อิสยาห์
1 เรื่องราวเกี่ยวกับยูดาห์และเยรูซาเล็มที่อิสยาห์*ลูกชายของอามอสเห็นเป็นนิมิต+ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่กษัตริย์อุสซียาห์+ โยธาม+ อาหัส+ และเฮเซคียาห์+ปกครองยูดาห์ มีดังนี้+
2 ผู้ที่อยู่บนสวรรค์และผู้ที่อยู่บนโลก ตั้งใจฟังให้ดี+
พระยะโฮวาพูดว่า
3 วัวยังรู้จักเจ้าของ
และลาก็ยังรู้ว่าใครเป็นเจ้าของรางหญ้าที่มันกินอยู่เป็นประจำ
แต่อิสราเอลกลับไม่รู้จักเรา*+
ประชาชนของเราก็ทำตัวเป็นคนไม่รู้จักคิด”
4 ความพินาศจะต้องเกิดกับชาติที่ทำบาป+
กับประชาชนที่ทำผิดใหญ่หลวง
ที่เป็นพวกลูกหลานชั่ว และเป็นเชื้อสายที่เสื่อมทราม
คนพวกนี้ทิ้งพระยะโฮวา+
ดูหมิ่นพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
และหันหลังให้พระองค์
5 ยังเจ็บไม่พออีกหรือ? ทำไมยังจะกบฏอีก?+
ตอนนี้ก็ฟกช้ำไปทั้งหัวแล้ว
หัวใจก็อ่อนแรงจนแทบจะหยุดเต้น+
6 ตั้งแต่หัวจดเท้าไม่มีส่วนไหนเลยที่เป็นปกติ
ทั้งตัวมีแต่บาดแผล รอยฟกช้ำ และแผลเหวอะหวะ
แต่ไม่มีใครทายา พันแผล หรือทาน้ำมันให้+
7 แผ่นดินของพวกคุณก็ร้างเปล่า
และเมืองต่าง ๆ ก็ถูกไฟเผา
คนต่างประเทศก็ทำลายแผ่นดินไปต่อหน้าต่อตาคุณ+
ทุกสิ่งถูกเผาผลาญเหมือนมีศัตรูมารุกราน+
8 เมืองศิโยนกลายเป็นเหมือนเพิงในสวนองุ่น
เหมือนกระต๊อบในไร่แตงกวา
และเหมือนเมืองที่กำลังถูกโจมตี+
9 ถ้าพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพไม่ช่วยพวกเราบางคนให้รอดชีวิตละก็
พวกเราคงเป็นเหมือนคนในเมืองโสโดม
และไม่ต่างอะไรกับคนในเมืองโกโมราห์+
10 พวกคุณที่เป็นเหมือนพวกผู้ปกครองที่เผด็จการของเมืองโสโดม+ ให้ฟังคำของพระยะโฮวา
และพวกคุณที่เป็นเหมือนประชาชนของเมืองโกโมราห์+ ให้สนใจฟังคำสั่งสอน*ของพระเจ้าของเรา
11 พระยะโฮวาพูดว่า “เครื่องบูชาที่พวกเจ้าเอามามากมายจะมีประโยชน์อะไรต่อเราล่ะ?+
พอเสียทีกับแกะและมันของสัตว์อ้วนพีที่พวกเจ้าให้เป็นเครื่องบูชาเผา+
เราไม่ได้พอใจกับเลือด+ของวัวหนุ่ม+ เลือดของลูกแกะหรือของแพะ+นั้นเลย
13 เลิกเอาเครื่องบูชาที่ทำจากเมล็ดข้าวมาให้เราได้แล้ว เครื่องบูชาพวกนี้ไร้ค่า+
เราสะอิดสะเอียนเครื่องหอมของพวกเจ้าจริง ๆ
พวกเจ้าฉลองวันขึ้นเดือนใหม่+ ฉลองวันสะบาโต+ และชุมนุมกันในวันพิเศษอื่น ๆ+
เราทนไม่ได้ที่พวกเจ้าพึ่งอำนาจลึกลับ+แล้วก็จัดการประชุมศักดิ์สิทธิ์ไปพร้อม ๆ กัน
14 เราเกลียดการฉลองวันขึ้นเดือนใหม่กับเทศกาลต่าง ๆ ของพวกเจ้า
สิ่งเหล่านี้ทำให้เราหนักใจจริง ๆ
เราเกินทนแล้ว
15 เมื่อพวกเจ้าชูมือขึ้นอ้อนวอนเรา
เราจะไม่มอง+
16 ให้ชำระตัวให้สะอาด และรักษาตัวให้สะอาดอยู่เสมอ+
เอาการกระทำที่เลวร้ายออกไปให้พ้นจากหน้าเรา
เลิกทำชั่วเสียที+
17 แล้วหัดทำดี เป็นคนยุติธรรม+
ว่ากล่าวแก้ไขคนที่กดขี่ข่มเหง
ให้ความเป็นธรรมกับลูกกำพร้าพ่อ*
ว่าความสู้คดีเพื่อแม่ม่าย”+
18 พระยะโฮวาพูดว่า “ให้เรามาคุยกัน เราจะได้ช่วยพวกเจ้าให้กลับมาคืนดีกับเรา+
ถึงบาปของพวกเจ้าจะแดงก่ำ
เราจะทำให้ขาวเหมือนหิมะ+
ถึงบาปของพวกเจ้าจะเป็นเหมือนผ้าสีแดงเข้ม
เราก็จะทำให้ขาวเหมือนขนแกะ
19 ถ้าพวกเจ้าเต็มใจเชื่อฟัง
พวกเจ้าก็จะได้กินผลที่ดีจากแผ่นดิน+
20 ถ้าพวกเจ้าไม่ฟังแต่กลับทรยศเรา
พวกเจ้าจะต้องตายด้วยคมดาบ+
พระยะโฮวาได้บอกไว้อย่างนั้น”
21 เมืองที่เคยซื่อสัตย์+แต่ตอนนี้กลายเป็นเหมือนโสเภณีไปแล้ว+
เมืองนี้เคยมีแต่ความยุติธรรม+
และมีความดีอยู่ในเมืองนี้เสมอ+
แต่ตอนนี้มีแต่พวกฆาตกร+
22 แร่เงินของพวกคุณก็กลายเป็นเหมือนขี้แร่ที่ต้องเอาไปทิ้ง+
และเบียร์*ของพวกคุณก็เจือจางลงเพราะมีน้ำเข้าไปปนจนหมดรสชาติ
23 เจ้านายของพวกคุณก็ดื้อดึงและไปคบคิดกับพวกโจร+
พวกเจ้านายทุกคนชอบรับสินบนและทำตัวเหมือนนักล่าของกำนัล+
24 ดังนั้น พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ ผู้เป็นนายองค์สูงสุด
พระเจ้าผู้มีฤทธิ์อำนาจของอิสราเอลจึงประกาศว่า
“เอาละ เราจะต้องจัดการกับศัตรูของเราแล้ว
เราจะแก้แค้นพวกที่ต่อต้านเราแน่ ๆ+
25 เราจะเลิกช่วยเหลือแต่จะหันมาจัดการกับพวกเจ้าแทน
เราจะถลุงพวกเจ้าเพื่อไล่ขี้แร่ออกไป
และเอาสิ่งเจือปนออกไปให้หมด+
26 เราจะให้พวกเจ้ามีผู้พิพากษาที่ดีเหมือนเมื่อก่อน
และมีที่ปรึกษาที่ดีเหมือนตอนแรก+
หลังจากนั้น คนอื่น ๆ จะเรียกเมืองของพวกเจ้าว่าเมืองที่มีแต่ความถูกต้องชอบธรรมและเมืองที่มีแต่ความซื่อสัตย์+
27 เมืองศิโยนจะถูกไถ่+โดยอาศัยความยุติธรรม
และคนที่กลับไปที่เมืองนั้นเป็นคนที่ถูกไถ่โดยอาศัยความถูกต้องชอบธรรม
28 ส่วนคนที่กบฏและคนบาปจะต้องถูกทำลายไปด้วยกัน+
และคนที่ทิ้งพระยะโฮวาจะต้องเจอกับความพินาศ+
29 คนพวกนี้ซึ่งเคยชื่นชอบต้นไม้ใหญ่จะต้องอับอายเพราะต้นไม้เหล่านั้น+
และพวกเขาก็ต้องอับอายเมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับสวน*ที่เคยชื่นชอบ+
30 แล้วพวกเขาเองก็จะกลายเป็นเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่มีแต่ใบเหี่ยวแห้ง+
และเป็นเหมือนสวนที่ไม่มีน้ำ
31 คนที่ดูมั่นคงจะเป็นเหมือนเชือกที่ติดไฟง่าย
และงานของเขาก็จะเป็นเหมือนประกายไฟ
แล้วทั้งสองก็จะติดไฟมอดไหม้ไปด้วยกัน
และไม่มีใครจะช่วยดับไฟได้”
2 อิสยาห์ลูกชายของอามอสเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับยูดาห์และเยรูซาเล็ม ดังต่อไปนี้+
2 ในสมัยสุดท้าย
ภูเขาที่มีวิหารของพระยะโฮวาตั้งอยู่
จะตั้งมั่นคงและสูงกว่าภูเขาอื่น ๆ+
และจะถูกยกให้สูงเด่นกว่าภูเขาทุกลูก
ผู้คนจากทุกชาติจะหลั่งไหลไปที่นั่น+
3 ชนชาติต่าง ๆ จะพากันไปและพูดว่า
“ขึ้นไปบนภูเขาของพระยะโฮวากันเถอะ
ไปที่วิหารของพระเจ้าของยาโคบ+
พระองค์จะสอนเราให้รู้แนวทางของพระองค์
เราจะได้ใช้ชีวิตตามแนวทางนั้น”+
4 พระองค์จะตัดสินความให้กับชาติต่าง ๆ
และจะจัดการเรื่องราวของชนชาติเหล่านั้นให้ถูกต้องเรียบร้อย
ชาติต่าง ๆ จะไม่ถือดาบเข่นฆ่ากัน
และจะไม่เรียนทำสงครามอีกต่อไป+
5 มากันเถอะ ลูกหลานของยาโคบ
ให้เราเดินในทางของพระยะโฮวาที่มีความสว่าง+
6 แต่ตอนนี้ พระองค์ได้ทอดทิ้งลูกหลานของยาโคบประชาชนของพระองค์+
เพราะพวกเขาได้รับเอาอะไรหลายอย่างมาจากทางตะวันออก
พวกเขาใช้เวทมนตร์+เหมือนชาวฟีลิสเตีย
และยอมให้คนต่างชาติมาอยู่เต็มไปหมด
7 แผ่นดินของพวกเขาเต็มไปด้วยเงินและทอง
มีทรัพย์สมบัตินับไม่ถ้วน
แผ่นดินของพวกเขามีม้ามากมาย
และมีรถศึกนับไม่ถ้วน+
8 แผ่นดินของพวกเขาเต็มไปด้วยรูปเคารพที่ไร้ค่า+
พวกเขาก้มลงกราบสิ่งที่พวกเขาทำขึ้นมา
สิ่งที่เขาทำด้วยมือของเขาเอง
9 คนอย่างนี้ทำตัวไร้ค่า เป็นคนใฝ่ต่ำ
คนแบบนี้ให้อภัยไม่ได้เลย
10 ลองเข้าไปในซอกหินและมุดลงไปในดินดูสิ
ถ้าคิดว่าจะหลบพระยะโฮวาได้ เพราะเมื่อพระองค์มาก็น่ากลัว
และรัศมีของพระองค์ก็แรงกล้า+
11 คนเย่อหยิ่งจะต้องตกต่ำ
และคนที่จองหองจะต้องถูกกดให้ต่ำลง
เพราะในวันนั้นจะมีแต่พระยะโฮวาเท่านั้นที่ถูกยกให้สูงขึ้น
12 วันนั้นเป็นวันของพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ+
วันนั้นจะมาถึงทุกคนที่เย่อหยิ่งจองหอง
และมาถึงทุกคนไม่ว่าเขาจะอยู่สูงหรือต่ำ+
13 วันนั้นจะมาถึงต้นสนซีดาร์ในเลบานอนทั้งหมดที่สูงเด่น
และมาถึงต้นโอ๊กทุกต้นในบาชาน
14 วันนั้นจะมาถึงภูเขาสูงทั้งหลาย
และยอดเขาสูงทั้งหมด
15 วันนั้นจะมาถึงป้อมสูงทุกแห่งและกำแพงเมืองทุกที่
16 วันนั้นจะมาถึงเรือทุกลำของทาร์ชิช+
และมาถึงเรือที่สวยงามทุกลำด้วย
17 คนเย่อหยิ่งจะต้องตกต่ำ
และคนที่จองหองจะต้องถูกกดให้ต่ำลง
เพราะในวันนั้นจะมีแต่พระยะโฮวาผู้เดียวที่ถูกยกให้สูงขึ้น
18 พระต่าง ๆ ที่ไร้ค่าจะหายสาบสูญไปหมด+
19 และผู้คนจะเข้าไปหลบในถ้ำ
และลงไปอยู่ในโพรงใต้ดิน
เพราะเมื่อพระยะโฮวามาก็น่ากลัว
รัศมีของพระองค์ก็แรงกล้า+
เมื่อพระองค์มาพระองค์จะทำให้ทั้งโลกสั่นสะเทือน
20 ในวันนั้น ผู้คนจะนำพระต่าง ๆ ที่ไร้ค่าโยนไปในที่ที่พวกหนูและค้างคาวอยู่+
พระพวกนั้นทำมาจากเงินและทอง
เป็นพระที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเองเพื่อกราบไหว้
21 และพวกเขาจะเข้าไปในซอกหิน
และเข้าไปในรอยแยกของหน้าผาสูง
เพราะเมื่อพระยะโฮวามาก็น่ากลัว
รัศมีของพระองค์ก็แรงกล้า
เมื่อพระองค์มาพระองค์จะทำให้ทั้งโลกสั่นสะเทือน
22 เลิกวางใจในมนุษย์ได้แล้ว
เพราะเมื่อไรที่เขาหยุดหายใจเขาก็ตาย
เขาจะช่วยอะไรได้
3 ดูเถอะ พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพและผู้เป็นนายองค์สูงสุด
กำลังจะตัดทุกสิ่งที่ค้ำจุนเยรูซาเล็มและยูดาห์
คือ เสบียงอาหารกับน้ำ+
2 ทหารกับนักรบ
ผู้พิพากษากับผู้พยากรณ์+ ผู้ทำนายกับผู้ดูแล
3 หัวหน้า*+ ผู้มีตำแหน่งสูง และที่ปรึกษา
ผู้เชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์คาถากับหมองูที่ชำนาญ+
4 เราจะตั้งเด็ก ๆ ให้เป็นเจ้านาย
และให้คนโลเลปกครองพวกเขา
5 ประชาชนจะข่มเหงกันเอง
แต่ละคนจะกดขี่คนอื่น+
เด็กจะทำร้ายคนแก่
คนที่สังคมดูถูกก็ไม่ยอมให้เกียรติคนที่สมควรได้รับเกียรติ+
6 ผู้ชายคนหนึ่งมาสะกิดพี่ชายของเขาในบ้านพ่อ และพูดว่า
“ไหน ๆ พี่ก็มีเสื้อคลุม มาเป็นผู้นำของเราให้หน่อยสิ
มาดูแลกองซากปรักหักพังนี้”
7 แต่เขาจะคัดค้านว่า
“พี่คงช่วยอะไรไม่ได้
ในบ้านพี่ก็ไม่มีอาหารหรือเสื้อผ้า
อย่ามาตั้งพี่ให้เป็นผู้นำของประชาชนเลย”
8 เยรูซาเล็มก็สะดุด
ยูดาห์ก็ล้มลงแล้ว
เพราะพวกเขาต่อต้านพระยะโฮวาทั้งทางคำพูดและการกระทำ
พวกเขายังท้าทายอำนาจพระเจ้าที่น่าเกรงขามต่อหน้าต่อตาพระองค์+
9 สีหน้าของพวกเขาก็ฟ้องตัวเอง
แล้วยังเอาบาปที่ทำมาเที่ยวบอกคนอื่นเหมือนชาวเมืองโสโดม+
พวกเขาไม่ได้พยายามจะปกปิดมันไว้
คนพวกนี้จะต้องพินาศแน่ พวกเขากำลังนำความหายนะมาสู่ตัวเอง
10 ให้บอกคนทำดีว่า เขาจะอยู่เย็นเป็นสุข
เขาจะได้รับผลตอบแทนสำหรับการทำดี+
11 แต่คนชั่วจะต้องถูกทำลายย่อยยับ
เขาจะต้องเจอกับความหายนะ
เขาจะได้รับผลเลวร้ายจากการกระทำของเขา
12 ส่วนประชาชนของเรามีหัวหน้าที่ชอบกดขี่
และยอมให้พวกผู้หญิงมาปกครอง
พวกผู้นำก็ทำให้หลงทาง
และทำให้สับสนจนไม่รู้ว่าจะไปทางไหน+
13 พระยะโฮวาจะเริ่มดำเนินคดี
และพระองค์จะยืนขึ้นเพื่อประกาศคำพิพากษาต่อชาติต่าง ๆ
14 พระยะโฮวาจะพิพากษาพวกผู้นำและพวกเจ้านายของประชาชนของพระองค์
พระองค์ประกาศว่า “พวกเจ้าเผาสวนองุ่น
และขโมยเอาของของคนจนมาไว้ที่บ้านตัวเอง+
15 พวกเจ้ากล้าดียังไงถึงมากดขี่ข่มเหงประชาชนของเรา
และโขกสับคนยากคนจน”+ พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพและเป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดบอกไว้อย่างนี้
16 พระยะโฮวาพูดว่า “ผู้หญิงชาวเมืองศิโยนนั้นทำตัวยโส
ชอบเดินเชิดหน้า
ชายตายั่วยวนคนอื่น ชอบเดินซอยเท้า
จะได้มีเสียงกรุ๊งกริ๊งที่กำไลข้อเท้า
17 พระยะโฮวาก็เลยจะทำให้ผู้หญิงชาวเมืองศิโยนมีแผลตกสะเก็ดที่หัว
และพระยะโฮวาจะทำให้ผมร่วงจนหัวล้าน+
18 ในวันนั้น พระยะโฮวาจะเอากำไลข้อเท้าสวย ๆ ของพวกเธอไป
และเอาสายคาดหน้าผาก เครื่องประดับรูปจันทร์เสี้ยว+
19 ตุ้มหู* กำไลข้อมือ และผ้าคลุม
20 เครื่องประดับศีรษะ สร้อยข้อเท้า สายรัดเอว
ตลับน้ำหอม และเครื่องราง*
21 แหวน และห่วงจมูก
22 เสื้อสำหรับออกงาน เสื้อตัวนอก เสื้อคลุม และกระเป๋า
23 กระจกด้ามถือ+ เสื้อลินิน*
ผ้าโพกหัว และผ้าคลุมไปจากพวกเธอ
24 จะมีกลิ่นเหม็นเน่ามาแทนที่น้ำมันหอม+
จะมีเชือกมาแทนที่เข็มขัด
หัวล้าน+มาแทนที่ทรงผมสวย ๆ
ผ้ากระสอบ+มาแทนที่เสื้อผ้าราคาแพง
และรอยไหม้*มาแทนที่ความงดงาม
25 ทหารของพวกเจ้าจะต้องล้มลงด้วยคมดาบ
และนักรบก็จะต้องตายในการต่อสู้+
26 จะมีแต่เสียงร้องไห้คร่ำครวญที่หน้าประตูเมือง+
และผู้คนในเมืองนี้จะนั่งบนพื้นดินในเมืองที่ร้างเปล่า”+
4 และในวันนั้น ผู้หญิง 7 คนจะพากันมาหาผู้ชายคนเดียวกัน+ แล้วพูดว่า
“เราจะหาเลี้ยงตัวเอง
และจะหาเสื้อผ้าให้ตัวเอง
แค่ขอได้ใช้นามสกุลของคุณก็พอ
2 แล้ววันหนึ่ง พระยะโฮวาจะให้สิ่งดี ๆ งอกขึ้นมาซึ่งเป็นสิ่งที่งดงามและรุ่งเรือง ผลผลิตจะงดงามและเป็นความภาคภูมิใจสำหรับชาวอิสราเอลที่รอดชีวิต+ 3 คนที่อยู่ในศิโยน คือที่ได้อยู่ในเยรูซาเล็มต่อไปจะเป็นคนบริสุทธิ์สำหรับพระองค์ เขาทุกคนจะอยู่ในรายชื่อของคนที่อยู่ในเยรูซาเล็มได้+
4 ตอนนั้นที่พระยะโฮวาแสดงความโกรธที่เป็นเหมือนไฟแผดเผา+เยรูซาเล็มและพิพากษาพวกเขา พระองค์ก็ได้ชำระล้างสิ่งโสโครก*ของชาวเมืองศิโยน+และได้ขจัดคราบเลือดของเยรูซาเล็มให้หมดไป 5 แล้วจากนั้น พระยะโฮวาจะให้มีเมฆและควันในตอนกลางวันและไฟที่ลุกโชติช่วงในตอนกลางคืน+เหนือภูเขาศิโยนทั้งหมดและเหนือที่ประชุมที่นั่น ทั่วทั้งดินแดนที่งดงามนี้จะได้รับการปกป้อง 6 และจะมีเพิงไว้หลบแดดและให้ร่มเงาในตอนกลางวัน+ และเพิงนั้นจะเป็นที่ปกป้องและกำบังจากพายุฝนด้วย+
5 ผมจะร้องเพลงให้คนที่ผมรักฟัง
เพลงเกี่ยวกับคนที่ผมรักและสวนองุ่นของเขา+
คนที่ผมรักมีสวนองุ่นอยู่บนเนินเขาที่อุดมสมบูรณ์
2 เขาขุดดินและเก็บก้อนหินออกจนหมด
แล้วก็เฝ้าคอยให้มีผลองุ่นอย่างดี
แต่มันกลับเกิดผลเป็นองุ่นเปรี้ยว+
3 เมื่อเป็นอย่างนี้ เจ้าของสวนจึงพูดว่า “ชาวเยรูซาเล็มและชาวยูดาห์
ช่วยตัดสินเรื่องระหว่างเรากับสวนองุ่นของเราให้หน่อย+
4 ที่เราทำเพื่อสวนองุ่นของเรา
มันยังไม่พออีกหรือ?+
เราเฝ้าคอยให้มีผลองุ่นอย่างดี
แต่ทำไมมันกลับให้ผลองุ่นเปรี้ยวล่ะ?
5 เราจะบอกให้ว่า
เราจะทำอะไรกับสวนองุ่นของเรา
เราจะรื้อรั้วออก
แล้วเผาสวนองุ่นทิ้ง+
จะพังกำแพงหิน
แล้วเหยียบย่ำมัน
6 เราจะทำให้มันรกร้าง+
จะไม่มีใครมาตัดแต่งกิ่งหรือพรวนดิน
7 เพราะสวนองุ่นของพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพนั้นคือชาวอิสราเอล+
ชาวยูดาห์เคยเป็นสวนที่พระองค์ชื่นชอบ*
พระองค์เฝ้าคอยให้พวกเขาตัดสินเรื่องต่าง ๆ อย่างยุติธรรม+
แต่ดูสิ พวกเขากลับไม่ได้ยึดมั่นกับกฎหมาย
และพระองค์ก็เฝ้าคอยให้พวกเขาเป็นคนดี
แต่ดูสิ พระองค์กลับได้ยินแต่เสียงร้องของผู้ถูกข่มเหง”+
8 ความพินาศจะต้องเกิดขึ้นกับคนที่มีบ้านเพิ่มขึ้นหลังแล้วหลังเล่าอย่างไม่รู้จักพอ+
และมีที่นาเพิ่มขึ้นผืนแล้วผืนเล่า+
จนคนอื่นแทบจะไม่มีที่นาเป็นของตัวเอง
จนสุดท้ายเขาก็ได้อยู่คนเดียวบนแผ่นดินที่เขาเป็นเจ้าของ
9 ผมได้ยินพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพสาปแช่งว่า
บ้านทั้งหมดนั้นไม่ว่าจะใหญ่หรือสวยแค่ไหน
ก็จะกลายเป็นสถานที่ที่น่ากลัว
และไม่มีใครอาศัยอยู่+
10 และสวนองุ่นที่กว้าง 25 ไร่ก็จะให้เหล้าองุ่นแค่ 22 ลิตร*
11 ความพินาศจะต้องเกิดขึ้นกับคนที่ตื่นมากินเหล้าแต่เช้ามืด+
กับคนที่นั่งแช่อยู่กับเหล้าองุ่นและเมาจนมืดค่ำ
12 พวกเขามีพิณและเครื่องสาย
มีกลองแทมบูริน* ขลุ่ย และเหล้าองุ่นในงานเลี้ยง
แต่พวกเขาไม่สนใจสิ่งที่พระยะโฮวาทำ
และไม่เห็นสิ่งที่เป็นผลงานของพระองค์
13 ดังนั้น ประชาชนของเราจะถูกกวาดไปเป็นเชลย
เพราะพวกเขาไม่รู้จักเรา+
คนใหญ่คนโตท่ามกลางพวกเขาจะต้องอดอยาก+
และประชาชนทั้งหมดจะหิวน้ำจนคอแห้งผาก
14 หลุมศพ*จึงขยายกว้างขึ้น
และอ้าปากกว้างขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่มีขีดจำกัด+
พวกขุนนาง ประชาชน และพวกที่ชอบสนุกเฮฮาในเยรูซาเล็ม
จะต้องลงไปอยู่ในหลุมนั้น
15 มนุษย์จะทำให้ตัวเองตกต่ำลง
พวกเขาจะต้องถูกกดให้ต่ำ
และคนจองหองจะต้องถูกกดให้ต่ำลงแน่ ๆ
16 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพจะได้รับการยกย่อง เพราะว่าพระองค์ตัดสินเรื่องต่าง ๆ อย่างยุติธรรม
พระเจ้าเที่ยงแท้องค์บริสุทธิ์ทำให้เห็นว่าพระองค์เองบริสุทธิ์จริง ๆ+ เพราะว่าพระองค์ตัดสินเรื่องต่าง ๆ อย่างถูกต้องชอบธรรม+
17 ลูกแกะจะมากินหญ้าเหมือนเป็นทุ่งหญ้าของมันเอง
คนต่างชาติก็จะมากินผลผลิตในแผ่นดินที่ร้างเปล่าซึ่งเมื่อก่อนเคยใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์จนอ้วนพี
18 ความพินาศจะเกิดขึ้นกับคนโกหก ความหลอกลวงของเขาเป็นเหมือนเชือกที่มัดเขาไว้ไม่ให้หลุดจากความผิดและความบาปของเขาเอง
เป็นเหมือนเชือกที่มัดสัตว์ให้ติดกับเกวียนที่มันลากไป
19 คนเหล่านั้นพูดว่า “พระเจ้าน่าจะทำงานของพระองค์ให้เร็วกว่านี้หน่อย
ให้เสร็จเร็ว ๆ พวกเราจะได้เห็นซะที
พระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลอยากทำอะไรก็รีบ ๆ ทำเถอะ
พวกเราจะได้รู้ซะทีว่าพระองค์ต้องการอะไร”+
20 ความพินาศจะเกิดกับคนที่เห็นดีเป็นชั่วและเห็นชั่วเป็นดี+
กับคนที่ชอบเอาความมืดมาแทนความสว่างและเอาความสว่างไปแทนความมืด
และจะเกิดกับคนที่ให้ขมเป็นหวานและให้หวานเป็นขม
21 ความพินาศจะเกิดกับคนที่คิดว่าตัวเองฉลาด
และมองว่าตัวเองมีปัญญา+
22 ความพินาศจะเกิดกับพวกคอทองแดง
และคนที่เชี่ยวชาญในการผสมเหล้า+
23 และจะเกิดกับคนที่รับสินบนแล้วปล่อยตัวคนทำผิด+
และไม่ให้ความเป็นธรรมกับคนดี+
24 พวกเขาจึงต้องถูกทำลายเหมือนกับตอข้าวที่มอดไหม้
และเหมือนหญ้าแห้งที่ไหม้ไฟ
รากจะเน่าเหม็น
และหน่อก็จะแตกแล้วฟุ้งกระจายไปเหมือนแป้ง
เพราะพวกเขาไม่ฟังคำสั่งสอน*ของพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ
และไม่เคารพคำสอนของพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล+
25 ดังนั้น ความโกรธของพระยะโฮวาจึงแผดเผาประชาชนของพระองค์
และพระองค์จะลงมือโจมตีพวกเขา+
ภูเขาทั้งหลายจะสั่นสะเทือน
และซากศพของพวกเขาจะเป็นเหมือนขยะเรี่ยราดบนถนน+
แต่ถึงอย่างนั้น พระเจ้าก็ยังไม่หายโกรธ
และยังคงลงมือโจมตีพวกเขาต่อไป
26 พระเจ้าจะให้มีสัญญาณ*เพื่อชาติหนึ่งที่อยู่ห่างไกลจะเห็น+
พระองค์จะผิวปากเรียกพวกเขาให้มาจากสุดขอบโลก+
และดูสิ พวกเขากำลังมาอย่างรวดเร็ว+
27 ในพวกเขาไม่มีใครเหนื่อยล้าหรือสะดุดล้ม
ไม่มีใครง่วงและหลับไป
เข็มขัดก็รัดเอวแน่นไม่หลุด
และเชือกรองเท้าก็ไม่ขาด
28 ลูกธนูของพวกเขาแหลมคม
คันธนูก็โก่งพร้อมจะยิง
กีบม้าก็แข็งเป็นหิน
และล้อรถศึกก็หมุนเป็นลมพายุ+
29 เสียงร้องของพวกเขาเป็นเหมือนเสียงสิงโต
พวกเขาร้องเหมือนสิงโตหนุ่ม+
พวกเขาจะคำรามและตะครุบเหยื่อ
แล้วคาบเหยื่อกลับมาโดยไม่มีใครกล้าแย่ง
30 ในวันนั้น พวกเขาจะคำรามใส่เหยื่อ
และเสียงคำรามจะเป็นเหมือนเสียงคลื่นซัดกระหน่ำของทะเล+
ใครที่มองดูแผ่นดินนั้นจะเห็นแต่ความมืดมิด
แม้แต่แสงสว่างก็ยังมืดไปเพราะถูกเมฆบดบัง+
6 ในปีที่กษัตริย์อุสซียาห์เสียชีวิต+ ผมเห็นนิมิตที่พระยะโฮวานั่งอยู่บนบัลลังก์ที่สูงเด่น+ ชายเสื้อของพระองค์ยาวแผ่เต็มวิหาร 2 และมีเสราฟอยู่รอบ ๆ พระองค์ แต่ละองค์มี 6 ปีก 2 ปีกปิดหน้า 2 ปีกปิดเท้า อีก 2 ปีกใช้บินไปมา
3 แต่ละองค์ร้องต่อ ๆ กันว่า
“พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพนั้นบริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์+
ทั่วทั้งโลกก็เต็มไปด้วยสง่าราศีของพระองค์”
4 เสียงร้องนี้ทำให้ธรณีประตูสั่นสะเทือน และวิหารมีควันเต็มไปหมด
5 แล้วผมก็พูดว่า “แย่แล้ว!
ผมต้องตายแน่ ๆ
เพราะผมเป็นคนบาป คำพูดที่ออกจากปากผมก็ไม่บริสุทธิ์
แถมอยู่กับคนในชาติที่มีคำพูดไม่บริสุทธิ์ด้วย+
และผมยังได้เห็นพระยะโฮวากษัตริย์ผู้เป็นจอมทัพ”
6 แล้วเสราฟองค์หนึ่งก็บินมาหาผม ในมือมีคีมที่คีบถ่านร้อนแดง+จากแท่นบูชามาก้อนหนึ่ง 7 เสราฟองค์นั้นก็เอามาแตะที่ปากผมและพูดว่า
“ถ่านก้อนนี้ได้แตะที่ริมฝีปากของคุณ
คุณจึงไม่มีความผิด
และบาปของคุณก็ถูกลบล้างแล้ว”
8 จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงของพระยะโฮวาพูดว่า “เราจะส่งใครไปดี?+ ใครจะไปแทนเรา?”* ผมก็ตอบว่า “ผมเองครับ ส่งผมไปเถอะ”+
9 พระองค์ก็พูดว่า “ไปบอกชนชาตินี้ว่า
‘พวกคุณจะได้ยินแล้วได้ยินอีก
แต่จะไม่เข้าใจ
จะได้เห็นแล้วได้เห็นอีก
แต่จะไม่รู้อะไรเลย’+
10 และทำให้ใจของชนชาตินี้ด้านชา+
ทำให้หูของพวกเขาตึง+
ทำให้ตาของพวกเขาปิดจนลืมไม่ขึ้น
เพื่อจะไม่เห็น
ไม่ได้ยิน
จะได้ไม่เข้าใจ
และไม่หันกลับมาให้เรารักษาให้หาย”+
11 ผมจึงถามว่า “พระยะโฮวาครับ จะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน?” พระองค์บอกว่า
“ก็จนกว่าเมืองต่าง ๆ จะกลายเป็นซากปรักหักพังและไร้ผู้คน
บ้านเรือนไม่มีคนอยู่อาศัย
แผ่นดินถูกทำลายและร้างเปล่า+
12 และจนกว่าพระยะโฮวาจะขับไล่ผู้คนไปยังแดนไกล+
แล้วทั่วทั้งแผ่นดินจะถูกทิ้งร้างไปทั้งหมด
13 “แต่ประชาชนชาวอิสราเอลจะยังมีผู้คนเหลืออยู่ 1 ใน 10 และจะมีการเผาอีก ประชาชนชาวอิสราเอลก็เป็นเหมือนต้นไม้ใหญ่และต้นโอ๊กที่ถูกโค่นลงแต่ยังมีตอเหลืออยู่ และตอนี้จะแตกกิ่ง*ที่บริสุทธิ์”
7 เรื่องราวในตอนนี้เกิดขึ้นในสมัยที่อาหัส+เป็นกษัตริย์ของยูดาห์ อาหัสเป็นลูกของกษัตริย์โยธาม และเป็นหลานของกษัตริย์อุสซียาห์ ตอนนั้น กษัตริย์เรซีนแห่งซีเรียและกษัตริย์เปคาห์+ลูกเรมาลิยาห์แห่งอิสราเอลมาโจมตีกรุงเยรูซาเล็ม แต่เอาชนะไม่ได้+ 2 มีคนส่งข่าวมาถึงคนในราชวงศ์ดาวิดว่า “กองทัพซีเรียมาสมทบกับกองทัพเอฟราอิม*แล้ว”
และกษัตริย์อาหัสกับประชาชนก็เริ่มกลัวจนอกสั่นขวัญแขวนเหมือนต้นไม้ในป่าที่โอนเอนไปมาเมื่อถูกแรงลม
3 พระยะโฮวาจึงบอกอิสยาห์ว่า “ช่วยออกไปเจอกับกษัตริย์อาหัสหน่อย พาเชอาร์ยาชูบ*ลูกชายไปด้วย+ ให้ออกไปเจอเขาที่ปลายทางส่งน้ำของสระบน+ซึ่งอยู่ติดกับถนนที่ไปลานซักผ้า 4 และพูดกับกษัตริย์ว่า ‘ใจเย็น ๆ ไม่ต้องกลัว อย่าเสียขวัญเพราะความโกรธของกษัตริย์เรซีนแห่งซีเรียและของคนที่เป็นลูกของเรมาลิยาห์+เลย เพราะพวกเขาเป็นเหมือนตอไม้สองตอจากต้นไม้ใหญ่ที่ไหม้ไฟและกำลังจะมอดอยู่แล้ว 5 พวกซีเรียกับเอฟราอิมและลูกของเรมาลิยาห์วางแผนที่จะทำร้ายพวกคุณและพูดว่า 6 “ให้เราขึ้นไปที่ยูดาห์ และทำลายพวกเขาให้ย่อยยับ* ยึดแผ่นดินนั้นมาเป็นของเรา และตั้งลูกของทาเบเอลเป็นกษัตริย์เถอะ”+
7 “‘แต่พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดพูดว่า
“แผนการของพวกเขาจะไม่มีทางสำเร็จ
และเรื่องนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้น
8 ตอนนี้กรุงดามัสกัสเป็นเมืองหลวงของซีเรีย
และมีกษัตริย์เรซีนปกครองอยู่
แต่ภายใน 65 ปี
เอฟราอิมจะถูกทำลายจนสิ้นชาติ+
แต่พวกเจ้าต้องมีความเชื่อมั่น
จะได้อยู่อย่างมั่นคงปลอดภัย”’”
10 พระยะโฮวายังพูดกับกษัตริย์อาหัสต่อไปอีกว่า 11 “จะขออะไรที่เป็นหลักฐานยืนยันจากพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าก็ได้+ จะเป็นอะไรที่อยู่ลึกลงไปใต้ดินหรือที่อยู่สูงขึ้นไปบนฟ้าก็ได้” 12 แต่กษัตริย์อาหัสบอกว่า “ผมจะไม่ขอ และไม่อยากให้พระยะโฮวามายืนยันอะไรตอนนี้”
13 จากนั้น อิสยาห์พูดว่า “คนในราชวงศ์ดาวิด ขอผมพูดอะไรหน่อย ที่คนอื่นต้องมาอดทนกับพวกคุณนั้นยังไม่พออีกหรือ? ทำไมพวกคุณต้องให้พระเจ้ามาอดทนกับพวกคุณด้วย?+ 14 แต่ถึงอย่างไร พระยะโฮวาก็จะให้หลักฐานยืนยันกับพวกคุณอยู่ดี คอยดูเถอะ หญิงสาว*คนหนึ่งจะตั้งท้องและคลอดลูกชาย+ และจะตั้งชื่อลูกชายคนนั้นว่าอิมมานูเอล*+ 15 ตอนที่เด็กคนนี้โตพอจะรู้ดีรู้ชั่วก็จะไม่มีอะไรให้เขากินนอกจากเนยกับน้ำผึ้ง 16 แต่ก่อนที่เด็กคนนี้จะรู้ดีรู้ชั่ว แผ่นดินของกษัตริย์สององค์ที่ทำให้พวกคุณหวาดกลัวนั้นจะต้องถูกทิ้งให้ร้างเปล่าไป+ 17 พระยะโฮวาจะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ยากลำบากกับคุณ กับประชาชน และราชวงศ์ของพ่อคุณ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตั้งแต่สมัยที่เอฟราอิมแยกจากยูดาห์ไป+ และพระองค์จะทำเรื่องนี้โดยทางกษัตริย์อัสซีเรีย+
18 “ในวันนั้น พระยะโฮวาจะผิวปากเรียกพวกแมลงวันจากแม่น้ำไนล์ที่อยู่ไกลโพ้นในอียิปต์ และจะเรียกพวกผึ้งมาจากอัสซีเรีย 19 พวกมันจะมาอยู่รวมกันในหุบเขาสูงชัน ซอกหิน อยู่ทั่วพงหนามและตามทุ่งหญ้าเต็มไปหมด
20 “ในวันนั้น พระยะโฮวาจะจ้างคนที่เป็นเหมือนมีดโกนมาจากแถบแม่น้ำยูเฟรติส คนนั้นคือกษัตริย์อัสซีเรีย+ ให้มาโกนหัว โกนขนหน้าแข้ง และโกนหนวดเคราจนหมด
21 “ในวันนั้น ผู้ชายคนหนึ่งจะมีวัวเหลือให้เลี้ยงแค่ตัวเดียวกับแกะอีกสองตัว 22 เขาจะได้กินแต่เนยเพราะมีแต่นม และทุกคนที่เหลืออยู่ในแผ่นดินก็จะได้กินแต่เนยกับน้ำผึ้ง
23 “ในวันนั้น ที่ไหนที่เคยมีต้นองุ่น 1,000 ต้นที่มีค่าเป็นเงินหนัก 1,000 เชเขล*ก็จะกลายเป็นที่ที่มีแต่พงหนามกับวัชพืช 24 ตอนเข้าไปที่นั่นผู้คนจะถือคันธนูกับลูกธนูไปด้วย เพราะแผ่นดินจะมีแต่พงหนามกับวัชพืช 25 บนเนินเขาที่เคยถูกถางด้วยจอบจะไม่มีใครเข้าไปใกล้ เพราะกลัวพงหนามกับวัชพืช มีแต่วัวที่จะเข้าไปหากินและแกะจะไปเดินย่ำ”
8 พระยะโฮวาพูดกับผมว่า “ไปเอากระดานแผ่นใหญ่มาแผ่นหนึ่ง+ แล้วใช้ปากกาปลายแหลมเขียนลงไปว่า ‘มาเฮอร์ชาลาลหัชบัส’* 2 แล้วไปหาปุโรหิตอุรีอาห์+กับเศคาริยาห์ลูกของเยเบเรคียาห์ซึ่งเป็นพยานที่น่าเชื่อถือ ให้มายืนยันข้อความนี้เป็นลายลักษณ์อักษร”
3 ต่อมา ผมมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาซึ่งเป็นผู้พยากรณ์หญิง เธอตั้งท้องแล้วก็คลอดลูกชาย+ พระยะโฮวาบอกผมว่า “ให้ตั้งชื่อลูกว่า มาเฮอร์ชาลาลหัชบัส 4 เพราะก่อนที่เด็กนั้นจะเรียก ‘พ่อ’ เรียก ‘แม่’ เป็น คนของกษัตริย์อัสซีเรียจะเอาทรัพย์สมบัติของดามัสกัสและของปล้นที่ได้จากสะมาเรียไป”+
5 พระยะโฮวาพูดกับผมต่อไปว่า
6 “ชนชาตินี้ไม่ยอมรับน้ำจากชิโลอาห์*ที่ไหลเอื่อย ๆ+
แต่กลับไปชื่นชมกษัตริย์เรซีนกับลูกของเรมาลิยาห์+
7 เพราะอย่างนี้ พระยะโฮวาจะให้มีแม่น้ำใหญ่*
คือกษัตริย์อัสซีเรีย+กับกองกำลังของเขา
ไหลกระหน่ำมาซัดพวกเขา
น้ำนี้จะขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว
และซัดขึ้นมาท่วมฝั่ง
8 จนเข้ามาถึงยูดาห์
จนท่วมสูงขึ้นมาถึงคอ+
และท่วมไปสุดแผ่นดินเหมือนนกกางปีกจนสุดปีก
9 ชนชาติทั้งหลาย ทำร้ายพวกเขาสิ แต่พวกคุณนั่นแหละจะถูกบดขยี้
ประเทศทั้งหลายที่อยู่ห่างไกล ตั้งใจฟังให้ดี
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการศึกไปเถอะ* แต่พวกคุณนั่นแหละจะถูกบดขยี้+
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการศึกไปเถอะ แต่พวกคุณนั่นแหละจะถูกบดขยี้
10 วางแผนกันไปเถอะ แต่จะไม่สำเร็จ
11 แล้วพระยะโฮวาก็พูดกับผม เมื่อพระองค์พูด พระองค์ได้ให้พลังที่เข้มแข็งแก่ผมด้วย แล้วก็เตือนผมไม่ให้ทำตามชนชาตินี้ว่า
12 “เมื่อพวกเขาชวนกันกบฏ ก็อย่าทำอย่างพวกเขา
อย่าไปกลัวสิ่งที่เขากลัวกัน
อย่าตกใจกลัวเลย
13 ขอให้จำไว้ว่า เฉพาะพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพเท่านั้นที่เป็นองค์บริสุทธิ์+
พระองค์ต่างหากที่พวกเจ้าควรเกรงกลัว
อย่าให้ใครมาทำให้เจ้ากลัวจนตัวสั่น”+
14 พระองค์จะเป็นเหมือนที่กำบัง*
แต่ก็เป็นก้อนหินที่ทำให้สะดุด
และเป็นหินที่ทำให้ล้มลงด้วย+
สำหรับอิสราเอลทั้งสองอาณาจักร
และพระองค์เป็นกับดักและบ่วงแร้ว
สำหรับชาวเยรูซาเล็ม
15 พวกเขาหลายคนจะสะดุดล้ม แล้วกระดูกหัก
จะติดกับ แล้วถูกจับไป
16 มาปิดผนึกม้วนหนังสือซึ่งมีข้อความเขียนไว้กันเถอะ
ปิดและเก็บไว้ให้ดีเพื่อคำสั่งสอน*นี้จะอยู่กับสาวกของผม
17 ผมจะตั้งตาคอยพระยะโฮวา+ ถึงแม้ตอนนี้พระองค์จะหันหน้าหนีลูกหลานของยาโคบ+ก็ตาม แต่ผมก็จะมั่นใจในพระองค์เสมอ
18 ผมกับลูก ๆ ที่พระยะโฮวาให้มา+นั้นเป็นหลักฐานยืนยัน+และเป็นเหมือนสิ่งอัศจรรย์สำหรับอิสราเอล ซึ่งมาจากพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพที่อยู่บนภูเขาศิโยน
19 และถ้ามีคนมาชวนพวกคุณว่า “ไปถามคนทรงหรือหมอดูที่ชอบพูดงึมงำหรือทำเสียงกระซิบกระซาบสิ” พวกคุณจะไปไหม? พวกคุณควรไปหาพระเจ้าที่ตัวเองนับถือไม่ใช่หรือ? ถูกไหมที่จะขอให้คนตายมาช่วยคนเป็น?+ 20 ไปดูกฎหมายและค้นหาคำสั่งสอนของพระเจ้าไม่ดีกว่าหรือ?
