1945-1995 50 ปีแห่งความก้าวหน้าหรือ?
คุณได้เห็นการปรับปรุงบางประการด้านคุณภาพชีวิตในช่วง 50 ปีที่ผ่านมานี้ไหม?a ขอพิจารณาเรื่องการรักษาพยาบาล. ในบางประเทศอย่างเช่น บริเตน, แคนาดา, คิวบา, และสวีเดน การนำเอาสวัสดิการของรัฐ พร้อมด้วยระบบประกันสังคมมาใช้ ให้การรับประกันว่า แพทย์และโรงพยาบาลพร้อมจะรักษาทุกคนไม่ว่าสถานภาพทางเศรษฐกิจของผู้ป่วยจะเป็นเช่นไร.
แม้แต่บางประเทศที่กำลังพัฒนาก็สามารถปรับปรุงมาตรฐานสุขภาพให้กับพลเมืองของตน. เจเอเอ็มเอ (วารสารแพทยสมาคมแห่งอเมริกา) ยอมรับว่า “กระทรวงสาธารณสุขของประเทศโลกที่สามบางประเทศ ได้ประสบความสำเร็จในการจัดให้มีการดูแลสุขภาพขั้นมูลฐานสำหรับทุกคนอย่างทั่วถึง ด้วยค่าใช้จ่ายที่ประเทศของตนสามารถรับมือได้ . . . มีความก้าวหน้าอย่างเด่นชัดในการลดอัตราการตายในวัยเด็กและของทารกในประเทศจีน, คอสตาริกา, ศรีลังกา, และรัฐเคราลาของอินเดีย.”
พัฒนาการด้านวัตถุ
เมื่อเทียบกับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจในปี 1945 แล้ว ในปี 1995 หลายคนมีฐานะความเป็นอยู่ดีกว่าลิบลับ. ผู้คนมากมายซึ่งเมื่อ 50 ปีที่แล้วไม่สามารถมีสิ่งหรูหราฟุ่มเฟือยต่าง ๆ บัดนี้เป็นเจ้าของรถยนต์, ทีวี, วีดิทัศน์, เครื่องเล่นซีดี, ตู้เย็น, โทรศัพท์เคลื่อนที่, และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ แห่งชีวิตสมัยใหม่. คุณอาจเป็นหนึ่งในหลายล้านคนเหล่านี้.
เป็นดังที่ผู้ประพันธ์หนังสือชุด ประวัติชีวิตส่วนบุคคล (ภาษาอังกฤษ) อธิบายว่า “เป็นเวลาสามสิบปีหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง ฝรั่งเศส [พร้อมด้วยประเทศยุโรปตะวันตกอื่น ๆ] ประสบภาวะเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่ง ถึงแม้จะไม่ขจัดความแตกต่างด้านชั้นชนออกไป แต่ก็นำความเจริญรุ่งเรืองใหม่ ๆ มาสู่สังคมทุกชั้นชน. ด้วยบ้าน ‘ขนาดพอเหมาะ’, รถยนต์ ‘คันย่อม’, และเครื่องรับโทรทัศน์ พร้อมด้วยผลประโยชน์จากรัฐสวัสดิการและเวชกรรมสมัยใหม่ที่เพิ่มเข้ามา แม้จะไม่ใช่สวรรค์บนดิน แต่อย่างน้อยทุกคนก็สามารถมีการดำรงชีวิตที่ดีพอใช้.”
แต่ปัญหาก็คือ สิ่งฝ่ายวัตถุที่มีมากขึ้นทำให้ผู้คนมีสภาพความเป็นอยู่ดีขึ้นในทุกแง่ทุกมุมกระนั้นไหม? การสะสมผลประโยชน์ทางวัตถุให้เพิ่มพูนขึ้น หมายความโดยอัตโนมัติไหมว่า ชีวิตจะดีกว่าเดิมหรือปลอดภัยกว่าเดิม? การที่บางคนมีทรัพย์สมบัติเพิ่มขึ้น คนจนหลายคนกลับถูกปล่อยไว้ในสภาพอัตคัดขัดสน. สิ่งนี้เพิ่มแรงล่อใจให้กับการขโมย, การฉกฉวย, การฉ้อฉล, และอาชญากรรมแบบอื่น ๆ ที่รุนแรงมากกว่า. ผู้ยากไร้บางคนตั้งใจจะก้าวเป็นผู้มีอันจะกิน—ไม่ว่าจะโดยวิธีสุจริตหรือทุจริตก็ตาม. เพื่อเป็นตัวอย่าง ในนครนิวยอร์ก รถยนต์มากกว่า 100,000 คันถูกโจรกรรมแต่ละปี. ผลประโยชน์ฝ่ายวัตถุไม่ได้รับประกันว่าชีวิตจะปลอดภัยขึ้น.
มีการปรับปรุงในแวดวงอื่น ๆ อีก แม้จะไม่มากถึงขนาดที่บางคนอยากให้เป็น.
