บทแปด
‘การปล้ำสู้กับอำนาจวิญญาณชั่ว’
1. เหตุใดกิจกรรมของพวกวิญญาณชั่วจึงเป็นเรื่องที่เราควรสนใจเป็นพิเศษ?
หลายคนเย้ยหยันความคิดที่ว่ามีวิญญาณชั่ว. แต่นี่ไม่ใช่เรื่องน่าหัวเราะ. ไม่ว่าผู้คนจะเชื่อหรือไม่ วิญญาณชั่วมีอยู่จริง และพวกมันพยายามสร้างความกดดันแก่ทุกคน. เหล่าผู้นมัสการพระยะโฮวาก็ไม่เว้น. ที่จริง พวกเขาเป็นเป้าหมายแรก. อัครสาวกเปาโลเตือนเราเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ว่านั้น โดยกล่าวว่า “เรามีการปล้ำสู้ ไม่ใช่กับเลือดและเนื้อ แต่ต่อสู้กับการปกครอง [ที่ไม่ประจักษ์แก่ตา] ต่อสู้กับผู้มีอำนาจ ต่อสู้กับผู้ครอบครองโลกแห่งความมืดนี้ ต่อสู้กับอำนาจวิญญาณชั่วในสวรรค์สถาน.” (เอเฟโซ 6:12, ล.ม.) ในสมัยของเรา ความกดดันจากพวกวิญญาณชั่วมีมากยิ่งกว่าสมัยใด ๆ เนื่องจากซาตานถูกขับออกจากสวรรค์และมีความโกรธยิ่งนัก ด้วยรู้ว่าเวลาของมันเหลือน้อย.—วิวรณ์ 12:12.
2. เป็นไปได้อย่างไรที่เราจะชนะในการต่อสู้กับวิญญาณที่มีอำนาจเหนือมนุษย์?
2 เป็นไปได้ไหมที่จะชนะในการต่อสู้กับวิญญาณที่มีอำนาจเหนือมนุษย์? เป็นไปได้ แต่ด้วยการไว้วางใจพระยะโฮวาอย่างเต็มที่เท่านั้น. เราต้องฟังพระองค์และเชื่อฟังพระคำของพระองค์. โดยทำเช่นนั้น เราจะพ้นจากความเสียหายทางกาย, ทางศีลธรรม, และทางอารมณ์ซึ่งผู้อยู่ภายใต้การควบคุมของซาตานต่างก็ประสบ.—ยาโกโบ 4:7.
ผู้ครอบครองโลกในสวรรค์สถาน
3. ซาตานต่อต้านใครอย่างสุดเหวี่ยงและโดยวิธีใด?
3 พระยะโฮวาได้พรรณนาให้เราเห็นสภาพการณ์ของโลกอย่างชัดเจนดังที่พระองค์ทรงมองเห็นจากจุดที่สูงกว่าในสวรรค์. พระองค์ทรงให้อัครสาวกโยฮันเห็นนิมิต ซึ่งมีการให้ภาพซาตานเป็น “พญานาคใหญ่สีเพลิง.” มันพร้อมจะขย้ำกลืนราชอาณาจักรมาซีฮาของพระเจ้า หากเป็นได้ ทันทีที่ราชอาณาจักรนี้กำเนิดในสวรรค์เมื่อปี 1914. เมื่อไม่สำเร็จ ซาตานก็หันมากระหน่ำโจมตีตัวแทนของราชอาณาจักรที่อยู่บนแผ่นดินโลกนี้อย่างสุดเหวี่ยง. (วิวรณ์ 12:3, 4, 13, 17, ล.ม.) ซาตานทำสงครามนี้อย่างไร? โดยทางมนุษย์ที่เป็นตัวแทนของมัน.
4. ใครเป็นบ่อเกิดแห่งอำนาจของรัฐบาลมนุษย์ และเรารู้ได้อย่างไร?
