฟาโรห์​จึง​พูด​กับ​พวก​ข้าราชการ​ว่า “จะ​หา​คน​แบบ​นี้​ได้​จาก​ที่​ไหน​อีก คน​ที่​มี​พลัง​ของ​พระเจ้า​แบบ​นี้” 39 แล้ว​ฟาโรห์​ก็​พูด​กับ​โยเซฟ​ว่า “พระเจ้า​ช่วย​คุณ​ให้​รู้​เรื่อง​ทั้ง​หมด​นี้ ไม่​มี​ใคร​อีก​แล้ว​ที่​จะ​ฉลาด​และ​สุขุม​รอบคอบ​เหมือน​คุณ 40 ดัง​นั้น เรา​จะ​ให้​คุณ​ดู​แล​วัง​ของ​เรา และ​ประชาชน​ของ​เรา​ทั้ง​หมด​จะ​เชื่อ​ฟัง​คุณ​ทุก​อย่าง+ มี​แต่​เรา​ที่​เป็น​กษัตริย์​เท่า​นั้น​ที่​ใหญ่​กว่า​คุณ” 41 ฟาโรห์​พูด​กับ​โยเซฟ​อีก​ว่า “ตอน​นี้ เรา​แต่ง​ตั้ง​คุณ​ให้​ดู​แล​แผ่นดิน​อียิปต์​ทั้ง​หมด”+ 42 ฟาโรห์​ถอด​แหวน​ตรา​ออก​จาก​นิ้ว​มา​สวม​ให้​โยเซฟ และ​เอา​เสื้อ​ผ้า​ที่​ทำ​จาก​ผ้า​ลินิน​เนื้อ​ดี​กับ​สร้อย​คอ​ทองคำ​สวม​ให้​เขา​ด้วย 43 นอก​จาก​นั้น ฟาโรห์​ยัง​ให้​โยเซฟ​นั่ง​รถ​ม้า​คัน​ที่​สอง​ของ​ฟาโรห์ และ​ให้​คน​ร้อง​ประกาศ​ไป​ข้าง​หน้า​เขา​ว่า “อัฟเรค”* เพื่อ​แสดง​ว่าฟาโรห์​แต่ง​ตั้ง​ให้​โยเซฟ​ดู​แล​แผ่นดิน​อียิปต์​ทั้ง​หมด

44 ฟาโรห์​พูด​กับ​โยเซฟ​อีก​ว่า “เรา​เป็น​ฟาโรห์​ก็​จริง แต่​ถ้า​ใคร​ใน​อียิปต์​จะ​ทำ​อะไร​จะ​ต้อง​มา​ขอ​อนุญาต​คุณ​ก่อน”+ 45 ฟาโรห์​ตั้ง​ชื่อ​ให้​โยเซฟ​ว่า​ศาเฟนาทปาเนอาห์*และ​ยก​อาเสนัท+ลูก​สาว​ของ​โปทิเฟรา​ปุโรหิต​เมือง​โอน*ให้​เป็น​ภรรยา​เขา แล้ว​โยเซฟ​ก็​ออก​เดิน​ทาง​ตรวจตรา​ทั่ว​อียิปต์+ 46 ตอน​ที่​โยเซฟ​เข้า​พบ*ฟาโรห์​กษัตริย์​อียิปต์​นั้น​เขา​อายุ​ได้ 30 ปี+

เมื่อ​เข้า​พบ​ฟาโรห์​แล้ว​โยเซฟ​ก็​เดิน​ทาง​ไป​ทั่ว​อียิปต์ 47 ใน​ช่วง 7 ปี​ที่​อุดม​สมบูรณ์​นั้น แผ่นดิน​มี​ผล​ผลิต​มาก​มาย 48 โยเซฟ​จึง​รวบ​รวม​ข้าว​ที่​ปลูก​ได้​ใน​อียิปต์​ใน​ช่วง 7 ปี​นั้น​ไว้​ทั้ง​หมด แล้ว​เก็บ​ไว้​ตาม​เมือง​ต่าง ๆ ข้าว​จาก​ไร่​นา​ของ​เมือง​ไหน​ก็​ให้​เก็บ​ไว้​ใน​เมือง​นั้น 49 โยเซฟ​สะสม​ข้าว​ไว้​มาก​มาย​จน​เหมือน​ทราย​ใน​ทะเล ใน​ที่​สุด​ก็​ต้อง​เลิก​นับ​เพราะ​นับ​ไม่​ไหว

50 ก่อน​ถึง​ปี​ที่​จะ​เกิด​การ​ขาด​แคลน​อาหาร โยเซฟ​มี​ลูก​ชาย 2 คน+กับ​อาเสนัท​ลูก​สาว​ของ​โปทิเฟรา​ปุโรหิต​เมือง​โอน* 51 โยเซฟ​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​คน​โต​ว่า​มนัสเสห์*+ เขา​บอก​ว่า “เป็น​เพราะ​พระเจ้า​ทำ​ให้​ผม​ลืม​ความ​ลำบาก​ทั้ง​หมด และ​ลืม​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​ที่​บ้าน​พ่อ​ของ​ผม” 52 เขา​ตั้ง​ชื่อ​ลูก​ชาย​คน​ที่​สอง​ว่า​เอฟราอิม*+ เขา​บอก​ว่า “เป็น​เพราะ​พระเจ้า​ให้​ผม​มี​ลูก​หลาน*มาก​มาย​ใน​แผ่นดิน​ที่​ผม​เคย​อยู่​อย่าง​ยาก​ลำบาก​นี้”+

53 แล้ว 7 ปี​ที่​อุดม​สมบูรณ์​ใน​อียิปต์​ก็​สิ้น​สุด​ลง+ 54 และ 7 ปี​ที่​มี​แต่​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​ก็​เริ่ม​ขึ้น​ตาม​ที่​โยเซฟ​บอก​ไว้+ เกิด​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​ขึ้น​ทั่ว​ทุก​ดินแดน แต่​ทั่ว​อียิปต์​ยัง​มี​อาหาร+ 55 แต่​เมื่อ​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​ลาม​ไป​ทั่ว​อียิปต์ ประชาชน​ก็​มา​ร้อง​ขอ​อาหาร​จาก​ฟาโรห์+ ฟาโรห์​จึง​บอก​ชาว​อียิปต์​ว่า “ไป​หา​โยเซฟ​แล้ว​ทำ​ทุก​อย่าง​ตาม​ที่​เขา​บอก”+ 56 การ​ขาด​แคลน​อาหาร​ครั้ง​นี้​เกิด​ขึ้น​ทั่ว​โลก+ โยเซฟ​จึง​เปิด​ฉาง​ข้าว​ทุก​แห่ง​เพื่อ​ขาย​ข้าว​ให้​ชาว​อียิปต์+เพราะ​เกิด​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​อย่าง​หนัก​ใน​อียิปต์ 57 คน​จาก​ทั่ว​โลก​พา​กัน​มา​ที่​อียิปต์​เพื่อ​ซื้อ​ข้าว​จาก​โยเซฟ เพราะ​เกิด​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​อย่าง​หนัก​ทั่ว​โลก+

42 เมื่อ​ยาโคบ​รู้​ว่า​ใน​อียิปต์​มี​ข้าว*+ จึง​พูด​กับ​พวก​ลูก​ชาย​ว่า “ทำไม​ลูก ๆ มัว​แต่​นั่ง​มอง​หน้า​กันและ​ไม่​คิด​จะ​ทำ​อะไร?” 2 เขา​พูด​อีก​ว่า “พ่อ​ได้​ยิน​ว่า​ที่​อียิปต์​มี​ข้าว ไป​ซื้อ​ข้าว​จาก​ที่​นั่น​มา​ให้​พวก​เรา​กิน​ประทัง​ชีวิต​เถอะ ไม่​อย่าง​นั้น​พวก​เรา​จะ​อด​ตาย​กัน​หมด”+ 3 พี่​ชาย 10 คน​ของ​โยเซฟ+จึง​ไป​ซื้อ​ข้าว​ที่​อียิปต์ 4 แต่​ยาโคบ​ไม่​ให้​เบนยามิน+น้อง​ชาย​โยเซฟ​ไป​กับ​พวก​พี่​ชาย เขา​บอก​ว่า “เดี๋ยว​จะ​เกิด​อุบัติเหตุ แล้ว​น้อง​จะ​ตาย​ไป​อีก​คน”+

5 พวก​ลูก​ชาย​ของ​อิสราเอล​จึง​ไป​ที่​อียิปต์​พร้อม​กับ​คน​อื่น ๆ ที่​ไป​ซื้อ​ข้าว​ที่​นั่น เพราะ​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​ได้​ลาม​ไป​ถึง​แผ่นดิน​คานาอัน​ด้วย+ 6 ตอน​นั้น โยเซฟ​เป็น​ผู้​มี​อำนาจ​ปกครอง​อียิปต์+ เขา​เป็น​คน​ขาย​ข้าว​ให้​คน​จาก​ทั่ว​โลก+ เมื่อ​พวก​พี่​ชาย​ของ​โยเซฟ​มา​ถึง​แล้ว ก็​พา​กัน​มา​ซบ​ลง​กับ​พื้น​แสดง​ความ​เคารพ​โยเซฟ+ 7 พอ​โยเซฟ​เห็น​พวก​พี่ ๆ ก็​จำ​ได้​ทันที แต่​โยเซฟ​ไม่​ยอม​บอก​ว่า​ตัว​เอง​เป็น​ใคร+และ​ถาม​พวก​เขา​เสียง​แข็ง​ว่า “พวก​คุณ​มา​จาก​ไหน?” พวก​เขา​ตอบ​ว่า “มา​จาก​แผ่นดิน​คานาอัน​เพื่อ​ซื้อ​ข้าว​ครับ​ท่าน”+

8 พวก​พี่​ชาย​จำ​โยเซฟ​ไม่​ได้ แต่​โยเซฟ​จำพวก​เขา​ได้ 9 ตอน​นั้น​เอง โยเซฟ​ก็​นึก​ถึง​ความ​ฝัน​เกี่ยว​กับ​พวก​พี่​ชาย+จึง​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “พวก​คุณ​เป็น​คน​สอดแนม พวก​คุณ​มา​สืบ​ดู​ว่า​แผ่นดิน​นี้​มี​จุด​อ่อน​ตรง​ไหน​ใช่​ไหม?” 10 พวก​เขา​ตอบ​ว่า “ไม่​ใช่​อย่าง​นั้น​นะ​ครับ​ท่าน พวก​เรา​มา​ใน​ฐานะ​ทาส​เพื่อ​ซื้อ​ข้าว​จาก​ท่าน​เท่า​นั้น​เอง 11 พวก​เรา​ทุก​คน​เป็น​ลูก​พ่อ​เดียว​กัน พวก​เรา​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์ ทาส​ของ​ท่าน​ไม่​ได้​มา​สอดแนม​นะ​ครับ” 12 แต่​โยเซฟ​พูด​ว่า “อย่า​มา​โกหก! พวก​คุณ​มา​ดู​ว่า​แผ่นดิน​นี้​มี​จุด​อ่อน​ตรง​ไหน” 13 พวก​เขา​จึง​ตอบ​ว่า “ทาส​ของ​ท่าน​เป็น​พี่​น้อง​กัน เรา​มี​กัน​อยู่ 12 คน+ที่​เป็น​ผู้​ชาย พวก​เรา​เป็น​ลูก​พ่อ​เดียว​กัน+อยู่​ใน​แผ่นดิน​คานาอัน ตอน​นี้​น้อง​ชาย​คน​เล็ก​อยู่​กับ​พ่อ+ ส่วน​น้อง​ชาย​อีก​คน​หนึ่ง​ไม่​อยู่​แล้ว”+

14 แต่​โยเซฟ​บอก​ว่า “เป็น​อย่าง​ที่​ผม​พูด​จริง ๆ พวก​คุณ​เป็น​คน​สอดแนม 15 ดัง​นั้น ผม​ต้อง​ดูก่อน​ว่า​ที่​พวก​คุณ​พูด​เป็น​ความ​จริง​รึ​เปล่า ถ้า​น้อง​คน​เล็ก​ของ​พวก​คุณ​ไม่​มา​ที่​นี่ ผม​ขอ​สาบาน​ใน​นาม​ของ​ฟาโรห์​ว่า​พวก​คุณ​จะ​ไม่​ได้​ไป​จาก​ที่​นี่​แน่ ๆ+ 16 ผม​จะ​ขัง​พวก​คุณ​ไว้​ก่อน และ​ให้​พวก​คุณ​คน​หนึ่ง​ไป​พา​น้อง​มา​เพื่อ​พิสูจน์​ว่า​พวก​คุณ​พูด​ความ​จริง แต่​ถ้า​ไม่​จริง​ละ​ก็ แสดง​ว่า​พวก​คุณ​เป็น​คน​สอดแนม​แน่ ๆ” 17 แล้ว​โยเซฟ​ก็​ขัง​พวก​เขา​ไว้​ด้วย​กัน 3 วัน

18 ใน​วัน​ที่​สาม โยเซฟ​บอก​พวก​เขา​ว่า “ผม​เป็น​คน​เกรง​กลัว​พระเจ้า ดัง​นั้น ให้​ทำ​ตาม​ที่​ผม​บอก​แล้ว​พวก​คุณ​จะ​รอด 19 ถ้า​พวก​คุณ​พูด​ความ​จริง ให้​พวก​คุณ​คน​หนึ่ง​อยู่​ในคุก​นี้​ต่อ​ไป​ก่อน ส่วน​คน​อื่น ๆ ก็​เอา​ข้าว​กลับ​ไป​ให้​คน​ที่​บ้าน​ซึ่ง​อดอยาก​อยู่​นั้น​ได้​กิน+ 20 แล้ว​พา​น้อง​ชาย​คน​เล็ก​มา​หา​ผม ผม​ถึง​จะ​เชื่อ​ว่า​พวก​คุณ​พูด​ความ​จริง​และ​จะ​ไว้​ชีวิต​พวก​คุณ” พวก​เขา​ตก​ลง​ทำ​ตาม​นั้น

21 พวก​เขา​พูด​กัน​ว่า “นี่​คง​เป็น​เพราะ​พวก​เรา​ได้​ทำ​ผิด​ต่อ​น้อง​แน่ ๆ+ ตอน​ที่​เขา​อ้อน​วอน​ขอ​ให้​เรา​สงสาร​เขา​นั้น​พวก​เรา​เห็น​แล้ว​ว่า​เขา​เจ็บ​ปวด​ใจ​แค่​ไหน แต่​พวก​เรา​ก็​ไม่​ฟัง​เขา​เลย พวก​เรา​ถึง​ได้​มา​ทุกข์​ลำบาก​อย่าง​นี้” 22 รูเบน​พูด​กับ​น้อง ๆ ว่า “เห็น​ไหม พี่​บอก​แล้ว​ว่า ‘อย่า​ทำ​ร้าย​น้อง​เลย’ แต่​ก็​ไม่​มี​ใคร​ฟัง​พี่+ ตอน​นี้​ถึง​เวลา​ที่​พวก​เรา​ต้อง​ชด​ใช้​ความ​ผิด​ที่​ทำ​ให้​น้อง​ตาย​แล้ว”+ 23 พวก​เขา​ไม่​รู้​ว่า​โยเซฟ​ฟัง​ออก เพราะ​ตอน​ที่​คุย​กับ​พวก​เขา​นั้น​โยเซฟ​ใช้​ล่าม 24 โยเซฟ​จึง​ออก​ไป​ร้องไห้+ แล้ว​พอ​โยเซฟ​กลับ​มา​พูด​กับ​พวก​เขา​อีก​รอบ โยเซฟ​ก็​เอา​สิเมโอน+มา​มัด​ไว้​ต่อ​หน้า​ต่อ​ตา​พวก​เขา+ 25 แล้ว​โยเซฟ​ก็​สั่ง​คน​ให้​เอา​ข้าว​ใส่​กระสอบ​ของ​พวก​เขา​ให้​เต็ม และ​ให้​เอา​เงิน​ของ​แต่​ละ​คน​ใส่​คืน​ใน​กระสอบ​ของ​พวก​เขา รวม​ทั้ง​ให้​เตรียม​อาหาร​ให้​พวก​เขา​เอา​ไป​กิน​ระหว่าง​เดิน​ทาง​ด้วย คน​ของ​โยเซฟ​ก็​ทำ​ตาม​นั้น

26 พวก​พี่​ชาย​ก็​เอา​ข้าว​บรรทุก​บน​หลัง​ลา​แล้ว​ออก​เดิน​ทาง 27 เมื่อ​ถึง​ที่​หยุด​พัก​ค้าง​คืน พอ​คน​หนึ่ง​จะ​เอา​ฟาง​ให้​ลา​กิน เขา​ก็​เปิด​กระสอบ​แล้ว​เห็น​เงิน​ของ​ตัว​เอง​อยู่​ที่​ปาก​กระสอบ 28 เขา​จึง​บอก​พวก​พี่​น้อง​ว่า “เงิน​ของ​ผม​มา​อยู่​ใน​กระสอบ​นี้​ได้​ยัง​ไง?” พวก​เขา​ก็​พา​กัน​ตกใจ​กลัว​จน​ตัว​สั่น​และ​พูด​กัน​ว่า “ทำไม​พระเจ้า​ทำ​กับ​พวก​เรา​อย่าง​นี้?”

