เลวีนิติ
1 พระยะโฮวาเรียกโมเสสแล้วพูดกับเขาจากเต็นท์เข้าเฝ้า+ว่า 2 “ให้บอกชาวอิสราเอลอย่างนี้ ‘ถ้าใครจะถวายสัตว์ของเขาเป็นเครื่องบูชาให้พระยะโฮวา ก็ให้เอาจากฝูงวัว ฝูงแกะ หรือฝูงแพะ+
3 “‘ถ้าเขาจะถวายวัวเป็นเครื่องบูชาเผา ก็ให้ถวายวัวตัวผู้ที่สมบูรณ์แข็งแรง+ เขาจะต้องเอามาถวายต่อหน้าพระยะโฮวาที่ทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้าด้วยความเต็มใจ+ 4 และให้เอามือวางบนหัวสัตว์ที่จะถวายเป็นเครื่องบูชาเผา แล้วพระเจ้าจะยอมรับเครื่องบูชาและอภัยบาป*ให้เขา
5 “‘ให้ฆ่าวัวตัวนั้นต่อหน้าพระยะโฮวา จากนั้น พวกปุโรหิต+ที่เป็นลูกชายของอาโรนจะเอาเลือดสัตว์มาถวายและพรมที่แท่นบูชาซึ่งอยู่ด้านหน้าทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้า โดยพรมใส่ด้านข้างของแท่นบูชาทุกด้าน+ 6 ให้ถลกหนังสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาเผา และสับตัวสัตว์ออกเป็นท่อน ๆ+ 7 และให้พวกปุโรหิตที่เป็นลูกชายของอาโรนเอาถ่านไฟใส่ลงไปในแท่นบูชา+ และเอาฟืนมาวางเรียงกันบนถ่านนั้น 8 ให้พวกปุโรหิตที่เป็นลูกชายของอาโรนเอาส่วนต่าง ๆ ของสัตว์+รวมทั้งหัวและมัน*ของสัตว์มาวางเรียงกันเหนือฟืนที่อยู่บนถ่านไฟในแท่นบูชา 9 เอาน้ำล้างลำไส้กับขา*ของมัน และให้ปุโรหิตเอาชิ้นส่วนทั้งหมดไปเผาบนแท่นบูชาเป็นเครื่องบูชาเผา เป็นเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาด้วยการเผาซึ่งมีกลิ่นหอมที่ทำให้พระองค์พอใจ+
10 “‘และถ้าเขาจะเอาแกะหรือแพะมาถวายเป็นเครื่องบูชาเผา+ ก็ให้เอาลูกแกะตัวผู้หรือแพะตัวผู้ที่สมบูรณ์แข็งแรงมาถวาย+ 11 และสัตว์นั้นจะถูกฆ่าตรงด้านเหนือของแท่นบูชาต่อหน้าพระยะโฮวา และให้พวกปุโรหิตที่เป็นลูกชายของอาโรนเอาเลือดของมันไปพรมใส่ด้านข้างของแท่นบูชาทั้ง 4 ด้าน+ 12 ให้สับตัวสัตว์ออกเป็นท่อน ๆ และให้ปุโรหิตเอาชิ้นส่วนต่าง ๆ นั้นรวมทั้งหัวและมัน*ของสัตว์ไปวางเรียงกันเหนือฟืนที่อยู่บนถ่านไฟในแท่นบูชา 13 แล้วเอาน้ำล้างลำไส้กับขาของมัน และให้ปุโรหิตเอาชิ้นส่วนทั้งหมดไปเผาบนแท่นบูชา นี่เป็นเครื่องบูชาเผา เป็นเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาด้วยการเผาซึ่งมีกลิ่นหอมที่ทำให้พระองค์พอใจ
14 “‘แต่ถ้าเขาจะถวายนกเป็นเครื่องบูชาเผาให้พระยะโฮวา ก็ให้เอานกเขาหรือลูกนกพิราบมาถวาย+ 15 ปุโรหิตจะต้องถวายนกที่แท่นบูชา และฉีกเนื้อที่คอด้านหน้าให้ขาด ให้เลือดของมันไหลลงไปตามด้านข้างของแท่นบูชาจนหมด แล้วเผานกนั้นบนแท่น 16 เขาจะต้องดึงกระเพาะ*และขนนกออก แล้วทิ้งลงไปในที่ใส่ขี้เถ้า*+ซึ่งอยู่ข้าง ๆ แท่นด้านที่หันไปทางทิศตะวันออก 17 ให้เขาฉีกอกที่อยู่ระหว่างปีกทั้งสองข้างออกด้วย แต่อย่าให้ตัวนกขาดออกจากกัน และให้ปุโรหิตเอานกไปเผาบนแท่นบูชาโดยวางไว้เหนือฟืนซึ่งอยู่บนถ่านไฟ นี่เป็นเครื่องบูชาเผา เป็นเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาด้วยการเผาซึ่งมีกลิ่นหอมที่ทำให้พระองค์พอใจ
2 “‘ถ้าใครจะถวายเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าว+ให้พระยะโฮวา ก็ให้เอาแป้งเนื้อละเอียดมาถวาย และเขาจะต้องเทน้ำมันลงบนแป้งแล้ววางกำยานบนแป้งนั้นด้วย+ 2 จากนั้น เขาจะต้องนำมาให้พวกปุโรหิตที่เป็นลูกชายของอาโรน และปุโรหิตจะเอาแป้งเนื้อละเอียดกำมือหนึ่งพร้อมน้ำมันและกำยานทั้งหมดที่อยู่บนแป้งไปเผาบนแท่นบูชาให้มีกลิ่นหอมเพื่อทำให้พระยะโฮวาพอใจ เป็นเครื่องบูชาที่เผาแทนเครื่องบูชาที่ถวายทั้งหมด*+ 3 ส่วนที่เหลือของเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวนี้จะเป็นของอาโรนกับลูกชาย+ เป็นส่วนที่บริสุทธิ์ยิ่ง+จากเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาด้วยการเผา
4 “‘ถ้าเจ้าจะเอาขนมปังอบมาถวายเป็นเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าว ก็ให้ทำจากแป้งเนื้อละเอียดเป็นขนมปังรูปวงแหวนไม่ใส่เชื้อที่นวดกับน้ำมัน หรือไม่ก็ทำเป็นขนมปังแผ่นบางไม่ใส่เชื้อที่ทาน้ำมัน+
5 “‘ถ้าเจ้าจะเอาขนมปังที่ปิ้งในกระทะ+มาถวายเป็นเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าว ก็ให้ทำจากแป้งเนื้อละเอียดไม่ใส่เชื้อที่นวดกับน้ำมัน 6 ให้หักขนมปังนั้นเป็นชิ้น ๆ และเอาน้ำมันราดลงบนขนมปัง+ นี่เป็นเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าว
7 “‘ถ้าเจ้าจะเอาขนมปังที่ทอดในกระทะมาถวายเป็นเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าว ก็ให้ทำจากแป้งเนื้อละเอียดที่นวดกับน้ำมัน 8 เจ้าต้องเตรียมเครื่องบูชาแบบนี้มาถวายพระยะโฮวา เป็นเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าว และให้นำเครื่องบูชานี้ไปให้ปุโรหิต แล้วเขาจะนำไปที่แท่นบูชา 9 จากนั้น ปุโรหิตจะเอาเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวส่วนหนึ่งไปเผาบนแท่นบูชาเป็นเครื่องบูชาที่ถวายด้วยการเผาซึ่งมีกลิ่นหอมที่ทำให้พระยะโฮวาพอใจ+ เป็นเครื่องบูชาที่เผาแทนเครื่องบูชาที่ถวายทั้งหมด*+ 10 ส่วนที่เหลือของเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวนี้จะเป็นของอาโรนกับลูกชาย เป็นส่วนที่บริสุทธิ์ยิ่งจากเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาด้วยการเผา+
11 “‘เครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวที่พวกเจ้าจะถวายพระยะโฮวานั้นต้องไม่ใส่เชื้อ+ เพราะเจ้าจะเอาแป้งเชื้อ*หรือน้ำผึ้ง*มาเผาถวายพระยะโฮวาเป็นเครื่องบูชาที่ถวายด้วยการเผาไม่ได้
12 “‘พวกเจ้าจะถวายแป้งเชื้อและน้ำผึ้งเป็นผลแรก+ให้พระยะโฮวาก็ได้ แต่อย่าเอาไปเผาบนแท่นบูชาเพื่อให้มีกลิ่นหอมที่ทำให้พระองค์พอใจ
13 “‘เครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวทุกอย่างให้ใส่เกลือลงไปด้วย อย่าลืมใส่เกลือในเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวเพราะเกลือจะเตือนใจพวกเจ้าให้นึกถึงสัญญาของพระเจ้า เครื่องบูชาทุกอย่างของพวกเจ้าจะต้องใส่เกลือ+
14 “‘ถ้าเจ้าจะถวายเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวจากผลแรกของการเก็บเกี่ยวของเจ้าให้พระยะโฮวา ก็ให้เจ้าเอาข้าวใหม่ที่เพิ่งเกี่ยวไปย่างไฟ แล้วบดพอให้แตกมาถวายเป็นเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวจากผลแรกของการเก็บเกี่ยวของเจ้า+ 15 เจ้าต้องใส่น้ำมันและกำยานลงไปด้วย นี่เป็นเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าว 16 แล้วปุโรหิตจะเอาข้าวที่บดพอให้แตกนั้นมาส่วนหนึ่ง พร้อมน้ำมันและกำยานทั้งหมดที่อยู่ข้างบนไปเผาเป็นเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาด้วยการเผา เป็นเครื่องบูชาที่เผาแทนเครื่องบูชาที่ถวายทั้งหมด*+
3 “‘ถ้าใครจะถวายวัวเป็นเครื่องบูชาผูกมิตร*+ให้พระยะโฮวา ก็ให้ถวายตัวที่สมบูรณ์แข็งแรงไม่ว่าจะเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย 2 ให้เขาเอามือวางบนหัววัว และวัวตัวนั้นจะถูกฆ่าที่ทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้า แล้วพวกปุโรหิตที่เป็นลูกชายของอาโรนจะเอาเลือดวัวไปพรมใส่ด้านข้างของแท่นบูชาทั้ง 4 ด้าน 3 เขาจะถวายส่วนหนึ่งจากเครื่องบูชาผูกมิตรนี้ให้พระยะโฮวาด้วยการเผา+ คือ มัน+ตรงพุง มันทั้งหมดที่หุ้มลำไส้ 4 และไตทั้งสองข้างกับมันที่หุ้มไตซึ่งอยู่ใกล้ ๆ เอว เขาจะต้องเอามันที่หุ้มตับออกมาพร้อมกับไตด้วย+ 5 ลูกชายของอาโรนจะต้องเอาส่วนต่าง ๆ นี้ไปเผาบนแท่นบูชา โดยเอาไปวางบนเครื่องบูชาเผาที่อยู่เหนือฟืนบนถ่านไฟ+ เป็นเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาด้วยการเผาซึ่งมีกลิ่นหอมที่ทำให้พระองค์พอใจ+
6 “‘ถ้าใครจะถวายแกะเป็นเครื่องบูชาผูกมิตรให้พระยะโฮวา ก็ให้ถวายตัวที่สมบูรณ์แข็งแรงไม่ว่าจะเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย+ 7 ถ้าจะถวายลูกแกะตัวผู้เป็นเครื่องบูชา ก็ให้เขาเอามาถวายต่อหน้าพระยะโฮวา 8 ให้เขาเอามือวางบนหัวลูกแกะ และแกะตัวนั้นจะถูกฆ่าที่หน้าเต็นท์เข้าเฝ้า แล้วลูกชายของอาโรนจะเอาเลือดแกะไปพรมใส่ด้านข้างของแท่นบูชาทั้ง 4 ด้าน 9 แล้วให้เขาถวายมันของแกะที่เป็นเครื่องบูชาผูกมิตรให้พระยะโฮวาด้วยการเผา+ เขาจะต้องตัดเอาหางที่เต็มไปด้วยมันซึ่งอยู่ติดกับกระดูกสันหลัง เลาะเอามันตรงพุง และมันทั้งหมดที่หุ้มลำไส้ออกมา 10 รวมทั้งไตทั้งสองข้างกับมันที่หุ้มไตซึ่งอยู่ใกล้ ๆ เอว เขาจะต้องเอามันที่หุ้มตับออกมาพร้อมกับไตด้วย+ 11 แล้วปุโรหิตจะเอาส่วนต่าง ๆ นี้ไปเผาบนแท่นบูชาเป็นอาหาร* คือเป็นเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาด้วยการเผา+
12 “‘ถ้าใครจะถวายแพะเป็นเครื่องบูชา ก็ให้เอามาถวายต่อหน้าพระยะโฮวา 13 ให้เขาเอามือวางบนหัวแพะ และแพะตัวนั้นจะถูกฆ่าที่หน้าเต็นท์เข้าเฝ้า แล้วลูกชายของอาโรนจะเอาเลือดแพะไปพรมใส่ด้านข้างของแท่นบูชาทั้ง 4 ด้าน 14 ส่วนที่คนถวายจะต้องถวายเป็นเครื่องบูชาให้พระยะโฮวาด้วยการเผา คือ มันตรงพุง มันทั้งหมดที่หุ้มลำไส้+ 15 และไตทั้งสองข้างกับมันที่หุ้มไตซึ่งอยู่ใกล้ ๆ เอว เขาจะต้องเอามันที่หุ้มตับออกมาพร้อมกับไตด้วย 16 ปุโรหิตจะเอาส่วนต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ไปเผาบนแท่นบูชาเป็นอาหาร* คือเป็นเครื่องบูชาที่ถวายด้วยการเผาซึ่งมีกลิ่นหอมที่ทำให้พระเจ้าพอใจ มันสัตว์ทั้งหมดเป็นของพระยะโฮวา+
17 “‘ห้ามกินมันสัตว์หรือเลือด+ นี่เป็นข้อกำหนดที่พวกเจ้าต้องทำตามไปตลอดทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าพวกเจ้าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม’”
4 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 2 “ให้บอกชาวอิสราเอลอย่างนี้ ‘ถ้าใครทำบาปโดยไม่เจตนา+ คือทำอะไรก็ตามที่พระยะโฮวาสั่งว่าอย่าทำ เขาต้องทำอย่างนี้
3 “‘ถ้าปุโรหิตที่ถูกเจิม+ทำบาป+ และทำให้ประชาชนมีความผิดไปด้วย เขาจะต้องถวายวัวหนุ่มตัวหนึ่งที่สมบูรณ์แข็งแรงให้พระยะโฮวาเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับบาปที่เขาทำไปนั้น+ 4 ให้เขานำวัวมาที่ทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้าต่อหน้าพระยะโฮวา+ และเอามือวางบนหัววัว แล้วฆ่าวัวตัวนั้นต่อหน้าพระยะโฮวา+ 5 และปุโรหิตที่ถูกเจิม+นั้นจะเอาเลือดวัวส่วนหนึ่งเข้าไปในเต็นท์เข้าเฝ้า 6 ให้ปุโรหิตคนนั้นเอานิ้วจุ่มเลือด+ขึ้นมาสะบัดต่อหน้าพระยะโฮวาตรงหน้าม่านในสถานบริสุทธิ์ ให้ทำอย่างนี้ 7 ครั้ง+ 7 และให้เอาเลือดส่วนหนึ่งไปแต้มส่วนที่เป็นรูปเขาสัตว์บนแท่นบูชาสำหรับเผาเครื่องหอม+ซึ่งอยู่ตรงหน้าพระยะโฮวาในเต็นท์เข้าเฝ้า และเลือดวัวที่เหลือทั้งหมดให้เขาเอาไปเทที่ฐานของแท่นบูชาสำหรับเครื่องบูชาเผา+ ซึ่งอยู่ตรงทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้า
8 “‘เขาจะต้องเลาะมันทั้งหมดของวัวที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป คือ มันตรงพุง มันที่หุ้มลำไส้ 9 และไตทั้งสองข้างกับมันที่หุ้มไตซึ่งอยู่ใกล้ ๆ เอว เขาจะต้องเอามันที่หุ้มตับออกมาพร้อมกับไตด้วย+ 10 ให้เลาะออกมาอย่างเดียวกับที่เลาะออกมาจากวัวที่เป็นเครื่องบูชาผูกมิตร+ และปุโรหิตจะต้องเอาส่วนต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ไปเผาบนแท่นบูชาสำหรับเครื่องบูชาเผา
11 “‘แต่หนังกับเนื้อทั้งหมด รวมทั้งหัว ขา ลำไส้ และมูลของวัว+ 12 คือส่วนที่เหลือทั้งหมดของวัวนั้น ให้เอาออกไปทิ้งในที่ที่แยกไว้เฉพาะ*สำหรับทิ้งขี้เถ้า*นอกค่ายพัก และให้เขาเผาส่วนต่าง ๆ นี้เหนือฟืนบนถ่านไฟ+ในบริเวณที่ใช้สำหรับทิ้งขี้เถ้า
13 “‘ถ้าชาวอิสราเอลทั้งชาติทำบาปโดยไม่เจตนา+ และพวกเขา*ไม่รู้ตัวว่าไปทำสิ่งที่พระยะโฮวาสั่งว่าอย่าทำ+ 14 แล้วมารู้ทีหลังว่าสิ่งที่ทำไปนั้นเป็นบาป ชาวอิสราเอลจะต้องถวายวัวหนุ่มตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปโดยเอาวัวตัวนั้นมาที่หน้าเต็นท์เข้าเฝ้า 15 แล้วให้พวกผู้นำ*ของชาวอิสราเอลเอามือวางบนหัววัวต่อหน้าพระยะโฮวา และวัวตัวนั้นจะถูกฆ่าต่อหน้าพระยะโฮวา
16 “‘จากนั้น ปุโรหิตที่ถูกเจิมจะต้องเอาเลือดวัวส่วนหนึ่งเข้าไปในเต็นท์เข้าเฝ้า 17 ปุโรหิตคนนั้นจะต้องเอานิ้วจุ่มเลือดขึ้นมาสะบัดต่อหน้าพระยะโฮวาตรงหน้าม่าน+ และให้ทำอย่างนี้ 7 ครั้ง 18 และให้เขาเอาเลือดไปแต้มส่วนที่เป็นรูปเขาสัตว์บนแท่นบูชา+ที่อยู่ตรงหน้าพระยะโฮวาในเต็นท์เข้าเฝ้า และเลือดวัวที่เหลือทั้งหมดให้เขาเอาไปเทที่ฐานของแท่นบูชาสำหรับเครื่องบูชาเผา ซึ่งอยู่ตรงทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้า+ 19 ให้เขาเลาะมันทั้งหมดออกมา และเอาไปเผาบนแท่นบูชา+ 20 เขาจะต้องทำกับวัวตัวนี้เหมือนกับวัวที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับปุโรหิตเอง เขาต้องทำอย่างนี้ ปุโรหิตต้องไถ่บาปให้กับชาวอิสราเอล+ แล้วพวกเขาจะได้รับการอภัยบาป 21 และให้เอาวัวตัวนั้นไปเผาข้างนอกค่ายพัก เหมือนกับที่เขาเผาวัวตัวแรก+ นี่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับชาวอิสราเอลทั้งชาติ+
22 “‘ถ้าคนที่เป็นหัวหน้า+ทำบาปโดยไม่เจตนา คือทำอะไรก็ตามที่พระยะโฮวาพระเจ้าของเขาสั่งว่าอย่าทำ เขาก็มีความผิด 23 หรือถ้าเขารู้ตัวว่าได้ทำบาป คือไม่ทำตามกฎหมายของพระเจ้า ก็ให้เขาเอาลูกแพะตัวผู้ตัวหนึ่งที่สมบูรณ์แข็งแรงมาถวายเป็นเครื่องบูชา 24 ให้เขาเอามือวางบนหัวลูกแพะ แล้วฆ่าแพะตัวนั้นต่อหน้าพระยะโฮวาในที่ที่ใช้สำหรับฆ่าสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาเผา+ นี่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป 25 และให้ปุโรหิตเอานิ้วจุ่มเลือดแพะที่ใช้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปไปแต้มส่วนที่เป็นรูปเขาสัตว์+บนแท่นบูชาสำหรับเครื่องบูชาเผา ส่วนเลือดที่เหลือให้เขาเอาไปเทที่ฐานของแท่นบูชาสำหรับเครื่องบูชาเผา+ 26 ให้เขาเอามันสัตว์ทั้งหมดไปเผาบนแท่นบูชาเหมือนกับมันสัตว์ที่ใช้เป็นเครื่องบูชาผูกมิตร+ ปุโรหิตต้องไถ่บาปให้กับคนที่เป็นหัวหน้านั้น แล้วเขาจะได้รับการอภัยบาป
27 “‘ถ้าคนทั่วไปทำบาปโดยไม่เจตนา และมีความผิดเพราะไปทำสิ่งที่พระยะโฮวาสั่งว่าอย่าทำ+ 28 หรือถ้าเขารู้ตัวว่าได้ทำบาป ก็ให้เขาเอาลูกแพะตัวเมียตัวหนึ่งที่สมบูรณ์แข็งแรงมาถวายเป็นเครื่องบูชาสำหรับบาปที่เขาทำไป 29 เขาจะต้องเอามือวางบนหัวแพะที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป แล้วฆ่าแพะตัวนั้นในที่ที่ใช้สำหรับฆ่าสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาเผา+ 30 และให้ปุโรหิตเอานิ้วจุ่มเลือดแพะไปแต้มส่วนที่เป็นรูปเขาสัตว์บนแท่นบูชาสำหรับเครื่องบูชาเผา ส่วนเลือดที่เหลือทั้งหมดนั้นให้เขาเอาไปเทที่ฐานของแท่นบูชา+ 31 เขาจะต้องเลาะเอามันทั้งหมด+ออกจากตัวแพะเหมือนกับที่เลาะออกจากสัตว์ที่ใช้เป็นเครื่องบูชาผูกมิตร+ และให้ปุโรหิตเอามันทั้งหมดนั้นไปเผาบนแท่นบูชาถวายพระยะโฮวาซึ่งมีกลิ่นหอมที่ทำให้พระองค์พอใจ ปุโรหิตต้องไถ่บาปให้คนนั้น แล้วเขาจะได้รับการอภัยบาป
32 “‘แต่ถ้าเขาจะถวายลูกแกะเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป ก็ให้เอาลูกแกะตัวเมียตัวหนึ่งที่สมบูรณ์แข็งแรงมาถวาย 33 เขาจะต้องเอามือวางบนหัวแกะที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และฆ่าแกะตัวนั้นเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปในที่ที่ใช้สำหรับฆ่าสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาเผา+ 34 และให้ปุโรหิตเอานิ้วจุ่มเลือดลูกแกะที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปไปแต้มส่วนที่เป็นรูปเขาสัตว์บนแท่นบูชาสำหรับเครื่องบูชาเผา+ ส่วนเลือดที่เหลือทั้งหมดนั้นให้เขาเอาไปเทที่ฐานของแท่นบูชา 35 เขาจะต้องเลาะเอามันทั้งหมดออกจากตัวแกะเหมือนกับที่เลาะออกจากลูกแกะตัวผู้ที่ใช้เป็นเครื่องบูชาผูกมิตร และให้ปุโรหิตเอามันนั้นไปเผาบนแท่นบูชาโดยวางบนเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาด้วยการเผา+ ปุโรหิตจะไถ่บาปของคนนั้น แล้วเขาจะได้รับการอภัยบาป+
5 “‘ถ้าใครทำบาปเพราะได้ยินคำประกาศให้มาให้การเป็นพยาน*+ แต่เขาไม่มาให้การทั้ง ๆ ที่เขาเองเป็นพยานหรือรู้เห็นเรื่องนั้น เขาจะต้องถูกลงโทษเพราะความผิดนี้
2 “‘หรือถ้าใครแตะต้องสิ่งที่ไม่สะอาด ไม่ว่าจะเป็นซากสัตว์ป่าชนิดที่ไม่สะอาด ซากสัตว์เลี้ยงชนิดที่ไม่สะอาด หรือซากสัตว์เล็ก ๆ ชนิดที่ไม่สะอาด+ เขาก็ไม่สะอาดตามกฎหมายของพระเจ้าและมีความผิดแม้เขาจะไม่รู้ตัว 3 หรือถ้าใครแตะต้องคนที่ไม่สะอาดหรือสิ่งที่ทำให้ไม่สะอาด+ แล้วมารู้ตัวทีหลัง เขาก็มีความผิด
4 “‘หรือถ้าใครเผลอสาบานอะไรโดยไม่คิดให้รอบคอบก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย แล้วมานึกได้ทีหลังว่าตัวเองสาบานไปโดยไม่คิดให้รอบคอบก่อน เขาก็มีความผิด*+
5 “‘ถ้าใครทำผิดในเรื่องอะไรก็ตามที่กล่าวมานี้ ก็ให้เขาสารภาพ+ว่าทำผิดอย่างไร 6 และให้เอาเครื่องบูชาไถ่ความผิดมาถวายพระยะโฮวาสำหรับบาปที่เขาทำด้วย+ คือ ลูกแกะตัวเมียตัวหนึ่งหรือลูกแพะตัวเมียตัวหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และปุโรหิตจะทำการไถ่บาปให้เขา
7 “‘แต่ถ้าเขาไม่มีเงินพอจะซื้อลูกแกะหรือลูกแพะมาถวาย ก็ให้ถวายนกเขา 2 ตัวหรือลูกนกพิราบ 2 ตัว+ให้พระยะโฮวาเป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิดสำหรับบาปที่เขาทำ ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป อีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาเผา+ 8 เขาจะต้องเอานกนั้นมาให้ปุโรหิต แล้วปุโรหิตจะถวายนกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปก่อน โดยฉีกเนื้อที่คอด้านหน้าให้ขาด แต่ต้องไม่ให้ตัวนกขาดออกจากกัน 9 และปุโรหิตจะเอาเลือดส่วนหนึ่งของนกที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปนี้ไปพรมใส่ด้านข้างแท่นบูชาด้านหนึ่ง แต่เลือดที่เหลือให้เขาเอาไปเทที่ฐานของแท่นบูชา+ นี่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป 10 ส่วนนกอีกตัวหนึ่ง ปุโรหิตจะถวายเป็นเครื่องบูชาเผาตามขั้นตอนที่ทำเป็นประจำ+ ปุโรหิตจะทำการไถ่บาปที่คนนั้นทำไป แล้วเขาจะได้รับการอภัยบาป+
11 “‘แต่ถ้าเขาไม่มีเงินพอจะซื้อนกเขา 2 ตัวหรือลูกนกพิราบ 2 ตัว ก็ให้เขาเอาแป้งเนื้อละเอียด 1 ใน 10 เอฟาห์*+มาถวายเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับบาปที่เขาทำ อย่าให้เขาใส่น้ำมันหรือวางกำยานบนแป้งนั้น เพราะนี่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป 12 ให้เขาเอาแป้งนี้ไปให้ปุโรหิต และปุโรหิตจะเอาแป้งกำมือหนึ่งไปเผาบนแท่นบูชาโดยวางบนเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาด้วยการเผา ให้เป็นเครื่องบูชาที่เผาแทนเครื่องบูชาที่ถวายทั้งหมด* นี่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป 13 ปุโรหิตจะทำการไถ่บาปที่คนนั้นทำไป เขาจะได้รับการอภัยบาป+ ไม่ว่าจะเป็นบาปในเรื่องอะไรก็ตามที่กล่าวมานี้ และส่วนที่เหลือของเครื่องบูชานี้จะเป็นของปุโรหิต+ เหมือนกับเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าว’”+
