ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ต99 8/9 น. 28-29
  • การเพ่งดูโลก

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • การเพ่งดูโลก
  • ตื่นเถิด! 1999
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • ผู้​เป็น​โรค​โลหิต​ออก​ไม่​หยุด​ได้​รับ​ค่า​สิน​ไหม​ทดแทน
  • อหิวาต์​มฤตยู​ระบาด​หนัก
  • หัวใจ​ที่​ถูก​ละเลย
  • สมรรถนะ​ใน​การ​สืบ​พันธุ์​ของ​ผู้​ชาย​ลด​ลง
  • “โรค​ที่​มอง​ไม่​เห็น”
  • ไข้หวัด​ใหญ่​ยัง​คง​ทำลาย​ชีวิต​ต่อ​ไป
  • ผีเสื้อ​ดอก​รัก​ใกล้​จะ​สูญ​พันธุ์
  • รู้​มาก​ขึ้น​เรื่อง​การ​ทำ​ร้าย​เด็ก​ทาง​เพศ
  • บ้า​รถยนต์
  • วิกฤตการณ์​การ​ศึกษา
  • ให้เลือดที่ปนเปื้อนแก่ผู้ป่วยโรคเลือดไม่จับเป็นก้อน
    ตื่นเถิด! 1994
  • สถานการณ์ด้านสุขภาพของโลก—ช่องว่างที่กว้างขึ้นเรื่อย ๆ
    ตื่นเถิด! 1995
  • โรคระบาดในศตวรรษที่ 20
    ตื่นเถิด! 1997
  • โรคที่คนหวาดกลัวมากที่สุดแห่งศตวรรษที่ 19
    ตื่นเถิด! 2010
ดูเพิ่มเติม
ตื่นเถิด! 1999
ต99 8/9 น. 28-29

การ​เพ่ง​ดู​โลก

ผู้​เป็น​โรค​โลหิต​ออก​ไม่​หยุด​ได้​รับ​ค่า​สิน​ไหม​ทดแทน

โดย​แจ้ง​ข้อ​กล่าวหา​แก่​พวก​เขา​ว่า “ละเลย​การ​ระมัดระวัง​และ​การ​ควบคุม” อีก​ทั้ง “ล่า​ช้า​ใน​การ​ถอน​ผลิตภัณฑ์ [ติด​เชื้อ]” ศาล​แพ่ง​แห่ง​กรุง​โรม​ได้​สั่ง​ให้​กระทรวง​สาธารณสุข​ของ​อิตาลี​จ่าย​ค่า​สิน​ไหม​ทดแทน​แก่​ผู้​เป็น​โรค​โลหิต​ออก​ไม่​หยุด 385 ราย​ซึ่ง​ติด​โรค​ตับ​อักเสบ​หรือ​เชื้อ​ไวรัส​เอดส์​จาก​ผลิตภัณฑ์​จาก​เลือด​ที่​ติด​เชื้อ. หนึ่ง​ใน​สาม​ของ​ผู้​ติด​โรค​ดัง​กล่าว​เสีย​ชีวิต​ไป​แล้ว. ตาม​คำ​กล่าว​ของ​ทนาย​ความ มารีโอ ลานา ประธาน​สหภาพ​กฎหมาย​เพื่อ​คุ้มครอง​สิทธิ​มนุษยชน​แห่ง​อิตาลี “คำ​พิพากษา​นี้​ยอม​รับ​ความ​สัมพันธ์​เชิง​เหตุ​ที่​เห็น​เด่น​ชัด​ระหว่าง​การ​กระทำ​ที่​น่า​ตำหนิ​และ​ขาด​ความ​สุขุม​ของรัฐบาล​อิตาลี​กับ​ความ​เสียหาย​ที่​ผู้​เป็น​โรค​โลหิต​ออก​ไม่​หยุด​ได้​รับ.” ใน​อิตาลี ผู้​เป็น​โรค​โลหิต​ออก​ไม่​หยุด​ประมาณ 2,000 คน​ติด​เชื้อ​ไวรัส​เอดส์ และ​เกือบ 5,000 คน​ติด​โรค​ตับ​อักเสบ​ซี. ผล​จาก​การ​ได้​รับ​ผลิตภัณฑ์​จาก​เลือด​ที่​ติด​เชื้อ​เหล่า​นั้น​คือ มี​ชาว​อิตาลี​เสีย​ชีวิต​แล้ว 1,246 ราย.