29 เมื่อ​พวก​เขา​กลับ​มา​หา​ยาโคบ​พ่อ​ของ​พวก​เขา​ใน​แผ่นดิน​คานาอัน​แล้ว​ก็​เล่า​ทุก​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​ให้​พ่อ​ฟัง​ว่า 30 “คน​ที่​เป็น​เจ้านาย​ใน​แผ่นดิน​นั้น​พูด​เสียง​แข็ง​ใส่​พวก​เรา+ เขา​กล่าวหา​ว่า​พวก​เรา​เข้า​ไป​สอดแนม​ใน​แผ่นดิน​นั้น 31 แต่​พวก​เรา​ก็​บอก​เขา​ไป​ว่า ‘พวก​เรา​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์ ไม่​ได้​เป็น​คน​สอดแนม+ 32 พวก​เรา​เป็น​พี่​น้อง​กัน เรา​มี​กัน​อยู่ 12 คน​ที่​เป็น​ผู้​ชาย+ และ​เป็น​ลูก​พ่อ​เดียว​กัน คน​หนึ่ง​ไม่​อยู่​แล้ว+ ตอน​นี้​น้อง​ชาย​คน​เล็ก​อยู่​กับ​พ่อ​ใน​แผ่นดิน​คานาอัน’+ 33 แต่​เจ้านาย​คน​นั้น​บอก​พวก​เรา​ว่า ‘เอา​อย่าง​นี้​ก็​แล้ว​กัน ผม​จะ​ได้​รู้​ว่า​พวก​คุณ​พูด​ความ​จริง​รึ​เปล่า ให้​พวก​คุณ​คน​หนึ่ง​อยู่​กับ​ผม+ ส่วน​คน​อื่น ๆ เอา​ข้าว​กลับ​ไป​ให้​คน​ที่​บ้าน​ซึ่ง​อดอยาก​อยู่​นั้น​ได้​กิน+ 34 แล้ว​ให้​พา​น้อง​ชาย​คน​เล็ก​ของ​พวก​คุณ​มา​หา​ผม ผม​จะ​ได้​รู้​ว่า​พวก​คุณ​ไม่​ใช่​คน​สอดแนม​แต่​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์ แล้ว​ผม​จะ​คืน​พี่​น้อง​ของ​พวก​คุณ​ให้ และ​พวก​คุณ​จะ​มา​ซื้อ​ขาย​ใน​แผ่นดิน​นี้​ได้’”

35 เมื่อ​พวก​เขา​เท​ข้าว​ออก​จาก​กระสอบ ก็​พบ​ห่อ​เงิน​ของ​ตัว​เอง​อยู่​ใน​กระสอบ พอ​เห็น​ห่อ​เงิน พวก​เขา​กับ​ยาโคบ​พ่อ​ของ​พวก​เขา​ก็​กลัว​มาก 36 ยาโคบ​ร้อง​ออก​มา​ว่า “นี่​จะ​ให้​พ่อ​เสีย​ลูก​ไป​อีก​กี่​คน+ โยเซฟ​ก็​ไม่​อยู่​แล้ว+ ตอน​นี้​ก็​สิเมโอน​อีก​คน+ แล้ว​นี่​ยัง​จะ​พา​เบนยามิน​ไป​อีก ทำไม​ต้อง​เกิด​เรื่อง​แบบ​นี้​ขึ้น​กับ​พ่อ​ด้วย?” 37 แต่​รูเบน​บอก​พ่อ​ว่า “ผม​จะ​เป็น​คน​ดู​แล​เบนยามิน​เอง ผม​จะ​พา​เขา​กลับ​มา​หา​พ่อ​ให้​ได้+ ถ้า​ผม​พา​เขา​กลับ​มา​ไม่​ได้ พ่อ​ก็​เอา​ชีวิต​ลูก​ชาย​สอง​คน​ของ​ผม​ไป​ได้​เลย”+ 38 แต่​ยาโคบ​บอก​ว่า “พ่อ​ไม่​ให้​เขา​ไป เพราะ​พี่​ชาย​เขา​ตาย​ไป​แล้ว ตอน​นี้​เหลือ​แต่​เขา​คน​เดียว+ ถ้า​เกิด​อุบัติเหตุ​ขึ้น​ระหว่าง​ทาง​แล้ว​เขา​ตาย​ไป​อีก​คน​ละ​ก็ ลูก ๆ จะ​ทำ​ให้​คน​หัว​หงอก​อย่าง​พ่อ​ลง​หลุม​ศพ*+ไป​ด้วย​ความ​โศก​เศร้า”+

43 ใน​ตอน​นั้น ยัง​คง​มี​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​อย่าง​รุนแรง​ใน​แผ่นดิน​นี้+ 2 พอ​พวก​เขา​กิน​ข้าว​ที่​เอา​มา​จาก​อียิปต์​หมด​แล้ว+ พ่อ​ก็​บอก​พวก​เขา​ว่า “กลับ​ไป​ซื้อ​ข้าว​มา​ให้​พวก​เรา​อีก​หน่อย​เถอะ” 3 ยูดาห์​จึง​บอก​พ่อ​ว่า “เจ้านาย​คน​นั้น​กำชับ​พวก​เรา​ว่า ‘ถ้า​พวก​คุณ​ไม่​พา​น้อง​ชาย​มา​ด้วย ก็​อย่า​กลับ​มา​ให้​ผม​เห็น​หน้า​อีก’+ 4 ถ้า​พ่อ​ยอม​ให้​น้อง​ไป​กับ​พวก​เรา พวก​เรา​จะ​ไป​ซื้อ​ข้าว​ให้​พ่อ 5 แต่​ถ้า​พ่อ​ไม่​ยอม พวก​เรา​ก็​จะ​ไม่​ไป เพราะ​เจ้านาย​คน​นั้น​บอก​พวก​เรา​แล้ว​ว่า ‘ถ้า​พวก​คุณ​ไม่​พา​น้อง​ชาย​มา​ด้วย ก็​อย่า​กลับ​มา​ให้​ผม​เห็น​หน้า​อีก’”+ 6 อิสราเอล+จึง​ถาม​ว่า “ทำไม​ลูก​ทำ​ให้​พ่อ​ลำบาก​ใจ​อย่าง​นี้? ลูก​ไป​บอก​เขา​ทำไม​ว่า​ยัง​มี​น้อง​อีก​คน?” 7 พวก​เขา​ตอบ​ว่า “เจ้านาย​คน​นั้น​ซัก​ถาม​เรื่อง​พวก​เรา​กับ​ญาติ​พี่​น้อง​ของ​พวก​เรา​ว่า ‘พ่อ​ของ​พวก​คุณ​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​ไหม? พวก​คุณ​มี​น้อง​ชาย​อีก​ไหม?’ พวก​เรา​เลย​บอก​เขา​ไป​ตาม​ตรง+ พวก​เรา​จะ​รู้​ได้​ยัง​ไง​ว่า​เขา​จะ​บอก​ว่า ‘ให้​พา​น้อง​ชาย​ของ​พวก​คุณ​มา​ด้วย’”+

8 ยูดาห์​ก็​บอก​อิสราเอล​พ่อ​ของ​เขา​ว่า “ให้​น้อง​ไป​กับ​ผม​เถอะ+ พวก​เรา​จะ​ได้​ไป​กัน​ซะ​ที พวก​เรา​กับ​ลูก ๆ รวม​ทั้ง​พ่อ​ด้วย+จะ​ได้​มี​ชีวิต​อยู่​ต่อ​ไป ไม่​ต้อง​อด​ตาย+ 9 ผม​ขอ​รับรอง​ความ​ปลอด​ภัย​ของ​น้อง​เอง+ ผม​จะ​รับผิดชอบ​ถ้า​มี​อะไร​เกิด​ขึ้น​กับ​น้อง ถ้า​ผม​พา​น้อง​กลับ​มา​หา​พ่อ​ไม่​ได้ ผม​จะ​ขอ​แบก​รับ​ความ​ผิด​นี้​ตลอด​ไป 10 ถ้า​พวก​เรา​ไม่​มัว​ชักช้า ป่าน​นี้​พวก​เรา​คง​ไป​ถึง​ที่​นั่น​และ​กลับ​มา​ได้ 2 รอบ​แล้ว”

11 อิสราเอล​พ่อ​ของ​พวก​เขา​จึง​บอก​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น​ก็​เอา​อย่าง​นี้ พวก​ลูก​เอา​ผลิตผล​ที่​ดี​ที่​สุด​จาก​แผ่นดิน​นี้​ใส่​กระสอบ​ไป​เป็น​ของ​กำนัล​สำหรับ​เจ้านาย​คน​นั้น​ด้วย+ เอา​น้ำมันยา​ไป​สัก​หน่อย​หนึ่ง+ น้ำ​ผึ้ง​สัก​หน่อย​หนึ่ง ยาง​ไม้​หอม​สี​ดำ เปลือก​ไม้​มี​ยาง+ ถั่ว​พิสตาชิโอ แล้ว​ก็​อัลมอนด์ 12 และ​เอา​เงิน​ไป​สอง​เท่า ส่วน​เงิน​ที่​ติด​กระสอบ​กลับ​มา​คราว​ก่อน​ก็​ให้​เอา​ไป​คืน​เขา​ด้วย+ เขา​คง​ใส่​ผิด​มา 13 พา​น้อง​ไป​หา​เจ้านาย​คน​นั้น​เถอะ 14 ขอ​พระเจ้า​ผู้​มี​พลัง​อำนาจ​สูง​สุด​ช่วย​ให้​เจ้านาย​คน​นั้น​เมตตา​ลูก ๆ ด้วย เขา​จะ​ได้​ปล่อย​ให้​พี่​น้อง​อีก​คน​หนึ่ง​ของ​ลูก​กับ​เบนยามิน​กลับ​มา แต่​ถ้า​เรื่อง​นี้​ทำ​ให้​พ่อ​ต้อง​เสีย​ลูก​ไป​อีก พ่อ​ก็​คง​ต้อง​ยอม”+

15 พวก​เขา​จึง​พา​เบนยามิน​ออก​เดิน​ทาง​ไป​อียิปต์​พร้อม​กับ​ของ​กำนัล​และ​เงิน​สอง​เท่า และ​เข้า​ไป​พบ​โยเซฟ+ 16 พอ​โยเซฟ​เห็น​เบนยามิน​มา​กับ​พวก​เขา โยเซฟ​ก็​บอก​พ่อ​บ้าน​ว่า “พา​พวก​เขา​ไป​ที่​บ้าน และ​ฆ่า​สัตว์ แล้ว​เตรียม​อาหาร​ไว้​เพราะ​พวก​เขา​จะ​กิน​อาหาร​กับ​ผม​ตอน​เที่ยง​นี้” 17 พ่อ​บ้าน​ทำ​ตาม​ที่​โยเซฟ​บอก​ทันที+ พ่อ​บ้าน​พา​พวก​เขา​ไป​ที่​บ้าน​ของ​โยเซฟ 18 แต่​พวก​เขา​กลัว​เมื่อ​ถูก​พา​มา​ที่​บ้าน​ของ​โยเซฟ พวก​เขา​เลย​พูด​กัน​ว่า “คง​เป็น​เพราะ​เงิน​ที่​ติด​กระสอบ​มา​คราว​ก่อน เขา​ถึง​พา​พวก​เรา​มา​ที่​นี่ เขา​คง​จะ​เล่น​งาน​เรา จับ​พวก​เรา​เป็น​ทาส และ​ยึด​ลา​ของ​พวก​เรา​ไว้​ด้วย”+

19 พวก​เขา​จึง​เข้า​ไป​พูด​กับ​พ่อ​บ้าน​ของ​โยเซฟ​ที่​ประตู​บ้าน 20 พวก​เขา​พูด​ว่า “ขอ​โทษ​นะ​ครับ คราว​ก่อน​พวก​เรา​มา​ซื้อ​ข้าว+ 21 แต่​พอ​พวก​เรา​ถึง​ที่​พัก​ระหว่าง​เดิน​ทาง​กลับ และ​เปิด​กระสอบ​ออก​ก็​เห็น​เงิน​ของ​แต่​ละ​คน​อยู่​ครบ​ที่​ปาก​กระสอบ+ พวก​เรา​เลย​เอา​เงิน​มา​คืน​ให้​ครับ 22 และ​พวก​เรา​เอา​เงิน​มา​ซื้อ​ข้าว​อีก พวก​เรา​ไม่​รู้​จริง ๆ ว่า​ใคร​เอา​เงิน​นั้น​มา​ใส่​ไว้​ใน​กระสอบ”+ 23 พ่อ​บ้าน​บอก​ว่า “พวก​คุณ​ไม่​ต้อง​กังวล​และ​ไม่​ต้อง​กลัว เงิน​ของ​พวก​คุณ​ผม​ได้​รับ​แล้ว ส่วน​เงิน​ใน​กระสอบ​ของ​พวก​คุณ​นั้น พระเจ้า​ของ​พวก​คุณ​และ​ของ​พ่อ​พวก​คุณ​เป็น​คน​ให้​ไว้” แล้ว​พ่อ​บ้าน​ก็​พา​สิเมโอน​ออก​มา​หา​พวก​เขา+

24 เมื่อ​พา​พวก​เขา​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​ของ​โยเซฟ พ่อ​บ้าน​ก็​เอา​น้ำ​มา​ให้​พวก​เขา​ล้าง​เท้า และ​เอา​ฟาง​มา​ให้​ลา​ของ​พวก​เขา​กิน 25 เมื่อ​พวก​เขา​ได้​ยิน​ว่า​โยเซฟ​จะ​กลับ​มา​กิน​ข้าว​ด้วย+ตอน​เที่ยง​ก็​เตรียม​ของ​กำนัล​ไว้​ให้​โยเซฟ+ 26 พอ​โยเซฟ​เข้า​มา​ใน​บ้าน พวก​เขา​ก็​เอา​ของ​กำนัล​ให้​และ​หมอบ​ลง​กับ​พื้น​แสดง​ความ​เคารพ​โยเซฟ+ 27 โยเซฟ​ถาม​สาร​ทุกข์​สุก​ดิบ​ของ​พวก​เขา​และ​ถาม​ว่า “พ่อ​ผู้​ชรา​ที่​พวก​คุณ​เคย​พูด​ถึง​นั้น​สบาย​ดี​ไหม? เขา​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​รึ​เปล่า?”+ 28 พวก​เขา​ตอบ​ว่า “พ่อ​ของ​พวก​เรา​ซึ่ง​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​ท่าน​สบาย​ดี​ครับ เขา​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่” แล้ว​พวก​เขา​ก็​หมอบ​ลง​แสดง​ความ​เคารพ+