14 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 15 “ถ้าใครไม่ซื่อสัตย์ คือทำบาปต่อสิ่งบริสุทธิ์ของพระยะโฮวาโดยไม่เจตนา+ เขาต้องเอาแกะตัวผู้ตัวหนึ่งที่สมบูรณ์แข็งแรงมาถวายพระยะโฮวาเป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิด+ โดยราคาของแกะนั้นให้กำหนดเป็นเชเขล*และต้องเป็นตามเชเขลมาตรฐานของสถานบริสุทธิ์+ 16 และเขาต้องจ่ายค่าชดใช้สำหรับบาปที่ทำต่อสถานบริสุทธิ์ด้วย และต้องเพิ่มให้อีก 1 ใน 5 ของค่าชดใช้นั้น+ เขาจะต้องนำค่าชดใช้ทั้งหมดนี้ไปให้ปุโรหิต ซึ่งจะทำการไถ่บาป+ให้เขาโดยใช้แกะตัวผู้ที่เป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิด แล้วเขาจะได้รับการอภัยบาป+
17 “ถ้าใครทำบาปโดยทำอะไรก็ตามที่พระยะโฮวาสั่งว่าอย่าทำ ถึงเขาจะไม่รู้ตัว เขาก็มีความผิดและจะต้องถูกลงโทษตามความผิดนั้น+ 18 เขาจะต้องเอาแกะตัวผู้ตัวหนึ่งที่สมบูรณ์แข็งแรงซึ่งมีราคาตามที่กำหนดไว้มาให้ปุโรหิตเพื่อเป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิด+ และปุโรหิตจะทำการไถ่บาปให้เขาสำหรับความผิดที่เขาทำไปโดยไม่เจตนาและโดยไม่รู้ตัว แล้วเขาจะได้รับการอภัยบาป 19 นี่เป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิด เขามีความผิดเพราะทำบาปต่อพระยะโฮวา”
6 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 2 “ถ้าใครทำบาปและไม่ซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวา+ ด้วยการหลอกลวงเพื่อนบ้านเกี่ยวกับของที่รับฝาก+ ของที่เอาไว้ค้ำประกัน หรือของที่ขโมยหรือฉ้อโกงเพื่อนบ้านมา 3 หรือเก็บของที่เพื่อนบ้านทำหายเอาไว้แต่กลับบอกว่าไม่ได้เอาไป และถ้าเขาสาบานเท็จโดยบอกว่าไม่ได้ทำบาปอะไรแบบนั้น+ เขาจะต้องทำอย่างนี้ 4 ถ้าเขาทำบาปและมีความผิดจริง เขาจะต้องคืนของที่ขโมยมา หรือของที่ไปบังคับขู่เข็ญเอามา หรือของที่ฉ้อโกงมา หรือของที่รับฝากไว้ หรือของที่เพื่อนบ้านทำหายแล้วเขาเก็บไว้ 5 หรืออะไรก็ตามที่เขาสาบานเท็จโดยบอกว่าไม่ได้เอาไป เขาต้องคืนหรือชดใช้ให้ตามราคาของสิ่งที่ได้เอาไป+ และต้องเพิ่มให้อีก 1 ใน 5 ของราคานั้น และต้องให้กับเจ้าของในวันเดียวกันกับที่เขาถูกตัดสินว่ามีความผิด 6 และเขาต้องเอาแกะตัวผู้ตัวหนึ่งที่สมบูรณ์แข็งแรงมาให้ปุโรหิตเพื่อถวายพระยะโฮวาเป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิด แกะนั้นต้องมีราคาตามที่กำหนดไว้สำหรับเครื่องบูชาไถ่ความผิด+ 7 ปุโรหิตจะไถ่บาปให้เขาต่อหน้าพระยะโฮวา แล้วเขาจะได้รับการอภัยบาปสำหรับความผิดที่เขาทำ”+
8 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 9 “ให้สั่งอาโรนกับลูกชายของเขาอย่างนี้ ‘นี่เป็นกฎเกี่ยวกับเครื่องบูชาเผา+ คือ เครื่องบูชาเผานั้นจะต้องเผาอยู่เหนือถ่านไฟบนแท่นบูชาตลอดคืนจนถึงรุ่งเช้า และต้องให้ไฟที่แท่นนั้นลุกอยู่ตลอดเวลา 10 ปุโรหิตต้องสวมชุดประจำตำแหน่งที่ทำจากผ้าลินิน+ และสวมกางเกงขาสั้น*ที่ทำจากผ้าลินิน+ด้วย และให้เขาเอาขี้เถ้า*+จากเครื่องบูชาเผาที่เผาบนแท่นไปไว้ที่ข้างแท่นบูชา 11 จากนั้น เขาจะถอดชุดของตัวเอง+ออกแล้วสวมชุดอื่นแทน และเอาขี้เถ้าออกไปเทในที่ที่แยกไว้เฉพาะ*นอกค่ายพัก+ 12 ต้องให้ไฟในแท่นบูชาลุกอยู่ตลอดเวลา อย่าให้มอดดับไป ปุโรหิตจะต้องเติมฟืนทุกเช้า+ และจัดเรียงเครื่องบูชาเผาที่อยู่เหนือถ่านไฟให้ดี และเผามันสัตว์จากเครื่องบูชาผูกมิตรเหนือถ่านไฟนี้+ 13 ให้ไฟในแท่นบูชาลุกอยู่ตลอด อย่าให้มอดดับไป
14 “‘ส่วนกฎเกี่ยวกับเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าว+ คือ ลูกชายของอาโรนจะต้องถวายเครื่องบูชานี้ต่อหน้าพระยะโฮวาที่หน้าแท่นบูชา 15 และคนหนึ่งในพวกเขาจะต้องเอาแป้งเนื้อละเอียดจากเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวกำมือหนึ่ง รวมทั้งน้ำมันบางส่วนและกำยานทั้งหมดที่อยู่บนนั้น ไปเผาถวายพระยะโฮวาบนแท่นบูชาเพื่อจะมีกลิ่นหอมที่ทำให้พระองค์พอใจ เป็นเครื่องบูชาที่เผาแทนเครื่องบูชาที่ถวายทั้งหมด*+ 16 และส่วนที่เหลือให้อาโรนกับลูกชายกิน+ โดยทำเป็นขนมปังไม่ใส่เชื้อแล้วกินในสถานบริสุทธิ์ คือ ที่ลานเต็นท์เข้าเฝ้า+ 17 อย่าใส่เชื้อเมื่อทำขนมปังนั้น+ เรายกเครื่องบูชาส่วนนี้ให้เขาซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจากเครื่องบูชาที่ถวายเราด้วยการเผา+ นี่เป็นของบริสุทธิ์ยิ่ง+เหมือนกับเครื่องบูชาไถ่บาปและเครื่องบูชาไถ่ความผิด 18 ลูกหลานของอาโรนที่เป็นผู้ชายทุกคนจะกินขนมปังนี้+ นี่เป็นส่วนของเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาด้วยการเผาซึ่งยกให้พวกเขาตลอดทุกยุคทุกสมัย+ ทุกสิ่งที่สัมผัสเครื่องบูชานี้จะต้องบริสุทธิ์’”
19 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสอีกว่า 20 “เครื่องบูชาที่อาโรนกับลูกชายต้องถวายพระยะโฮวาในวันที่เจิมเพื่อแต่งตั้งอาโรน+ คือ แป้งเนื้อละเอียด 1 ใน 10 เอฟาห์*+ซึ่งเป็นเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวที่ถวายเป็นประจำ+ ให้ถวายครึ่งหนึ่งในตอนเช้า และอีกครึ่งหนึ่งในตอนเย็น 21 โดยเอาแป้งนี้ไปนวดกับน้ำมันแล้วปิ้งในกระทะ+ เจ้าต้องนวดกับน้ำมันให้เข้ากันอย่างดี และเอาขนมปังที่เป็นเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวนี้มาหักเป็นชิ้น ๆ เผาถวายพระยะโฮวาเป็นเครื่องบูชาซึ่งมีกลิ่นหอมที่ทำให้พระองค์พอใจ 22 ลูกหลานของอาโรนที่ถูกเจิมเป็นปุโรหิตต่อจากเขา+จะต้องถวายเครื่องบูชานี้ พวกเขาต้องทำตามข้อกำหนดนี้ตลอดไป คือ ต้องเผาถวายพระยะโฮวาทั้งหมด 23 เครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวของปุโรหิตนั้น อย่าให้ใครกิน แต่ให้เผาถวายทั้งหมด”
24 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสอีกว่า 25 “ให้บอกอาโรนกับลูกชายของเขาว่า ‘นี่เป็นกฎเกี่ยวกับเครื่องบูชาไถ่บาป+ คือ ต้องฆ่าสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปต่อหน้าพระยะโฮวาในที่ที่ใช้สำหรับฆ่าสัตว์+ที่เป็นเครื่องบูชาเผา นี่เป็นสิ่งบริสุทธิ์ยิ่ง 26 ปุโรหิตที่ถวายสัตว์ซึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปนี้จะกินเนื้อสัตว์นั้นได้+ เขาจะกินในสถานบริสุทธิ์ คือ ที่ลานเต็นท์เข้าเฝ้า+
27 “‘ทุกสิ่งที่สัมผัสเนื้อสัตว์นี้จะต้องบริสุทธิ์ และถ้าเลือดของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปกระเด็นไปถูกเสื้อผ้าของใคร ก็ต้องซักเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดนั้นในที่ที่สะอาดบริสุทธิ์ 28 ภาชนะดินเผาที่ใช้ต้มเนื้อจะต้องทุบทิ้ง แต่ถ้าต้มในภาชนะทองแดง จะต้องขัดภาชนะนั้นให้สะอาดและล้างด้วยน้ำ
29 “‘ผู้ชายทุกคนที่เป็นปุโรหิตจะกินเนื้อนั้นได้+ นี่เป็นสิ่งบริสุทธิ์ยิ่ง+ 30 แต่เนื้อของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปซึ่งเลือดส่วนหนึ่งถูกนำเข้าไปในเต็นท์เข้าเฝ้า คือนำเข้าไปในสถานบริสุทธิ์+เพื่อไถ่บาปนั้น เนื้อนี้จะกินไม่ได้ ต้องเอาไฟเผา
7 “‘นี่เป็นกฎเกี่ยวกับเครื่องบูชาไถ่ความผิด+ เครื่องบูชานี้เป็นสิ่งบริสุทธิ์ยิ่ง 2 ให้ฆ่าสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิดในที่ที่ใช้สำหรับฆ่าสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาเผา และให้เอาเลือด+ไปพรมใส่ด้านข้างของแท่นบูชาทั้ง 4 ด้าน+ 3 ให้เขาถวายส่วนที่เป็นมันสัตว์ทั้งหมด+ คือ หางที่เต็มไปด้วยมัน มันตรงพุง 4 รวมทั้งไตทั้งสองข้างกับมันที่หุ้มไตซึ่งอยู่ใกล้ ๆ เอว เขาต้องเอามันที่หุ้มตับออกมาพร้อมกับไตด้วย+ 5 ให้ปุโรหิตเอาส่วนทั้งหมดนี้ไปเผาบนแท่นบูชาเป็นเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาด้วยการเผา+ นี่คือเครื่องบูชาไถ่ความผิด 6 ผู้ชายทุกคนที่เป็นปุโรหิตจะกินเนื้อของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชานี้ได้+ โดยกินในที่ที่สะอาดบริสุทธิ์ เนื้อสัตว์นี้เป็นสิ่งบริสุทธิ์ยิ่ง+ 7 กฎที่ใช้กับเครื่องบูชาไถ่ความผิดนี้ก็เหมือนกับกฎที่ใช้กับเครื่องบูชาไถ่บาป คือ เนื้อสัตว์จากเครื่องบูชา 2 ชนิดนี้จะเป็นของปุโรหิตที่ทำการไถ่บาป+
8 “‘เมื่อปุโรหิตถวายเครื่องบูชาเผาให้ใครก็ตาม หนัง+ของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาเผานั้นจะเป็นของปุโรหิตที่เป็นคนถวาย
9 “‘เครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวทุกอย่างที่อบในเตา ที่ปิ้งหรือทอดในกระทะ+จะเป็นของปุโรหิตที่เป็นคนถวาย เครื่องบูชานี้จะเป็นของเขา+ 10 แต่เครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวอื่น ๆ ทั้งหมด ทั้งที่นวดกับน้ำมัน+และไม่นวดกับน้ำมัน+จะเป็นของลูกชายอาโรน ให้แต่ละคนได้เท่า ๆ กัน
11 “‘ส่วนกฎเกี่ยวกับเครื่องบูชาผูกมิตร+ ที่จะนำมาถวายพระยะโฮวา 12 คือ ถ้าเขาถวายเครื่องบูชานี้เพื่อแสดงความขอบคุณ+ ก็ให้เอาขนมปังรูปวงแหวนไม่ใส่เชื้อที่นวดกับน้ำมัน ขนมปังแผ่นบางไม่ใส่เชื้อที่ทาน้ำมัน และขนมปังรูปวงแหวนที่ทำจากแป้งเนื้อละเอียดผสมน้ำมันและนวดอย่างดี มาถวายเป็นเครื่องบูชาขอบคุณ 13 และให้เขาถวายขนมปังใส่เชื้อรูปวงแหวนพร้อมกับเครื่องบูชาผูกมิตรที่ถวายเพื่อแสดงความขอบคุณด้วย 14 ให้เขาเอาขนมปังนี้มาอย่างละชิ้นถวายเป็นส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์ให้พระยะโฮวา ส่วนนี้จะเป็นของปุโรหิตที่เป็นคนประพรมเลือดสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาผูกมิตร+ 15 ส่วนเนื้อของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาผูกมิตรซึ่งถวายเพื่อแสดงความขอบคุณ จะต้องกินในวันที่ถวายเครื่องบูชานั้น อย่าเก็บส่วนไหนไว้จนถึงรุ่งเช้า+
16 “‘ถ้าเครื่องบูชาที่ถวายนี้เป็นเครื่องบูชาสำหรับคำปฏิญาณ+ หรือเป็นเครื่องบูชาที่ถวายด้วยความสมัครใจ+ ก็ต้องกินในวันที่ถวายเครื่องบูชานั้น และถ้าเหลือก็จะกินในวันรุ่งขึ้นได้ 17 แต่ถ้าเนื้อของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชานี้เหลือถึงวันที่สามก็ต้องเอาไปเผาไฟ+ 18 ถ้าคนที่ถวายกินเนื้อของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาผูกมิตรในวันที่สาม พระเจ้าจะไม่พอใจเขา เขาจะไม่ได้รับประโยชน์จากเครื่องบูชานั้น เพราะเนื้อนั้นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ และคนที่กินเนื้อนั้นจะต้องถูกลงโทษเพราะความผิดนี้+ 19 และเนื้อที่ไปสัมผัสสิ่งที่ถือว่าไม่สะอาดจะกินไม่ได้ ต้องเอาไฟเผา ส่วนเนื้อที่ถือว่าสะอาด คนที่สะอาดก็กินเนื้อนั้นได้
20 “‘แต่ถ้าคนที่ไม่สะอาดไปกินเนื้อของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาผูกมิตรซึ่งถวายพระยะโฮวา เขาจะต้องถูกประหารชีวิต+ 21 ถ้าใครไปแตะต้องคนที่ไม่สะอาด+ สัตว์ชนิดที่ไม่สะอาด+ หรือสิ่งที่น่ารังเกียจ+ แล้วไปกินเนื้อของสัตว์ซึ่งเป็นเครื่องบูชาผูกมิตรที่ถวายพระยะโฮวา จะต้องถูกประหารชีวิต’”
22 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 23 “ให้บอกชาวอิสราเอลอย่างนี้ ‘พวกเจ้าอย่ากินมัน+ของวัว มันของแกะ หรือมันของแพะ 24 ส่วนมันของสัตว์ที่ตายเอง และมันของสัตว์ที่ถูกสัตว์อื่นกัดตาย พวกเจ้าเอาไปใช้อย่างอื่นได้ แต่ห้ามกิน+ 25 ใครกินมันของสัตว์ที่ถวายเป็นเครื่องบูชาให้พระยะโฮวาด้วยการเผา จะต้องถูกประหารชีวิต
26 “‘ห้ามพวกเจ้ากินเลือด+ ไม่ว่าจะเป็นเลือดของนกหรือเลือดของสัตว์อื่น ๆ ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม 27 ใครที่กินเลือดจะต้องถูกประหารชีวิต’”+
28 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสอีกว่า 29 “ไปบอกชาวอิสราเอลอย่างนี้ ‘คนที่ถวายเครื่องบูชาผูกมิตรให้พระยะโฮวาจะต้องให้ส่วนหนึ่งจากเครื่องบูชานั้นกับพระยะโฮวา+ 30 เขาจะเอามัน+ของสัตว์ที่จะใช้เป็นเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาด้วยการเผามาพร้อมกับเนื้อส่วนอก แล้วเขาจะยื่นส่วนนี้เป็นเครื่องบูชายื่นถวาย+ตรงหน้าพระยะโฮวา 31 ปุโรหิตจะเอาส่วนที่เป็นมันของสัตว์ไปเผาบนแท่นบูชา+ แต่เนื้อส่วนอกจะเป็นของอาโรนกับลูกชาย+
32 “‘ขาขวาซึ่งเป็นส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์จากสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาผูกมิตรของเจ้านั้นจะต้องให้ปุโรหิต+ 33 ลูกชายของอาโรนซึ่งเป็นคนถวายเลือดและมันของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาผูกมิตรจะได้รับขาขวาเป็นส่วนของเขา+ 34 เนื้อส่วนอกจากเครื่องบูชายื่นถวายและขาซึ่งเป็นส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์จากเครื่องบูชาผูกมิตรของชาวอิสราเอล เราจะยกให้ปุโรหิตอาโรนกับลูกชาย ชาวอิสราเอลต้องทำตามข้อกำหนดนี้ตลอดไป+
35 “‘นี่เป็นส่วนที่ปุโรหิตจะได้จากเครื่องบูชานี้ที่ถวายพระยะโฮวาด้วยการเผา ซึ่งเป็นส่วนที่ยกให้อาโรนกับลูกชายในวันที่แต่งตั้งพวกเขาให้ทำหน้าที่ปุโรหิตรับใช้พระยะโฮวา+ 36 พระยะโฮวามีคำสั่งให้ยกส่วนที่ได้จากเครื่องบูชาของชาวอิสราเอลนี้ให้พวกเขาในวันที่พระองค์เจิมเพื่อแต่งตั้งพวกเขา+ นี่เป็นข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตามไปตลอดทุกยุคทุกสมัย’”
37 กฎทั้งหมดนี้เป็นกฎเกี่ยวกับเครื่องบูชาเผา+ เครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าว+ เครื่องบูชาไถ่บาป+ เครื่องบูชาไถ่ความผิด+ เครื่องบูชาที่ถวายในการแต่งตั้งปุโรหิต+ และเครื่องบูชาผูกมิตร+ 38 ตามที่พระยะโฮวาสั่งโมเสสบนภูเขาซีนาย+ ในวันที่พระองค์มีคำสั่งให้ชาวอิสราเอลถวายเครื่องบูชาให้พระยะโฮวาในที่กันดารซีนาย+
8 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 2 “ให้พาอาโรนกับลูกชายมา+ และเอาเครื่องแต่งกาย+ น้ำมันเจิม+ วัวที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป แกะตัวผู้ 2 ตัว และขนมปังไม่ใส่เชื้อ 1 กระจาดมาด้วย+ 3 ให้ชาวอิสราเอลทั้งหมดมาประชุมกันตรงทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้า”
4 โมเสสทำตามที่พระยะโฮวาสั่ง ชาวอิสราเอลก็มาประชุมกันตรงทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้านั้น 5 โมเสสพูดกับชาวอิสราเอลว่า “ต่อไปนี้คือสิ่งที่พระยะโฮวาสั่งให้พวกเราทำ” 6 แล้วโมเสสก็พาอาโรนกับลูกชายของเขามา และให้พวกเขาอาบน้ำ+ 7 จากนั้น โมเสสก็สวมเสื้อตัวยาว+ให้อาโรน ผูกสายรัดเอว+ให้ แล้วก็สวมเสื้อไม่มีแขน+ ตามด้วยเอโฟด+ และเอาผ้าคาดเอว+มาคาดเอโฟดให้แน่น 8 หลังจากนั้น โมเสสเอาทับทรวง+มาสวมให้อาโรน และใส่อูริมกับทูมมิม+ในทับทรวงนั้น 9 แล้วเอาผ้าโพกหัวของมหาปุโรหิต+มาสวมให้เขา เอาแถบทองคำที่เป็นเงาวาวผูกติดไว้ที่ด้านหน้าของผ้าโพกหัวเป็นเครื่องหมายอันบริสุทธิ์ที่แสดงถึงการอุทิศตัว+ ตามที่พระยะโฮวาสั่งโมเสสไว้
10 แล้วโมเสสก็เอาน้ำมันเจิมมาเจิมเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์และสิ่งของทุกอย่างที่อยู่ในเต็นท์+ และแยกสิ่งของทั้งหมดนี้ไว้ต่างหากให้เป็นของที่บริสุทธิ์ยิ่ง 11 หลังจากนั้น โมเสสได้ประพรมน้ำมันบนแท่นบูชา 7 ครั้ง แล้วเจิมแท่นและสิ่งของทุกอย่างที่ใช้กับแท่น รวมทั้งอ่างกับขาตั้งอ่าง และแยกสิ่งของทั้งหมดนี้ไว้ต่างหากให้เป็นของที่บริสุทธิ์ยิ่ง 12 แล้วโมเสสก็เอาน้ำมันเจิมเทลงบนหัวของอาโรน เป็นการเจิมเพื่อแต่งตั้งเขาและแยกเขาไว้ให้บริสุทธิ์+
13 แล้วโมเสสก็ให้ลูกชายของอาโรนมา และสวมเสื้อตัวยาวให้พวกเขา ผูกสายรัดเอวให้ แล้วเอาผ้าโพกหัวมาโพกให้พวกเขา+ ตามที่พระยะโฮวาสั่งโมเสสไว้
14 จากนั้น เขาก็เอาวัวที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปมา แล้วให้อาโรนกับลูกชายเอามือวางบนหัววัวที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป+ 15 โมเสสฆ่าวัวตัวนั้น แล้วเอาเลือด+ของมันมา และเอานิ้วจุ่มเลือดไปแต้มส่วนที่เป็นรูปเขาสัตว์ทั้งสี่บนแท่นบูชา ส่วนเลือดที่เหลือเขาเทที่ฐานของแท่นบูชา การทำอย่างนี้เป็นการชำระแท่นให้บริสุทธิ์จากบาป แยกแท่นนั้นไว้ต่างหากและทำให้บริสุทธิ์ และชำระแท่นให้สะอาด 16 จากนั้น โมเสสเอามันทั้งหมดที่หุ้มลำไส้ มันที่หุ้มตับ ไตทั้งสองข้าง และมันที่หุ้มไตของวัวนั้นไปเผาบนแท่นบูชา+ 17 แต่ส่วนที่เหลือ คือ หนัง เนื้อ และมูลของมัน จะถูกเอาไปเผานอกค่าย+ตามที่พระยะโฮวาสั่งโมเสสไว้
18 แล้วเขาก็เอาแกะตัวผู้ที่เป็นเครื่องบูชาเผามา และให้อาโรนกับลูกชายเอามือวางบนหัวแกะ+ 19 โมเสสฆ่าแกะตัวนั้น และเอาเลือดของมันไปพรมใส่ด้านข้างของแท่นบูชาทั้ง 4 ด้าน 20 จากนั้น โมเสสก็สับแกะออกเป็นท่อน ๆ แล้ววางหัวและส่วนต่าง ๆ รวมทั้งมัน*ของแกะไว้บนแท่นบูชาเพื่อจะเผา 21 โมเสสเอาน้ำล้างลำไส้กับขาของมัน และเผาแกะนั้นทั้งตัวบนแท่นเป็นเครื่องบูชาเผาซึ่งมีกลิ่นหอมที่ทำให้พระเจ้าพอใจ นี่เป็นเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาด้วยการเผา ตามที่พระยะโฮวาสั่งโมเสสไว้
22 จากนั้น โมเสสเอาแกะตัวผู้อีกตัวหนึ่งมาเพื่อเป็นเครื่องบูชาที่ถวายในการแต่งตั้งปุโรหิต+ อาโรนกับลูกชายก็เอามือวางบนหัวแกะนั้น+ 23 โมเสสฆ่าแกะตัวนั้น และเอาเลือดส่วนหนึ่งแต้มที่ติ่งหูข้างขวา ที่นิ้วหัวแม่มือข้างขวา และที่นิ้วหัวแม่เท้าข้างขวาของอาโรน 24 จากนั้น โมเสสก็ให้ลูกชายของอาโรนมา และเอาเลือดส่วนหนึ่งแต้มที่ติ่งหูข้างขวา ที่นิ้วหัวแม่มือข้างขวา และนิ้วหัวแม่เท้าข้างขวาของพวกเขา และโมเสสเอาเลือดที่เหลือไปพรมใส่ด้านข้างของแท่นบูชาทั้ง 4 ด้าน+
25 โมเสสเอาส่วนที่เป็นมันของแกะ คือ หางที่เต็มไปด้วยมัน มันทั้งหมดที่หุ้มลำไส้ มันที่หุ้มตับ และเอาไตทั้งสองข้างกับมันที่หุ้มไต และขาขวาของแกะนั้นมา+ 26 และเอาขนมปังรูปวงแหวนไม่ใส่เชื้อ+ ขนมปังรูปวงแหวนที่ผสมกับน้ำมัน+ และขนมปังแผ่นบาง อย่างละ 1 ชิ้นมาจากกระจาดใส่ขนมปังไม่ใส่เชื้อซึ่งอยู่ตรงหน้าพระยะโฮวา โมเสสเอาขนมปังทั้งหมดนี้วางบนส่วนที่เป็นมันและขาขวาของแกะนั้น 27 จากนั้น โมเสสเอาของทั้งหมดวางบนฝ่ามือของอาโรนกับลูกชาย แล้วยื่นถวายตรงหน้าพระยะโฮวาเป็นเครื่องบูชายื่นถวาย 28 แล้วโมเสสก็เอาของทั้งหมดจากมือของพวกเขาไปเผาบนแท่นโดยเอาไปวางบนเครื่องบูชาเผา ของทั้งหมดนี้เป็นเครื่องบูชาที่ถวายในการแต่งตั้งปุโรหิตซึ่งมีกลิ่นหอมที่ทำให้พระเจ้าพอใจ นี่เป็นเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาด้วยการเผา
29 และโมเสสเอาเนื้อส่วนอกมายื่นถวายต่อหน้าพระยะโฮวาเป็นเครื่องบูชายื่นถวาย+ เนื้อส่วนนี้ของแกะตัวผู้ที่ถวายในการแต่งตั้งปุโรหิตเป็นของโมเสส ตามที่พระยะโฮวาสั่งโมเสสไว้+
30 จากนั้น โมเสสเอาน้ำมันเจิม+ส่วนหนึ่งกับเลือดส่วนหนึ่งที่ติดอยู่ด้านข้างแท่นบูชามาผสมกัน แล้วเอาไปประพรมที่ตัวอาโรนกับเครื่องแต่งกายของเขา และประพรมที่ตัวลูกชายกับเครื่องแต่งกายของพวกเขา โดยวิธีนี้ โมเสสได้ทำให้อาโรนกับลูกชาย+และเครื่องแต่งกายของพวกเขาบริสุทธิ์+
