ปัญญาจารย์
1 ต่อไปนี้เป็นคำกล่าวของผู้รวบรวม*+ซึ่งเป็นลูกชายของดาวิดกษัตริย์แห่งเยรูซาเล็ม+
2 ผู้รวบรวมบอกว่า “ไม่มีประโยชน์อะไรเลย!*
ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด! ทุกอย่างไร้ประโยชน์!”+
3 คนเราได้อะไรจากการทำงานหนัก
และลำบากตรากตรำอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์?+
4 คนรุ่นหนึ่งจากไป คนอีกรุ่นหนึ่งก็เกิดมา
แต่โลกนี้คงอยู่ตลอดไป+
6 ลมพัดไปทางใต้ แล้วก็วนมาทางเหนือ
พัดวนเวียนไปมาอยู่อย่างนั้นรอบแล้วรอบเล่า
7 แม่น้ำลำธาร*ทุกสายไหลลงสู่ทะเล แต่ทะเลก็ไม่เต็ม+
น้ำกลับไปที่เดิม แล้วไหลลงมาอีก+
8 ทุกเรื่องทำให้เหน็ดเหนื่อย และไม่มีใครอธิบายได้
ถึงจะเห็นหรือได้ยินก็ยังไม่จุใจ
9 สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วจะเกิดขึ้นอีก
และสิ่งที่ทำไปแล้วจะมีคนทำอีก
ไม่มีอะไรใหม่ภายใต้ดวงอาทิตย์+
10 มีอะไรไหมที่ทำให้คนเราพูดได้ว่า “ดูสิ นี่คือสิ่งใหม่”?
ทุกอย่างมีมานานแล้ว
และมีอยู่ก่อนสมัยของเราอีก
11 ไม่มีใครนึกถึงคนรุ่นก่อน
ไม่มีใครจดจำคนรุ่นถัดมา
และไม่มีใครคิดถึงคนรุ่นต่อไป+
12 เราเป็นผู้รวบรวม และเป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอลที่ปกครองในกรุงเยรูซาเล็ม+ 13 เราตั้งใจศึกษาและใช้สติปัญญาตรวจสอบงาน+ทุกอย่างที่คนเราทำอยู่ใต้ฟ้า+ คืองานที่ยากลำบากซึ่งพระเจ้าให้มนุษย์ทำอยู่
14 เราได้เห็นงานทุกอย่างที่ทำกันภายใต้ดวงอาทิตย์
ทุกอย่างไร้ประโยชน์และเป็นการวิ่งไล่ตามลม+
15 สิ่งที่คดงอแล้ว จะทำให้ตรงไม่ได้
และสิ่งที่ขาดไป จะนับก็ไม่ได้
16 แล้วเราก็คิดในใจว่า “เรามีสติปัญญามากกว่าทุกคนที่อยู่ก่อนเราในกรุงเยรูซาเล็ม+ เรามีสติปัญญาและความรู้เพิ่มขึ้นมาก”+ 17 เราได้ตั้งใจเรียนรู้เรื่องสติปัญญา รวมทั้งเรื่องบ้า ๆ*กับเรื่องโง่ ๆ ด้วย+ และนี่ก็เป็นการวิ่งไล่ตามลมเหมือนกัน
18 เมื่อมีสติปัญญามากก็ทำให้ทุกข์ใจมาก
และยิ่งรู้มากก็ยิ่งเจ็บปวดมาก+
2 แล้วเราก็คิดในใจว่า “เราจะลองทำอะไรสนุก ๆ บ้าง ดูซิว่าจะมีอะไรดี ๆ ไหม” แต่นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกัน
2 เราพูดถึงการหัวเราะว่า “เป็นเรื่องไร้สติ”
และพูดถึงความสนุกสนานว่า “มีประโยชน์ตรงไหน?”
3 เราตัดสินใจดื่มเหล้าองุ่นให้เต็มที่+ แต่ก็ยังรักษาสติไว้ได้ เราถึงกับยอมทำอะไรโง่ ๆ เพื่อจะรู้ว่าอะไรคือสิ่งดีที่สุดที่คนเราควรทำในช่วงชีวิตอันแสนสั้นใต้ฟ้านี้ 4 เราทำโครงการใหญ่ ๆ หลายอย่าง+ เราสร้างวังให้ตัวเองหลายวัง+และทำสวนองุ่นไว้หลายแห่ง+ 5 เราทำสวนสวย ๆ ของเราเองและปลูกผลไม้หลายชนิดไว้ในสวนเหล่านั้น 6 เราสร้างสระน้ำหลายสระเพื่อส่งน้ำเข้าไปในสวนป่าที่มีต้นไม้งอกงาม 7 เรามีคนรับใช้ชายหญิง+ มีคนรับใช้ที่เกิดในบ้าน และมีฝูงสัตว์ ทั้งฝูงวัวฝูงแกะฝูงแพะ+มากกว่าทุกคนที่เคยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มมาก่อนเรา 8 เราสะสมเงินและทองคำ+ซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของพวกกษัตริย์และแคว้นต่าง ๆ+ เรารวบรวมนักร้องชายหญิงมาให้ความบันเทิงกับเรา และเรามีผู้หญิงมากมายที่ให้ความสำราญกับคนทั้งหลาย 9 เรายิ่งใหญ่กว่าทุกคนที่เคยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มมาก่อนเรา+ และเราก็มีสติปัญญา
10 เราอยากได้*อะไรเราก็หามา+ เราอยากสนุกอย่างไรเราก็ทำ เพราะเรามีความสุขกับการทำงานหนัก และนี่คือรางวัล*ที่เราได้จากการทำงานหนัก+ 11 แต่เมื่อเราคิดถึงทุกสิ่งที่เราทำและงานหนักที่เราบากบั่นทำจนเสร็จ+ เราก็เห็นว่าทุกสิ่งไร้ประโยชน์และเป็นการวิ่งไล่ตามลม+ และไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์ที่มีค่า*จริง ๆ+
12 แล้วเราก็เปลี่ยนไปคิดเรื่องสติปัญญา รวมทั้งเรื่องบ้า ๆ กับเรื่องโง่ ๆ+ (เพราะคนที่มาภายหลังกษัตริย์องค์นี้จะทำอะไรได้อีกหรือ? คงทำได้แค่สิ่งที่ทำมาแล้วเท่านั้น) 13 เราจึงเห็นว่าสติปัญญาดีกว่าความโง่+ เหมือนที่ความสว่างดีกว่าความมืด