อหิวาต์​มฤตยู​ระบาด​หนัก

หนังสือ​พิมพ์​ไทมส์ ออฟ แซมเบีย รายงาน​ว่า การ​ระบาด​ครั้ง​ใหญ่​ของ​อหิวาต์​ใน​เดือน​กุมภาพันธ์​ทำ​ให้​สภา​เทศบาล​นคร​ลูซากา ประเทศ​แซมเบีย​ต้อง​สั่ง​ห้าม “การ​ขาย​อาหาร​สด​ทุก​ชนิด​ตาม​ถนน.” นอก​จาก​นี้ รายงาน​นั้น​ยัง​บอก​อีก​ว่า โรงแรม​และ​ภัตตาคาร​ต่าง ๆ ถูก​สั่ง​ให้​อยู่​ภาย​ใต้ “การ​สอดส่อง​ดู​แล​ตลอด 24 ชั่วโมง​เพราะ​จำนวน​ผู้​เสีย​ชีวิต​ใน​เมือง​หลวง​เนื่อง​จาก​อหิวาต์​พุ่ง​ขึ้น​ถึง 42 คน.” เจ้าหน้าที่​สาธารณสุข​แสดง​ความ​เป็น​ห่วง​ที่​โรค​ท้องร่วง​ยัง​คง “เพิ่ม​ขึ้น​เรื่อย ๆ ใน​ส่วน​อื่น ๆ ของ​ประเทศ​ด้วย.” เพื่อ​รับมือ​กับ​ปัญหา​นี้ เจ้าหน้าที่​กระทรวง​สุขภาพ​และ​การ​ศึกษา​จึง​จัด​ตั้ง​หน่วย​ต้าน​อหิวาต์​เฉพาะ​กิจ​ขึ้น​เพื่อ​จ้าง​พนักงาน​เก็บ​ขยะ​มาก​ขึ้น​และ​เพื่อ​เติม​คลอรีน​ฆ่า​เชื้อ​ใน​บ่อ​น้ำ​ตื้น ๆ ซึ่ง​ปน​เปื้อน​ง่าย​จาก​น้ำ​บาดาล. ดาเนียล เอ็มโซกา โฆษก​ของ​สภา​เทศบาล​นคร​ลูซากา​กล่าว​ว่า “เรา​ตั้ง​เป้า​จะ​ลด​การ​ระบาด​ของ​อหิวาต์.”

หัวใจ​ที่​ถูก​ละเลย

หนังสือ​พิมพ์​เดอะ แนชันแนล โพสต์ กล่าว​ว่า “แทน​ที่​จะ​ทำ​ตาม​ขั้น​ตอน​ต่าง ๆ เพื่อ​ส่ง​เสริม​สุขภาพ​ของ​ตน สตรี​ชาว​แคนาดา​กลับ​ไม่​ดู​แล​หัวใจ​ของ​ตน​เอา​เสีย​เลย.” การ​สำรวจ​เมื่อ​เร็ว ๆ นี้​ที่​ทำ​กับ​สตรี​ชาว​แคนาดา 400 คน​ที่​อายุ 45 ถึง 74 ปี​ซึ่ง​สนับสนุน​โดย​มูลนิธิ​หัวใจ​และ​โรค​เส้น​เลือด​สมอง​แห่ง​แคนาดา พบ​ว่า “มี​เพียง 30% ที่​คุม​น้ำหนัก​ตัว​ที่​เอื้อ​ประโยชน์​ต่อ​สุขภาพ​ไว้, 36% มี​การ​ออก​กำลัง​กาย, และ 74% รายงาน​ว่า​มี​อาการ​เครียด​เนื่อง​จาก​ตอน​นี้​จับ​งาน​หลาย​อย่าง.” เอลิสสา ฟรีแมน โฆษก​หญิง​ของ​มูลนิธิ​ฯ​ดัง​กล่าว​ลง​ความ​เห็น​ว่า “ผู้​หญิง​ดู​แล​สามี​ดี​กว่า​ดู​แล​ตัว​เอง.” รายงาน​นั้น​บอก​ว่า “40 เปอร์เซ็นต์​ของ​การ​เสีย​ชีวิต​ของ​สตรี​มี​สาเหตุ​จาก​โรค​หัวใจ​และ​โรค​เส้น​เลือด​สมอง​แตก—ซึ่ง​มี​มาก​กว่า 41,000 คน​ทุก​ปี.”