ถ้าพวกเขาไม่พูดตามที่เขียนไว้ พวกเขาก็ไม่มีความสว่าง+ 21 ประชาชนจะระหกระเหินไปด้วยความลำบากและหิวโหย+ พวกเขาจะเงยหน้าขึ้นฟ้าสาปแช่งกษัตริย์และพระเจ้าของพวกเขาเองเพราะความหิวโหยและความโกรธแค้น 22 แล้วก็จะก้มลงดูพื้นดิน เห็นแต่ความทุกข์กับความมืดมิด ความมืดมนกับความทุกข์ยาก และความมืดครึ้ม ไม่มีความสว่างเลย
9 อย่างไรก็ตาม ในวันข้างหน้าจะไม่มีความมืดมิดเหมือนอย่างในช่วงที่ยุ่งยากวุ่นวายเมื่อตอนที่แผ่นดินเศบูลุนและแผ่นดินนัฟทาลีถูกเหยียดหยาม+ เพราะในตอนนั้น พระเจ้าจะทำให้แผ่นดินนั้นได้รับเกียรติตั้งแต่เส้นทางไปทะเล ริมแม่น้ำจอร์แดน คือแคว้นกาลิลีของคนต่างชาติ
2 ประชาชนที่เคยเดินอยู่ในความมืด
ได้เห็นแสงสว่างเจิดจ้า
และคนที่อยู่ในแผ่นดินที่มีแต่เงามืดทึบ
แสงสว่างได้ส่องลงบนพวกเขาแล้ว+
3 พระองค์ได้ทำให้ประชาชนเพิ่มขึ้น
และทำให้ทั้งชาติมีความยินดีอย่างมาก
พระองค์เห็นพวกเขามีความสุข
มีความสุขเหมือนคนที่ชื่นบานในฤดูเกี่ยว
และเหมือนคนที่ยินดีตอนแบ่งปันข้าวของของเชลยให้กัน
4 พระองค์ได้ทำลายแอกที่เป็นภาระของพวกเขา
และทำลายไม้พลองของผู้กดขี่กับกระบองของผู้ข่มเหง
เหมือนกับในสมัยที่พระองค์ทำให้พวกมีเดียนพ่ายแพ้+
5 รองเท้าทหารทุกคู่ที่ทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือนจากการเดินแถว
และเสื้อทุกตัวที่เปรอะเปื้อนเลือด
จะกลายเป็นเชื้อเพลิงให้ไฟเผา
6 เพราะมีเด็กคนหนึ่งที่เกิดมาเพื่อพวกเรา+
เป็นลูกชายที่พระเจ้าให้เรา
ใคร ๆ ก็จะเรียกท่านว่าที่ปรึกษามหัศจรรย์+ พระเจ้าผู้มีพลังอำนาจ+ บิดาถาวร และเจ้าชายแห่งสันติสุข
7 การปกครอง*ของท่านจะยิ่งใหญ่
และจะมีสันติสุขตลอดไป+บนบัลลังก์ของดาวิด+
และในรัฐบาลของท่าน
รัฐบาลนี้จะถูกตั้งขึ้นอย่างมั่นคง+และคงอยู่ตลอดไป
ตั้งแต่นี้ไปจนตลอดกาล
พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพตั้งใจจะทำสิ่งเหล่านี้ให้สำเร็จ
8 พระยะโฮวามีคำเตือนมาถึงยาโคบ
และคำเตือนนั้นมาถึงอิสราเอลแล้ว+
9 ประชาชนทุกคนจะต้องรับรู้เรื่องนี้
ทั้งเอฟราอิมและชาวสะมาเรีย
ทุกคนที่พูดอย่างเย่อหยิ่งและทะนงตัวว่า
10 “ถึงบ้านที่ทำจากอิฐจะพังลง
แต่พวกเราก็จะสร้างขึ้นใหม่ด้วยหินที่สกัดอย่างดี+
และถึงต้นมะเดื่อป่าจะถูกตัด
แต่พวกเราก็จะเอาต้นสนซีดาร์มาปลูกแทน”
11 พระยะโฮวาจะทำให้ศัตรูของกษัตริย์เรซีนมาต่อสู้อิสราเอล
และจะกระตุ้นให้พวกศัตรูของอิสราเอลลงมือจัดการ
12 ชาวซีเรียจะมาโจมตีจากทางทิศตะวันออกและชาวฟีลิสเตียโจมตีจากทางทิศตะวันตก+
พวกเขาจะอ้าปากกลืนกินอิสราเอล+
แต่ถึงอย่างนั้น พระเจ้าก็ยังไม่หายโกรธ
และยังคงลงมือโจมตีพวกเขาต่อไป+
13 แต่ประชาชนก็ยังไม่ยอมหันกลับมาหาพระเจ้าที่ได้ตีพวกเขา
และไม่ได้พยายามกลับมาหาพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ+
15 พวกผู้ใหญ่ที่คนอื่นนับหน้าถือตาเป็นเหมือนหัว
และผู้พยากรณ์ที่สอนผิด ๆ ก็เป็นเหมือนหาง+
16 คนนำทางทำให้ชนชาตินี้หลงทาง
และคนติดตามก็สับสน
17 ดังนั้น พระยะโฮวาจะไม่ยินดีกับคนหนุ่มของพวกเขา
และพระองค์จะไม่เมตตาลูกกำพร้าพ่อ*และแม่ม่ายของพวกเขาเลย
เพราะพวกเขาทุกคนทรยศพระเจ้าและทำสิ่งชั่วร้าย+
และพูดแต่เรื่องโง่ ๆ
แต่ถึงอย่างนั้น พระเจ้าก็ยังไม่หายโกรธ
และยังคงลงมือโจมตีพวกเขาต่อไป+
18 ความชั่วร้ายลุกไหม้เหมือนไฟ
ที่เผาผลาญทั้งพงหนามและวัชพืช
และจะทำให้พุ่มไม้ในป่าติดไฟ
ทั้งป่าจะลุกไหม้เป็นควันโขมง
19 แผ่นดินถูกไฟเผา
เพราะความโกรธของพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ
และประชาชนก็จะเป็นเชื้อเพลิงให้ไฟนั้นเผา
ตอนนั้น จะไม่มีใครไว้ชีวิตใครแม้แต่พี่น้องของตัวเอง
20 คนหนึ่งจะหั่นเนื้อที่ข้างขวามากิน
แต่ก็ยังหิวอยู่
อีกคนหนึ่งก็จะกินเนื้อที่ข้างซ้าย
แต่ก็ยังไม่หนำใจ
ต่างคนต่างจะกินเนื้อที่แขนของตัวเอง
21 มนัสเสห์จะทำลายเอฟราอิม
และเอฟราอิมก็จะจัดการมนัสเสห์
แต่เขาทั้งสองจะต่อสู้ยูดาห์+
แต่ถึงอย่างนั้น พระเจ้าก็ยังไม่หายโกรธ
และยังคงลงมือโจมตีพวกเขาต่อไป+
10 ความพินาศจะต้องเกิดกับคนที่ออกกฎหมายไม่เป็นธรรม+
และคนที่ร่างกฎหมายกดขี่ประชาชน
2 เพื่อลิดรอนสิทธิ์ของคนจน
ไม่ให้ความยุติธรรมคนยากไร้+
เป็นการปล้นทั้งแม่ม่าย
พวกคุณจะหนีไปพึ่งใคร?+
และจะเอาทรัพย์สมบัติไปเก็บไว้ที่ไหน?
4 ตอนนั้นมีแต่จะต้องไปคุดคู้อยู่ในหมู่เชลย
หรือไม่ก็ล้มตายอยู่ในหมู่คนที่ถูกฆ่า
แต่ถึงอย่างนั้น พระเจ้าก็ยังไม่หายโกรธ
และยังคงลงมือโจมตีพวกเขาต่อไป+
5 “ดูชาวอัสซีเรียนั่นสิ+
เขาเป็นไม้เรียวที่เราใช้เมื่อเราโกรธ+
และไม้ที่อยู่ในมือของเขาก็เป็นไม้ที่เราใช้แสดงความโกรธ
6 เราจะส่งเขาไปต่อสู้ชาติที่ทรยศเรา+
ชนชาติที่ทำให้เราโกรธจัด
เราจะสั่งเขาให้ปล้นเอาข้าวของและริบเอาทรัพย์สินของชนชาตินี้ไป
แล้วเหยียบย่ำพวกเขาเหมือนย่ำโคลนบนถนน+
7 แต่เขาไม่คิดจะทำแค่นั้น
เขาวางแผนไว้มากกว่านี้อีก
เพราะเขาตั้งใจจะทำลายล้าง
ทำลายหลาย ๆ ชาติ ไม่ใช่แค่ไม่กี่ชาติ
8 เพราะเขาพูดว่า
‘คนที่เคยเป็นกษัตริย์ก็มาเป็นข้ารับใช้ของเราไม่ใช่หรือ?+
9 เมืองคาลโน+ก็เหมือนคาร์เคมิช+
และฮามัท+ก็เหมือนเมืองอาร์ปัด+
แล้วกรุงสะมาเรีย+ก็ไม่ต่างอะไรกับกรุงดามัสกัส+ไม่ใช่หรือ?
10 เราเคยยึดหลายอาณาจักรที่นมัสการพระต่าง ๆ ที่ไร้ค่า
และมีรูปเคารพแกะสลักมากยิ่งกว่าที่เยรูซาเล็มกับสะมาเรียซะอีก+
11 และเราได้จัดการกับสะมาเรียและพระต่าง ๆ ที่ไร้ค่าของเมืองนั้นมาแล้ว
เราจะไม่จัดการกับเยรูซาเล็มและรูปเคารพของเมืองนี้ด้วยหรือ?’+
12 “เมื่อพระยะโฮวาทำงานทั้งหมดของพระองค์ที่ภูเขาศิโยนและในเยรูซาเล็มเสร็จแล้ว พระองค์จะลงโทษกษัตริย์อัสซีเรียที่เย่อหยิ่งและชอบดูถูกเหยียดหยาม+ 13 เพราะเขาพูดว่า
‘เราจะทำทั้งหมดนี้ด้วยกำลังของเราเอง
ด้วยสติปัญญาอันชาญฉลาดของเรา
เราจะรื้อพรมแดนของชาติต่าง ๆ+
แล้วปล้นเอาทรัพย์สมบัติของพวกเขา+
และปราบประชาชนของพวกเขาด้วยกำลังของเรา+
14 เราจะฉกชิงทรัพย์สมบัติจากชาติต่าง ๆ อย่างง่ายดาย
เหมือนคนที่เอื้อมมือไปที่รังนก
และเราจะเอาประเทศต่าง ๆ ทั่วทั้งโลกมาเป็นของเรา
เหมือนคนที่เอื้อมมือไปเก็บไข่ที่ถูกทิ้งไว้ในรัง
จะไม่มีใครกระพือปีก อ้าปาก หรือส่งเสียงร้อง’”
15 ขวานจะอวดว่าตัวมันเหนือกว่าคนที่ใช้มันหรือ?
เลื่อยจะอวดว่าตัวมันเหนือกว่าคนที่ใช้มันไหม?
กระบอง+จะเอาคนที่ถือมันมาแกว่งไปแกว่งมาได้หรือเปล่า?
หรือไม้เท้าจะยกคนที่ถือมันได้ไหม?
16 ดังนั้น พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพผู้เป็นนายองค์สูงสุด
จะทำให้คนที่สมบูรณ์แข็งแรง*กลับผอมแห้งไป+
และทำให้สง่าราศีของเขาหมดไปเหมือนถูกไฟเผาจนมอดไหม้+
17 แสงสว่างของอิสราเอล+จะเป็นเหมือนไฟที่เผาไหม้+
และองค์บริสุทธิ์ของเขาก็จะเป็นเหมือนเปลวเพลิง
ไฟนั้นจะร้อนจัดและทำลายวัชพืชและพงหนามของเขา*ในวันเดียว
18 พระองค์จะทำลายความสวยงามของป่าและสวนผลไม้ของเขาให้หมดไป
เขาจะเป็นเหมือนกับคนเป็นโรคร้ายที่อาการทรุดลงเรื่อย ๆ+
19 ต้นไม้ที่หลงเหลืออยู่ในป่าของเขา
จะมีน้อยมากจนเด็กจะนับได้
20 ในวันนั้น คนที่เหลืออยู่ในอิสราเอล
และลูกหลานของยาโคบที่รอดชีวิต
จะไม่ต้องพึ่งพิงผู้ที่โจมตีพวกเขาอีก+
แต่จะพึ่งพิงพระยะโฮวา
พระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล และซื่อสัตย์ต่อพระองค์
21 คนที่เหลืออยู่จะกลับมา
ลูกหลานของยาโคบที่เหลืออยู่จะกลับมาหาพระเจ้าผู้มีพลังอำนาจ+
22 แม้ว่าประชาชนชาวอิสราเอล
จะมีมากเหมือนเม็ดทรายที่ชายทะเล
แต่จะเหลือไม่กี่คนที่จะได้กลับมา+
23 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพและเป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดได้กำหนดไว้แล้วว่าจะมีการทำลายล้าง
และการทำลายนี้จะเกิดขึ้นทั่วทั้งแผ่นดิน+
24 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพและเป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดพูดว่า “ประชาชนของเราที่อยู่ในศิโยน ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องไปกลัวพวกอัสซีเรียที่เคยตีพวกเจ้าด้วยกระบอง+ และที่เอาไม้มาฟาดพวกเจ้าเหมือนที่พวกอียิปต์เคยทำ+ 25 เพราะอีกไม่นานเราจะหายโกรธ เมื่อเราทำลายพวกเขาไปแล้ว+เราก็จะไม่โกรธอีก 26 เรายะโฮวาผู้เป็นจอมทัพจะใช้แส้ฟาดเขา+เหมือนตอนที่เราทำลายพวกมีเดียนที่หินใหญ่โอเรบ+ และจะยกไม้เท้าของเราขึ้นเหนือทะเลเหมือนที่เคยทำกับพวกอียิปต์+
27 ในวันนั้น ภาระหนักที่เขาวางไว้จะถูกยกออกจากบ่าของพวกเจ้า+
และแอกของเขาก็จะถูกยกออกจากคอของพวกเจ้า+
29 พวกเขาได้เดินลุยข้ามแม่น้ำตรงบริเวณน้ำตื้น
และค้างคืนที่เมืองเกบา+
ทำเอาคนที่เมืองรามาห์กลัวจนตัวสั่น และคนในกิเบอาห์+ซึ่งเป็นเมืองของซาอูลก็พากันหนีหัวซุกหัวซุน+
30 ชาวเมืองกัลลิม กรีดร้องให้ลั่นเลย
เมืองไลชาห์ ระวังตัวไว้เถอะ
โถ เมืองอานาโธทที่น่าสงสาร+
31 คนที่มัดเมนาห์ได้หนีไป
คนในเกบิมก็หาที่กำบัง
32 แต่ในวันนี้ เขาก็มาถึงที่เมืองโนบ+แล้ว
เขาจะชูกำปั้นไปที่ภูเขาของเมืองศิโยน
ไปที่เนินเขาที่เยรูซาเล็มตั้งอยู่
33 ดูสิ พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพผู้เป็นนายองค์สูงสุด
กำลังตัดกิ่งต่าง ๆ ให้ตกลงมาเสียงดังสนั่น+
ต้นไม้สูง ๆ กำลังถูกโค่นลง
และต้นที่สูงตระหง่านก็กำลังถูกตัดให้เตี้ย
34 พระองค์จะใช้ขวานฟันพุ่มไม้ในป่า
ผู้มีฤทธิ์องค์หนึ่งจะทำให้ต้นไม้ในเลบานอนล้มลง
11 กิ่งหนึ่ง+จะงอกออกมาจากตอของเจสซี+
และหน่อหนึ่ง+ที่งอกออกมาจากรากของเขาจะเกิดผล
2 และท่านผู้นั้นจะได้รับพลังจากพระยะโฮวา+และพลังนี้จะอยู่กับท่าน
ท่านจึงมีสติปัญญา+และความเข้าใจ
ให้คำปรึกษาได้ดี และมีอำนาจ+
มีความรู้ และเกรงกลัวพระยะโฮวา
3 ท่านผู้นั้นจะมีความยินดีที่ได้เกรงกลัวพระยะโฮวา+
ท่านจะไม่พิพากษาตามที่ตาเห็น
หรือตัดสินแค่ตามที่หูได้ยิน+
4 ท่านจะให้ความเป็นธรรมกับคนจน
จะว่ากล่าวตักเตือนผู้คนอย่างตรงไปตรงมาเพื่อช่วยคนอ่อนน้อม
ท่านจะออกคำสั่งลงโทษผู้คนบนโลกเหมือนตีด้วยไม้เรียว+
และคนชั่วจะถูกประหารเพราะคำสั่งที่ออกมาจากปากของท่าน+
5 ท่านพร้อมจะลงมือทำเพราะท่านมีความยุติธรรม*ที่เป็นเหมือนเข็มขัดคาดไว้ที่เอว
และมีความซื่อสัตย์ที่เป็นเหมือนผ้าที่คาดเอวไว้
6 ตอนนั้น หมาป่ากับลูกแกะจะอยู่ด้วยกันได้+
เสือดาวและลูกแพะก็จะนอนเล่นอยู่ด้วยกัน
ลูกวัวกับสิงโตและพวกสัตว์ตัวอ้วนพีจะอยู่รวมกัน*+
และเด็กเล็ก ๆ จะเป็นผู้นำของมัน
7 แม่วัวกับหมีจะหากินด้วยกัน
ลูก ๆ ของมันก็จะนอนอยู่ด้วยกัน
สิงโตจะกินฟางเหมือนวัว+
8 เด็กที่ยังไม่หย่านมจะเล่นอยู่ใกล้รูงูเห่า
และเด็กที่หย่านมแล้วจะเอามือวางบนรังงูพิษ
9 สัตว์เหล่านี้จะไม่ทำอันตราย+
หรือทำให้เกิดความเสียหายเลย ไม่ว่าที่ไหนบนภูเขาบริสุทธิ์ของเรา+
เพราะความรู้เกี่ยวกับพระยะโฮวาจะมีเต็มโลก
เหมือนน้ำมีอยู่เต็มทะเล+
10 ในวันนั้น ผู้ที่เป็นรากของเจสซี+จะถูกตั้งขึ้นเป็นสัญญาณ*ให้ชนชาติต่าง ๆ เห็น+
11 ในวันนั้น พระยะโฮวาจะยื่นมือเข้าช่วยเหลืออีกครั้ง ในครั้งที่สองนี้พระองค์จะเรียกประชาชนของพระองค์ที่ยังเหลืออยู่ในอัสซีเรีย+ อียิปต์+ ปัทโรส+ คูช*+ เอลาม+ บาบิโลน* ฮามัท และเกาะต่าง ๆ ในทะเล+ให้กลับมา 12 พระเจ้าจะให้มีสัญญาณ*เพื่อชาติต่าง ๆ จะเห็น พระองค์จะรวบรวมชาวอิสราเอลที่กระจัดกระจายอยู่+ และจะรวบรวมชาวยูดาห์ที่กระจายอยู่จากทั้งสี่มุมโลก+
13 ความอิจฉาของเอฟราอิมจะหมดไป+
และคนที่เป็นศัตรูของยูดาห์จะไม่มีเหลืออีก
เอฟราอิมจะไม่อิจฉายูดาห์
และยูดาห์ก็จะไม่เป็นศัตรูกับเอฟราอิม+
14 แล้วพวกเขาจะโฉบลงจัดการชาวฟีลิสเตียบริเวณที่ลาดเอียงทางทิศตะวันตก
และพวกเขาจะร่วมกันปล้นประชาชนทางทิศตะวันออก
พระองค์จะทำให้แม่น้ำที่มี 7 แควนั้น*แห้งไปด้วยลมที่ร้อนจัด
ถึงขั้นที่ผู้คนจะใส่รองเท้าเดินข้ามแม่น้ำได้
16 และจะมีทางหลวง+ให้ประชาชนที่เหลืออยู่ของพระองค์ได้ออกจากอัสซีเรีย+
เหมือนที่เคยมีให้ชาวอิสราเอลตอนที่พวกเขาออกจากอียิปต์
12 ในวันนั้น พวกคุณจะพูดว่า
“ขอบคุณพระยะโฮวาจริง ๆ
ถึงพระองค์จะโกรธเรา
แต่ในที่สุดพระองค์ก็หายโกรธและหันมาปลอบโยนเราแทน+
2 เราเห็นแล้วว่าพระเจ้าช่วยเราให้รอดได้จริง ๆ+
เราจะวางใจพระองค์และไม่กลัวอะไร+
ยาห์*ยะโฮวาทำให้เราเข้มแข็งและมีกำลัง
พระองค์ช่วยเราให้รอดแล้ว”+
3 พวกคุณจะตักน้ำด้วยความยินดี
เป็นน้ำจากน้ำพุที่ช่วยชีวิตให้รอด+
4 และในวันนั้นพวกคุณจะพูดว่า
“ให้พวกเราขอบคุณพระยะโฮวาและร้องเรียกชื่อพระองค์
บอกให้ชาติต่าง ๆ รู้ว่าพระองค์ทำอะไร+
และให้พวกเขารู้ว่าไม่มีชื่อไหนที่ยิ่งใหญ่กว่านี้อีก+
5 ให้เราร้องเพลง*สรรเสริญพระยะโฮวา+เพราะพระองค์ทำสิ่งต่าง ๆ ที่ยอดเยี่ยม+
และให้คนทั่วโลกรู้เรื่องนี้
6 ให้มาโห่ร้องด้วยความยินดีกันเถอะชาวศิโยน
เพราะพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลได้อยู่กับพวกคุณแล้ว”
13 อิสยาห์ลูกชายของอามอสเห็นนิมิต+ซึ่งเป็นคำพิพากษาต่อบาบิโลน+ ดังนี้
2 “ให้มีสัญญาณ*+บนภูเขาที่โล่งเตียน
แล้วโบกมือร้องเรียกให้คนมา
ให้เขาเข้ามาทางประตูเมืองของพวกเจ้านาย
3 เรามีคำสั่งไปถึงผู้ที่เราแต่งตั้ง*+
และเราได้เรียกนักรบของเราให้มาจัดการให้สาสมกับที่เราโกรธ
พวกเขาเป็นคนที่มีความยินดีและภูมิใจ
4 ฟังสิ เสียงอึกทึกบนภูเขา
เหมือนเสียงของผู้คนมากมาย
ฟังสิ เสียงเอะอะของอาณาจักรต่าง ๆ
และของชาติต่าง ๆ ที่ถูกรวบรวมเข้ามา+
พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพกำลังระดมพลมาทำสงคราม+
5 ชาติเหล่านี้จะมาจากแดนไกล+
มาจากสุดขอบฟ้า
พระยะโฮวากำลังมาโดยมีความโกรธเป็นอาวุธ
เพื่อทำลายแผ่นดินนั้นให้หมดสิ้นไป+
6 ร้องห่มร้องไห้ไปเถอะ วันของพระยะโฮวามาใกล้แล้ว
เพราะในวันนั้น พระองค์ผู้มีพลังอำนาจสูงสุดจะทำลายทุกสิ่งในแผ่นดินนั้น+
7 ใคร ๆ จึงพากันกลัวจนมือไม้อ่อน
พากันกลัวจนเสียขวัญ+
8 ประชาชนจะตื่นตกใจ+
เกร็งจนตัวสั่น และเจ็บปวด
เหมือนผู้หญิงเจ็บท้องคลอด
ต่างคนต่างจะมองตากันด้วยความหวาดกลัว
และหน้าตาบ่งบอกถึงความเจ็บปวด
9 วันของพระยะโฮวามาใกล้แล้ว
จะเป็นวันหฤโหดที่มาพร้อมกับความโกรธที่ร้อนแรง
ใคร ๆ ในแผ่นดินนั้นจะหวาดกลัวกันไปหมด+
และคนบาปในแผ่นดินนั้นจะถูกทำลายให้หมดสิ้น
10 ดวงดาวบนท้องฟ้าและกลุ่มดาวต่าง ๆ*+
จะไม่ทอแสง
ดวงอาทิตย์ที่ขึ้นมาจะมืดมิด
ดวงจันทร์ก็จะไม่ส่องแสง
11 เราจะคิดบัญชีกับประชาชนในโลกที่ทำความชั่ว+
และเราจะลงโทษคนที่ทำความผิด
เราจะทำลายความเย่อหยิ่งของคนอวดดี
และเราจะกดผู้เผด็จการที่หยิ่งยโสลง+
13 เราจะทำให้ท้องฟ้าสั่นสะเทือน
และโลกจะถูกเขย่าจนหลุดออกจากที่ของมัน+
ในวันนั้น พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพจะระบายความโกรธอันร้อนแรงของพระองค์ออกมา
14 แต่ละคนจะกลับไปหาประชาชนของตัวเอง
และหนีไปที่แผ่นดินของตัวเอง+
จะเป็นเหมือนกับละมั่งที่ถูกไล่ล่าและฝูงสัตว์ที่ไม่มีใครดูแล
15 คนที่ถูกพบจะถูกแทงให้ถึงตาย
และคนที่ถูกจับได้จะต้องตายด้วยดาบ+
16 เขาจะเห็นลูก ๆ ถูกฆ่าอย่างโหดร้ายต่อหน้าต่อตา+
บ้านของพวกเขาจะถูกปล้น
และภรรยาของพวกเขาก็จะถูกข่มขืน
19 และบาบิโลน อาณาจักรที่สง่างามที่สุด+
เมืองที่สวยงามและน่าภูมิใจของชาวเคลเดีย+
จะเป็นเหมือนเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ตอนที่ถูกพระเจ้าทำลาย+
20 เมืองนี้จะไม่มีใครมาอยู่อีก
และจะไม่มีใครอาศัยไปตลอดทุกยุคทุกสมัย+
จะไม่มีคนอาหรับไปตั้งเต็นท์อยู่ที่นั่น
และไม่มีคนเลี้ยงสัตว์คนไหนจะพาสัตว์ไปอยู่ที่นั่น
21 แต่สัตว์ทะเลทรายจะมานอนอยู่ที่นั่น
บ้านของพวกเขาจะมีแต่นกฮูก
กับนกกระจอกเทศ
และแพะป่า*จะเพ่นพ่านอยู่ในดินแดนนั้น
22 ในป้อมปราการของเมืองนั้นจะมีแต่เสียงเห่าหอนของสัตว์
พวกหมาในก็จะเข้าไปอยู่ในวังอันหรูหรา
เมืองนั้นใกล้จะถึงจุดจบแล้ว และจะไม่มีการเลื่อนเวลาออกไปอีก”+
14 พระยะโฮวาจะเมตตายาโคบ+ พระองค์จะเลือกอิสราเอลอีกครั้งหนึ่ง+ และพาพวกเขากลับมาตั้งถิ่นฐานในแผ่นดินของเขาเอง+ คนต่างชาติก็จะมาสมทบกับพวกเขาและอยู่กับลูกหลานของยาโคบ+ 2 พวกเขาจะกลับมายังบ้านเมืองของตัวเองโดยมีคนต่างชาติติดตามมาด้วย แล้วลูกหลานของอิสราเอลจะเอาคนต่างชาติเหล่านี้มาเป็นคนรับใช้+ในแผ่นดินของพระยะโฮวา และเมื่อเป็นอย่างนี้ เขาจึงมีอำนาจเหนือคนที่เคยจับพวกเขาไปเป็นเชลย และคนที่เคยบังคับพวกเขาให้ทำงานหนักก็ต้องมาอยู่ใต้อำนาจของพวกเขา
3 และเมื่อพระยะโฮวาให้พวกคุณพ้นจากความเจ็บปวด ไม่ต้องว้าวุ่นและเป็นทาสอีกต่อไป+ 4 พวกคุณจะเยาะเย้ยกระทบกระเทียบกษัตริย์บาบิโลนว่า
“อ้าว คนที่เคยกดขี่คนอื่นมาพบจุดจบซะแล้ว
การกดขี่ก็ไม่มีอีกแล้วน่ะสิ+
5 พระยะโฮวาได้หักกระบองของคนชั่ว
พระองค์หักคทาของผู้มีอำนาจปกครอง+
6 ทำลายผู้ที่เคยโบยตีชนชาติต่าง ๆ อย่างไม่ยั้งมือ+
ทำลายผู้ที่เคยข่มเหงชาติต่าง ๆ อย่างไม่รามือ+
7 ตอนนี้ ทั่วทั้งโลกได้พักอย่างสงบสุข ไม่มีอะไรมาทำให้กังวลใจ
ผู้คนโห่ร้องด้วยความยินดี+
8 ต้นสนจูนิเปอร์ก็ดีใจ
ต้นสนซีดาร์ในเลบานอนก็เหมือนกัน
ต่างก็พูดว่า ‘ตั้งแต่ที่คุณล้มลง
ก็ไม่มีคนตัดไม้มาโค่นเราอีก’
9 แม้แต่ในหลุมศพ*ก็ยังวุ่นวาย
ตอนที่คุณลงไป
ขนาดคนที่ตายแล้วก็ยังลุกขึ้นมาต้อนรับ
คือพวกผู้นำที่เคยกดขี่*คนอื่น
กษัตริย์ของชาติต่าง ๆ ยังต้องลุกขึ้นมาจากบัลลังก์
10 พวกเขาจะพากันพูดกับคุณว่า
‘คุณนี่ก็อ่อนแอเหมือนพวกเราด้วยหรือ?
ทำไมกลายเป็นอย่างนี้ไปได้?
11 ความเย่อหยิ่งก็ลงหลุม*ไปพร้อมกับคุณ
ทั้งเสียงเพลงที่เขาบรรเลงให้คุณฟังก็ไม่มีอีกแล้ว
ตัวหนอนจะเป็นเหมือนเตียงให้คุณนอน
และเป็นเหมือนผ้าห่มคลุมตัวคุณ’
12 โถ ดาวที่เปล่งประกาย ดาวแห่งรุ่งอรุณ
ตกลงมาจากฟ้าซะแล้ว
ครั้งหนึ่ง คุณเคยโค่นล้มชาติต่าง ๆ
มาตอนนี้ คุณกลับถูกโค่นซะเอง+
13 คุณเคยคิดในใจว่า ‘ข้าจะขึ้นไปให้สูงเสียดฟ้า+
ข้าจะยกบัลลังก์ของข้าให้อยู่เหนือกว่าดวงดาวของพระเจ้า+
ข้าจะนั่งลงบนภูเขาที่ประชาชนของพระเจ้ามาประชุมกัน
เป็นภูเขาที่อยู่ทางเหนือสุด+
14 ข้าจะขึ้นไปอยู่เหนือเมฆ
จะทำตัวให้เสมอพระเจ้าองค์สูงสุด’
15 แต่คุณจะต้องลงไปอยู่ในหลุมศพ*
ลงไปอยู่ในหลุมที่ลึกที่สุด
16 พวกคนที่เห็นจะจ้องมองคุณ
พวกเขาจะเห็นสภาพของคุณและพูดว่า
‘นี่หรือคนที่เคยเขย่าแผ่นดิน
และทำให้อาณาจักรต่าง ๆ สั่นสะเทือน?+
17 นี่นะหรือคนที่เคยทำให้โลกเป็นเหมือนที่กันดาร
คนที่ล้มล้างเมืองต่าง ๆ+
และคนที่ไม่ยอมปล่อยเชลยกลับบ้าน?’+
18 สำหรับกษัตริย์ของชาติต่าง ๆ
พวกเขาจะถูกฝังอย่างมีเกียรติ
ทุกคนจะได้อยู่ในหลุมของตัวเอง
19 แต่ศพของคุณจะถูกทิ้งและไม่มีแม้แต่ที่จะฝัง
จะถูกทิ้งเหมือนกิ่งที่ไม่มีใครเอา
และถูกทับอยู่ใต้ร่างของคนที่ถูกฆ่าอย่างทารุณด้วยดาบ
และถูกทิ้งอยู่ในหลุมที่มีแต่หิน
เป็นเหมือนซากสัตว์ที่ถูกเหยียบย่ำ
20 คุณจะไม่ถูกฝังในหลุมศพอย่างกษัตริย์องค์อื่น
เพราะคุณทำลายแผ่นดินของตัวเอง
คุณได้ฆ่าประชาชนของตัวเอง
จะไม่มีใครพูดถึงพวกลูกหลานชั่วอย่างคุณอีก
21 ทีนี้ มาเตรียมที่ประหารพวกลูก ๆ ของเขากันเถอะ
เพราะปู่ย่าตายายของเขาทำชั่ว
พวกเขาจะได้ไม่ขึ้นมามีอำนาจปกครองโลก
และทำให้แผ่นดินเต็มไปด้วยเมืองที่เขาปกครอง”
22 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพพูดว่า “เราจะยืนขึ้นต่อสู้พวกเขา”+
พระยะโฮวาพูดอีกว่า “เราจะลบชื่อบาบิโลน และล้างพวกคนที่ยังเหลืออยู่และลูกหลานกับเชื้อสายของเขาให้หมดไป”+
23 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพพูดว่า “เราจะให้เมืองนั้นเป็นที่อยู่ของพวกเม่นและเป็นดินแดนที่มีแต่บึง และเราจะกวาดทำลายเมืองนั้นให้สิ้นซากเหมือนใช้ไม้กวาด”+
24 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพได้สาบานไว้ว่า
“เรื่องที่เราตั้งใจไว้ต้องเกิดขึ้น
เรื่องที่เราคิดไว้ต้องเป็นจริง
25 เราจะทำลายอัสซีเรียที่มาเหยียบแผ่นดินของเรา
และเราจะกระทืบพวกเขาบนภูเขาต่าง ๆ ของเรา+
แอกที่พวกเขาวางไว้จะต้องเอาออกจากคอประชาชนของเรา
และภาระที่พวกเขาวางไว้ก็จะต้องยกออกจากบ่าประชาชนของเราด้วย”+
26 นี่คือคำตัดสินที่ถูกกำหนดไว้แล้วสำหรับโลก
และมีมือที่เหยียดออกไปแล้วเพื่อจัดการกับชาติต่าง ๆ
27 เมื่อพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพได้ตัดสินไว้แล้ว
ใครจะมาทำให้ล้มเหลวได้?+
และเมื่อพระองค์ได้เหยียดมือออกไปแล้ว
ใครจะดึงกลับมาได้?+
28 ในปีที่กษัตริย์อาหัสเสียชีวิต+ มีการประกาศคำพิพากษาดังนี้
29 “ชาวฟีลิสเตียทุกคน อย่าเพิ่งดีใจไป
แม้กระบองของคนที่ตีพวกเจ้าได้หักไปแล้ว
แต่เมื่องู+ตาย จะมีลูกหลานที่เป็นงูพิษออกมาแทนที่+
เป็นงูที่มีพิษร้ายแรงและฉกกัดอย่างรวดเร็ว
30 ขณะที่ลูกคนโตของคนจนมีอาหารกิน
และคนยากคนจนก็พักผ่อนอย่างปลอดภัย
เราจะทำให้ประชาชน*ของเจ้าตายเพราะความอดอยาก
และใครก็ตามที่เหลือรอดจะถูกฆ่า+
31 โอ้ประตูเมือง ร้องห่มร้องไห้เถอะ โอ้เมือง ร้องออกมาเถอะ
ชาวฟีลิสเตีย พวกเจ้าจะเสียขวัญกันไปหมด
เพราะจะมีควันที่มาจากทางเหนือ
ในกองทัพของศัตรูจะไม่มีทหารคนไหนเดินแตกแถวเลย”
32 แล้วจะตอบทูตที่มาจากชาติอื่นยังไงดี?
ก็ให้ตอบว่า พระยะโฮวาได้วางฐานรากของเมืองศิโยนไว้อย่างมั่นคงแล้ว+
และประชาชนของพระองค์จะอยู่อย่างปลอดภัยที่นั่น
15 ต่อไปนี้คือคำพิพากษาต่อแผ่นดินโมอับ+
เมืองอาร์+ในโมอับจะถูกทำลายล้าง
และล่มจมภายในคืนเดียว
เมืองคีร์+ในโมอับก็จะถูกทำลายล้าง
และล่มจมภายในคืนเดียวเหมือนกัน
2 จะมีคนขึ้นไปที่วิหารของพระต่าง ๆ ที่เมืองดีโบน+
ขึ้นไปที่สถานบูชาบนที่สูงของเขาและร้องห่มร้องไห้
ชาวโมอับจะร้องไห้คร่ำครวญให้เมืองเนโบ+และเมืองเมเดบา+
ทุกคนจะโกนหัวให้ล้าน+ และโกนเคราให้เกลี้ยง+
3 ตามถนนจะมีแต่คนที่ใส่ผ้ากระสอบ
บนดาดฟ้าบ้านและตามลานเมืองจะมีแต่คนร้องไห้คร่ำครวญ
พวกเขาจะทรุดตัวลงร้องห่มร้องไห้+
4 ชาวเมืองเฮชโบนและคนในเอเลอาเลห์+จะร้องไห้ทุกข์ใจ
เสียงร้องของพวกเขาจะได้ยินไปไกลถึงเมืองยาฮาส+
ทำให้พวกทหารของโมอับต้องร้องเสียงดัง
ผู้คนทั้งชาติก็พากันกลัวจนตัวสั่น
5 ใจของผมร้องไห้คร่ำครวญให้ชาวโมอับ
พวกเขาหลบลี้หนีภัยไปไกลถึงเมืองโศอาร์+และเอกลัทเชลีชิยาห์+
พวกเขาเดินไปร้องไห้ไปเมื่อขึ้นไปบนเนินเขาลูฮีท
และระหว่างที่เดินทางไปโฮโรนาอิม พวกเขาก็ร้องห่มร้องไห้เพราะความหายนะที่เกิดขึ้น+
6 น้ำที่ลำธารนิมริมก็แห้งไป
ต้นหญ้าที่เขียวชอุ่มก็เหี่ยวแห้ง
หญ้าหายไปหมดแล้วและไม่มีสีเขียวหลงเหลืออยู่เลย
7 พวกเขาจึงขนเสบียงที่เหลืออยู่กับทรัพย์สมบัติของพวกเขา
เดินข้ามหุบเขาที่เต็มไปด้วยต้นป๊อปลาร์
8 มีเสียงร้องไห้คร่ำครวญดังไปทั่วแผ่นดินโมอับ+
เสียงร้องนั้นดังไปถึงเอกลาอิม
และดังไปถึงเบเออร์เอลิม
9 เพราะน้ำที่ดีโมนมีแต่เลือด
และเราจะเพิ่มภัยอีกอย่างให้ดีโมน
คือจะมีสิงโตมากัดกินชาวโมอับที่หลบหนี
และกัดกินคนที่ยังหลงเหลืออยู่ในแผ่นดิน+
16 ให้ชาวโมอับส่งแกะตัวผู้ไปถวายผู้ปกครองแผ่นดิน
ส่งจากเสลา ผ่านที่กันดาร
ไปที่ภูเขาของเมืองศิโยน
2 ชาวโมอับจะมาอยู่ตรงบริเวณน้ำตื้นของแม่น้ำอาร์โนน+
พวกเขาจะเป็นเหมือนนกที่พลัดจากรัง+
3 “ถ้าคิดว่ารู้ ก็แนะนำมาเลย ถ้ารู้ว่าควรทำยังไง ก็ทำไป
หาร่มเงาปกป้องตัวเองตอนเที่ยงวันสิ เอาให้มืดเหมือนตอนกลางคืนไปเลย
แล้วก็ช่วยให้ที่ซ่อนคนที่ลี้ภัยด้วย อย่าไปทำร้ายพวกเขาทีหลังล่ะ
4 ขอให้คนที่ลี้ภัยอยู่กับคุณไปก่อนนะ โมอับ
ขอคุณช่วยให้ที่ซ่อนพวกเขาจากผู้ที่ตามมาฆ่า+
เมื่อคนที่กดขี่ถึงจุดจบ
การทำลายก็จะไม่มีอีกต่อไป
และคนที่เหยียบย่ำคนอื่นก็จะหมดไปจากโลก
5 แล้วพระเจ้าจะตั้งการปกครองหนึ่งขึ้นให้อยู่อย่างมั่นคง พระองค์จะทำด้วยความรัก*
และจะมีผู้หนึ่งนั่งบนบัลลังก์ในเต็นท์ของดาวิดและจะปกครองอย่างซื่อสัตย์+
ท่านผู้นั้นจะให้ความเป็นธรรมกับทุกคนและไม่รีรอในการทำสิ่งที่ถูกต้อง”+
6 พวกเราเคยได้ยินเรื่องความเย่อหยิ่งของโมอับ เขาหยิ่งเหลือเกิน+
เขาจองหอง ทะนงตัว และเกรี้ยวกราด+
แต่เรื่องที่เขาคุยโม้ไว้จะไม่มีวันเป็นจริง
7 ดังนั้น ชาวโมอับจะต้องร้องห่มร้องไห้เมื่อเขาเจอกับความหายนะ
พวกเขาจะพากันร้องไห้+
และตอนนั้นพวกเขาจะโหยหาขนมลูกเกดจากเมืองคีร์หะเรเชท+
8 เพราะสวนองุ่นขั้นบันไดที่เมืองเฮชโบน+เหี่ยวเฉาไปแล้ว
เถาองุ่นของเมืองสิบมาห์+ก็เหมือนกัน
ผู้มีอำนาจปกครองของชาติต่าง ๆ ได้เหยียบย่ำกิ่งที่มีลูกดกแดง
เป็นกิ่งที่แผ่ไปไกลถึงเมืองยาเซอร์+
แผ่เข้าไปถึงที่กันดาร
และแตกกิ่งก้านขยายไปไกลถึงทะเล
9 เพราะเหตุนี้ ผมจะร้องไห้ให้กับต้นองุ่นของเมืองสิบมาห์เหมือนที่ร้องไห้ให้กับเมืองยาเซอร์
ผมจะทำให้เมืองเฮชโบนและเอเลอาเลห์เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาของผม+
เพราะไม่มีเสียงโห่ร้องยินดีเมื่อเก็บผลไม้หน้าร้อนกับพืชผลต่าง ๆ อีกแล้ว*
10 ความยินดีและความเบิกบานหายไปจากสวนผลไม้แล้ว
ไม่มีเสียงเพลงหรือเสียงโห่ร้องยินดีในสวนองุ่นอีกต่อไป+
ไม่มีใครย่ำองุ่นในบ่อย่ำอีกแล้ว
ผมทำให้เสียงโห่ร้องนั้นหยุดไป+
11 ดังนั้น เมื่อคิดถึงโมอับ ใจผมสั่นด้วยความเศร้า+
เหมือนสายพิณที่สั่น
ลึก ๆ ในใจผมยังอาลัยเมืองคีร์หะเรเชท+
12 ถึงแม้โมอับจะไปที่สถานบูชาบนที่สูง เขาก็จะเหนื่อยเปล่า และถึงเขาจะอธิษฐานในที่ศักดิ์สิทธิ์ของเขา ก็จะเปล่าประโยชน์+
13 พระยะโฮวาเคยบอกไว้อย่างนั้นเกี่ยวกับโมอับ 14 แต่ตอนนี้ พระยะโฮวาบอกว่า “ภายใน 3 ปีไม่ขาดไม่เกิน (อย่างที่คนงานนับเวลาเมื่อถูกจ้างงาน) โมอับซึ่งมีเกียรติยศมากมายจะถูกเหยียดลง เพราะจะเกิดความโกลาหลวุ่นวาย และคนที่เหลือรอดจะน้อยมากและไม่มีความสำคัญอะไร”+
17 ต่อไปนี้คือคำพิพากษาต่อกรุงดามัสกัส+
พระเจ้าพูดว่า “คอยดูเถอะ จะไม่มีกรุงดามัสกัสอีกต่อไปแล้ว
แต่กรุงนี้จะกลายเป็นซากปรักหักพังแทน+
2 เมืองอาโรเออร์+จะถูกทิ้งให้ร้าง
และจะกลายเป็นที่ให้พวกฝูงสัตว์มานอน
จะไม่มีใครมาทำให้พวกมันกลัว
3 เอฟราอิมจะต้องสูญเสียเมืองที่มีป้อมปราการ+
และดามัสกัสจะต้องสูญเสียอาณาจักร+
จะไม่มีความรุ่งเรืองสำหรับคนที่เหลืออยู่ในซีเรียอีก
เหมือนกับที่จะไม่มีความรุ่งเรืองสำหรับชาวอิสราเอล” พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกไว้อย่างนั้น
4 พระเจ้าบอกว่า “ในวันนั้น ความรุ่งเรืองของยาโคบจะลดน้อยถอยลง
และร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงของเขาก็จะซูบผอมไป
5 ยาโคบจะเป็นเหมือนนาข้าวในหุบเขาเรฟาอิม+
ที่เพิ่งถูกเกี่ยวไป
จนเหลือรวงข้าวอยู่แค่ไม่กี่รวง
6 สิ่งที่เหลืออยู่จะมีเพียงน้อยนิด
เหมือนกับตอนที่ต้นมะกอกถูกตีให้ผลหล่นลงมา
ก็จะมีมะกอกเพียงสองสามลูกเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่บนยอด
หรือมีแค่สี่ห้าลูกเท่านั้นที่ยังค้างอยู่บนกิ่งที่เคยมีผลดก”+ พระยะโฮวาพระเจ้าของอิสราเอลบอกไว้อย่างนี้
7 ในวันนั้น จะมีคนที่มองหาผู้สร้างตัวเขา สายตาของเขาจะจับจ้องอยู่ที่พระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล 8 เขาจะไม่หันไปมองแท่นบูชา+ที่พวกเขาได้สร้างขึ้นมากับมือ+ และไม่หันไปดูสิ่งที่พวกเขาได้ทำขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสาศักดิ์สิทธิ์หรือแท่นเผาเครื่องหอม
9 ในวันนั้น เมืองที่มีป้อมปราการของเขาจะกลายเป็นเหมือนที่ร้างในป่า+
เป็นเหมือนกิ่งที่ถูกทิ้งต่อหน้าชาวอิสราเอล
บ้านเมืองของเขาจะถูกทิ้งให้รกร้าง
10 เพราะคุณได้ลืมพระเจ้า+ที่ช่วยคุณให้รอด
คุณลืมพระองค์ผู้เป็นเหมือนหินที่แข็งแกร่ง+และป้อมปราการที่คอยปกป้องคุณ
เพราะอย่างนั้น คุณจึงหันไปทำสวนที่สวยงาม
และไปเอาคนต่างชาติ*ที่เปรียบเหมือนต้นอ่อนมาปลูกในสวนนี้
11 ในวันที่ทำสวน คุณได้ล้อมรั้วอย่างดี
พอถึงตอนเช้าเมล็ดที่คุณหว่านไว้ก็งอกขึ้นเป็นต้น
แต่คุณก็จะเก็บเกี่ยวอะไรไม่ได้เลยเมื่อคุณป่วยหนักและเจ็บปวดเกินเยียวยา+
12 ฟังสิ มีเสียงของความโกลาหลจากชนชาติต่าง ๆ
พวกเขาส่งเสียงดังเหมือนเสียงทะเล
มีเสียงของความวุ่นวายจากชาติต่าง ๆ
พวกเขาส่งเสียงดังเหมือนเสียงน้ำซัดรุนแรง
13 ชาติต่าง ๆ จะทำเสียงเหมือนกับเสียงน้ำซัดสาด
แต่พระเจ้าจะว่ากล่าวตักเตือนพวกเขา พวกเขาจะพากันหนีไปไกล
และปลิวไปเหมือนกับแกลบบนภูเขาเมื่อถูกลมพัด
และเหมือนกิ่งหนามที่เกาะเป็นก้อนซึ่งถูกพัดกลิ้งไปเมื่อเจอพายุ
14 จะมีสิ่งที่น่ากลัวเกิดขึ้นในตอนเย็น
แต่ก่อนจะถึงเช้าก็จะไม่มีแล้ว
และนี่แหละคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคนที่มาปล้นพวกเรา
และเป็นจุดจบของคนที่มาริบของของพวกเราไป
18 ความพินาศจะต้องเกิดขึ้นกับดินแดนที่มีเสียงกระพือปีกของแมลง
ดินแดนที่อยู่แถบแม่น้ำสายต่าง ๆ ในเอธิโอเปีย+
2 ดินแดนนี้ส่งทูตไปทางทะเล
โดยใช้เรือพาไพรัส พวกเขาพูดว่า
“รีบไปเถอะ ผู้ส่งข่าวของเรา
รีบไปหาชนชาติที่ตัวสูงและผิวเนียน
ไปหาชนชาติที่คนทั้งใกล้และไกลต่างเกรงกลัว+
ไปหาชนชาติที่เข้มแข็งและรบชนะ
ชนชาติที่ดินแดนของเขาถูกแม่น้ำซัดทำลาย”
3 ผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกและมนุษย์โลกทั้งหลาย
พวกคุณจะเห็นสิ่งที่เป็นเหมือนสัญญาณ*ซึ่งถูกยกชูขึ้นบนภูเขา
และพวกคุณจะได้ยินเสียงที่เป็นเหมือนเสียงเป่าแตรเขาสัตว์
4 พระยะโฮวาได้บอกผมว่า
“เราจะมองลงมายัง*ที่อันมั่นคงของเราอย่างเงียบ ๆ
การทำแบบนี้ก็เป็นเหมือนกับปล่อยให้มีความร้อนที่พอเหมาะจากแสงแดดในตอนกลางวัน
และให้มีน้ำค้างที่พอดีท่ามกลางความร้อนในฤดูเก็บผล
5 แต่แล้ว ก่อนที่จะถึงฤดูเก็บผล
ตอนที่ดอกร่วงไปและกำลังจะเป็นผลองุ่นสุก
กิ่งจะถูกตัดออกด้วยมีด*
และกิ่งก้านก็จะถูกฟันทิ้ง
6 และถูกทิ้งไว้เป็นอาหารของนกแร้งบนภูเขา
และเป็นอาหารของพวกสัตว์ป่า
นกแร้งจะได้กินตลอดฤดูร้อน
และพวกสัตว์ป่าก็จะได้กินตลอดฤดูเก็บผล
7 ในเวลานั้น จะมีผู้นำของมาถวายพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ
พวกเขาเป็นชนชาติที่ตัวสูงและผิวเนียน
ชนชาติที่คนทั้งใกล้และไกลต่างเกรงกลัว
ชนชาติที่เข้มแข็งและรบชนะ
ชนชาติที่ดินแดนของเขาถูกแม่น้ำซัดทำลาย
พวกเขาจะนำของมาถวายที่ภูเขาศิโยน สถานที่ที่มีชื่อของพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพอยู่”+
19 ต่อไปนี้คือคำพิพากษาต่ออียิปต์+
พระยะโฮวาจะนั่งบนเมฆซึ่งเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วมาที่อียิปต์
และพระต่าง ๆ ที่ไร้ค่าของอียิปต์จะกลัวจนตัวสั่นอยู่ตรงหน้าพระองค์+
ส่วนชาวอียิปต์จะพากันใจฝ่อไปหมด
2 พระเจ้าพูดว่า “เราจะกระตุ้นชาวอียิปต์ให้ต่อสู้กัน
จะมีการสู้รบกันเอง
ระหว่างพี่กับน้อง เพื่อนบ้านกับเพื่อนบ้าน
เมืองกับเมือง และอาณาจักรกับอาณาจักร
3 ชาวอียิปต์จะงุนงงกันไปหมด
เราจะทำให้แผนการของพวกเขาสับสน+
พวกเขาจึงไปปรึกษาพระต่าง ๆ ที่ไร้ค่า
และไปปรึกษาพ่อมด คนทรง และหมอดู+
4 เราจะมอบอียิปต์ไว้ในมือของเจ้านายที่โหดเหี้ยม
และกษัตริย์ที่โหดร้ายจะปกครองพวกเขา”+ พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพผู้เป็นนายองค์สูงสุดบอกไว้อย่างนี้
5 น้ำในแม่น้ำจะแห้งไป
และแม่น้ำก็จะเหือดแห้ง+
6 แม่น้ำต่าง ๆ จะเหม็น
คูคลองต่าง ๆ จากแม่น้ำไนล์ของอียิปต์ก็จะตื้นเขินและแห้งขอดไป
ต้นอ้อและต้นกกจะเปื่อยเน่าไปด้วย+
7 พืชที่อยู่ริมแม่น้ำและที่ปากแม่น้ำไนล์
รวมทั้งพื้นที่ที่มีการหว่านเมล็ดพืชริมแม่น้ำไนล์+ก็จะแห้งไป+
และจะถูกลมพัดไปจนไม่เหลืออะไร
8 ชาวประมงจะคร่ำครวญ
คนที่เหวี่ยงเบ็ดลงในแม่น้ำไนล์ก็จะเป็นทุกข์
และคนที่ทอดแหตามแม่น้ำก็จะสิ้นหวัง
9 คนที่ทำงานหวีป่าน+
และคนที่ทอผ้าขาวจะต้องอับอาย
10 ช่างทอผ้าจะปวดร้าวใจ
และพวกคนงานรับจ้างจะเศร้าเสียใจ
11 เจ้านายของเมืองโศอัน+เป็นคนโง่เง่า
ที่ปรึกษาที่ฉลาดที่สุดของฟาโรห์ก็ให้คำแนะนำที่ไม่ได้เรื่อง+
แล้วพวกคุณจะไปบอกฟาโรห์ได้อย่างไรว่า
“ผมเป็นลูกหลานของพวกคนฉลาด
และเป็นเชื้อสายของกษัตริย์ในสมัยก่อน”
12 พวกคนฉลาดของคุณหายไปไหนกันหมด?+
ถ้าพวกเขารู้ว่าพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพจะทำอะไรกับอียิปต์บ้าง ก็ให้พวกเขาลองบอกมาสิ
13 เจ้านายของเมืองโศอันทำตัวโง่เง่า
เจ้านายของเมืองโนฟ*+ก็หลอกตัวเอง
พวกคนที่เป็นผู้นำทำให้อียิปต์หลงไป
14 พระยะโฮวาได้ทำให้อียิปต์สับสน+
และไม่ว่าอียิปต์จะทำอะไร พวกผู้นำก็จะทำให้อียิปต์หลงไป
เป็นเหมือนคนเมาที่เดินโซเซและอาเจียนไปด้วย
15 พวกอียิปต์ทำอะไรก็จะไม่สำเร็จ
ไม่ว่าจะเป็นหัวหรือหาง เป็นหน่อหรือต้นกก*
16 ในวันนั้น พวกอียิปต์จะเป็นเหมือนผู้หญิงที่กลัวจนตัวสั่นเพราะพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพได้ชูกำปั้นไปที่พวกเขา+ 17 อียิปต์จะหวาดกลัวแผ่นดินยูดาห์ พวกเขาจะกลัวมากเมื่อพูดถึงยูดาห์เพราะรู้ดีว่าพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพได้ตัดสินว่าจะจัดการพวกเขา+
18 ในวันนั้น ในแผ่นดินอียิปต์จะมีเมือง 5 เมืองที่พูดภาษาที่ใช้ในคานาอัน+และสาบานว่าจะซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ และ 1 ใน 5 เมืองนั้นจะได้ชื่อว่าเมืองที่รื้อทำลาย
19 ในวันนั้น จะมีแท่นบูชาแท่นหนึ่งที่ถวายแก่พระยะโฮวาตั้งอยู่ที่ใจกลางแผ่นดินอียิปต์และมีเสาหนึ่งที่ถวายเกียรติแก่พระยะโฮวาตั้งอยู่ที่พรมแดนของอียิปต์ด้วย 20 นี่จะเป็นพยานหลักฐานและเป็นเครื่องหมายที่ช่วยเตือนประชาชนไม่ให้ลืมพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพในแผ่นดินอียิปต์ เมื่อพวกเขาร้องเรียกพระยะโฮวาเพราะถูกกดขี่ พระองค์ก็จะส่งผู้ช่วยให้รอดผู้ยิ่งใหญ่มาช่วยพวกเขา 21 และชาวอียิปต์จะรู้จักพระยะโฮวา ในวันนั้น พวกเขาจะรู้จักพระยะโฮวา พวกเขาจะถวายเครื่องบูชาและของถวาย พวกเขาจะปฏิญาณกับพระยะโฮวาและจะทำตามที่ได้ปฏิญาณไว้ 22 พระยะโฮวาจะลงโทษอียิปต์+ พระองค์จะโบยตีและรักษาเขา พวกเขาจะกลับมาหาพระยะโฮวา และพระองค์จะฟังคำอ้อนวอนของเขาและช่วยรักษาเขาให้หาย
23 ในวันนั้น จะมีทางหลวง+ออกจากอียิปต์ไปที่อัสซีเรีย ชาวอัสซีเรียจะมาที่อียิปต์ได้และชาวอียิปต์ก็จะไปที่อัสซีเรียได้ พวกเขาจะรับใช้พระเจ้าด้วยกัน 24 และในวันนั้น อิสราเอลก็จะมาร่วมกับอียิปต์และอัสซีเรีย+ และทำให้โลกได้รับพร 25 เพราะพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพได้อวยพรพวกเขาว่า “ขอให้อียิปต์ประชาชนของเรา อัสซีเรียผลงานจากมือของเรา และอิสราเอลมรดกของเราได้รับพร”+
20 ในปีที่กษัตริย์ซาร์กอนของอัสซีเรียส่งผู้บัญชาการกองทัพ*มาทำสงครามกับเมืองอัชโดด+และยึดเมืองนั้นได้+ 2 พระยะโฮวาบอกอิสยาห์+ลูกชายของอามอสว่า “ไปถอดผ้ากระสอบที่นุ่งอยู่ออกและถอดรองเท้าด้วย” อิสยาห์ก็ทำตาม เขาสวมแต่เสื้อตัวในและเดินเท้าเปล่า
3 แล้วพระยะโฮวาก็พูดว่า “ที่อิสยาห์ผู้รับใช้ของเราสวมแต่เสื้อตัวในเดินเท้าเปล่าสามปีนั้นเป็นสัญลักษณ์+และสิ่งที่บ่งบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอียิปต์+และเอธิโอเปีย+ 4 กษัตริย์อัสซีเรียจะจับตัวชาวอียิปต์ไปเป็นนักโทษ+และจับตัวชาวเอธิโอเปียไปเป็นเชลยทั้งเด็กกับคนแก่ และให้พวกเขาสวมแต่เสื้อตัวในเดินเท้าเปล่าเปลือยก้น และอียิปต์จะต้องอับอาย 5 ยูดาห์จะตกใจกลัวและจะต้องอับอายที่ไปฝากความหวังไว้กับเอธิโอเปีย และที่ไปชื่นชมความงามของอียิปต์ 6 แล้วในวันนั้น ผู้คนที่อาศัยอยู่แถบชายทะเลนี้จะพูดกันว่า ‘ดูสิ พวกที่เราฝากความหวังไว้ คนที่เราหนีไปขอความช่วยเหลือให้รอดพ้นจากกษัตริย์อัสซีเรียยังโดนขนาดนี้ แล้วเราจะหนีรอดไปได้ยังไง?’”