29 เมื่อ​โยเซฟ​มอง​เห็น​เบนยามิน​น้อง​ชาย​แม่​เดียว​กัน+ก็​ถาม​ว่า “คน​นี้​เป็น​น้อง​ชาย​คน​เล็ก​ที่​พวก​คุณ​เคย​พูด​ให้​ผม​ฟัง​ใช่​ไหม?”+ โยเซฟ​พูด​กับ​เบนยามิน​ว่า “ขอ​พระเจ้า​เมตตา​ลูก” 30 แล้ว​โยเซฟ​ก็​รีบ​ออก​ไป​หา​ที่​ร้องไห้​เพราะ​รู้สึก​ตื้นตัน​ใจ​ที่​ได้​เห็น​น้อง​ชาย เขา​เข้า​ไป​ร้องไห้​ใน​ห้อง​คน​เดียว+ 31 จาก​นั้น โยเซฟ​ก็​ล้าง​หน้า​และ​ออก​มา​จาก​ห้อง เขา​ควบคุม​ความ​รู้สึก​เอา​ไว้​ได้​และ​พูด​ว่า “ยก​อาหาร​มา​ได้” 32 พวก​คน​รับใช้​จัด​อาหาร​ให้​โยเซฟ ให้​พี่​น้อง​ของ​โยเซฟ และ​ให้​ชาว​อียิปต์​ที่​มา​กิน​ข้าว​กับ​โยเซฟ​ไว้​แยก​กัน เพราะ​ชาว​อียิปต์​กิน​อาหาร​กับ​ชาว​ฮีบรู​ไม่​ได้ ชาว​อียิปต์​ถือ​ว่า​การ​ทำ​อย่าง​นั้น​เป็น​เรื่อง​ที่​น่า​รังเกียจ+

33 พี่​น้อง​ของ​โยเซฟ​นั่ง​เรียง​กัน​อยู่​ข้าง​หน้า​โยเซฟ​ตาม​ที่​ที่​จัด​ไว้​ไล่​ไป​ตาม​ลำดับ ตั้ง​แต่​คน​ที่​มี​สิทธิ​ของ​ลูก​คน​โต+ไป​หา​น้อง​คน​สุด​ท้อง พวก​เขา​มอง​หน้า​กัน​ด้วย​ความ​แปลก​ใจ 34 โยเซฟ​ให้​คน​นำ​อาหาร​จาก​โต๊ะ​ของ​เขา​ไป​แบ่ง​ให้​พวก​พี่​น้อง แต่​ส่วน​แบ่ง​สำหรับ​เบนยามิน​นั้น เขา​ให้​มาก​เป็น 5 เท่า​เมื่อ​เทียบ​กับ​ของ​คน​อื่น+ พวก​เขา​จึง​กิน​และ​ดื่ม​กับ​โยเซฟ​จน​อิ่ม

44 โยเซฟ​สั่ง​พ่อ​บ้าน​ว่า “เอา​ข้าว​ใส่​กระสอบ​ของ​พวก​เขา​ให้​มาก​ที่​สุด​เท่า​ที่​พวก​เขา​จะ​ขน​ไป​ได้ และ​เอา​เงิน​ของ​แต่​ละ​คน​ใส่​ไว้​ที่​ปาก​กระสอบ​ของ​พวก​เขา+ 2 และ​เอา​ถ้วย​เงิน​ของ​ผม​กับ​เงิน​ค่า​ข้าวของ​น้อง​คน​สุด​ท้อง​ใส่​ไว้​ที่​ปาก​กระสอบ​ของ​เขา” พ่อ​บ้าน​ก็​ทำ​ตาม​ที่​โยเซฟ​สั่ง

3 พอ​รุ่ง​เช้า พวก​เขา​ก็​ออก​เดิน​ทาง​พร้อม​กับ​ลา​ของ​พวก​เขา 4 เมื่อ​พวก​เขา​ออก​จาก​เมือง​ไป​ได้​ไม่​ไกล โยเซฟ​ก็​สั่ง​พ่อ​บ้าน​ว่า “ตาม​พวก​เขา​ให้​ทัน​แล้ว​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า ‘ทำไม​พวก​คุณ​ทำ​ชั่ว​ตอบ​แทน​การ​ดี​อย่าง​นี้? 5 ทำไม​พวก​คุณ​ถึง​เอา​ถ้วย​ที่​นาย​ของ​ผม​ใช้​ดื่ม​และ​ใช้​ทำนาย​อนาคต​มา​ด้วย? พวก​คุณ​นี่​มัน​ชั่ว​จริง ๆ’”

6 พ่อ​บ้าน​ก็​ตาม​พวก​เขา​จน​ทัน และ​พูด​กับ​พวก​เขา​ตาม​นั้น 7 พวก​เขา​ตอบ​ว่า “ทำไม​ท่าน​ถึง​พูด​แบบ​นี้? ผู้​รับใช้​ของ​ท่าน​ไม่​ทำ​อย่าง​นั้น​แน่ ๆ 8 ขนาด​เงิน​ที่​พบ​อยู่​ที่​ปาก​กระสอบ​คราว​ก่อน พวก​เรา​ยัง​อุตส่าห์​เดิน​ทาง​จาก​แผ่นดิน​คานาอัน​เพื่อ​เอา​มา​คืน​ท่าน+ แล้ว​พวก​เรา​จะ​ขโมย​เงิน​หรือ​ทอง​จาก​บ้าน​เจ้านาย​ของ​ท่าน​ไป​ทำไม? 9 ถ้า​ท่าน​พบ​ว่า​ถ้วย​นั้น​อยู่​กับ​ใคร ก็​ฆ่า​เขา​ได้​เลย และ​พวก​เรา​จะ​ยอม​เป็น​ทาส​นาย​ของ​ท่าน*ด้วย” 10 พ่อ​บ้าน​จึง​บอก​ว่า “มัน​ก็​ควร​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น แต่​เอา​อย่าง​นี้​ก็​แล้ว​กัน ถ้า​พบ​ว่า​ถ้วยนั้น​อยู่​กับ​ใคร คน​นั้น​ต้อง​เป็น​ทาส​ของ​ผม ส่วน​คน​อื่น ๆ ก็​จะ​พ้น​ผิด​ไป” 11 พวก​เขา​จึง​รีบ​เอา​กระสอบ​วาง​ลง​บน​พื้น​และ​เปิด​กระสอบ​ของ​ตัว​เอง 12 พ่อ​บ้าน​ค่อย ๆ ค้น​ดู​ที​ละ​กระสอบ ตั้ง​แต่​กระสอบ​ของ​คน​โต​จน​ถึง​คน​สุด​ท้อง แล้ว​ก็​พบ​ถ้วย​นั้น​ใน​กระสอบ​ของ​เบนยามิน+

13 พอ​เห็น​อย่าง​นี้ พวก​เขา​ก็​ฉีก​เสื้อ​ที่​ใส่​อยู่ แล้ว​ยก​กระสอบ​ของ​ตัว​เอง​ขึ้น​วาง​ไว้​บน​หลัง​ลา​อย่าง​เดิม​และ​กลับ​เข้า​เมือง 14 เมื่อ​ยูดาห์+กับ​พวก​พี่​น้อง​ไป​ถึง​บ้าน​โยเซฟ ก็​พบ​โยเซฟ​ที่​นั่น พวก​เขา​จึง​เข้า​ไป​หมอบ​ลง​กับ​พื้น​ต่อ​หน้า​โยเซฟ+ 15 โยเซฟ​จึง​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “ทำไม​พวก​คุณ​ถึง​ทำ​แบบ​นี้? พวก​คุณ​ไม่​รู้​หรือ​ว่า​คน​อย่าง​ผม​ทาย​อะไร​ไว้​ก็​ถูก​หมด?”+ 16 ยูดาห์​ตอบ​ว่า “ท่าน​ครับ พวก​เรา​ไม่​มี​อะไร​จะ​พูด และ​ไม่​มี​อะไร​จะ​แก้​ตัว​อีก​แล้ว ตอน​นี้ พระเจ้า​เที่ยง​แท้​ลง​โทษ​ทาส​ของ​ท่าน​ที่​เคย​ทำ​ผิด​ไว้+ พวก​เรา​ทั้ง​หมด​เป็น​ทาส​ของ​ท่าน​แล้ว รวม​ทั้ง​คน​ที่​มี​ถ้วย​อยู่​ด้วย” 17 โยเซฟ​ตอบ​ว่า “ผม​ทำ​อย่าง​นั้น​ไม่​ได้​หรอก เฉพาะ​คน​ที่​มี​ถ้วย​เท่า​นั้น​จะ​ต้อง​อยู่​เป็น​ทาส​ของ​ผม+ ส่วน​คน​อื่น ๆ ให้​กลับ​ไป​หา​พ่อ​โดย​สวัสดิภาพ”

18 ยูดาห์​จึง​เข้า​ไป​ใกล้​โยเซฟ​แล้ว​พูด​ว่า “ท่าน​ครับ โปรด​ฟัง​ผม​พูด​ก่อน ขอ​ท่าน​อย่า​โกรธ​ทาส​ของ​ท่าน​เลย เพราะ​ท่าน​ก็​เป็น​เหมือน​ฟาโรห์+ 19 ท่าน​เคย​ถาม​ทาส​ของ​ท่าน​ว่า ‘พ่อ​ของ​พวก​คุณ​ยัง​อยู่​ไหม? พวก​คุณ​ยัง​มี​น้อง​ชาย​อีก​ไหม?’ 20 พวก​เรา​ตอบ​ท่าน​ไป​ว่า ‘พ่อ​พวก​เรา​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​และ​แก่​มาก​แล้ว พวก​เรา​มี​น้อง​ชาย​คน​สุด​ท้อง​ตอน​ที่​พ่อ​อายุ​มาก+ น้อง​ชาย​คน​นี้​มี​พี่​ชาย​แม่​เดียว​กัน​คน​หนึ่ง แต่​ว่า​ตาย​ไป​แล้ว+ ตอน​นี้​เหลือ​เขา​คน​เดียว+ และ​พ่อ​ก็​รัก​เขา​มาก’ 21 แล้ว​ท่าน​ก็​บอก​ทาส​ของ​ท่าน​ว่า ‘พา​เขา​มา​ให้​ผม​เห็น​หน้า​หน่อย’+ 22 แต่​พวก​เรา​บอก​ท่าน​ว่า ‘เด็ก​คน​นั้น​จาก​พ่อ​มา​ไม่​ได้ ถ้า​เอา​เขา​มา พ่อ​คง​ตรอม​ใจ​ตาย​แน่ ๆ’+ 23 แล้ว​ท่าน​ก็​บอก​ทาส​ของ​ท่าน​ว่า ‘ถ้า​พวก​คุณ​ไม่​พา​น้อง​คน​เล็ก​มา​ด้วย ก็​อย่า​กลับ​มา​ให้​ผม​เห็น​หน้า​อีก’+

24 “เมื่อ​พวก​เรา​กลับ​ไป​หา​พ่อ​ซึ่ง​เป็น​ทาส​ของ​ท่าน พวก​เรา​ก็​เล่า​ให้​พ่อ​ฟัง​ว่า​ท่าน​พูด​อะไร​บ้าง 25 ต่อ​มา พ่อ​บอก​ว่า ‘กลับ​ไป​ซื้อ​ข้าว​มา​ให้​พวก​เรา​อีก​หน่อย​เถอะ’+ 26 พวก​เรา​บอก​พ่อ​ว่า ‘พวก​เรา​ไป​ไม่​ได้ ถ้า​น้อง​คน​เล็ก​ไป​ด้วย​พวก​เรา​ถึง​จะ​ไป เพราะ​ถ้า​น้อง​คน​เล็ก​ไม่​ไป​ด้วย พวก​เรา​จะ​ไป​พบ​เจ้านาย​คน​นั้น​ไม่​ได้’+ 27 พ่อ​ของ​พวก​เรา​ซึ่ง​เป็น​ทาส​ของ​ท่าน​บอก​ว่า ‘ลูก​รู้​อยู่​ว่า​ภรรยา​ของ​พ่อ​มี​ลูก​ชาย​ให้​พ่อ​สอง​คน​เท่า​นั้น+ 28 คน​หนึ่ง​จาก​พ่อ​ไป​แล้ว ตอน​นั้น​พ่อ​พูด​ว่า “เขา​คง​ถูก​กัด​ฉีก​เป็น​ชิ้น ๆ ไป​แล้ว​แน่​เลย!”+ และ​ตั้ง​แต่​นั้น​มา พ่อ​ก็​ไม่​ได้​เห็น​เขา​อีก​เลย 29 ถ้า​ลูก ๆ พา​เขา​ไป​จาก​พ่อ​อีก​คน​หนึ่ง แล้ว​เกิด​อุบัติเหตุ​ทำ​ให้​เขา​ตาย​ละ​ก็ ลูก ๆ จะ​ทำ​ให้​คน​หัว​หงอก​อย่าง​พ่อ​ลง​หลุม​ศพ*+ไป​ด้วย​ความ​โศก​เศร้า’+

30 “ใน​เมื่อ​พ่อ​ของ​พวก​เรา​รัก​เขา​เท่า​ชีวิต และ​ถ้า​ตอน​นี้​ผม​กลับ​ไป​หา​พ่อ​ของ​ผม​ซึ่ง​เป็น​ทาส​ของ​ท่าน​โดย​ไม่​มี​เขา​ไป​ด้วย​ละ​ก็ 31 พ่อ​คง​ตรอม​ใจ​ตาย​แน่ ๆ แล้ว​พวก​เรา​ที่​เป็น​ทาส​ของ​ท่าน​ก็​จะ​ทำ​ให้​คน​ผม​หงอก​อย่าง​พ่อ​ลง​หลุม​ศพ*ไป​ด้วย​ความ​โศก​เศร้า 32 ทาส​ของ​ท่าน​ได้​รับรอง​ความ​ปลอด​ภัย​ของ​น้อง​คน​นี้​กับ​พ่อ​ว่า ‘ถ้า​ผม​พา​น้อง​กลับ​มา​หา​พ่อ​ไม่​ได้ ผม​จะ​ขอ​แบก​รับ​ความ​ผิด​นี้​ตลอด​ไป’+ 33 ถ้า​อย่าง​นั้น ให้​ผม​อยู่​เป็น​ทาส​ของ​ท่าน​แทน​น้อง​เถอะ​ครับ แล้ว​ให้​เขา​กลับ​ไป​กับ​พวก​พี่ ๆ 34 เพราะ​ถ้า​ไม่​มี​เขา​ไป​ด้วย ผม​จะ​กลับ​ไป​หา​พ่อ​ได้​ยัง​ไง? ผม​คงทน​เห็น​พ่อ​ตรอม​ใจ​ตาย​ไม่​ได้”

45 โยเซฟ​เก็บ​ความ​รู้สึก​ต่อ​หน้า​พวก​คน​รับใช้​ต่อ​ไป​ไม่​ไหว+ จึง​ร้อง​สั่ง​พวก​เขา​ว่า “ออก​ไป​ให้​หมด!” เมื่อ​เหลือ​แต่​พวก​พี่​น้อง​แล้ว โยเซฟ​ก็​บอก​ว่า​ตัว​เอง​เป็น​ใคร+

2 โยเซฟ​ร้องไห้​เสียง​ดัง​จน​ชาว​อียิปต์​ได้​ยิน และ​เรื่อง​นี้​รู้​ไป​ถึง​วัง​ของ​ฟาโรห์ 3 โยเซฟ​บอก​พี่​น้อง​ของ​เขา​ว่า “นี่​ผม​เอง​โยเซฟ พ่อ​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​ใช่​ไหม?” แต่​พวก​พี่​น้อง​ตกตะลึง​จน​ไม่​รู้​จะ​ตอบ​อย่าง​ไร 4 โยเซฟ​จึง​บอก​พวก​พี่​น้อง​ว่า “เข้า​มา​ใกล้ ๆ ผม​เถอะ” พวก​เขา​ก็​เข้า​มา​ใกล้​โยเซฟ