31 แล้วโมเสสก็บอกอาโรนกับลูกชายของเขาว่า “ให้พวกคุณเอาเนื้อแกะส่วนที่เหลือไปต้ม+ตรงทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้า แล้วกินเนื้อนั้นที่นั่นพร้อมกับขนมปังในกระจาดที่ใช้ถวายในการแต่งตั้งปุโรหิต ตามที่ผมได้รับคำสั่งว่า ‘ให้อาโรนกับลูกชายของเขากิน’+ 32 เนื้อและขนมปังที่เหลือก็ให้เอาไฟเผา+ 33 พวกคุณจะต้องอยู่ใกล้ ๆ บริเวณทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้านี้ 7 วัน จนกว่าจะถึงวันที่การแต่งตั้งพวกคุณจะเสร็จสิ้น เพราะต้องใช้เวลา 7 วันในการแต่งตั้งพวกคุณเป็นปุโรหิต+ 34 และวันที่เหลือพระยะโฮวาก็สั่งให้ทำเหมือนกับที่ทำในวันนี้เพื่อเป็นการไถ่บาปของพวกคุณ+ 35 พวกคุณจะอยู่ที่บริเวณทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้าทั้งวันและคืนตลอด 7 วัน+ และต้องทำตามคำสั่งของพระยะโฮวา+ เพื่อพวกคุณจะไม่ตาย เพราะพระองค์สั่งผมมาอย่างนั้น”
36 อาโรนกับลูกชายก็ทำทุกสิ่งตามที่พระยะโฮวาสั่งผ่านทางโมเสส
9 พอถึงวันที่แปด+ โมเสสก็เรียกอาโรนกับลูกชายของเขาและพวกผู้นำของชาวอิสราเอลมา 2 แล้วโมเสสก็พูดกับอาโรนว่า “ให้เอาลูกวัวตัวหนึ่งที่สมบูรณ์แข็งแรงมาเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป+ และแกะตัวผู้ตัวหนึ่งที่สมบูรณ์แข็งแรงเป็นเครื่องบูชาเผา แล้วถวายเครื่องบูชานี้สำหรับตัวเองต่อหน้าพระยะโฮวา 3 และให้บอกชาวอิสราเอลว่า ‘เอาแพะตัวผู้ตัวหนึ่งมาเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และเอาลูกวัวกับลูกแกะตัวผู้อายุ 1 ปีที่สมบูรณ์แข็งแรงอย่างละตัวมาเป็นเครื่องบูชาเผา 4 และเอาวัวกับแกะตัวผู้อย่างละตัวมาเป็นเครื่องบูชาผูกมิตร+ และถวายสัตว์นี้ต่อหน้าพระยะโฮวา พร้อมกับเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าว+ที่นวดกับน้ำมัน เพราะวันนี้พระยะโฮวาจะมาหาพวกคุณ’”+
5 พวกเขาก็เอาทุกสิ่งมาที่หน้าเต็นท์เข้าเฝ้าตามที่โมเสสสั่ง และชาวอิสราเอลทั้งหมดก็มายืนต่อหน้าพระยะโฮวา 6 โมเสสพูดว่า “นี่คือสิ่งที่พระยะโฮวาสั่งให้พวกคุณทำ แล้วพวกคุณจะได้เห็นรัศมีของพระยะโฮวา”+ 7 แล้วโมเสสก็พูดกับอาโรนว่า “ไปที่แท่นบูชาและถวายเครื่องบูชาไถ่บาป+กับเครื่องบูชาเผาของคุณ เพื่อไถ่บาปให้ตัวคุณเอง+และตระกูลของคุณ และถวายเครื่องบูชาของประชาชน+เพื่อไถ่บาปให้พวกเขา+ ตามที่พระยะโฮวาสั่งไว้”
8 อาโรนไปที่แท่นบูชาทันที และฆ่าลูกวัวที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับตัวเขาเอง+ 9 ลูกชายของอาโรนเอาเลือด+ลูกวัวส่งให้เขา อาโรนก็เอานิ้วจุ่มเลือดนั้นไปแต้มส่วนที่เป็นรูปเขาสัตว์บนแท่นบูชา และเลือดที่เหลือเขาก็เทที่ฐานของแท่น+ 10 เขาเอามัน ไต มันที่หุ้มตับของวัวที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปไปเผาบนแท่นบูชา ตามที่พระยะโฮวาสั่งโมเสสไว้+ 11 ส่วนเนื้อกับหนังของวัวนั้น เขาเอาไปเผาข้างนอกค่ายพัก+
12 จากนั้น อาโรนฆ่าแกะตัวผู้ที่เป็นเครื่องบูชาเผา พวกลูกชายของอาโรนก็เอาเลือดของแกะนั้นส่งให้เขา อาโรนก็เอาเลือดพรมใส่ด้านข้างของแท่นบูชาทั้ง 4 ด้าน+ 13 พวกลูกชายเอาส่วนต่าง ๆ ของแกะที่เป็นเครื่องบูชาเผา รวมทั้งหัวของมันให้อาโรน และเขาก็เอาไปเผาบนแท่นบูชา 14 อาโรนเอาน้ำล้างลำไส้และขาของมัน และเอาไปเผาบนแท่นโดยวางบนเครื่องบูชาเผา
15 จากนั้น อาโรนก็ถวายเครื่องบูชาของประชาชน โดยเอาแพะที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับประชาชนไปฆ่าและถวายเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปเหมือนกับสัตว์ตัวแรก 16 แล้วเขาก็ถวายเครื่องบูชาเผา โดยทำตามขั้นตอนต่าง ๆ อย่างที่ได้ทำมา+
17 ต่อจากนั้น เขาก็ถวายเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าว+ และเอาไปเผาบนแท่นกำมือหนึ่ง เพิ่มเติมจากเครื่องบูชาเผาที่ถวายในตอนเช้า+
18 ต่อมา เขาฆ่าวัวและแกะตัวผู้ที่เป็นเครื่องบูชาผูกมิตรสำหรับประชาชน พวกลูกชายของอาโรนเอาเลือดของสัตว์นั้นส่งให้เขา อาโรนก็เอาไปพรมใส่ด้านข้างของแท่นบูชาทั้ง 4 ด้าน+ 19 สำหรับส่วนที่เป็นมันของวัว+ หางของแกะตัวผู้ที่เต็มไปด้วยมัน มันตรงพุง ไตทั้งสองข้าง และมันที่หุ้มตับนั้น+ 20 พวกลูกชายของอาโรนเอาส่วนที่เป็นมันนี้ไปวางบนเนื้อส่วนอก และหลังจากนั้น อาโรนก็เอาส่วนที่เป็นมันนี้ไปเผาบนแท่นบูชา+ 21 แต่เนื้อส่วนอกและขาขวานั้น อาโรนยื่นถวายต่อหน้าพระยะโฮวาเป็นเครื่องบูชายื่นถวาย ตามที่โมเสสสั่งไว้+
22 แล้วอาโรนก็ยกมือไปทางประชาชนและอวยพรพวกเขา+ พออาโรนถวายเครื่องบูชาไถ่บาป เครื่องบูชาเผา และเครื่องบูชาผูกมิตรเสร็จ เขาก็ลงมาจากแท่นบูชา 23 สุดท้าย โมเสสกับอาโรนก็เข้าไปในเต็นท์เข้าเฝ้า และออกมาอวยพรประชาชน+
แล้วพระยะโฮวาก็ให้ทุกคนได้เห็นรัศมีของพระองค์+ 24 และไฟที่มาจากพระยะโฮวา+ก็เริ่มไหม้เครื่องบูชาเผา รวมทั้งส่วนที่เป็นมันบนแท่นบูชา เมื่อประชาชนทุกคนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาก็โห่ร้องด้วยความยินดี และหมอบลงนมัสการพระเจ้า+
10 แต่ต่อมา นาดับกับอาบีฮูลูกชายของอาโรน+เอาภาชนะเผาเครื่องหอมมาใส่ถ่านไฟ แล้วเอาเครื่องหอม+ใส่ลงไปเพื่อจะเผาถวายต่อหน้าพระยะโฮวาด้วยไฟที่ไม่ได้เป็นไปตามที่พระองค์กำหนดไว้+ และพระองค์ยังไม่ได้สั่งให้ทำ 2 พอพวกเขาทำอย่างนั้น ไฟจากพระยะโฮวาก็ลงมาเผา+พวกเขาตายต่อหน้าพระยะโฮวา+ 3 แล้วโมเสสก็พูดกับอาโรนว่า “พระยะโฮวาบอกอย่างนี้ ‘คนที่เข้ามาหาเราต้องเคารพนับถือเราเพราะเราเป็นพระเจ้าที่บริสุทธิ์+ และทุกคนต้องให้เกียรติเรา’” อาโรนก็พูดอะไรไม่ออก
4 โมเสสก็เรียกมิชาเอลกับเอลซาฟาน ลูกชายของอุสซีเอล+ ซึ่งเป็นอาของอาโรนให้มาหา และพูดกับเขาว่า “มาเอาศพพี่น้องของคุณที่อยู่ข้างหน้าสถานบริสุทธิ์นี้ไปข้างนอกค่ายพัก” 5 ทั้งสองก็มาเอาศพนาดับกับอาบีฮูที่อยู่ในชุดเสื้อตัวยาวออกไปข้างนอกค่ายพัก ตามที่โมเสสสั่ง
6 แล้วโมเสสก็พูดกับอาโรนและเอเลอาซาร์กับอิธามาร์ลูกชายที่เหลือของอาโรนว่า “อย่าปล่อยผมเผ้ารุงรัง หรือฉีกเสื้อของตัวเอง+ พวกคุณจะได้ไม่ตาย และพระเจ้าจะได้ไม่โกรธชาวอิสราเอลทั้งหมด แต่ชาวอิสราเอลพี่น้องของคุณจะร้องไห้โศกเศร้าให้คนที่ถูกพระยะโฮวาประหารชีวิตด้วยไฟนั้น 7 และพวกคุณต้องอยู่ใกล้ ๆ บริเวณทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้า พวกคุณจะได้ไม่ตาย เพราะพระยะโฮวาแต่งตั้งพวกคุณโดยการเจิมด้วยน้ำมันแล้ว”+ พวกเขาก็ทำตามที่โมเสสพูด
8 และพระยะโฮวาพูดกับอาโรนว่า 9 “เจ้ากับลูกชายห้ามดื่มเหล้าองุ่นหรือเครื่องดื่มมึนเมาเมื่อเข้ามาในเต็นท์เข้าเฝ้า+ จะได้ไม่ตาย นี่เป็นข้อกำหนดที่พวกเจ้าต้องทำไปตลอดทุกยุคทุกสมัย 10 เพื่อพวกเจ้าจะแยกความแตกต่างได้ระหว่างสิ่งบริสุทธิ์กับสิ่งไม่บริสุทธิ์ ระหว่างสิ่งที่สะอาดกับสิ่งที่ไม่สะอาด+ 11 และเพื่อพวกเจ้าจะสอนชาวอิสราเอลให้รู้ข้อกำหนดทุกข้อที่พระยะโฮวาบอกพวกเขาผ่านทางโมเสส”+
12 แล้วโมเสสก็พูดกับอาโรนและเอเลอาซาร์กับอิธามาร์ลูกชายที่เหลือของอาโรนว่า “เอาเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวที่เหลือจากการถวายพระยะโฮวาด้วยการเผามาทำเป็นขนมปังไม่ใส่เชื้อแล้วกินใกล้ ๆ แท่นบูชา+ เพราะนี่เป็นสิ่งบริสุทธิ์ยิ่ง+ 13 ให้กินขนมปังนี้ในที่ที่สะอาดบริสุทธิ์+ เพราะนี่เป็นส่วนของคุณกับลูกชายซึ่งได้จากเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาด้วยการเผา ผมได้รับคำสั่งมาอย่างนี้ 14 และเนื้อส่วนอกของเครื่องบูชายื่นถวายกับขาซึ่งเป็นส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์+นั้นให้คุณกับลูกชายและลูกสาวที่อยู่กับคุณ+กินในสถานบริสุทธิ์* เพราะนี่เป็นส่วนของคุณกับลูกชายที่ได้จากเครื่องบูชาผูกมิตรของชาวอิสราเอล 15 ให้ชาวอิสราเอลเอาขาซึ่งเป็นส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์กับเนื้อส่วนอกจากเครื่องบูชายื่นถวาย และส่วนที่เป็นมันสัตว์ซึ่งเป็นเครื่องบูชาที่ถวายด้วยการเผา มาถวายเป็นเครื่องบูชายื่นถวายต่อหน้าพระยะโฮวา แต่เนื้อส่วนอกกับขาจะเป็นของคุณกับลูกชายตลอดไป+ ตามที่พระยะโฮวาสั่งไว้”
16 โมเสสพยายามมองหาแพะที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป+ แต่แพะถูกเผาไปหมดแล้ว โมเสสก็โกรธเอเลอาซาร์กับอิธามาร์ลูกชายที่เหลือของอาโรน และพูดว่า 17 “ทำไมพวกคุณถึงไม่กินเนื้อของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปในที่ที่สะอาดบริสุทธิ์+ ทั้ง ๆ ที่เป็นสิ่งบริสุทธิ์ยิ่งซึ่งพระองค์ยกให้พวกคุณ เพื่อที่พวกคุณจะเอาความผิดของประชาชนไป และไถ่บาปให้พวกเขาต่อหน้าพระยะโฮวา? 18 ในเมื่อไม่ได้เอาเลือดของสัตว์นั้นเข้าไปในสถานบริสุทธิ์+ พวกคุณก็ควรจะกินเนื้อของมันในที่ที่สะอาดบริสุทธิ์ ตามที่ผมได้รับคำสั่งมา” 19 อาโรนจึงตอบโมเสสว่า “วันนี้ ประชาชนเอาเครื่องบูชาไถ่บาปและเครื่องบูชาเผามาถวายต่อหน้าพระยะโฮวา+ในเวลาที่ผมต้องเจอกับเรื่องเลวร้ายนี้ ถ้าผมกินเนื้อของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปในวันนี้ พระยะโฮวาจะพอใจหรือ?” 20 พอโมเสสได้ยินอย่างนั้นก็เข้าใจ
11 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสและอาโรนว่า 2 “ไปบอกชาวอิสราเอลอย่างนี้ ‘สัตว์สี่เท้าทั้งหมดที่อยู่บนแผ่นดิน*ที่พวกเจ้ากินได้คือ+ 3 สัตว์ทุกชนิดที่มีกีบเท้าแยกจากกันและเคี้ยวเอื้อง เป็นสัตว์ที่พวกเจ้ากินได้
4 “‘แต่สัตว์ที่เคี้ยวเอื้องอย่างเดียว หรือมีกีบเท้าแยกจากกันเพียงอย่างเดียวพวกเจ้าอย่ากิน คือ อูฐ เพราะเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องแต่ไม่มีกีบเท้าแยก จึงเป็นสัตว์ที่ไม่สะอาดสำหรับพวกเจ้า+ 5 หนูภูเขา*+ เพราะเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้อง แต่ไม่มีกีบเท้าแยก จึงเป็นสัตว์ที่ไม่สะอาดสำหรับพวกเจ้า 6 กระต่าย เพราะเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้อง แต่ไม่มีกีบเท้าแยก จึงเป็นสัตว์ที่ไม่สะอาดสำหรับพวกเจ้า 7 หมู+ เพราะเป็นสัตว์ที่มีกีบเท้าแยกจากกัน แต่ไม่เคี้ยวเอื้อง จึงเป็นสัตว์ที่ไม่สะอาดสำหรับพวกเจ้า 8 พวกเจ้าอย่ากินสัตว์พวกนี้หรือแตะต้องซากของมัน เพราะเป็นสัตว์ที่ไม่สะอาดสำหรับพวกเจ้า+
9 “‘สัตว์ทั้งหมดที่อยู่ในน้ำที่พวกเจ้ากินได้คือ สัตว์ทุกชนิดที่มีครีบและเกล็ด ไม่ว่าจะอยู่ในทะเลหรือในแม่น้ำ พวกเจ้ากินได้+ 10 สัตว์ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็ก ๆ หรือสัตว์ชนิดไหนก็ตามที่อยู่ในน้ำ ไม่ว่าจะอยู่ในทะเลหรือในแม่น้ำ ซึ่งไม่มีครีบและเกล็ด เป็นสัตว์ที่น่ารังเกียจ 11 พวกเจ้าต้องรังเกียจสัตว์พวกนี้ อย่ากินเนื้อของมัน+ และซากของมันก็น่ารังเกียจด้วย 12 พวกเจ้าต้องรังเกียจสัตว์ทุกชนิดที่อยู่ในน้ำซึ่งไม่มีครีบและเกล็ด
13 “‘ต่อไปนี้คือสัตว์ปีกที่พวกเจ้าต้องรังเกียจ พวกเจ้าอย่ากินเพราะเป็นสัตว์ที่น่ารังเกียจ สัตว์พวกนี้คือ นกอินทรี+ เหยี่ยวกินปลา แร้งดำ+ 14 เหยี่ยวแดง และเหยี่ยวดำทุกชนิด 15 อีกาทุกชนิด 16 นกกระจอกเทศ นกเค้า นกนางนวล เหยี่ยวชนิดอื่น ๆ 17 นกเค้าเล็ก นกกาน้ำ นกเค้าแมวหูยาว 18 หงส์ นกกระทุง แร้ง 19 นกกระสา นกยางทุกชนิด นกกะรางหัวขวาน และค้างคาว 20 แมลงมีปีกทุกชนิดที่คลานไปมาซึ่งอยู่กันเป็นฝูงก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับพวกเจ้าด้วย
21 “‘แมลงมีปีกที่คลานไปมาซึ่งอยู่กันเป็นฝูง พวกเจ้าจะกินได้เฉพาะแมลงที่มีขาคู่หนึ่งใช้สำหรับกระโดดไปมาบนพื้นดิน 22 แมลงที่พวกเจ้ากินได้มีดังนี้ ตั๊กแตนอพยพชนิดต่าง ๆ ตั๊กแตนกระโดดชนิดต่าง ๆ+ จิ้งหรีดชนิดต่าง ๆ และตั๊กแตนชนิดอื่น ๆ 23 ส่วนแมลงมีปีกที่คลานไปมาชนิดอื่น ๆ ซึ่งอยู่กันเป็นฝูงนั้นจะเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับพวกเจ้า 24 ถ้าพวกเจ้ากินก็จะไม่สะอาดในสายตาพระเจ้า ทุกคนที่แตะต้องซากของมันจะไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น+ 25 ใครที่เอาซากของมันไปทิ้งจะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเอง+ เขาจะไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น
26 “‘สัตว์ที่มีกีบเท้าแยกแต่ไม่ถึงขั้นแยกจากกันและไม่เคี้ยวเอื้องเป็นสัตว์ที่ไม่สะอาดสำหรับพวกเจ้า ใครที่แตะต้องสัตว์พวกนั้นจะไม่สะอาด+ 27 สัตว์สี่เท้าทุกชนิดที่เดินบนอุ้งเท้าเป็นสัตว์ที่ไม่สะอาดสำหรับพวกเจ้า ใครที่ไปแตะต้องซากของมันจะไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น 28 คนที่เอาซากของมันไปทิ้งจะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเอง+ เขาจะไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น+ สัตว์พวกนี้เป็นสัตว์ที่ไม่สะอาดสำหรับพวกเจ้า
29 “‘สัตว์ที่คลานไปมาตามพื้นดินซึ่งเป็นสัตว์ที่ไม่สะอาดมีดังนี้ ตัวตุ่น หนู+ ตัวเหี้ยทุกชนิด 30 ตุ๊กแก ตะกวด กิ้งก่าน้ำ จิ้งเหลน และกิ้งก่า 31 สัตว์ที่คลานไปมาแบบนี้เป็นสัตว์ที่ไม่สะอาดสำหรับพวกเจ้า+ ใครที่ไปแตะต้องซากของมันจะไม่สะอาดในสายตาพระเจ้าจนถึงตอนเย็น+
32 “‘ถ้าซากสัตว์พวกนี้ไปตกอยู่บนอะไร สิ่งนั้นก็จะไม่สะอาด ไม่ว่าจะเป็นภาชนะไม้ เสื้อผ้า หนังสัตว์ หรือผ้ากระสอบ จะต้องเอาสิ่งของเครื่องใช้พวกนี้ไปล้างน้ำ และจะไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น หลังจากนั้นจึงจะถือว่าสะอาด 33 แต่ถ้าซากสัตว์นั้นตกลงไปในภาชนะดินเผา พวกเจ้าต้องทุบภาชนะนั้นทิ้ง และอะไรก็ตามที่อยู่ในภาชนะนั้นจะไม่สะอาด+ 34 ของกินซึ่งไปสัมผัสน้ำที่มาจากภาชนะนั้นจะไม่สะอาด และเครื่องดื่มที่อยู่ในภาชนะนั้นจะไม่สะอาด 35 ถ้าซากสัตว์พวกนั้นตกบนอะไรก็ตาม สิ่งนั้นจะไม่สะอาด ไม่ว่าจะเป็นเตาอบหรือเตาหุงต้ม จะต้องทุบทิ้ง สิ่งนั้นเป็นสิ่งไม่สะอาดสำหรับพวกเจ้า 36 แต่ถ้าตกในบ่อน้ำพุและบ่อเก็บน้ำ จะไม่ถือว่าน้ำในนั้นไม่สะอาด แต่ใครที่แตะต้องซากสัตว์นั้นจะไม่สะอาด 37 ถ้าซากสัตว์นั้นตกบนเมล็ดพืชที่จะนำไปหว่าน จะไม่ถือว่าเมล็ดพืชนั้นไม่สะอาด 38 แต่ถ้าส่วนไหนของซากสัตว์นั้นตกใส่น้ำที่แช่เมล็ดพืชอยู่ เมล็ดพืชนั้นจะไม่สะอาดสำหรับพวกเจ้า
39 “‘ถ้าสัตว์ที่พวกเจ้ากินได้นั้นตายเอง คนที่แตะต้องซากของมันจะไม่สะอาดในสายตาพระเจ้าจนถึงตอนเย็น+ 40 คนที่กินสัตว์ที่ตายนั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเอง เขาจะไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น+ และคนที่เอาซากสัตว์นั้นไปทิ้งก็จะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเอง เขาจะไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น 41 สัตว์ที่คลานไปมาตามพื้นดินทุกชนิดเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ+ อย่ากินสัตว์พวกนั้น 42 สัตว์ที่เลื้อยด้วยท้อง และที่คลานสี่ขา หรือสัตว์เล็ก ๆ ที่มีขามากซึ่งอยู่ตามพื้นดิน พวกเจ้าอย่ากินเพราะเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ+ 43 อย่าทำให้ตัวเจ้าน่ารังเกียจเพราะสัตว์พวกนี้ อย่าทำให้ตัวเองไม่สะอาดเพราะสัตว์พวกนี้+ 44 เราคือยะโฮวา พระเจ้าของพวกเจ้า+ เจ้าต้องแยกตัวเจ้าไว้ให้บริสุทธิ์สำหรับเรา+ เพราะเราเป็นพระเจ้าที่บริสุทธิ์+ พวกเจ้าอย่าทำให้ตัวเองไม่สะอาดเพราะสัตว์พวกนี้ที่คลานไปมาบนแผ่นดิน 45 เราคือยะโฮวา ผู้ที่นำพวกเจ้าออกมาจากอียิปต์เพื่อเป็นพระเจ้าของพวกเจ้า+ และพวกเจ้าต้องเป็นคนบริสุทธิ์+ เพราะเราเป็นพระเจ้าที่บริสุทธิ์+
46 “‘นี่คือคำสั่งเกี่ยวกับสัตว์สี่เท้า สัตว์ที่มีปีกบินได้ สัตว์ทุกชนิดที่ว่ายไปมาในน้ำ และสัตว์ที่คลานไปมาทุกชนิดซึ่งอยู่บนพื้นดิน 47 เพื่อพวกเจ้าจะแยกความแตกต่างได้ระหว่างสัตว์ที่ไม่สะอาดกับสัตว์ที่สะอาด ระหว่างสัตว์ที่กินไม่ได้กับสัตว์ที่กินได้’”+
12 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 2 “ให้บอกชาวอิสราเอลอย่างนี้ ‘ถ้าผู้หญิงคนไหนตั้งท้องแล้วคลอดลูกเป็นผู้ชาย เธอจะไม่สะอาดในสายตาพระเจ้าอยู่ 7 วันเหมือนกับที่ไม่สะอาดในช่วงที่มีประจำเดือน+ 3 ในวันที่แปดจะต้องทำสุหนัตให้ทารก คือ ขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ+ 4 และเธอจะต้องพักอยู่ที่บ้านอีก 33 วันเพื่อให้สะอาด เธอจะไปแตะต้องสิ่งบริสุทธิ์ไม่ได้ และเข้าไปในสถานบริสุทธิ์ไม่ได้จนกว่าจะครบจำนวนวันของการชำระตัวนั้น
5 “‘ถ้าเธอคลอดลูกเป็นผู้หญิง เธอจะไม่สะอาดในสายตาพระเจ้าอยู่ 14 วันเหมือนกับที่ไม่สะอาดในช่วงที่มีประจำเดือน และเธอจะต้องพักอยู่ที่บ้านอีก 66 วันเพื่อให้สะอาด 6 เมื่อครบจำนวนวันของการชำระตัวหลังจากคลอดลูกชายหรือลูกสาวแล้ว ให้เธอเอาลูกแกะตัวผู้ตัวหนึ่งอายุไม่เกิน 1 ปีมาเป็นเครื่องบูชาเผา+ และลูกนกพิราบตัวหนึ่งหรือนกเขาตัวหนึ่งมาเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป โดยเอามาให้ปุโรหิตที่ทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้า 7 ปุโรหิตจะถวายเครื่องบูชานั้นต่อหน้าพระยะโฮวาเพื่อทำการไถ่บาปให้เธอ ถึงจะถือว่าเธอสะอาดแล้วจากเลือดที่ไหลออกมานั้น นี่เป็นข้อบัญญัติเกี่ยวกับผู้หญิงที่คลอดลูกชายหรือลูกสาว 8 แต่ถ้าเธอไม่มีเงินพอจะซื้อลูกแกะมาถวาย ก็ให้เอานกเขา 2 ตัวหรือลูกนกพิราบ 2 ตัว+มาถวาย ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาเผา อีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และปุโรหิตจะทำการไถ่บาปให้เธอ แล้วถึงจะถือว่าเธอสะอาด’”
13 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสและอาโรนต่อไปว่า 2 “ถ้าใครมีรอยบวม มีสะเก็ด หรือวงด่างเกิดขึ้นที่ผิวหนัง ซึ่งอาจกลายเป็นโรคเรื้อน*+ที่ผิวหนัง จะต้องพาเขามาหาปุโรหิตอาโรน หรือลูกชายของเขาที่เป็นปุโรหิต+ 3 ปุโรหิตจะตรวจดูบริเวณที่ติดเชื้อบนผิวหนังนั้น ถ้าขนที่ขึ้นในบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาว และเห็นว่าบริเวณนั้นลึกลงไปในผิวหนัง แสดงว่าแผลนั้นเป็นโรคเรื้อน หลังจากที่ปุโรหิตตรวจดูแล้ว เขาจะประกาศว่าคนนั้นไม่สะอาดในสายตาพระเจ้า 4 ถ้าวงด่างที่ผิวหนังนั้นเป็นสีขาว แต่ไม่ได้ลึกลงไปในผิวหนัง และขนไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีขาว ปุโรหิตจะต้องกักตัวคนที่ติดเชื้อนั้นไว้ 7 วัน+ 5 พอครบ 7 วัน ปุโรหิตจะตรวจดูคนนั้นอีก ถ้าเห็นว่าบริเวณที่ติดเชื้อไม่ได้ลามไปตามผิวหนัง ปุโรหิตจะกักตัวเขาไว้อีก 7 วัน
6 “พอครบ 7 วันแล้ว ปุโรหิตจะตรวจดูอีกครั้งหนึ่ง ถ้าบริเวณที่ติดเชื้อนั้นจางลง และไม่ลามลึกลงไปในผิวหนัง ปุโรหิตจะประกาศว่าคนนั้นสะอาด+ เขาเป็นแค่แผลตกสะเก็ด คนนั้นต้องซักเสื้อผ้าของตัวเองถึงจะถือว่าเขาสะอาด 7 แต่ถ้าแผลติดเชื้อนั้นลามไปตามผิวหนังหลังจากที่เขาไปหาปุโรหิตและปุโรหิตประกาศว่าเขาสะอาดแล้ว คนนั้นจะต้องกลับไปหาปุโรหิตอีกครั้งหนึ่ง 8 และปุโรหิตจะตรวจดู ถ้าแผลนั้นลามลึกลงไปในผิวหนัง ปุโรหิตจะประกาศว่าคนนั้นไม่สะอาด เขาเป็นโรคเรื้อน+