21 ต่อไปนี้คือคำพิพากษาต่อทะเลที่เวิ้งว้าง*+
“การทำลายล้างจะมาเหมือนลมพายุที่มาจากทางทิศใต้
มาจากที่กันดารและจากแผ่นดินที่น่ากลัว”+
2 ผมได้เห็นนิมิตที่น่ากลัว
“ชนชาติที่ชั่วร้ายทำสิ่งที่โหดร้าย
และชนชาติที่ชอบทำลายก็มาทำลาย
ชาวเอลาม บุกขึ้นไปเลย! ชาวมีเดีย นำทหารมาล้อมเมืองไว้+
เราจะไม่ให้เมืองนั้นทำให้ใครทุกข์ได้อีก”+
3 นิมิตที่เห็นนี้ทำให้ผมปวดร้าวใจ+
ผมเจ็บปวดรวดร้าว
เหมือนผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก
ผมเจ็บปวดจนแทบจะฟังเรื่องนี้ต่อไปไม่ไหว
ผมแทบจะทนดูไม่ได้อีกแล้ว
4 ใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะและผมกลัวจนตัวสั่น
ช่วงเวลาตอนโพล้เพล้ที่ผมชอบกลับทำให้ผมกลัว
5 มาเตรียมโต๊ะและจัดที่นั่งให้เรียบร้อย
กินและดื่มไปสิ+
พวกเจ้านาย ลุกขึ้นและแต่งตั้งโล่*กันไปเลย
6 พระยะโฮวาพูดกับผมว่า
“ไปจัดหาคนมาเฝ้ายามและให้เขารายงานว่าเห็นอะไรบ้าง”
7 และเขาได้เห็นรถศึกเทียมม้าคู่
เห็นรถศึกเทียมลา
เห็นรถศึกเทียมอูฐ
เขาเพ่งมองอย่างตั้งใจ
8 แล้วเขาก็ร้องก้องดังเหมือนเสียงสิงโตว่า
“พระยะโฮวาพระเจ้าของผม ผมยืนอยู่บนหอสังเกตการณ์นี้ตลอดทั้งวัน
และผมก็เฝ้าอยู่ที่นี่ทุกคืน+
9 ดูสิ มีคนกำลังมาที่นี่
มีทหารควบรถศึกเทียมม้าคู่มา”+
แล้วผู้ชายคนนี้ก็ร้องบอกอีกว่า
“บาบิโลนล่มจมแล้ว! บาบิโลนล่มจมแล้ว!+
รูปเคารพที่เป็นพระเจ้าของเมืองนี้ก็ถูกทำลายจนแตกหักไปหมดแล้ว”+
10 เพื่อนร่วมชาติของผมที่ถูกเหยียบย่ำ
ถูกเหยียบย่ำเหมือนข้าวที่ถูกนวดบนลานนวดข้าว+
ผมได้บอกพวกคุณไปหมดแล้วว่าพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพและเป็นพระเจ้าของอิสราเอลได้พูดอะไรกับผมบ้าง
11 ต่อไปนี้คือคำพิพากษาต่อดูมาห์*
มีคนตะโกนถามผมจากเสอีร์+ว่า
“คนยาม ใกล้จะเช้าหรือยัง?
คนยาม ใกล้จะเช้าหรือยัง?”
12 คนยามบอกว่า
“ใกล้จะเช้าแล้ว แต่เดี๋ยวก็จะกลางคืนอีก
ถ้าอยากถามอะไรก็ถามเถอะ
และกลับมาอีก”
13 ต่อไปนี้คือคำพิพากษาต่อที่ราบกันดาร
15 เพราะพวกเขาได้หนีมาจากคมดาบที่ถูกชักออกจากฝัก
หนีมาจากคันธนูที่โก่งอยู่ และจากสงครามที่โหดร้าย
16 พระยะโฮวาบอกผมว่า “ภายในหนึ่งปีไม่ขาดไม่เกิน (อย่างที่คนงานนับเวลาเมื่อถูกจ้างงาน) ความรุ่งเรืองของชาวเคดาร์+จะไม่มีอีกแล้ว 17 จะมีพลธนูของชาวเคดาร์ไม่กี่คนที่เหลือรอดจากสงคราม พระยะโฮวาพระเจ้าของชาวอิสราเอลได้บอกไว้อย่างนี้”
22 ต่อไปนี้คือคำพิพากษาต่อหุบเขานิมิต*+
เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงพากันขึ้นไปบนดาดฟ้า?
2 เมืองที่มีเสียงอึกทึก เมืองที่เริงร่า
พวกคุณมีแต่ความสับสนอลหม่าน
พวกคุณไม่ได้ถูกฆ่าด้วยดาบ
หรือตายในสงคราม+
3 พวกผู้ปกครองที่กดขี่พากันหนีไปหมดแล้ว+
แต่พวกเขาก็ถูกจับไปเป็นเชลยโดยไม่ต้องใช้ธนู
ทุกคนที่ถูกจับได้ก็กลายเป็นเชลย+
แม้พวกเขาหนีไปไกลแล้วก็ตาม
4 เมื่อเป็นอย่างนี้ ผมจึงพูดว่า “ปล่อยผมไว้คนเดียวเถอะ
ไม่ต้องมาปลอบผม
5 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพและเป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด
ได้กำหนดวันหนึ่งไว้ให้เป็นวันที่ชุลมุนวุ่นวายในหุบเขานิมิต
เป็นวันที่พ่ายแพ้ และน่าตกใจกลัว+
กำแพงเมืองก็ถูกทำลาย+
และมีเสียงร้องดังไปถึงภูเขา
6 ชาวเอลาม+หยิบกระบอกใส่ลูกธนู
จากรถศึกเทียมม้าที่มีทหารคอยบังคับอยู่
7 หุบเขาที่ดีที่สุดของพวกคุณ
จะมีรถศึกเต็มไปหมด
และที่ประตูเมืองก็มีพวกทหารม้าด้วย
8 ประตูเมืองที่ปกป้อง*ยูดาห์จะถูกเอาออก
“ในวันนั้น พวกคุณจะมองหาอาวุธในคลังป่าเลบานอน+ 9 พวกคุณจะเห็นช่องโหว่มากมายที่กำแพงเมืองในเมืองของดาวิด+ และพวกคุณจะกักเก็บน้ำไว้ที่สระล่าง+ 10 พวกคุณจะสำรวจดูบ้านในเยรูซาเล็ม แล้วจะรื้อบ้านบางหลังมาเสริมกำแพงเมือง 11 พวกคุณจะทำที่เก็บน้ำไว้ระหว่างกำแพงเพื่อเก็บน้ำจากสระเก่า แต่พวกคุณจะไม่มองหาผู้สร้างองค์ยิ่งใหญ่ที่ได้ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น และไม่มองดูพระเจ้าผู้ได้เตรียมการเรื่องนี้มานานแล้ว
12 ในวันนั้น พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพและเป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด
พระองค์อยากให้ร้องไห้และคร่ำครวญ+
อยากให้โกนหัวและใส่ผ้ากระสอบ
และพูดกันว่า ‘มากินมาดื่มกันดีกว่า เพราะพรุ่งนี้เราก็ตายแล้ว’”+
14 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพได้เปิดเผยกับผมโดยบอกว่า “‘บาปนี้จะไม่ถูกลบล้างจนกว่าพวกเจ้าจะตาย’+ พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพและเป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดพูดไว้อย่างนั้น”
15 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพและเป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดบอกว่า “ไปหาเชบนา+ผู้ดูแลวังของกษัตริย์ และถามเขาว่า 16 ‘คุณมีสิทธิ์อะไรถึงได้มาสกัดที่ฝังศพของตัวเองที่นี่? ใครให้คุณทำ?’ เชบนาได้สกัดที่ฝังศพตัวเองบนที่สูง และเจาะที่อยู่สำหรับตัวเองในหินผา 17 ‘ระวังเถอะ พระยะโฮวาจะเหวี่ยงคุณลงและจับคุณไว้แน่น 18 พระองค์จะพันคุณให้แน่น แล้วขว้างไปที่ดินแดนกว้างใหญ่เหมือนขว้างลูกบอล คุณจะไปตายที่นั่น รถศึกคันงามของคุณก็อยู่ที่นั่น ซึ่งจะทำให้เชื้อสายของเจ้านายคุณได้รับความอับอาย 19 พระองค์จะถอดคุณออกจากหน้าที่ และปลดคุณออกจากตำแหน่ง
20 “‘ในวันนั้น เราจะเรียกผู้รับใช้ของเรามาคือ เอลียาคิม+ ลูกชายของฮิลคียาห์ 21 เราจะเอาเสื้อยศของเจ้ามาสวมให้เขา แล้วเอาสายรัดเอวของเจ้ามาผูกให้เขา+ เราจะมอบอำนาจหน้าที่ของเจ้าให้กับเขา แล้วเขาจะเป็นเหมือนพ่อของชาวเยรูซาเล็มและพ่อของลูกหลานยูดาห์ 22 เราจะให้เขาดูแลกุญแจของเชื้อสายดาวิด* เมื่อเขาเปิด จะไม่มีใครมาปิดได้ และเมื่อเขาปิด ก็จะไม่มีใครมาเปิดได้ 23 เราจะทำให้เขาเป็นเหมือนตะปูที่ถูกตอกจนแน่น และเขาจะเป็นเหมือนบัลลังก์ที่เชิดหน้าชูตาให้วงศ์ตระกูล 24 เกียรติยศทั้งหมดของวงศ์ตระกูลจะแขวนอยู่บนตัวเขา พวกลูกหลานก็จะพึ่งพิงเขาเหมือนที่ถ้วยโถโอชามทั้งเล็กและใหญ่แขวนอยู่บนตะปู
25 “‘พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพพูดว่า “ในวันนั้น ตะปูที่ถูกตอกจนแน่นจะถูกถอน+ให้หล่นลงมาแล้วถูกทำลาย และทุกสิ่งที่แขวนอยู่บนนั้นก็จะหล่นลงมาและถูกทำลายด้วย เพราะพระยะโฮวาได้บอกไว้อย่างนั้น”’”
23 ต่อไปนี้คือคำพิพากษาต่อเมืองไทระ+
เรือที่มาจากทาร์ชิช+จะร้องไห้คร่ำครวญ
เพราะท่าเรือได้ถูกทำลาย ไม่มีที่ให้จอดเรืออีกแล้ว
พวกเขารู้เรื่องนี้ตอนที่มาถึงดินแดนคิททิม+
2 ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่แถบชายทะเลจะอึ้งไป
เพราะพวกพ่อค้าจากเมืองไซดอน+ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลทำการค้าขายได้ทำให้พวกคุณร่ำรวย
3 มีทั้งข้าวจากชิโหร์*+และผลผลิตจากแม่น้ำไนล์
ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลและทำรายได้ให้กับเมืองไทระ
และทำกำไรให้กับชาติต่าง ๆ+
4 เมืองไซดอนป้อมปราการของทะเลจะต้องอับอาย
เพราะทะเลได้บอกว่า
“ฉันไม่เคยเจ็บท้องคลอด และไม่เคยคลอดลูกด้วย
ฉันเลยไม่เคยดูแลลูกชายและไม่เคยเลี้ยงดูลูกสาว”+
6 ข้ามทะเลหนีไปที่ทาร์ชิชเลย
และผู้คนที่อาศัยอยู่ที่แถบชายทะเล ร้องคร่ำครวญไปเถอะ
7 นี่หรือเมืองเก่าแก่ที่เคยมีความสุขความยินดีมานาน?
เมืองนี้เคยเดินทางไปอยู่ในดินแดนที่ห่างไกล
8 เมืองไทระ เมืองที่เคยสวมมงกุฎให้คนอื่น
เมืองที่มีพ่อค้าเป็นพวกเจ้านาย
เมืองที่มีคนค้าขายที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
ใครทำให้คุณต้องมาพบจุดจบแบบนี้?+
9 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพได้ตัดสินไว้แล้วว่า
พระองค์จะทำลายความภาคภูมิใจในความงามของเมืองนี้
พระองค์จะทำให้ผู้ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกของเมืองนี้ได้รับความอับอาย+
10 ลูกสาวของทาร์ชิช ให้กระจัดกระจายกันไปเหมือนกับน้ำในแม่น้ำไนล์ที่ไหลล้นฝั่ง
เพราะไม่มีท่าเรืออีกแล้ว+
11 พระเจ้าได้ยื่นมือออกไปเหนือทะเล
พระองค์เขย่าอาณาจักรต่าง ๆ
พระยะโฮวาได้สั่งให้ทำลายล้างป้อมของชาวฟีนิเซีย+
12 และพระองค์บอกว่า “พวกเจ้าจะไม่มีความยินดีอีก+
เอาละ หญิงสาวบริสุทธิ์ของเมืองไซดอนที่ถูกข่มเหง
ข้ามทะเลหนีไปที่คิททิมสิ+
แต่ถึงอยู่ที่นั่น พวกเจ้าก็หาที่หลบภัยไม่ได้อยู่ดี”
13 ดูแผ่นดินของชาวเคลเดียสิ+
คนพวกนี้ต่างหาก ไม่ใช่พวกอัสซีเรีย+
ที่ทำให้เมืองนี้กลายเป็นที่อยู่ของสัตว์
ที่สร้างเครื่องทะลวงกำแพง
ที่ทำลายป้อมปราการของเมืองนี้+
และทำให้เมืองนี้กลายเป็นซากปรักหักพัง
14 เรือที่มาจากทาร์ชิช ร้องไห้คร่ำครวญเถอะ
เพราะป้อมปราการของพวกคุณถูกทำลายไปแล้ว+
15 ในวันนั้น เมืองไทระจะถูกลืมไป 70 ปี+ ซึ่งเท่ากับช่วงชีวิตของกษัตริย์องค์หนึ่ง และพอครบ 70 ปี ไทระก็จะเป็นเหมือนกับผู้หญิงโสเภณีในเนื้อเพลงที่ว่า
16 “ผู้หญิงโสเภณีที่ถูกลืม ถือพิณเดินไปรอบ ๆ เมืองสิ
แล้วบรรเลงเพลงให้เพราะ ๆ
ร้องหลาย ๆ เพลง
พวกเขาจะได้จำเธอได้”
17 พอสิ้นปีที่ 70 พระยะโฮวาจะหันมาสนใจเมืองไทระ เมืองนี้จะกลับมามีรายได้อีกครั้ง เมืองนี้จะทำตัวเป็นเหมือนผู้หญิงโสเภณี มีรายได้จากการค้าขายกับหลาย ๆ อาณาจักรบนโลก 18 แต่ผลกำไรและรายได้ของเมืองนี้จะกลายเป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่ต้องให้พระยะโฮวา สิ่งเหล่านั้นจะไม่ถูกเก็บสะสมไว้เฉย ๆ แต่จะถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของประชาชนของพระยะโฮวา ให้พวกเขาได้ซื้ออาหารกินอย่างสบายใจและซื้อเสื้อผ้าที่งดงามมาสวมใส่+
24 คอยดูเถอะ พระยะโฮวาจะกำจัดทุกคนออกจากแผ่นดินและทำให้แผ่นดินนี้รกร้างว่างเปล่า+
พระองค์จะคว่ำแผ่นดินนี้*+จนผู้คนต้องกระจัดกระจายไป+
2 ทุกคนจะโดนเหมือนกันหมด
ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือปุโรหิต
คนใช้หรือเจ้านาย
สาวใช้หรือนายหญิง
ผู้ซื้อหรือผู้ขาย
ผู้ให้ยืมหรือผู้ขอยืม
เจ้าหนี้หรือลูกหนี้+
4 แผ่นดินก็เศร้าหมอง*+และผ่ายผอม
แผ่นดินที่เคยอุดมสมบูรณ์กลับเหี่ยวแห้งและเฉาตาย
คนใหญ่คนโตในแผ่นดินนี้ก็อ่อนระโหยโรยแรง
5 แผ่นดินต้องแปดเปื้อนเพราะคนที่อาศัยที่นั่น+
พวกเขาเอาแต่เลี่ยงกฎหมาย+
เปลี่ยนแปลงข้อบังคับ+
6 เพราะเหตุนี้ แผ่นดินจึงถูกสาปแช่ง+
และคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้ก็ต้องรับโทษ
คนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินจึงลดน้อยลง
และเหลืออยู่แค่ไม่กี่คน+
7 เหล้าองุ่นใหม่ก็เศร้าหมอง* เถาองุ่นก็เหี่ยวเฉา+
คนที่เคยร่าเริงกลับต้องมาถอนหายใจ+
8 เสียงที่ครื้นเครงของกลองแทมบูริน*ก็หยุดลง
เสียงเฮฮาของคนที่ชอบสนุกสนานก็หมดไป
เสียงที่ไพเราะของพิณก็สิ้นสุดลง+
9 ไม่มีการดื่มเหล้าองุ่นเคล้าเสียงเพลงอีกแล้ว
เหล้าก็กลับเป็นของขมสำหรับคนที่ดื่ม
10 เมืองที่ถูกทิ้งร้างก็พังเสียหาย+
บ้านทุกหลังก็ถูกปิดไม่ให้ใครเข้าไป
11 ผู้คนร้องหาเหล้าองุ่นตามท้องถนน
ไม่มีความเบิกบานใจอีกแล้ว
ไม่เหลือความยินดีในแผ่นดินอีกเลย+
12 เมืองนั้นเหลือแต่ซาก
ประตูเมืองก็ถูกทำลายจนไม่มีชิ้นดี+
13 แต่เพื่อนร่วมชาติของผมที่อยู่ในแผ่นดินท่ามกลางนานาชาติ
จะเป็นเหมือนมะกอกที่ยังเหลืออยู่บนต้น+
เหมือนองุ่นที่ยังค้างอยู่บนกิ่งหลังจากเก็บผลไปแล้ว+
14 พวกเขาจะร้องเสียงดัง
และจะโห่ร้องด้วยความยินดี
พวกเขาจะประกาศถึงความยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวาจากทะเล*+
15 พวกเขาจะสรรเสริญพระยะโฮวาในดินแดนแห่งแสงสว่าง*+
พวกเขาจะยกย่องพระยะโฮวาพระเจ้าของอิสราเอลในหมู่เกาะต่าง ๆ+
16 เราจะได้ยินเสียงเพลงร้องจากสุดขอบโลกว่า
“ให้ถวายเกียรติพระเจ้าผู้ที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณความดี”+
แต่ผมต้องบอกว่า “ผมอ่อนแรงเต็มที อ่อนแรงเหลือเกิน
ผมต้องพินาศแน่ ๆ เพราะพวกคนชั่วก็ทำแต่สิ่งชั่ว
และพวกคนเลวก็ทำแต่ความเลว”+
17 ผู้ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดิน ความหวาดกลัว หลุมพราง และกับดักกำลังรอคุณอยู่+
18 ใครที่หนีเสียงที่น่ากลัวจะตกลงไปในหลุม
ใครที่ตะกายขึ้นมาจากหลุมก็จะติดกับดัก+
เพราะประตูท้องฟ้าจะเปิดออก
และโลกจะสั่นสะเทือนไปถึงฐานราก
20 แผ่นดินก็โซซัดโซเซเหมือนคนเมา
โยกเยกไปมาเหมือนเพิงที่ถูกลมพัด
ความผิดนี้ทำให้แผ่นดินหนัก+
จนต้องล้มลงและลุกไม่ขึ้นอีก
21 ในวันนั้น พระยะโฮวาจะหันมาจัดการกับกองทัพบนฟ้า
และกษัตริย์ต่าง ๆ บนโลก
22 พวกเขาจะถูกคุมตัวไว้ด้วยกัน
เหมือนนักโทษที่ถูกจับไว้ในบ่อ
พวกเขาจะถูกขังอยู่ในคุกใต้ดิน
และหลายวันหลังจากนั้น พวกเขาจะถูกพิจารณา
23 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพได้เป็นกษัตริย์+บนภูเขาศิโยน+และในกรุงเยรูซาเล็ม
ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จะปรากฏชัดต่อหน้าพวกผู้นำ*ในหมู่ประชาชนของพระองค์+
จนดวงจันทร์เต็มดวงยังต้องอาย
ดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงแรงกล้าก็ยังต้องหลบ
25 พระยะโฮวา พระองค์เป็นพระเจ้าของผม
ผมยกย่องและสรรเสริญพระองค์
เพราะพระองค์ทำสิ่งมหัศจรรย์+
ตามที่ตั้งใจไว้นานมาแล้ว+
และทำอย่างซื่อสัตย์+และไว้วางใจได้
2 พระองค์ทำให้เมืองหนึ่งกลายเป็นกองหิน
ทำให้เมืองที่มีป้อมปราการกลายเป็นกองซากปรักหักพัง
ทำให้ป้อมของคนต่างชาติไม่มีเหลืออยู่อีกเลย
จะไม่มีการสร้างเมืองนั้นขึ้นมาใหม่
3 เพราะเหตุนี้ ชนชาติหนึ่งที่เข้มแข็งจะมาสรรเสริญพระองค์
เมืองของชาติต่าง ๆ ที่ชอบกดขี่จะเกรงกลัวพระองค์+
4 พระองค์เป็นเหมือนป้อมที่คอยปกป้องคนยากจน
เป็นป้อมให้คนขัดสนได้พักพิงเมื่อทุกข์ใจ+
เป็นที่กำบังจากพายุฝน
เป็นร่มเงาให้ในตอนที่แดดร้อน+
และตอนที่ผู้กดขี่เป็นเหมือนพายุฝนที่พัดกระหน่ำกำแพง
5 หรือเป็นเหมือนความร้อนระอุในดินแดนที่แห้งแล้งนั้น
พระองค์จะสยบเสียงขู่คำรามของคนต่างชาติพวกนี้
และเสียงเพลงของคนที่กดขี่ก็ต้องเงียบลง
เหมือนความร้อนระอุถูกบดบังด้วยเงาเมฆ
6 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพจะจัดงานเลี้ยงใหญ่+
สำหรับคนทุกชาติบนภูเขานี้+
มีอาหารอย่างดีที่อุดมด้วยไขกระดูก
เหล้าองุ่นชั้นเลิศ*
เหล้าองุ่นที่กรองอย่างดี
7 บนภูเขานี้ พระองค์จะทำลาย*ผ้าที่ปิดคลุมชนชาติทั้งหลาย
และผ้าทอที่คลุมหน้าทุกชาติไว้
8 พระองค์จะทำลายความตายให้สาบสูญไปตลอดกาล+
พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดจะเช็ดน้ำตาให้ทุกคน+
พระองค์จะขจัดคำตำหนิที่ต่อว่าประชาชนของพระองค์ให้หมดไปจากโลก
เพราะพระยะโฮวาบอกไว้อย่างนั้น
9 ในวันนั้น พวกเขาจะพูดว่า
“นี่แหละคือพระเจ้าของเรา+
นี่แหละคือพระยะโฮวา
เราวางใจพระองค์เสมอมา
ให้เรามาชื่นชมยินดีที่พระองค์ช่วยเราให้รอดกันเถอะ”+
10 เพราะพระยะโฮวาจะใช้พลังอำนาจของพระองค์ปกป้องภูเขานี้+
พระองค์จะเหยียบโมอับลงในแผ่นดินของเขาเอง+
พวกเขาจะเป็นเหมือนฟางที่ถูกย่ำในกองปุ๋ย
11 พระองค์จะเหยียดมือออกตีโมอับ
เหมือนคนที่ว่ายน้ำเหยียดมือออกตีน้ำ
และพระองค์จะสยบความหยิ่งของเขา+
ด้วยมือที่ชำนิชำนาญของพระองค์
12 เมืองที่มีป้อมปราการ มีกำแพงสูงไว้ปกป้องนั้น
พระองค์จะทลายลง
พระองค์จะทำให้มันพังราบลงกับพื้น
26 ในวันนั้น จะมีการร้องเพลงนี้+ในแผ่นดินยูดาห์+
“พวกเรามีเมืองที่เข้มแข็ง+
พระองค์เป็นเหมือนกำแพงและเชิงเทิน*ที่ช่วยเราให้รอด+
3 พระองค์จะปกป้องคนที่เชื่อในพระองค์จริง ๆ*
พระองค์จะให้พวกเขามีสันติสุขเรื่อยไป+
เพราะพวกเขาไว้วางใจพระองค์+
5 และพระองค์ได้กดผู้ที่อยู่บนที่สูงให้ต่ำลง และกดเมืองที่สูงให้ต่ำลงด้วย
พระองค์จะกดให้ต่ำลง
ต่ำลงจนถึงพื้นดิน
พระองค์จะเหวี่ยงเขาให้ลงมาคลุกฝุ่น
6 และเขาจะถูกเหยียบย่ำ
คนทุกข์ยากและคนต่ำต้อยจะเหยียบย่ำเขา”
7 ทางของคนดีก็ตรง*
พระองค์จะทำให้ทางเดินของพวกเขาราบเรียบ
เพราะพระองค์เที่ยงธรรม
8 พระยะโฮวาพระเจ้า พวกเราวางใจในพระองค์
และเดินในแนวทางที่เป็นไปตามข้อกฎหมายของพระองค์
พวกเราอยากจะระลึกถึงพระองค์และชื่อของพระองค์*
9 ในตอนกลางคืน ผมคิดถึงพระองค์จริง ๆ
ผมเอาแต่มองหาพระองค์+
เพราะเมื่อพระองค์พิพากษาโลก
คนที่อยู่ในโลกจะได้เรียนรู้ความดีงามเสียที+
10 ถึงจะแสดงความกรุณาคนชั่ว
เขาก็ยังไม่รู้จักทำดี+
และถึงเขาจะได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินแห่งความซื่อตรง เขาก็ยังทำชั่วอยู่ดี+
เขาจะไม่ได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวา+
11 พระยะโฮวาพระเจ้า พระองค์ยกมือขึ้นแต่พวกเขาก็ไม่มอง+
แต่ในตอนที่พระองค์แสดงความรักแรงกล้าเพื่อปกป้องประชาชนของพระองค์ พวกเขาจะต้องอับอาย
เพราะพระองค์จะใช้ไฟเผาผลาญศัตรูของพระองค์ให้สิ้นซาก
12 พระยะโฮวาพระเจ้า พระองค์จะให้พวกเรามีสันติสุข+
เพราะทุกสิ่งที่เราทำไป
พระองค์ช่วยให้สำเร็จ
13 พระยะโฮวาพระเจ้าของเรา ถึงมีเจ้านายอื่นมาปกครองพวกเรา+
แต่เราก็จะสรรเสริญและเอ่ยชื่อพระองค์เพียงผู้เดียว+
14 พวกเขาตายแล้ว และจะไม่มีชีวิตอีก
ทำอะไรไม่ได้แล้ว และจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก+
เพราะพระองค์ได้หันมาจัดการเขา
ทำให้เขาต้องพินาศและจะไม่มีใครพูดถึงเขาอีก
15 พระยะโฮวาพระเจ้า พระองค์ได้ทำให้ชาติใหญ่ขึ้น
พระองค์ได้ทำให้ชาติใหญ่ขึ้น
พระองค์ได้ทำให้พระองค์เองมีเกียรติ+
พระองค์ได้ขยายเขตแดนทั้งหมดของแผ่นดินให้กว้างใหญ่+
16 พระยะโฮวาพระเจ้า ในเวลาทุกข์ยากพวกเขาได้หันมาหาพระองค์
ตอนที่พระองค์สั่งสอนเขา พวกเขาก็อธิษฐานเบา ๆ เพื่อระบายความรู้สึกของตัวเองออกมา+
17 พระยะโฮวาพระเจ้า พระองค์ทำให้เราเป็นเหมือน
ผู้หญิงท้องแก่ใกล้คลอด
ที่เจ็บท้องและร้องอย่างเจ็บปวด
18 พวกเราตั้งท้องและเจ็บท้องคลอด
แต่ก็เหมือนกับคลอดลมออกมา
พวกเราไม่ได้ช่วยให้คนที่อยู่ในแผ่นดินนั้นรอด
และไม่มีใครได้เกิดมาอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น
19 “คนของพวกเจ้าที่ตายแล้วจะมีชีวิตอีก
ศพที่เป็นของเราจะลุกขึ้น+
และพวกเจ้าที่เป็นดินไปแล้ว+
ตื่นขึ้นเถอะ และโห่ร้องยินดี
เพราะน้ำค้างของพวกเจ้าเป็นเหมือนน้ำค้างในตอนเช้า
และโลกจะปล่อยคนตายกลับคืนมา
20 ไปเถอะ ประชาชนของเรา เข้าไปอยู่ในห้องข้างใน
และปิดประตูดี ๆ+
ซ่อนตัวอยู่ที่นั่นสักพักหนึ่ง
จนกว่าความโกรธของเราจะผ่านพ้นไป+
21 คอยดูเถอะ เรายะโฮวาจะออกมาจากที่ของเรา
เราจะเรียกผู้คนที่อยู่ในแผ่นดินให้มารับผิดชอบความผิดที่ได้ทำ
การนองเลือดที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินจะถูกเปิดเผย
และจะไม่มีการซ่อนคนที่ถูกฆ่าเอาไว้อีกแล้ว”
27 ในวันนั้น พระยะโฮวาจะใช้ดาบเล่มใหญ่ที่แข็งแกร่งและคมกริบของพระองค์+
มาจัดการกับเลวีอาธาน งูที่เลื้อยอย่างรวดเร็ว
เลวีอาธาน งูที่ขดตัวอยู่
พระองค์จะฆ่าสัตว์ทะเลตัวใหญ่นั้น
2 ในวันนั้น ร้องเพลงเถอะว่า
“สวนองุ่นที่ให้เหล้าองุ่นหมัก+
3 พระยะโฮวาบอกว่า ‘เราเป็นผู้ดูแลเธอ*+
เรารดน้ำเธอเสมอ+
เราดูแลเธอทั้งวันทั้งคืน
ไม่ให้ใครมาทำอันตรายเธอได้+
4 เราไม่โกรธเธออีกแล้ว+
ถ้ามีใครเอาวัชพืชกับพุ่มหนามมาไว้ในสวนของเรา เราจะต่อสู้เขา
และเราจะเหยียบย่ำวัชพืชกับพุ่มหนามนั้นแล้วเอาไฟเผามันซะ
5 แต่เราไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย เราอยากให้เขาหันมาพึ่งพาเรามากกว่า
ให้เขาหันมาผูกมิตรกับเรา
หันมาเป็นมิตรกับเราแทน’”
7 จำเป็นต้องตีพวกเขาขนาดนั้นไหม?
จำเป็นต้องฆ่าพวกเขาอย่างนี้หรือเปล่า?
8 พระองค์จะต่อสู้เธอ พระองค์จะขับไล่เธอโดยทำเสียงไล่ให้ตกใจ
พระองค์จะขับไล่เธอโดยใช้ลมที่พัดแรงเหมือนลมตะวันออก+
9 โดยวิธีนี้ ถึงจะลบล้างความผิดของยาโคบได้+
และจะเห็นว่าบาปของเขาถูกลบล้างไปแล้ว
เมื่อพระองค์ทำให้ก้อนหินทั้งหมดที่ก่อเป็นแท่นบูชา
เป็นเหมือนหินชอล์กที่แหลกละเอียด
และเสาศักดิ์สิทธิ์กับแท่นเผาเครื่องหอมก็ไม่มีอีกต่อไป+
10 เมืองที่มีป้อมปราการก็จะถูกทิ้งร้าง
ทุ่งหญ้าจะถูกละทิ้งและถูกปล่อยปละละเลยเหมือนที่กันดาร+
ที่นั่น ลูกวัวจะหากิน นอน และแทะกิ่งไม้ของเมืองนั้น+
11 เมื่อกิ่งไม้ของเมืองนั้นแห้ง
พวกผู้หญิงก็จะไปหักมัน
แล้วเอามาก่อไฟ
เพราะว่าชนชาตินี้ไม่มีความเข้าใจ+
พระเจ้าผู้สร้างตัวเขาจึงไม่เมตตาพวกเขา
ผู้ที่ปั้นพวกเขาขึ้นมาจึงไม่ชอบพวกเขาอีกต่อไป+
12 ชาวอิสราเอล ในวันนั้น พระยะโฮวาจะรวบรวมพวกเจ้าที่กระจัดกระจายอยู่ตั้งแต่แม่น้ำสายใหญ่*ไปจนถึงลำน้ำอียิปต์+ เหมือนคนที่ตีต้นไม้ให้ผลหล่นลงมาและเก็บรวบรวมทีละลูก+ 13 ในวันนั้น จะมีการเป่าแตรเขาสัตว์ด้วยเสียงดัง+ คนที่กำลังจะตายในแผ่นดินอัสซีเรีย+และคนที่กระจัดกระจายอยู่ในแผ่นดินอียิปต์+จะมานมัสการพระยะโฮวาที่ภูเขาบริสุทธิ์นี้ในกรุงเยรูซาเล็ม+
28 ความพินาศจะเกิดกับมงกุฎ*ที่เป็นความภาคภูมิใจของเอฟราอิมคนขี้เมา+
มงกุฎประดับด้วยดอกไม้อันงดงามที่กำลังร่วงโรยนั้น
อยู่บนที่สูงของหุบเขาอันอุดมสมบูรณ์ของคนขี้เมาพวกนี้
2 ดูเถอะ พระยะโฮวาจะส่งผู้หนึ่งที่แข็งแรงและมีกำลังมากมา
และเขาจะเหวี่ยงมงกุฎนั้นลงกับพื้นอย่างแรง
เหมือนพายุลูกเห็บ เหมือนลมพายุที่ทำลายทุกสิ่ง
เหมือนพายุฝนฟ้าคะนองที่ทำให้เกิดน้ำท่วมหนัก
3 มงกุฎที่เป็นความภาคภูมิใจของเอฟราอิมคนขี้เมา
จะถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้เท้า+
4 และมงกุฎประดับด้วยดอกไม้อันงดงามที่กำลังร่วงโรยนี้
ซึ่งอยู่บนที่สูงของหุบเขาอันอุดมสมบูรณ์นั้น
จะเป็นเหมือนกับผลมะเดื่อรุ่นแรกที่สุกก่อนฤดูร้อน
เมื่อใครเห็นก็จะรีบคว้ามากินทันที
5 ในวันนั้น พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพจะกลายเป็นมงกุฎที่งดงามและมาลัยที่สวยสดสำหรับประชาชนของพระองค์ที่เหลืออยู่+ 6 และพระองค์จะทำให้ผู้พิพากษาตัดสินอย่างยุติธรรม และจะให้กำลังกับผู้ที่คอยขับไล่ศัตรูซึ่งมาโจมตีที่ประตูเมือง+
7 และยังมีผู้ที่เดินหลงเพราะเหล้าองุ่นอีก
เหล้าทำให้เขาเดินโซเซ
พวกปุโรหิตและผู้พยากรณ์เดินหลงเพราะเหล้า
เหล้าองุ่นทำให้พวกเขาสับสน
พวกเขาเดินเป๋ไปเป๋มาเพราะฤทธิ์เหล้า
นิมิตที่พวกเขาเห็นทำให้พวกเขาเดินหลง
และตัดสินเรื่องต่าง ๆ ผิดเพี้ยนไป+
8 พวกเขาอาเจียนออกมาเต็มโต๊ะ
ไม่มีส่วนไหนของโต๊ะที่ไม่เลอะเลย
9 พวกเขาบอกว่า “แล้วนี่กำลังสอนใคร?
กำลังอธิบายข่าวสารให้ใครฟังอยู่?
เด็กที่เพิ่งหย่านมหรือ?
หรือทารกที่เพิ่งละจากอกแม่?
10 เพราะเขาเอาแต่พูดว่า ‘ต้องทำอย่างนี้ ต้องทำอย่างนั้น
ตามบรรทัด*นี้ ตามบรรทัดนั้น+
ดูตรงนี้สิ ดูตรงนั้นสิ’”
11 พระเจ้าจะพูดกับชนชาตินี้โดยใช้คนที่พูดตะกุกตะกัก และพูดภาษาของคนต่างประเทศ+ 12 พระองค์เคยพูดกับชนชาตินี้ว่า “นี่คือที่พักผ่อน คนที่เหน็ดเหนื่อยจะได้มาพัก เพราะเป็นที่ที่ทำให้สดชื่น” แต่พวกเขาไม่ยอมฟัง+ 13 สำหรับพวกเขาแล้ว คำที่มาจากพระยะโฮวาจะเป็นอย่างนี้
ดังนั้น เมื่อพวกเขาเดิน
พวกเขาจะสะดุดแล้วล้มหงายหลัง
พวกเขาจะบาดเจ็บ ติดกับ และถูกจับ+
14 พวกคนอวดดีที่ปกครองชนชาตินี้ในเยรูซาเล็ม
ให้ฟังคำของพระยะโฮวา
15 เพราะพวกคุณพูดอวดว่า
เมื่อมีน้ำไหลบ่ามาท่วม
มันจะมาไม่ถึงเรา
เพราะเราใช้คำโกหกเป็นที่หลบภัย
และใช้คำสอนผิด ๆ เป็นที่ซ่อนตัว”+
16 เพราะอย่างนั้น พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดจึงพูดว่า
“เราเป็นผู้วางหินไว้เป็นฐานรากที่ศิโยน หินที่ถูกทดสอบแล้ว+
ทุกคนที่แสดงความเชื่อจะไม่ตื่นตกใจ+
ลูกเห็บจะกวาดเอาคำโกหกซึ่งเป็นที่หลบภัยไป
และน้ำก็จะกวาดเอาที่หลบซ่อนไปด้วย
18 ข้อตกลงที่พวกเจ้าทำกับความตายจะเป็นโมฆะ
เมื่อน้ำไหลบ่ามาท่วม
พวกเจ้าจะถูกน้ำนั้นทำลาย
19 ทุกครั้งที่ภัยนั้นผ่านมา
มันจะกวาดทำลายพวกเจ้า+
มันจะมาทุกเช้า
มาทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืน
ความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นจะทำให้พวกเขาเข้าใจข่าวสารที่เคยได้ยินมา”*
20 เตียงนอนจะสั้นเกินกว่าที่จะเหยียดตัวได้
และผ้าห่มก็จะเล็กเกินกว่าที่จะห่มตัวมิด
21 เพราะพระยะโฮวาจะลุกขึ้นจัดการเหมือนที่เคยทำบนภูเขาเปราซิม
พระองค์จะกระตือรือร้นเหมือนตอนที่อยู่ในหุบเขาใกล้กิเบโอน+
เพื่อทำสิ่งที่แปลกประหลาด
และทำงานที่ไม่ธรรมดา+
22 ถ้าอย่างนั้น อย่าเป็นคนชอบเยาะเย้ย+
สิ่งที่ผูกมัดคุณอยู่จะได้ไม่รัดคุณแน่นขึ้น
เพราะพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพและเป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด
ได้บอกผมเกี่ยวกับการทำลายล้างทั่วทั้งแผ่นดินซึ่งถูกกำหนดไว้แล้ว+
23 ตั้งใจฟังเสียงของเรา
และสนใจฟังสิ่งที่เราพูด
24 คนเราจะไถนาไปทั้งวันโดยไม่หว่านข้าวหรือ?
และเขาจะเอาแต่กลับดินและเตรียมหน้าดินไปเรื่อย ๆ ไหม?+
25 เพราะเมื่อเขาเกลี่ยดินให้เรียบแล้ว
เขาจะไม่โปรยเมล็ดเทียนแดงและหว่านเมล็ดยี่หร่าหรือ?
เขาจะไม่ปลูกข้าวสาลี ข้าวฟ่าง และข้าวบาร์เลย์ในที่นาของเขาหรือ?
และจะไม่ปลูกข้าวสเปลต์+ไว้ริมคันนาหรือ?
27 เช่นเดียวกับที่ไม่ได้เอาเลื่อนนวดข้าว*+มานวดเทียนแดง
และไม่ได้เอาล้อเกวียนมาบดยี่หร่า
แต่จะใช้ไม้ตีเทียนแดง
และจะใช้ไม้ฟาดยี่หร่า
28 คนเราจะนวดข้าวจนละเอียดถึงขั้นเป็นแป้งทำขนมปังไหม?