โยเซฟ​พูด​ว่า “ผม​คือ​โยเซฟ​น้อง​ชาย​ที่​พวก​พี่​ขาย​ให้​ชาว​อียิปต์+ 5 แต่​อย่า​เสียใจ​หรือ​ตำหนิ​กัน​เอง​เลย​ที่​ขาย​ผม​มา​ที่​นี่ เพราะ​พระเจ้า​ส่ง​ผม​มา​ก่อน จะ​ได้​ช่วย​ชีวิต​ผู้​คน​ไว้+ 6 เพราะ​นี่​เป็น​ปี​ที่​สอง​แล้ว​ที่​เกิด​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​ใน​แผ่นดิน​นี้+ และ​ยัง​เหลือ​อีก 5 ปี​ที่​จะ​ไม่​มี​การ​ไถ​หว่าน​หรือ​เก็บ​เกี่ยว​เลย 7 พระเจ้า​จึง​ส่ง​ผม​มา​ก่อน​เพื่อ​ช่วย​พวก​พี่​ให้​รอด​ด้วย​วิธี​ที่​พิเศษ​นี้​เพื่อ​ครอบครัว​ของ​พี่​จะ​มี​คน​เหลือ​อยู่+ใน​โลก​นี้ 8 ดัง​นั้น ไม่​ใช่​พวก​พี่​หรอก​ที่​ส่ง​ผม​มา​ที่​นี่ พระเจ้า​เที่ยง​แท้​ต่าง​หาก​ที่​ส่ง​ผม​มา เพื่อ​จะ​ตั้ง​ผม​ให้​เป็น​หัวหน้า​ที่​ปรึกษา*ของ​ฟาโรห์ เป็น​เจ้านาย​ดู​แล​ทั่ว​ราชสำนัก และ​เป็น​ผู้​ที่​ปกครอง​ทั่ว​ทั้ง​อียิปต์+

9 “พวก​พี่​รีบ​ไป​บอก​พ่อ​เถอะ​ว่า ‘โยเซฟ​ลูก​พ่อ​บอก​ว่า “พระเจ้า​ตั้ง​ผม​ให้​เป็น​เจ้านาย​ดู​แล​ทั่ว​อียิปต์​แล้ว+ รีบ​มา​หา​ผม​เถอะ​ครับ+ 10 พ่อ​จะ​ได้​อยู่​ใน​แผ่นดิน​โกเชน+ จะ​ได้​อยู่​ใกล้ ๆ ผม ทั้ง​พ่อ​ทั้ง​ลูก​หลาน​รวม​ทั้ง​ฝูง​สัตว์และ​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ของ​พ่อ 11 ผม​จะ​ดู​แล​จัด​การ​เรื่อง​อาหาร​การ​กิน​ให้​พ่อ​เอง เพราะ​จะ​มี​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​ไป​อีก 5 ปี+ ไม่​อย่าง​นั้น​พ่อ​กับ​ครอบครัว​จะ​อดอยาก และ​ทรัพย์​สมบัติ​ของ​พ่อ​ก็​จะ​หมด​ไป​ด้วย”’ 12 พวก​พี่ ๆ กับ​เบนยามิน​น้อง​ของ​ผม​ก็​เห็น​กับ​ตา​แล้ว​ว่า คน​ที่​พูด​กับ​พวก​พี่​อยู่​ตอน​นี้​คือ​ผม​จริง ๆ+ 13 ดัง​นั้น ไป​เล่า​เรื่อง​ความ​มั่งคั่ง​และ​ยศ​ศักดิ์​อัน​สูง​ส่ง​ของ​ผม​ใน​อียิปต์​ให้​พ่อ​ฟัง​ให้​หมด รวม​ทั้ง​ทุก​สิ่ง​ที่​พวก​พี่​ได้​เห็น แล้ว​รีบ​พา​พ่อ​มา​ที่​นี่”

14 แล้ว​โยเซฟ​กับ​เบนยามิน​ก็​กอด​คอ​กัน​ร้องไห้+ 15 โยเซฟ​จูบ​พี่​ชาย​ทุก​คน​และ​กอด​กัน​ร้องไห้ จาก​นั้น พวก​พี่​น้อง​กับ​โยเซฟ​ก็​พูด​คุย​กัน

16 ข่าว​ที่​ว่า “พวก​พี่​น้อง​ของ​โยเซฟ​มา” ได้​ยิน​ไป​ถึง​วัง​ฟาโรห์ ฟาโรห์​กับ​พวก​ข้าราชสำนัก​ก็​พา​กัน​ยินดี 17 ฟาโรห์​จึง​พูด​กับ​โยเซฟ​ว่า “ไป​บอก​พวก​พี่​น้อง​ของ​คุณ​ว่า ‘ให้​ทำ​อย่าง​นี้ ให้​เอา​ของ​บรรทุก​หลัง​สัตว์​กลับ​ไป​แผ่นดิน​คานาอัน 18 แล้ว​พา​พ่อ​กับ​ครอบครัว​ของ​ทุก​คน​มา​หา​เรา เรา​จะ​ได้​ให้​ของ​ดี ๆ ใน​อียิปต์ และ​ให้​พวก​คุณ​ได้​กิน​ผลิตผล​จาก​บริเวณ​ที่​อุดม​สมบูรณ์​ที่​สุด​ใน​แผ่นดิน​นี้’+ 19 แล้ว​บอก​พวก​เขา​ว่า+ ‘เอา​เกวียน+จาก​อียิปต์​ไป​รับ​ภรรยา​กับ​ลูก​ของ​พวก​คุณ และ​รับ​พ่อ​ของ​พวก​คุณ​มา​ที่​นี่+ 20 อย่า​ไป​เสียดาย​ข้าวของ​อะไร​เลย+ เพราะ​สิ่ง​ดี​ที่​สุด​จาก​ทั่ว​อียิปต์​จะ​เป็น​ของ​พวก​คุณ’”

21 พวก​ลูก​ชาย​ของ​อิสราเอล​ก็​ทำ​ตาม​นั้น โยเซฟ​จัด​เกวียน​ให้​พวก​เขา​ตาม​ที่​ฟาโรห์​สั่ง และ​จัด​เสบียง​ให้​พวก​เขา​เอา​ไว้​กิน​ระหว่าง​เดิน​ทาง​ด้วย 22 โยเซฟ​ให้​เสื้อ​ผ้า​ใหม่​กับ​พวก​เขา​คน​ละ​ชุด แต่​สำหรับ​เบนยามิน เขา​ให้​เงิน​หนัก 300 เชเขล*กับ​เสื้อ​ผ้า​ใหม่ 5 ชุด+ 23 สำหรับ​พ่อ โยเซฟ​ให้​พวก​เขา​เอา​ลา 10 ตัว​ที่​บรรทุก​ของ​ดี ๆ จาก​อียิปต์​กับ​ลา​ตัว​เมีย 10 ตัว​ที่​บรรทุก​ข้าว ขนมปัง และ​อาหาร​อื่น ๆ สำหรับ​ให้​พ่อ​ไว้​กิน​ระหว่าง​เดิน​ทาง 24 โยเซฟ​ออก​มา​ส่ง​พวก​พี่​น้อง และ​บอก​พวก​เขา​ว่า “ระหว่าง​เดิน​ทาง​พี่ ๆ อย่า​ทะเลาะ​กัน​นะ”+

25 พวก​เขา​ออก​จาก​อียิปต์​ไป​หา​ยาโคบ​พ่อ​ของ​พวก​เขา​ใน​แผ่นดิน​คานาอัน 26 และ​เล่า​ให้​ยาโคบ​ฟัง​ว่า “โยเซฟ​ยัง​ไม่​ตาย แถม​ยัง​ได้​ปกครอง​ทั่ว​อียิปต์”+ ยาโคบ​ฟัง​แล้ว​ก็​รู้สึก​เฉย ๆ เพราะ​ไม่​เชื่อ​พวก​เขา+ 27 แต่​เมื่อ​ได้​ยิน​พวก​เขา​เล่า​ให้​ฟัง​ว่า​โยเซฟ​พูด​อะไร​บ้าง และ​ได้​เห็น​เกวียน​ที่​โยเซฟ​ส่ง​มา​รับ ยาโคบ​ก็​กลับ​มา​สดชื่น​ขึ้น​อีก​ครั้ง 28 แล้ว​อิสราเอล​ก็​พูด​ขึ้น​มา​ว่า “พ่อ​เชื่อ​แล้ว​ว่า​โยเซฟ​ลูก​ของ​พ่อ​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่ พ่อ​จะ​ไป​หา​เขา​ก่อน​พ่อ​จะ​ตาย”+

46 อิสราเอล​ออก​เดิน​ทาง​ไป​พร้อม​กับ​ครอบครัว​และ​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ของ​เขา เมื่อ​มา​ถึง​เบเออร์เชบา+ เขา​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ให้​พระเจ้า​ของ​อิสอัค​พ่อ​ของ​เขา+ 2 ตอน​กลางคืน พระเจ้า​พูด​กับ​อิสราเอล​ทาง​นิมิต​ว่า “ยาโคบ ยาโคบ” เขา​ตอบ​ว่า “ผม​อยู่​นี่​ครับ” 3 พระองค์​พูด​ว่า “เรา​เป็น​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​และ​เป็น​พระเจ้า​ของ​พ่อ​เจ้า+ เจ้า​ไป​อียิปต์​ได้​โดย​ไม่​ต้อง​กลัว เพราะ​ที่​นั่น​เรา​จะ​ให้​เจ้า​กลาย​เป็น​ชาติ​ใหญ่+ 4 เรา​จะ​ไป​อียิปต์​กับ​เจ้า​และ​เรา​จะ​พา​เจ้า​กลับ​มา+ เมื่อ​เจ้า​ตาย โยเซฟ​จะ​เป็น​คน​เอา​มือ​มา​ปิด​ตา​ให้​เจ้า”+

5 แล้ว​ยาโคบ​ก็​ออก​เดิน​ทาง​จาก​เบเออร์เชบา พวก​ลูก​ชาย​ให้​พ่อ ให้​ภรรยา​ของ​พวก​เขา​กับ​ลูก ๆ ขึ้น​เกวียน​ที่​ฟาโรห์​ส่ง​มา​รับ 6 พวก​เขา​นำ​ฝูง​สัตว์​กับ​ทรัพย์​สมบัติ​ที่​สะสม​ตอน​อยู่​ใน​แผ่นดิน​คานาอัน​ไป​ด้วย แล้ว​ยาโคบ​กับ​ลูก​หลาน​ทุก​คน​ก็​มา​ถึง​อียิปต์ 7 เขา​พา​ลูก​หลาน​ทุก​คน คือ​ลูก​ชาย​กับ​หลาน​ชาย​และ​ลูก​สาว​กับ​หลาน​สาว​ของ​เขา​มา​อียิปต์

8 ลูก​หลาน​ของ​อิสราเอล​ที่​มา​อียิปต์+ คือ​ลูก​หลาน​ของ​ยาโคบ มี​ราย​ชื่อ​ดัง​ต่อ​ไป​นี้ ลูก​คน​โต​ของ​ยาโคบ​ชื่อ​รูเบน+

9 รูเบน​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​ฮาโนค ปัลลู เฮสโรน และ​คาร์มี+

10 สิเมโอน+มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เยมูเอล ยามีน โอหาด ยาคีน โศหาร์ และ​ชาอูล+ซึ่ง​เป็น​ลูก​ของ​ผู้​หญิง​ชาว​คานาอัน

11 เลวี+มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เกอร์โชน โคฮาท และ​เมรารี+

12 ยูดาห์+มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เอร์ โอนัน เชลาห์+ เปเรศ+ และ​เศราห์+ แต่​เอร์​กับ​โอนัน​ตาย​ใน​แผ่นดิน​คานาอัน+

เปเรศ​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เฮสโรน​กับ​ฮามูล+

13 อิสสาคาร์​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​โทลา ปูวาห์ ยอบ และ​ชิมโรน+

14 เศบูลุน+มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​เสเรด เอโลน และ​ยาเลเอล+

15 คน​ทั้ง​หมด​นี้​กับ​ดีนาห์​ลูก​สาว​ยาโคบ​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​เลอาห์​กับ​ยาโคบ​ที่​เกิด​ใน​ปัดดานอารัม+ ลูก​หลาน​ชาย​หญิง​รวม​ทั้ง​หมด​มี 33 คน

16 กาด+ มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​ศิฟีโยน ฮักกี ชูนี เอสโบน เอรี อา​โร​ดี และ​อาเรลี+

17 อาเชอร์+มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​อิมนาห์ อิชวาห์ อิชวี และ​เบรียาห์ ลูก​สาว​ของ​อาเชอร์​ชื่อ​เสราห์

ลูก​ชาย​เบรียาห์​ชื่อ​เฮเบอร์​และ​มัลคีเอล+

18 คน​ทั้ง 16 คน​นี้​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​ศิลปาห์+กับ​ยาโคบ ศิลปาห์​เป็น​สาว​ใช้​ที่​ลาบัน​ยก​ให้​เลอาห์​ลูก​สาว​ของ​เขา

19 ราเชล​ภรรยา​ของ​ยาโคบ​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​โยเซฟ+กับ​เบนยามิน+

20 โยเซฟ​กับ​อาเสนัท+ลูก​สาว​โปทิเฟรา​ปุโรหิต​เมือง​โอน*มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​มนัสเสห์+กับ​เอฟราอิม+ซึ่ง​เกิด​ใน​อียิปต์

21 เบนยามิน​มี​ลูก​หลาน+ชื่อ​เบลา เบเคอร์ อัชเบล เกรา+ นาอามาน เอไฮ โรช มัปปิม หุปปิม+ และ​อาร์ด+

22 คน​ที่​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​ราเชล​กับ​ยาโคบ รวม​ทั้ง​หมด​มี 14 คน

23 ดาน+มี​ลูก​ชาย*ชื่อ​หุชิม+

24 นัฟทาลี+มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​ยาเซเอล กูนี เยเซอร์ และ​ชิลเลม+

25 คน​ทั้ง 7 คน​นี้​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​บิลฮาห์​กับ​ยาโคบ บิลฮาห์​เป็น​สาว​ใช้​ที่​ลาบัน​ยก​ให้​ราเชล​ลูก​สาว​ของ​เขา

26 ลูก​หลาน​ทั้ง​หมด​ของ​ยาโคบ​ที่​มา​อียิปต์​พร้อม​กับ​เขา​รวม​แล้ว​มี 66 คน ไม่​นับ​พวก​ลูก​สะใภ้+ 27 โยเซฟ​มี​ลูก​ชาย​ที่​เกิด​ใน​อียิปต์ 2 คน คน​ใน​ครอบครัว​ยาโคบ​ซึ่ง​มา​อียิปต์​มี​ทั้ง​หมด 70 คน+

28 ยาโคบ​ให้​ยูดาห์+ไป​ส่ง​ข่าว​บอก​โยเซฟ​ก่อน​ว่า​เขา​กำลัง​เดิน​ทาง​มา​โกเชน เมื่อ​พวก​เขา​มา​ถึง​แผ่นดิน​โกเชน+ 29 โยเซฟ​ก็​ขึ้น​รถ​ม้า​ที่​เตรียม​ไว้​ไป​หา​อิสราเอล​พ่อ​ของ​เขา​ที่​โกเชน พอ​เห็น​พ่อ เขา​ก็​เข้า​ไป​กอด​ทันที​และ​ร้องไห้​ไม่​หยุด 30 แล้ว​อิสราเอล​พูด​กับ​โยเซฟ​ว่า “พ่อ​มา​เห็น​กับ​ตา​ตัว​เอง​แล้ว​ว่า​ลูก​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่ ที​นี้​พ่อ​จะ​ได้​นอน​ตาย​ตา​หลับ​ซะ​ที”