9 “ถ้าใครเป็นโรคเรื้อน จะต้องพาเขาไปหาปุโรหิต 10 และปุโรหิตจะตรวจดู+ ถ้ามีรอยบวมขาว ๆ ที่ผิวหนัง ขนเปลี่ยนเป็นสีขาว และมีแผลปริ+ที่รอยบวมนั้น 11 แสดงว่าเขาเป็นโรคเรื้อนเรื้อรังที่ผิวหนัง ปุโรหิตจะประกาศว่าคนนั้นไม่สะอาด แต่ไม่ต้องกักตัวเขาไว้+เพื่อดูอาการอีกเพราะเขาไม่สะอาดแล้ว 12 ถ้าปุโรหิตเห็นว่าโรคเรื้อนนั้นกระจายไปทั่วทั้งตัวตั้งแต่หัวจดเท้า 13 และเมื่อตรวจดูก็เห็นว่าโรคเรื้อนกระจายไปทั่วทุกส่วนของผิวหนังแล้ว ปุโรหิตจะประกาศว่าคนนั้นสะอาด* เพราะผิวหนังทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสีขาว คนนั้นสะอาดแล้ว 14 แต่เมื่อไรก็ตามที่ยังมีแผลปริ เขาจะไม่สะอาด 15 ถ้าปุโรหิตเห็นว่ามีแผลปริ ปุโรหิตจะต้องประกาศว่าเขาไม่สะอาด+ แผลที่ปรินั้นไม่สะอาด เพราะเป็นโรคเรื้อน+ 16 ถ้าแผลที่ปริเปลี่ยนเป็นสีขาวอีก เขาจะต้องกลับไปหาปุโรหิตอีก 17 ปุโรหิตจะตรวจดู+ ถ้าบริเวณที่ติดเชื้อเปลี่ยนเป็นสีขาว ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาสะอาด คนนั้นสะอาดแล้ว
18 “ถ้าใครเป็นฝีที่ผิวหนังและหายเป็นปกติแล้ว 19 แต่มีรอยบวมขาวหรือวงด่างสีแดงจาง ๆ ตรงนั้น เขาจะต้องไปหาปุโรหิต 20 แล้วปุโรหิตจะตรวจดู+ ถ้ารอยนั้นลึกลงไปในผิวหนัง และขนตรงนั้นเป็นสีขาว ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาไม่สะอาดในสายตาพระเจ้า เขาเป็นโรคเรื้อนตรงนั้นแล้ว 21 แต่ถ้าปุโรหิตตรวจดู และเห็นว่าไม่มีขนสีขาวตรงนั้น อีกทั้งรอยนั้นก็จางลงและไม่ลึกลงไปในผิวหนัง ปุโรหิตจะกักตัวคนนั้นไว้ 7 วัน+ 22 ถ้ารอยนั้นลามไปตามผิวหนัง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาไม่สะอาด เขาเป็นโรคเรื้อน 23 แต่ถ้ารอยนั้นยังเหมือนเดิมไม่ได้ลามไปไหน แสดงว่าเป็นแค่การอักเสบของฝี ปุโรหิตจะประกาศว่าคนนั้นสะอาด+
24 “ถ้าใครมีแผลที่เกิดจากไฟไหม้ และเนื้อตรงแผลนั้นกลายเป็นวงด่างสีแดงจาง ๆ หรือสีขาว 25 ปุโรหิตจะตรวจดู ถ้าขนที่วงด่างเปลี่ยนเป็นสีขาว และแผลลึกลงไปในผิวหนัง แสดงว่าเป็นโรคเรื้อนตรงนั้นแล้ว ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาไม่สะอาดในสายตาพระเจ้า เขาเป็นโรคเรื้อน 26 แต่ถ้าปุโรหิตตรวจดูแล้ว เห็นว่าไม่มีขนสีขาวที่วงด่าง วงนั้นจางลงและไม่ลึกลงไปในผิวหนัง ปุโรหิตจะกักตัวคนนั้นไว้ 7 วัน+ 27 พอครบ 7 วัน ปุโรหิตจะตรวจดู ถ้าแผลนั้นลามไปตามผิวหนัง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาไม่สะอาด แผลนั้นเป็นโรคเรื้อน 28 แต่ถ้าวงด่างนั้นยังเหมือนเดิม ไม่ได้ลามไปตามผิวหนังและจางลง แสดงว่าแผลนั้นแค่อักเสบบวมขึ้นมา และปุโรหิตจะประกาศว่าคนนั้นสะอาด
29 “ถ้าผู้ชายหรือผู้หญิงคนไหนมีแผลติดเชื้อที่หัวหรือคาง 30 ปุโรหิตจะต้องตรวจดู+ ถ้าเห็นว่าแผลติดเชื้อนั้นลึกลงไปในผิวหนัง อีกทั้งผมหรือเคราในบริเวณนั้นบางและเป็นสีเหลือง ปุโรหิตจะประกาศว่าคนนั้นไม่สะอาด มีการติดเชื้อที่หนังศีรษะหรือที่บริเวณเคราของเขา เขาเป็นโรคเรื้อนที่หัวหรือคาง 31 แต่ถ้าปุโรหิตเห็นว่าแผลติดเชื้อไม่ได้ลึกลงไปในผิวหนัง และไม่เห็นผมหรือเคราดำ ๆ ในบริเวณนั้นเลย ปุโรหิตจะกักตัวคนที่ติดเชื้อนั้นไว้ 7 วัน+ 32 พอครบ 7 วัน ปุโรหิตจะตรวจดูแผลติดเชื้อนั้น ถ้าบริเวณที่ติดเชื้อไม่ได้ลามออกไป ผมหรือเคราที่ขึ้นมาตรงนั้นก็ไม่เป็นสีเหลือง และบริเวณที่ติดเชื้อก็ไม่ได้ลึกลงไปในผิวหนัง 33 คนนั้นจะต้องโกนผมและเคราของตัวเองออก แต่อย่าโกนตรงบริเวณที่ติดเชื้อ และปุโรหิตจะต้องกักตัวคนที่ติดเชื้อนั้นไว้อีก 7 วัน
34 “พอครบ 7 วัน ปุโรหิตจะตรวจดูบริเวณที่ติดเชื้อนั้น ถ้าแผลติดเชื้อที่หนังศีรษะและเคราไม่ลามออกไป และไม่ลึกลงไปในผิวหนัง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาสะอาด คนนั้นต้องซักเสื้อผ้าของตัวเองถึงจะถือว่าเขาสะอาด 35 แต่ถ้าแผลที่ติดเชื้อลามออกไปตามผิวหนังหลังจากปุโรหิตประกาศว่าเขาสะอาดแล้ว 36 ปุโรหิตจะต้องตรวจดูอีก และถ้าเห็นว่าแผลที่ติดเชื้อลามไปตามผิวหนัง ปุโรหิตก็ไม่จำเป็นต้องตรวจหาผมหรือเคราที่เป็นสีเหลืองอีก คนนั้นไม่สะอาด 37 แต่ถ้าตรวจดูแล้วเห็นว่าแผลที่ติดเชื้อไม่ลุกลามไปไหน และมีผมหรือเคราสีดำขึ้นมาตรงนั้น แสดงว่าแผลติดเชื้อนั้นหายเป็นปกติ คนนั้นสะอาดแล้ว และปุโรหิตจะประกาศว่าคนนั้นสะอาดแล้ว+
38 “ถ้าผู้ชายหรือผู้หญิงคนไหนมีวงด่างสีขาวเกิดขึ้นที่ผิวหนัง 39 ปุโรหิตจะตรวจดู+ ถ้าวงด่างที่ผิวหนังนั้นเป็นสีขาวจาง ๆ แสดงว่าเป็นผื่นที่ผิวหนังซึ่งไม่มีอันตรายอะไร คนนั้นสะอาด
40 “ถ้าผู้ชายคนไหนผมร่วงจนหัวล้าน จะไม่ถือว่าเขาไม่สะอาด 41 ถ้าผมด้านหน้าร่วงจนหัวเถิกก็จะไม่ถือว่าเขาไม่สะอาด 42 แต่ถ้ามีแผลสีแดงจาง ๆ ตรงหนังศีรษะที่ล้านหรือเถิก แสดงว่าเขาเป็นโรคเรื้อนที่หนังศีรษะหรือตรงหัวที่เถิกนั้น 43 ปุโรหิตจะตรวจดู ถ้ารอยบวมจากการติดเชื้อบนหัวบริเวณที่ล้านหรือเถิกมีสีแดงจาง ๆ และมีลักษณะเหมือนกับโรคเรื้อนที่ผิวหนัง 44 แสดงว่าเขาเป็นโรคเรื้อน เขาไม่สะอาด และปุโรหิตจะประกาศว่าเขาไม่สะอาด เพราะเป็นโรคเรื้อนที่หัว 45 คนที่เป็นโรคเรื้อนจะต้องสวมเสื้อผ้าที่ฉีกขาด และปล่อยผมเผ้าให้รุงรัง เขาต้องเอาผ้าปิดปาก*ไว้ และร้องตะโกนว่า ‘ไม่สะอาด ไม่สะอาด’ 46 เขาจะไม่สะอาดในสายตาพระเจ้าตลอดเวลาที่เป็นโรคเรื้อน เขาต้องแยกตัวอยู่ต่างหาก เพราะเขาไม่สะอาด เขาจะต้องอยู่นอกค่ายพัก+
47 “ถ้าโรคเรื้อนเกิดขึ้นกับเสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่ทำจากขนสัตว์ หรือทำจากผ้าลินิน 48 หรือเกิดบนผ้าทอ*ไม่ว่าจะเป็นผ้าลินิน หรือผ้าขนสัตว์ หรือเกิดที่หนังสัตว์หรืออะไรก็ตามที่ทำจากหนังสัตว์ 49 และถ้าบนเสื้อผ้า หนังสัตว์ ผ้าทอ หรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ทำจากหนังสัตว์มีรอยสีเขียวอมเหลือง หรือรอยสีแดงจาง ๆ จากเชื้อนั้น แสดงว่ามีการติดเชื้อจากโรคเรื้อน จะต้องเอามาให้ปุโรหิตดู 50 ปุโรหิตจะตรวจดูสิ่งของที่ติดเชื้อนั้น และกักของพวกนั้นไว้ 7 วัน+ 51 พอครบ 7 วัน เมื่อปุโรหิตตรวจดูของพวกนั้นและเห็นว่าเชื้อได้ลามไปบนเสื้อผ้า ผ้าทอ หรือหนังสัตว์ (ไม่ว่าจะเอาหนังสัตว์ไปทำอะไรก็ตาม) แสดงว่าเป็นเชื้อของโรคเรื้อนที่ร้ายแรง สิ่งของนั้นไม่สะอาด+ 52 เขาจะต้องเอาเสื้อผ้า ผ้าทอ ไม่ว่าจะเป็นผ้าขนสัตว์หรือผ้าลินิน หรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ทำจากหนังสัตว์ซึ่งมีเชื้อนั้นไปเผาไฟ เพราะเป็นเชื้อของโรคเรื้อนที่ร้ายแรง ดังนั้นจึงต้องเอาไปเผาไฟ
53 “แต่ถ้าปุโรหิตตรวจดูแล้ว และเห็นว่าเชื้อนั้นไม่ได้ลามไปบนเสื้อผ้า ผ้าทอ หรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ทำจากหนังสัตว์ 54 ปุโรหิตจะสั่งให้เอาสิ่งของที่ติดเชื้อนั้นไปซักล้าง และกักของนั้นไว้อีก 7 วัน 55 และปุโรหิตจะตรวจดูสิ่งของที่ติดเชื้อนั้นหลังจากที่มีการซักล้างอย่างดีแล้ว ถ้ายังมีรอยอยู่เหมือนเดิมถึงจะไม่ลามไปไหน ก็ให้ถือว่าสิ่งของนั้นไม่สะอาดและต้องเอาไปเผาไฟ เพราะสิ่งของนั้นถูกเชื้อกินหมดแล้ว ไม่ว่าจะกินจากด้านในหรือด้านนอกก็ตาม
56 “แต่ถ้าปุโรหิตตรวจดู และเห็นว่าส่วนที่ติดเชื้อนั้นจางลงหลังจากซักล้างอย่างดีแล้ว ก็ให้เขาฉีกเสื้อผ้าหรือหนังสัตว์ หรือผ้าทอเฉพาะส่วนนั้นทิ้งไป 57 แต่ถ้ายังมีรอยเกิดขึ้นที่ส่วนอื่นของเสื้อผ้าหรือผ้าทอ หรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ทำจากหนังสัตว์ แสดงว่าเชื้อนั้นลามแล้ว เจ้าจะต้องเอาไฟเผาสิ่งของที่ติดเชื้อนั้น+ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม 58 แต่ถ้าพวกเจ้านำเสื้อผ้า หรือผ้าทอ หรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ทำจากหนังสัตว์ไปซักล้างแล้ว และรอยที่ติดเชื้อนั้นหายไป ก็ให้เจ้าเอามาซักอีกรอบก่อน ถึงจะถือว่าสิ่งของพวกนั้นสะอาด
59 “นี่คือข้อบัญญัติเกี่ยวกับเชื้อของโรคเรื้อนในเสื้อผ้าที่ทำจากขนสัตว์หรือจากผ้าลินิน หรือผ้าทอ หรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ทำจากหนังสัตว์ เพื่อปุโรหิตจะประกาศว่าสิ่งไหนสะอาด และสิ่งไหนไม่สะอาดในสายตาพระเจ้า”
14 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 2 “ต่อไปนี้เป็นกฎที่คนเป็นโรคเรื้อนต้องทำตามในวันที่ประกาศว่าเขาสะอาดแล้ว ให้พาเขาไปหาปุโรหิต+ 3 ปุโรหิตจะออกไปตรวจดูเขาที่นอกค่ายพัก ถ้าเขาหายจากโรคเรื้อนแล้ว 4 ปุโรหิตจะสั่งให้เขาเอานกเป็น ๆ ชนิดที่สะอาดมา 2 ตัว พร้อมกับกิ่งสนซีดาร์ ด้ายสีแดงเข้ม และกิ่งหุสบ เพื่อชำระเขาให้สะอาดในสายตาพระเจ้า+ 5 แล้วปุโรหิตจะสั่งให้ฆ่านกตัวหนึ่งเหนือภาชนะดินเผาที่ใส่น้ำที่ได้จากลำธาร 6 ส่วนนกอีกตัวหนึ่งที่ไม่ได้ถูกฆ่า และกิ่งสนซีดาร์ ด้ายสีแดงเข้ม กับกิ่งหุสบนั้น ให้ปุโรหิตเอาไปจุ่มในเลือดของนกที่ถูกฆ่าเหนือน้ำที่ได้จากลำธาร 7 แล้วเอาไปสะบัดใส่คนนั้น 7 ครั้งเพื่อชำระเขาให้สะอาดจากโรคเรื้อน และประกาศว่าเขาสะอาดแล้ว จากนั้นปุโรหิตจะปล่อยนกตัวที่ไม่ได้ถูกฆ่านี้กลางแจ้ง+
8 “คนที่ได้รับการชำระให้สะอาดนั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเอง ต้องโกนขนตามตัวให้หมด และต้องอาบน้ำ ถึงจะถือว่าเขาสะอาด หลังจากนั้น เขาจึงเข้าไปในค่ายพักได้ แต่ต้องอยู่นอกเต็นท์ของตัวเอง 7 วัน 9 พอครบ 7 วัน เขาจะต้องโกนผม โกนหนวดเครา และโกนคิ้ว เมื่อโกนทั้งหมดแล้ว ให้เขาซักเสื้อผ้าของตัวเองและอาบน้ำ ถึงจะถือว่าเขาสะอาด
10 “ในวันที่แปด เขาจะต้องเอาลูกแกะตัวผู้ 2 ตัวอายุไม่เกิน 1 ปีที่สมบูรณ์แข็งแรง ลูกแกะตัวเมีย 1 ตัว+อายุไม่เกิน 1 ปีที่สมบูรณ์แข็งแรง แป้งเนื้อละเอียดที่เป็นเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าว+ 3 ใน 10 เอฟาห์*ซึ่งนวดกับน้ำมัน และน้ำมัน 1 ลก*มาถวาย+ 11 และปุโรหิตที่ประกาศว่าคนนั้นสะอาดแล้วจะพาคนนั้นที่ได้รับการชำระไปอยู่ต่อหน้าพระยะโฮวาตรงทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้า พร้อมกับเครื่องบูชาต่าง ๆ นี้ 12 แล้วปุโรหิตจะเอาลูกแกะตัวผู้ตัวหนึ่งถวายเป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิด+พร้อมกับน้ำมัน 1 ลก* โดยยื่นถวายพระยะโฮวาเป็นเครื่องบูชายื่นถวาย+ 13 เขาจะฆ่าลูกแกะตัวผู้ตัวนั้นในที่ที่ใช้สำหรับฆ่าสัตว์+ที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปและเครื่องบูชาเผาในลานของเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ เครื่องบูชาไถ่ความผิดกับเครื่องบูชาไถ่บาปเป็นของปุโรหิต+ นี่เป็นสิ่งบริสุทธิ์ยิ่ง+
14 “แล้วปุโรหิตจะเอาเลือดส่วนหนึ่งของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิดไปแต้มที่ติ่งหูข้างขวา ที่นิ้วหัวแม่มือข้างขวา และที่นิ้วหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่ได้รับการชำระ 15 ปุโรหิตจะเอาน้ำมันส่วนหนึ่งจากน้ำมัน 1 ลก*+เทลงบนฝ่ามือข้างซ้ายของเขา 16 แล้วเอานิ้วมือข้างขวาจุ่มน้ำมันที่อยู่บนฝ่ามือข้างซ้ายไปสะบัดต่อหน้าพระยะโฮวา 7 ครั้ง 17 แล้วปุโรหิตจะเอาน้ำมันที่ยังเหลือบนฝ่ามือไปแต้มทับรอยเลือดของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิดซึ่งอยู่ที่ติ่งหูข้างขวา ที่นิ้วหัวแม่มือข้างขวา และที่นิ้วหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่ได้รับการชำระ 18 ส่วนน้ำมันที่ยังเหลืออยู่บนฝ่ามือของปุโรหิตนั้น ให้เขานำไปทาหัวของคนที่ได้รับการชำระ ปุโรหิตจะทำการไถ่บาปให้เขาต่อหน้าพระยะโฮวา+
19 “และปุโรหิตจะถวายเครื่องบูชาไถ่บาป+เพื่อขอการอภัยบาปให้คนที่ได้รับการชำระให้สะอาด จากนั้น ปุโรหิตจะฆ่าสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาเผา 20 แล้วถวายเครื่องบูชาเผากับเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าว+บนแท่นบูชา ปุโรหิตจะทำการไถ่บาปให้เขา+ ถึงจะถือว่าเขาสะอาด+
21 “แต่ถ้าคนนั้นยากจนและมีเงินไม่พอ ก็ให้ใช้ลูกแกะตัวผู้แค่ตัวเดียวเป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิดและนำมายื่นถวายเพื่อไถ่บาปของเขา โดยถวายพร้อมกับเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวที่เป็นแป้งเนื้อละเอียด 1 ใน 10 เอฟาห์*ซึ่งนวดกับน้ำมัน และน้ำมัน 1 ลก* 22 และนกเขา 2 ตัวหรือลูกนกพิราบ 2 ตัว ตามกำลังที่เขาจะซื้อได้ ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป อีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาเผา+ 23 ในวันที่แปด+ ให้เขาเอาเครื่องบูชาต่าง ๆ นี้ซึ่งใช้เพื่อประกาศว่าเขาสะอาดแล้วมาให้ปุโรหิตตรงทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้า เพื่อถวายต่อหน้าพระยะโฮวา+
24 “ปุโรหิตจะต้องเอาลูกแกะตัวผู้ที่เป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิด+พร้อมกับน้ำมัน 1 ลก*ไปยื่นถวายต่อหน้าพระยะโฮวาเป็นเครื่องบูชายื่นถวาย+ 25 และปุโรหิตจะฆ่าลูกแกะตัวผู้ที่เป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิดนั้น แล้วเอาเลือดส่วนหนึ่งของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิดไปแต้มที่ติ่งหูข้างขวา ที่นิ้วหัวแม่มือข้างขวา และที่นิ้วหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่ได้รับการชำระ+ 26 แล้วปุโรหิตจะเทน้ำมันส่วนหนึ่งลงบนฝ่ามือข้างซ้ายของเขา+ 27 และเอานิ้วมือข้างขวาจุ่มน้ำมันที่อยู่บนฝ่ามือข้างซ้ายไปสะบัดต่อหน้าพระยะโฮวา 7 ครั้ง 28 แล้วปุโรหิตจะเอาน้ำมันบนฝ่ามือไปแต้มทับรอยเลือดของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิดซึ่งอยู่ที่ติ่งหูข้างขวา ที่นิ้วหัวแม่มือข้างขวา และที่นิ้วหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่ได้รับการชำระ 29 ส่วนน้ำมันที่ยังเหลืออยู่บนฝ่ามือของปุโรหิตนั้น ให้เขานำไปทาหัวของคนที่ได้รับการชำระ เพื่อทำการไถ่บาปให้เขาต่อหน้าพระยะโฮวา
30 “จากนั้น ปุโรหิตจะถวายนกเขาหรือลูกนกพิราบที่คนนั้นซื้อมาตามกำลังของเขา+ 31 ให้ถวายตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป อีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาเผา+ โดยถวายเครื่องบูชาที่เขาสามารถซื้อมาได้นี้พร้อมกับเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าว ปุโรหิตจะทำการไถ่บาปให้คนที่ได้รับการชำระต่อหน้าพระยะโฮวา+
32 “นี่คือกฎสำหรับคนที่เป็นโรคเรื้อนซึ่งมีเงินไม่พอที่จะซื้อเครื่องบูชาทั้งหมด เพื่อให้ปุโรหิตประกาศว่าเขาสะอาดในสายตาพระเจ้าแล้ว”
33 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสและอาโรนว่า 34 “เมื่อพวกเจ้าเข้าไปในแผ่นดินคานาอัน+ซึ่งเราจะมอบให้เป็นสมบัติของเจ้า+ และเรายอมให้มีโรคเรื้อนเกิดขึ้นที่ตัวบ้านของพวกเจ้าในแผ่นดินนั้น+ 35 คนที่เป็นเจ้าของบ้านจะต้องมาบอกปุโรหิตว่า ‘ดูเหมือนมีเชื้ออะไรบางอย่างคล้ายโรคเรื้อนเกิดขึ้นที่ผนังบ้านของผม’ 36 ปุโรหิตจะสั่งให้เอาของออกจากบ้านให้หมดก่อนที่จะเข้าไปตรวจดู เพื่อของทุกอย่างในบ้านจะไม่ต้องถูกประกาศว่าไม่สะอาด หลังจากนั้น ปุโรหิตจะเข้าไปดูในบ้าน 37 เขาจะตรวจดูบริเวณที่ติดเชื้อ ถ้าผนังบ้านเป็นรอยบุ๋มสีเขียวอมเหลืองหรือสีแดงจาง ๆ และกินลึกลงไปในผนัง 38 ให้ปุโรหิตออกจากบ้านนั้น และปิดบ้านไว้ 7 วัน+
39 “พอครบ 7 วัน ปุโรหิตจะต้องกลับไปตรวจดู ถ้าเชื้อลามไปตามผนังบ้าน 40 ปุโรหิตจะสั่งให้เอาหินของผนังก้อนที่มีเชื้อออกไปทิ้งนอกเมืองในที่สำหรับทิ้งสิ่งของที่ไม่สะอาด 41 และปุโรหิตจะสั่งให้ขูดผนังด้านในของตัวบ้านออกให้หมด และเอาปูนขาวกับเนื้อปูนที่ขูดออกมาไปทิ้งนอกเมืองในที่สำหรับทิ้งสิ่งของที่ไม่สะอาด 42 และให้พวกเขาเอาหินก้อนใหม่มาใส่แทนก้อนที่เอาไปทิ้ง และใช้ปูนที่ผสมใหม่ฉาบบ้านนั้น
43 “แต่ถ้ามีเชื้อเกิดขึ้นในบ้านอีก หลังจากที่เอาหินออกไปแล้ว และหลังจากขูดปูนและฉาบผนังบ้านใหม่แล้ว 44 ปุโรหิตก็จะเข้าไปตรวจดูอีก ถ้าเชื้อนั้นแผ่ลามไปตามผนังบ้าน แสดงว่ามีโรคเรื้อนที่ร้ายแรง+เกิดขึ้นในบ้าน บ้านหลังนั้นไม่สะอาดในสายตาพระเจ้า 45 ปุโรหิตจะสั่งให้ทุบบ้านหลังนั้น ทั้งส่วนที่เป็นหิน ไม้ และปูนขาวกับเนื้อปูนทั้งหมด และขนไปทิ้งนอกเมืองในที่สำหรับทิ้งสิ่งของที่ไม่สะอาด+ 46 ใครก็ตามที่เข้าไปในบ้านหลังนั้นระหว่างที่มีการสั่งให้ปิดไว้+ จะไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น+ 47 ใครก็ตามที่นอนในบ้านหลังนั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเอง และใครที่กินในบ้านหลังนั้นก็ต้องซักเสื้อผ้าของตัวเองด้วย
48 “แต่ถ้าหลังจากที่มีการฉาบปูนใหม่ แล้วปุโรหิตเข้าไปดูและเห็นว่าไม่มีเชื้อเกิดขึ้นในบ้านหลังนั้นอีก ให้ปุโรหิตประกาศว่าบ้านหลังนั้นสะอาด เพราะไม่มีเชื้อนั้นแล้ว 49 และเพื่อจะชำระบ้านนั้นให้สะอาดในสายตาพระเจ้า เขาจะต้องใช้นก 2 ตัว กิ่งสนซีดาร์ ด้ายสีแดงเข้ม และกิ่งหุสบ+ 50 เขาต้องฆ่านกตัวหนึ่งเหนือภาชนะดินเผาที่ใส่น้ำซึ่งได้จากลำธาร 51 และเขาจะเอากิ่งสนซีดาร์ กิ่งหุสบ ด้ายสีแดงเข้ม และนกอีกตัวหนึ่งที่ไม่ได้ถูกฆ่า จุ่มในเลือดของนกที่ถูกฆ่าเหนือน้ำซึ่งได้จากลำธาร แล้วสะบัดไปที่บ้านหลังนั้น 7 ครั้ง+ 52 เขาจะชำระบ้านหลังนั้นให้สะอาดด้วยเลือดของนก น้ำที่ได้จากลำธาร นกตัวที่ไม่ได้ถูกฆ่า กิ่งสนซีดาร์ กิ่งหุสบ และด้ายสีแดงเข้ม 53 จากนั้น ปุโรหิตจะปล่อยนกตัวที่ไม่ได้ถูกฆ่า เขาจะปล่อยนกตัวนี้ในที่กลางแจ้งนอกเมือง และชำระบ้านหลังนั้นให้สะอาด ถึงจะถือว่าบ้านนั้นสะอาดในสายตาพระเจ้า
54 “นี่คือข้อบัญญัติเกี่ยวกับโรคเรื้อน การติดเชื้อที่หนังศีรษะหรือที่เครา+ 55 โรคเรื้อนที่เสื้อผ้า+หรือที่ตัวบ้าน+ 56 และเกี่ยวกับรอยบวม สะเก็ด และวงด่าง+ 57 เพื่อจะตัดสินได้ว่าอะไรไม่สะอาด และอะไรสะอาดในสายตาพระเจ้า+ นี่คือข้อบัญญัติเกี่ยวกับโรคเรื้อน”+
15 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสและอาโรนต่อไปว่า 2 “ให้บอกชาวอิสราเอลอย่างนี้ ‘ถ้าผู้ชายคนไหนมีของเหลวไหลออกมาจากอวัยวะเพศเพราะเป็นโรค ของเหลวนั้นจะทำให้เขาไม่สะอาดในสายตาเรา+ 3 เขาไม่สะอาดเพราะของเหลวนั้น ไม่ว่าของเหลวนั้นจะไหลออกมาเรื่อย ๆ หรือคั่งอยู่ในอวัยวะเพศของเขาก็ตาม เขาก็ไม่สะอาดอยู่ดี