สมรรถนะ​ใน​การ​สืบ​พันธุ์​ของ​ผู้​ชาย​ลด​ลง

วารสาร​เวิลด์วอตช์ รายงาน​ว่า “จำนวน​ตัว​อสุจิ​โดย​เฉลี่ย​ของ​ผู้​ชาย​ใน​สหรัฐ​และ​ยุโรป​ได้​ตก​วูบ​ลง​มาก​กว่า 50 เปอร์เซ็นต์​ตั้ง​แต่​ตอน​ปลาย​ทศวรรษ 1930. การ​ค้น​พบ​นี้​กระตุ้น​ความ​วิตก​ซึ่ง​มี​อยู่​แล้ว​ให้​เพิ่ม​ขึ้น​อีก​ใน​เรื่อง​ที่​ว่า สมรรถนะ​ใน​การ​สืบ​พันธุ์​ของ​ผู้​ชาย​อาจ​เสื่อม​ลง และ​สาร​มลพิษ​ใน​สภาพ​แวด​ล้อม​อาจ​เป็น​สาเหตุ.” การ​ลง​ความ​เห็น​นี้​อาศัย​งาน​วิจัย 61 โครงการ​ซึ่ง​มี​การ​พิมพ์​ออก​มา​ตั้ง​แต่​ปี 1938 มี​ผู้​เข้า​ร่วม​โครงการ​มาก​กว่า 14,000 คน. เชื่อ​กัน​ว่า​สาร​เคมี​บาง​อย่าง​ใน​สภาพ​แวด​ล้อม​จะ​ไป​กวน​ระบบ​ต่อม​ไร้​ท่อ​ของ​ร่าง​กาย​และ​รบกวน​ความ​สามารถ​ของ​ระบบ​นี้​ใน​การ​ควบคุม​การ​เจริญ​เติบโต, พัฒนาการ, และ​การ​สืบ​พันธุ์. ตาม​ที่​ทราบ​กัน มี​สาร​เคมี​ประมาณ 60 ชนิด​ที่​ก่อ​การ​รบกวน​ดัง​กล่าว. อย่าง​ไร​ก็​ตาม วารสาร​เวิลด์วอตช์ กล่าว​ว่า “แค่​เศษ​เสี้ยว​ของ​สาร​เคมี​ประมาณ 80,000 ชนิด​ที่​ผลิต​มา​ใช้​ใน​ทุก​วัน​นี้​ที่​มี​การ​ตรวจ​สอบ​เพื่อ​คัด​เอา​ส่วน​ที่​ส่ง​ผล​รบกวน​ระบบ​ต่อม​ไร้​ท่อ​ออก​ไป.”

“โรค​ที่​มอง​ไม่​เห็น”