ไม่เลย เขาจะไม่นวดไปเรื่อย ๆ อย่างนั้น+
เมื่อเขาใช้เลื่อนที่มีม้าลากมานวดข้าว
เขาก็ไม่ได้ทำให้ข้าวแตกละเอียด+
29 สิ่งเหล่านี้ก็มาจากพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพด้วย
คือคำปรึกษามหัศจรรย์
29 “ความพินาศจะเกิดกับอารีเอล* อารีเอลเมืองที่ดาวิดเคยตั้งค่าย+
ฉลองเทศกาล+ของเจ้าไปสิ
ฉลองไปเรื่อย ๆ ทุกปี
2 แต่เราจะนำความทุกข์ยากมาสู่อารีเอล+
จะมีแต่ความโศกเศร้าและการคร่ำครวญ+
สำหรับเราแล้ว เมืองนี้จะเป็นเหมือนเตาเผาของแท่นบูชา+
3 เราจะล้อมเจ้าไว้ทุกด้าน
จะล้อมเจ้าด้วยรั้วไม้ปลายแหลม
จะสร้างกำแพงล้อมเมืองไว้ต่อสู้เจ้า+
4 เจ้าจะถูกทำให้ตกต่ำลง
เจ้าจะพูดจากพื้นดิน
เสียงพูดของเจ้าจะได้ยินแผ่ว ๆ มาจากดิน
5 พวกศัตรูของเจ้าจะเป็นเหมือนฝุ่นละออง+
ผู้ปกครองที่กดขี่จะเป็นเหมือนแกลบที่ถูกลมพัดปลิวไป+
มันจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันในชั่วพริบตา+
6 เรายะโฮวาผู้เป็นจอมทัพจะหันมาช่วยเจ้าให้รอด
โดยใช้ฟ้าร้อง แผ่นดินไหว และเสียงดังสนั่น
โดยใช้ลมพายุ พายุรุนแรง และเปลวไฟที่เผาผลาญ”+
7 แล้วชาติทั้งหลายที่รวมตัวกันมาทำสงครามกับอารีเอล+
คนทั้งหลายที่มาต่อสู้กับเมืองนี้
กำแพงที่มาสร้างล้อมเมืองนี้ไว้
และคนทั้งหลายที่นำความทุกข์มาสู่เมืองนี้
ก็จะเป็นเหมือนว่าฝันไป เป็นเหมือนว่าเห็นนิมิตในตอนกลางคืน
8 จะเป็นเหมือนคนหิวที่ฝันไปว่าตัวเองได้กิน
แต่เมื่อตื่นขึ้นมาก็ยังหิวอยู่
และจะเป็นเหมือนคนหิวน้ำที่ฝันไปว่าตัวเองได้ดื่มน้ำ
แต่เมื่อตื่นขึ้นมาก็รู้สึกเหนื่อยและยังหิวน้ำอยู่
ชาติทั้งหลายที่รวมตัวกันมาทำสงครามกับภูเขาศิโยน+
ก็จะเป็นอย่างนี้แหละ
พวกคุณเมา แต่ไม่ใช่เพราะเหล้าองุ่น
พวกคุณเดินโซเซ แต่ไม่ได้เป็นเพราะของมึนเมา
10 พระยะโฮวาทำให้พวกคุณหลับใหล+
พระองค์จะทำให้ผู้พยากรณ์ซึ่งเป็นเหมือนตาของพวกคุณมองไม่เห็น+
และผู้เห็นนิมิตซึ่งเป็นเหมือนหัวของพวกคุณก็จะถูกผ้าคลุมเอาไว้+
11 สำหรับพวกคุณแล้ว นิมิตทุกอย่างจะเป็นเหมือนข้อความในม้วนหนังสือที่ปิดผนึก+ เมื่อพวกคุณเอาม้วนหนังสือไปให้คนที่อ่านได้และบอกเขาว่า “ช่วยอ่านเสียงดัง ๆ หน่อย” เขาก็จะบอกว่า “อ่านไม่ได้เพราะมันปิดผนึกอยู่” 12 และเมื่อพวกคุณเอาม้วนหนังสือนั้นไปให้คนที่ไม่รู้หนังสือและบอกเขาว่า “ช่วยอ่านหนังสือนี้ให้หน่อย” เขาก็จะบอกว่า “ฉันอ่านไม่ออก”
13 พระยะโฮวาบอกว่า “ชนชาตินี้ดีแต่พูดว่าจะมาหาเรา
พวกเขานับถือเราแต่ปาก+
แต่ในใจของเขาไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย
ที่เขาเคารพยำเกรงเราก็เพียงเพราะทำตามกฎเกณฑ์ของมนุษย์ที่สอนกันมา+
14 เพราะอย่างนี้ เราจะทำให้ชนชาตินี้เห็นสิ่งที่น่าตกตะลึงอีกครั้งหนึ่ง+
เป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงอย่างยิ่ง
สติปัญญาของคนมีปัญญาจะสูญหายไป
และความเข้าใจของคนฉลาดจะถูกปิดซ่อนไว้”+
15 ความหายนะจะต้องเกิดกับคนที่พยายามหลบไปให้ไกลจากพระยะโฮวาเพื่อซ่อนแผนการ*ของเขา+
ตอนที่พวกเขาแอบทำในที่มืด
พวกเขาจะพูดว่า “ใครจะมาเห็นเรา?
ใครจะไปรู้ว่าเราทำอะไร?”+
16 พวกคุณนี่คิดอะไรผิดเพี้ยนจริง ๆ
จะมองช่างปั้นหม้อว่ามีค่าเท่ากับดินเหนียวหรือ?+
สิ่งที่ถูกปั้นจะพูดถึงผู้ปั้นได้ไหมว่า
“เขาไม่ได้ปั้นฉันขึ้นมา”?+
และสิ่งที่ถูกทำขึ้นมาจะพูดถึงคนทำได้ไหมว่า
“เขาไม่รู้อะไรเลย”?+
18 ในวันนั้น คนหูหนวกจะได้ยินข้อความในม้วนหนังสือ
และคนตาบอดก็จะมองเห็น จะไม่มีความมืดมัวและมืดมิดอีก+
19 คนอ่อนน้อมจะยินดีมากในสิ่งที่พระยะโฮวาได้ทำ
คนขัดสนจะชื่นชมเพราะพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล+
20 เพราะจะไม่มีพวกผู้ปกครองที่กดขี่อีก
คนที่โอ้อวดจะถึงจุดจบ
และคนที่คิดแต่จะทำชั่วก็จะถูกทำลายจนหมดสิ้น+
21 คนเหล่านั้นคือคนที่ชอบพูดโกหกเพื่อให้คนอื่นมีความผิด
คนที่วางกับดักผู้ปกป้องความยุติธรรม*ซึ่งทำหน้าที่อยู่ที่ประตูเมือง+
และคนตั้งข้อกล่าวหาเท็จที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ไม่ได้รับความเป็นธรรม+
22 ดังนั้น พระยะโฮวาผู้ไถ่อับราฮัม+พูดกับลูกหลานของยาโคบว่า
23 เพราะเมื่อเขาเห็นลูกหลานของเขา
ลูกหลานที่อยู่ล้อมรอบเขาซึ่งเป็นผลงานของเรา+
พวกเขาจะให้เกียรติชื่อของเรา
พวกเขาจะให้เกียรติพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของยาโคบ
และพวกเขาจะเคารพยำเกรงพระเจ้าของอิสราเอล+
24 คนที่หลงผิดจะได้รู้และเข้าใจ
และคนที่ชอบบ่นจะยอมรับคำแนะนำสั่งสอน”
30 พระยะโฮวาพูดว่า “ความพินาศจะเกิดกับลูกหลานที่ดื้อรั้น+
ซึ่งทำอะไรโดยไม่ถามเราก่อน+
และไปผูกมิตรกับคนอื่นทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้อยากให้ทำ
การทำแบบนี้มีแต่จะทำให้บาปของพวกเขาเพิ่มมากขึ้นไปอีก
2 พวกเขาไปที่อียิปต์+โดยไม่ปรึกษาเรา+
ไปขอความช่วยเหลือจากฟาโรห์
และถึงกับไปหลบภัยใต้ร่มเงาของอียิปต์
3 แต่การไปขอความช่วยเหลือจากฟาโรห์กลับทำให้พวกเขาต้องอับอาย
และการหลบภัยใต้ร่มเงาของอียิปต์ก็จะทำให้พวกเขาต้องขายหน้า+
4 เมื่อพวกเจ้านายมาถึงเมืองโศอัน+
และทูตไปถึงฮาเนส
5 พวกเขาจะต้องอับอาย
เพราะชาวอียิปต์ช่วยอะไรไม่ได้สักอย่าง
ไม่ได้ช่วยหรือทำอะไรให้ดีขึ้น
มีแต่จะทำให้อับอายขายหน้าเท่านั้น”+
6 ต่อไปนี้คือคำพิพากษาต่อสัตว์ต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ทางใต้
พวกทูตบรรทุกของมีค่าไว้บนหลังลา
และของกำนัลไว้บนหลังอูฐ
เดินทางผ่านดินแดนที่มีแต่ความทุกข์และความยากลำบาก
ดินแดนที่มีสิงโต สิงโตที่คำราม
ดินแดนที่มีแต่งูพิษและงูพิษร้ายแรงที่ฉกกัดอย่างรวดเร็ว
แต่สิ่งของเหล่านี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้
7 เพราะความช่วยเหลือของอียิปต์นั้นไม่มีประโยชน์+
ดังนั้น เราได้เรียกอียิปต์ว่า “ราหับ*+ที่นั่งอยู่เฉย ๆ”
8 “ตอนนี้ ไปเขียนเรื่องนี้ลงบนแผ่นกระดานต่อหน้าเขา
และจดลงไปในหนังสือ+
เพื่อผลประโยชน์ในวันข้างหน้า
และเพื่อเป็นข้อเตือนใจที่จะคงอยู่ตลอดไป+
9 เพราะพวกเขาเป็นคนที่ชอบกบฏ+ เป็นลูกหลานที่ไว้ใจไม่ได้+
ลูกหลานที่ไม่ยอมเชื่อฟังกฎหมาย*ที่เรายะโฮวาให้ไว้+
10 พวกเขาพูดกับคนที่เห็นนิมิตว่า ‘เลิกเห็นนิมิตซะทีเถอะ’
และพูดกับพวกผู้ทำนายว่า ‘ไม่ต้องมาบอกเรื่องจริงให้เราฟัง+
แต่บอกเรื่องที่ทำให้เราสบายใจ และบอกนิมิตที่หลอกลวงให้เราฟังดีกว่า+
11 ออกนอกลู่นอกทางบ้างก็ได้ ไม่ต้องตรงมากหรอก
แล้วก็ไม่ต้องเอาเรื่องของพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลมาพูดให้เราฟังอีก’”+
12 ดังนั้น พระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลจึงพูดว่า
“เพราะพวกเจ้าได้ปฏิเสธคำของเรา+
ไปไว้วางใจในสิ่งที่หลอกลวง
และไปพึ่งพาคำโกหก+
13 ดังนั้น เมื่อพวกเจ้าทำผิดอย่างนี้พวกเจ้าก็จะเป็นเหมือนกำแพงที่แตกแล้ว
เหมือนกำแพงสูงที่โก่งออกมาและพร้อมจะพังลง
มันจะพังลงมาภายในพริบตาเดียว
14 มันจะแตกเหมือนกับไหใบใหญ่
ที่แตกละเอียดจนไม่มีชิ้นดี
จะเอามาใช้เขี่ยไฟออกจากเตา
หรือตักน้ำจากแอ่ง*ก็ไม่ได้”
15 พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดผู้เป็นพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลได้พูดว่า
“ถ้าพวกเจ้ากลับมาหาเรา และอยู่นิ่ง ๆ แล้ววางใจเรา พวกเจ้าก็จะปลอดภัย
ถ้าพวกเจ้ามีใจที่สงบและวางใจเรา พวกเจ้าก็จะมีความเข้มแข็ง”+
แต่พวกคุณไม่ยอมทำอย่างนั้น+
16 พวกคุณกลับพูดว่า “ไม่ล่ะ เราจะขี่ม้าหนีไป”
แล้วพวกคุณก็จะทำอย่างนั้น
และพวกคุณพูดอีกว่า “เราจะควบม้าให้เร็ว”+
แต่คนที่ไล่ตามพวกคุณก็จะกวดตามคุณอย่างรวดเร็ว+
17 คนพันคนจะต้องตกใจกลัวกับเสียงขู่ของคนคนเดียว+
และพวกคุณจะหนีเพราะเสียงขู่ของคนห้าคน
คนที่เหลืออยู่จะเป็นเหมือนเสากระโดงบนยอดเขา
เหมือนเสาให้สัญญาณต้นเดียวบนเนินเขา+
เพราะพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าที่ยุติธรรม+
คนที่ตั้งตาคอยพระองค์ก็มีความสุข+
19 เมื่อชาวศิโยนกลับไปอาศัยอยู่ในเยรูซาเล็ม+ คุณจะไม่ต้องร้องไห้อีกเลย+ พระองค์จะช่วยเมื่อได้ยินคุณร้องขอ พระองค์จะตอบคุณทันทีที่ได้ยิน+ 20 แม้พระยะโฮวาจะให้ความทุกข์ยากและความทุกข์ใจเกิดขึ้นกับคุณจนเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนที่คุณต้องกินอาหารและน้ำ+ แต่ครูองค์ยิ่งใหญ่+ของคุณจะไม่ซ่อนตัวอีกแล้ว คุณจะเห็นครูองค์นี้ด้วยตาของคุณเอง 21 ถ้าคุณเดินหลงออกไปทางซ้ายหรือทางขวา+ คุณจะได้ยินเสียงจากข้างหลังว่า “ทางที่ถูกอยู่ตรงนี้+ เดินทางนี้สิ”
22 คุณจะทำลายรูปเคารพที่หุ้มด้วยเงินและทอง+ซึ่งคุณเคยกราบไหว้ จะขว้างมันทิ้งเหมือนขว้างผ้าที่ใช้ซับประจำเดือนของผู้หญิง และพูดกับมันว่า “ไม่เอาแล้ว”*+ 23 พระองค์จะให้ฝนแก่เมล็ดพืชที่คุณหว่านลงในดิน+ และอาหารซึ่งเป็นผลผลิตจากดินจะอุดมสมบูรณ์และมีประโยชน์+ ในวันนั้น สัตว์ของคุณจะหากินอยู่ในทุ่งกว้าง+ 24 วัวกับลาที่ใช้ไถนาจะได้กินอาหารอย่างดีที่แยกแกลบออกไปแล้ว* 25 และในวันสังหารใหญ่เมื่อป้อมปราการต่าง ๆ พังลงแล้ว แม้แต่บนภูเขาสูงทุกลูกและบนเนินเขาสูงทุกแห่งก็จะมีลำธารและทางน้ำ+ 26 ในวันที่พระยะโฮวาพันบาดแผลให้ประชาชนของพระองค์+ และรักษาแผล*ที่เกิดจากการลงโทษของพระองค์+ แสงจากดวงจันทร์เต็มดวงก็จะเป็นเหมือนแสงของดวงอาทิตย์ และแสงของดวงอาทิตย์ก็จะสว่างขึ้นเจ็ดเท่า+เหมือนกับแสงของเจ็ดวันรวมกัน
27 ดูเถอะ พระยะโฮวา*กำลังมาจากที่ไกล
กำลังมาด้วยความโกรธที่ร้อนแรงพร้อมกับกลุ่มเมฆที่หนาทึบ
พระองค์พูดด้วยความโกรธ
และคำพูดของพระองค์ก็เป็นเหมือนไฟที่เผาผลาญ+
28 พระองค์จะใช้พลังของพระองค์ให้เป็นเหมือนลำน้ำเชี่ยวที่ท่วมสูงถึงคอ
พระองค์จะร่อนชาติต่าง ๆ แล้วทำลายไม่ให้เหลือ
และพระองค์จะใส่บังเหียนที่ปาก+ของชนชาติเหล่านี้เพื่อจูงเขาไปสู่ความพินาศ
29 แต่พวกคุณจะได้ร้องเพลง
เหมือนที่ได้ร้องในคืนที่เตรียมตัวเพื่อฉลองเทศกาล+
พวกคุณจะมีใจเบิกบาน
เหมือนคนที่เป่าขลุ่ย
เดินเป่าขลุ่ยขึ้นไปบนภูเขาของพระยะโฮวา ไปหาพระองค์ผู้เป็นเหมือนหินที่แข็งแกร่งของอิสราเอล+
30 พระยะโฮวาจะทำให้มนุษย์ได้ยินเสียงอันทรงพลังของพระองค์+
และได้เห็นพระองค์ฟาดแขน+ลงมาด้วยความโกรธจัด+
ด้วยเปลวไฟที่เผาผลาญ+
31 อัสซีเรียจะต้องตกใจกลัวจนลนลาน+เมื่อได้ยินเสียงของพระยะโฮวา
พระองค์จะตีเขาด้วยไม้+
พระเจ้าได้กองฟืนไว้ในที่ที่ทั้งลึกและกว้าง
ในนั้นมีฟืนมากมายและมีไฟลุกท่วม
ลมที่พระยะโฮวาพ่นออกมานั้นเป็นเหมือนธารกำมะถัน
ทำให้ที่นั่นลุกไหม้
31 ความพินาศจะเกิดกับคนเหล่านั้นที่ไปขอความช่วยเหลือจากอียิปต์+
พวกเขาคิดว่ามีม้าเยอะ ๆ ถึงจะช่วยได้+
คิดว่ามีรถศึกมาก ๆ แล้วจะปลอดภัย
และมีม้าศึกตัวใหญ่*ถึงจะชนะ
พวกเขาไม่ได้มองหาพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
ไม่ได้แสวงหาความช่วยเหลือจากพระยะโฮวา
2 แต่พระองค์ก็มีสติปัญญาด้วยไม่ใช่หรือ? พระองค์จะนำความหายนะมาแน่
พระองค์จะไม่ถอนคำพูด
พระองค์จะจัดการคนเหล่านั้นที่ทำชั่ว
และจะต่อสู้คนที่คอยช่วยคนทำผิด+
3 พวกอียิปต์ก็เป็นแค่มนุษย์ ไม่ใช่พระเจ้า
ม้าของพวกเขาก็เป็นแค่สัตว์ที่มีเลือดมีเนื้อ จะไปเทียบอะไรได้กับพระเจ้า+
เมื่อพระยะโฮวาเหยียดมือออกจะลงโทษ
ใครก็ตามที่ให้ความช่วยเหลือจะต้องสะดุดล้ม
และใครก็ตามที่ได้รับความช่วยเหลือก็จะต้องล้มลง
พวกเขาทั้งหมดจะต้องพินาศไปพร้อม ๆ กัน
4 พระยะโฮวาได้พูดกับผมว่า
“เราจะเป็นเหมือนกับสิงโตหนุ่มแข็งแรงที่คำรามหวงเหยื่อของมัน
ที่ไม่กลัวเสียงผู้เลี้ยงแกะ
หรือตื่นตกใจ
เมื่อพวกเขารวมตัวกันเพื่อไล่มัน
เรายะโฮวาผู้เป็นจอมทัพก็จะเป็นแบบนั้นเมื่อลงมาทำสงคราม
เพื่อปกป้องภูเขาศิโยนและเนินเขาที่นั่น
5 เรายะโฮวาผู้เป็นจอมทัพจะมาปกป้องเยรูซาเล็มอย่างรวดเร็ว เหมือนกับนกที่บินโฉบลงมาปกป้องลูกของมัน+
เราจะปกป้องและคุ้มครองเขา
เราจะช่วยเขาให้รอดชีวิต”
6 พระเจ้าบอกว่า “ชาวอิสราเอลทั้งหลาย ให้กลับมาหาผู้ที่เจ้าได้จงใจกบฏนั้น+ 7 ในวันนั้น แต่ละคนจะทิ้งพระต่าง ๆ ที่ไร้ค่าซึ่งเขาทำขึ้นมาเองจากเงินและทอง การทำรูปเคารพเหล่านั้นเป็นการทำบาป
8 และชาวอัสซีเรียจะต้องล้มลงด้วยดาบ แต่ไม่ใช่ดาบของมนุษย์
ดาบที่ไม่ใช่ดาบของมนุษย์จะทำลายพวกเขา+
พวกเขาจะต้องหนีไปเพราะดาบนั้น
และพวกคนหนุ่มของเขาก็จะถูกบังคับให้ทำงานหนัก
9 สิ่งที่เป็นเหมือนหินใหญ่ให้เขาพึ่งพิงจะหายไปเพราะความกลัวสุดขีด
พวกเจ้านายที่อยู่กับเขาก็จะตกใจกลัวเมื่อเห็นเสาให้สัญญาณ” พระยะโฮวาบอกไว้อย่างนี้
และไฟของพระองค์นั้นอยู่ในศิโยน เตาเผาของพระองค์ก็อยู่ที่เยรูซาเล็ม
32 ดูเถอะ กษัตริย์องค์หนึ่ง+จะปกครองอย่างถูกต้องชอบธรรม+
และจะมีเจ้านายที่ปกครองอย่างยุติธรรม
2 พวกเขาแต่ละคนจะเป็นเหมือนที่กำบังให้พ้นลม
เป็นเหมือนที่หลบให้พ้นพายุฝน
และเป็นเหมือนลำธารในที่กันดาร+
เหมือนเงาของหินผาในดินแดนที่แห้งแล้ง
3 ตอนนั้น คนที่ได้เห็นจะไม่ถูกปิดตาอีกต่อไป
และคนที่ได้ยินก็จะสนใจฟัง
4 คนที่เคยใจเร็วจะกลายเป็นคนที่พิจารณาความจริงอย่างรอบคอบ
และคนที่เคยพูดตะกุกตะกักก็จะพูดคล่องแคล่วและฉะฉาน+
5 เขาจะไม่เรียกคนชั่วว่าคนใจกว้างอีกต่อไป
และจะไม่เรียกคนไร้ศีลธรรมว่าคนดี
6 เพราะคนชั่วจะพูดแต่เรื่องโง่เขลา
ในใจก็คิดแต่จะทำชั่ว+
คิดจะทรยศพระเจ้า*และพูดเรื่องเท็จต่อต้านพระยะโฮวา
เขาไม่ให้คนหิวโหยได้กิน
และไม่ให้คนหิวน้ำได้ดื่ม
7 การกระทำของคนไร้ศีลธรรมก็ชั่วร้าย+
เขาส่งเสริมความประพฤติอันน่าละอาย
ทำลายคนยากจนด้วยเรื่องโกหก+
แม้คนยากจนจะพูดความจริงก็ตาม
8 แต่คนที่เอื้อเฟื้อก็คิดแต่จะแบ่งปันให้กับคนอื่น
และเขามุ่งมั่นจะทำดีอย่างนั้นต่อ ๆ ไป
9 “พวกผู้หญิงที่นอนเป็นทองไม่รู้ร้อน ลุกขึ้นมาฟังเราสิ
พวกลูกสาวที่ไม่ทุกข์ไม่ร้อน+ สนใจฟังที่เราพูดหน่อย
10 อีกปีกว่า ๆ คนที่ไม่ทุกข์ไม่ร้อนจะต้องตกใจจนตัวสั่น
เพราะแม้จะหมดหน้าเก็บองุ่นไปแล้ว แต่ก็ยังเก็บอะไรไม่ได้เลย+
11 ผู้หญิงที่นอนเป็นทองไม่รู้ร้อนจะต้องกลัวจนตัวสั่น
พวกเธอซึ่งไม่ทุกข์ไม่ร้อนจะต้องตกใจกลัว
ถอดเสื้อผ้าตัวเองออกซะ
แล้วนุ่งผ้ากระสอบแทน+
12 และร้องไห้ตีอกชกหัว
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุ่งนาที่เคยงดงามและเถาองุ่นที่เคยมีผลมาก
13 เพราะแผ่นดินที่ประชาชนของเราอยู่จะถูกปกคลุมไปด้วยต้นหนามและพุ่มไม้ที่มีหนาม
ต้นหนามเหล่านี้จะมาปกคลุมบ้านเรือนที่เคยรื่นเริงทั้งหมด
และปกคลุมเมืองที่เคยมีความยินดีด้วย+
14 ป้อมปราการถูกทิ้งร้างไปแล้ว
เมืองที่มีผู้คนมากมายก็ต้องร้างเปล่าไปด้วย+
โอเฟล*+และหอคอยก็จะกลายเป็นที่ร้างตลอดไป
เป็นที่ที่ลาป่าอาศัยอยู่อย่างมีความสุข
และเป็นทุ่งหญ้าสำหรับสัตว์+
15 ในที่สุดพระเจ้าจะให้*พลังของพระองค์กับพวกเรา+
ที่กันดารจะกลายเป็นสวนผลไม้
และสวนผลไม้นั้นก็จะเป็นเหมือนป่า+
16 ตอนนั้น ในที่กันดารจะมีความยุติธรรมอยู่ทั่วไป
และในสวนผลไม้ก็จะมีความถูกต้องชอบธรรมอยู่ทุกหนแห่ง+
17 ความถูกต้องชอบธรรมที่แท้จริงจะทำให้เกิดสันติสุข+
และความถูกต้องชอบธรรมนั้นจะทำให้มีความสงบสุขและความปลอดภัยตลอดไป+
18 ประชาชนของเราจะได้อยู่อย่างสงบสุข
อยู่ในที่ที่ปลอดภัยและมีชีวิตอยู่อย่างสุขกายสบายใจ+
19 แต่ลูกเห็บจะทำลายต้นไม้จนป่าราบไป
และเมืองนั้นก็จะถูกทำให้พังพินาศ
20 คนที่หว่านพืชไปทั่วทุกแห่งตามริมน้ำ
และคนที่ปล่อยวัวและลาไปในทุ่งนาก็จะมีความสุข”+
33 ความพินาศจะเกิดกับคน*ที่ชอบทำลายคนอื่น แต่ตัวเขาเองยังไม่เคยถูกทำลาย+
คนที่ชอบทรยศ แต่ตัวเองยังไม่เคยถูกทรยศ
เมื่อทำลายคนอื่นแล้ว ตัวเขาเองก็จะถูกทำลายด้วย+
และเมื่อทรยศคนอื่นแล้ว ตัวเขาเองก็จะถูกทรยศเหมือนกัน
2 พระยะโฮวาครับ โปรดเมตตาพวกเราด้วยเถอะ+
พวกเราวางใจพระองค์เสมอ
3 เมื่อพระองค์ทำเสียงขู่ ชนชาติต่าง ๆ ก็หนีไป
เมื่อพระองค์ลุกขึ้น ชาติต่าง ๆ ก็กระจัดกระจาย+
4 ผู้คนจะมารุมกันเอาข้าวของที่พวกคุณทิ้งไว้เหมือนกับตั๊กแตนที่หิวโหยมารุมกันกินพืชผล
ผู้คนจะมารุมล้อมเหมือนกับฝูงตั๊กแตน
5 พระยะโฮวาจะได้รับการเชิดชู
เพราะพระองค์อยู่ในที่สูงส่ง
พระองค์จะทำให้ศิโยนมีแต่ความยุติธรรมและความถูกต้องชอบธรรม
6 พระยะโฮวาเป็นผู้ทำให้ชีวิตคุณมั่นคง
พระองค์เป็นผู้ช่วยคุณให้รอด+ เป็นผู้ให้สติปัญญากับความรู้ และพระองค์สอนคุณให้เกรงกลัวพระองค์+
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งมีค่าสำหรับมนุษย์*
7 ดูสิ ผู้กล้าหาญของพวกเขา*ส่งเสียงร้องอยู่ตามถนน
ทูตสันติภาพก็ร้องไห้อย่างขมขื่น
8 ทางหลวงถูกทิ้งร้าง
ตามถนนหนทางก็ไม่มีคนเดินไปมา
9 แผ่นดินเศร้าหมอง*และเหี่ยวเฉา
เลบานอนก็อับอาย+เพราะมันสลายไปแล้ว
ทุ่งชาโรนกลับกลายเป็นเหมือนทะเลทราย
ต้นไม้ที่บาชานกับเทือกเขาคาร์เมลก็สลัดใบ+
10 พระยะโฮวาพูดว่า “ถึงเวลาแล้วที่เราจะลงมือจัดการ
ถึงเวลาแล้วที่เราจะทำให้ตัวเราเองได้รับการยกย่อง+
และถึงเวลาแล้วที่เราจะทำให้ตัวเราเองได้รับการสรรเสริญเชิดชู
11 แผนการที่เจ้าคิดก็เป็นเหมือนฟางกับตอข้าว
ความคิดของเจ้าจะทำลายเจ้าเหมือนไฟที่เผาผลาญ+
12 และผู้คนจะเป็นเหมือนปูนที่ถูกเผาจนเหลือแต่ซาก
พวกเขาจะถูกเผาเหมือนต้นหนามที่ถูกตัดแล้วโยนทิ้งในไฟ+
13 เจ้าพวกคนที่อยู่ห่างไกล ฟังให้ดีว่าเราจะทำอะไร
และพวกคนที่อยู่ใกล้ ๆ ยอมรับอำนาจของเราซะดี ๆ
14 คนบาปในศิโยนจะต้องตกอยู่ในความกลัว+
พวกที่ทรยศพระเจ้าก็จะต้องกลัวจนตัวสั่นและพูดกันว่า
‘ไฟเผาผลาญถึงขนาดนี้ ใครจะไปอยู่ได้+
และใครจะทนกับไฟที่ไม่มีวันดับแบบนี้ได้?’
15 คนที่ใช้ชีวิตอย่างดีงามเสมอมา+
พูดแต่ความจริง+
ไม่แสวงหาผลกำไรโดยมิชอบ
ปฏิเสธไม่ยอมรับสินบน+
ปิดหูไม่ฟังแผนฆ่าคน
และปิดตาไม่มองสิ่งชั่ว
16 คนแบบนี้แหละจะอยู่บนที่สูง
ที่หลบภัย*ของเขาจะปลอดภัยเหมือนอยู่ในป้อมหิน
เขาจะมีอาหาร
และน้ำดื่มไม่ขาด”+
17 คุณจะได้เห็นกษัตริย์ที่สง่างาม
และจะเห็นแผ่นดินหนึ่งแต่ไกล
18 เมื่อนึกถึงความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นในอดีต คุณจะถามขึ้นมาว่า
“เจ้าหน้าที่ภาษีอากรไปอยู่ที่ไหนซะล่ะ?
คนที่ชั่งส่วยหายไปไหนซะแล้ว?+
คนที่นับหอคอยก็หายไปกับเขาด้วย”
19 พวกคุณจะไม่ได้เห็นคนอวดดีอีก
คนพวกนี้พูดภาษาที่เราไม่เข้าใจ
แถมยังเป็นภาษาแปลก ๆ ที่เราฟังไม่รู้เรื่อง+
20 มองดูศิโยนสิ เมืองที่เราฉลองเทศกาลกัน+
คุณจะเห็นว่าเยรูซาเล็มเป็นที่อยู่อาศัยที่สุขสงบ
เป็นเต็นท์ที่ไม่ต้องเคลื่อนย้ายไปไหน+
จะไม่มีการถอนหมุดยึดเต็นท์อีก
และจะไม่มีการตัดเชือกที่ใช้ผูกเต็นท์ให้ขาด
21 ที่นั่น พระยะโฮวาพระเจ้าองค์ยิ่งใหญ่
จะเป็นเหมือนดินแดนที่มีแม่น้ำและลำธารอันกว้างใหญ่สำหรับเรา
ที่จะไม่มีกองเรือรบของศัตรูแล่นผ่านไปได้
และจะไม่มีเรือลำใหญ่ผ่านที่นั่นได้เลย
22 เพราะพระยะโฮวาเป็นผู้พิพากษาของเรา+
พระยะโฮวาเป็นผู้ตั้งกฎหมายให้เรา+
พระยะโฮวาเป็นกษัตริย์ของเรา+
และพระองค์เป็นผู้ช่วยเราให้รอด+
23 เชือกในเรือของศัตรูจะหย่อน
จนยึดเสากระโดงให้มั่นคงหรือดึงใบเรือให้กางก็ไม่ได้
ในตอนนั้น ของปล้นที่มีมากมายจะถูกนำมาแบ่งปันกัน
แม้แต่คนง่อยก็ยังไปเอามาได้จำนวนมาก+
24 และจะไม่มีใครที่อยู่ในแผ่นดินนั้นพูดว่า “ฉันป่วย”+
เพราะผู้คนที่อยู่ที่นั่นได้รับการยกโทษและไม่มีความผิดแล้ว+
34 ชาติต่าง ๆ เข้ามาใกล้ ๆ และฟัง
ชนชาติทั้งหลาย ให้สนใจเรื่องที่จะได้ยิน
ให้โลกและทุกสิ่งที่อยู่บนโลกฟัง
ทั้งแผ่นดินและสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนแผ่นดิน
พระองค์จะทำลายพวกเขา
และจะสังหารพวกเขา
3 ร่างของคนที่ถูกฆ่าจะมีเกลื่อนกลาด
ศพเหล่านั้นจะส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง+
4 กองทัพบนฟ้าจะสลายไป
และท้องฟ้าจะถูกม้วนให้เป็นเหมือนม้วนหนังสือ
กองทัพเหล่านั้นจะแห้งเหี่ยวไป
เหมือนใบไม้แห้งที่ร่วงจากเถาองุ่น
และเหมือนลูกมะเดื่อแห้งที่หล่นจากต้น
5 “เพราะบนฟ้า ดาบของเราจะเปียกชุ่มไปด้วยเลือด+
เราจะลงดาบเอโดม+
ลงดาบชนชาติที่เราจะทำลายล้าง
6 เรายะโฮวามีดาบที่อาบไปด้วยเลือด
ดาบนั้นจะเปรอะมันสัตว์+
กับเลือดของลูกแกะตัวผู้และแพะ
และมันที่หุ้มไตของแกะตัวผู้
เพราะเรายะโฮวาจะลงมือเตรียมเครื่องบูชาเองที่เมืองโบสราห์
นี่เป็นการสังหารครั้งใหญ่ในดินแดนเอโดม+
7 วัวป่าจะล้มลง
และลูกวัวจะล้มไปพร้อมกับวัวหนุ่มซึ่งมีกำลังมาก
แผ่นดินของเขาจะโชกไปด้วยเลือด
และพื้นดินจะชุ่มไปด้วยมันสัตว์”
8 เพราะพระยะโฮวาได้กำหนดวันที่จะแก้แค้นศัตรู+
และกำหนดปีที่จะลงโทษคนที่ทำผิดต่อศิโยน+
9 น้ำในลำธารของเมืองนี้*จะกลายเป็นน้ำมันดิน
ดินของเมืองนี้จะกลายเป็นกำมะถัน
และแผ่นดินของเมืองนี้จะเป็นเหมือนน้ำมันดินที่ลุกไหม้
10 ไฟนั้นจะไม่ดับไม่ว่ากลางคืนหรือกลางวัน
จะมีควันที่ลอยขึ้นอยู่ตลอดไป
เมืองนี้จะถูกทิ้งให้ร้างไปทุกยุคทุกสมัย
และจะไม่มีใครเดินทางผ่านเมืองนี้ตลอดไป+
11 นกกระทุงและเม่นจะไปอยู่ที่นั่น
นกเค้าแมวหูยาวและอีกาจะไปอยู่ในเมืองนี้ด้วย
พระองค์จะใช้สายวัดและสายดิ่ง*มาวัดแผ่นดินนี้
เพื่อแสดงให้เห็นว่าเมืองนี้จะต้องร้างเปล่าและถูกทิ้งร้าง
12 จะไม่มีเจ้านายคนไหนได้เป็นกษัตริย์
เพราะเมืองนี้ไม่มีพวกเจ้านายเหลืออยู่แล้ว
13 จะมีต้นหนามงอกขึ้นในป้อมปราการของเมืองนี้
ต้นตำแยและวัชพืชมีหนามจะขึ้นอยู่ตามป้อมนั้นด้วย
เมืองนี้จะกลายเป็นที่อยู่ของพวกหมาใน+
และเป็นที่อาศัยของพวกนกกระจอกเทศ
14 สัตว์ทะเลทรายจะเจอสัตว์ที่เห่าหอน
แพะป่า*จะร้องหากัน
นกกลางคืน*จะมาหาที่พักอยู่ที่นั่น
15 งูกะปะจะทำรังและวางไข่ที่นั่น
มันจะฟักไข่และขดตัวอยู่รอบลูกของมัน
พวกนกเหยี่ยวจะมารวมตัวกัน พวกมันจะมากันเป็นคู่ ๆ
16 ลองค้นหาในหนังสือของพระยะโฮวาและอ่านดัง ๆ
จะไม่มีสัตว์ตัวไหนที่หายไป
ไม่มีตัวไหนไม่มีคู่
เพราะพระยะโฮวาสั่งให้เป็นอย่างนั้น
และพระองค์ใช้พลังของพระองค์รวบรวมสัตว์เหล่านั้นมา
17 พระองค์เป็นผู้กำหนดที่ทางให้สัตว์เหล่านั้น
พระองค์วัดและแบ่งพื้นที่ให้พวกมัน*
สัตว์เหล่านั้นจะอาศัยอยู่ที่นั่นตลอดไป
พวกมันจะอาศัยอยู่ที่นั่นตลอดทุกยุคทุกสมัย
35 ที่กันดารและดินแดนที่แห้งแล้งจะปลาบปลื้มยินดี+
ที่ราบกันดารจะมีความสุขและมีดอกไม้เต็มไปหมด+
2 ที่นั่น ดอกไม้จะบานสะพรั่ง+
แผ่นดินนั้นจะชื่นชมและโห่ร้องด้วยความยินดี
ผู้คนจะเห็นสง่าราศีและความสง่างามของพระยะโฮวาพระเจ้าของเรา
3 ช่วยมือที่อ่อนล้าให้มีแรง
และช่วยเข่าที่อ่อนแรงให้มีกำลัง+
4 พูดกับคนที่กังวลใจว่า
“ไม่ต้องกลัว เข้มแข็งเข้าไว้
พระเจ้าของพวกคุณจะมาแก้แค้นศัตรูของพระองค์แล้ว
พระองค์จะมาลงโทษพวกศัตรู+
และจะมาช่วยพวกคุณให้รอด”+
น้ำจะพุ่งขึ้นมาในที่กันดาร
และจะมีลำธารมากมายในที่ราบกันดาร
7 พื้นดินแห้งผากจะกลายเป็นบึงที่มีต้นอ้อ
พื้นดินแตกระแหงจะมีน้ำพุ+
ในที่ที่หมาในเคยอาศัย+
จะมีต้นหญ้าเขียวชอุ่ม และมีต้นอ้อกับต้นกก
8 จะมีทางหลวง+
ที่เรียกว่าทางบริสุทธิ์
คนไม่สะอาดจะเดินในทางนั้นไม่ได้+
เฉพาะคนที่มีสิทธิ์เท่านั้นถึงจะเดินในทางนั้นได้
คนโง่จะเตร็ดเตร่อยู่ในทางนั้นไม่ได้
9 ที่นั่น จะไม่มีสิงโต
ไม่มีสัตว์ป่าดุร้ายมาเดินเพ่นพ่าน
10 คนที่พระยะโฮวาไถ่ไว้จะกลับมา+ที่ศิโยนพร้อมกับเสียงร้องยินดี+
ความสุขจะเป็นเหมือนมงกุฎที่ประดับอยู่บนศีรษะของพวกเขาตลอดไป+
พวกเขาจะมีแต่ความปลาบปลื้มยินดีและมีความสุข
จะไม่มีความโศกเศร้าและเสียงถอนหายใจอีกเลย+
36 ในปีที่ 14 ที่กษัตริย์เฮเซคียาห์ปกครอง เซนนาเคอริบกษัตริย์อัสซีเรีย+ได้มาโจมตีและยึดเมืองที่มีป้อมปราการทั้งหมดของยูดาห์ไว้ได้+ 2 หลังจากนั้น กษัตริย์อัสซีเรียได้ให้รับชาเคห์*+กับกองทัพใหญ่จากลาคีช+มาหากษัตริย์เฮเซคียาห์ที่เยรูซาเล็ม พวกเขาก็มาแล้วหยุดอยู่ที่ทางส่งน้ำของสระบน+ซึ่งอยู่ติดกับถนนที่ไปลานซักผ้า+ 3 เอลียาคิม+ผู้ดูแลวังของกษัตริย์ซึ่งเป็นลูกของฮิลคียาห์ และเชบนา+เลขานุการ และโยอาห์ผู้บันทึกเหตุการณ์ซึ่งเป็นลูกของอาสาฟก็ออกมาพบรับชาเคห์
4 แล้วรับชาเคห์พูดกับพวกเขาว่า “ช่วยไปบอกเฮเซคียาห์ทีว่า ‘กษัตริย์อัสซีเรียผู้ยิ่งใหญ่พูดว่า “อะไรทำให้พวกคุณมั่นใจกันเหลือเกิน?+ 5 พวกคุณพูดกันว่า ‘เรามีแผนการรบและมีกำลังพลที่จะทำสงคราม’ แต่พวกคุณกำลังพูดไร้สาระ พวกคุณพึ่งใครหรือถึงได้กล้ากบฏอย่างนี้?+ 6 คิดดูดี ๆ พวกคุณจะพึ่งอียิปต์ที่เป็นเหมือนต้นอ้อที่หักแล้วอย่างนั้นหรือ? ถ้าใครคิดจะเอาต้นอ้อนั้นมาเป็นไม้เท้าก็มีแต่จะถูกต้นอ้อนั้นทิ่มมือไปเปล่า ๆ คนที่ไปพึ่งฟาโรห์กษัตริย์ของอียิปต์ก็จะเป็นอย่างนี้แหละ+ 7 แต่ถ้าพวกคุณบอกว่า ‘พวกเราจะพึ่งพระยะโฮวาพระเจ้าของพวกเรา’ แต่สถานบูชาบนที่สูงและแท่นบูชาต่าง ๆ ของพระองค์ไม่ใช่หรือที่เฮเซคียาห์ได้สั่งให้ทำลาย?+ แล้วก็บอกชาวยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มว่า ‘พวกคุณต้องก้มลงนมัสการที่แท่นบูชาในเยรูซาเล็มเท่านั้น’?”’+ 8 พวกคุณจะกล้ารับคำท้าของกษัตริย์อัสซีเรียเจ้านายของผมไหมล่ะ+ ผมจะให้ม้าพวกคุณ 2,000 ตัว แล้วดูซิว่าพวกคุณจะหาคนได้มากพอที่จะขี่ม้าพวกนี้ไหม? 9 ถ้าพวกคุณยังต้องพึ่งรถศึกและทหารม้าของอียิปต์ แล้วจะมาขับไล่ผู้ว่าราชการที่มีตำแหน่งต่ำสุดของเจ้านายผมได้ยังไง? 10 ที่ผมมาโจมตีและจะทำลายแผ่นดินนี้ไม่ใช่เพราะพระยะโฮวาอนุญาตหรอกหรือ? พระยะโฮวานั่นแหละที่บอกผมว่า ‘ไปทำลายแผ่นดินนี้ซะ’”
11 พอได้ยินอย่างนี้ เอลียาคิมกับเชบนา+ และโยอาห์ก็พูดกับรับชาเคห์+ว่า “ขอพูดกับพวกเราซึ่งเป็นคนรับใช้ของคุณเป็นภาษาอาราเมอิก*+เถอะ พวกเราเข้าใจ อย่าพูดภาษาของชาวยิวให้คนที่อยู่บนกำแพงได้ยินเลย”+ 12 แต่รับชาเคห์พูดว่า “เจ้านายของผมส่งผมมาพูดกับเจ้านายของพวกคุณและกับพวกคุณเท่านั้นหรือ? ไม่ใช่กับพวกที่นั่งอยู่บนกำแพงด้วยหรือ? เพราะพวกเขาก็จะต้องกินอุจจาระและปัสสาวะของตัวเองเหมือนกับพวกคุณ”
13 แล้วรับชาเคห์ก็ยืนและพูดเสียงดังเป็นภาษาของชาวยิว+ว่า “ฟังคำของกษัตริย์อัสซีเรียผู้ยิ่งใหญ่ให้ดี+ 14 ท่านบอกว่า ‘อย่าให้เฮเซคียาห์มาหลอกพวกคุณ เขาช่วยพวกคุณไม่ได้หรอก+ 15 อย่าปล่อยให้เฮเซคียาห์เกลี้ยกล่อมพวกคุณให้ไว้วางใจพระยะโฮวา+และมาพูดว่า “พระยะโฮวาจะช่วยพวกเราแน่ เมืองนี้จะไม่มีวันตกเป็นของกษัตริย์อัสซีเรีย” 16 อย่าไปฟังเฮเซคียาห์ เพราะกษัตริย์อัสซีเรียบอกว่า “ยอมแพ้เราซะดี ๆ อย่าพยายามต่อสู้เลย แล้วพวกคุณทุกคนจะได้กินองุ่นและมะเดื่อจากต้นของตัวเอง และจะได้ดื่มน้ำจากบ่อเก็บน้ำของตัวเอง 17 จนกว่าเราจะมาพาพวกคุณไปที่แผ่นดินหนึ่งซึ่งเป็นเหมือนแผ่นดินของพวกคุณ+ แผ่นดินนั้นจะมีข้าว มีเหล้าองุ่นใหม่ และมีขนมปังกับสวนองุ่น 18 อย่าปล่อยให้เฮเซคียาห์มาหลอกพวกคุณว่า ‘พระยะโฮวาจะช่วยปกป้องเรา’ มีพระของชาติไหนไหมที่เคยช่วยให้แผ่นดินตัวเองรอดพ้นจากเงื้อมมือของกษัตริย์อัสซีเรียไปได้?+ 19 พระของเมืองฮามัทกับเมืองอาร์ปัดไปไหนซะล่ะ?+ แล้วพระของเมืองเสฟาร์วาอิมล่ะอยู่ที่ไหน?+ พระพวกนั้นช่วยสะมาเรียให้พ้นมือเราได้ไหม?+ 20 ในพวกพระทั้งหมดของแผ่นดินเหล่านี้ มีองค์ไหนไหมที่ช่วยแผ่นดินของตัวเองให้พ้นมือเราได้? แล้วพระยะโฮวาจะช่วยกรุงเยรูซาเล็มให้พ้นมือเราได้หรือ?”’”+
21 แต่เขาทั้งสามก็นิ่งเงียบ ไม่พูดอะไรสักคำเพราะกษัตริย์ได้สั่งไว้ว่า “ไม่ต้องตอบอะไรเขา”+ 22 แล้วเอลียาคิมผู้ดูแลวังของกษัตริย์ซึ่งเป็นลูกของฮิลคียาห์ และเชบนา+เลขานุการ และโยอาห์ผู้บันทึกเหตุการณ์ซึ่งเป็นลูกของอาสาฟ ก็กลับมาหาเฮเซคียาห์ พวกเขาสวมเสื้อที่ฉีกขาดและมาบอกกษัตริย์ว่ารับชาเคห์พูดอะไรบ้าง
37 เมื่อกษัตริย์เฮเซคียาห์ได้ยินเรื่องนี้ เขาก็ฉีกเสื้อของตัวเองและใส่ผ้ากระสอบ แล้วเข้าไปในวิหารของพระยะโฮวา+ 2 จากนั้น กษัตริย์ได้ให้เอลียาคิมผู้ดูแลวัง และเชบนาเลขานุการ และพวกปุโรหิตที่อาวุโสไปหาผู้พยากรณ์อิสยาห์+ลูกของอามอส พวกเขาใส่ผ้ากระสอบด้วย 3 และพวกเขาพูดกับอิสยาห์ว่า “กษัตริย์เฮเซคียาห์ได้บอกว่า ‘วันนี้เป็นวันที่ทุกข์ยากลำบาก วันที่ถูกดูหมิ่นดูแคลน และวันที่น่าอับอาย เพราะทารกก็พร้อมจะคลอดแต่แม่กลับไม่มีลมเบ่ง+ 4 พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณคงจะได้ยินคำเยาะเย้ยของรับชาเคห์ซึ่งเป็นคนที่กษัตริย์อัสซีเรียส่งมาเยาะเย้ยพระยะโฮวาพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่+ และพระองค์จะมาคิดบัญชีกับเขาที่พูดถึงพระองค์อย่างนั้น ดังนั้น ช่วยอธิษฐาน+เพื่อคนที่ยังเหลือรอดอยู่ด้วยเถอะ’”+
5 เมื่อคนของกษัตริย์เฮเซคียาห์ไปพบอิสยาห์+ 6 อิสยาห์ก็พูดกับพวกเขาว่า “ไปบอกเจ้านายของพวกคุณว่า ‘พระยะโฮวาได้พูดว่า “ไม่ต้องไปกลัว+เรื่องที่พวกเจ้าได้ยิน หรือกังวลกับคำพูดที่คนรับใช้ของกษัตริย์อัสซีเรีย+ดูหมิ่นเรา 7 เราจะดลใจเขาให้กลับไปที่แผ่นดินของตัวเองเมื่อเขาได้ยินรายงานข่าวเรื่องหนึ่ง+ และเราจะทำให้เขาตายด้วยคมดาบที่แผ่นดินของตัวเอง”’”+
8 เมื่อรับชาเคห์รู้ว่ากษัตริย์อัสซีเรียยกทัพออกจากเมืองลาคีชแล้ว เขาก็ไปหากษัตริย์ที่กำลังโจมตีเมืองลิบนาห์อยู่+ 9 พอกษัตริย์อัสซีเรียได้ยินว่ากษัตริย์ทีร์หะคาห์ของเอธิโอเปียได้ยกทัพมาสู้กับเขาแล้ว เขาก็ให้ผู้ส่งข่าวไปหาเฮเซคียาห์+อีกครั้งและสั่งผู้ส่งข่าวว่า 10 “ไปบอกเฮเซคียาห์กษัตริย์ยูดาห์ว่า ‘อย่าให้พระเจ้าที่คุณวางใจมาหลอกคุณว่า “กรุงเยรูซาเล็มจะไม่มีวันตกเป็นของกษัตริย์อัสซีเรีย”+ 11 คุณก็รู้อยู่แล้วว่ากษัตริย์ของอัสซีเรียได้ทำลายประเทศต่าง ๆ ไปมากมายขนาดไหน+ แล้วคุณจะรอดหรือ? 12 ชาติต่าง ๆ ที่ถูกบรรพบุรุษของเราทำลายนั้น พระของพวกเขาช่วยได้ไหม?+ คุณยังเห็นพวกโกซาน ฮาราน+ เรเซฟ และชาวเอเดนที่อยู่ในเทลอัสสาร์อยู่อีกไหม? 13 กษัตริย์ของเมืองฮามัทกับเมืองอาร์ปัดล่ะ? กษัตริย์ของเมืองเสฟาร์วาอิมล่ะ?+ แล้วกษัตริย์ของเมืองเฮนาและเมืองอิฟวาห์ล่ะคุณยังเห็นอยู่อีกไหม?’”