14 คนฉลาดมองเห็นทางเดินของตัวเองอย่างชัดเจน+ แต่คนโง่เดินอยู่ในความมืด+ และเราได้เข้าใจด้วยว่าในที่สุดพวกเขาจะต้องพบจุดจบอย่างเดียวกัน+ 15 แล้วเราก็คิดในใจว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนโง่จะเกิดขึ้นกับเราด้วย”+ ถ้าอย่างนั้นเราจะฉลาดมาก ๆ ไปทำไม? เราจึงคิดในใจว่า “นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกัน” 16 เพราะไม่ว่าจะเป็นคนฉลาดหรือคนโง่ก็ไม่มีใครจำพวกเขาได้ตลอดไป+ อีกไม่นานผู้คนจะลืมพวกเขาไปหมด และคนฉลาดก็ต้องตายเหมือนคนโง่นั่นแหละ+
17 เราจึงเกลียดชีวิต+ เพราะเราเห็นว่าทุกสิ่งที่ทำกันภายใต้ดวงอาทิตย์ล้วนน่าสลดใจ ทุกสิ่งไร้ประโยชน์+และเป็นการวิ่งไล่ตามลม+ 18 เราเกลียดทุกสิ่งที่เราบากบั่นทำมาภายใต้ดวงอาทิตย์+ เพราะเราจะต้องทิ้งสิ่งเหล่านั้นไว้ให้คนที่มาทีหลังเรา+ 19 ใครจะรู้ว่าเขาจะฉลาดหรือโง่?+ ถึงอย่างไรเขาก็จะได้ครอบครองทุกสิ่งที่เราหามาด้วยความลำบากและด้วยสติปัญญาภายใต้ดวงอาทิตย์ นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกัน 20 เราจึงท้อใจเมื่อนึกถึงงานหนักทุกอย่างที่เราบากบั่นทำไปภายใต้ดวงอาทิตย์ 21 เพราะถึงคนหนึ่งจะทำงานหนักโดยทุ่มเททั้งสติปัญญา ความรู้ และความชำนาญ แต่เขาก็ต้องยกทุกอย่างให้กับอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้ทำอะไรเลย+ นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกันและน่าเศร้ามาก*
22 คนเราจะได้อะไรถ้าเขาตรากตรำและมีความทะเยอทะยานที่ผลักดันให้เขาทำงานหนักภายใต้ดวงอาทิตย์?+ 23 เพราะงานที่เขาทำมีแต่สร้างความเจ็บปวดและความทุกข์ให้เขาตลอดชีวิต+ แม้แต่กลางคืนก็ยังไม่มีความสงบใจ+ นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกัน
24 สำหรับมนุษย์ไม่มีอะไรจะดีไปกว่ากินและดื่มและมีความสุขที่ได้ทำงานหนัก+ และเราได้เห็นว่าพระเจ้าเที่ยงแท้ให้สิ่งเหล่านี้กับมนุษย์+ 25 เพราะมีใครบ้างได้กินและดื่มของที่ดีกว่าเรา?+
26 พระเจ้าเที่ยงแท้ให้สติปัญญา ความรู้ และความสุขกับคนที่ทำให้พระองค์พอใจ+ แต่พระองค์ให้คนบาปทำงานเพื่อสะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับคนที่ทำให้พระองค์พอใจ+ นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกันและเป็นการวิ่งไล่ตามลม
3 มีเวลาสำหรับทุกสิ่ง
มีเวลาสำหรับทุกอย่างที่อยู่ใต้ฟ้า
2 มีเวลาเกิดและเวลาตาย
เวลาปลูกและเวลาถอนสิ่งที่ปลูกไว้
3 เวลาฆ่าและเวลารักษา
เวลารื้อและเวลาสร้าง
4 เวลาร้องไห้และเวลาหัวเราะ
เวลาคร่ำครวญและเวลาเต้นรำ*
5 เวลาโยนก้อนหินทิ้งและเวลาเก็บก้อนหินมา
เวลาสวมกอดและเวลาที่จะไม่สวมกอด
6 เวลาค้นหาและเวลาเลิกค้นหา
เวลาเก็บและเวลาทิ้ง
7 เวลาฉีกให้ขาด+และเวลาเย็บให้ติดกัน
8 เวลารักและเวลาเกลียด+
เวลาทำสงครามและเวลาสงบศึก
9 คนเราได้อะไรจากงานหนักทุกอย่างของเขา?+ 10 เราได้เห็นงานที่พระเจ้าให้มนุษย์ทำกัน 11 พระองค์ทำให้ทุกสิ่งงดงาม*ตามเวลาของมัน+ พระองค์ใส่ความคิดเรื่องการมีชีวิตตลอดไปไว้ในใจมนุษย์ แต่พวกเขาจะไม่มีวันเข้าใจทั้งหมดว่าพระเจ้าเที่ยงแท้ได้ทำอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ
12 เราสรุปได้ว่า สำหรับมนุษย์ไม่มีอะไรดีไปกว่าการมีความสุขและทำดีเมื่อยังมีชีวิตอยู่+ 13 และทุกคนควรจะได้กินและดื่ม และมีความสุขที่ได้ทำงานหนัก นี่เป็นของขวัญจากพระเจ้า+
14 แล้วเราก็ได้รู้ว่าทุกสิ่งที่พระเจ้าเที่ยงแท้ทำจะคงอยู่ตลอดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มหรือลดอะไรเลย พระเจ้าเที่ยงแท้ทำอย่างนั้นเพื่อให้มนุษย์เกรงกลัวพระองค์+
15 ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และสิ่งที่จะมีมาในวันข้างหน้าก็มีอยู่แล้ว+ แต่พระเจ้าเที่ยงแท้เสาะหาสิ่งที่ถูกไล่ตาม*