4 ลำดับถัดมา โยฮันได้เห็นสัตว์ร้ายที่มีเจ็ดหัวและสิบเขา สัตว์ร้ายที่มีอำนาจเหนือ “ทุกตระกูลและทุกชนชาติและทุกภาษาและทุกชาติ.” สัตว์ร้ายนั้นเป็นตัวแทนระบบการเมืองของทั้งโลก. โยฮันได้รับแจ้งว่า “พญานาคนั้น [ซาตานพญามาร] ได้ให้ฤทธิ์เดชและบัลลังก์และอำนาจใหญ่ยิ่งแก่สัตว์ร้ายนั้น.” (วิวรณ์ 13:1, 2, 7, ล.ม.) ถูกแล้ว ซาตานเป็นบ่อเกิดแห่งพลังและอำนาจของรัฐบาลมนุษย์. ด้วยเหตุนั้น ดังที่อัครสาวกเปาโลบันทึกไว้ “ผู้ครอบครองโลก” ที่แท้จริงคือ “อำนาจวิญญาณชั่วในสวรรค์สถาน” ซึ่งควบคุมรัฐบาลมนุษย์. ทุกคนซึ่งอยากจะนมัสการพระยะโฮวาจำต้องเข้าใจนัยสำคัญของเรื่องนั้นอย่างเต็มที่.—ลูกา 4:5, 6.
5. เวลานี้ผู้ปกครองฝ่ายบ้านเมืองกำลังถูกรวบรวมไปสู่อะไร?
5 ถึงแม้ผู้ปกครองฝ่ายบ้านเมืองหลายคนอ้างว่านับถือศาสนา แต่ก็ไม่มีชาติใดยอมอยู่ใต้การครอบครองของพระยะโฮวา หรือพระเยซูคริสต์กษัตริย์ผู้ได้รับการแต่งตั้งของพระองค์. พวกเขาล้วนแต่พยายามยึดอยู่กับอำนาจของตนอย่างร้ายกาจ. ทุกวันนี้ ตามที่เรื่องราวในพระธรรมวิวรณ์แสดงให้เห็น “คำกล่าวโดยการดลใจจากพวกปิศาจ” กำลังรวบรวมเหล่าผู้ปกครองของโลกไปสู่ “สงครามแห่งวันใหญ่ของพระเจ้าองค์ทรงฤทธานุภาพทุกประการ” ณ อาร์มาเก็ดดอน.—วิวรณ์ 16:13, 14, 16; 19:17-19, ล.ม.
6. เหตุใดจำต้องระมัดระวังเพื่อจะไม่ถูกชักนำให้ไปสนับสนุนระบบของซาตาน?
6 ในแต่ละวัน ชีวิตของผู้คนได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการเมือง, ทางสังคม, ทางเศรษฐกิจ, และทางศาสนาซึ่งทำให้ครอบครัวมนุษย์แตกแยก. ในความขัดแย้งเหล่านั้น ผู้คนมักจะเข้าข้างเชื้อชาติ, เผ่าพันธุ์, กลุ่มภาษาหรือชนชั้นทางสังคมของตน ไม่ว่าโดยทางคำพูด หรือการกระทำ. แม้เมื่อผู้คนมิได้เข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งโดยตรง แต่พวกเขาก็มักจะเข้าข้างฝ่ายหนึ่งเสมอ. แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเห็นชอบกับบุคคลหรือหลักการใดก็ตาม แท้จริงพวกเขากำลังสนับสนุนผู้ใด? คัมภีร์ไบเบิลบอกไว้ชัดเจนว่า “มนุษย์โลกทั้งสิ้นทอดตัวจมอยู่ในมารร้าย.” (1 โยฮัน 5:19) ถ้าเช่นนั้น คนเราจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกชักนำไปผิดทางพร้อมกับมนุษยชาตินอกนั้นได้อย่างไร? โดยที่เขาให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อราชอาณาจักรของพระเจ้าและโดยการรักษาความเป็นกลางอย่างเคร่งครัดต่อเรื่องความขัดแย้งของโลก.—โยฮัน 17:15, 16.
กลอุบายอันเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมของตัวชั่วร้าย
7. ความชาญฉลาดของซาตานแสดงให้เห็นอย่างไรในการใช้ศาสนาเท็จ?