14 เฮเซคียาห์เอาจดหมายจากผู้ส่งข่าวมาอ่าน แล้วเขาก็ไปที่วิหารของพระยะโฮวาและกางจดหมายเหล่านั้นต่อหน้าพระยะโฮวา+ 15 เฮเซคียาห์อธิษฐานถึงพระยะโฮวา+ว่า 16 “พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ+ พระองค์เป็นพระเจ้าของอิสราเอล พระองค์นั่งบนบัลลังก์เหนือเครูบ* ในอาณาจักรต่าง ๆ บนโลกมีเพียงพระองค์เท่านั้นที่เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ พระองค์เป็นผู้สร้างฟ้าและโลก 17 โปรดฟังเถอะพระยะโฮวา+ โปรดดูเถอะพระยะโฮวา+ โปรดฟังที่เซนนาเคอริบเยาะเย้ยพระองค์ซึ่งเป็นพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่+ 18 พระยะโฮวาพระเจ้า เป็นความจริงที่ว่าพวกกษัตริย์อัสซีเรียได้ทำลายแผ่นดินทั้งหมด+และประเทศของเขาเอง 19 และพวกเขาได้โยนพระต่าง ๆ ลงไปในไฟ+เพราะพระพวกนั้นไม่ใช่พระเจ้าแต่เป็นแค่สิ่งที่มนุษย์ทำขึ้น+มาจากไม้และหิน พวกเขาจึงทำลายได้ 20 แต่ในตอนนี้ พระยะโฮวาพระเจ้าของพวกเรา โปรดช่วยพวกเราให้รอดจากเงื้อมมือของเขาด้วย เพื่ออาณาจักรต่าง ๆ ในโลกจะได้รู้ว่าพระองค์ผู้เดียวเป็นพระเจ้า พระยะโฮวาโปรดช่วยพวกเราด้วยเถอะ”+
21 อิสยาห์ลูกของอามอสก็ส่งข่าวไปถึงเฮเซคียาห์ว่า “พระยะโฮวาพระเจ้าของอิสราเอลบอกว่า ‘เราได้ยินคำอธิษฐานของเจ้าเกี่ยวกับเซนนาเคอริบกษัตริย์อัสซีเรียแล้ว+ 22 พระยะโฮวาจึงพูดถึงเขาว่า
“ลูกสาวของศิโยนซึ่งเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์จะดูหมิ่นและเยาะเย้ยเจ้า
ลูกสาวของเยรูซาเล็มจะส่ายหน้าใส่เจ้า
23 รู้ไหมว่าเจ้าได้เยาะเย้ย+และดูหมิ่นใคร?
ได้ตะคอกใส่ใคร?+
แล้วรู้หรือเปล่าว่าผู้ที่เจ้ามองอย่างเหยียดหยามนั้นเป็นใคร?
ผู้นั้นคือพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล+
24 เจ้าให้คนรับใช้ของเจ้ามาเยาะเย้ยพระยะโฮวา+ว่า
‘ข้าจะขึ้นไปบนภูเขาที่สูงที่สุด+
ไปถึงยอดของเทือกเขาเลบานอน
พร้อมกับรถศึกมากมายของข้า
แล้วจะโค่นต้นสนซีดาร์ต้นที่สูงใหญ่และต้นสนจูนิเปอร์ต้นงาม ๆ
ข้าจะขึ้นไปถึงยอดที่สูงที่สุดและจะเข้าไปในป่าที่ทึบที่สุดของเลบานอน
25 ข้าจะขุดบ่อน้ำหลาย ๆ บ่อ และจะดื่มน้ำจากทุกบ่อ
ข้าจะใช้ฝ่าเท้าเหยียบคูคลองต่าง ๆ ของแม่น้ำไนล์ในอียิปต์ให้แห้งไป’
26 เจ้าไม่เคยได้ยินหรือว่าเราได้กำหนดไว้นานมาแล้ว?
เราได้ตระเตรียมไว้ตั้งแต่อดีต+
และตอนนี้ เราจะทำให้มันเกิดขึ้น+
เจ้าจะทำให้เมืองที่มีป้อมปราการกลายเป็นกองซากปรักหักพัง+
27 จะไม่มีใครช่วยชาวเมืองเหล่านั้นได้
พวกเขาจะหวาดกลัวและอับอาย
พวกเขาจะเป็นเหมือนพืชผักในทุ่งและต้นหญ้า
เป็นเหมือนหญ้าบนหลังคาที่แห้งไปเมื่อลมร้อนจากทิศตะวันออกพัดมา
28 แต่เรารู้หมดว่าเจ้าทำอะไร ไม่ว่าจะนั่ง จะออกไป จะเข้ามา+
หรือจะโมโหเรา+
29 เพราะเราได้ยินที่เจ้าเกรี้ยวกราดใส่เรา+และตะโกนท้าทายเรา+
เราจะเอาตะขอเกี่ยวจมูกเจ้าและเอาบังเหียน+ใส่ไว้ที่ปากเจ้า
แล้วลากเจ้ากลับไปทางที่เจ้ามา”
30 “‘เหตุการณ์ต่อไปนี้จะเกิดขึ้นเพื่อให้เจ้า*มั่นใจว่าจะเป็นอย่างนั้นจริง ในปีนี้เจ้าจะได้กินข้าวที่งอกขึ้นเอง* ในปีที่สองเจ้าก็จะได้กินข้าวที่งอกขึ้นจากเมล็ดที่หล่นในปีแรก และในปีที่สามเจ้าจะได้หว่านและได้เก็บเกี่ยว เจ้าจะได้ทำสวนองุ่นและกินผล+ 31 พวกยูดาห์ที่หนีรอดและเป็นพวกที่เหลืออยู่+จะหยั่งรากและเกิดผล 32 เพราะจะมีคนที่เหลืออยู่ออกมาจากเยรูซาเล็มและจะมีคนที่รอดชีวิตออกมาจากภูเขาศิโยน+ พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพตั้งใจจะทำสิ่งเหล่านี้ให้สำเร็จ+
33 “‘ฉะนั้น พระยะโฮวาจึงพูดถึงกษัตริย์อัสซีเรียว่า+
“เขาจะไม่ได้เข้ามาในเมืองนี้+
ไม่ได้มายิงธนูที่นี่
ไม่ได้ถือโล่มายืนอยู่หน้าเมืองนี้
และไม่ได้สร้างเนินดินเพื่อยึดเมืองนี้”’+
34 พระยะโฮวาบอกว่า ‘เขามาทางไหนก็จะกลับไปทางนั้น
เขาจะไม่ได้เข้ามาในเมืองนี้
35 เราจะปกป้องและช่วยเมืองนี้ไว้+เพื่อเห็นแก่ชื่อเสียงของเราเอง+
และเพื่อเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา’”+
36 แล้วทูตสวรรค์ของพระยะโฮวาก็ไปที่ค่ายของชาวอัสซีเรียและฆ่าทหาร 185,000 คน พอคนอื่นตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก็เห็นทหารเหล่านั้นกลายเป็นศพไปแล้ว+ 37 กษัตริย์เซนนาเคอริบของอัสซีเรียจึงถอนทัพกลับไปและอยู่ที่เมืองนีนะเวห์+ 38 วันหนึ่ง ขณะที่เขากำลังกราบไหว้พระนิสโรกอยู่ในวิหาร อัดรัมเมเลคกับชาเรเซอร์ลูกชายของเขาก็ใช้ดาบฆ่าเขา+แล้วหนีไปที่แผ่นดินอารารัต+ แล้วเอสาร์ฮัดโดน+ซึ่งเป็นลูกชายอีกคนหนึ่งของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์แทน
38 เวลานั้น เฮเซคียาห์ป่วยหนักใกล้จะตาย+ ผู้พยากรณ์อิสยาห์+ลูกของอามอสก็มาหาและพูดกับเขาว่า “พระยะโฮวาบอกว่า ‘สั่งเสียคนในครอบครัว*ของเจ้าให้เรียบร้อย เพราะเจ้าจะไม่หายป่วย เจ้าจะตายแน่’”+ 2 เมื่อได้ยินอย่างนั้น เฮเซคียาห์ก็หันหน้าเข้าผนัง อธิษฐานถึงพระยะโฮวาว่า 3 “พระยะโฮวาพระเจ้า โปรดคิดถึง+การกระทำที่ซื่อสัตย์ของผม ผมรับใช้พระองค์อย่างสุดหัวใจ+และทำสิ่งที่พระองค์เห็นว่าถูกต้องมาตลอด” แล้วเฮเซคียาห์ก็ร้องไห้อย่างขมขื่น
4 พระยะโฮวาก็บอกอิสยาห์ว่า 5 “กลับไปบอกเฮเซคียาห์ว่า+ ‘พระยะโฮวาพระเจ้าของดาวิดบรรพบุรุษของเจ้าบอกว่า “เราได้ยินคำอธิษฐานของเจ้าแล้ว+ เราได้เห็นน้ำตาของเจ้าแล้ว+ เราจะต่ออายุให้เจ้าอีก 15 ปี+ 6 เราจะช่วยเจ้ากับเมืองนี้ให้พ้นเงื้อมมือของกษัตริย์อัสซีเรีย และเราจะปกป้องเมืองนี้+ 7 พระยะโฮวาจะให้หลักฐานยืนยัน*ที่ทำให้เจ้ามั่นใจว่าพระยะโฮวาจะทำตามที่พูด+ 8 เราจะทำให้เงาที่ทอดลงมาบนขั้นบันได*ของกษัตริย์อาหัสถอยกลับไป 10 ขั้นโดยให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนต่ำลง”’”+ แล้วเงาที่ทอดลงมานั้นก็ถอยกลับไปจนครบ 10 ขั้น
9 ข้อความ*ที่กษัตริย์เฮเซคียาห์ของยูดาห์เขียนไว้ตอนที่ไม่สบายและหายป่วยมีดังนี้
10 ผมพูดว่า “ผมต้องลงไปอยู่ในหลุมศพ*
ทั้ง ๆ ที่ใช้ชีวิตมาได้แค่ครึ่งเดียว
ช่วงชีวิตที่เหลือก็ถูกพรากเอาไป”
11 ผมพูดว่า “ผมจะไม่ได้เห็นยาห์*อีก ไม่ได้เห็นยาห์ในแผ่นดินของคนที่ยังมีชีวิตอยู่+
ผมจะไม่ได้เห็นผู้คนอีกแล้ว
เพราะผมจะต้องไปอยู่กับคนที่ตายแล้ว
12 ที่อาศัยของผมเป็นเหมือนเต็นท์ของคนเลี้ยงแกะ
ที่ถูกรื้อแล้วขนไป+
ผมม้วนเก็บชีวิตของผมเหมือนคนทอผ้าม้วนเก็บผ้าเมื่อทอเสร็จ
พระองค์ตัดผมออกเหมือนตัดผ้าที่ทอเสร็จแล้วออกจากเครื่องทอ
ตั้งแต่เช้าจดเย็น พระองค์ให้ความตายรอผมอยู่+
13 ผมพยายามทำใจให้สงบจนถึงตอนเช้า
พระองค์ทำให้กระดูกทุกส่วนของผมแตกหักเหมือนถูกสิงโตทำร้าย
ตั้งแต่เช้าจดเย็น พระองค์ให้ความตายรอผมอยู่+
14 ผมส่งเสียงร้องคร่ำครวญเหมือนเป็นนกตัวเล็ก ๆ+
ผมส่งเสียงครวญครางเหมือนเสียงของนกเขา+
ผมแหงนหน้ามองขึ้นฟ้าจนเหนื่อยอ่อน+และพูดว่า
‘พระยะโฮวาครับ ผมทุกข์ใจเหลือเกิน
ช่วยผมด้วยครับ’+
15 ผมจะพูดยังไงดี?
ที่พระเจ้าพูดกับผมแล้วทำตามที่พระองค์พูดจริง ๆ
ดังนั้น ผมจะใช้ชีวิตที่เหลืออย่างเจียมตัว
เพราะผมได้ผ่านเรื่องที่ทำให้ทุกข์ใจอย่างแสนสาหัสมาแล้ว
16 ‘พระยะโฮวาครับ คนทุกคนมีชีวิตอยู่ด้วยสิ่งเหล่านี้*
และผมก็มีชีวิตอยู่ด้วยสิ่งเหล่านี้เหมือนกัน
พระองค์จะช่วยผมให้กลับมามีสุขภาพดีและมีชีวิตอยู่ต่อไปได้+
17 ผมเคยมีแต่ความทุกข์ระทม แทนที่จะมีสันติสุข
แต่เพราะพระองค์รักผม
พระองค์ได้ช่วยผมไว้ให้พ้นจากหลุมแห่งความตาย+
พระองค์ได้เหวี่ยงบาปทั้งหมดของผมไปข้างหลังพระองค์*+
คนที่ลงไปในหลุมจะแสดงให้เห็นว่าเขาไว้วางใจพระองค์ก็ไม่ได้*+
19 เฉพาะคนที่มีชีวิตอยู่เท่านั้นที่สรรเสริญพระองค์ได้
เหมือนกับที่ผมสรรเสริญพระองค์ได้ตอนนี้
พ่อก็จะสอนลูกให้รู้เกี่ยวกับความซื่อสัตย์ของพระองค์+
20 พระยะโฮวาครับ ขอโปรดช่วยผมด้วย
และพวกเราจะดีดพิณบรรเลงเพลงที่ผมแต่ง+
ตลอดชีวิตของพวกเราในวิหารของพระยะโฮวา’”+
21 แล้วอิสยาห์ก็บอกคนรับใช้ของกษัตริย์ว่า “ไปเอามะเดื่อแห้งมาพอกบนฝี แล้วท่านจะหายป่วย”+ 22 ก่อนหน้านี้ เฮเซคียาห์ถามว่า “เราจะมั่นใจได้ยังไงว่าเราจะขึ้นไปที่วิหารของพระยะโฮวาได้?”+
39 ในเวลานั้น เมโรดัคบาลาดันกษัตริย์บาบิโลนซึ่งเป็นลูกของบาลาดันได้ส่งจดหมายและของขวัญมาให้เฮเซคียาห์+ เพราะรู้ข่าวว่าเฮเซคียาห์ป่วยและตอนนี้หายดีแล้ว+ 2 เฮเซคียาห์ก็ต้อนรับคณะทูตด้วยความยินดีและให้พวกเขาดูคลังสมบัติ+ซึ่งมีเงิน ทอง น้ำมันหอมและน้ำมันมีค่าอื่น ๆ และให้ดูคลังอาวุธทั้งหมดกับของทุกอย่าง ไม่มีอะไรในวังและในอาณาจักรที่เฮเซคียาห์ไม่ได้ให้พวกเขาดู
3 แล้วผู้พยากรณ์อิสยาห์ก็มาหากษัตริย์เฮเซคียาห์และถามว่า “คนพวกนี้มาพูดเรื่องอะไร? และพวกเขามาจากที่ไหน?” เฮเซคียาห์ตอบว่า “มาจากบาบิโลนดินแดนที่ห่างไกล”+ 4 อิสยาห์ถามต่อว่า “แล้วพวกเขาเห็นอะไรบ้างในวังของท่าน?” เฮเซคียาห์ตอบว่า “พวกเขาเห็นทุกสิ่งทุกอย่างในวังของเรา ไม่มีอะไรในคลังสมบัติที่เราไม่ได้ให้พวกเขาดู”
5 อิสยาห์จึงพูดกับเฮเซคียาห์ว่า “ขอท่านฟังคำของพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ 6 พระยะโฮวาบอกว่า ‘ใกล้จะถึงวันที่ทุกสิ่งที่อยู่ในวังของเจ้าจะถูกเอาไปที่บาบิโลนแล้ว รวมทั้งทุกสิ่งทุกอย่างที่บรรพบุรุษของเจ้าได้สะสมไว้จนถึงทุกวันนี้ และจะไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย+ 7 และลูกของเจ้าบางคนที่จะเกิดมาในวันข้างหน้าจะถูกพาตัวไปรับราชการในวังของกษัตริย์บาบิโลน’”+
8 เมื่อได้ยินอย่างนั้น เฮเซคียาห์ก็บอกอิสยาห์ว่า “ที่พระยะโฮวาพูดมานั้นถูกต้องทุกอย่าง” แล้วเฮเซคียาห์ก็พูดต่อไปว่า “เพราะจะยังคงมีความสงบสุขและความมั่นคง*ในช่วงชีวิตของเรา”+
40 พระเจ้าของพวกคุณบอกว่า “ให้ปลอบโยนประชาชนของเรา+
2 พูดกับเยรูซาเล็มอย่างนุ่มนวล
และบอกว่า ช่วงเวลาที่เมืองนี้ต้องทนทุกข์สิ้นสุดลงแล้ว
เมืองนี้ชดใช้ความผิดแล้ว+
เมืองนี้ถูกพระยะโฮวาลงโทษตามความผิดทั้งหมดที่ทำไปแล้ว”+
3 มีคนหนึ่งส่งเสียงร้องอยู่ในที่กันดารว่า
“ให้เตรียมทางไว้สำหรับพระยะโฮวา+
ทำทางหลวง+ของพระเจ้าที่จะตัดผ่านที่กันดารนั้นให้ตรง+
4 หุบเขาทุกแห่งต้องถมให้เต็ม
ภูเขาและเนินเขาทุกลูกต้องทำให้ราบ
พื้นดินที่ขรุขระต้องปรับให้เรียบ
และที่สูงต่ำก็ต้องราบเรียบเหมือนที่ราบในหุบเขา+
5 พระยะโฮวาจะแสดงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ให้เห็น+
มนุษย์ทุกคนจะได้เห็นทั่วกัน+
เพราะพระยะโฮวาได้บอกไว้อย่างนั้น”
6 ลองฟังดู มีคนบอกว่า “ร้องสิ”
อีกคนหนึ่งก็ถามว่า “แล้วจะให้ร้องว่าอะไร?”
“มนุษย์ทุกคนเป็นเหมือนต้นหญ้า
ความรักที่มั่นคงของพวกเขาก็เป็นเหมือนดอกไม้ในทุ่งหญ้า+
มนุษย์ก็เป็นเหมือนต้นหญ้าอย่างนั้นแหละ
9 ผู้หญิงที่นำข่าวดีมาบอกศิโยน+
ผู้หญิงที่นำข่าวดีมาบอกเยรูซาเล็ม
ขึ้นไปบนภูเขาสูง
และส่งเสียงร้องดัง ๆ
ร้องให้ดังจนสุดเสียง ไม่ต้องกลัว
ร้องประกาศให้เมืองต่าง ๆ ในยูดาห์รู้ว่า “นี่แหละคือพระเจ้าของพวกคุณ”+
10 คอยดูเถอะ พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดจะมา พระองค์มีพลังอำนาจมาก
ดูสิ พระองค์เอารางวัลมาด้วย
และค่าตอบแทนก็อยู่ที่พระองค์+
11 พระเจ้าจะใส่ใจดูแลแกะของพระองค์เหมือนผู้เลี้ยงแกะ+
พระองค์จะรวบรวมลูกแกะมาไว้ในอ้อมกอดของพระองค์
จะอุ้มพวกมันไว้แนบอก
และจะค่อย ๆ ต้อนแกะแม่ลูกอ่อนให้เดินไป+
12 ใครจะเอาน้ำทะเลทั้งหมดมาใส่ไว้ในอุ้งมือของตัวเองได้+
และวัดท้องฟ้าด้วยมือเพียงคืบเดียว?*
13 ใครจะเข้าใจได้ว่าพลังของพระยะโฮวามีมากขนาดไหน
และใครจะแนะนำสั่งสอนพระองค์ได้?+
14 พระองค์จะต้องไปปรึกษาใครเพื่อจะมีความรู้ความเข้าใจ?
ใครจะมาสอนพระองค์ได้ว่าอะไรคือทางที่ยุติธรรม?
หรือใครจะให้ความรู้เพิ่มเติมกับพระองค์
และช่วยพระองค์ให้เข้าใจจริง ๆ?+
15 ดูสิ ชาติต่าง ๆ เป็นเหมือนน้ำเพียงหยดเดียวจากถัง
เป็นเหมือนฝุ่นบนตาชั่ง+
พระเจ้าได้ยกเกาะต่าง ๆ ขึ้นอย่างกับว่ามันเป็นเพียงฝุ่นละออง
16 ถึงจะตัดไม้ทั้งหมดจากเลบานอนมาทำเป็นฟืนสำหรับแท่นบูชา
หรือเอาสัตว์ทั้งหมดที่นั่นมาเป็นเครื่องบูชาเผา ก็ยังไม่มีค่าคู่ควรจะเป็นเครื่องบูชาให้พระองค์
17 สำหรับพระเจ้าแล้วชาติต่าง ๆ ก็เหมือนไม่มีตัวตน+
พวกเขาไร้ค่าและไม่มีความหมายอะไร+
18 จะเอาพระเจ้าไปเปรียบกับใคร?+
หรือจะทำรูปอะไรให้เป็นเหมือนพระองค์?+
20 คนหนึ่งเลือกต้นไม้ที่จะเอามาเป็นของถวาย+
ต้นไม้ที่ไม่ผุ
เขาเลือกหาช่างฝีมือที่ชำนาญ
เพื่อเตรียมแกะสลักรูปเคารพที่ตั้งได้มั่นคง+
21 พวกคุณไม่รู้
และไม่เคยได้ยินเลยหรือ?
ผ่านมานานขนาดนี้แล้วยังไม่มีใครบอกคุณอีกหรือ?
พวกคุณมองไม่เห็นหลักฐานที่มีตั้งแต่ตอนวางฐานรากของโลกหรือ?+
22 พระเจ้าอยู่เหนือโลกซึ่งเป็นทรงกลม+
และผู้ที่อยู่ในโลกก็เปรียบเหมือนตั๊กแตน
พระเจ้าได้ขึงแผ่นฟ้าเหมือนขึงผ้าโปร่งเนื้อดี
พระองค์กางท้องฟ้าออกเหมือนคนกางเต็นท์ไว้อยู่อาศัย+
23 พระเจ้าทำให้พวกเจ้านายหมดอำนาจ
และทำให้ผู้มีอำนาจปกครองของโลกหมดความหมาย
24 พวกเขายังไม่ทันถูกปลูก
ไม่ทันถูกหว่าน
และต้นยังไม่ทันจะหยั่งรากลงไปในดิน
พวกเขาก็แห้งเหี่ยวและถูกลมพัดไปซะแล้ว
ลมจะพัดพวกเขาไปเหมือนกับพัดฟาง+
25 พระเจ้าองค์บริสุทธิ์พูดว่า “พวกเจ้าจะเอาเราไปเปรียบกับใคร? ใครจะมาเทียบกับเราได้?
26 เงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าและดูซิว่า
ใครเป็นผู้สร้างสิ่งเหล่านั้น?+
พระเจ้าเป็นผู้เรียกดวงดาวเหล่านั้นออกมาทีละดวงตามจำนวนของมันเหมือนกับเรียกทหารในกองทัพ
พระองค์เรียกชื่อดวงดาวเหล่านั้นได้ทั้งหมด+
และด้วยพลังอันมหาศาลกับอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์นั้น+
ไม่มีดาวสักดวงเดียวที่ขาดหายไป
27 แต่ยาโคบและอิสราเอล ทำไมพวกเจ้ากลับมาพูดกันว่า
‘พระยะโฮวาไม่รู้หรอกว่าเราต้องเจอกับอะไรบ้าง
และเราก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากพระองค์’?+
28 พวกเจ้าไม่รู้และไม่เคยได้ยินหรือ?
พระยะโฮวาผู้สร้างทุกสิ่งบนโลกเป็นพระเจ้าที่มีชีวิตอยู่ตลอดไป+
พระองค์ไม่เคยเหน็ดเหนื่อยหรือหมดแรง+
พระองค์มีปัญญา*ล้ำลึกเกินกว่าที่มนุษย์จะเข้าใจได้+
29 พระองค์ให้พลังกับคนที่เหน็ดเหนื่อย
และให้กำลังกับคนที่หมดเรี่ยวแรง+
30 ขนาดเด็ก ๆ ก็ยังเหนื่อยและหมดแรง
คนหนุ่มก็ยังเดินเซจนสะดุดล้ม
31 แต่คนที่วางใจพระยะโฮวาจะกลับมีเรี่ยวแรงอีก
พวกเขาจะเป็นเหมือนนกอินทรีที่กางปีกบินขึ้นไป+
พวกเขาจะวิ่งโดยไม่เหน็ดเหนื่อย
และจะเดินโดยไม่เมื่อยล้า”+
41 “เกาะทั้งหลาย เงียบและฟังเรา
ให้ชาติต่าง ๆ รวบรวมพลังเอาไว้
ให้พวกเขาเข้ามาและพูด+
ประชาชนทั้งหลาย ให้เรามาพบกันในศาล
2 ใครได้ปลุกเร้าคนหนึ่งจากทางทิศตะวันออก+
และเรียกเขามาอย่างถูกต้องชอบธรรมเพื่อรับใช้พระองค์
เพื่อจะมอบชาติต่าง ๆ ให้กับเขา
และเพื่อให้เขาปราบเหล่ากษัตริย์?+
เขาใช้ดาบปราบเหล่ากษัตริย์ให้เป็นเหมือนฝุ่น
และใช้ธนูทำให้เหล่ากษัตริย์เป็นเหมือนฟางที่ถูกลมพัดปลิวไป
3 เขาไล่ตามไปอย่างไม่มีอะไรมาขัดขวางได้
เขาผ่านเส้นทางที่ไม่เคยไปมาก่อน
4 ใครเป็นผู้ทำสิ่งเหล่านี้
ที่เรียกคนในยุคต่าง ๆ มาตั้งแต่สมัยแรกเริ่ม?
5 เมื่อเกาะต่าง ๆ ได้เห็นก็หวาดกลัว
คนที่อยู่สุดขอบโลกก็เริ่มกลัวจนตัวสั่น
พวกเขาจึงมารวมตัวกัน
6 แต่ละคนก็มาช่วยเพื่อนของตัวเอง
และบอกพี่น้องของตัวเองว่า “เข้มแข็งเข้าไว้”
7 ช่างฝีมือมาให้กำลังใจช่างโลหะ+
ช่างที่ใช้ค้อนตีเหล็กให้เรียบ
ก็มาให้กำลังใจคนที่ตีเหล็กอยู่ที่ทั่ง*
เขาเห็นงานเชื่อมแล้วพูดว่า “ทำได้ดีมาก”
แล้วก็มีคนตอกตะปูยึดรูปเคารพไว้ไม่ให้โงนเงน
8 พระเจ้าพูดว่า “แต่อิสราเอลเป็นผู้รับใช้ของเรา+
ยาโคบเป็นผู้ที่เราได้เลือกไว้+
พวกเจ้าเป็นลูกหลานของอับราฮัมเพื่อนของเรา+
9 เรานำพวกเจ้ามาจากสุดขอบโลก+
และเรียกพวกเจ้ามาจากดินแดนที่ห่างไกลที่สุด
เราบอกว่า ‘พวกเจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา+
เราเลือกพวกเจ้าไว้ และไม่เคยทอดทิ้งพวกเจ้า+
10 ไม่ต้องกลัว เพราะเราอยู่กับเจ้า+
ไม่ต้องกังวล เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า+
เราจะทำให้พวกเจ้าเข้มแข็ง และเราจะช่วยพวกเจ้า+
เราจะใช้มือขวาซึ่งทำสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมยึดพวกเจ้าไว้แน่นอน’
11 คอยดูเถอะ พวกคนที่มาเกรี้ยวกราดใส่พวกเจ้าจะต้องอับอายขายหน้า+
และพวกที่มาต่อสู้กับพวกเจ้าจะพินาศสาบสูญไป+
12 พวกเจ้าจะมองหาคนที่มาต่อสู้เจ้า แต่จะไม่เจอ
คนที่เคยมาทำสงครามกับพวกเจ้าจะหายสาบสูญไป+
13 เพราะเรายะโฮวาพระเจ้าของเจ้ากำลังจับมือขวาของเจ้าไว้
และบอกว่า ‘ไม่ต้องกลัว เราจะช่วยเจ้า’+
14 ยาโคบ เจ้าเป็นเหมือนหนอนที่น่าสงสาร ไม่ต้องกลัว+
ชาวอิสราเอล เราจะช่วยพวกเจ้า” พระยะโฮวาผู้ที่ไถ่พวกคุณคืนมา+ พระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลบอกไว้อย่างนี้
พวกเจ้าจะเหยียบย่ำภูเขาต่าง ๆ และบดขยี้มัน
และทำให้เนินเขาเป็นเหมือนแกลบ
16 พวกเจ้าจะฝัดพวกศัตรู
และลมจะมาพัดเอาพวกเขาไป
พายุจะมาพัดพวกเขาให้กระจัดกระจาย
พวกเจ้าจะยินดีที่มีเรายะโฮวาเป็นพระเจ้า+
และจะอวดเกี่ยวกับพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล”+
17 “คนอดอยากและคนยากจนจะหาน้ำกิน แต่ไม่มีน้ำเลย
ลิ้นของพวกเขาจะแห้งผากเพราะหิวน้ำ+
แต่เรายะโฮวาจะตอบสนองความต้องการของพวกเขา+
เราพระเจ้าของอิสราเอลจะไม่ทอดทิ้งพวกเขาเลย+
เราจะทำให้ที่กันดารกลายเป็นบึงที่มีต้นอ้อ
และทำให้แผ่นดินที่แห้งแล้งเต็มไปด้วยแหล่งน้ำมากมาย+
19 ในทะเลทราย เราจะปลูกต้นสนซีดาร์
ต้นอะคาเซีย ต้นน้ำมันเขียว และต้นสน+
ในที่ราบกันดาร เราจะปลูกต้นสนจูนิเปอร์
ต้นจันทน์ทองและต้นสนดินสอ+
20 เพื่อว่าทุกคนจะได้เห็นและได้รู้
ได้สนใจและได้เข้าใจว่า
เรายะโฮวาเป็นผู้ทำสิ่งนี้
พระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลเป็นผู้ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น”+
21 พระยะโฮวาพูดว่า “นำคดีของเจ้าขึ้นมาสิ”
กษัตริย์ของยาโคบบอกว่า “นำข้อโต้แย้งของเจ้าขึ้นมาเลย
22 เอาหลักฐานของเจ้าขึ้นมาและบอกพวกเราสิว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคต
และบอกด้วยว่าในอดีตที่ผ่านมา*มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
พวกเราจะได้รู้และเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตและรับรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
แล้วทำนายให้พวกเรารู้ด้วยว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร+
23 บอกมาทีว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคต
พวกเราจะได้รู้ว่าพวกเจ้าเป็นพระ+
ทำอะไรสักอย่าง จะดีหรือร้ายก็ได้
พวกเราจะได้เห็นแล้วทึ่ง+
24 ดูสิ พวกเจ้ามันไร้ค่า
และทำอะไรไม่ได้สักอย่าง+
คนที่เลือกพวกเจ้าก็น่ารังเกียจไปด้วย+
25 เราได้ปลุกเร้าคนหนึ่งให้มาจากทางทิศเหนือ และเขากำลังมา+
เขาเป็นคนทางตะวันออก+ที่จะทำให้เราได้รับเกียรติ
เขาจะเหยียบย่ำผู้มีอำนาจปกครองเหมือนย่ำดินเหนียว+
เหมือนช่างปั้นหม้อที่ย่ำดินเหนียว
26 ใครบอกเรื่องนี้ให้พวกเรารู้ตั้งแต่แรก
หรือบอกเรื่องนี้นานมาแล้ว จนทำให้พวกเราต้องพูดว่า ‘เขาพูดถูก’?+
ไม่มีใครบอกเลย
ไม่มีใครแจ้งเรื่องนี้
และไม่มีใครสักคนได้ยินอะไรจากพวกเจ้า”+
27 เราเป็นผู้แรกที่บอกศิโยนว่า “ดูสิว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น”+
และเราจะส่งผู้นำข่าวดีไปที่เยรูซาเล็ม+
28 เรามองหา แต่ไม่มีใคร
ไม่มีพระไหนเลยที่จะให้คำแนะนำได้
ทั้ง ๆ ที่เราถามอยู่เรื่อย ๆ แต่กลับไม่มีใครตอบ
29 ดูสิ พระเหล่านี้ไม่มีตัวตนอยู่จริง
สิ่งที่ผู้คนทำไปก็ไร้ประโยชน์
รูปหล่อโลหะของพวกเขาก็เป็นแค่ลมหรือสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง+
42 ดูสิ นี่คือผู้รับใช้ของเรา+ที่เราคอยช่วยเหลือสนับสนุน
เขาเป็นคนที่เราเลือก+ เราพอใจเขามาก+
2 เขาจะไม่ร้องหรือตะโกน
และเขาจะไม่ส่งเสียงดังให้ผู้คนได้ยินตามถนน+
3 ต้นอ้อที่ช้ำแล้ว เขาจะไม่หัก
ไส้ตะเกียงที่มีไฟริบหรี่ เขาจะไม่ดับ+
เขาจะทำให้เกิดความยุติธรรมอย่างแน่นอน+
4 เขาจะตั้งความยุติธรรมไว้ในโลก เขาจะไม่ยอมอ่อนล้าหรือเหน็ดเหนื่อย+
เกาะต่าง ๆ ก็รอคอยกฎหมาย*ของเขา
5 พระยะโฮวาเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้และเป็นผู้สร้างฟ้า
พระองค์เป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ที่กางท้องฟ้าออก+
พระองค์กางแผ่นดินและสร้างทุกสิ่งบนโลก+
พระองค์ให้ลมหายใจกับมนุษย์+
และให้ชีวิตกับทุกคนที่เดินอยู่บนแผ่นดิน+ พระองค์พูดว่า
6 “เรายะโฮวาพระเจ้าผู้ทำแต่สิ่งดี เราเรียกเจ้า
และจับมือเจ้าไว้
เราจะปกป้องเจ้า เจ้าจะเป็นเหมือนหลักประกัน*ให้กับประชาชน+
และเป็นเหมือนแสงสว่างให้กับชาติทั้งหลาย+
7 เพื่อเจ้าจะทำให้คนตาบอดมองเห็น+
จะปลดปล่อยคนที่ถูกขังอยู่ในคุกใต้ดิน
และปลดปล่อยคนที่นั่งอยู่ในความมืดออกจากคุก+
8 เราคือยะโฮวา นี่เป็นชื่อของเรา
เราจะไม่ยกสง่าราศีของเราให้ใครเลย*
และคำสรรเสริญที่เราควรได้รับนั้น เราจะไม่ให้กับพวกรูปเคารพแกะสลัก+
9 ดูสิ เรื่องต่าง ๆ ที่เราเคยบอกไว้ได้เกิดขึ้นแล้ว
ตอนนี้เราจะบอกเรื่องใหม่
เราจะบอกให้รู้ ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น”+
10 ให้ร้องเพลงใหม่สรรเสริญพระยะโฮวา+
ร้องสรรเสริญพระองค์จากสุดขอบโลก+
พวกคุณที่ล่องเรืออยู่ในทะเลและทุกสิ่งในทะเล
เกาะต่าง ๆ และผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะเหล่านั้น+
11 ให้ที่กันดารและเมืองต่าง ๆ ที่นั่นส่งเสียงให้ดัง+
รวมทั้งหมู่บ้านที่ชาวเคดาร์+อาศัยอยู่
ให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ตามโขดหินบนภูเขาโห่ร้องด้วยความยินดี
ให้พวกเขาร้องออกมาจากยอดเขาต่าง ๆ
12 ให้พวกเขายกย่องพระยะโฮวา
และสรรเสริญพระองค์ในหมู่เกาะต่าง ๆ+
13 พระยะโฮวาจะออกไปเหมือนกับทหารกล้า+
พระองค์จะห้าวหาญเหมือนกับนักรบ+
พระองค์จะโห่ร้อง เหมือนตอนโห่ร้องออกศึก
พระองค์จะทำให้เห็นว่าพระองค์มีอำนาจมากกว่าพวกศัตรู+
14 “เรานิ่งอยู่นานแล้ว
เรานิ่งเงียบและอดทนอดกลั้น
แต่ตอนนี้ เราจะส่งเสียงร้องเหมือนผู้หญิงที่กำลังจะคลอดลูก
เราจะหายใจถี่จนหอบ
15 เราจะทำลายภูเขาและเนินเขาทั้งหลาย
ทำให้ต้นไม้ใบหญ้าที่นั่นเหี่ยวแห้งไป
ทำให้แม่น้ำทั้งหลายแห้งจนพื้นที่ตรงนั้นกลายเป็นเกาะ*
และทำให้บึงต่าง ๆ เหือดแห้งไป+
16 เราจะจูงคนตาบอดไปในทางที่พวกเขาไม่รู้จัก+
และให้พวกเขาผ่านทางที่ไม่คุ้นเคย+
เราจะทำให้ความมืดตรงหน้าเขากลายเป็นความสว่าง+
และจะทำให้ที่ขรุขระกลายเป็นที่ราบ+
เราจะทำสิ่งเหล่านี้ให้พวกเขา เราจะไม่ทอดทิ้งพวกเขาเลย”
17 พวกเขาจะต้องล่าถอยกลับไปและอับอายขายหน้า
พวกคนที่วางใจในรูปเคารพแกะสลัก
พวกคนที่เรียกรูปหล่อโลหะว่า “พระของพวกเรา”+
18 พวกเจ้าที่หูหนวก ฟังให้ดี
พวกเจ้าที่ตาบอด มองสิแล้วจะเห็น+
19 ใครกันที่ตาบอด? ก็ผู้รับใช้ของเรา
ใครกันที่หูหนวก? ก็ผู้ส่งข่าวของเรา
ใครจะตาบอดเหมือนคนที่เราได้ให้รางวัล
ตาบอดเหมือนผู้รับใช้ของเรายะโฮวา?+
20 พวกเจ้าเห็นหลายอย่าง แต่ไม่ได้ใส่ใจ
พวกเจ้าได้ยิน แต่ไม่สนใจฟัง+
21 พระยะโฮวาชอบเมื่อเห็นว่ากฎหมาย*ของพระองค์ได้รับการยกย่องและได้รับความนับถือ
เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าที่เที่ยงธรรม
22 แต่นี่เป็นชนชาติที่ถูกปล้นและถูกจับ+
พวกเขาติดอยู่ในถ้ำและถูกคุมขังอยู่ในคุก+
ถูกปล้นโดยไม่มีใครช่วย+
และถูกจับไปโดยไม่มีใครบอกว่า “ปล่อยพวกเขากลับมา”
23 ใครในพวกคุณจะฟังเรื่องนี้?
ใครจะสนใจและใส่ใจฟังเพื่อจะเอามาเป็นบทเรียนสำหรับวันข้างหน้า?
24 ใครปล่อยให้ยาโคบถูกจับ
และยอมให้อิสราเอลถูกปล้น?
ไม่ใช่พระยะโฮวาหรอกหรือ? พวกเขาทำบาปต่อพระองค์
25 พระองค์จึงระบายความเดือดดาลลงบนพวกเขา
รวมทั้งความโกรธและความโหดร้ายของสงครามด้วย+
ไฟของสงครามมาเผาผลาญทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเขา แต่เขาไม่สนใจ+
แม้ไฟนั้นมาเผาผลาญเขา แต่เขาก็ไม่ใส่ใจ+
43 ยาโคบ พระยะโฮวาเป็นผู้สร้างตัวคุณ
อิสราเอล พระเจ้าเป็นผู้ปั้นตัวคุณขึ้นมา+ พระองค์พูดว่า
“ไม่ต้องกลัว เราไถ่พวกเจ้ากลับคืนมาแล้ว+
เราได้เรียกชื่อพวกเจ้า
พวกเจ้าเป็นของเรา
2 เมื่อพวกเจ้าข้ามน้ำข้ามทะเล เราจะอยู่กับพวกเจ้า+
เมื่อลุยข้ามแม่น้ำ น้ำจะไม่ซัดท่วมเจ้า+
เมื่อพวกเจ้าเดินลุยไฟ พวกเจ้าจะไม่ถูกเผา
เปลวไฟจะไม่เผาพวกเจ้าเลย
3 เพราะเราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า
พระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล ผู้ช่วยให้รอดของเจ้า
เราให้อียิปต์มาเป็นค่าไถ่ตัวเจ้า
และเอาเสบากับเอธิโอเปียมาแลกกับตัวเจ้า
เราจึงเอาผู้คน
และเอาชาติต่าง ๆ มาแลกกับตัวเจ้า
5 เราอยู่กับพวกเจ้า ไม่มีอะไรต้องกลัว+
เราจะพาลูกหลานของพวกเจ้ามาจากทางทิศตะวันออก
และรวบรวมพวกเจ้าจากทางทิศตะวันตก+
6 เราจะบอกทางทิศเหนือว่า ‘ปล่อยพวกเขามา’+
และบอกทางทิศใต้ว่า ‘อย่ารั้งพวกเขาไว้
พาลูกชายของเรามาจากที่ห่างไกล และลูกสาวของเรามาจากสุดขอบโลก+
7 คือทุกคนที่ถูกเรียกตามชื่อของเรา+
ทุกคนที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อเกียรติยศของเรา
และทุกคนที่เราปั้นและทำขึ้น’+
8 นำชนชาติหนึ่งออกมา ชนชาติที่มีตาแต่มองไม่เห็น
มีหูแต่ไม่ได้ยิน+
9 ให้ชาติต่าง ๆ รวมกันในที่เดียว
ให้ชนชาติต่าง ๆ รวมตัวอยู่ด้วยกัน+
มีพระเจ้าองค์ไหนที่บอกได้
ที่บอกให้รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก่อน?+
ถ้ามี ให้เขาเอาพยานมาพิสูจน์ว่าตัวเองถูกต้อง
เพื่อคนอื่นจะได้ยินแล้วบอกว่า ‘นี่คือความจริง’”+
10 พระยะโฮวาบอกว่า “พวกเจ้าเป็นพยานของเรา+
เป็นผู้รับใช้ที่เราได้เลือกไว้+
เพื่อพวกเจ้าจะได้รู้จักเรา เชื่อในเรา*
และรู้ว่าเราคือพระเจ้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง+
ไม่มีพระเจ้าองค์ไหนอยู่ก่อนเรา
และหลังจากเราก็ไม่มีเหมือนกัน+
11 เราคือยะโฮวา+ มีแต่เราเท่านั้นที่เป็นผู้ช่วยให้รอด”+
12 พระยะโฮวาพูดว่า “ตอนที่พวกเจ้าไม่มีพระอื่น
เราเป็นผู้บอกให้รู้ เป็นผู้ช่วยให้รอด และเป็นผู้เปิดเผย+
พวกเจ้าเป็นพยานของเรา เป็นพยานให้เราว่าเราเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้+
เมื่อเราเริ่มทำอะไร ใครจะมาหยุดยั้งได้?”+
14 พระยะโฮวา ผู้ไถ่พวกคุณคืนมา+ พระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล+พูดว่า
“เพื่อเห็นแก่พวกเจ้า เราจะส่งคนไปที่บาบิโลนและทำลายประตูเมืองทั้งหมด+ที่นั่น
และพวกเคลเดียที่อยู่ในเรือก็จะร้องคร่ำครวญเพราะถูกทำลาย+
15 เราคือยะโฮวา พระเจ้าองค์บริสุทธิ์+ ผู้สร้างอิสราเอล+และกษัตริย์ของพวกเจ้า”+
16 พระยะโฮวาพระเจ้า
พระองค์เป็นผู้เปิดทางในทะเล
และทำทางเดินผ่านสายน้ำที่เชี่ยวกราก+
17 พระองค์เป็นผู้นำรถศึกและม้า+
นำกองทัพและนักรบที่มีกำลังมากออกมา พระองค์พูดว่า
“พวกเขาจะต้องล้มลงแล้วลุกไม่ขึ้น+
พวกเขาจะมอดดับเหมือนไส้ตะเกียงดับ”
18 “อย่าเพิ่งไปนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านไปแล้ว
อย่าไปคิดถึงอดีตอีก
19 ดูสิ เรากำลังทำสิ่งใหม่+
เป็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
พวกเจ้าไม่รู้หรือ?
20 สัตว์ป่าจะสรรเสริญเรา
ทั้งพวกหมาในและนกกระจอกเทศ
เพราะเราให้มีน้ำในที่กันดาร
ให้มีแม่น้ำในทะเลทราย+
เพื่อประชาชนที่เราเลือกไว้+จะได้มีกินมีดื่ม
21 ประชาชนเหล่านั้นจะสรรเสริญเรา
เพราะเราเป็นผู้สร้างพวกเขาขึ้นมา+
23 พวกเจ้าไม่ได้นำแกะมาให้เราเป็นเครื่องบูชาเผา
หรือให้เกียรติเราด้วยเครื่องบูชาของพวกเจ้า
เราไม่ได้บังคับขู่เข็ญพวกเจ้าให้เอาของถวายมาให้เรา
และเราไม่ได้เรียกร้องให้พวกเจ้าเอากำยานมาให้เราจนพวกเจ้าเบื่อหน่าย+
24 พวกเจ้าไม่ได้เอาเงินของพวกเจ้าซื้อตะไคร้หอมให้เรา
และมันสัตว์ที่พวกเจ้าถวายเป็นเครื่องบูชานั้นก็ไม่ได้ทำให้เราพอใจ+
แต่พวกเจ้าทำให้เราหนักใจกับบาปที่พวกเจ้าทำ
และทำให้เราเบื่อหน่ายเพราะความผิดของพวกเจ้า+
25 แต่เราจะเป็นผู้ลบล้างความผิด*+ให้พวกเจ้าเพราะเห็นแก่ชื่อเสียงของเรา+
เราจะไม่จดจำบาปที่พวกเจ้าทำเลย+
26 ให้เรามาสู้คดีกัน บอกมาสิถ้าเจ้าคิดว่าเราลืมว่าเจ้าทำดีอะไรบ้าง
ลองให้การเพื่อพิสูจน์มาสิว่าเจ้าเป็นฝ่ายถูก
28 ดังนั้น เราจะทำให้พวกหัวหน้าที่สถานบริสุทธิ์ของเจ้าถูกดูหมิ่น
เราจะให้ยาโคบพังพินาศ
และทำให้อิสราเอลถูกเยาะเย้ยดูถูก+
44 “ยาโคบผู้รับใช้ของเรา
อิสราเอลผู้ที่เราได้เลือกไว้+ ขอให้ฟัง
2 พระยะโฮวาผู้สร้างตัวเจ้า ผู้ปั้นเจ้า+
ผู้ที่ช่วยเจ้าตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง* พูดว่า
‘อย่ากลัวเลย ยาโคบผู้รับใช้ของเรา+
4 พวกเขาจะงอกงามเหมือนต้นหญ้าที่เขียวสด+
เหมือนต้นป๊อปลาร์ริมธารน้ำ
5 คนหนึ่งจะพูดว่า “ฉันเป็นคนของพระยะโฮวา”+
อีกคนหนึ่งจะเรียกตัวเองโดยใช้ชื่อของยาโคบ
ส่วนอีกคนหนึ่งก็จะเขียนบนมือของเขาว่า “พระยะโฮวาเป็นเจ้าของตัวฉัน”
และเขาจะใช้ชื่ออิสราเอล’
‘เราเป็นผู้แรกและผู้สุดท้าย+
ไม่มีพระเจ้าอื่นนอกจากเรา+
7 ใครจะมาเทียบเท่าเรา?+
ให้เขาบอกมาเลย ให้เขาพิสูจน์ให้เราเห็น+
ให้เขาบอกสิ่งที่จะมีมา
บอกสิ่งที่จะเกิดขึ้น
เหมือนที่เราเคยบอกตั้งแต่ตอนที่เราสร้างชนชาติหนึ่งขึ้นเมื่อนานมาแล้ว
8 อย่ากลัวเลย
อย่าตกใจกลัว+
เราบอกพวกเจ้าทุกคนให้รู้ล่วงหน้าแล้วไม่ใช่หรือ?