16 ภายใต้ดวงอาทิตย์เรายังเห็นด้วยว่า ในที่ที่ควรมีความยุติธรรมกลับมีความชั่ว และในที่ที่ควรมีความถูกต้องชอบธรรมก็มีความชั่ว+ 17 เราจึงคิดในใจว่า “พระเจ้าเที่ยงแท้จะพิพากษาทั้งคนดีและคนชั่ว+ เพราะพระองค์มีเวลาสำหรับการทำทุกสิ่งทุกอย่าง”
18 แล้วเราก็คิดเกี่ยวกับมนุษย์ว่า พระเจ้าเที่ยงแท้จะทดสอบพวกเขาและทำให้เห็นว่าพวกเขาไม่ต่างอะไรกับสัตว์ 19 เพราะสัตว์มีจุดจบอย่างไร มนุษย์ก็มีจุดจบอย่างนั้น+ สัตว์ตาย มนุษย์ก็ตาย ทั้งสัตว์และมนุษย์ต่างก็มีพลังชีวิตเหมือนกัน+ มนุษย์จึงไม่มีอะไรเหนือกว่าสัตว์ เพราะทุกอย่างไร้ประโยชน์ 20 ทั้งสองจะไปที่เดียวกัน+ ทั้งสองมาจากดิน+ แล้วจะกลับไปเป็นดิน+ 21 ไม่มีใครรู้ว่าพลังชีวิตของมนุษย์ขึ้นไปข้างบนหรือไม่ และพลังชีวิตของสัตว์ลงไปข้างล่างหรือไม่+ 22 และเราได้เห็นว่า สำหรับมนุษย์ไม่มีอะไรดีไปกว่าการมีความสุขกับงานของเขา+ เพราะนี่คือรางวัล*ที่เขาได้รับ และใครจะบอกเขาได้ว่าหลังจากเขาตายแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?+
4 แล้วเราก็คิดถึงการข่มเหงที่เกิดขึ้นภายใต้ดวงอาทิตย์ เราได้เห็นน้ำตาของคนที่ถูกข่มเหง และไม่มีใครปลอบโยนพวกเขา+ เพราะคนที่ข่มเหงพวกเขามีอำนาจจึงไม่มีใครปลอบโยนพวกเขา 2 เราจึงดีใจกับคนที่ตายไปแล้วมากกว่าจะดีใจกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่+ 3 และคนที่ยังไม่เกิดมา+เห็นการทำชั่วภายใต้ดวงอาทิตย์ก็ดีกว่าคนสองพวกนี้อีก+
4 และเราได้เห็นว่า เมื่อคนเราแข่งขันกันก็มีการทำงานหนักและการสร้างผลงานดี ๆ+ แต่นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกันและเป็นการวิ่งไล่ตามลม
5 คนโง่งอมืองอเท้า ตัวเขาเองจึงพินาศ*+
6 พักผ่อนสักเล็กน้อย*ดีกว่าเอาแต่ทำงานหนัก*และวิ่งไล่ตามลม+
7 แล้วเราก็คิดถึงอีกอย่างหนึ่งที่ไร้ประโยชน์ภายใต้ดวงอาทิตย์ 8 มีชายคนหนึ่งอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีเพื่อน ไม่มีลูก ไม่มีพี่น้อง เขาทำงานหนักไม่หยุดและอยากได้ทรัพย์สมบัติไม่รู้จักพอ+ แต่เขาจะถามตัวเองหรือว่า ‘ฉันทำงานหนักจนต้องพลาดสิ่งดี ๆ ไปเพื่อใคร’?+ นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกันและเป็นงานที่ยากลำบาก+
9 สองคนก็ดีกว่าคนเดียว+ เพราะพวกเขาจะได้ผลดี*จากการทำงานหนัก 10 เพราะถ้าคนหนึ่งล้ม อีกคนก็ช่วยให้เขาลุกขึ้นได้ แต่จะเป็นอย่างไรถ้าคนหนึ่งล้มแล้วไม่มีใครช่วยให้เขาลุกขึ้น?
11 นอกจากนี้ ถ้าสองคนนอนอยู่ด้วยกัน พวกเขาก็อุ่นสบาย แต่คนที่นอนคนเดียวจะอุ่นได้อย่างไร? 12 และถ้าอยู่คนเดียวอาจจะสู้คนที่มาทำร้ายไม่ไหว แต่ถ้าอยู่สองคนก็จะสู้ได้ เชือกสามเกลียวจะไม่ขาดง่าย ๆ
13 เด็กที่ยากจนแต่ฉลาดก็ดีกว่ากษัตริย์ที่อายุมากแต่โง่+และไม่ยอมฟังคำเตือนอีกต่อไป+ 14 เพราะเขา*ออกจากคุกมาเป็นกษัตริย์+ ทั้ง ๆ ที่เขาเกิดมาเป็นคนจนตอนที่กษัตริย์องค์นั้นปกครอง+ 15 เราสังเกตดูทุกคนที่มีชีวิตอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์ รวมทั้งเด็กหนุ่มที่ได้ขึ้นปกครองแทนกษัตริย์องค์ก่อน 16 แม้จะมีหลายคนสนับสนุนเขา แต่คนที่มาทีหลังจะไม่ชอบเขา+ นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกันและเป็นการวิ่งไล่ตามลม
5 ทุกครั้งที่คุณเข้าไปในวิหารของพระเจ้าเที่ยงแท้ ขอให้ระวัง+ ไปที่นั่นเพื่อจะฟัง+ก็ดีกว่าไปเพื่อถวายเครื่องบูชาเหมือนกับพวกคนโง่+ เพราะพวกเขาไม่รู้ตัวว่ากำลังทำผิด
2 อย่าปากไว อย่ารีบพูดโดยไม่คิดต่อหน้าพระเจ้าเที่ยงแท้+ เพราะพระเจ้าเที่ยงแท้อยู่ในสวรรค์แต่คุณอยู่บนโลก คุณจึงต้องพูดให้น้อยเข้าไว้+ 3 การคิดมาก*จะทำให้ฝัน+ และการพูดมากทำให้พูดอะไรโง่ ๆ+ 4 เมื่อคุณปฏิญาณอะไรไว้กับพระเจ้า ให้รีบทำตาม+ เพราะพระองค์ไม่ชอบคนโง่ที่ไม่ทำตามคำปฏิญาณ+ คุณต้องทำตามที่ปฏิญาณไว้+ 5 ถ้าคุณสัญญาแล้วไม่ทำตาม อย่าสัญญาเลยดีกว่า+ 6 อย่าให้ปากของคุณเป็นต้นเหตุให้คุณทำบาป+ อย่าบอกกับทูตสวรรค์*ว่าคุณพูดผิดไป+ คุณจะพูดให้พระเจ้าเที่ยงแท้โมโหและทำลายผลงานของคุณทำไม?+ 7 การพูดมากไม่มีประโยชน์เหมือนกับที่การคิดมากทำให้ฝัน+ แต่ขอให้เกรงกลัวพระเจ้าเที่ยงแท้+
