เศคาริยาห์
1 ในเดือน 8 ของปีที่ 2 ที่ดาริอัส*ปกครอง+ พระยะโฮวาส่งข่าวมาถึงเศคาริยาห์*+ผู้พยากรณ์ของพระองค์ซึ่งเป็นลูกเบเรคิยาห์หลานอิดโด พระองค์บอกว่า 2 “เรายะโฮวาโกรธบรรพบุรุษของพวกเจ้ามาก+
3 “ไปบอกพวกเขาว่าพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพพูดว่า ‘เราคือยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ กลับมาหาเราเถอะ แล้วเราจะกลับไปหาพวกเจ้า’+ เรายะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกไว้
4 “เรายะโฮวาบอกว่า ‘อย่าทำตัวเหมือนปู่ย่าตายายของพวกเจ้า เราเคยใช้ผู้พยากรณ์ของเราไปบอกว่า “พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพพูดว่า ‘เลิกทำชั่วเถอะ’”+
แต่พวกนั้นไม่ยอมฟังเราเลย และไม่สนใจเราด้วย’+
5 “‘ปู่ย่าตายายของพวกเจ้าหายไปไหนหมดแล้ว? ผู้พยากรณ์ของเรามีชีวิตอยู่ตลอดไปอย่างนั้นหรือ? 6 เราเคยให้กฎหมายแก่ปู่ย่าตายายของพวกเจ้าแล้ว เราส่งผู้รับใช้ซึ่งเป็นผู้พยากรณ์ของเราไปเตือนพวกเขาว่าถ้าไม่ทำตามจะเกิดอะไรขึ้น แล้วทุกสิ่งที่เราพูดไว้ก็เป็นจริงไม่ใช่หรือ?’+ พวกเขาจึงมายอมรับกับเราว่า ‘พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพจัดการพวกเราสาสมกับความผิดที่พวกเราทำแล้ว เหมือนที่พระองค์พูดไว้ไม่มีผิด’”+
7 ในวันที่ 24 เดือน 11 คือเดือนเชบัท* ของปีที่ 2 ที่ดาริอัสปกครอง+ พระยะโฮวาส่งข่าวมาถึงเศคาริยาห์ผู้พยากรณ์ของพระองค์ซึ่งเป็นลูกเบเรคิยาห์หลานอิดโด เขาเล่าว่า 8 “ผมเห็นนิมิตตอนกลางคืน มีชายคนหนึ่งขี่ม้าสีแดงหยุดยืนอยู่กลางดงต้นน้ำมันเขียวในหุบเขา ข้างหลังเขามีม้าสีแดง ม้าสีน้ำตาลแดง และม้าสีขาว”
9 ผมจึงถามว่า “นายท่าน คนขี่ม้าเหล่านี้คือใคร?”
ทูตสวรรค์ที่พูดกับผมตอบว่า “เดี๋ยวจะบอกให้รู้ว่าพวกเขาคือใคร”
10 คนที่อยู่กลางดงต้นน้ำมันเขียวบอกว่า “พวกเขาคือคนที่พระยะโฮวาส่งไปสำรวจทั่วโลก” 11 แล้วพวกเขาก็พูดกับทูตสวรรค์ของพระยะโฮวาที่อยู่กลางดงต้นน้ำมันเขียวว่า “พวกเราไปสำรวจมาหมดแล้ว เห็นว่าทั่วโลกสงบเงียบ ไม่มีอะไรวุ่นวาย”+
12 ทูตสวรรค์ของพระยะโฮวาจึงพูดว่า “พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ เมื่อไรพระองค์จะเมตตาเยรูซาเล็มกับเมืองต่าง ๆ ของยูดาห์เสียที?+ พระองค์โกรธพวกเขามา 70 ปีแล้ว”+
13 พระยะโฮวาตอบทูตสวรรค์ที่พูดกับผม พระองค์พูดอย่างอ่อนโยนและปลอบใจเขา 14 แล้วทูตสวรรค์องค์นั้นบอกผมว่า “ขอให้คุณไปประกาศว่า ‘พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า “เราอยากจะช่วยเยรูซาเล็มและศิโยนมากเหลือเกิน+ 15 เราโกรธชาติที่กำลังสบายอกสบายใจพวกนั้นมาก+ เพราะเราคิดจะลงโทษประชาชนของเราแค่นิดหน่อย+ แต่พวกนั้นกลับทำลายพวกเขาจนย่อยยับ”’+
16 “ดังนั้น พระยะโฮวาบอกว่า ‘เรายะโฮวาผู้เป็นจอมทัพประกาศว่า “เราจะกลับมาเมตตาเยรูซาเล็ม+และจะสร้างวิหารของเราในเมืองนี้ขึ้นอีก+ และจะมีการวัด*เยรูซาเล็มเพื่อสร้างขึ้นใหม่”’+
17 “ให้คุณประกาศอีกว่า ‘พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า “เมืองทั้งหลายที่เป็นของเราจะมีแต่สิ่งดี ๆ อีกครั้ง และเรายะโฮวาจะกลับมาปลอบศิโยน+และจะเลือกเยรูซาเล็มอีก”’”+
18 แล้วพอผมเงยหน้าขึ้นก็เห็นเขาสัตว์ 4 เขา+ 19 ผมจึงถามทูตสวรรค์ที่พูดกับผมว่า “เขาสัตว์เหล่านี้คืออะไร?” เขาตอบว่า “เขาสัตว์เหล่านี้คือชาติที่ทำให้ชาวยูดาห์+ อิสราเอล+ และเยรูซาเล็ม+กระจัดกระจายไป”
20 และพระยะโฮวาให้ผมเห็นช่างฝีมือ 4 คน 21 ผมถามว่า “คนพวกนี้มาทำอะไร?”
เขาบอกว่า “เขาสัตว์เหล่านั้นทำให้ชาวยูดาห์กระจัดกระจายไปจนไม่มีใครเงยหน้าขึ้นมาได้ แต่ช่างฝีมือเหล่านี้จะมาทำให้เขาสัตว์กลัว และจะทำลายเขาสัตว์ของชาติต่าง ๆ ที่เคยข่มเหงชาวยูดาห์จนพวกเขาต้องกระจัดกระจายไป”
2 ผมมองขึ้นไปเห็นชายคนหนึ่งถือสายวัด+ 2 ผมถามเขาว่า “คุณจะไปไหน?”
