ถวายเกียรติแด่พระยะโฮวา—ทำไมและอย่างไร?
ผู้ที่ให้เกียรติแก่เรา เราจะให้เกียรติแก่เขา และผู้ที่ดูหมิ่นเรา ผู้นั้นจะถูกดูหมิ่น.”—1 ซามูเอล 2:30, ล.ม.
1. ใครได้รับรางวัลโนเบลอันมีชื่อทั่วโลก และหลายคนมองรางวัลนั้นด้วยท่าทีเช่นไร?
แต่ละปีสถาบันสี่แห่งในสแคนดิเนเวียให้รางวัลโนเบลแก่ ‘บุคคลที่ทำประโยชน์มากที่สุดให้แก่เพื่อนมนุษย์ในระหว่างปีที่ผ่านมา.’ มีการให้รางวัลสำหรับความสำเร็จในความอุตสาหะพากเพียรหกด้านต่าง ๆ กัน. ผู้คนเป็นอันมากถือว่าการที่คนใดได้รับรางวัลโนเบลนั้นเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ที่มนุษย์ใด ๆ อาจรับได้ทีเดียว.
2. ผู้ตัดสินให้รางวัลโนเบลมองข้ามผู้ใด และทำไมท่านผู้นี้สมควรได้รับเกียรติเป็นพิเศษ?
2 ขณะที่ไม่มีอะไรผิดในการให้เกียรติมนุษย์ผู้ซึ่งสมควรได้รับ แต่คนเหล่านั้นที่มอบเกียรติยศเช่นนั้น เคยคิดจะมอบเกียรติแก่ผู้ทำคุณมากที่สุดแก่มนุษยชาติบ้างไหม? ผู้ทำคุณองค์นี้คือ ผู้ที่อำนวยประโยชน์นานัปการแก่มนุษย์นับตั้งแต่แรกสร้างมนุษย์ชายหญิงเมื่อ 6,000 กว่าปีมาแล้ว. การไม่ได้ถวายเกียรติพระองค์ที่พบบ่อย ๆ เช่นนี้อาจทำให้เราระลึกถึงถ้อยคำของเอลีฮูสหายของโยบสมัยโบราณที่กล่าวว่า “แต่ไม่มีใครสักคนพูดว่า ‘พระเจ้า พระผู้สร้างข้าพเจ้าผู้ประทานเพลงในเวลากลางคืนทรงอยู่ที่ไหน?” (โยบ 35:10, ฉบับแปลใหม่) ผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ต่อเรายังคง ‘ทำคุณ โดยบันดาลฝนตกจากฟ้า และให้มีฤดูเกิดผล ยังความอิ่มหนำและชื่นใจยินดีด้วยอาหารนั้น.’ (กิจการ 14:16, 17; มัดธาย 5:45) โดยแท้แล้ว พระยะโฮวาทรงเป็นผู้ให้ “ของประทานอันดีทุกอย่างและของประทานอันสมบูรณ์ทุกอย่าง.”—ยาโกโบ 1:17, ล.ม.
สิ่งที่การให้เกียรติหมายถึง
3. คำหลักในภาษาฮีบรูหรือกรีกที่ถูกนำมาแปลเป็น “เกียรติยศ” นั้นได้แก่คำอะไร และความหมายจริง ๆ ของคำเหล่านั้นคืออะไร?
3 คำหลักในภาษาฮีบรูอันหมายถึงเกียรติยศได้แก่คาโวดหʹ ตามตัวอักษรหมายความว่า “ความหนัก.” ดังนั้นจึงถือกันว่าผู้ที่ได้รับเกียรติเป็นคนใหญ่โต, น่าประทับใจ, หรือเป็นคนสำคัญ. น่าสนใจ คำฮีบรูคาโวดหʹ นี้มักจะถูกนำมาแปลบ่อย ๆ ในพระคัมภีร์ว่า “สง่าราศี” ด้วย ยังให้การบ่งชี้ว่าบุคคลผู้นั้นที่ได้รับเกียรติน่าประทับใจอย่างไร หรือสำคัญเพียงไร. คำฮีบรูอีกคำหนึ่งคือ เยการʹ ซึ่งในพระคัมภีร์ได้รับการแปล “เกียรติยศ” มีการแปลคำนี้ว่า “ประเสริฐ” หรือ “สิ่งประเสริฐ” ด้วย. ฉะนั้น ในพระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรู คำเกียรติยศเกี่ยวโยงกับสง่าราศีและความเลิศประเสริฐ. คำภาษากรีกที่ได้รับการแปล “เกียรติยศ” ในพระคัมภีร์คือ ทิเมʹ และก็เช่นกัน คำนี้ให้ความหมายในแง่ที่ว่า การยกย่อง, ค่า, ความประเสริฐ.