8 ถ้าคุณเห็นข้าราชการชั้นสูงข่มเหงคนจน และเห็นความไม่ยุติธรรมและความไม่ถูกต้องในเขตที่คุณอยู่ก็อย่าแปลกใจเลย+ เพราะมีอีกคนหนึ่งที่ตำแหน่งสูงกว่าเขาคอยดูเขาอยู่ และยังมีคนอื่น ๆ ที่ตำแหน่งสูงกว่านั้นอีก
9 พวกเขาแบ่งผลผลิตจากแผ่นดินกัน แม้แต่กษัตริย์ก็กินผลผลิตจากไร่นา+
10 คนที่รักเงินไม่เคยพอใจกับเงินที่หามาได้ และคนที่รักสมบัติก็ไม่พอใจกับรายได้ของตัวเอง+ นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกัน+
11 เมื่อมีสมบัติมากขึ้น คนใช้สมบัติก็มีมากขึ้น+ สมบัติเหล่านั้นไม่เป็นประโยชน์กับเจ้าของเลย เขาได้แต่มองดูเท่านั้น+
12 คนที่รับใช้คนอื่นนอนหลับสบายไม่ว่าเขาจะได้กินน้อยหรือมาก แต่ทรัพย์สมบัติมากมายของคนรวยไม่ทำให้เขาหลับ
13 เราเห็นเรื่องน่าเศร้า*อย่างหนึ่งภายใต้ดวงอาทิตย์ มีบางคนสะสมทรัพย์สมบัติมากจนเป็นภัยต่อตัวเอง 14 เขาสูญเสียทรัพย์สมบัติเพราะธุรกิจล้มเหลว และเมื่อเขามีลูก เขาก็ไม่เหลืออะไรแล้ว+
15 คนเราออกมาจากท้องแม่ตัวเปล่า และจะจากไปตัวเปล่าเหมือนกัน+ ถึงจะทำงานหนักขนาดไหนก็เอาอะไรไปไม่ได้เลย+
16 อีกเรื่องหนึ่งที่น่าเศร้า*คือ คนเราเกิดมาอย่างไรก็จะจากไปอย่างนั้น แล้วที่เขาทำงานหนักเหมือนวิ่งไล่ตามลมนั้นเขาได้ประโยชน์อะไร?+ 17 เขาไม่เคยกินอาหารอย่างมีความสุขเลยสักวัน มีแต่ความวิตกกังวล ความเจ็บป่วย และความโกรธ+
18 สิ่งที่เราเห็นว่าดีและควรจะเป็นก็คือ ในช่วงชีวิตอันแสนสั้นที่พระเจ้าเที่ยงแท้ให้กับมนุษย์ เขาควรจะกินและดื่ม และมีความสุขกับการทำงานหนัก+ภายใต้ดวงอาทิตย์ เพราะนี่คือรางวัล*ที่เขาได้รับ+ 19 และเมื่อพระเจ้าเที่ยงแท้ให้คนเราร่ำรวยมีทรัพย์สมบัติ+ และให้เขาสามารถชื่นชมกับสิ่งที่เขามี เขาก็ควรรับรางวัล*นั้นและมีความสุขกับการทำงานหนัก นี่เป็นของขวัญจากพระเจ้า+ 20 แล้วเขาจะไม่คิดถึงปัญหาในชีวิตอันแสนสั้นของเขามากเกินไป เพราะพระเจ้าเที่ยงแท้ให้เขาสนใจแต่สิ่งที่ทำให้เขามีความสุข+
6 เราได้เห็นเรื่องน่าเศร้า*อีกเรื่องหนึ่งภายใต้ดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ 2 พระเจ้าเที่ยงแท้ให้คนหนึ่งร่ำรวย มีทรัพย์สมบัติ และเกียรติยศ เขาจึงได้ทุกอย่างที่อยากได้ แต่พระเจ้าเที่ยงแท้ไม่ได้ให้เขาชื่นชมกับสิ่งเหล่านั้นและให้คนแปลกหน้ามาชื่นชมแทน นี่ก็ไร้ประโยชน์และเป็นความทุกข์แสนสาหัส 3 ถึงคนหนึ่งจะมีลูกเป็นร้อยและอายุยืนจนแก่เฒ่า แต่เขาไม่ได้ชื่นชมกับสิ่งดี ๆ ก่อนตาย* เราขอบอกว่าเด็กที่ตายตั้งแต่เกิดก็ดีกว่าเขาอีก+ 4 เพราะเด็กคนนั้นเกิดมาอย่างไร้ประโยชน์และจากไปในความมืด และชื่อของเขาก็หายไปในความมืด 5 แม้เขาจะไม่ทันเห็นดวงอาทิตย์และไม่ทันได้รู้จักอะไรเลย แต่เขาก็ยังดีกว่าคนที่อายุยืนคนนั้น+ 6 ถ้ามีอายุยืนถึงสองพันปีแต่ไม่ได้ชื่นชมอะไรเลยจะมีประโยชน์อะไร? เพราะทุกคนก็ไปที่เดียวกัน+
7 คนเราทำงานหนักก็เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง+ แต่พวกเขาก็ไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักพอ 8 คนฉลาดมีอะไรเหนือกว่าคนโง่?+ คนจนที่รู้จักเอาชีวิตรอดจะได้ประโยชน์อะไร? 9 ได้ชื่นชมกับสิ่งที่เห็นตอนนี้ก็ดีกว่าเที่ยวตามหาสิ่งที่อยากได้ นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกันและเป็นการวิ่งไล่ตามลม
10 ทุกสิ่งที่มีอยู่ถูกตั้งชื่อไว้หมดแล้ว มนุษย์เป็นอย่างไรก็รู้กันอยู่แล้ว และเขาไม่อาจเถียงผู้ที่มีพลังอำนาจมากกว่าเขาได้ 11 ยิ่งพูด*มากก็ยิ่งไร้ประโยชน์ การพูดมากทำให้คนเราได้ประโยชน์อะไร? 12 ใครจะรู้ว่าอะไรคือสิ่งดีที่สุดที่คนเราควรทำ ในช่วงชีวิตอันแสนสั้นที่ไร้ประโยชน์ซึ่งผ่านไปเหมือนเงา?+ ใครจะบอกได้ว่าหลังจากที่เขาตายจะเกิดอะไรขึ้นภายใต้ดวงอาทิตย์?
