โรคหัวใจภัยคุกคามชีวิต
ความเห็น: ชุดบทความนี้ได้ข้อมูลจากศูนย์โรคหัวใจ ร.พ.ราชวิถี โดยน.พ.สันต์ โทร: 2460052 ต่อ 452, 2471025-8 แฟกซ์: 2471028 และร.พ.จุฬา (โปรดอย่าลบทิ้ง) แต่ละปี ชายหญิงหลายล้านคนทั่วโลกประสบภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (heart attack)ความเห็น: แพทย์ที่ศูนย์โรคหัวใจไม่เรียกว่าหัวใจวายหรือหัวใจล้มเหลว (heart failure) เพราะทั้งสองอย่างกู้ไม่ได้. หลายคนรอดชีวิตพร้อมด้วยผลกระทบเล็กน้อย. คนอื่น ๆ ไม่รอด. อีกหลายคนหัวใจเสียหายมากจน “การจะกลับไปทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ได้อีกนั้นเป็นเรื่องน่าสงสัย” ปีเตอร์ โคห์น แพทย์โรคหัวใจกล่าว และเสริมว่า “เพราะฉะนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะรักษาอาการต่าง ๆ ของโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดทันที เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้.”ความเห็น: ไม่ได้แปล “เมื่อไรก็ตาม” เพราะส่อความหมายว่า ตามแต่สะดวกซึ่งจะขัดกัน
หัวใจเป็นกล้ามเนื้อที่สูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงทั่วร่างกาย. เมื่อกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (กล้ามเนื้อหัวใจตาย)จากศูนย์โรคหัวใจร.พ.ราชวิถี กล้ามเนื้อหัวใจบางส่วนจะหมดสภาพความเห็น: ไม่ได้ใช้คำว่าตายเพราะจะซ้ำกับในวงเล็บเพราะขาดเลือดหล่อเลี้ยง. เพื่อหัวใจจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ หัวใจจำต้องได้รับออกซิเจนและสารอาหารอื่น ๆ ซึ่งเลือดนำพาไป. หัวใจได้รับสิ่งเหล่านี้โดยทางหลอดเลือดแดงโคโรแนรี ที่หุ้มรอบหัวใจ.
มีโรคหลายชนิดที่ก่อผลกระทบส่วนต่าง ๆ ของหัวใจได้. แต่ที่พบมากที่สุดก็คือโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจซึ่งค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น เรียกว่าโรคหลอดเลือดแดงโคโรแนรีตีบตัน. โรคนี้เกิดจากตะกอนไขมันที่เกาะเป็นเม็ดในผนังหลอดเลือดแดง. เมื่อเวลาผ่านไป เม็ดไขมันอาจใหญ่ขึ้น ทำให้หลอดเลือดแดงแข็งและตีบ และกีดขวางการไหลของเลือดสู่หัวใจ. โรคหลอดเลือดหัวใจ (CAD) นี่แหละที่ส่วนใหญ่แล้วนำไปสู่อาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน.
การอุดตันในหลอดเลือดแดงเส้นหนึ่งหรือหลายเส้น จะกระตุ้นให้เกิดอาการอย่างเฉียบพลันเมื่อความต้องการออกซิเจนของหัวใจมีมากกว่าออกซิเจนที่ป้อนให้. แม้แต่ในหลอดเลือดแดงที่ตีบไม่มาก เม็ดไขมันเม็ดหนึ่งก็อาจปริแตกได้ และนำไปสู่การก่อตัวของลิ่มเลือด (thrombus)ความเห็น: ไม่ได้แปล “thrombus” เพราะมีความหมายเหมือนกันคือ ลิ่มเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบตัน. หลอดเลือดแดงที่ตีบเหล่านี้ยังเกิดอาการหดตัวง่ายอีกด้วย. ลิ่มเลือดอาจก่อตัวขึ้นได้ ณ บริเวณที่หลอดเลือดหดตัว แล้วจะปล่อยสารเคมีชนิดหนึ่งที่ทำให้ผนังหลอดเลือดแดงหดตัวเพิ่มขึ้น อันเป็นชนวนทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน.
เมื่อกล้ามเนื้อหัวใจขาดออกซิเจนหล่อเลี้ยงเป็นเวลานานถึงขนาด เนื้อเยื่อบริเวณนั้นจะเสียไป. ต่างจากเนื้อเยื่อชนิดอื่น กล้ามเนื้อหัวใจไม่สร้างหรืองอกเนื้อเยื่อใหม่. ยิ่งภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดกินเวลานานเท่าใด ความเสียหายที่มีต่อหัวใจก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และโอกาสที่จะเสียชีวิตก็มีมากขึ้นด้วย. ถ้าระบบนำสัญญาณไฟฟ้าของหัวใจเสียหาย จังหวะการเต้นปกติของหัวใจก็อาจระส่ำระสาย และหัวใจอาจเริ่มสั่นระรัว (fibrillate). ในการเต้นไร้จังหวะเช่นนั้น ความสามารถของหัวใจที่จะสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงสมองอย่างมีประสิทธิภาพจะล้มเหลว. ภายในสิบนาทีสมองจะตายแล้วก็เสียชีวิต.
ด้วยเหตุนี้ การลงมือรักษาโดยบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งได้รับการฝึกฝนจนชำนาญจึงสำคัญยิ่ง. การทำเช่นนี้สามารถกอบกู้หัวใจจากความเสียหายที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ, ป้องกันหรือรักษาอาการหัวใจเต้นไร้จังหวะ, และกระทั่งช่วยชีวิตคนเราไว้.