31 โยเซฟ​บอก​พวก​พี่​น้อง​กับ​คน​ใน​ครอบครัว​ของ​พ่อ​ว่า “ผม​จะ​ไป​บอก​ฟาโรห์+ว่า ‘พี่​น้อง​ของ​ผม​กับ​คน​ใน​ครอบครัว​ของ​พ่อ​ผม​จาก​แผ่นดิน​คานาอัน​มา​หา​ผม​ที่​นี่​แล้ว+ 32 พวก​เขา​เป็น​คน​เลี้ยง​แกะ+และ​เลี้ยง​สัตว์​ต่าง ๆ+ พวก​เขา​เอา​ฝูง​สัตว์​และ​ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ของ​พวก​เขา​มา​ด้วย’+ 33 เมื่อ​ฟาโรห์​ให้​เข้า​พบ​และ​ถาม​ว่า ‘พวก​คุณ​ทำ​งาน​อะไร​กัน?’ 34 ขอ​ให้​ตอบ​ว่า ‘ผู้​รับใช้​ของ​ท่าน​เป็น​คน​เลี้ยง​สัตว์​เหมือน​บรรพบุรุษ​มา​ตั้ง​แต่​เด็ก​จน​ถึง​เดี๋ยว​นี้’+ ฟาโรห์​จะ​ได้​ให้​ทุก​คน​อยู่​ที่​แผ่นดิน​โกเชน+ เพราะ​ชาว​อียิปต์​รังเกียจ​พวก​คน​เลี้ยง​แกะ”+

47 โยเซฟ​เข้า​พบ​ฟาโรห์​และ​พูด​ว่า+ “พ่อ​กับ​พวก​พี่​น้อง​ของ​ผม​ได้​นำ​ฝูง​สัตว์​และ​ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ของ​พวก​เขา​มา​จาก​แผ่นดิน​คานาอัน​แล้ว ตอน​นี้​พวก​เขา​อยู่​ใน​แผ่นดิน​โกเชน”+ 2 แล้ว​โยเซฟ​ก็​พา​พี่​น้อง 5 คน​ไป​พบ​ฟาโรห์+

3 ฟาโรห์​ถาม​พี่​น้อง​ของ​โยเซฟ​ว่า “พวก​คุณ​ทำ​งาน​อะไร​กัน?” พวก​เขา​ตอบ​ว่า “พวก​เรา​ซึ่ง​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​ท่าน​เป็น​คน​เลี้ยง​แกะ​มา​ตั้ง​แต่​สมัย​บรรพบุรุษ”+ 4 พวก​เขา​บอก​ฟาโรห์อีก​ว่า “พวก​เรา​ซึ่ง​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​ท่าน​ไม่​มี​หญ้า​เลี้ยง​ฝูง​สัตว์ เนื่อง​จาก​เกิด​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​อย่าง​หนัก​ใน​แผ่นดิน​คานาอัน+ พวก​เรา​จึง​มา​อาศัย​ใน​แผ่นดิน​นี้​อย่าง​คน​ต่าง​ชาติ+ ขอ​ให้​ผู้​รับใช้​ของ​ท่าน​อาศัย​ใน​แผ่นดิน​โกเชน​เถอะ​ครับ”+ 5 ฟาโรห์​พูด​กับ​โยเซฟ​ว่า “พ่อ​กับ​พี่​น้อง​ของ​คุณ​มา​หา​คุณ​ถึง​ที่​นี่​แล้ว 6 คุณ​จะ​ให้​พวก​เขา​อยู่​ที่​ไหน​ก็​ได้​ใน​อียิปต์ หรือ​ถ้า​พ่อ​กับ​พี่​น้อง​ของ​คุณ​อยาก​จะ​อยู่​ใน​โกเชน​ซึ่ง​เป็น​ที่​ที่​ดี​ที่​สุด​ใน​แผ่นดิน​นี้​ก็​ได้+ และ​ถ้า​เห็น​ว่า​ใคร​มี​ความ​สามารถ ก็​ตั้ง​เขา​ให้​ดู​แล​ฝูง​สัตว์​ของ​เรา​ด้วย”

7 แล้ว​โยเซฟ​ก็​พา​ยาโคบ​พ่อ​ของ​เขา​ไป​พบ​ฟาโรห์ ยาโคบ​ก็​อวยพร​ฟาโรห์ 8 ฟาโรห์​ถาม​ยาโคบ​ว่า “ตอน​นี้​อายุ​เท่าไหร่​แล้ว?” 9 ยาโคบ​ตอบ​ฟาโรห์​ว่า “ผม​มี​ชีวิต​เร่ร่อน*มา 130 ปี​แล้ว แต่​ชีวิต​ของ​ผม​ลำบาก+และ​ไม่​ยืน​ยาว​เท่า​กับ​บรรพบุรุษ​ที่​ใช้​ชีวิต​เร่ร่อน*เหมือน​กัน”+ 10 ยาโคบ​อวยพร​ฟาโรห์ เสร็จ​แล้ว​ก็​ลา​ไป

11 โยเซฟ​จึง​ให้​พ่อ​กับ​พี่​น้อง​ของ​เขา​อยู่​ใน​อียิปต์ และ​ยก​ที่​แห่ง​หนึ่ง​ใน​แผ่นดิน​อียิปต์​ซึ่ง​เป็น​ที่​ที่​ดี​ที่​สุด​ใน​ราเมเสส+ให้​พวก​เขา​ตาม​ที่​ฟาโรห์​สั่ง 12 โยเซฟ​ดู​แล​จัด​การ​เรื่อง​อาหาร​การ​กิน​ให้​พ่อ​กับ​พวก​พี่​น้อง​รวม​ทั้ง​ทุก​คน​ใน​บ้าน​ของ​พ่อ​เป็น​ประจำ โดย​จัด​ให้​ตาม​จำนวน​คน​ใน​แต่​ละ​ครอบครัว

13 ตอน​นั้น ใน​อียิปต์​และ​คานาอัน​ไม่​มี​อาหาร​เพราะ​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​ครั้ง​นั้น​รุนแรง​มาก ชาว​อียิปต์​และ​ชาว​คานาอัน​ต่าง​ก็​อ่อน​ระโหย​โรย​แรง​เพราะ​ไม่​มี​อะไร​จะ​กิน+ 14 ส่วน​โยเซฟ​ก็​รวบ​รวม​เงิน​ทั้ง​หมด​ที่​ได้​จาก​การ​ขาย​ข้าว*+ให้​ชาว​อียิปต์​และ​ชาว​คานาอัน​ไป​ไว้​ใน​คลัง​ทรัพย์​ของ​ฟาโรห์ 15 เมื่อ​ชาว​อียิปต์​กับ​ชาว​คานาอัน​ไม่​มี​เงิน​เหลือ​แล้ว ชาว​อียิปต์​มา​พูด​กับ​โยเซฟ​ว่า “ขอ​อาหาร​ให้​พวก​เรา​กิน​หน่อย​เถอะ ไม่​อย่าง​นั้น​พวก​เรา​คง​ต้อง​ตาย​ต่อ​หน้า​ท่าน​เพราะ​พวก​เรา​ไม่​มี​เงิน​แล้ว” 16 โยเซฟ​บอก​ว่า “ถ้า​เงิน​หมด​แล้ว​ก็​เอา​ฝูง​สัตว์​ของ​พวก​คุณ​มา​ให้​ผม แล้ว​ผม​จะ​ให้​อาหาร​แลก​กับ​ฝูง​สัตว์​ของ​พวก​คุณ” 17 พวก​เขา​ก็​เอา​ฝูง​สัตว์​มา​ให้​โยเซฟ โยเซฟ​จึง​เอา​อาหาร​มา​แลก​กับ​ฝูง​ม้า ฝูง​แกะ ฝูง​วัว และ​ฝูง​ลา​ของ​พวก​เขา ใน​ปี​นั้น โยเซฟ​เอา​อาหาร​แลก​ฝูง​สัตว์​ของ​พวก​เขา​ไว้​ทั้ง​หมด

18 แล้ว​ปี​นั้น​ก็​ผ่าน​ไป ใน​ปี​ถัด​มา​พวก​เขา​มา​บอก​โยเซฟ​ว่า “พวก​เรา​ขอ​บอก​ท่าน​ตาม​ตรง​ว่า เงิน​และ​ฝูง​สัตว์​นั้น​พวก​เรา​ให้​ท่าน​ไป​หมด​แล้ว พวก​เรา​ไม่​มี​อะไร​จะ​ให้​ท่าน​อีกแล้ว นอก​จาก​ตัว​กับ​ที่​ดิน 19 พวก​เรา​คง​ต้อง​ตาย​ต่อ​หน้า​ท่าน​แล้ว​ที่​ดิน​ก็​จะ​ถูก​ทิ้ง​ร้าง พวก​เรา​ขอ​เอา​ตัว​กับ​ที่​ดิน​ของ​พวก​เรา​แลก​กับ​อาหาร พวก​เรา​จะ​ยอม​เป็น​ทาส​ฟาโรห์​และ​ที่​ดิน​ของ​พวก​เรา​ก็​จะ​เป็น​ของ​ฟาโรห์​ด้วย ขอ​เมล็ด​พันธุ์​ข้าว​ให้​พวก​เรา​หน่อย​เถอะ พวก​เรา​จะ​ได้​ไม่​อด​ตาย และ​ที่​ดิน​ของ​พวก​เรา​จะ​ได้​ไม่​ถูก​ทิ้ง​ร้าง” 20 โยเซฟ​จึง​ซื้อ​ที่​ดิน​ทั้ง​หมด​จาก​ชาว​อียิปต์​ให้​ฟาโรห์ เพราะ​ชาว​อียิปต์​ทุก​คน​ต่าง​ก็​ขาย​ไร่​นา​ของ​ตัว​เอง​เนื่อง​จาก​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​อย่าง​หนัก​ครั้ง​นั้น ที่​ดิน​ทั้ง​หมด​จึง​ตก​เป็น​ของ​ฟาโรห์

21 โยเซฟ​ให้​ประชาชน​ย้าย​เข้า​มา​อยู่​ตาม​เมือง​ต่าง ๆ ทั่ว​อียิปต์+ 22 มี​แต่​ที่​ดิน​ของ​พวก​ปุโรหิต​เท่า​นั้น​ที่​โยเซฟ​ไม่​ได้​ซื้อ+เพราะ​ฟาโรห์​ปัน​ส่วน​อาหาร​ให้​พวก​เขา พวก​ปุโรหิต​จึง​ไม่​ได้​ขาย​ที่​ดิน​ของ​เขา 23 โยเซฟ​บอก​ประชาชน​ว่า “ตอน​นี้ ผม​ซื้อ​ตัว​คุณ​กับ​ที่​ดิน​ของ​พวก​คุณ​ให้​เป็น​ของ​ฟาโรห์​แล้ว พวก​คุณ​เอา​เมล็ด​ข้าว​นี้​ไป​หว่าน​ใน​นา 24 แล้ว​เมื่อ​พวก​คุณ​เก็บ​เกี่ยว​ก็​ให้​เอา 1 ใน 5 ของ​ผล​ผลิต​ที่​เก็บ​เกี่ยว​ได้​ให้​ฟาโรห์+ แล้ว​อีก 4 ส่วน​ที่​เหลือ พวก​คุณ​เอา​ไว้​ใช้​เป็น​เมล็ด​พันธุ์​และ​เป็น​อาหาร​สำหรับ​ตัว​เอง​กับ​คน​ใน​บ้าน​และ​ลูก ๆ” 25 พวก​เขา​พูด​ว่า “ท่าน​ช่วย​ชีวิต​พวก​เรา​ไว้+ ขอ​ท่าน​เมตตา​พวก​เรา​ด้วย พวก​เรา​จะ​ได้​เป็น​ทาส​ของ​ฟาโรห์”+ 26 โยเซฟ​จึง​ออก​เป็น​กฎหมาย​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้​ว่า ที่​ดิน​ทั่ว​ทั้ง​อียิปต์​ต้อง​ให้​พืช​ผล 1 ใน 5 ส่วน​กับ​ฟาโรห์ ใน​ประเทศ​นั้น​มี​แต่​ที่​ดิน​ของ​ปุโรหิต​เท่า​นั้น​ซึ่ง​ไม่​ได้​ตก​เป็น​ของ​ฟาโรห์+

27 ชาว​อิสราเอล​อยู่​ที่​โกเชน​ใน​อียิปต์+และ​ตั้ง​ถิ่น​ฐาน​ที่​นั่น พวก​เขา​มี​ลูก​หลาน​และ​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น​มาก​มาย+ 28 ยาโคบ​อยู่​ใน​อียิปต์ 17 ปี ดัง​นั้น ตอน​ที่​ยาโคบ​ตาย เขา​อายุ​ได้ 147 ปี+

29 ตอน​ที่​อิสราเอล​ใกล้​จะ​ตาย+ เขา​เรียก​โยเซฟ​ลูก​ชาย​มา​บอก​ว่า “ถ้า​ลูก​เห็น​แก่​พ่อ เอา​มือ​มา​วาง​ไว้​ใต้​ต้น​ขา​พ่อ​และ​สาบาน​ว่า​ลูก​จะ​รัก​พ่อ​จริง ๆ*และ​เป็น​คน​ที่​พ่อ​วางใจ​ได้ ขอ​ลูก​อย่า​ฝัง​พ่อ​ไว้​ใน​อียิปต์+ 30 เมื่อ​พ่อ​ตาย​แล้ว ให้​เอา​ศพ​พ่อ​ออก​จาก​อียิปต์​ไป​ฝัง​ไว้​ใน​ที่​ฝัง​ศพ​บรรพบุรุษ​ของ​พ่อ”+ โยเซฟ​ตอบ​ว่า “ครับ​พ่อ ผม​จะ​ทำ​ตาม​ที่​พ่อ​บอก” 31 อิสราเอล​บอก​อีก​ว่า “สาบาน​กับ​พ่อ​หน่อย​ได้​ไหม” โยเซฟ​ก็​สาบาน+ แล้ว​อิสราเอล​ก็​หมอบ​ลง​อธิษฐาน​ที่​หัว​เตียง+

48 ต่อ​มา มี​คน​มา​บอก​โยเซฟ​ว่า “พ่อ​ของ​คุณ​อาการ​ไม่​ค่อย​ดี​แล้ว” โยเซฟ​จึง​พา​มนัสเสห์​กับ​เอฟราอิม​ลูก​ชาย​ทั้ง​สอง​ไป​หา​ยาโคบ+ 2 พอ​ยาโคบ​รู้​ว่า​โยเซฟ​ลูก​ชาย​มา​หา เขา*จึง​รวบ​รวม​กำลัง​แล้ว​ลุก​ขึ้น​นั่ง​บน​เตียง 3 ยาโคบ​พูด​กับ​โยเซฟ​ว่า

“พระเจ้า​ผู้​มี​พลัง​อำนาจ​สูง​สุด​มา​หา​พ่อ​ที่​เมือง​ลูส​ใน​แผ่นดิน​คานาอัน และ​อวยพร​พ่อ+ 4 พระองค์​พูด​กับ​พ่อ​ว่า ‘เรา​จะ​ให้​เจ้า​มี​ลูก​หลาน​มาก​มาย​และ​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น เรา​จะ​ทำ​ให้​เจ้า​กลาย​เป็น​ชน​หลาย​ชาติ+ แล้ว​เรา​จะ​ยก​แผ่นดิน​นี้​ให้​เป็น​ของ​ลูก​หลาน​เจ้า​ตลอด​ไป’+ 5 เอฟราอิม​กับ​มนัสเสห์​ลูก​ชาย​สอง​คน​ของ​ลูก​ซึ่ง​เกิด​ใน​อียิปต์​ก่อน​ที่​พ่อ​จะ​มา​หา​ลูก จะ​เป็น​ลูก​ของ​พ่อ+เหมือน​รูเบน​กับ​สิเมโอน+ 6 ส่วน​ลูก​ของ​ลูก​ที่​เกิด​หลัง​จาก​นี้​ก็​จะ​เป็น​ของ​ลูก พวก​เขา​จะ​ได้​ส่วน​หนึ่ง​ของ​ที่​ดิน​ที่​พวก​พี่ ๆ ของ​เขา​ได้​รับ​เป็น​มรดก​ด้วย+ 7 ตอน​ที่​พ่อ​เดิน​ทาง​มา​จาก​ปัดดาน​นั้น ราเชล​แม่​ของ​ลูก​ซึ่ง​เดิน​ทาง​มา​กับ​พ่อ​ก็​ตาย+ใน​แผ่นดิน​คานาอัน ตอน​นั้น เรา​ยัง​อยู่​ห่าง​จาก​เอฟรัท+ พ่อ​เลย​ฝัง​แม่​ของ​ลูก​ไว้​ระหว่าง​ทาง​ไป​เอฟรัท​ซึ่ง​มี​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​เบธเลเฮม”+