หน่วย​บริการ​ข่าว​สภาพ​แวด​ล้อม​รายงาน​ว่า “เด็ก​ราว 15 ถึง 18 ล้าน​คน​ใน​ประเทศ​กำลัง​พัฒนา​ได้​รับ​ผล​กระทบ​จาก​สาร​ตะกั่ว​ใน​เลือด​ที่​อยู่​ใน​ระดับ​สูง.” ตัว​อย่าง​เช่น ใน​อินเดีย มี​การ​ยืน​ยัน​ความ​เกี่ยว​พัน​ระหว่าง​ความ​สามารถ​ทาง​ปัญญา​ของ​เด็ก ๆ กับ​ปริมาณ​สาร​ตะกั่ว​ที่​พวก​เขา​ได้​รับ​เข้า​ไป. หนังสือ​พิมพ์​ดิ อินเดียน เอกซเพรส รายงาน​ว่า ตาม​คำ​กล่าว​ของ ดร. อับราฮาม จอร์จ เด็ก ๆ “สูญ​เสีย​ความ​สามารถ​ทาง​ปัญญา . . . เพราะ​การ​ได้​รับ​สาร​ตะกั่ว​เป็น​เวลา​นาน​ส่ง​ผล​กระทบ​สมอง​ของ​เขา.” แหล่ง​สำคัญ​ของ​สาร​ตะกั่ว​เป็น​พิษ​ใน​เมือง​ใหญ่ ๆ ของ​อินเดีย​คือ รถยนต์​ที่​ยัง​คง​ใช้​น้ำมัน​เชื้อเพลิง​ที่​ผสม​สาร​ตะกั่ว. เนื่อง​จาก​เรื่อง​สาร​ตะกั่ว​เป็น​พิษ​เป็น​เรื่อง​ที่​ไม่​ค่อย​น่า​สนใจ​เมื่อ​เทียบ​กับ​ปัญหา​ความ​ยาก​จน​และ​ความ​หิว​โหย ดร. จอร์จ​จึง​เรียก​มัน​ว่า “โรค​ที่​มอง​ไม่​เห็น.”

ไข้หวัด​ใหญ่​ยัง​คง​ทำลาย​ชีวิต​ต่อ​ไป

ผู้​เชี่ยวชาญ​ชั้น​แนว​หน้า​เรื่อง​ไข้หวัด​ใหญ่​กว่า 300 คน​ประชุม​กัน​เมื่อ​เร็ว ๆ นี้​ที่​สำนักงาน​ใหญ่​ของ​องค์การ​อนามัย​โลก (WHO) ใน​กรุง​เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อ​หารือ​กัน​ใน​เรื่อง​วิธี​สู้​กับ​โรค​เพชฌฆาต​นี้. ฝ่าย​สาร​นิเทศ​ของ​สหประชาชาติ​รายงาน​ว่า ทั้ง ๆ ที่​มี​ความ​ก้าว​หน้า​มาก​มาย​ตลอด 50 ปี​ที่​ผ่าน​ไป ไข้หวัด​ใหญ่​ก็​ยัง​คง​ทำลาย​ชีวิต​ผู้​คน​หลาย​แสน​คน​ใน​แต่​ละ​ปี. เพื่อ​ปรับ​ปรุง​การ​ป้องกัน​และ​ควบคุม​ไข้หวัด​ใหญ่ องค์การ​อนามัย​โลก​จะ​ประกาศ​แผนการ​ซึ่ง​มุ่ง​หมาย​จะ​ช่วย​ให้​เตรียม​พร้อม​สำหรับ​สิ่ง​ที่​เรียก​ว่า “การ​ระบาด​ของ​ไข้หวัด​ใหญ่​ที่​อาจ​เกิด​ขึ้น​ได้.” แพทย์​หญิง​โกร ฮาร์เลม บรันด์ลันด์ ผู้​อำนวย​การ​ใหญ่​ของ​องค์การ​อนามัย​โลก​กล่าว​ว่า “เวลา​โต้​ตอบ​อาจ​สั้น​มาก—ตั้ง​แต่​ตอน​แรก​ที่​รู้​ว่า​มี​เชื้อ​ตัว​ใหม่​กับ​ตอน​เริ่ม​ระบาด​เต็ม​ขนาด.”