4 “‘ถ้าคนที่มีของเหลวไหลออกมาเพราะเป็นโรคไปนอนที่เตียงไหน จะถือว่าเตียงนั้นไม่สะอาด และถ้าเขาไปนั่งบนอะไร ก็จะถือว่าสิ่งนั้นไม่สะอาดด้วย 5 ใครไปสัมผัสเตียงที่เขานอน คนนั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเอง ต้องอาบน้ำ และจะถือว่าเขาไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น+ 6 ใครไปนั่งบนที่ที่คนซึ่งมีของเหลวไหลออกมานั้นนั่ง คนนั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเอง ต้องอาบน้ำ และจะถือว่าเขาไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น 7 ใครไปสัมผัสคนที่มีของเหลวไหลออกมา คนนั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเอง ต้องอาบน้ำ และจะถือว่าเขาไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น 8 ถ้าคนที่สะอาดถูกคนที่มีของเหลวไหลออกมาบ้วนน้ำลายใส่ คนนั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเอง ต้องอาบน้ำ และจะถือว่าเขาไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น 9 ถ้าคนที่มีของเหลวไหลออกมาเพราะเป็นโรคไปนั่งบนอานไหน ก็จะถือว่าอานนั้นไม่สะอาด 10 ใครไปสัมผัสอะไรก็ตามที่เขานั่ง ก็จะถือว่าคนนั้นไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น และใครยกสิ่งของพวกนั้นก็จะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเอง ต้องอาบน้ำ และจะถือว่าเขาไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น 11 ถ้าคนที่มีของเหลวไหลออกมาเพราะเป็นโรค+ไปสัมผัสคนอื่นโดยที่ตัวเองยังไม่ได้ล้างมือ คนที่ถูกเขาสัมผัสจะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเอง ต้องอาบน้ำ และจะถือว่าเขาไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น 12 ถ้าคนที่มีของเหลวไหลออกมาเพราะเป็นโรคไปสัมผัสภาชนะดินเผา จะต้องทุบภาชนะนั้นทิ้ง และถ้าเป็นภาชนะไม้ จะต้องเอาน้ำล้าง+
13 “‘ถ้าของเหลวนั้นหยุดไหลแล้ว ให้เขานับต่อไปอีก 7 วัน แล้วให้เขาซักเสื้อผ้าและอาบน้ำด้วยน้ำจากลำธาร ถึงจะถือว่าเขาสะอาด+ 14 ในวันที่แปด ให้เขาเอานกเขา 2 ตัวหรือลูกนกพิราบ+ 2 ตัวมาให้ปุโรหิตตรงทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้าต่อหน้าพระยะโฮวา 15 ปุโรหิตจะถวายตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาเผา ปุโรหิตจะทำการไถ่บาปให้เขาต่อหน้าพระยะโฮวาสำหรับโรคที่เขาเป็นนั้น
16 “‘ถ้าผู้ชายคนไหนมีน้ำอสุจิหลั่งออกมา เขาจะต้องอาบน้ำชำระร่างกายให้ทั่ว และจะถือว่าเขาไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น+ 17 ถ้าเสื้อผ้าและอะไรก็ตามที่ทำจากหนังสัตว์เปื้อนน้ำอสุจิ จะต้องเอาไปซักล้าง และจะถือว่าสิ่งนั้นไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น
18 “‘ถ้าผู้ชายกับผู้หญิงมีเพศสัมพันธ์กันและมีการหลั่งน้ำอสุจิ ทั้งสองคนจะต้องอาบน้ำ และจะถือว่าพวกเขาไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น+
19 “‘ถ้าผู้หญิงคนไหนมีประจำเดือน จะถือว่าเธอไม่สะอาดอยู่ 7 วัน+เพราะประจำเดือนนั้น และคนที่ไปสัมผัสเธอก็จะไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น+ 20 ถ้าเธอไปนอนบนอะไรระหว่างที่เธอไม่สะอาดเพราะประจำเดือน สิ่งนั้นก็จะไม่สะอาด และถ้าเธอไปนั่งบนอะไร สิ่งนั้นก็จะไม่สะอาดไปด้วย+ 21 ถ้าใครไปสัมผัสเตียงนอนของเธอ คนนั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเอง ต้องอาบน้ำ และจะถือว่าเขาไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น 22 และถ้าใครไปสัมผัสสิ่งที่เธอนั่ง คนนั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเอง ต้องอาบน้ำ และจะถือว่าเขาไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น 23 ไม่ว่าใครก็ตามที่ไปสัมผัสเตียงนอนหรืออะไรก็ตามที่เธอนั่ง จะถือว่าเขาไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น+ 24 ถ้าผู้ชายกับผู้หญิงมีเพศสัมพันธ์กัน และผู้หญิงมีประจำเดือนพอดี+ เขาจะไม่สะอาดอยู่ 7 วัน และเตียงที่เขานอนก็จะไม่สะอาดไปด้วย
25 “‘ถ้าผู้หญิงคนไหนมีเลือดไหลออกมาหลายวัน+ในช่วงที่ไม่ใช่ประจำเดือนตามปกติ+ หรือถ้ามีประจำเดือนนานกว่าปกติ เธอจะไม่สะอาดตลอดระยะเวลาที่มีเลือดไหลออกมานั้น เหมือนในช่วงที่เธอไม่สะอาดเพราะการมีประจำเดือน 26 ถ้าเธอไปนอนบนเตียงไหนในช่วงที่มีเลือดไหลออกมาผิดปกตินี้ เตียงนั้นจะไม่สะอาดเหมือนช่วงที่เธอมีประจำเดือน+ และถ้าเธอไปนั่งบนอะไร สิ่งนั้นก็จะไม่สะอาดเหมือนช่วงที่เธอมีประจำเดือน 27 ถ้าใครไปสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ นี้ คนนั้นก็จะไม่สะอาด เขาจะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเอง ต้องอาบน้ำ และจะถือว่าเขาไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น+
28 “‘แต่ถ้าเลือดนั้นหยุดไหลแล้ว เธอจะต้องนับไป 7 วันจากวันที่เลือดนั้นหยุดไหล หลังจากนั้นถึงจะถือว่าเธอสะอาด+ 29 ในวันที่แปด เธอจะต้องเอานกเขา 2 ตัวหรือลูกนกพิราบ+ 2 ตัวมาให้ปุโรหิตตรงทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้า+ 30 ปุโรหิตจะถวายตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาเผา ปุโรหิตจะทำการไถ่บาปให้เธอต่อหน้าพระยะโฮวาเพราะเลือดที่ไหลออกมาซึ่งทำให้เธอไม่สะอาด+
31 “‘พวกเจ้าจะต้องแยกชาวอิสราเอลไว้จากสิ่งที่ไม่สะอาดในสายตาเรา เพื่อพวกเขาจะไม่ตาย เพราะถ้าพวกเขาไม่สะอาด พวกเขาก็จะทำให้เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ของเราที่อยู่กับพวกเขาไม่สะอาดไปด้วย+
32 “‘นี่เป็นข้อบัญญัติเกี่ยวกับผู้ชายที่มีของเหลวไหลออกมาจากอวัยวะเพศเพราะเป็นโรค ผู้ชายที่ไม่สะอาดเพราะการหลั่งน้ำอสุจิ+ 33 ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงที่ไม่สะอาดเพราะมีประจำเดือน+ ใครก็ตามที่มีของเหลวไหลออกมาจากอวัยวะเพศเพราะเป็นโรคไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิง+ และผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงในช่วงที่เธอไม่สะอาด’”
16 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสหลังจากลูกชาย 2 คนของอาโรนตายเพราะเข้าพบพระยะโฮวาอย่างไม่เหมาะสม+ 2 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสอย่างนี้ “ไปบอกอาโรนพี่ชายของเจ้าว่า อย่าเข้าไปยืนตรงหน้าฝาหีบที่อยู่บนหีบสัญญาซึ่งตั้งอยู่ในห้องบริสุทธิ์ที่สุดด้านหลังม่าน+ตามใจชอบ+เพื่อเขาจะไม่ตาย+ เพราะเราจะอยู่ในเมฆ+ที่ลอยอยู่บนฝาหีบ+นั้น
3 “อาโรนจะต้องทำสิ่งต่อไปนี้ก่อนจะเข้าไปในห้องบริสุทธิ์ที่สุด คือ ถวายวัวหนุ่มตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป+ และถวายแกะตัวผู้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาเผา+ 4 เขาจะต้องสวมเสื้อลินินตัวยาวอันบริสุทธิ์+ สวมกางเกงขาสั้น*ผ้าลินิน+ ผูกสายรัดเอวผ้าลินิน+ และโพกหัวด้วยผ้าลินิน+ นี่เป็นเครื่องแต่งกายอันบริสุทธิ์+ เขาต้องอาบน้ำ+และสวมเครื่องแต่งกายทั้งหมดนี้
5 “เขาต้องเอาลูกแพะตัวผู้ 2 ตัวที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปและแกะตัวผู้ 1 ตัวที่เป็นเครื่องบูชาเผาจากชาวอิสราเอล+มาด้วย
6 “อาโรนจะถวายวัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับตัวเอง เขาจะต้องทำการไถ่บาปให้ตัวเอง+และตระกูลของเขา
7 “ให้เขาเอาแพะ 2 ตัวนั้นมายืนต่อหน้าพระยะโฮวาตรงทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้า 8 อาโรนจะจับฉลากให้แพะ 2 ตัวนั้น ให้ฉลากอันหนึ่งระบุว่าพระยะโฮวา และอีกอันหนึ่งระบุว่าอาซาเซล* 9 อาโรนจะเอาแพะที่ฉลาก+ระบุว่าพระยะโฮวาไปถวายเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป 10 ส่วนแพะที่ยังมีชีวิตอยู่ซึ่งฉลากระบุว่าอาซาเซล ให้นำมายืนต่อหน้าพระยะโฮวา แพะนั้นจะรับเอาบาปไป และจะถูกเอาไปปล่อยเป็นอาซาเซลในที่กันดาร+
11 “อาโรนจะถวายวัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับตัวเอง และทำการไถ่บาปให้ตัวเองและตระกูลของเขา แล้วเขาต้องฆ่าวัวที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับตัวเขาเอง+
12 “เขาต้องเอาภาชนะเผาเครื่องหอม+ที่เต็มด้วยถ่านไฟจากแท่นบูชา+ ซึ่งอยู่ต่อหน้าพระยะโฮวา พร้อมเครื่องหอม+ที่บดละเอียด 2 กำมือเข้าไปในห้องบริสุทธิ์ที่สุดซึ่งอยู่ด้านหลังม่าน+ 13 เขาจะใส่เครื่องหอมลงบนถ่านไฟต่อหน้าพระยะโฮวา+ ให้ควันของเครื่องหอมลอยคลุ้งอยู่บนฝา+หีบสัญญา+ เพื่อเขาจะได้ไม่ตาย
14 “และเขาต้องเอาเลือดวัว+มาส่วนหนึ่ง แล้วเอานิ้วจุ่มเลือดนั้นไปสะบัดที่หน้าหีบ*ด้านที่อยู่ทางทิศตะวันออก เขาจะต้องสะบัดเลือด 7 ครั้งตรงหน้าหีบ*นั้น+
15 “เขาจะต้องฆ่าแพะที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับประชาชน+ แล้วเอาเลือดของมันเข้าไปในห้องบริสุทธิ์ที่สุดซึ่งอยู่ด้านหลังม่าน+ และเอาเลือด+ของมันมาสะบัดเหมือนกับเลือดของวัว เขาจะต้องสะบัดตรงหน้าหีบ*
16 “อาโรนต้องชำระห้องบริสุทธิ์ที่สุดจากสิ่งที่ไม่สะอาดซึ่งชาวอิสราเอลทำ จากความผิด และจากบาป+ของพวกเขา อาโรนต้องชำระเต็นท์เข้าเฝ้าซึ่งอยู่กับพวกเขาให้บริสุทธิ์จากสิ่งที่ไม่สะอาดที่พวกเขาทำด้วย
17 “เมื่อเขาเข้าไปทำการไถ่บาปในห้องบริสุทธิ์ที่สุด อย่าให้ใครอยู่ในเต็นท์เข้าเฝ้าจนกว่าเขาจะออกมา เขาจะทำการไถ่บาปให้ตัวเองและตระกูลของเขา+ และไถ่บาปให้ชาวอิสราเอลทุกคน+
18 “จากนั้น เขาจะออกมาที่แท่นบูชา+ซึ่งอยู่ต่อหน้าพระยะโฮวา และทำการชำระแท่นนั้นให้สะอาด โดยเอาเลือดวัวและเลือดแพะส่วนหนึ่งไปแต้มส่วนที่เป็นรูปเขาสัตว์ทั้งสี่บนแท่นบูชา 19 และเอานิ้วจุ่มเลือดส่วนหนึ่งไปสะบัดใส่แท่นบูชา 7 ครั้ง เพื่อชำระแท่นและทำให้แท่นนั้นบริสุทธิ์จากสิ่งที่ไม่สะอาดที่ชาวอิสราเอลทำ
20 “เมื่อเขาทำการชำระ+ ห้องบริสุทธิ์ที่สุดกับเต็นท์เข้าเฝ้าและแท่นบูชา+ให้สะอาดแล้ว เขาจะต้องถวายแพะอีกตัวหนึ่งซึ่งยังมีชีวิตอยู่+ 21 อาโรนจะวางมือทั้งสองข้างบนหัวแพะตัวที่มีชีวิตอยู่นั้น และสารภาพความผิดทั้งหมดของชาวอิสราเอลและบาปทั้งหมดที่พวกเขาทำ แล้วให้สิ่งเหล่านี้ไปตกบนหัวแพะ+ จากนั้นก็ให้ผู้ชายคนหนึ่งนำมันไปปล่อยในที่กันดาร 22 แพะนั้นจะแบกความผิดทั้งหมดของพวกเขา+ไป เขาจะปล่อยมันในที่กันดาร+
23 “จากนั้น ให้อาโรนเข้าไปในเต็นท์เข้าเฝ้า แล้วถอดเสื้อลินินซึ่งเขาสวมตอนเข้าไปในห้องบริสุทธิ์ที่สุดนั้นออก และวางไว้ที่นั่น 24 แล้วให้เขาอาบน้ำ+ในที่ที่สะอาดบริสุทธิ์ สวมชุดของตัวเอง+ แล้วมาถวายเครื่องบูชาเผาของตัวเอง+กับเครื่องบูชาเผาของประชาชน+ และทำการไถ่บาปให้ตัวเองกับประชาชน+ 25 แล้วเขาจะเอามันของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปไปเผาถวายบนแท่นบูชา
26 “ส่วนคนที่เอาแพะอาซาเซลไปปล่อยนั้น+ จะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเอง ต้องอาบน้ำ หลังจากนั้น เขาถึงจะเข้ามาในค่ายพักได้
27 “แต่วัวที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และแพะที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป ซึ่งเลือดของสัตว์ทั้งสองถูกนำเข้าไปในห้องบริสุทธิ์ที่สุดเพื่อทำการไถ่บาปนั้น ให้เอาไปเผาข้างนอกค่ายพัก เผาทั้งหนังและเนื้อ รวมทั้งมูลของมันด้วย+ 28 และคนที่เผาจะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเอง ต้องอาบน้ำ หลังจากนั้น เขาถึงจะเข้ามาในค่ายพักได้
29 “นี่เป็นข้อกำหนดที่พวกเจ้าต้องทำตามตลอดไป คือ ในวันที่ 10 เดือน 7 พวกเจ้าจะต้องแสดงความเสียใจต่อบาปของตัวเอง* และอย่าทำงานอะไร+ ไม่ว่าจะเป็นพวกเจ้าเองหรือคนต่างชาติที่อยู่ในแผ่นดินของพวกเจ้า 30 เพราะในวันนั้นจะมีการไถ่บาป+ให้พวกเจ้าเพื่อประกาศว่าพวกเจ้าสะอาดในสายตาพระเจ้าแล้ว พวกเจ้าจะได้รับการชำระจากบาปทั้งหมดของพวกเจ้าต่อหน้าพระยะโฮวา+ 31 นี่เป็นวันสะบาโต เป็นวันที่พวกเจ้าต้องหยุดพัก พวกเจ้าจะต้องแสดงความเสียใจต่อบาปที่ตัวเองทำ+ นี่เป็นข้อกำหนดที่พวกเจ้าต้องทำตามตลอดไป
32 “ปุโรหิตที่ถูกเจิมเพื่อแต่งตั้ง+ให้ทำหน้าที่+สืบต่อจากพ่อของเขา+จะต้องทำการไถ่บาป และต้องสวมเสื้อลินิน+ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายอันบริสุทธิ์+ 33 เขาจะต้องชำระห้องบริสุทธิ์ที่สุด+ เต็นท์เข้าเฝ้า+ และแท่นบูชา+ให้สะอาด และต้องทำการไถ่บาปให้พวกปุโรหิตและชาวอิสราเอลทุกคนด้วย+ 34 นี่เป็นข้อกำหนดที่พวกเจ้าต้องทำตามตลอดไป+ เป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับการไถ่บาปให้ชาวอิสราเอลปีละครั้ง+สำหรับบาปทั้งหมดที่พวกเขาทำ”
อาโรนทำตามที่พระยะโฮวาสั่งโมเสสทุกอย่าง
17 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 2 “ให้บอกอาโรนกับลูกชาย และชาวอิสราเอลทุกคนอย่างนี้ ‘พระยะโฮวาสั่งไว้ว่า
3 “‘“ถ้าชาวอิสราเอลคนไหนฆ่าวัว หรือแกะ หรือแพะ ในค่ายพักหรือนอกค่ายพักเอง 4 แทนที่จะเอาสัตว์นั้นไปที่ทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้าเพื่อถวายเป็นเครื่องบูชาให้พระยะโฮวาที่หน้าเต็นท์ของพระยะโฮวา คนนั้นจะมีความผิดฐานทำลายชีวิต เขาทำให้ชีวิตหนึ่งตาย จะต้องประหารชีวิตเขา 5 กฎข้อนี้มีไว้เพื่อให้ชาวอิสราเอลเอาเครื่องบูชามาให้ปุโรหิตที่ทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้าเพื่อถวายพระยะโฮวา แทนที่จะถวายกลางแจ้ง พวกเขาต้องถวายสัตว์นั้นเป็นเครื่องบูชาผูกมิตรให้พระยะโฮวา+ 6 แล้วปุโรหิตจะเอาเลือดสัตว์ไปพรมใส่แท่นบูชาของพระยะโฮวาตรงทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้า และเอามันสัตว์ไปเผาซึ่งมีกลิ่นหอมที่ทำให้พระยะโฮวาพอใจ+ 7 เขาต้องไม่เอาสัตว์นั้นถวายเป็นเครื่องบูชาให้ปีศาจรูปแพะ*+อีก ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า+ นี่เป็นข้อกำหนดที่พวกเจ้าต้องทำตามไปตลอดทุกยุคทุกสมัย”’
8 “ให้บอกพวกเขาว่า ‘ชาวอิสราเอลคนไหน หรือคนต่างชาติที่อยู่ในแผ่นดินของพวกเจ้าคนไหนที่ถวายเครื่องบูชาเผา หรือเครื่องบูชาอื่น ๆ 9 โดยไม่นำสัตว์นั้นไปที่ทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้าเพื่อถวายพระยะโฮวา จะต้องประหารชีวิตคนนั้น+
10 “‘ถ้าชาวอิสราเอลคนไหน หรือคนต่างชาติที่อยู่ในแผ่นดินของพวกเจ้าคนไหนกินเลือด ไม่ว่าเลือดอะไรก็ตาม+ เราจะเป็นศัตรูกับคนนั้น และเราจะประหารชีวิตคนนั้น 11 เพราะชีวิตอยู่ในเลือด+ และเราให้ใช้เลือดกับแท่นบูชา+เพื่อการไถ่บาปของพวกเจ้า เลือดนี้จะใช้เพื่อการไถ่บาปเท่านั้น+ เพราะชีวิตอยู่ในเลือด 12 นี่เป็นเหตุผลที่เราบอกชาวอิสราเอลว่า “อย่าให้ใครในพวกเจ้ากินเลือด และอย่าให้คนต่างชาติที่อยู่ในแผ่นดินของพวกเจ้า+กินเลือด”+
13 “‘ถ้าชาวอิสราเอลคนไหน หรือคนต่างชาติที่อยู่ในแผ่นดินของพวกเจ้าคนไหนไปล่าสัตว์ และจับสัตว์ป่าหรือนกที่กินได้มา เขาต้องทำให้เลือดของมันไหลออก+ แล้วเอาดินกลบไว้ 14 เพราะชีวิตของคนและสัตว์ก็คือเลือด ชีวิตอยู่ในเลือด เราจึงบอกชาวอิสราเอลว่า “พวกเจ้าอย่ากินเลือด ไม่ว่าเลือดอะไรก็ตาม เพราะชีวิตของคนและสัตว์ก็คือเลือด ใครกินเลือดจะต้องประหารชีวิตคนนั้น”+ 15 ถ้าใครกินเนื้อของสัตว์ที่ตายเอง หรือที่ถูกสัตว์ป่ากัดตาย+ ไม่ว่าจะเป็นพวกเจ้าหรือคนต่างชาติ คนนั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเอง ต้องอาบน้ำ และจะไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น+ หลังจากนั้น ถึงจะถือว่าเขาสะอาด 16 แต่ถ้าเขาไม่ซักเสื้อผ้าและไม่อาบน้ำ เขาจะต้องถูกลงโทษเพราะความผิดนี้’”+
18 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 2 “ให้บอกชาวอิสราเอลอย่างนี้ ‘เราคือยะโฮวา พระเจ้าของพวกเจ้า+ 3 อย่าทำตามอย่างคนในอียิปต์ที่พวกเจ้าเคยอาศัยอยู่ และอย่าทำตามอย่างคนในแผ่นดินคานาอันซึ่งเราจะนำพวกเจ้าไปที่นั่น+ ห้ามทำตามอย่างพวกเขา 4 พวกเจ้าต้องทำตามกฎหมายและข้อกำหนดของเรา+ เราคือยะโฮวา พระเจ้าของพวกเจ้า 5 พวกเจ้าต้องรักษาข้อกำหนดและข้อกฎหมายของเรา ถ้าใครทำตามก็จะได้ชีวิต+ เราคือยะโฮวา
6 “‘อย่าให้ใครในพวกเจ้ามีเพศสัมพันธ์กับญาติใกล้ชิด+ เราคือยะโฮวา 7 อย่ามีเพศสัมพันธ์กับพ่อ และอย่ามีเพศสัมพันธ์กับแม่ เพราะเธอเป็นแม่ อย่ามีเพศสัมพันธ์กับเธอ
8 “‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของพ่อ+ เพราะจะทำให้พ่ออับอาย
9 “‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับพี่สาวหรือน้องสาวของเจ้า ไม่ว่าจะเป็นพี่สาวหรือน้องสาวแท้ ๆ หรือพี่สาวหรือน้องสาวคนละแม่ หรือพี่สาวหรือน้องสาวคนละพ่อ และไม่ว่าเธอจะเกิดในบ้านเดียวกับเจ้าหรือเกิดที่อื่น+
10 “‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับหลานสาวของเจ้า ไม่ว่าจะเป็นลูกของลูกชายหรือลูกของลูกสาว เพราะเจ้าจะได้รับความอับอาย
11 “‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับพี่สาวหรือน้องสาวคนละแม่ เพราะเธอเป็นลูกของพ่อ เธอเป็นพี่สาวเป็นน้องสาวของเจ้า
12 “‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับพี่สาวหรือน้องสาวของพ่อ เพราะเธอเป็นญาติใกล้ชิดของพ่อเจ้า+
13 “‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับพี่สาวหรือน้องสาวของแม่ เพราะเธอเป็นญาติใกล้ชิดของแม่เจ้า
14 “‘อย่าทำให้พี่ชายหรือน้องชายของพ่อเจ้าอับอายโดยมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของเขา เพราะเธอเป็นป้าสะใภ้เป็นอาสะใภ้ของเจ้า+
15 “‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับลูกสะใภ้ของเจ้า เธอเป็นภรรยาของลูกชายเจ้า+ อย่ามีเพศสัมพันธ์กับเธอ
16 “‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับพี่สะใภ้หรือน้องสะใภ้ของเจ้า+ เพราะจะทำให้พี่ชายหรือน้องชายของเจ้าอับอาย
17 “‘ถ้าเจ้าแต่งงานกับผู้หญิงคนไหน อย่าเอาลูกสาวของเธอมาเป็นภรรยา+ และอย่าเอาหลานสาวของเธอมาเป็นภรรยา ไม่ว่าจะเป็นลูกของลูกชายหรือลูกของลูกสาว พวกเขาเป็นญาติใกล้ชิดของเธอ นี่เป็นการกระทำที่ชั่วช้าลามก
18 “‘อย่าเอาพี่สาวหรือน้องสาวของภรรยามาเป็นภรรยาอีกคน*+ ทั้ง ๆ ที่ภรรยาของเจ้ายังมีชีวิตอยู่
19 “‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงในช่วงที่เธอไม่สะอาดเพราะมีประจำเดือน+
20 “‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของคนอื่น เพราะการทำอย่างนั้นจะทำให้เจ้าไม่สะอาดในสายตาเรา+
21 “‘อย่าถวาย*ลูกของเจ้าให้พระโมเลค+ อย่าทำให้ชื่อพระเจ้าของเจ้าเสื่อมเสียด้วยการทำอย่างนั้น+ เราคือยะโฮวา
22 “‘อย่าให้ผู้ชายมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายเหมือนที่มีกับผู้หญิง+ เพราะเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ
23 “‘อย่าให้ผู้ชายมีเพศสัมพันธ์กับสัตว์ เพราะการทำอย่างนั้นจะทำให้เจ้าไม่สะอาดในสายตาของเรา อย่าให้ผู้หญิงเข้าหาสัตว์และมีเพศสัมพันธ์กับมัน+ นี่เป็นการกระทำที่ผิดธรรมชาติ
24 “‘อย่าทำให้ตัวเองไม่สะอาดในสายตาของเราด้วยเรื่องพวกนี้ เพราะชาติต่าง ๆ ที่เราขับไล่ไปต่อหน้าพวกเจ้านั้นได้ทำให้ตัวเองไม่สะอาดด้วยเรื่องทั้งหมดนี้+ 25 แผ่นดินนั้นจึงไม่สะอาดในสายตาของเรา และเราจะลงโทษพวกเขาเพราะความผิดนี้ คนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นจะต้องถูกขับไล่ออกไป+ 26 พวกเจ้าจะต้องรักษาข้อกำหนดและข้อกฎหมายของเรา+ และอย่าทำสิ่งที่น่ารังเกียจพวกนี้ ไม่ว่าจะเป็นพวกเจ้าเอง หรือคนต่างชาติที่อยู่ในแผ่นดินของพวกเจ้า+ 27 ผู้คนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินก่อนหน้าพวกเจ้าได้ทำสิ่งน่ารังเกียจทั้งหมดนี้+ แผ่นดินนั้นจึงไม่สะอาดในสายตาของเรา 28 ดังนั้น ถ้าพวกเจ้าไม่ทำแบบพวกเขา พวกเจ้าก็จะไม่ถูกขับไล่ออกไปเหมือนชาติต่าง ๆ ที่เคยอยู่ก่อนหน้าพวกเจ้า 29 ถ้าใครทำสิ่งที่น่ารังเกียจพวกนี้ไม่ว่าเรื่องไหน จะต้องประหารชีวิตคนนั้น 30 พวกเจ้าจะต้องทำตามที่เราสั่งไว้ อย่าทำตามธรรมเนียมที่น่ารังเกียจซึ่งทำกันก่อนที่พวกเจ้าจะเข้าไปอยู่ที่นั่น+ พวกเจ้าจะได้ไม่ทำให้ตัวเองไม่สะอาดเพราะเรื่องพวกนั้น เราคือยะโฮวา พระเจ้าของพวกเจ้า’”