8 อิสราเอล​เห็น​ลูก​ชาย​ทั้ง​สอง​ของ​โยเซฟ​จึง​ถาม​ว่า “สอง​คน​นี้​เป็น​ใคร​กัน?” 9 โยเซฟ​ตอบ​พ่อ​ว่า “เป็น​ลูก​ชาย​ที่​พระเจ้า​ให้​ผม​ตอน​อยู่​ที่​นี่​ครับ”+ อิสราเอล​บอก​ว่า “พา​พวก​เขา​เข้า​มา​หา​พ่อ​หน่อย พ่อ​จะ​ได้​อวยพร​พวก​เขา”+ 10 ตอน​นั้น อิสราเอล​อายุ​มาก​แล้ว​เลย​มอง​อะไร​ไม่​ค่อย​เห็น โยเซฟ​จึง​พา​ลูก​ทั้ง​สอง​เข้า​ไป​ใกล้ ๆ พ่อ แล้ว​อิสราเอล​ก็​กอด​และ​จูบ​หลาน ๆ 11 อิสราเอล​บอก​โยเซฟ​อีก​ว่า “พ่อ​ไม่​เคย​คิด​ว่า​จะ​ได้​เห็น​หน้า​ลูก​อีก+ แต่​ตอน​นี้​พระเจ้า​ให้​พ่อ​ได้​เห็น​หลาน​ด้วย​ซ้ำ” 12 แล้ว​โยเซฟ​ก็​ให้​ลูก​ทั้ง​สอง​ที่​อยู่​ข้าง​เข่า​อิสราเอล​ถอย​ออก​มา แล้ว​โยเซฟ​ก็​ซบ​ลง​กับ​พื้น

13 โยเซฟ​จูง​ลูก​ชาย​ทั้ง​สอง​เข้า​ไป​ใกล้​อิสราเอล มือ​ขวา​เขา​จูง​เอฟราอิม+และ​มือ​ซ้าย​จูง​มนัสเสห์+ เพื่อ​ให้​เอฟราอิม​อยู่​ด้าน​ซ้าย​และ​ให้​มนัสเสห์​อยู่​ด้าน​ขวา​ของ​อิสราเอล 14 แต่​อิสราเอล​กลับ​เอา​มือ​ขวา​วาง​บน​หัว​ของ​เอฟราอิม​ทั้ง ๆ ที่​เขา​เป็น​น้อง และ​ก็​เอา​มือ​ซ้าย​วาง​บน​หัว​ของ​มนัสเสห์ อิสราเอล​ตั้งใจ​วาง​มือ​แบบ​นี้​ทั้ง ๆ ที่​รู้​ว่า​มนัสเสห์​เป็น​ลูก​คน​โต+ 15 เขา​อวยพร​โยเซฟ​ว่า+

“ขอ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้ พระเจ้า​ซึ่ง​บรรพบุรุษ​ของ​พ่อ​คือ อับราฮัม​และ​อิสอัค+รับใช้

พระเจ้า​เที่ยง​แท้​ที่​ดู​แล​พ่อ​มา​ตลอด​ชีวิต​จน​ถึง​วัน​นี้+

16 พระเจ้า​ที่​ให้​ทูตสวรรค์​มา​ช่วย​พ่อ​ให้​พ้น​จาก​ภัย​พิบัติ​ทั้ง​หมด​นั้น+อวยพร​ลูก​สอง​คน​นี้+

ให้​พวก​เขา​สืบ​ตระกูล​ของ​พ่อ​และ​ของ​อับราฮัม​กับ​อิสอัค​บรรพบุรุษ​ของ​พ่อ

ให้​พวก​เขา​มี​ลูก​หลาน​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น​มาก​มาย​บน​โลก”+

17 เมื่อ​โยเซฟ​เห็น​พ่อ​วาง​มือ​ขวา​บน​หัว​ของ​เอฟราอิม​ก็​ไม่​พอ​ใจ จึง​จับ​มือ​พ่อ​เพื่อ​จะ​ยก​มา​วาง​บน​หัว​ของ​มนัสเสห์​แทน 18 โยเซฟ​พูด​กับ​พ่อ​ว่า “ไม่​ใช่​คน​นั้น​พ่อ คน​นี้​เป็น​คน​โต+ วาง​มือ​ขวา​บน​หัว​คน​นี้​เถอะ” 19 แต่​พ่อ​ไม่​ยอม​และ​บอก​ว่า “พ่อ​รู้ ลูก พ่อ​รู้ มนัสเสห์​จะ​เป็น​ชน​ชาติ​หนึ่ง​ด้วย​และ​เขา​ก็​จะ​ยิ่ง​ใหญ่​เหมือน​กัน แต่​น้อง​ของ​เขา​จะ​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า+และ​จะ​มี​ลูก​หลาน​มาก​พอ ๆ กับ​หลาย​ชาติ​รวม​กัน”+ 20 วัน​นั้น อิสราเอล​จึง​อวยพร​ทั้ง​สอง​อีก+ว่า

“ให้​ชาว​อิสราเอล​พูด​ถึง​ชื่อ​ของ​หลาน ๆ เมื่อ​พวก​เขา​อวยพร​กัน​ว่า

‘ขอ​พระเจ้า​ให้​คุณ​เป็น​เหมือน​เอฟราอิม​และ​มนัสเสห์’”

ดัง​นั้น อิสราเอล​ให้​ความ​สำคัญ​กับ​เอฟราอิม​มาก​กว่า​มนัสเสห์

21 แล้ว​อิสราเอล​ก็​พูด​กับ​โยเซฟ​ว่า “พ่อ​กำลัง​จะ​ตาย+ แต่​พระเจ้า​จะ​อยู่​กับ​ลูก ๆ ต่อ ๆ ไป​และ​จะ​นำ​ลูก ๆ กลับ​ไป​ที่​แผ่นดิน​ของ​บรรพบุรุษ​ของ​ลูก+ 22 พ่อ​จะ​ยก​แผ่นดิน​ที่​พ่อ​ชิง​มา​จาก​ชาว​อาโมไรต์​ด้วย​ดาบ​และ​ธนู​ให้​ลูก พ่อ​จะ​ให้​ลูก​มาก​กว่า​พี่​น้อง​ของ​ลูก​อีก​ส่วน​หนึ่ง”

49 แล้ว​ยาโคบ​ก็​เรียก​ลูก​ชาย​ทั้ง​หมด​มา​และ​บอก​ว่า “ลูก ๆ ทุก​คน เข้า​มา​ใกล้ ๆ พ่อ​หน่อย พ่อ​จะ​ได้​บอก​ลูก​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​ลูก​ใน​อนาคต 2 ลูก ๆ ของ​ยาโคบ เข้า​มา​ใกล้ ๆ และ​ฟัง​ที่​พ่อ​พูด​หน่อย มา​ฟัง​อิสราเอล​พ่อ​ของ​ลูก​พูด

3 “รูเบน+ ลูก​เป็น​ลูก​คน​โต​ของ​พ่อ+ เป็น​กำลัง​ของ​พ่อ​และ​เป็น​ผล​งาน​ชิ้น​แรก​จาก​พลัง*ของ​พ่อ ลูก​จึง​เป็น​คน​ที่​มี​เกียรติ​สูง​สุด​และ​เข้มแข็ง​ที่​สุด 4 แต่​เพราะ​ลูก​เป็น​เหมือน​น้ำ​ที่​เชี่ยวกราก ไม่​รู้​จัก​ยับยั้ง​ชั่ง​ใจ ลูก​จะ​ไม่​ได้​ฐานะ​สูง​สุด​นั้น​เพราะ​ลูก​นอน​กับ​ภรรยา​ของ​พ่อ*+ เขา​นอน​กับ​ภรรยา​ของ​พ่อ​ตัว​เอง เขา​ทำ​อย่าง​นั้น​จริง ๆ

5 “สิเมโอน​กับ​เลวี​เป็น​พี่​น้อง​กัน+ พวก​เขา​ใช้​ดาบ​เป็น​อาวุธ​สังหาร​อย่าง​โหด​เหี้ยม+ 6 พ่อ​จะ​ไม่​มี​ส่วน​เกี่ยว​ข้อง​กับ​พวก​เขา และ​พ่อ​ไม่​อยาก​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​พวก​เดียว​กับ​พวก​เขา เพราะ​พวก​เขา​ฆ่า​คน​ด้วย​ความ​โกรธ+ พวก​เขา​ตัด​เอ็น​ขา​วัว​ตัว​ผู้​ตาม​ใจ​ชอบ 7 ให้​ความ​โกรธ​ที่​โหด​เหี้ยม​และ​ความ​เดือดดาล​ที่​รุนแรง​ของ​เขา​ถูก​สาป​แช่ง+ พ่อ​จะ​ให้​พวก​เขา​แยก​เป็น​กลุ่ม​เล็ก​กลุ่ม​น้อย​ใน​แผ่นดิน​ของ​ยาโคบ และ​พ่อ​จะ​ให้​พวก​เขา​อยู่​กัน​กระจัด​กระจาย​ใน​แผ่นดิน​ของ​อิสราเอล+

8 “ส่วน​ยูดาห์+ พวก​พี่​น้อง​จะ​สรรเสริญ​ลูก+ ลูก​จะ​รบ​ชนะ​พวก​ศัตรู*+ ลูก​หลาน​ของ​พ่อ​จะ​หมอบ​ลงตรง​หน้า​ลูก+ 9 ยูดาห์​เป็น​ลูก​สิงโต ลูก​ของ​พ่อ​จะ​กิน​เหยื่อ​แล้ว​ก็​ลุก​ขึ้น ลูก​จะ​นอน​เหยียด​ตัว​เหมือน​สิงโต ใคร​จะ​กล้า​ไป​แหย่​เขา​เพราะ​เขา​เป็น​เหมือน​สิงโต? 10 คทา​จะ​เป็น​ของ​ยูดาห์​เสมอ+ และ​ไม้เท้า​ของ​ผู้​ปกครอง​จะ​อยู่​ระหว่าง​เท้า​ของ​เขา​จน​กว่า​ชิโลห์*จะ​มา+ และ​ชน​ชาติ​ต่าง ๆ จะ​ต้อง​เชื่อ​ฟัง​เขา+ 11 เขา​จะ​ผูก​ลา​ไว้​กับ​เถา​องุ่น​และ​ผูก​ลูก​ลา​ไว้​กับ​เถา​องุ่น​พันธุ์​ดี เขา​จะ​ซัก​เสื้อ​ผ้า​ใน​เหล้า​องุ่น​และ​ซัก​เสื้อ​คลุม​ใน​น้ำ​องุ่น​สี​เลือด 12 ตา​ของ​เขา​แดง​ก่ำ​ด้วย​เหล้า​องุ่น​และ​ฟัน​เขา​ขาว​เพราะ​น้ำ​นม

13 “เศบูลุน+จะ​อาศัย​อยู่​ใกล้​ฝั่ง​ทะเล เขา​จะ​อยู่​ตาม​ชายฝั่ง​ที่​เรือ​ทอด​สมอ+ ชายแดน​ด้าน​หนึ่ง​ของ​เขา​จะ​อยู่​ไกล​และ​ค่อน​ไป​ทาง​ไซดอน+

14 “อิสสาคาร์+เป็น​ลา​ที่​แข็งแรง เขา​จะ​นอน​อยู่​ทั้ง ๆ ที่​มี​กระเป๋า​อาน​ผูก​ไว้​ทั้ง​สอง​ข้าง 15 เขา​จะ​พบ​ที่​อยู่​ที่​ดี​และ​พบ​แผ่นดิน​ที่​อุดม​สมบูรณ์ เขา​จะ​แบก​ภาระ​หนัก​และ​ยอม​ทำ​งาน​หนัก

16 “ดาน+ตระกูล​หนึ่ง​ใน​อิสราเอล​จะ​พิพากษา​ประชาชน+ 17 ดาน​จะ​เป็น​งู​อยู่​ริม​ถนน เป็น​งู​พิษ​อยู่​ข้าง​ทาง ซึ่ง​กัด​ข้อ​เท้า​ม้า​จน​มัน​สะบัด​คน​ขี่​หงาย​หลัง​ตก​ลง​มา+ 18 พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า ผม​จะ​คอย​เวลา​ที่​พระองค์​ช่วย​พวก​เรา​ให้​รอด

19 “สำหรับ​กาด+ กองโจร​จะ​เข้า​จู่​โจม​เขา แต่​เขา​จะ​ตอบ​โต้​และ​กลับ​เป็น​ฝ่าย​ไล่​ตาม​ไป​อย่าง​กระชั้น​ชิด+

20 “อาเชอร์+จะ​มี​อาหาร​อุดม​สมบูรณ์​และ​มี​อาหาร​อย่าง​ดี​ที่​เหมาะ​กับ​กษัตริย์+

21 “นัฟทาลี+เป็น​กวาง​ตัว​เมีย​ที่​ปราด​เปรียว เขา​รู้​จัก​ใช้​ถ้อย​คำ​ที่​สละสลวย+

22 “โยเซฟ+เป็น​กิ่ง​ของ​ต้น​ไม้​ที่​เกิด​ผล​ดก เขา​เป็น​กิ่ง​ของ​ต้น​ไม้​ที่​เกิด​ผล​อยู่​ริม​บ่อ​น้ำพุ และ​แตก​กิ่ง​ก้าน​ยื่น​ข้าม​กำแพง​ออก​ไป 23 แต่​พวก​คน​ยิง​ธนู​คอย​ทำ​ร้าย​เขา ยิง​เขา และ​จง​เกลียด​จง​ชัง​เขา+ 24 แต่​เขา​ก็​ขึ้น​สาย​ธนู​ไว้​แล้ว+ และ​มือ​เขา​แข็งแรง​ว่องไว+ ที่​เขา​เป็น​อย่าง​นี้​เสมอ​ก็​เพราะ​มือ​ของ​ผู้​มี​พลัง​ของ​ยาโคบ คือ​มือ​ของ​ผู้​เลี้ยง​และ​หิน​ที่​แข็ง​แกร่ง​ของ​อิสราเอล​อยู่​กับ​เขา 25 เขา*เป็น​เหมือน​ของ​ขวัญ​จาก​พระเจ้า​ที่​พ่อ​นมัสการ เขา​อยู่​ใกล้​พระเจ้า​ผู้​มี​พลัง​อำนาจ​สูง​สุด พระองค์​จะ​ช่วย​ลูก จะ​อวยพร​ลูก จะ​ให้​น้ำ​จาก​ท้องฟ้า​และ​น้ำ​จาก​ใต้​แผ่นดิน​กับ​ลูก+ และ​จะ​ช่วย​ให้​ลูก​มี​ลูก​หลาน​และ​ฝูง​สัตว์​มาก​มาย 26 พร​จาก​พ่อ​จะ​ดี​ยิ่ง​กว่า​สิ่ง​ดี ๆ จาก​ภูเขา​ที่​ตั้ง​อยู่​นิรันดร์ และ​จะ​ดี​ยิ่ง​กว่า​ความงดงาม​ของ​เนิน​เขา​ที่​ตั้ง​อยู่​ตลอด​ไป+ โยเซฟ​ผู้​ถูก​เลือก​จาก​ท่ามกลาง​พี่​น้อง​ของ​เขา​จะ​ได้​รับ​พร​เหล่า​นั้น​ต่อ ๆ ไป*+

27 “เบนยามิน+จะ​ฉีก​เนื้อ​เหมือน​หมา​ป่า+ ตอน​เช้า​เขา​จะ​กิน​เหยื่อ​ที่​จับ​มา​ได้ และ​ตอน​เย็น​เขา​จะ​แบ่ง​ของ​ที่​ชิง​มา”+