7 ตลอดประวัติศาสตร์ทุกยุคสมัย ซาตานได้ใช้การข่มเหงทั้งทางวาจาและทางกายเพื่อทำให้ผู้คนละทิ้งการนมัสการแท้. นอกจากนั้น มันได้ใช้วิธีการอันแยบยลกว่า นั่นคือกลอุบายที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและฉลาดแกมโกง. มันได้กักมนุษยชาติส่วนใหญ่ไว้ในความมืดอย่างชาญฉลาด โดยทางศาสนาเท็จ มันทำให้พวกเขาคิดว่าตนกำลังรับใช้พระเจ้า. เมื่อขาดความรู้อันถ่องแท้ของพระเจ้าและขาดความรักต่อความจริง พวกเขาอาจถูกดึงดูดโดยกิจปฏิบัติทางศาสนาที่ลึกลับหรือเร้าอารมณ์ หรือประทับใจกับการสำแดงอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ. (2 เธซะโลนิเก 2:9, 10) แต่เราได้รับคำเตือนว่า แม้แต่ผู้ที่เคยร่วมในการนมัสการแท้ “บางคนจะถอยห่าง . . . โดยใส่ใจกับถ้อยคำโดยการดลใจซึ่งทำให้หลงผิดและคำสอนของผีปิศาจ.” (1 ติโมเธียว 4:1, ล.ม.) สิ่งนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร?
8. ซาตานสามารถล่อลวงเราให้หันเข้าหาศาสนาเท็จได้อย่างไร แม้ว่าเรานมัสการพระยะโฮวา?
8 พญามารฉวยประโยชน์จากความอ่อนแอของเราได้อย่างแยบยล. การกลัวหน้ามนุษย์ยังคงยึดหน่วงเราไว้ไหม? ถ้าเช่นนั้น เราอาจยอมแพ้ต่อความกดดันจากญาติพี่น้องหรือเพื่อนบ้านที่ต้องการให้เราเข้าส่วนในกิจปฏิบัติซึ่งมีต้นกำเนิดจากศาสนาเท็จ. เราเป็นคนหยิ่งไหม? ถ้าเป็นอย่างนั้น เราอาจขุ่นเคืองเมื่อได้รับคำแนะนำ หรือเมื่อคนอื่น ๆ ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นที่เราสนับสนุน. (สุภาษิต 15:10; 29:25; 1 ติโมเธียว 6:3, 4) แทนที่จะปรับทัศนะของเราให้สอดคล้องกับตัวอย่างของพระคริสต์ เราอาจโน้มเอียงไปทางผู้ซึ่ง ‘ยอนหูของเรา’ โดยกล่าวว่า แค่อ่านคัมภีร์ไบเบิลและดำเนินชีวิตให้ดีก็พอแล้ว. (2 ติโมเธียว 4:3) ไม่ว่าเราเข้าร่วมกับกลุ่มศาสนาอื่นจริง ๆ หรือเพียงแต่ยึดมั่นกับศาสนาของเราก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับซาตาน ตราบใดที่เราไม่นมัสการพระยะโฮวาในวิธีที่พระเจ้าทรงชี้นำโดยทางพระคำและองค์การของพระองค์.
9. ซาตานใช้เรื่องเพศอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมอย่างไรเพื่อบรรลุเป้าหมายของมัน?
9 นอกจากนั้น ซาตานใช้เล่ห์เหลี่ยมล่อลวงผู้คนให้สนองความปรารถนาปกติในวิธีที่ผิด. มันได้ทำเช่นนั้นกับความปรารถนาที่จะมีเพศสัมพันธ์. โดยปฏิเสธหลักศีลธรรมของคัมภีร์ไบเบิล หลายคนในโลกถือว่าเพศสัมพันธ์ระหว่างผู้ที่มิได้สมรสกันนั้นเป็นความเพลิดเพลินที่ไม่ผิด หรือเป็นวิธีพิสูจน์ว่าพวกเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว. และส่วนผู้ที่สมรสแล้วล่ะ? หลายคนทำผิดประเวณี. และแม้ว่าไม่นอกใจคู่สมรส คนจำนวนไม่น้อยหาทางหย่าร้างหรือแยกกันอยู่เพื่อพวกเขาจะอยู่กินกับคนอื่นได้. วิธีการอันมีเล่ห์เหลี่ยมของซาตานมุ่งจะชักจูงผู้คนให้มีชีวิตอยู่เพื่อความเพลิดเพลินในขณะนี้ โดยชักนำพวกเขาให้เพิกเฉยต่อผลกระทบระยะยาว ไม่เพียงกับตัวเองและผู้อื่น แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัมพันธภาพกับพระยะโฮวาและพระบุตรของพระองค์.—1 โกรินโธ 6:9, 10; ฆะลาเตีย 6:7, 8.
10. ซาตานพยายามจะเปลี่ยนทัศนะที่เรามีต่อเรื่องการผิดศีลธรรมและความรุนแรงโดยวิธีใด?