พวกเจ้าเป็นพยานของเรา+
มีพระเจ้าอื่นนอกจากเราไหม?
ไม่มีเลย ไม่มีพระเจ้าอื่นที่เป็นเหมือนหินที่แข็งแกร่ง+ซึ่งคอยปกป้องพวกเจ้า เราไม่เห็นว่าจะมีเลย’”
9 คนที่ทำรูปเคารพขึ้นมาก็ไร้ค่า
รูปเคารพที่พวกเขาภูมิใจก็ไร้ประโยชน์+
รูปเหล่านั้นมองไม่เห็นและไม่รู้อะไรเลย+ มันเป็นหลักฐานฟ้องว่าคนทำเป็นอย่างไร
คนที่ทำรูปเหล่านั้นขึ้นมามีแต่จะต้องอับอายขายหน้า+
10 แล้วใครจะไปปั้นรูปพระหรือทำรูปหล่อโลหะ
ที่ไร้ประโยชน์อย่างนี้?+
11 พรรคพวกของเขาจะต้องอับอายกันไปหมด+
ช่างฝีมือพวกนี้ก็เป็นเพียงมนุษย์
ให้พวกเขามาชุมนุมกันและยืนอยู่นิ่ง ๆ
แล้วพวกเขาจะต้องตกใจกลัวและอับอาย
12 ช่างเหล็กถือเครื่องมือไว้ เขาใช้ไฟจากถ่านหินเผาเหล็กจนร้อน
แล้วใช้ค้อนตี
เขาใช้แขนที่แข็งแรงตีให้เป็นรูปเคารพ+
จนตัวเองหิวและหมดแรง
อ่อนล้าเพราะไม่ได้ดื่มน้ำ
13 ช่างไม้ขึงสายวัด แล้วใช้ชอล์กสีแดงร่างเป็นรูปไว้
เขาใช้วงเวียนขีดและใช้สิ่วแกะสลัก
14 มีคนหนึ่งที่ทำงานตัดต้นสนซีดาร์
เขาเลือกต้นไม้ชนิดหนึ่งคือต้นโอ๊ก
และปล่อยให้มันเติบโตแข็งแรงอยู่ในป่า+
เขาปลูกต้นกระวานและฝนก็ทำให้มันเติบโต
15 แล้วมันก็กลายเป็นเชื้อเพลิงให้คนก่อไฟ
เขาใช้ส่วนหนึ่งมาทำเป็นฟืนให้ตัวเองอบอุ่น
เขาก่อไฟทำขนมปัง
แล้วก็เอาอีกส่วนมาทำเป็นพระไว้กราบไหว้บูชา
เขาทำเป็นรูปแกะสลักและกราบไหว้รูปนั้น+
16 ไม้ครึ่งหนึ่งเขาเอามาเผาไฟ
เขาใช้ไม้ครึ่งนั้นย่างเนื้อกินจนอิ่มหมีพีมัน
แล้วก็ผิงไฟอุ่น ๆ และพูดว่า
“ดีจัง ไฟนี้ช่วยให้เราอบอุ่น”
17 แต่ไม้ส่วนที่เหลือเขาเอามาแกะสลักเป็นรูปพระ
เขากราบไหว้และนมัสการรูปนั้น
เขาอธิษฐานกับรูปนั้นว่า
“พระเจ้าของผม ช่วยคุ้มครองผมด้วย”+
18 พวกเขาไม่รู้อะไรเลย ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง+
ตาของพวกเขาถูกปิด ทำให้มองอะไรไม่เห็น
ใจของเขาก็ถูกปิด และมองอะไรไม่ออก
19 ไม่มีใครคิดไตร่ตรอง
หรือมีความรู้ความเข้าใจพอที่จะพูดว่า
“ไม้ครึ่งหนึ่ง ฉันเอาไปเผาไฟ
และทำขนมปังกับย่างเนื้อบนถ่านนั้น
แล้วฉันควรเอาไม้ที่เหลือมาทำสิ่งที่น่ารังเกียจหรือ?+
ฉันควรกราบไหว้ท่อนไม้ไหม?”
20 เขาเป็นเหมือนกับคนที่กำลังกินขี้เถ้า
และปล่อยให้ใจตัวเองถูกหลอก แล้วก็หลงไป
เขาปกป้องตัวเองไม่ได้ และไม่ยอมรับว่า
สิ่งที่อยู่ในมือเขาเป็นพระจอมปลอม
21 “ยาโคบและอิสราเอล ขอให้จำสิ่งเหล่านี้ไว้
พวกเจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา
เราเป็นผู้สร้างเจ้าและเจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา+
อิสราเอล เราจะไม่ลืมเจ้าเลย+
22 เราจะลบล้างความผิดของเจ้าเหมือนเอาเมฆมาปิดคลุมไว้+
และลบล้างบาปของเจ้าเหมือนเอาเมฆที่หนาทึบมาบังไว้
กลับมาหาเราเถอะ แล้วเราจะไถ่พวกเจ้าคืนมา+
23 ให้ท้องฟ้าโห่ร้องด้วยความยินดี
เพราะพระยะโฮวาทำสิ่งนี้แล้ว
ให้หุบเหวโห่ร้องยินดีในชัยชนะ
ให้ภูเขาทั้งหลายและป่าไม้กับต้นไม้ทั้งหมด
โห่ร้องอย่างเบิกบาน+
เพราะพระยะโฮวาไถ่ยาโคบแล้ว
และพระองค์ทำให้อิสราเอลเห็นความสง่างามของพระองค์”+
24 พระยะโฮวาผู้ไถ่พวกคุณคืนมา+
ผู้สร้างตัวคุณตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง พระองค์พูดว่า
“เราคือยะโฮวา เป็นผู้สร้างทุกสิ่ง
มีใครอยู่กับเราในตอนนั้นหรือ?
25 เราทำให้คำทำนายของผู้พยากรณ์เท็จล้มเหลว
ทำให้พวกผู้ทำนายทำอะไรโง่เขลา+
ทำให้คนฉลาดสับสน
และทำให้ความรู้ของพวกเขากลายเป็นเรื่องโง่เง่า+
26 เราเป็นผู้ทำให้คำพูดของผู้รับใช้ของเราเป็นจริง
ทำให้คำพยากรณ์ที่มาจากผู้ส่งข่าวของเราเกิดขึ้นตามที่เขาพูดไว้+
เราเป็นผู้ที่พูดถึงเยรูซาเล็มว่า ‘เมืองนี้จะมีคนอยู่อาศัย’+
และพูดถึงเมืองต่าง ๆ ของยูดาห์ว่า ‘เมืองเหล่านี้จะถูกสร้างขึ้นใหม่+
เราจะสร้างเมืองที่เป็นซากปรักหักพังนี้ขึ้นมาใหม่’+
27 เราเป็นผู้บอกกับแม่น้ำลึกว่า ‘แห้งซะ
เราจะทำให้แม่น้ำทั้งหมดของเจ้าแห้งไป’+
28 และเราเป็นผู้ที่พูดถึงไซรัส+ว่า ‘เขาเป็นผู้เลี้ยงแกะของเรา
เขาจะทำทุกอย่างตามที่เราต้องการ’+
และเราเป็นผู้ที่พูดถึงเยรูซาเล็มว่า ‘เมืองนี้จะต้องถูกสร้างขึ้นใหม่’
และพูดถึงวิหารว่า ‘จะมีการวางฐานรากของวิหารนี้’”+
45 พระยะโฮวาพูดกับไซรัสผู้ที่พระองค์แต่งตั้ง+
พระองค์จับมือขวาของเขาไว้+
เพื่อให้เขาปราบชาติต่าง ๆ ตรงหน้า+
ให้ปลดอาวุธของพวกกษัตริย์
และให้เปิดประตูบานคู่ซึ่งอยู่ตรงหน้า
เพื่อที่ประตูเมืองจะไม่ปิด และพระองค์พูดกับเขาว่า
2 “เราจะนำหน้าเจ้าไป+
เราจะทำให้เนินเขาเป็นที่ราบ
3 เราจะยกทรัพย์สมบัติให้เจ้า ทั้งทรัพย์สมบัติที่อยู่ในที่มืด
กับทรัพย์สมบัติที่ซ่อนอยู่ในที่ลับ+
เพื่อเจ้าจะรู้ว่าเราคือยะโฮวา
พระเจ้าของอิสราเอล ผู้ที่เรียกชื่อของเจ้า+
4 และเพื่อเห็นแก่ยาโคบผู้รับใช้ของเรากับอิสราเอลผู้ที่เราเลือกไว้
เราจึงเรียกชื่อของเจ้า
และมอบชื่อที่มีเกียรตินี้ให้เจ้า ถึงเจ้าจะไม่รู้จักเรามาก่อน
5 เราคือยะโฮวา ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
ไม่มีพระเจ้าอื่นนอกจากเรา+
เราจะให้กำลังกับเจ้าแม้เจ้าไม่รู้จักเรามาก่อน
6 ใคร ๆ จะได้รู้
ตั้งแต่ทิศตะวันออกไปจนถึงทิศตะวันตก
ว่าไม่มีพระเจ้าอื่นนอกจากเรา+
เราคือยะโฮวา ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก+
7 เราทำให้มีความสว่าง+และสร้างความมืด+
เราทำให้มีสันติ+และสร้างความหายนะ+
เรายะโฮวาเป็นผู้ทำสิ่งเหล่านี้
8 ให้ท้องฟ้าหลั่งความดีงามลงมาเหมือนฝน+
ให้หมู่เมฆโปรยปรายความดีงามลงมา
ให้พื้นแผ่นดินเปิดออก และให้ความรอดงอกงามขึ้นมาบนแผ่นดินนั้น
ให้ความดีงามงอกขึ้นมาด้วย+
เรายะโฮวาเป็นผู้ทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น”
9 ความหายนะจะต้องเกิดกับคนที่ต่อสู้*กับผู้สร้างตัวเขา*
เพราะเขาเป็นแค่เศษดินเผาชิ้นหนึ่ง
ในกองเศษดินเผาที่อยู่บนพื้น
ดินเหนียวจะพูดกับช่างปั้นหม้อไหมว่า “นี่คุณกำลังปั้นอะไรอยู่?”+
หรือภาชนะที่ถูกปั้นจะพูดกับคนปั้นไหมว่า “ปั้นออกมาอย่างนี้ได้ยังไง?”*
10 ความพินาศจะต้องเกิดกับคนที่พูดกับพ่อว่า “ให้ฉันเกิดมาทำไมก็ไม่รู้”
และถามแม่ว่า “คลอดฉันออกมาทำไม?”
11 พระยะโฮวา พระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล+ ผู้สร้างตัวเขา พูดว่า
“เจ้าจะมาบอกเราได้ยังไงว่าต้องทำอะไรในวันข้างหน้า?
เจ้าจะมาสั่งเราว่าต้องทำงานยังไง และจะมาบอกว่าควรทำอะไรกับลูกหลานของเรา+อย่างนั้นหรือ?
12 เราเป็นผู้สร้างโลก+และมนุษย์บนโลก+
13 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า “เราเป็นพระเจ้าที่เที่ยงธรรม เราจึงปลุกเร้าคนหนึ่ง+
และทำให้ทางของเขาราบเรียบ
เขาคนนั้นจะสร้างเมืองของเราขึ้นมา+
และปลดปล่อยคนของเราที่เป็นเชลยให้เป็นอิสระ+โดยไม่เอาค่าจ้างหรือรับสินบน”+
14 พระยะโฮวาพูดว่า
พวกเขาจะเดินตามพวกเจ้าแม้มีโซ่ล่าม
จะมาหาและก้มกราบพวกเจ้า+
พวกเขาจะพูดกับพวกเจ้าด้วยความนับถือว่า ‘พระเจ้าอยู่กับพวกคุณจริง ๆ+
และไม่มีใครอื่น ไม่มีพระเจ้าองค์อื่นเลย’”
15 พระเจ้าของอิสราเอลเป็นผู้ช่วยให้รอด+
พระองค์ไม่ได้เปิดเผยทุกครั้งว่าพระองค์ทำอะไรอยู่
16 พวกคนที่ทำรูปเคารพจะต้องออกไปอย่างอัปยศอดสู
พวกเขาจะถูกทำให้อับอายขายหน้าไปกันหมด+
17 แต่พระยะโฮวาจะช่วยอิสราเอลให้รอดเสมอ+
พวกคุณจะไม่ถูกทำให้อับอายขายหน้าตลอดไป+
18 พระยะโฮวาเป็นผู้สร้างฟ้า+
พระองค์เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้
เป็นผู้สร้างโลกและทำให้โลกอยู่อย่างมั่นคง+
พระองค์ไม่ได้สร้างโลกไว้เฉย ๆ โดยไม่มีจุดประสงค์อะไร* แต่พระองค์สร้างไว้เพื่อให้คนอยู่อาศัย+ พระองค์พูดว่า
“เราคือยะโฮวา ไม่มีพระเจ้าอื่นเลย
19 เราไม่ได้พูดในที่ลับ+หรือในดินแดนที่มืดมิด
เราไม่ได้บอกลูกหลานของยาโคบว่า
‘มาหาเราสิ แต่ก็คงไม่ได้อะไรหรอกนะ’
เราคือยะโฮวา เราพูดแต่สิ่งที่ถูกต้องและบอกแต่ความจริง+
20 พวกเจ้าซึ่งถูกปลดปล่อยจากชาติต่าง ๆ
ให้มารวมตัวกันและพากันมาหาเรา+
ส่วนคนที่แห่รูปเคารพ
และอธิษฐานถึงพระเจ้าที่ช่วยพวกเขาไม่ได้ คนพวกนี้โง่จริง ๆ+
21 ให้พวกเจ้ารายงานและเสนอหลักฐานขึ้นมา
ส่วนพวกเขาก็ให้ไปปรึกษากันสิ
ใครกันล่ะเป็นผู้ที่บอกเรื่องนี้นานมาแล้ว?
และใครเป็นผู้ที่เปิดเผยเรื่องนี้ตั้งแต่ในอดีต?
เรายะโฮวาไม่ใช่หรือ?
ไม่มีพระเจ้าอื่นนอกจากเรา
เราเป็นพระเจ้าผู้ทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอและเป็นผู้ช่วยให้รอด+ ไม่มีพระเจ้าอื่นนอกจากเรา+
22 คนทั้งหลายที่อยู่บนโลก ให้หันมาหาเรา แล้วเราจะช่วยพวกเจ้าให้รอด+
เพราะเราเป็นพระเจ้าและไม่มีพระเจ้าอื่นนอกจากเรา+
23 เราเองได้สาบานไว้
คำพูดที่ออกจากปากของเรานั้นเป็นความจริง
และจะต้องเกิดขึ้นตามที่เราพูดไว้อย่างแน่นอน+
ทุกคนจะมาคุกเข่าลงต่อหน้าเรา
และจะเอ่ยปากสาบานว่าจะซื่อสัตย์ต่อเรา+
24 และพูดว่า ‘พระยะโฮวาเป็นพระเจ้าที่ทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอและเป็นพระเจ้าที่มีพลังอำนาจมาก
พวกคนที่เคยเกรี้ยวกราดใส่พระองค์จะต้องมาหาพระองค์ด้วยความอับอายขายหน้า
25 ลูกหลานของอิสราเอลจะได้เห็นว่า ถูกต้องแล้วที่มารับใช้พระยะโฮวา+
และพวกเขาก็จะอวดเรื่องที่พระองค์ทำเพื่อพวกเขา’”
46 พระเบลหมดแรง+ ส่วนพระเนโบก็แทบพยุงตัวเองไม่ไหว
พวกรูปเคารพของพระทั้งสองนี้บรรทุกอยู่บนหลังสัตว์ที่ใช้บรรทุกของ+
มันเป็นเหมือนข้าวของอื่น ๆ ที่ทำให้สัตว์ที่ต้องบรรทุกของนั้นเหน็ดเหนื่อย
2 พระทั้งสองนี้หมดแรงและแทบพยุงตัวเองไม่ไหว
แม้แต่จะช่วยรูปเคารพของตัวเองที่บรรทุกอยู่บนหลังสัตว์ก็ไม่ได้
แถมตัวเองก็ต้องตกเป็นเชลย
3 “ลูกหลานของยาโคบ และลูกหลานของอิสราเอลที่ยังเหลืออยู่+ ขอให้ฟังเรา
เราได้อุ้มพวกเจ้าตั้งแต่เกิด เราคอยดูแลพวกเจ้าตั้งแต่อยู่ในท้อง+
4 จนถึงตอนที่พวกเจ้าแก่เฒ่า เราก็ยังเป็นเหมือนเดิม+
ถึงตอนที่พวกเจ้าผมหงอกขาว เราก็จะยังพยุงพวกเจ้า
เราจะอุ้มและพยุงพวกเจ้า เราจะช่วยเหลือพวกเจ้าเหมือนอย่างที่เคยทำมา+
5 พวกเจ้าจะเอาเราไปเปรียบกับใคร? หรือจะให้ใครมาเทียบกับเรา?+
ใครจะมาทัดเทียมเราได้+
6 ผู้คนเททองคำออกจากถุงของเขา
เอาเงินมาชั่งบนตาชั่ง
แล้วจ้างช่างโลหะมาทำให้เป็นพระ+
และพวกเขาก็หมอบลงนมัสการมัน+
7 พวกเขายกพระเหล่านั้นขึ้นบ่า+
แล้วแบกไปวางไว้ประจำที่ของมัน แล้วมันก็ตั้งอยู่ตรงนั้น
ไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน+
แม้พวกเขาจะร้องอ้อนวอนต่อพระนั้น มันก็ไม่ตอบอะไรเลย
พระนั้นจะช่วยใครให้พ้นทุกข์ก็ไม่ได้+
8 อย่าลืมเรื่องราวเหล่านี้ และกล้าหาญเถอะ
พวกคนที่ผิด จำใส่ใจไว้
9 ขอให้คิดถึงอดีตที่ผ่านมา*
เราคือพระเจ้า และไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
เราคือพระเจ้า และไม่มีใครเหมือนเรา+
10 เราบอกตั้งแต่แรกว่าผลสุดท้ายจะเป็นยังไง
และบอกมานานแล้วว่าจะทำอะไร+
11 เราจะเรียกเหยี่ยวตัวหนึ่งมาจากทางทิศตะวันออก+
จะเรียกชายคนนั้นมาจากแดนไกล ให้มาทำสิ่งที่เราตั้งใจไว้ให้สำเร็จ+
เราจะทำตามที่พูดไว้
และจะทำให้สำเร็จตามที่ได้ตั้งใจ+
12 ขอให้ฟังเรา เจ้าพวกคนดื้อด้าน
พวกเจ้าห่างไกลจากการทำสิ่งที่ถูกต้อง
13 เราได้นำความถูกต้องชอบธรรมของเรามา
ความถูกต้องชอบธรรมนี้ไม่ได้อยู่ไกลเลย
การช่วยให้รอดของเราจะไม่ชักช้า+
เราจะให้มีความรอดในศิโยน จะให้อิสราเอลได้เห็นความสง่างามของเรา”+
47 ลูกสาวของบาบิโลนซึ่งเป็นสาวบริสุทธิ์
ลงไปนั่งคลุกดิน+
ให้ลงไปนั่งบนพื้นโดยไม่มีบัลลังก์+
ลูกสาวของชาวเคลเดีย
จะไม่มีใครเรียกเจ้าว่าผู้หญิงที่มีแต่คนเอาใจและคอยปรนนิบัติ
2 เอาเครื่องโม่มาโม่แป้งสิ
เอาผ้าคลุมหน้าออกด้วย
ถลกกระโปรงขึ้นให้เห็นขา
และข้ามแม่น้ำไป
3 เจ้าจะถูกทำให้เปลือยกาย
และจะต้องอับอายขายหน้า
เราจะแก้แค้น+ จะไม่มีใครมาขัดขวางเราได้*
4 “พระเจ้าผู้ที่ไถ่พวกเราคืนมา
เป็นพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพคือชื่อของพระองค์”+
5 ลูกสาวของชาวเคลเดีย
ให้ไปนั่งเงียบ ๆ อยู่ในที่มืด+
จะไม่มีใครเรียกเจ้าว่านางพญา*ของอาณาจักรต่าง ๆ อีก+
6 เราเคยโกรธเคืองประชาชนของเรา+
เราเคยให้พวกเขาซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของเราแปดเปื้อน+
และเรามอบพวกเขาไว้ในมือของเจ้า+
แต่เจ้ากลับไม่เมตตาพวกเขาเลย+
แม้แต่คนเฒ่าคนแก่ เจ้าก็ยังให้แบกแอกที่หนักอึ้ง+
ไม่คิดถึงผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
8 เจ้าเป็นผู้หญิงสำส่อน
ที่คิดว่าตัวเองนั่งอยู่อย่างมั่นคงปลอดภัย และนึกเอาเองว่า
“ฉันใหญ่ที่สุด ไม่มีใครจะมาใหญ่กว่าฉันอีกแล้ว+
ฉันจะไม่มีทางเป็นม่าย
และไม่มีทางเสียลูก ๆ ไป” แต่ตอนนี้ ขอให้เจ้าฟัง
9 เจ้าจะเป็นม่ายและเสียลูก ๆ ของเจ้า
สองสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับเจ้าอย่างฉับพลันในวันเดียว
เจ้าจะต้องเจอกับเหตุการณ์ที่หนักหนาสาหัสนี้เต็ม ๆ+
10 เจ้ามั่นใจในความชั่วร้ายของตัวเอง
เจ้าถึงพูดว่า “ไม่มีใครเห็นหรอกว่าฉันทำอะไร”
ความรู้และสติปัญญาของเจ้ากำลังทำให้เจ้าหลงผิดคิดไปว่า
“มีแต่ฉันเท่านั้นแหละ ไม่มีใครจะมายิ่งใหญ่กว่าฉันอีก”
11 แต่ความหายนะกำลังจะเกิดกับเจ้า
และไม่มีเวทมนตร์ไหนจะหยุดมันได้
เจ้าต้องเจอกับความยากลำบากซึ่งไม่มีทางจะหลีกเลี่ยงได้
จะเกิดความพินาศกับเจ้าในทันที เป็นความพินาศที่เจ้าไม่เคยเจอมาก่อน
12 เอาเลยสิ มีคาถาวิชาอาคมอะไรก็งัดออกมา+
คาถาที่เจ้าทำมาตั้งแต่หนุ่มสาว
เผื่อมันจะช่วยอะไรได้บ้าง
อย่างน้อยมันก็อาจจะช่วยทำให้คนอื่นกลัวได้
13 เจ้าเหน็ดเหนื่อยกับการแสวงหาที่ปรึกษามากมาย
ให้พวกเขาลุกขึ้นช่วยเจ้าให้รอดสิ
ทั้งคนที่นมัสการสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่บนฟ้า*กับคนที่เพ่งดูดวงดาว+
และคนที่ทำนายในวันขึ้นเดือนใหม่
ที่ทำนายให้เจ้ารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
14 คนพวกนี้จะเป็นเหมือนฟาง
จะถูกไฟไหม้จนหมด
จะช่วยตัวเองให้รอดจากพลังของเปลวไฟก็ไม่ได้
เพราะไฟนี้ไม่ได้เป็นแค่ถ่านไฟที่ช่วยให้อบอุ่น
หรือไฟที่จะไปนั่งผิงสบาย ๆ
15 พวกที่ใช้วิชาอาคมก็จะเป็นอย่างนี้แหละ
คนที่เจ้าพึ่งพาอาศัยมาตั้งแต่หนุ่มสาว
พวกเขาจะกระจัดกระจายไปตามทางของตัวเอง
ไม่มีใครจะช่วยเจ้าได้เลย+
48 ลูกหลานของยาโคบ ฟังทางนี้
พวกคุณเป็นสายน้ำของยูดาห์*
และเรียกตัวเองโดยใช้ชื่ออิสราเอล+
พวกคุณสาบานโดยออกชื่อของพระยะโฮวา+
และสรรเสริญพระเจ้าของอิสราเอล
แต่ไม่ได้ทำด้วยความจริงใจและด้วยความถูกต้องชอบธรรม+
2 ทั้ง ๆ ที่เรียกตัวเองว่าผู้อาศัยในเมืองบริสุทธิ์+
และอ้างว่าพึ่งพิงพระเจ้าของอิสราเอล+
ผู้มีชื่อว่าพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ
3 “เราบอกเจ้านานมาแล้วเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา*
เราเป็นผู้บอก
เป็นผู้เปิดเผยให้รู้+
เราลงมือทำตามที่บอกทันที แล้วมันก็เกิดขึ้นตามนั้น+
4 เพราะเรารู้ว่าเจ้าดื้อด้านขนาดไหน
เจ้าเป็นคนหัวดื้อและหัวแข็ง+
5 เราถึงบอกเจ้าตั้งนานมาแล้ว
และเล่าให้ฟังก่อนที่มันจะเกิดขึ้น
เจ้าจะได้ไม่พูดว่า ‘รูปเคารพของฉันเป็นผู้ที่ช่วยฉัน
รูปแกะสลักกับรูปหล่อโลหะของฉันสั่งให้เป็นแบบนี้’
6 เจ้าได้ยินและได้เห็นทั้งหมดนี้แล้ว
เจ้าจะไม่เล่าเรื่องนี้หรือ?+
ตั้งแต่นี้ไป เราจะบอกสิ่งใหม่ให้เจ้ารู้+
เป็นความลับที่ถูกเก็บไว้ซึ่งเจ้ายังไม่รู้
7 เป็นเรื่องใหม่ ไม่ใช่มีมานานแล้ว
เป็นสิ่งที่เจ้าไม่เคยได้ยินมาก่อน
เจ้าจะได้ไม่พูดว่า ‘รู้แล้ว’
8 เพราะที่จริง เจ้าไม่เคยได้ยิน+ ไม่เคยรู้มาก่อน
เมื่อก่อน เจ้าปิดหูไม่ยอมฟัง
9 แต่เราจะข่มความโกรธของเราไว้เพื่อเห็นแก่ชื่อของเรา+
เราจะอดทนอดกลั้นเพราะเห็นแก่ชื่อเสียงของเรา
เราจะไม่ทำลายเจ้า+
10 ดูเถอะ เราได้ถลุงเจ้า แต่ไม่ได้ถลุงแบบที่ถลุงเงิน+
เราปล่อยให้เจ้าทนทุกข์เพื่อทดสอบ*เจ้า เหมือนให้โลหะถูกถลุงในเตาหลอม+
เราจะไม่ยกสง่าราศีของเราให้ใครเลย*
12 ฟังเราเถอะ ยาโคบและอิสราเอลผู้ที่เราเรียก
เราเป็นพระเจ้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง+ เราเป็นผู้แรกและผู้สุดท้าย+
เมื่อเราเรียก พวกมันก็พากันลุกขึ้นเตรียมพร้อม
14 พวกเจ้าทุกคน ให้มาชุมนุมกันและฟัง
ในพวกพระทั้งหมด* มีใครที่ทำนายเรื่องเหล่านี้ไว้?
เรายะโฮวารักเขาคนนั้น+
15 เราบอกไว้ก่อนแล้ว เราเรียกเขามาเอง+
เราพาเขามา และเขาจะทำสำเร็จอย่างแน่นอน+
16 เข้ามาหาเราและฟังเถอะ
เราเป็นผู้พูดอย่างเปิดเผยมาตั้งแต่แรกเริ่ม+
เราอยู่ที่นั่นแล้วตั้งแต่ที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น”
และตอนนี้พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดได้ส่งผมมา และผมได้รับพลังของพระองค์
17 พระยะโฮวาเป็นผู้ที่ไถ่คุณคืนมาและเป็นพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล+ พระองค์พูดว่า
“เรายะโฮวาเป็นพระเจ้าของเจ้า
เราสอนเจ้าก็เพื่อประโยชน์ของตัวเจ้าเอง+
เรานำทางเจ้าให้เดินในทางที่ถูกต้อง+
18 ขอให้เชื่อฟังกฎหมายของเราเถอะ+
เพราะถ้าเชื่อฟัง ความสงบสุขของเจ้าจะมีเต็มเปี่ยมเหมือนน้ำในแม่น้ำ+
ความดี*ที่เจ้าทำก็จะมีมากมายเหมือนคลื่นในมหาสมุทร+
19 เจ้าจะมีลูกหลานมากมายเหมือนทราย
คนในเชื้อสายของเจ้าจะมีมากเหมือนเม็ดทราย+
เราจะไม่มีวันตัดชื่อเจ้าทิ้งหรือลบชื่อเจ้าออกเลย”
20 ออกจากบาบิโลนเถอะ+
หนีให้พ้นจากชาวเคลเดีย
ประกาศและแจ้งให้รู้ทั่วกันด้วยเสียงโห่ร้องยินดี+
และป่าวร้องไปถึงสุดขอบโลก+ว่า
“พระยะโฮวาไถ่ยาโคบผู้รับใช้ของพระองค์คืนมาแล้ว+
21 เมื่อพระองค์พาพวกเขาเดินผ่านทะเลทราย พวกเขาก็ไม่หิวน้ำ+
พระองค์ทำให้มีน้ำไหลออกจากหินให้พวกเขาได้ดื่ม
พระองค์แยกหินออกและให้น้ำพุ่งออกมา”+
22 พระยะโฮวาบอกว่า “คนชั่วจะไม่มีวันได้อยู่อย่างสงบสุข”+
49 เกาะทั้งหลาย ขอให้ฟัง
ชาติต่าง ๆ ที่อยู่ห่างไกล ขอให้สนใจ+
ตั้งแต่ผมยังไม่เกิด พระยะโฮวาก็เรียกผมแล้ว+
ตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแม่ พระองค์ได้เรียกชื่อของผม
2 พระเจ้าทำให้ปากของผมคมเหมือนดาบ
พระองค์เอามือบังผมไว้+
พระองค์ทำให้ผมเป็นเหมือนลูกธนูที่แหลมคม
และซ่อนผมไว้ในกระบอกใส่ลูกธนูของพระองค์
3 พระเจ้าพูดกับผมว่า “อิสราเอล เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา+
ผู้คนจะได้เห็นความสง่างามของเราโดยทางเจ้า”+
4 แต่ผมพูดว่า “ผมทำงานเหนื่อยเปล่า
ผมเสียแรงไปเปล่า ๆ ไม่ได้อะไรเลย
5 และตอนนี้ พระยะโฮวาผู้ที่ให้ผมเป็นผู้รับใช้พระองค์ตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง
พระองค์บอกให้ผมพายาโคบกลับมาหาพระองค์
เพื่อที่อิสราเอลจะถูกรวบรวมมาอยู่กับพระองค์+
ในสายตาของพระยะโฮวา ผมมีเกียรติ
และพระองค์จะเป็นกำลังให้กับผม
6 และพระเจ้าพูดว่า “การที่เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา
เป็นผู้ฟื้นฟูตระกูลต่าง ๆ ของยาโคบขึ้นใหม่
และเป็นผู้นำชาวอิสราเอลที่เหลืออยู่ให้กลับมานั้นยังไม่พอ
เพราะเราจะให้เจ้าเป็นแสงสว่างของชาติต่าง ๆ+
เพื่อที่การช่วยให้รอดของเราจะไปถึงสุดขอบโลก”+
7 พระยะโฮวาเป็นผู้ที่ไถ่อิสราเอลคืนมา และเป็นพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล+ พระองค์พูดกับผู้หนึ่งซึ่งถูกดูหมิ่น+และถูกชาติหนึ่งรังเกียจ และเป็นข้ารับใช้ของผู้มีอำนาจปกครองว่า
“เมื่อพวกกษัตริย์เห็นก็จะลุกขึ้น
พวกเจ้านายก็ก้มลงคำนับ
เพราะพวกเขาเคารพนับถือพระยะโฮวาซึ่งเป็นผู้ซื่อสัตย์+
เป็นพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล และเป็นผู้ที่ได้เลือกเจ้า”+
8 พระยะโฮวาพูดว่า
“ในเวลาที่เราเมตตาเจ้าเป็นพิเศษ* เราฟังเจ้า+
และในวันแห่งความรอด เราช่วยเจ้าไว้+
เราจะปกป้องเจ้าเพื่อให้เจ้าเป็นหลักประกัน*ให้กับประชาชน+
เพื่อฟื้นฟูแผ่นดินให้ดีเหมือนเดิม
และเพื่อคืนแผ่นดินร้างเปล่าที่เป็นมรดกนี้ให้ประชาชนของเรา+
9 เพื่อจะพูดกับคนที่ถูกคุมขังว่า ‘ออกมาเถอะ’+
และบอกคนที่อยู่ในความมืด+ว่า ‘ออกมาสิ’
พวกเขาจะมีอาหารกินตลอดทาง
และจะมีทุ่งหญ้าไว้เลี้ยงสัตว์ตลอดทางที่เขาเดิน*
เพราะพระเจ้าที่เมตตาเป็นผู้นำทางพวกเขา+
และพระองค์จะนำทางพวกเขาไปยังแหล่งน้ำต่าง ๆ+
11 เราจะทำให้ภูเขาของเรากลายเป็นถนน
และทางหลวงของเราจะถูกยกให้สูงขึ้น+
12 คอยดูนะ พวกเขาจะมาจากแดนไกล+
จะมาจากทางทิศเหนือและทิศตะวันตก
และมาจากแผ่นดินซีนิม”+
13 ให้ท้องฟ้าโห่ร้องด้วยความยินดี และให้แผ่นดินชื่นชมเบิกบาน+
ให้ภูเขาโห่ร้องอย่างมีความสุข+
เพราะพระยะโฮวาปลอบโยนประชาชนของพระองค์แล้ว+
และพระองค์เมตตาคนของพระองค์ที่ตกทุกข์ได้ยาก+
14 แต่ศิโยนกลับพูดว่า
“พระยะโฮวาทิ้งเราแล้ว+ พระยะโฮวาลืมเราไปแล้ว”+
15 คนเป็นแม่จะลืมลูกที่ยังไม่หย่านม
และไม่สงสารลูกที่เธอคลอดออกมาหรือ?
ถึงแม้เธอจะลืม แต่เราไม่มีทางลืมเจ้าเลย+
16 ดูสิ ชื่อของเจ้าเราเขียนไว้บนฝ่ามือเราแล้ว
กำแพงเมืองของเจ้าก็อยู่ตรงหน้าเราเสมอ
17 ให้ลูก ๆ ของเจ้ารีบกลับมา
เพราะคนที่ทำลายเจ้าก็ไปแล้ว
18 เงยหน้าขึ้นและมองไปรอบ ๆ สิ
พวกเขาทั้งหมดกำลังมารวมตัวกัน+
และเข้ามาหาเจ้า
พระยะโฮวาบอกว่า “คนพวกนี้จะเป็นเหมือนเครื่องประดับให้เจ้าสวมอย่างแน่นอน
แน่นอนเหมือนที่เรามีชีวิตอยู่
เจ้าจะสวมใส่พวกเขาเหมือนกับที่เจ้าสาวสวมเครื่องประดับ
19 แม้แผ่นดินของเจ้าเคยเป็นที่ร้างเปล่าและเป็นซากปรักหักพัง+
แต่ในตอนนี้ จะมีคนมาอยู่อาศัยจนมันคับแคบเกินไป+
20 ลูกหลานที่เกิดหลังเหตุการณ์ที่เจ้าสูญเสียลูกไปจะพูดว่า
‘ที่นี่มันแคบเกินไปสำหรับเรา
ช่วยหาที่ให้เราอยู่หน่อยสิ’+
21 และเจ้าก็จะคิดว่า
‘เด็ก ๆ ที่พามาให้ฉันเป็นลูกของใครกัน?
เพราะฉันเสียลูกไปแล้ว ฉันเป็นหมัน
แถมยังถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยอีก
ใครกันที่เลี้ยงดูเด็กพวกนี้?+
22 พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดพูดว่า
พวกเขาจะอุ้มลูกชายของเจ้ามา
และจะเอาลูกสาวของเจ้าขี่คอมาด้วย+
23 กษัตริย์ต่าง ๆ จะเป็นผู้ดูแลเจ้า+
และพวกเจ้าหญิงก็จะเป็นแม่นมของเจ้า
พวกเขาจะก้มลงคำนับเจ้าจนหน้าถึงดิน+
แล้วพวกเจ้าจะรู้ว่าเราคือยะโฮวา
คนที่วางใจเราจะไม่อับอายเลย”+
24 พวกที่ถูกทหารจับจะถูกปล่อยตัวหรือ?
และเชลยจะรอดพ้นจากผู้ที่กดขี่หรือ?
25 พระยะโฮวาบอกว่า
เราจะต่อต้านคนที่ต่อต้านเจ้า+
และเราจะช่วยลูกหลานของเจ้าให้รอด
26 เราจะทำให้คนที่กดขี่เจ้าต้องกินเนื้อตัวเอง
และพวกเขาจะดื่มเลือดของตัวเองจนมึนเมา เหมือนกับเมาเหล้าองุ่นหวาน
และทุกคนจะต้องรู้ว่าเราคือยะโฮวา+
เราเป็นผู้ช่วยให้รอด+ เป็นผู้ที่ไถ่พวกเจ้าคืนมา+
และเป็นพระเจ้าผู้มีฤทธิ์อำนาจของยาโคบ”+
50 พระยะโฮวาพูดว่า
“แม่ของเจ้าที่เราไล่ไปนั้นมีหนังสือหย่า+ไหมล่ะ?
เราขายเจ้าใช้หนี้อย่างนั้นหรือ?
ที่เจ้าถูกขายไป จริง ๆ แล้วเป็นเพราะความผิดของเจ้าเอง+
และที่แม่ของเจ้าถูกไล่ไปก็เพราะความชั่วที่เจ้าทำนั่นแหละ+
2 ทำไมไม่มีใครอยู่สักคนตอนที่เรามาถึง?
ทำไมไม่มีใครขานตอบตอนที่เราเรียกหา?+
เราไม่สามารถไถ่เจ้าได้หรือ?
เราไม่มีอำนาจจะช่วยเจ้าให้พ้นภัยอย่างนั้นหรือ?+
จนปลาของพวกเขาตายเพราะขาดน้ำ
และเน่าเหม็นเพราะไม่มีน้ำ
3 เราเอาความมืดมาห่มท้องฟ้า+
และเอาผ้ากระสอบมาเป็นผ้าคลุม”
พระองค์ปลุกผมทุก ๆ เช้า
ปลุกผมขึ้นมาฟังคำสอนของพระองค์+
5 พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดเป็นผู้ให้ผมมีความรู้ความเข้าใจ
ผมไม่ขัดขืนพระองค์+
และไม่หันหนีไปไหน+
6 ผมยื่นหลังให้คนที่จะเฆี่ยนผม
และหันแก้มให้คนที่จะถอนเครา
ผมไม่ได้หันหน้าหนีคนที่มาดูถูกหรือถ่มน้ำลายใส่ผม+
7 แต่พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดจะช่วยผม+
ผมจึงไม่รู้สึกอาย
ผมจะเข้มแข็งเหมือนกับหินเหล็กไฟเพื่อเผชิญหน้ากับพวกเขา+
ผมรู้ดีว่าผมจะไม่อับอาย
8 พระเจ้าผู้รับรองว่าผมเป็นคนดีนั้นอยู่ใกล้ ๆ
ให้เราต่างคนต่างยืนขึ้นให้การ*
ใครจะมาฟ้องร้องผม?
ให้เขาเข้ามาเลย
9 พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดจะช่วยผม
ใครจะมาตัดสินว่าผมผิด?
คนพวกนี้จะเปื่อยยุ่ยเหมือนเสื้อผ้า
ที่ถูกมอดกัดกิน
10 ใครบ้างที่เกรงกลัวพระยะโฮวา
และเชื่อฟังผู้รับใช้ของพระองค์?+
ใครเดินอยู่ในความมืดมิดซึ่งไม่มีความสว่างสำหรับเขา?
ให้เขามาวางใจพระยะโฮวาและพึ่งพระองค์สิ
11 พระเจ้าพูดว่า “พวกเจ้าซึ่งจุดไฟ
แต่เป็นแค่ประกายไฟเล็ก ๆ
ให้เดินไปโดยใช้แสงสว่างที่ตัวเองจุด
จากประกายไฟของตัวเอง
แต่เราจะลงโทษเจ้าอย่างนี้
คือให้เจ้านอนอยู่ในสภาพที่เจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
51 “คนที่พยายามทำสิ่งที่ถูกต้อง
และคนที่พยายามรู้จักเรายะโฮวามากขึ้น ให้ฟังเรา
ให้มองไปที่หินที่พวกเจ้าถูกสกัดออกมา
และมองไปที่เหมืองหินที่พวกเจ้าถูกขุดออกมา
2 มองไปที่อับราฮัมพ่อของพวกเจ้า
และซาราห์+ที่ให้กำเนิดเจ้า
เพราะตอนที่เราเรียกอับราฮัม ก็มีแค่เขาเพียงคนเดียว+
แต่เราอวยพรเขาและทำให้เขามีลูกหลานมากมาย+
3 พระยะโฮวาจะปลอบโยนศิโยน+
พระองค์จะทำให้ซากปรักหักพังที่นั่นได้รับการฟื้นฟู*+
พระองค์จะทำให้ที่กันดารของศิโยนเป็นเหมือนสวนเอเดน+
และทำให้ที่ราบกันดารเป็นเหมือนสวนของพระยะโฮวา+
ที่นั่น จะมีแต่เสียงแสดงความปลาบปลื้มยินดี
มีการขอบคุณพระเจ้าและเสียงเพลง+
4 ประชาชนของเรา ขอให้สนใจฟัง
ชนชาติของเรา+ ขอให้ฟังเรา
เพราะเราจะออกกฎหมายต่าง ๆ+
และจะตั้งความยุติธรรมของเราให้เป็นเหมือนแสงสว่างสำหรับชาติต่าง ๆ+
5 เวลาที่เราจะทำสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมใกล้เข้ามาแล้ว+
เกาะทั้งหลายจะหวังพึ่งเรา+
และพวกเขาจะรอคอยอำนาจของเรา
6 เงยหน้ามองดูฟ้าสิ
และมองดูแผ่นดินที่อยู่ด้านล่างด้วย
เพราะฟ้าจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ แล้วฟุ้งกระจายหายไปเหมือนควัน
แผ่นดินก็จะเป็นเหมือนเสื้อผ้าที่เปื่อยยุ่ย
และคนที่อาศัยอยู่ที่นั่นจะต้องตายเหมือนฝูงริ้น
ไม่ต้องไปกลัวคำเยาะของมนุษย์ที่ตายได้
และไม่ต้องไปเกรงคำเย้ยของพวกเขา
8 เพราะตัวมอดจะกัดกินพวกเขาเหมือนกินเสื้อผ้า
แต่เราจะทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอ
และเราจะช่วยเจ้าให้รอดตลอดทุกยุคทุกสมัย”+
9 ขอพระยะโฮวายกแขนของพระองค์ขึ้น
ขอยกขึ้นเพื่อแสดงพลังอำนาจของพระองค์+
ยกขึ้นเหมือนในสมัยก่อน เหมือนในยุคสมัยที่ผ่านมานานแล้ว
10 พระองค์เป็นผู้ทำให้ทะเลที่กว้างใหญ่นั้นแห้งไป+
และทำให้ท้องทะเลลึกกลายเป็นทางให้ผู้ที่พระองค์ไถ่กลับคืนมานั้นเดินข้ามไปไม่ใช่หรือ?+
11 ผู้ที่พระยะโฮวาไถ่ไว้จะกลับมา+
จะมีแต่ความปลาบปลื้มยินดี
ความโศกเศร้าและเสียงถอนหายใจก็จะไม่มีอีกแล้ว+
12 “เราเองเป็นผู้ปลอบโยนเจ้า+
ทำไมเจ้าต้องไปกลัวมนุษย์ที่ตายได้+
ซึ่งเป็นเหมือนต้นหญ้าที่ไม่ช้าก็จะเหี่ยวเฉาไป?
ตลอดวัน พวกเจ้าเอาแต่กลัวความเกรี้ยวกราดของคนที่กดขี่ข่มเหงเจ้า
อย่างกับว่าพวกเขาจะทำให้เจ้าพินาศได้
ไหนล่ะ ความเกรี้ยวกราดของคนที่มาข่มเหงเจ้าอยู่ที่ไหน?
14 พวกคนที่ถูกโซ่ล่ามจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระ+
เขาจะไม่ต้องตายแล้วลงไปในหลุม
และจะไม่ต้องอดอยากอีก
15 เพราะเราคือยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า
เราเป็นผู้ทำให้ทะเลปั่นป่วนและมีคลื่นแรง+
ยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพคือชื่อของเรา+
16 เราจะให้เจ้ากล่าวถ้อยคำของเรา
เราจะปกป้องเจ้าด้วยมือของเรา+
เพื่อจะสร้างฟ้าและวางฐานรากของโลก+
และเพื่อเราจะบอกศิโยนได้ว่า ‘เจ้าเป็นประชาชนของเรา’+
17 ตื่นเถอะเยรูซาเล็ม ตื่นและลุกขึ้นได้แล้ว+
เจ้าได้ดื่มความโกรธของพระยะโฮวาจากถ้วยของพระองค์ไปแล้ว
เจ้าดื่มจากจอกนั้น
ดื่มไปจนหมดและเดินโซเซ+
18 ลูก ๆ ที่เจ้าคลอดออกมา ไม่มีสักคนที่นำทางเจ้า
และลูก ๆ ที่เจ้าเลี้ยงดูมา ก็ไม่มีสักคนที่คอยจูงมือเจ้า
19 สองสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับเจ้า
คือ เจ้าจะถูกปล้นและถูกทำลาย เจ้าจะต้องหิวโหยและถูกฆ่าด้วยคมดาบ+
ใครจะมาสงสารเจ้า?
ใครจะมาปลอบโยนเจ้าได้?+
20 ลูก ๆ ของเจ้าเป็นลมหมดสติไป+
พวกเขาหมดแรงล้มฟุบอยู่ตามถนน*
เหมือนสัตว์ที่ติดตาข่าย
ความโกรธและคำตำหนิของพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าท่วมทับพวกเขาอยู่”
21 ผู้หญิงที่ทนทุกข์และมึนเมา แต่ไม่ได้เมาเหล้าองุ่น
ขอให้ฟังทางนี้
22 พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ พระองค์เป็นผู้ปกป้องประชาชนของพระองค์ พระองค์พูดว่า
“เราจะเอาถ้วยที่ทำให้เจ้าเดินเซนั้นมาจากมือเจ้า+
คือจอกหรือถ้วยที่เต็มไปด้วยความโกรธของเรา
เจ้าจะไม่ต้องดื่มจากถ้วยนี้อีก+
23 เพราะเราจะเอาถ้วยนี้ไปใส่ไว้ในมือของคนที่เคยทรมานเจ้า+
คนที่เคยพูดกับเจ้าว่า ‘หมอบลงเดี๋ยวนี้ เราจะได้เดินเหยียบไป’
เจ้าจึงต้องยอมให้หลังของตัวเองเป็นเหมือนพื้นดิน
เป็นเหมือนถนนให้พวกเขาเดิน”
52 ตื่นเถอะศิโยน+ ตื่นและมีกำลังเรี่ยวแรงขึ้น+
เยรูซาเล็มเมืองบริสุทธิ์ เอาเสื้อผ้าสวย ๆ มาใส่สิ+
เพราะคนที่ไม่เข้าสุหนัตและคนที่ไม่สะอาดจะไม่ได้เข้ามาหาเจ้าอีก+
2 เยรูซาเล็ม ปัดฝุ่นออกจากตัวแล้วลุกขึ้นมานั่งเถอะ
ลูกสาวของศิโยนซึ่งเป็นเชลยอยู่ ปลดโซ่*ออกจากคอของเจ้าได้แล้ว+
3 เพราะพระยะโฮวาพูดว่า
4 พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดพูดไว้ว่า
“ในตอนแรก ประชาชนของเราลงไปที่อียิปต์ เพื่ออาศัยอยู่ที่นั่นอย่างคนต่างชาติ+
แล้วต่อมา อัสซีเรียก็มากดขี่พวกเขาโดยไม่มีสาเหตุ”
5 พระยะโฮวาพูดขึ้นมาว่า “แล้วเราควรทำยังไงกับเรื่องนี้ดี?”