28 คน​ทั้ง​หมด​นี้​เป็น​ต้น​ตระกูล​ของ​ชาว​อิสราเอล 12 ตระกูล พ่อ​พวก​เขา​ได้​ให้​พร​พวก​เขา​อย่าง​ที่​พูด​ไป​นั้น พ่อ​ให้​พร​ที่​เหมาะ​กับ​แต่​ละ​คน+

29 แล้ว​ยาโคบ​ก็​สั่ง​พวก​เขา​ว่า “พ่อ​กำลัง​จะ​ได้​อยู่​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​พ่อ*+ ขอ​ให้​ฝัง​พ่อ​ไว้​กับ​บรรพบุรุษ​ใน​ถ้ำ​ตรง​ที่​ดิน​ของ​เอโฟรน​ชาว​ฮิตไทต์+ 30 คือ​ใน​ถ้ำ​ซึ่ง​อยู่​ใน​ทุ่ง​มัคเปลาห์​ใกล้ ๆ มัมเร​ใน​แผ่นดิน​คานาอัน ที่​ดิน​นั้น​เป็น​ที่​ดิน​ที่​อับราฮัม​ซื้อ​จาก​เอโฟรน​ชาว​ฮิตไทต์​เพื่อ​เป็น​ที่​ฝัง​ศพ 31 อับราฮัม​กับ​ซาราห์​ภรรยา​ก็​ถูก​ฝัง​ไว้​ที่​นั่น+ อิสอัค​กับ​เรเบคาห์​ภรรยา​ก็​ถูก​ฝัง​ไว้​ที่​นั่น​ด้วย+ และ​พ่อ​ก็​ฝัง​เลอาห์​ไว้​ที่​นั่น 32 ทุ่ง​กับ​ถ้ำ​ใน​ที่​ดิน​แปลง​นั้น​ซื้อ​มา​จาก​ลูก​หลาน​ของ​เฮท”+

33 เมื่อ​ยาโคบ​สั่ง​เสีย​ลูก​ชาย​ของ​เขา​เสร็จ เขา​ล้ม​ตัว​ลง​นอน​บน​เตียง​แล้ว​ก็​สิ้น​ใจ เขา​ได้​อยู่​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​เขา*+

50 โยเซฟ​ร้องไห้​ซบ​ลง​กอด​และ​จูบ​พ่อ+ 2 โยเซฟ​สั่ง​พวก​หมอ​หลวง​ให้​อาบ​ยา​ศพ+พ่อ​ไว้ พวก​หมอ​หลวง​จึง​อาบ​ยา​ศพ​อิสราเอล 3 พวก​เขา​ใช้​เวลา 40 วัน​เต็ม เพราะ​การ​อาบ​ยา​ศพ​ต้อง​ใช้​เวลา 40 วัน ชาว​อียิปต์​ร้องไห้​อาลัย​ถึง​ยาโคบ​อยู่ 70 วัน

4 เมื่อ​ช่วง​เวลา​ไว้​ทุกข์​ให้​ยาโคบ​ผ่าน​ไป​แล้ว โยเซฟ​ก็​พูด​กับ​ข้าราชสำนัก*ของ​ฟาโรห์​ว่า “ถ้า​พวก​คุณ​จะ​กรุณา ขอ​บอก​ฟาโรห์​ให้​ผม​ที​ได้​ไหม​ครับ​ว่า 5 ‘พ่อ​ให้​ผม​สาบาน+ พ่อ​พูด​ว่า “พ่อ​กำลัง​จะ​ตาย+ ลูก​ต้อง​ฝัง​พ่อ​ไว้​ใน​ที่​ฝัง​ศพ+ซึ่ง​พ่อ​ขุด​ไว้​ใน​แผ่นดิน​คานาอัน”+ เมื่อ​เป็น​อย่าง​นั้น ให้​ผม​ไป​ฝัง​ศพ​พ่อ​เถอะ​ครับ แล้ว​ผม​จะ​กลับ​มา’” 6 ฟาโรห์​จึง​พูด​ว่า “ไป​ฝัง​ศพ​พ่อ​ตาม​ที่​ได้​สาบาน​ไว้​กับ​พ่อ​เถอะ”+

7 โยเซฟ​จึง​ไป​ฝัง​ศพ​พ่อ คน​ที่​ไป​กับ​เขา​ก็​มี​ข้าราชการ​ทั้ง​หมด​ของ​ฟาโรห์ พวก​ผู้​ดู​แล*+ใน​ราชสำนัก ผู้​ดู​แล*ทั้ง​หมด​ใน​อียิปต์ 8 และ​ทุก​คน​ใน​บ้าน​โยเซฟ​กับ​พวก​พี่​น้อง​และ​คน​ใน​บ้าน​พ่อ​ก็​ไป​ด้วย+ เหลือ​แต่​เด็ก ๆ กับ​ฝูง​สัตว์​เท่า​นั้น​ที่​อยู่​ใน​แผ่นดิน​โกเชน 9 มี​รถ​ม้า+กับ​ทหาร​ม้า​ด้วย ดังนั้น ผู้​คน​ที่​ไป​กับ​โยเซฟ​จึง​เป็น​ขบวน​ใหญ่​มาก 10 พวก​เขา​มา​ถึง​ลาน​นวด​ข้าว​ที่​อาทาด​ซึ่ง​อยู่​ใกล้​แม่น้ำ​จอร์แดน ที่​นั่น​พวก​เขา​พา​กัน​ร้องไห้​คร่ำ​ครวญ​อย่าง​หนัก และ​โยเซฟ​ไว้​ทุกข์​ให้​พ่อ 7 วัน 11 เมื่อ​ชาว​คานาอัน​ที่​อาศัย​อยู่​บริเวณ​นั้น​มา​เห็น​พวก​เขา​ไว้​ทุกข์​ใน​ลาน​นวด​ข้าว​ที่​อาทาด​ก็​พูด​กัน​ว่า “นี่​เป็น​การ​แสดง​ความ​โศก​เศร้า​ครั้ง​ใหญ่​ของ​ชาว​อียิปต์” เขา​จึง​เรียก​ที่​นั่น​ว่า​อาเบลมิสราอิม* ที่​นั่น​อยู่​ใกล้​กับ​แม่น้ำ​จอร์แดน

12 พวก​ลูก​ชาย​ของ​ยาโคบ​ทำ​ทุก​อย่าง​ตาม​ที่​พ่อ​สั่ง​ไว้+ 13 พวก​เขา​นำ​ศพ​ยาโคบ​มา​ถึง​แผ่นดิน​คานาอัน และ​ฝัง​ไว้​ที่​ถ้ำ​ใน​ทุ่ง​มัคเปลาห์​ซึ่ง​อยู่​ไม่​ไกล​จาก​มัมเร ที่​ดิน​นี้​เป็น​ที่​ดิน​ซึ่ง​อับราฮัม​ซื้อ​จาก​เอโฟรน​ชาว​ฮิตไทต์​เพื่อ​เป็น​ที่​ฝัง​ศพ+ 14 หลัง​จาก​ฝัง​ศพ​พ่อ​แล้ว โยเซฟ​กับ​พวก​พี่​น้อง​และ​ทุก​คน​ที่​ไป​กับ​เขา​ก็​กลับ​ไป​อียิปต์

15 หลัง​จาก​พ่อ​ตาย​แล้ว พวก​พี่​ชาย​ของ​โยเซฟ​ก็​พูด​กัน​ว่า “ถ้า​เกิด​โยเซฟ​ยัง​เคียดแค้น​พวก​เรา​อยู่​ละ​ก็ เขา​คง​จะ​แก้แค้น​พวก​เรา​ที่​เคย​ทำ​ไม่​ดี​กับ​เขา​ไว้​หลาย​อย่าง”+ 16 พวก​เขา​จึง​พูด​กับ​โยเซฟ​ว่า “พ่อ​เคย​สั่ง​ไว้​ก่อน​ตาย​ว่า 17 ‘ลูก ๆ ต้อง​บอก​โยเซฟ​ว่า “พ่อ​ขอ​ให้​ลูก​ยก​โทษ​ให้​พวก​พี่​ชาย​ที่​เคย​ทำ​ร้าย​ลูก ยก​โทษ​ที่​พวก​เขา​ได้​ทำ​ผิด​และ​ทำ​บาป​กับ​ลูก”’ ดัง​นั้น ขอ​ยก​โทษ​ให้​พวก​เรา​ที่​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​ที่​พ่อ​นมัสการ​ด้วย​เถอะ” พอ​ได้​ยิน​ว่า​พวก​เขา​พูด​อย่าง​นั้น โยเซฟ​ก็​ร้องไห้ 18 แล้ว​พวก​พี่​ชาย​ของ​โยเซฟ​ก็​เข้า​มา​คุกเข่า​ต่อ​หน้า​เขา และ​พูด​ว่า “พวก​เรา​เป็น​ทาส​ของ​น้อง​แล้ว”+ 19 โยเซฟ​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “อย่า​กลัว​เลย​ครับ​พี่ ผม​ไม่​ใช่​พระเจ้า​จะ​ได้​มา​ลง​โทษ​พวก​พี่ 20 พวก​พี่​เคย​คิด​ร้าย​กับ​ผม​ก็​จริง+ แต่​พระเจ้า​ตั้งใจ​ให้​เรื่อง​นั้น​กลับ​เป็น​ผล​ดี​เพื่อ​ช่วย​ชีวิต​ผู้​คน​มาก​มาย​เอา​ไว้​อย่าง​ที่​เป็น​อยู่​ใน​ตอน​นี้+ 21 ดัง​นั้น ไม่​ต้อง​กลัว​ครับ ผม​จะ​ดู​แล​เรื่อง​อาหาร​การ​กิน​ให้​พวก​พี่​กับ​ลูก ๆ อย่าง​นี้​ต่อ​ไป”+ โยเซฟ​พูด​อย่าง​นี้​เพื่อ​ปลอบ​พวก​เขา​ให้​สบาย​ใจ​ขึ้น

22 โยเซฟ​กับ​ครอบครัว​ของ​พ่อ​อยู่​ใน​อียิปต์​ต่อ และ​โยเซฟ​มี​อายุ​ยืน​ถึง 110 ปี 23 โยเซฟ​ได้​เห็น​หลาน ๆ ของ​เอฟราอิม+ และ​ยัง​ได้​เห็น​พวก​ลูก​ชาย​ของ​มาคีร์+ มาคีร์​เป็น​ลูก​ชาย​มนัสเสห์ พวก​เขา​เป็น​เหมือน​ลูก​ของ​โยเซฟ* 24 ต่อ​มา โยเซฟ​พูด​กับ​พวก​พี่​น้อง​ว่า “ผม​กำลัง​จะ​ตาย​แล้ว แต่​เมื่อ​ถึง​เวลา พระเจ้า​จะ​ช่วย​ทุกคน+และ​พา​ออก​จาก​แผ่นดิน​นี้​ไป​แผ่นดิน​ที่​พระองค์​สาบาน​ไว้​ว่า​จะ​ให้​กับ​อับราฮัม อิสอัค และ​ยาโคบ”+ 25 แล้ว​โยเซฟ​ก็​ให้​ลูก​หลาน​ของ​อิสราเอล​สาบาน โยเซฟ​พูด​ว่า “เมื่อ​ถึง​เวลา พระเจ้า​จะ​ช่วย​พวก​คุณ​ทุก​คน แล้ว​ขอ​ให้​พวก​คุณ​นำ​กระดูก​ของ​ผม​ไป​จาก​ที่​นี่”+ 26 โยเซฟ​ตาย​เมื่อ​อายุ​ได้ 110 ปี พวก​เขา​อาบ​ยา​ศพ​โยเซฟ​แล้ว​บรรจุ​โลง​ไว้​ใน​อียิปต์

หรือ “พลัง​ของ​พระเจ้า”

คือ น้ำ​ที่​อยู่​ข้าง​บน​และ​ข้าง​ล่าง

คำ​ว่า “ทะเล” ใน​ข้อ​นี้​ยัง​หมาย​ถึง​ทะเลสาบ​น้ำ​เค็ม​และ​ทะเลสาบ​น้ำ​จืด​ด้วย

คำ​นี้​ใน​ภาษา​ฮีบรู​น่า​จะ​รวม​ถึง​สัตว์​อื่น ๆ เช่น สัตว์​ขนาด​เล็ก สัตว์​จำพวก​หนู และ​แมลง

หรือ “กัน​ไว้​สำหรับ​จุด​ประสงค์​ของ​พระองค์​โดย​เฉพาะ”

หมาย​ถึง 6 วัน​ของ​การ​สร้าง

เป็น​ข้อ​แรก​ที่​มี​การ​กล่าว​ถึง​ชื่อ​ของ​พระเจ้า יהוה (ยฮวฮ) ดู​ภาค​ผนวก ก​4

หรือ “เอธิโอเปีย”

หรือ “ไทกริส”

หรือ “คน​เดียว​กัน”

หรือ “ฉลาด​ที่​สุด” “ระแวด​ระวัง​ที่​สุด”

หรือ “ตัดสิน​เอง”

หรือ “ทำ​ให้​ฟก​ช้ำ”

หรือ “บดขยี้”

แปล​ว่า “มนุษย์” หรือ “มนุษยชาติ”

แปล​ว่า “ผู้​มี​ชีวิต”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “คน​ที่​มี​ชีวิต​ทุก​คน”

คำ​ว่า “เรา” ใน​ภาษา​ฮีบรู​อาจ​หมาย​ถึง​สอง​บุคคล​หรือ​มาก​กว่า​นั้น

ใน​ภาษา​ฮีบรู คำ​นี้​เป็น​รูป​พหูพจน์ ซึ่ง​อาจ​หมาย​ถึง​เครูบ 2 องค์

อาจ​เป็น​คำ​เตือน​สำหรับ​คน​อื่น ๆ

หรือ “แผ่นดิน​ของ​คน​ที่​หลบ​หนี”

แปล​ว่า “ถูก​แต่ง​ตั้ง”

คำ​ว่า “มนุษย์” ใน​ภาษา​ฮีบรู​คือ “อาดัม”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “เดิน​กับ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “เดิน​กับ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้”

อาจ​แปล​ว่า “การ​พักผ่อน” หรือ “การ​ปลอบโยน”

เป็น​สำนวน​ภาษา​ฮีบรู​หมาย​ถึง​ลูก​ของ​พระเจ้า​ที่​เป็น​ทูตสวรรค์

หรือ “เพราะ​เขา​ทำ​ตาม​ความ​ต้องการ​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง​ของ​ตัว​เอง”

คำ​ภาษา​ฮีบรู​คือ เนฟิล อาจ​แปล​ว่า “นัก​โค่น” คือ ผู้​ที่​ทำ​ให้​คน​อื่น​ล้ม​ลง ดู​คำ​ว่า “เนฟิล” ใน​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์

ดู​คำ​ว่า “ถูก​ต้อง​ชอบธรรม” ใน​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “เดิน​กับ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “หีบ” หมาย​ถึง​เรือ​ใหญ่​ที่​มี​รูป​ทรง​สี่​เหลี่ยม​เหมือน​หีบ

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ต้น​โกเฟอร์” เป็น​ไม้​ที่​มี​ยาง อาจ​เป็น​ต้น​สน​ไซเพรส (สน​ดินสอ) ก็​ได้

ยาว 133.5 เมตร กว้าง 22.25 เมตร และ​สูง 13.35 เมตร ดู​ภาค​ผนวก ข​14

คำ​ภาษา​ฮีบรู​คือ ทโซฮาร์ บาง​คน​คิด​ว่า ทโซฮาร์ หมาย​ถึง​หลังคา​จั่ว​สูง 1 ศอก ไม่​ใช่​ช่อง​รับ​แสง

44.5 ซม.