เขาตอบว่า “ไปวัดว่ากรุงเยรูซาเล็มกว้างยาวเท่าไร”+
3 แล้วทูตสวรรค์ที่พูดกับผมก็ออกไป และมีทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งมาหาทูตสวรรค์องค์นั้น 4 และพูดกับเขาว่า “วิ่งไปบอกชายหนุ่มคนนั้นหน่อยว่า ‘เยรูซาเล็มจะมีคนอยู่+ จะเป็นเมืองที่ไม่มีกำแพง และจะมีคนกับฝูงสัตว์อยู่มากมาย+ 5 เราจะเป็นกำแพงไฟล้อมเมืองนี้+ และเราจะเป็นสง่าราศีของเมืองนี้’+ พระยะโฮวาบอกไว้อย่างนั้น”
6 พระยะโฮวาบอกว่า “มาเถอะ หนีออกมาจากดินแดนทางเหนือ”+
พระยะโฮวาบอกว่า “เราเคยทำให้พวกเจ้ากระจัดกระจายไปทั่วทุกสารทิศ”+
7 “มาเถอะศิโยน มาเถอะพวกคุณที่อยู่ในบาบิโลน หนีออกมา!+ 8 เพราะหลังจากที่พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพได้รับการยกย่องแล้ว พระองค์ก็ส่งผมไปหาชาติต่าง ๆ ที่เคยรุกรานพวกคุณ+ พระองค์บอกว่า ‘ใครที่แตะต้องเจ้าก็เท่ากับแตะต้องดวงตาของเรา+ 9 เราจะชูกำปั้นใส่พวกเขา และพวกเขาจะถูกทาสของตัวเองจับไป’+ แล้วพวกคุณจะรู้ว่าพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพส่งผมมา”
10 พระยะโฮวาบอกว่า “ขอให้ชาวศิโยนโห่ร้องยินดี+ เพราะเราจะมาแล้ว+ และจะอยู่กับพวกเจ้า+ 11 ในวันนั้น คนหลายชาติจะมาอยู่ฝ่ายเรายะโฮวา+ และพวกเขาจะเป็นประชาชนของเรา และเราจะอยู่กับพวกเจ้า” แล้วคุณจะรู้ว่าพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพส่งผมมาหาคุณ 12 พระยะโฮวาจะเอายูดาห์มาเป็นสมบัติของพระองค์ในดินแดนบริสุทธิ์ และพระองค์จะเลือกเยรูซาเล็มอีกครั้ง+ 13 ขอให้ทุกคนเงียบเมื่ออยู่ต่อหน้าพระยะโฮวา เพราะพระองค์อยู่ในที่บริสุทธิ์ของพระองค์และกำลังจะลงมือจัดการ
3 แล้วพระยะโฮวาให้ผมเห็นมหาปุโรหิตโยชูวา+ยืนอยู่ข้างหน้าทูตสวรรค์ของพระองค์ ส่วนซาตาน+ยืนอยู่ข้างขวาโยชูวาเพื่อจะต่อต้านเขา 2 แล้วทูตสวรรค์ของพระยะโฮวาพูดกับซาตานว่า “ขอให้พระยะโฮวาต่อว่าคุณเถอะซาตาน+ ขอให้พระยะโฮวาที่เลือกเยรูซาเล็ม+ตำหนิคุณ ชายคนนี้เป็นเหมือนท่อนฟืนติดไฟที่ถูกดึงออกมาจากกองไฟไม่ใช่หรือ?”
3 โยชูวาสวมเสื้อผ้าสกปรกยืนอยู่ข้างหน้าทูตสวรรค์ 4 แล้วทูตสวรรค์ก็พูดกับบางคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าว่า “ถอดเสื้อผ้าสกปรกของโยชูวาออก” และพูดกับโยชูวาว่า “ผมล้างความผิดให้คุณหมดแล้ว คุณจะได้สวมเสื้อผ้าอย่างดี”*+
5 ผมพูดว่า “เอาผ้าสะอาดมาโพกหัวให้เขาเถอะ”+ พวกเขาก็เอาผ้าสะอาดมาโพกหัวโยชูวาและเอาเสื้อผ้ามาใส่ให้เขา ส่วนทูตสวรรค์ของพระยะโฮวาก็ยืนอยู่ใกล้ ๆ 6 แล้วทูตสวรรค์ของพระยะโฮวาบอกโยชูวาว่า 7 “พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า ‘ถ้าเจ้าเชื่อฟังเราและทำหน้าที่ที่เรามอบหมาย เจ้าจะได้เป็นผู้พิพากษาประชาชนของเราและดูแลลานวิหารของเรา+ และเราจะให้เจ้าเข้าออกที่นี่อย่างสะดวกเหมือนคนทั้งหลายที่ยืนอยู่นี้’
8 “‘มหาปุโรหิตโยชูวา ขอให้เจ้ากับเพื่อน ๆ ที่นั่งอยู่ข้างหน้าเจ้าตั้งใจฟังให้ดี พวกเจ้าเป็นภาพแสดงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เราจะพาผู้รับใช้ของเรามา+ เขามีชื่อว่าหน่อ+ 9 ดูหินที่เราตั้งไว้ข้างหน้าโยชูวาสิ! หินก้อนนั้นมีดวงตาอยู่ 7 ดวง และเราเขียนอะไรบางอย่างไว้บนหินนั้น เราจะล้างความผิดของแผ่นดินนั้นออกไปภายในวันเดียว’ เรายะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกไว้+
10 “พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า ‘ในวันนั้น พวกเจ้าทุกคนจะชวนเพื่อนบ้านมานั่งอยู่ใต้ต้นองุ่นและใต้ต้นมะเดื่อของเจ้า’”+
4 ทูตสวรรค์ที่เคยพูดกับผมกลับมาปลุกผมเหมือนปลุกคนที่หลับอยู่ 2 เขาถามว่า “คุณเห็นอะไร?”
ผมตอบว่า “ผมเห็นเชิงตะเกียงที่ทำด้วยทองคำทั้งอัน+ และมีตะเกียง 7 ดวงอยู่บนเชิงตะเกียงนั้น+ มีถ้วยใบหนึ่งอยู่เหนือเชิงตะเกียง มีท่อ 7 ท่อต่อจากถ้วยลงมายังตะเกียงทั้งเจ็ด 3 ข้างเชิงตะเกียงมีต้นมะกอกอยู่ 2 ต้น+ ข้างขวาต้นหนึ่งข้างซ้ายต้นหนึ่ง”
4 ผมถามทูตสวรรค์องค์นั้นว่า “ท่านครับ ที่ผมเห็นนี้หมายความว่าอะไร?” 5 เขาถามผมว่า “คุณไม่รู้หรือว่านี่หมายความว่าอะไร?”
ผมตอบว่า “ผมไม่รู้ครับท่าน”
6 เขาจึงพูดกับผมว่า “พระยะโฮวาส่งข่าวมายังเศรุบบาเบลว่า ‘เรายะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า “เรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เพราะกำลังทหารหรือกำลังอย่างอื่น+ แต่เพราะพลังของเรา”+ 7 ถึงแม้อุปสรรคตรงหน้าเศรุบบาเบล+จะใหญ่โตเหมือนกับภูเขาสูง มันก็จะกลายเป็นที่ราบ+ เขาจะเอาหินยอดวิหารไปใส่ในที่ของมัน และจะมีคนโห่ร้องว่า “งามเหลือเกิน! งามจริง ๆ!”’”
8 พระยะโฮวาส่งข่าวมาถึงผมอีกว่า 9 “เศรุบบาเบลเป็นผู้วางฐานรากวิหารนี้ด้วยมือของเขาเอง+ และเขาจะสร้างให้เสร็จด้วยมือของเขาเหมือนกัน”+ แล้วคุณจะรู้ว่าพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพส่งผมมาหาคุณ 10 “ใครจะดูถูกจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ล่ะ?+ พวกเขาจะดีใจที่เห็นเศรุบบาเบลถือสายดิ่ง* ดวงตาทั้งเจ็ดนี้คือดวงตาของพระยะโฮวาที่มองไปทั่วโลก”+
11 ผมถามเขาว่า “ต้นมะกอก 2 ต้นที่อยู่ข้างขวาและข้างซ้ายของเชิงตะเกียงหมายความว่าอะไร?”+ 12 แล้วผมก็ถามเขาอีกว่า “กิ่ง*ของต้นมะกอก 2 ต้นที่มีน้ำมันสีทองไหลออกมาผ่านท่อทองคำ 2 ท่อหมายความว่าอะไร?”