19 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 2 “ให้บอกชาวอิสราเอลทุกคนอย่างนี้ ‘พวกเจ้าต้องเป็นคนบริสุทธิ์ เพราะเรายะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้าเป็นพระเจ้าที่บริสุทธิ์+
3 “‘พวกเจ้าต้องนับถือ*พ่อแม่+ และต้องทำตามคำสั่งเรื่องสะบาโตของเรา+ เราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า 4 อย่าหันไปนับถือพระต่าง ๆ ที่ไร้ค่า+ หรือเอาโลหะมาหล่อเป็นรูปพระไว้กราบไหว้บูชา+ เราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า
5 “‘ถ้าพวกเจ้าถวายเครื่องบูชาผูกมิตรให้พระยะโฮวา+ ให้ถวายเครื่องบูชานั้นในแบบที่พระเจ้าพอใจ+ 6 คือ ต้องกินส่วนของเครื่องบูชาในวันที่พวกเจ้าถวายและในวันถัดไป ถ้ามีส่วนไหนเหลือจนถึงวันที่สามให้เอาไปเผาไฟ+ 7 แต่ถ้ากินในวันที่สาม พวกเจ้าจะทำให้พระเจ้าไม่พอใจเพราะว่าเนื้อนั้นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ 8 คนที่กินจะต้องถูกลงโทษเพราะความผิดนี้ เพราะเขาดูหมิ่นสิ่งบริสุทธิ์ของพระยะโฮวา เขาจะต้องถูกประหารชีวิต
9 “‘เมื่อพวกเจ้าเก็บเกี่ยวพืชผลในที่ดินของเจ้า อย่าเกี่ยวข้าวที่ริมคันนาจนหมด และอย่าเก็บรวงข้าวที่ตกระหว่างการเก็บเกี่ยว+ 10 อย่าเก็บผลองุ่นที่เหลือค้างอยู่บนเถาหรือที่ตกอยู่ในสวนองุ่นของเจ้า แต่ให้เหลือไว้ให้คนยากจน*+และคนต่างชาติ เราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า
11 “‘อย่าขโมย+ อย่าหลอกลวงกัน+ และอย่าคดโกง 12 อย่าสาบานเรื่องที่ไม่จริงโดยใช้ชื่อของเรา+ เพราะจะทำให้ชื่อของพระเจ้าของเจ้าเสื่อมเสีย เราคือยะโฮวา 13 อย่าโกงคนอื่น+ อย่าปล้นทรัพย์*+ และอย่าค้างค่าแรงของลูกจ้างไว้จนถึงตอนเช้า+
14 “‘อย่าแช่งคนหูหนวก อย่าวางของขวางทางคนตาบอด+ เจ้าต้องเกรงกลัวพระเจ้าของเจ้า+ เราคือยะโฮวา
15 “‘อย่าตัดสินคดีอย่างไม่ยุติธรรม อย่าลำเอียงเข้าข้างคนยากจนหรือเห็นแก่หน้าคนร่ำรวย+ พวกเจ้าต้องตัดสินคดีด้วยความยุติธรรม
16 “‘อย่าเที่ยวไปใส่ร้ายใคร+ อย่าหาช่องทางฆ่าคนอื่น*+ เราคือยะโฮวา
17 “‘อย่าเอาแต่เก็บความเกลียดชังพี่น้องไว้ในใจ+ แต่ให้ไปตักเตือนเขา+ เพื่อจะไม่มีความผิดด้วยกันทั้งคู่
18 “‘อย่าแก้แค้น+หรือผูกพยาบาท แต่ให้รักคนอื่นเหมือนรักตัวเอง+ เราคือยะโฮวา
19 “‘ให้ทำตามข้อกำหนดต่อไปนี้ของเราด้วย คือ อย่าเอาสัตว์ 2 ชนิดมาผสมพันธุ์กัน อย่าเอาเมล็ดพืช 2 ชนิดมาหว่านปนกันในไร่นา+ และอย่าสวมเสื้อผ้าที่ทำจากด้าย 2 ชนิด+
20 “‘ถ้าผู้ชายคนไหนมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงที่เป็นทาสรับใช้ซึ่งยกให้ผู้ชายคนอื่นแล้ว แต่ตอนนั้นเธอยังไม่ถูกไถ่ตัวหรือยังไม่ได้รับอิสรภาพ ทั้ง 2 คนจะต้องถูกลงโทษแต่ไม่ถึงขั้นประหารชีวิต เพราะเธอยังไม่ได้รับอิสรภาพ 21 ผู้ชายคนนั้นจะต้องเอาแกะตัวผู้ 1 ตัวมาที่ทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้าเพื่อถวายพระยะโฮวาเป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิด+ 22 ปุโรหิตจะทำการไถ่บาปให้เขาต่อหน้าพระยะโฮวาสำหรับบาปที่เขาทำไป โดยใช้แกะตัวผู้ที่เป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิดนั้น และเขาจะได้รับการอภัยบาปของเขา
23 “‘เมื่อพวกเจ้าเข้าไปในแผ่นดินนั้น และปลูกต้นไม้ไม่ว่าชนิดไหนเพื่อกินผล พวกเจ้าห้ามกินผลของต้นไม้นั้นเป็นเวลา 3 ปี ต้องถือว่าผลของมันยังไม่บริสุทธิ์และเป็นผลต้องห้าม 24 ในปีที่ 4 ผลทั้งหมดของต้นไม้นั้นจะถือว่าบริสุทธิ์ และจะเป็นเวลาชื่นชมยินดีต่อหน้าพระยะโฮวา+ 25 พอถึงปีที่ 5 พวกเจ้าจะกินผลของมันได้ เมื่อทำอย่างนี้ ต้นไม้นั้นจะให้ผลมากมาย เราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า
26 “‘อย่ากินเนื้อสัตว์ที่ไม่ได้เอาเลือดออก+
“‘อย่าถือโชคลาง และอย่าใช้เวทมนตร์+
27 “‘อย่าโกน*ผมด้านข้างออก และอย่าตัดแต่งเคราให้ผิดรูป*+
28 “‘อย่าเชือดเนื้อตัวเองเพื่อคนตาย+ และอย่าสักเครื่องหมายอะไรตามตัวของเจ้า เราคือยะโฮวา
29 “‘อย่าทำให้ลูกสาวของเจ้าอับอายโดยให้เธอเป็นโสเภณี+ เพื่อจะไม่ให้แผ่นดินนี้มัวหมองด้วยการค้าประเวณีและการทำผิดศีลธรรม+
30 “‘ให้ทำตามคำสั่งเรื่องสะบาโตของเรา+ และเคารพนับถือที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรา เราคือยะโฮวา
31 “‘อย่าไปหาคนทรง+หรือปรึกษาหมอดู+ อย่าทำให้ตัวเองไม่สะอาดในสายตาพระเจ้าเพราะคนพวกนี้ เราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า
32 “‘ให้เคารพคนผมหงอก+ และนับถือคนสูงอายุ+ ให้เกรงกลัวพระเจ้าของพวกเจ้า+ เราคือยะโฮวา
33 “‘ถ้ามีคนต่างชาติมาอยู่ในแผ่นดินของพวกเจ้า อย่าข่มเหงเขา+ 34 ให้ปฏิบัติกับคนต่างชาติที่อยู่ในแผ่นดินของพวกเจ้าเหมือนที่พวกเจ้าซึ่งเป็นชาวอิสราเอลปฏิบัติต่อกัน+ ให้รักเขาเหมือนรักตัวเอง เพราะพวกเจ้าเคยเป็นคนต่างชาติอยู่ในอียิปต์มาก่อน+ เราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า
35 “‘เมื่อชั่งตวงวัดอะไรก็ตาม อย่าโกง+ 36 แต่ให้ใช้เครื่องชั่ง ตุ้มน้ำหนัก เครื่องตวงของแห้ง* และเครื่องตวงของเหลว*ที่ได้มาตรฐาน+ เราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า ผู้นำพวกเจ้าออกมาจากอียิปต์ 37 ดังนั้น พวกเจ้าต้องรักษาและทำตามข้อกำหนดและข้อกฎหมายทั้งหมดของเรา+ เราคือยะโฮวา’”
20 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 2 “ให้บอกชาวอิสราเอลอย่างนี้ ‘ไม่ว่าชาวอิสราเอลหรือคนต่างชาติคนไหนที่อยู่ในแผ่นดินอิสราเอลถวายลูกของตัวเองให้พระโมเลค จะต้องถูกประหารชีวิต+ ประชาชนในแผ่นดินนี้ต้องเอาหินขว้างเขาให้ตาย 3 เราจะจัดการคนนั้นและจะประหารชีวิตเขา เพราะเขาถวายลูกของตัวเองให้พระโมเลค การที่เขาทำแบบนี้ทำให้สถานบริสุทธิ์ของเราไม่สะอาด+และทำให้ชื่ออันบริสุทธิ์ของเราถูกดูหมิ่น 4 ถ้าประชาชนในแผ่นดินทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและไม่ประหารชีวิตคนนั้นที่เอาลูกตัวเองไปถวายพระโมเลค+ 5 เราจะจัดการคนนั้นกับครอบครัวของเขาเอง+ เราจะประหารชีวิตเขาและทุกคนที่มีส่วนร่วมกับเขาในการนมัสการพระโมเลค เพราะการทำแบบนี้ถือว่าไม่ซื่อสัตย์
6 “‘ใครไปหาคนทรง+และหมอดู+ เราจะจัดการคนนั้นและจะประหารชีวิตเขา เพราะเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อเรา+
7 “‘พวกเจ้าต้องแยกตัวเองไว้ให้บริสุทธิ์สำหรับเรา+ เพราะเราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า 8 พวกเจ้าต้องรักษาและทำตามข้อกำหนดของเรา+ เราคือยะโฮวาผู้ที่แยกพวกเจ้าไว้ให้บริสุทธิ์+
9 “‘ใครแช่งพ่อแช่งแม่ จะต้องถูกประหารชีวิต+ เพราะคนที่เขาแช่งเป็นพ่อเป็นแม่ของเขาเอง เขาต้องตายเพราะความผิดของเขา
10 “‘ใครมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของคนอื่น ก็ถือว่าเป็นชู้กับภรรยาของคนนั้น ผู้ชายและผู้หญิงที่เป็นชู้กันจะต้องถูกประหารชีวิต+ 11 ใครมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของพ่อ ก็ทำให้พ่อของตัวเองอับอาย+ ทั้งสองคนที่ทำผิดจะต้องถูกประหารชีวิต พวกเขาต้องตายเพราะความผิดของเขา 12 ใครมีเพศสัมพันธ์กับลูกสะใภ้ จะต้องประหารชีวิตคนนั้นกับลูกสะใภ้ของเขา พวกเขาทำสิ่งที่ผิดธรรมชาติ พวกเขาต้องตายเพราะความผิดของเขา+
13 “‘ผู้ชายคนไหนมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายเหมือนที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง พวกเขาก็ทำสิ่งที่น่ารังเกียจ+ จะต้องประหารชีวิตทั้งสองคน พวกเขาต้องตายเพราะความผิดของเขา
14 “‘ผู้ชายคนไหนแต่งงานกับผู้หญิงแล้วเอาแม่ของเธอมาเป็นภรรยาด้วย ก็ทำสิ่งที่ชั่วช้าลามก+ เขากับผู้หญิง 2 คนนั้นจะต้องถูกประหารชีวิตแล้วเอาไปเผาไฟ+ เพื่อกำจัดการกระทำที่ชั่วช้าลามกนั้นออกไปจากพวกเจ้า
15 “‘ผู้ชายคนไหนมีเพศสัมพันธ์กับสัตว์ จะต้องประหารชีวิตผู้ชายคนนั้นและฆ่าสัตว์ตัวนั้นด้วย+ 16 ผู้หญิงคนไหนเข้าหาสัตว์เพื่อมีเพศสัมพันธ์กับมัน+ จะต้องประหารชีวิตผู้หญิงคนนั้นและฆ่าสัตว์ตัวนั้นด้วย เจ้าต้องประหารชีวิตผู้หญิงกับสัตว์ตัวนั้น ผู้ชายกับผู้หญิงนั้นต้องตายเพราะความผิดของเขา
17 “‘ใครมีเพศสัมพันธ์กับพี่สาวหรือน้องสาวของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นพี่สาวหรือน้องสาวแท้ ๆ พี่สาวหรือน้องสาวคนละแม่ พี่สาวหรือน้องสาวคนละพ่อ พวกเขาก็ทำสิ่งที่น่าละอาย+และจะต้องถูกประหารชีวิตต่อหน้าชาวอิสราเอล เขามีเพศสัมพันธ์กับพี่สาวหรือน้องสาว เขาจะต้องถูกลงโทษเพราะความผิดของเขา
18 “‘ถ้าผู้ชายกับผู้หญิงคนไหนมีเพศสัมพันธ์กันในช่วงที่ผู้หญิงมีประจำเดือน แสดงว่าเขากับเธอไม่คำนึงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของเลือด+ ทั้งสองคนจะต้องถูกประหารชีวิต
19 “‘อย่าให้ผู้ชายคนไหนมีเพศสัมพันธ์กับพี่สาวหรือน้องสาวของแม่ พี่สาวหรือน้องสาวของพ่อ เพราะการทำอย่างนั้นทำให้ญาติที่มีสายเลือดเดียวกันอับอาย+ ทั้งสองจะต้องถูกลงโทษเพราะความผิดของตัวเอง 20 คนที่มีเพศสัมพันธ์กับป้าสะใภ้ น้าสะใภ้ หรืออาสะใภ้ ก็ทำให้ลุง น้า หรืออาของตัวเองอับอาย+ ทั้งสองจะต้องถูกลงโทษเพราะความผิดของตัวเอง ต้องประหารชีวิตคนที่ทำผิด เขาทั้งสองจะไม่มีโอกาสมีลูก 21 คนที่มีเพศสัมพันธ์กับพี่สะใภ้หรือน้องสะใภ้ของตัวเองก็ทำสิ่งที่น่ารังเกียจ+ เขาทำให้พี่ชายหรือน้องชายอับอาย เขาทั้งสองจะไม่มีโอกาสมีลูก
22 “‘พวกเจ้าต้องรักษาและทำตาม+ข้อกำหนดกับข้อกฎหมายทั้งหมดของเรา+ พวกเจ้าจะได้ไม่ถูกไล่ออกไปจากแผ่นดินที่เรากำลังพาพวกเจ้าไปอาศัยอยู่+ 23 อย่าทำตามอย่างชาติต่าง ๆ ซึ่งเรากำลังจะไล่พวกเขาไปต่อหน้าพวกเจ้า+ เรารังเกียจคนพวกนี้เพราะพวกเขาทำสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งหมดนี้+ 24 ดังนั้น เราจึงบอกพวกเจ้าว่า “พวกเจ้าจะได้ครอบครองแผ่นดินของพวกเขา และเราจะให้แผ่นดินนั้นเป็นสมบัติของพวกเจ้า ซึ่งเป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งมากมาย+ เราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า ผู้ที่ได้แยกพวกเจ้าออกจากชนชาติต่าง ๆ”+ 25 และพวกเจ้าต้องแยกความแตกต่างระหว่างสัตว์สี่เท้าชนิดที่สะอาดและไม่สะอาด ระหว่างนกชนิดที่สะอาดและไม่สะอาด+ พวกเจ้าอย่าทำให้ตัวเองน่ารังเกียจเพราะสัตว์สี่เท้า หรือนก หรือสัตว์ที่คลานไปมาตามพื้นดินซึ่งเราแยกไว้เป็นสัตว์ไม่สะอาด+ 26 พวกเจ้าต้องเป็นคนบริสุทธิ์สำหรับเรา เพราะเรายะโฮวาเป็นพระเจ้าที่บริสุทธิ์+ และเราแยกพวกเจ้าออกจากชนชาติต่าง ๆ เพื่อเป็นประชาชนของเรา+
27 “‘ผู้ชายและผู้หญิงคนไหนที่เป็นคนทรงหรือหมอดูจะต้องถูกประหารชีวิต+ โดยเอาหินขว้างให้ตาย พวกเขาต้องตายเพราะความผิดของเขา’”
21 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า “ให้บอกพวกปุโรหิตซึ่งเป็นลูกหลานของอาโรนว่า ‘อย่าให้ปุโรหิตคนไหนทำให้ตัวเองไม่สะอาดเพราะคนตาย+ 2 ยกเว้นคนที่ตายเป็นญาติใกล้ชิดมีสายเลือดเดียวกันกับเขา คือเป็นพ่อแม่ ลูกชายลูกสาว หรือพี่ชายน้องชายของเขา 3 หรือถ้าคนที่ตายเป็นพี่สาวน้องสาวที่เป็นสาวบริสุทธิ์ยังไม่ได้แต่งงาน และอยู่บ้านเดียวกับเขา เขาก็ไว้ทุกข์ให้เธอได้* 4 อย่าให้เขาทำให้ตัวเองไม่สะอาดและไม่บริสุทธิ์เพราะศพของผู้หญิงที่มีสามีแล้ว 5 ห้ามพวกเขาโกนหัว+ โกนเคราข้างแก้ม หรือเชือดเนื้อของตัวเอง+ 6 พวกเขาต้องเป็นคนบริสุทธิ์สำหรับพระเจ้าของเขา+ และต้องไม่ทำให้ชื่อของพระองค์เสื่อมเสีย+ เพราะพวกเขาเป็นคนถวายเครื่องบูชาให้พระยะโฮวาด้วยการเผา เครื่องบูชานี้เป็นเหมือนอาหารของพระเจ้า พวกเขาจึงต้องเป็นคนบริสุทธิ์+ 7 ห้ามพวกเขาแต่งงานกับผู้หญิงโสเภณี+ ผู้หญิงที่ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ หรือผู้หญิงที่หย่ากับสามี+ เพราะปุโรหิตต้องเป็นคนบริสุทธิ์สำหรับพระเจ้าของเขา 8 เจ้าต้องแยกเขาไว้ให้บริสุทธิ์+เพราะเขาเป็นคนที่ถวายอาหารให้พระเจ้า เจ้าต้องถือว่าเขาเป็นคนบริสุทธิ์ เพราะเรายะโฮวาผู้ที่แยกพวกเจ้าไว้นั้นเป็นพระเจ้าที่บริสุทธิ์+
9 “‘ถ้าลูกสาวของปุโรหิตทำให้ตัวเองเสื่อมเสียโดยค้าประเวณี เธอก็ทำให้พ่อของเธออับอาย จะต้องประหารชีวิตเธอแล้วเอาไปเผาไฟ+
10 “‘สำหรับคนที่เป็นมหาปุโรหิตซึ่งน้ำมันเจิมได้เทลงบนหัวเขา+ และได้รับการแต่งตั้งให้สวมเครื่องแต่งกายของปุโรหิตนั้น+ ห้ามเขาปล่อยผมเผ้ารุงรังหรือฉีกเสื้อของตัวเอง+ 11 ห้ามเขาแตะต้องคนตาย+หรือทำให้ตัวเองไม่สะอาด ถึงแม้คนที่ตายจะเป็นพ่อเป็นแม่ของเขาก็ตาม 12 เขาจะต้องไม่ออกไปจากที่ศักดิ์สิทธิ์ และไม่ทำให้ที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าเสื่อมเสีย+ เพราะเครื่องหมายที่แสดงถึงการอุทิศตัว คือน้ำมันเจิมแต่งตั้งจากพระเจ้า+ได้เทลงบนหัวเขาแล้ว เราคือยะโฮวา
13 “‘เขาจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่เป็นสาวบริสุทธิ์+ 14 ห้ามเขาแต่งงานกับแม่ม่าย ผู้หญิงที่หย่ากับสามี ผู้หญิงที่ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ หรือผู้หญิงโสเภณี แต่เขาจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่เป็นสาวบริสุทธิ์จากชนชาติของเขา 15 เขาต้องไม่ทำให้ลูกหลานของเขาไม่สะอาด+ เพราะเราคือยะโฮวาผู้ที่แยกเขาไว้ให้บริสุทธิ์’”
16 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 17 “ให้บอกอาโรนอย่างนี้ ‘ไม่ว่าในสมัยไหน อย่าให้ลูกหลานของเจ้าที่มีความบกพร่องทางร่างกายเข้ามาถวายอาหารให้พระเจ้า 18 คนที่มีความบกพร่องทางร่างกายจะเข้ามาในที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ คือ คนตาบอด คนง่อย คนจมูกแหว่ง คนที่แขนหรือขายาวไม่เท่ากัน 19 คนที่แขนขาหัก 20 คนหลังค่อม คนที่ร่างกายแคระแกร็น* คนตาพิการ ผิวหนังอักเสบ เป็นกลาก หรือมีลูกอัณฑะฝ่อ+ 21 อย่าให้ผู้ชายที่มีความบกพร่องทางร่างกายคนไหนซึ่งเป็นลูกหลานของปุโรหิตอาโรนถวายเครื่องบูชาให้พระยะโฮวาด้วยการเผา เขามีความบกพร่องทางร่างกายจึงมาที่แท่นบูชาเพื่อถวายอาหารให้พระเจ้าไม่ได้ 22 เขาจะกินส่วนที่ได้จากอาหารของพระเจ้าทั้งส่วนที่บริสุทธิ์ยิ่ง+และส่วนที่บริสุทธิ์นั้นได้+ 23 แต่จะเข้ามาใกล้ม่านไม่ได้+ และเข้ามาใกล้แท่นบูชาก็ไม่ได้+ เพราะมีความบกพร่องทางร่างกาย เขาจะต้องไม่ทำให้ที่ศักดิ์สิทธิ์ของเราเสื่อมเสีย+ เพราะเราคือยะโฮวาผู้ที่แยกพวกเขาไว้ให้บริสุทธิ์’”+
24 โมเสสก็บอกอาโรนกับลูกชายของเขา และบอกชาวอิสราเอลทุกคน
22 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสอีกว่า 2 “ให้บอกอาโรนกับลูกชายของเขาให้ปฏิบัติกับสิ่งบริสุทธิ์ที่ชาวอิสราเอลเอามาถวายอย่างระมัดระวัง สิ่งของนี้ถูกแยกไว้ต่างหากเพื่อถวายเรา+ อย่าทำให้ชื่ออันบริสุทธิ์ของเราเสื่อมเสีย+ เราคือยะโฮวา 3 ให้บอกพวกเขาว่า ‘ตลอดทุกยุคทุกสมัย ถ้าลูกหลานของเจ้าคนไหนที่ไม่สะอาดเข้ามาใกล้สิ่งบริสุทธิ์ซึ่งชาวอิสราเอลแยกไว้สำหรับพระยะโฮวา จะต้องถูกประหารชีวิต+ เราคือยะโฮวา 4 ลูกหลานของอาโรนที่เป็นโรคเรื้อน+ หรือมีของเหลวไหลออกมาจากอวัยวะเพศเพราะเป็นโรค+จะกินของบริสุทธิ์ไม่ได้จนกว่าเขาจะสะอาด+ ส่วนลูกหลานของอาโรนที่ไปสัมผัสคนที่ไม่สะอาดเพราะคนตาย+ หรือสัมผัสคนที่มีน้ำอสุจิหลั่งออกมา+ 5 หรือสัมผัสสัตว์เล็ก ๆ ชนิดที่ไม่สะอาด+ หรือสัมผัสคนที่ไม่สะอาด+ 6 เขาจะไม่สะอาดจนถึงตอนเย็น และจะกินอะไรก็ตามที่เป็นของบริสุทธิ์ไม่ได้ เขาจะต้องอาบน้ำ+ 7 และจะสะอาดเมื่อดวงอาทิตย์ตกแล้ว จากนั้นเขาถึงจะกินของบริสุทธิ์ได้ เพราะนั่นเป็นอาหารของเขา+ 8 นอกจากนี้ เขาจะกินสัตว์ที่ตายเองหรือสัตว์ที่ถูกสัตว์อื่นกัดตายไม่ได้ เพราะนั่นจะทำให้เขาไม่สะอาด+ เราคือยะโฮวา
9 “‘พวกเขาต้องทำตามคำสั่งของเรา เพื่อจะไม่ทำบาปโดยละเมิดคำสั่งนั้นแล้วถูกประหารชีวิตเพราะไปดูหมิ่นสิ่งบริสุทธิ์ เราคือยะโฮวาผู้ที่แยกพวกเขาไว้ให้บริสุทธิ์
10 “‘คนที่ไม่มีสิทธิ์*จะกินของบริสุทธิ์ไม่ได้+ แขกต่างชาติที่อยู่กับปุโรหิต หรือลูกจ้างก็กินของบริสุทธิ์นี้ไม่ได้ 11 แต่ถ้าปุโรหิตซื้อใครมาด้วยเงินของเขาเอง คนนั้นก็กินได้ ทาสที่เกิดในบ้านของปุโรหิตก็กินอาหารนั้นได้ด้วย+ 12 ถ้าลูกสาวของปุโรหิตแต่งงานกับคนที่ไม่ได้เป็นปุโรหิต เธอจะกินของถวายอันบริสุทธิ์นี้ไม่ได้ 13 แต่ถ้าลูกสาวของปุโรหิตกลายเป็นม่าย หรือหย่ากับสามีโดยไม่มีลูก แล้วกลับมาอยู่ที่บ้านพ่อเหมือนตอนเป็นสาว ๆ ก็ให้เธอกินอาหารของพ่อได้+ แต่อย่าให้คนที่ไม่มีสิทธิ์*กินอาหารนี้
14 “‘ถ้าใครกินของบริสุทธิ์โดยไม่เจตนา เขาจะต้องชดใช้ของนั้นให้ปุโรหิต และต้องเพิ่มให้อีก 1 ใน 5 ของราคาของบริสุทธิ์นั้น+ 15 ดังนั้น อย่าให้ปุโรหิตดูหมิ่นของบริสุทธิ์ที่ชาวอิสราเอลนำมาถวายพระยะโฮวา+ 16 และทำให้ชาวอิสราเอลถูกลงโทษเพราะความผิดที่ไปกินของบริสุทธิ์นั้น เพราะเราคือยะโฮวาผู้ที่แยกพวกเขาไว้ให้บริสุทธิ์’”
17 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 18 “ให้ไปบอกอาโรนกับลูกชายของเขา และชาวอิสราเอลทุกคนอย่างนี้ ‘ถ้าชาวอิสราเอลหรือคนต่างชาติคนไหนที่อยู่ในแผ่นดินอิสราเอลจะถวายเครื่องบูชาเผา+ให้พระยะโฮวาเพื่อทำตามที่ปฏิญาณไว้ หรือเพื่อเป็นเครื่องบูชาที่ถวายด้วยความสมัครใจ+ 19 ให้ถวายวัวตัวผู้ หรือลูกแกะตัวผู้ หรือแพะที่สมบูรณ์แข็งแรง+ พระเจ้าจึงจะพอใจ 20 อย่าเอาสัตว์ที่มีตำหนิมาถวาย+ เพราะจะทำให้พระเจ้าไม่พอใจ
21 “‘ถ้าใครจะถวายเครื่องบูชาผูกมิตร+ให้พระยะโฮวาเพื่อทำตามที่ปฏิญาณไว้ หรือเพื่อเป็นเครื่องบูชาที่ถวายด้วยความสมัครใจ ให้ถวายสัตว์ที่สมบูรณ์แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นวัว แกะ หรือแพะ เพื่อให้พระเจ้าพอใจ อย่าเอาสัตว์ที่มีตำหนิมาถวาย 22 อย่าเอาสัตว์ตาบอด ขาหัก มีแผล หรือเป็นหูด หิด หรือกลากมาถวายพระยะโฮวา หรือเอามาเป็นเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาบนแท่น 23 ส่วนวัว แกะ หรือแพะ ที่ขายาวไม่เท่ากัน พวกเจ้าจะเอามาถวายเป็นเครื่องบูชาที่ถวายด้วยความสมัครใจก็ได้ แต่อย่าถวายเป็นเครื่องบูชาสำหรับคำปฏิญาณ เพราะพระเจ้าจะไม่พอใจ 24 แต่สัตว์ที่ลูกอัณฑะเสียหายหรือถูกหนีบ หรือสัตว์ที่ถูกตอน อย่าเอามาถวายพระยะโฮวา อย่าให้มีการถวายสัตว์แบบนี้ในแผ่นดินของพวกเจ้า 25 สัตว์ซึ่งได้จากคนต่างชาติที่มีลักษณะแบบนี้ อย่าถวายเป็นอาหารให้พระเจ้าเพราะเป็นสัตว์ที่ไม่สมบูรณ์และมีตำหนิ สัตว์แบบนี้จะทำให้พระเจ้าไม่พอใจ’”