หรือ​อาจ​แปล​ได้​ว่า “สัตว์​ที่​สะอาด​ชนิด​ละ 7 คู่”

หรือ​อาจ​แปล​ได้​ว่า “สัตว์​ที่​บิน​ใน​ท้องฟ้า​ชนิด​ละ 7 คู่”

คำ​นี้​ใน​ภาษา​ฮีบรู​น่า​จะ​รวม​ถึง​สัตว์​อื่น ๆ เช่น สัตว์​ขนาด​เล็ก สัตว์​จำพวก​หนู และ​แมลง

6.68 เมตร ดู​ภาค​ผนวก ข​14

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “คน​ไหน​ทำ​ให้​คน​อื่น​หลั่ง​เลือด”

หรือ “นัก​รบ”

หรือ “บาบิโลน”

หรือ​อาจ​แปล​ได้​ว่า “เมือง​ต่าง ๆ นี้​ประกอบ​กัน​เป็น​เมือง​ใหญ่”

ฉบับ​อื่น​แปล​ว่า “เชม​เป็น​พี่​ชาย​ของ​ยาเฟท”

แปล​ว่า “แบ่ง​แยก”

หรือ “ประชากร​โลก”

อิฐ​ใน​ที่​นี้​ทำ​จาก​ฟาง​กับ​โคลน​หรือ​ดิน​เหนียว​แล้ว​นำ​ไป​ตาก​แดด

คำ​ว่า “เรา” ใน​ภาษา​ฮีบรู​อาจ​หมาย​ถึง​สอง​บุคคล​หรือ​มาก​กว่า​นั้น

หรือ “บาบิโลน” แปล​ว่า “ความ​ยุ่งเหยิง”

หรือ “อยู่​อย่าง​คน​ต่าง​ชาติ”

น่า​จะ​หมาย​ถึง​กษัตริย์​ที่​พูด​ถึง​ใน​ข้อ 1

คือ ทะเล​เดดซี หรือ ทะเล​ตาย

หรือ “อยู่​ใน​เต็นท์”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “พี่​น้อง”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “เรา​เป็น​โล่​สำหรับ​เจ้า”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ลูก​ใน​ไส้​ของ​เจ้า​เอง”

หรือ “มี​ความ​ถูก​ต้อง​ชอบธรรม”

แปล​ว่า “พระเจ้า​ได้​ยิน”

บาง​คน​คิด​ว่า​เป็น​ม้าลาย อาจ​เป็น​เพราะ​ลา​ป่า​กับ​ม้าลาย​มี​นิสัย​ชอบ​อยู่​ตัว​เดียว​และ​ไม่​ยอม​เข้า​ฝูง

หรือ​อาจ​แปล​ได้​ว่า “เขา​จะ​เป็น​ศัตรู​กับ​พวก​พี่​น้อง​ของ​เขา​ทุก​คน”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “เรียก​ชื่อ​พระ​ยะโฮวา”

หรือ “เห็น​ดิฉัน” “ให้​ดิฉัน​ได้​เห็น​พระองค์”

อาจ​แปล​ว่า “บ่อ​น้ำ​ของ​พระองค์​ผู้​มี​ชีวิต​อยู่​และ​เห็น​ดิฉัน”

แปล​ว่า “พ่อ​ผู้​ได้​รับ​การ​ยกย่อง”

แปล​ว่า “พ่อ​ของ​คน​มาก​มาย”

อาจ​แปล​ว่า “มัก​โต้​แย้ง”

แปล​ว่า “เจ้า​หญิง”

แปล​ว่า “การ​หัวเราะ”

คือ ทูตสวรรค์​ที่​เป็น​ตัว​แทน​พระ​ยะโฮวา

อับราฮัม​เรียก​ทูตสวรรค์​ที่​แปลง​กาย​เป็น​มนุษย์​เหมือน​กับ​ว่า​กำลัง​พูด​กับ​พระ​ยะโฮวา

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “3 ซีห์” หรือ 21.99 ลิตร ดู​ภาค​ผนวก ข​14

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ได้​มา​รู้​จัก”

น่า​จะ​หมาย​ถึง​ผู้​ชาย​สอง​คน

หมาย​ถึง​ทูตสวรรค์​สอง​องค์​นั้น​ที่​แปลง​กาย​เป็น​มนุษย์

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ลูก​เขย” ตาม​ธรรมเนียม​ชาว​ฮีบรู​จะ​เรียก​คน​ที่​เป็น​คู่​หมั้น​กัน​เหมือน​คน​ที่​แต่งงาน​กัน​แล้ว

โลท​เรียก​ทูตสวรรค์​ที่​แปลง​กาย​เป็น​มนุษย์​เหมือน​กับ​ว่า​กำลัง​พูด​กับ​พระ​ยะโฮวา

หรือ “รัก​ผม​อย่าง​มั่นคง”

คือ ทูตสวรรค์​ที่​เป็น​ตัว​แทน​พระ​ยะโฮวา

แปล​ว่า “เล็ก”

หรือ “อยู่​อย่าง​คน​ต่าง​ชาติ”

ดู​เหมือน​เป็น​ชื่อ​ตำแหน่ง​ของ​กษัตริย์​ฟีลิสเตีย

คือ ยัง​ไม่​ได้​มี​เพศ​สัมพันธ์​กับ​เธอ

หรือ “รัก​ฉัน​อย่าง​มั่นคง”

11.4 กก. ดู​ภาค​ผนวก ข​14

หรือ​อาจ​แปล​ได้​ว่า “หัวเราะ​เยาะ​ฉัน”

ดู​เหมือน​เป็น​ชื่อ​ตำแหน่ง​ของ​แม่ทัพ​ฟีลิสเตีย

หรือ “ความ​รัก​ที่​มั่นคง”

อาจ​แปล​ว่า “บ่อ​น้ำ​ที่​มี​การ​สาบาน” หรือ “บ่อ​น้ำ​เลข​เจ็ด”

หรือ “อยู่​อย่าง​คน​ต่าง​ชาติ”

ใน​ที่​นี้​ทูตสวรรค์​พูด​แทน​พระ​ยะโฮวา

แปล​ว่า “พระ​ยะโฮวา​จะ​จัด​หา​ให้”

หรือ “ทำ​ให้​ตัว​เอง​ได้​รับ​พร” ซึ่ง​แสดง​ว่า​ต้อง​พยายาม​เพื่อ​จะ​ได้​รับ​พร

หรือ​อาจ​แปล​ได้​ว่า “หัวหน้า​ใหญ่”

4.56 กก. ดู​ภาค​ผนวก ข​14

4.56 กก.

ดู​เหมือน​ว่า​นี่​เป็น​วิธี​ยืน​ยัน​คำ​สาบาน​ของ​คน​ใน​สมัย​โบราณ

5.7 กรัม ดู​ภาค​ผนวก ข​14

114 กรัม

อาจ​หมาย​ถึง​ลาบัน

คือ คน​ที่​เคย​เป็น​แม่​นม แต่​ตอน​นี้​เป็น​คน​รับใช้

เป็น​สำนวน​กวี​หมาย​ถึง​ตาย

เป็น​สำนวน​กวี​หมาย​ถึง​ตาย

หรือ​อาจ​แปล​ได้​ว่า “เขา​เป็น​ศัตรู​กับ​พวก​พี่​น้อง​ของ​เขา​ทุก​คน”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “2 ชาติ”

แปล​ว่า “ขน​ดก”

แปล​ว่า “ผู้​ที่​จับ​ส้น​เท้า” หรือ “ผู้​ที่​แย่ง​ชิง”

หรือ “เป็น​คน​ปราศจาก​ตำหนิ”

แปล​ว่า “แดง”

หรือ “ทำ​ให้​ตัว​เอง​ได้​รับ​พร” ซึ่ง​แสดง​ว่า​ต้อง​พยายาม​เพื่อ​จะ​ได้​รับ​พร

หรือ “แสดง​ความ​รัก”

แปล​ว่า “การ​ทะเลาะ”

แปล​ว่า “การ​กล่าวหา”

แปล​ว่า “ที่​กว้าง”

แปล​ว่า “สาบาน” หรือ “เจ็ด”

แปล​ว่า “บ่อ​น้ำ​ที่​มี​การ​สาบาน” หรือ “บ่อ​น้ำ​เลข​เจ็ด”

แปล​ว่า “ผู้​ที่​จับ​ส้น​เท้า” หรือ “ผู้​ที่​แย่ง​ชิง”

หรือ “วัน​ที่​จะ​คร่ำ​ครวญ​ถึง​พ่อ​มา​ใกล้​แล้ว”

หรือ “ลูก​หลาน​ของ​อิชมาเอล” ตอน​นี้​อิชมาเอล​ตาย​ไป​แล้ว​และ​เอซาว​มี​อายุ​ประมาณ 77 ปี ดู ปฐก 25:17, 26

แปล​ว่า “ที่​อยู่​ของ​พระเจ้า”

การ​จูบ​คน​อื่น เช่น​จูบ​ที่​แก้ม เป็น​การ​ทักทาย​ตาม​ธรรมเนียม​อย่าง​หนึ่ง​ใน​สมัย​นั้น

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “พี่​น้อง”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “เป็น​กระดูก​และ​เนื้อ”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “พี่​น้อง”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “เกลียด”

แปล​ว่า “ดู​สิ ลูก​ชาย!”

แปล​ว่า “ได้​ยิน”

แปล​ว่า “ความ​ผูก​พัน” หรือ “ใกล้​ชิด”

แปล​ว่า “ได้​รับ​การ​สรรเสริญ”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “คลอด​บน​เข่า​ของ​ฉัน”

แปล​ว่า “ผู้​พิพากษา”

แปล​ว่า “การ​ต่อ​สู้​ของ​ฉัน”

แปล​ว่า “มี​ความ​สุข” หรือ “โชค​ดี”

แปล​ว่า “ความ​สุข”

เชื่อ​กัน​ว่า​ถ้า​กิน​ผล​นี้​แล้ว​จะ​มี​ลูก​ดก

แปล​ว่า “เขา​เป็น​สิ่ง​ตอบ​แทน” หรือ “เขา​เป็น​รางวัล”

แปล​ว่า “การ​ยอม”

ย่อ​มา​จาก โยสิฟียาห์ ซึ่ง​แปล​ว่า “ขอ​ยาห์​เพิ่ม​เติม​ให้ (ทำ​ให้​มี​มาก​ขึ้น)”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “10 ครั้ง”

ใน​ที่​นี้ ทูตสวรรค์​พูด​แทน​พระ​ยะโฮวา

หรือ “เทพเจ้า​ประจำ​บ้าน” “รูป​เคารพ”

คือ แม่น้ำ​ยูเฟรติส

หรือ “พา​ญาติ​พี่​น้อง”

หรือ “กลอง​ฉิ่ง”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “10 ครั้ง”

เป็น​คำ​ภาษา​อาราเมอิก แปล​ว่า “กอง​พยาน​หลักฐาน”

เป็น​คำ​ภาษา​ฮีบรู แปล​ว่า “กอง​พยาน​หลักฐาน”

หรือ “จุด​เฝ้า​ดู”

แปล​ว่า “สอง​ค่าย”

หรือ “อยู่​อย่าง​คน​ต่าง​ชาติ”

แปล​ว่า “ผู้​ที่​ต่อ​สู้​กับ (ผู้​ที่​ไม่​ยอม​แพ้) พระเจ้า” หรือ “พระเจ้า​ต่อ​สู้”

แปล​ว่า “หน้า​ของ​พระเจ้า”

หรือ “เปนูเอล”

แปล​ว่า “เพิง”

แปล​ว่า “พระเจ้า​เป็น​พระเจ้า​ของ​อิสราเอล”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “คน​ที่​มี​หนัง​หุ้ม​ปลาย​อวัยวะ​เพศ”

ใน​สมัย​โบราณ ชาติ​อื่น ๆ มัก​ใส่​ตุ้ม​หู​เป็น​เครื่องราง

หรือ “ซ่อน”

แปล​ว่า “พระเจ้า​อยู่​ที่​เบธเอล”

แปล​ว่า “ต้น​โอ๊ก​ของ​ความ​โศก​เศร้า”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ออก​มา​จาก​เอว​ของ​เจ้า”

แปล​ว่า “ลูก​ชาย​ที่​ทำ​ให้​ฉัน​โศก​เศร้า”

แปล​ว่า “ลูก​ชาย​ที่​อยู่​ขวา​มือ” คือ ลูก​ชาย​คน​โปรด

เป็น​สำนวน​กวี​หมาย​ถึง​ตาย

หรือ “อยู่​อย่าง​คน​ต่าง​ชาติ”

228 กรัม ดู​ภาค​ผนวก ข​14

ดู​คำ​ว่า “หลุม​ศพ” ใน​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์

แปล​ว่า “การ​ฉีก​ขาด” อาจ​หมาย​ถึง​การ​ฉีก​ขาด​ของ​ฝี​เย็บ

หรือ “แสดง​ความ​รัก​ที่​มั่นคง​ต่อ​ผม”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “บ่อ” หรือ “หลุม” คือ ที่​คุม​ขัง​ใต้​ดิน​ซึ่ง​เป็น​บ่อ​หรือ​หลุม

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “บ่อ” หรือ “หลุม” คือ ที่​คุม​ขัง​ใต้​ดิน​ซึ่ง​เป็น​บ่อ​หรือ​หลุม

คำ​นี้​ใน​ภาษา​ฮีบรู​อาจ​หมาย​ความ​ว่า​เขา​โกน​ทั้ง​หนวด​เครา​และ​ผม​ด้วย

น่า​จะ​หมาย​ถึง​คำ​ที่​บอก​ให้​คน​อื่น​รู้​ว่า​ควร​แสดง​ความ​เคารพ

น่า​จะ​แปล​ว่า “ผู้​เปิด​เผย​สิ่ง​ที่​ปก​ปิด​ไว้”

คือ เมือง​เฮลิโอโปลิส

หรือ “ตอน​ที่​เขา​เริ่ม​รับใช้”

คือ เมือง​เฮลิโอโปลิส

แปล​ว่า “ผู้​ที่​ทำ​ให้​ลืม”

แปล​ว่า “เกิด​ผล​สอง​เท่า”

หรือ “ประสบ​ผล​สำเร็จ”

อาจ​เป็น​ข้าว​สาลี​หรือ​ข้าว​บาร์เลย์

ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “เป็น​ทาส​นาย​ของ​ผม”

ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์

ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “เป็น​พ่อ”

3.42 กก. ดู​ภาค​ผนวก ข​14

คือ เมือง​เฮลิโอโปลิส

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ลูก​ชาย​หลาย​คน” อาจ​เป็น​ได้​ว่า​ชื่อ​ของ​ลูก​ชาย​คน​อื่น ๆ ของ​เขา​ไม่​ได้​ถูก​กล่าว​ถึง​ใน​ที่​นี้

หรือ “อยู่​อาศัย​ชั่ว​คราว” “อยู่​อย่าง​คน​ต่าง​ชาติ”

หรือ “อยู่​อาศัย​ชั่ว​คราว” “อยู่​อย่าง​คน​ต่าง​ชาติ”

อาจ​เป็น​ข้าว​สาลี​หรือ​ข้าว​บาร์เลย์

หรือ “รัก​พ่อ​อย่าง​มั่นคง​จริง ๆ”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “อิสราเอล”

หรือ “ความ​สามารถ​ใน​การ​สืบ​พันธุ์”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ลูก​ขึ้น​ไป​บน​เตียง​พ่อ”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “มือ​ของ​ลูก​จะ​อยู่​บน​คอ​ของ​ศัตรู”

แปล​ว่า “ผู้​เป็น​เจ้าของ”

คือ โยเซฟ

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “พร​เหล่า​นั้น​จะ​อยู่​บน​หัว​ของ​โยเซฟ​ต่อ ๆ ไป”

เป็น​สำนวน​กวี​หมาย​ถึง​ตาย

เป็น​สำนวน​กวี​หมาย​ถึง​ตาย

หรือ “คน​ใน​ครอบครัว”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “พวก​ผู้​ชาย​สูง​อายุ”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “พวก​ผู้​ชาย​สูง​อายุ”

แปล​ว่า “การ​แสดง​ความ​โศก​เศร้า​ของ​ชาว​อียิปต์”

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “พวก​เขา​เกิด​บน​เข่า​ของ​โยเซฟ” คือ ได้​รับ​การ​ดู​แล​และ​ได้​รับ​ความ​รัก​เหมือน​ลูก

    หนังสือภาษามือไทย (2000-2025)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ภาษามือไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์