13 เขาถามผมว่า “คุณไม่รู้หรือว่านี่หมายความว่าอะไร?”
ผมตอบว่า “ผมไม่รู้ครับท่าน”
14 เขาบอกว่า “มันหมายถึงผู้ถูกเจิม 2 คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พระเจ้าผู้เป็นเจ้าของโลกทั้งโลก”+
5 ผมมองขึ้นไปอีกครั้ง แล้วก็เห็นม้วนหนังสือลอยมา 2 เขาถามผมว่า “คุณเห็นอะไร?”
ผมตอบว่า “ผมเห็นม้วนหนังสือลอยมา มันกว้าง 10 ศอก*ยาว 20 ศอก”*
3 เขาบอกผมว่า “นั่นคือคำสาปแช่งที่ถูกส่งไปทั่วโลก เพราะทุกคนที่ขโมย+ยังไม่ถูกลงโทษตามที่เขียนไว้ด้านหนึ่งของม้วนหนังสือนั้น และทุกคนที่สาบานเท็จ+ยังไม่ถูกลงโทษตามที่เขียนไว้อีกด้านหนึ่ง 4 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า ‘เราส่งมันไปแล้ว มันจะเข้าไปในบ้านของขโมยและบ้านของคนที่สาบานเท็จโดยอ้างชื่อเรา มันจะอยู่ในบ้านนั้นแล้วทำลายบ้านกับไม้และหินในบ้านนั้นจนหมด’”
5 แล้วทูตสวรรค์ที่เคยพูดกับผมก็เข้ามาบอกว่า “ดูนั่นสิ มีอะไรบางอย่างกำลังออกไป”
6 ผมจึงถามว่า “มันคืออะไรครับ?”
เขาตอบว่า “มันคือถังเอฟาห์”* และพูดอีกว่า “คนชั่วในโลกเป็นอย่างนี้แหละ” 7 จากนั้นผมก็เห็นฝากลม ๆ ที่ทำด้วยตะกั่วเปิดออก และเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ในถังนั้น 8 เขาบอกว่า “ผู้หญิงคนนี้คือความชั่ว” แล้วเขาก็ผลักเธอลงไปในถังเอฟาห์ และเอาฝาตะกั่วปิดปากถังไว้
9 ผมมองขึ้นไปเห็นผู้หญิงอีก 2 คนบินอยู่กลางอากาศ พวกเธอมีปีกเหมือนปีกนกกระสา และหิ้วถังนั้นขึ้นไปบนฟ้า 10 ผมถามทูตสวรรค์ที่พูดกับผมว่า “พวกเธอจะเอาถังเอฟาห์ไปไหน?”
11 เขาตอบว่า “ไปที่บาบิโลน*+ และจะไปสร้างบ้านให้ผู้หญิงคนนั้น พอสร้างเสร็จแล้วเธอจะต้องอยู่ที่นั่น ซึ่งเป็นที่ที่เธอควรจะอยู่”
6 ผมมองขึ้นไปอีกครั้งและเห็นรถศึก 4 คันวิ่งออกมาจากช่องระหว่างภูเขา 2 ลูก ภูเขา 2 ลูกนั้นเป็นทองแดง 2 รถคันแรกใช้ม้าสีแดง คันที่สองใช้ม้าสีดำ+ 3 คันที่สามใช้ม้าสีขาว และคันที่สี่ใช้ม้าด่าง+
4 ผมถามทูตสวรรค์ที่พูดกับผมว่า “ท่านครับ นั่นอะไร?”
5 เขาตอบว่า “คือกองกำลังแห่งสวรรค์ 4 กอง+ที่เข้าไปหาพระเจ้าผู้เป็นเจ้าของโลกทั้งโลก+และตอนนี้กำลังออกไป 6 รถที่ใช้ม้าสีดำออกไปยังดินแดนทางเหนือ+ ม้าสีขาวไปดินแดนทางตะวันตก* ส่วนม้าด่างไปดินแดนทางใต้ 7 ม้าด่างนั้นกระตือรือร้นอยากจะไปดินแดนที่ถูกสั่งให้ไป” แล้วเขาก็พูดว่า “ไปยังดินแดนที่เจ้าถูกสั่งให้ไปเถอะ” และพวกมันก็เริ่มเดินทั่วดินแดนนั้น
8 แล้วเขาก็เรียกผมและบอกว่า “เห็นไหม ม้าที่ไปดินแดนทางเหนือทำให้พระยะโฮวาหายโกรธดินแดนนั้นแล้ว”
9 พระยะโฮวาส่งข่าวมาหาผมอีกว่า 10 “ไปรับของบริจาคที่เฮลดัย โทบียาห์ และเยดายาห์รวบรวมมาจากคนที่ยังพลัดถิ่นอยู่ในบาบิโลน พอถึงวันนั้นเจ้าต้องไปเจอพวกเขาที่บ้านของโยสิยาห์ลูกเศฟันยาห์ 11 ให้เจ้าเอาเงินและทองไปทำเป็นมงกุฎแล้วเอาไปสวมให้มหาปุโรหิตโยชูวา+ลูกเยโฮซาดัก 12 และพูดว่า
“พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า ‘ชายคนนี้ชื่อหน่อ+ เขาจะงอกขึ้นจากที่ของตัวเอง และจะสร้างวิหารให้เรายะโฮวา+ 13 เขาจะเป็นคนสร้างวิหารของเรายะโฮวา เขาจะได้รับอำนาจ เขาจะนั่งบนบัลลังก์เป็นกษัตริย์และเป็นปุโรหิต+ และเขาจะทำหน้าที่ทั้งสองอย่างนี้เพื่อส่งเสริมสันติสุข* 14 และมงกุฎนั้นจะถูกเก็บไว้ที่วิหารของเรายะโฮวาเพื่อระลึกถึงเฮเลม* โทบียาห์ เยดายาห์+ และเฮน*ลูกเศฟันยาห์ 15 และคนที่อยู่ไกล ๆ จะมาช่วยสร้างวิหารของเรายะโฮวา’ ถ้าคุณฟังเสียงของพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ คุณก็จะรู้ว่าพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพส่งผมมาหาคุณ”
7 ในวันที่ 4 เดือน 9 คือเดือนคิสเลฟ* ของปีที่ 4 ที่ดาริอัสปกครอง พระยะโฮวาส่งข่าวมาถึงเศคาริยาห์+ 2 ชาวเบธเอลส่งชาเรเซอร์กับเรเกมเมเลคและคนของเขามาอ้อนวอนขอให้พระยะโฮวาเมตตา 3 พวกเขาถามปุโรหิตที่วิหารของพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพและถามพวกผู้พยากรณ์ของพระองค์ว่า “เรา*ควรจะร้องไห้และถือศีลอดอาหารในเดือน 5+ อย่างที่เคยทำมาตลอดหลายปีไหม?”