4, 5. (ก) การให้เกียรติแก่บุคคลใด ๆ นั้นหมายถึงอะไร? (ข) สภาพการณ์เช่นไรที่พรรณนาไว้ในเอศเธระ 6:1-9 เป็นตัวอย่างชี้ถึงสิ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้เกียรติ?
4 ดังนั้น คนเราให้เกียรติอีกคนหนึ่งโดยแสดงความนับถือและการยกย่องอย่างสุดซึ้ง. เพื่อให้ตัวอย่าง จงพิจารณาสภาวะหนึ่งที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์เกี่ยวด้วยมาระดาคายคนยิวที่ซื่อสัตย์. ครั้งหนึ่งมาระดาคายได้เปิดโปงการวางแผนปลงพระชนม์กษัตริย์อะหัศวะโรศแห่งเปอร์เซียโบราณ. ในเวลาต่อมา คืนวันหนึ่งกษัตริย์บรรทมไม่หลับ แต่รำลึกขึ้นมาได้ถึงการกระทำของมาระดาคาย. ดังนั้นกษัตริย์จึงมีรับสั่งถามเจ้าพนักงานว่า “มาระดาคายนั้นได้ยศศักดิ์และตำแหน่งอะไรบ้างสำหรับคุณความดีนั้น?” ข้าราชการเหล่านั้นกราบทูลว่า “ยังไม่ได้ยศศักดิ์อะไรเลย.” ช่างน่าสลดใจอะไรเช่นนั้น! มาระดาคายได้พิทักษ์ชีวิตกษัตริย์ แต่กษัตริย์เองกลับไม่แสดงความหยั่งรู้ค่า.—เอศเธระ 6:1-3.
5 เหตุฉะนั้น ครั้นสบโอกาส กษัตริย์อะหัสวะโรศจึงปรึกษาฮามานมหาเสนาบดีว่าควรทำประการใดให้ดีที่สุดที่จะประทานเกียรติยศแก่บุคคลซึ่งกษัตริย์โปรดปราน. ฮามานคิดในใจทันที: “มีผู้ใดเล่าที่กษัตริย์ชอบพระทัยจะยกยอให้ได้ยศศักดิ์มากนอกจากตัวเราเอง?” ดังนั้น ฮามานจึงกราบทูลกษัตริย์ว่าบุคคลผู้นั้นสมควรได้แต่ง “เครื่องฉลองเยี่ยงกษัตริย์” และขี่ “ม้าที่กษัตริย์เคยเสด็จทรงประทับ.” เขาลงเอยด้วยคำพูดที่ว่า “ให้ขึ้นขี่ม้าจูงไปตามถนนในพระนคร และร้องประกาศไปข้างหน้าว่า ‘จะได้กระทำเช่นนี้แก่คนที่กษัตริย์ทรงโปรดยกย่องให้มียศศักดิ์.’” (เอศเธระ 6:4-9) ผู้ที่ได้รับเกียรติยศดังกล่าวคงได้รับการยกย่องอย่างสูงจากประชาราษฎร.
เหตุผลที่ว่าพระยะโฮวาคู่ควรกับเกียรติยศ
6. (ก) ผู้ที่เราพึงถวายเกียรติยศยิ่งกว่าใคร ๆ นั้น ได้แก่ผู้ใด? (ข) ทำไมการใช้คำ “ยิ่งใหญ่” กับพระยะโฮวาจึงนับว่าเหมาะสม?
6 ตลอดประวัติศาสตร์ การให้เกียรติยศยกย่องมนุษย์นั้นมีอยู่เสมอมา บ่อยครั้งทั้ง ๆ ที่ไม่น่าจะได้รับเสียด้วยซ้ำ. (กิจการ 12:21-23) แต่ใครล่ะคู่ควรกับเกียรติยศยิ่งกว่าคนทั้งปวง? แน่ทีเดียว พระเจ้ายะโฮวาอย่างไรล่ะ! พระองค์สมควรได้รับการถวายเกียรติยศจากเราเพราะพระองค์ทรงไว้ซึ่งความยิ่งใหญ่จริง ๆ. คำ “ยิ่งใหญ่” ถูกนำมาใช้กับพระองค์บ่อย ๆ. พระองค์เป็นองค์บรมมหิศร ผู้สร้างองค์ยิ่งใหญ่ พระบรมมหากษัตริย์ บรมครู ผู้รอบรู้เชี่ยวชาญ. (บทเพลงสรรเสริญ 48:2; ท่านผู้ประกาศ 12:1; ยะซายา 30:20; 42:5; 54:5; โฮเซอา 12:14) ผู้ยิ่งใหญ่ย่อมคงไว้ซึ่งความสง่าผ่าเผย ภูมิฐาน ได้รับการยกย่อง สูงด้วยศักดิ์ศรี มีชื่อเสียงและน่าเกรงขาม. จะหาใครเปรียบเทียบพระยะโฮวาไม่ได้ ไม่มีใครทัดเทียมพระองค์ พระองค์ทรงอยู่เหนือธรรมชาติ. พระองค์ทรงยืนยันข้อเท็จจริงนั้นโดยตรัสว่า “เจ้าจะเปรียบเราเหมือนผู้ใด เจ้าจะเทียบเราเสมอกับใคร เจ้าจะเอาเราไปเปรียบว่าเทียมเท่ากับผู้ใด?”—ยะซายา 46:5.