26 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสอีกว่า 27 “ลูกวัว ลูกแกะ หรือลูกแพะที่จะถวายต้องให้อยู่กับแม่ของมัน 7 วันหลังจากที่เกิดมา+ พอถึงวันที่แปดหรือหลังจากนั้นค่อยเอามาถวายพระยะโฮวาเป็นเครื่องบูชาที่ถวายด้วยการเผา พระเจ้าจึงจะพอใจ 28 สำหรับวัว แกะ หรือแพะนั้น พวกเจ้าอย่าฆ่าแม่กับลูกของมันในวันเดียวกัน+
29 “ถ้าพวกเจ้าจะถวายเครื่องบูชาขอบคุณพระยะโฮวา+ ก็ให้ถวายเครื่องบูชานั้นอย่างที่พระเจ้าพอใจ 30 พวกเจ้าต้องกินเนื้อของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาในวันที่ถวาย อย่าเหลือส่วนไหนไว้จนถึงตอนเช้า+ เราคือยะโฮวา
31 “พวกเจ้าต้องรักษาและทำตามข้อบัญญัติของเรา+ เราคือยะโฮวา 32 อย่าทำให้ชื่ออันบริสุทธิ์ของเราเสื่อมเสีย+ แทนที่จะทำอย่างนั้น ชาวอิสราเอลต้องเคารพนับถือเรา+ เราคือยะโฮวาผู้ที่แยกพวกเจ้าไว้ให้บริสุทธิ์+ 33 ผู้ที่พาพวกเจ้าออกมาจากอียิปต์เพื่อเป็นพระเจ้าของพวกเจ้า+ เราคือยะโฮวา”
23 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 2 “ให้บอกชาวอิสราเอลอย่างนี้ ‘เทศกาล+ที่พระยะโฮวาสั่งให้ฉลองนั้นเป็นวันบริสุทธิ์ที่ทุกคนต้องมาประชุมกันเพื่อนมัสการพระเจ้า พวกเจ้าต้องประกาศ+ให้ฉลองเทศกาลต่อไปนี้
3 “‘ให้ทำงาน 6 วัน แต่วันที่เจ็ดเป็นวันสะบาโต เป็นวันที่ต้องหยุดพัก+ เป็นวันประชุมเพื่อนมัสการพระเจ้า ห้ามพวกเจ้าทำงานไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม เพราะเป็นสะบาโตเพื่อพระยะโฮวา+
4 “‘เทศกาลที่พระยะโฮวาสั่งให้ฉลองเป็นวันประชุมเพื่อนมัสการพระเจ้า เมื่อถึงเวลาฉลอง พวกเจ้าต้องประกาศให้ฉลองเทศกาลต่อไปนี้ 5 เทศกาลปัสกา+ของพระยะโฮวา ซึ่งจะฉลองในตอนพลบค่ำ*ของวันที่ 14 เดือน 1+
6 “‘และในวันที่ 15 ของเดือนนั้น ให้พวกเจ้าเริ่มฉลองเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อเพื่อพระยะโฮวา+ โดยกินขนมปังไม่ใส่เชื้อเป็นเวลา 7 วัน+ 7 ในวันแรกที่ฉลอง พวกเจ้าต้องประชุมกันเพื่อนมัสการพระเจ้า+ อย่าทำงานหนักในวันนั้น 8 แต่ให้ถวายเครื่องบูชาให้พระยะโฮวาด้วยการเผาเป็นเวลา 7 วัน ในวันที่เจ็ดต้องมีการประชุมเพื่อนมัสการพระเจ้าอีก อย่าทำงานหนักในวันนั้น’”
9 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสอีกว่า 10 “ให้บอกชาวอิสราเอลอย่างนี้ ‘ตอนที่พวกเจ้าเกี่ยวข้าวหลังจากเข้าไปในแผ่นดินที่เราจะให้เจ้านั้น พวกเจ้าต้องนำฟ่อนข้าวที่เป็นผลแรก+ของการเก็บเกี่ยวไปให้ปุโรหิตฟ่อนหนึ่ง+ 11 แล้วให้เขานำไปยื่นถวายต่อหน้าพระยะโฮวาเพื่อให้พระองค์พอใจ ให้ปุโรหิตยื่นถวายในวันถัดจากวันสะบาโตนั้น 12 ในวันที่ยื่นถวายฟ่อนข้าว พวกเจ้าต้องถวายลูกแกะตัวผู้ตัวหนึ่งที่สมบูรณ์แข็งแรงอายุไม่เกิน 1 ปีเป็นเครื่องบูชาเผาให้พระยะโฮวา 13 และแป้งเนื้อละเอียด 2 ใน 10 เอฟาห์*ที่นวดกับน้ำมันเป็นเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าว โดยถวายพระยะโฮวาด้วยการเผาซึ่งมีกลิ่นหอมที่ทำให้พระองค์พอใจ พร้อมกับถวายเหล้าองุ่น 1 ใน 4 ฮิน*เป็นเครื่องบูชาดื่ม 14 อย่ากินข้าวคั่ว ข้าวใหม่ หรือขนมปังที่ทำจากข้าวใหม่จนกว่าจะถึงวันนี้ คือวันที่พวกเจ้านำเครื่องบูชานั้นมาถวายพระเจ้า นี่เป็นข้อกำหนดที่พวกเจ้าต้องทำตามไปตลอดทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
15 “‘ตั้งแต่วันถัดจากวันสะบาโต คือตั้งแต่วันที่พวกเจ้านำฟ่อนข้าวไปยื่นถวายนั้น+ ให้พวกเจ้านับไป 7 สะบาโต คือนับไปจนครบ 7 สัปดาห์ 16 และในวันที่ห้าสิบ+ หรือวันถัดจากวันสะบาโตที่เจ็ดนั้น พวกเจ้าต้องถวายเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวที่เป็นข้าวใหม่ให้พระยะโฮวา+ 17 พวกเจ้าต้องเอาขนมปังจากบ้านมา 2 แผ่นเพื่อเป็นเครื่องบูชายื่นถวาย ขนมปังนั้นให้ทำจากแป้งเนื้อละเอียด 2 ใน 10 เอฟาห์* เป็นขนมปังใส่เชื้อ+ แล้วถวายพระยะโฮวาเป็นผลแรกของการเก็บเกี่ยว+ 18 ให้พวกเจ้าถวายขนมปังนั้นพร้อมกับลูกแกะตัวผู้อายุ 1 ปี 7 ตัวที่สมบูรณ์แข็งแรง วัวหนุ่ม 1 ตัว และแกะตัวผู้อีก 2 ตัว+ เครื่องบูชาทั้งหมดนี้ให้ถวายเป็นเครื่องบูชาเผาให้พระยะโฮวาพร้อมกับเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวและเครื่องบูชาดื่ม โดยถวายด้วยการเผาซึ่งมีกลิ่นหอมที่ทำให้พระยะโฮวาพอใจ 19 และพวกเจ้าต้องถวายลูกแพะ 1 ตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป+ และลูกแกะตัวผู้อายุ 1 ปี 2 ตัวเป็นเครื่องบูชาผูกมิตร+ 20 ปุโรหิตจะเอาลูกแกะตัวผู้ 2 ตัวนี้พร้อมกับขนมปังที่ทำจากผลแรกของการเก็บเกี่ยวถวายเป็นเครื่องบูชายื่นถวายพระยะโฮวา เครื่องบูชานี้จะเป็นของบริสุทธิ์สำหรับพระยะโฮวาที่ยกให้กับปุโรหิต+ 21 พวกเจ้าจะต้องประกาศออกไปในวันนั้น+ว่าจะมีการประชุมเพื่อนมัสการพระเจ้า อย่าทำงานหนักในวันนั้น นี่เป็นข้อกำหนดที่พวกเจ้าต้องทำตามไปตลอดทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าพวกเจ้าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
22 “‘เมื่อพวกเจ้าเก็บเกี่ยวพืชผลในที่ดินของเจ้า อย่าเกี่ยวข้าวที่ริมคันนาจนหมด และอย่าเก็บรวงข้าวที่ตกระหว่างการเก็บเกี่ยว+ พวกเจ้าต้องเหลือไว้ให้คนยากจน*+และคนต่างชาติ+ เราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า’”
23 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 24 “ให้บอกชาวอิสราเอลอย่างนี้ ‘วันที่ 1 เดือน 7 เป็นวันที่พวกเจ้าต้องหยุดพัก เป็นวันที่ต้องเป่าแตรให้สัญญาณเพื่อให้ระลึกถึงวันนี้+ เป็นวันที่ต้องประชุมเพื่อนมัสการพระเจ้า 25 อย่าทำงานหนักในวันนั้น แต่พวกเจ้าต้องถวายเครื่องบูชาให้พระยะโฮวาด้วยการเผา’”
26 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสอีกว่า 27 “แต่วันที่ 10 เดือน 7 จะเป็นวันไถ่บาป+ เป็นวันที่ต้องประชุมกันเพื่อนมัสการพระเจ้า พวกเจ้าต้องแสดงความเสียใจต่อบาปของตัวเอง*+และถวายเครื่องบูชาให้พระยะโฮวาด้วยการเผา 28 อย่าทำงานในวันนั้น เพราะเป็นวันไถ่บาป+ของพวกเจ้าต่อหน้าพระยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า 29 ใครที่ไม่แสดงความเสียใจต่อบาปของตัวเอง*ในวันนั้น จะต้องถูกประหารชีวิต+ 30 และคนที่ทำงานในวันนั้นไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตาม เราจะประหารชีวิตเขา 31 อย่าทำงานในวันนั้น นี่เป็นข้อกำหนดที่พวกเจ้าต้องทำตามไปตลอดทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าพวกเจ้าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม 32 วันนั้นเป็นวันสะบาโตซึ่งพวกเจ้าต้องหยุดพัก และพวกเจ้าต้องแสดงความเสียใจต่อบาปของตัวเอง+ในตอนเย็นวันที่ 9 ของเดือนนั้น พวกเจ้าต้องรักษาสะบาโตตั้งแต่เย็นวันนั้นจนถึงเย็นวันรุ่งขึ้น”
33 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 34 “ให้ไปบอกชาวอิสราเอลอย่างนี้ ‘วันที่ 15 ของเดือน 7 จะเป็นวันเริ่มเทศกาลอยู่เพิง 7 วันเพื่อพระยะโฮวา+ 35 วันแรกของเทศกาลจะประชุมกันเพื่อนมัสการพระเจ้า อย่าทำงานหนักในวันนั้น 36 พวกเจ้าต้องถวายเครื่องบูชาให้พระยะโฮวาด้วยการเผาเป็นเวลา 7 วัน ในวันที่แปดจะเป็นวันประชุมเพื่อนมัสการพระเจ้า+ และพวกเจ้าต้องถวายเครื่องบูชาให้พระยะโฮวาด้วยการเผา นี่เป็นการประชุมศักดิ์สิทธิ์ อย่าทำงานหนักในวันนั้น
37 “‘นี่คือเทศกาลต่าง ๆ+ที่พระยะโฮวาสั่งให้ฉลอง ซึ่งพวกเจ้าจะต้องประกาศให้เป็นวันประชุมเพื่อนมัสการพระเจ้า+ และต้องถวายเครื่องบูชาให้พระยะโฮวาด้วยการเผาดังต่อไปนี้ คือ เครื่องบูชาเผา+ เครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าว+ และเครื่องบูชาดื่ม+ตามที่กำหนดสำหรับแต่ละวัน 38 นอกเหนือจากเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาเป็นประจำในวันสะบาโต+ และของถวายต่าง ๆ+ รวมทั้งเครื่องบูชาสำหรับคำปฏิญาณ+ และเครื่องบูชาที่ถวายด้วยความสมัครใจ+ซึ่งพวกเจ้าต้องถวายพระยะโฮวาอยู่แล้ว 39 แต่ในวันที่ 15 ของเดือน 7 ตอนที่พวกเจ้าเก็บเกี่ยวพืชผลจากแผ่นดิน พวกเจ้าต้องฉลองเทศกาลของพระยะโฮวา 7 วัน+ โดยวันแรกกับวันที่แปดจะเป็นวันที่พวกเจ้าต้องหยุดพัก+ 40 ในวันแรกพวกเจ้าต้องเอาผลไม้จากต้นที่ดีที่สุดมา พร้อมใบปาล์ม+ กิ่งไม้ที่มีใบดก และกิ่งของต้นป๊อปลาร์จากหุบเขา และให้ชื่นชมยินดี+ต่อหน้าพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าเป็นเวลา 7 วัน+ 41 พวกเจ้าต้องฉลองเทศกาลนี้เพื่อพระยะโฮวาปีละ 7 วัน+ และต้องฉลองในเดือน 7 นี่เป็นข้อกำหนดที่พวกเจ้าต้องทำตามไปตลอดทุกยุคทุกสมัย 42 พวกเจ้าต้องอยู่ในเพิงเป็นเวลา 7 วัน+ ชาวอิสราเอลทุกคนจะต้องอยู่ในเพิง 43 เพื่อลูกหลานของพวกเจ้าที่เกิดมาในอนาคตจะได้รู้+ว่าเราเคยให้ชาวอิสราเอลอยู่ในเพิงตอนที่เราพาพวกเขาออกมาจากอียิปต์+ เราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า’”
44 โมเสสจึงบอกชาวอิสราเอลเรื่องเทศกาลต่าง ๆ ที่พระยะโฮวาสั่งให้ฉลองนี้
24 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 2 “สั่งชาวอิสราเอลให้เอาน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์สำหรับเติมตะเกียงมาให้เจ้า ตะเกียงจะได้ส่องสว่างตลอดเวลา+ 3 อาโรนจะต้องจุดตะเกียงให้ส่องสว่างต่อหน้าพระยะโฮวาเสมอตั้งแต่เย็นถึงเช้าในเต็นท์เข้าเฝ้าส่วนที่อยู่ข้างนอกม่านที่อยู่ใกล้กับหีบสัญญา นี่เป็นข้อกำหนดที่พวกเจ้าต้องทำไปตลอดทุกยุคทุกสมัย 4 เขาต้องดูแลตะเกียงที่อยู่บนเชิงตะเกียง+ทองคำบริสุทธิ์ต่อหน้าพระยะโฮวาเสมอ
5 “เจ้าต้องเอาแป้งเนื้อละเอียดมาทำเป็นขนมปังรูปวงแหวน 12 อัน โดยขนมปังแต่ละอันให้ใช้แป้ง 2 ใน 10 เอฟาห์* 6 ให้เจ้าเอาขนมปังทั้งหมดไปวางบนโต๊ะที่ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ต่อหน้าพระยะโฮวา+ โดยวางซ้อนกัน 2 ตั้ง ตั้งละ 6 อัน+ 7 และให้เจ้าเอากำยานบริสุทธิ์วางบนขนมปังแต่ละตั้ง แล้วเจ้าจะต้องเผากำยานนี้ถวายพระยะโฮวาเป็นเครื่องบูชาที่เผาแทนขนมปังทั้งหมด*+ 8 ให้เอาขนมปังมาตั้งถวายต่อหน้าพระยะโฮวาทุกวันสะบาโต+ ขนมปังนี้จะเป็นสัญญาที่ยั่งยืนระหว่างเรากับชาวอิสราเอล 9 และขนมปังนี้จะเป็นของอาโรนกับลูกชาย+ พวกเขาจะต้องกินขนมปังนี้ในที่ที่สะอาดบริสุทธิ์+ เพราะนี่เป็นของบริสุทธิ์ยิ่งสำหรับปุโรหิตซึ่งได้จากเครื่องบูชาที่ถวายพระยะโฮวาด้วยการเผา นี่เป็นข้อกำหนดที่ต้องทำตามตลอดไป”
10 ตอนนั้น มีผู้ชายคนหนึ่งมีแม่เป็นชาวอิสราเอลแต่พ่อเป็นชาวอียิปต์+ ผู้ชายคนนี้ทะเลาะวิวาทกับผู้ชายชาวอิสราเอลคนหนึ่งในค่ายพัก 11 ผู้ชายที่มีแม่เป็นชาวอิสราเอลนั้นได้พูดดูหมิ่นชื่อพระเจ้า*และแช่งด่า+พระองค์ พวกเขาจึงพาผู้ชายคนนั้นมาหาโมเสส+ แม่ของเขาชื่อเชโลมิท เป็นลูกสาวของดิบรีจากตระกูลดาน 12 พวกเขาคุมตัวผู้ชายคนนั้นไว้เพื่อรอดูว่าพระยะโฮวาจะสั่งให้จัดการอย่างไร+
13 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสว่า 14 “ให้เอาคนที่แช่งด่าชื่อของเราออกไปข้างนอกค่ายพัก แล้วให้ทุกคนที่ได้ยินเขาแช่งด่านั้นเอามือวางบนหัวของเขา และให้ชาวอิสราเอลทุกคนเอาหินขว้างเขาให้ตาย+ 15 และให้เจ้าพูดกับชาวอิสราเอลว่า ‘ใครแช่งด่าพระเจ้า คนนั้นจะต้องถูกลงโทษเพราะความผิดนั้น 16 ดังนั้น คนที่ดูหมิ่นชื่อยะโฮวาจะต้องถูกประหารชีวิต+ ชาวอิสราเอลทุกคนจะเอาหินขว้างเขาให้ตาย คนที่ดูหมิ่นชื่อของพระเจ้าจะต้องถูกประหารชีวิตไม่ว่าจะเป็นคนต่างชาติหรือชาวอิสราเอล
17 “‘ใครฆ่าคน เขาจะต้องถูกประหารชีวิต+ 18 ใครฆ่าสัตว์เลี้ยงของคนอื่น เขาจะต้องเอาสัตว์มาชดใช้ให้คนนั้น เพราะชีวิตแทนชีวิต 19 ใครทำให้คนอื่นบาดเจ็บ เขาต้องเจ็บเหมือนคนนั้น+ 20 คือ กระดูกแทนกระดูก* ตาแทนตา ฟันแทนฟัน เขาทำกับคนอื่นอย่างไร เขาก็ต้องโดนอย่างนั้น+ 21 ใครฆ่าสัตว์ของคนอื่น เขาจะต้องชดใช้+ แต่ถ้าใครฆ่าคน เขาจะต้องถูกประหารชีวิต+
22 “‘พวกเจ้าต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นคนต่างชาติหรือชาวอิสราเอล+ เพราะเราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า’”
23 โมเสสก็ไปบอกชาวอิสราเอล และพวกเขาจึงเอาคนที่แช่งด่าชื่อของพระเจ้าไปข้างนอกค่ายพักแล้วเอาหินขว้างให้ตาย+ ชาวอิสราเอลได้ทำอย่างนั้นตามที่พระยะโฮวาสั่งโมเสส
25 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสบนภูเขาซีนายต่อไปว่า 2 “ให้บอกชาวอิสราเอลอย่างนี้ ‘เมื่อพวกเจ้าเข้าไปในแผ่นดินที่เราจะให้+ พวกเจ้าต้องให้แผ่นดินนั้นได้พักเป็นสะบาโตเพื่อพระยะโฮวา+ 3 ให้หว่านพืชในที่ดินของเจ้า ตัดแต่งสวนองุ่นของเจ้า แล้วเก็บเกี่ยวพืชผลจากแผ่นดินเป็นเวลา 6 ปี+ 4 แต่ในปีที่ 7 ต้องพักที่ดินไว้ให้เป็นสะบาโตเพื่อพระยะโฮวา อย่าหว่านพืชในที่ดินหรือตัดแต่งสวนองุ่นเลย 5 อย่าเก็บเกี่ยวพืชผลที่งอกขึ้นเองจากเมล็ดที่หล่นระหว่างการเก็บเกี่ยวก่อนหน้านี้ และอย่าเก็บผลองุ่นจากเถาองุ่นที่ไม่ได้ตัดแต่ง เพราะเป็นปีที่พวกเจ้าต้องให้แผ่นดินได้พัก 6 แต่พืชผลที่เกิดจากแผ่นดินระหว่างช่วงพักนี้พวกเจ้าจะกินได้ ทั้งตัวเจ้าเอง ทาสผู้ชายทาสผู้หญิง ลูกจ้าง และคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินของเจ้า 7 รวมทั้งสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่าที่อยู่ในแผ่นดินของเจ้าด้วย พืชผลทั้งหมดที่เกิดจากแผ่นดินสามารถกินได้
8 “‘และเจ้าต้องนับไป 7 ปีสะบาโต คือนับไป 7 ปี 7 ครั้ง รวมแล้วจะได้ 49 ปี 9 และในวันที่ 10 เดือน 7 ซึ่งเป็นวันไถ่บาป+ ให้เจ้าเป่าแตรดัง ๆ พวกเจ้าต้องเป่าแตรให้ได้ยินกันทั่วทั้งแผ่นดิน 10 ปีที่ 50 จะเป็นปีที่พระเจ้าถือว่าบริสุทธิ์ พวกเจ้าต้องประกาศอิสรภาพให้ทุกคนที่อยู่ในแผ่นดิน+ ปีนั้นจะเป็นปีที่น่ายินดี แต่ละคนจะกลับไปอยู่ที่ของตัวเองและอยู่กับครอบครัวของตัวเอง+ 11 ปีที่ 50 จะเป็นปีที่พวกเจ้าจะมีความยินดีอย่างมาก อย่าหว่านหรือเก็บเกี่ยวพืชผลซึ่งงอกขึ้นเองจากเมล็ดที่หล่น หรือเก็บผลองุ่นจากเถาองุ่นที่ไม่ได้ตัดแต่งนั้น+ 12 เพราะเป็นปีที่น่ายินดี เป็นปีที่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า พวกเจ้าจะกินแต่พืชผลที่งอกขึ้นเองจากแผ่นดิน+
13 “‘ในปีที่น่ายินดีนี้ ให้แต่ละคนกลับไปที่ของตัวเอง+ 14 ถ้าพวกเจ้าจะซื้อขายอะไรกับคนอื่น อย่าเอารัดเอาเปรียบกัน+ 15 ถ้าจะซื้อที่ดินจากใคร ก็ให้นับดูว่าผ่านปีที่น่ายินดีมากี่ปีแล้ว และให้เขาขายที่ดินให้เจ้าในราคาตามจำนวนปีที่เหลือซึ่งจะเก็บเกี่ยวพืชผลได้+ 16 ถ้าจำนวนปียังเหลืออีกมาก ราคาที่ขายก็จะสูง แต่ถ้าจำนวนปีเหลือน้อย ราคาก็จะต่ำ เพราะราคาที่เขาขายให้เจ้านั้นอาศัยจำนวนพืชผลที่จะเก็บเกี่ยวได้ในแต่ละปี 17 อย่าเอารัดเอาเปรียบคนอื่น+ ให้เกรงกลัวพระเจ้า+ เพราะเราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า+ 18 ให้ทำตามข้อกำหนดของเรา และรักษาข้อกฎหมายของเรา แล้วพวกเจ้าจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นด้วยความปลอดภัย+ 19 แผ่นดินจะให้พืชผลกับเจ้า+ พวกเจ้าจะได้กินอย่างอิ่มหนำและอยู่ในแผ่นดินนั้นด้วยความปลอดภัย+
20 “‘แต่ถ้าพวกเจ้าสงสัยว่า “แล้วเราจะเอาอะไรกินในปีที่ 7 เพราะเราไม่ได้หว่านหรือเก็บเกี่ยวพืชผลเลย?”+ 21 อย่าห่วงเรื่องนั้น เราจะอวยพรพวกเจ้าในปีที่ 6 และแผ่นดินจะให้พืชผลพอสำหรับ 3 ปี+ 22 พวกเจ้าจะหว่านพืชในปีที่ 8 และกินพืชผลเก่าไปจนถึงปีที่ 9 พวกเจ้าจะกินพืชผลเก่าจนกว่าจะเก็บเกี่ยวพืชผลใหม่
23 “‘ที่ดินจะขายขาดไม่ได้เลย+ เพราะแผ่นดินนั้นเป็นของเรา+ และสำหรับเราแล้ว พวกเจ้าก็เป็นคนต่างชาติและคนที่ย้ายมาอาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้+ 24 ที่ดินทั้งหมดบนแผ่นดินที่เจ้าจะเป็นเจ้าของนั้น ให้คนที่ขายมีสิทธิ์มาไถ่คืนได้
25 “‘ถ้าพี่น้องของเจ้ายากจนถึงขั้นต้องขายที่ดิน ให้ญาติใกล้ชิดของเขามาไถ่ที่ดินที่ขายไปนั้นคืนได้+ 26 แต่ถ้าไม่มีใครมาไถ่ แล้วเขาเกิดร่ำรวยขึ้นและหาเงินมาไถ่เองได้ 27 ก็ให้เขาคำนวณมูลค่าของพืชผลตั้งแต่ปีที่ขายที่ดินไป และเอาไปหักออกจากราคาขาย แล้วจ่ายส่วนต่างนี้ จากนั้น ที่ดินนั้นก็จะกลับมาเป็นของเขา+
28 “‘แต่ถ้าเขาหาเงินมาไม่พอที่จะไถ่คืน ที่ดินที่เขาขายไปนั้นก็จะเป็นของผู้ซื้อต่อไปจนกว่าจะถึงปีที่น่ายินดี+ ที่ดินจะกลับมาเป็นของเขาในปีที่น่ายินดี และเขาจะกลับไปที่ของตัวเอง+
29 “‘ถ้าใครขายบ้านซึ่งอยู่ในเมืองที่มีกำแพง เขามีสิทธิ์ไถ่บ้านนั้นคืนภายใน 1 ปีหลังจากที่ขาย เขามีสิทธิ์จะไถ่+บ้านคืนตลอดระยะเวลา 1 ปี 30 แต่ถ้าครบ 1 ปีแล้วเขาไม่ไถ่คืน บ้านซึ่งอยู่ในเมืองที่มีกำแพงนั้นจะตกเป็นสมบัติของผู้ซื้อไปตลอดทุกยุคทุกสมัย บ้านนั้นจะไม่กลับมาเป็นของเจ้าของเดิมถึงแม้จะเป็นปีที่น่ายินดี 31 แต่บ้านซึ่งอยู่ในหมู่บ้านที่ไม่มีกำแพงจะเป็นเหมือนที่ดินทั่วไป ผู้ขายมีสิทธิ์ไถ่คืนได้ตลอด และในปีที่น่ายินดี บ้านนั้นจะกลับมาเป็นของเจ้าของเดิม
32 “‘สำหรับบ้านของคนในตระกูลเลวีที่อยู่ตามเมืองต่าง ๆ ของพวกเขานั้น+ พวกเขามีสิทธิ์ไถ่คืนได้ตลอด 33 ถ้าคนในตระกูลเลวีขายบ้านในเมืองที่เขาได้รับเป็นกรรมสิทธิ์ แล้วไม่ไถ่คืน บ้านนั้นจะกลับมาเป็นของเขาในปีที่น่ายินดี+ เพราะบ้านในเมืองของคนเลวีเป็นสมบัติที่พวกเขาได้รับในแผ่นดินของชาวอิสราเอล+ 34 แต่ทุ่งหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์+ที่อยู่รอบ ๆ เมืองของพวกเขาจะขายไม่ได้ เพราะเป็นสมบัติของพวกเขาตลอดไป
35 “‘ถ้าพี่น้องที่อยู่กับพวกเจ้ายากจนลงและหาเลี้ยงตัวเองไม่ได้ เจ้าต้องช่วยเหลือเขา+เหมือนกับที่ช่วยเหลือคนต่างชาติและคนที่ย้ายมาอาศัยอยู่ในแผ่นดินของเจ้า+ เพื่อเขาจะอยู่กับพวกเจ้าได้ต่อไป 36 อย่าคิดดอกเบี้ยหรือเอากำไรจากเขา*+ พวกเจ้าต้องเกรงกลัวพระเจ้า+ แล้วพี่น้องของเจ้าจะอยู่กับพวกเจ้าได้ต่อไป 37 อย่าคิดดอกเบี้ยเมื่อให้เขายืมเงิน+ หรือให้อาหารโดยหวังผลประโยชน์ 38 เราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า ผู้ที่พาเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์+ เพื่อจะยกแผ่นดินคานาอันให้พวกเจ้าและเพื่อเป็นพระเจ้าของพวกเจ้า+
39 “‘ถ้าพี่น้องที่อยู่กับพวกเจ้ายากจนถึงขั้นต้องขายตัวเอง+ เจ้าอย่าบังคับเขาให้ทำงานเหมือนทาส+ 40 ให้ปฏิบัติกับเขาเหมือนเป็นลูกจ้าง+ เหมือนเป็นคนที่ย้ายมาอาศัยอยู่ในแผ่นดินของเจ้า เขาจะทำงานให้เจ้าจนถึงปีที่น่ายินดี 41 แล้วเขากับลูก ๆ ก็จะกลับไปหาญาติพี่น้อง กลับไปอยู่ในที่ดินของบรรพบุรุษของเขา+ 42 เพราะพวกเขาเป็นทาสของเราซึ่งเราได้พาออกมาจากอียิปต์+ พวกเขาต้องไม่ขายตัวเองเป็นทาส 43 อย่าข่มเหงเขา+ พวกเจ้าต้องเกรงกลัวพระเจ้า+ 44 ทาสผู้ชายทาสผู้หญิงของเจ้าจะต้องเป็นคนจากชนชาติอื่น ๆ ที่อยู่ล้อมรอบพวกเจ้า เจ้าซื้อคนพวกนั้นมาเป็นทาสได้ 45 คนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินของพวกเจ้า+ รวมทั้งครอบครัวของพวกเขาที่เกิดในแผ่นดินของพวกเจ้า เจ้าก็ซื้อพวกเขามาเป็นทาสได้ แล้วพวกเขาจะเป็นสมบัติของเจ้า 46 เจ้าจะยกพวกเขาให้ลูกหลานของเจ้าเป็นมรดกและเป็นสมบัติของเขาตลอดไปก็ได้ เจ้าใช้พวกเขาทำงานเป็นทาสได้ แต่สำหรับพี่น้องของเจ้าที่เป็นชาวอิสราเอลนั้น อย่ากดขี่ข่มเหงพวกเขา+