4 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพส่งข่าวถึงผมอีกว่า 5 “ไปบอกประชาชนและปุโรหิตว่า ‘ที่พวกเจ้าถือศีลอดอาหารและร้องไห้ในเดือน 5 กับเดือน 7+ มา 70 ปี+นั้น พวกเจ้าทำเพื่อเราอย่างนั้นหรือ? 6 ที่พวกเจ้ากินดื่มกัน พวกเจ้าก็ทำเพื่อตัวเองไม่ใช่หรือ? 7 พวกเจ้าน่าจะฟังคำสั่งของพระยะโฮวาที่บอกมาทางผู้พยากรณ์ของพระองค์ในสมัยก่อน+ ตอนที่เยรูซาเล็มและเมืองรอบ ๆ ยังมีคนอยู่และมีสันติสุข ตอนที่เนเกบและเชเฟลาห์ยังมีคนอาศัยอยู่’”
8 พระยะโฮวาส่งข่าวถึงเศคาริยาห์อีกว่า 9 “พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า ‘พวกเจ้าต้องพิพากษาอย่างยุติธรรม+ รัก*+และเมตตากัน 10 อย่าโกงแม่ม่าย ลูกกำพร้าพ่อ*+ คนต่างชาติ+ หรือคนจน+ และอย่าคิดร้ายต่อกัน’+ 11 แต่พวกเขาก็ไม่สนใจ+ ดื้อด้าน*+ และไม่ยอมฟังพระองค์*+ 12 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพได้ให้กฎหมาย*และคำสั่งแก่พวกเขาผ่านทางผู้พยากรณ์ด้วยพลังของพระองค์+ แต่พวกเขากลับหัวแข็ง*+และไม่เชื่อฟังเลย พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพจึงโกรธมาก”+
13 “พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า ‘เวลาเราพูดอะไรพวกเขาไม่ฟังเลย+ เวลาพวกเขาพูดอะไรเราก็จะไม่ฟังเหมือนกัน+ 14 เราได้ให้พายุมาพัดพวกเขากระจัดกระจายไปยังประเทศที่พวกเขาไม่รู้จัก+ แผ่นดินของพวกเขาจึงถูกทิ้งร้าง ไม่มีใครผ่านไปมาหรือกลับไปที่นั่นอีก+ เพราะพวกเขาได้ทำให้แผ่นดินที่น่าอยู่กลายเป็นแผ่นดินที่น่าสยดสยอง’”
8 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพส่งข่าวมาอีกครั้งว่า 2 “พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า ‘เราอยากช่วยศิโยนมากเหลือเกิน+ เราโกรธมากและเราจะช่วยศิโยนแน่ ๆ’”
3 “พระยะโฮวาบอกว่า ‘เราจะกลับไปศิโยน+และจะอยู่ในเยรูซาเล็ม+ ใคร ๆ จะเรียกเยรูซาเล็มว่าเมืองแห่งความจริง*+ และจะเรียกภูเขาของเรายะโฮวาผู้เป็นจอมทัพว่าภูเขาบริสุทธิ์’”+
4 “พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า ‘คนเฒ่าคนแก่จะมานั่งตามลานสาธารณะในเยรูซาเล็มอีกครั้ง ทุกคนจะถือไม้เท้าเพราะแก่มากแล้ว+ 5 และจะมีเด็ก ๆ วิ่งเล่นอยู่เต็มลานในเมืองนั้น’”+
6 “พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า ‘แม้ประชาชนที่เหลืออยู่ในตอนนั้นจะคิดว่าเรื่องนี้เป็นไปได้ยาก แต่สำหรับเราไม่ยากเลย’ เรายะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกไว้”
7 “พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า ‘เราจะช่วยประชาชนของเราออกมาจากดินแดนต่าง ๆ ทางทิศตะวันออกและตะวันตก+ 8 เราจะพาพวกเขากลับมาและให้อยู่ในเยรูซาเล็ม+ พวกเขาจะเป็นประชาชนของเรา เราจะเป็นพระเจ้าที่ซื่อสัตย์และยุติธรรมของพวกเขา’”+
9 “พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า ‘กล้าหาญเข้าไว้+ เรื่องที่เจ้าได้ยินจากผู้พยากรณ์ทั้งหลายในวันนี้+ คือเรื่องเดียวกับที่เจ้าได้ยินในวันนั้นที่มีการวางฐานรากเพื่อจะสร้างวิหารของเรายะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ 10 ก่อนหน้านั้นทั้งคนและสัตว์ไม่ได้รับค่าแรง+ ส่วนคนที่เข้าออกเมืองนั้นก็ไม่ปลอดภัยเพราะมีศัตรู เพราะเราทำให้ทุกคนต่อสู้กันเอง’
11 “พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า ‘แต่ตอนนี้เราจะไม่ทำกับประชาชนที่เหลืออยู่นี้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว+ 12 พวกเขาจะได้หว่านพืชอย่างสงบสุข* ต้นองุ่นจะออกผล แผ่นดินจะอุดมสมบูรณ์+ และจะมีน้ำค้างหยดลงมาจากฟ้า เราจะให้สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดกับประชาชนของเราที่เหลืออยู่+ 13 ชาวยูดาห์กับอิสราเอล เราจะช่วยเจ้า แม้ชาติทั้งหลายเคยพูดว่าเจ้าเป็นชาติที่ถูกสาปแช่ง+ แต่เจ้าจะกลายเป็นชาติที่ได้รับพร+ ดังนั้น อย่ากลัวเลย+ กล้าหาญเข้าไว้’+
14 “พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า ‘ตอนนั้นเรายะโฮวาผู้เป็นจอมทัพคิดจะลงโทษพวกเจ้าเพราะปู่ย่าตายายของพวกเจ้าทำให้เราโกรธ และเราไม่ได้เปลี่ยนความคิด*+ 15 ตอนนี้เราก็คิดจะทำดีกับเยรูซาเล็มและยูดาห์เหมือนกัน+ ดังนั้น อย่ากลัวเลย’”+
16 “‘พวกเจ้าควรทำสิ่งเหล่านี้ คือพูดความจริงต่อกัน+ เมื่อพิพากษาที่ประตูเมืองก็ต้องพิพากษาตามความจริงและตัดสินเพื่อให้เกิดสันติสุข+ 17 อย่าคิดร้ายต่อกัน+และอย่าสาบานเท็จ+เพราะเราเกลียดเรื่องแบบนี้’+ เรายะโฮวาบอกไว้อย่างนี้”