ผีเสื้อ​ดอก​รัก​ใกล้​จะ​สูญ​พันธุ์

ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ร่วง​ทุก​ปี​ผีเสื้อ​ดอก​รัก​นับ​ล้าน​ตัว​ย้าย​ถิ่น​ไกล​กว่า 3,200 กิโลเมตร​จาก​แคนาดา​มา​ยัง​บ้าน​ฤดู​หนาว​ของ​มัน​ใน​แคลิฟอร์เนีย​และ​แถบ​ภูเขา​เซียรา มาเดร​ใน​เม็กซิโก​ตอน​กลาง. แต่​เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้ ที่​หลบ​ลม​หนาว​ของ​ผีเสื้อ​ดอก​รัก​ใน​เม็กซิโก​ถูก​คุกคาม​ด้วย​การ​เซาะกร่อน​และ​การ​ลักลอบ​ตัด​ต้น​สน​โอยาเมล (ต้น​ไม้​ใน​วงศ์ Abietaceae). ผล​ก็​คือ “ตลอด​สอง​ปี​ที่​ผ่าน​ไป จำนวน​ผีเสื้อ​ดอก​รัก​ที่​มา​หลบ​ลม​หนาว​ที่​นี่​ลด​ลง​ถึง 70 เปอร์เซ็นต์” ตาม​ที่​หนังสือ​พิมพ์​เดอะ นิวส์ ใน​นคร​เม็กซิโก​ซิตี​รายงาน. ขณะ​ที่​การ​ท่อง​เที่ยว​ทำ​ให้​คน​ท้องถิ่น​บาง​คน​มี​ราย​ได้ แต่​ก็​มี​คน​ที่​ดำรง​ชีพ​ด้วย​การ​ลาก​ขน​ไม้​ที่​อยู่​ภาย​ใต้​การ​คุ้มครอง​เต็ม​คัน​รถ​ใน​ตอน​กลางคืน. เดอะ นิวส์ กล่าว​ว่า “ถ้า​การ​ทำลาย​ป่า​ยัง​มี​อยู่​ต่อ​ไป​ละ​ก็ ผีเสื้อ​ดอก​รัก​ฤดู​ร้อน​ของ​อเมริกา​เหนือ​อาจ​แทบ​จะ​สูญ​พันธุ์​เลย​ก็​ได้.”

รู้​มาก​ขึ้น​เรื่อง​การ​ทำ​ร้าย​เด็ก​ทาง​เพศ

ตาม​ที่​หนังสือ​พิมพ์​เอล อูนีเวอร์ซาล ใน​คารากัส​กล่าว เปอร์เซ็นต์​ของ​เด็ก​ที่​ถูก​ทำ​ร้าย​ทาง​เพศ​ใน​เวเนซุเอลา​เพิ่ม​ขึ้น​จาก 1 ใน​ทุก 10 คน​ใน​ปี 1980 เป็น 3 ใน​ทุก 10 คน​ใน​ทุก​วัน​นี้. ใน​ปี 1980 เฉลี่ย​อายุ​ของ​เด็ก​ที่​ถูก​ทำ​ร้าย​ทาง​เพศ​คือ​ระหว่าง 12 ถึง 14 ปี. ปัจจุบัน เด็ก​ส่วน​ใหญ่​ที่​ถูก​ทำ​ร้าย​อายุ​ต่ำ​กว่า​สาม​ขวบ. ผู้​ก่อ​อาชญากรรม​น่า​สะพรึงกลัว​เช่น​นั้น​ส่วน​ใหญ่​เป็น​ใคร? แนว​คิด​ที่​ว่า​คน​เหล่า​นั้น​คือ​คน​แปลก​หน้า​ที่​มา​ลับ ๆ ล่อ ๆ ตาม​สนาม​เด็ก​เล่น​ของ​โรง​เรียน​เพื่อ​คอย​ล่อ​ลวง​เด็ก ๆ ด้วย​ลูก​กวาด​นั้น​ไม่​เป็น​ความ​จริง​เอา​เสีย​เลย. หนังสือ​พิมพ์​เอล อูนีเวอร์ซาล ชี้​แจง​ว่า 70 เปอร์เซ็นต์​ของ​ผู้​ทำ​ผิด​คือ​พวก​ญาติ ๆ หรือ​เพื่อน ๆ ของ​ครอบครัว. มาก​กว่า​ครึ่ง​ของ​จำนวน​ผู้​ทำ​ผิด​ดัง​กล่าว​คือ​บิดา​หรือ​มารดา​เลี้ยง และ​ที่​เหลือ​นอก​นั้น​โดย​ทั่ว​ไป​แล้ว​ก็​คือ​ผู้​ที่​มี​อำนาจ​หน้า​ที่ เช่น พี่​ชาย, ลูก​พี่​ลูก​น้อง หรือ​ครู.