47 “‘แต่ถ้าคนต่างชาติหรือคนที่ย้ายมาอาศัยอยู่ในแผ่นดินของเจ้าร่ำรวยขึ้น และพี่น้องของเจ้ายากจนถึงขั้นต้องขายตัวเองให้พวกเขา หรือขายให้คนในครอบครัวของเขา 48 หลังจากที่ขายตัวเองแล้วเขาก็ยังมีสิทธิ์ได้รับการไถ่คืน พี่น้องของเขาจะไถ่ตัวเขาคืนมาได้+ 49 ลุง อา ลูกชายของลุง ลูกชายของอา หรือญาติใกล้ชิด* ซึ่งอยู่ในวงศ์ตระกูลของเขาก็ไถ่เขาได้
“‘หรือถ้าเขาเองเกิดร่ำรวยขึ้นมา เขาก็ไถ่ตัวเองได้ด้วย+ 50 ให้เขากับคนที่ซื้อตัวเขามานับจำนวนปีจากปีที่เขาขายตัวเองจนถึงปีที่น่ายินดี+ ซึ่งราคาที่เขาขายตัวเองไปจะเป็นไปตามจำนวนปีนั้น+ และในช่วงเวลาที่เขาทำงานให้นั้นต้องคิดในอัตราเดียวกับลูกจ้าง+ 51 ถ้ายังเหลืออีกหลายปีกว่าจะถึงปีที่น่ายินดี ก็ให้เขาจ่ายค่าไถ่ตัวตามจำนวนปีที่เหลือ 52 ถ้าอีกไม่กี่ปีจะถึงปีที่น่ายินดี เขาก็ต้องนับจำนวนปีที่เหลือแล้วจ่ายค่าไถ่ตัวตามนั้นเหมือนกัน 53 ทุกปีที่เขาทำงานให้นั้น เขาต้องได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นลูกจ้าง เจ้าต้องคอยดูแลอย่าให้เขาถูกข่มเหง+ 54 แต่ถ้าเขาไม่สามารถไถ่ตัวเองตามที่ว่ามานี้ เขากับลูก ๆ จะได้รับอิสรภาพในปีที่น่ายินดี+
55 “‘เพราะชาวอิสราเอลเป็นทาสของเรา พวกเขาเป็นทาสของเราซึ่งเราได้พาออกมาจากอียิปต์+ เราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า
26 “‘อย่าทำรูปเคารพที่ไร้ค่า+ หรือตั้งรูปแกะสลัก+ หรือแท่งหินศักดิ์สิทธิ์ไว้กราบไหว้บูชา และอย่าตั้งรูปสลักหิน+ในแผ่นดินของเจ้าไว้ก้มกราบ+ เราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า 2 ต้องทำตามคำสั่งเรื่องสะบาโตของเรา และเคารพนับถือที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรา เราคือยะโฮวา
3 “‘ถ้าพวกเจ้าทำตามข้อกำหนดของเราและรักษาข้อบัญญัติของเราอยู่เสมอ+ 4 เราจะให้มีฝนตกตามฤดูกาล+ แผ่นดินจะให้พืชผล+ และต้นไม้ต่าง ๆ จะเกิดดอกออกผล 5 พวกเจ้านวดข้าวยังไม่ทันเสร็จก็จะถึงฤดูเก็บผลองุ่น และเก็บผลองุ่นยังไม่ทันเสร็จก็จะถึงฤดูหว่าน พวกเจ้าจะได้กินอาหารจนอิ่ม และจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินอย่างปลอดภัย+ 6 เราจะให้แผ่นดินของเจ้ามีความสงบสุข+ ตอนที่เจ้านอนจะไม่มีใครมาทำให้กลัว+ เราจะทำให้สัตว์ป่าที่ดุร้ายหายไปจากแผ่นดินของเจ้า และจะไม่มีใครถือดาบมาต่อสู้พวกเจ้า 7 พวกเจ้าจะไล่ศัตรู และฆ่าพวกเขาล้มตายด้วยคมดาบ 8 พวกเจ้า 5 คนจะไล่ศัตรู 100 คน และพวกเจ้า 100 คนจะไล่ศัตรู 10,000 คน พวกเจ้าจะฆ่าศัตรูให้ล้มตายด้วยคมดาบ+
9 “‘เราจะอวยพรเจ้า จะให้พวกเจ้ามีลูกหลานมากมายและเพิ่มจำนวนขึ้น+ เราจะรักษาสัญญาที่ทำไว้กับพวกเจ้า+ 10 ตอนที่พวกเจ้ากินพืชผลของปีที่ผ่านมายังไม่ทันหมด ก็ต้องเอาออกไปทิ้งเพื่อจะมีที่สำหรับเก็บพืชผลใหม่ 11 เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ของเราจะอยู่กับพวกเจ้าเสมอ+ เราจะไม่ทอดทิ้งเจ้า 12 เราจะอยู่กับพวกเจ้า เป็นพระเจ้าของเจ้า+ และพวกเจ้าจะเป็นประชาชนของเรา+ 13 เราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า ผู้ที่พาเจ้าออกมาจากอียิปต์ให้พ้นจากการเป็นทาส และเราหักแอกให้พวกเจ้าเพื่อเจ้าจะได้เดินอย่างสง่าผ่าเผย
14 “‘แต่ถ้าพวกเจ้าไม่ฟังเรา หรือไม่ทำตามข้อบัญญัติทั้งหมดนี้+ 15 ถ้าพวกเจ้าไม่ทำตามข้อกำหนดของเรา+ และเกลียดข้อกฎหมายของเรา ไม่ทำตามข้อบัญญัติทั้งหมดที่เราให้ไว้ และละเมิดสัญญาของเรา+ 16 เราจะทำอย่างนี้ คือ เราจะลงโทษพวกเจ้าให้มีความทุกข์ ให้เป็นวัณโรคและมีไข้สูง ซึ่งจะทำให้สายตาของเจ้าฝ้าฟางไป และทำให้ร่างกายซูบผอม เจ้าจะหว่านพืชเสียแรงเปล่าเพราะศัตรูจะเอาไปกินหมด+ 17 เราจะเป็นศัตรูกับเจ้า พวกเจ้าจะพ่ายแพ้ศัตรู+และคนที่เกลียดชังจะมาเหยียบย่ำพวกเจ้า+ พวกเจ้าจะต้องหนีทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครไล่ตาม+
18 “‘ถ้าพวกเจ้าเจอกับเรื่องแบบนี้แล้วยังไม่ฟังเรา เราจะลงโทษให้หนักขึ้นอีก 7 เท่าเพราะบาปที่เจ้าทำนั้น 19 เราจะจัดการกับความหยิ่งจองหองของพวกเจ้า เราจะปิดท้องฟ้าไม่ให้ฝนตก*+ และทำให้แผ่นดินไม่เกิดพืชผล* 20 สิ่งที่พวกเจ้าลงมือลงแรงทำไปจะไร้ประโยชน์ เพราะแผ่นดินจะไม่ให้พืชผล+ และต้นไม้ต่าง ๆ ก็จะไม่เกิดดอกออกผล
21 “‘ถ้าพวกเจ้ายังทำตัวเป็นศัตรูกับเรา และไม่ฟังเรา เราจะลงโทษให้หนักขึ้นอีก 7 เท่าเพราะบาปที่เจ้าทำนั้น 22 เราจะให้สัตว์ป่ามาเล่นงานพวกเจ้า+ มันจะฆ่าลูก ๆ+และสัตว์เลี้ยงของเจ้า ทำให้พวกเจ้ามีจำนวนน้อยลง ถนนหนทางก็จะร้างเปล่า+
23 “‘ถ้าพวกเจ้าเจอกับเรื่องแบบนี้แล้วยังไม่ยอมปรับปรุงตัว+ แต่ทำตัวเป็นศัตรูกับเราต่อไป 24 เราก็จะเป็นศัตรูกับพวกเจ้า เราจะลงโทษให้หนักขึ้นอีก 7 เท่าเพราะบาปที่เจ้าทำนั้น 25 เราจะให้ศัตรูฆ่าฟันลงโทษเจ้าเพราะเจ้าละเมิดสัญญาของเรา+ ถ้าเจ้าหนีเข้าไปในเมืองของเจ้า เราจะทำให้มีโรคระบาดเกิดขึ้น+ และพวกเจ้าจะต้องตกอยู่ในมือของศัตรู+ 26 เมื่อเราทำลายเสบียงอาหาร*+ของพวกเจ้า ผู้หญิง 10 คนจะอบขนมปังในเตาเดียวกันแล้วเอาไปชั่งแบ่งกัน+ พวกเจ้าจะได้กินแต่ไม่อิ่ม+
27 “‘ถ้าพวกเจ้าเจอกับเรื่องแบบนี้แล้วยังไม่ฟัง แต่ยังทำตัวเป็นศัตรูกับเรา 28 เราจะจัดการให้หนักกว่านี้อีก+ จะลงโทษให้หนักขึ้นอีก 7 เท่าเพราะบาปของเจ้านั้น 29 พวกเจ้าจะต้องถึงขั้นกินเนื้อลูกชายกับลูกสาวของตัวเอง+ 30 เราจะทำลายสถานบูชาบนที่สูง+ และโค่นแท่นเผาเครื่องหอมของเจ้า เราจะเอาซากศพของพวกเจ้าไปกองบนซากรูปเคารพที่น่าขยะแขยง*+ เราจะเมินหน้าหนีพวกเจ้าด้วยความรังเกียจ+ 31 เราจะปล่อยให้เมืองของเจ้าถูกทำลาย+และจะทำให้ที่ศักดิ์สิทธิ์ร้างเปล่า เราจะไม่ดมกลิ่นหอมที่ทำให้เราพอใจจากเครื่องบูชาของพวกเจ้า 32 เราจะทำให้แผ่นดินนี้ร้างเปล่า+ แล้วศัตรูที่จะเข้ามาอาศัยอยู่จะตกตะลึงเมื่อได้เห็น+ 33 และเราจะทำให้พวกเจ้ากระจัดกระจายไปอยู่ในชาติต่าง ๆ+ เราจะทำให้พวกศัตรูมาต่อสู้เจ้าด้วยดาบ+ แผ่นดินของพวกเจ้าจะร้างเปล่า+และเมืองต่าง ๆ จะเป็นซากปรักหักพัง
34 “‘ในตอนนั้น แผ่นดินจะได้พักชดเชยตลอดเวลาที่ร้างเปล่าอยู่ คือช่วงที่พวกเจ้าอยู่ในดินแดนของพวกศัตรู แผ่นดินจะได้พักเป็นสะบาโตเพื่อชดเชย+ 35 ตลอดเวลาที่แผ่นดินร้างเปล่าอยู่ แผ่นดินจะได้พัก เพราะตอนที่พวกเจ้าอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น แผ่นดินไม่ได้พักในเวลาที่ควรจะได้พักเป็นสะบาโต
36 “‘ส่วนพวกที่ยังเหลือรอด+อยู่ในดินแดนของศัตรู เราจะทำให้ใจของพวกเขาห่อเหี่ยว เสียงของใบไม้ไหวก็จะทำให้พวกเขาหนีไป พวกเขาจะหนีเหมือนมีคนถือดาบมาไล่ฆ่าและล้มลงทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครไล่ตาม+ 37 พวกเขาจะวิ่งชนกันและล้มทับกันเหมือนคนที่วิ่งหนีเพราะถูกไล่ฟันทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครไล่ตาม และพวกเจ้าจะต้านทานศัตรูไม่ได้เลย+ 38 พวกเจ้าจะพินาศขณะที่กระจัดกระจายอยู่ในชาติต่าง ๆ+ และจะถูกกลืนหายไปในดินแดนของพวกศัตรู 39 พวกที่ยังเหลือรอดอยู่จะต้องตายในดินแดนของพวกศัตรู+ เพราะความผิดของตัวเองและความผิดของบรรพบุรุษ+ 40 แล้วพวกเขาจะสารภาพความผิดของตัวเอง+ ความผิดและความไม่ซื่อสัตย์ของบรรพบุรุษ พวกเขาจะยอมรับว่าไม่ซื่อสัตย์และทำตัวเป็นศัตรูกับเรา+ 41 ซึ่งทำให้เราต้องเป็นศัตรูกับพวกเขา+ และพาพวกเขาเข้าไปในดินแดนของพวกศัตรู+
“‘ในตอนนั้นหัวใจที่แข็งกระด้างของพวกเขาอาจจะถ่อมลง+ พวกเขาจะชดใช้ความผิดที่ทำไป 42 แล้วเราจะระลึกถึงสัญญาที่ทำไว้กับยาโคบ+ สัญญาที่ทำไว้กับอิสอัค+ และสัญญาที่ทำไว้กับอับราฮัม+ และเราจะระลึกถึงแผ่นดินนั้น 43 ตอนที่แผ่นดินถูกปล่อยทิ้งไว้ แผ่นดินนั้นก็จะได้พักชดเชย+ตลอดเวลาที่ร้างเปล่าไม่มีคนอาศัยอยู่ และพวกเขาจะชดใช้ความผิดที่ได้ทำไปเพราะไม่ทำตามข้อกฎหมายของเรา และเกลียดชังข้อกำหนดของเรา+ 44 แต่ถึงอย่างนั้น ตอนที่พวกเขายังอยู่ในดินแดนของศัตรู เราจะไม่ทิ้ง+หรือเกลียดพวกเขาจนถึงขั้นปล่อยให้ถูกทำลายจนหมด ซึ่งเป็นการละเมิดสัญญาที่เราทำไว้กับพวกเขา+ เราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเขา 45 แต่เพราะเห็นแก่พวกเขา เราจะระลึกถึงสัญญาที่ทำไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา+ ซึ่งเราได้พาออกมาจากอียิปต์ต่อหน้าชาติต่าง ๆ+ เพื่อจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา เราคือยะโฮวา’”
46 นี่คือข้อกำหนด ข้อกฎหมาย และข้อบัญญัติที่พระยะโฮวาให้ชาวอิสราเอลที่ภูเขาซีนายผ่านทางโมเสส+
27 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสต่อไปว่า 2 “ให้บอกชาวอิสราเอลอย่างนี้ ‘ถ้าใครปฏิญาณเป็นพิเศษ+ว่าจะถวายใครคนหนึ่งให้พระยะโฮวา ก็ให้เขาถวายเงินตามมูลค่าที่กำหนดไว้สำหรับคนนั้นแทนได้ 3 มูลค่าที่กำหนดไว้สำหรับผู้ชายอายุตั้งแต่ 20 ปีถึง 60 ปี คือ เงินหนัก 50 เชเขล*ตามเชเขลมาตรฐานของสถานบริสุทธิ์ 4 ส่วนมูลค่าที่กำหนดไว้สำหรับผู้หญิง คือ เงินหนัก 30 เชเขล* 5 มูลค่าที่กำหนดไว้สำหรับผู้ชายอายุ 5 ขวบถึง 20 ปี คือ เงินหนัก 20 เชเขล* และสำหรับผู้หญิง คือ เงินหนัก 10 เชเขล* 6 มูลค่าที่กำหนดไว้สำหรับเด็กผู้ชายอายุ 1 เดือนถึง 5 ขวบ คือ เงินหนัก 5 เชเขล* และสำหรับเด็กผู้หญิง คือ เงินหนัก 3 เชเขล*
7 “‘ส่วนมูลค่าที่กำหนดไว้สำหรับผู้ชายอายุ 60 ปีขึ้นไป คือ เงินหนัก 15 เชเขล* สำหรับผู้หญิง คือ เงินหนัก 10 เชเขล* 8 แต่ถ้าคนที่ปฏิญาณไว้นั้นยากจนและไม่สามารถจ่ายตามมูลค่าที่กำหนดไว้ได้+ ก็ให้เขาพาคนที่จะถวายไปยืนต่อหน้าปุโรหิต และให้ปุโรหิตประเมินค่าตัวคนนั้น ปุโรหิตจะต้องประเมินค่าตัวคนนั้นตามที่คนปฏิญาณจะให้ได้+
9 “‘ถ้าเขาปฏิญาณว่าจะถวายสัตว์ซึ่งสามารถนำมาเป็นเครื่องบูชาให้พระยะโฮวาได้ สัตว์ตัวที่ถวายพระยะโฮวานั้นจะกลายเป็นสิ่งบริสุทธิ์ 10 เขาจะถวายตัวอื่นแทนไม่ได้ เขาจะเปลี่ยนจากตัวที่ดีเป็นตัวที่ไม่ดี หรือตัวที่ไม่ดีเป็นตัวที่ดีก็ไม่ได้ ถ้าเขาเปลี่ยน ทั้งสัตว์ตัวนั้นและสัตว์ตัวที่นำมาเปลี่ยนจะกลายเป็นสิ่งบริสุทธิ์ 11 ถ้าเป็นสัตว์ชนิดที่ไม่สะอาด+ ซึ่งไม่สามารถนำมาถวายเป็นเครื่องบูชาให้พระยะโฮวาได้ ให้เขานำสัตว์นั้นมาอยู่ต่อหน้าปุโรหิต 12 และให้ปุโรหิตเป็นคนกำหนดราคาซึ่งขึ้นอยู่กับสัตว์นั้นว่าดีหรือไม่ดี สัตว์นั้นจะมีราคาตามที่ปุโรหิตกำหนด 13 แต่ถ้าเขาเกิดต้องการไถ่สัตว์นั้นคืน เขาต้องจ่ายเพิ่มอีก 1 ใน 5 ของราคาที่กำหนดไว้+
14 “‘ถ้าใครจะถวายบ้านของตัวเองเป็นสิ่งบริสุทธิ์ให้พระยะโฮวา ให้ปุโรหิตเป็นคนตีราคาซึ่งขึ้นอยู่กับบ้านนั้นว่าดีหรือไม่ดี บ้านนั้นจะมีราคาตามที่ปุโรหิตกำหนด+ 15 แต่ถ้าคนถวายต้องการไถ่บ้านนั้นคืน เขาจะต้องจ่ายเพิ่มอีก 1 ใน 5 ของราคาที่กำหนดไว้ จึงจะได้บ้านนั้นคืน
16 “‘ถ้าใครถวายที่นาของตัวเองส่วนหนึ่งให้พระยะโฮวา ให้กำหนดราคาที่นาตามปริมาณของเมล็ดพืชที่ใช้หว่านในที่นานั้น คือ ถ้าที่นานั้นต้องใช้เมล็ดข้าว 1 โฮเมอร์*ในการหว่าน ราคาที่นาก็จะเท่ากับเงินหนัก 50 เชเขล* 17 ถ้าเขาถวายที่นาในปีถัดจากปีที่น่ายินดี+ ราคาที่นาก็จะเป็นไปตามนี้ 18 แต่ถ้าเขาถวายที่นาหลังจากผ่านปีที่น่ายินดีมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ให้ปุโรหิตคำนวณราคาให้เขาโดยอาศัยจำนวนปีที่เหลือก่อนจะถึงปีที่น่ายินดีครั้งถัดไป ดังนั้น ราคาจะลดลงจากที่กำหนดไว้+ 19 แต่ถ้าคนถวายต้องการไถ่ที่นาคืน เขาจะต้องจ่ายเพิ่มอีก 1 ใน 5 ของราคาที่กำหนดไว้ แล้วที่นานั้นจะกลับเป็นของเขาอีก 20 ถ้าเขาไม่ไถ่คืน และที่นานั้นถูกขายให้คนอื่นไปแล้ว เขาจะไถ่คืนอีกไม่ได้ 21 และเมื่อถึงปีที่น่ายินดี ที่นานั้นจะกลายเป็นสิ่งบริสุทธิ์สำหรับพระยะโฮวา เป็นที่นาซึ่งถวายให้พระองค์ตลอดไป ที่นานั้นจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของปุโรหิต+
22 “‘ถ้าใครจะถวายที่นาซึ่งเขาซื้อมาเองให้พระยะโฮวา คือที่นาซึ่งไม่ใช่สมบัติประจำตระกูลของเขา+ 23 ก็ให้ปุโรหิตตีราคาที่นาให้เขาโดยอาศัยจำนวนปีก่อนจะถึงปีที่น่ายินดี แล้วให้เขาจ่ายตามราคาที่กำหนดให้นี้ในวันนั้น+ นี่เป็นสิ่งบริสุทธิ์สำหรับพระยะโฮวา 24 พอถึงปีที่น่ายินดี ที่นานั้นจะกลับไปเป็นของคนที่ขายให้เขา คือคนที่เป็นเจ้าของที่ดินผืนนั้น+
25 “‘มูลค่าทุกอย่างต้องกำหนดตามเชเขลมาตรฐานของสถานบริสุทธิ์ 1 เชเขลเท่ากับ 20 เกราห์*
26 “‘อย่าให้ใครปฏิญาณว่าจะถวายลูกสัตว์ตัวแรกที่เกิดมาให้พระยะโฮวา+ ไม่ว่าจะเป็นวัว แกะ หรือแพะ เพราะลูกสัตว์ตัวแรกที่เกิดมานี้เป็นของพระยะโฮวา และต้องถวายให้พระองค์อยู่แล้ว+ 27 ถ้าเป็นลูกตัวแรกของสัตว์ชนิดที่ไม่สะอาด เขาอาจไถ่คืนได้ตามราคาที่กำหนดไว้และต้องเพิ่มให้อีก 1 ใน 5 ของราคานั้น+ แต่ถ้าไม่มีการไถ่คืน ให้ปุโรหิตขายสัตว์นั้นตามราคาที่กำหนดไว้
28 “‘แต่ถ้าใครถวายคน สัตว์ หรือที่นาของตัวเองให้พระยะโฮวาอย่างไม่มีเงื่อนไข เขาจะขายหรือไถ่คน สัตว์ หรือที่นานั้นคืนไม่ได้ ทุกสิ่งที่ถวายแล้วจะเป็นสิ่งบริสุทธิ์ยิ่งสำหรับพระยะโฮวา+ 29 คนที่ถูกตัดสินลงโทษแล้ว คือคนที่ถูกแยกไว้สำหรับการทำลายก็ไถ่ไม่ได้ด้วย+ เขาต้องถูกประหารชีวิต+
30 “‘ส่วน 1 ใน 10 ของผลผลิตทุกอย่าง+ที่ได้จากแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นพืชผลจากไร่นา หรือผลไม้ที่ได้จากต้นเป็นของพระยะโฮวา เป็นสิ่งบริสุทธิ์สำหรับพระยะโฮวา 31 ถ้าใครต้องการไถ่ส่วน 1 ใน 10 นี้คืน เขาจะต้องจ่ายเพิ่มอีก 1 ใน 5 ของราคาของนั้น 32 ส่วน 1 ใน 10 ของฝูงวัว ฝูงแกะ และฝูงแพะ คือทุก ๆ ตัวที่ 10 ที่ผ่านใต้ไม้เท้าของคนเลี้ยงไปจะเป็นสิ่งบริสุทธิ์สำหรับพระยะโฮวา 33 อย่าให้เขาตรวจดูสัตว์นั้นว่าดีหรือไม่ดีและอย่าเปลี่ยนเป็นตัวอื่น ถ้าเขาพยายามจะเปลี่ยน ทั้งสัตว์ตัวนั้นและตัวที่นำมาเปลี่ยนจะเป็นสิ่งบริสุทธิ์+ จะไถ่คืนไม่ได้’”
34 นี่คือข้อบัญญัติสำหรับชาวอิสราเอลที่พระยะโฮวาให้กับโมเสสบนภูเขาซีนาย+
หรือ “ทำให้มีการคืนดี” แปลตรงตัวว่า “ปิดคลุมบาป”
หรือ “มันที่หุ้มไต”
หมายถึงขาท่อนล่าง
หรือ “มันที่หุ้มไต”
“กระเพาะ” ในที่นี้หมายถึงกระเพาะพักซึ่งอยู่ที่คอนก
หรือ “ขี้เถ้าที่ชุ่มด้วยมัน” คือ ขี้เถ้าที่ชุ่มด้วยมันของสัตว์ที่ถวายเป็นเครื่องบูชา
หรือ “เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องบูชาที่จะทำให้พระเจ้าคิดถึงของถวายทั้งหมด”
หรือ “เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องบูชาที่จะทำให้พระเจ้าคิดถึงของถวายทั้งหมด”
คือ แป้งทำขนมปังที่ใส่เชื้อแล้ว ซึ่งแบ่งเก็บไว้เพื่อนำไปผสมกับแป้งก้อนใหม่ให้ขึ้นฟู
ไม่น่าจะเป็นน้ำผึ้งจริง ๆ แต่เป็นน้ำหวานหรือน้ำผลไม้ที่ได้จากผลมะเดื่อ หรือจากผลไม้อื่น ๆ
หรือ “เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องบูชาที่จะทำให้พระเจ้าคิดถึงของถวายทั้งหมด”
หรือ “เครื่องบูชาสร้างสันติสุข”
แปลตรงตัวว่า “ขนมปัง” คือ ส่วนแบ่งของเครื่องบูชาผูกมิตรที่ให้พระเจ้า
แปลตรงตัวว่า “ขนมปัง” คือ ส่วนแบ่งของเครื่องบูชาผูกมิตรที่ให้พระเจ้า
แปลตรงตัวว่า “ที่ที่สะอาด”
หรือ “ขี้เถ้าที่ชุ่มด้วยมัน” คือ ขี้เถ้าที่ชุ่มด้วยมันของสัตว์ที่ถวายเป็นเครื่องบูชา
แปลตรงตัวว่า “ประชาคม”
แปลตรงตัวว่า “พวกผู้ชายสูงอายุ”
แปลตรงตัวว่า “เสียงที่สาปแช่ง (สาบาน)” อาจเป็นคำประกาศเกี่ยวกับการทำผิด ซึ่งมีคำสาปแช่งต่อคนที่ทำผิด และต่อพยานที่รู้เห็นเหตุการณ์แต่ไม่มาให้การ
ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ทำตามที่สาบานไว้
2.2 ลิตร ดูภาคผนวก ข14
หรือ “เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องบูชาที่จะทำให้พระเจ้าคิดถึงของถวายทั้งหมด”
1 เชเขลมีค่าเท่ากับ 11.4 กรัม ดูภาคผนวก ข14
หรือ “กางเกงชั้นใน”
หรือ “ขี้เถ้าที่ชุ่มด้วยมัน” คือ ขี้เถ้าที่ชุ่มด้วยมันของสัตว์ที่ถวายเป็นเครื่องบูชา
แปลตรงตัวว่า “ที่ที่สะอาด”
หรือ “เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องบูชาที่จะทำให้พระเจ้าคิดถึงของถวายทั้งหมด”
2.2 ลิตร ดูภาคผนวก ข14
หรือ “มันที่หุ้มไต”
หรือ “ที่ที่สะอาด”
หรือ “สัตว์บก”
สัตว์คล้ายกระต่าย อาศัยอยู่ตามซอกหิน เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ไฮแรกซ์
คำภาษาฮีบรูที่แปลว่า “โรคเรื้อน” มีความหมายกว้าง อาจหมายรวมถึงโรคติดต่อทางผิวหนังชนิดต่าง ๆ และอาจหมายถึงเชื้อบางชนิดที่เกิดกับเสื้อผ้าและตัวบ้าน
หรือ “ไม่อยู่ในระยะแพร่เชื้อ”
หรือ “หนวด”
แปลตรงตัวว่า “เส้นด้ายแนวตั้งและแนวนอนของผ้า”
6.6 ลิตร ดูภาคผนวก ข14
0.31 ลิตร ดูภาคผนวก ข14
0.31 ลิตร
0.31 ลิตร
2.2 ลิตร
0.31 ลิตร
0.31 ลิตร
หรือ “กางเกงชั้นใน”
อาจแปลว่า “แพะที่หายไป”
แปลตรงตัวว่า “ฝาหีบ”
แปลตรงตัวว่า “ฝาหีบ”
แปลตรงตัวว่า “ฝาหีบ”
“การแสดงความเสียใจ” โดยทั่วไปแล้วเกี่ยวข้องกับการไม่ทำอะไรตามความต้องการของตัวเอง ซึ่งหมายรวมถึงการอดอาหาร
แปลตรงตัวว่า “แพะ”
แปลตรงตัวว่า “คู่แข่ง”
หรือ “เผาถวาย”
แปลตรงตัวว่า “เกรงกลัว”
หรือ “คนที่ตกทุกข์ได้ยาก”
คำนี้ยังอาจหมายถึงการไม่ยอมให้สิ่งที่อีกฝ่ายควรจะได้
หรืออาจแปลได้ว่า “อย่ารอโอกาสฆ่าคนอื่นตอนที่เขาตกอยู่ในอันตราย”
หรือ “เล็ม” “ตัด”
ดูเหมือนเป็นการตัดแต่งเคราแบบคนนอกรีต
แปลตรงตัวว่า “เอฟาห์ที่ถูกต้อง” ดูภาคผนวก ข14
แปลตรงตัวว่า “ฮินที่ถูกต้อง” ดูภาคผนวก ข14
แปลตรงตัวว่า “ทำให้ตัวเองไม่สะอาด”
หรืออาจแปลได้ว่า “คนที่ผอมแห้ง”
แปลตรงตัวว่า “คนแปลกหน้า” คือ คนที่ไม่ได้เป็นเชื้อสายของอาโรน
แปลตรงตัวว่า “คนแปลกหน้า” คือ คนที่ไม่ได้เป็นเชื้อสายของอาโรน
แปลตรงตัวว่า “ระหว่างสองเวลาเย็น” อาจหมายถึงช่วงเวลาหลังดวงอาทิตย์ตกจนถึงช่วงที่เริ่มมืดจริง ๆ
4.4 ลิตร ดูภาคผนวก ข14
0.92 ลิตร ดูภาคผนวก ข14
4.4 ลิตร
หรือ “คนที่ตกทุกข์ได้ยาก”
“การแสดงความเสียใจ” โดยทั่วไปแล้วเกี่ยวข้องกับการไม่ทำอะไรตามความต้องการของตัวเอง ซึ่งหมายรวมถึงการอดอาหาร
หรืออาจแปลได้ว่า “ไม่อดอาหาร”
4.4 ลิตร ดูภาคผนวก ข14
หรือ “เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องบูชาที่จะทำให้พระเจ้าคิดถึงของถวายทั้งหมด”
คือ ชื่อของพระยะโฮวาตามที่บอกไว้ในข้อ 15 และ 16
หรือ “กระดูกหัก”
หรือ “ขูดรีดเขา”
หรือ “สายเลือด”
แปลตรงตัวว่า “เราจะทำให้ท้องฟ้าของเจ้าเป็นเหมือนเหล็ก”
แปลตรงตัวว่า “เราจะทำให้แผ่นดินของเจ้าเป็นเหมือนทองแดง”
แปลตรงตัวว่า “แท่งไม้” อาจหมายถึงแท่งไม้ที่เอาไว้ร้อยขนมปังเก็บไว้
คำนี้ในภาษาฮีบรูอาจเกี่ยวข้องกับคำว่า “มูลสัตว์” และใช้ในเชิงดูถูก
570 กรัม ดูภาคผนวก ข14
342 กรัม
228 กรัม
114 กรัม
57 กรัม
34.2 กรัม
171 กรัม
114 กรัม
220 ลิตร ดูภาคผนวก ข14
570 กรัม
11.4 กรัม ดูภาคผนวก ข14