18 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพส่งข่าวมาถึงผมอีกว่า 19 “พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า ‘การถือศีลอดอาหารในเดือน 4+ เดือน 5+ เดือน 7+ และเดือน 10+ จะกลายเป็นเทศกาลรื่นเริงยินดีและจะเป็นช่วงเวลาที่ชาวยูดาห์มีความสุข+ ดังนั้น ขอให้พวกเจ้ารักความจริงและทำสิ่งที่ช่วยให้เกิดสันติสุข’
20 “พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า ‘จะมีวันหนึ่งที่ประชาชนจากเมืองต่าง ๆ จะมา 21 และคนจากเมืองหนึ่งจะไปหาอีกเมืองหนึ่งและพูดว่า “ไปกันเถอะ ไปอ้อนวอนขอให้พระยะโฮวาโปรดปรานและไปนมัสการพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ พวกเราก็จะไปด้วย”+ 22 ประชาชนมากมายและชาติมหาอำนาจทั้งหลายจะพากันมาที่เยรูซาเล็มเพื่อนมัสการพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ+ และอ้อนวอนขอให้พระยะโฮวาโปรดปราน’
23 “พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า ‘ในวันนั้นจะมี 10 คนจากทุกชาติทุกภาษา+มาจับชายเสื้อชาวยิว*คนหนึ่งไว้แน่น และบอกว่า “พวกเราอยากไปกับคุณ+ เพราะพวกเราได้ยินว่าพระเจ้าอยู่กับพวกคุณ”’”+
9 ต่อไปนี้เป็นคำประกาศของพระเจ้า
“เพราะพระยะโฮวาเฝ้าดูมวลมนุษย์+
และเฝ้าดูอิสราเอลทุกตระกูล
พระยะโฮวาจึงมีคำพิพากษามาถึงดินแดนหัดราก
และถึงดามัสกัส+
2 และถึงฮามัท+ ซึ่งมีชายแดนติดกัน
3 ไทระสร้างป้อมปราการไว้ป้องกันตัวเอง
พวกเขารวบรวมเงินไว้มากมายเหมือนกับฝุ่น
และสะสมทองมหาศาลเหมือนกับดินตามถนน+
4 แต่พระยะโฮวาจะยึดสมบัติของพวกเขาไป
พระองค์จะทำลายกองทัพของพวกเขาในทะเล+
แล้วเมืองนี้จะถูกไฟเผา+
5 อัชเคโลนจะเห็นเหตุการณ์นั้นและกลัวมาก
กาซาจะทุรนทุราย
เอโครนก็เป็นไปด้วย เพราะผู้ที่พวกเขาหวังพึ่งจะต้องอับอายขายหน้า
กษัตริย์ของกาซาจะสูญสิ้น
อัชเคโลนจะไม่มีใครอาศัยอยู่เลย”+
6 “คนต่างชาติจะมาอยู่ในอัชโดด
และเราจะทำลายความหยิ่งของชาวฟีลิสเตีย+
7 เราจะดึงของเปื้อนเลือดออกจากปากพวกเขา
และเอาของน่าขยะแขยงที่พวกเขากัดอยู่ออกมา
พวกเขาที่เหลือจะเป็นของเรา
พวกเขาจะได้เป็นเหมือนพวกหัวหน้าตระกูลยูดาห์+
และเอโครนจะเป็นเหมือนชาวเยบุส+
8 เราจะตั้งค่ายเฝ้าวิหารของเราไว้+
เพื่อไม่ให้ใครผ่านเข้าออก
และไม่ให้ผู้กดขี่เข้ามาได้อีก+
เพราะเราเห็นความเดือดร้อนของพวกเขาแล้ว*
9 ชาวศิโยน ดีใจให้มาก ๆ
ชาวเยรูซาเล็ม โห่ร้องเลยที่ได้ชัยชนะ
ดูนั่นสิ กษัตริย์ของเจ้ากำลังมา+
เขามีความยุติธรรมและจะช่วยประชาชนให้รอด
เขาถ่อมตน+และขี่ลาเข้ามา
10 เราจะยึดรถศึกจากเอฟราอิม
และยึดม้าจากเยรูซาเล็ม
คันธนูของนักรบจะโดนยึด
และเขาจะประกาศสันติภาพแก่นานาชาติ+
เขาจะปกครองจากทะเลนี้จนถึงทะเลโน้น
11 เราจะใช้เลือดแห่งสัญญาช่วยพวกนักโทษของเจ้าขึ้นมาจากบ่อที่ไม่มีน้ำ+
12 นักโทษที่มีความหวัง+ กลับไปยังป้อมปราการของพวกเจ้าเถอะ
เราบอกเจ้าวันนี้ว่า
‘เราจะตอบแทนให้เจ้าสองเท่า+
13 เพราะเราจะใช้ยูดาห์เหมือนคันธนู
เราจะใช้เอฟราอิมเหมือนลูกธนู
และเราจะปลุกลูก ๆ ของเจ้า
ขึ้นมาสู้กับลูก ๆ ของกรีซ
และเราจะทำให้ศิโยนเป็นเหมือนดาบนักรบ’”
14 “ทุกคนจะเห็นว่าพระยะโฮวาอยู่กับพวกเขา
ลูกธนูของพระองค์จะพุ่งไปเหมือนสายฟ้า
พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดจะเป่าแตรเขาสัตว์+
และพระองค์จะรุกไปข้างหน้าเหมือนพายุจากทางใต้
15 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพจะปกป้องประชาชนของพระองค์
ศัตรูจะเหวี่ยงก้อนหินใส่พวกเขา+ แต่พวกเขาจะเอาชนะศัตรูได้
พวกเขาจะสนุกสนานรื่นเริงเหมือนได้ดื่มเหล้าองุ่น
และจะอิ่มเอมใจเหมือนชามที่เต็มล้น
เหมือนมุมแท่นบูชาที่เปียกชุ่ม+
16 ในวันนั้น พระยะโฮวาพระเจ้าจะช่วยพวกเขา
เหมือนผู้เลี้ยงแกะช่วยแกะของตน+
เพราะพวกเขาจะเป็นเหมือนเพชรพลอยบนมงกุฎที่ส่องประกายแวววาวไปทั่วแผ่นดิน+
17 พระองค์ดีจริง ๆ+
พระองค์สง่างามยิ่ง!
ข้าวทำให้ชายหนุ่มแข็งแรง
และเหล้าองุ่นใหม่ทำให้หญิงสาวสดชื่น”+
10 “ขอฝนจากพระยะโฮวาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
พระยะโฮวาทำให้มีเมฆพายุฝน
และเป็นผู้เทฝนลงมาให้มนุษย์+
พระองค์ให้มีพืชผลในไร่นาสำหรับทุกชีวิต
พวกเขาเล่าความฝันที่ไร้สาระ
และพยายามปลอบใจผู้คนแต่ไม่ได้ผล
ประชาชนจึงหลงไปเหมือนแกะหลง