พระยะโฮวาพูดอีกว่า “ประชาชนของเราถูกเอาตัวไปโดยที่เราไม่ได้อะไร
แถมคนที่มาปกครองพวกเขาก็เอาแต่โห่ร้องโอ้อวดในชัยชนะ+
ทำให้ชื่อของเราถูกดูหมิ่นมาโดยตลอด+
6 เพราะอย่างนี้แหละ ประชาชนของเราจะรู้จักชื่อของเรา+
และเพราะอย่างนี้เอง ในวันนั้น พวกเขาจะรู้ว่าเราเป็นผู้พูด
เราเองเป็นผู้นั้นแหละ”
7 บนภูเขามีคนกำลังนำข่าวดีมา เท้าของเขางดงามจริง ๆ+
เขาประกาศข่าวสันติสุข+
เขาบอกข่าวที่ดีกว่า
เขาประกาศถึงความรอด
เขาพูดกับศิโยนว่า “พระเจ้าของคุณเป็นกษัตริย์แล้ว”+
8 ฟังสิ คนยามของคุณร้องเสียงดัง
และโห่ร้องด้วยความยินดีขึ้นมาพร้อมกัน
เพราะพวกเขาจะเห็นอย่างชัดเจนเมื่อพระยะโฮวารวบรวมผู้คนที่เคยอยู่ในศิโยนกลับมา
9 ซากปรักหักพังของเยรูซาเล็ม ขอให้เบิกบานและโห่ร้องด้วยความยินดีขึ้นมาพร้อมกันเถอะ+
เพราะพระยะโฮวาปลอบโยนประชาชนของพระองค์+และไถ่เยรูซาเล็มกลับคืนมาแล้ว+
10 พระยะโฮวาทำให้ชาติต่าง ๆ เห็นพลังอำนาจอันบริสุทธิ์ของพระองค์+
ผู้คนทั่วโลกจะเห็นว่าพระเจ้าของเราช่วยเราให้รอดได้*+
11 มาเถอะ ออกมากันเถอะ ออกมาจากที่นั่น+ อย่าแตะต้องสิ่งที่ไม่สะอาด+
พวกคุณซึ่งเป็นคนหามเครื่องใช้ในวิหารของพระยะโฮวา+
ออกมาจากที่นั่น+และรักษาตัวให้สะอาด
12 พวกคุณจะไม่ต้องออกมาด้วยความหวาดผวา
ไม่ต้องหลบหนีออกมา
เพราะพระยะโฮวาจะนำหน้าพวกคุณ+
และพระเจ้าของอิสราเอลจะระวังหลังให้พวกคุณ+
13 ดูเถอะ ผู้รับใช้ของเรา+จะเป็นคนสุขุมรอบคอบ
เขาจะถูกยกขึ้นสูง
และจะได้รับการยกย่องเชิดชู+
14 ผู้คนจ้องมองเขาด้วยความตกตะลึง
เพราะรูปร่างหน้าตาเขาดูยับเยินกว่าใคร ๆ
และไม่มีความสง่างามเลย
15 เขาจะทำให้ชาติทั้งหลายตกตะลึง+
จนกษัตริย์พากันพูดไม่ออก+
เพราะพวกเขาจะเห็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครบอกมาก่อน
และจะต้องหันมาสนใจสิ่งที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย+
53 แล้วใครจะเชื่อในสิ่งที่เราพูด?*+
และใครจะได้เห็น+พระยะโฮวาแสดงพลังอำนาจ*ของพระองค์?+
2 ผู้รับใช้คนนี้จะเป็นเหมือนกับกิ่ง+ที่งอกออกมาต่อหน้าเขา* เป็นเหมือนกับรากที่งอกขึ้นมาจากพื้นดินที่แห้งแล้ง
ไม่มีความสง่างาม ไม่มีความงดงามอะไรเลย+
และรูปร่างหน้าตาก็ไม่น่ามอง
3 ผู้คนดูหมิ่นและหลีกหนีเขา+
เขารู้จักความเจ็บปวดและคุ้นเคยกับความเจ็บป่วย
และเป็นเหมือนคนที่เราไม่อยากมองหน้า*
ถูกดูหมิ่น และไม่มีค่าสำหรับเรา+
แต่เรากลับมองว่าเขาเป็นโรคร้าย ถูกพระเจ้าลงโทษ และต้องทนทุกข์
ต้องรับโทษเพื่อพวกเราจะมีความสงบสุข
และยอมทนกับบาดแผลเพื่อพวกเราจะได้รับการรักษาให้หาย+
6 พวกเราหลงเตลิดไปเหมือนแกะ+
ต่างคนต่างไปตามทางของตัวเอง
แต่พระยะโฮวายอมให้ความผิดทั้งหมดที่พวกเราทำตกอยู่กับเขา+
เขาถูกพาไปเหมือนแกะที่ถูกพาไปฆ่า+
เหมือนแกะตัวเมียที่นิ่งเงียบเมื่ออยู่ตรงหน้าคนตัดขน
เขาไม่ปริปากพูดอะไรเลย+
8 เขาถูกพาตัวไปเพราะการตัดสินที่ไม่เป็นธรรม*
ใครจะมาสนใจรายละเอียดความเป็นมาของเขา?*
9 มีคนจัดหลุมศพของเขาไว้กับคนชั่ว+
แต่เมื่อตาย เขาถูกฝังไว้กับคนรวย+
ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้ทำผิดอะไร
และไม่เคยพูดหลอกลวงเลย+
10 แต่ที่เขาต้องทนทุกข์อย่างแสนสาหัสนั้นเป็นความต้องการของพระยะโฮวา พระองค์ยอมให้เขาทนทุกข์
ถ้าพระเจ้าให้ชีวิตของเขาเป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิด+
เขาก็จะเห็นลูกหลานของเขา และจะมีชีวิตยืนยาว+
และเขาจะทำให้พระยะโฮวามีความยินดี
11 เพราะเขายอมทนทุกข์ เขาจะมีความสุขกับสิ่งที่จะได้เห็น
ผู้รับใช้ที่ดีงามของเราคนนี้จะใช้สิ่งที่เขาเรียนรู้มานั้น+
ช่วยผู้คนมากมายให้เป็นคนที่พระเจ้ายอมรับ*+
และจะแบกรับความผิดของพวกเขา+
12 ดังนั้น เขาจะได้รับส่วนแบ่งร่วมกับคนจำนวนมาก
และจะแบ่งปันของเชลยกับพวกนักรบ
เพราะเขายอมพลีชีวิต+
และยอมถูกนับรวมอยู่กับคนชั่ว+
เขาแบกบาปของคนจำนวนมาก+
และอ้อนวอนเพื่อคนชั่ว+
54 พระยะโฮวาพูดว่า “ผู้หญิงที่เป็นหมันและไม่เคยคลอดลูก+ โห่ร้องยินดีเถอะ+
เจ้าที่เป็นคนไม่เคยเจ็บท้องคลอด+ ขอให้เบิกบานและร้องด้วยความดีใจ
เพราะผู้หญิงที่ถูกสามีทิ้ง
2 ขยายเต็นท์ของเจ้าให้ใหญ่ขึ้นเถอะ+
และขยายผ้าคลุมเต็นท์ซึ่งเป็นที่อยู่อันงดงามของเจ้านั้นให้กว้างออกไป
เอาให้เต็มที่เลย ต่อเชือกขึงเต็นท์ให้ยาวขึ้น
และตอกหมุดยึดเต็นท์ให้มั่นคง+
3 เพราะเจ้าจะขยายออกไปทั้งทางขวาและทางซ้าย
ลูกหลานของเจ้าจะครอบครองชาติต่าง ๆ
และจะเข้าไปอาศัยอยู่ในเมืองที่เคยร้างเปล่านั้น+
4 อย่ากลัวเลย+เพราะเจ้าจะไม่ต้องอับอาย+
และเจ้าจะไม่ต้องอับอายขายหน้าเพราะเจ้าจะไม่ผิดหวัง
เจ้าจะลืมความอับอายตอนที่เป็นสาว
จะไม่จดจำความน่าอายที่เป็นม่ายอีกเลย”
5 พระเจ้าของคุณพูดว่า “ผู้สร้างองค์ยิ่งใหญ่ซึ่งสร้างตัวเจ้า+เป็นเหมือนสามี*ของเจ้า+
ยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพคือชื่อของพระองค์
และพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลเป็นผู้ไถ่เจ้าคืนมา+
ใคร ๆ ก็จะเรียกพระองค์ว่าพระเจ้าของคนทั้งโลก+
6 พระยะโฮวาเรียกเจ้าเหมือนกับว่าเจ้าเป็นผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้งให้ช้ำใจ+
เหมือนกับว่าเจ้าเป็นผู้หญิงที่แต่งงานตั้งแต่เป็นสาวแล้วก็ถูกทิ้ง”
7 พระเจ้าพูดว่า “เราทิ้งเจ้าได้ไม่นาน
เราจะรวบรวมเจ้ากลับมาเพราะเราเมตตาเจ้ามาก+
8 เราหันหน้าหนีจากเจ้าไปพักหนึ่งในตอนที่เราโกรธ+
แต่เพราะความรักที่มั่นคงอย่างไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งเรามีต่อเจ้านั้น ทำให้เราเมตตาเจ้า”+ พระยะโฮวาผู้ไถ่ตัวคุณคืนมา+พูดไว้อย่างนั้น
9 พระเจ้าพูดว่า “สำหรับเราแล้ว เรื่องนี้ก็เป็นเหมือนในสมัยของโนอาห์+
เราเคยสาบานไว้ในสมัยโนอาห์ว่าจะไม่ให้มีน้ำท่วมโลกอีก+
ในตอนนี้ เราก็จะสาบานว่า เราจะไม่โกรธเจ้าหรือตำหนิเจ้าอีก+
10 แม้ภูเขาจะถูกเคลื่อนย้ายไป
และเนินเขาจะถูกเขย่า
แต่ความรักที่เรามีต่อเจ้าจะมั่นคงเสมอ+
และสัญญาที่เรายืนยันว่าจะให้เจ้ามีสันติสุขนั้นจะยืนยงไม่สั่นคลอน”+ พระยะโฮวาผู้ที่เมตตาคุณ+บอกไว้อย่างนั้น
11 “ผู้หญิงที่เป็นทุกข์+ ถูกพายุโหมกระหน่ำ และไม่มีใครปลอบโยน+
เราจะเอาหินและปูนมาก่อเป็นกำแพงให้เจ้า
และเอาพลอยแซปไฟร์มาวางเป็นฐานรากของเจ้า
12 เอาทับทิมมาสร้างเป็นหอปราการของเจ้า
ส่วนอัญมณีที่แวววาวก็เอามาสร้างเป็นประตูเมือง
แล้วใช้หินที่มีค่ามากั้นเป็นเขตแดนของเจ้า
14 เจ้าจะยืนอยู่อย่างมั่นคงเพราะเจ้าทำดี+
จะอยู่ห่างไกลจากการถูกกดขี่+
จะไม่ต้องกลัวอะไร และจะไม่มีอะไรมาทำให้เจ้ากลัว
สิ่งเหล่านี้จะไม่เฉียดมาใกล้เจ้าเลย+
15 ถ้ามีใครมาโจมตีเจ้า
พวกเขาไม่ได้มาเพราะเราสั่ง
แต่คนที่มาโจมตีจะพ่ายแพ้เจ้า”+
16 พระเจ้าพูดว่า “คิดดูดี ๆ สิ เราเป็นผู้สร้างคนที่เป็นช่างเหล็ก
ที่พัดไฟในเตาให้ลุก
เพื่อสร้างอาวุธ
และเราก็เป็นผู้สร้างคนซึ่งเป็นผู้ที่ชอบทำลายล้างด้วย+
17 ดังนั้น ไม่มีอาวุธอะไรที่สร้างขึ้นมาต่อสู้เจ้าจะทำร้ายเจ้าได้+
และเจ้าจะพูดหักล้างทุกข้อกล่าวหาของคนที่พูดให้การต่อต้านเจ้า
การปกป้องอย่างนี้จะเป็นมรดกที่ผู้รับใช้ของพระยะโฮวาได้รับ
และเรามองว่านี่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง” พระยะโฮวาพูดไว้อย่างนั้น+
55 มาเถอะ พวกเจ้าที่กระหาย+ มาดื่มน้ำสิ+
พวกเจ้าที่ไม่มีเงิน มาเอาไปกินเถอะ
มาเอาเหล้าองุ่นและนม+โดยไม่ต้องซื้อและไม่ต้องจ่าย
2 ทำไมพวกเจ้ามัวแต่เอาเงินไปซื้อสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร
และใช้เงินที่หามาได้*กับสิ่งที่ไม่ได้ทำให้มีความสุข?
3 ขอให้เข้ามาหาเราและสนใจฟังเถอะ+
ฟังเรา แล้วเจ้าจะมีชีวิต
เพราะเราพร้อมจะทำสัญญาที่จะคงอยู่ตลอดไปกับเจ้า+
เราจะรักเจ้าอย่างมั่นคงเหมือนกับที่เราสัญญาไว้กับดาวิด และคำสัญญานี้เชื่อถือได้แน่นอน+
4 คอยดูเถอะ เราจะให้เขาเป็นพยานต่อหน้าชาติต่าง ๆ
5 “คอยดูเถอะ* คุณจะเรียกชาติหนึ่งที่คุณไม่รู้จัก
และคนในชาตินี้ที่ไม่รู้จักคุณก็จะวิ่งมาหา
เพราะเห็นแก่พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ+ซึ่งเป็นพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
เพราะพระองค์จะทำให้คุณได้รับเกียรติ+
6 กลับมาหาพระยะโฮวาเถอะ ตอนที่ยังหาพระองค์พบ+
เรียกหาพระเจ้า ตอนที่พระองค์ยังอยู่ใกล้ ๆ+
7 ให้คนชั่วทิ้งแนวทางชีวิตของเขา+
และคนทำผิดให้ล้มเลิกความคิดของเขา
ให้เขากลับมาหาพระยะโฮวา พระองค์จะเมตตาเขา+
กลับมาหาพระเจ้าของเรา เพราะพระองค์จะให้อภัยอย่างใจกว้าง”+
8 พระยะโฮวาพูดว่า “ความคิดของเราไม่เหมือนกับความคิดของเจ้า+
และแนวทางของเราก็ไม่เหมือนกับแนวทางของเจ้า
9 เหมือนกับที่ท้องฟ้าสูงกว่าแผ่นดิน
แนวทางของเราก็เหนือกว่าแนวทางของเจ้า
และความคิดของเราก็สูงส่งกว่าความคิดของเจ้า+
10 เหมือนกับที่ฝนและหิมะตกลงมาจากฟ้า
และจะไม่กลับไปบนฟ้าถ้ายังไม่ทำให้แผ่นดินชุ่มฉ่ำ ทำให้พืชผลเติบโตและเกิดดอกออกผล
ทำให้มีเมล็ดไว้หว่านและมีอาหารไว้กิน
11 คำพูดที่ออกจากปากของเรา
ก็จะไม่กลับมาหาเราถ้ายังไม่ทำสิ่งต่าง ๆ ให้สำเร็จ+
ทุกอย่างจะต้องเกิดขึ้นตามที่เราต้องการ+
เราพูดไว้ยังไงก็จะเกิดขึ้นอย่างนั้น+
ภูเขาและเนินเขาต่าง ๆ จะเบิกบานใจและโห่ร้องยินดีเมื่อเจ้ามาถึง+
และต้นไม้ในท้องทุ่งจะพากันปรบมือ+
13 ต้นสนจูนิเปอร์จะเติบโตแทนที่พงหนาม+
ต้นน้ำมันเขียวก็จะงอกงามแทนต้นตำแย
และสิ่งเหล่านี้จะสร้างชื่อให้กับพระยะโฮวา+
และเป็นหลักฐานที่จะคงอยู่ตลอดไป”
56 พระยะโฮวาพูดว่า
“ขอให้ยึดมั่นกับความยุติธรรม+ และทำสิ่งที่ถูกต้อง
เพราะเรากำลังจะมาช่วยเจ้าให้รอดแล้ว
ผู้คนจะได้เห็นว่าเราทำสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม+
2 คนที่ทำอย่างนี้ก็มีความสุข
คนที่ยึดมั่นกับกฎหมายของเรา
รักษาวันสะบาโตให้เป็นวันบริสุทธิ์+
และไม่ให้มือของตัวเองทำความชั่ว
3 คนต่างชาติที่มานมัสการพระยะโฮวา+จะไม่พูดว่า
‘พระยะโฮวาไม่ยอมให้ฉันอยู่กับประชาชนของพระองค์’
และคนที่เป็นขันทีจะไม่พูดว่า ‘ฉันก็เป็นแค่ต้นไม้แห้ง ๆ ต้นหนึ่ง’”
4 เพราะพระยะโฮวาพูดว่า “สำหรับคนที่เป็นขันทีซึ่งรักษาวันสะบาโตของเราและเลือกทำสิ่งที่เราพอใจ และยึดมั่นกับสัญญาของเรานั้น
5 เราจะให้พวกเขามีที่ในวิหารของเรา และเราจะจดจำชื่อของพวกเขาไว้
สิ่งนี้ดีกว่าการมีลูกชายกับลูกสาวซะอีก
เราจะให้ชื่อของพวกเขาถูกเขียนไว้ถาวร
เป็นชื่อที่จะไม่ถูกลบทิ้งเลย
6 ส่วนคนต่างชาติที่มานมัสการพระยะโฮวาและรับใช้พระองค์
ที่มารักพระยะโฮวาและรักชื่อของพระองค์+
และต้องการมาเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
ทุกคนที่รักษาวันสะบาโตให้เป็นวันบริสุทธิ์
และยึดมั่นกับสัญญาของเรานั้น
7 เราจะพาพวกเขามาที่ภูเขาบริสุทธิ์ของเรา+
และจะให้พวกเขาได้ชื่นชมยินดีที่ได้อยู่ในวิหารสำหรับการอธิษฐานของเรา
เราจะรับเครื่องบูชาเผาและเครื่องบูชาอื่น ๆ ของเขามาไว้บนแท่นบูชาของเรา
เพราะใคร ๆ จะเรียกวิหารของเราว่า วิหารสำหรับการอธิษฐานของคนทุกชาติ”+
8 พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด ผู้รวบรวมชาวอิสราเอลที่กระจัดกระจายอยู่+ พูดว่า
“เราจะรวบรวมคนอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้เข้ามาให้เข้ามา”+
9 สัตว์ป่าในท้องทุ่ง
และสัตว์ป่าในป่า มากินสิ+
10 คนยามก็ตาบอด+ ไม่มีใครคอยสังเกตอะไร+
พวกเขาเป็นหมาที่เป็นใบ้กันหมด เห่าก็ไม่เป็น+
ได้แต่นอนหอบ และชอบหลับ
11 พวกเขาเป็นหมาตะกละ
ที่ไม่รู้จักอิ่ม
เป็นคนเลี้ยงแกะที่ไม่มีความเข้าใจ+
ต่างคนต่างทำตามแนวทางของตัวเอง
พวกเขาต่างหาผลประโยชน์ใส่ตัว ไม่เว้นแม้แต่คนเดียว พวกเขาพูดว่า
12 “เอาละ ฉันจะเอาเหล้าองุ่นมา
แล้วมาดื่มกันให้เมาไปเลย+
เพราะพรุ่งนี้ก็จะเป็นเหมือนวันนี้ อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ”
57 เมื่อคนดีตาย
ไม่มีใครสักคนมาสนใจ
และเมื่อคนซื่อตรงต้องจากไป+
ก็ไม่มีใครใส่ใจว่าคนดีนั้นต้องตาย
เขาพ้นทุกข์ไปแล้ว ไม่ต้องเจอกับความหายนะ*
2 เขาเป็นสุขแล้ว
ทุกคนที่เป็นคนดีก็ได้พักผ่อนอยู่ในหลุมศพ*ของตัวเอง
3 “แต่สำหรับพวกเจ้า มานี่
พวกเจ้าที่เป็นลูกหลานของแม่มด
พวกเจ้าที่เป็นลูกของคนเล่นชู้และมีแม่เป็นผู้หญิงโสเภณี
4 เจ้ากำลังล้อเลียนใครอยู่?
เจ้ากำลังแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ใคร?
พวกเจ้าเป็นคนทำบาป
เป็นคนโกหกหลอกลวง+
5 และเป็นคนที่เร่าร้อนด้วยราคะท่ามกลางต้นไม้ใหญ่+
ใต้ต้นไม้ที่มีใบเขียวขจี+
และเป็นคนฆ่าลูก ๆ ในหุบเขา+
ในซอกหินผาไม่ใช่หรือ?
6 เจ้าเป็นคนเลือกหินที่เกลี้ยงเกลาในหุบเขานี้เอง+
เจ้าเป็นคนเลือกมันเอง
แล้วก็เทเครื่องบูชาดื่มและให้ของถวายกับหินพวกนี้+
จะให้เราพอใจกับสิ่งเหล่านี้หรือ?
7 เจ้าเตรียมที่นอน*ของเจ้าไว้บนภูเขาที่สูงตระหง่าน+
แล้วก็ขึ้นไปถวายเครื่องบูชาที่นั่น+
8 เจ้าเอาของที่ระลึก*ไว้ที่หลังประตูและเสาประตู
เจ้าทิ้งเราแล้วก็ไปเปลือยกาย
และขึ้นไปที่นั่น แล้วขยายที่นอนให้ใหญ่ขึ้น
เจ้าทำสัญญากับพวกเขา
9 เจ้าไปหาเมเลค*พร้อมกับน้ำมัน
และน้ำมันหอมจำนวนมาก
เจ้าส่งทูตของเจ้าออกไปไกล
แต่สุดท้าย เจ้าก็พาตัวเองลงไปในหลุมศพ*
10 เจ้าตรากตรำทำตามวิธีต่าง ๆ ของเจ้า
และไม่เคยพูดว่า ‘ฉันหมดหวังแล้ว’
เจ้ามีแรงขึ้นมาใหม่เสมอ
เจ้าเลยไม่ยอมแพ้*
11 ใครกันแน่ที่เจ้าเกรงกลัว
เจ้าถึงได้มาโกหกแบบนี้?+
เจ้าไม่ได้นึกถึงเรา+
ไม่ได้ใส่ใจเลย+
เป็นเพราะเรานิ่งเงียบและยังไม่ได้จัดการกับสิ่งที่เจ้าทำ+
เจ้าถึงได้ไม่เกรงกลัวเรา
12 เราจะทำให้ผู้คนรู้ถึงความดีจอมปลอมของเจ้า+
13 เมื่อเจ้าร้องขอความช่วยเหลือ
รูปเคารพที่เจ้าสะสมไว้ก็ช่วยอะไรไม่ได้+
ลมจะพัดเอาพวกมันไปหมด
ขนาดลมหายใจก็พัดพวกมันไปได้
แต่คนที่มาพึ่งเราจะได้รับแผ่นดินเป็นมรดก
และจะได้อยู่บนภูเขาบริสุทธิ์ของเรา+
14 จะมีการพูดว่า ‘สร้างถนนขึ้นมา เตรียมทางให้พร้อม+
เอาสิ่งกีดขวางที่อยู่บนทางที่ประชาชนของเราจะเดินออกไปให้หมด’”
15 พระเจ้าองค์สูงสุดผู้สูงส่ง
ผู้มีชีวิตอยู่ตลอดไป+ซึ่งชื่อของพระองค์นั้นบริสุทธิ์+ พระองค์พูดว่า
“แม้เราอยู่ในที่สูงส่งและบริสุทธิ์+
แต่เราก็อยู่กับคนที่ถูกกดขี่และคนที่ต่ำต้อย
เพื่อจะยกคนที่ต่ำต้อยขึ้น
และให้กำลังใจคนที่ถูกกดขี่+
16 เพราะเราจะไม่ต่อต้านเขาตลอดไป
และจะไม่โกรธเคืองเขาอยู่เรื่อย ๆ+
ไม่อย่างนั้น เราคงทำให้ผู้คนอ่อนแรง+
และสิ่งมีชีวิตที่หายใจได้ก็คงอ่อนแรงกันไปหมด
17 เราโกรธเคืองที่เขาพยายามหาผลประโยชน์ใส่ตัว+
เราจึงโบยตีเขา หันหน้าหนีจากเขาเพราะโกรธเคือง
แต่เขาก็ยังเดินอยู่ในทางทรยศ+ และทำสิ่งที่ตัวเองต้องการ
18 เราเห็นแล้วว่าเขาใช้ชีวิตยังไง
แต่เราจะรักษา+และนำทางเขา+
และเราปลอบโยนเขา+เป็นการชดเชย และปลอบโยนคนของเขาที่กำลังโศกเศร้าด้วย”+
19 พระยะโฮวาพูดว่า “เราจะทำให้ผู้คนสรรเสริญเรา
จะมีความสงบสุขที่ยั่งยืนให้ทุกคนไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลก็ตาม+
และเราจะเยียวยารักษาเขา”
20 พระเจ้าของผมพูดว่า “แต่คนชั่วจะเป็นเหมือนทะเลคลั่งที่ไม่หยุดปั่นป่วน
และน้ำก็พัดเอาสาหร่ายและโคลนเลนขึ้นมา
21 คนชั่วจะไม่มีวันได้อยู่อย่างสงบสุข”+
58 พระองค์สั่งผมว่า “ตะโกนให้ดัง ๆ เอาให้ดังไม่ต้องยั้ง
ส่งเสียงให้ดังเหมือนเสียงแตรเขาสัตว์
ประกาศให้ประชาชนของเรารู้ว่าพวกเขากบฏต่อเรา+
และให้ลูกหลานของยาโคบรู้ว่าพวกเขาทำบาปต่อเรา
2 พวกเขาทำเป็นแสวงหาการชี้นำจากเราทุกวัน
ทำทีว่าดีใจที่ได้รู้จักแนวทางของเรา
ทำอย่างกับว่าพวกเขาเป็นชนชาติที่ทำสิ่งถูกต้องมาตลอด
และไม่เคยละทิ้งแนวทางของพระเจ้าเลย+
แล้วก็มาขอให้เราตัดสินอย่างเที่ยงธรรม
และทำทีว่าดีใจที่ได้ใกล้ชิดพระเจ้า+
3 พวกเขาถามว่า ‘ตอนที่พวกเราอดอาหาร ทำไมพระองค์ไม่เห็น?+
ตอนที่พวกเราแสดงความเสียใจเพราะบาปที่เราทำ ทำไมพระองค์ไม่สังเกต?’+
ก็เพราะว่าในวันที่เจ้าอดอาหาร เจ้ายังคิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง
กดขี่คนงานของเจ้า+
4 และการอดอาหารของเจ้าก็จบลงด้วยการทะเลาะวิวาท
ชกต่อยกันอย่างดุเดือด
การอดอาหารอย่างนี้ไม่ได้ทำให้เราฟังคำอธิษฐานของเจ้าหรอก
5 การอดอาหารที่เรายอมรับควรเป็นอย่างนี้หรือ?
คือ เป็นแค่วันที่ให้ผู้คนมาแสดงความเสียใจเพราะบาปที่เขาทำ
มายืนคอตกเหมือนต้นกก
มานอนบนผ้ากระสอบและขี้เถ้า
อย่างนี้หรือที่เจ้าเรียกว่าอดอาหารเพื่อให้พระยะโฮวาพอใจ?
6 ไม่ใช่เลย การอดอาหารอย่างนี้ต่างหากที่เรายอมรับ
คือ การปลดปล่อยผู้คนให้หลุดพ้นจากโซ่ตรวนของความไม่ยุติธรรม+
แก้สายรัดของแอกที่อยู่บนตัวให้พวกเขา
ปล่อยคนที่ถูกกดขี่ให้เป็นอิสระ+
และหักแอกทั้งหมดที่มี
7 แบ่งปันอาหารให้คนหิวโหย+
ให้ที่พักพิงกับคนจนและคนไม่มีบ้าน
ให้เสื้อผ้ากับคนที่เจ้าเห็นว่าเขาไม่มีจะใส่+
และช่วยเหลือญาติพี่น้อง
8 แล้วเจ้าจะฉายความสว่างออกมาเหมือนแสงแดดที่ส่องสว่างในตอนเช้า+
เจ้าจะได้รับการรักษาให้หายอย่างรวดเร็ว
ความถูกต้องชอบธรรมจะเดินนำหน้าเจ้า
และคุณความดีของพระยะโฮวาจะคอยติดตามและดูแลเจ้า+
9 เมื่อเจ้าเรียก พระยะโฮวาจะตอบ
เมื่อเจ้าขอความช่วยเหลือ พระองค์จะบอกว่า ‘เราอยู่นี่’
ถ้าเจ้ายกแอกที่เจ้าวางไว้ออกไปจากพวกเจ้า
เลิกชี้หน้าต่อว่าและพูดใส่ร้ายคนอื่น+
10 ถ้าเจ้าเอาสิ่งที่ตัวเองต้องการไปให้คนที่หิวโหย+
และทำให้คนทุกข์ยากได้อิ่มเอม
เจ้าจะฉายความสว่างออกมาแม้จะอยู่ในที่มืด
แม้ตอนมืดครึ้ม แสงก็จะส่องสว่างเหมือนตอนเที่ยงวัน+
11 พระยะโฮวาจะนำหน้าเจ้าเสมอ
และทำให้เจ้าอิ่มเอมในดินแดนที่แห้งแล้ง+
ทำให้กระดูกของเจ้ามีกำลังขึ้น
และเจ้าจะเป็นเหมือนสวนที่มีน้ำรดชุ่มฉ่ำ+
เหมือนน้ำพุที่มีน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา
12 พวกเขาจะริเริ่มสร้างเมืองที่เป็นซากโบราณขึ้นมาใหม่+
แล้วเจ้าจะซ่อมแซมฐานรากซึ่งถูกทิ้งมานานหลายยุคหลายสมัย+
เจ้าจะได้ชื่อว่าเป็นคนซ่อมกำแพงที่พังไป+
เป็นคนซ่อมแซมถนนเพื่อให้คนมาอาศัยอยู่โดยรอบ
13 ถ้าเจ้ารักษาวันสะบาโต หยุดแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวในวันบริสุทธิ์ของเรา+
และเรียกวันสะบาโตว่าเป็นวันที่น่ายินดีจริง ๆ วันบริสุทธิ์ของพระยะโฮวา วันที่สำคัญ+
และให้ความสำคัญกับวันนั้นโดยไม่แสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวหรือพูดเรื่องไร้สาระ
14 พระยะโฮวาจะให้เจ้ามีความยินดีอย่างมาก
ให้เจ้าได้ครอบครองที่สูงของโลก+
และให้เจ้าได้กินพืชผลจากมรดกของยาโคบบรรพบุรุษของเจ้า+
พระยะโฮวาบอกไว้อย่างนี้”
59 มือของพระยะโฮวาไม่ได้สั้นจนยื่นมาช่วยพวกคุณไม่ได้+
และหูก็ไม่ได้ตึงจนไม่ได้ยินเสียง+
2 แต่เพราะความผิดที่พวกคุณทำต่างหากที่ทำให้คุณห่างจากพระเจ้า+
บาปที่พวกคุณทำนั่นแหละที่ทำให้พระองค์หันหน้าหนีจากคุณ
และทำให้พระองค์ไม่อยากฟังเสียงของคุณ+
3 มือของพวกคุณเปรอะไปด้วยเลือด+
และเต็มไปด้วยความผิด
ปากก็พูดแต่เรื่องโกหก+ ลิ้นก็พูดพล่ามแต่เรื่องชั่ว ๆ
4 ไม่มีใครร้องเรียกหาสิ่งที่ถูกต้อง+
ไม่มีใครพูดความจริงในศาล
พวกเขาวางใจในสิ่งที่ไม่มีค่า+และพูดแต่เรื่องไร้ประโยชน์
พวกเขามักก่อเรื่องและสร้างปัญหา+
5 พวกเขาฟักไข่ของงูพิษ
และทอใยแมงมุม+
ใครก็ตามที่กินไข่นั้นจะต้องตาย
ส่วนไข่ที่แตก งูพิษก็เลื้อยออกมา
6 ใยที่เขาทอก็เอามาทำเป็นเสื้อผ้าไม่ได้
จะเอามาปิดคลุมตัวเองก็ไม่ได้+
การงานของพวกเขาทำให้เกิดความเสียหาย
และสิ่งที่เขาทำก็มีแต่ความรุนแรง+
7 เท้าของพวกเขามักวิ่งไปทำชั่ว
และรีบไปฆ่าคนบริสุทธิ์+
เขาชอบคิดแต่เรื่องที่ทำให้เกิดความเสียหาย
พวกเขาทำให้เกิดความพินาศและความทุกข์ตามทางที่พวกเขาไป+
8 และพวกเขาไม่เคยรู้จักแนวทางแห่งสันติสุข
และไม่มีความยุติธรรมในทางที่เขาเดินเลย+
เขาทำให้ทางที่เขาเดินนั้นคด
และไม่มีใครที่เดินในทางนั้นรู้จักสันติสุข+
9 นี่แหละที่ทำให้พวกเราอยู่ห่างไกลจากความยุติธรรม
ความดีงามก็มาไม่ถึงพวกเรา
พวกเราเฝ้าหวังว่าจะเห็นแสงสว่าง แต่ดูสิ กลับมีแต่ความมืดมิด
เราหวังจะเห็นแสงไฟ แต่กลับเดินอยู่ในความมืดมน+
10 พวกเราคลำไปตามกำแพงเหมือนคนตาบอด
คลำหาทางเหมือนคนไม่มีตา+
ตอนกลางวันแสก ๆ เรากลับสะดุดล้มอย่างกับว่าเป็นตอนกลางคืน
เราเป็นเหมือนคนที่ตายแล้วในกลุ่มคนที่แข็งแรง
11 พวกเราร้องเหมือนหมีครวญคราง
และส่งเสียงร้องโอดครวญเหมือนเสียงของนกเขา
เราหวังว่าจะมีความยุติธรรม แต่ไม่มีเลย
หวังว่าจะมีการช่วยให้รอด แต่มันก็ดูเหมือนอยู่ห่างไกลจากเราเหลือเกิน
12 เพราะเรากบฏต่อพระองค์หลายต่อหลายครั้ง+
บาปที่เราทำแต่ละครั้งก็เป็นเหมือนชนักติดหลัง+
เรารู้ดีว่าเรากบฏ
และทำผิดอะไรไปบ้าง+
13 พวกเราได้ทำชั่วและปฏิเสธพระยะโฮวา
พวกเราหันหลังให้พระเจ้าของเรา
14 ความยุติธรรมจึงถูกขับไล่ไป+
และความถูกต้องชอบธรรมก็ได้แต่ยืนอยู่ไกล ๆ+
ความจริง*สะดุดล้มลงที่ลานสาธารณะ
และความเที่ยงธรรมก็เข้ามาไม่ได้
16 พระเจ้าแปลกใจเมื่อมองดู
และเห็นว่าไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วย
พระองค์จึงใช้พลังของพระองค์นำความรอด*มา
และความเที่ยงธรรมของพระองค์ก็คอยสนับสนุนพระองค์
17 แล้วพระเจ้าก็เอาความเที่ยงธรรมมาสวมเป็นเสื้อเกราะ
เอาความยุติธรรมมาสวมเป็นเสื้อเพื่อลงโทษศัตรู+
และเอาความต้องการทำสิ่งที่ถูกต้องมาสวมเป็นเสื้อคลุม
18 พระเจ้าจะตอบแทนตามสิ่งที่พวกเขาทำ+
จะแสดงความโกรธกับพวกศัตรู และจะลงโทษพวกเขา+
พระองค์จะตอบแทนให้สมกับที่เขาทำ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ตามเกาะต่าง ๆ ที่ห่างไกลก็ตาม
19 คนที่อยู่ทางทิศตะวันตกจะเกรงกลัวชื่อของพระยะโฮวา
และคนที่อยู่ทางทิศตะวันออกก็จะเห็นว่าสง่าราศีของพระองค์น่าเกรงขาม
เพราะพระยะโฮวาจะมาเหมือนแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว
ซึ่งถูกพลังของพระองค์ผลักดันอยู่
20 พระยะโฮวาบอกว่า “พระเจ้าผู้ไถ่เจ้าคืนมา+จะมาที่ศิโยน+
จะมาหาลูกหลานของยาโคบที่เลิกทำชั่ว”+
21 พระยะโฮวาพูดว่า “นี่คือสัญญาที่เราทำกับพวกเขา”+ พระยะโฮวาพูดต่อไปว่า “เราจะให้พลังของเรากับเจ้าเสมอ และจะให้เจ้าพูดถ้อยคำของเรา ถ้อยคำนี้จะอยู่ที่ปากของเจ้า ทั้งพลังและถ้อยคำของเราจะอยู่กับเจ้าเสมอ ไม่หายไปจากเจ้า หรือจากลูกหลานของเจ้าเลย ตั้งแต่นี้ไปจนตลอดกาล”
60 “หญิงเอ๋ย ลุกขึ้นเถอะ+ แล้วส่องแสง เพราะความสว่างส่องมาถึงเจ้าแล้ว
รัศมีของพระยะโฮวาส่องมาที่เจ้า+
2 ดูเถอะ ความมืดจะปกคลุมไปทั่วโลก
ความมืดทึบจะปิดคลุมชาติต่าง ๆ
แต่พระยะโฮวาจะส่องแสงมาที่เจ้า
และผู้คนจะเห็นสง่าราศีของพระองค์บนตัวเจ้า
4 เงยหน้าขึ้นมองไปรอบ ๆ สิ
พวกเขาถูกรวบรวมเข้ามาแล้ว และกำลังจะมาหาเจ้า
5 ในตอนนั้น หน้าของเจ้าจะอิ่มเอิบด้วยความสุขเมื่อได้เห็น+
หัวใจของเจ้าจะพองโตและเต้นแรง
เพราะความมั่งคั่งของทะเลจะหลั่งไหลมาหาเจ้า
ทรัพย์สมบัติของชาติต่าง ๆ ก็จะมาหาเจ้า+
6 จะมีฝูงอูฐอยู่ทั่วแผ่นดินที่เจ้าอยู่
เป็นอูฐหนุ่มจากมีเดียนและเอฟาห์+
ผู้คนจากเชบาก็จะมา
พวกเขาบรรทุกทองคำกับกำยานมาด้วย
พวกเขาจะสรรเสริญพระยะโฮวาให้คนอื่น ๆ ได้ยิน+
7 ฝูงสัตว์ของเคดาร์+จะถูกรวบรวมมาให้เจ้า
แกะตัวผู้จากเนบาโยท+ก็มาเพื่อให้เจ้าใช้
พวกมันจะได้มาอยู่บนแท่นบูชาของเรา เป็นเครื่องบูชาที่เรายอมรับ+
เราจะทำให้วิหารที่สง่างามของเรางดงาม+
8 พวกนี้เป็นใครกันที่มาเหมือนเมฆลอยมา
และมาเหมือนนกเขาบินกลับรัง?
9 เกาะทั้งหลายจะหวังพึ่งเรา+
เรือของเมืองทาร์ชิชจะนำขบวน
พาลูกหลานของเจ้ามาจากแดนไกล+
มาพร้อมกับเงินและทอง
มาหาพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า มาหาพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
10 คนต่างชาติจะสร้างกำแพงให้เจ้า
และกษัตริย์ของพวกเขาจะรับใช้เจ้า+
แม้ตอนเราโกรธ เราเฆี่ยนตีเจ้า
11 ประตูเมืองของเจ้าจะเปิดอยู่เสมอ
จะเปิดทั้งวันทั้งคืน
เพื่อให้ชาติต่าง ๆ นำทรัพย์สมบัติมาให้
และกษัตริย์ของพวกเขาจะเดินนำหน้าเข้ามา+
12 ชาติไหนอาณาจักรไหนที่ไม่ยอมรับใช้เจ้าจะพินาศ
ชาติต่าง ๆ เหล่านั้นจะพินาศย่อยยับ+
13 เลบานอนจะทำให้เจ้าสง่างาม+
ทั้งต้นสนจูนิเปอร์ ต้นจันทน์ทอง และต้นสนดินสอ+
จะถูกใช้ตกแต่งที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรา
เราจะทำให้ที่วางเท้าของเรางดงาม+
14 ลูกหลานของคนที่เคยกดขี่เจ้าจะมาก้มกราบลงตรงหน้าเจ้า
คนที่เคยเหยียดหยามเจ้าจะมากราบแทบเท้าเจ้า
และพวกเขาจะเรียกเจ้าว่า เมืองของพระยะโฮวา
ศิโยนของพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล+
15 แทนที่เจ้าจะถูกทอดทิ้ง ถูกเกลียดชัง และไม่มีใครเดินผ่านเหมือนที่เคยเป็นมา+
เราจะทำให้เจ้าเป็นคนที่คนอื่นเห็นแล้วจะรู้สึกภาคภูมิใจตลอดไป
และจะทำให้เจ้าเป็นคนที่คนตลอดทุกยุคทุกสมัยเห็นแล้วปลาบปลื้มยินดี+
16 และเจ้าจะดื่มน้ำนมของชาติต่าง ๆ+
จะได้ดูดน้ำนมจากอกของพวกกษัตริย์+
แล้วเจ้าจะได้รู้ว่า เรายะโฮวาเป็นผู้ช่วยเจ้าให้รอด
พระเจ้าผู้มีฤทธิ์อำนาจของยาโคบเป็นผู้ไถ่เจ้าคืนมา+
17 เราจะเอาทองคำมาแทนทองแดง
และเอาเงินมาแทนเหล็ก
เอาทองแดงมาแทนไม้
และเอาเหล็กมาแทนหิน
เราจะแต่งตั้งความสงบสุขให้เป็นผู้ดูแลเจ้า
และความถูกต้องชอบธรรมให้เป็นหัวหน้างานเจ้า+
18 จะไม่ได้ยินเรื่องรุนแรงในดินแดนของเจ้า
หรือเรื่องความพินาศล่มจมในเขตแดนของเจ้าอีก+
แต่เจ้าจะเรียกกำแพงของเจ้าว่าความรอด+ และเรียกประตูเมืองของเจ้าว่าคำสรรเสริญ
19 เจ้าจะไม่ต้องอาศัยดวงอาทิตย์เป็นแหล่งที่ให้ความสว่างในตอนกลางวัน
และไม่ต้องให้ดวงจันทร์มาส่องแสงให้อีก
เพราะพระยะโฮวาจะเป็นความสว่างให้เจ้าตลอดไป+
และพระเจ้าของเจ้าจะทำให้เจ้างดงาม+
20 สำหรับเจ้าแล้ว ดวงอาทิตย์ตก
และดวงจันทร์ข้างแรมจะไม่มีอีก
เพราะพระยะโฮวาจะเป็นความสว่างให้เจ้าตลอดไป+
วันที่เจ้าเป็นทุกข์โศกเศร้าจะสิ้นสุดลง+
21 และประชาชนทั้งหมดของเจ้าจะทำสิ่งที่ถูกต้อง
พวกเขาจะได้ครอบครองดินแดนนี้ตลอดไป
พวกเขาเป็นหน่อที่เราปลูกไว้
เป็นผลงานจากมือเรา+ เพื่อที่ใคร ๆ จะได้เห็นสง่าราศีของเรา+
22 คนจำนวนน้อยจะเพิ่มเป็นจำนวนพัน
คนตัวเล็กจะกลายเป็นชาติใหญ่
เรายะโฮวาจะเร่งให้สิ่งนี้เกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม”
61 พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดให้พลังของพระองค์กับผม+
พระยะโฮวาแต่งตั้งผมให้ประกาศข่าวดีกับคนอ่อนน้อม+
ให้รักษาคนที่มีหัวใจชอกช้ำ
ให้ประกาศเรื่องการปลดปล่อยกับพวกเชลย
และเปิดตาคนที่ถูกคุมขังให้มองเห็น+
2 ให้ประกาศปีที่พระยะโฮวาจะเมตตาเป็นพิเศษ*
ประกาศวันที่พระเจ้าของเราจะลงโทษ+
และให้ปลอบโยนผู้ที่โศกเศร้า+
3 พระองค์ให้ผมเอาความสุขมาให้คนที่โศกเศร้าเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับศิโยน
เหมือนที่เอาผ้าโพกหัวมาแทนขี้เถ้า
ให้เอาความยินดีที่เป็นเหมือนน้ำมันมาแทนความทุกข์โศกเศร้า
ให้เอาคำชมเชยที่เป็นเหมือนเสื้อผ้ามาแทนหัวใจที่ท้อแท้หมดหวัง
และพวกเขาจะถูกเรียกว่าต้นไม้ใหญ่ที่ดีงาม
เป็นต้นไม้ที่พระยะโฮวาปลูกไว้เพื่อทำให้พระองค์งดงาม+
4 พวกเขาจะสร้างเมืองที่เป็นซากโบราณขึ้นมาใหม่
พวกเขาจะฟื้นฟูที่ร้างเปล่าในอดีต+
และสร้างเมืองต่าง ๆ ที่ถูกทำลายขึ้นมาใหม่+
ที่เหล่านั้นถูกทิ้งไว้ให้ร้างเปล่าเรื่อยมาตลอดทุกยุคทุกสมัย+
5 “คนต่างถิ่นจะมาเลี้ยงฝูงแกะให้เจ้า
6 พวกเจ้าจะได้ชื่อว่าปุโรหิตของพระยะโฮวา+
พวกเขาจะเรียกเจ้าว่าผู้รับใช้ของพระเจ้า
เจ้าจะได้อิ่มหมีพีมันด้วยทรัพย์สมบัติของชาติต่าง ๆ+
และจะอวดความมั่งคั่งนี้
7 ประชาชนของเราเคยต้องอับอาย แต่ตอนนี้พวกเขาจะได้ส่วนแบ่งสองเท่า
และแทนที่จะขายหน้า พวกเขาจะตะโกนด้วยความยินดีที่ได้ส่วนแบ่งนั้น
พวกเขาจะได้ส่วนแบ่งสองเท่าในแผ่นดินของเขา+
พวกเขาจะชื่นชมยินดีตลอดไป+
เราจะตอบแทนพวกเขาอย่างเป็นธรรม
และเราจะทำสัญญาที่จะคงอยู่ตลอดไปกับพวกเขา+
9 ชาติต่าง ๆ จะรู้จักลูกหลานของเขา+
และชาติทั้งหลายจะรู้จักคนในเชื้อสายของเขา
ทุกคนที่เห็นเขาจะจำได้ว่า
เขาเป็นลูกหลานที่พระยะโฮวาอวยพร”+
10 ผมจะชื่นชมยินดีที่มีพระยะโฮวาเป็นพระเจ้า
ทั้งชีวิตจิตใจของผมจะมีแต่ความปลาบปลื้มยินดีในพระเจ้าของผม+
เพราะพระองค์เอาความรอดที่เป็นเหมือนเสื้อผ้ามาสวมให้ผม+
และเอาความดีงามที่เป็นเหมือนเสื้อคลุมมาคลุมผมไว้
ผมเป็นเหมือนเจ้าบ่าวที่ใส่ผ้าโพกหัวเหมือนที่ปุโรหิตใส่+
และเป็นเหมือนเจ้าสาวที่ตกแต่งตัวด้วยเครื่องประดับ
11 พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดจะทำให้ความดีงาม+งอกขึ้นมาต่อหน้าชาติต่าง ๆ
และจะทำให้ผู้คนสรรเสริญพระองค์
เหมือนที่แผ่นดินทำให้เกิดผล
และสวนที่อุดมสมบูรณ์ทำให้เมล็ดที่หว่านไว้งอกขึ้นมา+
62 เพื่อเห็นแก่ศิโยน เราจะไม่นิ่งเงียบ+
เพราะเห็นแก่เยรูซาเล็ม เราจะไม่นิ่งเฉย
จนกว่าความดีงามของเมืองนี้จะส่องสว่างเหมือนแสงที่เจิดจ้า+
และความรอดของเมืองนี้จะส่องแสงเหมือนคบเพลิงที่ลุกโชน+
2 “หญิงเอ๋ย ชาติต่าง ๆ จะเห็นความดีงามของเจ้า+
กษัตริย์ทั้งหลายจะเห็นความสง่างามของเจ้า+
เจ้าจะได้ชื่อใหม่+
เป็นชื่อที่พระยะโฮวาตั้งให้
3 เจ้าจะกลายเป็นมงกุฎที่งดงามในมือของพระยะโฮวา
และกลายเป็นผ้าโพกหัวของกษัตริย์ที่อยู่ในมือพระเจ้าของเจ้า
4 เขาจะไม่เรียกเจ้าว่าผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้งอีกแล้ว+
และจะไม่เรียกแผ่นดินของเจ้าว่าแผ่นดินที่ร้างเปล่าอีกต่อไป+
แต่เจ้าจะถูกเรียกว่า ‘คนที่เราชื่นชม’+
และแผ่นดินของเจ้าจะถูกเรียกว่า ‘คนที่แต่งงานแล้ว’
เพราะพระยะโฮวาจะชื่นชมในตัวเจ้า
และแผ่นดินของเจ้าจะเป็นเหมือนคนที่แต่งงานแล้ว
5 ผู้ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้จะแต่งงานกับเจ้า
เหมือนชายหนุ่มแต่งงานกับหญิงสาวบริสุทธิ์
พระเจ้าของเจ้าจะชื่นชมในตัวเจ้า
เหมือนเจ้าบ่าวชื่นชมในตัวเจ้าสาว+
6 เยรูซาเล็ม เราตั้งคนยามไว้บนกำแพงของเจ้าแล้ว
พวกเขาจะไม่นิ่งเงียบเลยทั้งวันทั้งคืน
พวกเจ้าที่สรรเสริญพระยะโฮวาอยู่
อย่าหยุดพัก
7 และอย่าให้พระองค์หยุดพักจนกว่าจะได้ตั้งเยรูซาเล็มให้มั่นคง
จนกว่าจะทำให้ผู้คนทั่วโลกสรรเสริญเมืองนี้”+
8 พระยะโฮวายกมือขวาและแขนที่แข็งแรงของพระองค์ขึ้น แล้วสาบานว่า
“ต่อจากนี้ เราจะไม่ยกข้าวที่เป็นของเจ้าให้เป็นอาหารของพวกศัตรู
หรือให้คนต่างชาติได้ดื่มเหล้าองุ่นใหม่ของเจ้าอีก เพราะนี่เป็นน้ำพักน้ำแรงของเจ้า+
9 คนที่เกี่ยวข้าวจะได้กินข้าว และสรรเสริญพระยะโฮวา
คนที่เก็บองุ่นก็จะได้ดื่มเหล้าองุ่นในลานศักดิ์สิทธิ์ของเรา”+
10 ออกไปเถอะ ออกไปทางประตูเมือง
เตรียมทางให้ประชาชน+
สร้างทางหลวงไว้
เก็บกวาดก้อนหินออกไป+
และให้มีสัญญาณ*เพื่อชาติต่าง ๆ จะเห็น+
11 พระยะโฮวาประกาศไปจนถึงสุดขอบโลกว่า
“ให้บอกชาวศิโยนว่า
‘เจ้ากำลังจะได้รับการช่วยให้รอดแล้ว+
ดูสิ พระองค์เอารางวัลมาด้วย
และค่าตอบแทนก็อยู่ที่พระองค์’”+
12 พวกเขาจะได้ชื่อว่าชนชาติบริสุทธิ์ เป็นคนที่พระยะโฮวาไถ่คืนมา+
และพวกคุณจะได้ชื่อว่า “เมืองที่ใคร ๆ เสาะหา” และ “เมืองที่พระเจ้าไม่ทอดทิ้ง”+
63 มีผู้หนึ่งมาจากเอโดม+
มาจากเมืองโบสราห์+ เขาสวมเสื้อผ้าสีสดใส*
เป็นเสื้อผ้าที่งามสง่า
เขามาอย่างองอาจ เขาเป็นใครกัน?