7 ชื่อเสียงดีก็ดีกว่าน้ำมันหอมราคาแพง+ และวันตายดีกว่าวันเกิด 2 ไปบ้านที่มีงานศพดีกว่าไปบ้านที่มีงานเลี้ยง+ เพราะมนุษย์ทุกคนต้องตาย และคนที่มีชีวิตอยู่ควรจำใส่ใจไว้ให้ดี 3 ความทุกข์ดีกว่าการหัวเราะ+ เพราะใบหน้าที่โศกเศร้าทำให้หัวใจดีขึ้น+ 4 ใจคนฉลาดอยู่ในบ้านของคนโศกเศร้า แต่ใจคนโง่อยู่ในบ้านที่มีงานเลี้ยงรื่นเริง*+
5 ฟังคนฉลาดว่ากล่าวตักเตือน+ดีกว่าฟังคนโง่ร้องเพลง 6 เพราะเสียงหัวเราะของคนโง่เหมือนเสียงแตกปะทุของกิ่งหนามในกองไฟที่อยู่ใต้หม้อ+ นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกัน 7 การข่มเหงทำให้คนฉลาดคลุ้มคลั่งได้ และสินบนทำให้ใจเสื่อมเสีย+
8 ตอนจบดีกว่าตอนเริ่ม และเป็นคนอดทนดีกว่าเป็นคนหยิ่ง+ 9 อย่าโกรธง่าย+ เพราะความโกรธอยู่ในใจของคนโง่*+
10 อย่าถามว่า “ทำไมเมื่อก่อนดีกว่าเดี๋ยวนี้?” เพราะถามอย่างนี้ไม่ฉลาดเลย+
11 เมื่อคนมีปัญญาได้มรดกก็เป็นเรื่องดี สติปัญญาเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยู่ในโลก* 12 สติปัญญาเป็นเครื่องป้องกัน+ เหมือนที่เงินเป็นเครื่องป้องกัน+ แต่ข้อดีของความรู้และสติปัญญาคือ ช่วยรักษาชีวิตของคนที่มีสิ่งเหล่านี้+
13 ขอให้คิดถึงสิ่งที่พระเจ้าเที่ยงแท้ทำไว้ เพราะถ้าพระองค์ทำให้อะไรคดไปแล้ว ใครจะทำให้ตรงได้?+ 14 ในวันที่ดีก็ให้คิดเรื่องดี ๆ+ แต่ในวันที่ลำบาก*ก็ให้รู้ว่าพระเจ้าให้มีทั้งวันที่ดีและวันที่ลำบาก+ เพื่อมนุษย์จะได้ไม่รู้ว่าในวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา+
15 ในช่วงชีวิตที่แสนสั้นนี้+ เราได้เห็นมาแล้วทุกอย่าง มีคนดีที่ต้องตายก่อนวัยอันควรแม้เขาจะทำดี+ และมีคนชั่วที่อายุยืนยาวแม้เขาจะทำชั่ว+
16 อย่าคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น+ อย่าอวดว่าฉลาดล้นฟ้า+ คุณจะหาเรื่องให้ตัวเองพินาศทำไม?+ 17 อย่าทำแต่ความชั่วและอย่าเป็นคนโง่+ คุณจะหาเรื่องตายก่อนวัยอันควรทำไม?+ 18 ดีที่สุดที่จะฟังคำเตือนข้อนี้และไม่ละเลยอีกข้อหนึ่งด้วย+ เพราะคนที่เกรงกลัวพระเจ้าจะทำตามคำเตือนทั้งสองข้อ
19 สติปัญญาทำให้คนฉลาดมีกำลังมากกว่าคนแข็งแรง 10 คนที่ปกป้องเมือง+ 20 ในโลกนี้ไม่มีคนดีสักคนที่ทำแต่สิ่งที่ถูกต้องและไม่ทำบาปเลย+
21 และอย่าใส่ใจทุกคำที่คนอื่นพูด+ ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะได้ยินคนรับใช้นินทา*คุณ 22 เพราะคุณคงรู้อยู่แก่ใจว่าคุณเองก็นินทาคนอื่นบ่อย ๆ เหมือนกัน+
23 เราใช้สติปัญญาใคร่ครวญเรื่องทั้งหมดนี้และพูดว่า “ฉันจะต้องฉลาดขึ้น” แต่สติปัญญาก็ยังอยู่ไกลเกินเอื้อม 24 สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ไกลเกินไปและลึกซึ้งมาก ใครจะเข้าใจได้?+ 25 เราสนใจเรียนรู้ เสาะหา และค้นหาสติปัญญากับเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังสิ่งต่าง ๆ และพยายามเข้าใจความโง่ที่ชั่วช้ากับความบ้าที่โง่เง่า+ 26 แล้วเราก็ได้รู้ว่า สิ่งที่ร้ายกาจกว่าความตายคือผู้หญิงที่เป็นเหมือนตาข่ายของนายพราน ใจเธอเป็นเหมือนอวน และมือเธอเป็นเหมือนโซ่ตรวน คนที่ทำให้พระเจ้าเที่ยงแท้พอใจจะหนีเธอไปได้+ แต่คนบาปจะถูกเธอจับไว้+
27 ผู้รวบรวม+พูดว่า “สิ่งที่เราได้รู้ก็คือ เราตรวจสอบทีละเรื่องอย่างละเอียดเพื่อจะได้ข้อสรุป 28 แต่เรื่องที่เราหาคำตอบมาตลอดเรากลับไม่เจอ เราเห็นว่าในผู้ชายพันคนมีผู้ชายที่ดี*คนเดียว แต่ในผู้หญิงพันคนไม่มีผู้หญิงที่ดีสักคน 29 สิ่งเดียวที่เรารู้ก็คือ พระเจ้าเที่ยงแท้สร้างมนุษย์ให้เป็นคนซื่อตรง+ แต่พวกเขาคิดแผนการต่าง ๆ นานาขึ้นมาเอง”+
8 ใครจะเป็นเหมือนคนฉลาด? ใครจะรู้วิธีแก้ปัญหา?* สติปัญญาทำให้คนเราหน้าตาสดใสและไม่เคร่งเครียด
2 เราบอกว่า “ให้เชื่อฟังคำสั่งกษัตริย์+ เพราะคุณได้สาบานไว้กับพระเจ้าแล้ว+ 3 เมื่ออยู่ต่อหน้ากษัตริย์อย่ารีบลากลับ+ อย่ายุ่งกับอะไรก็ตามที่ชั่ว+ เพราะกษัตริย์จะทำทุกอย่างตามที่ต้องการ 4 คำพูดของกษัตริย์ถือเป็นที่สุด+ ใครจะถามเขาได้ว่า ‘ท่านทำอะไรอยู่?’”
5 คนที่ทำตามคำสั่งจะไม่ได้รับความเสียหาย+ และคนฉลาดจะรู้ว่าควรทำอะไรตอนไหนและทำอย่างไร+ 6 แม้มนุษย์จะมีปัญหามากมาย แต่ก็มีเวลาและวิธีจัดการสำหรับทุกเรื่อง+ 7 เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วใครจะบอกได้ว่ามันจะเกิดขึ้นอย่างไร?