และจะเป็นทุกข์เพราะไม่มีผู้เลี้ยง”
3 “เราโกรธพวกคนเลี้ยงแกะมาก
และเราจะให้ผู้นำที่กดขี่*ต้องรับผิดชอบ
เพราะเรายะโฮวาผู้เป็นจอมทัพหันมาสนใจชาวยูดาห์ซึ่งเป็นฝูงแกะของเราแล้ว+
และเราได้ทำให้พวกเขาเป็นเหมือนม้าศึกที่สง่างาม
4 จะมีคนสำคัญ*ออกมาจากพวกเขา
ทั้งผู้ปกครองที่คอยสนับสนุน*และคันธนูของนักรบ
ผู้ดูแลทุกคนก็จะออกมาจากพวกเขาด้วย
5 แล้วพวกเขาจะเป็นเหมือนนักรบ
ที่ย่ำโคลนบนถนนในสนามรบ
พวกเขาจะออกไปทำสงคราม เพราะพระยะโฮวาอยู่กับพวกเขา+
และทหารม้าของศัตรูจะต้องอับอายขายหน้า+
6 เราจะทำให้ชาวยูดาห์เหนือกว่าใครทั้งหมด
และเราจะช่วยพวกโยเซฟให้รอดชีวิต+
เราจะฟื้นฟูพวกเขา
เพราะเราจะเมตตาพวกเขา+
เหมือนกับว่าเราไม่เคยทิ้งพวกเขาไปเลย+
เพราะเราคือยะโฮวาพระเจ้าของพวกเขา และเราจะทำตามที่พวกเขาขอ
7 ชาวเอฟราอิมจะกลายเป็นนักรบที่เก่งกล้า
พวกเขาจะเบิกบานใจเหมือนได้ดื่มเหล้าองุ่น+
ลูก ๆ ของพวกเขาจะเห็นและเบิกบานเหมือนกัน
พวกเขาจะสุขใจที่มีเรายะโฮวา+
8 ‘เราจะผิวปากเรียกพวกเขามารวมกัน
เราจะไถ่พวกเขา+ และพวกเขาจะเพิ่มจำนวนขึ้น
และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
9 แม้ว่าเราจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปในชาติต่าง ๆ เหมือนเมล็ดพืช
แต่พวกเขาจะยังนึกถึงเราตอนที่อยู่แดนไกล
พวกเขากับลูก ๆ จะฟื้นตัวและกลับมา
10 เราจะพาพวกเขากลับมาจากประเทศอียิปต์
และรวบรวมพวกเขามาจากอัสซีเรีย+
เราจะพาพวกเขาไปที่กิเลอาด+และเลบานอน
เพราะไม่มีที่พอสำหรับพวกเขา+
อัสซีเรียจะไม่ได้ยโสโอหังอีกต่อไป
และคทาของอียิปต์จะสูญสิ้น+
12 เรายะโฮวาจะทำให้พวกเขาเหนือกว่าใครทั้งหมด+
และพวกเขาจะเชื่อฟังเรา’*+ พระยะโฮวาบอกไว้อย่างนั้น”
11 “เลบานอน เปิดประตูสิ
ไฟจะได้เผาต้นสนซีดาร์ของเจ้า
2 ร้องไห้สิ ต้นสนจูนิเปอร์ เพราะต้นสนซีดาร์ถูกโค่นแล้ว
ต้นไม้สูงใหญ่ก็ถูกทำลายด้วย
ร้องไห้สิ ต้นโอ๊กแห่งบาชาน
เพราะป่าทึบถูกทำลายแล้ว
3 ฟังสิ คนเลี้ยงแกะกำลังร้องไห้
เพราะทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่และสวยงามของพวกเขาถูกทำลาย
ฟังสิ สิงโตหนุ่มกำลังร้องคำราม
เพราะป่าทึบริมแม่น้ำจอร์แดนวอดวายหมดแล้ว
4 “พระยะโฮวาพระเจ้าของผมพูดว่า ‘ให้เจ้าไปเลี้ยงฝูงแกะที่กำลังจะถูกฆ่า+ 5 คนซื้อเอาพวกมันไปฆ่า+แต่กลับไม่มีความผิด ส่วนคนขาย+ก็พูดว่า “ขอพระยะโฮวาได้รับการสรรเสริญ เพราะฉันจะรวยแล้ว” คนเลี้ยงไม่สงสารพวกมันเลย’+
6 “พระยะโฮวาบอกว่า ‘เราจะไม่สงสารคนในแผ่นดินนี้อีกต่อไป เราจะให้พวกเขาข่มเหงกันเองและกษัตริย์ก็จะข่มเหงพวกเขาด้วย พวกเขาจะทำลายแผ่นดินนั้น และเราจะไม่ช่วยพวกเขาเลย’”
7 แล้วผมก็เริ่มเลี้ยงฝูงแกะที่กำลังจะถูกฆ่า+เพื่อจะช่วยพวกคุณ เพราะพวกคุณเป็นเหมือนฝูงแกะที่กำลังเดือดร้อน ผมจึงเอาไม้เท้ามา 2 อัน อันหนึ่งผมตั้งชื่อว่าโปรดปราน อีกอันหนึ่งตั้งชื่อว่ากลมเกลียว+ แล้วผมก็เริ่มเลี้ยงแกะฝูงนั้น 8 ภายในเดือนเดียวผมไล่คนเลี้ยงแกะออกไป 3 คน เพราะผมโมโหพวกเขา และพวกเขาก็เกลียดผมด้วย 9 แล้วผมพูดว่า “ผมจะไม่เลี้ยงดูพวกคุณที่เป็นเหมือนฝูงแกะอีกต่อไปแล้ว ใครกำลังจะตายก็ให้ตายไป ใครกำลังจะพินาศก็ให้พินาศไป ส่วนคนที่ยังเหลือก็ให้กัดกินกันเอง” 10 ผมจึงเอาไม้เท้าที่ชื่อโปรดปราน+มาตัดเป็นท่อน ซึ่งแสดงว่าผมฉีกสัญญาที่เคยทำไว้กับทุกชาติ 11 สัญญาก็ถูกยกเลิกในวันนั้น และฝูงแกะที่เดือดร้อนซึ่งกำลังมองผมอยู่ก็รู้ว่านี่เป็นคำสั่งของพระยะโฮวา
12 ผมพูดกับพวกเขาว่า “ถ้าพวกคุณเห็นว่าผมสมควรได้ค่าจ้าง ก็จ่ายให้ผมด้วย แต่ถ้าไม่ ก็ไม่ต้องจ่าย” พวกเขาจึงจ่ายค่าจ้างให้ผมเป็นเงิน 30 เชเขล+
13 แล้วพระยะโฮวาก็พูดกับผมว่า “โยนเงินนั้นเข้าไปในคลังของวิหารซะ พวกเขาตีค่าเราเป็นเงินมากมายเสียเหลือเกิน!”+ ผมจึงเอาเงิน 30 เชเขลโยนเข้าไปในคลังวิหารของพระยะโฮวา+
14 แล้วผมก็เอาไม้เท้าอีกอันหนึ่งที่ชื่อกลมเกลียว+มาตัดเป็นท่อน ซึ่งแสดงว่าความเป็นพี่น้องของยูดาห์กับอิสราเอลจบสิ้นลงแล้ว+
15 พระยะโฮวาพูดกับผมว่า “ไปเอาเครื่องใช้ของคนเลี้ยงแกะที่ไม่มีประโยชน์มา+ 16 เพราะเราจะยอมให้มีคนเลี้ยงแกะคนหนึ่งในแผ่นดิน เขาจะไม่ดูแลแกะที่กำลังพินาศ+ เขาจะไม่ตามหาลูกแกะที่หลงหาย ไม่รักษาตัวที่บาดเจ็บ+ ไม่ให้อาหารตัวที่แข็งแรงดี แต่เขาจะกินเนื้อตัวอ้วน ๆ+ และฉีกกินไปถึงกีบเท้า+
17 คนเลี้ยงแกะที่ไม่มีประโยชน์+จะต้องพินาศ!