7. อาจบอกได้อย่างน้อย ๆ กี่ประการว่า พระยะโฮวาพระเจ้าทรงโดดเด่นเป็นเยี่ยม และทำไมจึงสามารถกล่าวได้ว่าอานุภาพของพระองค์นั้นจะหาใครเปรียบปานไม่ได้?
7 ที่ว่าไม่มีใครเทียบเท่าพระเจ้ายะโฮวาได้เช่นนั้นอย่างน้อยก็มีถึงเจ็ดประการที่โดดเด่น ซึ่งทำให้เรามีเหตุผลโดยเฉพาะที่จะยกย่องให้เกียรติพระองค์. ประการแรก พระเจ้ายะโฮวาควรแก่เกียรติยศอันยิ่งใหญ่เพราะพระองค์ทรงอานุภาพ หาที่เปรียบไม่ได้. พระยะโฮวาพระเจ้าทรงเป็นองค์บรมมหิศร—พระองค์ยิ่งใหญ่ในเอกภพ. พระองค์ทรงเป็นตุลาการ เป็นผู้บัญญัติกฎหมาย และเป็นพระบรมมหากษัตริย์. บุคคลทั้งปวงซึ่งมีตัวตนไม่ว่าในสวรรค์หรือบนแผ่นดินโลกนี้จำต้องให้การต่อพระองค์ กระนั้น พระองค์ไม่จำเป็นต้องให้การต่อผู้หนึ่งผู้ใด. พระองค์ได้รับการพรรณนาไว้อย่างเหมาะสมว่าเป็น “พระเจ้าองค์ใหญ่ยิ่งผู้ทรงฤทธิ์อันน่ากลัว.”—พระบัญญัติ 10:17; ยะซายา 33:23; ดานิเอล 4:35.
8. ทำไมจึงกล่าวได้ว่าไม่มีใครจะทัดเทียมพระยะโฮวาได้ (ก) ในด้านฐานะตำแหน่งของพระองค์? (ข) ในด้านความยืนยงดำรงตลอดกาลของพระองค์?
8 ประการที่สอง พระเจ้ายะโฮวาทรงคู่ควรกับเกียรติยศอันยิ่งใหญ่เพราะตำแหน่งฐานะ ของพระองค์ไม่มีใครทัดเทียมได้. พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าสูงสุด “ดำรงอยู่ในที่สูงและที่บริสุทธิ์.” พระองค์ประทับในที่สูงเกินความหยั่งรู้เข้าใจของสรรพสัตว์ทั้งมวลบนแผ่นดินโลก! (ยะซายา 40:15; 57:15; บทเพลงสรรเสริญ 83:18) ประการที่สาม พระเจ้ายะโฮวาต้องได้รับเกียรติยศเหนือกว่าใคร ๆ เพราะสภาวะของพระองค์ยืนยงดำรงตลอดกาล อันไม่มีที่เปรียบได้. พระองค์แต่ผู้เดียวไม่เคยมีการเริ่มต้น ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่อดีตกาลจนตลอดอนาคตกาล.—บทเพลงสรรเสริญ 90:2; 1 ติโมเธียว 1:17.
9. ในทางใดที่จะเปรียบเทียบพระยะโฮวากับสิ่งใด ๆ ไม่ได้ (ก) ในด้านสง่าราศีของพระองค์? (ข) ในด้านคุณลักษณะพื้นฐานของพระองค์?