8 เช่นเดียวกับที่ไม่มีใครมีอำนาจควบคุมพลังชีวิต*หรือเหนี่ยวรั้งพลังชีวิตได้ ก็ไม่มีใครมีอำนาจควบคุมวันตายได้+ และเช่นเดียวกับที่ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้กลับบ้านระหว่างสงคราม ความชั่วก็จะไม่ยอมให้คนทำชั่วหนีพ้นได้*
9 ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เราได้เห็น และเราตั้งใจสังเกตดูงานทุกอย่างที่ทำกันภายใต้ดวงอาทิตย์ ตลอดเวลาที่ผ่านมา การที่มนุษย์ปกครองมนุษย์มีแต่สร้างความเสียหาย*ให้พวกเขา+ 10 และเราเห็นคนชั่วถูกฝัง พวกเขาเคยเข้าออกที่บริสุทธิ์ แต่ไม่นานคนในเมืองที่เคยเห็นพวกเขาทำชั่วก็ลืมพวกเขาแล้ว+ นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกัน
11 เพราะคนทำชั่วไม่ถูกลงโทษทันที+ คนเราจึงยิ่งกล้าทำชั่ว+ 12 แม้คนชั่วจะทำชั่วเป็นร้อยครั้งก็ยังมีอายุยืน แต่เรารู้ว่าคนที่เกรงกลัวพระเจ้าเที่ยงแท้จะได้ดีเพราะเขาเกรงกลัวพระองค์+ 13 ส่วนคนชั่วจะต้องเดือดร้อน+ และเขาจะไม่สามารถทำให้ชีวิตอันแสนสั้นที่ผ่านไปเหมือนเงายืนยาวขึ้นได้+ เพราะเขาไม่เกรงกลัวพระเจ้า
14 มีเรื่องไร้ประโยชน์*อีกอย่างหนึ่งเกิดขึ้นบนโลก นั่นคือ คนดีบางคนได้รับผลเหมือนกับว่าเขาทำชั่ว+ และคนชั่วบางคนได้รับผลเหมือนกับว่าเขาทำดี+ เราเห็นว่านี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกัน
15 ดังนั้น เราขอแนะนำว่า ทำตัวให้มีความสุขเถอะ+ เพราะสำหรับมนุษย์ ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์จะดีไปกว่ากินและดื่มและมีความสุข และเขาควรมีความสุขแม้จะต้องทำงานหนักตลอดเวลา+ที่พระเจ้าเที่ยงแท้ให้เขามีชีวิตอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์
16 เราได้ตั้งใจเสาะหาสติปัญญาและพยายามเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง*ที่ทำกันอยู่บนโลกนี้+ จนถึงกับไม่หลับไม่นอนทั้งวันทั้งคืน* 17 แล้วเราก็คิดถึงงานทุกอย่างของพระเจ้าเที่ยงแท้ เราจึงรู้ว่ามนุษย์ไม่อาจเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้ดวงอาทิตย์+ ไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหนพวกเขาก็ยังไม่เข้าใจ แม้พวกเขาจะบอกว่าตัวเองฉลาดพอจะรู้ได้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเข้าใจได้จริง ๆ+
9 เราเอาเรื่องทั้งหมดนี้มาคิดและสรุปว่า คนดีกับคนฉลาดและสิ่งที่พวกเขาทำก็อยู่ในมือของพระเจ้าเที่ยงแท้+ มนุษย์ไม่รู้เรื่องความรักและความเกลียดชังของคนสมัยก่อน 2 ทุกคนมีจุดจบเหมือนกัน+ ทั้งคนทำสิ่งที่ถูกต้องกับคนชั่ว+ คนดีกับคนสะอาดและคนไม่สะอาด หรือคนที่ถวายเครื่องบูชากับคนที่ไม่ถวาย คนดีไม่ต่างอะไรกับคนบาป และคนที่สาบานก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ระวังตัวเมื่อสาบาน 3 มีเรื่องน่าสลดใจเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นภายใต้ดวงอาทิตย์ เพราะทุกคนมีจุดจบเหมือนกัน+ ใจมนุษย์จึงมีแต่ความชั่ว และมีเรื่องบ้า ๆ อยู่ในใจพวกเขาตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ แล้วพวกเขาก็ตาย!
4 คนที่มีชีวิตอยู่ก็มีความหวัง เพราะสุนัขที่ยังเป็นอยู่ก็ดีกว่าสิงโตที่ตายแล้ว+ 5 คนเป็นรู้ว่าเขาจะตาย+ แต่คนตายไม่รู้อะไรเลย+ เขาไม่ได้รับรางวัล*อะไรอีกแล้ว เพราะใคร ๆ ก็ลืมเขาไปหมด+ 6 เขาจะรักใคร เกลียดใคร หรืออิจฉาใครไม่ได้อีก และสิ่งต่าง ๆ ที่ทำกันภายใต้ดวงอาทิตย์ เขาก็ไม่มีส่วนร่วมอีกเลย+
7 ไปเถอะ ไปกินอาหารให้มีความสุขและดื่มเหล้าองุ่นให้ชื่นใจ+ เพราะพระเจ้าเที่ยงแท้พอใจงานที่คุณทำ+ 8 ให้คุณสวมเสื้อผ้าสีขาว*เสมอ และอย่าลืมเอาน้ำมันใส่หัวด้วย+ 9 ให้อยู่กับภรรยาที่คุณรักอย่างมีความสุข+ตลอดชีวิตที่แสนสั้นของคุณ ซึ่งเป็นชีวิตที่คุณได้จากพระเจ้าภายใต้ดวงอาทิตย์ เพราะนี่คือสิ่ง*ที่คุณควรได้ในชีวิตจากการตรากตรำทำงานหนักภายใต้ดวงอาทิตย์+ 10 ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ทำให้สุดกำลัง เพราะในหลุมศพ*+ที่คุณจะไปอยู่นั้น ไม่มีงาน โครงการ ความรู้ หรือสติปัญญาใด ๆ ทั้งสิ้น