เพราะเขาทิ้งฝูงแกะไปแล้ว+
เขาจะถูกดาบฟันที่แขนและที่ตาขวา
แขนของเขาจะลีบไป
ตาขวาของเขาจะบอดสนิท”*
12 ต่อไปนี้เป็นคำประกาศของพระเจ้า
พระยะโฮวาเป็นผู้กางท้องฟ้า+
ผู้สร้างฐานรากของโลก+
และเป็นผู้สร้างมนุษย์ให้มีชีวิต*
พระองค์พูดว่า “เรายะโฮวาพูดถึงอิสราเอลว่า
2 เราจะทำให้เยรูซาเล็มเป็นเหมือนถ้วยที่ชาติรอบข้างมารุมดื่มจนเมาและเดินโซเซ ยูดาห์และเยรูซาเล็มจะถูกล้อม+ 3 ในวันนั้น เราจะทำให้เยรูซาเล็มเป็นเหมือนหินที่หนักมาก*สำหรับทุกชาติ ใครก็ตามที่ยกมันจะต้องบาดเจ็บสาหัส+ และทุกชาติในโลกจะร่วมกันสู้กับเยรูซาเล็ม”+ 4 พระยะโฮวาบอกว่า “ในวันนั้น เราจะทำให้ม้าทุกตัวตื่นกลัว และทำให้คนขี่คลั่งไป เราจะเฝ้าดูชาวยูดาห์ แต่จะทำให้ม้าทุกตัวของชาติอื่น ๆ ตาบอด 5 พวกหัวหน้าตระกูลยูดาห์จะคิดในใจว่า ‘ชาวเยรูซาเล็มช่วยให้พวกเราเข้มแข็งขึ้นเพราะพระเจ้าของพวกเขาคือพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ’+ 6 ในวันนั้น เราจะทำให้พวกหัวหน้าตระกูลยูดาห์เป็นเหมือนกระถางไฟที่อยู่กลางป่า และเป็นเหมือนคบเพลิงที่อยู่กลางฟ่อนข้าว+ ชาติรอบ ๆ ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาจะถูกเผา+ และเยรูซาเล็มจะมีคนมาอยู่อีกครั้ง+
7 “เรายะโฮวาจะช่วยเต็นท์ของยูดาห์ก่อน เพื่อตระกูลดาวิดและชาวเยรูซาเล็มจะได้ไม่มีสง่าราศีเกินหน้ายูดาห์ 8 ในวันนั้น เรายะโฮวาจะปกป้องชาวเยรูซาเล็ม+ พวกเขาที่สะดุดล้ม*จะกลับมาเข้มแข็งเหมือนดาวิด ตระกูลดาวิดจะมีอำนาจเหมือนพระเจ้าและจะนำหน้าพวกเขาเหมือนทูตสวรรค์ของพระยะโฮวา+ 9 และในวันนั้น เราจะทำลายทุกชาติที่มาสู้กับเยรูซาเล็มแน่+
10 “เราจะให้*พลังของเรากับตระกูลดาวิดและกับชาวเยรูซาเล็มเพื่อแสดงว่าเราพอใจพวกเขา แล้วพวกเขาจะได้อ้อนวอนเรา พวกเขาจะมองดูคนที่พวกเขาแทง+ พอคนนั้นตายพวกเขาจะร้องไห้เหมือนกับลูกชายคนเดียวตาย และจะร้องไห้คร่ำครวญเหมือนกับลูกคนโตตาย 11 ในวันนั้น จะมีการร้องไห้อย่างหนักในเยรูซาเล็ม เหมือนการร้องไห้ที่ฮาดัดริมโมนในที่ราบเมกิดโด+ 12 คนทั้งแผ่นดินจะร้องไห้ พวกเขาจะร้องไห้แยกกันเป็นกลุ่ม ๆ ตามตระกูล ตระกูลดาวิดกลุ่มหนึ่งและภรรยาของพวกเขากลุ่มหนึ่ง ตระกูลนาธัน+กลุ่มหนึ่งและภรรยากลุ่มหนึ่ง 13 ตระกูลเลวี+กลุ่มหนึ่งและภรรยากลุ่มหนึ่ง ตระกูลชิเมอี+กลุ่มหนึ่งและภรรยากลุ่มหนึ่ง 14 ทุกตระกูลที่เหลือก็จะแยกกันไปร้องไห้เป็นกลุ่ม ๆ และภรรยาของพวกเขาก็จะแยกไปร้องไห้ด้วย
13 “ในวันนั้น จะมีบ่อน้ำสำหรับตระกูลดาวิดและชาวเยรูซาเล็มเพื่อล้างบาปและความสกปรก”+
2 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า “ในวันนั้น เราจะทำให้รูปเคารพในแผ่นดินสิ้นชื่อ+ และจะไม่มีใครนึกถึงรูปเคารพเหล่านั้นอีกเลย แล้วเราจะขจัดผู้พยากรณ์เท็จ+และคนที่สนับสนุนสิ่งที่ไม่สะอาดในสายตาพระเจ้าออกไปจากแผ่นดิน 3 ถ้ามีใครยังพยากรณ์เท็จอยู่ พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดจะพูดกับเขาว่า ‘อย่าอยู่ต่อไปเลย เพราะแกพูดโกหกโดยอ้างชื่อพระยะโฮวา’ แล้วพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดจะแทงเขาจนทะลุเพราะเขาพยากรณ์เท็จ+
4 “ในวันนั้น ผู้พยากรณ์ทุกคนจะอับอายเพราะเรื่องที่เขาพยากรณ์ และจะไม่ใส่ชุดขนสัตว์+ประจำตำแหน่งเพื่อหลอกคนอื่นอีก 5 เขาจะพูดว่า ‘ผมไม่ใช่ผู้พยากรณ์ ผมเป็นชาวไร่ชาวนา เพราะมีคนซื้อผมมาเป็นทาสตั้งแต่เด็ก’ 6 และถ้ามีคนถามเขาว่า ‘ทำไมคุณมีแผลบนตัว?’* เขาจะตอบว่า ‘เป็นแผลที่ได้มาจากบ้านเพื่อน’”*
7 พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า “ดาบ ตื่นขึ้นเถอะ แล้วไปฆ่าคนเลี้ยงแกะของเรา+
ฆ่าคนที่เป็นเพื่อนเรา
8 พระยะโฮวาบอกว่า “คนในแผ่นดิน 2 ใน 3 จะถูกฆ่าตาย
และ 1 ใน 3 จะเหลือรอด
9 แล้วเราจะใช้ไฟถลุงคนที่เหลือรอดอยู่นั้น
เราจะถลุงพวกเขาเหมือนถลุงเงิน
และทดสอบพวกเขาเหมือนทดสอบทองคำ+
พวกเขาจะเรียกชื่อเรา
และเราจะขานรับ
เราจะพูดว่า ‘พวกเขาเป็นคนของเรา’+
และพวกเขาจะบอกว่า ‘พระยะโฮวาเป็นพระเจ้าของพวกเรา’”
14 “วันของพระยะโฮวาจะมาแน่ ในวันนั้นศัตรูจะเอาสมบัติของเจ้า*ไปแบ่งกันต่อหน้าต่อตาเจ้า 2 เราจะรวบรวมทุกชาติมาสู้รบกับเยรูซาเล็ม พวกเขาจะยึดเมืองนี้ จะปล้นทรัพย์สินตามบ้าน จะข่มขืนผู้หญิง และจับคนในเมืองครึ่งหนึ่งไปเป็นเชลย แต่คนที่เหลือจะยังอยู่ในเมืองนี้ต่อไป
3 “พระยะโฮวาจะออกไปทำสงครามกับชาติเหล่านั้น+เหมือนที่เคยทำสงครามในสมัยก่อน+ 4 ในวันนั้น พระองค์จะยืนบนภูเขามะกอก+ทางตะวันออกของเยรูซาเล็ม แล้วภูเขามะกอกจะแยกออกเป็น 2 ส่วนตรงกึ่งกลางตามแนวตะวันออกไปตะวันตก* ทำให้เกิดหุบเขากว้างใหญ่ ภูเขาส่วนหนึ่งจะเคลื่อนไปทางเหนือ อีกส่วนหนึ่งจะเคลื่อนไปทางใต้ 5 เจ้าจะหนีไปยังหุบเขาที่อยู่ระหว่างภูเขาทั้งสองของเรา หุบเขานั้นจะยาวไปถึงอาเซล เจ้าจะต้องหนีเหมือนหนีจากแผ่นดินไหวในสมัยกษัตริย์อุสซียาห์แห่งยูดาห์+ แล้วพระยะโฮวาพระเจ้าจะมา และผู้บริสุทธิ์ทั้งหมดจะอยู่กับพระองค์+