10 ความปรารถนาตามธรรมชาติอีกอย่างหนึ่งคือการพักผ่อนหย่อนใจ. หากการพักผ่อนหย่อนใจนั้นเป็นสิ่งดีงามก็ย่อมก่อให้เกิดความสดชื่นทางจิตใจ, ทางกาย, และทางอารมณ์. แต่เรามีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อซาตานใช้โอกาสแห่งการหย่อนใจอย่างฉลาดเพื่อพยายามเบี่ยงเบนความคิดของเราให้เขวไปจากความคิดของพระเจ้า? ตัวอย่างเช่น เรารู้ว่าพระยะโฮวาทรงเกลียดการทำผิดศีลธรรมทางเพศและความรุนแรง. เมื่อภาพยนตร์, รายการโทรทัศน์, หรือการแสดงละครเน้นเรื่องเหล่านั้น เรานั่งดูอยู่เฉย ๆ ต่อไปไหม? จงระลึกเสมอว่า ซาตานจะทำให้สิ่งเหล่านั้นยิ่งเสื่อมทรามลงขณะที่เวลาแห่งการกักขังมันในเหวลึกใกล้เข้ามา เนื่องจาก “คนชั่วและคนเจ้าเล่ห์นั้นจะกำเริบชั่วร้ายมากยิ่งขึ้น ทั้งล่อลวงคนอื่นให้หลง, และตัวเองก็ถูกล่อลวงด้วย.” (2 ติโมเธียว 3:13; วิวรณ์ 20:1-3) ดังนั้น เราต้องระวังอยู่ตลอดเวลาเพื่อจะต้านทานแผนการของซาตาน.—เยเนซิศ 6:13; บทเพลงสรรเสริญ 11:5; โรม 1:24-32.
11. แม้แต่คนที่รู้ความจริงเกี่ยวกับลัทธิภูตผีปิศาจก็อาจตกเข้าสู่บ่วงแร้วได้ในทางใดหากเขาไม่ระวังตัว?
11 นอกจากนั้น เราตระหนักว่าผู้ที่เข้าไปพัวพันกับลัทธิภูตผีปิศาจไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม เช่น การทำนายอนาคต, การใช้เวทมนตร์คาถา, หรือการพยายามติดต่อกับผู้ตาย ล้วนเป็นที่น่าสะอิดสะเอียนต่อพระยะโฮวา. (พระบัญญัติ 18:10-12) เมื่อคำนึงถึงเรื่องนี้ เราคงไม่คิดจะปรึกษาคนทรง และเราคงไม่ต้อนรับพวกเขาเข้ามาในบ้านของเราเพื่อทำสิ่งที่เกี่ยวข้องกับผีปิศาจ. แต่เราจะฟังพวกเขาไหมถ้าเขามาปรากฏตัวทางจอโทรทัศน์หรือทางอินเทอร์เน็ต? แม้ว่าเราจะไม่ยอมรับการบำบัดรักษาจากหมอผี แต่เราจะพันสายสิญจน์รอบข้อมือทารกแรกเกิดโดยคิดว่าสิ่งนั้นจะคุ้มครองเด็กให้พ้นจากอันตรายไหม? เมื่อรู้อยู่ว่าคัมภีร์ไบเบิลตำหนิการใช้เวทมนตร์คาถากับคนอื่น เราจะยอมให้นักสะกดจิตควบคุมจิตใจของเราไหม?—ฆะลาเตีย 5:19-21.
12. (ก) มีการใช้ดนตรีอย่างไรเพื่อทำให้เราคิดถึงเรื่องที่เรารู้ว่าผิด? (ข) การแต่งกาย, ทรงผม, หรือวิธีพูดจาอาจบ่งชี้อย่างไรเกี่ยวกับความนิยมชมชอบของคนเหล่านั้นซึ่งใช้ชีวิตในแบบที่พระยะโฮวาไม่ทรงพอพระทัย? (ค) เราต้องทำอะไรถ้าเราไม่อยากตกเป็นเหยื่อกลอุบายอันมีเล่ห์เหลี่ยมของซาตาน?