11 ยังมีอีกอย่างที่เราเห็นคือ คนวิ่งเร็วไม่ได้ชนะการแข่งขันเสมอไป คนแข็งแรงไม่ได้รบชนะทุกครั้ง+ คนมีปัญญาไม่ได้มีอาหารกินอยู่ตลอด คนฉลาดไม่ได้ร่ำรวยกันทุกคน+ และคนมีความรู้อาจไม่ประสบความสำเร็จก็ได้+ เพราะเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นกับพวกเขาทุกคนในเวลาที่คาดไม่ถึง 12 มนุษย์ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะถึงเวลาของตัวเอง+ เขาอาจติดกับดักหายนะโดยไม่รู้ตัว เหมือนปลาที่ติดอวนและนกที่ติดกับดัก
13 และเรายังสังเกตเห็นอีกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับสติปัญญาภายใต้ดวงอาทิตย์ที่ทำให้เราทึ่ง 14 มีเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่งซึ่งมีคนไม่มาก และกษัตริย์ที่มีอำนาจมากได้ยกทัพมาโจมตีและสร้างเนินดินใหญ่ล้อมเมืองนี้ไว้ 15 ในเมืองนั้นมีชายยากจนแต่ฉลาดคนหนึ่ง เขาใช้สติปัญญาปกป้องเมืองนั้นไว้ แต่ก็ไม่มีใครจำชายยากจนคนนั้นได้เลย+ 16 และเราพูดกับตัวเองว่า ‘มีสติปัญญาดีกว่ามีกำลังมาก+ แต่ใคร ๆ ก็ดูถูกสติปัญญาของคนจนและไม่สนใจคำพูดของเขา’+
17 การฟังคำพูดที่นุ่มนวลของคนฉลาดก็ดีกว่าฟังเสียงตะโกนของหัวหน้าพวกคนโง่
18 สติปัญญาดีกว่าอาวุธสงคราม แต่คนบาปคนเดียวสร้างความเสียหายได้มากมาย+
10 แมลงวันตายทำให้น้ำมันหอมบูดเหม็นไป ความโง่นิดหน่อยก็ทำให้สติปัญญาและความน่านับถือหมดคุณค่า+
2 ใจคนฉลาดพาเขาไปตามทางที่ถูกต้อง* แต่ใจคนโง่พาเขาไปตามทางที่ผิด*+ 3 ไม่ว่าคนโง่จะเดินไปทางไหน เขาก็ไม่รู้จักคิด*+ และเขาทำให้ทุกคนรู้ว่าเขาเป็นคนโง่+
4 ถ้าผู้มีอำนาจโกรธคุณ อย่าเพิ่งออกไป+ เพราะความสงบเยือกเย็นช่วยไม่ให้มีการทำบาปร้ายแรง+
5 เราเห็นเรื่องน่าสลดใจภายใต้ดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นความผิดพลาดของพวกผู้มีอำนาจ+ 6 พวกเขาให้คนโง่อยู่ในตำแหน่งสูง ๆ แต่ให้คนที่มีความสามารถ*อยู่ในตำแหน่งต่ำ ๆ
7 เราเคยเห็นคนรับใช้ขี่ม้า แต่เจ้านายเดินไปเหมือนคนรับใช้+
8 คนที่ขุดหลุมอาจตกลงไปในหลุมนั้น+ และคนที่เจาะกำแพงหินเข้าไปอาจถูกงูกัดได้
9 คนที่สกัดหินอาจเจ็บตัวเพราะหิน และคนที่ผ่าไม้ซุงอาจได้รับอันตรายเพราะไม้ซุง*
10 ถ้าเครื่องมือเหล็กทื่อแล้วไม่ลับให้คมก็ต้องออกแรงมาก แต่สติปัญญาช่วยให้ประสบความสำเร็จ
11 ถ้าหมองูโดนงูกัดก่อนที่เขาจะร่ายมนตร์สะกดมัน ถึงเขาจะเก่งแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์
12 คำพูดของคนฉลาดทำให้ใคร ๆ ชอบเขา+ แต่คำพูดของคนโง่ทำลายตัวเขาเอง+ 13 เขาพูดโง่ ๆ ตั้งแต่คำแรก+ และคำสุดท้ายก็ยังเป็นเรื่องบ้า ๆ ที่ก่อความเสียหาย 14 แต่คนโง่ก็พูดไม่หยุด+
มนุษย์ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ใครจะบอกเขาได้ว่าหลังจากที่เขาตายจะมีอะไรเกิดขึ้น?+
15 คนโง่ทำงานหนักจนหมดแรง เขาหาทางเข้าเมืองไม่ได้ด้วยซ้ำ
16 บ้านเมืองจะย่ำแย่แค่ไหน ถ้ามีกษัตริย์เป็นเด็ก+และมีเจ้านายที่กินเลี้ยงกันแต่เช้า 17 บ้านเมืองจะมีความสุขแค่ไหน ถ้ามีกษัตริย์เป็นชนชั้นสูงและมีเจ้านายที่กินเลี้ยงในเวลาที่เหมาะที่ควรเพื่อให้มีแรงขึ้น ไม่ใช่เพื่อเมามาย!+
18 คานหลังคาแอ่นเพราะความขี้เกียจสันหลังยาว และบ้านรั่วเพราะความเกียจคร้าน+
19 อาหาร*ทำให้มีเสียงหัวเราะ เหล้าองุ่นทำให้ชีวิตเบิกบาน+ แต่เงินตอบสนองทุกความต้องการ+
20 อย่าแช่งกษัตริย์เลยแม้แต่ในความคิด*+ และอย่าด่าคนรวยในห้องนอนของคุณ เพราะนกจะเอาไปบอกต่อ และสัตว์ที่มีปีกจะเอาไปเล่าต่อ
11 โยนขนมปังของคุณลงไปในน้ำสิ+ แล้วหลายวันต่อมาคุณจะเจอมันอีก+ 2 แบ่งของของคุณให้คนเจ็ดคนหรือแปดคนเถอะ+ เพราะคุณไม่รู้ว่าจะเกิดภัยพิบัติ*อะไรขึ้นบนโลก
3 ถ้าเมฆอุ้มน้ำไว้เต็ม ฝนจะตกหนักบนพื้นแผ่นดิน และถ้าต้นไม้ล้มลงทางทิศใต้หรือทิศเหนือ มันก็จะนอนอยู่ตรงนั้นแหละ
4 คนที่สังเกตดูลมจะไม่หว่านพืช และคนที่สังเกตดูเมฆจะไม่เก็บเกี่ยว+
5 เช่นเดียวกับที่คุณไม่รู้ว่าพลังชีวิต*ทำงานอย่างไรในกระดูกของเด็กในครรภ์+ คุณก็ไม่เข้าใจงานของพระเจ้าเที่ยงแท้ผู้สร้างทุกสิ่งเหมือนกัน+
6 ให้หว่านพืชในตอนเช้าและอย่าหยุดจนกว่าจะถึงตอนเย็น+ เพราะคุณไม่รู้ว่าตรงไหนจะเกิดผล จะตรงนี้หรือตรงนั้น หรือจะเกิดผลดีทั้งสองที่
7 แสงสว่างทำให้สบายใจ และการได้เห็นดวงอาทิตย์ทำให้มีความสุข 8 ถ้าคนเรามีอายุยืนก็ให้เขามีความสุขกับชีวิตทุก ๆ วัน+ แต่เขาควรจำไว้ว่าช่วงที่ยากลำบากอาจยาวนานหลายปี และทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็ไร้ประโยชน์+