9 ประการที่สี่ พระเจ้ายะโฮวาทรงคู่ควรกับเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ เพราะความโอ่อ่ามโหฬารแห่งสง่าราศี ที่พระองค์ทรงมี. พระองค์เป็น “พระบิดาแห่งบรรดาดวงสว่าง.” พระวรกายของพระองค์เปล่งรัศมีเจิดจ้า จนไม่มีมนุษย์คนใดสามารถจะมองพระองค์และมีชีวิตอยู่ได้. พระองค์เป็นที่น่าครั่นคร้ามเกรงขามอย่างแท้จริง.” (ยาโกโบ 1:17; เอ็กโซโด 33:22; บทเพลงสรรเสริญ 24:10) ประการที่ห้า พวกเราต้องถวายเกียรติยศอย่างยิ่งแด่พระเจ้ายะโฮวาเนื่องด้วยพระองค์ทรงเปี่ยมด้วยคุณลักษณะต่าง ๆ ที่น่าพิศวง. พระองค์ทรงพลานุภาพทุกประการ ทรงมีฤทธิ์อำนาจไม่สิ้นสุด พระองค์ทรงสัพพัญญู ทรงไว้ซึ่งสติปัญญาเหลือคณนา พระองค์ทรงไว้ซึ่งความยุติธรรมเที่ยงตรงอย่างสมบูรณ์พร้อม และพระองค์ทรงลักษณะรูปธรรมของความรักอย่างเด่นชัด.—โยบ 37:23; สุภาษิต 3:19; ดานิเอล 4:37; 1 โยฮัน 4:8.
10. ในทางใดที่ไม่มีใครเทียบได้กับพระยะโฮวา (ก) ในด้านงานสร้างสรรค์และการเป็นเจ้าของ? (ข) ในด้านพระนามและเกียรติคุณของพระองค์?
10 ประการที่หก พระเจ้ายะโฮวาทรงคู่ควรกับเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ก็เพราะงานประดิษฐ์สร้างสรรค์ อันดีเลิศของพระองค์นั่นเอง. ในฐานะเป็นผู้สร้างสิ่งสารพัดซึ่งมีอยู่ในฟ้าสวรรค์และบนแผ่นดินโลก พระองค์จึงเป็นเจ้าของสรรพสิ่งทั้งปวงด้วย. เราอ่านที่บทเพลงสรรเสริญ 89:11 ดังนี้ “ฟ้าสวรรค์ก็เป็นของพระองค์ ทั้งแผ่นดินโลกด้วย.” ประการที่เจ็ด พระยะโฮวาพระเจ้าของเราคู่ควรกับเกียรติยศยิ่งกว่าใครอื่นทั้งสิ้น เพราะว่าจะมีผู้ใดเทียบเท่า หรือจะนำมาเปรียบกับพระนาม และเกียรติคุณ ของพระองค์หาได้ไม่. พระองค์แต่ผู้เดียวทรงพระนามว่ายะโฮวา หมายความว่า “พระองค์ทรงบันดาลให้เป็น.”—ดูเยเนซิศ 2:4, หมายเหตุท้ายหน้า.
วิธีถวายเกียรติแด่พระยะโฮวา
11. (ก) เราจะให้เกียรติพระยะโฮวาในทางใดบ้าง? (ข) เราอาจแสดงโดยวิธีใดว่าเราถวายเกียรติแด่พระยะโฮวาอย่างแท้จริงด้วยการวางใจในพระองค์?
11 เมื่อคำนึงถึงคุณลักษณะทุกประการของพระยะโฮวาแล้ว เราจะถวายเกียรติแด่พระองค์ได้อย่างไร? ดังเราจะได้เห็นต่อไป เราสามารถให้เกียรติพระองค์โดยที่เราแสดงความเกรงกลัวและความเคารพ เชื่อฟังพระองค์ ยอมรับพระองค์ไว้ในทุกวิถีทางของเรา ด้วยการถวายสิ่งของ เลียนแบบพระองค์ และกราบทูลวิงวอนพระองค์. นอกจากนั้น เราให้เกียรติพระองค์โดยการแสดงความเชื่อในพระองค์ วางใจหมายพึ่งพระองค์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม. เราได้รับการกระตุ้นดังนี้ “จงวางใจในพระยะโฮวาสุดหัวใจของเจ้า.” ดังนั้น เราให้เกียรติพระเจ้ายะโฮวาโดยเชื่อมั่นในคำตรัสของพระองค์. ยกตัวอย่าง พระองค์ตรัสว่า “อย่ากลัวเลย ด้วยว่าเราอยู่กับเจ้า. อย่าท้อใจ เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า. เราจะหนุนกำลังของเจ้า. เออ เราจะช่วยเจ้า.“ (สุภาษิต 3:5; ยะซายา 41:10) การไม่วางใจพระยะโฮวาอย่างเต็มที่ย่อมเป็นการหลู่เกียรติพระองค์โดยแท้.
12. การเชื่อฟังและความเกรงกลัวมีบทบาทอะไรในการถวายเกียรติแด่พระยะโฮวา?