บ้า​รถยนต์

ตาม​ที่​สมาคม​ผู้​ผลิต​รถยนต์​ใน​อเมริกา​กล่าว สหรัฐ​ผลิต​รถยนต์​ถึง​หลัก​หนึ่ง​ร้อย​ล้าน​คัน​เมื่อ​เร็ว ๆ นี้​เอง. นิตยสาร​คอมเพรสด์ แอร์ รายงาน​ว่า “เคย​ใช้​เวลา 25 ปี​จึง​ผลิต​ได้​หนึ่ง​ล้าน​คัน​แรก.” แต่​ทุก​วัน​นี้ “อัตรา​การ​ผลิต​ปัจจุบัน​อยู่​ที่ รถยนต์ 30 คัน​กับ​รถ​บรรทุก​และ​รถ​โดยสาร​สิบ​คัน​ต่อ​นาที​ใน​ทุก​วัน​ทำ​งาน.” ถ้า​คุณ​พิจารณา​ดู​โรง​งาน​ประกอบ​รถยนต์, โรง​งาน​ผลิต​ส่วน​ประกอบ​รถยนต์, พนักงาน​ขาย​และ​บริการ​ซ่อม​บำรุง, รวม​ทั้ง​พนักงาน​ขับ​รถ​แล้ว​ละ​ก็ อุตสาหกรรม​รถยนต์​ใน​สหรัฐ​จ้าง​คน​ประมาณ 1 ใน 7 ของ​ลูกจ้าง​ทั้ง​หมด. ประมาณ​กัน​ว่า​ปัจจุบัน​นี้​มี​รถยนต์​ราว 40 ล้าน​คัน​ที่​ใช้​งาน​กัน​อยู่​ใน​สหรัฐ.

วิกฤตการณ์​การ​ศึกษา

ข่าว​ทั่ว​ไป​ใน​หนังสือ​พิมพ์​เดอะ การ์เดียน ใน​อังกฤษ​รายงาน​ว่า “ประเทศ​กำลัง​พัฒนา​กำลัง​เผชิญ​วิกฤตการณ์​การ​ศึกษา​โดย​มี​เด็ก ๆ 125 ล้าน​คน​ไม่​ได้​เข้า​โรง​เรียน ซึ่ง​ส่วน​ใหญ่​เป็น​เด็ก​ผู้​หญิง และ​อีก 150 ล้าน​คน​เลิก​เรียน​ก่อน​จะ​อ่าน​ออก​เขียน​ได้.” ปัจจุบัน ใน​ประเทศ​กำลัง​พัฒนา ผู้​ใหญ่​ทุก 1 ใน 4 คน หรือ 872 ล้าน​คน​ไม่​รู้​หนังสือ. ยิ่ง​กว่า​นั้น วิกฤตการณ์​การ​ศึกษา​ยิ่ง​หนัก​ขึ้น​เมื่อ​ประเทศ​ต่าง ๆ ที่​มี​อัตรา​การ​ไม่​รู้​หนังสือ​สูง​ได้​ยืม​เงิน​จาก​ประเทศ​ที่​มั่งคั่ง​กว่า. เพราะ​เหตุ​ใด? ก็​เพราะ​เงิน​ที่​จำเป็น​เหลือ​เกิน​สำหรับ​การ​ศึกษา​นั้น​มัก​ถูก​ผัน​ไป​ชำระ​หนี้. ดัง​นั้น วัฏจักร​ของ​การ​ไม่​รู้​หนังสือ​จึง​หมุน​เวียน​ซ้ำ​แล้ว​ซ้ำ​อีก ซึ่ง​ทำ​ให้​ความ​ยาก​จน​คง​มี​อยู่​ตลอด​ไป.

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์