9 หนุ่มสาวทั้งหลาย ตอนที่คุณอายุยังน้อย ขอให้มีความสุขกับช่วงที่คุณยังหนุ่มยังสาว คุณอยากทำอะไรก็ทำเลย อยากไปไหนก็ไปเถอะ แต่ขอให้รู้ไว้ว่าพระเจ้าเที่ยงแท้จะพิพากษา*คุณตามสิ่งที่คุณทำ+ 10 ดังนั้น ขอให้ตัดเรื่องที่สร้างความเดือดร้อนออกจากหัวใจคุณ และเอาสิ่งที่เป็นอันตรายออกไปให้ห่างจากตัวคุณ เพราะช่วงหนุ่มสาวและวัยหนุ่มแน่นก็สั้นเหลือเกิน+
12 ดังนั้น ขอให้คิดถึงผู้สร้างองค์ยิ่งใหญ่ตอนที่คุณยังเป็นหนุ่มเป็นสาว+ ก่อนถึงช่วงที่ยากลำบาก+และก่อนถึงเวลาที่คุณจะบอกว่า “ชีวิตไม่มีอะไรดีเลย” 2 ก่อนที่ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวจะมืดไป+ และก่อนที่เมฆจะกลับมาหลังจาก*ฝนตกหนัก 3 ตอนนั้นคนเฝ้าบ้านจะตัวสั่น ผู้ชายที่แข็งแรงจะหลังโกง พวกผู้หญิงจะเลิกโม่แป้งเพราะเหลือกันอยู่ไม่กี่คน ผู้หญิงที่มองไปนอกหน้าต่างจะเห็นแต่ความมืด+ 4 ประตูที่เปิดออกสู่ถนนจะถูกปิด เสียงโม่จะเบาลง เขาจะตื่นเมื่อได้ยินเสียงนกร้อง และพวกลูกสาวจะร้องเพลงเบาลง+ 5 เขาจะกลัวความสูง และมีสิ่งที่น่ากลัวอยู่ตามถนน ต้นอัลมอนด์จะออกดอก+ ตั๊กแตนจะเดินอย่างยากลำบาก ลูกเคเปอร์จะแตก เพราะมนุษย์กำลังเดินไปยังบ้านที่เขาจะต้องอยู่ไปอีกนาน+ และคนที่ไว้ทุกข์จะเดินไปมาตามถนน+ 6 ก่อนที่สายเงินจะขาด ชามทองคำจะแตกเป็นชิ้น ๆ ไหที่น้ำพุจะแตกละเอียด และรอกที่บ่อเก็บน้ำจะพัง 7 แล้วดินก็จะกลับสู่แผ่นดินเหมือนเดิม+ และพลังชีวิตจะกลับไปหาพระเจ้าเที่ยงแท้ผู้ให้พลังนั้น+
8 ผู้รวบรวม+บอกว่า “ไม่มีประโยชน์อะไรเลย!* ทุกอย่างไร้ประโยชน์!”+
9 นอกจากผู้รวบรวมจะฉลาดขึ้นแล้ว เขายังสอนเรื่องที่เขารู้ให้ประชาชนอยู่เรื่อย ๆ+ เขาไตร่ตรองและค้นคว้าอย่างละเอียดเพื่อแต่ง*สุภาษิตมากมาย+ 10 ผู้รวบรวมพยายามสรรหาคำที่สละสลวย+ และบันทึกถ้อยคำที่เป็นความจริงอย่างถูกต้อง
11 คำพูดของคนมีปัญญาเปรียบเหมือนประตัก+ และภาษิตที่เขารวบรวมไว้เป็นเหมือนตะปูที่ตอกติดแน่น ซึ่งมาจากผู้เลี้ยงแกะผู้เดียว 12 ลูกของเรา มีอีกเรื่องหนึ่งที่เราขอเตือนให้ระวัง ผู้คนเขียนหนังสือกันมากมายไม่จบไม่สิ้น การอ่านหนังสือเหล่านั้นมากเกินไปจะทำให้อ่อนล้า+
13 ข้อสรุปของเรื่องทั้งหมดที่ได้พูดไปแล้วคือ ให้เกรงกลัวพระเจ้าเที่ยงแท้+และทำตามคำสั่งของพระองค์+ เพราะนี่คือหน้าที่ทั้งหมดของมนุษย์+ 14 พระเจ้าเที่ยงแท้จะพิพากษาการกระทำทุกอย่าง รวมทั้งทุกสิ่งที่ทำกันลับ ๆ เพื่อจะตัดสินว่าอะไรดีอะไรชั่ว+
หรือ “ผู้เรียกประชุม” “ผู้เรียกให้มาชุมนุม”
หรือ “ไร้ค่า”
หรือ “ส่องแสง”
หรือ “กระหืดกระหอบกลับไป”
หรือ “ลำธารในฤดูหนาว”
หรือ “โง่ที่สุด”
แปลตรงตัวว่า “ดวงตาของเราขอ”
หรือ “ส่วน”
หรือ “เป็นประโยชน์”
หรือ “เป็นหายนะ”
แปลตรงตัวว่า “กระโดดโลดเต้น”
หรือ “เป็นระเบียบ” “เหมาะสม”
หรืออาจแปลได้ว่า “สิ่งที่ผ่านไปแล้ว”
หรือ “ส่วน”
แปลตรงตัวว่า “กินเนื้อตัวเอง”
แปลตรงตัวว่า “พักผ่อนหนึ่งกำมือ”
แปลตรงตัวว่า “ทำงานหนักสองกำมือ”
หรือ “ได้ประโยชน์มากกว่า”
อาจหมายถึงเด็กที่ฉลาด
หรือ “การเป็นห่วงมากเกินไป”
หรือ “ผู้ส่งข่าว”
หรือ “หายนะ”
หรือ “เป็นหายนะ”
หรือ “ส่วน”
หรือ “ส่วน”
หรือ “หายนะ”
หรือ “และแม้แต่หลุมศพก็ไม่เป็นของเขา”
หรืออาจแปลได้ว่า “มีของ”
หรือ “ที่สนุกสนาน”
หรืออาจแปลได้ว่า “เป็นลักษณะของคนโง่”
คือ คนที่มีชีวิตอยู่
หรือ “เจอหายนะ”
แปลตรงตัวว่า “แช่งด่า”
หรือ “ซื่อตรง”
หรือ “วิธีอธิบายความหมายของเรื่องหนึ่ง?”
หรือ “ลมหายใจ” “ลม”
หรืออาจแปลได้ว่า “ความชั่วของคนชั่วไม่สามารถช่วยตัวเขาได้”
หรือ “ความเจ็บปวด”
หรือ “น่าหงุดหงิด”
หรือ “งานทุกอย่าง”
หรืออาจแปลได้ว่า “ผู้คนไม่หลับไม่นอนทั้งวันทั้งคืน”
หรือ “ค่าจ้าง”
คือ เสื้อผ้าสีสว่าง ๆ ซึ่งแสดงว่ามีจิตใจเบิกบาน ไม่ใช่ชุดไว้ทุกข์
หรือ “ส่วนแบ่ง”
แปลตรงตัวว่า “อยู่ที่มือขวาของเขา”
แปลตรงตัวว่า “อยู่ที่มือซ้ายของเขา”
แปลตรงตัวว่า “ขาดหัวใจ”
หรือ “คนรวย”
หรืออาจแปลได้ว่า “ควรผ่าด้วยความระมัดระวัง”
หรือ “ขนมปัง”
หรืออาจแปลได้ว่า “บนที่นอน”
หรือ “หายนะ”
อาจหมายถึงพลังของพระเจ้าก็ได้
หรือ “คิดบัญชี”
หรืออาจแปลได้ว่า “พร้อมกับ”
หรือ “ไร้ค่า”
หรือ “เรียบเรียง”