12 สิ่งหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการถวายเกียรติแด่พระเจ้ายะโฮวานั้น ได้แก่การเชื่อฟังพระองค์. และปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเชื่อฟัง คือความเกรงกลัวด้วยความเลื่อมใสในพระเจ้า ใช่แล้ว กลัวว่าจะกระทำให้พระเจ้าไม่พอพระทัย. ความเกี่ยวพันระหว่างความเกรงกลัวกับการเชื่อฟังเห็นได้จากถ้อยคำที่พระยะโฮวาตรัสกับอับราฮามหลังจาก ด้วยใจเชื่อฟัง อับราฮามหวิดจะฆ่ายิศฮาคบุตรชายถวายเป็นบูชายัญ. พระยะโฮวาตรัสดังนี้ “เดี๋ยวนี้เรารู้ว่าเจ้าเกรงกลัวพระเจ้า.” (เยเนซิศ 22:12) เมื่อได้ชี้แจงถึงสิ่งที่บุตรพึงให้แก่บิดามารดา อัครสาวกเปาโลยังได้บอกด้วยว่าการเชื่อฟังและการให้เกียรติควบคู่กัน. (เอเฟโซ 6:1-3) ดังนั้น โดยการประพฤติตามพระบัญญัติของพระเจ้า ซึ่งมิใช่เรื่องหนักหนาอะไร เราก็ให้เกียรติพระยะโฮวา. ไม่มีข้อสงสัยที่ว่าการไม่เชื่อฟังพระเจ้ายะโฮวาเป็นการหลู่เกียรติพระองค์.—1 โยฮัน 5:3.
13. การให้เกียรติพระเจ้าจะทำให้เรามีทัศนคติเช่นไรต่อกิจกรรมต่าง ๆ และการวางแผนของเรา?
13 ยิ่งกว่านั้น เราสามารถนำเกียรติยศมาสู่พระเจ้ายะโฮวาได้โดยการปฏิบัติตามคำแนะนำที่สุภาษิต 3:6 “จงรับพระองค์ให้เข้าส่วนในทางทั้งหลายของเจ้า [ใช่แล้วยอมรับพระองค์] และพระองค์จะชี้ทางเดินของเจ้าให้แจ่มแจ้ง.” ในเรื่องนี้สาวกยาโกโบก็ได้ให้คำแนะนำอันดีแก่เรา. แทนที่จะดำเนินวันต่อวันด้วยการไว้ใจตัวเอง มั่นใจในความสามารถของเราเอง เราน่าจะพูดว่า “ถ้าพระยะโฮวาทรงประสงค์ เราก็จะมีชีวิตอยู่และกระทำสิ่งนี้หรือสิ่งนั้น.” (ยาโกโบ 4:15, ล.ม.) นานหลายปีมาแล้วเคยถือเป็นธรรมเนียมในหมู่นักศึกษาพระคัมภีร์นานาชาติที่จะเพิ่มคำ ดี. วี. อันเป็นคำย่อของดีโอ โวเลนเต เข้ากับคำพูดที่พาดพิงถึงอนาคต หมายความว่า “หากเป็นพระทัยประสงค์ของพระเจ้า.”
14. (ก) เราต้องรับเอาทัศนะแบบไหนเกี่ยวข้องกับความพยายามของเราถ้าเราจะให้เกียรติพระเจ้า? (ข) ได้มีการแสดงทัศนะเช่นไรให้ประจักษ์เกี่ยวกับการพิมพ์สรรพหนังสือของสมาคมว็อชเทาเวอร์?
14 นอกจากนั้น เราให้เกียรติพระเจ้ายะโฮวาโดยการสำแดงซึ่งท่าทีถ่อมใจ ให้เกียรติพระเจ้าเมื่อเราประสบความสำเร็จใด ๆ. อัครสาวกเปาโลกล่าวไว้อย่างเหมาะสมเกี่ยวด้วยงานเทศนาประกาศของท่านดังนี้: “ข้าพเจ้าได้ปลูกไว้ อะโปโลได้รดน้ำ แต่พระเจ้าได้ทรงบันดาลให้เกิดผล เพราะฉะนั้น คนที่ปลูกก็ดี คนที่รดน้ำก็ดี ไม่เป็นคนสำคัญอะไร แต่พระเจ้าต่างหากซึ่งทรงโปรดให้เกิดผล.” (1 โกรินโธ 3:6, 7) จริงทีเดียว เปาโลสนใจในการให้เกียรติอันควรแด่พระเจ้า มิใช่สำหรับตัวท่านเอง หรือสำหรับมนุษย์อื่น ๆ คนใดคนหนึ่ง. ฉะนั้น ทุกวันนี้ หนังสือที่สมาคมว็อชเทาเวอร์จัดพิมพ์จำหน่ายจึงไม่ระบุชื่อผู้แต่งผู้เขียน และผู้เขียนหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้อื่นรู้ถึงส่วนของเขาในการเขียน. ที่ทำเช่นนี้ก็เพื่อจะได้เพ่งความสนใจไปยังคำแนะนำ ซึ่งมีเค้าโครงที่จะให้เกียรติแด่พระยะโฮวาพระเจ้า ไม่ใช่แก่มนุษย์คนหนึ่งคนใด.