6 “วันนั้นจะไม่มีความสว่างเจิดจ้า+ ทุกสิ่งจะเย็นจัดจนแข็งไปหมด 7 แต่จะมีวันหนึ่งซึ่งรู้กันว่าเป็นวันของพระยะโฮวา+ วันนั้นไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนก็จะเหมือนกัน เพราะแม้แต่ตอนค่ำก็จะสว่าง 8 ในวันนั้น น้ำที่ให้ชีวิตจะไหลออกมาจากเยรูซาเล็ม+ ครึ่งหนึ่งไหลไปทางทะเลตะวันออก*+ อีกครึ่งหนึ่งไหลไปทางทะเลตะวันตก*+ และจะไหลตลอดไม่ว่าฤดูร้อนหรือฤดูหนาว 9 และพระยะโฮวาจะเป็นกษัตริย์ปกครองทั้งโลก+ ในวันนั้นทุกคนจะนมัสการพระยะโฮวาและจะเรียกพระองค์ด้วยชื่อเดียว+
10 “แผ่นดินทั้งหมดจะเป็นเหมือนอาราบาห์+ คือตั้งแต่เกบา+จนถึงริมโมน+ที่อยู่ทางใต้ของเยรูซาเล็ม เยรูซาเล็มจะสูงเด่นและมีคนอาศัยอยู่+ ตั้งแต่ประตูเบนยามิน+ไปจนถึงประตูที่หนึ่งและจนถึงประตูมุม จากหอคอยฮานันเอล+ไปจนถึงบ่อย่ำองุ่นของกษัตริย์ 11 เมืองนี้จะมีคนมาอยู่และจะไม่ถูกสาปแช่งให้พินาศอีกต่อไปเลย+ และเยรูซาเล็มจะมีคนอาศัยอยู่อย่างปลอดภัย+
12 “พระยะโฮวาจะทำให้ทุกชาติที่รบกับเยรูซาเล็มเจอโรคร้าย+ เนื้อของพวกเขาจะเน่าทั้ง ๆ ที่ยังยืนอยู่ ตาก็จะเน่าคาเบ้า และลิ้นจะเน่าคาปาก
13 “ในวันนั้น พระยะโฮวาจะทำให้พวกเขาโกลาหลวุ่นวาย ทุกคนจะต่อสู้และทำร้ายกันเอง+ 14 ยูดาห์จะร่วมในสงครามที่เยรูซาเล็ม และพวกเขาจะรวบรวมทรัพย์สมบัติของทุกชาติที่อยู่รอบข้าง ทั้งทองและเงินและเสื้อผ้าจำนวนมาก+
15 “และโรคนั้นจะระบาดไปถึงม้า ล่อ อูฐ ลา และฝูงสัตว์ทุกชนิดในค่ายของพวกนั้นด้วย
16 “ทุกคนที่เหลือรอดอยู่ในชาติต่าง ๆ ที่มารบกับเยรูซาเล็มจะขึ้นมานมัสการพระยะโฮวากษัตริย์ผู้เป็นจอมทัพ+และฉลองเทศกาลอยู่เพิง+เป็นประจำทุกปี+ 17 แต่ถ้ามีใครไม่ว่าจากชาติไหนไม่ขึ้นไปเยรูซาเล็มเพื่อนมัสการพระยะโฮวากษัตริย์ผู้เป็นจอมทัพ ฝนจะไม่ตกลงมาที่แผ่นดินของเขาเลย+ 18 และถ้าชาติอียิปต์ไม่ขึ้นมาและไม่เข้าไปในเมือง ฝนก็จะไม่ตกลงมาที่แผ่นดินของพวกเขา แต่พวกเขาจะติดโรคเหมือนที่พระยะโฮวาทำให้เกิดกับชาติที่ไม่ยอมมาฉลองเทศกาลอยู่เพิง 19 นั่นแหละจะเป็นการลงโทษอียิปต์และทุกชาติที่ไม่ยอมมาฉลองเทศกาลอยู่เพิง
20 “ในวันนั้น คำว่า ‘พระยะโฮวาเป็นผู้บริสุทธิ์’+ จะเขียนไว้ที่กระดิ่งม้า หม้อทำอาหาร+ในวิหารของพระยะโฮวาจะเป็นเหมือนชาม+ที่อยู่หน้าแท่นบูชา 21 หม้อทำอาหารทุกใบในเยรูซาเล็มและในยูดาห์จะเป็นของบริสุทธิ์และจะกลายเป็นของพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ ทุกคนที่ถวายเครื่องบูชาจะเข้ามาและเอาหม้อส่วนหนึ่งไปต้มเนื้อ ในวันนั้นจะไม่มีชาวคานาอัน*ในวิหารของพระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพอีกต่อไป”+
คือ ดาริอัสที่ 1 หรือ ดาริอัสมหาราช
แปลว่า “พระยะโฮวาระลึกถึง”
แปลตรงตัวว่า “จะมีการขึงสายวัด”
หรือ “ชุดประจำตำแหน่ง”
แปลตรงตัวว่า “ก้อนหิน” “ดีบุก”
คือ กิ่งที่มีผลดก
4.45 เมตร ดูภาคผนวก ข14
8.9 เมตร
แปลตรงตัวว่า “มันคือเอฟาห์” ในข้อนี้หมายถึงถังหรือตะกร้าสำหรับตวงของแห้งปริมาณ 1 เอฟาห์ ซึ่ง 1 เอฟาห์เท่ากับ 22 ลิตร ดูภาคผนวก ข14
แปลตรงตัวว่า “ชินาร์”
หรือ “ดินแดนที่เลยทะเลไป”
หรือ “และหน้าที่ทั้งสองอย่างนี้จะสอดคล้องกัน”
คือ เฮลดัยในข้อ 10
อาจเป็นโยสิยาห์ในข้อ 10
แปลตรงตัวว่า “ผม”
หรือ “มีความรักที่มั่นคง”
หรือ “ลูกกำพร้า”
หรือ “หันหลังให้อย่างดื้อดึง”
หรือ “อุดหูเพื่อไม่ให้ได้ยิน”
หรือ “คำสั่งสอน”
หรือ “ทำใจแข็งเหมือนเพชร”
หรือ “ความซื่อสัตย์”
แปลตรงตัวว่า “จะมีเมล็ดแห่งสันติสุข”
หรือ “ไม่เสียใจ”
แปลตรงตัวว่า “ผู้ชายชาวยิว”
น่าจะหมายถึงความเดือดร้อนของประชาชนของพระเจ้า
หรือ “ลาตัวผู้”
คือ แม่น้ำยูเฟรติส
หรือ “เทพเจ้าประจำบ้าน” “รูปเคารพ”
หรือ “เรื่องเร้นลับ” “สิ่งลึกลับ”
แปลตรงตัวว่า “แพะตัวผู้”
แปลตรงตัวว่า “หอคอยหัวมุม” ซึ่งทำให้นึกถึงผู้ชายที่เป็นบุคคลสำคัญหรือหัวหน้า
แปลตรงตัวว่า “หมุด” ซึ่งทำให้นึกถึงคนที่สนับสนุนหรือผู้ปกครอง
แปลตรงตัวว่า “จะเดินในชื่อของเรา”
แปลตรงตัวว่า “มัว”
หรือ “ลมหายใจ”
หรือ “เป็นภาระ”
หรือ “คนที่อ่อนแอที่สุด”
แปลตรงตัวว่า “เท”
แปลตรงตัวว่า “ระหว่างมือทั้งสอง?” คือ ที่อกหรือหลัง
หรือ “บ้านคนที่รักผม”
หมายถึงเมืองที่พูดถึงในข้อ 2
แปลตรงตัวว่า “ทะเล”
คือ ทะเลเดดซี หรือ ทะเลตาย
คือ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
หรืออาจแปลได้ว่า “พ่อค้า”