12 คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า การผิดประเวณีและการลามกต่าง ๆ ไม่ควรแม้แต่จะเอ่ยถึงท่ามกลางพวกเรา (ด้วยเจตนาที่ไม่สะอาด). (เอเฟโซ 5:3-5) แต่จะว่าอย่างไรถ้าเนื้อความนั้นมีดนตรีประกอบที่ไพเราะจับใจ หรือจังหวะที่เร้าใจ? เราจะเริ่มร้องคลอไปกับเนื้อเพลงซึ่งยกย่องเพศสัมพันธ์นอกสายสมรส, การใช้ยาเสพติดเพื่อความเพลิดเพลิน, และการกระทำอื่น ๆ ที่เป็นบาปไหม? หรือขณะที่เรารู้ว่าเราไม่ควรเลียนแบบวิถีชีวิตของผู้คนซึ่งหมกมุ่นในสิ่งเหล่านั้น เรามักจะแสดงตัวว่าเป็นพวกเดียวกับเขาโดยเลียนแบบวิธีแต่งกาย, วิธีจัดทรงผม, หรือวิธีพูดของพวกเขาไหม? วิธีการที่ซาตานใช้ล่อลวงมนุษย์ให้คล้อยตามแนวคิดอันเสื่อมทรามของมันนั้นช่างแยบยลสักเพียงไร! (2 โกรินโธ 4:3, 4) เพื่อจะไม่ตกเป็นเหยื่อกลอุบายอันเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมของมัน เราต้องหลีกเลี่ยงการลอยไปกับโลก. เราจำต้องระลึกอยู่เสมอว่า “ผู้ครอบครองโลกแห่งความมืด” นี้คือใคร และปล้ำสู้กับอิทธิพลของมันอย่างจริงจัง.—1 เปโตร 5:8.
เตรียมพร้อมจะเป็นผู้ชนะ
13. เป็นไปได้อย่างไรที่ใครก็ตามในพวกเราซึ่งเป็นคนไม่สมบูรณ์จะชนะโลกที่ซาตานครอบครองอยู่?
13 ก่อนสิ้นพระชนม์ พระเยซูตรัสกับอัครสาวกของพระองค์ว่า “จงกล้าหาญเถิด! เราชนะโลกแล้ว.” (โยฮัน 16:33, ล.ม.) พวกเขาก็อาจเป็นผู้ชนะโลกได้เช่นกัน. ราว ๆ 60 ปีต่อมา อัครสาวกโยฮันเขียนว่า “ใครผู้ใดเล่ามีชัยแก่โลก, เว้นไว้ผู้ที่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้า?” (1 โยฮัน 5:5) ความเชื่อเช่นนั้นแสดงออกโดยการเชื่อฟังพระบัญชาของพระคริสต์ และวางใจในพระคำของพระเจ้า ดังที่พระเยซูทรงทำ. มีข้อเรียกร้องอะไรอื่นไหม? คือให้เราติดสนิทกับประชาคมซึ่งพระองค์เป็นประมุข. เมื่อเราทำผิด เราต้องกลับใจอย่างจริงจังและแสวงหาการให้อภัยจากพระเจ้าโดยอาศัยเครื่องบูชาของพระเยซู. โดยวิธีนี้ ทั้ง ๆ ที่เราไม่สมบูรณ์และพลาดพลั้ง เราก็ย่อมเป็นผู้ชนะได้เช่นกัน.—บทเพลงสรรเสริญ 130:3, 4.
14. อ่านเอเฟโซ 6:13-17 แล้วใช้คำถามและข้อคัมภีร์ที่ระบุไว้ในวรรคเป็นพื้นฐานสำหรับการพิจารณาเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากยุทธภัณฑ์ทางฝ่ายวิญญาณแต่ละชิ้น.
14 เพื่อบรรลุผลสำเร็จ เราต้องสวม “ยุทธภัณฑ์ทั้งสิ้นของพระเจ้า” ไม่ละเลยส่วนใด ๆ. โปรดเปิดคัมภีร์ไบเบิลไปที่เอเฟโซ 6:13-17 และอ่านคำอธิบายเกี่ยวกับยุทธภัณฑ์นั้น. แล้วให้พิจารณาว่าคุณได้ประโยชน์อย่างไรจากยุทธภัณฑ์แต่ละชิ้นที่ปกป้องคุณ โดยตอบคำถามในหน้าถัดไป.