สตรี—ในตอนนั้นกับเดี๋ยวนี้
สงครามโลกครั้งที่สองให้แรงกระตุ้นสู่บทบาทใหม่แก่ผู้หญิงบางคน. หลายคนเคยทำหน้าที่เป็นมารดาและแม่บ้าน ขณะที่สามีเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว. สงครามโลกครั้งที่สองพลิกโฉมสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด. พวกผู้ชายถูกเกณฑ์ไปทำสงคราม และโดยไม่ทันตั้งตัว ภรรยาของพวกเขาต่างก็พบตัวเองทำงานในโรงงานผลิตอาวุธหรือทำงานอื่น ๆ ที่พวกผู้ชายละไว้. ในสมัยหลัง ๆ นี้ บางคนเข้ารับราชการในกองทัพ และเรียนวิธีสังหาร. ผู้หญิงหลายล้านคนกลายเป็นคนทำงานหารายได้ และได้สัมผัสแวบหนึ่งของรูปแบบชีวิตที่ต่างออกไปซึ่งไม่ต้องพึ่งพาอาศัยใคร ๆ เรื่องการเงิน. สิ่งนี้เป็นประดุจปลายลิ่มบาง ๆ ที่ค่อย ๆ แงะประตูเปิดสู่ “สตรีที่ถูกปลดปล่อย” ในปัจจุบัน. ผู้หญิงบางคนบอกว่า การต่อสู้เพื่อความเสมอภาคของพวกเธอในหลายประเทศนั้น หนทางยังอยู่อีกยาวไกล. พวกเธอบอกว่ามี “เพดานกระจก” กั้นขวางการเลื่อนขั้นในงานหลายชนิด.
การยกโขยงเข้าเมืองก่อปัญหา
การเปลี่ยนแปลงมโหฬารอีกอย่างหนึ่งตลอด 50 ปีที่ผ่านมาก็คือ การทิ้งไร่ทิ้งนาและชีวิตชนบทเพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่าในเมืองใหญ่. สำหรับบางคน ความฝันดังกล่าวกลายเป็นจริง. แต่อีกหลายคนประสบผลเช่นไร?
แต่ละปี ผู้คนนับล้านย้ายถิ่นสู่เมืองใหญ่ที่มีประชากรล้นอยู่แล้ว ที่ซึ่งบ้านพักอาศัยมีไม่พอและราคาก็แพง. ผลอย่างหนึ่งได้แก่อะไร? เมืองกระต๊อบที่กลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค, อาชญากรรม, และทำให้เสถียรภาพทางการเมืองสั่นคลอน. ที่อยู่อาศัยซึ่งทำขึ้นเองเหล่านี้สร้างด้วยเศษกระดาษแข็ง, ไม้, หรือสังกะสีลูกฟูก เป็นเพิงโกโรโกโสที่เรียกว่า บาร์ราคัส หรือ ชาโบลัส (ภาษาสเปน) ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของชนระดับล่างสุดของโลกที่อยู่อย่างปากกัดตีนถีบและอัตคัดขัดสน. เมืองกระต๊อบเหล่านี้—ที่เรียกว่า ฟาเวลัส ในภาษาโปรตุเกส และ เกเจคอนดุส ในภาษาตุรกี (หมายถึง “สร้างในคืนเดียว”) เป็นความจริงของชีวิตที่ไม่อาจมองข้ามได้ ไม่ว่าในแอฟริกา, อินเดีย, อเมริกาใต้, หรือที่อื่นใด.
ปัจจุบันและอนาคตสำหรับแอฟริกาบางประเทศ
อาจพูดเช่นไรได้เกี่ยวกับแอฟริกา? นายแพทย์สองคนที่เขียนเรื่องใน เจเอเอ็มเอ พาดหัวบทความของเขาว่า “แอฟริกาบนชะง่อนผา—ลางร้ายแต่อนาคตยังไม่สิ้นหวัง.” เขายอมรับว่า สภาพการเมืองและสังคมในส่วนใหญ่ของแอฟริกามีปัญหาเหมือนทุ่งกับระเบิด. เขาเขียนว่า “สำหรับแอฟริกาที่อยู่ใต้สะฮาราลงไป [พื้นที่ครอบคลุม 45 ประเทศ] ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาประสบความหายนะสาหัส. ภูมิภาคนี้ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนอาหาร, ความแห้งแล้ง, สงครามกลางเมือง, ความเสื่อมทรามทางการเมือง, โรคเอดส์, ประชากรเพิ่มอย่างรวดเร็ว, การผลิตอาหารลดลง, ความเสื่อมโทรมด้านสิ่งแวดล้อม . . . พวกผู้เชี่ยวชาญทำนายอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า ความตกต่ำทางเศรษฐกิจ, ความยากจน, และการทนทุกข์จะเพิ่มมากขึ้นอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ อย่างน้อยก็ในระยะสั้น.” บทความเดียวกันรายงานว่า 32 ประเทศจากจำนวน 40 ประเทศยากจนที่สุดของโลก อยู่ที่แอฟริกาบริเวณใต้สะฮาราลงไป.
เอาละ ทีนี้จะว่าอย่างไรเรื่องบรรยากาศด้านศีลธรรมของโลก? บทความถัดไปจะพิจารณา “ความก้าวหน้า” ของโลกในเรื่องนี้พอสังเขป.
[เชิงอรรถ]
a เนื่องจากเนื้อที่จำกัด การพิจารณาของเราจึงไม่ครอบคลุมทุกแง่ทุกมุมของความก้าวหน้าหรือความเปลี่ยนแปลงแห่งช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมานี้.
[ที่มาของภาพหน้า 6]
USAF photo
[ที่มาของภาพหน้า 7]
NASA photo