15. ประสบการณ์อะไรแสดงถึงความรู้สึกลำบากใจของบางคนในอันที่จะเข้าใจความเจียมตัวของพยานพระยะโฮวา?
15 แนวปฏิบัติว่าด้วยการสำรวมความสนใจอยู่ที่พระยะโฮวา ซึ่งเป็นการให้เกียรติพระองค์เช่นนี้ทำให้บางคนประหลาดใจ. เมื่อสองสามปีมาแล้ว ที่เซนทรัล พาร์ค นครนิวยอร์ก คราวที่มีการติดตั้งระบบเสียงสำหรับการบรรยายสาธารณะ พยานฯที่นั่นได้ลองเครื่องเสียงโดยนำเอาตลับเทปเพลงราชอาณาจักร มาเล่น. สามีภรรยาคู่หนึ่ง แต่งกายดี ได้เอ่ยถามพยานฯในกลุ่มว่าเป็นดนตรีอะไร. พยานฯนึกว่าสามีภรรยานั้นเป็นพยานพระยะโฮวาจึงตอบว่า “เพลงราชอาณาจักร ชุดที่ 4.” คนทั้งสองยังถามต่อไปว่า “แต่ใครแต่งเพลงนี้?” พยานฯตอบ “ผู้แต่งเพลงไม่ประสงค์ออกนามครับ.” คนทั้งสองจึงย้อนไปว่า “คนที่แต่งทำนองเพลงประเภทนี้คงไม่ทำโดยไม่ออกนาม.” พยานฯก็ตอบว่า “แต่พยานพระยะโฮวาไม่เป็นเช่นนั้น.” ใช่แล้ว พยานฯทำอย่างนี้ก็เพื่อเกียรติยศทั้งสิ้นจะเป็นของพระเจ้ายะโฮวา!
16. มีวิธีต่าง ๆ อะไรบ้างที่เราอาจใช้สุ้มเสียงของเราเพื่อเป็นการถวายเกียรติแด่พระเจ้ายะโฮวา?
16 อีกแนวปฏิบัติหนึ่งที่จะให้เกียรติพระยะโฮวาก็โดยการใช้ปากของเราพูดเป็นพยานถึงพระองค์. ถ้าเราคำนึงถึงการถวายเกียรติแด่พระองค์จริง ๆ เราจะเผยแพร่ข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรด้วยความซื่อสัตย์. เราจะทำงานนี้ได้โดยการไปตามบ้านเรือนหรือโดยวิธีอื่นตามที่เราทำได้ ทั้งไม่มองข้ามโอกาสต่าง ๆ เพื่อให้คำพยานอย่างไม่เป็นทางการ. (โยฮัน 4:6-26; กิจการ 5:42; 20:20) นอกจากนี้ เรามีโอกาสจะให้เกียรติแด่พระเจ้าด้วยการใช้เสียงของเรา ณ การประชุมวาระต่าง ๆ ของประชาคม ทั้งโดยการตอบให้ข้อคิดเห็นและร่วมร้องเพลงราชอาณาจักรอย่างเต็มอกเต็มใจ. (เฮ็บราย 2:12; 10:24, 25) อนึ่ง ในการสนทนาของเราแต่ละวันเราสามารถถวายเกียรติยศพระเจ้ายะโฮวาด้วยริมฝีปากของเรา. เพียงพยายามสักเล็กน้อย เราอาจจะเปลี่ยนหรือดัดแปลงเรื่องที่เราสนทนาอยู่ขณะนั้นเข้าสู่แนวอันเป็นการเสริมสร้างฝ่ายวิญญาณ และการทำเช่นนี้ย่อมบังเกิดผลเป็นการถวายเกียรติแด่พระเจ้ายะโฮวา.—บทเพลงสรรเสริญ 145:2.
17. (ก) การประพฤติที่ดีงามของเราส่งผลกระทบอย่างไรต่อการถวายเกียรติแด่พระยะโฮวา? (ข) การประพฤติผิดก่อผลเช่นไร?