“เอาความจริงคาดเอวไว้”
แม้ว่าเราอาจรู้จักความจริง การศึกษาอย่างสม่ำเสมอ, การคิดรำพึงเกี่ยวกับความจริงในคัมภีร์ไบเบิล, และการเข้าร่วมประชุมป้องกันเราไว้อย่างไร? (1 โกรินโธ 10:12, 13; 2 โกรินโธ 13:5; ฟิลิปปอย 4:8, 9)
“เอาความชอบธรรมเป็นเครื่องทับทรวงป้องกันอกไว้”
มาตรฐานความชอบธรรมนี้เป็นของใคร? (วิวรณ์ 15:3)
จงแสดงให้เห็นว่าการที่ไม่ได้ติดตามแนวทางอันชอบธรรมของพระยะโฮวาทำให้คนเราได้รับความเสียหายฝ่ายวิญญาณอย่างไร. (พระบัญญัติ 7:3, 4; 1 ซามูเอล 15:22, 23)
“เอากิตติคุณแห่งสันติสุขซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความพร้อมเพรียงมาสวมเป็นรองเท้า”
เป็นการป้องกันเราอย่างไรเมื่อเราให้เท้าพาเราออกไปอย่างขยันขันแข็งอยู่เสมอในการออกไปพูดคุยกับผู้คนถึงเรื่องการจัดเตรียมของพระเจ้าเพื่อสันติภาพ? (บทเพลงสรรเสริญ 73:2, 3; โรม 10:15; 1 ติโมเธียว 5:13)
“เอาความเชื่อเป็นโล่”
ถ้าเรามีความเชื่อที่มั่นคง เราจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อเผชิญกับความพยายามซึ่งมุ่งจะทำให้เราสงสัยหรือกลัว? (2 กษัตริย์ 6:15-17; 2 ติโมเธียว 1:12)
“เอาความรอดเป็นเครื่องป้องกันศีรษะ”
ความหวังเรื่องความรอดช่วยคนเราอย่างไรให้หลีกเลี่ยงบ่วงแร้วอันเนื่องมาจากความห่วงกังวลเกินไปในเรื่องทรัพย์สมบัติฝ่ายวัตถุ? (1 ติโมเธียว 6:7-10, 19)
“พระแสงของพระวิญญาณ”
เราควรพึ่งอาศัยสิ่งใดเสมอเมื่อต่อสู้กับการโจมตีอย่างรุนแรงต่อสภาพฝ่ายวิญญาณของเราหรือของคนอื่น ๆ? (บทเพลงสรรเสริญ 119:98; สุภาษิต 3:5, 6; มัดธาย 4:3, 4)
อะไรอื่นอีกที่นับว่าสำคัญยิ่งเพื่อจะประสบความสำเร็จในการสู้รบฝ่ายวิญญาณ? จะใช้สิ่งนั้นบ่อยแค่ไหน? เพื่อใคร? (เอเฟโซ 6:18, 19)
15. เราจะเป็นฝ่ายรุกในการสู้รบฝ่ายวิญญาณได้อย่างไร?
15 ในฐานะทหารของพระคริสต์ เราเป็นส่วนของกองทัพใหญ่ที่เข้าสู้รบฝ่ายวิญญาณ. ถ้าเราตื่นตัวอยู่เสมอและใช้ยุทธภัณฑ์ครบชุดจากพระเจ้าให้เป็นประโยชน์ เราจะไม่เป็นผู้ที่เสียชีวิตในสงครามนี้. แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เราจะเป็นส่วนที่เสริมกำลังแก่เพื่อนผู้รับใช้ของพระเจ้า. เราจะอยู่พร้อมและอยากจะเป็นฝ่ายรุก เผยแพร่ข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรมาซีฮาของพระเจ้า ซึ่งเป็นรัฐบาลฝ่ายสวรรค์ที่ซาตานต่อต้านอย่างรุนแรง.
การอภิปรายทบทวน
• เหตุใดเหล่าผู้นมัสการพระยะโฮวาจึงรักษาความเป็นกลางอย่างเคร่งครัดในเรื่องความขัดแย้งของโลก?
• กลอุบายอันเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมอะไรบ้างที่ซาตานใช้เพื่อนำคริสเตียนไปสู่ความหายนะฝ่ายวิญญาณ?
• ยุทธภัณฑ์ฝ่ายวิญญาณที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ป้องกันเราอย่างไรในการสู้รบฝ่ายวิญญาณ?
[ภาพหน้า 76]
ชาติต่าง ๆ ถูกรวบรวมไปสู่อาร์มาเก็ดดอน