“คือเราเอง ทุกสิ่งที่เราพูดนั้นถูกต้อง
และเรามีอำนาจที่ยิ่งใหญ่เพื่อช่วยให้รอด”
2 ทำไมเสื้อของพระองค์ถึงเป็นสีแดง
แดงเหมือนเสื้อผ้าของคนที่ย่ำองุ่นอยู่ในบ่อย่ำ?+
3 “เราย่ำองุ่นอยู่ในบ่อเพียงลำพัง
ไม่มีคนจากชาติไหนอยู่กับเราเลย
เราย่ำมันไปเรื่อย ๆ ด้วยความโกรธ
และเหยียบมันไม่หยุดอย่างโมโห+
เหยียบจนเลือดของพวกเขากระเด็นขึ้นมาติดที่เสื้อผ้า
จนเสื้อผ้าของเราเปรอะเปื้อนไปหมด
4 เพราะเราได้กำหนดวันลงโทษเอาไว้แล้ว+
และปีที่เราจะไถ่พวกเขาคืนนั้นมาถึงแล้ว
5 เรามองดูแต่ไม่เห็นมีใครมาช่วย
เรารับไม่ได้ที่ไม่มีใครเสนอตัวมาช่วยเราเลย
6 เราเหยียบย่ำชาติต่าง ๆ ด้วยความโกรธ
และทำให้พวกเขาดื่มความโกรธของเราจนเมา+
เราทำให้เลือดของพวกเขาหลั่งลงบนพื้นดิน”
7 ผมจะพูดถึงสิ่งที่พระยะโฮวาทำด้วยความรักที่มั่นคงของพระองค์
จะสรรเสริญพระยะโฮวา
เพราะพระยะโฮวาทำทุกสิ่งเพื่อพวกเรา+
และทำสิ่งดี ๆ หลายอย่างเพื่อลูกหลานอิสราเอล
พระเจ้าช่างมีความเมตตาและความรักที่มั่นคงอันยิ่งใหญ่จริง ๆ
8 เพราะพระเจ้าพูดว่า “ที่จริง พวกเขาเป็นประชาชนของเรา และเป็นลูก ๆ ที่ซื่อสัตย์ต่อเรา”+
พระองค์จึงช่วยพวกเขาให้รอด+
9 ในช่วงที่พวกเขาทนทุกข์ พระเจ้าก็ทนทุกข์ด้วย+
และผู้ส่งข่าวของพระองค์*ก็ช่วยพวกเขาให้รอด+
พระองค์ไถ่พวกเขาคืนมาด้วยความรักและความเมตตาสงสาร+
พระองค์พยุงพวกเขาขึ้นและอุ้มชูพวกเขามาตั้งแต่อดีต+
10 แต่พวกเขากลับกบฏ+ต่อพระเจ้าและทำให้พระองค์เสียใจ+
11 และพวกเขาก็นึกย้อนถึงอดีต
นึกถึงสมัยของโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ แล้วก็พูดกันว่า
“พระเจ้าที่พาพวกเขากับผู้ที่ดูแลประชาชนของพระองค์ให้ขึ้นมาจากทะเลนั้น+ ตอนนี้อยู่ที่ไหน?+
พระเจ้าที่ให้พลังบริสุทธิ์ของพระองค์กับเขา+
12 พระเจ้าที่ให้พลังที่แข็งแกร่งของพระองค์อยู่ที่แขนขวาของโมเสส+
พระเจ้าที่แยกน้ำออกจากกันต่อหน้าพวกเขา+
เพื่อให้ชื่อของพระองค์คงอยู่ชั่วนิรันดร์+
13 พระเจ้าที่ช่วยพวกเขาให้เดินผ่านน้ำลึก
พวกเขาจึงเดินได้โดยไม่สะดุด
เหมือนม้าที่วิ่งอยู่ในที่โล่ง* พระเจ้าองค์นั้นอยู่ที่ไหน?
14 พลังของพระยะโฮวาช่วยพวกเขาให้ได้พักผ่อน+
เหมือนสัตว์ที่เดินไปที่หุบเขาเพื่อนอนพัก”
15 ขอพระองค์มองลงมาจากสวรรค์เถอะ
มองลงมาจากที่อยู่อันสูงส่ง บริสุทธิ์ และสวยงามของพระองค์
ทำไมพระองค์ไม่สนใจ? ทำไมพระองค์ถึงไม่ใช้อำนาจของพระองค์ช่วยพวกเราอีกแล้ว?
ความเมตตาสงสาร+อย่างสุดซึ้งที่พระองค์เคยมีให้พวกเรานั้นหายไปไหนหมด?
ทำไมพระองค์ไม่เมตตา และไม่ช่วยผมเหมือนเมื่อก่อน?
16 พระองค์เป็นพ่อของพวกเรา+
ถึงอับราฮัมจะไม่รู้จักเรา
และอิสราเอลก็ไม่รู้ว่าเราเป็นใคร
แต่พระยะโฮวา พระองค์เป็นพ่อของพวกเรา
และเป็นผู้ไถ่พวกเราคืนมาตั้งแต่อดีต+
17 พระยะโฮวาพระเจ้า ทำไมพระองค์ยอมให้พวกเราเดินออกนอกลู่นอกทาง?
ทำไมพระองค์ยอมให้ใจเราดื้อดึงจนไม่เกรงกลัวพระองค์?+
ขอพระองค์หันกลับมาสนใจ เพื่อเห็นแก่พวกเราที่เป็นผู้รับใช้
และเป็นตระกูลต่าง ๆ ของพระองค์+
18 ประชาชนที่บริสุทธิ์ของพระองค์ครอบครองแผ่นดินได้ไม่นาน
ศัตรูก็มาเหยียบย่ำที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์+
19 นานมาแล้วที่พวกเราเป็นเหมือนคนที่พระองค์ไม่เคยปกครอง
และเป็นเหมือนคนที่ไม่เคยถูกเรียกตามชื่อของพระองค์
64 ขอพระองค์ลงมาฉีกฟ้าให้ขาด
และทำให้ภูเขาต่าง ๆ สั่นสะเทือน
2 และเหมือนกับที่ไฟทำให้กิ่งไม้แห้งไหม้
ทำให้น้ำเดือดปุด ๆ
พระเจ้าก็จะทำให้พวกศัตรูรู้จักชื่อของพระองค์
และทำให้ชาติต่าง ๆ ต้องกลัวพระองค์จนตัวสั่น
3 เมื่อพระองค์ลงมาทำสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งเราเองก็ไม่กล้าคาดหมายว่าพระองค์จะทำ+
ภูเขาต่าง ๆ ก็สั่นสะเทือนตรงหน้าพระองค์+
4 ตั้งแต่อดีตมา ไม่เคยมีใครได้ยินหรือได้ฟัง
หรือได้เห็นว่ามีพระเจ้าองค์ไหนนอกจากพระองค์
ที่เป็นผู้ลงมือทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อคนที่อดทนรอคอยพระองค์+
5 พระเจ้ามาช่วยคนที่มีความสุขเมื่อได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง+
มาช่วยคนที่ไม่ลืมพระองค์และคนที่ติดตามแนวทางของพระองค์
แต่ดูสิ พระองค์โกรธเพราะว่าเราทำผิดอยู่เรื่อย ๆ+
ไม่เลิกทำผิดซะที
ถ้าอย่างนั้น เรายังหวังว่าจะอยู่รอดปลอดภัยหรือ?
6 พวกเราเป็นเหมือนคนที่ไม่สะอาด
ความดีที่เราพยายามทำก็ไม่ต่างอะไรกับผ้าที่ใช้ซับประจำเดือนของผู้หญิง+
เราจะเป็นเหมือนใบไม้แห้ง
และความผิดของเราก็เป็นเหมือนลมที่พัดเราปลิวไป
7 ไม่มีใครร้องเรียกชื่อของพระองค์
ไม่มีใครกระตือรือร้นที่จะยึดพระองค์ไว้
พระองค์หันหน้าหนีเราไป+
และทำให้เราหมดแรง*เพราะความผิดของเรา
8 แต่พระยะโฮวา จนถึงตอนนี้พระองค์ก็ยังเป็นพ่อของเรา+
พวกเราเป็นดินเหนียว ส่วนพระองค์เป็นช่างปั้นหม้อ+
เราเป็นผลงานของพระองค์
9 พระยะโฮวาพระเจ้า ขออย่าโกรธพวกเรามากเกินไป+
ขออย่าจดจำความผิดของเราตลอดไป
ได้โปรดอย่าลืมว่าพวกเราเป็นประชาชนของพระองค์
10 เมืองบริสุทธิ์ของพระองค์กลายเป็นที่กันดารไปแล้ว
ศิโยนกลายเป็นที่กันดาร
เยรูซาเล็มกลายเป็นที่ร้างเปล่า+
11 วิหารที่บริสุทธิ์และสวยงามของพวกเรา
สถานที่ที่ปู่ย่าตายายของเราใช้สรรเสริญพระองค์
ถูกไฟไหม้ไปหมดแล้ว+
และสิ่งที่มีค่าของพวกเราก็กลายเป็นซากปรักหักพัง
12 พระยะโฮวาพระเจ้า เมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว พระองค์ยังจะนิ่งเฉยได้หรือ?
พระองค์จะทนนิ่งเงียบและปล่อยให้พวกเราทนทุกข์อย่างแสนสาหัสหรือ?+
65 พระเจ้าพูดว่า “เราให้คนที่ไม่ได้ถามหาเราได้พบเรา
และให้คนที่ไม่ได้มองหาเราได้เจอเรา+
เราบอกชาติหนึ่งว่า ‘เราอยู่นี่ เราอยู่นี่’ ทั้ง ๆ ที่พวกเขาไม่ได้เรียกชื่อของเรา+
2 เราได้โบกมือเรียกชนชาติที่ดื้อรั้นอยู่ทั้งวัน+
และเรียกผู้คนที่เดินอยู่ในทางที่ไม่ถูกต้อง+
เป็นคนที่ทำตามความคิดของตัวเอง+
3 ชาตินี้มักต่อต้านเราซึ่ง ๆ หน้า+
เขาถวายเครื่องบูชาในสวน+และเผาเครื่องบูชาบนก้อนอิฐ
4 พวกเขาไปนั่งอยู่ท่ามกลางหลุมศพ+
เฝ้าอยู่ในที่หลบซ่อน*ทั้งคืน
กินเนื้อหมู+
และเอาสิ่งที่ไม่สะอาดมาทำเป็นซุปใส่ไว้ในภาชนะของตัวเอง+
5 พวกเขาพูดว่า ‘อยู่ห่าง ๆ อย่าเข้ามาใกล้
เพราะฉันบริสุทธิ์กว่าคุณ’*
คนพวกนี้มักทำให้เราโกรธ*อยู่ตลอด เหมือนกับไฟที่ลุกไหม้อยู่ทั้งวัน
6 ดูสิ สิ่งเหล่านี้ถูกเขียนไว้ต่อหน้าเราแล้ว
แต่เราจะไม่อยู่เฉย ๆ อีกแล้ว
เราจะคิดบัญชีกับพวกเขา+
และจะจัดการกับพวกเขาอย่างสาสม
7 จัดการตามความผิดที่พวกเขาและบรรพบุรุษของพวกเขาทำ”+ พระยะโฮวาพูดไว้อย่างนั้น
“เพราะพวกเขาได้เผาเครื่องบูชาถวายตามภูเขา
และหมิ่นประมาทเราบนเนินเขาต่าง ๆ+
ก่อนอื่น เราจะตอบแทนพวกเขาอย่างสาสม”
8 พระยะโฮวาพูดว่า
“ถ้ายังมีองุ่นส่วนที่ดีมาทำเหล้าองุ่นใหม่
ก็ยังมีคนมาบอกว่า ‘อย่าไปทำลายมันเลย เพราะยังมีส่วนที่ดีเหลืออยู่’
เราก็จะทำอย่างนั้นเหมือนกันเพราะเห็นแก่ผู้รับใช้ของเรา
เราจะไม่ทำลายพวกเขาทั้งหมด+
9 เราจะให้มีลูกหลานคนหนึ่งออกมาจากยาโคบ
และจะให้มีคนหนึ่งออกมาจากยูดาห์ เขาจะได้รับภูเขาของเราเป็นมรดก+
คนที่เราเลือกไว้นี้จะครอบครองที่นั่น
และผู้รับใช้ของเราก็จะอยู่อาศัยที่นั่นด้วย+
10 สำหรับประชาชนของเราซึ่งเสาะหาเรา
ทุ่งชาโรน+จะกลายเป็นทุ่งหญ้าให้ฝูงแกะ
และหุบเขาอาโคร์+จะเป็นที่พักผ่อนของฝูงวัว
11 แต่เจ้ากลับละทิ้งพระยะโฮวา+
ลืมภูเขาบริสุทธิ์ของเรา+
แล้วตั้งโต๊ะวางของถวายให้เทพแห่งโชคลาภ
และผสมเหล้าองุ่นเทใส่ถ้วยให้เทพแห่งโชคชะตา
12 ดังนั้น เราจะกำหนดชะตาให้เจ้าเอง เจ้าจะตายด้วยคมดาบ+
พวกเจ้าจะคุกเข่าลงรอการสังหาร+
เพราะเมื่อเราเรียก เจ้าไม่ตอบ
เมื่อเราพูด เจ้าก็ไม่ฟัง+
พวกเจ้ามัวแต่ทำสิ่งที่เราเห็นว่าชั่ว
และเลือกทำแต่สิ่งที่เราไม่พอใจ”+
13 พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดพูดว่า
“ดูสิ ผู้รับใช้ของเราจะมีกิน แต่พวกเจ้าจะหิว+
ผู้รับใช้ของเราจะมีดื่ม+ แต่พวกเจ้าจะกระหาย
ผู้รับใช้ของเราจะมีความสุขความยินดี+ แต่พวกเจ้าจะอับอาย+
14 ดูสิ ผู้รับใช้ของเราจะโห่ร้องด้วยความยินดีเพราะพวกเขามีใจชื่นบาน
แต่พวกเจ้าจะร้องเพราะเจ็บปวดใจ
และร้องไห้คร่ำครวญเพราะความท้อแท้สิ้นหวัง
15 เจ้าจะทิ้งไว้แต่ชื่อ แล้วคนที่เราเลือกไว้ก็จะเอาชื่อของเจ้ามาใช้ตอนที่พวกเขาพูดคำสาปแช่ง
และพระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดจะทำให้พวกเจ้าทุกคนตาย
แต่พระองค์จะเรียกผู้รับใช้ของพระองค์ด้วยชื่อใหม่+
16 เพื่อทุกคนในโลกที่ขอพรให้ตัวเอง
จะได้พรนั้นจากพระเจ้าแห่งความจริง*
และทุกคนในโลกที่สาบาน
เพราะจะไม่มีใครนึกถึงความทุกข์ยากที่เคยมี
และจะไม่มีสิ่งเหล่านี้ให้เราได้เห็นอีก+
17 ดูเถอะ เรากำลังสร้างฟ้าสวรรค์ใหม่และโลกใหม่+
จะไม่มีใครจดจำ
หรือนึกถึงสิ่งที่ผ่านมาอีกเลย
18 ให้ชื่นชมยินดีเสมอในสิ่งที่เรากำลังสร้าง
ดูสิ เรากำลังสร้างเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ เยรูซาเล็มนี้จะทำให้ใครต่อใครชื่นชม
และเราจะสร้างประชาชนของเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ ประชาชนนี้ก็จะทำให้ใครต่อใครยินดี+
19 และเราจะมีความยินดีเพราะเยรูซาเล็มและเราจะชื่นชมในตัวประชาชนของเรา+
จะไม่มีใครได้ยินเสียงร้องไห้และเสียงร้องของความทุกข์ในเมืองนั้นอีก”+
20 พระเจ้าพูดต่อไปว่า “ที่นั่น จะไม่มีทารกเกิดมาแล้วอยู่ได้แค่สองสามวัน
ผู้คนจะมีอายุยืนยาว ไม่ตายก่อนวัยอันควร
ถ้ามีใครตายตอนอายุร้อยปี คนก็จะพูดกันว่าเขาตายทั้ง ๆ ที่ยังหนุ่มแน่น
ขนาดคนบาปที่ตายเพราะถูกสาปแช่งก็ยังมีอายุเป็นร้อยปี*
22 พวกเขาจะไม่ต้องสร้างแล้วให้คนอื่นอยู่
ไม่ต้องปลูกแล้วให้คนอื่นกิน
เพราะประชาชนของเราจะมีอายุยืนยาวเหมือนอายุของต้นไม้+
และคนที่เราเลือกไว้จะชื่นชมอย่างเต็มที่กับงานที่เขาทำ
23 พวกเขาจะไม่ต้องตรากตรำทำงานแล้วไม่ได้อะไร+
และไม่ต้องคลอดลูกออกมาให้เจอกับความทุกข์
เพราะพระยะโฮวาจะอวยพรพวกเขา+
และลูกหลานซึ่งเป็นคนในเชื้อสายของเขา+
24 เราจะตอบเขาก่อนที่เขาจะเรียกเรา
และเราจะฟังเขาทันทีที่เขาพูด
25 หมาป่ากับลูกแกะจะหากินอยู่ด้วยกัน
และสิงโตจะกินฟางเหมือนวัว+
งูจะกินดินเป็นอาหาร
พวกมันจะไม่ทำอันตรายหรือทำให้เกิดความเสียหายเลยไม่ว่าที่ไหนบนภูเขาบริสุทธิ์ของเรา”+ พระยะโฮวาบอกไว้อย่างนั้น
66 พระยะโฮวาพูดว่า
“สวรรค์เป็นบัลลังก์ของเรา ส่วนโลกก็เป็นที่วางเท้าของเรา+
ถ้าอย่างนั้น วิหารที่เจ้าคิดจะสร้างให้เรานั้นจะอยู่ที่ไหน?+
และจะให้เราอยู่ที่ไหนดีล่ะ?+
2 เราเองเป็นผู้สร้างสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
ที่มีสิ่งเหล่านี้ก็เพราะเรา”+
พระยะโฮวาพูดต่อไปว่า “แต่สิ่งที่เราสนใจมากกว่า
คือ คนที่ถ่อมตัวและสำนึกผิดซึ่งฟังสิ่งที่เราพูดด้วยความเกรงกลัว+
3 แต่คนที่ฆ่าวัวถวายก็เป็นเหมือนกับได้ฆ่าคน+
คนที่ถวายแกะเป็นเครื่องบูชาก็เป็นเหมือนคนที่หักคอสุนัข+
คนที่เอาของมาถวายก็เป็นเหมือนคนที่เอาเลือดหมูมาถวาย+
คนที่เอากำยานมาถวาย+ก็เป็นเหมือนคนที่ท่องคาถาอวยพร*+
คนพวกนี้เลือกทางเดินของเขาเอง
พวกเขาชอบสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน
4 ดังนั้น เราจะคิดดูว่าจะลงโทษพวกเขายังไงดี+
พวกเขากลัวอะไร เราก็จะให้เจอกับสิ่งนั้น
เพราะเมื่อเราเรียก ก็ไม่มีใครตอบ
เมื่อเราพูด ก็ไม่มีใครฟัง+
พวกเขามัวแต่ทำสิ่งที่เราเห็นว่าชั่ว
และเลือกทำแต่สิ่งที่เราไม่พอใจ”+
5 คนที่ฟังพระยะโฮวาด้วยความเกรงกลัว ขอให้ฟังที่พระเจ้าพูด พระองค์พูดว่า
“พี่น้องของเจ้าที่เกลียดชังเจ้าและขับไล่เจ้าเพราะเรา พวกเขาทำเป็นพูดว่า ‘ขอให้พระยะโฮวาได้รับการสรรเสริญ’+
แต่เราจะมาและทำให้พวกเขาอับอายขายหน้า+
ส่วนพวกเจ้า เราจะนำความยินดีมาให้”
6 ฟังสิ มีเสียงชุลมุนวุ่นวายจากในเมือง เป็นเสียงดังมาจากวิหาร
เพราะพระยะโฮวากำลังจัดการกับศัตรูอย่างสาสมตามสิ่งที่พวกเขาทำ
7 ศิโยนยังไม่ทันเจ็บท้อง ก็คลอดแล้ว+
เธอคลอดลูกชาย ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทันเจ็บท้องคลอด
8 มีใครเคยได้ยินเรื่องอย่างนี้บ้าง?
มีใครเคยเห็นเรื่องแบบนี้ไหม?
จะมีประเทศที่เกิดภายในวันเดียวหรือ?
หรือจะมีชาติที่เกิดในชั่วพริบตาไหม?
แต่พอศิโยนรู้สึกเจ็บท้องคลอด เธอก็คลอดลูก ๆ ออกมาทันที
9 พระยะโฮวาถามว่า “เมื่อเราให้ถึงกำหนดคลอด จะให้เราห้ามไม่ให้เด็กคลอดออกมาหรือ?”
พระเจ้าของคุณยังถามอีกว่า “เมื่อถึงเวลาที่ต้องคลอดแล้ว เราจะห้ามแม่ไม่ให้เบ่งลูกออกมาหรือ?”
10 พวกคุณที่รักเยรูซาเล็ม+ ขอให้ยินดีและชื่นชมกับเมืองนี้เถอะ+
พวกคุณที่โศกเศร้าเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับเมืองนี้ ขอให้ชื่นชมและยินดีอย่างเต็มที่
11 เพราะพวกคุณจะเป็นเหมือนกับทารกที่ได้รับการปลอบโยนและรู้สึกพอใจเมื่อได้ดูดน้ำนมจากอกแม่
พวกคุณจะได้ดื่มด่ำกับความสุขเมื่อเห็นสง่าราศีของเมืองนี้
12 เพราะพระยะโฮวาพูดว่า
“เราจะให้ความสงบสุขหลั่งไหลมาที่เมืองนี้เหมือนกับแม่น้ำไหล+
และสิ่งที่มีค่าจากชาติต่าง ๆ จะไหลบ่ามาเหมือนลำน้ำเชี่ยว+
พวกเจ้าจะได้ดูดน้ำนม จะมีคนอุ้มเจ้าใส่เอว
และเขย่าตัวเจ้าเล่นอยู่บนตัก
13 เราจะปลอบเจ้า+
เหมือนอย่างแม่ปลอบลูก
และเจ้าจะได้รับการปลอบโยนเมื่อเห็นเยรูซาเล็มได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่+
14 แล้วเจ้าจะได้เห็นสิ่งนี้ และใจของเจ้าจะชื่นบาน
กระดูกของเจ้าจะมีชีวิตชีวาเหมือนต้นหญ้าอ่อน
แล้วผู้รับใช้ของเราจะได้รู้ถึงอำนาจของเรายะโฮวา
แต่พวกศัตรูจะต้องเจอกับความโกรธของเรา”+
15 พระเจ้าพูดต่อไปว่า “เพราะเรายะโฮวาจะมาอย่างไฟ+
และรถศึกของเราจะมาอย่างลมพายุ+
มาแก้แค้นด้วยความโกรธอันร้อนแรง
มาลงโทษด้วยเปลวไฟ+
16 เพราะเรายะโฮวาจะมาพิพากษาลงโทษมนุษย์ทุกคน
ด้วยไฟและด้วยดาบ
และคนที่ถูกเรายะโฮวาประหารจะมีมากมาย
17 “คนที่ชำระตัวให้บริสุทธิ์สะอาดเพื่อจะไปที่สวน*+แล้วติดตามคนที่อยู่กลางสวน และคนที่กินเนื้อหมู+ กินสิ่งที่น่ารังเกียจ และกินหนู+ คนพวกนี้จะต้องพบจุดจบไปด้วยกัน” พระยะโฮวาพูดไว้อย่างนั้น 18 “เรารู้ว่าพวกเขาทำอะไรอยู่และคิดอะไรกัน เรากำลังจะมาเพื่อรวบรวมผู้คนจากทุกชาติทุกภาษา แล้วพวกเขาจะได้มาเห็นสง่าราศีของเรา”
19 พระเจ้าพูดว่า “เราจะให้มีพยานหลักฐานในหมู่พวกเขา โดยบางคนที่รอดชีวิตนั้นเราจะส่งไปยังชาติต่าง ๆ ส่งไปที่ทาร์ชิช+ ปูล และลูด+ซึ่งเป็นนักยิงธนู ส่งไปที่ทูบัลและยาวาน+ ส่งไปยังเกาะต่าง ๆ ที่ห่างไกล ไปหาผู้คนที่ยังไม่เคยได้ยินเรื่องราวของเราและไม่เคยได้เห็นความสง่างามของเรา เพื่อที่คนเหล่านี้ที่เราส่งไปจะพูดถึงความสง่างามของเราท่ามกลางนานาชาติ+ 20 พวกเขาจะพาพี่น้องของเจ้าออกมาจากชาติต่าง ๆ+ จะขี่ม้า นั่งรถศึก นั่งเกวียนที่มีหลังคา ขี่ล่อ และขี่อูฐที่ปราดเปรียวมาที่เยรูซาเล็มภูเขาบริสุทธิ์ของเรา พวกเขาจะพาพี่น้องของเจ้ามาถวายเรายะโฮวา เหมือนกับตอนที่ชาวอิสราเอลนำของซึ่งใส่ในภาชนะที่สะอาดเข้ามาถวายเรายะโฮวาในวิหาร” พระยะโฮวาพูดไว้อย่างนั้น
21 พระยะโฮวาพูดว่า “และเราจะให้บางคนเป็นปุโรหิตและบางคนเป็นคนเลวี”
22 พระยะโฮวาพูดอีกว่า “เหมือนกับที่ฟ้าสวรรค์ใหม่และโลกใหม่+ ที่เราสร้างไว้จะคงอยู่ตลอดไปตรงหน้าเรา ลูกหลานของเจ้าและชื่อของเจ้าก็จะคงอยู่ตลอดไป”+
23 และพระยะโฮวาพูดว่า “มนุษย์ทุกคนจะหมอบลงนมัสการต่อหน้าเรา+
พวกเขาจะทำอย่างนี้ตลอดไปทุกเดือนทุกสัปดาห์*
24 และพวกเขาจะออกไปดูซากศพของคนที่กบฏต่อเรา
หนอนที่อยู่บนซากศพเหล่านั้นจะไม่ตาย
ไฟที่เผาไหม้อยู่ก็จะไม่ดับ+
และซากศพเหล่านั้นจะกลายเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ขยะแขยง”
แปลว่า “ความรอดมาจากพระยะโฮวา”
หรือ “ไม่รู้จักเจ้าของ”
หรือ “กฎหมาย”
หรือ “ลูกกำพร้า”
หรือ “เบียร์ที่ทำจากข้าวสาลี”
หรือ “ลูกกำพร้า”
ต้นไม้และสวนเหล่านั้นน่าจะเกี่ยวข้องกับการไหว้รูปเคารพ
หรือ “กฎหมาย”
คือ เหล็กที่ใช้กลับดินตอนไถนา
แปลตรงตัวว่า “หัวหน้าของคน 50 คน”
หรือ “จี้ห้อยคอ”
หรือ “เครื่องประดับที่ทำจากเปลือกหอย”
หรือ “เสื้อตัวใน”
คือ รอยไหม้ที่อยู่บนตัวของทาสหรือนักโทษ
เป็นเรื่องน่าอายถ้าไม่ได้แต่งงานหรือไม่มีลูก
แปลตรงตัวว่า “อุจจาระ”
หรือ “เป็นพืชที่พระองค์ปลูกและชื่นชอบ”
แปลตรงตัวว่า “1 บัท” ดูภาคผนวก ข14
แปลตรงตัวว่า “1 โฮเมอร์” ดูภาคผนวก ข14
แปลตรงตัวว่า “1 เอฟาห์” ดูภาคผนวก ข14
หรือ “กลองฉิ่ง”
หรือ “กฎหมาย”
หรือ “ยกเสาให้สัญญาณ”
คำว่า “เรา” ตรงนี้ในภาษาฮีบรูเป็นรูปพหูพจน์ จึงอาจหมายถึงสองบุคคลหรือมากกว่านั้น
หรือ “ลูกหลาน”
คือ อิสราเอล
แปลว่า “เฉพาะคนที่เหลืออยู่จะได้กลับมา”
หรืออาจแปลได้ว่า “และขู่ให้กลัวจนตัวสั่น”
ฉบับแปลเซปตัวจินต์ ใช้คำว่า “หญิงบริสุทธิ์”
แปลว่า “พระเจ้าอยู่กับเรา”
11.4 กก. ดูภาคผนวก ข14
อาจแปลว่า “เร่งไปเอาของริบ” หรือ “รีบไปเอาของปล้น”
ชิโลอาห์เป็นทางส่งน้ำ
คือ แม่น้ำยูเฟรติส
ดู อสย 7:14
หรือ “คาดเอวไว้ให้พร้อม”
หรือ “ที่ศักดิ์สิทธิ์”
หรือ “กฎหมาย”
หรือ “รัฐบาล”
หรือ “รัฐบาล”
หรืออาจแปลได้ว่า “กิ่งปาล์มและต้นอ้อ”
หรือ “ลูกกำพร้า”
หรือ “ลูกกำพร้า”
หรือ “วันพิพากษา”
คือ ชาวอัสซีเรียที่พูดถึงในข้อ 5 และ 24
คือ ชาวอัสซีเรียที่พูดถึงในข้อ 5 และ 24
อาจหมายถึงน้ำมันที่ใช้แต่งตั้งกษัตริย์ หรือน้ำมันที่ใช้จุดคบไฟให้ทหารของกิเดโอน 300 นาย
ดูคำว่า “ถูกต้องชอบธรรม” ในส่วนอธิบายศัพท์
หรืออาจแปลได้ว่า “ลูกวัวกับสิงโตจะหากินอยู่ด้วยกัน”
หรือ “เสาให้สัญญาณ”
หรือ “ชาติต่าง ๆ จะเสาะหาท่าน”
หรือ “เอธิโอเปีย”
แปลตรงตัวว่า “ชินาร์”
หรือ “เสาให้สัญญาณ”
หรืออาจแปลได้ว่า “ทำให้แม่น้ำนั้นมีเจ็ดแคว”
“ยาห์” ย่อมาจาก “ยะโฮวา”
หรือ “เล่นดนตรี”
หรือ “ยกเสาให้สัญญาณ”
แปลตรงตัวว่า “ถึงผู้ที่เราได้ชำระให้บริสุทธิ์แล้ว” หมายถึงผู้ที่พระเจ้าแยกไว้ต่างหากเพื่อวัตถุประสงค์พิเศษ
แปลตรงตัวว่า “กลุ่มดาวเคซีล” อาจหมายถึงกลุ่มดาวนายพรานกับกลุ่มดาวรอบ ๆ
หรืออาจแปลได้ว่า “ปีศาจรูปแพะ”
แปลตรงตัวว่า “แพะตัวผู้”
ดูคำว่า “หลุมศพ” ในส่วนอธิบายศัพท์
แปลตรงตัวว่า “ราก”
หรือ “ความรักที่มั่นคง”
หรืออาจแปลได้ว่า “เพราะมีเสียงโห่ร้องของข้าศึกตอนเก็บผลไม้หน้าร้อนกับพืชผลต่าง ๆ”
หรือ “พระของคนต่างชาติ”
หรือ “เสาให้สัญญาณ”
หรืออาจแปลได้ว่า “มองลงมาจาก”
แปลตรงตัวว่า “มีดตัดแต่งกิ่ง”
หรือ “เมมฟิส”
หรืออาจแปลได้ว่า “กิ่งปาล์มหรือต้นอ้อ”
หรือ “ทาร์ทาน”
น่าจะหมายถึงพื้นที่ส่วนหนึ่งของบาบิโลนโบราณ
หรือ “ชโลมโล่ด้วยน้ำมัน”
แปลว่า “ความเงียบ” เป็นชื่อที่ใช้ในคำพยากรณ์เมื่อพูดถึงเอโดม
แปลตรงตัวว่า “อยู่ในป่า”
น่าจะหมายถึงกรุงเยรูซาเล็ม
แปลตรงตัวว่า “เอาที่หุ้มโล่ออก”
หรือ “ฉากกั้น”
แปลตรงตัวว่า “เราจะเอากุญแจของเชื้อสายดาวิดมาวางไว้ที่บ่าของเขา”
คือ แม่น้ำที่แยกมาจากแม่น้ำไนล์
หรือ “พระองค์จะบิดแผ่นดินนี้”
หรืออาจแปลได้ว่า “แห้งไป”
หรือ “สัญญาที่ยั่งยืน”
หรืออาจแปลได้ว่า “แห้งไป”
หรือ “กลองฉิ่ง”
หรือ “จากทางทิศตะวันตก”
หรือ “ทางทิศตะวันออก”
แปลตรงตัวว่า “พวกผู้ชายสูงอายุ”
หรือ “เหล้าองุ่นที่เก็บไว้จนตกตะกอน”
แปลตรงตัวว่า “กลืน”
ดูเหมือนว่าเป็นดินที่พูนสูงขึ้นที่อยู่ตรงเชิงของป้อมปราการเพื่อใช้ป้องกันเมือง
หรือ “ชาติที่ถูกต้องชอบธรรม”
หรืออาจแปลได้ว่า “คนที่มีใจแน่วแน่มั่นคง”
“ยาห์” ย่อมาจาก “ยะโฮวา”
หรือ “ราบเรียบ”
คือ พระเจ้าและชื่อของพระเจ้าจะเป็นที่จดจำและเป็นที่รู้จัก
คำว่า “เธอ” หมายถึงสวนองุ่น คือ อิสราเอล
คือ แม่น้ำยูเฟรติส
น่าจะหมายถึงสะมาเรียที่เป็นเมืองหลวง
แปลตรงตัวว่า “สายวัด”
แปลตรงตัวว่า “สายวัด”
หรือ “สายดิ่ง”
หรืออาจแปลได้ว่า “เมื่อพวกเขาเข้าใจ พวกเขาจะกลัวสุดขีด”
หรือ “สั่งสอน” หรือ “ลงโทษ”
ดูคำว่า “ลานนวดข้าว” ในส่วนอธิบายศัพท์
หรือ “ทุกสิ่งที่พระองค์ทำสำเร็จเสมอ”
อาจแปลว่า “เตาเผาของแท่นบูชาของพระเจ้า” น่าจะหมายถึงเยรูซาเล็ม
หรือ “คำแนะนำ”
แปลตรงตัวว่า “ผู้ที่ว่ากล่าวแก้ไข”
คือ หน้าสลดเนื่องจากอับอายและผิดหวัง
หรือ “คำสั่งสอน”
หรืออาจแปลได้ว่า “บ่อเก็บน้ำ”
หรือ “ตั้งตาคอย”
หรืออาจแปลได้ว่า “และเรียกมันว่าของโสโครก”
หรือ “ที่ใช้ส้อมฝัดกับพลั่วฝัดแยกแกลบออกไปแล้ว”
หรือ “รอยแตก”
แปลตรงตัวว่า “ชื่อของพระยะโฮวา”
หรือ “กลองฉิ่ง”
หรือ “ได้เตรียมโทเฟทของเขาแล้ว” “โทเฟท” ในที่นี้หมายถึงสถานที่ที่มีไฟลุกไหม้ซึ่งหมายถึงการทำลาย
หรือ “มีทหารม้าที่เก่งกาจ”
หรือ “คิดจะทำในสิ่งที่ดูหมิ่นพระเจ้า”
น่าจะเป็นเนินเขาที่เยรูซาเล็ม
แปลตรงตัวว่า “เท”
หมายถึงอัสซีเรีย
หรือ “ขอเป็นแขนให้พวกเรา”
หรืออาจแปลได้ว่า “เป็นสิ่งมีค่าที่พระเจ้าให้”
น่าจะหมายถึงผู้กล้าหาญของยูดาห์
หมายถึงศัตรู
หรืออาจแปลได้ว่า “แห้งไป”
หรือ “ที่สูงอันปลอดภัย”
หรือ “จะมีเลือดของพวกเขาไหลเป็นทาง”
น่าจะหมายถึงโบสราห์เมืองหลวงของเอโดม
แปลตรงตัวว่า “ก้อนหิน”
หรืออาจแปลได้ว่า “ปีศาจรูปแพะ”
หรือ “นกตบยุง”
แปลตรงตัวว่า “แบ่งพื้นที่ให้พวกมันโดยใช้สายวัด”
หรือ “หัวหน้าพนักงานรินเครื่องดื่มถวายกษัตริย์”
หรือ “ภาษาซีเรีย”
หรืออาจแปลได้ว่า “ระหว่างเครูบ”
คือ เฮเซคียาห์
หรือ “งอกมาจากเมล็ดที่หล่น”
หรือ “คนในวัง”
หรือ “เครื่องหมาย”
อาจเป็นขั้นบันไดที่ใช้ดูเวลาเหมือนเป็นนาฬิกาแดด
หรือ “คำประพันธ์”
“ยาห์” ย่อมาจาก “ยะโฮวา”
คือ สิ่งที่พระเจ้าพูดและทำ
หรือ “เอาบาปทั้งหมดของผมไปให้พ้นสายตาพระองค์”
หรือ “จะไว้วางใจว่าพระเจ้าซื่อสัตย์ในการทำตามสิ่งที่พระองค์พูดก็ไม่ได้”
หรือ “ความจริง”
แปลตรงตัวว่า “แขนของพระองค์”
เป็นความยาวตั้งแต่ปลายนิ้วหัวแม่มือจนถึงปลายนิ้วก้อยตอนกางมือออก ดูภาคผนวก ข14
หรือ “ความเข้าใจ”
คือ แท่งเหล็กสำหรับใช้รองรับการตีโลหะให้เป็นรูปต่าง ๆ
ดูคำว่า “ลานนวดข้าว” ในส่วนอธิบายศัพท์
แปลตรงตัวว่า “ตั้งแต่แรก”
หรือ “คำสั่งสอน”
แปลตรงตัวว่า “สัญญา”
หรือ “เราจะไม่แบ่งสง่าราศีของเราให้กับผู้อื่น”
หรือ “ชายฝั่ง”
หรือ “คำสั่งสอน”
หรือ “คำสั่งสอน”
หรือ “วางใจเรา”
หรือ “การกบฏ”
อาจหมายถึงคนสอนบัญญัติ
หรือ “ตั้งแต่เกิด”
แปลว่า “คนที่ซื่อตรง” เป็นคำที่ใช้เรียกอิสราเอลแบบให้เกียรติ
หรือ “เทน้ำลงบนแผ่นดินที่แห้งแล้ง”
แปลตรงตัวว่า “เท”
แปลตรงตัวว่า “ประตูทองแดง”
หรือ “โต้เถียง”
หรือ “ผู้ที่ปั้นตัวเขาขึ้นมา”
หรืออาจแปลได้ว่า “หรือดินเหนียวจะพูดไหมว่า ‘ภาชนะที่คุณทำไม่มีหูจับ’?”
หรืออาจแปลได้ว่า “คนงาน”
หรืออาจแปลได้ว่า “พ่อค้า”
หรืออาจแปลได้ว่า “สร้างไว้ให้ว่างเปล่า”
แปลตรงตัวว่า “ตั้งแต่แรก”
หรือ “ประสงค์” หรือ “แนะนำ”
หรืออาจแปลได้ว่า “เราจะไม่ปรานีใคร”
หรือ “ราชินี”
หรือ “ราชินี”
หรืออาจแปลได้ว่า “ทั้ง ๆ ที่”
หรืออาจแปลได้ว่า “คนที่แบ่งท้องฟ้า” หรือ “โหร”
หรืออาจแปลได้ว่า “เป็นเชื้อสายของยูดาห์”
แปลตรงตัวว่า “ตั้งแต่แรก”
หรือ “ตรวจสอบ” หรืออาจแปลได้ว่า “เลือก”
หรือ “เราจะไม่แบ่งสง่าราศีของเราให้กับผู้อื่น”
แปลตรงตัวว่า “พวกเขา”
ดูคำว่า “ถูกต้องชอบธรรม” ในส่วนอธิบายศัพท์
หรือ “พระยะโฮวาจะให้ความเป็นธรรมกับผม”
หรือ “มีความปรารถนาดีต่อเจ้า”
แปลตรงตัวว่า “สัญญา”
หรืออาจแปลได้ว่า “ตลอดทางบนเขาโล้น”
หรือ “ยกเสาให้สัญญาณ”
แปลตรงตัวว่า “เลียฝุ่นที่เท้าเจ้า”
หรืออาจแปลได้ว่า “วิธีให้กำลังใจ”
หรือ “ต่อสู้กับ”
หรือ “เผชิญหน้ากัน”
แปลตรงตัวว่า “ปลอบโยน”
หรือ “คำสั่งสอน”
หรืออาจแปลได้ว่า “หนอน”
แปลตรงตัวว่า “ตรงหัวถนนทุกสาย”
หรือ “สายหนัง”
หรือ “ช่วยเราให้ได้ชัยชนะ”
หรืออาจแปลได้ว่า “เชื่อในสิ่งที่เราได้ยิน”
แปลตรงตัวว่า “แขน”
“เขา” อาจหมายถึงพระเจ้า หรือคนทั่วไปที่มองดูอยู่
หรืออาจแปลได้ว่า “เขาเป็นเหมือนคนที่คนอื่นหันหน้าหนี”
แปลตรงตัวว่า “การกดขี่และการพิพากษา”
หรือ “สนใจว่าชีวิตเขาเป็นอย่างไร?”
หรือ “เป็นคนที่มีความถูกต้องชอบธรรม”
หรือ “นาย”
หรือ “นาย”
หรือ “เงินที่หามาได้อย่างยากเย็น”
ข้อ 5-7 อาจเป็นคำพูดของอิสยาห์
หรืออาจแปลได้ว่า “ถูกเอาไปให้พ้นจากความหายนะ”
แปลตรงตัวว่า “ที่นอน”
อาจหมายถึงแท่นบูชาหรือสถานที่นมัสการพระเท็จ
อาจหมายถึงสัญลักษณ์ของรูปเคารพ
อาจหมายถึงการใช้รูปจำลองอวัยวะเพศชายในการนมัสการเท็จ
หรืออาจแปลได้ว่า “กษัตริย์”
แปลตรงตัวว่า “ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย”
หรือ “ความซื่อสัตย์”
หรือ “ความซื่อสัตย์”
แปลตรงตัวว่า “สิ่งเหล่านี้เลวร้ายในสายตาพระองค์”
หรือ “ชัยชนะ”
หรือ “ชัยชนะ”
หรือ “งดงาม”
หรือ “มีความปรารถนาดีต่อเจ้า”
หรือ “จะมีความปรารถนาดี”
หรือ “เสาให้สัญญาณ”
หรืออาจแปลได้ว่า “สีแดงสด”
หรือ “ชัยชนะ”
หรือ “ทูตสวรรค์ที่อยู่กับพระองค์”
หรือ “ที่กันดาร”
หรือ “งดงาม”
แปลตรงตัวว่า “ละลาย”
หรืออาจแปลได้ว่า “ในกระต๊อบเฝ้ายาม”
หรืออาจแปลได้ว่า “คุณจะเอาความบริสุทธิ์ของฉันไปหมด”
แปลตรงตัวว่า “มีควันในจมูกเรา”
หรือ “ความซื่อสัตย์” แปลตรงตัวว่า “อาเมน”
หรือ “ความซื่อสัตย์” แปลตรงตัวว่า “อาเมน”
หรืออาจแปลได้ว่า “และคนที่ตายเมื่ออายุยังไม่ถึงร้อยปีก็จะถือว่าเป็นคนที่ถูกสาปแช่ง”
หรืออาจแปลได้ว่า “คนที่ยกย่องบูชารูปเคารพ”
คือ สวนที่ผู้คนใช้ในการไหว้รูปเคารพ
แปลตรงตัวว่า “จากวันขึ้นเดือนใหม่จนถึงวันขึ้นเดือนใหม่ และจากสะบาโตจนถึงสะบาโต”