17 การถวายเกียรติยศแด่พระยะโฮวาพระเจ้าด้วยริมฝีปากของเราเป็นสิ่งดีงามฉันใด นับว่าจำเป็นเช่นกันฉันนั้นจะถวายเกียรติพระองค์ด้วยการประพฤติของเรา. พระเยซูทรงตำหนิผู้ที่สรรเสริญพระเจ้าแต่ปาก ขณะเดียวกันหัวใจของเขาอยู่ห่างไกลพระองค์. (มาระโก 7:6) การประพฤติที่ไม่ถูกต้องย่อมนำความอัปยศมาสู่พระเจ้ายะโฮวา. ยกตัวอย่างเช่นที่โรม 2:23, 24 เราอ่านว่า “ท่านผู้อวดในพระบัญญัติยังกระทำอัปยศแก่พระเจ้าโดยทำผิดพระบัญญัติหรือ? ‘ด้วยว่าคนต่างประเทศพูดหยาบคายก็เพราะท่าน.’” ในปีหลัง ๆ นี้มีหลายพันคนถูกตัดสัมพันธ์จากประชาคมแห่งไพร่พลของพระยะโฮวา. ทำนองเดียวกัน ยังมีคนจำนวนมากกว่าด้วยซ้ำซึ่งได้ประพฤติเป็นที่น่าดูหมิ่นไม่ถูกตัดสัมพันธ์เพราะเขาได้แสดงออกซึ่งการสำนึกผิดและกลับใจ. พวกเขาเคยถวายเกียรติแด่พระยะโฮวาด้วยริมฝีปาก แต่โดยการประพฤติของเขานั้น เขาไม่ได้ถวายเกียรติเลย.
18. (ก) บุคคลซึ่งเป็นที่โปรดปรานมากนั้นต้องคำนึงถึงสิ่งใดหากเขาจะถวายเกียรติอย่างสมควรต่อพระยะโฮวา? (ข) สภาพการณ์ท่ามกลางหมู่ปุโรหิตสมัยผู้พยากรณ์มาลาคีนั้นแสดงอย่างไรถึงความจำเป็นที่ต้องเอาใจใส่?
18 บรรดาผู้ที่เป็นผู้รับใช้เต็มเวลาประเภทต่าง ๆ—ไม่ว่า ณ เบเธล ในงานเดินทาง เป็นมิชชันนารี หรือไพโอเนียร์—เป็นผู้ที่มีโอกาสดีมากที่จะมีส่วนส่งเสริมเกียรติยศของพระยะโฮวา. เขามีพันธะต้องทำดีที่สุดเท่าที่เขาทำได้ไม่ว่างานอะไรก็ตามที่ได้รับมอบหมาย เป็น ‘คนสัตย์ซื่อทั้งในของเล็กที่สุดและในของมากด้วย.’ (ลูกา 16:10) ในบางแง่คนเหล่านี้อยู่ในฐานะอันมีเกียรติคล้ายกับพวกปุโรหิตและคนตระกูลเลวีในประเทศยิศราเอลโบราณ. อย่างไรก็ดี เนื่องจากในสมัยมาลาคี ปุโรหิตบางคนละเลยหน้าที่ พระยะโฮวาได้ตรัสแก่เขาว่า “ถ้าเราเป็นบิดา ความยำเกรงต่อเราอยู่ที่ไหนกันเล่า? ถ้าเราเป็นนาย ก็ความคารวะต่อเราอยู่ที่ไหนกันนะ?” (มาลาคี 1:6) พวกปุโรหิตสมัยนั้นดูถูกพระนามของพระเจ้าโดยนำสัตว์ตาบอด พิการ หรือป่วยมาถวายบูชา. เว้นเสียแต่ผู้ที่มีสิทธิพิเศษเกี่ยวกับงานรับใช้ทุกวันนี้จะพยายามทำสุดความสามารถของตน มิฉะนั้น พวกเขาอาจถูกพระเจ้ายะโฮวาตำหนิโทษเป็นพิเศษอย่างที่ทรงกระทำต่อปุโรหิตเหล่านั้น. พวกเขาจะขาดการถวายเกียรติแด่พระเจ้า.
19. (ก) ดังมีกล่าวที่สุภาษิต 3:9 การถวายเกียรติแด่พระยะโฮวาอีกวิธีหนึ่งนั้นคืออย่างไร? (ข) การถวายเกียรติแด่พระยะโฮวาอีกวิธีหนึ่งที่สำคัญได้แก่อะไร?
19 เราสามารถให้เกียรติพระยะโฮวาได้อีกแนวหนึ่ง โดยการบริจาคทรัพย์เพื่องานเทศนาสั่งสอนทั่วโลกซึ่งพระองค์ได้ทรงมอบหมาย. เราได้รับคำเตือนดังนี้: “จงถวายเกียรติแด่พระยะโฮวาด้วยทรัพย์ของเจ้า และด้วยผลแรกทั้งหมดที่เพิ่มพูนแก่เจ้านั้น.” (สุภาษิต 3:9) สิทธิพิเศษในการบริจาคดังกล่าวนับว่าเป็นโอกาสที่จะถวายเกียรติแด่พระเจ้ายะโฮวาซึ่งใคร ๆ ไม่ควรมองข้าม. อนึ่ง เราให้เกียรติพระเจ้ายะโฮวาได้ด้วยคำอธิษฐานของเราด้วยคำสรรเสริญและด้วยการขอบพระคุณ. (1 โครนิกา 29:10-13) ที่จริง เพราะเราเข้าเฝ้าพระองค์ด้วยความถ่อมใจและด้วยความนับถืออันลึกซึ้ง ฉะนั้น การที่เราเข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยการอธิษฐานจึงเป็นการให้เกียรติพระองค์.
20. (ก) โดยทั่วไป ประชาชนชาวโลกมักให้เกียรติแก่ใคร และโดยวิธีใด? (ข) โดยการเชื่อฟังคำสั่งข้อใด เราจะสามารถถวายเกียรติแด่พระยะโฮวายิ่ง ๆ ขึ้น?
20 ทุกวันนี้หลายคน โดยเฉพาะพวกหนุ่มสาว ต่างก็ให้เกียรติผู้ที่ตนนิยมชมชอบโดยการเลียนแบบคนเหล่านั้น เช่นการพูดจาให้เหมือนเขา และทำท่าทางเหมือนเขา. บ่อยครั้ง ผู้คนที่หนุ่มสาวเลียนแบบมักจะเป็นพระเอกหรือดาราในวงการกีฬาหรือการบันเทิง. ในทางกลับกัน พวกเราที่เป็นคริสเตียนควรให้เกียรติพระเจ้ายะโฮวาโดยตั้งใจจะเลียนแบบพระองค์. อัครสาวกเปาโลกระตุ้นเราให้ทำเช่นนั้น โดยเขียนดังนี้: “จงประพฤติอย่างพระเจ้า เหมือนเป็นบุตรที่รัก และจงประพฤติในความรัก.” (เอเฟโซ 5:1, 2) ถูกแล้ว โดยความมุ่งมั่นจะเลียนแบบพระยะโฮวา เราถวายเกียรติยศแด่พระองค์.
21. (ก) อะไรจะเตรียมเราไว้เพื่อถวายเกียรติและสง่าราศีแด่พระยะโฮวา? (ข) พระยะโฮวาจะให้บำเหน็จอะไรแก่ผู้ที่ให้เกียรติพระองค์?
21 จริงทีเดียว มีหลายทางที่เราสามารถและพึงให้สง่าราศีและเกียรติยศแด่พระเจ้า. ขอให้เราอย่าลืมว่า โดยการเลี้ยงตัวด้วยพระวจนะของพระเจ้าอย่าสม่ำเสมอและเข้ามารู้จักพระองค์มากขึ้นเรื่อย ๆ เราจะสามารถถวายเกียรติแด่พระองค์ได้มากขึ้น. เมื่อทำเช่นนี้แล้วเราจะได้รางวัลอะไร? พระยะโฮวาตรัสดังนี้: “ผู้ที่ให้เกียรติแก่เรา เราจะให้เขามีเกียรติ.” (1 ซามูเอล 2:30, ล.ม.) ผลสุดท้ายพระยะโฮวาจะให้เกียรติแก่บรรดาผู้นมัสการพระองค์โดยโปรดให้เขามีชีวิตนิรันดร์เพียบพร้อมด้วยความสุข ไม่ว่าในสวรรค์ฐานะผู้ครอบครองร่วมกับพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ หรือในแผ่นดินโลกอันเป็นอุทยาน.
คุณจำได้ไหม?
▫ ปกติแล้วมนุษย์ให้เกียรติผู้ใด และพวกเขามักจะละเลยไม่ให้เกียรติผู้ใด?
▫ การให้เกียรติบางคนนั้นหมายถึงอะไร และอาจทำได้ในทางใดบ้าง?
▫ เหตุผลหลักบางประการมีอะไรบ้างที่ว่าพระเจ้ายะโฮวาสมควรได้รับเกียรติยศ?
▫ มีทางใดบ้างที่เราสามารถถวายเกียรติแด่พระยะโฮวา?
▫ พระยะโฮวาทรงให้บำเหน็จแก่ผู้ที่ให้เกียรติพระองค์ในทางใด?